♿เข็นรักขึ้นภูเขาᄿ ถ้าผมปล้ำคนพิการจะบาปไหม? - นิยายวายละมุน :)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♿เข็นรักขึ้นภูเขาᄿ ถ้าผมปล้ำคนพิการจะบาปไหม? - นิยายวายละมุน :)  (อ่าน 92602 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
จะดราม่าอะไรอีกไหมครับ เริ่มเครียดแล้ว มันเริ่มหน่วงๆ ในใจ

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อะตอมงอนให้หนักๆๆๆๆไปเลย

ออฟไลน์ HuskyLover

  • นิยาย "วาย" ละมุน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
EP25 (1/3)
เย็นเศร้าคืนซี๊ด



::: CAPTAIN :::

ดูเหมือนว่าการขับรถและเอารถวีลแชร์ลงจากหลังคารถของผมจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อย กรีนกับเพื่อนอีกสองคนกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ถึงกับหยิบมือถือมาถ่ายตอนที่ผมลงจากรถกันเลย

ห้างนี้มีที่จอดรถสำหรับคนพิการด้วย ผมก็เลยลงสะดวกหน่อย แต่ก็แอบเสียวๆ ว่าจะมีใครมาแอบถ่ายรูปไปประจานในเฟส เพราะรถผมไม่มีสัญลักษณ์คนพิการ แถมยังเป็นรถหรูอีก ใครเห็นคงจะด่ากันสนุกปากว่ารวยแต่ไม่มีจิตสำนึก

วันนั้นที่กรีนชวนไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนๆ ที่พารากอน ผมไม่ได้ไปด้วยเพราะมีงานกลุ่มที่ต้องทำกับเพื่อน แต่ใช้วิธีไปกินข้าวเที่ยงที่คณะด้วยแทน ต่อมากรีนก็รบเร้าจะไปกินข้าวที่ห้างด้วยกันให้ได้ สุดท้ายผมก็ใจอ่อนตอบตกลง

พูดก็พูดเถอะ ลึกๆ ผมก็ยังมีความสงสัย คนอย่างผมยังมีผู้หญิงคนไหนสนใจอยู่หรือเปล่า ยังมีผู้หญิงแบบไหนที่จะรักคนอย่างผมบ้าง อกหักคราวนั้นทิ้งแผลและความสงสัยนี้ไว้ให้ผมมาตลอด ที่ผ่านมาก็กลัวเจ็บซ้ำจนไม่กล้ามองใคร แม้ว่าตอนนี้ผมได้เจออะตอมแล้ว แต่ความรักของเขาก็ไม่ทำให้คำถามในใจนี้หายไป

แต่มาแบบนี้ผมก็กลัวอะตอมน้อยใจเหมือนกัน แทนที่จะได้อยู่ปลอบใจมันซะหน่อยเพราะวันนี้มันเจอเรื่องหนัก แต่ผมกลับมัวแต่เกรงใจคนอื่น อย่างน้อยไปดูมันเดินแบบข้างๆ เวทีก็ยังดี แต่ผมก็ตัดสินใจมาที่นี่แล้วเพราะนัดไว้ก่อนจะเกิดเรื่อง

"กัปตันสุดยอดเลยอ้ะ กรีนยังขับรถเองไม่เป็นเลย" กรีนยิ้มด้วยสีหน้าชื่นชม จะว่าไปก็น่ารักไม่น้อย คงไม่มีหนุ่มคนไหนไม่ชอบสาวสวยยิ้มให้อยู่แล้ว

"ไม่ขนาดนั้นหรอก มีอุปกรณ์ดีช่วย" เวลาใครชม ผมมักจะถ่อมตัวบ่อยๆ ป๊าสอนว่าเราไม่ได้เก่งด้วยตัวเองทั้งหมด ต้องมีคนและสิ่งของอำนวยความสะดวกทั้งนั้น

"ยังไงก็เก่งอยู่ดีแหละ ใช่ไหมพวกเธอ พวกเธอว่ากัปตันเก่งไหมล่ะ" กรีนหันไปถามความเห็นเพื่อน คุนหมิงกับจาวาพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ลังเล

"ปกติไม่เคยเห็นคนแบบกัปตันขับรถเลย นึกว่าจะต้องมีคนพาไปไหนมาไหนตลอด แล้วก็น่าจะทำอะไรเองไม่ค่อยได้ แต่นี่กัปตันทำได้หมดเลย พวกเราแทบไม่ต้องช่วยเลยสักอย่าง อะเมซซิ่งมาก" คุนหมิงสำทับด้วยคำชมอีกคน

"ไปกันยัง หิวแล้ว" จาวาเตือนเพื่อนๆ

พวกเราหยุดคุยและพากันเดินไปเข้าห้าง โชคดีตรงที่ที่จอดรถคนพิการอยู่ใกล้ทางเข้า จึงไม่ต้องเดินไกล ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน หลังๆ มานี้ผมว่าบ้านเราคำนึงถึงเรื่องนี้มากขึ้น ในห้างแทบทุกที่มีที่จอดรถ ทางลาดและห้องน้ำคนพิการหมดแล้ว

เมื่อมาถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดแห่งหนึ่ง เราก็ลงมือสั่งอาหารกัน ผมอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองมาในฐานะอะไรกันแน่ คงไม่ใช่มาเดตแน่นอน มาหลายคนแบบนี้ ถือซะว่ามากินข้าวเย็นกับเพื่อนๆ ละกัน เสียอย่างเดียวเป็นเพื่อนสาวหมดเลย

ระหว่างรออาหารที่สั่งเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมากเป็นเรื่องในมหาลัยนั่นแหละ เรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องพี่สานั่นแหละ คุยตั้งแต่นั่งรถออกมาด้วยกันแล้ว

พออาหารมาก็พักคุยชั่วคราว เมื่อได้พลังเพิ่มจากอาหาร สามสาวก็ชวนคุยต่อ

"แล้วเรื่องอะตอมเป็นไงมั่ง โดนเยอะหรือเปล่า" กรีนถามด้วยสีหน้าอยากรู้

"ยังไม่รู้เลย วันนี้เขายังไม่ตัดสินน่ะ สงสัยจะเรียกไปคุยอีกรอบ" พูดไปแล้วผมก็นึกถึงใครอีกคนขึ้นมาทันที ป่านนี้จะได้กินข้าวหรือยังก็ไม่รู้

"หวังว่าจะไม่โดนไล่ออกนะ"

"ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง เราว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวนะเธอ ถ้าไล่ออกก็เกินไปแล้วล่ะ สมัยนี้เขาก็ถ่ายแบบนี้กันเยอะแยะ ไม่เห็นมีอะไรเลย" คุนหมิงแย้ง

"ดูบ่อยเหรอยะถึงรู้ว่าเขาถ่ายกันเยอะแยะ" จาวาแซวพลางขำ

"ก็ดูบ้าง แหม...ทำยังกะเธอไม่ชอบดูงั้นแหละ" คุนหมิงแซวกลับ เพื่อนๆ หัวเราะชอบใจกันใหญ่

จากนั้นการสนทนาก็ไหลไปเรื่องอื่น ปกติการมาคุยกันแบบนี้ก็ไม่มีประเด็นหลักให้ยึดอยู่แล้ว ใครนึกอะไรได้ก็คุยเรื่องนั้น เรื่องที่คุยจึงไหลไปเรื่อยจนกว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้านนั่นแหละ

"ตายแล้วเพิ่งนึกได้! ชวนกัปตันออกมาแบบนี้ แฟนจะว่าอะไรไหมเนี่ย" กรีนทำท่าตกใจ พวกเราจึงหันไปมองเธอเป็นตาเดียวกัน

ผมรู้สึกตกใจพอสมควรเพราะนึกว่ากรีนรู้แล้วว่าใครเป็นแฟนผม ถ้าไม่โกหกตัวเองจนเกินไป ผมว่าการมีแฟนเป็นผู้ชายนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะเปิดเผยก็ยังกล้าๆ กลัวๆ แม้สังคมจะเปิดกว้างมากขึ้นก็เถอะ แต่คนต่อต้านเรื่องนี้ก็มี เผลอๆ อาจจะเป็นสามสาวนี้ก็ได้

"ทำท่าแบบนี้ อย่าบอกนะว่ามีแฟนแล้ว กัปตันมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ" กรีนหน้าเสีย สงสัยจะเห็นผมทำหน้าเหวอๆ ก็เลยทึกทักว่าผมน่าจะกลัวแฟนว่า

"อ๋อ...เอ่อ...มีแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอก เขารู้แล้วว่ามาที่นี่" ผมตอบตะกุกตะกัก

"หา! มีแล้วเหรอ" สามสาวถามผมแทบจะพร้อมกัน พวกเธอทั้งตกใจและแปลกใจ วางช้อนส้อมกันแทบไม่ทัน

"ใครเหรอ บอกได้เปล่า" กรีนถามหน้าเศร้าๆ

"คนในคณะเดียวกันนั่นแหละ" ผมตอบอ้อมๆ

"ผู้หญิงหรือผู้ชาย" อยู่ๆ จาวาก็ถามอย่างนั้น เมื่อเห็นผมตกใจเธอก็ขำ "เอ้า สมัยนี้ก็ต้องถามแบบนี้แหละ ตอนมอปลายนะ จาวาเคยชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง หล่อมากกกกกก แอบมองบ๊อยบ่อย แต่เขาก็ไม่สนใจเราเลย สุดท้าย...เขามีแฟนเป็นผู้ชายจ้า จบข่าว"

ถึงแม้จาวาจะบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่การพูดไปหัวเราะไปทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นการเหยียดเพศกลายๆ

"เธอนี่ก้อ กัปตันเขาออกจะหล่อ ดูไม่เห็นเหมือนเกย์ตรงไหนเลย เขาเป็นแบบนี้แล้วยังจะให้เขาเป็นเกย์อีกเหรอ ไม่ไหวมั้ง" คุนหมิงแย้งกึ่งตำหนิ แต่คำพูดของเธอเหยียดเพศหนักกว่าจาวาซะอีก แถมยังเหยียดคนพิการด้วย ผมนี่สะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกเพราะโดนหลายดอก

"แหม หน้าแมนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นนะเธอ รุ่นพี่คนนั้นที่ฉันชอบน่ะ แมนๆ เตะบอลเลยจ้า เตะไปเตะมา กินกันเองเลย เศร้าแพร็พ" จาวาทำท่าปาดน้ำตาและร้องไห้กระซิกๆ เพื่อนๆ จึงหัวเราะชอบใจ

"สงสัยแฟนกัปตันต้องสวยมากๆ แน่ๆ เลยว่าไหม" กรีนพูดขึ้นหลังเงียบไปสักพัก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิดหวังหรือเปล่า แต่ผมก็สังเกตเห็นสีหน้าของเธอดูเศร้าๆ

"ทำไมถึงคิดว่าแฟนกัปตันจะสวยล่ะ" ผมย้อนถาม

"อ้าว คนหล่อๆ ก็ต้องมีแฟนสวยๆ ดิ กัปตันไม่รู้ตัวเหรอว่ากัปตันหล่อมากเลยนะ ประกวดคิวท์บอยได้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว" กรีนยอ

"เราเป็นแบบนี้ ไม่มีผู้หญิงสวยๆ ที่ไหนชอบเราหรอก" ผมแค่นหัวเราะคล้ายหยันตัวเอง

"ไม่จริง!" สามสาวค้านพร้อมกันอย่างแข็งขัน

"กัปตันเป็นคนมีเสน่ห์จะตาย แถมยังเก่งด้วย ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างแน่ะ อย่างน้อยพวกเราสามคนก็ไม่คิดแบบนั้นนะ ไม่งั้น...จะชวนกัปตันมากินข้าวด้วยทำไม จริงไหม" จาวายิ้มให้กำลังใจ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อยหรอก ตามประสาคนเคยเจ็บนั่นแหละ

"พวกเราคิดอย่างนี้จริงๆ นะ กัปตันอย่าน้อยใจดิ นี่ถ้าไม่ติดว่ากัปตันมีแฟนแล้วนะ คนแถวๆ นี้เขาก็..." คุนหมิงละไว้ สายตาของเธอมองเหล่ไปที่กรีน จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ

ผมกับกรีนสบตากันโดยไม่รู้ตัว เมื่อมองดีๆ จะเห็นความหวั่นไหวในแววตาคู่นั้น เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นผู้หญิงมองผมด้วยแววตาแบบนี้ แววตาเศร้าระคนเขินอายหน่อยๆ บ่งบอกความรู้สึกบางอย่าง

ผมเคยอยากได้ความรู้สึกแบบนี้จากผู้หญิงสักคนไม่ใช่เหรอ?

"หัวใจว่างเมื่อไหร่ อย่าลืมผ่านไปแถวๆ คณะอักษรด้วยนะกัปตัน มีคนรอเสียบอยู่" คุนหมิงพูดทีเล่นทีจริง แต่บางคำพูดก็น่าเกลียดไปหน่อย

ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ รู้สึกกระอักกระอ่วนใจยังไงไม่รู้ ดีที่ว่าสามสาวพากันคุยเรื่องอื่นไปซะก่อน ระหว่างนั้นผมแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นสามสาวคุยกันเองผมก็แอบพิมพ์ไลน์ส่งให้อะตอมสั้นๆ

"กินข้าวยัง"

ไม่มีคำตอบใดๆ ส่งกลับมา แถมมันยังไม่อ่านด้วย อาจจะเดินแบบอยู่ก็ได้ หลังข้อความแรกผมก็หาโอกาสส่งไปอีกสองสามข้อความ แต่อะตอมก็ไม่ตอบ ทำเอาผมกังวลไม่น้อย แต่จะโทรหาตอนนี้ก็ไม่สะดวก ผมจึงส่งอีกข้อความทิ้งท้าย

"อีกยี่สิบนาทีจะกลับ เดี๋ยวเจอกันนะ"

ผมกดส่งข้อความ พอเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ สาวๆ พากันแซวผมใหญ่

"นั่นแน่ คุยกับแฟนล่ะสิ อิจฉาจังคนมีแฟน"

ผมทำหน้ายิ้มๆ อีกตามเคย ไม่พูดโต้ตอบใดๆ พวกเธอคงลืมไปแล้วว่าผมยังไม่ตอบคำถามเรื่องเพศของแฟนผม แต่ลืมไปก็ดีเหมือนกัน กระนั้นผมก็คิดว่าต้องรีบหาทางออกเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ขืนปล่อยไว้ความรักมีปัญหาแน่ๆ

กรีนมองผมด้วยสายตาเศร้าๆ อีกแล้ว เท่าที่คุยกันมาทางเฟส ผมก็ว่าเธอชอบผมนั่นแหละ ความรู้สึกข้างในบอกว่าผู้หญิงคนนี้รู้สึกบางอย่างกับผม ผมจึงต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม ทำเอากรีนห่อเหี่ยวไปเลย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเธอดูไม่ร่าเริงเท่าที่ควรเวลาคุยกัน

วันนี้ผมน่าจะได้คำตอบรางๆ แล้วล่ะ แม้ว่ามาแบบนี้อาจจะไม่ค่อยดีกับอะตอมเท่าไหร่ แต่ถ้ามันช่วยให้ผมลบล้างความทรงจำแย่ๆ ไปได้บ้างก็ถือว่าคุ้มค่า อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องทนทุกข์กับความเชื่อลึกๆ ว่า...

ไม่มีผู้หญิงคนไหนรักผมได้!




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2017 10:48:59 โดย HuskyLover »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  กัปตันเสน่ห์แรงใช่ยอยนะเนี่ย

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ขอบคุณคร้าบ
เห็นใจอะตอมเล็กน้อย
รออ่านตอน 2/2 ^^

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คิดว่ากัปตัน จะไม่คิดเรื่องที่ทำให้อะตอมน้อยใจซะอีก

อะตอม คิดมากงอนไปแล้ว หรือเปล่า
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Numai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไร 2/2 จะมา………… ไม่ได้หื่นนะ 555

 :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HuskyLover

  • นิยาย "วาย" ละมุน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
EP25 (2/3)
เย็นเศร้าคืนซี๊ด



::: CAPTAIN :::

กว่าจะกลับถึงคอนโด เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มแล้ว สามสาวเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้า แต่ผมต้องติดอยู่บนถนนเพราะเป็นวันศุกร์แห่งชาติ แม้ระยะทางไม่ไกลมาก แต่ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะฝ่ามาถึงห้อง

พอมาถึงก็พบว่าในห้องปิดไฟสนิท ผมก็เลยเข้าใจว่าอะตอมยังไม่กลับ พอเปิดไฟในห้อง ผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานนักเพราะเริ่มง่วงๆ อาบเสร็จก็กะว่าจะเข้าไปนอนเล่นในห้องรออะตอมกลับมาซะหน่อย

พอเข้าไปในห้องนอน ผมก็ต้องแปลกใจที่พบว่าอะตอมนอนอยู่บนเตียงแล้ว แต่ไม่แสดงท่าทางรับรู้ใดๆ ว่าผมเข้ามาในห้อง สงสัยคงหลับไปแล้วมั้ง ใจหนึ่งผมก็ลังเลว่าจะปลุกมันดีไหม ที่จริงผมอยากคุยกับมันคืนนี้เลย ไม่อยากรอจนถึงพรุ่งนี้เช้า ไม่งั้นผมคงจะนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ๆ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเกรงใจ อะตอมคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของมัน

ผมก็เลยขึ้นไปนอนบนเตียงของตัวเอง ห่มผ้าแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟ ในเมื่อมันนอนแล้วผมก็คงต้องเปลี่ยนแผน แต่พอจะข่มตานอนผมก็นอนไม่หลับอย่างที่คิดไว้ ในหัวคิดกังวลแต่เรื่องของคนนอนเตียงข้างๆ เพราะดูเหมือนว่าเราจะคุยกันน้อยลงในช่วงหลังๆ คงต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ

ผมรู้สึกว่าอะตอมแปลกไปตั้งแต่คุยกับป๊าผมวันนั้นแล้วล่ะ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง สงสัยว่าจะเกี่ยวกับผม หวังว่าป๊าคงไม่สงสัยหรอกนะว่าอะตอมรักผม ก็แอบเสียวๆ เหมือนกันว่าป๊ากับแม่จะรับไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นคนมีเหตุผลทั้งคู่ แต่เรื่องแบบนี้ทำให้พ่อแม่ที่มีเหตุผลสติหลุดมานักต่อนักแล้ว

เสียงคนขยับตัวทำให้ผมหยุดคิดชั่วคราว ผมรีบพลิกตัวนอนตะแคงไปทางเตียงของอะตอมทันที สายตาคอยจับสังเกตคนนอนหลับ อยู่ๆ ก็นึกสงสัยว่า...

อะตอมแกล้งหลับเพราะงอนผมหรือเปล่า?

ตอนนี้มันจะหลับจริงหรือแกล้งหลับผมก็ไม่สนแล้ว ยังไงๆ ก็ต้องคุยกับอะตอมคืนนี้ให้ได้ คิดแล้วผมก็ลุกขึ้นนั่ง ถัดตัวไปนั่งบนวีลแชร์ที่จอดอยู่ข้างเตียง ก่อนค่อยๆ เข็นตรงไปที่เตียงของอะตอมอย่างเงียบๆ แต่ล้อหน้าผมสองข้างก็ดันมีไฟซะนี่ มันสว่างวูบวาบทุกครั้งที่ผมเข็น ประกายไฟหลากสีเกิดจากก๊าซที่ล้อทำปฏิกิริยากับอะไรสักอย่าง ใครเห็นผมเข็นรถผ่านไปก็มักจะตื่นเต้นกับไฟล้อหน้าของผมเสมอ

ผมเพ่งสายตาฝ่าความมืดสลัวไปยังใบหน้าคนที่นอนหลับใหล อยากรู้ว่ามันแอบลืมตาดูผมอยู่หรือเปล่า เพื่อให้แน่ใจจึงก้มไปดูใกล้ๆ อีกที แต่ก็เห็นว่าอะตอมนอนหลับตาสนิทเหมือนคนนอนหลับจริงๆ ไม่งั้นก็คงแสดงได้แนบเนียนมาก

เอาวะ! เป็นไงก็เป็นกัน!

ผมใช้สองมือยันเบาะวีลแชร์ไว้ ท่านี้จะช่วยให้ผมกระโดดจากวีลแชร์ขึ้นไปบนเตียงได้ ผมนับหนึ่งถึงสามในใจ เมื่อพร้อมแล้วก็ใช้แรงแขนถีบตัวแทนขา ร่างผมลอยหวือออกจากวีลแชร์ลงไปบนเตียง ผมรีบกางแขนออกขณะตัวลอยอยู่บนอากาศ พอตัวตกลงไปทับคนที่นอนอยู่ ผมก็สวมกอดมันไว้ทันที

ตุ้บ!

"ขอนอนด้วยได้เปล่า" ผมพูดข้างๆ หูด้วยเสียงอ้อนๆ น่าจะเป็นเสียงน่ารักที่สุดที่ผมทำได้ในตอนนี้แล้ว

อะตอมลืมตาแป๋วขึ้นมอง พอเห็นใบหน้าผมอยู่ใกล้แค่คืบก็ตกใจ

"เชี่ย ตกใจหมดเลย"

น้ำเสียงของอะตอมฟังดูไม่งัวเงียแม้แต่น้อย แสดงว่ามันรู้ทุกอย่างนั่นแหละ

"ขอนอนด้วยนะ อยากนอนกับแฟนน่ะ" ผมอ้อนและกอดมันแน่นขึ้น แต่ก็ไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมีผ้าห่มกั้นอยู่

อะตอมไม่ตอบ แต่ก็ไม่แสดงอาการขัดขืนใดๆ

"กินข้าวยัง" ผมชวนคุยเล่น ได้จังหวะเมื่อไหร่ก็จะเข้าเรื่องทันที

"อือ" อะตอมไม่สบตาผมตรงๆ ท่าทางดูหมางเมินเล็กน้อย

"แล้วกินอะไร"

"ข้าวกล่อง"

"อร่อยไหม"

"อือ"

"งานโอเคไหมวันนี้"

"อือ"

"มึงกลับมาเร็วเหรอ"

"อือ"

"มึงงอนกูเหรอ"

"อือ"

สักพักอะตอมก็หน้าเหวอ มันเสียรู้ผมซะแล้ว ผมกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว ส่วนอะตอมนอนนิ่งๆ เหมือนเดิม พยายามทำหน้าให้เป็นปกติ ที่จริงมันคงอยากปฏิเสธว่าไม่ได้งอนนั่นแหละ แต่สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย

"กูขอโทษเว้ย กูผิดไปแล้ว เนี่ย...กูมาให้มึงลงโทษแล้วเห็นไหม ลงโทษกูหน่อยดิ มึงอยากลงโทษแบบไหน กูยอมหมดเลยนะเว้ย" ผมเบียดตัวเข้าหาอะตอมอีกนิด ทำตัวเหมือนดาวยั่วเข้าไปทุกขณะ แต่มันกลับเงียบเหมือนเดิมซะงั้น

"อ้าว ยังไม่หายงอนอีกเหรอ" ผมนิ่วหน้า พลางก็นึกหาวิธีง้อใหม่

ผมเอามือดึงผ้าห่มออก จากนั้นก็พยายามสอดตัวเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน อะตอมอาศัยจังหวะนั้นตะแคงหันหลังให้ แบบนี้ก็เข้าทางผมพอดี ผมจึงสวมกอดเข้าด้านหลังซะเลย ร่างกายเราเบียดเสียดแนบชิดกันแทบทุกตารางนิ้ว เมื่อไม่มีอะไรกั้นนอกจากเสื้อผ้าบางๆ อารมณ์วาบหวามก็เริ่มก่อตัว

ผมเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง ก่อนซุกตัวเข้าหาร่างอุ่นหนา กลิ่นครีมอาบน้ำอ่อนๆ ลอยมาติดจมูกผม แสดงว่าอะตอมน่าจะอาบน้ำนอนก่อนผมไม่นานมาก ผมชะโงกหน้าข้ามไปมองหน้าคนขี้ใจน้อย นึกว่ามันจะยิ้มให้แต่เปล่าเลย

"ให้หอมแก้มเอาไหม" ผมถามพลางยื่นแก้มไปให้มันใกล้ๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรมาสัมผัสที่แก้มผมแม้แต่น้อย

"งั้น...จูบกูไหม" ผมยื่นปากเข้าไปใกล้ ทำปากจู๋ๆ ให้ดูตลก

อะตอมทำท่าจะหัวเราะ แต่ก็พยายามกลั้นไว้ ดูท่าจะไม่ยอมหลงกลผมง่ายๆ ซะแล้ว

"ไรวะ โกรธขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย" ผมชักท้อ แต่ในเมื่อเป็นคนผิด ผมก็โอดครวญไม่ได้

"จริงๆ กูก็ไม่อยากไปหรอกเว้ย กูเป็นคนขี้เกรงใจเขามึงก็รู้ แต่กูบอกกรีนไปแล้วนะเว้ยว่ากูมีแฟนแล้ว อีกอย่าง...กูก็แค่อยากรู้ว่าคนอย่างกูจะมีผู้หญิงมาชอบหรือเปล่าเท่านั้นแหละ มึงก็รู้นี่ว่ากูเคยโดนผู้หญิงหลอกให้รัก แล้วเขาก็ทิ้งกู มันเป็นคำถามคาใจกูนะเว้ย วันนี้กูก็พอได้คำตอบแล้ว กูว่า...กรีนเขาก็ชอบกูอย่างที่มึงบอกนั่นแหละ แต่ว่ากูไม่ได้คิดอะไรกับเขานะเว้ย กูมีคนที่กูรักและก็รักกูอยู่ทั้งคน ดีขนาดนี้...กูจะไปรักใครที่ไหนได้วะ มึงไม่รู้เหรอว่ากูรักมึงมากแค่ไหน กูไม่เคยง้อใครแบบนี้เลยนะเว้ย"

ผมหยอดคำหวานซึ้งหยดย้อย แต่หวานขนาดนี้อะตอมก็ยังนอนเฉย ไม่ยอมพูดจากับผมสักคำ

"น้องอะตอมครับ พี่กัปตันขอโทษ พี่กัปตันผิดไปแล้ว แต่พี่กัปตันก็รักน้องอะตอมคนเดียวจริงๆ นะ ยกโทษให้พี่กัปตันซะทีสิ ง้อจนเหนื่อยแล้ว ไม่รู้จะง้อยังไงแล้วนะ" ผมงัดไม้เด็ดมาใช้ พร้อมทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารสุดๆ

ปกติผมไม่เคยเรียกตัวเองว่าพี่เลย อะตอมจึงแสดงอาการสนใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็น้อยจริงๆ ไม่นานก็ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม ไม้เด็ดของผมจึงกลายเป็นไม้เหี่ยวๆ ในทันที

"อ้าว ยังไม่หายโกรธอีก ถ้าไม่หาย เดี๋ยวกูงอนบ้างนะเว้ย" ผมขู่ แต่ก็ยังไม่กล้างอนมันหรอก

ผมพยายามพลิกตัวอะตอมให้หันมาเผชิญหน้ากับผม แรกๆ มันก็ขัดขืน แต่ไม่นานก็ยอมหันหน้ามา ผมใช้สองมือประคองใบหน้ามันให้มองผมตรงๆ ไม่งั้นมันหลบตาผมอีกแน่ๆ

เมื่อสายตาเราประสานกันเต็มๆ ผมก็ส่งพลังงานความรักผ่านสายตาออกไปอย่างเต็มที่ ใบหน้าหล่อคมเริ่มมีรอยยิ้ม แม้จะพยายามฝืนมากแค่ไหนก็ตาม

"พี่กัปตันรักน้องอะตอมคนเดียวนะ ยกโทษให้พี่นะครับ ต่อไปพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ถ้าน้องอะตอมไม่ยกโทษให้พี่นะ พี่ต้องขาดใจตายแน่ๆ เลย" ผมพูดไปทำตาปริบๆ ไป ไม่เห็นใจก็ให้มันรู้ไป




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2017 10:49:08 โดย HuskyLover »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อยากรู้ตอนเปิดตัวแล้วพ่อแม่กัปตันจะยอมรับได้มั้ย อย่าดราม่าหนักๆๆก็พอใจแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะตอม ใจแข็งเกิ้น  :mew2:
กัปตัน รู้แล้วนะ อย่าทำอะไรให้กัปตันงอนอีก

ว่าแต่ ง้อกันมาครึ่งคืน ไม่มีอะไรพัฒนาเล้ย  :z3: :z3: :z3:
กัปตันใช้ท่าพิฆาต จู่โจมซะเลย รออยู่นะ
อะตอมไม่จูบ ก็จูบซะเอง จบ
คราวนี้ยังจะทำเฉยเมย มึนชา อีกไหม  o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ HuskyLover

  • นิยาย "วาย" ละมุน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
EP25 (3/3)
เย็นเศร้าคืนซี๊ด



::: CAPTAIN :::

"รักจริงเหรอ ขนาดรู้ว่ากูเศร้า ยังทิ้งกูไปหาสาวๆ เฉยเลย" อะตอมยอมเปิดปากพูดจนได้ ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ถึงจะพูดประชดก็ไม่เป็นปัญหา

"จริงสิ" ผมเอามือข้างหนึ่งลูบตรงหน้าผากของอะตอม ปัดเกลี่ยผมที่ปรกหน้าขึ้น ก่อนจะจุมพิตเบาๆ ลงบนหน้าผากนั้นอย่างรักใคร่

"กูผิดไปแล้ว กูขอโทษเว้ย มึงจะให้กูคาบไม้บรรทัดสักชั่วโมงไหมล่ะ หรือว่าจะให้กูคัดลายมือคำว่าขอโทษหนึ่งเล่มก็ได้นะ"

"กูไม่ใช่ครูซะหน่อย" ริมฝีปากของอะตอมเริ่มคลี่ยิ้ม

"ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ มึงเป็นครูของกูนะเว้ย ไม่รู้เหรอ"

"ครูไรวะ"

"ครูสอนรักไง" ผมหัวเราะเบาๆ

"วอนจริงๆ นะมึง อยากโดนจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย" อะตอมยกยิ้มมุมปาก

"พูดยังกะมึงรู้แล้วงั้นแหละว่าใครจะอยู่บนหรืออยู่ล่าง ไม่คิดว่ากูจะอยู่ข้างบนมึงมั่งเหรอ" ผมยักคิ้วท้าทาย

"มึงจะเอากูเหรอ" อะตอมทำหน้าตกใจ

ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "อืม...ของอย่างนี้ มันก็แล้วแต่ตกลงนะกูว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็เป่ายิ้งฉุบกันดีไหม"

อะตอมหัวเราะหึๆ แต่ไม่ตอบคำถามของผม

"ตกลงมึงหายโกรธกูแล้วใช่ไหม" ผมวกกลับมาเรื่องเดิม

"เออ หายตั้งแต่มึงกระโดดทับกูแล้ว" อะตอมสารภาพ

"เชี่ย งั้นมึงก็แกล้งกูดิ" ผมประท้วง

"ก็กูชอบเวลามึงง้อกูไง น่ารักดี"

"โห...เล่นงี้เลยเหรอ มึงรู้ไหมว่ากูเครียดแทบแย่ ง้อเท่าไหร่ก็ไม่หายโกรธ ที่แท้..."

อะตอมหัวเราะ ผมก็พลอยหัวเราะไปกับมันด้วย

"กูรักมึงนะอะตอม"

พูดจบผมก็ประกบปากลงไป ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกันแล้ว ทำอะไรที่มันผ่อนคลายบ้างดีกว่า ไม่กี่อึดใจอะตอมก็ตั้งตัวได้ ผมถูกมันจับพลิกและเหวี่ยงลงไปนอนข้างล่างแทน ก่อนที่มันจะขยี้จูบหนักหน่วงลงมาที่ปากผม บางจังหวะเราก็แลกลิ้นกัน ผมเริ่มคุ้นกับลีลาจูบของมันแล้วจึงสู้ได้ดีขึ้น

จู่ๆ ในหัวผมก็คิดซุกซน ผมนึกอยากให้มันโลมเลียทั่วตัวผม อยากให้ส่วนนั้นของมันเข้ามาในกายผม อยากให้มันกระแทกกระทั้นหนักๆ รัวๆ จนเสร็จสมอารมณ์หมาย บางทีผมก็อยากลองอะไรดิบเถื่อนแบบนั้น แค่คิดผมก็เผลอครางเสียวแล้ว สองมือจึงเผลอผวากอดอะตอมแน่น รู้สึกเหมือนตอนใกล้จะปลดปล่อยยังไงยังงั้น สวรรค์คงอยู่ไม่ไกลแน่คืนนี้ แต่...

อะตอมก็พลันทำสวรรค์ล่มอีกแล้ว!

อยู่ดีๆ มันก็หยุดจูบและถอนปากออก จากนั้นก็นอนหงายลงข้างๆ ผม ทิ้งไว้เพียงลมหายใจหอบด้วยแรงปรารถนาของเรา ที่จริงผมก็พอจำได้ว่าทำไมอะตอมถึงไม่อยากเลยเถิด ผมก็อยากเชื่อตามที่มันบอกนะ แต่ลึกๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ เป็นเพราะรูปร่างที่แตกต่างไปของผมหรือเปล่า อะตอมถึงไม่กล้าทำแบบนั้นกับผม ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะมันหลายครั้งแล้ว

"เฮ้ย ทำไม...มึงไม่ทำต่อวะ" ผมถามเสียงเบาโดยไม่หันไปมอง รู้สึกเหมือนตัวเองเสียความมั่นใจไปจนแทบไม่เหลือ

"กูอยากทำนะเว้ย แต่ว่า..."

"ที่มึงไม่ทำอะไรกู เป็นเพราะว่ามึงรังเกียจกูหรือเปล่าวะ บอกกูตรงๆ ได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ" ผมพูดสวนไปก่อนที่อะตอมจะทันพูดจบ น้ำเสียงเริ่มดราม่าเล็กน้อย

อะตอมหันมามองหน้าผม เราสบตากันนิ่งและเนิ่นนาน แววตาวิบไหวของอะตอมยากที่จะเข้าใจว่ามันคิดอะไร แต่ถ้าอะตอมไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้ หัวใจผมก็อาจจะแหลกสลายเอาได้ เพราะไม่ช้าผมก็จะเข้าใจว่าขาผมคืออุปสรรคของความรัก สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมรับคนพิการอย่างผมได้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย

แต่ก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะทวีกำลัง อะตอมกลับค่อยๆ ยิ้มให้ผม ผมไม่รู้หรอกว่ามันยิ้มทำไม แต่รอยยิ้มของมันก็ช่วยยุติการก่อตัวของความคิดลบๆ ในใจผมไปได้บ้าง

อะตอมชันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนรวบขาสองข้างของผมและดึงมาวางไว้บนตัวของมัน ผมยังไม่ทันได้ถามอะไร อะตอมก็ถอดกางเกงนอนผมออก ตามด้วยเสื้อของผม น่าแปลกที่ผมไม่ขัดขืนเลย ตอนนี้ขาข้างหนึ่งของผมพาดอยู่บนเอว อีกข้างพาดอยู่บนต้นขาของมัน

อะตอมถอดเสื้อของตัวเองออก จากนั้นก็หันมาบอกผม "ถอดกางเกงให้กูหน่อย"

ผมไม่รู้หรอกว่ามันต้องการอะไร แต่ก็ช่วยถอดกางเกงให้ตามที่ขอ ผมดึงกางเกงบ็อกเซอร์ของมันลอดผ่านใต้ขาผม ก่อนใช้มืออีกข้างดึงและรูดออกจนพ้นตัวของมัน อาวุธหนักของอะตอมแข็งขันดันกางเกงในรอสโซ่สีเทาเก่าๆ จนแทบทะลุ บางคราวก็ผงกหงึกๆ มาโดนต้นขาผมด้วย แข็งขนาดนี้มันคงจะมีอารมณ์มากแน่ๆ

อะตอมไล่สายตาไปตามขาของผม ปกติผมจะไม่ยอมถอดเสื้อผ้าให้ใครดูขาผมเลย มีแต่อะตอมเท่านั้นที่ผมยอมเปิดเผยให้เห็นทุกอย่าง เมื่อเทียบขาผมกับขามันแล้ว ขาของอะตอมใหญ่กว่าของผมพอสมควร ขาของผมเหมือนขาตะเกียบของผู้หญิงมากกว่า ดีที่แม่พาผมไปฟื้นฟูไม่เคยขาด จึงพอรักษากล้ามเนื้อส่วนมากไว้ได้ เพียงแต่ไม่มากพอจะช่วยให้ผมเดินได้เท่านั้น

สีหน้าของอะตอมเริ่มแดงเรื่อ เมื่อผมเหลือบดูตรงส่วนที่ตุงเด่ของมัน ก็เห็นหยดน้ำใสไหลซึมจนชุ่ม ผมนึกซนอยากลองชิมเล่น แต่ก็ยังไม่กล้าทำอย่างนั้น

อะตอมจับขาผมงอขึ้น เขาก้มลงมาสูดดมกลิ่นที่หัวเข่าของผม สลับกับใช้ลิ้นเลียไปตามต้นขาและปลีน่องที่พอมีกล้ามเนื้ออยู่บ้าง สองมือของมันคอยลูบไล้ไปตามขาของผม จากบนลงล่างและสลับขึ้นลงไปมา เสียงหอบหายใจด้วยความต้องการดังขึ้นและดังขึ้น

ไม่นานอะตอมก็ช้อนตัวผมขึ้นนั่งบนตัก มันให้ผมกอดคอมันไว้เพื่อทรงตัว เมื่อนั่งลงไปแล้วผมก็เสียวจนเผลอคราง อาวุธหนักของอะตอมจ่อดันและเสียดครูดไปมาตรงร่องด้านหลังของผม อะตอมขยับตัวและกดดันถูไถเข้ากับตรงนั้นของผมหนักบ้างเบาบ้าง น้ำหล่อลื่นใสๆ ของมันเปียกเนื้อผ้าตรงร่องของผมจนชื้น ถึงไม่คิดจะทะลวงเข้าไปจริงๆ แต่เล่นหมาหยอกไก่แบบนี้ก็เสียวแทบขาดใจเหมือนกัน

ผมมองหน้าของอะตอมไปด้วยในระหว่างนั้น สายตามันไม่ละจากผมไปไหน แค่เห็นผมก็รู้แล้วว่ามันต้องการผมมาก แต่ก็พยายามอดทนเอาไว้ มันดันมาทีผมก็เสียวท้องน้อยที บางครั้งก็นึกอยากจะให้มันจับใส่เข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด เราต่างครางฮือด้วยความเสียวทั้งคู่ ยิ่งเห็นแววตาที่บ่งบอกความอยากในกายก็ยิ่งเพิ่มความเสียวให้มากขึ้นและมากขึ้น

อะตอมใช้สองมือจับใต้รักแร้ของผม ก่อนจับตัวผมโยกขึ้นลงเบาๆ อาวุธหนักแข็งเป็นหินของมันครูดเสียดสีร่องหลังของผมเป็นจังหวะ ผมเสียวมากจนต้องกอดคอมันไว้ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันเข้าไปจริงๆ จะเสียวสักแค่ไหน

"ซี๊ด...อาห์...กูเสียวว่ะอะตอม จะทำอะไรก็ทำเหอะ" ผมบอกไปอย่างไม่อาย

อะตอมปล่อยมือและดึงหน้าผมเข้าไปจูบทันที ทั้งหนักหน่วงและเร่าร้อน ในขณะที่ข้างล่างของมันก็ยังดุนดันจะเข้าแหล่มิเข้าแหล่ ผมเสียวจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว อะตอมอยากทำอะไรผมก็ปล่อยให้เขาทำ จะบีบจับขยำตรงไหนก็ทำไปเถอะ

ผมรู้สึกว่าร่องหลังผมเปียกชื้นมากขึ้น ร่างของอะตอมก็สั่นๆ มันกอดผมแน่น ถอนปากออกและครางเสียงดังเหมือนเสียวจัด อาการของมันเหมือนคนกำลังเสร็จเลย แต่ไม่นานมันก็จูบผมต่อ ทว่าก็ไม่นานนัก

"กูโคตรอยากเอามึงเลย มึงรู้ไหม" อะตอมพูดเหมือนคนไม่รู้ตัว ถึงผมจะตกใจหน่อยๆ แต่มันก็ได้ฟิลลิ่งดีไม่น้อย

อะตอมดันตัวผมให้เอนไปข้างหลัง ผมใช้สองแขนยันพยุงตัวเองไว้ แต่ก็ยังนั่งตักของอะตอมในตำแหน่งเดิมอยู่ ดูเหมือนอาวุธหนักของมันจะอ่อนลงไป แต่ผมก็ไม่ทันมีเวลาสงสัยเพราะอะตอมก้มลงมาดูดนมชมพูของผมอย่างหื่นกระหาย ถ้าไม่เกรงใจคงจะกัดขาดแน่ๆ ยังไม่ทันจะรู้สึกเจ็บมันก็เปลี่ยนเป็นเลียวน ลงน้ำหนักลิ้นแรงๆ ให้ผิวเนื้อผมได้สัมผัสความสากของลิ้นหนา

"โอยเสียว ซี๊ด" ผมเผลอแหงนหน้าสูดปากเหมือนกินของเผ็ด

พานนมขาวๆ ผมแดงเป็นปื้น เปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของอะตอมล้วนๆ ตามตัวและแขนก็มีรอยแดงเช่นกันเพราะโดนอะตอมบีบขยำ แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย เพราะความเสียวขึ้นหน้าจนไม่รู้สึกอย่างอื่นแล้ว

อะตอมจับผมเปลี่ยนท่า คราวนี้เขาผลักผมนอนลงไปบนเตียง มันรีบตามมาซุกหน้าลงที่เป้าของผมทันที จมูกโด่งสวยของอะตอมสูดดมขึ้นลงไปตามท่อนอาวุธของผมซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกางเกงในเนื้อนุ่มลื่น ผมพอจะเดาออกว่าอะตอมกำลังจะทำอะไร แม้จะตกใจที่มันกล้าทำให้ แต่ผมก็ไม่ห้ามมันแม้แต่น้อย

ขอบขากางเกงในดีจีสีขาวของผมถูกถกขึ้น ลูกบอลข้างหนึ่งโผล่พรวดออกมาอวดสายตา อะตอมก้มเลียและดูดเล่นเบาๆ ผมถึงกับเสียวสะท้านจนต้องกำผ้าปูที่นอนแน่น ใครโดนครั้งแรกมักเสียวจนผวา ต่อไปก็จะติดใจจนต้องขอให้คู่ขาทำให้บ่อยๆ

"อะตอม กูเสียว อูย อาห์"

หน้าตาผมบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว และยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้นเมื่ออะตอมงัดออกมาทั้งลำ มักถกหนังหุ้มผมลง เผยส่วนหัวที่มีน้ำใสเยิ้มซึมเต็มที่ อะตอมจูบลงไปบนหัวนั้นเบาๆ เลียชิมน้ำใสเล่น ก่อนค่อยๆ อมโอบลึกลงไปราวหนึ่งในสาม ลิ้นของมันโลมเลียโอบรอบตวัดไปมารอบท่อนลำ ผมเสียวมากจนนึกอยากจะดิ้นเร่าๆ แต่ก็ทำได้เพียงผงกหัวดูและสูดปาก

"ซี๊ด อูย อะตอม ลึกๆ อีก"

ผมเผลอเอ่ยปากขอร้องไปตามอารมณ์ตอนนั้น อะตอมทำตามอย่างว่าง่าย มันดูดลึกลงไปจนสุดลำของผม ก่อนใช้ลิ้นของมันเลียเล่นรอบลำไปด้วย ผมเสียวจัดจนรู้สึกเหมือนทำนบจะทลายคาปากมันเลย

"อูย พอก่อนอะตอม กูจะแตกว่ะ"

ผมเอามือดันหัวของอะตอมออก เห็นปากของมันรูดขึ้นไปตามท่อนลำแล้วก็ยิ่งเสียว ดูเหมือนมันไม่อยากเอาปากออกเลย พอเอาปากออกแล้วมันก็แซวผม

"นอกจากปากกับนมมึงจะเป็นสีชมพูแล้ว _วยมึงก็เป็นสีชมพูด้วย"

ผมยิ้มเขินๆ พร้อมกับหอบไปด้วย อะตอมอาศัยจังหวะน้้นรูดกางเกงในผมออกไป ตอนนี้ร่างกายทุกส่วนของผมไม่มีสิ่งใดปิดบังแล้ว ถ้ารับได้ก็ได้ รับไม่ได้ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมคงได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว

อะตอมก้มลงมาโลมเลียอาวุธหนักสีชมพูของผมอีกแล้ว มันถกหนังเลียเล่นอย่างเอร็ดอร่อย บางคราวก็เอาจมูกไถขึ้นลงและสูดดมไปตามท่อนลำ ไม่รู้ว่าหอมตรงไหนเพราะมีแต่น้ำลายของมัน บางคราวก็สลับไปเลียลูกบอลสองลูกให้ผมโดยไม่มีท่าทางรังเกียจใดๆ ถ้าไม่รักกันจริงมันคงไม่ทำแบบนี้ให้

หลังเสียวอยู่นานผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ช่วยอะตอมทำอะไรเลย คิดแล้วผมก็เขยิบหมุนตัวลงต่ำ เราเปลี่ยนมาอยู่ในท่าหกเก้า แต่พอผมจะทำให้มันบ้าง กลิ่นน้ำรักของผู้ชายก็คลุ้งเข้าจมูก เมื่อสังเกตดีๆ ก็เห็นว่ากางเกงในของอะตอมมีคราวน้ำขาวๆ ซึมเลอะไปทั่วเป้า

"มึงเสร็จแล้วเหรอ" ผมหันไปถามด้วยเสียงหอบ

"อือ"

อะตอมตอบเสียงอู้อี้เพราะมีของคาปากมันอยู่ ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดจะถามต่อว่ามันเสร็จตั้งแต่ตอนไหน สงสัยมันคงเสียวจัดตอนที่เอาท่อนของมันดุนดันถูไถร่องหลังผมแน่ๆ ก็เลยน่าจะเสร็จตั้งแต่ตอนนั้น

"ก้นมึงสวยว่ะ" ผมชมพลางสังเกตดูก้นแน่นกลมกลึงของมันซึ่งถูกปิดไว้ด้วยเนื้อผ้ากางเกงใน

อะตอมจับมือผมไปวางแหมะลงที่ก้นของมันทันที ผมจึงบีบคลึงเล่นไปตามเนื้อผ้า สูดดมกลิ่นน้ำคาวของมันไปด้วย แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นที่โคตรเร้าอารมณ์เลย ผมสอดมือเข้าไปในขอบกางเกงในสีเทาๆ ก่อนขยำและลูบไล้เนื้อก้นกลมๆ เล่น มันนุ่มมือดีจริงๆ ยิ่งเล่นก็ยิ่งเสียวจนผมทานทนไม่ไหว

"อะตอม กูจะแตกแล้ว"

ผมร้องครางบอก สองมือกดก้อนเนื้อกลมเอาไว้แน่น ก่อนซุกหน้าลงซุกตรงเป้าของมันด้วย น้ำคาวมันเปียกหน้าผม แต่ในเวลานี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จังหวะนี้อะตอมครอบปากลงลึกสุดลำ มันดูดแรงจนเหมือนท่อนลำผมจะหลุดเข้าคอมันไปอยู่แล้ว

"โอย อะตอม กูจะแตกแล้ว เอาปากออก"

ผมร้องครางเตือนเสียงหลง แต่อะตอมกลับยิ่งดูดแน่นลึกและแรงขึ้น

"โอย แตกแล้ว แตกแล้ว"

ผมร้องครางเสียงดัง ร่างกระตุกอย่างรุนแรง ตัวงอก่องอขิง กอดก้นอะตอมและซุกหน้าลงเป้ามันแน่น ไม่กี่วินาทีก็ฉีดน้ำรักเข้าไปในโพรงปากของอะตอมหลายครั้งอย่างล้นหลาม ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าอะตอมจะกลืนกินจนหมด มันกลืนกินราวกับเห็นเป็นของหวานแสนอร่อย

กระทั่งร่างของผมค่อยๆ หยุดกระตุก อะตอมก็ยังเอามือถกหนังลงจนสุดและโลมเลียกินน้ำที่เหลือบนหัวเห็ดและท่อนลำ มันเก็บกินจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวเลย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเขยิบขึ้นมาจูบผมเบาๆ และนอนกอดกันอย่างเหนื่อยอ่อน

ผมซุกหน้าเข้าหาอกอุ่น หอบหายใจเบาๆ และหลับตาพริ้มสบาย อีกไม่นานความเหนื่อยหอบก็จะหายไปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ใช่บทรักแบบเต็มคอร์ส แต่อะตอมก็ทำเอาผมเสียวจนแทบขาดใจ

"กูรู้แล้วนะเว้ย ขอบใจมึงมากนะอะตอม กูรักมึงนะ รักมึงคนเดียว" ผมพึมพำตรงอกอุ่น แต่ก็รู้ว่าอะตอมคงได้ยินที่ผมพูดทั้งหมด

"เออ กูก็รักมึงคนเดียวเหมือนกัน ทีหลังมีอะไรก็บอกกูนะเว้ย กูเป็นแฟนมึง เป็นคนรักของมึง กูทำให้มึงได้ทุกอย่างแหละ"

ผมพยักหน้าหงึกๆ

"ส่วนเรื่องเมื่อกี้ เอาไว้ให้ป๊ากับแม่มึงยอมรับกูก่อน เดี๋ยวกูจะจัดให้มึงเต็มคอร์สเลย รับรองมึงต้องร้องขอชีวิตกู ไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันแน่มึง" อะตอมขู่และหัวเราะเบาๆ

"เออ เดี๋ยวกูจะรอ กูอยากร้องขอชีวิตมึงเต็มทีแล้ว"

"ติดใจล่ะซี้" อะตอมทำเสียงล้อเลียน

"เออ ติดใจมึงทุกเรื่องแหละ ไม่งั้นจะยอมเป็นแฟนมึงเหรอ เป็นแฟนกันก็ต้องติดใจกันอยู่แล้ว จริงไหม"

"ครับผม ผมก็ติดใจปากชมพู นมชมพูและ...อวยชมพูของพี่กัปตันเหมือนกันครับ" อะตอมหัวเราะชอบใจ ผมก็หัวเราะไปกับมันด้วย

"ไปอาบน้ำเหอะ เกงในมึงเลอะหมดแล้ว เสร็จก็ไม่ยอมบอกกูนะมึง กูเลยอดชิมของดีนายแบบเลย"

"ไปชิมในห้องน้ำไหมละ กูยังได้อีกรอบนะเว้ย" อะตอมคุยโว

"งั้น...มึงให้ทำกูอีกรอบได้เปล่า" ผมถามอายๆ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

"เอาใหญ่แล้วนะมึง"

"มึงเป็นคนสอนกูเองนะเว้ย ถ้ากูติดใจ มึงก็ต้องรับผิดชอบ ห้ามบ่ายเบี่ยงด้วย" ผมขู่ทีเล่นทีจริง

"โอเค ได้เลย กูชอบของชมพูอยู่แล้ว ให้กินอีกก็กินได้" อะตอมขำเบาๆ สองมือของมันโอบกอดและลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผม

"อ้อ เดี๋ยววันเกิดมึง กูจะซื้อซีเคให้สักสองสามตัวนะเว้ย" ผมเปลี่ยนเรื่อง

"ไม่เอาหรอก แพงไป" อะตอมรีบปฏิเสธทันที

"เออน่า ของขวัญวันเกิดนะเว้ย ไม่ได้ซื้อให้เฉยๆ กูเห็นก้นมึงสวยดี ใส่เกงในเท่ๆ น่าจะสวย"

"นั่นแน่ หลงก้นกูเหรอ" อะตอมทำเสียงล้อเลียน

"เออ หลงก็หลง"

"งั้นก็ซื้อมา เดี๋ยวกูใส่ให้ดู หุ่นนายแบบอย่างกูใส่สวยแน่นอน เดี๋ยวมึงจะหลงกูจนโงหัวไม่ขึ้นเลย"

"ไปอาบน้ำได้แล้ว" ผมตัดบทแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พอปลดปล่อยแล้วก็รู้สึกเบาสบายตัว คืนนี้คงหลับสบายดีจนถึงเช้า

แต่สบายตัวก็ยังไม่สู้สบายใจหรอก ตอนนี้ผมสบายใจแล้วว่าอะตอมไม่ได้รังเกียจผม ความรักของผู้ชายคนนี้ ปลดล็อกความคิดแย่ๆ ผมไปหลายอย่างเลย ไม่รู้จะขอบคุณมันยังไงเหมือนกัน

หมดเรื่องของตัวเองแล้วก็ยังเหลือเรื่องป๊ากับแม่ แต่ในเมื่ออะตอมบอกว่ามีวิธีแล้ว ผมก็จะเชื่อใจมัน




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2017 10:49:21 โดย HuskyLover »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ถ้าป๊ากับแม่จะรุ้เรื่องก็อย่าดราม่ามากนักเลยนะ :call: :call: :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Numai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลัวจะได้เต็มคอร์ส……เลือดหมดตัว

 :m25:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อยากให้ทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยดีนะครับ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อ่านะ  กัปตันใจแตกแย้ว  5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
รอด่านพ่อกับแม่ ขออย่าดราม่าหนักๆๆๆเป็นพอ...จะได้ดูคอร์สจัดเต็มซะที 55555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
นี่แค่คอร์สเล็กๆนะ :-[ รอฟูลคอร์สนะน้องอะตอมจัดมา อย่าดราม่าหนักเลยตอนบอกพ่อแม่

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เลือดกกระฉูด  5555  หาผ้าห่มมาซับเลือดด่วนมาก

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เลือดกกระฉูด  5555  หาผ้าห่มมาซับเลือดด่วนมาก

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เป็นความฟินแบบหน่วงๆยังไงไม่รู้ เหมือนอะตอมก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้มากกว่านี้ กัปตันก็คิดมากแต่ก็เข้าใจนะ ปัญหามันต้องต้องๆเคลียร์ :katai4:

ออฟไลน์ HuskyLover

  • นิยาย "วาย" ละมุน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
EP26 (1/2)
หลอกแดกคนพิการ



::: ATOM :::

บ่ายนี้ กัปตันกับผมชวนเพื่อนๆ ที่สนใจชมรมยูดีมาที่คอนโดเพื่อวางแผนการทำงานกัน มีน้ำหวาน แบงค์ กวิน ปาร์ตี้และคอปเตอร์มาช่วย ถ้าจะเรียกว่าผู้ร่วมก่อตั้งก็คงไม่ผิดนัก

วันนี้พวกเราจะช่วยกันวางแผนจัดกิจกรรมระดมทุนก่อนเป็นอันดับแรก ทุกคนพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าเราต้องช่วยกันหาเงินหนึ่งล้านบาท สำหรับเด็กๆ อย่างพวกเราแล้ว เงินจำนวนนี้แทบจะไกลเกินฝันเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหากจะต้องหาให้ได้ภายในสองสามเดือนนี้ แต่พวกเราก็อยากลองดู บางคนเตรียมไอเดียดีๆ เป็นการบ้านมาหลายไอเดียเลย

อ้อ เย็นๆ แม่ของกัปตันกับพี่โดมจะแวะมาหา เห็นบอกว่าจะซื้อของกินอร่อยๆ มาฝากพวกเราด้วย

ห้องของกัปตันมีโต๊ะที่ใช้นั่งคุยกันได้อยู่หนึ่งตัว เราลากมาวางไว้ใกล้ๆ กับโซฟานั่งเล่น ใครอยากนั่งโต๊ะก็นั่ง ใครอยากนั่งบนโซฟาก็ได้ เพราะพวกเราเน้นการพูดคุยสบายๆ เป็นกันเอง แต่กว่าจะได้คุยกัน เพื่อนๆ ของเราก็เดินดูห้องซะทั่ว บางคนก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยมีห้องสวยๆ แบบนี้ บางคนก็เฉยๆ เพราะที่บ้านมีฐานะดี ก็เลยไม่รู้สึกว่าแตกต่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็เดินไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าในห้องมีอะไรบ้าง ผมให้เจ้าของห้องเป็นคนพาทัวร์ จบจากตรงนั้นแล้วถึงมานั่งประชุมกัน

"ไอเดียกูนะเว้ย มันต้องมีอีเว้นต์ให้คนสนใจ ที่ต่างประเทศนะเว้ย เขาทำกราฟิตตี้วอลล์ให้คนมาถ่ายรูป แล้วก็แชร์ให้คนมากดไลค์ กูว่าก็น่าสนใจนะเว้ย ถ้าเราขอใช้ที่ที่คนเดินผ่านเยอะๆ หน่อยอย่างเช่นสกายวอล์คใหม่ตรงเอ็มบีเค กูว่าได้คนเยอะแน่ๆ ทีนี้ก็หาคนมาช่วยพ่นสีกราฟิตตี้วอลล์ให้มันน่าสนใจหน่อย ในมหาลัยเราน่าจะหาคนช่วยทำได้ไม่ยากหรอก แล้วก็มีข้อความว่า I Support UD อยู่บนกำแพง เวลาคนมาถ่ายรูปก็ให้เขายืนตรงตัวไอ ทุกคนที่มาถ่ายรูปกับวอลล์ของเราก็จะได้บอกชาวโลกว่าเขาสนับสนุนยูดีไง แล้วก็ให้เขาเอารูปแชร์ขึ้นเฟส แล้วดูว่าในยี่สิบสี่ชั่วโมงได้กี่ไลค์ เอาแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมงก็พอ ได้จำนวนไลค์เท่าไหร่ ก็บริจาคเท่านั้น คนที่มากดไลค์ช่วยกันบริจาคด้วยก็ได้ หนึ่งไลค์ก็บริจาคหนึ่งบาท หมื่นไลค์ก็บริจาคหมื่นบาท พวกมึงคิดว่าไง"

กวินนำเสนอไอเดียก่อนเพื่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอเดียมันน่าสนใจมากๆ เพื่อนๆ ถึงกับตาลุกวาวและฮือฮา

"เฮ้ย กูว่าไอเดียนี้ใช้ได้เลย ถ้าจะให้ดีนะเว้ย ต้องหาเซเลบมาถ่ายกับกราฟิตตี้วอลล์ด้วย คนดังมีคนกดไลค์เยอะนะเว้ย ถ้าหามาได้นะมึง ได้ตังค์เยอะแน่ๆ " อินเสริมไอเดีย เพื่อนๆ ต่างก็เห็นด้วย

"กูว่าวันแรกมันน่าจะต้องมีอะไรนำเข้างานนิดนึงดีไหมวะ เอาพวกคิวท์บอยที่เคยซ้อมเต้นด้วยกันมาทำแฟล็ชม็อบดีไหม ตรงนั้นมันมีหลายห้าง เลือกเอาสักห้างก็ได้ แล้วก็ให้พวกคิวท์บอยนี่แหละเดินแฝงตัวไปกับคนทั่วไป พอเพลงมาก็เต้น แล้วก็ค่อยๆ มารวมตัวกัน เต้นเสร็จ ก็เชิญชวนไปคนไปถ่ายรูปที่กราฟิตตี้วอลล์ เพราะบางทีคนที่เดินห้างเขาไม่รู้ไง เราต้องมีวิธีบอกให้มันน่าสนใจ" ปาร์ตี้ช่วยเพิ่มสีสันให้ไอเดียมากขึ้น ถึงมันจะไม่ค่อยชอบหน้าอิน แต่เพื่อกัปตันมันก็ยอมมาร่วมงานนี้กับพวกเราด้วย

เมื่อไอเดียดีๆ เริ่มมา ผมกับเพื่อนๆ ก็ช่วยกันแลกเปลี่ยนความเห็น ค่อยๆ ตบจนเริ่มเข้ารูป จนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน น่าจะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว หลายๆ คนที่มาช่วยมีพ่อแม่เป็นคนใหญ่คนโต พอจะช่วยเจรจาขอใช้สถานที่แถวๆ นั้นได้อยู่แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ที่จะมาช่วยงานปลีกย่อย พวกเราก็คงจะหาเอาในมหาลัยนี่แหละ

โดยสรุปแล้วเราจะเรียกงานนี้ว่า "I Support UD หนึ่งไลค์ หนึ่งบาท สร้างโอกาสให้ทุกคน"

เมื่อจบไอเดียนี้แล้ว ผมก็เสนอไอเดียของผมบ้าง "ส่วนของกูนะเว้ย กูคุยกับพี่โมเดลลิ่งที่กูทำงานด้วยแล้ว จะให้เขาช่วยจัดแคมเปญหนึ่งโหลดหนึ่งบาท พี่เขาจะหาเจ้าของหนังสือออนไลน์ที่สนใจบริจาคเงินเพื่อการกุศลมาร่วมโครงการให้ ถ้ามีคนโหลดหนึ่งครั้งก็บริจาคหนึ่งบาท หมื่นครั้งก็หมื่นบาท"

"เราเล่นไวโอลินเป็น งั้นเราไปเล่นดนตรีเปิดหมวกตามที่สาธารณะด้วยดีกว่า แล้วก็ให้คนมาบริจาค มีใครเล่นอะไรเป็นอีกไหม จะได้ไปเล่นด้วยกัน ไปคนเดียวแล้วมันเขินๆ น่ะ" คอปเตอร์เสนอตัวบ้าง ขณะเดียวกันก็หาเพื่อนไปด้วย

"กูเล่นคีย์บอร์ดเป็น" อินเสนอตัวเป็นคนแรก

"กูเล่นไม่เป็น แต่เดี๋ยวกูกับน้ำหวานจะช่วยทำแฟนเพจแคมเปญให้" แบงค์หัวเราะเขินๆ เพราะคิดว่าตัวเองเลือกงานง่ายกว่าคนอื่นๆ ส่วนน้ำหวานก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย

"โห แล้วกูจะทำอะไรดีเนี่ย" กัปตันหันไปมองรอบๆ โต๊ะด้วยสีหน้าอายๆ

"เป็นนายแบบไง" ปาร์ตี้เสนอไอเดียให้

"นายแบบอะไรวะ" กัปตันทำหน้างงๆ

"เอ้า งานพวกนี้มันต้องมีสื่อไง ต้องทำแบนเนอร์ ทำเอกสารแจก ทำข่าวแจก ต้องมีภาพโปรโมท คลิปโปรโมท มึงก็เหมาเป็นนายแบบให้หมดเลย เหมาะที่สุดแล้ว"

"อ๋อ เออ...ก็ดีว่ะ อ้อ เรื่องคลิปโปรโมทน่ะ พวกมึงจำพี่โป้งได้ไหมวะ ที่เขาอยู่คณะภาพยนตร์ เดี๋ยวกูจะลองชวนพี่เขามาช่วย" กัปตันยิ้มภูมิใจที่ตัวเองมีไอเดียเสนอกับเขาบ้าง

งานนี้เราต้องการจิตอาสาเท่านั้น เพราะพวกเราไม่มีเงินจ้าง แถมยังมีกฎเหล็กที่สำคัญด้วยว่าเราจะไม่ขอเงินพ่อแม่ งานนี้เราจะให้สังคมช่วยกันเท่านั้น ทุกคนก็เห็นด้วย

ส่วนพี่แอร์ของผม แกตื่นเต้นมากและอยากช่วย พอรู้ว่าผมจะทำโครงการนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อหาเงินมาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาลัย แต่อีกความตั้งใจหนึ่งก็คือจะใช้ความสำเร็จของงานนี้พิสูจน์ใจป๊าและแม่ของกัปตัน ผมเชื่อว่าถ้าทำได้ก็จะได้ใจผู้ใหญ่ทั้งสองคนแน่นอน ดังนั้น พี่แอร์ก็จะช่วยผมเต็มที่ เพราะแกเข้าใจความยากลำบากของความรักชาย-ชายเป็นอย่างดี

พวกเราคุยกันตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงเกือบสี่โมง ได้ไอเดียและรายละเอียดสำคัญๆ หลายอย่าง ผมก็เลยเสนอว่าให้พักก่อนสักหนึ่งชั่วโมง ทุกคนก็เห็นด้วย

ผมกับกัปตันพาเพื่อนๆ ลงไปนั่งคุยกันที่สระว่ายน้ำ แต่ไม่ได้ว่ายน้ำหรอกเพราะไม่ได้เตรียมชุดมา พวกเราจึงหามุมนั่งคุยกันระหว่างรออาหารเย็นที่คาดว่าน่าจะอร่อยเป็นพิเศษ

พวกเรานั่งคุยกันเป็นกลุ่มย่อยๆ กัปตันพาน้ำหวาน คอปเตอร์และกวินเดินดูตรงนั้นตรงนี้ จากนั้นก็โพสต์ท่าเก๋ๆ ถ่ายรูปกันสนุกสนาน ส่วนอินกับปาร์ตี้แยกไปคุยกันสองคน ผมเข้าใจว่าคงอยากเคลียร์ปัญหาคาใจที่มีกันมานาน ก็เลยไม่มีใครเข้าไปยุ่ง ตรงริมสระน้ำจึงเหลือแค่ผมกับแบงค์สองคนเท่านั้น

ผมไม่ค่อยได้คุยกับแบงค์สองคนแบบนี้นานแล้วตั้งแต่เข้ามหาลัยมา ตอนเรียนมัธยมปลายด้วยกัน ผมก็สนิทกับมันบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยมีเวลาสนิทกับใครมากนักหรอก เพราะต้องทำงานไปเรียนไป แถมช่วงหลังๆ ผมยังหลงอั้มหัวปักหัวปำด้วย ก็ยิ่งไม่มีเวลาให้เพื่อนๆ เข้าไปใหญ่ ผมก็เลยเป็นคนเพื่อนน้อยไปโดยปริยาย

เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร แบงค์ก็ส่งโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดู ในหน้าจอนั้นเป็นหน้าเฟสบุ๊คของผมเอง สงสัยมันคงเห็นอะไรบางอย่าง เพราะเมื่อเช้าผมเพิ่งอัปเดตสเตตัสเป็น "In a relationship"

ผมชำเลืองดูแล้วก็พูด​ "เออ กูอัปเดตตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว"

"มึงเอาจริงเหรอวะ"

ท่าทางเคลือบแคลงสงสัยของเพื่อนทำให้ผมสะดุดใจพอสมควร แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก

"เออ มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

แบงค์ถอนหายใจ มันมองหน้าผมด้วยความรู้สึกที่ชวนอึดอัด จนผมรู้สึกไม่อยากอยู่ใกล้มันเลย

"กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ ตอนแรก...กูไม่อยากคิดอะไรเยอะนะเว้ย เห็นพวกมึงสองคนรักกัน กูก็ยินดีด้วย แต่..." แบงค์พูดค้างไว้

"แต่อะไรของมึงวะ"

"มึงคิดดีแล้วเหรอวะอะตอม กัปตันมันเป็นคนพิการนะเว้ย มึงอย่าหาว่ากูอย่างงั้นอย่างงี้ละกัน กูน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกัปตันหรอก ที่ผ่านมากูเห็นมึงชอบแต่ผู้หญิงสวยๆ เป็นเพลย์ด้วยซ้ำ ที่สำคัญนะเว้ย กูไม่เคยเห็นมึงชอบผู้ชายเลย อยู่ดีๆ มึงก็กลับขั้วซะขนาดนี้ จริงๆ กูก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้มึงชอบกัปตันขนาดนี้ แต่กัปตันไม่เหมือนผู้หญิงสักคนที่มึงคบมาเลยนะเว้ย มึงไม่กลัวมึงเปลี่ยนใจทีหลังเหรอวะ แล้วถ้ามันเกิดขึ้น มึงว่ากัปตันมันจะเสียใจแค่ไหนวะ มึงอย่าบอกกูนะเว้ยว่ามึงเป็นเหมือนที่คนอื่นๆ เขาลือกันน่ะ" สายตาของแบงค์ยังคงแฝงด้วยความคลางแคลงใจ

"อะไร" ผมชักจะเก็บอาการหงุดหงิดไว้ไม่ไหว

"มันมีคนไปพูดกันเว้ยว่าที่มึงยอมมาเป็นเพื่อนกับกัปตัน คอยดูแลกัปตัน เพราะมึงอยากอยู่คอนโดหรูๆ ของมัน อยากใช้รถดีๆ มัน พูดง่ายๆ ก็คือ...หลอกแดกนั่นแหละ! "

ถึงฟังยังไม่ทันจบ ผมก็หน้าชาซะแล้ว ที่จริงผมก็เคยได้ยินแว่วๆ มาบ้าง แต่ที่ผ่านมาผมไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจเลย จนกระทั่งแบงค์เอามาพูดให้ฟัง

ก็ดี...ในเมื่ออยากคิดแบบนี้กันดีนัก!

"เออ! กูเป็นอย่างที่เขาว่านั่นแหละ กัปตันน่ะมันโคตรหลอกง่ายเลยว่ะ เพราะมันไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยมีคนทำดีกับมันแบบกู เห็นไหม...แค่กูแกล้งทำดีกับมันนิดเดียว มันก็เชื่อแล้วว่ากูรักมันจริง ทำไม ผิดหวังเหรอ คนจนๆ อย่างกูแม่งก็ไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว กูทำได้แค่นี้แหละ คนพิการกูก็หลอกแดกได้เว้ย!"

พูดจบผมก็ลุกหนีด้วยความหงุดหงิด ขืนอยู่ต่อผมคงได้ต่อยปากมันแตกแน่ๆ แบงค์เรียกตามแต่ผมก็ไม่สนใจ เป็นใครก็คงต้องเคือง ทั้งที่มันเป็นเพื่อนผมมาตั้งหลายปี แทนที่จะเข้าใจหรือให้กำลังใจกันบ้าง กลับมาพูดจาแบบนี้

ผมเดินดุ่มๆ ตรงไปยังกลุ่มของน้ำหวานซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก สอดส่ายสายตามองหากัปตันว่าอยู่ตรงไห แต่พอไม่เห็นผมก็ร้องถามด้วยความแปลกใจ "น้ำหวาน กัปตันไปไหนน่ะ"

"ไปห้องน้ำ" น้ำหวานหันมาบอกขณะที่โพสต์ท่าให้กวินถ่ายรูปให้

เมื่อได้คำตอบผมก็เดินย้อนกลับไปทางเดิม ปล่อยให้น้ำหวานสนุกกับการถ่ายรูปลงเฟสบุ๊กต่อไป ทางไปห้องน้ำอยู่เลยตรงที่ผมนั่งคุยกับแบงค์ไปอีกหน่อย มีแนวต้นไม้ประดับกั้นทางเดินและสระว่ายน้ำเอาไว้ เดินไปได้หน่อยผมก็เห็นกัปตันเข็นรถมาตามทางเดินพอดี ผมจึงยิ้มและรีบเข้าไปหา กัปตันหยุดรถรออยู่ตรงนั้น

"แม่มึงกับพี่โดมใกล้ถึงยังวะ"

"อีกครึ่งชั่วโมง" กัปตันตอบสั้นๆ สีหน้าดูเรียบๆ

"กูโคตรตื่นเต้นเลยว่ะ" ผมเอามือถูกันไปมา ปกติผมจะทำแบบนี้บ่อยๆ เวลารู้สึกตื่นเต้น

กัปตันเข็นรถออกไปช้าๆ เขาจะไม่เข็นเร็วมากเวลามีคนเดินคุยด้วย แต่สำหรับคนที่ใช้ขาเดินอาจจะไม่ถือว่าช้าเท่าไหร่ ก็อย่างว่าใช้ขาเดินกับล้อเดินมันต่างกันอยู่แล้ว

"ตื่นเต้นเรื่องอะไร"

"กูกลัวแม่มึงรู้ไง"

"มึงจะกลัวไปทำไมวะ"

"ไม่รู้ว่ะ ไม่มีเหตุผลมั้ง" ผมขำตัวเองเบาๆ ก่อนบอกที่มาที่ทำให้ผมประหม่า "ก็เมื่อเช้ากูเพิ่งอัปเดตสเตตัสไปไง แม่มึงจะเห็นหรือเปล่าวะ"

"เขาไม่ค่อยมีเวลาดูหรอก" กัปตันตอบสั้นๆ

ที่จริงผมก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ไปบ้างแล้ว เพียงแต่ยังไม่ถึงกับเอะใจมาก เพราะบางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ อีกอย่าง ความสัมพันธ์ของผมกับกัปตันก็ราบรื่นดีในช่วงนี้ จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร

"เหรอ แล้วป๊ามึงล่ะ เขาดูเฟสบ้างเปล่า" ผมยังมิวายวิตกจริต

"ถ้ามึงจริงใจ มึงจะกลัวทำไมวะ คนจริงใจเขาไม่กลัวหรอกเว้ย" พูดจบกัปตันก็เข็นปรื๊ดทิ้งห่างผมไปหาเพื่อนๆ ทิ้งผมให้ยืนงงๆ อยู่คนเดียว

ไม่รู้ว่าเมื่อกี้กัปตันพูดด้วยความรู้สึกธรรมดาหรือประชดผมกันแน่ แต่มันก็ฟังดูทะแม่งๆ ชอบกล แถมท่าทางของกัปตันก็ดูแปลกๆ ไปด้วย

เมื่อไม่รู้แน่ชัด ผมก็โคลงศีรษะไปมาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินแกมวิ่งตามกัปตันไปหาเพื่อนๆ กะว่าจะขอถ่ายรูปเล่นด้วยซะหน่อย




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2017 10:50:28 โดย HuskyLover »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
กัปตันได้ยินแล้วเข้าใจผิดแน่ๆ :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด