Cr. Pic [F.GC]
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด
#พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท07 l “สุดยอดเชฟกระทะเหล็ก”* * * ต่อค่ะ 100% * * *
เสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้นเรียกสายตาจากทุกคนที่อยู่ภายในห้องได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่เดียร์จะเดินไปเปิดประตูดิวก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปเปิดประตูให้เอง ไม่นานไข่เจียวที่เดินไปปลุกเพื่อนที่ห้องก็เดินเข้ามาตามมาด้วยดิวและคนที่ถูกบอกว่าเป็นสุดยอดเชฟ
เดียร์ไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าจะใช่สุดยอดเชฟจริงหรือเปล่า เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายดูจะไม่ให้กับการยืนหน้าเตาทำครัวเลยสักนิด โดยเฉพาะตอนนี้... ใบหน้าคมคายนั้นบูดบึ้ง ดูๆ ไปแลวก็เหมือนหมีอดกินน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้นเลย
“ไปๆ ไอ้กันต์ไปทำอะไรมาให้กินหน่อย พวกกูหิวมาก ทำเผื่อน้องๆ พวกนี้ด้วยนะ” ป่าไม้เงยหน้าขึ้นมาทักทายเพื่อนสนิท แบบที่คนโดนทักก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ บ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังหงุดหงิดได้ที่
“ห้องครัวอยู่นั่น พวกของเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว” ดิวชี้ไปทางห้องครัว แต่อีกฝ่ายก็ยังมองนิ่งๆ
“โอ๊ย! เชี่ยนี่ แม่งชอบกัดจังวะ” ไข่เจียวร้องออกมาเมื่ออยู่ๆ ก็โดนหมีอดกินน้ำผึ้งกัดเข้าที่ไหล่ ยกมือตบหัวเพื่อนสนิทไปทีแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายปล่อย “เชี่ยกันต์! ปล่อยกู โดนปลุกทีไรแม่งชอบหงุดหงิดแล้วก็มาเที่ยวไล่กัดเพื่อน ไอ้หมาบ้าปล่อยโว้ยกูเจ็บ ไอ้สัส!!”
คนโดนตบหัวปรายตามองเพื่อนตัวเองตาขวางก่อนจะยอมปล่อยไหล่ของไข่เจียวแต่โดยดี ส่วนดิวกับป่าไม้ก็หัวเราะชอบใจผิดกับน้องคนอื่นๆ ที่มองอย่างงุนงง
“ไปมึง กูส่งมึงลงแข่งทำอาหารกับน้องเดียร์ กูอยากจะรู้ว่าใครจะเก่งกว่ากัน มึงงัดเมนูเด็ดมาแข่งเลย” ป่าไม้ร้องบอก
กันต์หันมามองเดียร์ที่ยังยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าตาปริบๆ ตาเรียวที่ฉายแววหงุดหงิดอยู่จ้องมองเขาอยู่แบบนั้นจนเดียร์เริ่มจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ขายาวของคนตัวโตกว่าก้าวไปใกล้จนเดียร์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง พออยู่ใกล้กันแบบนี้เดียร์ถึงได้รู้ว่าความสูงของเขากับคนตรงหน้านี่ต่างกันไม่น้อยเลย
“อ... เฮ้ย!”
“ไอ้เชี่ยกันต์!!!”
“น้องมันไม่ใช่ของกินโว้ย!!”“มึงจะกินหัวน้องไม่ได้ไอ้สัส!!”เสียงร้องของทุกคนดังออกมาแทบจะพร้อมกันเมื่ออยู่ๆ คนที่ยืนตาขวางก็ก้มหน้าลงไปกัดหัวรุ่นน้อง คนที่โดนกัดหัวได้แต่ร้องด้วยความตกใจแล้วก็นิ่งอึ้งไป ส่วนบรรดาเพื่อนสนิทต่างก็ส่งเสียงด่าเพื่อนตัวเองทันที
“มานี่เลยมึง” ดิวเดินไปลากเพื่อนของตัวเองไปทางห้องครัว
ป่าไม้กับไข่เจียวก้าวตรงมาหารุ่นน้องทันที ยกมือปัดๆ เช็ดๆ หัวอีกฝ่ายให้ก่อนที่ไข่เจียวจะพูด “ขอโทษทีนะ พอดีว่าพี่ไปแกล้งมันนิดหน่อยตอนปลุก มันเลยหงุดหงิด อีกอย่างเวลามันโดนรบกวนตอนมันหลับมันจะหงุดหงิดๆ แบบนี้แหละ เหมือนหมีจำศีลน่ะ”
“แล้วแม่งก็ประหลาดชิบหาย ชอบไล่กัดคนอื่นไปทั่วเวลาหงุดหงิดเพราะโดนปลุก พวกพี่โดนบ่อยเลยชินแล้ว ตกใจสินะ ขอโทษทีๆ เดี๋ยวพี่ไปตบหัวมันให้อีกรอบนะ” ป่าไม้ขอโทษแทนเพื่อนตัวเอง
“... ม ไม่เป็นไรพี่ ผมแค่ตกใจนิดหน่อย” เดียร์พูดหลังจากที่หาเสียงตัวเองเจอ
จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ตกใจนิดหน่อยแต่เรียกว่าช็อกค้างไปเลยท่าจะถูกต้องกว่า ไข่เจียวกับป่าไม้สำรวจร่างกายรุ่นน้องอีกรอบก่อนจะเดินเข้าไปในครัว เหมือนจะได้ยินเสียงคนร้องดังออกมา แต่เดียร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนที่ร้องเสียงเหมือนพวกไข่เจียวกับป่าไม้มากกว่าเสียงของหมีจำศีลคนนั้น...
“ไอ้สัสนี่! นี่มันแขนกูไม่ใช่ไส้กรอก ไอ้ควาย! ถึงกูจะมีไส้กรอกแต่ก็ไม่ให้มึงแดกหรอกไอ้สัส! ไม่ใส่รสนิยมกู!!”
“เขี้ยวมึงเพิ่งงอกหรือไงไอ้ห่า!! เดี๋ยวกูเอากระดูกมาให้แทะเล่น เชี่ยกันต์!!!!~ เลิกกัดกูแล้วไปทำกับข้าว”
เดียร์หันไปมองเพื่อนสนิทอย่างทัชกับหินผา ทั้งสองคนก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้จะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้อย่างไรดี
“เอ่อ... น้องเดียร์ เข้าไปทำอาหารเถอะ เดี๋ยวงานตรงนี้พวกพี่ช่วยเอง มารบกวนแบบนี้ก็เกรงใจ” ดิวที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวเรียก ด้านหลังมีไข่เจียวกับป่าไม้เดินตามมาด้วย
“เอ่อ...” เดียร์ชักจะไม่แน่ใจว่าสมควรจะเข้าไปในครัวตอนนี้ดีไหม ท่าทางลังเลของรุ่นน้องปีหนึ่งก็ทำให้ดิวเข้าใจได้ทันที
“มันคงไม่กัดแล้วล่ะ กัดพวกพี่จนพอใจแล้ว เข้าไปเถอะ ถ้ามันกัดก็ถีบมันได้เลย”
เดียร์ยิ้มแหย หันไปมองเพื่อนรักอีกรอบซึ่งทั้งสองคนก็พยักหน้าให้ เขาเลยหันไปพยักหน้ารับกับรุ่นพี่แล้วเดินเข้าไปในครัว แอบชะงักเล็กน้อยตอนที่อีกฝ่ายเงยหน้าจากการตีไข่ขึ้นมามอง
“อย่ามากัดผมนะโว้ย...” ออกตัวไว้ก่อนถึงแม้ว่าไข่เจียวกับป่าไม้จะบอกเอาไว้แล้วว่าคงไม่โดนกัดอีกแน่
“ทำไม กลัวหรือยังไงกัน” อีกฝ่ายถามกลับพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่แบบที่เดียร์ก็เตรียมถอยหลังทันที กันต์หัวเราะชอบใจที่เห็นท่าทางนั้น “ไม่กัดแล้ว กัดไอ้พวกบ้านั่นไปจนพอใจล่ะ แล้วไง... ไอ้พวกนั้นบอกว่าจะให้แข่งทำอาหาร”
“พวกพี่เขาก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ว่าแต่... พี่ทำอะไร” เมื่อแน่ใจว่าจะไม่โดนกัดแล้วแน่ๆ เดียร์จึงเดินเข้าไปในครัว ก็แอบไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมทั้งๆ ที่เป็นครัวของห้องเขาเอง แต่เขาเหมือนเป็นคนอื่นที่มาขอใช้ครัวเสียอย่างนั้น
“ข้าวผัด แล้วก็มีไก่ผัดพริกสด เต้าหู้ทรงเครื่อง เห็นไอ้ไข่ย้อยมันซื้อเครื่องต้มยำมาด้วยก็คงทำต้มยำอีกอย่าง พอไหมวะเนี่ย...” ตอบคำถามไปก็เปิดถุงดูของสดที่เพื่อนซื้อมาให้ “พวกเรากินกันเก่งไหม”
“หือ... ห๊ะ อะไรนะพี่” เดียร์ถามอีกรอบเพราะเขาไม่ทันได้ฟัง มัวแต่มองท่าทางคล่องแคล่วของอีกคนอยู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าหน้าตาแบบนี้ก็ทำอาหารเป็นกับเขาด้วย
“พี่ถามว่าพวกเรากินกันเก่งไหม”
“อ๋อ... ก็ครับ”
“อย่างนั้นเดี๋ยวทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่างแล้วกัน อะไรดีนะ...” คนตัวสูงว่าก่อนจะวุ่นวายกับการเปิดถุงที่พวกไข่เจียวซื้อมาพลางนึกเมนูอาหารไปด้วย
“ผมมีปีกไก่น่องไก่อยู่ ทำไก่ทอดเกลือไหมละครับ”
“ก็ดีนะ อย่างนั้นฝากด้วยแล้วกัน” กันต์พยักหน้ารับกับเมนูอีกที่ฝ่ายเสนอมา ก่อนที่เขาจะหันไปทำอาหารต่อ
เดียร์ยืนมองอีกฝ่าย ก่อนจะผละไปหยิบปีกไก่ในตู้เย็นออกมาเพื่อเตรียมทำเมนูไก่ทอดเกลือ “เดี๋ยวผมทำแพนเค้กเป็นของหวานปิดท้ายด้วยแล้วกัน”
“หือ... ทำได้ด้วยเหรอ” กันต์หันมามอง
“จริงๆ ผมไม่ถนัดพวกของหวานหรอก แต่ถ้าแพนเค้กก็ทำได้อยู่ ผมชอบกินก็เลยฝึกทำ เมนูเด็ดของผมเลยด้วย” พูดอย่างยืดๆ ถึงแม้ว่าเมนูของหวานอื่นจะทำไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเมนูแพนเค้กนี้ละก็... อร่อยแน่นอน ไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะแต่สูตรการทำเนี่ยได้มาจากร้านขนมหวานเจ้าอร่อยเลยนะเออ
“จะเอาเมนูนี้ลงแข่งว่างั้น”
“ผมชนะแน่นอน!”
กันต์ยกยิ้ม “ก็ลองดู”
แล้วการแข่งขันสุดยอดเชฟกระทะเหล็กก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อสิ้นคำพูดของกันต์ เดียร์เดินไปหยิบของจำเป็นออกมาก่อนจะเริ่มลงมือทำ เจ้าตัวเลือกทำเมนูไก่ทอดเกลือก่อน ถึงแม้เขาจะทำอาหารเป็นแต่ก็ไม่ได้คล่องแคล่วขนาดหยิบจับอะไรได้รวดเร็ว ต่างกับคนข้างๆ ที่แม้มาดจะไม่ให้แต่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ดูคล่องไปเสียทุกอย่าง
เห็นแล้วก็อดที่จะจิ๊ปากไม่ได้ นึกหมั่นไส้ปนๆ กับจะไม่ยอมแพ้เจ้าตัวถึงได้หันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำเมนูของตัวเองไป
ใช้เวลาไปไม่น้อยเลยทีเดียวกว่าจะทำเสร็จทุกเมนูเพราะครัวก็ไม่ได้ใหญ่ ทั้งเตาทั้งกระทะก็มีอยู่แค่นี้ แรกๆ ก็ต้องแข่งกันเลยทีเดียวว่าใครจะไวกว่าหยิบกระทะใช้เตาได้เร็วกว่ากัน
กันต์ส่ายหน้าเมื่อโดนเจ้าเด็กจอมป่วนแย่งกระทะไป นึกอยากจะกัดหัวอีกสักทีข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ นึกแล้วก็ขยับเข้าไปใกล้จนคนที่กำลังจะทอดไก่ต้องหันมามอง
“อะไรของพี่ ผมใช้อยู่อย่าเพิ่งมากวนดิ ถอยไปเลยๆ”
กันต์ไม่ตอบอะไรนอกจากอ้าปากขึ้นแล้วคนที่โดนกัดหัวมาก่อนก็ชะงักไปทันที “ย อย่ามากัดผมนะโว้ย! ไหนบอกจะไม่กัดแล้วไง ว๊าก!! พี่ไข่เจียว พี่ป่าไม้ ไอ้พี่กันต์จะกัดผมมมม”
เดียร์ร้องตะโกนลั่นก่อนจะได้ยินเสียงตึงตังแล้วบรรดารุ่นพี่และเพื่อนจะโผล่พรวดเข้ามาในครัว ดิวเข้าไปดึงเพื่อนตัวเองออกมาทันที “อะไรของมึงเนี่ยกันต์”
“อะไร กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” คนโดนดึงว่าอย่างไม่ใส่ใจ ก็เขายังไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นี่นะ
“มึงนี่ก็นะ แล้วทำเสร็จยังเนี่ย พวกกูหิวชิบหายแล้วตอนนี้” ป่าไม้ถามขึ้น พลางส่ายหัวให้กับเพื่อนรัก
“ยัง แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว รอเด็กนั่นทำเสร็จก่อนกูจะได้ทำต่อ กูเตรียมเครื่องไว้หมดแล้วเหลือแค่ผัด” กันต์ว่าพลางชี้นิ้วไปที่เดียร์ที่ยังยกตะหลิวขึ้นตั้งการ์ดป้องกันตัวอยู่
เด็กนั่นที่ว่าแยกเขี้ยวใส่เหมือนจะขู่ว่าอย่าเข้ามาใกล้เชียว กวักมือเรียกเพื่อนรักทั้งสองคนให้มาเป็นการ์ดคอยรักษาความปลอดภัยเพราะกลัวว่าหมีจำศีลที่อดกินน้ำผึ้งจะเข้ามาทำร้าย แล้วจึงหันกลับไปทำอาหารที่ค้างเอาไว้อยู่ โชคดีนะที่ยังไม่ทันได้เปิดเตาไม่อย่างนั้นได้ไหม้หมดแน่!
หลังจากนั้นไม่นาน เดียร์ก็ทำอาหารเมนูไก่ทอดเกลือเสร็จ เหลือเพียงแค่เมนูของหวานอย่างแพนเค้กที่เขาผสมแป้งเอาไว้แล้วและเก็บใส่ตู้เย็นไปแล้ว ตั้งใจว่ากินข้าวกันเสร็จแล้วเขาถึงจะมาทำแพนเค้กให้
ครัวถูกส่งต่อให้กับหมีจำศีลจัดการเมนูอาหารส่วนที่เหลือที่เจ้าตัวบอกเอาไว้ ส่วนเดียร์ก็ออกไปนั่งตัดโมเดลต่อกับเพื่อนๆ แล้วก็รุ่นพี่ ปล่อยอดีตพี่วินัยหน้าเหี้ยมเอาไว้ในครัวคนเดียว ก่อนเดินออกจากครัวก็ไม่วายหันไปแลบลิ้นใส่จนหมีจำศีลอ้าปากขู่จะเข้ามากัดหัวอีกถึงได้รีบวิ่งออกจากครัว
“เพื่อนพี่เขาชอบกัดคนไปทั่วหรือไงกันครับ” เดียร์ถามด้วยความสงสัยระหว่างหยิบกระดาษลอนมาตัดเป็นกระเบื้องหลังคา
“มันชอบกัดเวลาโดนปลุกน่ะ” ดิวตอบคำถามของรุ่นน้อง
“เออ เกือบได้วางมวยกันไปแล้วตอนโดนมันกัดครั้งแรก” ไข่เจียวบอก
“แต่ก็ไม่ทุกครั้งหรอกนะ ถ้าหากไม่ไปแกล้งมันก่อน แต่ที่มันชอบกัดแบบนี้ก็เพราะไอ้พวกนี้ชอบไปแกล้งมัน คนโดนแกล้งให้ตื่นนอนใครๆ ก็หงุดหงิดใช่ไหมละ มันเลยกัดเข้าให้ไง” ดิวว่าต่อ แบบที่ไข่เจียวกับป่าไม้ก็หัวเราะชอบใจ
“จะกินตรงไหน” เสียงของคนที่ถูกนินทาอยู่ดังขึ้นให้พวกเขาหันกลับไปมอง
“ตรงนี้ก็ได้พี่ ยังไงที่โต๊ะก็ไม่พอนั่งอยู่แล้ว เดี๋ยวเคลียร์ที่ก่อน” ทัชตอบรุ่นพี่ ก่อนที่พวกเขาจะจัดการเคลียร์เศษไม้เศษกระดาษให้เรียบร้อย เลื่อนโมเดลที่เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้นออกไปห่างๆ จากตัว
ยกโต๊ะกาแฟมาตั้งเอาไว้แทนเพื่อเอาไว้วางอาหาร ไข่เจียวเข้าไปช่วยกันต์ยกอาหารออกมา แต่ละอย่างดูหน้าตาน่าทานด้วยกันทั้งนั้น จนเดียร์กับทัชต้องเงยหน้ามองรุ่นพี่ตัวสูงอย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าจะทำอาหารเก่งแบบนี้
“เอาละครับ ต่อไปนี้คือเมนูเด็ดของวันนี้นะครับผม” ไข่เจียวว่า ในมือทั้งสองข้างถือจานเอาไว้ “ข้าวผัดสูตรเด็ดโดยเชฟกระทะเหล็กของเรา”
ป่าไม้ที่เดินถือจานตามออกมาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ไข่เจียว แล้วทั้งสองคนก็ทำตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟเดินมายืนอยู่หลังพวกรุ่นน้องก่อนจะวางจานในมือนั้นลง
“เมนู... ข้าวผัดคุณหมีครับผม!!”รุ่นน้องที่ได้ยินชื่อเมนูก็หลุดร้องหาออกมาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะตาโตเมื่อจานข้าวนั้นถูกวางลงตรงหน้า ข้าวผัดสีสวยที่ถูกจัดเป็นรูปหมีที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม ห่มผ้าด้วยไข่เจียวสีเหลืองสวยราดด้วยซอสมะเขือเทศเป็นริ้วๆ รอบๆ จานก็ตกแต่งด้วยผักแล้วก็ไส้กรอกชิ้นโต
แถมทุกจานก็ยังตกแต่งออกมาได้เหมือนกันหมดแทบจะไม่มีจุดแตกต่างเลยสักนิด
เดียร์กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำเมนูนี้สลับกับจานตรงหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ถึงกับอึ้งไปเลยครับผม” ไข่เจียวว่าพร้อมกับหัวเราะ ยกมือกอดรอบคอเชฟมือหนึ่งประจำกลุ่ม “นี่เป็นเมนูเด็ดของหมอนี่เลยนะ ถ้าได้รู้จักกับมันแล้วไม่เคยได้กินข้าวผัดคุณหมีนี่ถือว่ารู้จักไม่จริง ไม่เรียกว่าสนิท”
“ใช่แล้วล่ะ ลองกินดูสิ อร่อยนะ มาๆ มากินกันเลยดีกว่า” ดิวว่า ขยับลงนั่งข้างๆ รุ่นน้องก่อนที่คนอื่นจะนั่งลงตาม เพื่อเตรียมจัดการกับอาหารกลางวันที่กว่าจะได้กินก็บ่ายแล้ว
ทัชกับเดียร์หันมองหน้ากันก่อนที่เจ้าตัวจะตักข้าวผัดที่แสนจะน่ารักตรงหน้าขึ้นกิน
“อร่อย!” ทัชพูดหลังจากกลืนข้าวคำนั้นลงไปแล้ว “อร่อยจริงๆ นะพี่ ข้าวผัดคือไม่แฉะแต่ก็ไม่แห้งเกินจนติดคอ”
“บอกแล้วว่าอร่อย” ป่าไม้ยักคิ้วก่อนที่จะเริ่มลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้ากันบ้าง
ทัชเอ่ยชมอาหารทุกอย่าง รสชาติอร่อยถูกปากเขามาก อร่อยกว่าร้านอาหารชื่อดังหลายๆ ร้านเสียอีก “สุดยอดเลยพี่ ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะทำกับข้าวอร่อย ใช่ไหมมึง”
เดียร์ที่ถูกเพื่อนลากเข้าสู่บทสนทนาเหลือบมองคนทำอาหาร ไม่อยากจะยอมรับให้เสียเชิงแต่อาหารพวกนี้ก็อร่อยจริงๆ นั่นแหละ สุดท้ายก็เลยพยักหน้ารับ “อือ”
“บ้านพี่มีร้านอาหารด้วยเหรอ ทำไมถึงทำอาหารเก่งแบบนี้ล่ะครับ” ทัชถามคนทำด้วยความสนใจ
“มีร้านขนมหวาน พ่อพี่เปิดร้านขนมหวานน่ะ อยู่ด้วยมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นพ่อกับแม่ทำขนมทำอาหารตลอดก็เลยสนใจ เลยฝึกทำกับที่บ้านนั่นแหละ”
“แล้วทำไมต้องเป็นข้าวผัดหน้าหมี”
“ข้าวผัดคุณหมี...” เจ้าของเมนูหันไปแก้คำทันทีที่ได้ยินเดียร์ถามขึ้น “พ่อทำให้กินตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็เป็นเมนูแรกที่ฝึกทำ เวลาทำข้าวผัดก็เลยติดทำเป็นข้าวผัดคุณหมีแบบนี้ไปแล้ว”
“เมนูนี้เด็ดจริงครับ” ทัชยกนิ้วให้ก่อนจะหันไปหาเพื่อนรักตั้งแต่เด็ก “แล้วมึงเอาเมนูอะไรเข้าแข่ง”
“แพนเค้ก”
“แพนเค้กหมีน้อยอ่ะเหรอ” ทัชเลิกคิ้วถาม เคยได้กินแพนเค้กฝีมือเพื่อนคนนี้อยู่เหมือนกัน
“นั่นแหละ เตรียมแป้งไว้แล้วเดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะไปทำ” เดียร์ตอบก่อนจะฉีกยิ้มให้กับทุกคน “รอกินแพนเค้กแสนอร่อยของผมได้เลย นี่ผมได้สูตรเด็ดมาจากร้านขนมโปรดของผมเลยนะ”
“พี่นี่รอกินเลย ว่าแต่เมื่อกี้ชื่อเมนูอะไรนะ” ไข่เจียวถาม
“แพนเค้กหมีน้อยครับผม”
คำตอบนั้นทำเอากันต์ที่กำลังตักข้าวเข้าปากชะงักไปทันที เขาเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มกว้างโอ้อวดความอร่อยของแพนเค้กหมีน้อย
กระทั่งทุกคนจัดการกับอาหารตรงหน้าจนหมด เดียร์ก็ลุกเข้าไปในครัวเพื่อทำแพนเค้กต่อ ส่วนทัชกับหินผาก็ช่วยเคลียร์จานชามไปเก็บล้าง พวกรุ่นพี่ก็นั่งคุยเล่นกันอยู่หน้าโทรทัศน์เหมือนเดิม
เพราะไม่ได้ทำอะไรกันต์จึงมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจห้องของเด็กปีหนึ่ง ภายในไม่แตกต่างจากห้องของเขาเป็นแบบหนึ่งห้องนอน แบ่งสัดส่วนห้องครัวกับห้องนั่งเล่นชัดเจน การตกแต่งเป็นแบบมินิมอล ดูเรียบง่ายตาก็ลงตัว เน้นใช้โทนสีสว่างอย่างสีขาว ครีมผสมผสานเข้ากับสีของไม้โทนอ่อน
แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดสำหรับกันต์ไม่ใช่การตกแต่งห้องหรือของแต่งห้องอะไร แต่เป็นกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนโซฟาที่ถูกย้ายไปมุมห้อง กระเป๋าเป้สีดำที่มีพวงกุญแจห้อยเอาไว้ เขาเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นอย่างตั้งใจ ก่อนที่ตาจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นมันอย่างชัดเจน
หันกลับไปมองคนที่เดินถือจานใส่แพนเค้กหอมๆ มา อีกฝ่ายกำลังตั้งใจพรีเซนต์เมนูตรงหน้าจึงไม่ได้สนใจกับสายตาของกันต์ที่จดจ้องอยู่ที่เจ้าตัว
“นี่เลย~ แพนเค้กหมีน้อย รับประกันความอร่อย นุ่ม ฟู หอมหวาน” เจ้าของเมนูว่าพลางวางจานลงบนโต๊ะ แพนเค้กเนื้อนุ่มสีสวยถูกทำเป็นรูปหมี ใช้ซอสช็อกโกแลตวาดลงรายละเอียดใบหน้าให้หมี รอบๆ จานก็ใช้ซอสช็อกโกแลตวาดเป็นลวดลายเอาไว้ “นอกจากจะเอาสูตรเขามาแล้ว ผมยังเอาวิธีแต่งจานมาจากร้านเขาด้วย”
“ร้านนั้น... ใช้ชื่อเมนูว่าแพนเค้กหมีน้อยเหรอ” กันต์ถามออกไป
ดูภายนอกก็เหมือนกับร้านอื่นๆ ที่ทำแพนเค้กเป็นรูปหมี “หรือว่าใช้ชื่อเมนูว่าแพนเค้กคุณหมีน้อย”
เดียร์เอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ ก่อนจะทำหน้านึก “อือ... ประมาณนั่นแหละพี่ ผมก็ไม่แน่ใจจำมาแต่งแพนเค้กหมีน้อยๆ ร้านนี้ชอบตั้งชื่อเมนูเป็นหมีน้อย คุณหมีอะไรพวกนี้ แล้วก็มีเมนูที่ทำเป็นรูปหมีเยอะด้วย”
“ผมชอบขนมร้านนี้มากเลย อร่อยมาก ผมให้แด๊ดพาไปบ่อยๆ หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็ขอให้แด๊ดซื้อกลับมาให้ตลอดเลย” เดียร์ยังคงเล่าต่อไปเพราะคนอื่นเองก็ตั้งใจฟังอยู่เหมือนกัน
จะมีก็แค่คนเดียวที่ไม่ได้ฟังอะไรแล้วตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายเล่า “ตอนเล็กๆ นะ ผมเคยไปที่ร้านแล้วหนีมัมไปเที่ยวที่สวนสาธารณะ หลงทาง หกล้มอีก เจ็บก็เจ็บ โชคดีที่พี่ลูกเจ้าของร้านมาเจอผมแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนจนแด๊ดมาเจอ”
‘ฮือออ... เค้าจะหาแด๊ดดี๊ หามัมมี๊ ฮือออออ’
‘ลุกไหวไหม เดี๋ยวพาไปหาแด๊ดดี๊กับมัมมี๊ไง’
‘ฮือออ เค้าเดินไม่ไหว เค้าเจ็บ ฮือออ... แงงงง แด๊ดดี๊ มัมมี๊’เด็กตัวเล็กที่ร้องไห้งอแงเจ็บขา จะไปหาแด๊ดดี๊มัมมี๊ย้อนเข้ามาในความทรงจำ เด็กตัวเล็กที่เขาบังเอิญเจอระหว่างเดินจากโรงเรียนไปที่ร้านของพ่อคิน เด็กตัวเล็กที่อายุห่างจากเขาไม่กี่ปีแต่ตัวเล็กนิดเดียว
‘น้องตัวเล็ก’ ที่อยากจะเจออีกแต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอเลยทั้งๆ ที่รู้มาว่าอีกฝ่ายไปหาเขาที่ร้านบ่อยครั้ง
‘น้องตัวเล็ก’ ที่ฝากพ่อคินบอกเขาเสมอว่าขอบคุณที่ช่วยเจ้าตัวเอาไว้วันนั้น
‘น้องตัวเล็ก’ ที่ฝากพ่อคินบอกเขาว่าเจ้าตัวชอบขนมที่เป็นรูปหมีทุกอย่าง และขนมพวกนั้นเขาเป็นคนขอร้องให้พ่อคินทำขายเพราะเขาชอบหมีเลยอยากให้ที่ร้านของพ่อคินมีขนมรูปหมีขายเยอะๆ
‘น้องตัวเล็ก’ ที่เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากเจอทั้งๆ ที่ก็ผ่านมานานเป็นสิบปีแล้ว
************************************************
อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาอัพ ขอโทษด้วยค่ะ พอดีว่ามีงานต้องเอากลับมาทำทุกวันเลยค่ะ แล้วเมื่อวันอาทิตย์ฟางก็ไปสอบมาเลยไม่ได้มาอัพ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่อยากสัญญาเลยว่าจะกลับมาอัพทุกอาทิตย์เพราะเดี๋ยว 27 ต.ค. – 5 พ.ย. มีออกบูธอีก แล้วก็งานประปรายที่บางทีก็เร่งบางทีก็ไม่เร่ง แต่ยังไงก็จะพยายามมาเท่าที่จะทำได้นะคะ
สำหรับตอนนี้... ทุกคนทายถูกด้วยอ่ะว่าพี่กันต์จะทำเมนูข้าวผัดคุณหมี แหม... แต่จะเป็นเมนูอื่นได้ยังไงละเนอะ ก็เมนูนี้นี่บ่งบอกความเป็นตัวตนของพี่หมีกันต์เลยจ้าาาา เจ้าพี่รู้แล้วเน้อว่าเจ้าน้องเดียร์คือละอ่อนคนนั้น เอิ่ม... ไม่ใช่แล้ว ฮ่าๆๆ พี่หมีกันต์รู้แล้วว่าเดียร์คือน้องตัวเล็ก อั๊ยะ แล้วจะเป็นยังไงต่อไปละเนี่ย แล้วเมื่อไหร่น้องจะรู้บ้างละว่าพี่หน้าโหดคนนี้คือพี่ใจดีเมื่อตอนนั้น~~~~~~~~ รอลุ้นเลยว่าจะเป็นยังไงต่อไป ฮี่ๆๆ
ปอลอ. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายของฟางจ้า ขอบคุณนะคะ
ปล. เหตุการณ์รับน้อง การเรียนการสอน รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่ใส่ในนิยาย บางส่วนฟางเอามาจากชีวิตจริงที่ฟางได้เจอมาตอนเรียน บางส่วนฟางแต่งเติมเสริมขึ้นมาเอง และได้รับการอนุญาตจากทาง รศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
อ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่กันต์น้อยใจแย่เลย รักพี่กันต์เมนต์ รักน้องเดียร์เมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ