Cr. Pic [Pinterest]
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด
#พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท01 l "เปิดตัว"✥ ✥ ✥ ต่อค่ะ 100% ✥ ✥ ✥“เป็นไงบ้างวันนี้” เสียงทักดังขึ้นให้คนที่กำลังจับกลุ่มกันอยู่หันไปมอง ก่อนจะยกมือไหว้กันเป็นแถวเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาในห้อง
“สวัสดีพี่”
กลุ่มคนมาใหม่ยกมือทักทาย ก่อนจะเดินไปนั่งบนโต๊ะภายในห้องที่เด็กคณะสถา’ปัตย์เรียกกันว่า ห้องสตูฯ เป็นห้องกว้างๆ ตรงกลางเป็นพื้นที่โล่งๆ ส่วนด้านข้างมีโต๊ะไม้ โต๊ะดราฟ วางเรียงเอาไว้ เป็นสถานที่ที่ทุกคนในคณะจะมาร่วมตัวกันบ่อยๆ ไม่นัดประชุม ก็ทำงานกันแบบไฟลนก้น พี่น้องพ้องเพื่อนช่วยกันทำ
“เด็กปีหนึ่งเป็นไงบ้างละ”
“ก็มีคนเด่นๆ นะพี่เจียว” ต๊อบ เฮดสันทนาการปีสองเป็นคนตอบคำถามของรุ่นพี่ปีสามในคณะ “ถ้าเด่นสุดๆ ก็มีอยู่สามคน”
“เด่นเพราะ” เจียว... หรือชื่อเล่นเต็มๆ ไข่เจียวถามรุ่นน้อง
“หลายอย่าง หน้าตา นิสัย ความกล้าแสดงออก พอดีสามคนนี้มันจับกลุ่มด้วยกันด้วยแหละพี่”
“หือ... แบบนี้เปิดเทอมก็อาจจะมีฮีโร่แล้วสิ”
“ก็ไม่แน่หรอกพี่ มันเด่นเพราะหน้าตาเป็นหลัก มีความกล้าแสดงออกก็จริงแต่พวกนี้มันจะนั่งเฉยๆ ไม่ค่อยเสนออะไร แต่ก็ช่วยเพื่อนในกลุ่มทำงานนะ แต่ออกแนวไม่อยากจะเด่นกันมากกว่า”
เจียวพยักหน้ารับกับคำพูดของรุ่นน้อง เพราะเขาก็พอจะนึกออก พวกที่โดดเด่นแบบคนอื่นดันให้เด่นโดยที่ตัวเองไม่อยากจะเด่น
“มาแนวเดียวกับไอ้เหนือเดือนเลยสิ”
“แล้วพวกพี่มาซ้อมบทกันเหรอ” ต๊อบถามกลับ “อ้าวแล้วพี่เหนือเดือนอ่ะครับ”
“อ้อนพ่อมันอยู่มั้ง เดี๋ยวมันก็มา เคยเห็นมันมาตรงเวลาไหมล่ะ กว่าจะลาก ขู่เข็น อ้อนวอนมันมาเป็นพี่วินัยได้นี่พวกกูแทบจะหมดตัว ไอ้ห่านี่เล่นตัวชิบหาย” บ่นไปถึงเพื่อนคนที่ถูกพาดพิงถึง
ผลัวะ!
ฝ่ามือเน้นๆ ปะทะเข้าที่ศีรษะของนายไข่เจียวจนหัวทิ่ม พอหันไปมองก็เห็นหน้าตา... กวนประสาทของเพื่อนตัวดี
“เดี๋ยวกูก็ไม่เป็นซะเลย นินทากู” พูดไปก็เลิกคิ้วมองไป ดันกระพุ้งแก้มตัวเองจนมันป่องออกมาข้างหนึ่ง
ไข่เจียวได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากจะตบมันกลับสักทีแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้ามันไม่ยอมมาเป็นพี่วินัยให้นี่แย่เลย เพราะไอ้เหนือเดือนคนนี้เวลาทำอะไรมันจริงจังมาก รวมไปถึงเวลาแกล้งทำหน้าโหด เสียงเข้ม แถมพี่ปีสี่ปีห้าก็บอกเองว่าให้ลากมันมาเป็นพี่วินัยให้ได้ ขืนมันหนีไปเขาได้โดนพี่ๆ เล่นงานสิ!
“เอ่อๆ ไปซ้อมบทต่อได้แล้ว มึงอย่าไปตัดผมโกนหนวดนะโว้ย ปล่อยๆ เอาไว้แบบนี้ก่อน”
“ทำไมต้องให้กูไว้หนวดไว้ผมแบบนี้ด้วยว่ะ กูละโคตรจะรำคาญเลย” เจ้าตัวว่า จับหนวดเครา กับผมที่เริ่มยาวของตัวเองอย่างไม่ชอบใจ “ให้กูเป็นพี่วินัยหน้าหล่อก็ได้นี่”
“เดี๋ยวน้องๆ จะไม่กลัวเอาน่ะสิพี่ พี่วินัยเล่นหล่อจนมองตามเคลิ้มแบบนี้สาวๆ คงกลัวกันหรอก แต่พี่ไว้หนวดไว้เคราแบบนี้ก็เท่ไปอีกอย่างนะ เถื่อนๆ ดี เหมือนผู้ร้ายข้ามชายแดนเลยพี่” พูดจบต๊อบก็หัวเราะชอบใจ โดยมีคนอื่นๆ ผสมโรงไปด้วยก่อนจะร้องโหยหวน อ้อนวอนขอชีวิตเมื่อโดนพี่เหนือเดือนไล่เตะไปรอบสตูฯ
“พอๆ ไอ้เหนือเดือน ไปซ้อมบทพี่วินัยได้แล้วมึงวันนี้พี่ปีสี่จะลงมาดูด้วย” ไข่เจียวเรียกเพื่อนตัวเองให้เลิกไล่กระทืบรุ่นน้อง
“กูชื่อเหนือเดือนที่ไหน ยาวกว่าชื่อเล่นกูอีกไอ้ฉายานี่เนี่ย” คนที่ถูกเรียกว่าเหนือเดือนพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วที่พวกมันเรียกเขาแบบนี้ เรียกกันซะจนคิดว่าตัวเองชื่อเหนือเดือนไปแล้ว
“ก็มึงแม่งเหมาะจะเป็นเดือนมากกว่ากูที่เป็นเดือนไง แต่เสือกไม่ยอมลงไง ถ้ามึงลง มึงก็ได้เป็นเดือนมหา’ลัยไปแล้ว” คราวนี้เป็นอีกคนพูด
“แต่มันไม่ลงก็ดีนะไอ้ดิว มันเลยได้ฉายาเหนือเดือนมหา’ลัยไปเลย เพราะแม่งหล่อกว่าเดือนมหา’ลัยอีก”
‘เหนือเดือน’ ตามที่ใครๆ เรียกได้แต่กรอกตาไปมาแต่ก็ไม่พูดอะไร พูดไปก็เท่านั้น ขี้เกียจพูดแล้วด้วย มันจะเรียกอะไรก็ช่างมันแล้วกัน
“มัวแต่พูดมาก ไหนว่าพี่จะมาดูไม่ไปซ้อมกันหรือไง”
“เออว่ะ! รีบไปเถอะ!” พูดจบก็ยกโขยงกันออกจากห้องสตูฯ ไปทั้งกลุ่ม
แบบที่รุ่นน้องปีสองได้แต่มองตามแล้วก็ส่ายหน้า
“มึงว่า... พี่วินัยปีสามปีนี้จะรอดไหมวะ...”เสียงฝีเท้าก้าวลงมาจากบันไดชั้นสอง ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาในห้องอาหาร มือยกขึ้นรวบผมที่ยาวเลยบ่ากว้างๆ มาเป็นหางม้าเอาไว้ข้างหลังอย่างลวกๆ
“เมื่อไหร่จะได้ตัดผม โกนหนวดโกนเคราออก” คนที่นั่งอยู่ในห้องอาหารร้องถาม ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นสภาพคนตรงหน้า
“ก็... จนกว่าจะรับน้องเสร็จครับ อีกสัก... เดือนสองเดือนถึงจะทำได้” เจ้าตัวพูด เดินไปหอมแก้มคนที่เอ่ยถามแล้วกอดแน่นๆ อีกหนึ่งที
“จั๊กจี้!”
ผละออกนิด เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยิ้มออกมาแบบที่คนโดนกอดชักร้อนๆ หนาวๆ “แล้ว... เวลาพ่อคินมีหนวดนิดๆ มาหอมมัม มัมจั๊กจี้ไหม”
“น้องกันต์!” คนหน้าแดงร้อง ยกมือตีลูกชายสุดที่รักไปที
“อะไรกันครับ เสียงดังออกไปถึงห้องนั่งเล่นเลย แล้วนั่น... ไปแกล้งอะไรมัมเขาอีกละเรา” ใครอีกคนเดินเข้ามาในห้องอาหาร รอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่บนใบหน้าที่แม้จะเข้าเลขสี่มาหลายปีแล้วแต่ก็ยังดูดีไม่เปลี่ยน
“น้องกันต์เปล่านะ แค่หอมแก้มมัมเอง” คนโดนหาว่าแกล้งมัมส่ายหน้าทันที ยิ้มตาใสใส่ “แล้วก็ถามมัมว่าเวลาพ่อคินไม่ได้โกนหนวดแล้วมาหอมแก้ม มัมจั๊กจี้เหมือนที่น้องกันต์หอมไหม”
น้องกันต์ ชนกันต์ กิจไพศาลกุล เด็กน้อยหัวเห็ดโตขึ้นมาเป็นหนุ่มรูปร่างสูง มีกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายแล้วก็ดูแลสุขภาพเป็นประจำ
ใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ถูกลดถอนด้วยหนวดเครา และทรงผมยาวๆ ดูน่ากลัวไปนิดกำลังแย้มรอยยิ้มชอบใจที่แกล้งหยอกมัมพัทธ์ของเขาได้
“เราก็ชอบแกล้งมัมเขาจริงๆ” พ่อคินที่ยังคงเป็นพ่อคินที่ใจดีของน้องกันต์เหมือนเดิมพูด ส่ายหน้ากับความช่างแกล้งของลูกชายคนโต
“ชอบแกล้งได้พ่อคินมาไงครับ” พูดจบก็หัวเราะชอบใจ
“พอเลย กินข้าวไปเลยครับ เดี๋ยวต้องไปส่งน้องที่โรงเรียนด้วยไม่ใช่หรือไง” มัมพัทธ์เป็นฝ่ายตัดบทสนทนาของพ่อลูก
“คร้าบๆ ว่าแต่น้องแพรละครับ” ถามไปถึงน้องสาวอีกคนที่ยังไม่เห็น
“น้องแพรอยู่นี่ค่ะ” เสียงใสๆ ดังมาก่อนที่ตัวจะเข้ามาถึงเสียอีก สาวน้อยผมหยักศกสีน้ำตาลที่ถูกรวมเป็นหางม้าแล้วก็ผูกโบว์เอาไว้เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะเดินหอมแก้มทุกคนบนโต๊ะอาหารแล้วก็นั่งประจำที่ของตัวเองข้างๆ พี่ชาย
“นี่ค่ะ ข้าวต้มของน้องแพร” พี่ชายสุดหล่อที่ตอนนี้ไม่ค่อยหล่อเพราะติดจะเถื่อนไปหน่อยเลื่อนชามใส่ข้าวต้มมาให้น้องสาวคนสวย
“ขอบคุณค่ะพี่กันต์” ยิ้มน่ารักส่งให้แล้วก็เริ่มลงมือทานมื้อเช้ากัน
“ถ้าเสาร์อาทิตย์จะกลับบ้านก็โทรมาบอกก่อนนะ พ่อคินจะได้รู้” พ่อคินพูดกับลูกชายตอนที่เดินมาส่งลูกทั้งสองคนที่รถ
“ครับพ่อคิน เดี๋ยวผมบอกอีกทีนะครับเพิ่งเปิดเทอมมีรับน้องด้วย ไม่รู้ว่าพวกปีสองจะนัดน้องๆ หรือเปล่า” กันต์ตอบ ตอนนี้เขาเป็นพี่สามของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
ปกติเวลาเปิดเทอมเขาก็จะไปอยู่คอนโดใกล้ๆ มหาวิทยาลัยที่พ่อคินซื้อให้ แต่ก็กลับบ้านเกือบจะทุกเสาร์อาทิตย์
“ตั้งใจเรียนนะคะน้องแพร ตอนเย็นพ่อคินไปรับนะ” หันไปพูดกับลูกสาวบ้าง
“ค่ะพ่อคิน สวัสดีค่ะ” น้องแพรยกมือไหว้ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของพี่ชาย
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของกันต์ เจ้าตัวที่ต้องออกจากบ้านแต่เช้าอยู่แล้วก็อาสาไปส่งน้องสาวที่โรงเรียนเอง ส่วนน้องแพรตอนนี้เป็นเด็กมัธยมปีที่สี ตามจริงน้องควรจะอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้วแต่เพราะตอนเด็กๆ ไม่ได้เข้าเรียนตามเกณฑ์อายุ อีกทั้งยังมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กทั่วไปเพราะไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเลยทำให้ช่วงปีสองปีแรกคินกับพัทธ์ต้องจ้างครูมาสอนให้ที่บ้านเพื่อเป็นการปรับพื้นฐาน แล้วจึงเริ่มเข้าเรียน
“ที่โรงเรียนโอเคใช่ไหมคะ เรียนเข้าใจหรือเปล่าถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามคุณครูเขานะคะ หรือจะโทรมาถามพี่กันต์ก็ได้” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถามกับน้องสาวตัวน้อย หันมามองก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนส่งยิ้มหวานมาให้
“เข้าใจค่ะ กับเพื่อนๆ น้องแพรก็เข้ากันได้ดีค่ะ” เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทุกคนในบ้านต่างเป็นห่วงและเป็นกังวล
กลัวว่าน้องแพรจะเข้ากับเพื่อนๆ ในห้องไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งอายุที่ต่างกันสองปี แต่คงเพราะน้องแพรเป็นคนน่ารัก นิสัยดีความแตกต่างเรื่องอายุจึงหมดไป และนั่นก็ทำให้กันต์ รวมไปถึงพ่อคินและมัมพัทธ์สบายใจ
“ดีแล้วล่ะค่ะ น้องแพรเข้ากับเพื่อนๆ ได้พี่กันต์ก็สบายใจ ยังไงก็ต้องตั้งใจเรียนนะคะรู้ไหม”
สาวน้อยพยักหน้ารับ “ค่ะพี่กันต์ น้องแพรจะตั้งใจเรียน เรียนจบสูงๆ จะได้มาช่วยมัมช่วยพ่อคิน แล้วก็จะได้มาคอยช่วยพี่กันต์ ตอนที่พี่กันต์กลับมาดูแลบริษัทของมัม”
“พี่ยกให้ค่ะ”
“ไม่ค่ะ” พอได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นก็รีบค้านทันที “น้องแพรไม่ได้มีสายเลือดโดยตรง อ่ะๆ อย่าเพิ่งค่ะพี่กันต์ น้องแพรไม่ได้ดูถูกตัวเอง ไม่ได้คิดร้ายกับตัวเอง น้องแพรรู้ค่ะว่าทุกคนรักน้องเหมือนคนในครอบครัว น้องแพรก็คิดอย่างนั้นค่ะ”
“ดีแล้วค่ะ ไม่ว่าใครจะคิดหรือจะพูดยังไง พี่กันต์อยากให้น้องแพรจำเอาไว้ว่าน้องแพรคือครอบครัวของพวกเรานะคะ” กันต์หันมามองน้องสาวของตน ยกมือลูบผมน้องเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มกว้าง
น้องแพรรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีสายเลือดเกี่ยวข้องอะไรกับทุกคนในครอบครัวนี้ รับรู้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยที่ยังไม่กล้าพูด แต่น้องแพรไม่เคยคิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ไม่มีพ่อแม่แท้ๆ เลี้ยงดู แต่น้องแพรกลับคิดว่านี่คือความโชคดีที่สุด โชคดีที่ได้เจอครอบครัวนี้ ได้เป็นหนึ่งในครอบครัวนี้ และน้องแพรเองก็คิดเสมอว่าทุกคนเป็นผู้มีพระคุณที่จะต้องดูแลและตอบแทน
“พี่กันต์โชคดีนะ ที่มีน้องสาวอย่างน้องแพร”
“น้องแพรก็โชคดีค่ะ ที่มีพ่ออย่างพ่อคิน มีแม่อย่างมัมพัทธ์แล้วก็มีพี่ชายอย่างพี่กันต์”
“ค่ะ เอาล่ะ... ถึงแล้ว” กันต์เลี้ยวรถของตนเข้ามาจอดหน้าโรงเรียนของน้องแพร “ตั้งใจเรียนนะคะ เอาไว้เจอกันนะ”
“ค่ะ แล้วเจอกันนะคะพี่กันต์”
กันต์นั่งมองน้องสาวของตัวเองที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนยิ้มๆ อยู่รอส่งจนกระทั่งเห็นน้องสาวเดินเข้าไปในอาคารเรียนแล้วถึงได้ขับรถออกจากบริเวณหน้าโรงเรียน และตรงไปมหาวิทยาลัยต่อทันที
รถ SUV สัญชาติยุโรปเลี้ยวเข้าจอดในลานจอดรถใกล้ตึกคณะสถาปัตย์ เจ้าตัวยกยิ้มพอใจเมื่อได้ที่จอดรถใกล้ๆ กับคณะ เพราะปกติที่จอดดีๆ แบบนี้หายากยิ่งกว่าอะไร ปกติบริเวณนี้จะเป็นที่จอดรถของอาจารย์แต่ก็จะมีที่ว่างให้สำหรับนักศึกษาเข้ามาจอดได้ อีกทั้งยังใกล้กับโรงอาหารกลางด้วย ร่างสูงก้าวลงจากรถ แต่งกายถูกระเบียบผิดกับหน้าที่ติดเถื่อนๆ ปิดรถเรียบร้อยก็เดินก้าวไปยังคณะของตัวเองทันที
ร่างสูงยืนรอลิฟต์โดยระยะหนึ่งเมตรรอบตัวนั้นไม่มีคน แต่ถัดออกไปนักศึกษายืนรอลิฟต์กันให้เพียบ ได้แต่ยกมือขึ้นลูบคางตัวเองอย่างสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ใช้สายตากวางมองไปรอบๆ
น่าจะเป็นเด็กปีหนึ่ง...ดูจากการแต่งกายที่ถูกระเบียบ
“สวัสดีค่ะ / ครับพี่ต๊อบ พี่นัท พี่โอ” กันต์หันไปมองตามเสียง เห็นเด็กปีหนึ่งยกมือไหว้คนที่เดินมาใหม่กันหน้าสลอน
แต่ดูเหมือนคนที่เพิ่งเดินเข้ามาจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะเจ้าตัวยกมือไหว้กันต์ที่ยืนรอลิฟต์อยู่ ทำเอาเด็กใหม่สะดุ้งกันเป็นแถบ เพราะรู้แล้วว่าบุคคลหน้าตาเถื่อนๆ คนนี้เป็นรุ่นพี่ในคณะ แถมยังไม่มีใครยกมือไหว้เลยสักคร
“หวัดดีครับพี่”
กันต์พยักหน้าลงนิด ส่งเสียงในลำคออย่างรับรู้การทักทายของรุ่นน้องปีสองคนนี้ “อือ”
“มีเรียนเช้าเหรอครับ” อีกฝ่ายยังถามต่อ
“ประมาณนั้น” เขาตอบยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อลิฟต์ที่รออยู่นานก็มาถึงเสียที
กันต์ก้าวเข้าไปคนแรก ตามด้วยปีสองอีกสามคน ส่วนปีหนึ่งมองหน้ากันเลิกลั่กอย่างไม่แน่ใจว่าควรเข้าไปหรือเปล่า
“เรียกน้องคุณเข้ามาสิ” สั่งเรียบๆ กับน้องปีสอง แต่ปีหนึ่งก็ก้าวพรึบเข้ามากันอย่างพร้อมเพียงแบบพี่ปีสองไม่ต้องสั่งซ้ำ
กันต์เหมือนจะได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะในลำคอจากรุ่นน้องปีสองทั้งสามคน นึกอยากจะยกมือตบกะบาลพวกนี้ไปคนละที
มันคงขำที่เห็นเด็กปีหนึ่งกลัวเขา แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่ามีอะไรให้น่ากลัว
“ขนาดยังไม่ได้เปิดตัวพี่วินัย น้องๆ ก็กลัวกันหัวหด” เจ้าต๊อบ หัวหน้าสันทนาการปีสองว่าอย่างขำขันหลังจากปีหนึ่งออกจากลิฟต์กันไปหมดแล้ว
“กูน่ากลัวขนาดนั้นเลย” เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
แค่ไว้หนวดไว้เคราผมยาวรุงรังแค่นี้เอง
“เอาน่าพี่เหนือเดือน เดี๋ยวพอหมดประชุมเชียร์โกนหนวดโหนเคราออกน้องๆ ก็คงพากันกรี๊ดอยู่แล้วล่ะพี่ เล่นหล่อล้ำเดือนคณะทุกชั้นปีหมดแบบนี้”
“แล้วทำไมไม่ให้กูเป็นพี่วินัยหล่อๆ วะ” คราวนี้เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วแทน
“ก็บอกไปแล้วไงพี่ เดี๋ยวน้องๆ จะหลงหน้าพี่จนไม่กลัว แบบนี้แหละดีแล้ว”
“เออๆ” รับคำอย่างไม่เรื่องมากก่อนจะเดินออกจากลิฟต์เพราะถึงชั้นที่กดพอดี
ขาที่กำลังเดินไปยังห้องเรียนชะงักก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้า เขาก้าวต่อเข้าไปในห้องเรียนก่อนจะกดรับโทรศัพท์
“ครับพ่อคิน”
[ส่งน้องเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ แล้วนี่ถึงมหา’ลัยหรือยังครับน้องกันต์]
“เรียบร้อยครับ น้องกันต์ส่งน้องแพรที่โรงเรียนแล้ว แล้วตอนนี้ก็ถึงมหา’ลัยแล้วด้วยครับ"
[โอเคครับ อย่างนั้นเท่านี้แหละครับ กลางวันอย่าลืมกินข้าวนะ เอาไว้เจอกันครับ]
“ครับพ่อคิน แล้วเจอกันครับ” กดวางสาย เดินไปนั่งที่เก้าอี้ว่างข้างๆ เพื่อนในกลุ่ม "มองไรของพวกมึง”
นายไข่เจียวถึงกับมองแรง “ทีคุยกับพ่อละ ครับอย่างนู้น น้องอย่างนี้ ทีคุยกับพวกกูละแทบจะแดกพวกกูเข้าไป”
กันต์เลิกคิ้วนิด ก่อนจะยกยิ้ม “อย่างพวกมึงกูแดกไม่ลงหรอก”
“สัส!”
หัวเราะชอบใจที่ทำให้เพื่อนหงุดหงิดได้
ในกลุ่มของกันต์มีสมาชิกอยู่ด้วยกันหกคนรวมเจ้าตัว แบ่งได้เป็นหญิงแกร่งสอง ชายหนุ่มสี่ เป็นกลุ่มที่รวบรวมคนหน้าตาเคยดีเอาไว้ ที่ต้องบอกว่าเคยดีเพราะสี่หนุ่มไว้หนวดเคราจนจำหน้าเดิมแทบไม่ได้ ส่วนสองสาวก็ยังคงสวยอยู่แม้ว่านิสัยจะแกร่งเกินชายก็ตามที
“เมื่อกี้ตอนกูขึ้นมา เจอน้องปีหนึ่งแม่งกลัวกูกันเป็นแถว” กันต์ว่าอย่างขำๆ “นี่ขนาดพวกเราวินัยยังไม่ได้ลงเลยนะเนี่ย”
“เออๆ ตอนกูขึ้นมาก็เจอ แค่ไว้หนวด ทำหน้านิ่งๆ ยืนเงียบๆ ก็ทำให้คนกลัวได้ว่ะ ตลกดีนะ แต่แม่กูนี่ด่ากูชิบหายเรื่องกูไว้หนวดแบบนี้”
“มัมกูก็บ่น บอกว่าไว้หนวดแบบนี้แล้วบดบังหน้าหล่อๆ ของกูหมด”
พอได้ยินพูดแบบนั้นเพื่อนในกลุ่มไม่เว้นแม้แต่สองสาวก็แทบจะถุยน้ำลายใส่ ส่วนตัวคนพูดก็หัวเราะชอบใจ ผิดกับมาดตอนอยู่ในลิฟต์กับน้องปีหนึ่ง
เขามีหน้าที่ในฐานะพี่ปีสามคือเป็นพี่วินัย หรือคณะอื่นๆ เรียกว่าพี่ว้ากนั่นแหละ จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะเป็นแต่พวกรุ่นพี่ปีโตๆ ขอมา อีกทั้งเพื่อนผู้ชายในกลุ่มก็เป็นกันหมด เขาก็เลยตกลงไปด้วย
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องไว้หนวดไว้เครา ปล่อยผมยาวแบบนี้ แม้จะขัดใจนิดหน่อย กับรู้สึกแปลกๆ เพราะเขาไม่เคยปล่อยตัวให้โทรมอย่างนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร
คนมันหล่อ... จะให้เถื่อนแค่ไหนก็กลับรัศมีความหล่อไม่มิดหรอกนะ
************************************************
สวัสดีจ้า หลังจากที่เปิดตัวละครเอกของเราไปหนึ่งคนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว วันนี้พาตัวละครอีกคนของฟางมาเปิดตัวจ้า ค่าตัวพี่เขาแพงน่ะจ้า ดีกรีดีขนาดนี้ไม่แพงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ฟางเลยพาออกมาได้ยากหน่อย ฮี่ๆๆ
อีกอย่าง... ฟางไปออกบูธมาค่ะ 6 วันติด วันนี้นอนยาวทั้งวันไม่ไปไหน ไม่ทำอะไรเลย เพิ่งฟื้นคืนสภาพเมื่อตอนเย็น เลยมาอัพนิยายให้จ้า ฟางฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ คิดว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอยากอ่านและรอคอยกันอยู่เนอะ สำหรับเรื่องนี้ฟางอยากให้มันดูสนุกๆ ฮาๆ แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งได้หรือเปล่า ยังไงก็ติดตามแล้วให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ