[END]➤หาเมียไม่ได้ ก็เป็น"เมีย"ซะเองเลยสิ/Last Chapter แอบรักมาก่อน/30/7/17 P.6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]➤หาเมียไม่ได้ ก็เป็น"เมีย"ซะเองเลยสิ/Last Chapter แอบรักมาก่อน/30/7/17 P.6  (อ่าน 66281 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :m26: ข้ามขั้นไปหรือเปล่าจ๊ะพี่เปรม

ออฟไลน์ kstt56

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
 :n1:
มาถึงตอน 7 แล้วนะครับ

ตอนนี้ NC18+ นะคร้าบบบบบผม
ถ้าอายุไม่ถึงก็กดข้ามไปก็ได้ แต่ไม่รู้ว่ายิ่งห้ามจะเหมือนยิ่งยุรึป่าวนะ 55555
ติชมได้เสมอนะครับ กับทุกตอนที่ผมอัพ
ยังไงก็ขอให้เสพนิยายผมให้สนุกนะครับ

Chapter 7 เจ็ดยับ จับ... 

 “ ขอเอาหน่อยดิ “ พี่เปรมกระพริบตา จ้องมองผมประหนึ่งเหยื่ออันโอชะ สายตาถวิลหาของพี่เปรมรุกฆาตผมไม่ให้ปฏิเสธความต้องการของพี่เปรม ผมแน่นิ่งไปซักพักมองเข้าไปในตาของพี่เปรมว่า พี่พูดเล่น หรือ เอาจริง

“ เปรม “ นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมเรียก พี่เปรม โดยไม่มีคำว่า ‘ พี่ ‘ นำหน้า เหมือนในใจรู้อยู่เต็มอกว่า สถานภาพของพี่เปรมหลังจากนั้นจาก รุ่นพี่ที่เคารพ ได้กลายเป็น ผัวที่เค้ารัก

พี่เปรมพยักหน้าอย่างกับรู้คำถามที่ผมต้องการสื่อออกไป วันนี้พี่เปรมเอาจริง ไม่ได้หยอกล้อเหมือนที่เคยทำเป็นกิจวัตร

   พี่เปรมคว้าผมเข้าหาตัว ถาโถมจูบใส่อย่างรวดเร็ว ผมรับจูบอย่างเต็มใจ ลิ้นสอดใส่ตวัดพันกันจนยุ่งเหยิง ความกระหายของแต่ฝ่ายทำให้บทจูบเร่าร้อน จนเกือบลืมหายใจ

“ อ๊า...... “ ผมพักหายใจ พร้อมจ้องมองอีกฝ่ายที่ยังคงกระหายในตัวผม พี่เปรมเลื่อนปาก พรมจูบผมไปทั่วร่าง
แต่แล้วเมื่อไซร้ซอกคอผม ผมเริ่มครางไม่เป็นภาษา

“ อ....อ...อ.ออ...อ๊า.....”
ผมปล่อยให้พี่เปรมเชยชมกับเรือนร่างของผมอย่างเต็มที่

“ พ...พ...พี่เปรม “
พี่เปรมเงยหน้าสบตามองผม

“ ไปเบาะหลังดีกว่า “ =0= ใครจะไปเยกันตรงเบาะหน้าล่ะ เดี๋ยวพี่เปรมสับสน ว่าอันไหน เกียร์รถ อันไหน เกียร์เรา หุหุ

   พวกเราทั้งสองปีนป่ายไปเบาะหลัง พร้อมต่อยกสองกันอย่างสนุกสนาน เสื้อผ้าค่อยๆถูกปลดทีละชิ้นสองชิ้น สลับกับ จูบอย่างดูดดื่ม มือพี่เปรมลูบไล้ทั่วเรือนร่างผม โดนเฉพาะบริเวณหัวนมของผมที่พี่เปรมสนใจเป็นพิเศษ พี่เปรมดูดหัวผมทีละข้าง จนช้ำเป็นรอยแดง  ผมไม่อาจกล้ำกลืนความรู้สึกด้วยการร้องกระเซ่ายั่วให้อารมณ์พี่เปรมร้อนเป็นไฟ จนเมื่อปราการด่านสุดท้ายถูกถอดออกไป รู้เลยว่าทั้งผมและพี่เปรมต่างกระหายซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่

  K พี่เปรม ชี้โด่ออกมา เหมือนต้องการทักทายผมหลังจากที่หลับอยู่ในกางเกงในมานาน มันมีขนาดใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ผมโน้มตัวจับ K กระแทกปากหลายๆรอบ K พี่เปรมแข็งตัวเกร็งอย่างเต็มที่ ผมเริ่มใช้ลิ้นนุ่มๆ จี้ไปยังบริเวณส่วนหัวของพี่เปรม
พี่เปรมสะดุ้งโหยง เหมือนถูกจี้ด้วยของร้อน พี่เปรมเหมือนสติหลุดลอยไปซักพัก จังหวะนั้นเองผมใช้ปากให้เป็นประโยชน์อมของพี่เปรมอย่างเย้ายวน พี่เปรมเริ่มครางออกมาบ้างแล้ว

“ ส..สุดยอดเลย... สน “
“ ช้า...ช้า “

ของพี่เปรมใหญ่เกินกว่า ที่ผมจะอมไปได้มิดลำ แต่ด้วยสปิริตผมพยายามอย่างสุดความสามารถ
ท้ายที่สุดผมก็อมของพี่เปรมเข้าไปหมดจนได้ ลิ้นผมเลาะไต่ไปตามลำ K แม้ยังอยู่ในปากผมก็ตาม
พี่เปรมเห็นผมทำเพียงฝ่ายเดียว เพื่อไม่ให้เอาเปรียบ พี่เปรมทำแบบเดียวกับที่ผมทำ

“ อ๊าาา....... “ ผมร้องด้วยความเสียว แต่ก็ไม่อาจร้องดังมากได้ แม้ว่ารถที่เป็นพาหนะแห่งความสุขของเรา จอดแน่นิ่งกลางลานจอดรถคณะ แต่ถ้ามีใครผ่านมาแล้วสังเกตเห็นเงาตะคุ่มคงจะไม่ดีเป็นแน่ ผมหวังว่า คงจะไม่มีใครมาเห็น ไม่เช่นนั้นคงเป็นข่าวฉาวไปทั่วสถานศึกษา แต่วินาทีนั้นเราไม่ได้คิดถึงเรื่อง การสอบย่อยในคาบฟิสิกส์ หรือ การส่งผลแลปวิชางานช่าง เพราะเราทั้งสองกำลังสนใจกับกิจกรรมที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า

พี่เปรมกำลังเพลิดเพลินกับการลิ้มรส K ผม แม้จะใหญ่สู้พี่เปรมไม่ได้ แต่มันก็เพียงพอที่ทำให้พี่เปรมสำลักได้
“ อือออออ.อ....ออ..ออ.” ผมกดหัวพี่เปรมไม่ให้คลาย K ออกจากปาก

   พี่เปรมดิ้นพล่านซักพัก ในใจผมแอบสะใจเล็กน้อยกับโอกาสทองของผม ใครจะไปคิดว่า เดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ผู้ที่หล่อเหลา มาดแมน เก่งไปทุกอย่าง สำเร็จไปทุกด้าน ต้องมาสยบให้กับลำแท่งของผม แม้ผมจะเป็นฝ่ายรับ สัญชาตญาณผู้ชายที่เคยฟันผู้หญิงไม่เคยจางหายไปไหน ผมแค่นำมาปรับใช้กับเพศเดียวกัน  ในบางครั้งฝ่ายรับก็อยากคุมเกมส์บ้าง พี่เปรมเริ่มตีแขนผม บ่งบอกว่า หายใจไม่ออก ผมเริ่มใจอ่อนยอมให้พี่เปรมหลุดจากพันธนาการ

   ทันใดนั้นพี่เปรมคว้าขาผมทั้งสองข้าง แหกขาผมพร้อมจ้องมองอะไรซักอย่าง ใช่แล้ว ปากประตูของผม คือ จุดมุ่งหมายสุดท้ายที่พี่เปรมใฝ่ฝัน พี่เปรมเอาคืนผมอย่างสาสม พี่เปรมเลียปากทางของผมอย่างหิวโหย หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ
เมื่อรู้ว่าอีกไม่ช้า ปากทางของผมคงต้องมีอะไรผ่านเข้ามาเป็นแน่ ทันใดนั้น พี่เปรมใช้นิ้วกลาง เบิกทางปากประตูให้กว้างขึ้น ปากประตูของผมเริ่มเป็นมิตรกับพี่เปรม พี่เปรมจึงส่งเพื่อนที่มีชื่อว่า นิ้วนาง และ นิ้วชี้ เข้าไปในตัวผมอีกระรอก

   ผมเห็นสีหน้าของพี่เปรม พี่เปรมยิ้มอ่อนๆ รอยยิ้มเพียงแค่เล็กน้อย ก็สามารถกระชากหัวใจผม ให้ยอมทำทุกอย่างที่พี่เปรมต้องการ สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายถูกคุมเกมส์แล้วสินะ  พี่เปรมถอนนิ้วออกมา แล้วใช้ลำแท่งขนาดใหญ่คับถุงยาง ล่วงล้ำเข้ามาในร่างกาย ปากประตูผมปรับสภาพไม่ทัน เพราะขนาดของพี่เปรมใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดของนิ้วทั้งสาม

“ จะ.....เจ็บ “

ผมร้องออกมา มันแค่เป็นความเจ็บปวดทางกายภาพเท่านั้น เพราะในจิตใจลึกๆของผม กลับชอบความเจ็บแบบนี้แบบประหลาด

ทำไมนะ ทำไมผมเจ็บแล้วไม่รู้จักจำ ผมเคยถูกข่มขืนนะ ผมไม่ควรจะมีความสุขที่ถูกผู้ชายเอาหนิ

    ฝ่ายนึงนอนหงายรับการมาเยือนอย่างเจ็บๆฟินๆ อีกฝ่ายหนึ่งหยุดจังหวะกระแทกชั่วครู่  พี่เปรมโน้มตัวเข้ามาจูบผมเพื่อให้ความเจ็บปวดนั้นหายไป มันได้ผลความเจ็บถูกแทนที่ด้วยความเสียว เสียงหอบกระเซ่าของพี่เปรมดังออกมาแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมกำลังโดนเอา โดยรุ่นพี่ที่ทุกคนต่างหมายปอง สุดท้ายก็เป็นของผมแล้วสินะ

“ พี่ขออะไรหน่อยสิ “ พี่เปรมพูดพร้อมลูบหน้าคนที่อยู่เบื้องล่างอย่างอ่อนโยน ในขณะที่เอวกำลังโยกอย่างแข็งขัน

พี่เปรมก้มตัวพร้อมกระซิบหูผมอย่างแผ่วเบาว่า “ เป็นแฟนกับพี่นะ “

“ ค...คะ....ครับ “แรงกระแทกของพี่เปรม ทำให้คำพูดง่ายๆ ยังต้องเปล่งออกมาแบบไม่เป็นจังหวะ

“ ทำไม...ป้าบ....ถึง......ป้าบ.....น่า....ป้าบ......รัก.....ป้าบ.....แบบ.....ป้าบ.....นี้.....ป้าบ “
พี่เปรมเน้นคำพูด สลับกับการกระแทกที่เร่าร้อนแบบถึงพริกถึงขิง ถึงกระนั้นพี่เปรมก็ยังไม่ใส่จนสุดลำ เพราะกลัวผมเจ็บ

ผมนึกในใจว่ากระแทกแบบนี้ตูดกูพังพอดี ครับพี่เปรม

ก้นของผมเด้งสั่นทุกจังหวะที่ถูกกระแทก รวมไปถึง K ของผมด้วย มันเริ่มแข็งตัวและสั่นเทาหลังจากปรับสภาพกับความเจ็บได้

“ ลูกหมาให้พี่หน่อย “
อ่า พี่เปรมอยากเปลี่ยนอิริยาบถ เราค่อยๆเปลี่ยนท่ากันอย่างใจเย็น วันนี้ผมเป็นลูกหมาสี่ขาให้พี่เปรมวันนึงนะครับ
ผมแอ่นตัวให้ก้นผมงอนกับการสอดใส่ของพี่เปรม

“ ก้นงอนจัง “ พี่เปรมพูดอย่างชื่นชม พร้อมตีก้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
จากนั้นทุกอย่างก็เหมือนเดิม พี่เปรมสอดใส่เข้ามาในตัวผมอีกรอบ รูทวารของผมเปิดกว้าง ทำให้การสอดใส่ง่ายมากขึ้น

“ ฟิตนะเรา “ แม้จะโดนเอามาซักพัก แต่ยังคงความฟิตไว้ให้ผัวแฮปปี้ได้สม่ำเสมอ

พี่เปรมเปลี่ยนการวางมือจากก้นแน่นๆของผม เลื่อนไปเขี่ยหัวนมผมจนเป็นไตขึ้นมาอีกรอบ ผมครางออกมาทันที
เหมือนเสียงครางในขณะที่ยังเป็นลูกหมา ทำให้พี่เปรมเผลอกระแทกเต็มลำ

“ พี่ขอโทษ “ พี่เปรมพูดอย่างเป็นห่วง เป็นห่วงว่าผมจะเจ็บ เป็นห่วงว่าผมจะจุก พร้อมชะลอจังหวะกระแทกให้เบาลง

แต่วินาทีนั้น ผมแทบครองสติไม่ได้ บิดตัวโก่งงอ ร้องลั่นออกมาด้วยความเสียว แบบไม่รู้ตัว

“ อ๊ะ.....อ๊า.......อ๊ะ.... คะ.....คะ....เค้าเงี่ยนนนน......อ่า~~~~~ “

สายตาของผมหันหลังพูดไม่อาจคาดเดาสีหน้าพี่เปรมในเวลานั้นได้ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของพี่เปรมก็รู้ได้ในทันทีว่า
 พี่เปรมอยากกลืนกินผมไปทั้งตัว คำเอ่ยเปรียบเสมือนเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่พี่เปรมกระแทกเข้ามาเต็มลำอย่างไม่เกรงใจ

“ เมียเงี่ยนหรอครับ...... “ พี่เปรมขู่คำรามอย่างบ้าคลั่ง

“ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา ซี๊ดดดดดดดดดดด “ พี่เปรมร้องอย่างเปี่ยมอารมณ์

ผมเองก็เสียวซ่านไม่แพ้กัน

“ พ....พ.....พ....อ๊า......พี่เปรม~~~~~”

ผมเองก็เงี่ยนไม่น้อยหน้า ร้องเสียงหลง “ พี่ครับ ผมจะแตก.... แล้ว~~~~~“

เปรมโยกตัวเข้ามาไซร้ซอกคอ พร้อมพูดว่า “ ผัวครับไม่ใช่พี่ “ พี่เปรมพูดพร้อมหอมแก้มดังฟอดใหญ่

ผมกระตุกลำเรือ พ่นพิษน้อยของผม ผมเกร็งตัวทุกช่วงจังหวะที่กระตุกขับพิษออก พี่เปรมใจดีปาดพิษน้อยมาลองชิม
จะได้ไม่เสียของ จังหวะนี้ผมเห็นมัดกล้ามพี่เปรมอย่างชัดเจน เหงื่อของพี่เปรมไหลยาวเป็นทาง พี่เปรมถอนแท่งระเบิดออกจากตูดผม พร้อมกระตุกลำตัวเป็นจังหวะถี่ๆ พี่เปรมพ่นพิษรักตามผมมาติดๆ พี่เปรมถอดถุงยางพร้อมหยิบทิชชู่มาชำระร่างกายผมให้สะอาด หยดเหงื่อของพี่เปรมไหลท่วม ผมจึงเห็นอกเห็นใจในความพยายามของผัว

พี่เปรมดึงผมเข้ามากอดจากด้านหลัง แผ่นหลังของผมแนบติดกับซิคแพคของพี่เปรม เหงื่อพี่เปรมเปรอะเต็มหลังผมหมด แต่ผมไม่รู้สึกรังเกียจเลย กลิ่นเหงื่อของผู้ชาย เป็นกลิ่นที่เซ็กซี่ น่าดึงดูด ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงถึงไม่ค่อยชอบกัน

“ ผมรักพี่เปรมนะครับ “

“ เปรมก็รักสนนะ “ พี่เปรมจูบแผ่นหลังผมอย่างแผ่วเบา

พี่เปรมช้อนตัวผมพร้อมถามว่า “ อีกรอบมั๊ย “ พร่องมึงสิ ตูดกูพังหมดแล้วววววววววววว

“ พอก่อนๆ “ ผมห้ามปรามความหื่นของพี่เปรมที่ทะลุเกินลิมิต

พี่เปรมอมยิ้มคว้าตัวผมนอนกอดแนบแน่น สติของผมค่อยๆจางหายภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของพี่เปรม เหมือนตัวเองล่องลอยอยู่ในนภากาศ แหวกว่ายอยู่ในม่านหมอกแห่งความฝัน เหมือนผมกำลังฝันไปใช่มั๊ย มันเรื่องจริงหรือฝันกันนะ สติผมหายจมลึกดั่งเรือที่จมลงบนก้นมหาสมุทร วินาทีสุดท้ายที่จำได้ก่อนที่จะหลับ คือ สีหน้าของพี่เปรมที่เอ็นดูผม สายตาของพี่เปรมเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ถวิลหา
..
.
.
.
.

“ ตื่นแล้วหรอ “

ผมยังอยู่บนรถเหมือนเดิม แต่อยู่เบาะข้างคนขับ ตัวผมไม่ได้ถูกเปลือยเปล่า เสื้อนักศึกษาห่อหุ้มผมอย่างสมบูรณ์
พี่เปรมปรับเบาะให้ผมหลับได้อย่างสบาย มีผ้าห่มและหมอนไว้ให้ผมนอนแย่างพร้อมสรรพ

“ พี่เปรม กี่โมงแล้ว “

พี่เปรมยิ้มอย่างหื่นกาม “ บ่ายโมงแล้วครับ พี่ซื้อข้าวมาฝาก “

“ เอ้ยยยย ทำไมไม่ปลุกผมไปเรียนอ่ะ “

“ คาบฟิสิกส์ไม่เช็คชื่อ ซักหน่อย “ เป็นเดือนคณะแบบไหน สนับสนุนแฟนให้โดดเรียน

“ แต่ผมเรียนไม่รู้เรื่องนะ “

“ เดี๋ยวพี่สอนให้ ตัวต่อตัวเลย “ สายตาพี่เปรมยังคงหื่นกามกระหายเช่นเคย

“ แล้วทำไมผมนอนนานขนาดนี้อ่ะ “

“ หึ....หึ... “ พี่เปรมยังคงยิ้มแบบวายร้าย

ผมเลิกคิ้ว มองพี่เปรมด้วยความงุนงง

“ สน แตกไปสองรอบ ก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา “
อะไรกัน กูแตกไปรอบเดียวไม่ใช่หรอ อย่าบอกนะว่า........ พี่เปรม!!!!!

พี่เปรมพูดแบบแหยๆ “ แหม ก็สน ตอนหลับ น่ารักจะตาย พี่อดใจไม่ไหวหรอก “

อย่างที่คาด กูเสร็จมันไปอีกรอบเหรอเนี่ย คราวผมของขึ้นสวดพี่เปรมซะยับ

“ ทำไมไม่ปลุก ไม่ขอกันดีๆ รู้ป่ะว่าไม่ชอบ “
“ ทำอะไรไม่ดีตอนหลับ  แล้วแบบนี้ผมจะเชื่อใจพี่ได้ยังไง “

   ผมทิ้งข้าวของไว้เบาะหน้า สะพายเป้ เดินออกไปจากรถ ทิ้งพี่เปรมไว้ในรถตามลำพัง ผมได้ยินคำพูดลางๆว่า ‘ขอโทษ’
ไล่หลังมา ในเมื่อกูเป็นเมียอย่างเป็นทางการแล้ว และตอนเช้ากูง้อมึงจนหมดแรง ตอนนี้มึงต้องมาง้อกูบ้างแล้ว
พี่เปรมลงมาจากรถ ผมจึงรีบวิ่งหนีพี่เปรมไป แต่แล้วมีอะไรบางอย่างสะดุดผม

โอ๊ย................... ความเจ็บนี้ ช่ายแล้ว ตูดผมพังจริงๆด้วย ผมวิ่งไม่ได้อย่างที่ใจคิด เข่าผมอ่อนแรง
ร่างกายผมทรุดลงไปกับพื้น พี่เปรมเดินมาหาผม พร้อมยืนขำ ขำกับความเจ็บกูงั้นหรอ มึงจะไม่ง้อกูหรอ

“ เดินไม่ไหว ยังจะซ่าอีก “
ผมหน้าแดงไม่ใช่อาย แต่รู้สึกเสียหน้ามากกว่า ประโยคนี้ไอต้นชอบพูดกับผมบ่อยๆ แต่กับพี่เปรมไม่เคยนะ
ไม่คิดว่าจะได้เชื้อมาจากไอเชี่ยต้นด้วย

‘เออ ...... กูจะกลับบ้าน ….. เลิกยุ่งกับกูได้แระ’ วินาทีนั้นผมตอบตามสัญชาตญาณ เพราะถ้าเป็นไอต้นผมคงจะบอกไปแบบนี้
แต่พอผมชำเลืองตา เห็นสีหน้าของพี่เปรมยิ้มแบบอ่อนโยน เกลียดอ่ะ ใช้มุกนี้ตลอดเลยช่ายป่ะ มึงง้อแบบนี้ก็ได้หรอว่ะ ผมเคลิบเคลิ้มไปซักพัก ความโกรธของผมมลายหายสิ้น เหลือแต่รอยยิ้มบนมุมปากของผมเล็กๆ


“ เจ็บแบบนี้ ให้พี่ดูแลเถอะ “ พี่เปรมยื่นมือมาให้ผม

“ ผมดูแลตัวเองได้ “ เล่นตัวซักหน่อยล่ะกัน อิอิ

“ หมายถึง เจ็บทางใจ พี่จะดูแลเองกลับบ้านเรากันเถอะนะ “
พี่เปรมจับมือผม พร้อมประคองผมเดินเข้าไปในรถอีกครา คราวนี้ผมยอมเดินขึ้นรถโดยดี

“ ไปพักบ้านพี่นะ พี่ขาดคนอาบน้ำให้ “ ยังไม่สำนึก ไอคนบ้ากาม

“ ไม่ไว้ใจพี่อ่ะ “ ผมตอบไปตรงๆ อยากให้อีกฝ่ายจุก ทำกูจุกมาเยอะแล้ว

“ ไปหอก็ได้ แต่ว่าอย่าไล่พี่ออกไปเลยนะ ให้พี่ดูแลบ้างเถอะ “
พี่เปรมพูดด้วยเสียงเศร้าๆ รู้ทั้งรู้ว่าตอแหล แต่ผมก็ชอบได้ยินประโยคนี้จากปากของพี่เปรม

“ อืม.... ดูแลดีๆล่ะ “ ผมยิ้มตอบ พี่เปรมดูสีหน้าสดชื่นขึ้นทันตา

พี่เปรมขับรถไปซักพัก เหมือนมีคำถามผุดขึ้นมาในหัว จนโพล่งออกมา“ สน ครับ “

ผมหันหน้าควับ เลิกคิ้วสูง

“ เราไม่เปิดเผยเรื่องนี้ดีมั๊ย..... หมายถึง..... เราเปิดตัวเฉพาะกลุ่มได้ป่าว คือถ้าเด็กในมหาวิทยาลัยรู้เรื่องระหว่างเรา เราจะไม่มีชีวิตที่เป็นส่วนตัวเลยนะ พี่เองก็เจอมาเยอะ........ พี่อยากมีช่วงเวลาส่วนตัวบ้าง “

“ ผมก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน เปิดตัวเป็นแฟนกันเมื่อไหร่พี่อ่ะจะเดือดร้อน “

“ ทำไมล่ะ “ พี่เปรมถามอย่างสงสัย

“ พี่จะรับงานถ่ายแบบไม่ได้นะสิ งานถ่ายแบบเค้าต้องให้ผู้ชายถ่าย เพราะฐานแฟนคลับจะมีมากกว่า “

พี่เปรมพยักหน้าตอบรับ เหมือนเรื่องสำคัญแบบนี้ เราจะเข้าใจกันได้ง่ายกว่าที่คิด

“ โอเคงั้นพี่เปิดตัวกับคนเฉพาะกลุ่ม“

“เฉพาะกลุ่ม? “

“คนในชมรมไง”

“ ชมรมดนตรีหรอ “

“ ใช่แล้ว.......... พรุ่งนี้พี่ต้องไปซ้อมกีตาร์....... เสร็จแล้วไปเลี้ยงเหล้ากันต่อ…………… ไว้ไปเปิดตัวกัน “

ฟักยู!!!!!!!!!! แม่งคนในชมรม แม่งมีแต่ตัวพีคๆ เพราะชมรมดนตรีประจำมหาวิทยาลัย ขึ้นชื่อเรื่องความเสือกจนเป็นที่โจดจันกันไปทั่ว เรื่องดนตรีอ่ะพอได้ แต่เรื่องเสือกไม่แพ้ใคร ชมรมนี้มีได้สมญานามที่ได้รับการยอมรับว่า

สมาคมพ่อบ้านนักเสือกแห่งมหาวิทยาลัย

ซึ่งสมาชิกแต่ละคนก็คือคนรู้จักผมกับพี่เปรมทั้งนั้นแหละ
.
.
.
.
.
.
To Be Continue

ผมมาอัพเดทให้มนช่วงสงกรานต์ ใครจะเดินทางไปที่ไหน ก็ขอให้เดินทางดีๆ ปลอดภัยกันทุกคนนะครับ
ถึงเพื่อนๆชาว Thaiboyslove ครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับผม  :bye2: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2017 22:09:34 โดย kstt56 »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ท่าทางจะดัง  น้องสนแซ่บมากค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่เปรม สน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
แล้วสน ก็เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนเปรม  :ling1:
พี่เปรมจะเปิดเผยเฉพาะกลุ่มชมรมดนตรี
แน่ใจหรือว่า เรื่องคบกัน มันจะอยู่แค่ชมรมดนตรีเท่านั้น
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :laugh: น้องสนเตรียมตัวดังได้เลยคราวนี้อ่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kstt56

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
Chapter 8 มาแล้วนะครับ ขอให้สนุกกับช่วงวันสุดท้ายของวันสงกรานต์นะครับ
 :mc4: :mc4: :mc4:


Chapter 8 มอมเหล้า...

    ชมรมดนตรีประจำมหาวิทยาลัย ประกอบด้วยนักดนตรีเกือบร้อยชีวิต แต่ละชีวิตล้วนเป็นพวกชอบเสือก เผือกเรื่องชาวบ้านคืองานถนัดของเรา กลุ่มนักดนตรีจะมีกลุ่มเผือกย่อยๆหลายกลุ่ม กลุ่มย่อยที่ผมอยากแนะนำ คือ กลุ่มพ่อบ้านใจหมา (กูไม่รู้นะ ว่าใครคิดชื่อนี้) สมาชิกประกอบไปด้วย 5 คน ด้วยจุดประสงค์เพื่อฟอร์มทีมเป็นวงดนตรี ชื่อวง “ FULL MOON “ รับจ้างเล่นเพลงเป็นงานอดิเรก แต่เอาเข้าจริง พวกมึงก็แค่ตั้งวงหลอกๆ จุดหมายที่แท้จริง คือ การเผือกข่าวที่ปล่อยออกมาจากคนในชมรม

ผมขอแนะนำสมาชิกวง FULL MOON ให้ดีกว่า


นายณัฐกิตติ์ เปรมปรีชา (เปรม)
ตำแหน่ง: นักร้องนำ (หน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ คนอะไรเพอร์เฟคได้ถึงขนาดนี้)
ตำแหน่งสำหรับกู: ผัวกูเอง

นายรณวีร์ ปิติรังสี (ต้นข้าว) หรือ ไอเหี้ยต้น
ตำแหน่ง: มือเปียโน  (ถึงปากจะหมา แต่ลีลาบรรเลงเปียโน ฝีมือไม่เป็นรองใคร) 
ตำแหน่งสำหรับกู: ที่ปรึกษาจิตประสาทคนใหม่ =0= กูขอคนเก่าได้ป่าวว่ะ พี่ปลายข้าว คิดอะไรอยู่ถึงให้มันมาเป็นที่ปรึกษาผม

นายเจนภพ ตุงคโยดม (ยอด)
ตำแหน่ง: มือกีตาร์   
ตำแหน่งสำหรับกู: รูมเมทคนเก่าของผม ก่อนที่ผมจะย้ายหอไปอยู่กับ ต๋อง ผมชอบเรียกว่าพี่ยอด เพราะแกซิ่วมาหลายรอบแล้ว

นายรุ่งทรัพย์ ธนเกียรติ (ฮาร์ท)
ตำแหน่ง: มือเบส     
ตำแหน่งสำหรับกู: แฟนคนใหม่ของแฟนเก่าผม

นายเรวัติ เริงสุทธิยากร (โจ้)
ตำแหน่ง: มือกลอง 
ตำแหน่งสำหรับกู: พ่อสื่อ (กราบขอบพระคุณพี่โจ้มากที่สุด ที่ทำให้ผมกับพี่เปรมเป็นแฟนกัน)


สังเกตมั๊ยครับ สมาชิกในกลุ่มนี้ ผมรู้จักทุกคนเลย ก็เป็นอะไรที่น่าแปลกใจเหมือนกัน ที่สมาชิกล้วนเป็นคนใกล้ตัว
ผมเองเคยคิดที่จะไปสมัครชมรม แต่พอเห็นความเละเทะประกอบกับความไร้สาระ ผมคิดถูกแล้วแหละที่ไม่ไปอยู่ชมรมบ้าๆนั่น


   ณ ร้านนั่งชิวแห่งหนึ่ง พี่เปรมจูงมือผมเดินผ่านผู้คนมากมายไปยังโต๊ะข้างหน้าสุด โต๊ะของสมาชิกกลุ่มพ่อบ้านใจหมานั่นเอง เสียงเปียโนของไอต้นดังก้องกังวานอยู่กลางเวที มือของต้นแข็งเกร็ง ร่างพริ้วไหลไปตามบทเพลง บทเพลงอันไพเราะนุ่มนวล คละคลุ้งบรรยากาศอบอวล ทุกคนในร้านต่างเงี่ยหูฟังบทเพลงของไอต้นอย่างตั้งใจ ผมก้าวขาไปแค่ครึ่งร้าน ก็ต้องให้พี่เปรมประคองผม เพียงแค่ท่าเดินก็ดูออกแล้วว่าไปโดนอะไรมา แต่ผมไม่อายหรอก เพราะใครๆในร้านคงเข้าใจผิด คิดว่าผมเมาจนเดินไม่ไหวเลยต้องให้เพื่อนช่วยพยุง

“ เดินไม่ไหวละซิ “ เสียงไอโจ้ดังลั่นลอยมา กระแทกหูผมอย่างจัง ไอโจ้ส่ายหัวเบาๆ แซวพวกเราตั้งแต่ไกล
ผมทราบดีอยู่แล้วว่า เรื่องการคบกันระหว่างผมและพี่เปรมถูกแพร่กระจายไปในกลุ่มสมาคมพ่อบ้านนักเสือกอย่างรวดเร็ว   

พี่เปรมกับผม ทักทายเพื่อนทุกคนที่อยู่บนโต๊ะ รวมไปถึงไอต้นด้วย แต่ดูไอต้นจะสนใจในบทเพลงมากกว่า
“ น้องขาพลิกเว้ย “
พี่เปรมโกหกแก้เขิน ในขณะที่ ไอยอดกับไอฮาร์ท มองหน้าเชิงตำหนิ ด้วยเหตุมาสาย

พี่เปรมเดาสีหน้าออก “ กูสอนการบ้านให้น้อง เลยมาช้า “

“ กี่ยกล่ะ อุ๊ยไม่ใช่ กี่ข้อ “
พี่โจ้ยังคงรุกล้ำอย่างเต็มที่ สมเป็นพ่อสื่อซะเหลือเกิน

“ ผมให้พี่เปรมติววิชากลศาสตร์อ่าครับ “
ผมพูดอย่างสุภาพ ขัดกับบทสนทนาทั่วไปในวงเหล้า

“ กูสอนเรื่องแรงให้น้องอ่ะ “ 

“ อย่างมึงแรงอยู่แล้ว ดูสิ น้องเดินไม่ไหวนะมึง มึงอ่ะใช้ไม่ได้ “
พี่โจ้ยังคงต้อนพวกเราด้วยบทสนทนา 18+

พี่เปรมสบถใส่
“ กูหมายถึง แรงเสียดทาน ไอสัด “

“ เสียดสีอยู่แล้ว ถ้ามึงใส่ถุงอ่ะ “
พี่โจ้หยอดมุขทุกครั้งที่มีโอกาส

พี่เปรมสบตาพี่โจ้เขม็ง เอ่ยปากดุๆ  “ พอๆ เกรงใจรุ่นน้องกูด้วย “
พี่เปรมละสายตาอาฆาตจากพี่โจ้ หันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน รอยยิ้มอ่อนๆของพี่เปรมปรากฎอยู่เบื้องหน้า แสงไฟสีเหลืองนวลสาดส่อง ทำให้หน้าตาของพี่เปรมมีมูลค่ามากขึ้นหลายเท่าตัว

ร้อนจัง =///=

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ร้อนจัง =///=

 แก้มขาวนวลบริสุทธิ์ของผม เต็มไปด้วยสีแดงฉานทั่วบริเวณ เลือดในร่างกายสูบฉีดเร็วผิดปกติ พี่เปรมลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ผมหลบสายตาพี่เปรมด้วยความเขินอาย แต่ยังทันเห็นจังหวะหัวเราะสุดแสนจะเอ็นดู น่ารักของพี่เปรม สายตาพี่เปรมแบบนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก พี่โจ้หันมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เหมือนในใจคิดว่า พี่เปรมมีมุมอ่อนโยนได้ด้วยเหรอ
พี่เปรมจับคางผม ทันทีที่ผมสบตาพี่เปรม พี่เปรมก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ ฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แก้มแดงหมดแล้ว “

ทุกคนในวงต่างส่งเสียงหวีดร้อง ผิวปาก ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าอมยิ้มเหมือนเป็นบ้า
“ พอๆๆ กูไม่อยากดังนะมึง “

" จะทำกันตรงนี้มั๊ยครับ คุณเปรม "
พี่ฮาร์ทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เห็นความหวานเลี่ยนของเราเป็นเรื่องน่าสนุก

" กูมานี่ก็เพื่อเปิดตัวกับพวกมึงเท่านั้น แค่พวกมึงนะ เข้าใจที่กูพูดป่ะ "

“ เออ เชื่อพวกกูได้เลย พวกกูเก็บความลับเก่งมาก “
พี่โจ้พูดอย่างเริงร่า พร้อมกระซิกให้พี่ฮาร์ทและพี่ยอดรู้งาน พี่ฮาร์ทและพี่ยอดพยักหน้ายิ้มเปี่ยมไปด้วยเล่ห์กลเหลือร้าย

“ เก่งพ่องมึงดิ “  พี่เปรมสบถด่าเพื่อนรักทั้งสามตัว

“ มึงสัญญากับกูไว้แล้ว ถ้ามึงกับสนได้คบกันเมื่อไหร่ มึงจะเลี้ยงเหล้ากู “
ได้ที พี่โจ้เอ่ยสัญญาที่พี่เปรมติดค้างไว้

“กูด้วยๆ กูด้วยๆๆๆๆ”
พี่ยอดกับพี่ฮาร์ท ร่วมกันโอดครวญเหมือนสังภเวสีขอส่วนบุญ เรื่องกินฟรีเป็นเรื่องใหญ่สำหรับกลุ่มนี้

   พี่เปรมส่ายหน้าเหมือนจะปฏิเสธ แต่ก็สั่งเหล้ามาตามคำขอของเพื่อนๆ บทสนทนาขาดหายไปซักพัก เมื่อมีเหล้าชั้นดีวางอยู่ตรงหน้า ทุกคนค่อยๆดื่มเหล้าไปทีละแก้วสองแก้ว เสียงชนแก้ว เคร้ง เคร้ง ดังอย่างไม่ขาดสาย

“ สน กินเยอะๆนะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง “ พี่เปรมยื่นแก้วเหล้าให้ผม

“ ชน!!!!!!!! “ เสียงพี่โจ้ดังลั่นแข่งกับเสียงขอบแก้วที่กระทบกันดัง เคร้ง เคร้ง

" รู้ป่ะตอนแรกพี่เปรมแอบมาบ่นพี่ ว่าน้องสนเป็นผู้ชายแท้ แค่หน้าตาน่ารักเหมือนผู้หญิง"
" เอาจริง พี่เองก็ลังเล น้องสนดูไม่สาวอ่ะ พี่คิดอยู่นานเลยนะ กว่าจะคอนเฟิร์มให้พี่เปรมไปจีบ "
พี่โจ้พูดออกอรรถรส

" แบบนี้แหละกำลังดี " พี่เปรมเกาหัวแบบเขินๆ

   คุยกันไปได้ซักพัก สายตาของพี่เปรมชำเลือง พี่ฮาร์ทซึ่งนั่งคอพับคลับคล้ายคนเมา สายตาทุกคนที่เหลือต่างประสานกัน ทุกคนพยักหน้าเบาๆ บอกกันและกันว่า ยังมีสติดีครบถ้วน ตอนนี้ฮาร์ทถูกมอมเหล้าเรียบร้อยไปแล้ว การเปิดตัวระหว่างคู่ผมกับพี่เปรมให้สาธารณะทราบเป็นการอำพรางจุดประสงค์ที่แท้จริงในวันนี้

   วันนี้พวกผมมามอมเหล้าพี่ฮาร์ทเพื่อหยั่งรู้ ความสัมพันธ์เบื้องลึกระหว่างพี่ฮาร์ทกับขวัญ
แม้แต่ไอต้นที่เล่นเปียโนอยู่ก็ทราบแผนการนี้ ไอต้นส่งสัญญาณให้ทางร้านเปิดเพลงจากแผ่นซีดี พร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้
เดินเข้ามาในวงเหล้า พี่เปรมยื่นแก้วเล็กๆที่บรรจุไปด้วยเหล้าบริสุทธิ์ส่งให้ พี่โจ้กรอกเหล้าใส่ปากพี่ฮาร์ท
พี่ฮาร์ทอ้าปากรับของเหลวใสๆเข้าไปในร่างกาย สติของพี่ฮาร์ทหลุดลอยอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
เป็นสภาพที่ดีอย่างยิ่งในการซักถามเรื่องราวส่วนตัวแบบหมดเปลือก

ต้นเริ่มยิงคำถาม “ มึงไปคบกับขวัญตั้งแต่เมื่อไหร่ “

“ เดือนนึงแล้ววววว ไอต้นนนนน มึงโอเคป่าวววววววว “
พี่ฮาร์ทแทบจะหมดแรงพูด ตอบคำถามด้วยความยากลำบาก พร้อมปล่อยลมหายใจแรงๆ เหมือนคนขาดอากาศหายใจ

“ โอเคเว้ย มึงอย่าคิดมาก “ ต้นตบไหล่พี่ฮาร์ทเบาๆ

ต้นส่งสายตาให้ผมถามพี่ฮาร์ทบ้าง
 “ มึงจะไม่ถามอะไรเลยหรอ “
ผมคิดในใจว่า ไอเชี่ยต้นกระแนะกระแหนผมอยู่ไม่น้อย ทำไมคนเจ้าชู้แบบผมสามารถหาคนรักได้ง่ายดายขนาดนั้น

“ ส่วนน้องสน คงไม่มีปัญหามั้ง “ พี่ยอดตอบคำถามแทนผม เพื่อไม่ให้ผมกับต้นทะเลาะกัน

“ กูขอโทษเว้ย .....ฮือ....ออ.ออออออ “ พี่ฮาร์ทพร่ำเพ้ออย่างขาดสติ

“ ใจเย็นมึง กูไม่สนใจเรื่องขวัญแล้ว “
  ต้นโอบไหล่พี่ฮาร์ทที่กำลังนอนเลื้อยอยู่บนโต๊ะ เม็ดเหงื่อของพี่ฮาร์ทแตกเป็นเม็ดๆ ร่างกายพี่ฮาร์ทสั่นเทาคล้ายคนป่วย
พี่ฮาร์ทเอนตัวบนเก้าอี้ทรงสูง จู่ร่างกายพี่ฮาร์ทเสียหลัก ไร้จุดค้ำยืน เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น พี่ฮาร์ทก็ถูกแรงโน้มถ่วงดูด
ร่างกายกำยำนอนกองลงบนพื้น แน่นิ่งหมดสติ

“ เชี่ย!!!!!! “ ทุกคนต่างพากันตกใจ

ไอต้นซึ่งอยู่ตำแหน่งใกล้ที่สุด ประคองร่างของพี่ฮาร์ท บรรยากาศบนโต๊ะเปลี่ยนไปเป็นโหมดเครียด
ทุกคนให้ความสนใจอาการของพี่ฮาร์ท เสียงต่างๆดังขึ้นโดยไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใครบ้าง
“ พาไปโรงพยาบาลดีกว่า กูว่าเป็นลมชัก “
“ ลมชักเหี้ยอะไรหมดสติขนาดนั้น “
 “ เป็นไรว่ะ ทำใจดีๆ ไว้ก่อน “
“ มันหายใจอยู่เว้ย อย่าตื่นเต้นดิ “
“ ตื่นเต้นที่ไหน กูตกใจ “
“ ยังไงพาไปโรงพยาบาลดีกว่า “
“ มันคงไม่เป็นอะไรมากหรอก พามันไปพักผ่อนก็พอมั้ง “
“ กูว่าไปโรงพยาบาลดีกว่าว่ะ กูเห็นมันสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยว่ะ “

พี่โจ้รีบวิ่งมา เอามือเนียนนุ่มจับหน้าที่ไร้สติของพี่ฮาร์ท
“ เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง “
พี่โจ้ประคองร่างกำยำของพี่ฮาร์ท พาเดินออกจากร้าน

พี่เปรมดึงมือพี่โจ้ “ มึงขับเองไม่ได้ มึงแดกเยอะแล้ว “

พี่ยอดอยากพูดเสริม แต่โดนไอต้นพูดแทรก
“ พวกมึงก็แดกเยอะเหมือนกันหมดแหละ เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง “

“ โอเค ฝากหน่อยนะมึง เดี๋ยวกูเคลียร์ค่าเหล้า ออกตังค์ไปเท่าไหร่ อย่าลืมมาคิดกับพวกกูด้วยนะ “

ไอต้นแบกร่างหนุ่มไซส์หนา เดินย่องๆออกจากร้าน ละสายตาที่เห็น ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มเฉกเช่นเดียวกันตอนที่กลั้นหัวเราะ รอยยิ้มจางๆของพี่ฮาร์ท ปรากฏให้เห็นจากระยะไกล มีเพียงแค่ผมที่สังเกตเห็นรอยยิ้มแบบนั้น

เสียงพี่ยอดดังขึ้นคั่นจังหวะเคลือบแคลงของผม
“ เหลือเยอะเลยว่ะ “
พี่ยอดมองขวดเหล้าทรงสูง แอบบ่นเสียดายไม่ได้  ขวดเหล้าเจ้ากรรมกระแทกลงสู่พื้นดิน ในจังหวะเดียวกับที่พี่ฮาร์ทล้มลงไป

พี่โจ้ตวาดกลับ “ จะมาเสียดายอะไรกับเหล้า ที่เหลืออยู่ก็แทบจะแดกไม่หมดแระ “

พี่ยอดเหมือนยังคงห่วงเหล้าอยู่อีก “ งั้นแดกที่อยู่บนโต๊ะให้หมดก่อน คนละแก้วก็หมดแระ “

“ กูเสียดายเหมือนกัน งานนี้จ่ายบานเลยว่ะ “
พี่เปรมอดบ่นแบบเสียดายไม่ได้

พี่โจ้ชงเหล้าสี่แก้ว ให้ผม พี่เปรม พี่ยอด และ ตัวมันเอง ดื่มอีกซะแก้วก่อนกลับ ทันทีที่ผมได้กระดกแค่อึกเดียว
ชั่วอึดใจเดียวสติผมก็วูบหายไปชั่วขณะ ทักษะการปฏิเสธและการยับยั้งชั่งใจ ถูกกลบไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ผมรู้สึกเหมือนหุ่นเชิดที่ใครก็สามารถชักใยผม ให้ผมทำอะไรก็ได้ตามปรารถนา

“ รีบถาม ก่อนที่ไอต้นจะมา “

 “ ถามเลยสิ ไอเปรม “

เสียงพูดในระยะเผาขน กลับรู้สึกว่าแผ่วเบาเหลือเกิน เมื่อผมอยู่ในสภาพแบบนี้
ภาพสุดท้ายที่จำได้ คือ ภาพของพี่เปรมจ้องมองผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง พร้อมถามคำถามมากมายต่างๆนานา

“ ถูกข่มขืนได้ยังไง “   
“ เคยโดนต้นทำร้ายร่างกายหรอ “
“ ตัดขาดจากต้นไปแล้วหรอ “

กล้ามเนื้อปากของผมขยับรับคำกับทุกคำถามที่ถาโถมใส่ ผมไม่รู้ตัวว่าตอบอะไรไปบ้าง
 
รู้แค่ว่า

รู้แค่ว่า

คำถามเหล่านั้น
ถ้าผมยังมีสติดีอยู่ ผมจะไม่มีทางตอบออกมาอย่างแน่นอน

.
.
.
.

To Be Continue...........................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2017 18:44:57 โดย kstt56 »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอาล่ะสิ เรื่องนี้มีปม

ปมใหญ่ซะด้วย. น่าติดตามครับ,,,

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
สรุปว่ารักกันรึเปล่านี่ หรือแค่ความอยากรู้

ออฟไลน์ LiPzTicK*

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ค้างงงงง
สรุปแปนมอมสนเหรอ

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :z13:มาต่อด่วนๆน่ะคะ

ออฟไลน์ kstt56

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
 :pig2: สวัสดีครับผม  :pig2:
มาอัพอีกตอนตามคำเรียกร้อง สดๆร้อนๆ เลยครับผม

ยังไงฝากติดตามเรื่องราว ของ นุ้งสน ด้วยเน้อ

Chapter 9 ตัดขาด

 ภาพสุดท้ายที่จำได้ คือ ภาพของพี่เปรมจ้องมองผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง มองหน้าสบตา เมื่อเห็นผมยังพอมีสติอยู่บ้าง
พี่เปรมเริ่ม ถามคำถามมากมายต่างๆนานา ผมเองจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตอบอะไรไปบ้าง

“ ถูกข่มขืนได้ยังไง “
“ เคยโดนต้นทำร้ายร่างกายหรอ “
“ ตัดขาดจากต้นไปแล้วหรอ “
“ ตอนนี้ยังเกลียดไอต้นอยู่ใช่ป่าว “
“ สน ได้ยินพี่พูดรึป่าว “

    สติลางเลือนใกล้จะหมดลมของผม วินาทีนั้น ผมใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการตอบ ก่อนที่จะเข้าสู่นิทรา ความฝันในวัยเรียนย้อนกลับมาหาผมเร็วกว่าที่คาด ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี ความรู้สึกและความทรงจำในช่วงชีวิตที่ผมยังเป็นนักเรียนยังฝังลึกในใจอย่างแม่นยำ ผมจำได้ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่ในโรงเรียน แม้ว่าความทรงจำบางอย่างจะไม่ใช่เรื่องงดงามซะเท่าไหร่
 
   ในช่วงมัธยมปลาย แม้ผมจะมีเพื่อนเยอะ แต่เพื่อนที่จริงใจหาได้ยากมากขึ้น แต่ละคนล้วนปกปิดด้านมืดของตัวเอง และสร้างภาพตนเองให้เป็นเทวดาในสายตาคนอื่น ชีวิตในช่วงมัธยมปลายจึงเป็นช่วงชีวิตที่ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของเพื่อนอย่างแท้จริง ไม่เหมือนกับตอนสมัยชั้นประถม ยังเล่นแปะแข็ง แย่งของเล่น เล่นฟุตบอล เล่นเกมส์ ด้วยกัน เมื่อเราโตขึ้นมุมมองของเราจะเปลี่ยนไป เพื่อนสนิทได้ควรเป็นเพื่อนที่ดี สามารถคุยได้ทุกเรื่อง มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน พร้อมเสียสละได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง [ตาย] แทนกันได้

   นับว่าผมโชคดีมากที่เจอเพื่อนแบบนี้ เพื่อนที่ผมสนิทที่สุด 3 คน ในแต่ละชั้นปี

ม.4 เจมส์
ม.5 ต๋อง
ม.6 ต้น

  จากทั้งสามคน ต๋องเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมยังคุยได้จนถึงปัจจุบัน ส่วนที่เหลืออีกสองคนนั้นล่ะ คนนึงหายตัวไปจนไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ส่วนอีกคนแม้จะเจอหน้าทุกวี่วันแต่ก็เหมือนตายจากกันไปนานแล้ว
.
.
.
.
.
*************************************************************************

    ย้อนกลับไปในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ณ โรงเรียนคริสต์แห่งหนึ่ง นักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้เป็นผู้ออกแบบแฟชั่นจนเป็นกระแสนิยมที่ใครๆก็ต้องทำตาม ด้วยการตัดขากางเกงสีน้ำเงินให้สั้นจนแทบจะเห็นกางเกงในบ็อกเซอร์โผล่ออกจากกางเกง ในขณะที่ทรงผมช่างสวนกระแสกับกางเกงขาสั้นซะเหลือเกิน ทรงผมรองทรงสูงถูกดัดแปลงให้ดูยาวเกินกว่าที่โรงเรียนกำหนด โดยเฉพาะทรงผมหน้าม้าปัดสไตล์เกาหลีเป็นเทรนด์ใหม่ ที่ช่างตัดผมในละแวกโรงเรียนต้องทำตามคำขอของเด็กเพื่อดึงดูดลูกค้าวัยละอ่อน ผมเองก็ไม่ทราบหรอกว่า การทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มความหล่อ ความแพงได้หลายเท่าตัว ผู้หญิงต่างโรงเรียนต่างพากันหลงเสน่ห์นักเรียนชายลุคแบบนี้

    สองหนุ่มกางเกงน้ำเงิน กำลังเดินซื้อหมูปิ้งด้วยกันก่อนเรียนคาบบ่าย สำหรับวันนี้ท้องฟ้าดูแจ่มใส เช่นเดียวกับผิวพรรณของสองหนุ่มดูขาวสว่างใสท่ามกลางแสงแดด ทั้งสองคนคุยไปกินไป พร้อมก้าวขาทีละก้าวอย่างช้าๆ เพื่อใช้เวลาพักเที่ยงให้คุ้มค่าที่สุด ก่อนที่จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในคาบบ่าย สองหนุ่มเดินคุยกระหนุงกระหนิง โอบไหล่เดินคุยอย่างเริงร่า ทำให้สาวๆรอบข้างที่สังเกตเห็นความสนิทสนมของเรา จับกลุ่มนินทาพวกเรากันอย่างสนุกสนาน สายตาอิจฉาพุ่งมายังทั้งสองหนุ่ม แต่ทั้งสองหนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ราวกับผู้หญิงที่อยู่รอบข้างเป็นเพียงแค่รูปปั้น

“ สน......ป้อนหน่อยๆ “ หนุ่มร่างสูง ร้องขอหมูปิ้งจากอีกฝ่าย เพราะ ถุงที่หมูปิ้งเกือบสิบไม้กลับตกไปอยู่กับหนุ่มร่างเล็ก

“ ยื่นปากมา “ หนุ่มร่างเล็กถือหมูปิ้งที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่ง ยกแขนเหนือหัวเล็กน้อย เพื่อให้หนุ่มร่างสูงได้ลิ้มรสชาติ

“ ป้อนอีกไม้ให้กูหน่อย “ หนุ่มร่างสูง ร้องขออีกครั้ง

“ ต้น มึงดูสายตาผู้หญิงที่นั่งตรงนู้นก่อนดีมั๊ย “
หนุ่มร่างเล็กสะกิดให้หนุ่มร่างใหญ่หันไปดูคนรอบข้าง หนุ่มร่างใหญ่เหล่มองไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยขึ้นมาว่า
“ จะแคร์ผู้หญิงทำไมว่ะ ป้อนกูเถอะหน่า “

หนุ่มร่างเล็กสูญเสียจังหวะ โดนหนุ่มร่างใหญ่คว้าถุงหมูปิ้งมาเป็นของตน หนุ่มร่างเล็กจึงเป็นฝ่ายที่ร้องขอแทน
“ ป้อนกูหน่อยดิ “ คราวนี้หนุ่มร่างเล็กเป็นร้องขอบ้าง

" กินเยอะ แต่ทำไมตัวเล็กจังว่ะ มึงอ่ะ " หนุ่มร่างใหญ่ใช้มือข้างซ้าย ล้วงเข้าไปในเสื้อ สัมผัสท้องน้อยของหนุ่มร่างเล็ก
หนุ่มร่างใหญ่ลูบคลึงอยู่พักใหญ่ ราวกันเป็นเนื้อหนังของตัวเอง

" ป้อนกูเถอะคร้าบบ กูหิวมาก มึงมัวแต่ลีลาอยู่นั่นแหละ " หนุ่มร่างเล็กบ่นพึมพำ

    หนุ่มร่างใหญ่ยื่นแขนพร้อมหมูปิ้งในมือ หนุ่มร่างเล็กอ้าปากพร้อมงับหมูปิ้งเข้าเต็มคำ แต่หนุ่มร่างใหญ่ค่อยๆชักแขนกลับ หลอกล่อหนุ่มร่างเล็กไล่ตามหมูปิ้งด้วยสายตา หนุ่มร่างเล็กเขย่งขาเล็กน้อยพร้อมอ้าปากไล่ตามหมูปิ้งจนลืมตัว กว่าจะรู้สึกตัวริมฝีปากสีชมพูของหนุ่มร่างเล็กก็ไปสัมผัสแก้มขาวๆของหนุ่มร่างใหญ่เข้าเต็มเปา หนุ่มร่างใหญ่หน้าแดงทันที ในขณะที่ผู้หญิงบริเวณข้างเคียงกรี๊ดกร๊าดอย่างกับโดนน้ำร้อนลวก

“ พอมึงอกหัก มึงอ่อยแม้กระทั่งกูหรอ “ หนุ่มร่างใหญ่หยิกแก้มป่องๆของหนุ่มร่างเล็ก เป็นการลงโทษ

“ โอ๊ย เจ็บ....บบ...อือ…..อู......เอ็บ.....ไอ....อัด...” หนุ่มร่างเล็กร้องเสียงอู้อี้ ครวญครางไม่เป็นภาษา

หนุ่มร่างใหญ่พอใจกับการลงโทษจึงปล่อยแก้มหนุ่มร่างเล็ก กลับคืนสู่ที่เดิม

“ ทำหน้านอยๆ มีอะไรล่ะค่าบบบบบ “ หนุ่มร่างใหญ่สังเกตหนุ่มร่างเล็กหน้านิ่วคิ้วขมวด

“ ทำไมกูจีบใครจริงจัง เสือกจีบไม่ติด พอทีกูจีบเล่นๆ เสือกรักกูจริงขึ้นมาซะงั้น “ หนุ่มร่างเล็กบ่น

“ นี่มึงยังไม่ตัดใจจากแป้งอีกหรอว่ะ “ หนุ่มร่างใหญ่โพล่งถาม

“ เออสิว่ะ กูขับรถไปส่งทุกเย็นเลยนะ “ หนุ่มร่างเล็กตอบแบบจริงจัง

“ ตีนมึง ถึงคันเร่งด้วยหรอว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า “ หนุ่มร่างใหญ่หัวเราะไม่หยุด

“ ขำง่ายเนอะมึงอ่ะ กูจะลองอีกซะครั้ง “

“ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ............ จะจีบก็จีบไป แต่อย่าร้องไห้กลับมานะ ครั้งนี้กูไม่ปลอบมึงแล้วนะ “ 

“ ปลอบกูก็ไม่ได้ ใช่สิ พอมึงมีแฟนก็หายหัว ไม่สนใจกูเลย “ หนุ่มร่างเล็ก เบ้ปากเล็กของเขา ใส่หนุ่มร่างใหญ่

“ กูว่าเป็นมึงมากกว่ามั้ง ...................กูกับขวัญคบกันก็ทำตัวปกติดีนะ กูอยู่กับมึงมากกว่าขวัญอีก ทำมาเป็นบ่น “

หนุ่มร่างใหญ่ส่งสายตาอ้อนๆ ให้เพื่ออีกฝ่ายหายงอน อีกฝ่ายแหงนหน้าเล็กน้อยมองตอบ พร้อมทอดถอนใจว่า
“ อยากตัวสูงเหมือนมึงจัง จะได้มีแฟนกับเค้าบ้างซะที “

หนุ่มร่างใหญ่ลูบหัวอีกฝ่าย ปลอบโยนอีกฝ่ายที่กำลังตัดพ้อเรื่องความสูงของตัวเอง
“ ไม่เห็นเกี่ยวเลย “

“ เกี่ยวดิ กูก็อยากปกป้องเหมือนกันนะ “ หนุ่มร่างเล็กคิดในใจว่า จะมีผู้หญิงซักกี่คน ที่ชอบผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง
ปกป้องใครก็ไม่ได้ แถมยังต้องให้เพื่อนตัวเองปกป้องอีก

--------- อยากปกป้อง --------
ไม่รู้ว่าคำนี้ไปสะกิดใจส่วนไหนก็ไม่ทราบ หนุ่มร่างใหญ่อึ้งไปซักพัก------ ก่อนเอ่ยว่า

“ปกป้อง.............กูแทนได้มั๊ย“ สายตาหนุ่มร่างใหญ่วิงวอน แอบใส่ความคาดหวังไปกับประโยคนี้เพื่อสื่อสารให้อีกฝ่ายทราบ

“ จะให้กูขับรถไปส่งมึงที่บ้านวันนี้ ...ใช่ป่ะเนี่ย “ หนุ่มเล็กมองค้อนเล็กน้อย

“ ใช่แล้วครับ เจ้าเด็กดื้อ “ หนุ่มร่างใหญ่ยืนยิ้มร่า วางถุงหมูปิ้งลงบนโต๊ะ มือทั้งสองข้างที่กำลังว่างอยู่จับแก้มอีกฝ่ายพร้อมคลึงแก้มไปมา หนุ่มเล็กจึงใช้มือข้างขวา ข้างถนัด เขกหัวหนุ่มร่างใหญ่ให้ปล่อยมือออกจากแก้ม

 “ โอ๊ย!!!!!!!!!!!! “

“ เด็กดื้อ เค้าเจ็บนะ “ หนุ่มร่างใหญ่ส่งเสียงสำออย ร้องโอดครวญแบบจะเป็นจะตายให้ได้

“ เด็กดื้อพ่องมึงดิ เรียกได้ปัญญาอ่อนชิบหาย “ หนุ่มร่างเล็กเขกหัวอีกรอบ

“ เจ็บนะมึง...... “ ประโยคนี้ที่พูดออกมาขัดกับสีหน้าร่าเริงของหนุ่มร่างใหญ่เป็นอย่างมาก หนุ่มร่างใหญ่ใช้เวลากลั้นหัวเราะซักพัก ก่อนปล่อยประโยคนี้ออกมา ความเจ็บแบบนี้เป็นเรื่องขำๆ ที่สองหนุ่มจัดหนักใส่เต็มแบบนี้ตลอด

*************************************************************************
.
.
.
.

*************************************************************************

   ความฝันที่ได้ย้อนระลึกถึงฉากแสนหวานดังกล่าว ถูกแทนที่ด้วยประโยคเดิม แต่คนละเวลา คนละบรรยากาศ มันคือช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต ช่วงเวลาที่ผมได้สูญเสียเพื่อนที่ผมรักที่สุดไป

ณ สถานที่ คอนโดของผม เป็นจุดเกิดเหตุแห่งความหายนะ

“ เจ็บนะมึง!....... “ หนุ่มร่างใหญ่พูดประโยคนี้ ด้วยสีหน้าเดือดดาล พร้อมจะมีเรื่องได้กับทุกคน

“ กู....กู.....กู....กูขอโทษ “ หนุ่มร่างเล็กพูดออกมาอย่างตื่นกลัว

 “ ต่อหน้าต่อตาเลยนะ ถ้ากูไม่ตามมึงมาที่โรงแรม กูคงเป็นควายไปอีกนาน “

“ กูไม่ได้ตั้งใจ จะให้กูทำอะไรก็ได้นะ ต้น “

“ พอไม่ได้แป้ง มึงก็มาเอาเมียกูเลยหรอ “ หนุ่มร่างใหญ่ชี้หน้าด่า ส่งสายตาอาฆาตแค้น สัมผัสได้ถึงความอำมหิต

ทันใดนั้น มีเสียงผู้หญิงดังแทรกคั่นการทะเลาะของสองหนุ่มที่เคยเป็นคู่ซี้กันมาก่อน
“ ต้น ใจเย็นๆ ฟังขวัญก่อนนะ เราไม่ได้ทำอะไรเลยนะ “

“ เก็บถุงยางก่อนมั๊ย แล้วค่อยแก้ตัว “
ถุงยางเปือนคราบสีขาวเป็นดวงๆ วางอยู่บนพื้น แม้จะซ่อนไว้ใต้เก้าอี้ แต่ไม่อาจปกปิดสายตาของหนุ่มร่างใหญ่ได้

“ ต้น อย่าโทษ สนเลยนะ โทษขวัญเถอะ ขวัญเป็นคนชวนมาเอง “

ขวัญคว้าแขนทั้งสองของต้น นั่งชันเข่าพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ สน ผิดเองแหละ ถ้าสนรู้จักยับยั้งชั่งใจ เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ “
หนุ่มร่างเล็กพูดออกมาทันที หลังจากที่ฝ่ายหญิงแก้ตัว หนุ่มร่างใหญ่ใช้เวลาคิดอยู่นาน เหมือนสงบสติอารมณ์ซักพัก

 “ ขวัญออกไปก่อน กูจะเคลียร์กับไอเหี้ยนี่ “
ขวัญเดินออกไปจากคอนโดซึ่งเธอเองเป็นเจ้าของ ณ ตอนนี้เธอหมดสภาพเหมือนผู้หญิงน่ารัก เหมือนตอนที่พบกันตอนแรก

   หนุ่มร่างใหญ่ปิดประตูห้อง พร้อมลงกลอนประตู ในกระเป๋ากางเกงมีวัตถุชิ้นหนึ่งซ่อนไว้อยู่ นูนให้เห็นเป็นรูปทรง หนุ่มร่างใหญ่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบสิ่งนั้นออกมา สนับมือสีดำด้านถูกเผยให้เห็นออกมาเป็นครั้งแรก หนุ่มร่างใหญ่สวมมันไว้ที่มือขวา ก่อนย่างกรายยืนค้ำหนุ่มร่างเล็ก ------ หนุ่มร่างเล็กมีสีหน้าซีดเผือกเหมือนรู้ชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น ------------

“ มึงกลัวหรอ “
“ กูไม่ทำร้ายมึงหรอก “
“ กูจะฆ่า!!!!!!มึงเลย มึงเข้าใจป่ะ “

    หนุ่มร่างใหญ่เดินประกบหนุ่มร่างเล็ก ถือสนับมือ ก่อนอัดเต็มใบหน้า หนุ่มร่างเล็กล้มกองอยู่บนพื้นแต่ยังคงมีสติดีอยู่ครบถ้วน หนุ่มร่างใหญ่จิกผมอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมาก่อนซัดอีกครั้งที่ปลายคาง หนุ่มร่างเล็กสำลักเป็นเลือดก่อนที่จะเดินโซเซไปจูบกับธรณีประตู หนุ่มร่างใหญ่ก้มลงไปรัวหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างเกรี้ยวกราด อีกฝ่ายทำได้เพียงปัดป้องเพื่อลดแรงปะทะจากหนักให้เป็นเบา หนุ่มร่างเล็กเห็นจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีในช่วงจังหวะทีเผลอที่อีกฝ่ายจะรัวหมัดอีกยก ใช้พละกำลังอันมหาศาลออกหมัดชกเข้าไปที่หางคิ้วของหนุ่มร่างใหญ่ หนุ่มร่างใหญ่เสียหลักกองลงไปกับพื้น

    หนุ่มร่างเล็กกัดแขนอีกฝ่ายให้คลายมือก่อนที่สนับมือสีดำที่ถูกย้อมสีแดงสด จะกลายเป็นของหนุ่มร่างเล็กไปในที่สุด หนุ่มร่างเล็กใส่สนับมือ แต่ด้วยความหลวมของอาวุธที่ใหญ่เกินกว่าขนาดมือของหนุ่มร่างเล็ก หนุ่มร่างใหญ่ปัดสนับมือกระเด็นกระดอนไปเกือบสุดห้อง หนุ่มร่างใหญ่เอาคืนด้วยการใช้สันมือทุบเข้าไปที่ต้นคอ หนุ่มร่างเล็กดิ้นด้วยความเจ็บปวด

     จากนั้นหนุ่มร่างใหญ่ผู้ที่ไม่อยากเสียเวลาไปเดินหยิบสนับมือ เห็นกีตาร์คลาสิคตัวโปรดของเขาที่เคยเล่นให้ขวัญ
ด้วยความแค้นกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ที่ขวัญเคยซื้อให้ บัดนี้มันกลายเป็นอาวุธ หนุ่มร่างใหญ่ลากกีตาร์ไปตามพื้น เสียงขูดระหว่างกีตาร์กับพื้น เสียดสีหูเป็นอย่างมาก หนุ่มร่างใหญ่ฟาดกีตาร์เข้าไปที่ลำตัวของอีกฝ่าย จนอีกฝ่ายเกือบขาดใจตาย นอนโอดร้องอย่างเจ็บปวด

“ ฆ่ากูสิ………..ฆ่ากูสิ!!!!!!!!!!!!!!!! “
แม้จะหมดแรงเพียงไหน หนุ่มร่างเล็กตะโกนประโยคนี้สุดเสียง
“ มึงฆ่ากูได้เลย "
" เพราะกูไม่ใช่เพื่อนมึงอีกต่อไป

หนุ่มร่างใหญ่เดินผ่านหนุ่มร่างเล็กแบบไม่สนใจใยดี เปิดประตูพร้อมกล่าวอำลา
“ ได้!!!!!!!"
ต่อไปนี้ กูกับมึงขาดกัน

 
ต้น หยิบสนับมือก่อนเดินออกจากห้องไป ผมเห็นเงาเลื่อนออกไปจนลับสายตา ตอนนั้นผมสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดไม่ใช่ทางร่างกายหรอกนะ
---- แต่เป็นจิตใจของผม ----
ต้น จากไปเหมือนเดินออกสู่โลกอีกใบหนึ่งที่ทั้งผมและต้นไม่มีวันอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป เพียงไม่นาน ขวัญรีบเดินเข้าไปดูอาการ
ผัวคนใหม่ที่ล้มอยู่บนกองเลือดก่อนที่จะเรียกรถพยาบาลมารับผมไปดูแล

*************************************************************************
.
.
.
.
.
    เพียงแค่ความฝันที่ซ่อนลึกอยู่ในใจมานาน ฉากทุกอย่างจากหายไป ผมเจ็บปวดกับสภาพตัวเองในตอนนั้น จนต้องตื่นขึ้นมาจากความฝัน ในใจรู้สึกพอใจที่ ผมตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอเหตุการณือะไรแบบนี้

“ ฆ่ากูสิ !!!!!!!!!!! “ ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่มๆ มีสายตาคู่หนึ่งมองผมอย่างตกใจ พี่เปรมที่กำลังแต่งตัวอยู่ตกใจกับอากัปกิริยาของผม ผมฝันร้ายอีกแล้วหรอเนี่ย ไม่สิ มันคือเรื่องจริงในอดีตทั้งนั้น

“ ผมฝันร้ายอ่าพี่ “ พี่ตื่นขึ้นมา ใช้มือสองข้างลูบแก้ม ก่อนผ่อนคลายเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดจากฝันร้ายได้แล้ว

พี่เปรมส่ายหัว “ ไม่ต้องบอก พี่ก็รู้ ………… สน แพ้เหล้าหรอ “ 
ผมพยักหน้าเบาๆ

“ แล้วทำไมไม่บอกพี่ล่ะ พี่ตกใจแทบแย่ “ ที่จริงก็ไม่เชิง แค่เวลาดื่มเหล้า ผมชอบเล่าเรื่องอดีตให้คนอื่นฟังมากกว่า

 “ พี่มีถาม สน ว่า ต้นกับสนสนิทกันมากแค่ไหนตอนสมัยมัธยม ...... ไม่นึกว่า..... ไม่นึกว่า.....สาธยายอย่างละเอียด..... จนไปถึงฉากสนับมือ............ ต่อไปนี้ไม่ให้ดื่มเหล้าดีกว่า......... กลัวคนฉุดไปทำเมีย “

ผมหันควับ มองพี่เปรมแบบโมโหนิดๆ
“ พี่มอมผมหรอ “

“ แค่ถามนิดหน่อย ทำมาเป็นโกรธนะเรา  “
    พี่เปรมยิ้มให้ผม พร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้ ขนาดสายตาเจ้าเล่ห์ยังดูน่ารักได้อีกว่ะ ทำไมกูต้องไปหลงคารมพี่เปรมแบบนี้ล่ะ กูควรจะโกรธไม่ใช่หรอว่ะ ทำไมกูใจอ่อนง่ายจัง

   ผมแอบอมยิ้มเล็กน้อย ชีวิตนี้เคยเพื่อนถูกมอมมาเยอะแล้ว แต่พอทีแฟนตัวเองเป็นคนมอมเลยรู้สึกโมโหนิดๆ ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก ทันทีที่ผมออกอาการอมยิ้ม พี่เปรมเปลี่ยนอารมณ์เข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง

“ แบบนี้ สน จะไปเที่ยวภูเก็ตไปพี่ได้มั๊ยเนี่ย “ พี่เปรมชวนผมไปภูเก็ต เป็นทริปฮันนีมูนสำหรับเราสองคน

“ ทำไมล่ะ “

“ โจ้ กับ ต้น จะไปด้วย พวกมันอยากพักร้อนมานานมากแล้ว แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ เรานอนด้วยกัน “
    ผมไม่ได้กังวลว่าจะไม่ได้นอนด้วยกัน แต่กูกังวลเรื่องคนบางคน ทำตัวเป็นแขกไม่ได้รับเชิญไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้ ทริปนี้ก็กร่อยสิครับผม ถึงกระนั้นผมตอบรับการไปทริปฮันนีมูนในครั้งนี้ ผมเองคิดว่า คงเป็นทริปพักผ่อนทั่วไป

    ถ้าการไปเปิดตัวเลี้ยงเหล้า จะทำให้ผมเผยเรื่องราวในอดีตได้ลึกขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่า การไปทริปครั้งนี้ ผมแทบจะเล่าทุกช็อตเกี่ยวกับผมในวันนั้น ในวันที่ผมถูกข่มขืน ซึ่งคือวันที่ผมเจ็บที่สุดในชีวิต เจ็บยิ่งกว่าการถูกปฏิเสธจากแป้งผู้หญิงอันเป็นที่รักคนแรกของผม เจ็บยิ่งกว่าการถูกสนับมือของไอต้นอัดเข้าที่กรามหน้า เจ็บยิ่งกว่าตอนที่ผมกับไอต้นตัดขาดความเป็นเพื่อน
.
.
.
.
.
To Be Continue................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2017 15:00:14 โดย kstt56 »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ขวัญ เป็นฝ่ายชวนสน ขวัญ ยอมรับกับต้น เอง
ทำไมต้นโกรธสน คนเดียว

สนโดนข่มขืนยังไงๆ  :katai1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ทริปฮาร์นีมูน ------ ฮันนีมูน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2017 14:59:03 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ kstt56

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
ขอบคุณ

คุณ MAGNOLIA มากครับ

ขอบคุณ สำหรับตรวจสอบคำผิดให้ผม 

:call: :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เป็นยังไงต่อละเนี๊ยะ???

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ kstt56

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
มาอีกครั้งแล้วนะครับ
ติดตามกันเยอะๆ นะครับ
 :mc4:

Chapter 10 อดีตของ'สน'

Chapter นี้เป็นการเล่าเรื่องในมุมมองของ เปรม นะครับ


เวลา 17:00 น. ที่ภูเก็ต บริเวณตลาดริมทะเล

    สองหนุ่มคู่หู เปรม กับ โจ้ กำลังยกลังน้ำแข็งภายในอัดแน่นไปด้วยกุ้งและปลา ยัดใส่รถก่อนกลับรีสอร์ท เนื่องจากวันนี้มีปาร์ตี้บาร์บีคิวที่รอคอยมาแสนนาน ช่วงหลังสอบคือช่วงที่วิเศษที่สุด เพราะจะได้มีเวลาพักผ่อนกับเพื่อน ครอบครัว หรือ แม้กระทั่งคนที่เรารัก ทั้งสองคนรีบกลับขึ้นรถมุ่งตรงสู่รีสอร์ท

       
พร้อมคิดในใจว่า กูคิดผิดหรือเปล่าว่ะ ที่ให้ไอต้น กับ ไอสน อยู่ด้วยกันตามลำพัง มันจะไม่ฆ่ากันใช่มั๊ยเนี่ย
คนนึงก็แฟนผม ส่วนอีกคนก็เพื่อนผม ทำตัวไม่ถูกจริงๆ

   โจ้ ขับรถอย่างเพลิดเพลินไปกับแสงสียามหัวค่ำ พอตกเย็นแสงไฟนีออน ย้อมท้องฟ้าให้มีชีวิตชีวา สำหรับเมืองภูเก็ต กลางคืนถือเป็นเวลาสังสรรค์ของเหล่านักท่องยามราตรี โจ้สังเกตเห็นเปรมทำตัวกระวนกระวาย คงหนีไม่พ้น เรื่องของ ต้น กับ สน สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไร มีเรื่องให้ปวดหัวอยู่ทุกที แม้ทั้งสองคนจะไม่ใช้กำลังทำร้ายอีกฝ่ายเหมือนผู้มีการศึกษาพึงกระทำ แต่ปากทั้งสองคนก็นับว่าจัดจ้านยิ่งกว่าแม่ค้าปากตลาด ทะเลาะกันได้ไม่เว้นแต่ละวัน--- ก็ยังถือว่าดีนะ--- ที่ทั้งสองคนนี้ยังพอมองหน้ากันติดได้อยู่บ้าง--- เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน

   ทริปนี้ผมไม่เพียงเลี้ยง สน แฟนตัวเล็กของผม ผมยังต้องเลี้ยงไอต้น เพราะผมติดค่ารักษาพยาบาลที่ไอต้นจ่ายให้ไอฮาร์ท ตอนที่ไอฮาร์ทเมาเละเทะที่ร้านนั่งชิว เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

“ มึงจะกังวลทำไม ให้พวกมันได้คุยบ้างเถอะ ต้นรับปากกับกูไว้ ว่าจะไม่ทะเลาะกับแฟนมึง“

โจ้ทนเห็นสีหน้าสุดกังวลของ เปรมไม่ได้ เลยโพล่งถามออกมา

 
ในใจผมไม่ได้กังวลว่า สน กับ ต้น จะมีเรื่องกัน แต่ผมสงสัยเรื่องที่ว่า สน ไม่มีทางไปเที่ยวแน่ตราบใดที่ต้นไปด้วย
แต่ครั้งนี้ สน อยากให้ไอต้นไปด้วย ต้องมีเหตุผลบางอย่าง

“ มึงควรพาไอต้นมา ไม่ใช่กู “

“ คิดไรมาก ไอต้นรับปากกูไว้ มึงก็รู้ ไอต้นโกหกใครไม่เป็น “

สงสัยเรื่องแบบนี้ อธิบายยังไง ไอโจ้ ก็คงไม่สนใจหรอก ผมนั่งเงียบในรถ จู่ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ เหมือนลืมบางอย่าง

“ ช่างเหอะ............ว่าแต่ มึงมีไฟแช็คป่ะ “

“ มึงจะดูดในรถเลยหรอ “

“ ป่าวเว้ย ไอสัด กูจะเอาไปจุดถ่าน มึงอยากทำบาร์บีคิว ไม่ใช่หรอ “

“ อ่อๆ “

   กลับมาถึงรีสอร์ท ผมรีบเดินลงไปดูสภาพข้างในห้อง ว่ามีอะไรพังหรือเปล่า โดยเฉพาะกีตาร์ของผมที่พกมาด้วย เพื่อจะมาเล่นเพลงสวีทให้น้องสนสุดที่รักของผมฟัง ถ้ามันตกไปอยู่ในมือของไอต้นล่ะก็ กูว่ามีเจ๊งแน่นอน

   สงสัยผมคงคิดมากไป สภาพดูปกติอย่างเหลือเชื่อ แฟนผม นั่งเล่นอยู่บริเวณขอบสระน้ำ สองเท้าแกว่งไปมาพลันคิดอะไรอยู่คนเดียว ฟังเพลงพลางขยับหัวไปมาตามจังหวะเพลง ในขณะที่ไอต้นนั่งจดสมุดสีดำอยู่อีกฝั่งของขอบสระ บนโต๊ะมีเศษกระดาษทีฉีกออกมาจากสมุด ถูกขยำวางเกลื่อนบนโต๊ะ ในกระดาษเต็มไปด้วยคอร์ดเปียโน แค่เห็นคอร์ดบางส่วนก็รู้แล้ว ว่าเป็นเพลงลูกอม ซึ่งเป็นเพลงโปรดของไอต้น แต่ปัญหาคือ ทั้งสองคนอยู่กันคนละฝั่ง แถมยังนั่งหันหลังกัน ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ เหมือนเห็นสิ่งมีชีวิตอีกฝั่งหนึ่งเป็นวิญญาณล่องหน แม้จะไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เห็นแบบนี้ก็น่าขัดใจไม่น้อย

“ มากินกันเถอะ “  โจ้เรียกให้ทั้งสองคน มากินมื้อค่ำพร้อมกัน

นี่คงเป็นการทานอาหารพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบสองปี ของ ต้น กับ สน

“ กูเลี้ยงเอง เอาให้เต็มที่ “ โจ้หยิบกระป๋องเบียร์ยื่นให้กับสมาชิกทั้งสี่คน

น้องสน แกะกุ้งอย่างเชี่ยวชาญ ทำให้รู้ว่าเป็นคนชอบกินกุ้งมากแค่ไหน
“ สน ป้อนหน่อยๆ “ น้องสนทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี ป้อนกุ้งเอาใจผัวอย่างดี
 วันนี้น้องสนเจริญอาหารเต็มที่ วันใดที่อาหารทะเลวางอยู่ตรงหน้า น้องสนจะลืมทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งผัวตัวเอง
เพื่ออุทิศชีวิตให้กับการบริโภคอาหารทะเลเข้าสู่ร่างกายอันน้อยของสน

“ หวานไปไกลๆ เกรงใจคนโสดอย่างกูบ้าง “ โจ้กวาดสายตา ขัดจังหวะความสุขของสองเรา

“ ต้น มึงแดกน้อยจังว่ะ ช่วงนี้ “ โจ้ถามต้นด้วยความเป็นห่วง ต้นทำตัวเหมือนคนอมทุกข์มาตั้งแต่ไปทริปนี้แล้ว แววตาสีหน้าที่เคยรื่นเริง แม้แต่ตอนมันโมโห ก็ยังมีชีวิตชีวามากกว่าตอนนี้ สภาพของต้นตอนนี้เป็นคนที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายบางอย่าง
ต้น หลบสายตาพวกผม พร้อมจดสมุดโน๊ตอย่างขมักเขม้น ไม่สนใจพวกผมที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้บ้างเลย

“ อืม กูไม่ค่อยหิวว่ะ “

“ แดกบ้างเหอะมึง เดี๋ยวมึงผอมตาย “
โจ้ถือจานที่เต็มไปด้วยเนื้อกุ้งวางซ้อนเป็นชั้นๆ ส่งมอบให้ไอต้นไปแดกซะ

   ต้นคงรำคาญพวกเรา เลยเขมือบกุ้งสองตัวพร้อมๆกัน ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย พวกเราตกใจกับพฤติกรรมแปลกๆของมัน
แต่ก็ไม่กล้าไปถามว่ามีเรื่องอะไร หลังจากกินอย่างดุเดือดซะพัก จังหวะที่ไอโจ้กับสนเดินเข้าไปล้างจานในครัว
ไอต้นเข้ามากระซิบผมเบาๆ

 “ พวกมึง กูมีเรื่องจะคุยด้วย “

ผมกินกุ้งไปไม่ได้สบตามอง “ ว่ามา “

“ วันที่พวกมึงไปกินเหล้าล่าสุดอ่ะ.....ไอฮาร์ท ไม่ได้เป็นเหี้ยไรเลย มึงแอบมอมเหล้า ไอสนหรอว่ะ “

ไอเชี่ยยย ว่าแล้ว คนแบบไอต้น เสียรู้เรื่องนี้ได้ไม่นาน ก็จะคิดออกว่าเป็นแผนการของพวกเรา

“ ก็อยากรู้เรื่องของแฟนกูบ้างอ่ะ “

ไอต้นตบบ้องหูผม พร้อมกระซิบหูผมอีกครั้งว่า “ เรื่องส่วนตัวของมัน มึงก็ควรเกรงใจบ้างสิว่ะ “

ไอต้นพูดกระซิบด้วยเสียงเบากว่าครั้งก่อนๆ
“ วันนี้.....มึงรอให้ไอสน นอนไปก่อน …….. กู มึง และไอโจ้ จะ.......  “

ผมหันหน้าไปหามัน ก็เห็นว่ามันจ้องหน้าผมมาซักพักใหญ่ มีสีหน้ากระวนกระวายใจ
“ ……” ผมนิ่งไปซักพัก
“ เรื่องแฟนกูช่ายป่ะเนี่ย “
เข้าใจแล้วว่าทำไมคู่กัดแห่งศตวรรษคู่นี้ถึงมาอยู่ในทริปนี้ด้วยกันได้

ต้นพยักหน้าเบาๆ
“ มึงอยากรู้ไม่ใช่หรอ ว่าไอสนโดนข่มขืนยังไง “
ไม่คิดว่า เรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ แฟนผมจะยอมไปบอกใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับไอเชี่ยต้น คู่กัดแฟนผม

“ อ้าว มึงรู้ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ “

“ ไอสน มันบอกกูหมดทุกเรื่องแหละ......... ตอนนั้นกูยังสนิทกับมันอยู่ “

“ แล้วทำไม สน..............”

ต้น แทรกจังหวะ เหมือนรู้ว่าผมจะพูดอะไรไป
“ ตอนที่มึงไปซื้อของ ไอสนมาคุยกับกูไว้ ว่าควรจะบอกเรื่องนี้ กับมึง และก็ไอโจ้ด้วย..... ซักวันพวกมึงก็ต้องเสือกรู้มาจนได้ “

“ ทำไมแฟนกูไม่พูด............. “

ต้น แทรกจังหวะอีกครั้ง
“ มันอยากเล่าเรื่องนี้ให้พวกมึงฟังมาซะพักแล้ว เพียงแต่ ...... เพียงแต่......... มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่จะให้มันเล่าเอง
เรื่องนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของไอสน มาพักใหญ่ ............. กว่า....กว่าพี่กูรักษาอาการมันได้..... ใช้เวลานานเหมือนกันนะ “

  ผมฟังด้วยความตั้งใจ อยากรู้มานานแล้วเหมือนกันว่า ทำไมแฟนผมถึงต้องปกปิดอดีตของตัวเองด้วย การที่แฟนของตัวเองได้รับรู้ความทุกข์ของคนรัก เพื่อผ่านเวลาอันยากลำบากไปด้วยกัน มันจะไม่ดีกว่าหรอ

“ ไอสน.... อ่อนไหวกว่าที่มึงคิด กูรู้ว่ามันเป็นคนร่าเริง แต่ที่จริง มันเป็นคนเหงา......... เหงามาก “

ผมเห็นแววตาเศร้าๆของมัน ผมรับรู้ได้แล้วแหละ ว่ามันไม่เคยตัดขาดความเป็นเพื่อนกับ สน เลย

“ สน ยอมให้มึงเล่าหรอว่ะ .......”

ไอต้นโบกหัวผมไปอีกรอบ “ มึงกับไอเหี้ยโจ้อยากรู้ไม่ใช่หรอว่ะ “

“ กูไม่อยากผิดใจกับแฟนไง “

“ วันนี้มันมาบอกกู ให้เล่าเรื่องนี้....ให้พวกมึงฟัง... มันคงไม่อยากค้างคาใจอีกแล้วแหละ …… มึงควรได้รู้......มึงจะได้เข้าใจในมุมมองของอีกคนหนึ่งว่า ............ มันเองก็เจ็บมาเยอะ ................. กูเองยังรู้สึกสะเทือนใจแทนมันเลยว่ะ “
ต้นพูดไป ตบบ่าผมเบาๆ ให้ผมฟังมันอย่างตั้งใจ

   ไม่น่าเชื่อ คู่กัดที่ทะเลาะกัน จนถึงขั้นตัดขาดจากกัน จะเข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้ดีขนาดนี้ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญแบบนี้ ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าทั้งคู่ให้อภัยซึ่งกันและกันมานานแล้ว ภายใต้ความเกลียดและความอาฆาต ยังคงแฝงความเป็นห่วงต่ออีกฝ่าย เพียงแต่ทั้งสองคนยังถืออคติมองอีกฝ่ายเป็นผู้ร้าย ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น ทั้งสองคนไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน

“ มึงอย่ากังวลเรื่องนี้มากนักเลย มึงดูสิ แฟนกูกินเอาๆ ในขณะที่มึงทำตัวเหมือนคนใกล้ตาย “

ไอต้นหลุดปากออกมาประโยคหนึ่ง ที่ผมไม่รู้ว่า มันพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่
ทุกวันนี้ กูก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้วว่ะ
ต้นพูดประโยคนี้ ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ไม่ใช่แค่เรื่อง ต้นกับขวัญ ที่ทำให้ต้นหนักใจ ยังมีเรื่องอื่นสินะ ที่มึงแอบเก็บเงียบไว้อยู่

เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่ไอต้นหลุดจากภวังค์ ก็เปลี่ยนสีหน้าแอบโหดอีกครั้ง (สีหน้าแอบโหดคือสีหน้าที่มันชอบทำเพื่อข่มขู่คนอื่นให้กลัว แต่ความจริงแล้ว มันทำแบบนี้บ่อยจน ผมชินไม่รู้สึกเกรงกลัวมันเลย)

 “ รู้กันแค่สี่คน ไม่งั้น.........”

“ มึงจะใช้สนับมือ.........ฆ่ากูหรอ......... บ้านกูมีปืนนะครับ อย่าลืมนะ พ่อกูเป็นตำรวจ “ ผมแกล้งแหย่มันเล่น

“ ไม่งั้น....ไอสนจะฆ่ามึงแทน “ โอ๊ยหล่อระดับนี้ ไม่กลัวเมียหรอครับผม แฟนผมงอนเก่งยังไง ผมก็รู้วิธีง้อโดยไม่ต้องเปลืองแรง
 
หลังจากกินเสร็จ พวกเราก็ดูหนังเพลินในห้อง

“ กอดผมหน่อย....กอดหน่อย...กอดๆๆๆ “
   เสียงน้อยๆ ดังขึ้นในขณะที่หนังผ่านไปซักพัก น้องสน อ้าแขนต้องการใครซักคนมาให้อยู่ในอ้อมกอด คนอะไรก็ไม่รู้ น่ารัก น่ากอดจริงๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มของน้องสน แจกความสดใสจนหัวใจผมกระชุ่มกระชวยไปหมด ผมยกแขนขึ้นรั้งคอแฟนผม ให้ก้มตัวลงมาซบอยู่ในอ้อมกอด บางทีโซฟาก็ไม่จำเป็นสำหรับสน เพราะผมจะเป็นโซฟาให้น้องสนเอง 

ไอโจ้ไม่อาจทนเห็นภาพสวีทกันได้อีกต่อไป  “ หนังแอ็กชันนะมึง อย่ามาคร่อมกันตรงนี้ “

   แฟนผมผลักตัวผมด้วยความเขินอาย ต่างคนต่างดูหนัง ก็เงียบๆเพลินๆ พอหนังมาถึงกลางเรื่อง เจ้าสนเด็กน้อย ก็ผลอยหลับใหลคาโซฟา เรียกว่า หลับเป็นตายเลยก็ว่าได้

  ไอต้นพยักหน้าให้ผม เหมือนรู้งาน รวมถึงไอโจ้ด้วย ทั้งสามต่างออกมาตรงระเบียงริมสระน้ำ ปล่อยให้เจ้าของนอนสบายใจไปพร้อมๆกับหนังที่ทำหน้าที่เป็นเพลงกล่อมหลับให้แฟนผมเข้าสู่ช่วงนิทรากาลอีกครั้ง

“ เล่ามา “ ไอโจ้พูดไม่อ้อมค้อม มันไปคุยกับไอต้นตอนไหนว่ะ ทำไมมึงถึงเสือกรู้เรื่องของชาวบ้านได้เยอะแยะขนาดนี้

“ เผือกเก่งจังมึง “ ผมด่าไอโจ้ไปทีนึง

“ อยากลืมนะ ว่ากูเป็นพ่อบ้านนักเสือก..... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า  “

 ทั้งสามคน ณ ริมสระน้ำ กำลังเล่าเรื่องปัญหาชีวิตของสนให้ฟัง ผมให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ลำพังแค่ความอยากรู้ก็เป็นสันดานที่แก้ไม่หายของผม แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับแฟนผมอีก ผมเองจึงตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

“ เริ่มเลย “ ไอโจ้ดูร้อนรน อยากเสือกเป็นพิเศษ

ต้น หลับตาพร้อมถอนหายใจแรงๆ เพื่อทำให้ตื่นตัว

“ มึงห้ามไปเล่าให้ใครฟังนะ แม้แต่ ไอยอด และก็ไอฮาร์ท “

“ เล่ามาเถอะหน่า กูรู้แล้ว “

“ กูจริงจังนะ ไอสนต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ให้กับคนเฉพาะกลุ่ม การที่พวกมีส่วนรับรู้เรื่องนี้
แสดงว่าไอสนไว้ใจพวกมึงมาก อย่าทำให้ไอสนผิดหวังล่ะ “

พวกผมพยักหน้ากันเบาๆ ส่งสัญญาณให้ไอต้น เล่าเรื่องมาซักที

“ กูต้องพาย้อนไปตอนที่กูยังอยู่ ม.4 ตอนนั้นกูยังไม่รู้จักไอสนด้วยซ้ำ แม้จะอยู่โรงเรียนเดียวกันมานาน เพราะกูอยู่คนละห้องกับมัน มันเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ส่วนกูเรียนหลักสูตรปกติ กูเลยแทบไม่เคยเห็นหน้ามันเลย “

“ มันเป็นคนเจ้าชู้ เรียกได้ว่า มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมาซักพัก “

ไอโจ้อมยิ้ม ตบหลังผมเบาๆ

“ วัยนั้น กูยังไร้เมียอยู่เลย ......... แฟนมึงฮอตใช้ได้นะ “

ไอต้นหันมาถามผม “ ในเวลานั้น มันมีเพื่อนสนิทมากๆ อยู่คนนึง มีรู้ป่ะ ว่าเป็นใคร “

“ ต๋องไง แฟนกูบอกว่า ต๋องเป็นเพื่อนมันมาตั้งแต่สมัยชั้นประถม “

ต้นส่ายหน้าๆ เหมือนผิดหวังกับคำตอบของผม

“ แต่คนที่มันสนิทที่สุด ในตอนนั้น ไม่ใช่ต๋องหรอก แต่เป็นไอเจมส์ “

“ไอเจมส์ นี่แหละ คือ จุดเริ่มต้นของปัญหา “
.
.
.
.
.
.
.
To Be Continue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2017 12:48:01 โดย kstt56 »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตัด!!!

อ้ากกกกก. ค้างงงงงง.

อย่างแรง,,,

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อืมเชื่อๆๆ เจมส์มันตอแหละใช่มะ. น่าลากตัวมาสอบสวนมากอะ ดูอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์แก้ตัวสีกเท่าไหร่เลย

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ ตัดจบแบบ ค้างเจงๆ  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ตัดงี้ก็โดนอะดิ ความอยากรู้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด