ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)  (อ่าน 226950 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
«ตอบ #570 เมื่อ05-08-2017 17:25:26 »

ขอให้เปามีความสุขจริงๆสักที  :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
«ตอบ #571 เมื่อ05-08-2017 20:19:32 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yukina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
«ตอบ #572 เมื่อ07-08-2017 11:40:19 »

เข้าใจกันซะที สงสารกลางจะแย่ ต่อไป ขอหวานๆนานๆนะ เอาเปาหึงกลางหน่อย 5555  :impress2: :o8: :L2:  สนุกๆๆ ขอบคุณนะครับ ชอบๆ

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #573 เมื่อ09-08-2017 20:33:12 »

24
ฟ้าสีกลางๆ

“วันนี้ฉลองกันเถ้ออออ ฉลองที่ไอ้กลางออกจากโรงพยาบาลกับฉลองให้ความรักอันชื่นมื่นของผัวเมียยยยย”

“ผัวเมียอะไรวะ” ผมเตะขาไอ้กล้วยใต้โต๊ะ มันทำหน้าเหวอปนตกใจแล้วเอียงตัวมาหาผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดเสียงเบา

“นี่อย่าบอกว่าพวกมึงยัง...” มันเว้นช่วงก่อนจะทำสีหน้ากรุ้มกริ้ม “ซิงมากูเตะหรอ”

“ไอ้เชี่ย ตั้งใจเรียนไป” ผมดันหน้ามันออกแล้วไอ้กล้วยก็พูดเสียงแหลม

“เออ เดี๋ยวเลิกเรียนกูจะจัดการพวกมึงสองตัว”

“ไอ้กล้วย” ไอ้เปาส่งเสียงเรียก มันนั่งถัดจากไอ้กล้วยไปสองโต๊ะ ถามว่าทำไมมันไม่ได้นั่งกับผมน่ะหรอครับ ผมต้องตอบว่าเรื่องของมัน

“อะไรไอ้เปา มาสายก็นั่งข้างนอกไปดิ”

“ไอ้สัด นั่งเรียนดีๆ ได้มั้ย แล้วทำไมต้องไปเบียดไอ้กลางด้วย”

“เอ้า ทำไมจะเบียดไม่ได้ นี่แน่ะๆๆๆๆ” ไอ้กล้วยกวนตีนไอ้เปาด้วยการเอาหน้าอกที่เต็มไปด้วยเอ่อ...นม มาถูไถที่ต้นแขนผม ไอ้เปาถึงกับจะกระโจนมาแต่ไอ้ทัพกับไอ้เบสคว้าเอวไว้ได้

“ใจเอาๆ เพื่อน หน้าตาเหมือนผลไม้สีเหลืองๆ แบบไอ้กล้วย ไอ้กลางแม่งไม่สนใจหรอก”

“ใช่ๆ ไอ้เปา ไอ้กล้วยมันเรียกร้องความสนใจ พ่อแม่ไม่รักก็เงี้ย”

“ไอ้เชี่ยอย่าเอาครอบครัวกูมาล้อเล่น เออทำไมล่ะ ก็พวกมึงสองคนไม่คุยกันนานดีนัก ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดกูจะฉุดไอ้กลางมาทำมะ...”

“มึงพูดดีๆ นะไอ้กล้วย ตีนกูรอเจอปากมึงอยู่” ไอ้เปาพูดเสียงแข็งพร้อมกับทำตาขวาง

“โหดร้ายยยยยยยยยย กูจะบอกว่าฉุดไอ้กลางมาทำมะ...ทำมะไง”

“นักศึกษาด้านหลังคุณจะฉุดใครก็ฉุดไปแต่อย่าฉุดในคลาสของครูค่ะ” อาจารย์ส่งเสียงมาตามไมค์พร้อมกับเสียงหัวเราะครืนใหญ่ของเพื่อนๆ

“ขอโทษค้าบอาจารย์....”

“ชดวันเสาร์แค่นี้ต้องเกรี้ยวกราดในคลาสครูเลยใช่มั้ยคะ”

พวกเรายกมือไหว้ปลกๆ แล้วก็ทำเป็นจับหนังสือจับปากกาตั้งใจเรียนแทน ไอ้กล้วยขยับไปนั่งที่ตัวเองอย่างเนียนๆ โดยมีสายตาอาฆาตจากไอ้เปาส่งมาให้ตลอด

เมื่อวานหลังจากที่ผมกลับไปที่ห้อง ตอนค่ำพ่อกับแม่และพี่โตก็ต้องกลับเชียงใหม่แล้ว ไอ้เปาก็เลยอาสาไปส่งที่สนามบินครับ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งรออยู่ที่ห้องเงียบๆ คิดว่าคงได้จัดห้องไปพลางๆ แต่พอกลับมาห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยดีทุกอย่าง คงจะเป็นแม่นั่นแหละที่ทำให้ พูดถึงแม่แล้วน้ำตาจะไหล ฮือ... ไอ้เปาส่งครอบครัวผมกลับเชียงใหม่เสร็จมันก็กลับไปนอนที่คอนโดตัวเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ มันดึกแล้ว มันเลยส่งข้อความมาว่าจะมารับผมเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมันไม่มา ปล่อยให้รอจนเกือบจะเข้าเรียน ผมเลยต้องรีบวิ่งออกมาโบกพี่วิน ผมฟูเป็นสิงโตเลยทีเดียว


นี่แหละครับการเริ่มต้นครั้งใหม่ของเรา


Paramatkrikri
ช่วยขยับตัวไปห่างๆ ไอ้กล้วยด้วย

เอ๊ะ ผมหันไปมองไอ้คนส่งข้อความที่ตอนนี้นั่งหน้าไม่สบอารมณ์ มันก้มหน้าก้มตากดไม่นานข้อความถัดมาก็มาถึงมือผม

เมื่อเช้าตื่นสาย ยกโทษให้กูด้วยครับ

ผมไม่ตอบอะไรกลับจนรู้สึกว่ามันหันมาจ้องผมพร้อมกับรอคำตอบ เออ ตอบหน่อยแล้วกันเดี๋ยวเป็นบ้าไม่รู้สาเหตุอีก

“เออ” ผมตอบกลับไปแค่นี้ก่อนจะตั้งใจฟังอาจารย์อีกครั้ง เห็นหางตาว่าไอ้คนรับทำหน้ามุ่ยก็ขำดีครับ

พอเลิกคลาส ผมก็เก็บของใช้ปลายนิ้วสะกิดไอ้กล้วยที่หลับน้ำลายยืด วันนี้ก็ตัวบังคับมหาลัยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเรียนชดเชย วิชาการแบบนี้พวกผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่หรอกครับ ไอ้เรามันสายปฏิบัติ อาจารย์ประจำวิชาออกจากคลาสเรียนใหญ่ไป ไอ้เจที่นั่งหน้าห้องก็วิ่งขึ้นมาหาผมครับ ห้องเรียนมันเป็นสโลปน่ะครับ

“ไอ้เหี้ยกลางเป็นไงบ้างวะ” เห็นหน้ามันผมก็ลืมซะสนิทเลย

“เปางานกูล่ะ งานกูอยู่ไหน” ผมหันไปหาไอ้เปาที่ตอนนี้ยืนกอดอกหน้างออยู่ทางขวาติดกับทางเดินของอีกฝั่ง ไอ้เปากำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้เจก็โพล่งขึ้น

“งานมึงส่งแล้วเพื่อน อาจารย์ชมใหญ่ว่าเด็กปีหนึ่งงานดีขนาดนี้เลย” ว่าแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้นก่อนจะตบไหล่ผมปุๆ

“หน้าตากูหรอ?”

“งานเพื่อนงาน” ไอ้เจหัวเราะ มันเอื้อมมือมาโบกหัวผมทีนึง ผมก็ยิ้มขำๆ ตอบ “เล่นมุขได้แบบนี้มึงคงจะหายจากอาการป่วยแล้วล่ะสิ” มันถามต่อ

“อ๋อ เออดีขึ้นแล้ว จริงๆ ไม่ได้ป่วยอะไรหรอก กูแค่นอนไม่พอ”

“เปล่าๆ” ไอ้เจส่ายหัว ก่อนจะชะโงกหน้ามากระซิบข้างหูผม “ป่วยใจน่ะ”

“ไอ้เจ นานไปละมึง” ไอ้เปาเดินข้ามขาสามหน่อคอหล่อเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับดันหัวไอ้เจออก

“อะไรของมึงเนี่ยไอ้เปา ไอ้กลางดูเพื่อนมึงดิ เสียทีที่กูอยู่ปลอบใจมึงตั้งหลายวัน” มันทำท่าออเซาะผม ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ แต่คนที่ไม่รู้คือไอ้เปาเพราะมันกำหมัดแน่นแล้วพูดลอดไรฟัน

“ไอ้สัด!”

“ไม่อยากให้กูปลอบใจไอ้กลางก็อย่าปล่อยให้มันอยู่คนเดียวอีกนะไอ้เปา” ไอ้เจหัวเราะหึหึแบบกวนตีนก่อนจะรีบพูดแล้ววิ่งแจ้นไปที่ประตูทางออกอย่างรวดเร็ว ไอ้กล้วยทำได้แต่คว้าไหล่ไอ้เปาไม่ให้มันวิ่งไปเตะไอ้เจเท่านั้นแหละครับ ไอ้เปามองผมตาขวางเหมือนผมเป็นคนผิดงั้นแหละ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรออกไป ไอ้เจชะโงกหน้ามาจากประตูแล้วตะโกนเสียงดัง

“อย่าลืมเอาเสื้อกูมาคืนด้วยนะไอ้กลาง คืนที่เรานอนด้วยกันน่ะ”

“ไอ้เชี่ยเจ!!!”





กึก!

“แม่ง...หงุดหงิด”

“หงุดหงิดอะไรนักหนา ไอ้เจมันไปตั้งนานละ” ผมวางจานข้าวแล้วนั่งลงข้างๆ มัน ตอนนี้ชีวิตผมกลับมาสู่ชีวิตที่เรียกได้ว่าเหมือนเดิมอย่างเต็มรูปแบบ มันเหมือนเดิมโดยที่ใจของผมสบายขึ้นตั้งเยอะ ได้มากินข้าวกับเพื่อนๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากรักษาไว้นานๆ

“หงุดหงิดตัวเองนี่แหละ ถ้ากูไม่ปล่อยให้มึงอยู่คนเดียวมันก็คงไม่เป็นแบบนี้” มันคว้าน้ำแดงมาดูดอึกๆ อย่าคิดว่าผมจะปลอบมันนะครับ

“สมน้ำหน้า จำไว้ด้วยล่ะ”

“อะไรอะกลาง ทำไมมึงเป็นแบบนี้แล้วอะ มึงต้องปลอบกูดิ” มันโวยวาย

“เรื่อง?” ผมยักไหล่แล้วก็เริ่มตักข้าวกิน ไอ้เปามันขมวดคิ้วแต่ก็ยื่นช้อนมาตักต้นหอมในจานผมออก

“ไม่กินแล้วจะสั่งมาทำไมวะยำอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็บ่นเหม็นอีก”

“กูยังไม่ได้บ่นซักคำเลย” ผมว่าพลางตบท้ายทอยมันไปหนึ่งที ไอ้เบสกับไอ้ทัพที่พึ่งมาถึงก็ทำหน้าปุเลี่ยนทันที

“โอ๊ยยยยรำคาญญญญ วันก่อนยังทำหน้าเหมือนจะเป็นจะตาย วันนี้มึงเป็นเชี่ยไรกัน ผีสิงหรอ”

“งั้นกูนั่งห่างๆ กับมัน พวกมึงจะได้ไม่รำคาญดีมั้ย” ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะขยับตัวห่างจากไอ้เปาแต่ที่เหลือสามคนกลับตะโกนเสียงดัง

“ไม่ได้!”

“อะไรของพวกมึงเนี่ย”

“เออ พวกมึงจะผีสิง จะสิงกันก็ตามใจ ดีกว่าบรรยากาศอึดอัดกูไม่โอเค” ว่าแล้วไอ้เปาเดือนคณะก็พยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ

“เออๆ กินข้าวได้แล้ว แล้วไอ้กล้วยหายไปไหนแล้วล่ะ ทิ้งข้าวไว้นี่ ตัวก็แวบเหมือนกระสือ”

“กูอยู่นี่ครับเพื่อนนนนนนนนน” ไอ้กล้วยลากเสียงพร้อมกับเสนอหน้าตาตอแหลมาตรงหัวโต๊ะ ถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็มีนักศึกษาที่มีเรียนอยู่เหมือนกัน ส่วนคนที่กำลังกินข้าวบริเวณนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบๆ เพราะเสียงไอ้กล้วย ไอ้กล้วยไม่ได้มาคนเดียวแต่ลากพี่จิ้มที่พวกผมเคารพรักมาด้วย

“ดูซิว่ากูพาใครมา” ไอ้กล้วยผายมือออกเชิญแขกรับเชิญที่ทำหน้าตาเซ็ง ไม่ได้เจอนาน พี่จิ้มก็ยังมีหนวดเหมือนเดิม

“ไหนใครวะ กูไม่เห็นเห็นเลย” ไอ้เปาเงยหน้ามาตอบ สายตามันมองข้ามพี่จิ้มไปไกล

“แม่งหรือว่ากูพาผีมา” ไอ้กล้วยมันก็เล่นด้วยทำเป็นกวาดมือไปข้างๆ ตัวเฉี่ยวหัวพี่จิ้มบ้าง เฉี่ยวตัวพี่แกบ้าง

“ผีบ้าสิมึงอะไอ้เปา แล้วไอ้เหี้ยกล้วยลากกูมาดูพวกมึงแดกข้าวทำเหี้ยไร เห็นกูเป็นสัมภเวสีหรอมองแล้วก็อิ่มอะ” พี่จิ้มด่ารัวๆ จนไอ้กล้วยดึงตัวพี่จิ้มให้นั่งลงตรงข้ามไอ้ทัพที่โซ้ยก๋วยเตี๋ยวไม่สนประเทศชาติ “แล้วพวกมึงอะได้ฤกษ์มาแดกข้าวพร้อมหน้ากันแล้วหรอ อาทิตย์ก่อนๆ เห็นคนนู้นไปที่นึง คนนี้ไปที่นึง”

“จุ๊ๆๆ” ไอ้กล้วยส่งเสียงพร้อมกับโบกนิ้วชี้เป็นเชิงปฏิเสธ

“พ่อเป็นจิ้งจกหรอไอ้สัด หงุดหงิดโว้ย” พี่จิ้มตบหัวไอ้กล้วยเต็มแรง มันเลยกลายร่างจากจิ้งจกเป็นคนเหมือนเดิม พวกผมเห็นเลยหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่

“ใจเย็นดิพี่ น้องกล้วยรู้ว่าพี่จิ๋มหงุดหงิด น้องกล้วยเลยอยากจะชวนพี่จิ๋มและผองเพื่อนมาเลี้ยงฉลองที่ไอ้กลางออกจากโรงพยาบาลและฉลองก่อนจะเริ่มงานใหญ่ของพวกผม”

“เรื่องของมึงสิ”

“โหย พี่ผมรู้นะว่าปีพี่งานเยอะ แถมจารย์ยังด่าข้ามตึกขนาดนั้น ไปเมาให้หัวมันโล่งแล้วเรามาเต็มที่กับงานไง” ไอ้กล้วยบีบๆ นวดๆ รุ่นพี่มันยกใหญ่ ไม่นานพี่จิ้มก็เอนเอียง

“เออก็ดีเหมือนกันว่ะ แล้วงานนี้ใครเลี้ยงอะ”

“ก็คนที่พาพี่มาไงพี่จิ้ม” ไอ้เบสชี้ จนไอ้กล้วยสะดุ้งโหยง

“เล่นกูแล้วไงเพื่อนนน แต่ไม่เป็นไร เพราะความรักสีโม่งๆ ของไอ้เปาและไอ้กลางเพื่อนกล้วยจะยอมเสียเงินถุงเงินถัง”

“ว่าไงนะ” พวกผมถามพร้อมกัน

“เปล่าๆ เพื่อนกล้วยยอมเลี้ยงเพื่อเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของทุกคน” มันเม้มปากกำหมัดวางไว้บนอกซ้าย สายตามองไปยังฝ้าเพดานของโรงอาหาร ท่าทางเหมือนนักบอลเวลาได้ประตู

“ถ่ายเก็บไว้ยังไอ้ทัพ”

“เออได้ละๆๆ เป็นหลักฐานเว้ย”

“แดกวันไหน” ไอ้เปาถามขึ้น

“วันนี้ไง วันนี้วันเสาร์เมาได้ที่ห้องไอ้กลางเป็นไง”

“ทำไมต้องห้องกูอะ” ผมแย้ง ห้องผมพึ่งสะอาดเพราะแม่เก็บให้นะครับ อย่ามาสร้างความสำราญในห้องผม

“ห้องมึงอะดีสุด หอมึงเวลาเสาร์อาทิตย์คนเงียบเป็นป่าช้า”

ผมขัดอะไรไม่ได้หรอกครับก็คนมันจะไปอะ พี่จิ้มพยักหน้าตาปรือๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ “ตกลงตามนี้ใช่มั้ย กูจะไปกระจายข่าว มึงหมดตัวแน่ไอ้สัดกล้วยน้องรัก”

“หมดตัวไม่เป็นไร แต่หมดใจไม่เอาดีกว่า”

“แดก!”

ไอ้เบสลุกขึ้นมาตบหัวไอ้กล้วยฉาดใหญ่แล้วเลื่อนจานข้าวที่มันซื้อมาวางประดับโต๊ะให้ไอ้กล้วยกิน

“กูล่ะเหนื่อยใจจริงๆ อยากจะรู้นักคนที่ได้ไอ้กล้วยไปเป็นแฟนนี่จะหน้าตาเป็นยังไง”

“ทำแมะ มึงมีปัญหาอะไรกับกู”

“เปล่าเพื่อนเปล่า จุดธูปแดกข้าวตั้งนานแล้วรีบๆ แดกเถอะครับ จะได้กลับห้อง”

“ก็ด้ายย เห็นแก่กลิ่นธูปต้องรีบแล้วเดี๋ยวธูปหมดดอกไม่ได้แดก” ไอ้กล้วยเลียริมฝีปากก่อนจะจับช้อนส้อมพล่ามไปเรื่อย





“กลางมึงอยากไปไหนมั้ย” ไอ้เปาถามขึ้นขณะกำลังขับรถออกมาจากมอ หน้าตามันดูกระตือรือร้นแปลกๆ

“ไม่อะ กูอยากอยู่ห้อง”

“โห ไรวะ...” ไหล่มันห่อลงเหมือนเด็กโดนขัดใจ จนผมกลั้นขำ

“แล้วมึงไม่ได้รับงานอะไรแล้วหรอ”

“ไม่ กูจะเลิกแล้ว”

“เลิกกับกูหรอ”

“กลาง” มันกดเสียงต่ำ “มึงอย่าพูดคำนี้” อ่อนไหวอีกไอ้เด็กน้อยเอ๊ย

“ขอโทษๆ เซ้นซิทีฟจริงๆ แล้วตกลงเลิกอะไร”

“เลิกรับงาน” มันรู้ว่าผมเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ยอมคุยตามน้ำ ไม่อยากจะรื้อฟื้นให้เด็กมันเจ็บ

“ทำไมอะ”

“กูอยากอยู่กับมึงนานๆ” มันตอบไปด้วยแล้วก็ชะโงกมองรถที่กระจกข้างคนขับ มันพูดเหมือนเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม แอบมองมันแล้วอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะหยอกมันต่อ

“ถามกูยัง?”

“กลางงงง”

“ล้อเล่น แล้วแต่มึง เอาที่มึงสบายใจ แต่อันไหนที่เป็นโอกาสดีมึงก็คิดดูดีๆ ล่ะ” มันครางรับในลำคอแล้วชะลอรถให้นักศึกษาข้ามถนน

“ขอจับมือหน่อยดิ อยากจับมือแฟนตอนขับรถอะ อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกยังไง” ผมมองมันงงๆ ส่วนไอ้คนที่พูดขอปาวๆ กลับหน้าแดงเป็นมะเขือเทศ ทำเป็นมองถนนแต่ก็แอบเหล่มามองมือผมอยู่ตั้งหลายครั้ง ผมก็เลยยื่นมือไปตรงหน้ามัน ไอ้เปามันถึงยิ้มกว้าง แต่ก่อนมือซ้ายมันจะจับมือขวาผมนั้น...

“เอ่อ...ขอโทษนะครับ พวกมึงสองตัวลืมไปแล้วรึเปล่าว่าพวกกูยังอยู่ตรงนี้น่ะครับ” ไอ้เบสโผล่หน้ามาระหว่างเบาะจนผมกับไอ้เปาสะดุ้ง

“ไอ้เบส กูว่าลงแล้วโบกแท็กซี่กลับเถอะ” ไอ้ทัพสะกิดหลังไอ้เบสจนมันหันไปมองก็เห็นไอ้กล้วยนั่งเงียบแต่ตามองมาที่ผมอย่างน่ากลัว ไอ้เบสเลยถามขึ้น

“แล้วนี่ไอ้กล้วยเป็นไร จ้องไอ้เปากับไอ้กลางเขม็งเลย”

“กูอยากได้บ้าง” พอไอ้กล้วยตอบแบบนั้น ไอ้เปาก็ส่งเสียงแข็งๆ ขึ้นมาทันใด

“ไอ้กล้วยมึงหลายทีแล้วนะ กูเริ่มคิดว่ามึงชอบไอ้กลางจริงๆ ละ”

“ไอ้เปา คนอย่างไอ้กลางจังไรภายในเงียบๆ งี้ไม่ใช่สเป็คกูร้อกกก”

“เสียงสูงนะมึง”

“มึงขับรถต่อไป ไอ้สารพี”

“สารถีไอ้สัด!”

“เออ นั่นแหละ คอยดูเถอะ ถ้ากูมีแฟนนะกูจะหวานให้หนักกว่าพวกมึงอีก หายใจเข้าเป็นน้ำตาล หายใจออกเป็นน้ำเชื่อมเลย”

“ไอ้สัดรำคาญ หาให้ได้ก่อนเถอะมึงอะ” ไอ้ทัพผลักหัวไอ้กล้วยไปทีนึง

“กูจะจำคำดูถูกของพวกมึงไว้ตรงนี้! ในรถคันนี้! เวลานี้! ถ้ากูมี พวกมึงก็อย่ามาอิจฉากูแล้วกันนนน”

ผมส่ายหน้าเอือมๆ แล้วหันมามองถนนแทนปล่อยให้พวกมันเถียงกันเป็นเด็กอยู่ด้านหลัง ไอ้เปาที่นั่งหน้าบูดขับรถแบบตั้งใจผิดปกติ ส่วนมือข้างซ้ายมันก็ยังไม่ได้จับมือผมอย่างที่มันว่าไว้เมื่อกี้ ผมขำเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมไปลูบท้ายทอยปลอบใจน้องนกกระปูดแดง พอสีหน้ามันดีขึ้นหน่อยก็หันไปมองวิวด้านข้างแทน





“เจอกันเว้ยพวกมึง”

ไอ้เปาจอดรถในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ไอ้สามหน่อคอหล่นมันจะไปจัดการเรื่องอาหารและเหล้าครับ พวกมันบอกว่าไม่ต้องรอ เดี๋ยวจะจัดการเอง ส่วนผมมีหน้าที่ต้อนรับ จัดสถานที่ เรื่องแก้ว จาน  และไอ้เปาก็เป็นลูกมือของผมในวันนี้

ถึงห้องผมจะไม่กว้างเท่าห้องไอ้ทัพแต่อย่างที่ไอ้กล้วยว่าเสาร์อาทิตย์ชั้นที่ผมอยู่คนแทบไม่มี ก็จัดซะหน่อยนะ ผมกับไอ้เปาช่วยกันจัดพื้นที่ ลากโซฟาให้ขยับออกห่างวันนี้ก็คงนั่งดื่มกันข้างล่างนี่แหละครับ ก่อนมาที่ห้องเราก็แวะซื้ออุปกรณ์สำหรับใส่อาหาร
 น้ำ ซื้อถังใส่น้ำเเข็งเรียบร้อย เพราะผมอยู่คนเดียวแก้วก็ไม่ได้มีใช้หลายใบ

“พอยัง เดี๋ยวมึงก็หน้ามืดหรอก” ไอ้เปาถามขึ้นพลางเหลือบมองผมที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ในครัว หลังจากจัดที่จัดทางแล้วนั้นมันก็ทิ้งตัวนั่งบนพื้นพรม และเอนหลังพิงส่วนล่างของโซฟาไว้ ไอ้เปาใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อแล้วกดเปลี่ยนช่องดูรายการวาไรตี้ในทีวี ผมเดินไปหยิบเอาผ้าเย็นออกจากตู้เย็นมาให้

“บ่นจังเลย” ผมฉีกซองผ้าเย็นก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วเช็ดหน้าให้มันไปสองสามที น่าสงสารเค้านะครับ

“ก็แทนที่จะอยู่ด้วยกันสองคนอะ”

“นี่ไม่ได้อยู่สองคน” ผมเลิกคิ้วถามแล้วหันไปมองทีวีต่อ แต่จู่ๆ มันหันหน้ามาหาผมแล้วจ้องตาผมนิ่ง

“กลาง”

“อะไร” ไอ้เปาส่งเสียงขัดใจเมื่อเห็นว่าผมยังมองทีวีอยู่ “เฮ้ยๆ จะมาบังทำไมเนี่ย พิธีกรคนนี้กำลังโดนลงโทษนะเว้ย”

“กู...คิดถึงจริงๆ นะ” มันพูดด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกับเรื่องที่กำลังพูดเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

“คิดถึงไรวะ ก็อยู่นี่แล้วไง” ผมผลักหน้ามันออกแต่มันก็ขืนตัวอยู่อย่างนั้น

มันอมยิ้มนิดๆ “ก็คิดถึง...จูบของเราอะ”

อะ...ไอ้เปา นี่มันเวอร์ชั่นอัพเลเวลรึไงเนี่ยยย

“นี่มึงเป็นคนแบบนี้หรอวะ” ผมดึงมือมันเพื่อให้หลุดจากการจับไหล่ผมแต่มันก็ไม่ยอมปล่อย คราวนี้ไอ้เปาเริ่มทำเสียงแข็ง กลไกการคิดไปเองเริ่มเดินอีกครั้ง

“หรือว่ามึงไม่คิดถึง?” ไอ้เปามองหน้าผมนิ่ง

“ก็...ไม่ค่อยเท่าไหร่” เรื่องอะไรจะให้มันยอมอัพเลเวลคนเดียวล่ะ มันเริ่มมีอาการทางสีหน้า สายตาวูบไหวไปเล็กน้อย ผมอยากจะขำนักแต่ต้องเก๊กไว้

มันเปลี่ยนแววสั่นไหวเป็นแข็งกร้าวก่อนที่มันจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงไม่ยอมแพ้ “โกหก! พิสูจน์สิว่าปากมึงก็คิดถึงกู”

ไม่ทันได้ตอบอะไร ไอ้เปาก็ยื่นหน้า ริมฝีปากอุ่นประกบกับริมฝีปากผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมเบิกตาค้างไว้นิดๆ ท่าทางต้องน่าขำแน่นอน ไอ้เปาไม่กดจูบอย่างเดียวมันเลื่อนมือที่จับไหล่มายึดท้ายทอยผมแน่น ส่วนอีกข้างก็รั้งเอวผมให้แนบกับตัวมันมากขึ้น

“ห้ามพูดอีก ห้ามพูดว่าจะเลิกกับกู ห้ามพูดว่าไม่คิดถึงกู” มันพูดชิดริมฝีปากของผม ไอ้เด็กเอาแต่ใจ

“อื้อ!” ผมประท้วง ไอ้เปาเหมือนหมาบ้า มันพยายามแทรกลิ้นเข้ามาสำรวจความร้อนในโพรงปากของผมแต่ผมเม้มปากแน่น ผมทุบไหล่มันประท้วงขออากาศ

“กลางขอลิ้นหน่อยดิ” ไอ้บ้านี่...จะให้ตัดให้หรอ

เสียงเจ๊าะแจ๊ะดังอยู่ใกล้กับเสียงครางต่ำของไอ้เปาพาลให้ปั่นป่วนหัวใจชอบกล ใจผมสูบฉีดแรงจนเจ็บเหมือนความร้อนไปกระจุกอยู่ตรงแก้มจนแทบจะระเบิด หน้าท้องของมันบดเบียดกับหน้าท้องผม มือที่จับท้ายทอยผมไว้เริ่มคลึงเบาๆ มันจะเกินไปแล้วนะ ไอ้เปาลดการจู่โจมแบบรวดเร็วมาเป็นช้าเนิบนาบเหมือนอ้อนขอด้วยการกระทำ ผมหายใจไม่ทันผมเลยเผลอเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ไอ้เปายิ้มมุมปากโคตรร้ายก่อนใช้ลิ้นสอดเข้ามาทันที

“อะ...อื้อ!”ผมหอบหายใจหนักหน่วง ดันหน้าอกมันออกอย่างแรง ไอ้เปาผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง มันจูบเหมือนจะดึงปากผมไปด้วยอย่างนั้นแหละ

ผมใช้หลังมือเช็ดน้ำลายที่ไหลเปื้อนมาที่มุมปากก่อนจะปิดปากไว้แบบนั้นพลางมองไอ้ตัวต้นเหตุตาเขียว ไอ้เปายิ้มจนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม ท่าทางไม่สลดซักนิด มันจับมือที่ผมปิดปากตัวเองไว้ออกช้าๆ แล้วไล้นิ้วโป้งเข้ากับมุมปากผมเบาๆ

“คิดถึงเหมือนกันนี่เราอะ”

.
.
[ต่อด้านล่างนะจุ๊]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2017 06:55:13 โดย jaevin »

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #574 เมื่อ09-08-2017 20:43:55 »

.
.
[ต่อจากด้านบนจ้า]


“คิดถึงพ่อมึงอะ!!!”

เชี่ย...แทบสะดุ้ง ได้ยินคำว่าคิดถึงแล้วก็เผลอนึกไปถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายไม่ได้ ผมยกแก้วขึ้นดื่มบังสายตาจากไอ้เปาที่มองมาอย่างล้อเลียนทั้งๆ ที่ปากมันก็กำลังคุยอยู่กับพี่อั๋นอย่างออกรส

ไอ้คนที่พูดประโยคข้างต้นคือพี่จิ้มครับ ไอ้กล้วยคงไปกวนตีนอะไรพี่จิ้มแก เลยได้นิ้วกลางสั้นๆ ของพี่จิ้มมาเป็นของตอบแทน ไอ้กล้วยยิ้มร่าหลังจากกวนตีนพี่มันได้สำเร็จก่อนจะถลามานั่งข้างผม

แกร๊งๆๆๆ

“แดกให้หมด ไอ้กล้วยจ่ายต้องเอาให้หมดโว้ย” พี่จิ้มใช้นิ้วคนเหล้าในแก้วสองสามที่แล้วตะโกนขึ้นกลางวง

“ชนๆ!!”

ทุกคนในวงร่วมใจกันชูแก้วขึ้นก่อนจะชนกันเสียงดังแกร๊งกร๊าง เมื่อชั่วโมงที่แล้วไอ้ตัวต้นคิดมาหอผมพร้อมกับถุงเต็มมือ ไอ้ทัพไอ้เบส และไอ้กล้วยแบกอาหารและเหล้าเข้ามาในห้องผม ผมกับไอ้เปาก็จัดการใส่จานวางเตรียมไว้พร้อมเสิร์ฟ อย่าพูดถึงเหตุการณ์เลเวลอัพของไอ้เปาเลยครับ ผมไม่ขอพูดถึง หลังจากนั้นไม่นานพวกพี่ๆ ที่รักของพวกผมก็ทยอยเข้ามา งานวันเกิดอยากจะแดกของไอ้กล้วยก็ประกอบด้วย พี่อั๋น พี่แตง พี่กอบ พี่เช่ พี่จิ้มหนวดจิ๋ม และพวกผมแกงค์คนหล่อแห่งสินกำทั้งห้าคน

“ไอ้เปาทำไมวันนี้มึงนั่งห่างไอ้กลางจังวะ” พี่เช่หยิบเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาเคี้ยวกร้วมๆ ก่อนถามขึ้นแล้วมองผมสลับกับไอ้เปา

“เออนั่นดิ ปกติเห็นตัวติดกันเป็นผัวเมีย” พี่แตงเสริม พวกพี่มึงไม่ต้องสนใจผมร้อก แดกไปเถอะเหล้าน่ะ พอผมไม่ตอบไอ้เปาก็เริ่มปฏิบัติการจังไรทันที

“พี่อย่าไปถามไอ้กลาง วันนี้มันงอน ผมทำการบ้านไม่ถึงใจ”

“ไอ้สัด!” ผมสบถ

“ฮิ้วววววววววววววววว”

“จริงปะไอ้กลาง” พี่จิ้มจอมเสี้ยมให้ผมได้กับไอ้เปาตั้งแต่รับน้องปรบมือเป็นจังหวะแต่เสียงที่พี่มันทำเองคือเสียง “ปั่บๆๆๆ”

“ฮ่าๆ” เออหัวเราะกันไปให้หมด

“ไม่ใช่โว้ย”

“เขินหราจ๊ะ หน้าแดงกิ้วๆ”

“หน้าแดงพ่อมึงดิไอ้กล้วย” ทุกคนชี้นิ้วล้อผมกันหมด ไอ้เบสที่ไม่ค่อยจะล้อผมก็ยังขำไปด้วย “เบสช่วยด้วย”

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้กลาง คนที่มึงจะต้องเรียกหาคือกูไม่ใช่ไอ้เบส” ไอ้เปาวางแก้วเหล้าแล้วลุกพรวดมานั่งแทรกผมกับไอ้เบสทันที พี่อั๋นที่นั่งคุยกับมันหน้าเหวอก่อนจะด่ามันเสียงดังเรียกเสียงครื้นเครงขึ้นมาอีกระลอก

“เห็นเมียดีกว่าพี่!”

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งผลัดกันเล่าเรื่องเรียน เรื่องผู้หญิง เรื่องงาน เรื่องประสบการณ์จังไรๆ ที่เคยผ่านมา ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ไอ้กล้วยเติมเหล้าให้ไอ้เปาอยู่เรื่อยเลย ผมก็สไตล์เดิม จิบๆ ไอ้ทัพกับไอ้เบสนี่หน้าแดงเหมือนเห็นแสงแห่งธรรมเรียบร้อย มันนั่งเลื้อยพิงกันฟังเรื่องคนอื่นเล่าอย่างน่าอนาถ

“อะไอ้กอบตามึงละ เล่าเรื่องที่เหี้ยที่สุดในชีวิตมึงมา”

“กูอะนะ...กูเคยทำมาทุกอย่างแล้วเว้ย เหล้า ยา หญิง กูมันจนไงไอ้เหี้ย มีใครจ้างกูทำอะไรก็ทำหมดจนกูไปทำงานกับแกงค์ยาผีแถวบ้านแกงค์นึง มันเป็นแกงค์ที่กูเข้าไปใหม่ก็ไม่รู้อะไรหรอก แต่ที่กูจำได้เสมอคือทุกวันเวลากูไปเอาของกูจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมา แล้วก็จะมีคนในแกงค์เดินออกมาจากด้านหลังด้วยมือเปื้อนเลือด กูพยายามไม่มองก็ทำหน้าที่ส่งของตามที่ต่างๆ พอ แต่สิ่งที่เหี้ยที่สุดคือวันนึงลูกพี่บอกให้กูลองฆ่า...” พี่กอบเว้นช่วง ทำให้คนที่ตั้งใจฟังโหยหวนขึ้นมา

“เหี้ยยยยยยยยย” ไอ้กล้วยร้องก่อนคนแรก

“จริงป้ะไอ้สัด” ตามมาด้วยพี่แตง

“เหี้ยจริง” และพี่จิ้ม

“ลูกพี่กูหรอ?” พี่กอบถามกลับ

“มึงเนี่ยแหละไอ้เหี้ยกอบ กูไม่เคยรู้มาก่อนเลย แล้วมึงจะฆ่ากูด้วยมั้ยเนี่ย วันนั้นยืมตังค์ไปสิบเจ็ดบาทซื้อกั๊ฟที่เซเว่น”

“ไอ้สัดจะฟังต่อมะ” พี่กอบโบกหัวพี่จิ้มไปทีนึงแล้วถามต่อ

“ฟังๆ พี่ผมฟัง ปล่อยเหี้ยพี่จิ้มไปเถอะ”

“แล้วไงต่อพี่” ไอ้ทัพกับไอ้เบสตาตื่นตั้งใจฟังอย่างดีพลางพยักหน้ารัวๆ ประกอบคำพูด

“ก็นั่นแหละกูตามลูกพี่ไปเข้าไปดูหลังจากที่แม่งบอกกูแล้ว มันชื่อพี่คม ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ตอนนั้นกูพึ่งจะสิบหกหมาดๆ เองมั้ง...”

“ยังไม่แห้งพี่จะไปทำไม เดี๋ยวก็เชื้อราขึ้นไข่หรอกพี่”

“ไอ้เหี้ยกล้วย มึงไปเล่นในห้องน้ำไป”

“โทษๆ พี่โทษษษษษ อะ..ต่อๆ”

“กูเดินตามเข้าไปด้านหลัง กลิ่นเลือดโชยเข้าจมูกแล้วก็กลิ่นอะไรไม่รู้ตีเข้าหน้า แม่งอยากอ้วกสุดๆ กูไม่กล้ามองตรงไปข้างหน้าได้แต่มองข้างๆ แทน เห็นพวกมีดใหญ่มีดเล็กวางไว้เต็มโต๊ะเลยเว้ย”

“เอื๊อก” ใครซักคนกลืนน้ำลายเสียงดัง ใจผมก็สั่นๆ นิดๆ พี่กอบเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง จำได้ว่าพี่จิ้มเคยบอกว่าเมื่อก่อนพี่กอบลำบากมาก

“ไอ้พี่คมดันไหล่กูเข้าไปด้านในอีก มันชี้มือไปข้างหน้า กูมองตามไปที่กลางห้องก็เห็นอะไรเปลือยอยู่ พี่คมหยิบมีดพร้อมกับบอกกูด้วยเสียงเย็นๆ ว่า”

“ว่า....” ทุกคนครางรับพร้อมกันเหมือนโดนสะกดจิต

“มันบอกกูว่า...ไอ้กอบลองฆ่าหมูดู เดี๋ยววันนี้กูเข้าเนื้อไปส่งเอง ตึ่งโป๊ะ!” พี่กอบจบท้ายด้วยสีหน้าจังไรแต่พวกผมอ้าปากค้างไปแล้ว

“ไอ้สัด!!!!!!!!!!!!” พี่จิ้มได้สติก่อนร้องคนแรก พวกเราโห่ให้เรื่องเหี้ยๆ ของพี่กอบแบบเฟลสุดๆ

“โอ๊ย เปลืองหู”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ หน้าพวกมึงเหวอเลย”

“อะไรของมึงเนี่ยไอ้เหี้ยกอบบ”

“ก็นี่ไงเรื่องเหี้ยของกู กูไม่อยากฆ่าหมูกูเลยหนีมาแม่ง”

พอทุกคนทำหน้าเหม็นเบื่อเรื่องเล่าของพี่กอบมันก็กลับไปเริ่มเรื่องใหม่ต่อ บัดนี้ห้าทุ่มแล้วเหล้าก็ยังดื่มกันเรื่อยๆ ไอ้เปาที่มีมือชงอย่างไอ้กล้วยชงเหล้าให้ก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่ พวกพี่ๆ กินเหล้าสูบบุหรี่กันคลุ้งห้องไปหมด ไอ้เปาที่นั่งข้างผมก็ดื่มหนัก มันถอดเสื้อยืดออกทางหัว สงสัยจะร้อน แล้วก็คุยเล่นกับพี่ๆ พร้อมกับตาเยิ้มๆ ยกเหล้าดื่มเป็นระยะๆ

“กลางมึงแดกอีกนิดดิวะ” ผมที่คิดว่าจิบนิดเอาเข้าจริงแล้วก็ดื่มไปหลายแก้วอยู่เหมือนกัน พี่จิ้มนี่แหละตัวดีบังคับผมจริง

“เออๆๆ ทุกคนๆ เรามาดูหนังเปลี่ยนบรรยากาศกันดีกว่า กล้วยที่น่ารักของทุกคนเอาหนังมาด้วยคร้าบบ” ผมหรี่ตาไม่ไว้ใจไอ้กล้วย มันลุกขึ้นเสียบไดร์ฟเข้ากับทีวีของผม เลือกไฟล์อย่างชำนาญแล้วหน้าจอก็ปรากฏห้องๆ นึง ทั้งห้องมีแค่เตียงสีขาวเตียงเดียว

เดี๋ยวนะ กูว่ามันไม่ใช่ละ

“หนังไรวะไอ้เหี้ยกล้วย พวกกูเมาแล้วจะดูรู้เรื่องอ่อวะ” พี่อั๋นถามขึ้น พี่เช่ พี่กอบ พี่แตงกับพี่จิ้ม รวมไปถึงไอ้เปาก็ให้ความสนใจด้วย

“พี่อั๋นหนังเนี่ย ไม่ต้องดูก็ได้ฟังแต่เสียงก็ฟินแล้ว”

[เข้ามาก่อนสิ]

“ไอ้เหี้ย เอาแล้วเว้ยๆๆๆ” ไอ้กล้วยถือรีโมทส่งเสียงเชียร์เมื่อมีเสียงภาษาญี่ปุ่นดังขึ้น ซับข้างล่างทำงานทันที

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คนสองคนเดินกอดคอกันเข้ามานั่งปลายเตียงแล้วเริ่มถอดเสื้อ

หนังโป๊เฮชดี!

ที่สำคัญไม่มีผู้หญิงซักคน!

[อาบน้ำมั้ย?]

[ไม่ล่ะ รอไม่ไหวแล้ว]

[จุ๊บ จุ๊บ อะ...อ่าส์...ซี้ด]


ทำไมผมรู้สึกหวิวแปลกๆ วะเนี่ย

ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!

สี่มือเน้นๆ บนหัวไอ้กล้วยกระชากผมออกจากความรู้สึกแปลกๆ นั่นอย่างรวดเร็ว

“ไอ้สัดกล้วย มึงปิดเดี๋ยวนี้เลย!”

พี่จิ้มยันโครมเข้าที่ขาไอ้กล้วยที่ยืนพริ้มเป็นพรีเซนเตอร์หน้าทีวี มันทำหน้าเหรอหรา

“มึงเอาหนังเกย์มาทำไมเนี่ย ทั้งห้องมีแต่ผู้ชายมึงจะให้พวกกูเอากันเองหรอ”

“อ้าวเฮ้ย!!” มันร้องแสดงโคตรเนียน “กดเปิดผิดอันอะพี่ ชิบหายยย” มันทำท่าหารีโมตแต่กว่าจะได้กดปิด ไอ้คนที่นอนแผ่อยู่กลางเตียงก็โดนจัดหนักจนแหงนหน้าร้องซะแล้ว

อึก...ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อเห็นภาพเคลื่อนไหวอยู่ติดตาถึงแม้ว่าทีวีจะปิดไปแล้วก็เถอะ

พวกพี่ๆ รุมตบกบาลไอ้กล้วย “มึงชอบแดกชายหรอไอ้เชี่ยกล้วย”

“เปล่าพี่ๆๆๆ ชื่อไฟล์แม่งเหมือนกันกูโหลดผิดแน่ๆ มันซ้ำกับเรื่องของน้องฮารุโกะอะพี่ โอ๊ยอย่าตีโผ้มมมมม”

ผมมองไอ้กล้วยโดนรุมประชาทัณฑ์ก็เลยร่วมสมทบทุนด้วยการคว้าถั่วปาใส่หัวมัน ผมรู้สึกว่าตัวเองโดนจ้องจนขนลุก พวกพี่ๆ ก็อยู่หน้าทีวีกันหมด ไอ้เบสกับไอ้ทัพก็นอนกอดขวดเหล้าหลับไปแล้ว จะเหลือก็แต่...

“อะ...ไอ้เปา” ไอ้เปาที่เปลือยท่อนบนวางศอกไว้กับหน้าขาตัวเองแล้วเท้าคางไว้กับฝ่ามือจ้องมองผม มันมองไปด้วยยิ้มไปด้วยเหมือนคนบ้า แล้วผมก็ได้รู้ว่ามันไม่ได้มองหน้าผมหรอกแต่มันผมปากผมอยู่!

“ไอ้เชี่ยเปา” ผมเอื้อมมือไปปิดตามันที่หัวเราะคิกคักหูแดงอยู่ข้างๆ เหลือบเห็นแก้วเหล้าที่มันไม่ยอมวางแล้วผมเลยจะเอาแก้วเหล้าในมือมันออก ดื่มเยอะไปละมึง เอามา! แต่ไอ้เปาที่โดนผมปิดตาอยู่ยื่นมือไปข้างหลัง ส่งผลให้ผมถลาไปปะทะอกมัน มันจะไม่มีอะไรผิดปกติถ้าผมไม่ได้รู้สึกว่าอะไรแข็งๆ ดันหน้าท้องอยู่

นี่มัน.....!!





ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาบนหัวเตียงที่ร้องทุกชั่วโมงพลางขยี้ตาเบาๆ

“ตีหนึ่ง”

คว้านาฬิกามาดูแวบนึงก่อนจะวางมันไว้เฉยๆ โคตรง่วงเลย หลังจากเรื่องหนังโป๊ที่จังไรนั้นผ่านไป ไอ้คนที่เหลือก็นั่งดื่มกันต่อ พี่จิ้มกรอกเหล้าเข้าปากไอ้กล้วยใหญ่เพื่อเป็นการลงโทษ และผมก็รู้สึกง่วงเพราะเมานั่นแหละเลยขอตัวเข้ามาอาบน้ำนอน เสียงข้างนอกเงียบไปแล้วพวกมันคงจะกลับกันแล้วมั้ง ผมคิดว่าจะลุกออกไปดูคนข้างนอกแต่ก็ง่วงเกินกว่าที่จะลุก ไอ้เปามันจะนอนตรงไหน..นะ....ได้แค่คิดแล้วก็เผลอหลับไป

“อื้อ...”

ผมบิดตัวหนีสัมผัสที่เย็นและเปียกชื้นตรงแก้ม ปัดไอเย็นที่ลากผ่านลำคอผม นี่ผมฝันหรือกำลังตื่นอยู่วะเนี่ย “อืม..” ผมตะแคงข้างหนีแต่ก็มีอะไรซักอย่างดึงไหล่ผมให้นอนหงายเหมือนเดิม

“ฮือ..” ผมครางด้วยความรำคาญก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นเห็นเงาตะคุ่มอยู่เหนือหัว เชี่ย! นึกว่าผี...เงานั้นไม่รอให้ผมได้คิดอะไรมันแนบตัวมาทับผมจนไม่เหลือช่องว่างแล้วลากลิ้นร้อนๆ ไปที่บริเวณไหปลาร้าผมแทน

“ไอ้เปา” ผมเรียกมันชะงักไปไม่กี่วิแล้วก็เลื่อนหน้ามาจูบปิดปากผม กลิ่นครีมอาบน้ำของผมลอยเข้ามาเตะจมูก ไอ้เปามันไม่ได้ใส่เสื้อ ตัวเย็นเหมือนพึ่งอาบน้ำเสร็จ

“กลาง...อือ...จุ๊บ”

มันดันแขนตัวเองขึ้นกักผมไว้ระหว่างแขนยาวๆ ของมัน ไอ้เปาที่อยู่เหนือผมตอนนี้ดูสติไม่เต็มร้อย หยดน้ำจากปลายผมหยดมาโดนหน้าผากผมสองสามหยด มันโน้มตัวลงมาอีกครั้งก่อนปากจะประกบกันมันก็พูดขึ้นอีก

“กลางอยากจูบมึงอะ จุ๊บ อืม...”

“มึงจูบอยู่...อื้อ...นี่ไง...”

“อ้าวหรอ สงสัยเมาอะ” มันผละออกแล้วยิ้มเขินๆ เพราะแสงไฟจากห้องน้ำทำให้ผมเห็นแก้มมันแดงเล็กน้อย เราสบตากันในความมืด ไอ้เปาในตอนนี้เหมือนจะสร่างแต่ก็ไม่มีสติเต็มร้อย มันมองผมแล้วยิ้มจนเป็นผมเองที่เบือนสายตามองไปที่อื่น

เนื้อตัวหอม ผมเปียกนิดๆ กับสายตาหวานๆ แบบนี้มัน...

“อื้อ! มองกูดิ” มันร้องอย่างขัดใจพร้อมจับคางผมให้หันไปมองมันอีกครั้ง จะต้องให้บอกหรอวะว่าเขินอะ

“เมาก็ไปนอนไป”

“ไม่เมา อาบน้ำแล้ว สร่างแล้ว เหล้าแค่นี้ทำไรไม่ได้หรอก” มันว่าด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนกับว่ามันไม่เมาแล้ว ผมไม่แน่ใจนักหรอก ท่าทางแบบนี้ผมไม่เคยรับมือกันมันเลยซักครั้ง นี่คือไอ้เปาเวอร์ชั่นไหนกันแน่เนี่ย

“กูจะนอนแล้ว มึงลงจากตัวกูซักที” ผมออกแรงดันมันไปด้านข้างแต่ก็ไม่ขยับ

มันไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยเพราะสายตาไอ้เปามองปากผมอยู่ตลอดเวลา “ขี้บ่นจัง..จุ๊บ..” ไอ้เปาก้มหน้าลงมากดริมฝีปากเร็วๆ ให้เกิดเสียงแล้วผละออก มันมีรอยยิ้มติดมุมปากจนผมเริ่มหมั่นไส้ อารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ

“ทำกันเถอะกลาง”

“แค่กๆ ” แทบสำลักน้ำลายตัวเอง “อะไรนะ ว่า...มึง..อะไร” ผมพูดติดขัดจะถามย้ำอีกรอบ แต่ไอ้เปาทิ้งน้ำหนักลงบนตัวผมทั้งตัว ซบหน้าไว้กับคอผมแล้วพูดอู้อี้ แก้มเย็นๆ ขยับขึ้นลงบนลาดไหล่เวลามันพูด

“อยากทำ ขอได้มั้ย”

“ไอ้เปาเรื่องแบบนี้มันขอกันง่ายๆ งี้เลยหรอวะ” ผมพูดแต่มือก็ลูบหลังคอมันเบาๆ

นี่มันไอ้เปาเวอร์ชั่นอ้อนหรือไงนะ

“นะ...” สัมผัสแข็งขืนดันหน้าต้นขาผมอีกครั้งจนผมหน้าแดง “นับหนึ่งถึงสามแล้วตอบนะ”

“เดี๋ยวดิ เฮ้ย” ผมประท้วง กูยังไม่พร้อมนะเว้ย ผมใจเต้นแรงคิดเรื่องที่จะตามมาเต็มไปหมด

“หนึ่ง สอง สา...”

“มึงทำเป็นหรอ” ผมโพล่งออกไปไอ้คนที่ซบหน้ากับลาดไหล่ของผมดันตัวมองผมหน้าเหวอ

“ไอ้เชี่ย หายเมาเลยเนี่ย” มันผุดลุกขึ้นนั่งคุกเข่าข้างผม

ผมพึ่งคิดได้ว่าพูดอะไรออกไปเลยลุกขึ้นนั่งพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “กูไม่ได้ดูถูกมึงนะเว้ย”

ไอ้เปาถอนหายใจเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟ “กลาง กูแข็งแล้วอะ ไม่อยากมองมึงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอีก”

มันพูดหน้าตาเฉยแต่ผมใจเต้นแรงจนจะระเบิดอยู่แล้ว หลายความรู้สึกอัดแน่นอยู่ในนี้ หัวขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก หมายความว่าไงวิ่งเข้าห้องน้ำอีกเนี่ย

“มึงเคยบอกกูว่าไม่เคยนี่ แล้วเรื่องแบบนี้มัน...” ผมพูดเสียงเบา ไม่กล้าสบตามัน หน้าร้อนจนคิดไปว่าหรือว่าผมเมากันแน่วะเนี่ย

“ก็ไม่เคย... แต่อยากให้มึงเป็นคนแรกที่ไม่เคยไปด้วยกันไง” มันมองผมตาปริบๆ ผมยกมือกุมอกตัวเองช้าๆ ไอ้เปาแอคแทคผม

“นะ ลองดูก่อนแล้วมึงค่อยบอกกูว่ากูทำเป็นรึเปล่า”

ท่าทางหงอยๆ นั่นหลอกให้ผมตายใจ พอผมเผลอพยักหน้าแบบไม่ค่อยมีสติ ไอ้เปาก็กระโจนคร่อมผมทันที

“ขอบคุณนะ อยากรักมึงจะแย่แล้ว”

ไอ้เปาเริ่มต้นข้อพิสูจน์ของมันด้วยการจูบ มันจูบจนผมเบลอไปหมด นี่ผมกำลังตกลง...ที่จะไม่เคยไปพร้อมกับมันเนี่ยนะ...ไอ้กลางเอ๊ย ดูท่าผมจะยกเลิกไม่ทันแล้วล่ะ อือ...ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ มันหวิวเกินไปแล้ว และมันก็รู้สึก...ดีด้วย...ใช่มั้ย...

“อ่า...กลาง มึงหวานอะ” เสียงความเปียกชื้นดังอยู่ในห้องเงียบๆ นี่ ไอ้เปาใช้มือฟอนเฟ้นไปทั่วตัวผม มันลากมือมาใต้เสื้อยืด พอผิวผมสัมผัสกับมือของมัน ผมก็งอตัวอย่างช่วยไม่ได้ ไอ้เปาเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสกับยอดอกของผมทั้งๆ ที่ปากก็ยังเลื่อนไปขบเม้มที่คอและไหล่ของผม ไม่อยากจะยอมรับแต่มันทั้งรู้สึกเจ็บแล้วก็รู้สึกดีไปพร้อมๆ กับ นี่ผมกลายเป็นคนลามกแล้วหรอวะเนี่ย

ผมเงยหน้าครางหวิวอย่างน่าอาย ทุกสัมผัสที่มันลากผ่านทำให้ผมร้อนไปหมด เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง

ผมจะตายมั้ยครับ...

“เปา...มึง...พอก่อน อื้อ...” ทันทีที่มันบดขยี้ตุ่มไตของผม ผมก็แอ่นตัวด้วยสัญชาตญาณ นี่มันจะติดเรทเกินไปแล้วโว้ย

“ทำไมมันชำนาญจังวะ ไหนบอกไม่เคยไง”

มันไม่ตอบ ไอ้เปาถอดเสื้อผมแล้วขว้างทิ้งไปล่างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ มันแลบลิ้นมองผมที่นอนหอบอยู่ด้วยสายตาที่ร้อนแรง ก่อนจะดึงขอบกางเกงผมลงเล็กน้อยและผมก็คว้ามือนั่นไว้ทัน

“มึงแน่ใจนะ”

“กูรักมึง”

มันตอบคำนี้ทำเอาผมแทบไปไม่เป็น ไอ้เปาพูดเสียงหนักแน่นแล้วจับมือผมไว้อีกที “เชื่อใจกูนะ”

ผมเงียบไปจ้องตาที่จริงจังของมันแล้วก็ตอบเสียงแผ่ว

“...อื้อ”

ไอ้เปายิ้มรับ มันก้มตัวลงกอดหัวผมไว้แล้วหอมที่หน้าผาก ไอ้เปามันผละออกแล้วเลื่อนมือมาคลึงน้องชายผมผ่านเนื้อผ้าเบาๆ มันดึงกางเกงผมลงทีเดียวพร้อมกับจับน้องชายผมไว้รูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วบ้างช้าบ้าง  ให้ผมร้องครางในลำคอจนจะบ้าเมื่อมันจับตรงส่วนที่ไม่มีใครจับมาก่อน ผมยกแขนขึ้นมาปิดตาตัวเองไว้ พอรู้ว่าไอ้เปามันเห็นอะไรไปบ้าง ท่ามกลางเสียงหยาบโลนไอ้เปาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“มึงน่ารัก...ใจกูจะพังแล้วนะ”

มันเร่งจังหวะให้ผมครางถี่ สะบัดหน้าไปมากับหมอน มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนลูกโป่งลอยสูงจนติดเพดานและกลัวว่ามันลอยไปนอกหน้าต่างจนหาทางลงไม่ได้

“อย่าพูด..อะ...อื้อ...มาก...อ๊ะ”

“จับของกูสิ” เสียงทุ้มต่ำหลอกล่อผม หลังจากที่ผละไปถอดกางเกงตัวเองแล้วก็ชักนำผมต่อ ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วิ

“ไม่...อ๊ะ”

“ใส่ถุงยางให้กูก็ได้” มันยื่นถุงยางที่วางไว้บนหัวเตียงตอนไหนไม่รู้ว่าให้ผม ไอ้เปาจับแขนผมออกมันสบตากับผมเข้าจังๆ  ก่อนจะเลื่อนมือที่จับมือผมไว้ให้จับน้องชายมัน “อืม..กลาง...แค่มึงจับ กูก็จะทนไม่ไหวแล้วอะ”

ผมหน้าแดง ขยับตัวขึ้นพิงหัวเตียง อุณหภูมิเย็นๆ ในห้องนี้แทบไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย เหงื่อชื้นตรงข้างขมับ ผมก้มหน้าฉีกซองแล้วยื่นมือสั่นๆ ไปใส่ให้มัน ครั้งแรกที่ผมเห็นของมันและใส่ให้ถุงยางให้มัน อึก...ไอ้เปากัดฟันมองผม น้องชายมันในมือของผมขยายเพิ่มขึ้นอีก ผมถึงกับเบิกตากว้าง

“ไอ้เปา!” ผมเอ็ด จะไหวหรอวะ ผมเนี่ยจะรับมันไหวหรอ

มันไม่พูดพร่ำทำเพลง มันนั่งคุกเข่าและดันตัวผมให้นอนหงายอีกครั้ง สอดแขนมาใต้ข้อพับทั้งสองข้างของผมอย่างรวดเร็ว ท่าทางของผมตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะสะโพกกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนหน้าขาของไอ้เปา ผมกัดริมฝีปากมองไปด้านข้าง ไม่หันไปมองมันด้วยซ้ำ จะไม่ไหวแล้วนะเว้ย มันน่าอายเกินไป...เนิ่นนานหลายนาทีที่ไอ้เปานิ่งไป ผมจึงค่อยๆ เลื่อนหน้ามามองมันด้วยความสงสัยแล้วผมก็พบว่าไอ้เปาหน้าแดงจัดมองผมอยู่ สายตามันมองไปที่ตรงนั้นของผม จะหุบขาก็ไม่ได้เพราะมันเล่นจับขาผมไว้แน่น ผมเม้มปากกลั้นความอาย ส่วนนั้นของไอ้เปาดีดขึ้นพร้อมรบตลอดเวลาแต่ตัวมันยังคงนิ่ง

“กูเขินว่ะกลาง เริ่มป๊อดแล้วเนี่ยกลัวมึงเจ็บ”  มันพูดพร้อมกับใบหน้าขึ้นสี คิดว่ากูไม่เขินหรอวะ

“ไม่ทำแล้วมั้ย” 

“เฮ้ย! ได้ไง มาขนาดนี้แล้วนะเว้ย” ไอ้เปารีบร้องขึ้นมา เอนตัวลงซบแก้มลงตรงหน้าท้องผม ทุกส่วนของเราแนบชิดกัน ทุกส่วนที่เปลือยเปล่า

“มันจะเข้าไปได้หรอ แล้วมึงจะเจ็บมั้ย แค่เห็นมันก็แข็งขึ้นอีกแล้วอะ ทาเจลแค่ไหนมึงจะไม่เจ็บ...” มันพูดอู้อี้ตรงหน้าท้องผม สัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของมันที่เต้นแรง

ผมรู้ว่ามันแทบไม่ไหวแล้ว ท่าทางทั้งวันนี้มันคงจะอดกลั้นมานาน ผมวางมือบนผมนุ่มๆ ของมันก่อนจะตัดสินใจพูดเสียงเบาซึ่งตรงข้ามกับเสียงหัวใจที่เต้นถี่อยู่ในอก

“ไม่ต้องคิดว่าจะทำยังไงแล้ว ให้ใจมึงพาไปเถอะ”




และหลังจากนี้ผมคงต้องปิดโคมไฟแล้วล่ะครับ


ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #575 เมื่อ09-08-2017 20:45:26 »

.
.
[ยัง...ยังไม่พออีก ไปต่อ...]


ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมง ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนรู้ตัวอีกทีผมก็ตื่นมาพร้อมกับไอ้ตัวการที่กำลังนั่งจ้องผมอยู่ตอนนี้แล้วครับ มันหูแดงจนผมคิดว่าหูมันจะมีไอพวยพุ่งเหมือนกาน้ำรึเปล่า แต่ยิ่งมองหน้ามันก็...ตึกตักตึกตัก ใจผมเต้นแรงขึ้นแถมหน้ายังร้อนจนแทบไหม้เพราะแค่เห็นหน้ามันเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็วิ่งเข้ามาในหัวเร็วจี๋ ภาพฉายซ้ำไปมาเหมือนกลัวผมจะลืมทุกเสียง ทุกสัมผัสและทุกการเคลื่อนไหว

“แค่นิ้วเองนะ...”

“เจ็บ...เจ็บ... กูเจ็บ....”

“ไม่ไหวแล้ว อยากเข้าไป จุ๊บ”

“อื้อ...เจ็บบบบบ”

“อย่าร้องนะ...มันเข้าไปแล้ว...กลาง อืม...โคตรดี...”

“ตรงนั้น...อ๊ะ...มัน”

“กลาง อ่า....กลาง”

“ขอขยับนะ จะบ้าตายแล้ว”

“เปา...อ๊า”

“มึงรัดแน่นเกินไปแล้วนะ”

“อะ...อะ...จะ...อ๊ะ..ถึง...”

“ร้องสิ เจ็บก็กัดไหล่กูไว้”

“จับมือกูเร็วเข้า พร้อมกันไหวมั้ย”


เชี่ย....พอ...

หยุดนึกได้แล้ว...

ตึกตักตึกตัก

ผมเหลือบมองไอ้คนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ไอ้เปายังคงเปลือยท่อนบน แสงแดดในตอนนี้กระทบผิวขาวๆ ของมันซะเจิดจ้ายกเว้นตรงหูกับแก้มที่แดงเป็นมะเขือเทศ ผมของมันชี้ไม่เป็นทรงแต่มันไม่สนใจ อะ...นั่นรอยฟันของ...ผมนี่ ผมหน้าร้อนเบือนหน้าหลบตามัน กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พึ่งรู้สึกตัวว่ามันแสบคอขนาดไหน และแน่นอนว่าผมยังไม่ได้ลองขยับ เอ่อ..ช่วงล่างเลย ดูจากเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่แล้วไอ้เปาคงจะเปลี่ยนให้ ให้ตาย ผมกับมันเห็นไปถึงไหนต่อไหน อ่า...ผมเขินชะมัด

“กูขอไม่คุยกับมึงสองชั่วโมงนะ” ผมหันไปมองคนพูดด้วยสีหน้างงๆ อะไรของมันอยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา ไม่ทันไรมันก็พูดต่อ “ถ้ากูได้ยินเสียงมึงกูต้องตายแน่ๆ มันยังค้างอยู่ทำไงดีวะเนี่ยยยย”

มันร้องพร้อมกับขยี้หัวตัวเองจนยุ่ง ไอ้เปาเมื่อคืนที่ขอแล้วขออีกหายไปไหนเนี่ย คนที่บอกไม่เคยแต่โคตรชำนาญคนนั้นอะนะ ไอ้คนที่เขินเป็นบ้าเป็นหลังต้องเป็นผมมากกว่านะเว้ย

“ไอ้เด็กบ้านี่ มึงเป็นคนหมกมุ่นหรอวะ” ผมจะลุกขึ้นนั่ง ไอ้เปาเลยช่วยพยุงผมขึ้น พอวางหมอนให้ผมพิงดีแล้วไอ้เปาก็กัดปากล่างมองผมก่อนจะพูดต่อ

“มันเกินฝันจังอะมึงเข้าใจกูมั้ย กู...กับมึง มันเกินมาแล้ว กู...จะบ้าตาย เห็นมึงแล้วกูยังรู้สึกว่ายังไม่พอเลย อย่ามองกูตาแป๋วแบบนั้นเขินว่ะแม่ง” ยิ่งพูดหน้ามันก็ยิ่งแดง เห็นแล้วก็ขำไม่คิดว่าไอ้เปาที่ผมรู้จักจะมีมุมแบบนี้ด้วย แบบที่ทำอะไรไม่ถูกน่ะ

“กูให้ได้แค่จูบ พอมั้ย” ผมถาม ไอ้เปาหน้าเหวอนิดๆ แต่ไม่นานมันก็มีผีเจ้าเล่ห์เข้าสิง

“ไม่พอหรอกแต่กูก็ไม่ปฎิเสธ” พูดจบมันก็เลื่อนหน้ามาจูบผมแบบหนักๆ ทันที ไหนบอกว่าเขินไงวะ

“อืม...อะ...เบาๆ” หน้าอกผมกระเพื่อมอย่างหนักหน่วง

“มึงเรียกชื่อกูหน่อยได้มั้ยกลาง”

“ไอ้นกกระปูด”

“ไม่!” มันร้องเสียงเข้มแต่พอผมเม้มปากมันก็ส่งแววตาขอร้องมาทันที “เรียกหน่อย”

“เปา อือ...มึงจะแรง...ไปแล้วนะ”

มันเลื่อนหน้ามาฝังไว้กับหน้าอกผม รั้งคอเสื้อลงด้วยดูดเม้มทันที “มีแต่รอยกูเต็มไปหมดเลย ของกูหมดเลย”

“ให้แค่จูบนะเว้ย ไหงมือมันเลื้อยขนาดนั้น”

“ไอ้เปา!” ผมโวยวายตีหลังมันไปด้วยแรงไม่แรงนัก “เจ็บนะเว้ย มึงทำแรงมันกระเทือนแล้วเนี่ย” พอพูดแบบนั้นมันก็ได้สติ รีบมาดูผมใหญ่

“ทายามั้ย ทาอีกมั้ย มึงเจ็บนะ”

“เออรู้ตัวก็พอได้แล้ว”

ไอ้เปาอุ้มผมออกมานั่งหน้าโซฟาที่เก็บของเรียบร้อย มันบอกว่าหลังจากเอ่อ...นั่นแหละ มันนอนไม่หลับจะอยู่ในห้องกับผมก็จะทนไม่ไหวเลยออกมาทำความสะอาดดับอารมณ์ฟุ้งซ่าน ผมอยากจะขำให้กับความบ้าบอของมันจริงๆ ไอ้เปากุลีกุจอไปเอาข้าวมื้อแรกของวันกับยามาให้ผม พาผมไปอาบน้ำและแน่นอนว่าผมต้องทำเอง เห็นตัวเองในกระจกแล้วจะบ้าตายที่คนหรือหมาวะเนี่ย ผมใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างนานจนไอ้เปาที่เดินวนอยู่หน้าห้องน้ำต้องเอ่ยปากเรียก

“กลางให้กูช่วยเถอะ มึงยืนไหวหรอ”

“เงียบไปเลย!”



“ตัวมึงร้อนนะ” ผมถามมันทันทีที่มันทิ้งตัวมานั่งพิงไหล่ผม ทั้งๆ ที่มันไปอาบน้ำมาเมื่อกี้ หลังจากที่มันเข้าไปเก็บซากอารยธรรมให้ห้องนอนและเตียง นกกระปูดก็เกิดร้อนขึ้นมา มันเข้าไปอาบน้ำ และตอนนี้เรานั่งดูรายการเกมโชว์ของเกาหลี พอว่างจากการทำความสะอาดแล้วไอ้เปาติดหนึบกับผมเหมือนปลิง

“อยู่ใกล้มึงก็ร้อนงี้แหละ” มันพูดพร้อมกับยักคิ้ว ผมเลยตบกระหม่อมมันไปทีนึง “แต่เมื่อคืนมึงโคตรน่ารักเลยรู้ตัวป้ะ”

“อะ...เชี่ย อย่าพูดได้มั้ย” ผมจับฮู้ดสีแดงเข้มมาคลุมหัวพร้อมกับปิดหูทั้งสองข้างไว้ ใครปิดแอร์วะทำไมร้อนเนี่ย

“ตอนที่มึงร้องไห้ ขอสารภาพว่ากูไม่สงสารมึงเลยอะ”

“ไอ้เลว”

“เห็นแล้วอยากได้ ได้ยินแล้วก็อยากได้อีก”

ไอ้เปาเกาท้ายทอยเขิน ทำเป็นเขินแต่ที่มึงพูดเนี่ยมันไม่มีความเขินเลยซักนิด ไอ้เปาจับมือผมมาประสานไว้มันมองที่มือแล้วยิ้มเหมือนคนบ้า

ผมเผลอหลับไปอีกครั้ง เพราะความเพลียที่สะสม ไม่อยากจะนอนไม่พอจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีก และถ้าครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากการทำงานหนักคงจะอายหมอน่าดู ผมขยับตัวขึ้นก็พบว่าตัวเองนอนยาวเหยียดอยู่บนโซฟา มีผ้าห่มผืนบางคลุมหน้าอก ไอ้เปานั่งพื้นด้านล่างฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองตรงโซฟา

ทำไมไม่นอนดีๆ วะ

มือขวามันกำโทรศัพท์ไว้หลวมๆ ผมเลยหยิบออกมาจะเอาวางไว้ดีๆ แต่แจ้งเตือนที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเอะใจ ผมเข้ารหัสโทรศัพท์ของไอ้เปาด้วยเลยห้าสี่ตัว มันเด้งเข้าไปที่หน้าไอจีของไอ้เปา ค้างไว้ที่รูปๆ หนึ่ง ผมชะงักแล้วหันไปมองคนที่หลับพร้อมกับส่งเสียงกรนเบาๆ

Paramatkrikri เพลียหนักก็พักบนไหล่ผม 

รูปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ถ่ายจากช่วงปากของไอ้เปา มองลงมาจนมาถึงช่วงไหล่ก็เห็นผมที่นอนพิงอยู่ ผมหน้าที่ปรกลงมาดูยังไงก็รู้ว่าคนในรูปคือใคร ไอ้คนที่ใส่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดไม่ใช่ใครที่ไหน

Joyending กรี๊ดดดดดดดดดด หายไปไหนตั้งนานนนน กลับมาอัพแล้วหรอ อยากซบบ้างจังเลย
Vesaroch งื้ออออออ ปากน่าจุ๊บ อย่ายิ้มแบบนี้เขินนนนนนนนนนนนนนนน
JJgreen หายหัวเพราะเฮิร์ตนี่ได้ข่าว รูปนี้คงไม่เฮิร์ตแล้วม้างงงงง @paramatkrikri
Yesbest ทำไรเพลียวะเพื่อน @khonklang
Teletubbieee ไอ้กลางอ่อนแรงเชียว ทำไรอะกิ๊วก๊าววววว
Paramatkrikri เสือกกกกก @teletubbieee @yesbest
Paramatfc โอ๊ยยย ใจชั้นนนน ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าคนกอดเปาชัดๆ แล้วค่ะทุกคน จุดพลุ @khonklang @paramatkrikri ร้ากกกก
Bananaboat อะไรกันกูพึ่งตื่น บอกกูด้วย
Auntieann น้องเปาคะพี่ขอพักที่ไหล่บ้างได้มั้ยคะ ช่วงนี้เพลี๊ยเพลียยยยยย
Paramatkrikri ไม่ได้ครับไหล่นี้ของแฟน

ของแฟน

ของแฟน

เท่ากับ

ผม

ผม

คนกลาง

=====================
มันต้องยาวอะไรเบอร์นี้
วันนี้ที่รอคอย
นี่เป็น NC กรุบๆ ของคู่เก้ๆ กังๆ เเละกากๆ 5555
และเปาก็ยังใช้วิชาแอบถ่ายกลางตลอด555555
ขอโทษที่มาช้าค่ะ ไม่ใช่คุณเสมอของเปาแต่สายเสมอ 
รักคนอ่านและขอบคุณที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกคอมเมนต์เช่นเคย
ตอนหน้าก็จบแล้วเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ค่ะ
ติดแท็ก #คนกลาง ให้คนหน้าบางทั้งคู่
 :L1: :L2: :L2::L2: :L1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #576 เมื่อ09-08-2017 21:15:34 »

ยาวมากกกก โห พอกลับมาสวีทกัน ก็ให้อย่างยาวเลย คนเขียนใจดีจัง
และแล้ว ในที่สุด คนกลางของเราก็... แล้ว  เย้   :m3:
ชอบเพื่อนกล้วยมาก  ๆ พอพูดบ่อย ๆ เราก็คิดจริง ๆ แล้วนะ
ว่าเพื่อนกล้วยจะมีคู่กับเขาบ้าง อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนที่ได้กล้วยเป็นแฟนจะเป็นคนยังไง
ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #577 เมื่อ09-08-2017 23:10:12 »

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #578 เมื่อ09-08-2017 23:30:57 »

โอ้ยยยยยยยย น่ารักมากกกกกกก น่ารักทั้งคู่ เอ็นซียังน่ารักกกกกกกกกกก เป็นคู่ที่เขินกันตลอดเวลา ฮืออ ใจบางมาก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #579 เมื่อ09-08-2017 23:45:58 »

ได้กันแล้ว ? ชะมะ พูด!!!

อ่านไปเขินไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
« ตอบ #579 เมื่อ: 09-08-2017 23:45:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #580 เมื่อ09-08-2017 23:52:45 »

อย่างเขินอะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #581 เมื่อ10-08-2017 00:10:40 »

เป็นเอ็นซีที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ที่เคยอ่านมาเลยอะ
เป็นคู่ที่ขี้เขินกันตลอดเวลา โดนเฉพาะเปา
คือเขินก้เขินแต่ก้อยากไปต่อ แต่ก้เขินหนักมาก55555
โง้ยยยยน่ารักมากก ใจบางไปหมดดด
วันนี้ที่รอคอยของเปาและกลางมาถึงแล้ววว
ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวด้วยค่ะ
รอค่าาาาา ยาวมากตอนนี้ รักกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #582 เมื่อ10-08-2017 05:47:25 »

เป็นเอ็นซีที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ที่เคยอ่านมาเลยอะ
เป็นคู่ที่ขี้เขินกันตลอดเวลา โดนเฉพาะเปา
คือเขินก้เขินแต่ก้อยากไปต่อ แต่ก้เขินหนักมาก55555
โง้ยยยยน่ารักมากก ใจบางไปหมดดด
วันนี้ที่รอคอยของเปาและกลางมาถึงแล้ววว
ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวด้วยค่ะ
รอค่าาาาา ยาวมากตอนนี้ รักกก

เหมือนใจ  ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #583 เมื่อ10-08-2017 06:44:07 »

เราว่ากล้วยต้องวางแผนให้เขาได้กันใช่ป่ะ 555555.

ออฟไลน์ 05th_of_06th

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #584 เมื่อ10-08-2017 09:46:41 »

ยาวสะใจเลยยยยยยยมแต่ตอนหน้าจะจบแล้วเหยอออออ งองแง  :o12:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #585 เมื่อ10-08-2017 10:44:23 »

มีความน่ารักอ่ะ..  :hao7:

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #586 เมื่อ10-08-2017 11:39:27 »

เป็น NC ที่น่ารักมากๆข่าาา
งื้อออออออ ต้องทำให้ชินนะเปา

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #587 เมื่อ10-08-2017 11:55:42 »

 :o8:  :-[  :impress2: ในที่สุดน้องเปาก็มีวันนี้..... คุณคนกลางน่ารักกกกก... น้องเปาน่าหยิกมากกก  :hao3:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #588 เมื่อ10-08-2017 14:46:52 »

 :z1: o13 :z1:


 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #589 เมื่อ11-08-2017 12:21:24 »

เป็น nc ที่น่ารักมาก เปาท่าจะคลั่งรักกลางมาก นี่อย่าให้เล็กรู้นะ 5555555555555 เอฟซีกล้วยค่ะ อยากให้กล้วยมีของกล้วยบ้าง 555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
« ตอบ #589 เมื่อ: 11-08-2017 12:21:24 »





ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #590 เมื่อ11-08-2017 14:34:57 »

 :katai1: ถ้าเล็กรู้ อะไรจะเกิดขึ้น  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #591 เมื่อ11-08-2017 21:31:20 »

จัาาา

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #592 เมื่อ11-08-2017 22:21:08 »

จ้าๆๆ เจ้านกกระปูดแดง หวานเหลือเกิน

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #593 เมื่อ12-08-2017 12:11:21 »

ระเบิดตัวฟินนนนนน

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #594 เมื่อ13-08-2017 09:39:27 »

ในที่สุดชอบเรื่องนี้นะคะ รวมเล่มก็บอกนะคะ ละมุนมากคะเปากลางและผองเพื่อน

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
«ตอบ #595 เมื่อ17-08-2017 13:05:25 »

ในที่สุดก็ถึงวันที่รอคอย อิอิ
ยังไม่อยากให้จบเลย คนกลางน่ารักมว้ากกกก เหล่าผองเพื่อนก็น่า..... 5555+
 o13

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
25
คนกลางแห่งโลกใบนี้

ผมชอบ...ความพอดี

นั่นเป็นวลีที่ผมชอบพูดมากที่สุดรองจากคำว่าเหี้x

นอกจากนั้นอาจจะเป็นคำอื่นๆ ตามแต่สถานการณ์จะพาไป    

โธ่ มันต้องมีบ้างแหละที่จะต้องหลุดคำอุทานที่ใครก็ไม่รู้นิยามว่ามันเป็นคำหยาบ
   
ผมมักหงุดหงิดเสมอ เมื่อมีใครซักคนนึงทำอะไรหลุดกรอบ เป็นต้นว่า แซงคิว หรืออะไรก็ตาม มันจะยากซักแค่ไหนกับการทำตามกฎ ทำอะไรที่ไม่ล้นไม่กว่าคนอื่น อาจจะเป็นเพราะผมเป็นลูกคนกลาง เห็นพี่ชายเรียกร้องน้อยไป มองน้องชายเรียกร้องเยอะเกิน แถมผมยังมีชื่อสุดตรงแด่วว่า “คนกลาง” ผมเลยชอบอยู่ตรงกลางในพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง

ไอ้เพื่อนตัวดีของผมอย่างไอ้โจ๊กมักจะเรียกผมว่าชายกลาง แต่ก็ดีกว่ามันเรียกผมว่ากลางคนล่ะมั้ง มันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องบอกว่าตั้งแต่ขึ้นมัธยม ผมมีเพื่อนหน้าเหมือนลิงเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว

และตอนนี้คนกลางหรือชายกลางที่ไอ้โจ๊กเรียกก็ได้กลายเป็นไอ้กลาง ไอ้เชี่ยกลาง ไอ้เหี้ยกลาง ของเพื่อนๆ ในแกงค์คนหล่อแห่งศิลปกรรมศาสตร์ สาบานว่าผมอยากตั้งใจเรียนเงียบๆ คนเดียว แต่เพราะคณะนี้ไม่มีใครปกติซักคน คนกลางอย่างผมเลยต้องมาอยู่ในวงโคจรความล้นกับคนล้นๆ ที่บังเอิญมาเจอกันที่นี่

จะว่าไป...มีอยู่คนนึงครับที่ต้องบอกว่ามาเจอกันอีกครั้งมากกว่า...ไอ้เปา ปรมัต หรือน้องชายนกกระปูดแดงของผม ไอ้คนที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นคนกลางๆ ที่ชักจะไม่กลางไปซะแล้ว

ถามว่ามันอยู่ไหน...ก็นู่นไงครับ
   
ตึ่ง ตึ่ง โปะ ตึ่ง ตึ่ง โปะ
   
ไอ้คนที่เต้นเป็นบ้าเป็นหลังท่ามกลางกองสันทนาการสินกำอยู่ตรงนู้น
   
ไอ้คนที่แหกปากเสียงดังกว่าชาวบ้าน
   
ไอ้คนที่ทำท่าเซ็กส์เสื่อมน่าอุจาดตาที่สุดคนนั้นน่ะครับ
   
“มัดหมี่ มัดหมี่ ขูดมะพร้าวทำกับข้าวอยู่ครัว มัดหมี่ มัดหมี่ไม่รู้ตัวถูกคนชั่วลากออกไป อะ อะ อ๊ายยย ลากออกไป”
   
“เอาไม้แหย่รู ถูๆ ไถๆ อ๊ายยยย เอาไม้แหย่รูถูๆ ไถๆ ”
   
“แสบๆ คันๆ มันส์ๆ ปนกันไป”    
   
“เดี๋ยวๆๆๆ หยุดก่อน“ ไอ้เปายกมือเบรกกองสันฯ ที่กำลังซ้อมอยู่ทำให้เพื่อนๆ หยุดเต้นด้วยความงงงวยแต่ก็มีหนึ่งคนที่ไม่หยุดตามที่ไอ้เปาบอก
   
“แสบๆ คันๆ มันส์ๆ ปนกันไป เอาออกก็ไม่ได้ใครก็ได้ช่วยเอาออกที๊”
   
ผลัวะ!
   
“ตบกูทำไมเนี่ยเชี่ยทัพ”
   
“เหี้ยกล้วย เต้นมันส์ไม่มองประเทศไทยเลย เพื่อนยืนมองจนเสียวไปหมดแล้วโว้ย”
   
“เอ้า หยุดก็ไม่บอกวะ คนกำลังมันส์”
   
ไอ้เปาท้าวเอวก่อนจะส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ในวันนั้นมันคือเด็กชายปรมัตที่ขี้อาย แต่ในวันนี้มันกลายเป็นหัวหน้ากองสันฯ อย่างเต็มตัวแล้วครับ ส่วนกีวี่ได้ซิ่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากผลงานของไอ้เปาในงานสี่เสาแห่งศิลปะทุกคนเลยเรียกร้องให้มันเป็นหัวหน้าแทนครับ
   
“กูว่าตรงนี้พวกสันฯ หญิงต้องกรี๊ดด้วย ให้มีเสียงแทรกเว้ย แบบแสบๆ คันๆ จริงๆ จะได้ดูสนุกมากขึ้น” มันออกความเห็นเพื่อนหลายคนก็พยักหน้า
   
“งั้นตรงนี้กู อีส้ม อีแยม ซาร่าจะกรี๊ดแล้วก็ทำเสียงแบบอีโรติคหน่อย” เพื่อนผู้หญิงที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงตอบก่อนจะก้มไปพับขากางเกงเลที่หลุดลุ่ยจากการเต้น
   
“พูดเหมือนมีประสบการณ์” ไอ้กล้วยแซะครับ
   
“อีเหี้ย กูลูกสาวจ๊ะ คันหูนะเว้ย” ซาร่าร้องทำท่าคันประกอบจนเพื่อนผู้ชายโห่
   
“เออ เอาเต็มที่ กูขอเริ่มใหม่อีกที” ไอ้เปายกมือห้ามก่อนที่เพื่อนจะเถียงกันแล้วมันก็ส่งสัญญาณให้กับการซ้อมอีกครั้ง พอเสียงกลองเริ่มต้น เหล่าคนบ้าที่กำลังจะขึ้นปีสองก็เริ่มโยกย้ายร่างกายเหมือนโดนผีสิงอีกครั้ง หลังจบปีหนึ่งพวกมันคงเอาความแค้นกับการเรียนมาลงที่การเต้นละมั้งครับ
   
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ม้าดดดดดดหมี่ มัดหมี่ขูดมะพร้าว....”

“กลาง มายิ้มอะไรตรงนี้ไม่เข้าไปรอในห้องประชุม”

“อ้าวเพียว ก็ยังไม่ถึงเวลาเลยมานั่งดูอะไรไปเรื่อย ไอ้เปามีซ้อมพอดีเลยออกมาพร้อมมัน”
   
“อ๋ออออ มากับเปา...”
   
“ฮะ..เฮ้ย ทำไมตางั้น”
   
“ก็เปล่าตามันร้อนๆ เนอะ”
   
ผมขมวดคิ้วเอียงหน้ามองเพื่อน “เพียว...ไม่สบายรึเปล่า?”
   
“กลางงง ตาร้อนคืออิจฉาย่ะ”

“อ้าวหรอ”
   
“อิจฉาสุดๆ อะ...”

“มาอิจฉาเราทำไม”
   
“เขาอิจฉากลางกันทั้งประเทศนั่นแหละ ในไอจีหวานเว่อร์ ตอนเดินมาด้วยกันนี่ไม่มีคนมองเลยถามจริงงง”

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนะ”

“จ้ะ พ่อคนไม่สนอะไรทั้งสองคน”

ไม่ใช่ว่าผมกับไอ้เปาจะไม่สนโลกนะครับเพราะเราทั้งคู่ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ชอบโชว์หรือต้องบอกคนอื่นทุกอย่าง เราก็เป็นของเราแบบนี้ แต่อย่าให้พูดถึงตอนที่อยู่กันสองคนในห้องปิดตายนะครับ ไอ้เปาที่สาวๆ หนุ่มๆ กรี๊ดมันก็จะกลายเป็นไอ้เปาที่ผมเห็นได้คนเดียว อย่าอ้วกนะครับ ประโยคเมื่อกี้ไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อย ให้มันเป็นแค่ตอนอยู่กับผมสองคนก็พอ สงสารคนอื่นเขา

“ถามหน่อยดิ เปาเวลาอยู่กับกลางสองคนเนี่ยเป็นยังไงหรอ” เพียวถามราวกับรู้ความคิดผม

“เอ่อ...เวลาที่อยู่กันสองคนหรอ” ผมทำท่าคิดพลางนึกถึงเวลาที่มันอยู่กับผม เสียงโห่ฮายังคงดังมาเข้ามาในโสตประสาทไม่ขาดสาย ผมหันไปมองที่มาของเสียงก่อนจะยิ้มแล้วตอบเพียวอย่างเหม่อลอย
   
“ไอ้เปาก็จะเป็นไอ้เปาเวอร์ชั่นไอ้เปามากๆ เลยน่ะสิ”
   
หน้าไอ้เด็กแก้มย้วยลอยเข้ามาในหัว เวลาอยู่กับผมน่ะนะ...
   
“ให้ตาย ยิ้มละมุนขนาดนี้ไม่รู้จะถามต่อยังไงเลย”
   
“ฮะๆ” ผมลูบหัวแก้เก้อ ไม่รู้จะตอบเพียวว่ายังไงเหมือนกัน
   
“เบื่อคนมีแฟนแล้วมีโค้ดลับเนี่ย ปะ เข้าห้องประชุมกัน” เพียวลุกขึ้นแล้วชวนผมเดินเข้าไปห้องประชุมของคณะ ผมก้มลงมองนาฬิกาก็พบว่าจวนได้เวลาแล้ว อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเป็นพี่ปีสองเต็มตัวแล้วก็จะมีกิจกรรมให้ทำอีกมาก ผมเดินตามหลังเพียวมาไม่นานไอ้เจก็เดินมาจากโรงอาหารคณะ ผมกับเพียวเลยหยุดเดินรอมันเดินมาหา
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง!”
   
ไม่ทันได้สังเกตว่าเสียงร้องเพลงหยุดไปเมื่อไหร่แต่เสียงรัวกลองพร้อมกับเสียงประสานเรียกชื่อผมดังลั่น เราสามคนชะงักก่อนจะหันไปมอง ไอ้พวกกองสันทนาการที่เต้นล้อมกลองอยู่เมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวหันมาทางพวกเราแทนพร้อมกับป้องปากตะโกน บางคนก็กวักมือพยักหน้า การตีกลองแล้วเรียกชื่อแบบนี้คือการส่งข้อความของพวกสันฯ ครับ ไอ้เจกระตุกยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่ผม ประมาณว่ามึงเรียกไอ้นี่กันหรอ
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง!” พวกกองสันฯ โดยเฉพาะไอ้คอหล่นทั้งหลายแหกปากตะโกนลั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของหัวหน้ากองสันฯ ตะโกนขึ้นมาเดี่ยวๆ ตบท้าย
   
“น่าร้ากอ๊า!”
   
เชี่ย...
   
ผมค้นพบแล้วว่าไอ้เปาหน้าบางเฉพาะเรื่องบนเตียงเท่านั้นแหละครับนอกนั้นด้าน
   
“ฮิ้วววววววววววววววววววววว”
   
ถึงตอนนี้จะปิดเทอมแต่พวกปีสองปีสามที่มาเตรียมงานรับน้องก็เดินกันให้ขวัก จะพูดจาบ้าบออะไรก็อายมั่งเหอะครับพี่
   
ผมรู้สึกว่ามือไม้ตัวเองจะอยู่ผิดที่ผิดทาง แม่งทำตัวไม่ถูกเลย เพียวหัวเราะล้อเลียนผม พวกเราสามคนตรึงเท้าจ้องกองสันฯ ที่โห่ฮิ้วกันอยู่แบบนั้น อะแฮ่ม เป็นผมที่รู้สึกตัวก่อนต้องรีบออกจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด ผมหันหลังกลับพึมพำบอกเพื่อนอีกสองคนให้เดินตาม
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“เป็นกำลังใจให้นะ” ไอ้เปาป้องปากตะโกนยืดแขนสองข้างมาข้างหน้า
   
ผมสบตาไอ้คนที่ส่งมินิฮาร์ทมาให้แวบนึงก่อนจะเดินก้มหน้างุดๆ เดินเข้าห้องประชุมไป ไม่วายยังได้ยินเสียงวี้ดวิ้วตามหลังมา
   

แม่งอากาศโคตรร้อนเลย
   
   



“สับปะรด สับปะรด!”
   
ผมสะดุ้ง จู่ๆ ไอ้เปาที่นอนกอดหมอนอยู่ตรงโซฟาก็ถีบตัวลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนลั่น ผมที่ทำกับข้าวในครัวเลยรีบเดินเข้ามาหามัน ตกใจเสียงนึกว่าโดนผีเข้า ดูสิ...ในมือยังถือทัพพีอยู่เลยครับ
   
ไอ้เปาทำหน้ามึนๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ นี่ห้องผมเองครับ และไอ้เปาก็ย้ายมาอยู่กับผมแล้วด้วยเพราะลูกตื้อลูกอ้อนของมัน ทิ้งพี่เปลให้อยู่คอนโดคนเดียว เอ แต่บางทีพี่เอิร์นก็มานอนค้างครับ
   
“เฮ้ย เป็นอะไร”
   
“เปล่า ละเมอเพลงสันฯ อะ”
   
ผมส่ายหน้า หลายวันนี้พวกสันฯ ซ้อมกันจริงจังเหมือนจะไปประกวดโอลิมปิกแต่จริงๆ แล้วรุ่นพี่จะมาทดสอบการเต้นสันฯ ของพวกมันเร็วๆ นี้ครับ พอซ้อมเสร็จก็จะนอนตายเพราะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแบบสุดๆ ส่วนผมก็จะนอนตายเพราะมึนประชุมครับ เพราะผมชื่อคนกลางแล้วยังต้องเป็นคนกลางคอยห้ามเวลาพี่ยอร์ชกับไอ้เจเถียงกันเรื่องจัดกิจกรรมผมก็จะบ้าตาย
   
“ท่าจะบ้านะเราอะ” ผมว่าแล้วทำท่าจะเดินกลับเข้าครัว
   
“ท่าจะบ้ารักมึงงายยยยยย” แล้วมันก็แหกปากลั่น นี่ไงครับอาการแรกๆ ของไอ้เปาเวอร์ชั่นไอ้เปา
   
“ไม่สบายหรอ”
   
“เปล่า”
   
“เมาหรอ”
   
“เปล่า”
   
“แล้วเป็นอะไร”
   
“เป็นแฟนมึง”
   
ได้ยินมันตอบถึงกับอยากกุมขมับ ไอ้เด็กเปามองผมแล้วยิ้มกว้าง “มึงนอนไม่พอก็นอนต่อไปเถอะ”
   
“นอนไม่หลับ ถ้าไม่กลับพร้อมเธอ”
   
“อ่านปากของฉันนะ” ผมเล่นด้วย
   
“ว่า...” ถ้าจะบรรยายท่าทางของไอ้เปาตอนนี้ต้องบอกว่าเหมือนหมาหูตั้งหางกระดิก มันกำลังคาดหวังอะไรจากผม
   
“ว่า...เรื่องของมึง”
   
“กลางงงง ไม่น่ารักแล้วมึงอะ” ไอ้เปาร้อง สีหน้าเหวอโคตรๆ ผมกลั้นหัวเราะแล้วตอบกลับไป
   
“ไม่ต้องรักดิงั้น”
   
“รักไปแล้วโว้ย!” มันตะโกนมาทันใด
   
ผมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจแล้วเดินเข้าไปในครัว ผมไม่ได้ทำอาหารเก่งอะไรหรอกครับ ทำเป็นไม่กี่อย่างแล้วแต่อารมณ์ว่าวันนี้อยากจะกินอะไร ไอ้เปามันก็ไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ถ้าไม่อร่อยมันก็จะบอกว่าคราวหน้าเอาใหม่ คงต้องปรุงแบบนี้ ลดอันนี้ลง ถึงอร่อยไม่อร่อยมันก็กินหมดครับ มันบอกว่ามีคนทำกับข้าวให้กินก็ขอบคุณมากแล้ว จำได้ว่าผมมองมันอึ้งเลยทีเดียว ประทับใจด้วย ส่วนตั้งแต่ที่มันบอกว่าจะเลิกรับงานมันก็ไม่รับงานจริงๆ ไอ้เปาบอกว่าอีกซักพักคงจะกลับไปทำแต่ช่วงนี้ขอพักก่อน มันเลยเต็มที่กับการเป็นหัวหน้ากองสันฯ มากๆ
   
ตอนนี้ผมกำลังต้มยำกุ้งน้ำข้นกับยำผักบุ้งกรอบที่ไอ้เปาบอกอยากกิน ทำทุกอย่างเสร็จแล้วจัดใส่ถ้วย ใส่จาน ปกติจะยกไปกินข้างนอกตรงหน้าทีวีครับแล้วแต่บางวันก็มากินที่โต๊ะเล็กๆ ในครัว นึกขอบคุณพี่ชายตัวเองในใจ ถ้าพี่โตไม่เลือกหอนี้ให้ป่านนี้ผมคงไม่สะดวกสบายแบบนี้หรอกครับ
   
“เปา เสร็จแล้วมายกไปเร็ว” ผมเรียกและมันก็ใช้ความเงียบตอบกลับมา
   
“...”
   
“งอนไรวะ” ผมชะโงกหน้าไปดูก็ยังเห็นนายปรมัตนั่งกอดหมอนอยู่ตรงนั้น
   
“โตแล้วกูไม่งอนหรอก”
   
“ที่เป็นอยู่เนี่ย เขาเรียกว่ามึงยังไม่โต เร็วๆ มายกข้าวไป”
   
“เดี๋ยวนี้นะมึงไม่สนใจกูเลย”
   
“หูววว จริงอะ”
   
“กวนตีนด้วย”
   
“ฮ่าๆ” แกล้งมันก็ตลกดีครับ สุดท้ายไอ้เปาก็เดินมาช่วยยกกับอาหารไปหน้าทีวี ชีวิตประจำวันของผมกับมันก็มีอยู่แค่นี้ ไม่ไปทำงานที่คณะก็กลับมาอยู่ห้อง เล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูหนัง นานๆ ทีถึงจะออกไปห้าง ซื้อเสื้อผ้า หรือดูหนังในโรงฯ หรือไม่ก็พวกเดอะแกงค์นัดหาอะไรกินกันข้างนอก บางครั้งพวกมันก็จะหาเรื่องด่าผมกับไอ้เปาว่าไม่ออกมาเจอหน้าเพื่อนฝูง ทำไงได้ครับผมเบื่อการออกไปเจอคนเยอะๆ ผิดคอนเซ็ปต์คนพอดีอย่างผม
   
ตอนนี้ปิดเทอมผมกับไอ้เปาก็มีเตรียมงานรับน้อง เราก็เลยยังอยู่กรุงเทพฯ ต่อ ไม่ยอมกลับบ้าน แกงค์คอหล่นคนหล่อของผมก็เช่นเดียวกัน จริงๆ ที่อยู่หอก็มีแต่ผมกับไอ้ทัพลูกเศรษฐีอีสาน ส่วนไอ้กล้วยกับไอ้เบสก็ไปกลับบ้านเป็นว่าเล่น แล้วเพื่อนรักผมอีกคนน่ะหรอครับ...ไอ้โจ๊กกลับเชียงใหม่ตั้งแต่ปิดเทอมวันแรกแล้วครับ เดี๋ยวนี้ไม่มีรงมีรอกันหรอก รีบไปไหนก็ไม่รู้
   
“กินข้าวดิ นั่งเหม่อไร” ไอ้เปาโบกมือมาตรงหน้าผม
   
“เออๆ”
   
“อยากกินก็กินไม่ใช่นั่งเหม่อเป็นพระเอกเอ็มวี” ก่อนที่ไอ้เปาจะเริ่มบ่นผม ผมก็พยักหน้าลงเบาๆ แอบคิดในใจเงียบๆ ว่าตอนเด็กๆ ผมมักจะเป็นคนบอกให้มันกินข้าวมากกว่าจะให้มันมาเตือนผมแบบนี้ นี่มันชักจะกลับหัวกลับหางซะแล้ว
   
ผมเหลือบมองไอ้เปาที่นั่งก้มหน้ากินข้าวข้างๆ มันตัวสูงขึ้นไม่ตัวเล็กเหมือนแต่ก่อน มีกล้ามเนื้อไม่ผอมแห้ง หน้าตาไม่เอื่อยเฉื่อยแถมยังกล้าแสดงออกสุดๆ ไอ้เด็กติ๋มๆ ไม่สนใจใครในตอนนั้น ดูมันตอนนี้แล้วก้มมองตัวเอง ช่างแตกต่างสิ้นดี
   
“เจาะหูหลายรูแบบนี้เจ็บมั้ย”
   
ไอ้เปาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับทำหน้าตางงๆ “อะไรของมึงเนี่ย ข้าวก็ไม่กินมาถามเรื่องหูทำไม”
   
ผมตักข้าวกินไปคำนึงแล้วถามต่อ “อยากรู้”
   
“ไม่เจ็บหรอก”
   
“คิดไงถึงไปเจาะ”
   
“ไม่รู้ดิ ตอนนั้นเหงาๆ” เหตุผลมึงนี่เชื่อได้มั้ยเนี่ย
   
“มึงมาเรียนกรุงเทพฯ แล้วไม่มีเพื่อนเลยหรอวะ” ผมถามขึ้นอย่างสงสัยไอ้เปาไม่เคยพูดถึงเพื่อน หรือชีวิตหลังจากเราไม่เจอกันให้ผมฟังเลยครับ
   
“นี่รายการคนกลางร้อยคำถามหรอครับ” มันว่ายิ้มๆ แล้วรวบช้อนส้อม “อยากรู้ก็กินจานนั้นให้หมด นี่มึงหาเรื่องไม่กินข้าวปะวะเนี่ย”
   
เพราะความอยากรู้ผมเลยรีบกินให้หมด ไอ้เปานั่งรอผมกินเสร็จมันก็เก็บจานชามไปล้างให้ มันเป็นคนแบบนี้แหละครับ ถึงปากจะบ่นแต่อะไรช่วยได้มันจะช่วยโดยไม่ที่ไม่ต้องขอ นอกจากจะแกล้งให้ผมร้องขอเท่านั้นแหละ
   
“ล้างเสร็จยังงงงง” ผมเรียกแต่ก็ยังได้ยินเสียงจานกระทบกันดังตามมา หลังจากกินน้ำ หยิบแอปเปิ้ลมากินล้างปากเสร็จผมก็มานั่งรอไอ้เปาที่โซฟา
   
“ดูหนังไปก่อนไป ล้างอยู่เนี่ย”
   
ไอ้เปาตะโกนกลับมา ผมอมยิ้มแล้วยกมือถือขึ้นมาเช็คข้อมูลข่าวสาร เข้าแอพพลิเคชั่นรูปกล้องสีม่วงๆ ดูรูปกับอ่านพวกที่แท็กมา ไอจีผมแทบจะร้างเพราะไม่เคยอัพรูปอะไรกับเขาเลยตั้งแต่รูปไอ้เปารูปแรกเมื่อตอนนั้นและรูปที่สองที่แอบถ่ายจากในห้องมัน จนตอนนี้มันก็ยังเป็นสองรูปในไอจีของผมที่มีไอ้เปาเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
   
ส่วนไอ้เปาหลังจากที่มันลงรูปผมไปเมื่อวันนั้นคนก็ยังเข้ามาแท็กแซวผมไม่หยุด ผมเลยบอกให้มันอัพรูปอื่นกลบกระแส มันก็ยอมทำตามนะครับอัพรูปที่มันเคยวาดแต่ไม่ใช่สีน้ำที่มันถนัดหรอกแต่เป็นรูปพอร์ตเทรตที่มีหน้าผมเด่นหรา จากนั้นผมก็ห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ คอมเมนต์พุ่งโดยการนำของไอ้กล้วยหอมจอมชง
   
“เสร็จละหรอ” ผมทักหลังจากที่ไอ้เปาทิ้งตัวนั่งที่โซฟา เสื้อยืดมันเปื้อนน้ำเป็นจุดๆ
   
“เสร็จอะไรยังไม่เอาเลย”

“เชี่ยเปา” ผมหน้าแดงวาบตีหลังมันไปทีนึง ไอ้ตัวการก็หัวเราะหึหึ แต่ก็แอบเห็นหูแดงๆ นะครับ เออเอาเข้าไปพูดเองเขินเอง
   
“มาเล่าเลย ลีลาจริงๆ” ผมหันไปมองแล้วจับแก้มมันให้หันมามองผม มันลีลาเอาแต่มองทีวีอยู่ได้
   
“มันก็ไม่มีอะไรอะ” มันตอบหน้าตายเลื่อนนิ้วเปลี่ยนเป็นดูยูทูปแทนช่องรายการปกติ เสียงติ๊ดๆ ตอนกดรีโมทดังแทรกบทสนทนาขึ้นมาเป็นระยะๆ
   
“ไม่มีได้ไง มึงไม่เคยพูดถึงชื่อเพื่อนมึงเลยนะ”
   
“เพื่อนในโรงเรียนมัธยมกูไม่ได้สนิทกับใครมากหรอก”
   
“ทำไมวะ”
   
“โรงเรียนที่กูอยู่มันไม่มีใครสนใจใคร เอาแต่เรียนกัน แถมม.ต้นกูก็ย้ายไปที่นึง ม.ปลายก็ย้ายไปอีกที่นึง คนอื่นๆ ก็สนิทกันหมดแล้ว”
   
“แต่จริงๆ ก็มีคนนึงนะชื่อซิง” ไอ้เปาหยุดคิดไปแป๊บนึงแล้วเล่าต่อ “เราคุยกันถูกคอพักนึงแต่มันย้ายไปเรียนต่อที่อื่นตอนม.5 จากนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย”      
   
“โธ่ เหงาน่าดูเลยน้องนกของพี่” ผมมองมันด้วยสายตาสงสาร ทำหน้าเศร้าส่งไปให้แล้วเกาคางมันไปทีนึง
   
“หมั่นเขี้ยวโว้ย” ไอ้เปาบิดคางออกจากมือผม มันกัดฟันพูดจนเห็นลักยิ้ม ผมยิ้มขำๆ อย่าไปว่ามันเลยครับผมยังมีไอ้โจ๊กเป็นเพื่อนคนเดียวเลย แต่อย่างน้อยมันต้องมีบ้างล่ะ เดินคนเดียวเหงาแย่เลย
   
ไอ้เปายื่นมือมาล็อคท้ายทอยผม จนผมชะงักเริ่มระแวงในความคิดของมัน ที่ผมระแวงเป็นเพราะว่าตั้งแต่วันนั้นที่เราเอ่อ...แบบนั้นกันไอ้เปาดูเหมือนจะกลายเป็นคนบ้าไปแล้วครับ อยู่กันสองคนเมื่อไหร่มันจะติดหนึบผมเป็นปลาหมึกเชียว    
   
“เฮ้ยๆ ทำอะไร” ไอ้เปายิ้มอย่างมีเลศนัย
   
“สงสารกูใช่มั้ยล่ะ ปลอบใจกูซะสิ” มันใช้มืออีกข้างบีบแก้มผมจนปากจู๋ มือมันใหญ่กว่าผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย
   
“อื้อออออ ปล่อยยย” หน้าผมคงจะดูน่าเกลียดสินะ ไอ้เปาถึงหลุดขำแต่ก็ไม่ยอมคลายมือ
   
“มาปลอบใจกันซะดีๆ โคตรเหงาเลยไม่มีเพื่อนเนี่ย” มันกดจูบลงมาที่ปากผมแรงๆ ผมดิ้นไอ้เปาก็กดลงมาอีกครั้ง ย้ำๆ อยู่แบบนั้น
   
Rrrrrrrr Rrrrrrrr
   
“อื้อๆๆ มีคนคอลมา” ผมทุบไหล่ไอ้เปา มันจิ๊ปากแบบหงุดหงิดพลางคลายมือออก พอผมได้อิสระก็เขยิบตัวหาที่มาของเสียงหลบสายตาพิฆาตของไอ้เปาทันที
   
“เล็กคอลมา” ผมบอกพลางเหลือบมองสีหน้าของไอ้เปา รอบตัวมันเหมือนมีรังสีสีเทาๆ แผ่ออกมา ตาคมคู่สวยหรี่มองแล้วกอดอก ผมมองมันหวาดๆ ก่อนจะกดรับสายของน้องชาย
   
พอกดปุ๊บก็เห็นน้องชายตัวโตใส่เสื้อนักเรียนปรากฏขึ้นในจอ ในมือของเล็กยังถือกล่องนมจืดอยู่
   
(กลางงงง รับช้าจัง)
   
“ช้าที่ไหนกัน”
   
(กลางต้องอยู่มอถึงเมื่อไหร่กลับบ้านได้แล้ว) แน่นอนว่าน้องชายผมมักจะถามคำถามนี้ตลอดเวลาที่ผมยังไม่กลับบ้าน
   
“อีกนิดนึง เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วช่วงนี้พึ่งปิดเทอมเลยประชุมกันบ่อยก่อนแยกย้าย”
   
(แม่บ่นถึงแล้วเนี่ย)
   
“แม่หรือเล็ก” ผมถามอย่างรู้ทันเพราะแม่พึ่งคุยกับผมไปเมื่อวาน
   
(เล็กก็ได้...แล้วกลางทำอะไรอยู่) ไอ้เล็กเปลี่ยนเรื่อง
   
พรึ่บ!
   
ไอ้เปาที่ผมลืมมันไปชั่วขณะขยับตัวเข้ามาชิดแถมยังเอียงแก้มซบหัวไหล่ผมอีกด้วย และ...น้องผมต้องเห็นอย่างแน่นอน   
   
(เฮ้ยพี่เปา ง่วงก็ไปนอนที่อื่นดิวะ ไหล่กลางไม่ใช่หมอนนะโว้ย) น้องชายผมแทบจะปากล่องนมทิ้ง มือที่ถือมือถือสั่นตามแรงโวยวาย เล็กแนบหน้าเข้ากับจอเหมือนมองใกล้แล้วจะเห็นผมกับไอ้เปาชัดงั้นแหละ ไอ้เปาไม่ตอบแต่หลับตาพริ้มกวนตีนน้องชายผม บี้แก้มกับไหล่ผมไปมา
   
“ห๊อมหอม ฟอด!” ไม่ว่าเปล่าซุกจมูกมาที่ซอกคอผมอีกด้วย
   
เชี่ย....
   
(กลาง!!!! ถอยออกห่างเลยนะ! ทำไมกลางนิ่งให้กอดแบบนั้น! กลางโดนเล่นของใช่มั้ย!)
   
ผมเกาหางคิ้วตัวเองอย่างกระอักกระอ่วน นั่นสิ ทำไมผมไม่ขยับเลยซักนิด อาจจะเป็นเพราะว่าน้องชายผมกับไอ้เปาไม่เคยญาติดีกันแม้แต่วินาทีเดียว ตั้งแต่เรื่องคราวก่อนเล็กมันก็ยอมรับไอ้เปานะครับ มันบอกว่าไม่อยากให้ผมร้องไห้อีกแล้ว โถน้องเล็กของผม มารู้ทีหลังว่ามันเคยโทรเคลียร์กับไอ้เปาแล้วขอโทษไอ้เปาด้วย ระยะหลังๆ มาไอ้เล็กถึงยอมเรียกไอ้เปาว่าพี่เปา ถึงว่าพายุฝนซัดกระหน่ำ...
   
แต่เพราะความหวงพี่ของเล็ก ไอ้เปาจึงหมั่นไส้อยู่บ่อยๆ และยิ่งมากขึ้นเมื่อตอนที่ทางบ้านผมรู้แล้วว่าไอ้เปาจะย้ายมาอยู่กับผม ไอ้เล็กโวยวายยิ่งกว่าเมื่อกี้อีกครับ ดีหน่อยที่แม่กลัวว่าผมจะเป็นลมเป็นแล้งแล้วไม่มีใครดูแลขึ้นมาอีกไอ้เล็กเลยจำใจยอมแถมพี่โตยังเข้าข้างไอ้เปาจนออกนอกหน้า เรียกได้ว่าน้องเล็กโดนขัดใจก็คราวนี้เอง แต่ก็แค่นั้นแหละครับ เวลาไอ้เปาเจอกับน้องชายผมเมื่อไหร่ เหตุการณ์กวนบาทากันโดยใช้ผมเป็นเครื่องมือ มันก็จะเกิดขึ้นประมาณนี้แหละครับ
   
“เปามันแกล้งเล่น” ผมว่าแล้วเบี่ยงไหล่ออกจากหัวไอ้เปาแต่มันยังล็อคคอผมแน่น
   
(กลางไม่เห็นหน้าพี่เปาเมื่อกี้หรอ เยอะเย้ยเล็กหรอวะ) อะไรนะ มันไปส่งสายตาให้กันตอนไหน
   
“มากกว่าหอมก็เคยมาแล้ว อยากดูมั้ย” ไอ้เปาคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปถือเอง ตอนนี้มันเลยจ้องหน้าไอ้เล็กที่ขบเคี้ยวฟันได้อย่างเต็มสตรีม
   
(อย่าแม้แต่จะคิดนะเว้ยยยยย)
   
“หึ” ไอ้เปายิ้มมุมปากทำเอาคนมองอย่างผมใจกระตุกจนตาพร่า มันยืดตัวขึ้นแล้วจับคางผมไว้ก่อนจะเลื่อนหน้ามาใกล้ๆ ขยับองศาเล็กน้อย
   
(หยุดนะ กลางได้สติเดี๋ยวนี้ อย่าไปหลง กลาง!!!)
   
ขณะที่ปากเราใกล้กันมากขึ้นจนเกือบจะชิด ไอ้เปาก็กระตุกยิ้มไปที่จอ ผมเห็นน้องชายเบิกตากว้าง หน้าแดงสุดขีด
   
“น้องเล็กครับ ขออนุญาตปิดกล้อง นี่เฉพาะสิบแปดบวกนะครับ”
   
(...!!!)
   
ติ๊ด!
   
ไอ้เปากดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ด้านหลัง ผมโดนมันเบียดจนเอนหลังติดที่วางแขนโซฟาอีกด้านหนึ่ง ขอโทษน้องชายเมื่อกี้พี่ไร้สติจริงๆ
   
“แกล้งน้องกูได้แล้วก็เขยิบออกไปดิ” ผมดันอกมันออกไอ้เปายังไม่หยุดครับ
   
“ไม่ได้แกล้ง” มันว่าแล้วประกบปากลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ใครบอกว่ามันใส ไอ้เปาเนี่ยตัวดีเลยครับ มันผละออกหลังจากที่ผมนิ่งงันแถมยังหอบหายใจแรง
   
“ทำจริงต่างหาก”
   

ท่าขยิบตาตอนท้ายทำให้ใจผมเต้นแรงชะมัด
   
   
.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2017 23:37:40 โดย jaevin »

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3

“เอาล่ะ กิจกรรมเราจะจัดคล้ายๆ ปีที่แล้วนะ เริ่มต้นจากการรับน้องในคณะก่อนตรงนี้ก็จะคงกฎเดิม เสร็จแล้วก็จะมีรับน้องรวม”
   
พี่ซัน ประธานคณะกรรรมการศิลปกรรมศาสตร์กล่าวขึ้นภายในห้องประชุมของคณะ ลายมือเป็นระเบียบของเลขาฯ คณะเขียนชื่อกิจกรรมไว้อย่างเรียบร้อยบนไวท์บอร์ด ผมกับทีมงานคุณภาพของตัวเองก็ต้องมารับฟังเสนอข้อคิดเห็นแล้วไปกระจายให้แก่ลูกทีมของตัวเองอีกทอดนึง
   
“รับน้องรวมเราก็จะเดินไปในเส้นทางที่สโมฯ จัดไว้ให้ซึ่งเหมือนกับปีที่แล้ว น้องๆ ที่อยู่ในกลุ่มจะต้องคิดท่ากันเอง พี่กลุ่มไม่ใช่ว่าเดินนำอย่างเดียวต้องรู้จักกระตุ้นน้องให้ร่วมกิจกรรม ห้ามอาย ห้ามเขิน...”
   
อืม...ปีที่แล้วงั้นหรอ เหมือนผ่านไปเมื่อวานเองครับ
   
วันรับน้องรวมนั้นคือวันที่ผมเจอไอ้เปาครั้งแรก ไม่สิ ไอ้คูก้ารสนมต่างหาก
   
“เอ่อ...หวัดดี” 
   
“หวัดดีโคอาล่ามาร์ช กู คูก้า ต้องทำไรบอกด้วยนะ”
   
“โอเค”
   
“โคอาล่า เต้นแรงๆ หน่อยสิวะ เดี๋ยวก็ได้ทำใหม่หรอก”
   
“หนึ่ง สอง สาม เอ้า จ้ำ จ้ำ จ้ำ ผมพาเธอมา อ้ำ อ้ำ อ้ำ”

   
หึ โคตรอายเลยว่ะ ทำไปได้ไงวะเนี่ย ไอ้เปานั่นแหละตัวดี จะว่าไปนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกมาเส้นทางพอดีๆ ของตัวเองด้วยการเต้นบ้าๆ แบบนั้นน่ะครับ
   
“หลังจากนั้นน้องต้องเข้ารับน้องในคณะต่อ ประมาณว่าให้ทำความรู้จักกัน มีการเลือกดาวเดือนเหมือนเดิม ตรงนี้ขอบอกคร่าวๆ เพราะไม่รู้ว่าทางคณบดีจะให้เปลี่ยนจากรับน้องในคณะเป็นเพิ่มการทำกิจกรรมอะไรมั้ยนะ อะ...แล้วจากนั้นก็ให้เลือกประธานชั้นปีเพื่อทำงานเฟรชชี่ของตัวเองโดยจะมีรุ่นพี่ไปให้คำแนะนำ คอยช่วยได้”
   
ประธานชั้นปีหน้าที่ที่ได้มาแบบงงๆ เป็นหน้าที่ที่หนักกว่าประธานห้องอีกครับ ชีวิตผมถึงต้องมาติดแหง็กอยู่ตรงนี้ไงครับทุกคนแต่เพราะการเป็นประธานนี่แหละทำให้ผมได้เรียนรู้การทำงานเยอะมากขึ้น ต้องขอบคุณไอ้เปาคนที่เป็นต้นเหตุล่ะครับ
   
“ทำหน้าไรงั้นวะ”
   
“เพราะมึงเลย”
   
“เบะปากทำเชี่ยไรเนี่ย เออขอโทษๆ...ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวกูจะเป็นลูกมือมึงทุกงานเลย”
   
“หลอกกูอีกดิ”
   
“หลอกไร พูดจริง นี่คนเมพนะครับ เอาน่า ถือว่าได้ทำอะไรใหม่ๆ เจ๋งดีออก”
   
“เจ๋งกับผีไรล่ะ นี่มันไม่พอดีแล้ว ชีวิตกูเป๋ออกนอกกรอกแล้วโว้ย!!”
   
“ปีนี้เราจะตั้งชื่อในคณะให้น้องเป็นชื่อเกาหลี น้องรหัสใครก็ให้รับผิดชอบตั้งชื่อ กฎเดิมห้ามบอกชื่อจริงจนกว่าจะเข้ากิจกรรมชื่อแรก”
   
จำได้ว่าตอนนั้นไอ้เปาที่เคยไม่ชอบชื่อนกกระปูดแดงกลับพูดชื่อนี้ออกมาให้ผมจำมันได้
   
“เฮ้ย โคอาล่า มานี่แป๊บ”
   
“กูอยากบอกชื่อมึงเป็นคนแรก”
   
“มึงเคยบอกกูแล้วนี่”
   
“หรอ งั้นมึงบอกกูดิ๊มากูชื่อไร”
   
“เอ่อ....”
   
“ไอ้กลางเอ๊ย ไอ้เอ๋อ”
   
“อะไรวะ แค่กูอ่านหลังไม่ออกให้กูเป็นคนเอ๋อเลยหรอวะ”
   
“มึงหยุดโวยวาย ฟังดีๆ”
   
“กูเปาไง จำนกกระปูดแดงไม่ได้หรอไอ้โง่”

   
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เราใกล้ชิดกันมาขึ้นแบบไม่รู้ตัว ไอ้เปาที่เปลี่ยนไปจนผมจำไม่ได้ก็มีอะไรมาให้ผมแปลกใจเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเดินแบบ ถ่ายแบบ ร้องเพลงประกวดดาวเดือนที่ตรึงตาตรึงใจคนไปทั้งมอเพราะความล้นของมัน แถมมันยังดูแลผมเกินเพื่อนทั่วไปอีก ไอ้ความรู้สึกแบบพิเศษมันเลยเกิดขึ้น เพราะแบบนั้นผมจึงชอบมันโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้ง
   

“....กลาง”
   
จึก จึก
   
อ่า คิดถึงเรื่องเก่าแล้วมันจะหลุดขำปนเขินๆ ครับ
   
จึก จึก
   
“ไอ้กลาง!”
   
เสียงเรียกผมดังขึ้น ผมถึงรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ย้อนอดีตอะไรทั้งนั้นแต่กำลังจะท้าวคางฟังท่านประธานอธิบายอยู่ในห้องประชุม
   
เหี้ยยย โชว์เด๋ออะไรวะเนี่ยยยยย
   
“เอ่อ....” สายตาทุกคู่มองผมมาด้วยสีหน้าท่าทางสงสัยแถมบางคนยังหน้าแดงหลบตาผมอีกด้วย
   
“ไอ้คนกลางครับ มึงนั่งยิ้มแล้วหน้าแดงเป็นบ้าอะไร”
   
“ขอโทษครับทุกคน” ผมรวมสติกลับเข้าร่างแล้วก้มหัวขอโทษทุกคน แอบได้ยินเสียงไอ้เจที่สะกิดผมเมื่อกี้หัวเราะคิกๆ
   

“มันไม่ได้เป็นบ้าครับประธาน มันอาจจะคิดถึงผัว...เอ๊ย แฟนอยู่ก็ได้”
   
“เชี่ยเจ!”
   
“อะแฮ่ม ไปคิดถึงแฟนข้างนอกสิบนาทีมั้ยไอ้กลาง มานั่งยิ้มให้คนอื่นหน้าแดงตามหมดแล้วเนี่ย”
   
ผมทำหน้าเหรอหราแล้วส่ายหน้าช้าๆ น่าอายชิบเป๋ง ประธานสะบัดหน้าแล้วเริ่มพูดต่อคราวนี้ผมไม่เหม่อแล้วครับ สัญญาครับทุกคน

   
“อะ วันนี้ประชุมครั้งสุดท้ายแล้วเราจะเจอกันใหม่ก่อนเปิดเทอมสามอาทิตย์เพื่อมาเตรียมงาน นอกเหนือจากนั้นจะติดต่อกันทางไลน์ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ปิดประชุม ขอบคุณทุกคนครับ”
   
เลิกประชุมซะเย็นเลย ผมเก็บของเดินออกมาจากห้องประชุม นัดกับไอ้เปาและแกงค์คอหล่นไว้ครับ เพราะผมประชุมเสร็จก่อนเลยนั่งรอมันโดยหันหน้าไปบริเวณที่ซ้อม ตอนนี้ใกล้เวลาทดสอบกองสันฯ แล้วครับ ไอ้เปาทำหน้าจริงจังมันซักซ้อมกับเพื่อนๆ แล้วเตรียมพร้อมโชว์ให้กับรุ่นพี่ดูการสันฯ ของพวกมัน
   
“ยังไม่กลับ”
   
“รอดูนี่อะ”
   
“รอไอ้เปาก็บอกมาเถ้ออออ” เบื่อสายตาล้อเลียนของไอ้เจเต็มทน
   
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” ขอยืมคำไอ้เปามาตอบหน่อย
   
“คนกลางน่ารัก” จู่ๆ ไอ้เจที่นั่งลงข้างผมก็พูดขึ้น
   
“อะไรของมึง”
   
“เปล่า กูได้ยินบ่อยๆ แล้วอยากเดินเข้าไปบอก มึงเนี่ยนะ...มันจังไรของแท้เลย”
   
“แมลงวันไม่ค่อยบินมาคุยด้วยหรอถึงมาคุยกับมนุษย์แบบกู”
   
“ตัวร้ายเลยมึงอะ” ไอ้เจหน้าเหวอ มันเสยผมแล้วล้วงมือถือขึ้นมากด ผมกลั้นขำ ไอ้เจเป็นคนที่ผมอยากจะแหย่มันครับ เวลาผมพูดอะไรแบบนี้มันมักจะไปต่อไปไม่ถูก
   
“เริ่มแล้ว”
   
เสียงรัวกลองดังขึ้นเป็นจังหวะ นักศึกษาที่ยังทำงานอยู่ที่คณะหันมามองด้วยความสนใจรวมถึงผมกับไอ้เจด้วย รุ่นพี่กองสันฯ หลายชั้นปีหน้านิ่ง ยืนกอดอกมองพวกมันอยู่บนขั้นบันได
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สิน กำ สิน กำ เฮ้ เฮ้ วู้วววววววว”
   
“สวัสดี สวัสดีครับแฟนๆ ....”
   
แล้วเพลงสันทนาการที่ผมมักคุ้นก็ดังขึ้น พวกมันเต้นกันสุดเหวี่ยง ผู้หญิงผมเผ้าหลุดไม่สนใจ ผมเห็นไอ้กล้วยไม่มีหอบเลยครับ ท่าทางจะชอบมาก ทุกคนทำเต็มที่กันหมด แต่….
   
“หยุด!”
   
เจ๊โบน่า รุ่นพี่สาวประเภทสองหน้าโหดปีสูงยกมือขึ้น เสียงรัวกลองค่อยตีช้าลงจนเงียบไป “มีแค่นี้หรอ เสียงก็แผ่ว บางคนหน้าไม่ยิ้มเลย มันจะสันฯ ได้จริงหรอวะ”
   
เงียบ
   
ผมนั่งมองด้วยใจระทึก โคตรน่ากลัวเลยครับ ทั่วบริเวณนั้นเงียบสนิท
   
“หัวหน้าคนไหน?”
   
“ผมครับ”
   
แปลกที่ปกติไอ้เปาจะเป็นคนที่ใครๆ ก็มองตาค้างแต่วันนี้รุ่นพี่กลับมองมันตาแข็ง “ได้แค่นี้หรอ รุ่นคุณน่ะ”
   
“ไม่ครับ! เราจะทำใหม่ครับ!”
   
“เชิญ!”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สิน! กำ! เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ้ วู้วววววว พวกเราสินกำ”
   
“สวัสดี สวัสดีครับแฟนๆ เป็นหมื่นเป็นแสน...”
   
“เอาใหม่!”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“โหดว่ะ แต่ละคนหงอยโคตร” ไอ้เจกระซิบ มันลูบแขนหวาดๆ ใจผมตอนนี้ตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ สงสารเพื่อนและสงสารคนที่โดนกดดันที่สุด สงสารไอ้เปา
   
“ไม่ได้เรื่อง หัวหน้าไม่สอนหรอว่าท่อนนี้เสียงสูง”
   
“ผมให้คุณรอบสุดท้าย! ถ้ายังไม่ผ่านสันฯ รุ่นนี้ก็ไม่ต้องมี!” พี่ผู้ชายหน้าโหดคนหนึ่งตะโกนมาจากขั้นบันไดขั้นบนสุด เสียงตวาดพี่เขาทำเอาใจผมหล่นวูบ
   
ผมจ้องไอ้เปาตาไม่กะพริบ น้ำตาจะไหลแล้ว ไอ้เปาที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหน้าสุดลอบถอนหายใจ เสื้อสีดำของมันเปียกแนบเนื้อไปหมด รุ่นพี่ใจร้าย ผมกำสายกระเป๋าแน่น ช่วยอะไรไม่ได้เลย ไอ้เปาหันมามองหน้าผมก่อนที่รอบสุดท้ายจะเริ่มต้น ผมยิ้มให้มัน  หวังว่าเท่านี้ที่จะช่วยมันได้
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สินกำขอบคุณครับ/ค่า”
   
จบลงไปแล้วครับ รอบสุดท้ายโดยที่พวกพี่ๆ ไม่ยกมือห้าม ผม ไอ้เจกับเพื่อนคณะกรรมการสองสามคนที่เดินออกมาดูด้วยมองไปยังกองสันฯ อย่างลุ้นๆ ผมหายใจไม่ทั่วท้องไม่รู้ว่าคนในวงล้อมอย่างไอ้เปาจะรู้สึกยิ่งกว่านี้มั้ย
   
เจ๊โบน่าเอามือไขว้หลังแล้วเดินลงมาตรงหน้าไอ้เปาที่หอบแฮ่กๆ ทุกคนสายตาจ้องมองมาแล้วเงียบกันหมดทั่วบริเวณ จนกระทั่งเจ๊โบน่าเอาผ้าเย็นที่ซ่อนไว้ข้างหลังมาเช็ดเหงื่อให้ไอ้เปาท่ามกลางความงงของทุกคน
   
“ผ่านตั้งแต่รอบแรกแล้วค่า น้องเปาเหงื่อหยดแล้วเซ็กซี่เว่อรรรรรรรรรรร์”

“เฮ้!!!!!! เย้!!!!! วู้ว!!!!!”

“เก็บความรู้สึกนี้ไว้แล้วไปทำเต็มที่ในทุกกิจกรรมนะพวกแก”
   
ไอ้เจส่งเสียงเยสอยู่ข้างหลังพลางแท็กมือกับเพื่อนที่มายืนดูด้วย ผมยิ้มออกมาอย่างโล่งใจและยินดี ไอ้เปาเบิกตากว้างให้เจ๊โบน่าเช็ดเหงื่ออย่างอึ้งก่อนจะทรุดลงนั่งพร้อมกับยกมือกุมหน้าตัวเองไว้ เจ๊โบน่าหัวเราะแล้วก้มลงไปกอดมันทันที
   
“อย่าร้อง! อย่าร้อง! อย่าร้อง!”

พวกพี่ๆ เพื่อนๆ ตะโกนกันใหญ่ เอ็นดูไอ้เปาที่คงจะกดดันมาก พี่แม็คตำแหน่งกลองวิ่งเข้ามาแย่งไม้กลองแล้วตีรัว ทุกคนต่างวิ่งเข้ามาสันฯ พร้อมกัน เพื่อนๆ ผมและคนที่ทนเสียงกลองกับเพลงสันฯ สนุกๆ ไม่ได้วิ่งเข้ามาแจมกันหมด รวมไปถึงไอ้เจที่วางกระเป๋าลากมือผมเข้าไปในวงด้วย
   
“มีตารอบตัว วู้วววววววววววววว รอบตัวรอบตัว มีตัวลายตา วู้ววววววววว ลายตาลายตา ฮูลาฮูลา สับปะรดๆ”
   
“เปรี้ยวมั้ยยยยยยยยยยยย...”
   
“เปรี้ยววววววววววววววววว”
   
“เปรี้ยวต้องทำยังไง...”
   
“กรี๊ดดดดด วู้วววว”
   
“เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ ถ้าไม่มีเกลือ ก็ไม่ต้องจิ้ม สับปะรด สับปะรด”
   
ผมเข้าในวงงงๆ มองไอ้เปาที่ปาดน้ำตา ปาดเหงื่อลุกขึ้นมาเต้นเพราะพี่ๆ เข้าไปหิ้วปีกมันมาเต้นด้วย ไอ้กล้วย ไอ้ทัพ กับไอ้เบสจับข้อมือผมดันเข้าไปเต้นกับไอ้เปา พวกเราเต้นเพลงสนุกๆ กันหลายเพลง ผมลืมไปหมดแล้วนะเต้นอะไรแบบนี้น่ะ แต่เห็นไอ้เปาหัวเราะพร้อมกับตาแดงๆ ก็ดีใจแล้วครับ
   
“เย้ วู้ววววววว ดีมากค่ะน้องๆๆ กรี๊ดดดดดด”
   
“มาพวกเราถ่ายรูปกัน!”
   
พี่ยอร์ชวิ่งถือกล้องออกมา ปลายผมมีเหงื่อเล็กน้อยอย่าบอกนะว่าแอบไปเต้นในห้องคณะกรรมการฯ ไม่รอช้าพอทุกคนได้ยินคำว่ากล้องก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ เข้ามารวมกลุ่มกันหมดเบียดกันจนวงเซไปเซมา ผมโดนเบียดเข้ามายืนใกล้ไอ้เปา
   
“มึงเก่งมากเลย” ผมพูดท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานในตอนนี้
   
“กูอายว่ะ ร้องไห้ต่อหน้าทุกคน” ไอ้เปากระซิบ ผมเลยยกมือไปเช็ดคราบน้ำตาตรงหางตามัน สงสารน้องนกกระปูดจริงๆ
   
“ร้องไห้น่าร๊ากกกกก” ผมยิ้มกว้าง ภูมิใจในตัวมันจริงๆ นะครับ ไอ้เปาชะงักไปนิดหน่อยกอดจะยกมือมากอดคอผมแล้วเอียงหัวซบอีกที
   
“อย่ามัวสวีทกันครับสองผัวเมีย พี่ยอร์ชจะนับแล้ว วู้ววววววว” ไอ้กล้วยที่อารมณ์ตกค้างชะโงกหน้ามาด่าผมท่ามกลางเสียงหัวเราะของไอ้ทัพและไอ้เบส
   
“เอ้า ยิ้มมมมมมมมม จะกดแล้วนะ หนึ่ง สอง สาม”
   
แชะ!!!!
   
จะเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ

   

“พวกมึงๆๆๆ โอ้โหดูสองคนผัวเมียคู่นี้ ถ่ายรูปรวมนะครับคุณณณณ กอดคอซบหัวกันในภาพหมู่นี่ได้อ่อ ด้ายอ่อออออออออออออออ” ไอ้กล้วยซูมรูปที่รุ่นพี่แท็กเข้ามาในเฟซบุ๊กครับ ผมกับไอ้เปาที่อยู่ตรงกลางทำท่าทางจากคนอื่นก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวของไอ้คล้วยหรอก แถมมีคนซูมแล้วแคปรูปไว้ข้างล่างคอมเมนต์ด้วย
   
“ได้ไม่ได้ก็ได้แล้วอะ” ไอ้เปาตอบพร้อมกับหยิบจานซูชิจากสายพาน ผมแทบสำลัก ตอนนี้เวลาเกือบสองทุ่มพวกผมและเดอะแกงค์มาฉลองความกดดันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นครับ
   
“กริ๊ววววววววววว ได้ไรง่ะ” ไอ้กล้วยทำท่าแบ๊ว ใช้นิ้วชี้จิ้มกันไปมาเหมือนสาวญี่ปุ่นในยุคดึกดำบรรพ์
   
“ต้องเสือกเรื่องชาวบ้านขนาดนี้เชียวนะครับเพื่อน” ไอ้ทัพตบหัวไอ้กล้วยไปหนึ่งที
   
“เห็นโลกสีม่วงก็ชื่นใจแทนลูกรักของพ่อ” ไอ้เบสคว้าหัวผมไปซบไหล่มัน ไอ้เปามองตาเขียวก่อนที่ไอ้เบสจะรีบปล่อยเหมือนโดนของร้อน
   
“แต่วันนี้รุ่นพี่ใจร้าย” ผมพูดขึ้นเมื่อนึกถึงเมื่อเย็นที่ผ่านมา บนโต๊ะเงียบกริบ พวกมันจ้องมาทางผมกันหมด 
   
“โอ๋ๆๆๆ ทำหน้างี้จะร้องไห้แทนพวกกูหรอ”
   
“แควนมึงน่ารักอะไอ้เปา”
   
“ไอ้สัด!”
   
“สองปั๋วเมียขี้แย”
   
“ก็กูเห็นพวกมึงทำดีแล้วอะ” ผมบอกก่อนที่มันจะล้อผมไปมากกว่านี้
   
“โถถถถถถถถถถ เพื่อนน่ารักงี้ไอ้เปารัดตายเลย”
   
“รักก็พอเพื่อนกล้วย รัดนั่นให้มึงไปรัดคนอื่นเถอะ”
   
ไอ้เปาใช้ตะเกียบคีบซูชิยัดเข้าปากไอ้กล้วย ผมแอบเห็นว่ามีวาซาบิก้อนสีเขียวเหมือนยาสีฟันแปะอยู่ด้านบน
   
“โทษๆๆ แซวนิด...อะแค่กๆๆๆๆ อ่อกๆ น้ำ น้ำ ไอ้เหี้ยเปา มึง แอ่กๆๆ จะ อะ...ฆ่า กูหรอ โอ๊ยยยย”
   
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” นอกจากไอ้กล้วยจะใกล้ตายแล้วไอ้ทัพที่นั่งใกล้มันสุดกลับทำตัวเชื่องช้าไม่ส่งน้ำให้มัน ใครมาอยู่ตรงนี้ต้องฮากันหมดแหละครับ ตอนมันแลบลิ้นออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากโคตรฮา แน่นอนว่าไอ้เบสมือคลิปได้ถ่ายไว้เรียบร้อย
   
ไอ้เปาตีมือกับไอ้เบสดังลั่นพร้อมกับหัวเราะไอ้กล้วยที่ตอนนี้กลายเป็นกล้วยสุกแล้วครับ ผมมองแล้วขำน้อยๆ ขำเยอะไม่ได้เดี๋ยวโดนแกล้ง เล่นกันได้ไม่นานก็เริ่มสวาปามอย่างจริงจัง ผมกับไอ้เปานั่งตรงข้ามกันแล้วชิดสายพานสุด จานไหนใครชอบไอ้เปาไม่หยิบให้หรอกครับ มันเขมือบหมด ผมต้องคอยเป็นเบ๊ให้พวกมันใช้ จนไอ้เปาทนไม่ไหวป้อนผมแทนพอเห็นว่าผมเอาแต่หยิบให้เพื่อน
   
“กูดีใจที่เป็นเพื่อนพวกมึงนะ”
   
 เสียงล้งเล้งที่ดังอยู่เงียบลงอีกครั้ง ไอ้เปาเลิกคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ
   
“ดราม่าไรไอ้กลาง” ไอ้กล้วยถาม
   
“เปล่า ก็แค่อยากบอก”
   
“แหนะๆๆๆ พวกผมนี่ลิมิตุ๊ด อิดิทชั่นนะครับ หาไม่ได้อีกแล้วดีใจไว้ถูกแล้วเพื่อนนน” ไอ้กล้วยตบอกตัวเองดังปั่กๆ
   
“น้องคนกลางดีใจ พวกเราก็ดีใจนะครับผม กริ๊ววววว” ไอ้ทัพลุกขึ้นยื่นมือมาเขี่ยคางผมเล่น พวกมันเริ่มล้อผมแทนแล้วครับ ผมเลยก้มหน้าซดซุปมิโสะแทน
   
“ดีใจที่เป็นเพื่อนพวกกูใช่มั้ย” ไอ้เบสถามยิ้มๆ
   
“อือ”
   
ซุปมิโสะยังอร่อยเหมือนเดิมเลย
   
“ดีใจที่ได้ไอ้เปาเป็นแฟนด้วยเปล่า”
   
“เออ”
   
“ฮิ้ววววววววววววว”
   
“ไอ้เปายิ้มเลยเว้ยเฮ้ยยยย”
   
เชี่ย.....
   
นี่ผมต้องเสียรู้พวกมันไปอีกนานเท่าไหร่วะเนี่ยยยยย

   
.
.
[ต่อด้านล่างอีกนิดค่ะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2017 21:02:11 โดย jaevin »

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
หลังจากนั่งรถไปส่งเพื่อนเดอะแกงค์เสร็จ ผมกับไอ้เปาก็กลับหอครับ แต่ทางเลี้ยวข้างหน้าก็จะถึงหอแล้วแต่ไอ้เปากลับตรงไปอีก
   
“ไปไหน” ผมถามขึ้นพอเห็นว่ามันขับรถไปยิ้มไปด้วย อย่าบอกนะว่าเต้นจนเพี้ยนจำทางกลับหอไม่ได้
   
“มึงคิดว่ากูบ้าหรอ”
   
“เฮ้ย...รู้ได้ไง” ผมตาโต
   
มันยื่นมือมาผลักหัวผมก่อนจะตอบ “หน้ามึงฟ้องอะกลาง”
   
ผมมองข้างทางมันเริ่มขับออกนอกเส้นทางไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ไกลจากมอมากนัก
   
“แล้วมึงจะไปไหนเนี่ย”
   
“พามึงมาเดินตลาด”
   
“ไม่เมื่อยหรอมึงเต้นมาทั้งวันแล้วนะ”   
   
“เอาน่า...” มันบอกปัดแล้ววางมือหนักๆ ไว้บนหัวผมพร้อมกับขยี้เบาๆ แรงเยอะจริ๊งจริงงงง ตอนเด็กเดินนิดหน่อยขี้เกียจจะตายมันน่ะ
   
ที่ๆ ไอ้เปาพามาก็คือตลาดที่เคยมากับผมเมื่อหลายเดือนก่อนก่อนที่เราจะคบกัน หลังจากจอดรถเสร็จเราเดินเลี้ยวตามซอยต่างๆ ของตลาดกลางคืนซื้อของกินติดไม้ติดมือนิดหน่อย ที่กินซูชิไปมันเล็กน้อยครับไม่ถึงครึ่งกระเพาะ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเข้ม บรรยากาศเดิมๆ กลับมาอีกครั้ง แม้ว่าวันนี้มันไม่ได้แต่งตัวดูดีอะไรมากมายแต่เพราะเป็นไอ้เปาคนเดิม บรรยากาศมันก็ยังเหมือนเดิมสำหรับผม
   
“รอตรงนี้แป๊บนึง” ไอ้เปาบอกผมพร้อมกับเดินหายเข้าไปในร้านซีดีที่เปิดเพลงดังอยู่ไม่ไกล ผมมองของกินข้างทางแล้วอยากจะซื้อเพิ่ม ทั้งๆ ที่เป็นของธรรมดาพอเห็นแล้วก็หิวอีกจนได้
   
“ก๋วยจั๊บญวนอีกมั้ย” ผมถามตอนที่มันเดินกลับมาแล้ว ไอ้เปาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนหันมามองยิ้มๆ เป็นอันว่ารู้กันสองคน
   
“กินเหมือนเดิมไม่เบื่อบ้างหรอ”
   
“ไม่เบื่อ เจอหน้ามึงทุกวันยังไม่เบื่อเลย”
   
“กูต้องเขินมั้ยเนี่ย” มันหัวเราะก่อนจะเดินนำผมไปที่สะพานไม้อาจจะเป็นเพราะดึกแล้วคนเลยไม่ค่อยเดินมาทางสะพานไม้นี้เท่าไหร่
   
สะพานไม้ในวันนี้ไม่ได้ต่างจากครั้งก่อนที่มา ยังคงมีแสงไฟกะพริบระยิบระยับเหมือนเดิม สะพานไม้สีเข้มยังดูสวยสำหรับผมยิ่งอยู่กับไอ้เปาแบบนี้ยิ่งสวยไปใหญ่ ไอ้เปาเดินไปที่กลางสะพาน มันยืนมองน้ำที่ตอนนี้กลายเป็นสีดำเพราะความมืด ผมไม่สามารถละสายตาจากภาพตรงหน้าได้เลย
   
“มานี่สิ” พอเห็นผมยืนนิ่ง มันเลยกวักมือเรียกผมขึ้นไปก่อนมองลงไปที่แม่น้ำเล็กๆ อีกครั้ง ผมเลยมองตามไปด้วย
   
“เห็นหมาน้อยป้ะ” ไอ้เปาถาม
   
“ไม่เห็นมีหมาเลยมีแต่...” เอ๊ะ “ไอ้เปานี่หลอกด่ากูหรอ”
   
“หลอกเล่นน่า”
   
ผมไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง รู้สึกดีที่วันนี้ผมได้ย้อนความทรงจำมากมายแม้จะผ่านไปไม่นานแต่ทุกเรื่องราวล้วนมีความหมายสำหรับผม
   
“คิดไงพามาเนี่ย”
   
“พามาระลึกความหลัง”
   
“อย่างกับคนแก่แหนะ” ผมพูดขำๆ แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับพูดด้วยเสียงจริงจัง
   
“กูนะ...” มันหันมาสบตาผม สองมือท้าวกับขอบสะพาน “ตั้งแต่เจอมึงอีกครั้งก็คิดตลอดว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าในทุกๆ วัน จะได้ไม่เสียใจที่ไม่ได้ทำ”
   
“....” ผมมองมันอย่างแปลกใจ หัวใจเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ไอ้เปายืดตัวขึ้นหันมาหาผมทั้งตัว ตอนนี้เราทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันอยู่ท่ามกลางแสงไฟเล็กที่กะพริบเป็นจังหวะ
   
“ถ้ากูยอมแพ้ตั้งแต่แรกเราคงไม่ได้เจอกันอีกครั้งหรอกใช่มั้ย” มันจับมือผมทั้งสองข้าง แววตาของมันสะท้อนแสงไฟเหมือนดาวดวงเล็กๆ มันสว่าง สุกใส และมีความรู้สึกเป็นหมื่นล้านความรู้สึกอยู่ในนั้น
   
“กูคิดเสมอว่ากูมันขี้ขลาด แต่มีเรื่องนึงเว้ยที่กูกล้าหาญจนแทบไม่เชื่อตัวเองเลย จนถึงวันนี้กูยังรู้สึกขอบคุณตัวเองในตอนนั้นมากๆ” ถึงตรงนี้มันอมยิ้ม ผมที่มองหน้ามันอยู่เผลอยิ้มตามไปกับมันจนได้
   
“มึงอยากรู้มั้ยเรื่องอะไร...”
   
“อยากรู้”    
   
“ถ้าอยากรู้มึงฟังเพลงนี้สิ”
   
เป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงเพลงจากร้านซีดีดังขึ้น และแค่ได้ยินเสียงดนตรีขึ้นต้น ผมก็นึกเรื่องราวในวันนั้นได้เป็นฉากๆ เหมือนกับพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน วันที่มันสารภาพกับผม...

กดฟังเป็นกำลังใจให้เปาด้วยค่ะ
https://www.youtube.com/embed/lFD2eid8Ugw

“อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ
อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ
ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ
ตั้งแต่วันแรกเจอ
ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ

พอรู้จักก็อยากจะทักทาย
แต่พอไม่เจอแล้วใจก็วุ่นวาย
เธอหายไปก็ห่วงเธอแทบตาย
จะเป็นเช่นไร ตรงนั้นมีใครดูแลอยู่หรือไม่ ก็ไม่รู้

เกือบลืมหายใจเมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ
แค่เธอยิ้มมา ก็สั่นไปทั้งหัวใจ
อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ”

“ถ้ากูไม่ตัดสินใจบอกมึงในวันนั้น เราคงเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ กูก็คงแอบชอบมึงไปเรื่อยๆ ได้แต่คิดไปวันๆ ว่าแรงบันดาลใจของกูจะมองกูอย่างที่กูมองมึงมั้ยนะ...”

“แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่
ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่
ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ
ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ
มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป

อยากจะบอกให้เธอได้รู้ใจ
ที่จริง ก็อยากจะบอกคำนั้นไป
แต่กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียใจ
หากเธอรับไม่ได้ เธอคงไม่ยอมให้อภัย กับคำนั้น

อึดอัดเหลือเกิน ต้องเก็บเอาไว้ข้างใน
อึดอัดหัวใจ แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดไป
กลัวว่าจะต้องเสียใจ”


ไอ้เปากอดผมทั้งตัวพร้อมกับกระซิบบอก
   
“มึงเป็นคนที่ทำให้กูยืนตรงนี้ได้นะกลาง ที่กูอยู่ตรงหน้ามึงตอนนี้ก็เป็นเพราะมึง มึงมีค่าที่สุดสำหรับกูนะเว้ย”
   
ผมซึมซับทุกความรู้สึกไว้ในใจ ตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก ผมนึกถึงทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา เริ่มตั้งแต่เจอมันที่เป็นเด็กชายปรมัตจนถึงตอนนี้
   
“ขอบคุณนะ”
   
ผมกอดตอบแทนคำพูดทั้งหมด

“แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่ ไม่ ไม่ ไม่
ก็ยัง ยัง ยัง ยัง ไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้น นะ นั้น แล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่ ใช่ ใช่
ถ้าเป็นบะ บะ แบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป ไป ไป ไป”
   

“โทษทีไอ้น้อง! แผ่นมันเก่าแล้ว! เป็นไรของมันวะเนี่ยขอเช็คก่อนนะ!”
   
จู่ๆ เพลงบอกรักของไอ้เปาก็แผ่นสะดุดซะงั้น เราสองคนผละออกจากกันก่อนจะหันไปมองหน้าพี่เจ้าของร้านที่ตะโกนมาแล้วส่ายหน้าอย่างหัวเสีย เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศหวานซึ้งเมื่อกี้ชะงักกลายเป็นเสียงหัวเราะแทน ไอ้เปายกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อก่อนจะหันไปโบกมือให้เจ้าของร้านขายซีดีเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร แล้วมันก็จูงมือผมเดินลงมาจากสะพานไม้ช้าๆ ผมหลุดขำที่ไอ้เปาหน้าแก้มแดงเพราะเนียนไปทำเซอร์ไพร์สแต่ดันล่มเพราะแผ่นเก่าซะงั้น
   
“จบเลย” มันบ่นแต่มุมปากก็ยังเปื้อนยิ้มเขินๆ
   
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร...กูชอบนะ” ผมพูดแล้วก็รู้สึกถึงแรงกระชับที่มือ ไอ้เปายิ้มกว้าง และระหว่างที่เราเดินห่างออกมาจากสะพาน ท่อนสุดท้ายของเพลงก็ดังขึ้นพอดี

“จะบอกว่ารักให้เธอได้ยินใกล้ๆ
บอกความรักเธอได้ยินหรือไม่
ถ้ายังไม่ชัดฟังอีกครั้งก็ได้
ได้ยินไหมว่ารักเธอทั้งหัวใจ”

เราหันมายิ้มให้กัน วันนี้เป็นวันที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีสำหรับผม และต่อจากนี้ ผมกับไอ้เปาจะสร้างความทรงจำดีๆ แบบนี้ไปทุกวันครับ



Khonklang first posts in a while
Same place, Different time with my @paramatkrikri



------------ THE END ------------

17.08.2017
เปา x คนกลาง ผองเพื่อนและครอบครัว
เนื่องในโอกาสคนกลางตอนสุดท้าย
ตอนที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าบังเอิญมากๆ
จริงๆ เคยเขียนนิยายเมื่อหลายปีก่อนแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างก็ได้เลิกเขียนไปพักนึง
เลยได้เเต่เป็นสายอ่านอย่างเดียว
จนเมื่อเดินเมษาที่ผ่านมาเครียดงานจบมาก
และคืนหนึ่งก็ได้ฝันถึงเพื่อนเก่าคนนึงที่เป็นต้นแบบของเปาในวัยเด็ก
แบบจู่ๆ ก็ฝันเพื่อนคนนี้ไม่ได้เจอกันเป็นสิบปีกว่าแล้ว
แล้วน้องกลางก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ชื่อเรื่องคนกลางอันที่จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะตั้งว่าคนกลาง ออกแนวหลอนๆ นะ555
แต่เพราะอยากให้มีคนแบบคนกลางก็เลยให้ชื่อกลางซะเลย
มาตีแผ่ชีวิตน้องในช่วงนึงของชีวิต
แรกๆ ตั้งใจว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ฟีลกู้ดสุดๆ เรื่องแรก เขียนไปเขียนมา
มันมีดราม่าเว้ย ได้ไงหรือจิตใจเรากำลังโหยหาดราม่าในชีวิต
มันเป็นดราม่าที่พัดเป็นพายุไซโคลน
จะบ้า ตอนนั้นตกใจและลุ้นอ่านคอมเมนท์ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ
เขียนเสร็จ อ่านแล้วอ่านอีก นี่คนกลางต้องเจออะไรแบบนี้จริงๆ หรอ(วะ)
ตอนที่ลงไม่ได้คิดว่าจะมีคนอ่านมากอ่านน้อย เพราะเราคิดว่าอยากแชร์ ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว
ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมากเพราะตอนลงนิยายหายเครียดจากการทำงานเฉยเลย5555
จากนั้นก็เริ่มสนุกกับการเขียนมากขึ้นเรื่อยๆ
ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนไม่ว่าจะคลิกเข้ามาดู เข้ามาอ่าน และเข้ามาแสดงความคิดเห็น
เข้าใจคำว่ากำลังใจสำคัญของคนเขียนก็คือคนอ่านจริงๆ เลย
ไม่ได้ตอบทุกคอมเมนท์แต่ต้องขอบคุณทุกคนจากใจจริง
จริงๆ จากหัวใจเลยค่ะ
ขอบคุณเพลงไม่บอกเธอที่เป็นเเรงบันดาลใจให้เปาด้วยค่ะ

ฝากติดตามผลงานเรื่องต่อไปเร็วๆ นี้ด้วยนะคะ
ช่วงนี้คิดว่ายังคงเน้นสายฮีลอย่างต่อเนื่อง
สายฮาจงมา เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีเรื่องราวเหนื่อยใจ

เรื่องการรวมเล่มคนกลาง คงต้องรอซักพักใหญ่ๆ
ถ้าหากว่ามีการอัพเดตเมื่อไหร่จะมาแจ้งให้ทราบโดยด่วนเลยค่ะ
ได้โปรดสนับสนุนด้วยนะคะ คาราวะด้วยน้ำชา
เจอกันในตอนพิเศษค่ะ

คิดถึงกันก็แวะมาทักทายกันได้ที่นี่ หรือทวิตเตอร์ Jaevin หรือติดแท็ก #คนกลาง ได้ทุกช่องทางค่ะ
หรือจะให้เปา กลางและเพื่อนๆ ขยับเขยื้อนตัวไล่ความเมื่อยในบรรทัดนั้นได้โดยการอ่านซ้ำค่ะ อิอิ

รักและขอบคุณทุกคนค่ะ

 :L1: :L1: :L1: :L1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2017 10:20:13 โดย jaevin »

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =end=
«ตอบ #599 เมื่อ17-08-2017 21:35:42 »

ชอบอะ

ขอตอนพิเศษอีกนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด