- ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26  (อ่าน 209697 ครั้ง)

ออฟไลน์ vevi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
สงสารหนูด้วงค่ะ เด็กน้อยที่น่ารักน่าเอ็นดูตอนนี้หนูมีคนที่รักหนูเพิ่มขึ้นอีกแล้วน๊า คุณย่ากับคุณปู่ไง
มัมตังค์เวลาอยู่กับหนูด้วงแล้วอ่อนโยนมากๆ ตังค์รักและเป็นห่วงหนูด้วงมากๆเลย อย่าให้ใครมารังแกอีกน๊าาาา :L2:

ติดตามๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ P_Ple

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากรู้จังว่าพี่ช้วนเป็นใคร

ออฟไลน์ yayee2

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +554/-2
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวถึงตอนที่14เลย
   อ่านแล้วชอบจนอดไม่ได้ ต้องเข้ามาให้กำลังใจคนเขียนแล้วล่ะ ชอบเรื่องนี้ที่เนื้อหามีอะไรๆที่เป็นของเก่าแบบคลาสสิคๆรวมอยู่ด้วยน่ะ นี่เลยอาหารไทยที่ต้องใช้ความใส่ใจและความละเมียดละไมในการปรุง
และเนื้อหาของเรื่องนี้โดยรวมก็มีความละมุนละไมอยู่ อ่านแล้วแบบให้ความรู้สึกบายๆผ่อนคลายดีจัง
ฝากกาพย์ยานี11บทนี้ให้ตอนที่14ด้วยจ้ะ
"..ขนมจีบเจ้าจีบห่อ 
 งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบทวาย   
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน.."

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง


พญานั่งถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าบรรดาลูกน้องของพญาไม่มีใครกล้าเข้าหน้าเจ้านายของมันเลยสักคน แม้เจ้านายของพวกมันจะไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิด แต่สำหรับลูกน้องคนสนิทอย่างไอ้ก้านแล้ว ให้เจ้านายของมันโวยวายอย่างที่เคยจะดีกว่านั่งถอนหายใจแล้วทำท่าเหมือนหมาหงอยอยู่แบบนี้

“นายพญา ไอ้ก้านได้ข่าวมาว่าตอนนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เกาะเต็มไปหมดเลย หน้าตาหล่อมากเลยนะนาย นายจะไม่ลองไปดูหน่อยเหรอครับ” ก้านทำใจกล้าเข้าไปชวนเจ้านายของมันคุยด้วย

“เฮ้อ...” พญาไม่ได้หันมามองหน้าลูกน้องคนสนิทแต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงแทน

“หรือว่าจะไปเที่ยวในเมือง เอาไหมครับ เดี๋ยวไอ้ก้านจะโทรไปให้คนฝั่งโน้นเตรียมหนุ่มๆ ให้นาย”

“ไอ้ก้าน”

“คะ..ครับ” ไอ้ก้านสะดุ้งตกใจเมื่อพญาส่งเสียงเรียกชื่อมัน

“มึงเคยตกหลุมรักใครแบบถอนตัวไม่ขึ้นไหมวะ” พญาหันมาถามลูกน้องคนสนิท

“ไม่เคยหรอกครับ คนอย่างไอ้ก้านฟันแล้วทิ้งอย่างเดียว”

“มึงนี่เกิดมาเป็นคนเสียเปล่า คนเรามันต้องรู้จักรักใครสักคนสิวะ”

“โธ่ นาย ความรักมันทำให้เราไม่เป็นตัวเอง มันทำให้อ่อนแอ ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย โดยเฉพาะถ้าไปตกหลุมรักคนที่มีเจ้าของ”

“ไอ้ก้าน!”

“นายเตะไอ้ก้านเลยครับที่ไอ้ก้านมันปากหมา” ก้านตั้งใจกวนโมโหเจ้านายเพราะอยากให้เจ้านายได้ระบายออกมาบ้าง มันรีบหันหลังหลับตาโก่งตัวพร้อมรับเท้าของพญา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นว่าจะโดนถีบเหมือนอย่างทุกทีมันจึงลืมตาแล้วหันกลับไปดู ปรากฏว่าเจ้านายของมันนั่งเท้าคางถอนหายใจพร้อมกับเหม่อมองไปข้างนอกแทนที่จะถีบมันเหมือนอย่างทุกครั้ง

“ถ้ากูรู้ว่ากูจะรักใครได้ขนาดนี้กูคงไม่ทำตัวเละเทะหรอกไอ้ก้าน เขาคงได้ยินชื่อเสียงที่ไม่ดีของกูเขาถึงรักกูไม่ได้”

ก้านฟังเจ้านายของมันระบายความในใจออกมาก็นึกเห็นใจ ที่ผ่านมาเจ้านายของมันก็ทำตัวไร้สาระ รังแกคนที่อ่อนแอกว่า นึกชอบใจใครก็จะเอามาทำเมียเสียหมด แม้บางทีก้านไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจ้านายแต่ก็ไม่เคยขัดใจ นั่นเพราะก้านรู้ดีว่าพฤติกรรมทั้งหมดที่นายพญาทำลงไปเพียงเพราะขาดความรักและไม่มีใครคอยอบรม แม่ของก้านเป็นคนสนิทของนายหญิงที่เสียไป นายหญิงเป็นแม่ของนายพญา เป็นคนใจดีมีเมตตา แต่ท่านต้องอยู่อย่างเจ็บปวดเพราะนายหัวพยนต์เป็นคนเจ้าชู้ สุดท้ายก็ตรอมใจตายในช่วงที่นายพญากำลังอยู่ในวัยที่ต้องการแม่ มีเพียงคุณใหญ่พี่สาวคนโตที่คอยดูแลแทน แต่คุณใหญ่ก็มาหนีหายไปอีกคน นายพญาจึงใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไม่มีเป้าหมาย ใช้ชีวิตแบบสนองความต้องการของตัวเอง ไอ้ก้านคิดว่านายพญาคงคิดว่าทำแบบนั้นแล้วตัวเองมีความสุขก็เลยทำ คนอื่นมักจะมองว่านายพญาเป็นคนเลว มีข่าวลือต่างๆ นาๆ ว่านายค้ายาบ้าง ค้าอาวุธบ้าง แต่ไอ้ก้านรู้ดีว่านายพญาไม่ได้เลวอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน ในการแสดงออกที่ก้าวร้าวและทำตัวเป็นอันธพาล นายพญายังมีมุมที่อ่อนแอและอ่อนโยน น้อยคนนักที่จะรู้ว่านายพญาอุปการะเด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่ได้เลี้ยงเพื่อสนองตัณหา แต่นายพญาให้การศึกษาและดูแลเหมือนผู้ปกครอง นายพญาเคยบอกไอ้ก้านว่า นายไม่มีแม่ เด็กคนนั้นก็ไม่มี นายไม่อยากให้เด็กดีคนนั้นโตมาแล้วเลวเหมือนอย่างนาย ตอกย้ำไอ้ก้านให้มั่นใจว่าแก่นแท้ของนายไม่ใช่คนเลวเลย ยิ่งถ้าใครได้มาเห็นนายพญาในตอนนี้คงจะมีคำถามเดียวกันว่า...นี่ใช่นายพญาคนที่เป็นนักเลงโตแห่งเกาะใบไม้ครามแน่หรือ

“เรามาร่วมมือกันไหม” คีตะถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องพักของพญา มาได้ยินความในใจของพญาจึงเอ่ยปากถาม

“ห้องนี้ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้ามาก็เข้ามาได้ง่ายๆ นะครับคุณคีตะ” ก้านรีบเดินมาขวางหน้า

“ไม่เป็นไร พวกมึงออกไปก่อน” พญาทำมือไล่ให้ก้านกับพรรคพวกออกไป คีตะยิ้มเหยียดให้ก้านก่อนจะเดินเข้ามาหาพญา

“คุณอยากได้นับตังต์ คิวก็อยากได้มีคุณคืนมา ถ้าเราช่วยกันก็วินวินทั้งสองฝ่าย” คีตะเสนอ

“มีแผนแล้วรึไง” พญาถามพลางมองคีตะตั้งแต่หัวจรดเท้า พญายอมรับว่าคีตะเป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว การแต่งตัวก็ดูดีสะอาดสะอ้าน หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ปล่อยให้รอดสายตาไปได้ แต่ตั้งแต่พญาเจอกับนับตังค์ก็ไม่เคยมีใครเข้าตาเขาอีกเลย กว่าจะได้สำรวจรูปร่างหน้าตาของคีตะอย่างจริงจังก็วันนี้นี่เอง

“ตอนนี้คุณแม่ของมีคุณมาที่เกาะแล้ว คิดว่าตอนนี้คงจะได้รู้เรื่องของนับตังค์ คิวว่ามีคุณคงกำลังปวดหัวอยู่แน่ๆ” คีตะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับที่พญานั่ง

“ใช้แผนแม่ผัวลูกสะใภ้รึไง” พญานึกขำแผนตื้นๆ ของคีตะ

“คุณเขารักคุณแม่เขามาก ถ้าคุณแม่เขาไม่ชอบนับตังค์ก็คงมีปัญหาแน่ สมัยที่คบกับคิว ขนาดเขารักคิวมากเขายังไม่กล้าพาคิวไปแนะนำให้แม่เขารู้จักในฐานะคนรักเลย เพราะฉะนั้นช่วงที่ฝ่ายนั่นกำลังมีปัญหา ทั้งคิวแล้วก็คุณควรเข้าไปช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่สั่นคลอน” คีตะเสนอแผน

“นี่ จะบอกอะไรให้นะ ถ้าลองแม่ของไอ้มีคุณไม่ชอบนับตังค์แล้วละก็...เขาก็คงไม่ยอมรับนายเหมือนกัน เพราะนายไม่มีอะไรที่เหนือกว่านับตังค์เลย แล้วก็ไอ้แผนปัญญาอ่อนนี่เก็บกลับไปใช้คนเดียวเถอะ คนอย่างไอ้พญาไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ” พญายิ้มเยาะคีตะ

“หึ ได้ข่าวว่าที่ผ่านมาก็ใช้แต่กำลังไม่เคยใช้สมอง ตอนนี้มาเที่ยวว่าแผนของคนอื่นปัญญาอ่อน ไหนบอกมาสิว่าแผนของคุณดีกว่าของคิวยังไง” คีตะเริ่มโมโหที่ถูกพญาด่า

“ถ้ากูจะเอานับตังค์มาเป็นของกูมันไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่เขามีคุณค่ามากกว่าจะได้รับการกระทำชั้นต่ำแบบนั้น พูดไปคนไร้ค่าอย่างมึงก็คงไม่เข้าใจ จำเอาไว้นะ มึงจะใช้แผนไหนเพื่อเอาผัวมึงกลับมาก็เรื่องของมึง แต่ถ้าทำให้นับตังค์ของกูเจ็บ มึงจะต้องเจ็บกว่า” พญาจ้องมองคีตะด้วยสายตาที่ดูน่ากลัว

“อยากจะเป็นพระเอกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วมั๊ง ถ้าคิวไร้ค่า คุณมันก็ไร้ค่าในสายตาของนับตังค์เหมือนกัน คนอย่างนับตังค์คงไม่ทิ้งมีคุณมาหานักเลงชั้นต่ำอย่างคุณหรอกนะ” คีตะโกรธจัดที่ถูกต่อว่าแรงๆ นิสัยชอบเอาชนะทำให้คีตะลืมที่จะกลัวนิสัยอันธพาลของพญา จนกระทั่งพญาเดินเข้ามาใกล้ คีตะถึงได้รู้ว่าตัวเองไปแหย่เสือให้โกรธถึงในถ้ำ

“ถึงกูจะอยากเป็นพระเอกสำหรับนับตังค์ แต่ไม่ได้แปลว่ากูจะไม่เป็นผู้ร้ายกับคนอื่น” พญากระชากข้อมือของคีตะให้ลุกขึ้นมา

“จะทำอะไร” คีตะจะเดินหนีแต่ข้อมือที่ถูกพญาจับเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถเดินหนีไปได้ พอโดนพญาบิดข้อมือคีตะถึงกับร้องลั่น

ก้านได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามา พอเห็นว่าพญากำลังปล้ำจูบคีตะอยู่ก็ชะงักอยู่กับที่ ทีแรกก็ตั้งใจจะเข้าไปห้ามนายเพราะรู้ว่าคีตะคือแขกคนสนิทของนายหญิงคนเล็ก แต่ตอนนี้พอก้านเห็นคีตะจูบตอบพญาด้วยความร้อนแรง ก้านจึงค่อยๆ เดินออกจากห้องไปประหนึ่งว่าไม่ได้เข้ามาเห็นอะไรเลย



กำหนดการเดิมของคุณพลอยประดับคือเธอตั้งใจจะมาอยู่ที่เกาะนี้เพียงแค่อาทิตย์เดียว แต่มีคุณอ้อนให้มารดาอยู่จนถึงวันเกิดของเธอเอง มีคุณอยากจัดงานวันเกิดให้มารดา คุณพลอยประดับจึงใจอ่อนยอมเลื่อนตั๋วเครื่องบินออกไปอีก อันที่จริงเธอก็ยังไม่อยากกลับ เธออยู่ที่นี่แล้วไม่รู้สึกเหงา แต่ก็เกรงใจลูกชายกับนับตังค์ที่ต้องมาแย่งห้องนอนของคนทั้งคู่ แต่ทั้งคู่ก็บอกเธอว่ายินดีที่จะนอนที่ห้องทำงานเพราะมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร โดยเฉพาะมีคุณที่เต็มใจเสียสละห้องให้มารดารเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลก็คือเขาหมายมาดเอาไว้ในใจว่าจะต้องกินโจ๊กกับนับตังค์ภายใต้ดวงดาวและแสงจันทร์ในห้องนั้นให้ได้

วันนี้คุณพลอยประดับตื่นสายกว่าทุกวัน เธอเอาแต่คิดเรื่องของนับตังค์จนนอนไม่หลับ เรื่องของเรื่องคือเมื่อวานนี้เธอเรียกลูกชายกับนับตังค์มาคุยเรื่องอนาคตของคนทั้งคู่ นับตังค์ดูจะตกใจที่เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงไม่คิดว่าเธอจะรู้เรื่อง แต่เมื่อเธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ก็ดูเจ้าตัวจะมีสีหน้าที่ดีขึ้น เธอแอบซักไซ้ที่มาที่ไปของนับตังค์จนได้รู้ว่านับตังค์ไม่ใช่คนที่มีคุณจะเอามาเป็นของตัวเองง่ายๆ เลย ในวงสังคมรู้กันอยู่ว่าต้นตระกูลมณีรัตน์เป็นผู้ดีเก่า ได้อยู่ในรั้วในวังมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เธอไม่แปลกใจเลยว่านับตังค์มีฝีมือในการทำอาหารมาจากที่ใด แม้ครอบครัวนี้จะทำตัวเรียบง่ายและไม่ชอบเข้าสังคม แต่กิตติศัพท์ของคุณละม่อมก็เป็นที่รู้กันว่าไว้ตัวและหยิ่งในศักดิ์ศรีของวงตระกูลมากที่สุด เธอเริ่มหนักใจแทนลูกชาย แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายของตัวเองแสดงออกว่ารักนับตังค์มากมันจึงทำให้เธอพูดไม่ออก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอนอนไม่หลับเพราะกลัวว่าทางบ้านของนับตังค์จะไม่ยอมรับมีคุณ โดยเฉพาะชื่อเสียงเสียๆ ของเธอ ที่อาจจะทำให้ลูกชายต้องมัวหมองไปด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ดำเนินชีวิตผิดพลาดไปจนทำให้ลูกชายต้องมาเดือดร้อนเพราะการกระทำของเธอเอง

“กอไก่ในสวนบ้านฉัน เช้าขันปลุกฉันตื่นนอน เช้าแล้วกอไก่ตื่นก่อน กอไก่สั่งสอนฉันไปโรงเรียน”

“กอก่ายในฉวน..บั้นฉัน เช้าขันปุดฉันตื่นนอน เช้าแย้วกอก่ายตื่นจ่อน กอก่ายฉั่งฉอนฉันไปโยงเยียน”

คุณพลอยประดับเดินลงมาแล้วเห็นลูกชายของตัวเองกำลังสอนหนูด้วงร้องเพลง มีคุณกำลังทำท่าไก่ตีปีกประกอบเพลงโดยมีเจ้าตัวเล็กซอยเท้ากระโดดตีปีกเลียนแบบ แถมยังร้องเพลงไม่ชัดแต่ก็ยังร้องตามมีคุณด้วยความตั้งใจ เธอต้องแอบขำเพราะไม่เคยเห็นลูกชายของตัวเองในมุมนี้เลย ที่ผ่านมามีคุณเคร่งเครียดกับการทำงาน ชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวดบ่อยๆ กลับมาบ้านก็จ้องแต่หน้าคอมฯ มันทำให้เธอลืมไปว่าตัวตนที่แท้จริงของลูกชายนั้นเป็นคนขี้เล่นสดใส

“เอาคอควายบ้างนะ ดูแด๊ดดีๆ นะ คอควายมีสี่ขา ใช้ไถนามีเขายาวงาม อยู่ในโคลนจนตัวมันดำ เดินย่ำน้ำร้องฮุยเลฮุย” มีคุณเปิดเพลงแล้วทำท่าประกอบ พอร้องมาถึงท่อนท้ายที่ว่า ‘ฮุยเลฮุย” หนูด้วงก็ล้มกลิ้งลงไปหัวเราะงอหงายจนมีคุณต้องเท้าเอวมอง

“หัวเราะมากขนาดนี้คืนนี้จะฝันร้ายเอานะหนูด้วง” คุณพลอยประดับเดินเข้ามาหาสองพ่อลูกแล้วก็อดขำตามหนูด้วงไปด้วยไม่ได้

“ฮุยเยฮุย แด๊ดทำอีก” หนูด้วงลุกมาเกาะขามีคุณแล้วอ้อนให้ทำให้ดูอีก

“ทำตามแด๊ดด้วยสิ ให้คุณย่าทำด้วยดีไหม” มีคุณบอกกับด้วง

“ว้าย ตาคุณ ไม่เอาหรอก อย่ามาทะเล้นกับแม่นะ” คุณพลอยประดับรีบปฏิเสธ

“ย่าเต้นกะหนู” หนูด้วงหันมาอ้อน

สุดท้ายคุณพลอยประดับก็ใจอ่อนยอมเต้นตามไปด้วย แต่ก็อดส่งสายตาค้อนๆ ไปให้ลูกชายของตัวเองไม่ได้ ดูเอาสิ...ให้เธอมาเต้นท่าตลกๆ แบบนี้ เธอไม่เคยทำตัวเป็นเด็กแบบนี้มาก่อนเลย

ทั้งสามคนเริ่มเต้นเพลงคอควายเก่งไถนาพร้อมกัน หนูด้วงเต้นได้ไม่จบเพลงก็ล้มลงไปนอนหัวเราะเหมือนเดิม คุณพลอยประดับเองก็ทั้งเขินทั้งขำ จนกระทั่งช้วนเดินปรบมือเข้ามาคุณพลอยประดับถึงได้รีบนั่งลงแล้วปรับท่าทีเพื่อกลบความอาย

“ปู่เป็นควายกัน” หนูด้วงลุกมาเขย่ามือของช้วน

“อ้าวไอ้ตัวแสบ อยู่ดีๆ มาชวนปู่ไปเป็นควายเสียแล้ว” ช้วนอุ้มหนูด้วงขึ้นมาฟัดพุงน้อยๆ หนูด้วงหัวเราะแล้วดิ้นไปมา

“พอเลย ให้หัวเราะมากๆ เดี๋ยวฝันร้าย” คุณพลอยประดับร้องเตือน

“คิดอะไรโบราณไปแล้วแม่คุณ คนเราเวลาหัวเราะจะหลั่งสารเอนโดรฟิน สารแห่งความสุข เหมือนตอนที่พี่ช้วนคนนี้ได้เห็นแม่คุณ สารความสุขก็หลั่งไปทั่วร่างกายเลยนะจ๊ะ” ช้วนหยอดคำหวานจนมีคุณต้องกระแอมเตือนว่ามีคนยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนคุณพลอยประดับก็นั่งหน้าแดงแต่ก็แสร้งทำว่าไม่รู้สึกอะไร

“พี่ช้วนกินข้าวเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมไปกินบ้างนะ” มีคุณมาดูแลหนูด้วงให้เพราะเปลี่ยนให้ช้วนไปกินข้าว มีคุณไม่อยากให้หนูด้วงนั่งเล่นอยู่แต่ในครัวจึงพามาสอนร้องเพลงสอนเด็กที่บ้าน

“เออ นายท่านรีบไปเลย ข้าเห็นว่าศัตรูหัวใจของนายท่านมาหาเจ้าตัง” ช้วนรีบบอกเพราะไม่อยากให้มีคุณมาอยู่เป็นก้างขวางคอ

“ใครกันพี่ช้วน” คุณพลอยประดับถามด้วยความอยากรู้

“ลูกชายนายหัวพยนต์ครับแม่ ผมไปก่อนนะ” มีคุณบอกแม่แล้วก็รีบเดินออกไป ทิ้งให้คุณพลอยประดับนั่งส่ายหน้ากับความขี้หวงของลูกชาย นิสัยที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอคิดว่าเป็นนิสัยที่คงแก้ไม่ได้เสียแล้ว

มีคุณเดินผ่านสวนหลังบ้านเพื่อจะมาที่ร้าน จังหวะนั้นเขาก็เห็นพญากำลังจะเดินเข้าไปในร้านอยู่เหมือนกัน มีคุณรีบเดินเข้าไปหาเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ร้านยังไม่เปิด

“ร้านยังไม่เปิดครับ”

“ไม่ได้มากิน มาหาเชฟ” พญาตอบด้วยท่าทีกวนๆ

“แต่นี่เป็นเวลางาน” มีคุณตอบกลับด้วยท่าทีกวนๆ ไม่ต่างกัน

“แต่ผมนัดเอาไว้ เชฟบอกว่าให้ผมมาหาได้” พญารู้สึกเป็นต่อ เขาโทรมาหานับตังค์แล้ว บอกว่าจะขอมาคุยธุระสำคัญด้วย นับตังค์จึงบอกว่าให้มาในเวลานี้

มีคุณได้ยินแล้วอึ้งไปแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาคิดว่านับตังค์คงมีเหตุผลที่อนุญาตให้พญามาหาได้เขาจึงทำได้แค่เดินนำเข้าไปก่อน พญาหัวเราะเยาะให้มีคุณได้ยินก่อนจะเดินตามไป ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปในครัว แต่ไม่เจอนับตังค์ที่นั่นมีคุณจึงถามหานับตังค์จากใบเมี่ยง ใบเมี่ยงจึงตอบว่านับตังค์อยู่ในครัวไทยที่มีคุณเพิ่งต่อเติมใหม่ให้ มีคุณกับพญาจึงรีบเดินแข่งกันไปราวกับว่าอยู่ในเกมแห่งศักดิ์ศรี ใครได้ทักนับตังค์ก่อนคือชนะ แต่เมื่อเดินเข้าไปถึงปากประตูของครัวไทยทั้งคู่ก็หยุดชะงักอยู่กับที่ สายตาของทั้งคู่ต่างก็จ้องไปที่ภาพเบื้องหน้า

ลำแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องพาดเป็นทางยาวลงมาบนใบหน้าของนับตังค์นั้น ทำให้เจ้าของใบหน้าดูละมุนละไมเป็นที่สุด ช่างเป็นภาพที่สามารถสะกดผู้ชายทั้งสองคนนี้ให้ยืนนิ่งค้างอยู่กับที่ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคนตรงหน้ากำลังนั่งอยู่บนกระต่ายขูดมะพร้าวแล้วก้มๆ เงยๆ ขูดมะพร้าวด้วยความตั้งใจ ยิ่งเป็นภาพที่ทำให้ใจของชายหนุ่มทั้งสองคนเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมาจากอก ถึงแม้นับตังค์จะไม่ได้นุ่งกระโจมอกเหมือนในภาพยนตร์ก็เถอะ แต่มือเรียวยาวที่เกาะกุมกะลามะพร้าวแล้วออกแรงขูดกับซี่เหล็กแหลมขึ้นๆ ลงๆ มันน่าเอ็นดูที่สุดสำหรับคนทั้งคู่ที่ยืนเบียดกันแบบไม่มีใครยอมใครอยู่ที่หน้าประตูครัวไทย จนกระทั่งคนที่ถูกจ้องรู้ตัวว่ามีคนมองอยู่จึงหันมามอง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ไหวติงก็กระพริบตาปริบๆ ด้วยความสงสัยว่าผู้ชายหน้าเหี้ยมโหดทั้งสองคนนั้นเป็นอะไรรึเปล่า

“ต้องรอให้เจ้าที่อนุญาตรึไงถึงจะก้าวข้ามธรณีประตูมาได้” นับตังค์เลิกคิ้วถาม

“มีเจ้าที่ด้วยเหรอจ๊ะ พี่นึกว่ามีแต่นางฟ้า” พญาหยอดคำหวานให้นับตังค์

“ที่นี่ไม่มีเจ้าที่ มีแต่เจ้าของ รู้เรื่องนะ” มีคุณเกทับ คราวนี้ต่างคนต่างจ้องตากันเขม็ง

“เอ้า เอาแต่มองตากันเดี๋ยวก็ท้องหรอก” นับตังค์ส่ายหน้าให้กับคนทั้งคู่

“น้องตังทำอะไรอยู่เหรอ” พญากระแทกไหล่ของมีคุณแล้วก้าวเข้าไปหานับตังค์ก่อน

“ทำข้าวตังหน้าตั้ง ลุงบอกมีเรื่องจะคุยด้วยใช่ไหม ว่ามาเลย” นับตังค์เข้าประเด็น อยากให้พญารีบพูดธุระมาเพราะขี้เกียจเห็นหน้ายักษ์ของคนขี้หวง

“พี่อยากคุยกับน้องตังแค่สองคน” พญาเหลือบตามองไปทางมีคุณ

“พี่รอกินข้าวนะ คุยเสร็จแล้วรีบให้เพื่อนกลับล่ะ” มีคุณเน้นคำว่าเพื่อนใส่พญาก่อนจะยอมเดินออกจากครัวไทยไป

“พี่อยากกินตัง เอ้ย ข้าวตังบ้าง” พญาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นข้างๆ นับตังค์

“นี่ลุง มาทะลึ่งใส่เดี๋ยวโดนกระต่ายขูดมะพร้าวเจาะหน้าหรอก อย่ามาชักช้า เข้าเรื่องเลย” นับตังค์แกล้งขู่ไปไม่จริงจัง

“พี่เพิ่งรู้เรื่องที่ดาวเรืองมาแกล้งหนูด้วง” พญาทำหน้าขึงขังจริงจังจนนับตังค์ต้องวางมะพร้าวลงแล้วลุกไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งแคร่ไม้ พญาลุกตามขึ้นมานั่งบนแคร่ด้วย

“แบบนั้นไม่ได้เรียกแกล้งนะ เรียกว่าทำร้ายร่างกาย” นับตังค์เองก็ทำหน้าจริงจังเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

“พี่จะจัดการให้ ไม่ให้เขามายุ่งกับตังอีก”

“เขาเป็นอะไรกับลุง ลุงถึงจะห้ามเขาได้”

“เป็นพี่สาวพี่เอง เป็นลูกคนละแม่ แต่พ่อไม่ยอมรับ” เมื่อพญาบอกให้นับตังค์รู้ก็ทำเอานับตังค์อึ้งไป

“ทำไมเขาต้องเกลียดหนูด้วง” ถึงจะรู้หัวนอนปลายเท้าของดาวเรืองแล้ว นับตังค์ก็ยังไม่เข้าใจการกระทำของดาวเรืองอยู่ดี

“มันเกลียดทุกคนแหละ แต่มันเคยเลี้ยงหนูด้วงก็คงเห็นเป็นที่ระบายจนเคย พี่ว่าจะจับมันส่งโรงพยาบาลบ้าให้รู้แล้วรู้รอด”

“เอาเป็นว่าลุงจะทำยังไงกับพี่สาวของลุงก็ตามใจ แต่ก็ขอบคุณนะที่ลุงเป็นห่วง แต่ถ้าเขามายุ่งกับด้วงอีก ตังไม่รับประกันความปลอดภัยของเขานะ”

“รู้ด้วยเหรอว่าพี่เป็นห่วง” พญาถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเศร้าไม่ทะเล้นเหมือนทุกที

“ลุง...” นับตังค์ไม่รู้จะพูดยังไงดีที่จะทำให้คนฟังสะเทือนใจน้อยที่สุด

“พี่รู้ ตังให้พี่เลือกแล้วนี่เนอะ ว่าแต่ข้าวตังหน้าตั้งนี่รสชาติมันเป็นยังไง พี่ไม่เคยกินมาก่อนเลย พี่ช่วยทำได้ไหม” พญาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้นับตังค์อึดอัด

“ตังต้องไปกินข้าวก่อน ลุงกินมารึยัง”

“ยัง แต่ไม่เป็นไร พี่รอในนี้ก็ได้”

“ไปกินด้วยกันก็แล้วกัน แล้วค่อยมาช่วย” นับตังค์ตัดสินใจแทน

บรรยากาศในตอนนี้เหมือนกำลังอยู่ในสงครามโลกครั้งที่สาม พนักงานในร้านทุกคนต่างก็ได้แต่มองภาพพญากับมีคุณจ้องตากันเหมือนพร้อมจะเปิดสงครามได้ทุกเมื่อ ส่วนนับตังค์นั่งกินข้าวทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่ากำลังจะมีคนจ้องตากันตายเพราะตัวเองอยู่ จนกระทั่งมีระเบิดปรมาณูลูกใหม่เดินเข้ามาในครัว พนักงานทุกคนถึงกับลุ้นว่าวันนี้ครัวร้านมีคุณอนันต์จะระเบิดหรือไม่

“คุณ คิวโทรมาคุณก็ไม่ยอมรับสาย คิวมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” คีตะคือระเบิดลูกใหม่ที่ว่า แต่ว่าวันนี้คีตะดูอิดโรยจนทุกคนที่เห็นยังสงสัยว่าคีตะเป็นอะไร

“ไปรอพี่ที่ห้องทำงาน เดี๋ยวพี่กินข้าวเสร็จจะตามไป” มีคุณเห็นท่าทางของคีตะเหมือนคนป่วยก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน

“ที่นี่ดีจัง บอสน้องตังบอกว่าไม่มีเจ้าที่ มีแต่เจ้าของ สงสัยจะเป็นเจ้าของมือสองด้วยนะน้องตัง” พญาพูดแล้วหัวเราะร่วน

“ไม่ตลก” มีคุณพูดจบก็ลุกเดินออกไป พญายิ้มเหยียดใส่มีคุณก่อนจะหันมายิ้มหวานให้นับตังค์ที่กำลังมองตามมีคุณไปด้วยความสงสัยว่าคีตะจะมาไม้ไหนอีก

เมื่อมีคุณเดินเข้ามาในห้องทำงานก็เห็นว่าคีตะกำลังร้องไห้อยู่ พอคีตะเห็นมีคุณก็โผเข้ามากอด ร้องไห้จนพอใจแล้วถึงได้ค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกมาให้มีคุณได้เห็นร่องรอยที่ร่างกายของตัวเอง มีคุณเห็นถึงกับพูดไม่ออก

“เกิดอะไรขึ้น” มีคุณถามคีตะ

“มันข่มเหงคิว”

“ใคร”

“ไอ้พญา”

มีคุณอึ้งไปเมื่อได้รู้ มีคุณคิดว่าคนอย่างพญาไม่น่าจะกล้าทำร้ายคีตะคนที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวตนเอง แต่ข่าวลือเรื่องการข่มเหงนักท่องเที่ยวของพญาก็เคยมีมาให้ได้ยิน มันทำให้มีคุณลังเลว่าที่คีตะพูดจะเป็นความจริงหรือเปล่า

“คุณคงไม่คิดว่าคิวใส่ร้ายไอ้พญาใช่ไหม คิวจะทำไปทำไม คิวก็ไม่อยากให้คุณรู้หรอกนะว่าคิวโดนทำอะไรมา แต่ที่เกาะนี่คิวไม่มีใครเลย คิวมีแค่คุณที่คิวไว้ใจ” คีตะบีบน้ำตาจนมีคุณนึกเห็นใจ

“จะแจ้งความไหม”

“ไม่เอา คิวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“แล้วจะทำยังไง โดนมันทำแบบนี้แล้วยังคิดกลับไปทำงานให้กับมันเหรอ ผมว่าคิวควรกลับกรุงเทพนะ”

“คุณใจร้ายมากเลยนะ คิวโดนทำร้ายขนาดนี้แต่คุณไล่คิวกลับกรุงเทพ” คีตะตัดพ้อ พยายามทำตัวให้ดูน่าสงสารที่สุด เขารู้ดีว่ามีคุณเป็นคนขี้สงสาร เมื่อเห็นท่าทีของมีคุณดูอ่อนลงก็เข้าไปสวมกอด

“ผมไม่ได้ไล่ แต่คิวจะมาอยู่แบบนี้ทำไม มันไม่มีประโยชน์ ผมมีแฟนแล้ว ผมรักนับตังค์ ผมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมา แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม”

“คุณ ได้โปรดอย่ารักคนอื่นได้ไหม นะครับ คิวไม่มีคุณไม่ได้ นะครับ รักคิวนะ รักคิวเหมือนเดิมนะ” คีตะพยายามจะจูบมีคุณด้วยคิดว่าเคยใช้ร่างกายนี้ทำให้มีคุณหลงใหลในตัวเองได้มาก่อน ครั้งนี้ก็อาจจะใช้ได้เหมือนเคย จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงเข้มๆ ที่ทำให้คีตะตกใจจนต้องผละตัวออกจากมีคุณ

“นี่มันอะไรกันตาคุณ นี่มันเพื่อนเก่าของลูกไม่ใช่เหรอ ทำไมมาทำตัวแบบนี้!” คุณพลอยประดับเห็นสภาพของคีตะที่กำลังพยายามจะเข้าหาลูกชายของเธอก็หัวเสียอย่างที่สุด แต่พอได้เห็นร่างกายของคีตะมีแต่รอยแดง คุณพลอยประดับก็ตกใจและไม่อยากจะเดาว่ามันคือรอยอะไร

“คุณแม่ครับ ผมรักมีคุณ เรารักกันครับคุณแม่ ผมกับมีคุณเรามีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมาหลายปีแล้วครับ” คีตะคิดว่าตัวเองกำลังจนตรอกเลยตัดสินใจโพล่งออกไป มีคุณถึงกับหน้าเหวอที่คีตะพูดออกไปแบบนั้น ส่วนคุณพลอยประดับมองคีตะสลับกับลูกชายของตัวเองอย่างชั่งใจ

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2018 19:15:41 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


พญาที่เผอิญจะเดินไปเอาโทรศัพท์ของตัวเองที่รถแล้วต้องผ่านห้องทำงานของมีคุณ เมื่อเห็นร่างกายของคีตะผ่านประตูห้องที่เปิดเอาไว้ก็ตกใจ เขาเพิ่งเห็นว่าตัวเองสร้างรอยจูบตามร่างกายให้คีตะมากขนาดนี้ เมื่อวานที่ทำกับคีตะไปเพราะอารมณ์หงุดหงิดตัวเดียวแท้ๆ กอปรกับไม่ได้มีอะไรกับใครนานแล้ว พอมาเจอความร้อนแรงที่คีตะมอบกลับมามันทำให้พญาลืมตัวตอบสนองกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิง เมื่อพายุอารมณ์จบลงคีตะก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อนที่พญาจะทันสังเกตเห็นว่าตัวเองทำอะไรเอาไว้บนร่างกายนั้นบ้าง

 “เอาล่ะ เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเพราะเดี๋ยวลูกค้าก็จะมากันแล้ว ตาคุณ แกไปรอชิมข้าวตังที่หนูตังทำ เห็นว่าวันนี้จะเอามาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ลองทาน ส่วนหนูรอให้ร้านปิดในช่วงบ่ายก่อนก็แล้วกัน เราคงมีเรื่องต้องคุยกัน” คุณพลอยประดับตัดบท คีตะจึงจำต้องยอมทำตาม



นับตังค์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องทำงานของมีคุณ แต่ตอนนี้ทั้งมีคุณ พญา รวมไปถึงคุณพลอยประดับที่มายืนดูนับตังค์ทำข้าวตังหน้าตั้งอยู่ในครัวไทยถึงดูเหมือนคนที่มีเรื่องอะไรในใจให้ต้องคิดหนัก ไม่เว้นแม้แต่คีตะที่เดินตามเข้ามาที่หลังก็ยังมายืนอยู่เงียบๆ ไม่แขวะนับตังค์เหมือนอย่างทุกที นับตังค์เดาว่าคีตะคงจะเกรงใจคุณพลอยประดับ แต่นับตังค์ก็เลิกสนใจทุกคนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อไปโดยมีพี่สายรุ้งมาเป็นลูกมือให้ ส่วนพนักงานคนอื่นๆ ก็ไปเตรียมตัวทำหน้าที่ของตัวเองเพราะใกล้เวลาที่รอบอาหารกลางวันจะเปิดแล้ว

สมัยก่อนรุ่นปู่ย่าตายายเขาจะใช้วิธีดงข้าวด้วยเตาถ่าน ด้วยความร้อนจากฟืนมันควบคุมได้ยากจึงทำให้มีข้าวติดก้นหม้อเสมอ บรรพบุรุษของคนไทยจึงใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านขูดข้าวก้นหม้อเก็บเอาไว้ นำมาแผ่แล้วเกลี่ยให้แบนบางเสมอกัน ตัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือวงกลมตามชอบ จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วจึงนำมาเก็บใส่ในปี๊บหรือโหล อยากจะทานเมื่อใดก็นำมาปิ้งกินหรือทำเป็นของว่าง

นับตังค์ให้พี่สายรุ้งเอาข้าวที่ตากแดดได้ที่แล้วไปปิ้งบนเตาถ่าน นับตังค์ไม่เอาข้าวไปทอดเหมือนคนสมัยนี้ทำเพราะมันจะไม่หอมเท่ากับเอาไปปิ้ง ส่วนตัวนับตังค์ก็เริ่มทำหน้าข้าวตัง วิธีการก็ไม่ยุ่งยากอะไร เริ่มจากผัดสามเกลอกับหัวกะทิจนมันเริ่มส่งกลิ่นหอมดีแล้วก็ตามด้วยหอมใหญ่สับละเอียด แล้วก็ตามด้วยเนื้อหมูสับและเนื้อกุ้งสับ จากนั้นก็เติมกะทิที่นับตังค์คั้นสดๆ เอาไว้ พอกะทิเริ่มแตกมันนับตังค์ก็ใส่หอมแดงซอยและเริ่มปรุงรสด้วยน้ำตาลดอกมะพร้าว มะขามเปียก เกลือและน้ำปลาดี ชิมรสจนพอใจแล้วก็ตบท้ายด้วยการใส่ถั่วลิสงคั่วบดลงไปและราดหน้าด้วยน้ำมันจากน้ำพริกมันกุ้ง

คีตะที่ยืนสังเกตทุกคนอยู่เงียบๆ ก็เริ่มรู้สึกอยากจะร้องไห้ สายตาของคุณพลอยประดับแสดงความชื่นชมนับตังค์อย่างเปิดเผย การที่คีตะให้พเยียแกล้งทำเป็นผู้หวังดีโทรไปหาคุณพลอยประดับให้มาที่นี่เพื่อให้กีดกันความรักของนับตังค์กับมีคุณ ถึงตอนนี้คีตะจะไม่รู้ว่าคุณพลอยประดับจะรู้เรื่องของทั้งสองคนนั้นรึยัง แต่การที่คุณพลอยประดับแสดงออกว่าชื่นชอบนับตังค์มันก็ทำให้คีตะรู้สึกเหมือนเป็นผู้แพ้ โดยเฉพาะสายตาของมีคุณที่มองนับตังค์ก็ฉายชัดไปด้วยความรักที่แทบจะล้นทะลุออกมา ส่วนสายตาของคนที่เพิ่งจะมีอะไรกับตัวเองอย่างพญายิ่งทำเหมือนคีตะไม่มีตัวตนด้วยซ้ำไป ตอนนี้หัวใจของคีตะก็เหมือนถูกขยี้จนแหลกสลายให้ตายทั้งเป็น

“ข้าวตังกรอบถนัด น้ำพริกผัดละเลงทา ข้าวตังปิ้งใหม่มา จิ้มหน้าตังทั้งเค็มมัน เสร็จแล้วครับ ชิมได้แล้ว” นับตังค์ท่องบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องว่างของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจบก็ชวนทุกคนให้มาชิม

“ฮุยเยฮุย หนูมาแย้ว” เสียงของหนูด้วงดังมาก่อนตัว นับตังค์เห็นช้วนอุ้มหนูด้วงมาก็นึกขำ ถ้าเรื่องกินต้องยกให้พี่ช้วนเขาล่ะ

“หม่อมถนัดขวามาช่วยชิมแล้ว” ช้วนพูดจบก็ใช้มือขวาหยิบข้าวตังมาชิมทันที ชิมเสร็จก็ยกนิ้วให้นับตังค์

“หนูจากิน ป้อนหนูหน่อย” ด้วงร้องขอกินบ้าง ช้วนจึงบิข้าวตังให้มีขนาดเล็กลง แล้วป้ายตัวหน้าข้าวตังเพียงเล็กน้อยก่อนจะส่งเข้าปากหนูด้วง

“อาหย่อยฉุดฉุด” หนูด้วงชูนิ้วให้นับตังค์เลียนแบบช้วนบ้าง

“ขอพี่ชิมบ้าง” พญารีบเดินเข้าไปแต่ก็ช้ากว่ามีคุณที่เดินมาถึงตัวนับตังค์ก่อน มีคุณเหลือบมองพญาแบบเยาะเย้ยก่อนจะหันกลับมามองหน้านับตังค์

นับตังค์เห็นมีคุณทำหน้าพยักพเยิดก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ จนมีคุณอ้าปากนับตังค์ถึงได้รู้ว่ามีคุณจะให้ป้อน ทีแรกนับตังค์ก็ว่าจะไม่ทำเพราะมันน่าอายที่จะมาทำต่อหน้าคนอื่น แต่พอมาคิดว่าหากการกระทำบางอย่างจะทำให้คนอีกสองคนได้รับรู้ถึงความเป็นจริงได้นับตังค์จึงจัดการป้อนข้าวตังให้กับมีคุณด้วยดี

“อร่อยสุดๆ” มีคุณก็พูดเลียนแบบหนูด้วงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสุข นับตังค์นึกขำในใจ คนตีหน้ายักษ์เมื่อครู่หายไปไหนเสียแล้ว แต่พอหันมาเห็นหน้าของพญากับคีตะ นับตังค์จึงได้รู้ว่ายักษ์มันย้ายไปสิงร่างทั้งสองคนนั้นแล้ว

“บอสครับ เชฟครับ ลูกค้าเริ่มมาแล้วครับ” เฮงเข้ามาตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปิดร้านแล้ว

“โอเค แยกย้าย” นับตังค์ทำมือให้ทุกคนออกไปจากครัวทุกคนถึงได้แยกย้ายกันไป ยกเว้นพญาที่ยังยืนอยู่เพราะนับตังค์สั่งให้รอก่อน นับตังค์จัดข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่องให้พญาเอากลับไปกิน

“มันเก็บไว้ได้นานที่สุดกี่วัน ถึงเดือนไหม” พญาถามนับตังค์

“จะบ้าเหรอลุง กินให้หมดในวันนี้แหละ จะเก็บเอาไว้ทำไม” นับตังค์โวยวาย

“พี่อยากให้ของที่ตังให้พี่อยู่กับพี่ได้นานที่สุด” พญายิ้มเศร้าๆ ให้นับตังค์ เขารับรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แต่ใจมันก็ยังไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่

“อาหารมันมีวันหมดอายุนะลุง แต่มิตรภาพไม่มีวันหมด” นับตังค์ยิ้มให้พญา

“ขอกอดสักทีได้ไหม” พญาถามอย่างตรงไปตรงมา

“ได้ดิ เพื่อนกัน” นับตังค์ดึงพญามากอดแล้วตบหลังปลอบใจดังปุๆ จนพญาแทบจุก แต่มันก็ทำให้พญายิ้มได้ แม้จะเป็นยิ้มที่รู้สึกขมขื่นมากก็ตาม

“เฮ้อ...เพื่อนก็เพื่อน แต่ถ้าผัวทำตัวไม่ดีอย่าลืมพี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” พญาพรูลมหายใจเพื่อยอมรับความเป็นจริงให้ได้ แต่ก็ยังไม่วายจะหยอดความรู้สึกทิ้งท้ายฝากเอาไว้

“ไปได้แล้วลุง เกะกะ วู้” นับตังค์ทำมือไล่ พญาหัวเราะแล้วก็ยอมกลับไปในที่สุด



หลังจากที่ช่วยมีคุณต้อนรับลูกค้าจนใกล้จะได้เวลาปิดร้านในรอบอาหารกลางวันแล้ว คุณพลอยประดับก็ให้คีตะเดินตามมาที่สวนหลังบ้าน ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ศาลาไม้ในสวน บนโต๊ะตรงหน้ามีจานข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่องวางอยู่ด้วย

“ดูจากการที่หนูช่วยมีคุณรับลูกค้า แม่ว่าหนูเป็นคนเก่งนะคิว” คุณพลอยประดับเอ่ยชื่นชมคีตะจากใจ ซึ่งคำชมนี้ทำให้คีตะยิ้มได้

“ขอบคุณครับคุณแม่”

“หนูได้ลองชิมข้าวตังนี่รึยังจ๊ะ”

“ยังเลยครับ”

“ลองดูสิจ๊ะ” คุณพลอยประดับเลื่อนจานข้าวตังให้คีตะ คีตะจำต้องหยิบมาชิมเพราะเกรงใจแต่ในใจก็แอบต่อต้านเพราะไม่อยากกินฝีมือของศัตรูหัวใจ แต่เมื่อได้ชิมแล้วคีตะก็ต้องยอมรับว่ามันอร่อยมากจริงๆ

“อร่อยดีครับ” คีตะจำต้องบอกความรู้สึกออกไปเพราะคุณพลอยประดับมองหน้าเหมือนจะรอคำตอบ

“แม่จะสอนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน อาหารบางชนิดดูในทีแรกมันจัดจ้านน่ากินจนน้ำลายสอ แต่พอกินไปความจัดจ้านมันทำให้อิ่มเร็ว อะไรที่เข้มข้นไปมันก็ไม่ดี อาหารบางอย่างมันดูเรียบง่าย ดูธรรมดา แต่พอได้ชิมก็รู้ได้ทันทีว่ามันครบเครื่อง ไม่จัดจ้านจนลิ้นชา ไม่โดดเด่นเมื่อแรกเห็นแต่ครบรสเมื่อแรกชิม กินได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ หนูเข้าใจที่แม่พูดไหมจ๊ะ”

“แต่แม่ครับ...เราเคยรักกันมาก ผมรักคุณมาก” คีตะรู้ดีว่าคุณพลอยประดับเปรียบเทียบตัวเขาเองกับนับตังค์เป็นอาหาร ถึงจะรู้ว่าตัวเองแพ้แต่ก็ยังพยายามจะเรียกร้อง

“หนูก็รู้ตัวว่าแค่เคยรักแต่มันก็จบไปแล้วใช่ไหมจ๊ะ แม่ไม่รู้หรอกนะว่าหนูเลิกกับตาคุณด้วยเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ตาคุณมีคนรักแล้ว ถ้าหนูเปิดใจก็จะเห็นว่าลูกชายของแม่รักหนูตังมากแค่ไหน แม่เองในทีแรกก็ใช่ว่าจะรับได้ แต่เพราะหนูตังคนนี้ก็เปรียบเหมือนของว่างจานนี้ มันทรงเครื่องขนาดนี้ใครกันจะไม่ต้องการ แต่สิ่งที่หนูกำลังมันยิ่งทำให้ตัวตนของหนูเลือนหายไปจากสายตาของตาคุณนะ หนูบอกกับแม่เองว่าคบกับตาคุณมาหลายปี หนูก็ควรจะรู้ใจเขาว่าอะไรที่จะทำให้เขาเก็บความทรงจำที่ดีที่หนูเคยมีกับเขาไว้หรืออะไรที่จะทำให้เขาโยนความทรงจำที่ดีทิ้งไป”

“ผมแพ้แล้วใช่ไหมครับ” คีตะน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าตัวเองแพ้นับตังค์ทุกรูปแบบแล้ว

“อ๊ะ นี่หนูกำลังเล่มเกมอยู่หรอกเหรอ แม่นึกว่าหนูต้องการตาคุณด้วยใจเสียอีก เฮ้อ..ถ้าหนูคิดว่ามันเป็นเกม ก็คงจะแพ้จริงๆ นั่นแหละ ขอโทษทีนะที่แม่พูดตรงๆ ที่แม่อยากพูดก็พูดไปหมดแล้ว หวังว่าหนูจะคิดได้นะ กลับไปเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองดีกว่าทำตัวลดคุณค่าตัวเองแบบนี้นะจ๊ะ”

“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” คีตะเช็ดน้ำตา สูดลมหายใจแล้วเชิดหน้าขึ้น คำพูดที่ดูเหมือนจะนุ่มนวลของคุณพลอยประดับมันเชือดเฉือนคีตะให้เจ็บปวดจนถึงแก่นข้างใน ในเมื่อที่นี่ไม่มีใครต้องการ คนอย่างคีตะก็จะไม่ง้ออีกแล้ว

เมื่อคีตะกลับไปแล้วคุณพลอยประดับก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง เธอรู้ตัวว่าได้พูดจาทำร้ายคีตะไปอย่างเจ็บแสบ เธอแค่คิดว่าในเมื่อเธอเป็นมารดาที่ไม่เคยทำตัวมีประโยชน์ให้มีคุณได้เลย อย่างน้อยการกรุยเส้นทางรักของลูกชายให้ราบเรียบขึ้นได้ก็ยังดีกว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ฝ่ายนับตังค์เมื่อทำงานในส่วนของตัวเองเสร็จแล้วก็เข้ามาหามีคุณในห้องทำงาน อยากจะมานั่งพักในห้องเย็นๆ ให้คลายร้อนเสียหน่อย มีคุณเห็นนับตังค์ก็เรียกให้นับตังค์มาที่โต๊ะทำงาน เมื่อนับตังค์เดินมาถึงมีคุณก็ดึงนับตังค์ให้มานั่งตักแล้วชี้ให้ดูที่จอคอม ในคอมเป็นคลิปที่นับตังค์กอดกับพญาอยู่

“นี่ติดกล้องในครัวไทยด้วยเหรอบอส” นับตังค์ไม่เคยรู้เลยว่ามีคุณติดกล้องไปทั่วร้าน

“ไปกอดกับมันทำไม รู้ไหมว่ามันทำอะไรเอาไว้” มีคุณหน้างอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแอบหอมที่ท้ายทอยของนับตังค์ กลิ่นตัวของนับตังค์มันหอมเหมือนขนมหวานจริงๆ ได้หอมกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ 

“กอดแบบเพื่อน ดูดีๆ ดิ ตังกระดกก้นออกด้วยนะ เซฟตัวสุดๆ เพราะรู้ว่าแฟนขี้หึงโคตรๆ ว่าแต่ลุงไปทำอะไรไว้เหรอ” นับตังค์ชี้ให้ดูว่าตัวเองไม่ได้กอดแบบแนบแน่น

“คิวมาหาบอกว่าโดนพญาข่มเหง ตัวของคิวมีแต่รอยจูบเต็มไปหมด” มีคุณเล่าให้นับตังค์ฟัง

“จริงดิ ตาลุงข่มเหงเลยเหรอ ตังไม่ได้อคตินะ แต่กิ๊กเก่าพี่ไม่สมยอมแน่เหรอ ถึงตาลุงจะดูโฉดไปนิด แต่ตังว่าคงไม่ข่มเหงหรอก”

“เข้าข้างมันรึไง”

“พี่ก็เข้าข้างกิ๊กเก่าพี่รึไง”

“โอเค เอาเป็นว่าไม่ใช่เรื่องของเรา” มีคุณรีบจบเรื่องเพราะกลัวว่าจะทะเลาะกับนับตังค์ด้วยเรื่องของคนอื่น

“ตังเหนื่อยๆ มาถึงก็มาหาเรื่อง” นับตังค์แกล้งงอน

“โอ๋ๆ พี่ผิดไปแล้ว มามะ นวดให้นะ” มีคุณรีบพานับตังค์มานั่งที่เตียง แต่ตัวเองกลับเดินไปล็อกประตูห้องทำงาน คราวนี้จะไม่ยอมพลาดให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ

“แค่นวดทำไมต้องล็อกประตูด้วยอะ” นับตังค์ถามทั้งที่รู้

“นวดแบบวีไอพี” มีคุณยิ้มกะล่อนใส่ก่อนจะดันนับตังค์ให้นอนราบลงบนเตียงส่วนตัวเองก็ขึ้นไปคร่อม โน้มใบหน้าลงมาแล้วใช้จมูกคลอเคลียกับจมูกของนับตังค์

“ตอนนี้เลยเหรอ” นับตังค์ถาม ในใจก็เต้นตึกตักให้กับความอ่อนโยนของมีคุณ

“เราไม่มีเวลาให้กันเลยนะ ขอแค่นิดหนึ่งก็ยังดี” มีคุณอ้อน เพราะกลางคืนหนูด้วงนอนคั่นกลางตลอด ไม่ยอมให้นับตังค์มานอนตรงกลาง

“ก็ได้ก็ได้ นิดเดียวนะ” นับตังค์ใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของมีคุณ

ก็อกๆๆ.. เสียงเคาะสั้นๆ ดังขึ้นจนมีคุณกับนับตังค์ต้องชะเง้อมองไปที่ประตู แต่แล้วก็พบกับความเงียบ ทั้งคู่คิดว่าหูฟาดไปจึงหันกลับมาคลอเคลียกันต่อ

ก็อกๆๆๆๆๆๆ คราวนี้เสียงเคาะดังยาวกว่าเดิมจนทำให้ทั้งคู่รู้ว่าเสียงมันไม่ได้มาจากประตู แต่มันดังมาจากกำแพงกระจกตรงหัวนอน

“พี่ช้วน! ด้วง”

“ปู่ ด้วง!”

มีคุณกับนับตังค์เอ่ยชื่อคนที่กำลังเอาหน้าแนบกระจกด้วยความตกใจ ส่วนช้วนหัวเราะชอบใจที่ทำให้ทั้งสองคนในห้องตกใจได้

“เข้ามาได้ยังไง” มีคุณเกาหัว สวนหย่อมด้านหลังโดมกระจกเข้าออกได้ทางเดียวคือต้องเข้าออกผ่านห้องทำงานของเขาเท่านั้น ในสวนมีรั้วต้นข่อยสูงถึงสามเมตรล้อมรอบอยู่ ปิดมิดชิดเป็นส่วนตัว ไม่มีทางจะเข้าทางอื่นได้เลย

“ข้ายังไม่ได้ออกไปไหนเลย นั่งเล่นกับหนูด้วงอยู่ในนี้ เอ็งสองคนนั่นแหละที่มารบกวนข้ากับหนูด้วง” ช้วนเดินอุ้มหนูด้วงเข้ามาในห้องแล้วรีบแก้ตัว

“แด๊ดกะมัมจากัดกันอีกแย้ว” หนูด้วงฟ้องช้วนเพราะดันมาเห็นจังหวะที่นับตังค์กับมีคุณจะจูบกันพอดี

“ให้ปู่กัดกับย่าบ้างได้ไหม” ช้วนถามด้วง

“ไม่ได้!” มีคุณรีบตอบแทนด้วง

“ไม่ยุติธรรม” ช้วนทำหน้าเซ็งๆ

“พอเลย หมดเวลาสนุกแล้ว ไปด้วง ไปหาขนมกินกันดีกว่า” นับตังค์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ช้วนกับมีคุณเถียงกันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วชูมือไปทางหนูด้วง หนูด้วงรีบโผตัวจากช้วนมาหานับตังค์

“อ้าว ทำไมยังงั้นล่ะตัง นี่มันเวลาของพี่นะ” มีคุณตัดพ้อ

“คั่วกลิ้ง คืนนี้” นับตังค์ตอบสั้นๆ ใบหน้าแดงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ รีบพาหนูด้วงออกไปก่อนจะหน้าแดงหนักกว่าเดิมเพราะเห็นรอยยิ้มที่มีเลศนัยของมีคุณ

“เฮ้ยๆ เอ็งสองคนจะแอบทำอาหารกินกันโดยไม่มีข้าไม่ได้นะ เจ้าตัง กลับมาคุยให้รู้เรื่องก่อน อย่าลำเอียงสิวะ ข้าก็อยากกินคั่วกลิ้งบ้างนะโว้ย เจ้าตัง!” ช้วนโวยวายแล้วเดินตามนับตังค์ออกไป ทิ้งให้มีคุณยืนยิ้มกว้างเหมือนคนถูกลอตเตอรี่อยู่ในห้องตามลำพัง


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ดีใจที่มีผู้อ่านมากขึ้น ดีใจที่มีคนชอบ มีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ
ตอนใหม่เลยมาไวตามกำลังใจด้วยเลย ฮ่าๆ ขอบคุณที่ช่วยบอกคำผิดด้วยนะคะ กอดๆๆ

 :กอด1:
 


 
เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2017 12:36:19 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มื้อต่อไปมีคั่วกลิ้งเหรอ ข้าวพร้อมแล้ววววววววว
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ปู่นี้ฮา คุณแม่ขา กรุยทางโลดค่ะ :hao3:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
หวังว่าคีตะคงจะจบจริงๆนะจ๊ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Aiim_Aiim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยยยยยย ปู่ช้วนจะมากินคั่วกลิ้งกะสองคนนี้ไม่ได้นะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดูๆ ไปพญาก็คงจะไม่ได้แย่มากสินะ
แต่คิวนี่คงขุดไม่ขึ้นแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :hao7: หวังว่าจะไม่มีอะไรมาขัดการทานคั่วกลิ้งนะ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อ่านตอนนี้ขอกอดคุณแม่พี่คุณแรงๆ  ดีใจที่เชียร์คุณแม่ให้พี่ช้วน พูดได้ถูกใจมาก สมแล้วที่เป็นแม่ว่าที่สามีของนับตังค์  แต่ก็อยู่ที่ว่าคิวจะมีศักดิ์ศรีและคิดได้หรือเปล่า 

พญาก็ยังมีส่วนที่ดี และอ่อนโยนกว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่เห็น  และนับตังค์ก็เหมือนจะเห็นส่วนดีของพญาว่าเป็นคนที่มีจิตใจดี พญาคิดถูกแล้วที่ยอมเป็นเพื่อนกับนับตังค์ เพราะอาหารมีวันหมดอายุ แต่มิตรภาพไม่มีวันหมดอายุ


เป็นกำลังใจให้คนเขียน ให้มีคนเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์เยอะๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ชอบเรื่องนี้ พระเอก นายเอก ไม่งี่เง่าดี มีอารมณ์แบบคนทั่วไป แต่ก็พร้อมจะเข้าใจเมื่อได้คุยกัน คุณแม่ก็น่ารัก ลุงช้วนก็เท่ ด้วงน่ารักสุดๆ
พญาก็น่ารักนะ  จริงๆถ้าคิวคิดได้  คู่กะคิวก็น่าจะดี

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ปู่ช้วนได้ยินเข้าแล้ว เข้าใจผิดจะเข้ามาขัดจังหวะไหมเนี่ย 5555

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 o13 ขุ่นแม่ทำถูกต้องที่สุดค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
น้ำลายหยดแหมะเลย ข้าวตังหน้าตั้ง


ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ะ คั่วกลิ้งเลยเหรอ? มีคุณได้โบนัสนะเนี่ย หวังแค่โจ๊กเองนะ 5555 เอาแล้วๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ตอนนี้พญาน่ารักขึ้นจมเลย ไม่นึกเลยว่าพญาจะมีมุมนี้ จะมีรักจริงให้นับตังค์ขนาดนี้ ไหนๆก็กลับตัวกลับใจแล้ว คนแต่งช่วยหาคู่ให้พญาหน่อยนะคะ

อยากจะเดาว่า หนูด้วงต้องเป็นลูกของพี่ชายนับตังค์กับพี่สาวพญาที่หนีหายไปแน่นวล จริงไหมคะคนแต่ง แต่พี่ช้วนนี้สิ จะเป็นใครเกี่ยวข้องยังไง นึกไม่ออกเลยแฮะ ไว้รอเฉลยนะคะ

ยังเป็นตอนที่อ่านไปยิ้มไป ยิ้มหน้าบานเลย นึกภาพคุณย่า แด๊ด กับหนูด้วง ร้องเล่นเต้นรำกัน มันจะน่ารักกกกเกินไปแล้วววว 5555

จากนี้ก็จะไปกาปฏิทินนับวันรอตอนต่อไปนะคะ อยากจะลุ้นให้มีคุณได้กินโจ๊กบ้างอะไรบ้าง 5555 แต่คั่วกลิ้งก็เป็นเมนูที่ส่วนตัวแล้วชอบกินมากๆๆ ให้มีคุณกินต่อไปก็ได้ค่ะ

ปล.อยากบอกว่าไม่เคยลืมกดบวกเป็ดให้คะแนนชื่นชมคนแต่งค่ะ ชอบเรื่องนี้มากๆ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
คุณญ่า กับหนูด้วงน่ารักมาก  :กอด1:

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
เห็นแล้วอยากกินบ้าง

 :m3: :myeye:

ออฟไลน์ ก๊าบก๊าบ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ว้าวววววว มีคุณได้กินคั่วกลิ้งล่ะเว้ยยยยย  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ตาช้วนนแกจะมาคั่วกลิ้งกับเค้าไม่ได้นะ :jul3:

ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านไปอ่านไปนี่หิวเลย   หนูด้วงน่ารักมากลูก

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
 o13 รอกินคั่วกลิ้งเผ็ชๆ ค่าาาา

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รอคั่วกลิ้งงงงงงงงงงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด