ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว
นับตังค์นั่งกอดหมอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ รู้ดีว่าถ้าคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในตอนนี้ออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ นับตังค์จะต้องเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเสียเอกราชเป็นแน่ นับตังค์คิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจหัวอกหญิงสาวในคืนวันส่งตัว อยากจะเป็นของเขาแต่ก็มีอะไรให้กังวลไปสารพัด แล้วมันยิ่งน่ากังวลกว่าเพราะคนที่จะมาตีเอกราชของนับตังค์เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วแบบนี้นับตังค์จะต้องทำท่ายังไงก่อน นอนเฉยๆ หรือว่ากระดิกนิ้วเรียก จะต้องพูดอะไรบ้าง พูดยั่วยวนหรือกวนบาทา หรือไม่ต้องพูดให้มากความ มาถึงก็โจนทะยานกันได้เลย คิดแล้วก็ได้แต่นั่งหน้าร้อนฉ่าอยู่คนเดียว
มีคุณอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว จากที่รู้สึกหวั่นๆ ว่าด้วงจะงอแงขอกลับมานอนด้วย แต่ใบเมี่ยงบอกกับเขาก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามาในห้องว่าด้วงหลับไปเรียบร้อยแล้ว คงเพราะเมื่อเช้าด้วงตื่นแต่เช้า แถมยังตะล่อนมาทั้งวัน ไม่แปลกเลยที่ด้วงจะหลับตั้งแต่หัววันอย่างนี้ ตอนนี้มีคุณก็เลยอารมณ์ดีเป็นที่สุด คืนนี้จะได้นัวเนียนนับตังค์ให้สมใจ
ส่วนนับตังค์เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของมีคุณก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ อันที่จริงก็เคยเห็นมีคุณนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่เป็นประจำ แต่วันนี้นับตังค์กลับไม่กล้าที่จะมองเหมือนทุกที ได้แต่เหลือบมองแล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งเล่น จนกระทั่งมีคุณเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆ แถมยังดึงมือถือของนับตังค์เอาไปวางที่โต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างเตียงอีก
“เอาโทรศัพท์ของตังไปทำไม” นับตังค์โน้มตัวไปเพื่อจะแย่งโทรศัพท์คืนแต่มีคุณดันตัวนับตังค์ให้กลับไปพิงที่หัวเตียงเหมือนเดิม
“กลัวเหรอ” มีคุณถาม
“ทำไมต้องทำเสียงนุ่มด้วย” นับตังค์ถามเมื่อเห็นว่ามีคุณทำเสียงนุ่มนวลกว่าปกติ
“เลิฟซีนทั้งทีใครเขากระโชกโฮกฮากกัน หรือชอบแบบรุนแรง”
“ก็ดีนะ” นับตังค์ทำเป็นใจกล้า
“พูดจริงเปล่า พี่มีโซ่กับกุญแจมือนะ”
“ถามจริง” นับตังค์หน้าตื่นเมื่อเห็นมีคุณทำหน้าจริงจัง จนมีคุณหัวเราะออกมานับตังค์ถึงได้เบาใจ นึกว่าจะถูกเฆี่ยนซะแล้ว
“กลัวรึเปล่า” มีคุณถามอีกครั้ง
“ไม่ได้กลัว แต่มันก็ต้องเขินเปล่าล่ะ จะให้ยิ้มแฉ่งรองี้เหรอ”
“สรุปว่าไม่กลัว” มีคุณถามอีกครั้ง
“บอกไม่ถูกอะ มันมีอะไรให้ต้องกลัวไหม” นับตังค์ถามอย่างหวาดๆ
“ไม่มีหรอก”
“จริงนะ”
“จริง”
มีคุณสบตาของนับตังค์ก็พอเดาออกว่านับตังค์มีความกังวลใจ เขาเลยดึงนับตังค์มาแล้วโอบกอดเอาไว้ จูบเบาๆ ที่แก้มและลูบที่แผ่นหลังเพื่อให้นับตังค์คลายความกังวลใจ
“เอาแค่ขั้นบีก่อนได้เปล่า” นับตังค์ถาม
“ขั้นบี ขั้นบีคืออะไร” มีคุณคลายอ้อมกอดออกก่อนจะถาม เพราะอยากมองหน้าของนับตังค์ไปด้วย อยากดูว่าคนรักจะมีอะไรให้ประหลาดใจอีก
“ไม่เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเหรอ มันมีขั้นเอ ขั้นบี ขั้นซี ขั้นดี”
“ไหนบอกพี่สิ มันยังไง พี่ไม่เห็นจะเคยได้ยิน” มีคุณทิ้งตัวลงนอนทั้งที่ยังใส่ผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วก็ดึงให้นับตังค์ลงมานอนข้างๆ
“จะไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนเหรอ” นับตังค์ถามเพราะมีความรู้สึกว่าผ้าขนหนูมันจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่แล้ว
“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ต้องถอด เร็ว อย่านอกเรื่อง” มีคุณพลิกตัวตะแคงมามองหน้านับตังค์
“ก็ขั้นเอก็จูบไง บีก็ขยับมาอีกนิด ซีก็ขยับจากบีมาอีกหน่อย ขั้นดีก็มากกว่าซี”
“แล้วไอ้ขยับมาอีกนิดมันแค่ไหน”
“ก็แบบมากกว่าจูบแต่ยังไม่ต้องมีแบบนี้ไง” นับตังค์เอามือมาประกบกันแล้วกระแทกมือใส่กันดังป๊าปๆ
“ฮ่าๆๆๆ ตังนี่ตลกดี” มีคุณขำที่เห็นนับตังค์ทำท่าประกอบ
“ไม่ตลกนะ สรุปว่าได้เปล่า”
“แล้วขั้นซีคืออะไร” มีคุณยังคงสงสัย
“ขั้นซีก็ป๊าปๆ ไง” คราวนี้นับตังค์ไม่ได้ทำท่าประกอบเพราะกลัวมีคุณหัวเราะอีก
“อ้าว ถ้าซีป๊าปๆ แล้วขั้นดีล่ะ”
“ขั้นดีเหรอ ก็คือตังป๊าปๆ พี่คืนบ้างไง” นับตังค์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ฝันไปเหอะ ขั้นดีพี่ขอยกเลิก” มีคุณจิ้มที่หน้าผากของนับตังค์เบาๆ
“ไม่ยุติธรรมเลย” นับตังค์ทำหน้ามุ่ย
“เชื่อพี่เถอะ ตังเก่งแค่ทำอาหารก็พอ อย่างอื่นพี่จัดการเอง”
“เออๆ ก็ได้ แต่วันนี้ขั้นบีนะ”
“แล้วมากกว่าจูบ มันทำอะไรได้บ้าง” มีคุณรู้แต่ก็อยากแกล้ง อยากเห็นคนกวนประสาทอาย มันดูน่ารักดี
“ปั่นหู แคะเล็บ ถอนขนรักแร้มั่ง” นับตังค์อดไม่ได้ที่จะต่อปากต่อคำแม้ในเวลาที่จะโดนปล้ำอยู่ร่อมร่อ
“กวนอีก พี่ถามเพราะเดี๋ยวทำมากไปกว่าไอ้ขั้นตอนอะไรของตังก็จะหาว่าพี่เอาเปรียบ เอาแบบนี้ ตังทำให้พี่ดูก่อน เดี๋ยวพี่นอนเฉยๆ รอดูตัวอย่างก่อน ดีไหม” มีคุณคิดแผนการณ์เจ้าเล่ห์
“ตังไม่โง่นะ ไม่ต้องมาหลอกล่อเหมือนเด็ก” นับตังค์ค้อนใส่
“งั้นบอกพี่มา ว่าให้ทำอะไรก่อนดี” มีคุณหัวเราะชอบใจที่แกล้งนับตังค์ได้
นับตังค์ถอนหายใจก่อนจะลุกมานั่งขัดสมาธิแล้วก็ดึงมือมีคุณมาให้ลุกขึ้นมานั่งหันหน้าเข้าหากัน
มีคุณแอบยกยิ้มและรอดูว่านับตังค์จะทำอะไร ด้วงไม่อยู่แบบนี้เขามีเวลาให้นับตังค์ทั้งคืน จะรีบร้อนไปทำไมในเมื่อจะได้เห็นท่าทางเขินแบบน่ารักๆ ของนับตังค์ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นในนับตังค์คนแมนคนนี้สักเท่าไหร่
พอมีคุณหันหน้ามาหาตัวเองแล้ว นับตังค์ก็โน้มตัวไปกระซิบที่หูของมีคุณ
มีคุณได้ยินก็อยากจะขำ แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้เพราะเดี๋ยวจะทำให้นับตังค์งอนได้ มีคุณเชยคางนับตังค์ขึ้นแล้วละเลียดจุมพิตให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มระดับจนนับตังค์เผลอยกมือขึ้นมาเกาะแขนของมีคุณแล้วบีบเบาๆ
“แล้วยังไงอีก” มีคุณถามหลังจากที่จูบนับตังค์อย่างดูดดื่ม เมื่อครู่นับตังค์มากระซิบบอกขั้นตอนว่าให้เขาเริ่มต้นจากจูบก่อน
“ก็...ก็ มาจูบตรงนี้ ตรงนี้” นับตังค์โน้มตัวไปกระซิบที่หูของมีคุณอีกครั้งก่อนจะชี้ไปที่ใบหูแล้วก็ซอกคอของตัวเอง
“โอเค” มีคุณพยักหน้ารับรู้
มีคุณยิ้มก่อนจะขยับตัวไปใกล้นับตังค์อีกนิด จากนั้นก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาว ได้ยินเสียงของนับตังค์หัวเราะคิกคักมีคุณจึงงับที่ใบหูและใช้ปลายลิ้นแตะไปเบาๆ เสียงหัวเราะของนับตังค์เงียบไปทันที ได้ยินเสียงลมหายใจที่ระบายออกมาแทน มีคุณซุกไซร้จนเห็นอีกฝ่ายเริ่มจะอ่อนแรงจึงหยุด
“แล้วยังไงอีก” มีคุณถาม เพิ่งได้เห็นว่าใบหน้า ลำคอและใบหูของนับตังค์แดงแจ๋ไปหมด
นับตังค์อยากจะบ้าตาย ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ให้มีคุณทำตามขั้นตอนอะไรแบบนี้ ต้องคอยมานั่งบอกทีละขั้น อายจนเลือดจะทะลุใบหน้าออกมาแล้ว แต่มาถึงขั้นนี้แล้วนับตังค์ก็ต้องไปต่อ เมื่อโน้มตัวไปกระซิบขั้นตอนต่อไปให้มีคุณฟังแล้ว มีคุณก็เลิกคิ้วขึ้น
“ขอถามอะไรหน่อยสิ” มีคุณเอ่ยปากถามหลังจากที่นับตังค์กระซิบบอกเขาว่าขั้นตอนต่อไปให้เขาจูจุ๊บทีหน้าอกได้
“ถามมา” นับตังค์พยักหน้า
“ไอ้หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่อ่านมันมีบอกขั้นตอนแบบนี้จริงเหรอ การ์ตูนหรือหนังสือโป๊ ไหนบอกมาสิ” มีคุณถามจบก็หัวเราะ ส่วนคนถูกถามนั่งหน้าแดงกว่าเดิม
“หมดอารมณ์ นอนดีกว่า” นับตังค์ทิ้งตัวลงนอนทันทีเมื่อโดนมีคุณหัวเราะเยาะ
มีคุณลุกไปคร่อมตัวนับตังค์เอาไว้แล้วจ้องดวงตากลมโตด้วยความเอ็นดูอย่างที่สุด ตอนมีเรื่องของคีตะ นับตังค์ก็ไม่หึง ไม่เคยงอแง แต่วันนี้เพิ่งเห็นนับตังค์งอน มันทำให้มีคุณอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายทำเป็นไม่ยอมสบตาเขา เขายิ่งมองว่านับตังค์น่ารักมาก
“ขอโทษครับ ไม่แกล้งแล้ว โตๆ แล้ว ไม่งอนเนอะ” มีคุณก้มลงไปหอมแก้มของนับตังค์
“ผ้าเช็ดตัวพี่หลุดอะ” ที่นับตังค์หันไปมองทางอื่นไม่ใช่ว่าจะงอน แต่สายตาดันไปเห็นโลมาผงาดเข้าเต็มๆ จนต้องรีบหันไปมองทางอื่น
“ว้า แย่จัง ตังเห็นของพี่ งั้นขอเห็นของตังบ้างนะ ตังเป็นคนชอบความยุติธรรมนี่เนอะ” มีคุณพูดจบก็จัดการถอดเสื้อผ้าของนับตังค์โดยไม่ฟังเสียงร้องโวยวายของนับตังค์เลย
สุดท้ายความยุติธรรมก็เกิดขึ้น แต่เป็นความยุติธรรมที่นับตังค์ไม่ได้ร้องขอแบบนี้สักหน่อย
“ใครจะหน้าหนาเท่าพี่ไม่มีอีกแล้ว” นับตังค์บ่น
“หอมจัง”
มีคุณไม่สนคำบ่นของคนรักแต่กลับซุกไซร้ไปทั่ว ผิวของนับตังค์หอมเหมือนขนมหวาน มันทำให้มีคุณไม่อยากหยุดที่จะสำรวจ ได้ยินเสียงระบายลมหายใจของอีกฝ่ายมีคุณก็รู้ว่านับตังค์กำลังเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เขามอบให้
นับตังค์อยากจะร้องขอให้มีคุณปิดไฟเพราะยังรู้สึกอายกับการเข้าสู่สนามรักเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ตอนนี้นับตังค์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ มีคุณแตะตรงไหนก็รู้สึกวูบวาบอย่างกับโดนไฟฟ้าช็อต หวังจะให้นับตังค์พูดเป็นประโยคก็คงไม่ได้แล้วก็เลยต้องเลยตามเลย คิดในใจว่า ‘หลับตาเอาก็ได้วะไอ้ตังเอ๋ย มันมืดเหมือนกัน’
สองร่างกายบดเบียดเกี่ยวรัดกันไปตามแรงของอารมณ์ นับตังค์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองก็ตอบรับให้กับการกระทำของมีคุณอย่างเต็มที่ จากที่นอนนิ่งๆ เหมือนหญิงสาวแรกรุ่น ตอนนี้นับตังค์พลิกตัวมากอดรัดมีคุณแบบไม่มีใครยอมใคร มันเป็นไปตามกลไกของอารมณ์ผู้ชาย แต่ไหนเลยที่ลูกแมวจะเป็นเสือไปได้ สุดท้ายนับตังค์ก็ต้องกลับไปนอนระทวยเมื่อมีคุณจัดการสู้รบกับส่วนอ่อนไหวของนับตังค์ด้วยความชำนาญ จนตอนนี้เสือมือใหม่สิ้นลายต้องกลับไปเป็นลูกแมวนอนหายใจหอบเหมือนว่าใกล้จะขาดใจ
“พี่คุณ...ตังไม่ไหวแล้ว” นับตังค์รีบบอกเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมาถึงปลายทางแล้ว นี่ขนาดแค่ขั้นบี มีคุณยังทำเอานับตังค์หายใจหายคอไม่ทันเลยจริงๆ
มีคุณได้ยินก็หยุดสาละวนกับเจ้าตังน้อยแล้วขยับขึ้นมาทาบทับนับตังค์เอาไว้ บดเบียดร่างกายให้แนบชิดกัน มีคุณขยับเขยื้อนตัวเป็นจังหวะเพื่อให้ร่างกายได้สัมผัสกันให้มากที่สุด นับตังค์เองก็โอบกอดมีคุณแน่น ไม่นานทั้งสองคนก็เหยียดตัวเกร็งก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา
“มันดีไหม” มีคุณถามก่อนจะพลิกตัวลงมานอนข้างๆ นับตังค์หลังจากที่พากันไปถึงปลายทางแล้ว
“มันดีมาก” นับตังค์ตอบตรงๆ จนมีคุณต้องหันไปมองหน้าเพราะคิดว่านับตังค์พูดไปงั้นๆ
“กวนเปล่า” มีคุณถามก่อนจะคว้าตัวนับตังค์ให้ขึ้นมานอนทับตัวเขา
“ไม่ได้กวน มันดีจริงๆ สนุกดี” นับตังค์หัวเราะ แต่มีคุณอยากจะหัวเราะให้ดังกว่ากับคำว่า ‘สนุก’ ของนับตังค์
“ต้องบอกว่ามีความสุขสิ ใครเขาบอกว่าสนุกกัน” มีคุณเอื้อมมือไปบีบบั้นท้ายนับตังค์ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ก็ตังไม่อยากเหมือนคนอื่นนี่” นับตังค์พูดแล้วก็ขยับตัวไปจูบที่หน้าผากของมีคุณด้วยความหมั่นเขี้ยวเช่นกัน
“ก็ไม่มีใครเหมือนตังอยู่แล้ว” มีคุณจูบหน้าผาก แก้ม จมูกและคางของนับตังค์คืนบ้าง
“พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องตื่น” นับตังค์รู้สึกว่าอะไรบางอย่างของมีคุณมันพร้อมจะ ‘สนุก’ อีกรอบ
“ก็ตังขยับตัวทำไม ตังปลุกมันเองนะ”
“อีกรอบเปล่าล่ะ” นับตังค์ถาม
“กวนเปล่านี่” มีคุณต้องถามย้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง คนขี้อายคนนั้นไปไหนแล้ว
“ก็มันสนุกดีอะ” นับตังค์พูดแล้วก็หัวเราะ
พอมีคุณทำท่าจะสานต่อตามคำเชิญ นับตังค์ก็รีบลุกขึ้นและหนีไปเข้าห้องน้ำทันทีก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเยาะมาให้ได้ยิน มีคุณเลยรู้ว่าคราวนี้นับตังค์กวนประสาทเขาจริงๆ แต่มีคุณอยากให้นับตังค์ได้รู้จักประโยคที่ว่า ‘หัวเราะที่หลังดังกว่า’ เป็นยังไง มีคุณจึงลุกตามเข้าไปในห้องน้ำ
ใบเมี่ยงเดินออกมาจากห้องนอน ได้ยินเสียงนับตังค์โวยวายแว่วมา แต่ก็เพียงครู่เดียว เสียงโวยวายก็หายไปเป็นเสียงลูกแมวบางตัวครวญครางมาให้ได้ยินแทน ใบเมี่ยงได้แต่อมยิ้มแล้วก็เดินผ่านไป รู้สึกดีใจที่เห็นมีคุณสมหวังในสิ่งที่หวังเสียที
...
พเยียได้รับฟังเรื่องของนับตังค์จากคีตะ คีตะโทรมาเล่าให้เธอฟังว่าจะนำเรื่องของนับตังค์ไปบอกกับครอบครัวของนับตังค์เพราะเชื่อว่าครอบครัวของนับตังค์จะต้องพานับตังค์กลับกรุงเทพ แต่พเยียไม่เห็นด้วยและบอกกับคีตะไปว่า หากคีตะทำแบบนั้นจะมีแต่เสียกับเสีย เพราะนอกจากที่มีคุณจะไม่กลับมาหาคีตะแล้ว อาจจะเกลียดคีตะที่ทำให้ทุกอย่างพังลงไป หรือไม่นับตังค์อาจจะเลือกมีคุณมากกว่าครอบครัว เพราะนับตังค์ไม่ใช่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ สามารถตัดสินใจเลือกอนาคตตัวเองได้ หากเป็นเช่นนั้น มีคุณกับนับตังค์อาจจะรักกันมากกว่าเดิม คีตะได้ฟังแล้วก็คล้อยตามและปรึกษาว่าเขาควรทำอย่างไร แล้วคีตะก็ตัดสินใจว่าจะมาทำงานที่โรงแรมของนายหัวพยนต์ คีตะบอกพเยียว่าจะลงมาที่เกาะให้เร็วที่สุดและจะหาหนทางที่จะทำให้นับตังค์กับมีคุณผิดใจกันให้ได้
พเยียรู้สึกโล่งใจที่เกลี่ยกล่อมคีตะได้ เธอยอมรับว่าเธอไม่อยากให้คีตะทำแบบนั้นเพราะกลัวว่าเธอจะพลอยถูกพายพัดเกลียดไปด้วย ถึงอย่างไรพายพัดก็สนิทสนมกับนับตังค์ เธอคิดว่าจะหาทางให้นับตังค์มารักกับพี่ชายของเธอจะดีเสียกว่า ถ้านับตังค์คบหากับพี่พญา เธอก็จะได้ใกล้ชิดกับพายพัดได้ด้วย เพราะฉะนั้นเป็นมิตรกับนับตังค์ก็ดีกว่าเป็นศัตรู
“อะไรนะ สรุปว่าน้องตังไม่ได้มีเมีย แต่เป็นคนรักของไอ้มีคุณเหรอ แกรู้ได้ไงยัยเล็ก” พญาถามน้องสาวด้วยความตกใจ
“พี่รองจำเพื่อนเยียได้ไหม ที่ชื่อคีตะ เขาเป็นคนรักเก่าของมีคุณ เขาเผอิญไปได้ยินเรื่องเกี่ยวกับน้องตังของพี่มา” พเยียเล่าเรื่องของนับตังค์ที่ได้ยินจากคีตะให้พี่ชายของตัวเองฟัง
“แล้วเด็กคนนั้นลูกใคร” พญายังคงสงสัย
“ลูกใครก็ไม่เห็นจะสำคัญนี่คะ ไม่ใช่ลูกของนับตังค์ก็พอแล้ว เยียว่าพี่รองต้องเดินหน้าจีบแล้วนะคะ ถ้าตังเป็นคนรักของมีคุณได้ก็แปลว่ามีจิตใจที่ชอบผู้ชาย แบบนี้ก็ง่ายกว่าการไปรักผู้ชายที่มีเมียนะคะ”
“มันก็จริงนะ แต่คนนี้พี่จริงจัง ไม่อยากใช้ความรุนแรงแย่งมา พี่ไม่อยากเป็นผู้ร้ายในสายตาของน้องตัง” พญาถอนหายใจ
“เดี๋ยวพเยียจะช่วยคิดหาทางนะคะ” พเยียพูดไปทั้งที่นึกหงุดหงิดที่พี่ชายอยากจะเป็นคนดีเอาตอนนี้
“ทำไมถึงอยากช่วยพี่” พญาหรี่ตามองน้องสาว
“ก็ถ้าพี่จะเอาผู้ชายสักคนมาเป็นพี่สะใภ้ของเยีย เยียก็เห็นว่านับตังค์เหมาะที่สุด หน้าตาก็ดี ทำอาหารก็เก่ง” พเยียพูดเอาใจพญา เห็นพี่ชายยิ้มกว้างก็ดีใจที่ตัวเองมาถูกทางแล้ว
“แกสองคนคิดจะทำอะไรกันอีก” พยนต์เดินเข้ามาเห็นสองพี่น้องคุยอะไรกันด้วยท่าทีที่มีลับลมคมในจึงเอ่ยปากถาม
“พ่อคะ ทำไมถึงมองเยียกับพี่รองแบบนั้น” พเยียรีบเดินไปคล้องแขนพ่อด้วยท่าทีออดอ้อน
“ฉันได้ยินว่าแกไปชอบคนของหลานไอ้อนันต์ใช่ไหมไอ้รอง” พยนต์ถาม
“ใครมารายงานพ่ออีกล่ะครับ” พญาถามอย่างหัวเสีย ปลายตามองไปที่ไอ้ก้านลูกน้องของตัวเอง
“แกคิดว่ามีอะไรบนเกาะนี้ที่ฉันจะไม่รู้เรื่องบ้าง” พยนต์ถามลูกชาย
“คนนี้ผมจริงจังนะพ่อ” พญากลัวว่าพ่อจะห้ามเรื่องของนับตังค์หรือไม่ก็อาจจะใช้เงินหรืออิทธิพลบังคับเพื่อให้นับตังค์ออกไปจากชีวิตของเขาเหมือนคนก่อนๆ เลยรีบดักคอเอาไว้ก่อน
“หึ คนไม่เอาไหนอย่างแกใครจะมาเอา” พยนต์ถอนหายใจ
คนภายนอกมักจะมองว่าเขาตามใจพญาจนเสียคน คงเพราะเขาไม่เคยดุด่าลูกชายต่อหน้าคนอื่น แต่อันที่จริงแล้วพญาเป็นลูกที่ถูกเขาใช้ความรุนแรงสั่งสอนมากที่สุด ด้วยความที่เขาคาดหวังว่าลูกชายคนเดียวคนนี้จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้เขาได้ แต่มันดันกลับเป็นเกย์ หนำซ้ำยังสร้างแต่ปัญหาเพราะตัณหาที่ไม่หยุดหย่อนของมัน เขาทุบตีให้มันหลาบจำ หวังให้มันเข้มแข็งและเปลี่ยนแปลงตัวเอง มันก็ยิ่งต่อต้าน ไม่รู้เวรกรรมอะไรนักหนาเขาถึงมาเจอความอัปยศอดสูแบบนี้
“นับตังค์เป็นคนเก่งนะคะพ่อ ที่เยียรู้มาที่บ้านของเขาเป็นชาววังเก่า เก่งเรื่องทำอาหารมาก อย่างน้อยถ้าพี่รองจะมีคนรักสักคน ก็หาที่จะทำผลประโยชน์ให้เราได้ไม่ดีกว่าเหรอคะ ถ้าเราได้นับตังค์มา โรงแรมของเราจะมีนักท่องเที่ยวมาเพิ่มมากขึ้น ดีกว่าไปคว้านักท่องเที่ยวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า” พเยียรู้ว่าจุดอ่อนของพ่อคืออะไร เมื่อเธอลองหว่านล้อมเรื่องของนับตังค์ก็เห็นว่าพ่อนิ่งไป เธอดูออกว่าพ่อกำลังจะคล้อยตาม
“เรื่องมันจะเอาใครมาทำเมียฉันไม่สนใจหรอก แต่ฉันมีเรื่องที่จะให้แกสองคนทำ” แม้พยนต์จะคล้อยตามสิ่งที่พเยียพูด แต่ก็ยังวางท่าดั่งเดิม
“อะไรเหรอคะ”
“ฉันสืบจนรู้มาว่าไอ้อนันต์มันยกที่ดินให้หลานของมันที่ชื่อมีคุณ แต่มันมีข้อแม้บางอย่าง ซึ่งฉันยังไม่รู้รายละเอียด รู้แต่ว่าถ้าครบหนึ่งปี หลานของมันถึงจะขายที่ดินตรงนั้นได้ ฉันอยากให้แกไปขอซื้อที่ดินจากมันเอาไว้ก่อน มันอยากได้เท่าไหร่ให้มันเสนอมา เรายินดีจ่ายให้มันก่อนครึ่งหนึ่ง แต่ต้องทำสัญญาขายให้เราเมื่อครบกำหนดหนึ่งปี ส่วนเรื่องคนที่แกรัก ฉันก็จะไม่ยุ่ง แต่แกห้ามทำอะไรที่จะทำให้ไอ้มีคุณมันไม่ยอมขายที่ให้ฉัน” พยนต์ต้องการที่ดินตรงนั้นมากจริงๆ เขาคิดว่าโชคคงเริ่มเข้าข้างเขาบ้างหลังจากที่ตาแก่อนันต์เสียชีวิตไป อย่างน้อยเขาก็สืบรู้มาว่ามีคุณไม่ได้อยากได้ที่ดินตรงนั้น แถมแม่ของมันก็มีหนี้สินมากมาย เอาเงินไปล่อเข้าหน่อยขี้คร้านจะรีบเซ็นสัญญาให้
“แล้วถ้าพวกเราทำไม่สำเร็จล่ะพ่อ” พญาถาม เพราะการที่เขาจะต้องเอานับตังค์มาเป็นคนรักให้ได้ มีคุณย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว
“แกรู้เอาไว้ ทายาทของฉันไม่ได้มีแค่พวกแก ถ้าแกไม่เอาไหนกันก็อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากฉันเลย” พยนต์พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่สนใจเลยว่าลูกทั้งสองคนจะรู้สึกอย่างไร
“แสดงว่าพ่อยังติดต่ออีนั่นอยู่ เยียนึกว่ามันไปจากเกาะตั้งแต่พี่ใหญ่หนีไปแล้ว” พเยียหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อพ่อพูดถึงพี่สาวต่างมารดา มันเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ เมียน้อยขี้ข้าที่ทำให้แม่ของพเยียต้องตรอมใจตาย
“พี่รู้ว่าพี่เป็นคนเลวร้ายในสายตาของพ่อและแกนะยัยเล็ก พ่ออาจจะทำให้พี่กับแกเห็นตลอดมาว่าความรักของพ่อคือการได้ผลประโยชน์ แต่แกจำเอาไว้นะยัยเล็ก พี่ชอบน้องตังไม่ใช่เพราะเขาจะทำผลประโยชน์ให้พี่ได้ แต่พี่ชอบเขาเพราะเขาทำให้พี่อยากเห็นอนาคตของตัวเอง เพราะฉะนั้นแกอย่าดูถูกน้องตังด้วยการคิดแบบนั้นอีก เรื่องของน้องตังแกไม่ต้องมาช่วยพี่ พี่จัดการเองได้” พญาเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางที่พเยียไม่เคยได้เห็นมาก่อน
ที่ผ่านมาพญาเหมือนคนไม่เอาไหนอย่างที่พ่อว่า ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เอาแต่เมาเละเทะแล้วก็ไปมีเรื่องกับนักท่องเที่ยวผู้ชายที่ตัวเองชอบ บางทีก็หิ้วพวกผู้ชายขายน้ำมานอนที่โรงแรมจนพ่อและพเยียเบื่อหน่าย ดีว่าพ่อคอยจัดการปัญหาและสร้างภาพให้พญาเสมอ ผู้คนถึงได้ยำเกรงไม่กล้าไปยุ่งด้วย เมื่อมาคิดให้ดี พเยียก็เพิ่งจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพี่ชาย ระยะหลังมานี่พี่รองไม่ได้ออกไปเมาหัวราน้ำเหมือนทุกที แถมยังเข้าตลาดไปทำงานทุกวัน แม้จะยังไปก้อร่อก้อติกกับชายหนุ่มที่พึงพอใจบ้าง แต่ก็ไม่เคยหิ้วใครมานอนด้วย
‘หรือว่านับตังค์จะเป็นรักจริงของพญา’ พเยียก็ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจและคิดว่าคงจะต้องสืบให้ละเอียดว่าพื้นเพของนับตังค์เป็นมาอย่างไรกันแน่
พเยียคงไม่รู้ว่าพยนต์เองก็เริ่มจะสนใจที่จะรู้เรื่องของนับตังค์ให้ละเอียดเช่นเดียวกัน เขาสั่งให้คนไปสืบประวัติของนับตังค์มาให้ละเอียดรวมถึงเรื่องที่มาทำงานให้กับมีคุณด้วย
‘คนที่ทำให้ลูกชายของเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ต้องมีอะไรพิเศษ’ พยนต์คิดแบบนั้น
(มีต่อด้านล่าง)
V
V