Cr. Pic [F.GC]
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด
#พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท08 l “น้องตัวเล็ก”* * * ต่อค่ะ 100% * * *
“ชานมไข่มุกแก้วครับ / ชานมไข่มุกหนึ่งแก้วครับ” สองเสียงดังขึ้นพร้อมกันจนคนที่เอ่ยสั่งหันมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะชะงักกันไป
“ตอนนี้ไข่มุกหมด รบกวนรอประมาณสิบนาทีนะคะ จะเปลี่ยนเมนูหรือเปล่าคะ” พนักงานของร้านทวนเมนูพร้อมมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมา
“ครับ ผมรอ”
“ผมด้วย”
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานรับคำก่อนจะจดออเดอร์ลงบนกระดาษ ก่อนจะหันไปรับออเดอร์ของลูกค้าคนถัดไป ให้พวกเขาสองคนต้องขยับออกมาจากบริเวณหน้าร้าน
“พี่... มาเที่ยวไกลเนอะ” หลังจากที่ยืนเงียบกันร่วมนาทีเดียร์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน ให้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมามอง
“อือ... พวกนั้นมันชอบมาเที่ยวที่นี่กัน ว่าแต่ผม คุณเองก็มาเที่ยวไกลนะ” กันต์ตอบกลับไป
“อ่ะ... อ่า...” เดียร์ชะงักกับคำแทนตัวของอีกฝ่าย
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็... เปล่าครับ แค่ตามพี่ไม่ทันเพราะเดี๋ยวก็แทนตัวเองว่าพี่ เดี๋ยวแทนตัวเองว่าผม ผมก็เลยงงๆ นิดหน่อยน่ะครับ” เดียร์ตอบคำถาม ครั้งแรกที่คุยกับอีกฝ่ายหลังจากที่หมดกิจกรรมรับน้องแล้วอีกฝ่ายก็แทนตัวเองว่าผม แต่อีกรอบก็แทนตัวเองว่าพี่ จนคนฟังก็ชักจะงงแล้วก็สับสนเหมือนกัน
กันต์นิ่งไปกับคำพูดของเดียร์ เขาลอบมองคนที่ยืนอยู่ข้างกัน ก่อนจะเบนสายตากลับไปด้านหน้า มองตรงไปอย่างไม่มีจุดโฟกัส “แล้ว.... ไหน”
“ค ครับ... อะไรนะครับ” เดียร์หันไปมองเพราะได้ยินคำถามไม่ชัดเนื่องจากว่าอีกฝ่ายพูดเสียงเบาเสียเหลือเกิน
“แล้ว... ชอบแบบไหน” กันต์ถามออกมาอีกรอบ เพิ่มความดังของเสียงขึ้นอีกจนอีกฝ่ายได้ยินอย่างชัดเจน
“หือ... หมายถึงที่พี่แทนตัวเองน่ะหรือครับ ยังไงก็ได้ครับแล้วแต่ที่พี่ถนัด แต่ถ้าถามความรู้สึก... ผมก็ชอบแบบพี่มากกว่า ดูเป็นกันเองมากกว่า”
ยังไม่ทันที่กันต์จะได้พูดอะไร เสียงของพนักงานก็ร้องบอกว่าน้ำที่พวกเขาสั่งนั้นได้แล้ว กันต์จึงก้าวไปรับน้ำทั้งสองแก้วมาพร้อมกับจ่ายเงินเรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาหาเดียร์ที่ไม่ทันได้ฟังเสียงของพนักงานจึงไม่รู้ว่าน้ำที่สั่งไว้ได้เรียบร้อยแล้ว
“อย่างนั้น พี่จะแทนตัวเองแบบนี้ก็แล้วกัน” ชานมไข่มุกในมือยื่นไปให้อีกฝ่ายที่รับไป
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมให้... อ้าว...” เดียร์พูดเตรียมจะหยิบกระเป๋ามาเปิดเพื่อหยิบเงินส่งให้ แต่อีกฝ่ายกลับยกมือกดหัวเขาเบาๆ ก่อนจะเดินแยกไป จนต้องรีบก้าวตามไปทันที “พี่กันต์ เดี๋ยวก่อนครับ”
เดียร์ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเดินเร็ว ก้าวขายาว หรือเพราะทั้งสองอย่างกันแน่ เพียงแค่ระยะทางแค่นี้เขาถึงกับต้องวิ่งตามมา และคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสักเท่าไหร่อย่างเขาก็ถึงกับหายใจหอบ
“มีอะไร” คนเดินเร็วหันมาถามเมื่อได้ยินเสียงเรียกของอีกฝ่าย
“ค่าน้ำครับ” เดียร์พูดพร้อมกับส่งเงินให้อีกฝ่าย
กันต์มองคนที่ส่วนสูงน้อยกว่าตัวเองนิ่งจนคนที่มองกลับมาใจเริ่มแป๋ว เหมือนเห็นวิญญาณพี่วินัยซ้อนทับอยู่ตรงหน้าอย่างไรอย่างนั้น ความห่างระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้นหนึ่งก้าวเมื่อเดียร์ก้าวถอยหลังแบบไม่รู้ตัว
ไม่ได้กลัวนะ นี่ตั้งท่าเตรียมสู้กลับต่างหาก
พอเห็นคนตรงหน้าก้าวถอยหลังไปเหมือนจะหวั่นๆ เกรงๆ แต่ก็ตั้งท่าขู่กลับแบบนั้น ก็ทำให้คนหน้านิ่งหลุดขำออกมา ตอนก่อนที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายคือน้องตัวเล็ก เวลาเห็นทำท่าแบบนี้ก็นึกขบขันเสมอ แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไม รู้สึกว่าท่าทางนั้น... น่าเอ็นดู
“ไม่เป็นไร พี่เลี้ยง”
“หา... ค ครับ”
“บอกว่าเลี้ยง น้ำนั่นน่ะ” ชูแก้วชานมในมือตัวเองเป็นเชิงบอก
เดียร์ก้มมองน้ำในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่บอกว่าจะเลี้ยงอีกรอบ ก่อนจะยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่คนมองรู้สึกแปลกๆ ว่าเหมือนจะงานเข้าตัวเองอย่างไรอย่างนั้น แล้วก็ไม่ผิดอย่างที่คิดเมื่อเด็กที่ตั้งท่าขู่เขาปนกลัวๆ อยู่เมื่อครู่พูดออกมา
“อย่างนั้นเลี้ยงขนมผมเพิ่มอีกได้ไหมอ่ะ” แล้วก็ทำหน้าตาหงอยเหมือนหมาน้อยโดนทิ้ง ดูน่าสงสารพลางชูแบงค์สีแดงในมือให้ดู “ผมลืมเอาบัตรเอทีเอ็มมา ทั้งกระเป๋าเหลือแค่นี้อ่ะ ไอ้พวกนั้นลากผมไปกินของแพงมา แถมไม่อิ่มด้วย... ผมอยากกินขนมง่ะ”
คนโดนขอให้เลี้ยงอึ้งไปแล้วกับคำขอของเจ้าหมาหงอยตรงหน้า มีการเหลือบตาขึ้นมองคล้ายจะอ้อนนั่นอีก นี่หมาพันธุ์อะไรทำไมทำหน้าตาน่าสงสารได้แบบนี้กันนะ
“ง่า...”
กันต์ยกมือเสยผมก่อนจะถอนหายใจออกมา ท่าทางที่ทำเอาสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องเหลียวมามอง ก่อนจะฉุดมือคนที่ทำท่าเหมือนจะลงไปนั่งยองๆ เขี่ยพื้นหงอยๆ ให้เดินตาม
“อยากจะกินอะไร”
“ไดฟุกุครับ” พอถามไปก็ตอบกลับมาเสียงใสทันที กันต์หันไปมองพลางนึกว่าที่นี่มีร้านที่ว่าด้วยหรือ และท่าทางนั้นก็ทำให้เดียร์เข้าใจไม่ยาก “อยู่ชั้นห้าครับ”
แล้วก็เป็นเจ้าคนตัวเล็กเปลี่ยนเป็นฝ่ายลากอดีตพี่วินัยขึ้นไปที่ชั้นห้าทันที ตรงเข้าไปยังร้านที่เจ้าตัวหมายตา การตกแต่งร้านที่ดูหวานแหววเหมาะกับเด็กสาวๆ ทำเอาคนตัวสูงหน้าคมคายรู้สึกอายขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะชินกับการเข้าร้านขนมเพราะพ่อคินก็เปิดร้านก็เถอะ แต่ร้านของพ่อคินไม่ได้ใช้สีชมพูหวานขนาดนี้ ผิดกับเจ้าเด็กปีหนึ่งที่กระโดดไปเกาะตู้กระจกมองไดฟุกุตาวาวที่ไม่มีวี่แววจะเขินอายเลยสักนิด ดูไปดูมาก็เหมือนกระต่ายตอนกระโดดไปมาในกรงพร้อมกับจมูกฟุตฟิตๆ
จิ้มๆ เลือกๆ อยู่ไม่นานก่อนจะหันมามองเขาแล้วใบหน้ายิ้มๆ ก็หุบลงเมื่อพนักงานบอกราคามา กันต์หันมองคนตัวเล็กทันทีนึกอยากจะยกมือเขกหัวอีกคนสักที แต่พอเห็นหน้านั้นก็ทำไม่ลงนอกจากยื่นแบงค์สีม่วงไปให้พนักงาน แต่เงินทอนนั้นมีแค่แบงค์สีเขียวกับเหรียญสองสามเหรียญเท่านั้น
เจ้ากระต่ายเดินตามหมีตัวโตออกจากร้านขนมหวานแววท่ามกลางสายตาของลูกค้าสาวๆ ในร้านที่พากันมองมาที่พวกเขา เดียร์เอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของอดีตพี่วินัยโดยที่อีกมือก็ยังถือแก้วน้ำดูดไม่หยุด
“เดี๋ยวผมกดเงินคืนให้นะ... ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเยอะขนาดนี้หรอก แต่เลือกไปเลือกมามันเพลินง่า...” พูดทันทีเมื่อคนตรงหน้าหันมามอง “นี่ๆ ผมเลือกมาเผื่อพี่ด้วย
ก้มลงหยิบไดฟุกุในกล่องส่องให้คนตรงหน้าหนึ่งชิ้น
“หนึ่งชิ้น...” กันต์เลิกคิ้วมองคนที่ยื่นขนมมาให้ พอเห็นเจ้าคนตัวเล็กกว่าส่งยิ้มเผล่ก็ถอนหายใจออกมาเพราะรู้และเข้าใจกับคำตอบนั้นแล้ว “คุ้มจริงๆ ได้ขนมตั้งหนึ่งชิ้น”
พูดไปก็คว้าเอาขนมในมือน้องตัวเล็กมาส่งเข้าปากแบบคำเดียวหมด ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะกินหรอกเพราะถึงแม้ว่าเขาจะชอบขนมแต่ก็ชอบพวกขนมเค้กมากกว่าอะไรแบบนี้ แต่พอเห็นท่าทางที่เจ้าตัวเล็กแสดงออกมาแบบไม่รู้ตัวว่าเสียดายที่จะต้องแบ่งขนมให้เขาก็นึกหมั่นไส้ปนๆ กับมันเขี้ยวเลยคว้ามากินเอาเสียเลย
อยากจะหัวเราะตอนที่เห็นเดียร์ทำตาโตอ้าปากค้างที่เห็นเขาคว้าขนมไปกิน นี่ถ้าแย่งมาอีกจะมีเด็กร้องไห้โฮกลางห้างหรือเปล่านะ
“โดนเพื่อนทิ้งแล้วมั้ง” กันต์ว่าให้คนที่ทำตาโตอยู่แล้วยิ่งตาโตเข้าไปใหญ่ เจ้าตัวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะทำหน้าแหยเมื่อเห็นว่าเพื่อนโทรหาไม่รู้กี่สายต่อกี่สาย
เดียร์กดโทรกลับหาทัชทันทีเจ้าตัวเลื่อนโทรศัพท์หนีแทบไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายรับสายและมาพร้อมกับเสียงดุดังลั่น ขนาดที่กันต์ยังได้ยิน
[ไอ้เตี้ย!! กูโทรไปตั้งกี่สายแล้วหาทำไมไม่รู้จักรับโทรศัพท์!! มีโทรศัพท์เอาไว้รองนั่งหรือไงวะ แล้วนี่อยู่ไหน บอกกูจะไปซื้อน้ำแปบเดียวแปบเดียวบ้านมึงเหรอหา!! กูกับไอ้หินจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้วว่ามีเด็กหายตัวไป!!!]
“ง่า... ก็กูลืมเปิดเสียง ปิดตั้งแต่เข้าไปดูหนังอ่ะ” เดียร์ตอบเพื่อนเสียงอ่อย ส่วนคนที่ยืนอยู่ด้วยก็กลั้นยิ้มขำเมื่อเด็กโดนดุ กันต์หยิบโทรศัพท์มาคุยโต้ตอบกับเพื่อนระหว่างรอเด็กคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
[แล้วนี่มึงอยู่ไหน]
“กูอยู่หน้าร้านหนมที่ชั้นห้า มาซื้อไดฟุกุ”
[แล้วไหนว่าลืมเอาบัตรเอทีเอ็มมา เอาเงินไหนไปซื้อขนมวะ]
เดียร์เหลือบตามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เจ้าตัวยืนพักขา มือข้างหนึ่งถือแก้วชานมไข่มุกดูด อีกมือก็ถือโทรศัพท์เครื่องสวยท่าทางอย่างกับพวกนายแบบเห็นแล้วก็เบ้ปากใส่ ไม่ได้อิจฉาหรอกนะบอกเลย แต่พออีกฝ่ายหันมามองก็ทำเป็นมองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ
“ยืมพี่มา...”
[พี่?... พี่ที่ไหนวะ เออๆ ช่างเถอะมึงรออยู่ตรงนั้นแหละเดี๋ยวพวกกูขึ้นไปหา]
“เออๆ โอเคๆ”
พูดคุยโต้ตอบกับเพื่อนอีกสองสามประโยคก่อนจะวางสายไปแล้วจึงหันไปมองกันต์ที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ “เดี๋ยวเพื่อนผมมาหาตรงนี้ แล้วพวกเพื่อนๆ พี่ละครับ”
“เดี๋ยวมันขึ้นมาเหมือนกัน” กันต์ตอบก่อนจะชวนอีกคนไปนั่งรอที่เก้าอี้แถวนั้น
พอลงนั่งได้เดียร์ก็แกะขนมกินต่อแก้มขาวๆ พองเพราะส่งขนมเข้าปากไปคำโต กันต์ที่หันมาเห็นก็เอื้อมมือไปดึงแก้มพองๆ นั้นจนกระต่ายหันมามองตาขวางแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาตอนที่อีกฝ่ายขยับตัวหนีออกไป
“เตี้ย!” เสียงของทัชเรียกเพื่อนสนิทให้คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นมอง แอบชูนิ้วลับไปให้เพื่อนที่บังอาจมาเรียกเขาแบบนั้น “กินไรวะ ไหนเอามากินบ้างดิ กูกับไอ้หินเดินหามึงจนเหนื่อยแล้ว”
“ไม่! ของกูอย่างมาแย่ง” แยกเขี้ยวขู่เพื่อนไปที “มึง... กูยืมตังค์มึงก่อนดิ จะคืนพี่กันต์อ่ะ”
ทัชเลิกคิ้วมองก่อนจะหันตามเพื่อน พอเห็นอดีตพี่วินัยนั่งอยู่ทัชกับหินผาก็ยกมือไหว้ทันที อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ “เท่าไหร่อ่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่เลี้ยงไม่ต้องคืนหรอก” เพราะนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็เลยได้ยินรุ่นน้องทั้งสองคนพูด พอได้ยินแบบนั้นทัชก็หันมามองเพื่อนตัวเตี้ยกว่าเป็นเชิงถาม “ไม่เป็นไร”
พอย้ำมาแบบนั้นเดียร์ก็เลยพูดขอบคุณไป ก่อนที่พวกรุ่นน้องจะขอตัวไปเดินเที่ยวกันต่อ ส่วนกันต์ก็นั่งรอเพื่อนของตัวเอง
ดึกแล้วแต่คนที่อยู่ภายในห้องก็ยังไม่นอน คนตัวสูงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงพลางมองพวงกุญแจตุ๊กตาหมีที่อยู่ในมือของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน นึกแล้วก็ขำท่าทางตลกๆ ของน้องตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ขอให้เขาซื้อขนมให้เพราะหิว หรือว่าจะเป็นตอนที่เขาคว้าขนมที่เจ้าตัวส่งมาให้ หรือแม้แต่ตอนที่ทำตาขวางใส่เพราะโดนเขาดึงแก้ม แต่ละตอนทำหน้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เป็นเด็กที่ทำหน้าตาได้หลากหลายในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ทั้งหน้าตาหงอยๆ จนคนมองต้องใจอ่อน หน้าตลกๆ ตอนตกใจที่เขาแย่งขนมกิน หน้าขวางๆ ตอนโดนเขาดึงแก้ม ไม่ว่าจะทำหน้าตาแบบไหนก็ทำให้เขานึกเอ็นดู
‘มึงอยากเจอน้องตัวเล็กเพราะอะไรวะ แล้วความรู้สึกของมึงที่มีกับน้องตัวเล็กน่ะคืออะไรกันแน่วะ กูชักจะงงๆ แล้วก็ไม่เข้าใจความรู้สึกมึงแล้วนะ’
‘ความรู้สึก... ของกู... อย่างนั้นเหรอ’
คำพูดของดิวลอยเข้ามาในความคิดให้กันต์นิ่งไป
“ความรู้สึกของเรา... อย่างนั้นเหรอ” เขาไม่เคยนึกเลยว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร
ไม่เคยคิด ไม่เคยนึกเลยสักครั้งเดียว บางครั้ง บางเวลาเขาก็ลืมเรื่องราวของน้องตัวเล็กไป ไม่ได้คิดไม่ได้นึกถึง แต่บางครั้งเขาก็เอาแต่คิดถึงน้องตัวเล็กจนบางทีก็ไม่เข้าใจตัวเอง แต่เพราะไม่เข้าใจและหาคำตอบไม่ได้ กันต์เลยเลือกที่จะไม่หาคำตอบแล้วก็ปล่อยความรู้สึกเอาไว้แบบนั้น พอมาวันนี้ วันที่เขานึกหาคำตอบ... เขาก็หาคำตอบของคำถามนั้นไม่ได้
คิดถึงน้องตัวเล็กเพราะอะไร...
เพราะแค่อยากเจอเด็กคนนั้นอีกสักครั้ง
หรือเพราะ... ไม่เคยลืมน้องคนนั้นเลยกันแน่
กันต์ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นความรู้สึกพิเศษจริงๆ หรือเปล่าเพราะเขาเจอกับน้องตัวเล็กเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วก็ตั้งแต่ใจสมัยยังเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร แล้วความรู้สึกของเขาที่มีต่อน้องตัวเล็กมันจะพิเศษได้จริงๆ หรือ
กันต์ละจากความคิดของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นพ่อคินโทรเข้ามา
“ครับพ่อคิน”
[จะนอนหรือยังน่ะเรา] ปลายสายถามกลับมา
“ยังครับ พ่อคินเถอะครับยังไม่นอนอีกเหรอ ดึกแล้วนะครับ ว่าแต่มัมนอนแล้วเหรอ” เพราะไม่ได้ยินเสียงของมัมพัทธ์เลยถามกลับไป
[ใช่ หลับไปแล้วล่ะ อาทิตย์นี้มัมเขางานเยอะเลยเพลียๆ พ่อเลยบังคับให้นอนไปแล้วไม่อย่างนั้นเดี๋ยวได้ป่วยแน่นอน ว่าแต่เราเถอะ ยังไม่ง่วงอีกเหรอ]
“ก็ครับ...” กันต์ตอบ “พ่อคินครับ กันต์มีเรื่องอยากจะปรึกษา...”
[หือ... เรื่องอะไรครับ ไปหลงรักใครที่ไหนหรือยังไง จะปรึกษาวิธีจีบเหรอเรา]
“กันต์ไม่รู้ครับพ่อคิน กันต์ไม่รู้ว่ากันต์ชอบเขาหรือเปล่า” กันต์ว่า สายตายังคงมองอยู่ที่พวงกุญแจอย่างไม่ละสายตาไปไหน “กันต์เจอน้องตัวเล็กแล้วนะครับพ่อคิน น้องเขาเป็นรุ่นน้องที่คณะกันต์ เด็กคนที่กันต์เคยเล่าให้พ่อคินฟัง ที่กันต์สั่งลงโทษไปน่ะครับ”
[อ๋อ... สุดท้ายก็เจอจนได้นะ อยากเจอน้องเขามานานแล้วนี่ แล้วเป็นยังไงครับน้องเขาจำเราได้ไหม ยังตัวเล็กเหมือนตอนเด็กๆ อยู่หรือเปล่า]
“โตขึ้นเยอะแล้วครับ แต่ถ้าเทียบกับกันต์ก็ตัวเล็กอยู่ดี พ่อคินครับ... พ่อคินว่ากันต์รู้สึกยังไงกับน้องตัวเล็กครับ”
คนปลายสายส่งเสียงในลำคอก่อนจะหันเราะออกมา [แล้วพ่อคินจะตอบคำถามของกันต์ได้ไหมเนี่ย พ่อคินไม่ใช่กันต์นะครับ แล้วทำไมถึงสงสัยละ]
“ไอ้ดิวมันถามกันต์ว่า ที่กันต์อยากเจอน้องตัวเล็กเพราะอะไรกันแน่” เจ้าตัวถอนหายใจออกมา “กันต์ก็ตอบคำถามมันไม่ได้ครับว่ากันต์อยากเจอน้องตัวเล็กเพราะอะไร หรือว่ากันต์ชอบน้อง แต่มันจะเป็นไปได้เหรอครับเพราะกันต์เคยเจอน้องแค่ครั้งเดียวเอง แล้วก็ตั้งแต่เด็กๆ ด้วย ตอนนั้นไม่น่าจะมีความรู้สึกอะไรแบบนั้นนะครับ”
[พ่อคินก็ตัดสินใจไม่ได้หรอกครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกของคนเราจะพัฒนาไม่ได้ ตอนนั้นกันต์อาจจะยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเวลาผ่านไปกันต์คิดถึงน้องเขา ความรู้สึกก็อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้นี่ครับ เหมือนอย่างพ่อคินไง ใครจะคิดว่าวันหนึ่งความรู้สึกของพ่อคินจะเปลี่ยนไป จากที่พ่อคิดไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัมเขา มันก็เปลี่ยนเป็นความรักได้]
[ความรัก... มันไม่มีรูปแบบที่ตายตัวหรอกครับ มันไม่มีสูตร ไม่มีสมการ มันมีแต่ความรู้สึก ถ้ากันต์อยากรู้กันต์ก็ต้องลองหาคำตอบเอง และเพราะมันไม่สูตร มันจะเกิดขึ้นตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้]
“ถ้าอย่างนั้น... ความรู้สึกของกันต์ที่มีต่อน้องตัวเล็กก็อาจจะพิเศษได้เหรอครับ”
[เรื่องนั้นกันต์ต้องหาคำตอบเองครับ พ่อคินตอบแทนไม่ได้ เพราะพ่อคินไม่ได้นั่งอยู่ในใจของกันต์ กันต์ต้องหาดูว่าข้างในใจนั้นมีใครนั่งอยู่หรือเปล่า]
“เรื่องความรักนี่มันยากจะเนอะพ่อคิน กันต์แค่จะหาคำตอบว่าทำไมถึงอยากเจอน้องตัวเล็กแค่นี้มันก็ย้ากยาก”
พ่อคินหัวเราะกับคำพูดของลูกชายคนโต [มันไม่อยากหรอกครับ ถ้ากันต์หาคำตอบเจอ น้องกันต์ของพ่อคินโตแล้วจริงๆ สินะ... มาถึงวันที่ปรึกษาพ่อคินเรื่องความรักแล้ว]
“เพราะเป็นน้องตัวเล็กหรอก...” คนทางนี้ว่าเสียงเบา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ากันต์จะไม่เคยมีแฟน แต่ไม่มีแฟนคนไหนที่เขาให้เขาคิดไม่ตกกับความรู้สึกเหมือนกับน้องตัวเล็กคนนี้ เขาจึงไม่เคยพูดคุยหรือปรึกษาอะไรพ่อคินมัมพัทธ์เลย แต่ทุกครั้งที่มีแฟนเขามักจะบอกทุกคนในครอบครัวเสมอ
[ของแบบนี้บางทีเร่งไปก็ไม่ดีหรอกครับ รอให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ดูก็ได้ สักวันกันต์ก็จะได้คำตอบเองนั่นแหละ]
“ครับพ่อคิน สักวันกันต์คงหาคำตอบได้”
[ครับ เอาไว้กลับมาบ้านเดี๋ยวพ่อคินทำขนมแล้วเอาไปฝากน้องตัวเล็กด้วยนะ]
“เจ้าตัวคงชอบ... คราวก่อนพวกไอ้ดิวชวนพวกน้องมากินข้าวด้วยกัน น้องยังทำแพนเค้กสูตรพ่อคินอยู่เลย”
[ฮ่าๆ เมนูโปรดน้องเขานี่นะ มาร้านพ่อคินทีไรก็สั่งเมนูนี้ทุกทีเลย]
“ดึกแล้วครับ พ่อคินนอนเถอะนอนดึกๆ ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ”
[กันต์ก็ด้วยนะ อย่าเอาแต่คิดเรื่องน้องตัวเล็กจนไม่ได้นอนนะครับ เอาไว้เจอกันนะ]
“ครับพ่อคิน สวัสดีครับ...” กันต์วางสายจากพ่อคินก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ชูพวงกุญแจขึ้นให้อยู่ในระดับสายตา
ใช้มืออีกข้างจิ้มไปที่พุงของตุ๊กตาหมีไม่หยุด เหมือนกับว่าเจ้าสิ่งนี้คือน้องตัวเล็กอย่างไรอย่างนั้น “ตกลงรู้สึกยังไงกันแน่หะ จะชอบหรือไม่ชอบ คิดไม่ตกแล้วนะเนี่ย”
“เป็นตัววุ่นวายจริงๆ เลยให้ตายสิ ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กปีหนึ่ง จนตอนนี้กลายมาเป็นน้องตัวเล็กก็ยังเป็นตัววุ่นวายอยู่นั่น ให้ตายสิ...”
แม้จะพูดแบบนั้นที่มุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแบบที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน
************************************************
เดี๋ยวๆๆๆ ทุกคนใจเย็นนนน พี่หมียังไม่รู้ใจตัวเองเลย จะให้พวกเขาได้กันแล้วไม่ด้ายยยยย ทำแบบนั้นไม่ได้นะ รอให้พี่หมีรู้ใจตัวเองก่อน ให้เขาจีบกันก่อน แล้วค่อยได้กัน เอ๊ย! แล้วค่อยคบกัน จะข้ามขั้นตอนแบบนี้ไม่ได้นะ
ตอนนี้มีใครรู้สึกอยากจับน้องตัวเล็กมาม้วนๆ แล้วยัดใส่ปากกลืนลงท้องบ้างไหม รู้สึกมันเขี้ยวเจ้าตัวเล็ก อยากจะขย้ำให้ช้ำเลยจริงๆ กลัวพี่เขาก็กลัว แต่ดั๊น! ไปขอให้พี่เขาซื้อขนมให้ ตัวเล็กลูก... ใจเย็นลูกกกกกก พี่ก็ใจป๋าจ้า กลายร่างเป็นเสี่ยกันต์ทันที น้องขอมาพี่จัดให้ ฮ่าาาาา ยังไงก็... เอาใจช่วย #พี่หมีกันต์ กับ #น้องตัวเล็ก ด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าจ้า ^^
อ่านแล้วช่วยสละเวลาคอมเมนต์หน่อยเน้อ อยากรู้ว่าชอบไหม ถูกใจไหม อยากได้กำลังใจจ้า ^^
ปอลอ. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายของฟางจ้า ขอบคุณนะคะ
ปล. เหตุการณ์รับน้อง การเรียนการสอน รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่ใส่ในนิยาย บางส่วนฟางเอามาจากชีวิตจริงที่ฟางได้เจอมาตอนเรียน บางส่วนฟางแต่งเติมเสริมขึ้นมาเอง และได้รับการอนุญาตจากทาง รศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
อ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่กันต์น้อยใจแย่เลย รักพี่กันต์เมนต์ รักน้องเดียร์เมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ