[เรื่องสั้น]-ผ่านเลยไป-By-Atosmether ตอน 6 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]-ผ่านเลยไป-By-Atosmether ตอน 6 ตอนจบ  (อ่าน 1855 ครั้ง)

ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
จากนักเขียนสำหรับผู้อ่านที่น่ารักน่ะครับ

1. เนื่องจากว่าพึ่งเขียนเป็นเรื่องแรก ดังนั้น การเขียนไม่รู้เรื่องอาจมีบาง ขออภัยมา ณ ที่นี้
2. คำผิดนั้นอาจปรากฎขึ้นในเนื้อของนิยาย ดั้งนั้น จึงขออภัยมา ณ ที่นี้
3. ถ้าอ่านนิยายแล้วไม่เข้าใจให้กลับมาอ่านข้อ 1 และ 2 ครับ
4. นิยายมีการอ้างอิงบุคคลที่มีชีวิตจริง
____________________________________________________________________________________________
ตอนที่ 1 แรกพบ
   
การเรียนวันนี้ถ้าไม่จำเป็นผมก็จะไม่มาเลยเสียยังดีกว่า แต่ส่วนดีที่มันมีอยู่เพียงน้อยนิดก็กระตุ้นให้ผมต้องมาเรียนจนได้ วิชาแรกของวันนี้เป็นวิชาเคมีสำหรับนักศึกษาปีหนึ่งของภาควิชาเคมี ซึ่งเป็นการปรับพื้นฐานก่อน ความง่วงบวกกับเสียงโมโนโทนที่กำลังพังพรูออกมามันก็คือยานอนหลับชั้นดีนี่เอง
“พัด!”มนเรียกขึ้น “กลับหอไปนอนก่อนไหม”
“อะไรเธอ”คนถูกเรียกงัวเงีย “วันนี้ฉันมาเรียนน่ะ ยูเก็ตป่ะ”พร้อมกับจะชุกหน้าลงกับโต๊ะต่อ
“จ้าฉันรู้ว่าเธอมาเรียน ”มนตอบ “แต่การกระทำของเธอเนี่ยตรงกันข้ามเลยน่ะ”
“ตรงกันข้ามที่ไหน” พัดตอบปฎิเเสธ “เนี่ยตั้งใจเรียนอยู่เนี่ย”กลับมานั่งตรงพร้อมกับทำท่ากำลังตั้งใจจดอยู่ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “อ้าว” พัดพูดขึ้น “แล้วอาจารย์ไปไหนอะ แล้วก็เพื่อนด้วยอ่ะ”
“อ้าว ไหนว่าตั้งใจรียนอยู่ไง”มนถาม “คนตั้งใจเรียนจะไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร ได้ยังไง”
“เออน่า เค้าก็แค่เผลอหลับไปนิดเดียวเอง แล้วสรุปคนหายไปไหนกันหมดอ่ะ”
“อ้าวพักเที่ยงเขาก็ไปทานข้าวเที่ยงกันสิจ๊ะ แล้วเขาจะรอให้แกมาตัดรีบบิ้นรึไง”มนตอบ
“เออ”หรั่งเริ่มจะขึ้นเสียง”ว่าแต่เธอไม่ไปทานข้าวข้าวเหรอ”
“ก็รอปลุกนางงามอยู่นี่ไง”มนแก้ข้อสงสัย “ไป่!...เก็บของจะได้ไปทานข้าวสักที ฉันหิวจนจะกินผู้ชายได้ทั่งคณะอยู่แล้ว”
“ร้ายกาจ!”
หลังจากนั้นผมกับมนก็พากันพาตัวเองออกจากห้องกันอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงโรงอาหารที่มีโต๊ะเรียงรายกันอยู่เต็มโรงอาหารและคนก็แน่นเหมือนอย่างที่เคยเพราะต้องรับนักศึกษาปีหนึ่งพร้อมกันถึงประมาณหนึ่งพันคน เนื่องจากว่าไม่ใช่แค่สาขาเราที่ต้องมาเรียนแต่มีสาขาอื่นอีกมากที่ต้องมาเรียนปรับพื้นฐานเหมือนกัน ผมเดินตามหลังมนไปสายตาก็สอดส่องหาผู้ชาย เย้ย! หาโต๊ะที่ว่าง สายตาก็ไปพบกับเพื่อนที่กำลังโบกมือเรียกผมก็เลยเดินไปหา มนถึงก่อนแล้วนั่งลงข้างจิวแล้ว ใจผมก็คิดว่านั่งฝั่งตรงข้ามกับมนน่าจะดีกว่าเพราะว่ามนเป็นผู้หญิงอวบที่ค่อนไปทางอ้วนมากกว่า แล้วจิวเป้นผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่ามนมากๆ มีผมสั้นประมาณบ่า ถ้าไปนั่งตรงนั่นอาจดี เมื่อถึงผมจึงนั่งลงข้างอายะ ซึ่งเป้นผู้หญิงที่เป็นลูกครึ่งจีน ไทย แล้วก็ญี่ปุ่น
    “แหม้ ลงมาก็ไม่ปลุกกันเลยน่ะ คิดจะทิ้งกันหรือไง”ผมเริ่มต้นประเด็น
    “ก็เราก็ว่าเธอหลับอยู่ไงเลยไม่อยากปลุก”อายะเล่า “อีกอย่างคือเราลงมาก่อนจะได้จองที่ไว้ ก่อนไง เธอขอบควรจะขอบคุณเรามากกว่าน่ะ”
“ใช่ๆ”จิวเสริม “เธฮรู้ไหมพอโต๊ะว่างปุบฉันก็ต้องรีบเดินไปตาแทบเลือก กลัวว่าจะไม่มีที่นั่งให้มึงเลยน่ะ”
“น่าสงสารจังเลย”มนพูดขึ้น
“เหรอจะ”ผมพูด “ขอบคุณมากเลยค่ะ”พร้อมทำหน้าบอกว่าสำนึกในบุญคุณมาก แล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราออกมา
“แล้วเธอสั่งข้าวกันยัง”ผมถามเพื่อเปลี่ยนประเด็น ทุกคนพยักหน้าแต่ไม่พูดก็เป็นอันว่าได้คำตอบ “งั้นมนเราไปสั่งข้าวดีกว่า”
แล้วผมกับมนก็เดินไปที่ร้านอาหารซึ่งเรียงรายกับอยู่ประมาณ 6 ร้าน ร้านที่ผมมุ่งไปเป็นร้านอาหารตามสั่งที่เป็นร้านประจำของผม ในร้านนั้นก็จะมีพนักงานซึ่งจะแบ่งหน้าที่กันเป็นสองส่วนคือทำก๋วยเตี๋ยว กับอาหารตามสั่ง ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานไม่ใช่คนไทย ตรงหน้าร้านก็มีคนที่ต่อแถวเพื่อสั่งก๋วยเตี๋ยว และอีกกลุ่มที่ไม่ต่อแถวคือคนที่รอรับอาหารที่สั่งไปแล้ว เมื่อร้านร้านการสั่งอาหารที่ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวจะต้องเขียนชื่ออาหารที่เราอยากกินลงบนกระดาษที่ทางร้านเตรียมไว้ให้
“มนกินไร”
“เค้าเอากระเพราะหมูกรอบ”มนตอบ แล้วผมก็จดลงไป
“แกกินโคกไหมเดี๋ยวเค้าจะไปซื่อ”มนถาม
“ได้ๆ” แล้วมนก็เดินไปที่ร้านน้ำ ส่วนผมนั้นก็เขียนอาหารที่ผมจะกินลงไป แล้วเอากระดาษไปเสียบไว้ที่เหล็กแหลมที่เขาวางไว้หลังจากนั้นก็ไปนั่งที่โต๊ะ
เมื่อพัดกลับมานั่งที่โต๊ะ เขากลับหันไปมองรอบๆ ด้วยความสนใจ บรรดานักศึกษามรายิ้มอย่างมีความสุขขณะที่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ เขาก็เช่นกัน เพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยก็รู้จักกันอาทิตย์หนึ่งแล้วช่วงที่พัดมาเรียนปรับพื้นฐานนั้นเป็นช่วงเดือนกรกฏาคม ก่อนเปิดเทอมจริงซึ่งจะเปิดในวันที่หนึ่ง เดือนสิงหาคม ก่อนหน้านี้เขาได้ทำงานพิเศษที่ร้านไอซ์กรีม ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าจากอเมริกา ตอนนี้เขาลาออกแล้ว
“อ่ะ”มนวางแก้วน้ำแข็งเปล่าไว้ตรงหน้าพัดหลังจากนั้นก็เทน้ำโคกลงไป
“thang you”   
“สำเนียงแปะค่ะ!--มีความ Inter ”มนพูด “เตรียม speak Eng. เพื่อหาผัวฝรั่งเหรอค่ะ”
“แน่นอนค่ะ”
พัดมองไปที่ร้านอาหารตามสั่งพบว่าอาหารที่สั่งได้แล้ว“อาหารได้แล้วอ่ะ”พัดบอก “ไปเอาอาหารกันเถอะ”
แล้วทุกคนในในโตะก็ลุกขึ้นมุ่งหน้าสู้เป้าหมาย ขณะที่พัดเดินไปสายตาก็มองไปรอบ ๆด้วยความที่เป็นคนชอบสังเกตุจึงมักเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ซึ่งก็ใช้ประโยชน์ในข้อนี้ในการสิ่งที่ตัวเองต้องการ
นั่นไงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงมุมฝังตะวันตกของโรงอาหาร ดูดีและน่ารัก ในความคิดของพัด
ถัดเข้ามาอีกนิดหนึ่งไปทางทิศเหนือ ก็มีชายหนุ่มที่ล้อมรอบไปด้วยกลุ่มเพื่อน หุ่นดีน่ากินจังเลย อันนี้ก็ในความคิดของพัด
   ความคิดททั้งหมดของพัดเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีที่ใช้เดินไปร้านอาหารตามสั่งเท่านั้น
“อะ”พัดอุทานออกมากเมื่อกำลังจะชนเข้ากับผู้ชานคนหนึ่ง
“ขอโทษครับ”/“ขอโทษครับ” ชายคนนั้นและพัดพูดพร้อมกันแล้วผู้ชายก็เดินผละออกไป
แต่พัดกลับชะงักอยู่ตรงนั้นอีกประมาณสามสิบวินาที ในความคิดของพัดตอนนี้ว่างเปล่า มีเพียงแค่ภาพในหน้านองผู้ชายคนที่คนเขาลอยอยู่ในหัวสมอง แม้จะเห็นหน้าแค่เพียงแวบเดียวเขาก็มั่นใจได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหา ตอบโจทย์ทุกอย่างที่เขาต้องการ คนนั้แหละพ่อของลูกในอนาคต (ว่าแต่มึงท้องได้ด้วยเหรอ? ตอบ!!)
“หรั่ง”มนสะกิด
“ห่ะ”พัดรู้สึกตัว “ว่าอะไรเหรอ”
“จะกินไหมข้าวอ่ะ”หร้อมกับชูจานข้าว
“กินๆ”
เมื่อไปรับอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พัดกับมนก็เดินไปที่โตะ จิวกับอายะมาแล้ว
“เมื่อกี้เห็นน่ะ”อายะพูดขึ้น
“เห็นอะไรเหรอ”พัดสงสัย “เมื่อก็เราทำอะไรแปลกๆ รึเปล่า”
“แหม่ ทำเป็นงง”จิวแทรก “ก็ที่เธอเดินไปชนใครก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าหล่อ แล้วเธอก็สตั้นไปน่ะสิ”
“เหรอ—ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”พัดปฏิเสธ
“อย่าทำไกด์ค่ะ”จิวบอก “ถ้ามนไม่ไปสะกิดก็คงยืนเอ่อ อยู่ตรงนั้นอีกนานเลยแหละ”
“เป็นเอามากน่ะพัด—เอาซีม่าไปใช้ก่อนไหมลูก”มนเสนอ
“เอาไว้ใช้เองเถอะค่ะ”หลังจากนั้นกหัวข้อของการสนทนาก็เปลี่ยนไปจนกระทั่งทั้งกลุ่มทานข้าวเสร็จ

เย็นวันนั้นจิตใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะว่าเอาแต่คิดถึงหนุ่มที่เดินชนเมื่อตอนเที่ยง ความจริงที่ว่าเขานั้นก็ชอบคนไปเรื่อย ให้พอมีความสุขเฉยๆ แต่คนนี้กลับแตกต่าง มันไม่ใช่แค่ชอบ แต่มันกลับรู้สึก....ใช่แล้ว! รู้สึกรัก เป็นครั้งแรกที่พัดรู้สึกว่าอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตน รู้สึกว่าคนนี้แหละที่อยากจะใช้ชีวิตไปอยู่ด้วยจนวันตาย
เวลาล่วงไปถึงกลางดึกแต่ในเมื่องกรุงแห่งนี้ก็ยังสว่างไสว ตอนนี้พัดยืนบนระเรียงห้อง จองมองออกไปบนท้องฟ้า บนฟ้านั้นไร้ดาวที่จะทอประกายประดับยามค่ำคืน ไม่เหมือนกับบ้านเกิดของพัด ที่ท้องฟ้ายามราตรีที่มีดวงดาว เมื่อนึกถึงดวงดาวแล้ว เขาก็นึกย้อนไปเมื่อธันวาคมปีที่ผ่านมา พัดกับเพื่อนๆ ที่บ้านเกิดชวนกันไปดูฝนดาวตก เขาจำได้ว่า เขาลากเสื้อไปปูไว้กลางทุ่ง มีผ่านห่มหนึ่งผืนและหมอนคนละไป มองดวงดาวที่พร่างพราย พลางชี้ไปดาวตกบนท้องฟ้า บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ ความเศร้า จากเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมา มันช่างเป็นคืนที่น่าจดจำที่สุด
เขาเดินเข้ามาในห้องเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ นั่งลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ หยิบสมุดปกสีน้ำตาลออกมาเปิดไปหน้าที่ว่าง หยิบปากกา แล้วเริ่มลงมือเขียน


“วันนี้เป็นวันที่โชดดี ได้เจอหนุ่มหล่อน่ารัก
อยากถามเธอจังว่าเธอเชื่อในรักแรกพบไหม ฉันอยากบอกน่ะว่าแต่ก่อนฉันก็ไม่เชื่อหรอก วันนี้ฉันเชื่อแล้ว
อยากรู้จังเนอะว่าเธอชื่ออะไร อยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ อยากจะให้เปิดเทอมแทบไม่ไหว
อยากรู้จังว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ เธอกำลังคิดถึงใครอยู่ไหม หรือ...เธอหลับแล้ว ถ้าเธอหลับแล้วก็ขอให้เธอฝันดีน่ะ แต่ถ้าเธอยังไม่หลับและกำลังคิดถึงใครอยู่ก็ขอให้ถึงถึงเราน่ะ

ปล.เราเคยทำบุญร่วมกันใช่ไหมเราถึงได้มาเจอกัน
ดูแลตัวเอง
นพดล
14/07/59 23.59 น.”
หลังจากเขียนบันทึกเสร็จพัดก็ขึ้นเตียงนอน และหลับไป สำหรับเขาแล้วคืนนี้คงเป็นคืนที่เขาคงจะฝันดีที่สุด
   
 




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2017 00:49:46 โดย Atosmether »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอาใจช่วยพัด..ว่าแต่ชื่อเรื่องส่อดราม่า รอลุ้น
รบกวนห้อยวันที่อัพให้ด้วยได้ไหมจ๊ะ ตามอ่านง่ายกว่า  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2017 19:34:34 โดย ืniyataan »

ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สำรับคำถามน่ะครับ
-นิยายจะพยามยามลงทุกอาทิตย์น่ะครับ(แต่เหลืออีกแค่ตอนเดียวเอง)
____________________________________________________________________________________________
รู้จัก
หลังจากเปิดเทอมมาได้สองเดือน ก็คือเวลาที่นักศึกษาปีหนึ่ง ต้องได้ทอสอบความรู้ที่ตัวเองได้เรียน ก็คือการสอบมิดเทอม โดยทางคณะมีจัดจัดติวสำหรับน้องใหม่เพื่อให้เด็ก ๆเพื่อเตรียมความพร้อมและผมก็เป็นหนึ่งในบรรดานักศึกษาที่มีไม่ถึงร้อยคน เนื่องจากเวลาทำที่จัดติวไม่เหมาะเอาเสียเลย แต่ผมกับเพื่อนก็ยังตรากตรำมาเรียนกัน และวันนี้หลังจากที่ติวแคลลูลัสเสร็จแล้วก็เป็นเวลาประมาณ ทุ่มกว่า และกำลังรอจิวที่ติวอีกวิชาหนึ่งอยู่ เนื่องจากว่าเรานัดกันว่าจะไปดูการประกวดดาว-เดือนที่ทางคณะจัดขึ้น แต่ตอนนี้เวลาก็ล่วงมาจะสองทุ่มแล้ว เสียงเปิดประตูทำให้ผมหันไปมอง เห็นคนในห้องที่ติวกำลังเดินออกมาแล้วผมเห็นเห็นจิวเดินมาด้วย
“ไงเธอ”ผมถาม “พี่สอนดีไหม”
“ไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ”จิวตอบ “เอาจริง ๆเลยน่ะกูแทบบแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนกูเคยเรียนอันไหนเป็นเรื่องใหม่สำหรับกู เพราะว่ามันก็เหมือนกูเรียนใหม่หมดเลย ”
“เอางอย่างนี้—ฉันว่าเธอไม่ต้องติวแล้ว—ชิวไปเลยจะโอเคกว่า”
“แหม่มึง—ปากไม่สร้างสรรค์แล้วยังไม่ช่วยเพื่อนอีกน่ะ”จิวตอบ “เพื่อนประเสริฐจริงเลยค่ะ”
“ขอบคุณสำหรับคำชม”
“ว่าแต่จะไปกันไดยังค่ะ”ผมถาม
“ไปไหน”
“อ้าวคุณเธอจำไม่ได้เหรอว่าเรานัดกันไปดูประกวดดาวเดือนอ่ะ หรือว่าเธอโดนพี่ที่ติวให้เป่ามนในจนจำไม่ได้สว่านัดอะไรกับเพื่อนไว้”
“ค่ะมึง”จิวขึ้นเสียง “งั้นก็เดินสิค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้จะรอให้ใครมาตัดรีบบิ้นหรือไง”
หลังจากนั้นผมกับจิวก็เดินอาคารซึ่งเรียกว่าหอประชุมใหญ่โดยที่อาหารหลังนี้ตั้งอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่จะมางานนี้ เพราะที่จริงแล้วอยากมาส่องผู้ชาย อันที่จริงแล้วผมว่าผมหมายถึงจิวน่ะที่จะมาส่อง(เหรอจะ!)  เมื่อถึงจุดหมายก็มีพี่คอยตอนรับและบอกให้เดินเข้าไปได้เลย และเมื่อเดินเข้าไปให้หอประชุม ซึ่งภายในจะมีที่นั่งเป็นขั้นบันได เป็นครึ่งวงกลมและตรงด้วนหน้าผู้ชมก็จะมีเวทีซึ่งตอนนี้ว่างเปล่า ตรงทางเข้ามีพี่บอกให้นั่งตามสาขาดังนั้นผมจึงเดินไปที่กลุ่มสาขาของผมนั่งอยู่ เห็นมนโบกมือให้แล้วข้างมนก็มีที่ว่าสองที่ ผมกกับจิวก็เข้าไปนั่ง
“ถึงไหนแล้วอ่ะ”ผมถาม
“ยังไม่เริ่มเลยค่ะ”มนตอบ
แล้วหลังจากนั้นไม่นานการประกวดก็เริ่ม ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนักในช่วงแรกแต่เมื่อบรรดาดาวเดือนโชว์ตัวมาถึงคนสุดท้าย หัวใจของผมก็เต้นไม่เป้นจังหวะเลยทีเดียวเมื่อเห็นหนุ่มเดือนคนนั้น ความรู้สึกของผมในตอนนี้คือความคิดถึงที่มีอยู่ทั้งหมดมันมะลายหมดสิ้นไป เหลือไว้เพียงแค่ความสุขและอิ่มเอิบใจ ที่ยังรากลงในความรู้สึกของผม ความรู้สึกดีที่โถมเข้ามามันเกินที่จะบรรยาย หรือเปรียบเทียบกับสิ่งใดในโลกได้ ผมไม่ทันได้ทันฟังว่าพิธีกรประกาศว่าเขาชื่ออะไรเพาะผมสนใจแค่เพียงเขา จนกระทั่งเขาเดินเข้าไปข้างหลังเวที
“จิว”ผมถามขึ้น“คนสุดท้ายที่เดินอะชื่อว่าอะไรน่ะไม่ทันได้ฟัง”
“จำไม่ได้อ่ะ”แล้วจิวก็หัดไปถามมนที่นั่งอยู่ข้างๆ “มนคนสุดท้านที่เดินบนเวทีน่ะชื่ออะไรน่ะ”
“ชื่อ นิค--ทำไมเหรอ”
“พัดมันสนใจ”จิวตอบ
มนหันมาทางผม “กินของสูงน่ะมึงอะ”มนพูด
“แล้วไงก็คนสวย—แล้วเขาเรียนสาขาไหนอะ”
“วิทคอม—สาขาเดียวกับสามีกูเองเละ”
“อ้าว!มนมีแฟนแล้วเรอ”จิวถาม
“ยังสิ—ที่บอกว่าสามีมันคือเพื่อนสนิทเค้าเอง”มนแก้ “เค้าชอบเรียกมันว่าสามี”
“อ้อ”แล้วหลังจากนั้นการประกวดก็ดำเนินไปเรื่อย ๆโดยความสนใจของผมก็โฟกัสไปที่นิคแค่คนเดียวเท่านั้นจนกระทั่งมาถึงรอบตอบคำถาม คนอื่นผมไม่ค่อยสนใจนัก แต่เมื่อถึงรอบของนิค ผมก็ขยับตัวนิดหนึ่งแล้วตั้งใจฟังมากขึ้น
เห็นนิดหยิบชองกระดาษจากหนึ่งในทั้งหมดที่มีอยู่ในมือของพิธีกร
“ถ้าหากว่าคุณมีแฟนเป็นผู้ชาย คุณจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไร”พิธีกรประกาศข้อความที่อยูในซอง เป็นคำถามที่น่าสนใจผมคิด
“สำหรับผมแล้วไม่ว่าผมจะมีแฟนเป็นเพศไหนก็ตาม ผมก็ปฏิบัติต่อคนรักของผมโดยการให้เกียรติเขาเสมอ เพราะ ถ้าหากว่าเราเลือกที่จะรับคน ๆนั้นเขามาในชีวิตแล้วมันก็คือการตัดสินใจที่เราเลือกเอง เราก็ย่อมมีอิสระในแสดงออกถึงความรักต่อแฟนของเราด้วย ไม่ว่าแฟนของผมจะเป็นผู้ชายก็ตาม…ขอบคุณครับ”
สำหรับผมแล้ว ผมว่าเขานั้นตอบคำถามได้อย่างดีเยี่ยม โดยที่ไม่สนใจเสียงของคนที่นั่งข้าง ๆว่าจะสบทคำหยาบออกมา แล้วบอกว่าเป็นคำตอบที่แย่แค่ไหน หลังจากทุกคนที่ประกวดตอบคำถามเสร็จก็มีการจับฉลากรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆจากการโหวตสำหรับผู้เข้าชมเพื่อรอผลคะแนนจากกรรมการ แล้วเมื่อผ่านไปไม่นานก็กลับเข้าสู่การประกวดอีกครั้ง โดยการประกาศผลผู้ชนะนั้นจะประกาศดาวก่อน ซึ่งผู้ชนะชื่อต้นไผ่ จากสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ และก็ประการเดือน โดยประกาศผู้เขารอบคนแรกก่อน ชื่ออะไรนั้นผมได้ยินไม่ชัด แต่รู้ว้าสาขาเดียวกับคนที่ได้ตำแหน่งดาวคณะไปครอง แล้วอีกคนหนึ่งที่เข้ารอบซึ่งผมลุ้นมากและในที่สุดพิธีกรก็บอกว่านิคเข้ารอบไปอีกคน และเมื่อจะประกาศผู้ชนะเสียงเชียร์ก็กระหึ่มไปทั้ง Hall ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นเสียงจากผมด้วยนั้น(โฮะ ๆ)
“แล้วผู้ชนะคือ”พิธีกรพูดขึ้น“น้องนิค! จากวิทยาการคอมพิวเตอร์ครับ!”แล้วเสียงเฮก็ยังขึ้นมากจากกลุ่มที่นั่งของสาขาที่ชนะ แล้วเสียงเฮจากผม ซึ่งทำเอาคนที่นั่งข้าง ๆผมสดุงทีเดียว(รู้สึกหัวเราะอยู่ในใจ)  แล้วหลังจากนั้นผม จิวและมน ก็เดินทางกลับทันทีโดยไม่รอให้การมอบรางวัลเสร็จเพราะความน่าสมใจหมดแล้ว
 ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เป็นช่วงที่เคร่งเครียดที่สุดสำหรับผม เพราะว่าวันจันทร์ก็จะเริ่มต้นสัปดาห์แห่งการสอบ ในวันอาทิตย์ผมนอนดึกมากเพราะต้องท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เป็นเหตุให้ผมตื่นสายในเช้าวัดถัดมา ในตอนที่ผมรู้สึกตัวก็เป็นเวลาประมาณแปดโมงแล้ว  ภารกิจประจำวันในตอนเช้าจึงเร่งรีบเป็นธรรมดา แล้วเมื่อมาถึงคณะ และเดินผ่านโรงอาหารมุ่งหน้าสู่สถานที่สอบสายตาก็หันไปเห็นนิค กำลังยืนคุณกับเพื่อนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เชื่อไหมครับว่าความง่วงความล้าในตอนเช้าหายไปหมดเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันทำให้ผมรู้สึกดีชะมัด 
   ช่วงเวลาแห่งการสอบผ่านไปอย่างทรหดทีเดียว เพราะหลังจากที่เราสอบเสร็จวิชาหนึ่งแล้ว ผมก็ต้องเริ่มอ่านวิชาต่อไปทันทีแต่ดีหน่อยที่ผมอ่านมาก่อนหน้า และเมื่อสัปดาห์แห่งการสอยผ่านพ้นไป ชีวิตก็กลับเข้าสู่โมดปกติทันที    


ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หายไปนานไม่ได้หายไปไหนรู้สึกขี้เกียจมากมายประกอบกับใกล้สอบแล้วจึต้องอ่านหนังสือ และทีแรกนึกว่าจะจบตอนนี้แต่ปรากฏไม่จบต้องมีต่ออีกหลายตอน

สุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านงานเขียนเรื่องแรกของผม ____________________________________________________________________________________________
ตอนที่สาม
“พัดเธอสนใจไปเป็นนักร้องไหมอ่ะ”มนถามขึ้นขณะที่เรากำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนเพื่อรอเรียนในช่วงบ่าย
“ทำไมเหรอ”
“ก็สามีฉันที่เรียนอยู่วิทคอมอ่ะ...”
“เดียวน่ะเธอ”ผมขัด “สามีคนไหนอ่ะ”
“ขี้ปากค่ะ”มนแขวะ “ก็มีอยู่คนเดียว เพื่อนสาวฉันนั่นแหละ---แล้วเธอจะฟังที่ฉันพูดต่อไหม!”
“โอเคเล่าต่อค่ะ”
“ก็ประมาว่าสามีฉันอ่ะ นางกำลังหานักร้องไปงานบายเนียร์ ทีนี้มันอยากประหยัดเงินนางเลยหาคนใกล้ตัวก่อน เพราะว่างานก็ไม่ใหญ่มาก เพลงก็ร้องไม่กี่เพลง แล้วนักร้องก็ร้องเพลงแบบเบาๆ ได้ ตอนที่นางบอกฉันก็เลยแนะนำเธอไป ”ที่มนพูดอย่างนี้ก็เพราะว่าผมชอบร้องเพลงแต่ใช่ว่าจะเพราะหรอกน่ะ แค่อย่างที่มนบอก ร้องได้แค่เพลงเบา ๆเท่านั้น
“ก็น่าสนใจอยู่น่ะ แต่ขอคิดก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้---ต้องตอบเดี๋ยวนี้”มนคาดคั้น “เพราะว่าถ้าเธอไม่ตกลงเขาจะได้มีเวลาหาคนใหม่---คิดดูสิเธอจะได้เจอนิคเลยน่ะ”
แล้วผมก็นิ่งไปสักพักโดยใช้ความคิดแน่นอนว่าถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้วต้องมีนิคเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่เมื่อชั่งใจกับความขี้เกียจของตัวเองแล้วเนี่ยก็คิดหนักอยู่พอสมควร แต่ได้เจอคนที่เราแอบชอบเลยน่ะ แบบใกล้ชิดด้วย
“ตกลง”ผมตอบ
“โอเคค่ะ---แล้วฉันจะได้บอกสามีฉันว่าเธอตกลงแล้ว”
งานนี้ถ้าไม่มีอกหักก็ต้องสมหวังแน่นอน ผมคิด
แล้ววันต่อมานมก็มาบอกผมว่าตอนเย็นจะมีการทดสอบว่าผมจะได้ไปร้องในงานจริงหรือเปล่า พอตอนเย็นผมก็ตามที่มนบอก โดยมีมนตามมาด้วยแล้วมนก็พาผมไปยังดึกในคณะดึกหนึ่งแล้ว มนพาผมไปเจอกับคนที่บอกว่าเป็นสามีของนางหรือตามจริงก็คือเพื่องของนาง แล้วเพื่อนของมนซึ่งชื่อว่าสิทก็พาเราเข้าไปยังห้องที่อยู่ชั้นสามห้องหนึ่งซึ่งงภายในมีนักศึกษาที่น่าจะเป็นคนที่จะมาแคสผมในวันนี้ด้วย ผมตื้นเต้นมากเพราะปกติก็ไม่เคยร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะ ๆแบบจริง ๆจัง ๆ ขนาดนี้ แล้วมนกับสิทก็ไปนั่งรวมกับคนที่มาอยู่ก่อนแล้วแต่ผมนั่นยืนอยู่หน้าห้องแล้วก็มีผู้หญิงยื่นไมค์มาให้แล้วบอกว่าเขานั้นซื่อกาลแล้วให้ผมแนะนำตัว
“สวัสดีน่ะ”ผมพูดแบบนี้เพราะคิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้คงจะอยู่ปีเดียวกับผมทั้งหมดแต่ที่สั่งเกตุไม่เห็นมีนิคเลย “เราชื่อพัดน่ะ---อยู่สาขาเคมี”
แล้วกาลก็ให้ผมร้องเพลงที่ชอบหนึ่งเพลง สำหรับเพลงที่ผมชอบนั้นมีอยู่หลายเพลงมาก สำหรับคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ผมคิดว่าเพลงนี้น่าจะเหมาะที่สุด ผมเลยหัดไปถามกาลว่าขอร้องแบบเป็นคาราโอแกะได้ไหมเขาก็ตกลง แล้วผมก็บอกชื่อเพลงไป “A Beautiful Mess ของ Jason Mraz” หลังจากนั้นเสียงดนตรีก็ดังขึ้นมาแล้วผมก็เริ่มร้อง
“You’ve got the best of both worlds
You’re the kind of girl who can take down a man
And lift him back up again…



Oh the wait was so worth it”
เมื่อผมร้องเพลงจบไปแล้วก็เงียบไปไปสองวินาทีแล้วค่อยมีเสียงปรบมือแบบเปาะ ๆ แปะ ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าผมจะร้องเพลงไม่ดีเท่าไหร่ หลังจากนั้นกาลก็ถามทุกคนว่าโอเคไหมที่จะเอาผมไปเป็นนักร้องในงานบายเนียร์ แล้วไม่น่าเชื่อว่าทุกคนโอเค ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ผมไม่น้อยเพราะมันช่างตรงกันข้ามกับเสียงปรบมือที่ได้รับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ให้ผมมานั่งแล้วก็เริ่มอธิสิ่งที่ผมต้องทำในงานบายเนียร์ ผมต้องร้องเพลงที่เขาบังคับคือเพลง Crazy In love version Miguel กับ  Earned It ของ The Weeknd ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Fifty Shades Of Grey ซึ่งทั้งสองเพลนี้ผมค่อนข้างกังวลมากเพราะน่าจะร้องยากมาก แล้วจะร้องเพลงนี้ประกอบกับเปียโนที่จะเล่นสด ทำให้ผมแปลกใจมากเพราะถ้าถึงขั้นมีเปียโนขนาดนี้แล้วก็จะต้องมีนักร้องเสียงดี ๆมาร้องสิถึงจะถูกแต่ผมก็ไม่ได้แย้งไป แล้วมีเพลงที่ผมร้องได้อีกสามเพลง ซึ่งผมสามารถเลือกได้ว่าจะร้องเพงอะไร แต่ต้องเข้ากับตีมงาน ซึ่งประหนึ่งเรากำลังไปงานราตรีสโมสรชั้นหรู และสุดท้ายคือผมจะต้องเริ่มซ้อมในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

    

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รอ..ออออ เมื่อไหร่จะรู้จักกัน  :hao5:

ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สำหรับผู้อ่าน
หายไปนานไม่ได้หายไปไหนแต่มันคือความขึ้เกียจล้วน ๆต้องขอกราบขออภัยมา ณ ที่นี้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เย็นวันนั้นผมก็หลับบ้านมองเช็คเพลง และก็ซ้อมร้องอย่างหนักมาก เพราะนี่คือการ
ร้องเพลงโชว์ครั้งแรกในชีวิต และใช่ว่าเสียงจะดีขนาดนั้น และผมก็ซ้อมไปเรื่อย ๆจน
ลืมคนข้างห้องมารู้ตัวอีกทีก็ดึกมากแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือลืมทำการบ้านที่ที่อาจารย์สั่งไว้
ผมก็เปิดไลน์เช็คว่าเพื่อนคนไหนในกลุ่มไลน์ส่งคำตอบมารึยัง ปลายกฎว่ามีผมก็เลยไปการลอก
อย่างไว้ ขณะที่ลอกใจก็นึกขอโทษอาจารย์ที่ไม่ได้ทำการบ้านด้วยตัวเอง เมื่อทำการบ้านเสร็จ
ผมก็ดูเวลาปรากฎว่าประมาณตีสอง ผมก็รีบขึ้นเตียงอย่างไว และหลับไป
   >ในความฝันของผมในคืนนั้น<                              
ผมกำลังเดินอยู่บนถนนเส้นหนึ่ง และกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนบ้านหลังหนึ่งแต่ผมไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนทำได้แค่เดินไปเรื่อย ๆ เดินไปสักพักก็เห็นบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่โดด ๆท่ามกลางพื้นที่ราบ ลักษณะเป็นบ้านปูนสองชั้น สีชมพูทั้งหลัง ผมก็เดินเข้าไปและมั่นใจว่าเป็นบ้านที่ผมกำลังเดินหาอยู่ ขณะที่เดินเข้าก็ผมก็รู้สึกว่าพื้นมันไม่ปกติ พื้นที่เคยมั่นคงแข็งแรงกลับเหมือนว่าผมกำลังยืนอยู่บนหญ้าที่ลอยอยู่บนน้ำ มันกำลังเคลื่อนตัวเหมือนมีอะไรอยู่ข้างล่าง ในความรู้สึกของผม ผมรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ข้างล่างนั้นคืองูและเป็นงูตัวใหญ่มาก อีกอย่างคือมีตั้งสองตัว ผมเริ่มรู้สึกกลัวแต่ก็อยากเดินไปบ้านที่อยู่ข้างหน้า แต่รอบนี้ที่ผมมองไปที่บ้านมีคนยืนอยู่และเมื่อเพ่งมองคน ๆนั้น ก็เป็นนิคนั่นเองกำลังยืนยิ้มโบกมือเรียกผมอยู่ และเมื่อผมพยายามเดินเข้าไป พื้นที่ผมยืนอยู่ก็เริ่มสั่นแรงมากขึ้นและเมื่อผมพยายามเดินเข้าไปมากขึ้นและใกล้ถึงหน้าบ้านที่นิดยืนอยู่พื้นก็สั่นแรง จนสุดท้ายผมล้มลงและ
สดุงตื่นขึ้นมา
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
ตอนนี้สว่างแล้ว ดูเวลาก็ประมาณแปดโมงเช้า ผมลุกไปทำธุระส่วนตัวจนประมาณแปดโมงครึ่งก็มาเตรียมของใส่กระเป๋าออกไปเรียน แต่เมื่อเปิดประตูห้องออกมากก็พบกับสภาพอาการที่ไม่น่าไว้ใจ จึงเดินกลับเข้าห้องไปเอาร่มสีชมพูบานชื่นสุดเด่นของผม เดินลงมาถึงชั้นหนึ่งก็เป็นไปตามคาดคือฝนกำลังเริ่มตกแต่ไม่ได้แรงมาก ผมเดินออกมาจากหอออกมาถึงปากซอยเดินไปถึงคณะซึ่งไม่ไกลมาก ตลอดทั้งวันชีวิตของผมก็กันไปเหมือนเดิมแล้วตอนเย็นช่วงมีสิท ซึ่งเป็นเพื่อนของมนมาหาแล้วก็พาเราไปซ้อมซึ่งเป็นห้อง ๆให้ตึกคณะ สิทพาผมไปหาคนที่เล่นเปียโน ซึ่งกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนที่หล่อทีเดียว ในห้องนี้นอกจากผมแล้วยังมีคนอื่นอีกที่กำลังซ้อมการแสดงหรือทำงานของตัวเองอยู่
“หวัดดี”หนุ่มนักเปียโนกล่าว “เราชื่อปันน่ะ”
สุภาพทีเดียวผมคิด เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยเจอผู้ชายวิทคอมแล้วการพูดคุยและทำความรู้จักค่อนข้างหยาบแล้วไม่โดนจริตผมอยู่พอสมควร
ผมยิ้มให้ปัน “เราชื่อพัดน่ะ”
“เรียนอยู่เคมีใช่ปะ”พัดถาม “เนี่ยแฟนเราก็เรียนเคมีเหมือนกัน” อ้าวมีแฟนแล้วเหรอ
“จริงเหรอ”ผมกล่าวด้วยความสงสัย “ใครอ่ะ บอกได้ไหม”
“เรามาเริ่มซ้อมกันดีหว่าไหม” สิทแทรกขึ้น ทำเอาผมกับปันมองหน้ากันเจือน ๆเลยทีเดียว “เออเนอะ”ปันพูด “แล้วพัดพร้อมไหมอ่ะ”
ผมไม่ตอบแค่พยักหน้า แล้วเสียงเปียโนจึงเริ่มดังขึ้น ปกติผมเป็นคนที่ขอบเสียงเปียโนมากเช่นเดียวกับเสียงขลุ่ยเพียงออ กับโหวต เพราะเครื่องดนตรีเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย เพลงแรกที่ปันเล่นคือ Crazy in love แล้วผมก็เริ่มร้อง
“I look and stare so deep in your eyes,
I touch on you more and more every time,
When you leave I'm begging you not to go,
Call your name two or three times in a row,

'Cuz’ I know I don't understand,
Just how your love can do what no one else can.
Got me looking so crazy right now, your love's
Got me looking so crazy right now
Got me looking so crazy right now, your touch
Got me looking so crazy right now
Got me hoping you'll page me right now, your kiss
Got me hoping you'll save me right now
Looking so crazy in love's,
Got me looking, got me looking so crazy in love.……”
เมื่อผมร้องมาถึงตรงนี้เริ่มมีคนหันมาสนใจผมมากขึ้น แล้วผมก็ไม่ยากเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น  ก็เลยหัดหน้าไปทางปันที่กำลังพลิ้วไปกับการเล่นเปียโนอยู่แต่ที่แปลกที่ยังไม่มีการทดสอบคีย์ที่ร้องเลยแต่เราก็สามารถไปด้วยกันได้และเมื่ออารมณ์เพลงที่เริ่มมีมากขึ้นผมจึงเริ่มหลับตาแล้วปล่อยให้หูสัมผัสกับเสียงเพลงแทน
“Uh oh, uh oh, uh oh, oh no no
Uh oh, uh oh, uh oh, oh no no
Uh oh, uh oh, uh oh, oh no no
Uh oh, uh oh, uh oh, oh no no
Got me looking so crazy right now, your love's
Got me looking so crazy right now
Got me looking so crazy right now, your love's
Got me looking so crazy right now
Looking so crazy in love's,
Got me looking, got me looking so crazy in love
Baby you got me…you got me…you got me… you got me… you got me… got me… got me
Uh oh, uh oh, uh oh, oh no no”
เมื่อผมร้องจบแล้วสิทก็บอกให้ผมแก้บางจุดที่มันยังดูไม่โอเค จนเวลาล่วงเลยไปประมาณหกโมงเย็นทุกงานก็หยุดลง และทุกคนเริ่มทยอยหลับบ้าน ผมกับปันก็หยุดแล้วเช่นกัน
“พัดอยู่หอหรืออยู่บ้าน”ปันถามขณะที่กำลังเก็บของ ๆเขาอยู่
“อยู่หออะ”ผมเก็บของเสร็จแล้วและรอจะออกไปพร้อมกัน
“เราก็อยู่หอเหมือนกัน---แล้วหออยู่แถวไหนเหรอ”ปันถามต่อ ตอนนี้เขาเก็บของเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะออกไปแล้ว ผมสังเกตว่าเหลือแต่ผมกับปันที่อยู่กันแค่สองคน
“ใกล้ๆ มหาลัย ไม่ต้องรู้หรอก”
ปันก็ยิ้มให้ผม “ไปกันเลยไหม”ปันพูด
ขณะที่เราทั้งสองกำลังเดินออกไปจากห้อง จู่ ๆไฟก็ดับลง แล้สเนื่องจากว่ามันเป็นเป็นช่วงมกราคมแล้วหกโมงข้างนอกก็มืดหมดแล้ว ดังนั้นเราจึงมองไม่เห็นอะไรในห้องสักพักรอจนกว่าตาจะปรับได้ แต่ไม่รู้ว่าด้วยความกลัวหรือว่าอะไร ทำให้ปันขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“เปิดไปหน่อยฉายสิ---โทรศัพท์เราแบตเตอรี่หมดอะ”ผมบอกปัน แล้วก็มีแสงไฟเกิดขึ้น เราทั้งคู่ก็เดินไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูออกไปทั้งอาคารก็มืดสนิทเหมือนกัน ตอนนี้เราก็เดินลงมากจากอาคารอย่างเงียบสงบ เมื่อพ้นตัวอาหคารออกไปแล้ว ก็มีแสงมาจากริมถนนที่อยู่ด้านหน้า ผมกับปันก็เดินออกมาด้วยกันจนออกมานอกคณะแล้วต่างคนต่างก็แยกจากกัน
ผมนั่งวินมอเตอร์ใซด์จากคณะไปที่หน้าปากซอยหอของผมก็เข้า 7-11 เมื่อออกมาก็เห็นปันกำลังเดินเขาซอยที่มีหอผมอยู่
“ปัน ๆ”ผมเรียก
“อ้าว”เสียงแปลกใจมาก “หออยู่นี่เหรอ”
“ใช่”เราก็กำลังเขาวอยไปด้วยกัน
“อยู่หอไหนอ่ะ”ปันถาม
“หอที่อยู่ข้าง ๆร้านอาหารตามสั่ง”
“อือ”แล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรจนถึงหอผม “ไปก่อนน่ะ”ผมพูด ปันก็พยักหน้า แล้วผมก็ไปที่ประตูกำลังจะเข้าหอ แต่ปันก็ยังเดินตามมาอยู่ “อ้าวไม่กลับเหรอ”ผมชักแปลกใจ “ไม่ต้องรอส่งเราหรอก”
“เปล่า”พร้อมกับรอยยิ้ม “เราอยู่หอนี้”แล้วก็เดินประตูชั้นที่หนึ่งแล้วกำลังไปอีกประตู
“Really!!---แล้วทำไมไม่บอก”ผมขึ้นเสียง
“ให้เป็นเรื่อง surprise ไง” เราเดินเข้าประตูอีกชั้นหนึ่งซึ่งต้องใช้ key card
“จะ! แปลกใจมากเลย” ผมเริ่มเผยนิสัยที่ไม่ดีละ “แล้วอยู่ชั้นไหน ห้องไหนอ่ะ ”ผมถามขณะเราเดินขึ้นบันได
“ชั้นห้า ห้อง 505 ”แล้วปันก็ยิ้มหนักไปอีก แล้วผมก็ไม่แปลกใจว่าทำไม่ปันถึงยิ้มซะนาดนั้น เพราะว่านั่นคือห้องข้าง ๆผมเอง ให้ตายเถอะแล้วผมก็ชอบร้องเพลงเสียงดังมาก ๆแบบไม่เกรงใจคนข้างห้อง แล้วแต่ผมแน่ใจว่าเขาต้องแอบยิ้มกับแนวเพลงของผมแน่ เพราะทุกครั้งที่ผมร้องเพลงมันจะสลับแนว ตั้งแต่ลูกทุ่งย้อนยุคยันเพลงสากลใหม่ลาสุด บอกตรง ๆเลยว่าผมก็เคยตลกตัวเองเหมือนไหน
“OMG!---เจอแล้วผู้ชายห้องข้าง ๆที่อยู่มาเกือบห้าเดือนไม่เคยเห็นหน้า แทบจะอยากเก็บไปลูปไปคลำที่ห้องให้เห็นทุกซอกทุกส่วน”ผมประชด
“อ่าน่ะ---นี่ไงมาให้เห็นตัวเป็น ๆให้โอกาสลูบคลำได้ตามสบาย”ยังมาทำหน้าตลกอีกผมว่าอีหมอนี้ก็คงเผยไต๋ออกมาแล้วเหมือนกัน “ไม่เป็นไรค่ะ---ขอบคุณ”
แล้วเราก็เดินมาถถึงชั้นห้าเรียบร้อยเดินไปที่ห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่ปันจะเดินเข้าห้องยังไม่วายยังถามย้ำอีกว่าจะไม่เอาไปลูบไปคลำจริงเหรอ แล้วก็ได้แต่ชักสีหน้าแล้วก็เข้าห้องมา สุดท้ายแล้วเด็กสาขานี้ก็มีนิสัยไม่ต่างกันในความคิดของผม

ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นาน ๆไปก็เริ่มขี้เกียจเขียนละ 555 แต่ก็เขียนต่อปายยย  :hao3:


ผ่านเลยไป ตอนที่ห้า
   

         หลังจากเข้าห้องมาแล้วเวลาผ่านไปสักสามทุ่มก็มีคนมาเคาะประตู ทีแรกผมนึกว่าเป็นป้าเจ้าของหอมีธุระอะไรกับผม แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นปัน ยืนยิ้มอยู่หน้าห้องพร้อมกับเพื่อนอีกคนที่ยืนหันลังให้ผม เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“มีอะไรอะ”ผมถาม
“จะลงไปทานข้าว---ไปด้วยกันเปล่า”
“ไม่อะ”ผมตอบ “เราทานมาแล้ว”
“โห...”อุทานแรงอะไรเบอร์นั้น “ทำเป็นห่วงเนื้อห่วงตัว---เพื่อนชวนไปทานข้าวก็ทำเป็นหยิ่ง”ตอนนี้เพื่อนปันหัดหน้ากลับมาทางผมแล้ว คุณพระ! ผู้ชายคนนั้นคือนิค ทำไมต้องมาเจอตอนนี้ ตอนที่เรายังไม่พร้อม ห้องเราก็รก หวังว่าคงไม่เห็นนะ ตอนนี้ผมเริ่มรวนละเริ่มจะพูดอะไรไม่ออก
“ปะ...ไปทานข้าวเหอะ”ผมพูดตะกุกตะกัก ใจก็คิดว่าไม่น่าตอบปฏิเสธเลย “เดี๋ยวเราจะนอนแล้ว”ไม่รู้อะไรให้ผมตอบไปอย่างนั้น เหมือนจะบอกกับอีกคนมากกว่าเนอะ
“โอเค---งั้นเจอกันพรุ่งนี้น่ะ Bye” แล้วปันกับนิคก็เดินไป
   หลังจากนั้นอีกนานกว่าผมจะเข้านอน เพราะใจมัวแต่นึกถึงแต่นิค คิดถึงทีไรใจมันไม่สงบก็เลยทำให้นอนไม่หลับ แต่สุดท้ายผมก็หลับไปอยู่ดี
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<ในความฝัน>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ผมกำลังหาบ้านหลังหนึ่งอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ไหน ได้แต่เดินไปเรื่อย ๆ ผมรู้สึกว่าผมเดินมานานมากแล้ว แต่ก็ยังเดินต่อไป ผมต้องหาบ้านหลังนั้นให้พบ ไม่เช่นนั้นผมอาจจะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป แต่ผมไม่รู้ว่าสิ่งสำคัญนั้นคืออะไร ผมเดินผ่านป่าที่ดูหนากลัวเหมือนจะมีสิ่งใดคอยรบกวนอยู่ตลอดเวลา มองดูท้องฟ้าถึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นยามค่ำ ผมมองลอดใบไม้ที่ปกคุมเหนือหัวผม ขณะที่ท้าวของผมก็ยังเดินต่อไป ผมเห็นดาวตกสองดวงพร้อมกันแต่ในความรู้สึกของผมกลับไม่ได้รู้สึกดีเลย เมื่อเดินผ่านป่าไป ผมก็พบทุ่งหญ้าโล่ง มันดูโดดเดี๋ยวและอ้างว้าง และเป็นตอนกลางวัน ขณะที่เดินผ่านทุ่งหญ้านี้ผมพบคน ๆ หนึ่งระหว่างทาง แต่บอกไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
“เจ้าคนนั้นหยุดก่อน”บุคลผู้นั้นพูด ผมก็หยุดแต่ไม่ได้พูดอะไร
“เจ้าไม่ถามข้าหรอก ว่าข้าเป็นไคร”บุคคลผู้นั้นพูดต่อว่า “เพราะข้าต้องการนั้นเป็นอย่างนั้น---เอาละมาเริ่มกันเลย”แล้วหลังจากนั้นเขาก็สอดมือเข้าไปในเสื้อคุมของเขาแล้วลวงเอาบางอย่างออกมา จู่ ๆมือข้างซ้ายของผมก็ลอยขึ้นมาอยู่ระดับเอวของผม เมื่อบุคคลผู้นั้นลวงเอาบางสิ่งออกมาสำเร็จ ผมก็เห็นว่ามันเป็นอะไรสักอย่างที่หอด้วยผ้ากำมะยีสีแดงสด ห่อผ้านั้นมีขนาดเล็ก บุคคลผู้นั้นเปิดหอผ้า ผมเห็นว่ามันเป็นแหวน มีอยู่สองวง วงหนึ่งเป็นแหวดทองคำประดับเพชรสวยมาก อีกวงเป็นแหวนทองคำธรรมดา บุคคลผู้นั้นหยิบแวดทองคำธรรมดาขึ้นก่อน แล้วสวมมันใส่มันลงบนนิ้วนางของมือข้างซ้ายของผมที่กำลังลอยอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็สวมแหวนอีกวงไปที่ตำแหน่งเดิม หลังจากนั้นมือผมก็ลดไปอยู่ในระดับปกติ
“เจ้าอยากรู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”บุคคลผู้นั้นถามอีกรอบ แต่ผมไม่ตอบ เขาก็ไม่พูดอะไรอีก กลับดึงผ้าคลุมที่กลุ่มไปหน้าของเขาออก ผมจึงได้รู้ว่าเขาคือ “ปัน” แล้วไม่รู้ว่ามีพายุมาจากไหนหอบตัวผมไป แล้วผมก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านที่เหมือนกับผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตั้งโดด ๆอยู่ในทุ่งหญ้ากว้าง และที่บ้านหลังนั้นผมเห็นนิค ยืนอยู่ที่หน้าบ้านราวกับรอผมอยู่ ผมกำลังจะเดินเขาไป แต่กลับมีแรงกระซากอย่างแรง
จนผมสดุงตื่นขึ้นมากลางดึก
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เช้าวันต่อมา ผมไปเรียนตามปกติ ด้วยความสงสัยความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตอนเที่ยงผมก็เลยตัดสินใจถามเพื่อนดีกว่า เผื่อมีใครจะแก้ขอสงสัยได้บาง ขณะที่ผมกำลังทานข้าวอยู่กับมน อายะ แล้วก็จิว
“ขอถามหน่อยสิ”ทุกคนเงยหน้าขึ้นมาหาผม “เคยมีใครฝันเรื่องคล้ายกันซ้ำไหม”
   “เรานะ”อายะตอบ “แล้ว---ทำไมเหรอ”
   “ก็เปล่าหรอก---คือเราก็แค่สงสัยอะ”ผมเริ่มประเด็น “เพราะเราฝันเรื่องคล้ายเดิมมาสองวันแล้ว”
   “เป็นยังไงเหรอ”มนถาม “เล่าหน่อยสิ” แล้วผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในความฝัน
   “เขาบอกว่าถ้าฝันเห็นงูใหญ่จะเจอเนื้อคู่” จิวเล่า “คือเราก็ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน---แต่นี้เธอไม่ได้ฝันเห็นงูใหญ่ แค่รู้สึกว่ามันมี เอออันนี้มันแปลกน่ะ”แล้วจิวก็ตักข้าวเข้าปาก ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย 
   “ดาวตกกับแหวนก็เหมือนกันน่ะ ”มนพูดขึ้นบาง “ถ้าฝันเห็นดาวก็จะเจอเนื้อคู่---ฝันว่าได้เครื่องประดับก็จะเจอเนื้อคู่ แต่ที่แปลกก็คือว่าตอนนี้ได้ตั้งสองวง มันหมายความว่าไง”
   “แล้วอายะคิดยังไงบ้างอะ”ผมถาม แต่ไม่ทันที่อายะจะตอบก็มือคนมากแทรกซ่ะก่อน
   “หรืออาจจะได้เนื้อคู่สองคนพร้อมกันก็ได้น่ะ”ผมหันไปหาต้น เป็นปันนั่นเอง ผมก็ตอบไปว่า “ยุ่ง” พร้อมสีหน้าทะเล้น “มีไรป่าว”ผมถามต่อ
   “เปล่าแค่นั่งโต๊ะข้าง ๆ แล้วได้ยิน...”
   “ก็เลยอยากสอใส่เกือก”ผมแทรก “ว่างั้น”ผมมองไปที่ต๊ะนางนางก็นั่งกลับกลุ่มเพื่อนที่บางคนผมก็เคยเห็นตอนไปซ้อมร้องเพลง บางคนก็เคยเห็นตอนออดิชั่นผมด้วยแต่เพื่อนนางก็ไม่ได้สนใจอะไรผมก็นั่งทานข้าวกันไป ในกลุ่มนี้มีนิคนั่งอยู่ด้วยมีนิค นั่งอยู่ด้วย ใจผมสั่นเลยทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว “ไปทานข้าวของตัวเองเลย”พร้อมกับมือของผมที่สะบัดไล่ ไม่รู้จะทำยังไงเลยพูดไปแบบนั้น
“เออออ”ปันตอบแต่ยังมีสิหน้ากวนเบื้องล่างอยู่ “ไปแ_กข้าวต่อก็ได้วะ” แล้วปันก็หันหน้ากลับไปโต๊ะตัวเอง เริ่มหยาบขึ้นทุกนาทีละปัน ผมคิด
ผมหลับมาทานข้าวของตัวเองต่อ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าถามคำถามอายะค้างอยู่
“อายะ”ผมเริ่มอีก “ที่ถามไปเมื่อกี้เรายังต้องการคำตอบอยู่น่ะ”พร้อมกับร้อยยิ้มของผม
“อ้าว---ก็คนเมื่อกี้พูดไปแล้ว ก็เลยไม่ตอบ แต่ก็นั่นแหละเราก็คิดเหมือนกันเลย”
“ไม่ใช่”ผมแย้ง “ที่มันเกี่ยวกับความฝันซ้ำอ่ะ อายะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือปล่าหรือเปล่า”
“เราก็ไม่รู้อ่ะ”อายะตอบ “เก็ไม่เคยถามใครเหมือนกัน แล้วทำไมไม่ถามจิวกับมนอะ”
แล้วผมก็หันหน้าไปที่มนกับจิวพยักหน้าเป็นเชิงให้ตอบว่ารู้หรือเปล่า ทั้งสองคนก็สายหน้า สุดท้ายแล้วเรื่องผมก็จบประเด็นไป
ตอนเย็นผมก็ซ้อมกับปันตามปกติ วันนี้จะร้องเพลง Earned It แต่เนื่องจากเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าร้องง่ายกว่าเพลงแรก การซ้อมจึงเร็วกว่าปกติ  กำลังจะกลับบ้านแต่ปันบอกให้รอเพื่อนก่อน  เพราะวันนี้เขาจะไปนอนค้างกับปันด้วย
รอไปสักพักปัดรู้สึกว่าปวดฉี่จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ปันไปเข้าห้องน้ำ นิคก็เดินเข้ามา เราก็มีอาการใจสั้นๆ นิคเดินไปหาสิท ได้ยินมิคคุยกับสิทแววๆ ปันไปไหน สิทก็ตอบว่าไม่ แล้วนิคก็เอาโทรศัพท์มาแล้วโทรไปหาใครสักคน ในความคิดผม ก็คงโทหาปัน  ผมรอปันนานอยู่พอสมควรจนกระทั้งเหลือแค่ผมกับนิคนั่งกันอยู่ในห้อง ใจผมเริ่มไม่ดีละ เพราะกลัวว่าตัวเองจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วเผลอไปฉุดนิคเข้า เรากับนิคนั่งหางกันพอสมควร แล้วสักพักก็มีคนโทรเข้ามาในโทรศัพท์ของนิค คุยอะไรผมไม่ทราบเพราะเขาพูดเบามาก สงสัยกลัวมผมได้ยินมั้ง พอคุยเสร็จเขาก็เดินมาหาผม โอ้ย คุณพระ! ใจลูกไปอยู่ตาตุ้มแล้วจร้า เขาเขาก็เดินมาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น แล้วยังส่งรอยยิ้มมาอีก พ่อคุณเอ้ย จะดีไปไหน นิคเดินเขาใกล้ผมพอควรแล้ว
“นายชื่อพัดใช่ปะ”นิคถาม
“อือ”คิดอะไรไม่ออก ขอให้อย่าเผลอพูดอะไรบ้า ๆออกมาแล้วกัน
“คือไอ้ปันฝากมาบอกว่าไม่ต้องรอแล้ว เพราะตอนนี้มันอยู่ที่โรงบาล...”
“ปันเป็นอะไรเหรอ”ผมรีบถามขึ้นด้วยคงามเป็นหวง
“ปันมันไม่ได้เป็นอะไรบอก แค่แม่มันป่วยต้องไปเฝ้าไข้แม่นะ”โอเคผมรับรู้ แล้วตอนนี้ผมจะทำยังไงต่อ มันเหมือนกับว่าเป็นเป็นโอกาสอันดีเลยที่ได้อยู่กับนิคสองต่อสอง แต่ผมก็ไม่สบายใจเหมือนกันที่จะอยู่ในสถานะกาณณ์แบบนี้ ตอนที่ตัวเองทำอะไรไม่ถูกเพราะมัวแต่เข็น
นิดเห็นผมนิ่งไปเลยถามขึ้น “กลับกันเลยไหม เพราะอยู่ตรงนี้ก็คงไม่ได้อะไรอยู่แล้ว” ผมก็พยักหน้า แล้วก็เดินตามนิดออกไป เหมือนหมาเลยผมตอนนี้อะ เขาพูดอะไรก็ฟังหมดแหละ ก็คนมันชอบ นิคเปิดประตู แต่ประตูมันเปิดไม่ได้ เขาก็ยังหันมายิ้มให้ผมสลายอีกละ แล้วก็เดินไปที่ประตูอีกบาน ปรากฏว่า เปิดไม่ออกเช่นกัน ตอนนั้นรู้สึกความซวยปนกับความโชคดี ใจผมนี้นึกถึงเพลง พรหมลิขิต ของวงสุนทราพร ขึ้นมาทันทีเลย ถึงราวที่เราต้องลงจากคานชะละมั้ง แล้วเหมือนพระพรหมท่านยังคงเห็นว่าสองคนนี้อาจจะผลาดกันได้ ก็เลยซ้ำเขาไปอีกด้วยการดับไปในห้องซะเลย
เขาตรงเลยนาะ ไม่ว่าพรหมลิขิตมาจากถิ่นใด ผมก้เริ่มสองสยองขึ้นมาแล้วน่ะ
“สงสัยหมอไประเบิดมั้ง”นิคพูดขึ้นให้เราสบายไป ในใจผมคิด ถ้าหม้อไฟระเบิดคงได้ยินเสียงไปแล้วพ่อคุณ
“พัดเป็นอะไรหรือเปล่า---ทำไมเงียบละ”
“เปล่า”ผมตอบ “แค่ไม่อยากพูดอะไรนะ”ตอนนี้มีไฟที่สว่างมาจากโทศัพท์ของนิค ไม่ทำให้ฉันหายกลัวเลยคะ “ลองโทรหาใครสักคนหน่อยสิเผื่อเขาจะช่วยได้”ผมพูดขึ้น
“กำลังโทรอยู่ครับ”  เดี๋ยวนะ เมื่อผมได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า เขาพูดสุภาพกับฉัน ให้ตายเถอะพ่อคุณ เอาใจฉันไปเลยค่ะ ตอนนี้ฉันให้เธอหมดแล้ว
พอนิคคุยโทรศัพท์เสร็จก็มาพูดกับผม
“ตอนนี้เพื่อนเรากำลังมา” ผมก็พยักหน้าแรงๆ ไปยกหนึ่ง
   โดยปกติแล้วผมเป็นคนที่พูดไม่เก่งเป็นบางเวลาและเก่งเป็นบางเวลา กับคนที่ไม่คุ้นเคย และกรณีผมก็เข้าสู่โมดพูดไม่เก่งก็เลยเงีบยปากตัวเองไว้ นิคก็เล่นโทรศัพท์ไปพลางระหว่างรอไม่ได้สนใจอะไร ผมก็แอบมองนิค อยู่เป็นระยะ ฟินที่สุด....
ความมืดและความเงียบเข้ามาปกคลุมเราสองคน ผมอยากเอยปากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่กล้า มันกลัวว่าพูดออกไปแล้วเขาจะไม่สนใจ ตอนนั้นเองที่เพื่อนของนิคมาถึงพอดี และเปิดประตูห้องให้ มียามอยู่หน้าห้องด้วย
“พี่ก็นึกว่าไม่มีใครอยู่เพราะห้องไม่ได้เปิดไฟไว้”พี่ยามพูด “พี่ก็เลยล็อกห้อง” ผมก็ได้แต่ยิ้มให้พี่ยาม เพราะรู้ดีกว่าตอนที่เราอยู่ในห้องไฟก็อยู่ตลอด จะมาดับก็ตอนที่รู้ว่าประตูถูกล็อกไปแล้ว เราก็เดินลงมาจากตัวอาคารพร้อมกัน และต่างแยกย้ายกันกลับ มันช่างเป็นวันที่แสนโชคดีจริง ๆเลย ผมคิดขณะเดินหลับหอ

 
   
   
 



 

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ใครคือเนื้อคู่ของพัด ..ลุ้นๆๆๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ Atosmether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หลังจากเรื่องที่ผมเข้าไปติดในห้องกับนิคแล้ว ความคิดของผมก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น ทุกครั้งที่เจอหน้าเขา ผมก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่แอบมองเขาอยู่อย่างนั้น จนวันเวลาการซ้อมผ่านไปล่วงไปสู่วันจริง วันที่ผมจะต้องแสดงความสามารถที่ผมได้ฝึกมา แม้จะไม่ใช่งานใหญ่โตอะไรแต่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมโชว์พลังเสียง ขณะเดียวกันก็มีคนแอบชอบอยู่ใกล้ ๆ มันคือที่สุดในความสุขของผมแล้ว    
 งานของผมเริ่มประมาณหกโมงเย็นที่ผมจะต้องมาเตรียมพร้อม และจะเริ่มร้องเพลงเพลงแรกในเวลาหกโมงครึ่ง และตลอดเวลาผมก็จะคุยกับปันตลอดเวลา เพื่อลดความประหม่าของผม    
“กูอ่ะ” ปันพูด “เคยทำงานแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แล้วกูก็จำครั้งแรกของกูได้ ก็เป็นเหมือนกับมึงแหละ แต่กูก็พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่กูจะทำได้ในตอนนั้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราจะเกิดหรือดับในสิ่งที่เรากำลังทำ  ”
“ก็จริงอย่างที่ปันพูดอะแหละ---แต่เราก็ยังคงประหม่าอยู่ดี มันติดจนเป็นนิสัย”
“เอาอย่างนี้ไหมละ เดียวกูจะให้ไอ้นิคมันมายืนเป็นนเพื่อนมึงจะได้ไม่ประหหม่า”
“เอาๆ” แม้ปากผมจะพูดไปว่าอยากเอา แต่ใจผมก็รู้ดีว่า ผมจะไม่ทางอยากจะให้เขามาจริง ๆ หรอก เพราะว่าผมไม่อยากรบกวน แล้วมันเหมือนกับการบังคับให้เขาเข้าสู่อะไรสักอย่างที่ผมต้องการ ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับความรู้สึก ผมไม่อยากจะทำให้นิครู้สึกไม่ดีกับผม และผมก็ไม่อยากให้ผมรู้สึกไม่ดีต่อการกระทำของตัวเอง
จนกระทั่งเวลาการทำงานของผมถึง นิคก็มายืนใกล้ ๆ ผมจริง ๆ ความประหม่าก็เข้ามาครอบคลุมตัวผม และเมื่อการแสดงเริ่มต้น ผมจึงหลับตาและคิดว่าไม่มีนิคอยู่ใกล้ ๆ แล้วอาการที่ประหม่าของผมก็ลดลง แล้วการร้องเพลงของผมผ่านไปด้วยดี จนมาถึงเพลงที่ผมสามารถร้องเพลงที่ผมร้องได้ตามใจ ผมก็ร้องเพลงที่ผมซ้อมกับปัน แต่เพิ่มอารมณ์จริง ๆ ที่ผมมี
“หากเธอลองมองไปยังฟ้าแสนไกล
และคิดถึงใครหนึ่งคนคุ้นเคย
กี่หมื่นพันคำที่ไม่ทันเอื้อนเอย
และเธอยังคงเก็บมันไว้ข้างในใจ...”
เมื่อเพลงแรกจบไปบทเพลงที่สองก็เริ่มทันที แต่ก่อนที่จะได้เริ่มผมก็กวาดสายตาเพื่อมองหานิคแล้วผมจะร้องเพลงนี้เพื่อแทนความรู่สึกที่ผมมีต่อเขา มันเป็นเพลงที่ผมชอบมากและผมหวังว่าเมื่อผมร้องเพลงนี้แล้วนิคจะรู้สึกชอบเพลงนี้มากเหมือนกัน
“เคย...แอบมอบอย่างนั้น
เคย...เก็บไปฝันเดียวดาย
เคย...โกรธดวงดาวแสนไกล
รู้...ว่าเป็นเพียงแค่ฝัน...”
และอีกหลายเพลงที่ผมร้องไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์และความรู้สึกของผม ปล่อยให้บทเพลงกล่าวถ้อยคำที่ผมรู้สึก จนล่วงเลยไปจนกระทั่งงานเลิก
“เสร็จงานแล้วจะไปไหนต่อเปล่า”ปันถามผม
   “ไม่มี---มีอะไรเหรอ”
   “ก็จะชวนไปแดกเหล้า ไปปะ”
   ผมเบ้หน้า “เป็นคนไม่กินเหล้าอะ”
“คนดีจังนะมึง---งั้นกลับบ้านดี ๆละ อย่าไปฉุดใครเขา ” ผมไม่ตอบแต่ทำสัญลักษณ์โอเค แล้วผมก็เดินออกมาจากสถานที่จัดงาน เนื่องจากว่ามันไม่ไกลจากที่ทำงานของผมมาก ผมก็เลยตัดสินใจเดินกลับ ผมชอบช่วงเวลาที่เดินเพราะจะได้ปล่อยสมองให้ล่องลอยไปกับความคิดตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองหยุดคิดถึงอะไรที่ทำให้ตัวเองมีความทุกข์ นึกถึงแต่ช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยมี การเดินจึงเป้นสิ่งที่ผมชอบ
หลังจากงานวันนั้นแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมาจนกระทั่งเลยการสอบกลางภาคเทอมที่สองไม่กี่วัน ขณะที่ผมกำลังนั่งทานข้าวกับมนอยู่ในโรงอาหาร
“มึงรู้มัยว่านิคมีแฟนแล้ว”อยู่มนก็พูดขึ้นมา
“จริงเหรอ...”ผมแทบจะกลืนข้าวไม่ลง
“ก้เมื่อวานกูไปกินข้าวกับเพื่อนผัวกู...แล้วกูก็เห็นมันเดินมากับผู้หญิง”มนหยุดเพื่อดื่มน้ำ “กูก้เลยถามไปว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นิคใคร สิทก็บอกว่าเป็นแฟนนิค”
“นิคมีแฟนก็ดีแล้ว”ผมพูด “เพราะกูจะได้เลิกคิดถึงเขา และหันกลับมาสนใจตัวเองสักที ” ถึงแม้ผมจะพูดไปอย่างนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าผมไม่มีทางเลิกคิดถึงไปได้หรอก เพราะทุกครั้งที่ผมเห็นหน้าผมก็จะยังรู้สึกเช่นเดิมและมีทางเปลี่ยนแปลงไป
   หลังจากผมรู้ว่านิคมีแฟนแล้วผมก็รู้สึกว่าผมเริ่มที่จะมีชีวิตกลับเข้ามาในรูปแบบเดิม ๆ และพยายามที่จะไม่คิดถึงเขาให้มาก และพยายามที่จะชอบคนอื่นบาง  แต่ทุดท้ายก็ทำไม่ได้... และชีวิตของผมหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรก็คงปล่อยให้เป็นเรื่องขงอนาคต...

จบ...
ปล. มีตอนพิเศษอีกหนึ่งตอน
ปล สอง. จบแบบงง ๆหน่อยขอโทษเน้อ..
.


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คนเขียนเราอยากให้ดูตรงคำว่า นะ กับ น่ะ บางทีเราอ่านแล้วแปลกๆอะจ้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด