Cr. Pic [Pinterest]
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด
#พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท03 l “เมธาวิน บริสตัน”คนที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาขยับไปมาก่อนที่หัวทุยๆ จะโผล่ออกมา ใบหน้ายับยู่ยี่เพราะเพิ่งตื่นนอนหันซ้ายหันขวาก่อนจะยื่นมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกที่ส่งเสียงรบกวน
เจ้าตัวบิดขี้เกียจไปรอบก่อนจะล้มตัวลงนอนต่ออย่างคนไม่อยากจะลุกขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็คว้าเอาโทรศัพท์มือถือมากดดูการแจ้งเตือน เลือกกดเข้าแอพสีเขียวทักทายแฝดคนพี่ที่อยู่ห้องข้างๆ อย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน
‘เลิกส่งสติ๊กเกอร์มากวนได้แล้ว!’เสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์เรียกเสียงหัวเราะจาก เดียร์ เมธาวิน บริสตัน ได้เป็นอย่างดี อีกฝ่ายคงรำคาญที่เขารัวสติ๊กเกอร์ไปหาไม่หยุดจึงได้อัดเสียงตัวเองส่งมาแบบนี้ การได้ก่อกวนแฝดยามเช้าเป็นอะไรที่บันเทิงใจมาก
เมื่อก่อกวนคนอื่นเรียบร้อยเจ้าตัวก็ลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฮัมเพลงอย่างสบายอกสบายใจไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมายเพราะวันนี้มีเรียนบ่าย แต่ก็นัดกับไอ้ทัชเอาไว้แล้วว่าจะเข้าไปทำสมุดเพลงกันที่คณะ ไม่แน่ใจว่ามันโทรนัดกับเพื่อนใหม่อย่างหินผาหรือยัง แต่ก็คงเรียบร้อยแล้วล่ะนะ
แต่งตัวเรียบร้อยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นไอ้เพื่อนรักส่งข้อความมาพอดีว่าอีกสิบนาทีเจอกันที่ชั้นจอดรถ นัดกับหินผาเอาไว้แล้วที่ร้านข้าวหน้ามหา’ลัย
เขาส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับไป หันมาดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกรอบ เช็คป้ายชื่อว่าอยู่และไม่เสียหายอะไรก็หันไปคว้ากระเป๋ามาสะพายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แตะคีย์การ์ดของตัวเองที่ลิฟต์เพื่อรอให้ลิฟต์เปิดก่อนจะกดลงไปที่ชั้นจอดรถ เห็นเพื่อนรักยืนอยู่ที่รถพอดีเจ้าตัวจึงรีบก้าวเดินไปหา
“แกล้งอะไรไอ้ฮาร์ทอีกละ เห็นเดินหน้าบูดออกไป กูจะทักเลยไม่กล้าทักเลย” ทัชทักทันทีที่เห็นเดียร์
เจ้าตัวหัวเราะชอบใจ ในขณะที่อีกคนทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจว่าไอ้ตัวเตี้ยมันหัวเราะอะไร เดียร์โบกมือเป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายเปิดรถก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่ง
ที่จริงแด๊ดดี๊ก็จะซื้อรถให้คนละคัน แต่เดียร์ไม่เอาเพราะขี้เกียจรับผิดชอบ ผิดกับแฝดคนพี่ที่พยักหน้ารับทันทีตอนได้ยินแด๊ดดี๊เปรย ตอนนี้ก็ได้รถสัญชาติยุโรปที่มีโลโก้เป็นรูปดาวสามแฉก ส่วนเขาก็อาศัยเกาะพี่เกาะเพื่อนเอา สบายจะตายไม่ต้องขับเองให้ปวดขา
“ตกลงไปแกล้งอะไรมันจริงๆ สินะ” ทัชถาม ดูหน้าแฝดคนพี่กับแฝดคนน้องก็พอจะรู้เรื่องแล้ว
“เปล่าสักหน่อย” พูดไปก็หัวเราะไป นึกหน้าพี่ชายที่ทำหน้าบูดหน้าบึ้งแล้วก็ขำ “ก็แค่กลัวพี่ชายตื่นสาย ไปเรียนไม่ทัน ไอ้เราก็เป็นห่วงก็เลยส่งสติ๊กเกอร์ไปปลุก”
เดียร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเปิดเสียงที่พี่ชายฝาแฝดส่งมาเมื่อตอนโดนเขาป่วนให้เพื่อนฟัง
“เป็นกู กูไม่แค่ส่งข้อความเสียงมาหรอก กูตามมาเตะมึงถึงห้องเลย” ทัชส่ายหัวกับนิสัยชอบแกล้งของเพื่อนรัก
ไอ้สองคนนี้ก็ไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันแกล้งไปมา ตอนเด็กๆ นี่แกล้งกันแบบไม่ยอมแพ้เลย แต่พอโตมาฮาร์ทก็ไม่ค่อยแกล้งเท่าไหร่แล้ว ก็นะ... อีกฝ่ายเขาเหมือนโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ไอ้แฝดน้องเนี่ยเหมือนโตมาเป็นเด็ก เขาละนับถือแด๊ดดี๊กับมัมมี๊ของพวกฝาแฝดเลยที่อดทนเจ้าพวกนี้มาได้ เป็นเขาละเตะโด่งไปแล้ว
เดียร์หัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน “เอ่อๆ แล้วไอ้ผาอ่ะ นัดกันแล้วเรียบร้อย”
“เออ เรียบร้อย มันไปรอที่ร้านแล้วมั้ง หอมันใกล้ร้านข้าวมากกว่า” ทัชตอบ
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงร้านอาหารที่นัดกันกับเพื่อนใหม่ โชคดีที่มีที่จอดรถว่างพอดี ทัชถึงได้ขับรถเข้าไปจอด เดินไปหน้าร้านก็เห็นเพื่อนรูปหล่อยืนกดโทรศัพท์เล่นอยู่แล้ว
ท่าทางมันอย่างกับนายแบบ หุ่นมันดี ผิวก็ดีถึงจะไม่ได้ขาวผ่องเหมือนอย่างเดียร์ก็เถอะ แต่ก็แปลกดีมันเป็นคนเหนือแท้ๆ แต่ผิวมันก็ไม่ได้ขาวอย่างที่เดียร์คิดว่าคนเหนือต้องผิวขาว
“ไง” ส่งเสียงทักทาย
หินผาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยักคิ้วให้ “กูกำลังจะทักไปถามเลยว่าถึงไหนแล้วจะให้กูสั่งข้าวไว้ก่อนไหม”
“เอ่อๆ ไปหาไรกินกันดีกว่า เดี๋ยวต้องเข้าไปทำสมุดเพลงอะไรนั่นอีก” ทัชว่า ยกมือกอดคอเพื่อนเตี้ย แล้วก็เพื่อนตัวสูงพอๆ กับเขาเข้าไปในร้านอาหารติดแอร์เย็นฉ่ำ
ไม่ได้ไฮคลาสที่นั่งกินข้าวข้างทางไม่เป็น แต่ดูแดดประเทศไทยเถอะ เก้าโมงสิบโมงแดดอย่างกับเที่ยงวัน เลือกได้ก็ขอนั่งตากแอร์เย็นฉ่ำดีกว่า
“เมื่อไหร่จะหมดรับน้องนะ” เดียร์พูด พ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เจ้าตัวเอากระเป๋าของตัวเองทาวางบนตักแล้วก็กอดเอาไว้ คางเกยอยู่บนกระเป๋า
“อันนี้ก็ไม่รู้แหะ... ปกติเขารับกันนานไหมวะ” ทัชเองก็ส่ายหน้าอย่างไม่รู้
หินผาเองก็ไหวไหล่แล้วก็ส่ายหน้าไปมา “กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่กิจกรรมคงมีเกือบตลอดปีมั้ง นี่คณะเรายังไม่ได้หาคนประกวดดาวเดือนเลยนี่ แล้วไหนจะกีฬาเฟรชชี่อะไรอีก”
“เออว่ะ!....” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน
“กูจะเสียสละตัวเองด้วยการไม่ลงกีฬาห่าอะไรเลย” เดียร์ว่า
“จ้า พ่อคนเสียสละ”
หินผาหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนใหม่สองคนนี้ ได้รู้จักกับทั้งสองคนเป็นอะไรที่สนุกสนานมากทีเดียว
“โย่ว พี่ชาย”
ทัชกับหินผาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเดียร์เอ่ยทักใครบางคน พอทัชเห็นก็ยิ้มกว้างยักคิ้วให้เพราะรู้จักกันดี ผิดกับหินผาที่ทำหน้าอึ้งไป
คนมาใหม่กรอกตาไปมา ไม่คิดว่าจะเจอน้องชายฝาแฝดของตัวเองที่นี่
“มานี่ๆ จะแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จัก” เดียร์กวักมือเรียกพี่ชายฝาแฝด “นี่หินผา เพื่อนใหม่ในคณะเรา ผานี่พี่ชายฝาแฝดชื่อฮาร์ท”
“หวัดดี” หินผาทักทายพร้อมกับยิ้มให้
ฮาร์ทเองก็ส่งยิ้มกลับไปให้ ยกมือเขกหัวน้องชายไปที “โทษฐานก่อกวนเมื่อเช้า มัมโทรมาถามว่าอาทิตย์นี้จะกลับบ้านไหม”
“ทำไมมัมไม่โทรหาเราอ่ะ” เดียร์งอแงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “ต้องรอดูก่อนว่าพี่เขาจะนัดหรือเปล่า นายกลับไหม”
“ยังไม่แน่ใจ แต่บอกมัมไปแล้วว่าเดี๋ยวบอกอีกที ไปล่ะไว้เจอกัน” ฮาร์ทพูดกับเดียร์ก่อนจะหันไปหาทัชที่เขาเองก็สนิทสนมมา “ไว้เจอกันมึง” รวมถึงลาเพื่อนใหม่ของน้องชายฝาแฝดด้วย
“ฝาแฝด เหมือนกันมากเลยนะ” เมื่อคนหน้าเหมือนหายไปจากโต๊ะแล้ว หินผาก็พูดขึ้นมาทันที “หน้าเหมือนกันมากเลย”
“ไม่นะ กูว่ากูหล่อกว่า” พูดแล้วก็หัวเราะคิกคักชอบใจ โดนเพื่อนรักอย่างทัชโบกไปทีเลยได้แต่หันไปมองตาขวาง
“มันเหมือนกันแค่หน้า ตอนเด็กๆ แม่งเหมือนกันกว่านี้อีกเพราะตัวเท่าๆ กัน ต่างกันแค่สีตา ไอ้นี่มันได้แม่มันมา ส่วนไอ้นู้นได้สีตาของพ่อ แต่ตอนนี้แยกง่ายแล้วเพราะไอ้นี่มันเตี้ย ไอ้นั่นมันสูงกว่า” ทัชร่ายประวัติของเพื่อนสนิท รู้จักกันมานาน เข้าออกบ้านบริสตันมาหลายรอบ
“สัส! เดี๋ยวกูก็สูง”
“สีตา... อ่า จริงสวยแฝดนายตาสีสวยมาก เป็นลูกครึ่งเหรอ” หินผาถามอย่างสนใจ ตัวเขาเองก็มีพี่ชายแต่หน้าตาไม่เหมือนกัน แล้วก็ไม่เคยรู้จักคนที่มีฝาแฝด พอเจอแบบนี้ก็รู้สึกสนใจมากทีเดียว
“ไม่หรอก ลูกครึ่งน่ะแด๊ด พวกเรานี่ลูกเสี้ยวแล้ว แต่เชื้อแด๊ดแรง ยิ่งน้องสาวนะ ไปทางแด๊ดหมดเลย สีผม สีตา หน้าตาฝรั่งจ๋ามาก” เดียร์เองก็เล่าอย่างไม่ปิดบัง ก็ไม่รู้จะปิดไปทำไมเรื่องแบบนี้
“จริงเหรอ”
“หยุดเลยไอ้ผา ทำไมทำท่าทางสนใจขนาดนั้น ไม่ยกน้องสาวให้นะโว้ยบอกเลย” เดียร์หรี่ตามองเพื่อนทันที
หินผาหัวเราะ “ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่สนใจเพราะเพื่อนที่เชียงใหม่นู้นก็ไม่มีฝาแฝด แล้วก็ไม่มีลูกครึ่งอะไรแบบนี้ด้วยน่ะ”
“แล้วไป”
“แต่กูจะบอกอะไรให้นะ เลิฟ... น้องสาวมันน่ะ สวยอย่างนี้เลย” ทัชว่า ยกนิ้วโป้งให้พร้อมขยิบตาให้เพื่อนใหม่ สุดท้ายก็เลยโดนพี่ชายของน้องสาวตบเข้าให้จนหน้าเกือบจะทิ่มโต๊ะ
“ไอ้เตี้ย!” หันมากระซิบเสียงโหดใส่คนที่ลอยหน้าลอยตา ตั้งท่าจะเอาคืนไอ้เพื่อนเตี้ยตัวดีแต่ก็โดนขัดเสียก่อน
“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งตีกัน รีบกินก่อนดีกว่าไปๆ มาๆ จะสิบเอ็ดโมงแล้ว เดี๋ยวต้องเข้าไปทำสมุดเชียร์อีกนะโว้ย”
เป็นหินผาที่เบรกเพื่อนทั้งสองคน เดียร์กับทัชชะงักก่อนจะก้มมองเวลาแล้วร้องออกมาพร้อมๆ กัน คราวนี้ละจากที่คุยกันเฮฮาก็พากันยัดข้างเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ จนไม่สามารถคุยกันได้
ถึงคณะก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงสามสิบนาที เลทจากที่ตั้งใจเอาไว้ไปครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพื่อนๆ ที่ไม่มีเรียนก็มากันเยอะพอสมควร แต่ละคนก็ก้มหน้าก้มตาตัดกระดาษให้เป็นขนาด A6 เพื่อทำสมุดเพลง
พวกเขาทั้งสามคนมองหาที่ว่างๆ ก่อนจะเจอเพื่อนในเซคชั่นเดียวกันนั่งอยู่จึงเดินไปรวมกลุ่ม ถามเอาว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างก่อนจะเริ่มลงมือทำ
สมุดเพลงขนาด A6 ประมาณยี่สิบหน้า กระดาษข้างในเป็นกระดาษถนอมสายตา ส่วนหน้าปกก็ใช้กระดาษคราฟท์ ที่มันเป็นสีน้ำตาลมาทำ
“เดี๋ยวกูไปดูหน้าปกให้ว่าเขียนยังไง” หินผาอาสาก่อนจะลุกไปขอเพื่อนที่ทำสมุดเสร็จแล้วดูว่าหน้าปกเขียนอะไรบ้าง
คณะพวกเขาให้ความสำคัญกับความเป็นหนึ่งเดียวมาก เพราะอย่างนั้นหน้าปกสมุดเพลงนี้ก็ต้องเขียนเหมือนกัน ใช้ปากกาเบอร์เดียวกัน ถ้ามีเวลาทำบล็อกตัวอักษร เขาก็เชื่อว่าคงทำไปแล้ว
เดียร์เหยียดขาออกไปด้านข้างเพราะรู้สึกเมื่อยหลังจากนั่งตัดกระดาษมาได้สักพัก ไม่ได้ตัดทำแค่ของตัวเอง แต่ก็ตัดเผื่อเพื่อนคนอื่นๆ ที่ยังมาไม่ได้ด้วย เพื่อนกันก็ต้องคอยช่วยเหลือกัน
“เมื่อยชิบหายเลย” บ่นออกมาเบาๆ เอนหลังพิงเพื่อนทัชอย่างสบายอารมณ์
“สัสเดียร์ หนัก!”
“แปบนึง ให้กูพิงหน่อย”
“กูไม่ใช่พี่มึงไม่ต้องมาอ้อนกู ไม่ได้ผลหรอก” ทัชว่า
เดียร์ได้แต่ทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ เอาหลังกระแทกเพื่อนไปทีก่อนจะเปลี่ยนไปพิงหินผาที่เดินมานั่งลงข้างๆ แทน
“อะไรเนี่ย”
“เมื่อย พิงหน่อย” เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวสูงกว่าแล้วยิ้มทะเล้น
“มึงอย่ายอมมันมาก เดี๋ยวมันเคยตัวไอ้คุณหนูนิสัยเสีย!” ทัชว่าอย่างหมั่นไส้ในตัวเพื่อนรัก
“คุณหนูเชี่ยไรมึง”
“ก็มึงไงไอ้คุณหนู คุณหนูน้อยของบริสตัน กูละไม่เข้าใจจริงๆ ว่ายายยุพินเรียกมึงว่าคุณหนูน้อยไปได้ยังไง ไม่ได้มีความเป็นคุณหนูน้อยเล้ย!”
“เพราะกูน่าเอ็นดูไง” พูดไปก็เอียงคอซ้ายขวาประกอบคำพูด
“น่าเอ็นดูตายห่า”
“หรือมึงจะดูเอ็นกูล่ะ หา~”
หินผาหลุดขำพรืด ส่วนทัชที่กำลังกรีดกระดาษก็เผลอกรีดกระดาษเสียไปตอนที่ได้ยินคำพูดของเพื่อน เกือบจะได้เลือดแล้วไหมล่ะ หันมาโบกหัวเพื่อนรักไปอีกรอบ
“ไอ้ห่า! เอาหน้าตาแบ๊วๆ ของมึงไปพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อย ไอ้ลามกจกเปรต”
คนโดนโบกชักสีหน้าใส่แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก “มึงนี่ก็เอาแต่โบกกู เดี๋ยวกูจะฟ้องแด๊ด!”
“เออ เอาเลย กูก็จะฟ้องมัมของมึงว่ามึงพูดจาลามก”
เดียร์ได้แต่ชี้หน้าเพื่อนตัวดี ไอ้นี่ชอบเอามัมมี๊ของเขามาขู่อยู่เรื่อย คิดว่าได้ผลหรือยังไงกัน คนอย่างเดียร์ เมธาวิน บริสตัน น่ะหรือจะกลัว
ก็แค่เกรงใจ... เท่านั้นเอ๊งมัมมี๊ของเขาไม่ค่อยใหญ่หรอก แค่เป็นรองคุณย่ามรกตแค่นั้นเอง แล้วก็แค่ใหญ่กว่าแด๊ดดี๊ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นประธานบริษัทจิเวล บริสตันก็แค่นั้นเอ๊ง!
“พวกมึงนี่ตลกดีชะมัดเลย” หินผาว่าหลังจากที่นั่งหัวเราะเพื่อนทั้งสองคนเถียงกันจนเจ็บท้องไปหมด “อยู่กับพวกมึงนี่กูน่าจะขำตายได้เลยนะเนี่ย”
“เอาๆ ใจเย็นมึง เดี๋ยวก็กรามค้าง นอนละเมอหรอกคืนนี้” ทัชหันไปตบหลังหินผาที่ยังหัวเราะไม่หยุด
นี่ก็งงกันนะว่ามันจะหัวเราะอะไรนัก นี่เถียงกับไอ้เตี้ยนะ ไม่ได้เล่นตลกกับไอ้เตี้ย ถึงจะได้มาขำจนท้องแข็ง น้ำตาไหลแบบนี้
************************************************
กลับมาแล้วค่า หลังจากห่างหายไปร่วมเดือนวันนี้ฟางกลับมาแล้วคร้าบบบ คิดถึงเค้าไหม คิดถึงเค้าเปล่า?? ฮี่ๆๆ
เอาเจ้าน้องมาฝากกันค่ะ ส่วนใครคิดถึงเจ้าพี่รอก่อนน้า ตอนนี้เป็นตอนของเจ้าน้องค่ะให้นางหน่อยค่าตัวนางแพง ความทะลึ่งทะเล้นนี่นางได้ใครมา มัมก็ไม่ใช่ แด๊ดก็ไม่น่าใช่ ได้มัมกับแด๊ดมาแล้วหารครึ่งเลยออกมาเป็นอย่างเจ้าน้องนี่แหละ เป็นบุคคลที่ฟางรู้สึกอยากจะเข้าไปดึงแก้มสองข้างให้ยืดออก รู้สึกมันเขี้ยวเจ้าน้องยังไงบอกไม่ถูกค่ะ ฮ่าๆๆ
ยังไงก็ฝากติดตามแล้วก็เอ็นดูเจ้าน้องกับเจ้าพี่ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ