15
เมื่อคุณกล้วยมีปัญหา เพื่อนกลางต้องทำยังไง
“กลาง กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”
“เรื่องไรวะ แล้วทำไมต้องกระซิบด้วยอะ”
“ชู่วว มึงอย่าพูดดังเดี๋ยวไอ้เปาได้ยิน”
“เออๆ มีไรวะ”
“คืองี้เว้ย....”
สวัสดีครับท่านผู้ชม พบกับผมนายคนกลาง พิธีกรประจำรายการเรื่องของเรื่อง ถรุ้ย นี่กูจะเป็นบ้าใช่มั้ย ขอคีพลุคคูลแบบคนกลางแปบนะครับ ตอนนี้ผมนั่งเรียนวิชาบังคับปีหนึ่งที่ห้องประชุมรวมกับเพื่อนหลากหลายคณะ เด็กสินกำอย่างพวกผมก็เลือกที่นั่งหลังๆ เข้าไว้ พวกเราสามารถแต่งตัวชุดไปรเวทมาเรียนได้ครับเพราะอาจารย์บอกว่าเราทำงานศิลปะชุดนักศึกษาไม่สะดวก แต่นั่นก็เป็นแค่วิชาที่ต้องปฏิบัติเท่านั้น แต่พวกเราชาวสินกำก็ยึดคำนั้นมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตด้วยการไม่ใส่ทุกวิชายกเว้นวิชาที่โคตรเคร่งจริงๆ วิชานี้ก็ไม่มีอะไรมากครับแค่อย่าทำตัวให้อาจารย์เรียกเท่านั้นเอง
ผมนั่งข้างไอ้กล้วยที่วันนี้อยู่ในธีมเสื้อยืดมือสองกับกางเกงยีนส์ตัวโคร่งๆ มันชะโงกหน้ามาเกือบติดผมแล้วกระซิบเสียงเบาๆ ส่วนไอ้เปาก็นอนฟุบหลับอยู่ข้างผม เมื่อวานมันสอนสีน้ำให้อิงแล้วกลับมาทำงานตัวเองต่อสงสัยคงจะเหนื่อย
“มึงอย่าพึ่งหันไปมองแฟนมึงได้ป่ะ สนใจกูแปบนึงงง”
“ยังอีก”
“เออ ยังไม่สนใจกูอีก”
“มึงเนี่ยยังไม่เลิกเขย่าแขนกูอีก!”
ผมเอ็ดมันเบาๆ แม่ง กูมึนนะครับ ไอ้กล้วยทำหน้ามุ่ยเป็นม้าหมากรุกพร้อมกับทำหน้าจริงจัง โอเคฟังก็ได้ ตบมุขมึงแปบเดียวเอง ผมหันตัวไปทางมันแล้วเริ่มต้นฟังมันเล่าครับ บอกตรงกูเห็นมึงจริงจังแล้วขนลุกครับ ปกติมีแต่จังไร
คือว่าไอ้กล้วยเพื่อนผมเนี่ย มันไปชอบคนๆ หนึ่งชื่อฟ้าเป็นเพื่อนต่างคณะแบบว่าตัวเล็ก สเป็คมัน แล้วมันรู้มาว่าผู้หญิงคนนี้ปลื้มผมครับ เธอยิ้มให้มันตอนเดินผ่านกันก็เพราะเห็นว่ามันเป็นเพื่อนกับผม ตอนแรกมันรู้ก็เศร้าไปเหมือนกัน ล่าสุดมันก็แอดไลน์ไปหาเธอคนนั้นครับคุยกันมาซักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็มีแต่จะคุยเรื่องของไอ้กลางคนนี้ เอ่อ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมครับเพื่อน
“คือกู มึงอย่าโกรธกูนะเว้ย คือ...”
“คือไรวะ”
“กูเผลอบอกชอบเค้าไปในไลน์อะ”
“เฮ้ย ก็ดีแล้วนี่”
“ตอนนั้นเสือกโกรธ แม่งฟ้าคุยแต่เรื่องมึงกูเลยพิมพ์ไปว่า ชอบฟ้านะ”
“เชรดด เพื่อนกูเด็ดดวงอะครับ”
“ไอ้กลางคำว่าเชรดมันไม่เหมาะกับหน้ามึง”
“อ้าวหรอ โทษที ต่อๆ”
“แต่เรื่องมันหลังจากนี้เว้ย กูโกรธแล้วกล้าพิมพ์บอกชอบแต่ได้สติสามวิให้หลัง มือกูเร็วกว่าสมองพิมพ์ต่อไปว่าไอ้กลางอะชอบฟ้านะ นั่นแหละหายนะมันเกิดขึ้นแล้ว กูก็ต้องมากระซิบกระซาบหลบทุกคน เพราะถ้าพวกมันรู้กูตายหยั่งเขียดแน่ๆ”
ไอ้กล้วยมันเป็นงี้แหละครับ บ้าบอแต่พอเรื่องความรักแล้วอ่อนไหว ใช้ชื่อกูไปบอกชอบเค้าอีก เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ ชื่อผม
“เชี่ยยยยยยยย” ผมสบถไม่ดังมากรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที ไอ้ทัพกับไอ้เบสที่นั่งสุมหัวเล่นเกมทางขวามือของไอ้เปาเหลือบมองมาเล็กน้อย
“ไอ้ฝัด ความรู้สึกช้ากว่ากูอีก เออนั่นแหละ ทำตาโตหาพ่องมึงหรอ”
“ไอ้กล้วยด่ากูขนาดนี้ มึงจัดการเองเลยนะ”
“เฮ้ยๆๆ เพื่อนกลาง ช่วยกระผมกล้วยด้วยครับ กูจะร้องแล้วไอ้สัดทำไงดีครับเพื่อน”
“ชีวิตยากแล้ว”
“ยากสัดตรงที่ว่า ฟ้าเว้ยแม่งส่งกลับมาว่าใจมึงตรงกับเค้าให้ช่วยพากลางมาเจอเค้าที ฟ้าจะรออยู่ร้านกาแฟข้างมอวันนี้สามโมง ในฐานะที่กูบอกเค้าว่ามึงชอบฟ้า กูต้องพามึงไปให้ได้”
เชี่ย...สามโมง...วันนี้ด้วย ผมมองหน้าจอมือถือของไอ้กล้วยที่ขึ้นข้อความของคนชื่อฟ้า จะบ้าหรอครับหน้าเป็นยังไงผมยังไม่รู้เลย ไอ้กล้วยหาเรื่องให้กูซวยจริงๆ
“...”
“มึงอย่าทำหน้าแบบนั้น กูขอโทษแต่ตอนนั้นกูไม่ทันคิดจริงๆ แต่...มึงไม่ต้องไปก็ได้นะ กูจะบอกเค้าว่ากูพูดเล่น”
“ถ้ามึงทำแบบนั้น ฟ้าจะไม่คุยกับมึงอีกเลยนะ”
“เออกูรู้กูไปให้ความหวังเค้าว่ามึงชอบ แต่กูยอมให้เค้าเกลียดก็ได้ อกหักคงไม่ตายหรอกมั้ง” ผมไม่เคยเห็นมันทำหน้าเศร้าเท่าวันนี้มาก่อน ไอ้กล้วยผู้กวนตีนและบ้าบอทุกสถานการณ์คนนี้ มันกำลังเศร้าเพราะความรัก
“กูจะไป แต่มึงต้องไปบอกความรู้สึกของมึงกับฟ้าด้วย”
“เอาจริงหรอวะ”
“เออดิ เนี่ยโอกาสอันดีแล้ว บอกต่อหน้า ท้าชนไปเลย ไม่ต้องพิมพ์ชื่อใครอีก”
“กู...กูจะไหวหรอวะ”
“ไอ้กล้วย...มึงเอาคารมคนบ้าเข้าสู้ดิวะ หน้าจ๋อยแบบนี้ไม่เหมาะเป็นมึงเลยนะ”
“ขอบใจมากเว้ย น้ำตาซึมบ่อทรายสัด”
“ไหนวะบ่อทราย”
“นี่ไง ใกล้ไหลแล้ว”
“น้ำตาหรอ”
“เยี่ยวกู ถุ้ย ถึงวันนี้มึงจะกวนตีนกู แต่ไอ้กลาง กูขอกอดมึงที” ไอ้กล้วยทำตาเยิ้ม ปากกระตุกยิ้มแบบสั่นๆ มันค่อยๆ สโลว์โมชั่นเข้ามาแถมยังเอื้อมมือหมายจะกอดผม
“ทำไร”
แต่เสียงทุ้มแหบเพราะพึ่งตื่นนอนก็เข้ามาแทรก ไอ้กล้วยเบรกแทบไม่ทัน ไอ้เปาใช้มือที่ยาวเหมือนนางนาคดันหัวไอ้กล้วยไว้ ไอ้กล้วยเบะปากก่อนจะพูด
“จะขอกอดแฟนพี่เปาได้มั้ยจ๊ะ”
“ไม่ แฟนกูก็กอดได้คนเดียวดิวะ” ไม่พูดเปล่าไอ้เปาก็คว้าผมไปกอดจมอกมัน
“มึงเบาๆ ดิ ไอ้กลางช้ำหมด”
“ไอ้กล้วย คิดไรกับกลางป่ะเนี่ย” ไอ้เปายืดตัวตรงแต่ยังไม่ปล่อยมือจากหัวผมซักที ผมไม่เห็นหน้าไอ้เปาแต่ฟังจากน้ำเสียงมันเริ่มจะตงิดๆ ใจสงสัยแล้วครับ
“เปล๊า เป็นห่วงเพื่อนไง”
“ตอแหล”
“ไอ้ทัพ นั่งฝั่งนู้นก็ไม่ต้องเสือกได้ป่ะ”
“ไอ้คล้วยยย มึงอย่ามาตอแหล แค่มองตากูก็เห็นตูดมึงละ ไอ้เปา ไอ้กล้วยอยากได้ไอ้กลางชัวร์ แบบกล้วยกลางงี้คล้องกันดี คู่จิ้นสุดประหลาดงี้”
“ไอ้สัดทัพก็เสี้ยมจัง พ่อเป็นเสียมหรอ”
“เออใช่ ดูดิวันนี้ไปนั่งข้างไอ้กลางเฉย ซุบซิบไรกันไม่รู้ทั้งคาบ ตอนกระซิบกูเห็นมันสูดลมหายใจตรงซอกคอไอ้กลางด้วย”
“ไอ้เบส...มึงเป็นไรแซะกูจัง ไอ้เหี้ยเปา มองกูหมายความว่าไง แล้วไอ้กลางมึงไม่คิดจะพูดไรหน่อยหรอคอมึงหอมนิดเดียวเอง แล้วมึงล่ะอกไอ้เปามันหอมมากหรอกอดอยู่ได้”
มึงพาลแล้วไอ้กล้วย เดี๋ยวเจอดีนะมึง
“กล้วย”
“อะไร” มันสะบัดเสียงหน้างออีกครั้ง
“ถึงมึงอยากจะเป็นคู่จิ้นกับกู แต่ต้องขอโทษด้วยใจกูไม่ได้มีไว้ให้ผลไม้สีเหลืองเมื่อตอนสุก สีเขียวเมื่อตอนหนุ่ม”
“อะไรวะ”
“กล้วยไง”
ผลัวะ!
“ไอ้กลางสกิลมึงไม่ได้ก็ไม่ต้องเล่น แหมะกูล่ะนึกถึงมะม่วงเลยไอ้สัด”
ไอ้ทัพเอื้อมมือมาตบหัวผมครับ ไอ้เปามันยังไม่ปล่อยผมแต่พอเงยหน้าปุ๊บมันทำหน้าเอือมอย่างไม่น่าเชื่อ ผมผละออกมาจากตัวมันพลางลูบหัวป้อยๆ
“หึหึ เล่นไม่ฮาก็อย่าเล่นนะกลาง”
เชี่ย ไม่ต้องมาลูบหัวเลยไอ้เปา มึงยังไม่เข้าข้างกูเลย ผมไม่เล่นพวกมันก็บอกไม่เท่ ทีกูเล่นก็หักกูทุกมุข
“โถถถ น้องคนกลางคร้าบ มึงต้องไปฝึกสกิลกับพวกผมคอหล่นเดอะซีรี่ส์นะ จบออกมาจากอเคดามี่กล้วยและผองเพื่อนรับรอง...”
“ปากหมาไม่ได้ผุดได้เกิด”
“สาวไม่มอง ชายเมินอีกต่างหาก เหี้ย! ไอ้เบสพอ...”
“ไอ้เชี่ยเพื่อนกล้วยงอนบ่อยว่ะวันนี้”
“เรียนได้แล้วพวกมึงอะ จารย์มอง”
ไอ้เปาตัดบทก่อนที่ทุกคนที่หันกลับไปที่อาจารย์ จารย์มองจริงด้วยครับ ขอตั้งใจเรียนก่อนนะครับ ไร้สาระมานาน
.
.
“ไอ้กลาง เดี๋ยวใกล้ๆ กูทักไลน์ไปอีกที อย่าบอกใครนะเว้ย”
ไอ้กล้วยมันกระซิบอีกครั้งก่อนจะวางดินสอลงบนโต๊ะในโรงอาหาร วันนี้เราเลิกเรียนก็ตรงดิ่งมาที่โรงอาหารกลางของมหาลัยที่อยู่ไม่ไกลกับห้องประชุมรวมครับ คนนี่ยิ่งกว่าหนอน ตอนเที่ยงแบบนี้คนยิ่งเยอะครับ
“พวกมึงกูจองโต๊ะละแยกย้ายกันไปซื้อข้าวได้ ไม่มีใครแย่งโต๊ะแน่นอน” ไอ้กล้วยพูดแล้วจะหันหลังไปซื้อข้าวแต่ไอ้เบสทักขึ้นมาก่อน
“ไหน ไม่เห็นมีไรจองเลยไอ้กล้วย” มันหันกลับมาแล้วหรี่ตามองไอ้เบสหัวจรดเท้า
“ไอ้เบสสสส มึงนี่ไข่เล็กแล้วยังสมองน้อยอีก นี่ไงดินสอกูจองไว้”
ผลัวะ!
“ไอ้จั๊ดง่าว ดินสอเล็กเท่าตีนมดขนาดนี้ เป็นกูก็ไม่รู้ว่าจอง หายใจก็กลิ้งหล่นใต้โต๊ะแล้ว แล้วมึงรู้ได้ไงไข่กูเล็กไอ้สัด”
“กูเคยเห็นมึงวาดไข่แล้วมันใบเล็กไง เออๆ พวกมึงไปซื้อข้าวไปเดี๋ยวกูนั่งจองเอง ซื้อข้าวให้กูด้วย เอาข้าวผัดต้มยำ”
ไอ้กล้วยพยักเพยิดหน้าไล่พวกผมให้ไปซื้อข้าว ไอ้เบสส่ายหัวกับความกวนตีนของไอ้กล้วยก่อนจะกอดคอไอ้ทัพไปซื้อข้าว ส่วนผมกับไอ้เปาก็เดินไปอีกทางเลี่ยงคนเยอะตรงหน้าร้านอาหารครับ
“เปากินไรดี”
“กิน...มึงได้มั้ย”
“ทะลึ่งละ เดี๋ยวนี้มึงหัดพูดจาแบบนี้เหรอ เริ่มไม่น่ารักแล้วนะ”
ไอ้เด็กนกกระปูดนี่ชอบพูดจาขัดกับหน้าตามันชะมัด ถึงแม้ว่ามันจะล้นแบบนี้ตั้งนานแล้วแต่ผมต้องปรามมันหน่อย เดี๋ยวได้ใจ แถมตอนนี้คนยังเยอะอีกต่างหากไม่อยากจะบอกว่ามีคนแอบยกมือถือมาถ่ายรูปไอ้เปาด้วย ทำไรต้องระวังนิดนึง
“กลางงงง แค่ล้อเล่นเอง”
“กูตลกหรอ”
“ทำไมมึงดุขึ้น ไม่น่ารักเลย” แหน่ะมีเลียนแบบ
“ไม่ได้ มึงจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี”
“แฮ่! เถียงไรกันอะผัวเมีย!”
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นก็มีใครบางคนโผล่หน้ามาแทรกกลางระหว่างเราแถมยังถือวิสาสะกอดคอเราของคนด้วยความรุนแรง
“ไอ้เหี้ย!” ไอ้เปาสบถเสียงดังจนคนรอบข้างสะดุ้ง
“เดี๋ยวๆ กูพี่มึง พี่จิ้มไงไม่ให้เหี้ย ไอ้สัดเรียกซะกูอยากกินไก่”
“มากินข้าวไกลนะพี่”
“เสือกอีกละ”
“เอ้า กูทักดีๆ นะพี่”
“เออโทษทีๆ เสือกเป็นคำสร้อย ไม่ใช่คำเลวร้าย แล้วนี่มึงทำไรน้องกูไอ้เปา หน้าบูดเป็นตูดไก่ แล้วกูจะอะไรกับไก่วะสึด”
“ไม่มีไรพี่”
“ไอ้กลางมีอะไรบอกพี่ได้นะน้องมึง ถ้าไอ้เปาทำอะไรไม่ดีพี่จะจิ้มไอ้เปาให้น้องเอง”
“เชี่ยพี่จิ้ม มึงอย่ายุ่งกับกูเลย”
“หรือจะให้กูจิ้มไอ้กลาง” พี่จิ้มพูดพลางยิ้มมุมปาก ไอ้สัดกูกลัวหนวดพี่เค้าครับ หนวดแหลมขนาดนี้อย่าใกล้ผมนะ ผมกลัวของแหลม ไอ้เปาที่ยืนข้างมองขำๆ ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย ผมเคลื่อนตัวหนีพี่จิ้มมาที่หลังไอ้เปาครับ
“โด่ แค่นี้ทำเป็นกลัว ป้าครับ สุกี้แห้งทะเลสามที่ครับ”
“พี่จิ้มกินสามจานเลยอ่อ”
“โง่อีก ไอ้เปาดูเมียมึง กูเลี้ยงพวกมึงไง ถูกหวย”
“ขอบคุณค้าบบบ” ผมกับไอ้เปาก้มตัวขอบคุณพี่จิ้มสุดหล่อที่เมื่อกี้ไอ้เปายังด่าว่าเหี้ยอยู่เลย พี่จิ้มยิ้มอย่างน่ารัก หนวดเหนือริมฝีปากขยับตามการยกยิ้ม ที่ผมกลัวเมื่อกี้ไม่มีครับไม่เคยกลัวหนวดพี่จิ้มเลย มีพี่นี่มันดีจริงๆ ครับ ไอ้พี่จิ้มตบหัวผมและไอ้เปาคนละทีก่อนจะตอบกลับคำขอบคุณมาว่า
“เสือก”
คำสร้อยครับ ท่องไว้ คำสร้อย
.
.
.
“มีสอนอิงสามโมงครึ่งจะไปด้วยป่ะ”
ไอ้เปาพูดขึ้นหลังจากที่รถมันมาจอดหน้าหอผม เออใช่ วันนี้มันมีสอนสีน้ำนี่หว่า ปกติไอ้เปามันจะให้ผมไปนั่งดูมันสอนเสร็จแล้วเราก็จะไปกินข้าวครับ แต่เนื่องจากวันนี้ผมจะต้องไปช่วยเพื่อนกล้วยดังนั้นคนกลางต้องปฏิเสธ
“ไม่ดีกว่า อยากอยู่ห้อง”
“โอเค สอนเสร็จเดี๋ยวมารับไปกินข้าว”
“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวกูกินแถวนี้ก็ได้ เหนื่อยก็กลับไปพักบ้าง”
พอพูดแค่นั้นไอ้เปาก็ขมวดคิ้วฉับ ส่วนผมก็พยายามทำตัวปกติแต่มือขวานี่กำขากางเกงแน่นเชียว
“พูดหรอว่าเหนื่อย”
“ก็...เปล่า”
เชี่ย ไหงเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปซะได้ ไอ้เปาหงุดหงิดขึ้นมาทันที ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก ในหัวสมองกำลังหาคำพูดแบบด่วนจี๋
“อยู่กับมึงก็คือเวลาพักของกู” มันจ้องผมแล้วทำหน้าจริงจังจนผมเริ่มไปต่อไม่ถูก
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องแต่ เจอกันหกโมง”
“โอ..โอเค หันหน้ามาก่อนดิ๊....” มันยังเล่นตัวไม่หันมาซักทีแถมยังเม้มปากจนเห็นลักยิ้ม “เร็วหันมา โอ๋....งอนหรอ”
“ก็มึงพูดจาไม่เข้าหู”
“ขอโทษๆ อ่ะๆ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวเลยมื้อนี้”
“ไม่ต้อง”
“เออน่า เจอกัน สอนเสร็จแล้วไลน์มานะ”
ผมลูบผมที่ปรกหน้าผากของมันสองสามทีก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงจากรถมา รีบเลยครับเดี๋ยวอยู่นานมันจะจับได้ เฮ้อ ไอ้กล้วยนะไอ้กล้วย เสร็จงานนี้เมื่อไหร่มึงต้องยกกูเป็นเทพแห่งคอหล่นนะ
.
.
.
“เชี่ยกลาง ทำไมมึงมาช้า เกือบจะสามโมงแล้วเนี่ย”
“มึงใจเย็นดิเพื่อนกล้วย”
“แล้วไอ้เปาไม่รู้ใช่มั้ย” ไอ้กล้วยจับตัวผมหมุนซ้ายหมุนขวาเหมือนกลัวว่าไอ้เปาจะย่อส่วนแล้วอยู่บนตัวผม
“เออไม่รู้ มึงใจเย็นนะกูเวียนหัว”
“เออๆ ก็กูกลัวนี่หว่า”
“แล้วคนไหนวะฟ้าอะ”
“นั่นไง ตัวเล็กๆ ผมสั้นอะ”
ผมกับไอ้กล้วยยืนส่องเธอคนนั้นอยู่หน้าร้านครับ ตรงนี้มีต้นไม้บังอยู่เราเลยยืนเป็นคนบ้าอยู่ตรงนี้ครับ ฟ้าคนนี้เรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ปีหนึ่งเหมือนพวกผม เธอหน้าตาน่ารักครับ ตอนนี้เธอนั่งคนเดียวอยู่ด้านในสุดของร้านนั่งกดโทรศัพท์หน้าตายิ้มแย้ม
“กูต้องทำไง”
“เราจะเข้าไปพร้อมกัน”
“แล้ว...”
“ไม่มีอะไรต่อ กูไม่ได้คิด”
“ไอ้เชี่ยกล้วยเดี๋ยวก่อนน” พูดไม่ทันจบไอ้กล้วยก็ลากมือผมเข้าไปในร้าน และผม นายคนกลางก็ยืนงงอยู่หน้าโต๊ะเธอโดยที่ไอ้กล้วยยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ
“ฟ้าหวัดดี” ไอ้กล้วยยกมือโบกไปมาอย่างรุนแรงให้ฟ้า
“หวัดดีครับ”
“คนกลางหวัดดีค่ะ นั่งเร็ว” เธอยิ้มแป้นผ้าโพกผมสไตล์วินเทจพลิ้วไปตามลม ผมนั่งลงตรงข้ามเธอแล้วไอ้กล้วยก็ยิ้มเจื่อนนั่งลงตาม
“กลางสั่งน้ำอะไรเราสั่งให้ อ๊ะ กล้วยด้วย ลืมไปเลยว่ากล้วยมาด้วย”
“อะ..เอ่อ...” ผมมาอยู่ท่ามกลางคนสองคนอีกแล้วครับ เกิดเป็นคนกลางนี่มันยังไงกันครับ ผมปวดหัว
“เราเอานมปั่น มึงอะไอ้กลาง”
“กูเอาชาเขียวนมแล้วกัน”
“งื้อ กลางกินชาเขียวเหมือนเราเลย น่ารักจัง”
เธอยิ้มเขินพลางเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ผมสะกิดขาไอ้กล้วย คนที่มึงชอบแต่เค้าไม่ได้ชอบมึงเลยนะเพื่อน พอน้ำที่เราสั่งมาไอ้กล้วยก็เริ่มบทสนทนาแต่ฟ้าเธอก็เปลี่ยนเรื่องแล้วถามเรื่องผมอยู่เรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น
“ฟ้าเรียนกี่ตัวเทอมนี้เยอะป่ะ”
“ก็ไม่มากนะ กลางชอบสีอะไรหรอ”
“สีอะไรก็ได้ไม่อ่อนไม่เข้ม”
“งื้อ เท่อ่า”
หรือว่า
“ฟ้าอยากกินบิงซูมั้ย เราเลี้ยงเอง”
“ก็ดีนะ กลางอยากกินมั้ย”
“ตามสบายเลยครับ”
“ละมุนจัง กลางไม่ค่อยพูดเลย เขินฟ้าหรอ”
“เอ่อ...”
เชี่ย...ทำไมผมนายคนกลางต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วครับ นี่มันจะสี่โมงแล้วเรายังไม่ได้เริ่มอะไรเลย ผมส่งข้อความหาไอ้กล้วยระหว่างที่ฟ้ากำลังก้มหน้าดูเมนูบิงซูอย่างพิถีพิถัน ไอ้กล้วยกับผมสบตากันเล็กน้อย เราต้องเริ่มแล้วล่ะเพื่อนก่อนที่ฟ้าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ระหว่างนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงคุ้นๆ ดังมาจากข้างหลัง บทสนทนานั่นทำให้ผมชะงัก แล้วค่อยๆ แอบหันไปมอง ไอ้กล้วยมันก็สะดุ้งเพราะเสียงนั้นเหมือนกัน นั่น...อย่าบอกนะว่า....
“เปา อยากกินอะไรสั่งเลย เราขอเลี้ยงตอบแทนที่เปาช่วยสอนเรา”
“จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะ”
“ไม่ได้หรอก เรารู้ว่าเปาต้องปฏิเสธ ถึงหลอกว่าวันนี้จะเรียนวันสุดท้าย สั่งเลยๆ”
“อื้ม งั้นเราเอาเอสเปรสโซ่ละกัน”
“ดีมาก”
โลกจะกลมอะไรขนาดนี้ครับ ไอ้เปากับอิงนั่งถัดจากโต๊ะผมไปแค่หนึ่งโต๊ะ ผมค่อยหดตัวลงมาให้พนักพิงมันบังผม ด้านหลังแต่ละโต๊ะจะมีกระถางต้นไม้บังอยู่ ขออย่าให้มันเห็นเลยครับ ไอ้กล้วยเห็นบรรยากาศไม่ค่อยจะดี มันสูดลมหายใจเข้าแล้วเริ่มพูดหลังจากที่ฟ้าสั่งบิงซูเสร็จ
“ฟ้าเรามีอะไรจะบอก”
ไอ้กล้วยทำเสียงจริงจังจนฟ้าที่กำลังเท้าคางมองหน้าผมชะงัก เธอคงรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ อบอวลอยู่จึงค่อยๆ หันกลับมามองไอ้กล้วย
“ทำไมกล้วยทำหน้างั้นล่ะ”
“เรามีอะไรจะบอก ฟ้าฟังเราก่อนได้มั้ย”
เสียงไอ้กล้วยทุ้มต่ำ สายตาของมันที่ส่งให้ฟ้าช่างมุ่งมั่นทำให้ผมชื่นชมมัน มึงต้องทำได้ไอ้กล้วย แดดที่ส่องผ่านกระจกมายังโต๊ะเราค่อยๆ ทอแสงลงเพราะเมฆฝนเข้ามาแทนที่เหมือนมันเป็นลางบอกเราว่าปรากฏแห่งหายนะกำลังจะถล่มพวกเราในไม่ช้านี้
“อื้อ เราก็ฟังกล้วยอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นเลย”
“คือเรา...ที่ไอ้กลาง...ชอบฟ้าน่ะ จริงๆ แล้ว”
“งืออ พูดต่อหน้ากลางเลยหรอเราเขินกลางนะ” เธอช้อนสายตาหลบผม คุณครับช่วยฟังเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย
“จริงๆ แล้ว ที่จริงน่ะ เราชอบฟ้า เราแค่เอาชื่อไอ้กลางมาอ้างเท่านั้น!”
ไอ้กล้วยก้มหน้าพูดประโยคนี้จนจบ ฟ้าตาโตเธออ้าปากเล็กๆ ด้วยความตกใจเหมือนเธอพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างแล้วล่ะครับ
“นี่มันอะไรกัน กล้วยหลอกเราหรอ”
“เราขอโทษ เราแค่ไม่กล้า ฟ้าอย่าเลิกคุยกับเราเลยนะ”
“แต่กลางชอบเรานี่...ใช่มั้ย”
เธอไม่สนใจไอ้กล้วยที่มองเธออย่างอ้อนวอน ฟ้าหันกลับมามองผมเธอยื่นมือมากุมมือผมไว้แน่น เหมือนเธอได้ยินแต่คำที่ว่าผมชอบเธอเท่านั้น
“เราขอโทษนะฟ้า”
“กลางชอบเรา...”
“ฟ้าให้โอกาสกล้วยได้มั้ย”
“แต่ฟ้าชอบคนกลาง!!! ที่คุยกับกล้วยก็เพราะว่าชอบกลางได้ยินมั้ย!!”
“เราชอบเปานะ!!”
ฟ้าตะโกน ตากลมโตสั่นระริกและเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงข้างหลังก็ดังมาซ้อนทับกัน ผมกับไอ้กล้วยตัวแข็งทื่อ ไอ้กล้วยเพื่อนผมนิ่งไปมันเม้มริมฝีปากแน่น มันเหมือนคนหมดแรงแล้ว ส่วนผมยิ่งอึ้งกว่าเดิมเมื่อนึกได้ว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงอิง ผมหันกลับไปมองข้างหลังอย่างรวดเร็วแล้วก็พบว่าไอ้เปายืนขึ้นแล้วมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว
“กลาง!”
เสียงของฟ้าดังขึ้นอีกครั้งเธอเดินอ้อมมาแล้วคว้าแขนผมไว้ พอๆกับที่ไอ้เปาสาวเท้าเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจอิงที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น
“เอ่อมาทำอะไรที่นี่?” ผมรู้ว่าคำถามผมมันโง่แต่ผมต้องไม่ทำให้บรรยากาศมันแย่ลงครับ ไอ้เปามันหน้านิ่งไม่ตอบอะไรแต่ตามันจ้องเขม็งไปที่แขนข้างซ้ายของผมซึ่งฟ้ากำลังกอดอยู่
“ปล่อย”
“เรามีเรื่องจะคุยกับกลาง”
“ปล่อย”
มันพูดเสียงแข็งครั้งที่สอง ผมค่อยๆ แกะตัวเองออกจากแขนของฟ้า เหลือบมองไอ้กล้วยมันนั่งมองมือตัวเองนิ่งๆ กูขอโทษนะไอ้กล้วย แต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างมันเริ่มวุ่นวายมากขึ้นแล้ว
“กลาง ฟ้าชอบกลางนะ คบกันมั้ย”
ฟ้าเงยหน้ามองผม แววตาสั่นระริกแต่พอเธอพูดว่าชอบผมไอ้เปาก็บีบแขนผมแน่น ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะหันไปบอกฟ้าด้วยเสียงหนักแน่น
“เรา...เราไม่ได้ชอบฟ้า ขอโทษนะ”
“ฮึก เราเสียใจ เราเกลียดกล้วย ให้ความหวังเราทำไม หลอกเราทำไม กลางไม่ได้ชอบเรา!!”
ผมมองเธอนิ่งให้เธอเข้าใจว่าผมพูดจริง ฟ้ามองหน้าผมเธอพูดเสียงสั่นอย่างตัดพ้อแล้วก็หันไปตะโกนใส่ไอ้กล้วย น้ำตาเม็ดเล็กหยดลงมาช้าๆ เธอยกมือปาดมันอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้ากระเป๋าถือแล้ววิ่งออกจากร้านไป
“ฟ้า! กล้วยขอโทษฟ้า”
ไอ้กล้วยตะโกนตามหลังฟ้าไป ไอ้เปาหันไปมองไอ้กล้วยเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนมือมากำข้อมือผมแน่นแล้วออกแรงลากผมให้เดินออกไปจากร้าน มันลากผมให้หยุดยืนที่หน้าอิงที่แววตาหม่นแสงลง
“อิง เราขอโทษ”
“....”
“เรามีแฟนแล้ว”
“เราเข้าใจ...ขอโทษนะที่ทำให้เปาลำบากใจแล้วก็ขอบคุณที่สอนเรา”
อิงพูดจบแล้วก็ยิ้มฝืนๆ ให้ไอ้เปา จมูกอิงแดงเล็กน้อย ไอ้กล้วยที่อยู่ด้านในสุดของร้านยืนขึ้นสบสายตากับผมเงียบๆ ไม่นานไอ้เปาก็ลากผมออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมหันกลับไปมองร้านข้างมอ ร้านกาแฟสไตล์ร่มรื่นที่ตอนนี้มีคนอกหักพร้อมกับถึงสามคนและฝนก็เริ่มลงเม็ดช้าๆ
[ต่อด้านล่างค่ะ]