พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|  (อ่าน 89327 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
 o13 o13 o13

ชวนติดตามต่อ  ความลับความสัมพันธ์ของหมูกรอบกับหมวยเล็ก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ป๊า สุดยอด  :mew1:
เรียกลูกชายคนสุดท้องว่าหมวยเล็ก
ตามหน้าตา ลักษณะรูปร่าง
แถมส่งไปเรียนรำไทย
และมวยไทย เพื่อไว้ป้องกันตัวเอง  :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 6



            [พาร์ตของศิลา]



            “แข็งชิบ!! ทำให้ตั้ง ๆ ไม่ได้รึไง!” ผมขึ้นเสียงดุจนไอ้หมูที่ยืนตั้งวงเพื่อขึ้นท่ารำอยู่สะดุ้ง...ผมยืนอยู่บนโซฟาพร้อมกับไม้กวาดหันด้ามไปหาไอ้หมู บอกให้ทำมือตั้งวงดี ๆ มาเกือบจะชั่วโมงแล้ว ยืนนิ่ง ๆ ยังทำไม่ได้เลย วุ้ย จะรอดไหมการแสดงเดือนของมัน



            หลังจากที่เขาคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็พาหมูไหว้ครูก่อนจะเริ่มสอนรำ จะบอกว่ามันมือแข็งมากกกก! แต่จะโทษมันก็ไม่ได้หรอกครับ ก็ผู้ชายที่ไหนมันจะรำอ่อนช้อยล่ะ...ก็กูไงครับ...ยกเว้นไว้หนึ่งกรณี



            “ทำไมพี่ศิลาดุจังครับ...แล้วจะถือไม้กวาดไว้ทำไม ฟาดมามันเจ็บหนักอยู่นะ” ผมชี้ด้ามไม้กวาดไปแตะ ๆ ไหล่ของเขา



            “ถ้ามึงทำไม่ดีกูฟาดแน่ ๆ!” หมูยิ้มแห้ง ๆ เหอะ...เจอผมดุหน่อยมันทำหน้าจ๋อยลงไปเลยครับ      ผมจะบอกว่าผมลืมเรื่องที่มันพูดก่อนหน้านี้ไปหมดละ...(จริงเหรอ)



            ถามว่าทำไมเขาไม่กล้ามายุ่งย่ามกับผมงั้นเหรอ...ก็ผมสั่งให้ไอ้หมูอยู่ห่าง ๆ จากตีนผมไว้น่ะสิครับ พูดให้ถูกก็คือ อย่ามาเข้าใกล้ผมเกินสองก้าว ไม่งั้นผมจะไม่พูดกับมันอีกและจะไม่มาสอนมัน



            ...ทีมันยังขู่เรื่องการรำกับผมได้ แล้วทำไมผมจะขู่มันคืนไม่ได้...



            “พี่ศิลา...” หมูทำท่าจะเดินเข้ามาหาผมก็ชะงักและก้าวถอยหลังไปอีก



            “ทำไมต้องห่างกันสองก้าวด้วย...ขอก้าวเดียวได้ไหม” มันต่อรอง มึงก็ตั้งรำของมึงไปสิวะ!



            “ไม่ ตั้งวงดี ๆ กูว่ามือมึงนี่มันท่าทางจะดัดยากนะ” ผมทำท่าคิดจะทำยังไงให้มือมันอ่อนดีนะ ก่อนผมจะนึกออกด้วยสมองอันชาญฉลาดของผม



            “กูว่าใช้น้ำอุ่นช่วยน่าจะดัดง่าย ไอ้หมูมึงไปเอาน้ำอุ่นใส่อ่างมาไป”



            “พี่จะชวนผมอาบน้ำเหรอ” น้ำเสียงดี๊ด๊าของมันคืออะไร



            “พ่อง...กูจะเอามาให้มึงแช่มือ สัด! ไปเอามา” ผมด่า เขาเลยหัวเราะเหมือนดีใจที่ผมด่า...โรคจิตดี ๆ นี่เอง



            หมูหายเข้าไปในห้องน้ำซักพักก่อนจะออกมาพร้อมกับกะละมังน้ำอุ่น มันวางลงตรงโต๊ะแก้วที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโซฟา



            “เอามือมึงมาจุ่มสิ” ผมบอกมันที่ยืนมองงง ๆ ผมเลยคว้ามือของมันมาใส่น้ำ



            “พี่...”



            “อะไร?”



            “พี่จับมือผม...” หมูยิ้มกว้าง...เชี่ย กูจับมือมันจริงด้วย...



            “กูจับมึงได้ แต่มึงห้ามมาจับกู” ผมตอบเสียงเรียบแบบไม่แคร์ ไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น



            “โหย...งั้นพี่ก็ต้องจับบ่อย ๆ นะ ผมอนุญาต” จะไปจำมึงบ่อยให้มันได้ไรขึ้นมาวะ.....



            “พูดมากกูจะเอาไม้กวาดฟาดมึงนะ....ที่เอามือมึงมาใส่น้ำอุ่นเพราะจะได้อ่อน ๆ มึงก็ลองดัด ๆ มือในน้ำอุ่นดูนะ มันช่วยได้เยอะอยู่” ผมบอกพลางเอามือของผมไปดัดมือของหมูที่อยู่ในน้ำ โดยที่ไม่รู้ว่าสายตาคมจ้องผมอยู่ใกล้ ๆ



            “พี่ศิลา...คือว่า...”



            Rrrr เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมไม่ได้ฟังที่ไอ้หมูกำลังจะพูดออกมาเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้นมาซะก่อน



            +ไอ้เสา+ ผมมองเวลาประมาณ 20:30 น.  ผมกดรับสาย



            (“มึง ออกมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อย”) ไอ้หมูเอามือตัวเองแช่น้ำแล้วดัด ๆ ตามที่ผมบอก มันยิ้มให้ผมไปด้วย ผมฟังเสียงไอ้เสาที่ดูเครียด ๆ ก็ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าแล้วนี่หว่า



            “มึงหายหน้าซีดแล้วเหรอสัด...มึงอยู่ไหน”



            (“ร้านโฮะ”) มันบอกชื่อร้านเหล้าประจำของพวกผม ถือว่ามันไปกินตั้งแต่หัววันมากนะ

            (“กูรอหน้าหอมึง ลงมาสัด”) ไอ้เสาบอกอีก หา...มันมาอยู่หน้าหอผม



            “เออ ๆ เดี๋ยวกูออกไป” ผมวางสาย ส่วนไอ้หมูดูจะสนอกสนใจกับการดัดมือมากจนไม่ได้ฟังโทรศัพท์ของผมละมั้ง



            “ใครโทรมาเหรอ?” หมูเงยหน้าขึ้นถาม



            “เพื่อนกู พอดีกูจะไปธุระซะหน่อย ไว้ค่อยซ้อมต่อก็แล้วกันวันนี้กูต้องกลับละ” ผมบอก หมูจะคว้ามือของผมก็หยุดมือไว้....คำสั่งของผมได้ผลดีแฮะ



            “กลับเองได้รึเปล่าครับ?” ปากถามผมอย่างนี้แต่หน้ามันพร้อมจะไปส่งผมมาก



            “ได้สิวะ” ผมสะพายกระเป๋าของตัวเอง “มึงจะทำอะไรต่อล่ะวันนี้” ผมถาม หมูเอาผ้ามาเช็ด ๆ มือของตัวเองออก



            “ก็ว่าจะนอนแล้วล่ะครับ...พรุ่งนี้ที่คณะเรียกไปแต่เช้าอ่ะ” มันว่า



            “เออ ๆ ก็รีบเข้านอนละกันมึง”



            “ห่วงผมเหรอ” น้ำเสียงขี้เล่นตามสไตล์มัน “ฝันดีนะครับ พี่ศิลา...เดี๋ยวผมส่งข้อความไปบอกอีกรอบ” มันโบกมือให้ผมนิด ๆ ผมเลยยักไหล่ชิว



            ผมลงมาข้างล่างก็เห็นรถของไอ้เสาจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมเลยวิ่งไปหามันที่รถโดยที่ไม่ทันเห็นว่าหมูเองก็วิ่งตามลงมาเหมือนกัน แต่หมูก็ไม่ได้เรียกผมไว้เพราะผมขึ้นรถมากับไอ้เสาแล้ว...





          @ร้านโฮะ



            “ไอ้เหี้ยเสา มึงจะสั่งมาอาบเหรอวะ!” ผมยกมือห้ามพนักงานที่จะยกเครื่องดื่มที่ไอ้เสาสั่งมา ตั้งแต่เข้าร้านมามันก็เอาแต่กระดกกินเรียบ เชี่ย...อดอยากมาจากไหนของมัน



            “เออ! กูกะมาอาบเต็มที่ มึงก็กินสิวะ เอ้าชนนนนน...” ไอ้เสายัดแก้วใส่มือของผม เพลงในผับที่เปิดดังกระหึ่มไปหมด แปลกที่ไม่ยักจะเห็นไอ้นนท์



            “แล้วไอ้สัดนนท์ไปไหนวะ”



            “ไม่รู้!!! จะไปไหนก็ช่างแม่งมันสิวะ” จึก...พวกมึงเป็นเหี้ยไรกันครับ...ผมมองไอ้รองเดือนที่ตอนนี้หน้าแม่งแดงไปหมดละ ไอ้เสามันหล่อนะครับ หล่อเข้มแต่มันก็เป็นคนที่เอาแต่ใจคนหนึ่งเลยล่ะ บ้านมันรวย ลูกคนเดียว ก็เลยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจนิดหนึ่ง เวลามันเสียใจมันก็จะระบายออกมาแบบนี้แหละ  ผมเป็นเพื่อนมันมาตั้งนานก็เลยรู้...เพียงแต่ครั้งนี้ ผมไม่รู้ว่ามันเสียใจที่เลิกกับแฟนสาวของมันหรือเรื่องอะไรกันแน่



            “แล้วมึงเหอะ ไปหอน้องมันมาเหรอวะ...แหม ๆ ก้าวหน้าอีกขั้นเหรอมึง” ไอ้เสากระตุกยิ้มตาเริ่มเยิ้ม มึงเริ่มเพ้อเจ้อแล้วครับเพื่อน



            ผมก็นั่งดื่มฟังไอ้เสามันแซวสาวไปเรื่อย จนสายตาของไอ้เสาไปเห็นใครไม่รู้แต่ผมเห็นมันกำแก้วแน่นขึ้น ผมเลยมองตามจนไปเจอ...เชี่ย ไอ้สัดนนท์นี่หว่า...มันกำลังนัวเนียกับสาวอกสุดสะบึ้ม กำลังจะก้มจูบซอกคอกันเชียว มันก็เป็นเรื่องปกติของไอ้นนท์มันแหละครับ



            “เหี้ยยย! เหี้ยจริง” ไอ้เสากระแทกแก้วลงโต๊ะจนมันแตกคามือ เฮ้ย...



            “ไอ้สัด มือมึง...” เลือดที่ไหลออกจากมือของไอ้เสาทำให้ผมรีบจับมือของมันมาดู



            แต่ไอ้สัดนนท์ก็เดินมาจากตรงเคาท์เตอร์ที่ยืนอยู่เมื่อกี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือ มันคว้ามือไอ้เสา



            “ลุกมากับกู”



            “เหี้ยยย!!! อย่ามาจับกู” ไอ้เสาร้องขึ้นมาเหมือนมันจะเมา เมามาก ๆ แต่ไอ้เสามันเป็นผู้ชายสูงโปร่งครับ ส่วนไอ้นนท์มันตัวสูงทึบ (ขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพตามฉบับศิลา) แบบว่าไอ้นนท์มันเล่นกีฬาบาสไรงี้ด้วยไง กล้ามมันก็เยอะกว่า กระชากทีเดียวไอ้เสาปลิวไปหามันเลย



            “เฮ้ย ๆ พวกมึงเป็นไรกันวะ...มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกกูใช่ไหม” ผมเข้าไปเคลียร์ไอ้สองคนที่จ้องตากันเหมือนจะกระโดดเตะกันอย่างงั้นแหละ



            “ถามไอ้สัดเสาสิ! เป็นอะไรทำไมไม่บอกกู” ไอ้สัดนนท์เริ่มเปิดปาก ไอ้เสาจะสะบัดมือที่มีเลือดของมันออกแต่นนท์บีบไว้แน่น



            “กูไม่ได้เป็นอะไร! ปล่อยสิวะ ไปหาสาวของมึงนู่น ดื่มต่อเหอะไอ้ศิลา” ผมมองหน้าไอ้เสา นี่มันยังจะดื่มต่ออีก



            “ มึงไปเอาเอกสารที่ห้องกูวันนั้นใช่ไหม วันที่กูเมา...” ไอ้นนท์พูดขึ้นมาบ้าง ผมมองหน้ามันสองคนสลับไปมา...สรุปใจความสำคัญให้กูฟังที ต้องการจะเผือกเต็มที่



            “ใช่ ทำไม? กูไปเอาเอกสารแล้วก็ออกมาเลย” ไอ้เสาทำหน้ากวนตีนตามประสามัน



            “เหรอ...บังเอิญจังเนอะเพราะว่ากูดันรู้สึกว่า กูโอบกอดใครสักคนไว้คืนนั้น” หือ...โอกกอดใครสักคน ผมหันไปมองหน้าไอ้เสาที่ซีดเผือก....เฮ้ย ๆ....



            “หึ อาจจะเป็นสาว ๆ ของมึงที่หิ้วกลับมารึเปล่า...” ไอ้เสาพูดจบ หญิงสาวที่ไอ้สัดนนท์นัวเนียด้วยก็เดินมาเกาะแขนของไอ้นนท์ ....น้องครับ มาผิดสถานการณ์แล้ว



            “พี่นนท์คะ ช้าจังเลย...รอไม่ไหวแล้วนะ” ไอ้เสาสะบัดมือออกจากไอ้นนท์ทันที



            “เหี้ย!...ไปเหอะไอ้ศิลากูหมดอารมณ์จะกินเหล้าแล้ว” ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนไอ้เสาลากออกไป แต่เดี๋ยว...ทำไมผมเหมือนแผ่นหลังคุ้น ๆ วะ แปลกไหมที่ผมคิดว่าเป็นแผ่นหลังของไอ้หมู....



            ผมโดนลากมาหลังร้านเหล้าก่อนจะชะงักเมื่อไอ้เสามันยกมือมากกอดผม มันกอดแบบเพื่อนกอดกันน่ะครับ ผมว่าไอ้เสาอาการหนักแล้วนะ



            “มึงเป็นไรวะ...เล่าให้กูฟังได้นะเว้ย”



            “กูกอดมึงแล้ว กู....” มันเว้นวรรค “กูไม่รู้สึกอะไรเลยว่ะ....แต่ทำไมกับมัน....” ด้วยความที่ผมเป็นคนฉลาด(ชอบเผือก) ผมว่า ‘มัน’ ของไอ้เสาคือไอ้นนท์แน่ ๆ



            “กูจะทำยังไงวะ...กูคิดว่ากูไม่เหมือนเดิม กูว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นกับกูด้วยซ้ำ” ไอ้เสาเสียงเริ่มสั่น  มันกอดคอผมไว้แน่น ผมเลยตบไหล่มันปุ ๆ เพื่อปลอบ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อผมโดนดึงให้ห่างจากไอ้เสาที่กำลังเมา



            “พี่ศิลา นี่ธุระของพี่เหรอครับ!” ไอ้เชี่ยหมู...มันผลักไอ้เสาชิดกำแพงและเงื้อมือจะต่อย ผมเลยรีบจับไว้



            “จะทำเชี่ยอะไรวะ!! นั่นเพื่อนกู” หมูดูเหมือนจะชะงักไปเหมือนกันเพราะขาดสติไปชั่วครู่ และไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนของศิลา



            “ก็พี่เขามากอดพี่!...” ผมชักจะเริ่มโมโหกับมันแล้วนะ...



            “กอดกูแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงไม่ทราบ” ผมถามและสายตาก็เหลือบไปเห็นน้องชมพู่ที่เอาขนมมาให้ไอ้หมู เหอะ...ไหนมึงบอกจะนอน สัด! มาเสนอหน้าอะไรอยู่ที่นี่!



            “ก็ผมไม่ชอบ...บอกแล้วไงครับ” หมูเสียงอ่อนลงพร้อมกับมองผมด้วยแววตาที่มันเหมือนมีความหมาย



            แต่ผมไม่อยากรับรู้!



            “ไม่ชอบก็เรื่องของมึง! กูจะทำอะไรก็เรื่องของกูไหม ไม่เห็นว่ามีอะไรจะต้องเกี่ยวกับมึง!” ผมเริ่มด่าออกไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าหงุดหงิดอะไร ก็ความรู้สึกตอนนี้มันหงุดหงิดขึ้นมาแล้วอ่ะ



            “ทำไมพี่ศิลาพูดแบบนี้ล่ะ ผมเป็นห่วงพี่นะ...”



            “เฮ้ย ๆ มึงอย่าทะเลาะกันสิวะ” ไอ้เสาที่โดนผลักเข้ากำแพงไปเมื่อกี้โบกไม้โบกมือห้ามพวกผมที่ยืนทำหน้าจริงจังใส่กัน



            “กูไม่ได้ทะเลาะ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่กูต้องไปทะเลาะกับคนที่ไม่เกี่ยวอะไรกับกูเลย!” ผมพูดใส่ทำให้หมูชะงัก



            “ทำไมครับ ผมมันน่ารำคาญขนาดนั้นเลยเหรอ ผมก็ทำชัดเจนแล้วนิว่าผมจะจี...” ไม่ต้องรอให้มันพูดจบผมก็สวนกลับไป



            “เออ! กูรำคาญ! เลิกมายุ่งกับกูได้แล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก!!”



            “พี่ศิลา...” หมูดูช็อกไปทันที



            “แล้วเรื่องการแสดงมึงก็จัดการเอาเองก็แล้วกัน!! กูจะไม่ช่วยอะไรมึงแล้ว อยากจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครก็เชิญ กูไม่แคร์!” ผมพูดออกมายาว ๆ หมูไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับมา...เพียงแค่ส่งยิ้มเศร้า ๆ ให้ผมพร้อมกับประโยคสุดท้ายก่อนที่มันจะเดินออกไปจากร้าน



            “ผมจะไม่มาให้พี่ศิลาเห็นอีกก็ได้ครับถ้าพี่ต้องการแบบนั้น...”


             “แต่ขออย่างเดียว...อย่าเกลียดผมเลยนะ...”



            .................

            ................



            @คณะวิศวะ



            ผมเอามือเท้าคางมองถั่วดำว๊ากน้องตามปกติ ส่วนไอ้นนท์ก็นั่งฟังเพลงอยู่ตรงข้ามผม นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วล่ะครับ...ที่ผมไม่ได้เจอไอ้หมูเลย ยอมรับว่าตอนที่ร้านเหล้าผมก็เผลอพูดกับมันแรงไปเหมือนกัน เพิ่งจะมาสำนึกได้ก็ตอนวันต่อมา...ซึ่งก็พูดใส่มันไปแล้ว ก็ตอนนั้นผมโมโหมันนี่....ว่าแต่โมโหไรมันวะตอนนั้น...และไอ้หมูมันก็หายหน้าหายตาไปจากผมจริง ๆ



            ผมเหลือบไปเห็นไอ้เสาที่ใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศ ทรงผมถูกเช็ตอย่างดี มันไปดูน้อง ๆ ดาวเดือนมาน่ะครับ มันหล่อเชียวแต่ผมเริ่มมองว่าไอ้เสามันเจ้าสำอางแล้วล่ะ ไอ้เสาทิ้งตัวนั่งลงข้างผม



            “ไงมึง นั่งหงอยเชียวนะ...คิดถึงใครอยู่ป่ะ” พอนั่งปั๊ปไอ้เสาก็หันมากวนตีนผมทันที มันเหลือบมองไอ้นนท์ที่เอาหูฟังออกมองหน้าของเสา



            “แปลกที่เห็นมึงมาอยู่คณะตอนเช้า คิดว่าจะมั่วอยู่กับสาวซะอีก” นั่นไงครับ...ไอ้เสากวนตีนไปเรื่อย



            “เมื่อคืนกูก็หนักพอแล้ว เอาจนอิ่มแล้ว” ไอ้สัดนนท์ก็พูดประชดกลับมา ผมได้ยินไอ้เสาหายใจฮึดฮัดนิด ๆ แต่ผมว่าบรรยากาศระหว่างพวกมันเหมือนจะดีขึ้นหน่อย ๆ ปะวะ...แต่ผมว่าไม่น่าจะดีซะทีเดียว เพราะมันจะกระโดดเตะกันอยู่แล้วนี่ย



            “เหอะ ระวังเหอะมึง จะทำเด็กมันท้อง เหี้ยจริง” ไอ้เสาเบ้ปากใส่พร้อมกับหยิบชาไข่มุกที่มันฝากผมซื้อไปกิน ประกาศ ๆ รองดาวเดือนมันเป็นพวกชอบกินชานมไข่มุกเป็นชีวิตจิตใจนะครับ



            “กูใส่ถุงทุกครั้งที่ทำ...อ้อ...แต่มีคนหนึ่งว่ะที่น่าจะเสี่ยงท้องเพราะกูไม่ใส่...คืนที่กูเมา” แล้วพวกมึงสองคนจะมาพูดตรงนี้ทำซากอะไรครับ กลางสาธารณะนะเฮ้ย เด็กปี 1 ก็พากันนั่งกันเต็มอยู่ไม่ห่างมาก



            พรวด! ไข่มุกที่ไอ้เสากำลังดูดอยู่พุ่งมาใส่หน้าผมที่นั่งข้างมันเต็ม ๆ เชี่ยยย...



            “แค่ก ๆ กูขอโทษไอ้ศิลา ไอ้สัดนนท์มึงหุบปากไปเลย! กูล่ะสงสารน้องคนที่มึงไปทำไว้จริง ๆ เลยแม่ง ไอ้เหี้ย” ไอ้เสาบ่นให้แล้วเอาผ้ามาเช็ดหน้าผม ไอ้นนท์มองแล้วยักไหล่เหมือนเบื่อที่จะพูดอะไรต่อ



            “เบื่อพวกไม่ยอมรับความจริงชิบ” เสียงนนท์บ่นพึมพำ แต่ไอ้เสาน่าจะไม่ได้ยินครับเพราะมันมัวแต่เช็ดหน้าให้ผมอยู่ น้ำลายมันเต็ม ๆ หน้าผมเลย...



            ผมมองหน้าไอ้เสาที่แก้มอมชมพูหน่อย ๆ อยากจะขำ ใบหน้าหล่อใสของมันกำลังมีความอมชมพู ...ผมอยากจะบอกให้ไอ้สองนี้ไปเคลียร์กันให้จบ ๆ มาก ทุกวันนี้ไอ้เสาตามติดผมมาก เพราะมันไม่ยอมไปไหนมาไหนกับไอ้นนท์เลย เป็นสองวันที่ผมมีไอ้เสาไปไหนมาไหนด้วย....และไอ้หมูที่หายไปจากสายตาของผม...



            “อ้อ ไอ้ศิลา...น้องหมูกรอบของมึงอ่ะ” ผมเลิกคิ้วมองไอ้เสาที่ดูดชานมของมันต่อ



            “ทำไม”



            “เรื่องการแสดงน้องมันบอกจะรำเหมือนเดิมว่ะ...” ผมบอกให้ไอ้เสาไปสืบมาเองแหละว่า ไอ้หมูมันยังเอาการแสดงเหมือนเดิมไหม...มันยังเอาเหมือนเดิม



            “มึงกังวลล่ะสิ...ทำไมไม่ไปหาน้องมันล่ะ”



            “ทำไมกูจะต้องไปหาวะ” ก็กูไล่น้องเขาเองนี่.....



            “ตอนนั้นกูว่ามึงเมาแหละ ถึงพูดแบบนั้น น้องมันเองก็คงไม่ได้ตั้งใจจะผลักกูหรอก” เสาว่าออกมา



            “ใครผลักมึงนะ!!” ไอ้สัดนนท์ตะโกนขึ้นมาเสียงดังจนรุ่นน้องที่นั่งเข้าคลาสมาหันมาพรึบ เออ..ไอ้สัดนนท์ครับ เก็บอาการนิดหนึ่งเนอะ



            “เรื่องของกูกับศิลา อย่าเผือก” ไอ้เสาด่าไปหนึ่งดอก ไอ้นนท์ทำท่าจะพูดต่อแต่ก็ไม่พูดแล้วหันไปเล่นเกมต่อ



            “มึงก็เห็นน้องมันตามมึงมาตั้งหลายวันนี่ ไปดูน้องมันหน่อยไหมล่ะ รู้สึกจะซ้อมเดือนอยู่จนมืดเลยนะ” ผมทำท่าคิด ถ้าจะแวะไปดูเฉย ๆ ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อีกอย่างผมเองก็เป็นคนบอกว่าจะสอนเขารำ อย่างน้อยก็ไปแสดงความรับผิดชอบซะหน่อย...แค่นั้นจริง ๆ



            ............

            ............



            “ทำไมมึงไม่เข้าไปดูข้างในวะ” ไอ้เสาสะกิดผมที่ยืนหลบอยู่แถว ๆ หลังต้นไม้กับมัน ผมมากับไอ้เสาสองคน ส่วนไอ้นนท์ก็กลับหอมันไปเรียบร้อย ไอ้นี่ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกครับ (เหมือนจะด่าตัวเองว่าชอบเผือก)



            “มึงหุบปากไปเลย” ผมบอกและมองเข้าไปในโรงยิมรู้สึกเหมือนคนอื่นจะทยอยกันเดินกลับไปแล้ว แต่ไอ้หมูเหมือนจะยังไม่กลับแฮะ ใบหน้าหล่อคมดูซูบ ๆ ยังไงไม่รู้ อารมณ์คล้ายคนไม่ได้นอน



            “น้องแม่งขอบตาคล้ำเชียว สงสัยนอนไม่หลับคิดถึงรุ่นพี่คนไหนอยู่ก็ไม่รู้...” ไอ้เสากระซิบกวนตีนอยู่ข้างผม เออ..กูรู้แล้วว่ามันคิดมากเพราะกู...แต่จะใช้เรื่องของผมจริงเหรอ มันอาจจะคิดเรื่องอื่นก็ได้



            สักพักก็มีเสียงผู้หญิงเดินเข้ามาหาไอ้หมูที่กำลังยืนดูโทรศัพท์ของมันอยู่ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนไกล ก็น้องชมพู่นั่นไง..ด้วยความที่พวกผมแอบฟังอยู่เงียบ ๆ เลยได้ยินเสียงชัดเจน ไอ้เสาเองก็เงี่ยหูมาฟังด้วย



            “หมูจะกลับรึยัง เราว่าจะขอติดรถไปด้วย” เธอเอ่ยขอ ดูก็รู้ว่าอ่อยชัด ๆ  หมูเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ของมันที่กำลังกดค้างไว้



            “ชมพู่กลับกับคนอื่นได้ไหม คือเราต้องซ้อมการแสดงต่อน่ะ”



            “งั้นชมพู่ขออยู่เป็นเพื่อน...” เธอจะอาสาแต่ยังไม่ทันพูดจบก็เจอเสียงเข้มของหมูพูดขัดซะก่อน



            “กลับไปเถอะ! ขอเราอยู่คนเดียวนะ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร” มันเป็นน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดมาก



            “หูย...น้องหมูมีมุมโหดกับเขาด้วยวะ...เด็ดขาดใช้ได้” ไอ้เสากระซิบกระซาบอยู่ข้างหูผมและมันก็เกาะไหล่ผมไปด้วย คิดบ้างไหมว่าตัวมันหนักเนี่ย! ดูเหมือนน้องชมพู่คุคินั่นจะอารมณ์ไม่จอยนิด ๆ เธอเลยยอมเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย



            จู่ ๆ โทรศัพท์ของไอ้เสาก็สั่น พอมันหยิบมาดู ผมก็เหลือบมองด้วย แม่ไอ้เสาไลน์มาบอกว่าให้ไปโอนค่าเครื่องสำอางให้หน่อย



            “แม่กูทำไมขยันซื้อเครื่องสำอางจังวะ ไอ้ศิลากูขอออกไปโอนเงินให้แม่กูก่อนนะ” ไอ้เสาบอก  ผมเลยรีบคว้ามือมันไว้ อ้าวไอ้นี่จะทิ้งกูเฉย...



            “อย่าเพิ่งทิ้งกูสิวะ กูไปด้วย”



            “ไปเหี้ยอะไร มึงก็เข้าไปหาน้องเขาดิ ไป ๆ สัด กูรีบ” มันดันหลังของผมให้ไปอยู่ที่ประตูโรงยิมแล้วมันก็วิ่งหนีผมไปซะงั้น ไอ้เพื่อนชั่ววววว...พามาด้วยกันแต่ดันทิ้งผมไว้นี่คนเดียว กับไอ้หมูที่ยืนอยู่ในโรงยิมอีก....



            หมูที่ยืนหันหลังให้ผมอยู่กำลังกดโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนผมจะชะงักกับประโยคที่มันพูดออกมาคนเดียว



            “พี่ศิลาผมคิดถึงพี่จัง...” เป็นจังหวะเดียวกันกับไลน์ของผมดังขึ้น



            ติ้ง ติ้ง! เชี่ยยย...ลืมปิดเสียง ผมจะหยิบออกมาปิดเสียง หมูก็หันขวับมาอย่างรวดเร็วและตาโต....มันทำตาโตมาก



            “พี่ศิลา...” หมูพูดไม่ดังมากเหมือนกำลังอึ้ง...ก็ผมเป็นคนไล่มันเองแท้ ๆ แต่กลับมาเสนอหน้าอยู่แถวนี้



            “ไง...พอดีกูมาทิ้งขยะแถวนี้น่ะ...” ผมทักทายพร้อมมองไปที่ถังขยะที่อยู่แถว ๆ ต้นไม้



            ...กูแก้ตัวได้น้ำขุ่น ๆ มาก...



            หมูยิ้มนิดหน่อย แม่ง...ขัดใจกับรอยยิ้มนี้แปลก ๆ แฮะ



            “มึงยังไม่กลับเหรอ” ผมถาม หมูที่เงียบไม่พูด เอาแต่มองหน้าของผมอยู่นั่นแหละ



            “ครับ พอดีจะซ้อมการแสดงต่อน่ะ...พี่ศิลาจะกลับแล้วใช่ไหมครับ...มีใครไปส่งรึยัง” คำถามห่วงใยตามประสาของไอ้หมูถูกถามไถ่ออกมา



            “ก็มี....” โกหกคำโต ไอ้เชี่ยเสาทิ้งผมไปแล้ว ผมยังไม่มีใครไปส่ง...โฮก หมูพยักหน้ารับรู้



            “ครับ งั้นก็อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะ” ถามแต่ผม มึงล่ะกินรึยังไอ้เดือนแพทย์....



            ผมพยักหน้าก่อนจะเดินหันหลังก้าวเท้าออกไปจากโรงยิม พอหันกลับไปมองก็เห็นไอ้หมูยืนพิงประตูโรงยิมพร้อมกับยิ้มบาง ๆ มองผมอยู่...มึงจะมายืนมองและยิ้มแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย....กูด่ามึงไปตั้งเยอะ



            ผมเดินออกมาเรื่อย ๆ พลางคิดไปว่าจะกลับยังไงวะ...จะกลับโดยทิ้งน้องมันไว้คนเดียวแบบนี้เหรอ ผมมองป้ายเซเว่นที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัย ก็แค่ซื้ออะไรไปให้มันกินซะหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่หว่า



            ...แค่ซื้อให้น้องมหาลัยเดียวกัน...



            ผมใช้เวลาไม่นานกับการเลือกของกินในเซเว่นและเดินกลับมาทางโรงยิม ไม่ให้มันฟรี ๆ หรอก เดี๋ยวไปเก็บเงินกับไอ้หมูมันทีหลัง ผมเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มันมืดครึ้มมาก ฟ้าแลบด้วยว่ะ..



            “ทำไมเหมือนฝนจะตกเลยวะ...” ผมเลยรีบวิ่งกลับไปที่โรงยิมทันที หวังว่าไอ้หมูมันจะยังไม่กลับนะ ไม่งั้นผมได้ติดอยู่โรงยิมทั้งคืนแน่ ๆ



            ...ยิ่งเป็นคนที่ไม่ชอบบรรยากาศเวลาที่ฝนตก ลมแรง ๆ อะไรแบบนี้อยู่...




...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  :L1: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หวังว่าน้องหมูกรอบจะยังไม่กลับไปนะ

 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
แอร๊ยยย น่ารักกันจังเลยค่ะหนุ่มๆ :impress2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักมาาากๆ  ละมุนเชียว :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 7


            [พาร์ตของศิลา]


            ผมเดินมาหยุดที่ประตูหน้าโรงยิมอีกครั้ง ผมมองเข้าไปก็เจอไอ้หมูกำลังเปิดยูทูปที่ผมโหลดค้างไว้ในโน้ตบุ้คมัน คาดว่ามันจำชื่อมาและโหลดลงโทรศัพท์ตัวเอง ผมยืนมองท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของมันก็แอบขำเบา ๆ แต่อาจจะไม่เบาก็ได้เพราะเสียงหัวเราะของผมทำให้ไอ้หมูหันมามองอึ้งอีกรอบ



            “พี่ศิลา..? ยังไม่กลับเหรอครับ” เชี่ย...กูจะทำหน้ายังไงดี ผมเดินเข้าไปในโรงยิมและยื่นถุงเซเว่นให้



            “กูซื้อมาฝาก เดี๋ยวจะหาว่ากูเป็นรุ่นพี่ใจร้าย...” ไอ้หมูยังคงอึ้ง มันดูอึ้งมาก...ผมเลยดันถุงให้มันอีก จนหมูรับไปถือไว้ยิ้ม ๆ มันยิ้มแล้วแฮะ



            “ขอบคุณครับ...ผมคิดว่าพี่จะกลับกับพี่เสาซะอีก” หมูพึมพำออกมาแต่คราวนี้ผมได้ยินนะ!



            “ทำไมรู้ว่ากูจะกลับไอ้เสา” ผมถาม หมูที่กำลังเปิดถุงเซ่เว่นดูก็เผลอตอบออกมาตามตรงอย่างลืมตัว



            “ผมไปแอบดูพี่ที่คณะมาน่ะครับ...เออ คือไม่ใช่...แบบว่า” มันแอบไปดูผม...ตอนไหนวะ ไอ้หมูรีบยกมือปฏิเสธ ไม่ทันละกูได้ยินแล้วเว้ย...



            “ไอ้เสามันไปทำธุระของมันแล้ว กูไม่ได้จะกลับกับมัน” ผมบอก เรียกรอยยิ้มจาง ๆ ของไอ้หมูได้ทันที จะยิ้มก็ไม่ยิ้มเต็มปาก...ขัดใจจริง ๆ



            “งั้นให้ผมไปส่งไหม...” มันมองผมตาปริบ ๆ “เป็นค่าตอบแทนของอาหารที่ซื้อมาฝากก็ได้” หมูเลือกหาข้ออ้างขึ้นมา ผมมองก่อนจะพยักหน้า



            “เออ เอางั้นก็ได้...แล้วนี่มึงซ้อมไปถึงไหนแล้ว” ผมถามความคืบหน้าและชะงักเมื่อหมูพูดขึ้น



            “พี่ศิลา...ผมขอโทษนะ วันนั้นที่ร้านเหล้า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่รำคาญ....ผม” น้ำเสียงสำนึกผิดทำให้ผมขมวดคิ้ว จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ความผิดของไอ้หมูซะทีเดียวนะ...ผมโมโหเอง พาลใส่มันเอง...



            ...แต่มันกลับมาขอโทษผมด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ...



            “เออ ช่างมันเหอะ วันนั้นกูอาจจะเมาด้วยแหละเลยพูดอะไรพาล ๆ ...มึงก็ลืม ๆ ไปเหอะ”



            “แปลว่าพี่ไม่ได้ห้ามผมไม่ให้ไปหาพี่แล้วใช่ไหม” หมูเสียงสดใสมากกว่าเมื่อกี้



            “เออ” ผมตอบและพยายามที่จะไม่มองหน้าของมันมากไปกว่านี้ “ตกลง มึงซ้อมถึงไหนแล้ว ตกลงจะเอารำอันนี้จริง ๆ ใช่ไหม” ผมถามย้ำ



            หมูพยักหน้าและวางถุงเซเว่นไว้บนกระเป๋าสะพายของมัน



            “ครับ ก็กะว่าอย่างนั้น นี่ผมก็ซ้อม ๆ อยู่...มันอาจจะยังดูท่าแปลก ๆ หน่อย” ไม่หน่อยหรอก...ท่ารำมึงแปลกมาก จากที่ผมยืนดูเมื่อกี้ มันทำเหมือนจะไปแร็บมากกว่ารำ ขืนปล่อยไว้สภาพนี้ การแสดงไอ้หมูได้เละแน่ ๆ แต่ผมว่าการตั้งมือมันก็โอเคขึ้นนะ มือก็ดูอ่อนกว่าตอนแรกที่ฝึกด้วย



            “เดี๋ยวกูสอนให้ก็แล้วกัน” ผมบอก เรียกความสนใจจากหมูให้หันมามองพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง...กว้างจริงจัง



            “พี่ศิลา! พี่บอกว่าจะสอนผม....สอนผม แสดงว่าพี่จะกลับมาสอน...” ไอ้หมูจะวิ่งเข้ามาใกล้ผม  ผมรีบยกมือห้ามอย่างรวดเร็ว อันตรายชิบ...



            “เข้ามาใกล้กู เจอตีน” เขาชะงักหยุดกึกยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม



            “อ่า...ไม่ใกล้ครับ ไม่ใกล้ ห่างสองก้าว...” มันถอยหลังไปให้ห่างจากผม จนผมอดขำไม่ได้ที่เห็นไอ้หมูมันยืนเขามือแนบลำตัว



            “แต่ถ้าไม่ใกล้จะสอนยังไงล่ะ” ไอ้หมูหน้าตาดูสดใสชื่นบานขึ้นมาทันทีทันใด...มึงเป็นว่าที่หมอที่น่ากลัวมาก อย่าไปทำให้คนไข้ในอนาคตกลัวนะเว้ย



            “กูจะสอนยังไงมันก็เรื่องของกู ตกลงจะให้กูสอนไหม?”



            “สอนครับ!...ยังไงก็ได้ ผมยอมหมด...” ไอ้หมูยิ้ม “ผมพร้อมรับมือจากพี่ทุกอย่างแล้วครับ”



            ...รับหมัดกูสักหมัดไหม...ไอ้หน้าตาเศร้าเมื่อกี้แทบจะหายไปหมด กลายเป็นหน้าอารมณ์ดีเข้ามาแทน แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่เห็นรอยยิ้มของมันแทนที่จะเห็นหน้าเศร้า....





            เรื่องที่ผมสั่งไว้ว่าห้ามไอ้หมูเข้ามาใกล้ผมเกินสองก้าว เป็นเรื่องยากมาก! เพราะผมจะสอนรำไอ้หมูยังไงก็ในเมื่อเราก็ต้องอยู่ใกล้กันอยู่ดี!...สรุปผมก็ต้องเป็นคนยกเลิกกฎการอยู่ห่างไปโดยปริยาย ก็จะสอนมันได้ยังไงเล่าถ้าไม่เข้าไปดัดมือมัน



            “มึงแสดงเป็นพระเอก เพราะงั้นต้องมีความเข้มแข็งแฝงอยู่ แต่ไม่ใช่มือแข็งนะ มือของมึงต้องอ่อนช้อยตามจังหวะ มึงต้องทำให้คนดูเห็นว่า มึงเป็นตัวพระเอกที่เท่ สุขุม” ผมยืนอยู่ข้างหลังหมูที่ตั้งวงอยู่ ผมก็อธิบายไปด้วย เวลาผมสอนอะไรก็มักจะตั้งใจเสมอแหละครับ ส่วนไอ้หมูก็เอาแต่ยิ้ม...ยิ้ม...จนหน้ามันจะบานอยู่แล้ว



            “ถ้าผมได้เป็นพระเอกของพี่ศิลา...ผมเชื่อว่าผมจะเท่ที่สุด” อยากจะเตะสักป๊าป...กูไม่รู้สึกอะไรกับมุขที่มึงปล่อยมาหรอก ไอ้ขายหม้อ...



            “ถ้ามึงยังพูดมากอีก กูจะริบของกินมึงซะไอ้หมู” ผมขู่ แต่กลับได้เสียงหัวเราะพอใจจากหมูแทน



            ช่วยกลัวกูนิดหนึ่งก็ได้...



            ผมเปิดเพลงพร้อมกับมองไอ้หมูรำได้สักพัก ก็ส่ายหน้าเอือม ผมรู้ครับว่ามันฝึกกันไม่ได้ง่าย ๆ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะได้สักนิด แต่นี่เปิดเพลงแร็บมามันเข้ากับท่าไอ้หมูเลยอ่ะ รำเว้ยไม่ใช่เต้นแร็บโย่ว!



            “หยุด ๆ จะรอดไหมเนี่ยมึง!”



            “ก็พยายามเต็มที่แล้ว...สงสัยไม่มีตัวนางอยู่ข้างหน้าก็เลยรำยากมั้งครับ...” หมูอ้างและดูในคลิปที่มีตัวนางอยู่กับตัวพระด้วย...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย



            “ไม่เกี่ยวสักหน่อย มึงแหละรำมั่ว”



            “เกี่ยวครับ..ลองซ้อมคู่ผมดูไหมล่ะ” ผมตาโตนิด ๆ ไม่โว้ย ไม่รำ!



            “ทำไมกูจะต้องรำ ยังไงตอนที่มึงประกวดมึงก็ต้องโชว์เดี่ยวอยู่แล้ว” ผมถอยห่างจากไอ้หมูที่เดินเข้ามาใกล้ผม เชี่ย...ไม่น่ายกเลิกกฎห้ามเข้าใกล้เลย เอามาใช้อีกได้ไหม



            “ก็ให้ผมได้จับทางถูกไง เผื่อมันจะดีขึ้น...นะ นะ นะ” ไอ้หมูเริ่มใช้ลูกอ้อน...  คิดว่าผมจะใจอ่อนเหรอ ลูกไม้อย่างนี้ใช้กับผมไม่ได้หรอก!!!



            “ไม่โว้ย”



            “รีบมาซ้อมดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ แล้วกลับหอไงครับ..ร้านข้าวหมูแดงพี่ศิลาต้องชอบแน่ ๆ”



            ...มีร้านข้าวหมูแดงด้วยว่ะ...หิว



            ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มอย่างรอคำตอบ เออ! ก็แค่อยากกลับหอเร็ว ๆ เท่านั้นแหละ แถมยังหิวข้าวอีก



            “เออ ๆ ก็ได้...วุ่นวายจริงมึงเนี่ย” ผมบ่น “ถ้ามึงรำไม่ดี กูจะเอาไม้หน้าสามมาฟาดมึงแน่ ๆ ไอ้หมู”



            “โหดจังเลยครับ...ผมกลัว” หน้าตามันไม่ได้กลัวผมสักนิด... หมูตั้งวงขึ้นเหมือนคลิป ผมถอนหายใจนิด ๆ เมื่อมองคลิปที่กำลังเปิดอยู่ ตัวนางดันต้องไปอยู่ด้านหน้าแถมยังอยู่ในอ้อมแขนของตัวพระเอกอีก



            “ขออนุญาตนะครับ” เสียงเข้มพูดใกล้หูของผม หมูเขยิบวงแขนมาอยู่ด้านหลังของผม เพิ่งสังเกตว่าแขนมันยาวกว่าผมมาก...ผมดูเลเวลลดลงไปทันที



            “พี่ศิลาตัวเล็กจัง”



            “ไอ้เชี่ยหมู! เพื่อนเล่นมึงเหรอ” ผมโวยแต่ก็ต้องชะงักกับใบหน้าหล่อเข้มที่อยู่ก้มลงมาฟังผมในวงแขนของมัน



            ...เป็นโมเมนต์ที่น่าขนลุกสุด ๆ !...



            เพลงที่ดังขึ้นทำให้ผมยกมือตั้งวงอีกชั้นภายใต้วงแขนของหมู รีบรำรีบเสร็จ ๆ ...แต่เพลงรำที่เริ่มช้า ๆ กับบรรยากาศลมพัดแผ่วเบา เสียงดนตรีที่กำลังขับกล่อม...ผมกับหมูเริ่มรำตามท่าไปตามจังหวะ...ไอ้หมูมันรำเข้าจังหวะด้วยแหละครับ ผมมองเขาที่ก้มลงมาใบหน้าของมันเฉียดแก้มของผมไปนิดเดียว



            ...เชี่ยยย...ใครมันเลือกเพลงนี้ให้ไอ้หมูว่ะ นี่มันเป็นบทเกี้ยวพระนางชัด ๆ (ก็มึงไงครับศิลาเลือกมาแบบไม่ได้ดู)



            น่าแปลกที่ไอ้หมูมันรำได้ดีกว่าเมื่อกี้จริง ๆ...มันเกี่ยวกับที่ผมซ้อมคู่กับมันจริงเหรอเนี่ย



            ผมพยายามรำและเว้นระยะห่างจากไอ้หมู และผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือหนาของหมูตวัดเอวของผมเข้าไปประชิด!



            “ไอ้เชี่ยหมู..มึงทำอะไร!” ผมจะโวยก็ชะงักกับใบหน้าหล่อที่ตั้งใจรำตามเพลงเป๊ะ ผมเหลือบมองคลิป เออว่ะ มันกำลังอยู่ในท่านี้...ท่าที่เกือบทำให้หัวใจคนวายได้



            “ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าทำไมพระรามถึงหวงนางสีดา...” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้น ผมที่มองจอโทรศัพท์อยู่เลยหันมามองมันงง ๆ



            “หา?” มันจะมาพล่ามอะไรเกี่ยวกับวรรณคดีตอนนี้ “รู้ว่า?” ผมเลิกคิ้วและกำลังจะแกะมือที่มันเหนียวยังกับหนวดปลาหมึกของไอ้หมูออก



            “เพราะนางสีดา...สวยขนาดนี้จะไม่ให้หวงได้ยังไง...” สายตากับน้ำเสียงมันจงใจมอบให้ผมชัด ๆ



            ผมสบตากับมันที่ก้มลงมาใกล้ผมเรื่อย ๆ จนหยุดอยู่ใกล้แก้มของผม ผมเตรียมที่จะต่อยมันละนะ!



            “พี่ศิลา...คือผม” ผมกำลังจะง้างหมัดก็ชะงัก




            คลิก...แกรก เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมกับไอ้หมูผละออกจากกันพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน เชี่ย...เสียงล็อคกรประตู! ผมรีบวิ่งไปจับประตูโรงยิมที่พวกผมปิดไว้เมื่อกี้ ปรากฏว่ามันเปิดไม่ออก!!



            “สงสัยยามล็อคจากด้านนอกแน่เลยครับ” เสียงหมูดูใจเย็นสุด ๆ



            “ได้ไงวะ” ผมทุบประตูแต่คาดว่าน่าจะไม่มีใครได้ยินซะแล้ว อะไรวะเนี่ยยยยย...ผมมองไอ้หมูที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย เราถูกขังนะเว้ย...



            “กูรู้ละ เดี๋ยวโทรหาไอ้เสาให้มาเปิดให้” ผมดีดนิ้วอย่างนึกได้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแต่ไม่ทันจะโทร ไอ้หมูก็คว้าโทรศัพท์ของผมไปและทิ้งลงพื้น



            ตุบ! แกรบ...เหี้ยยย มันเหยียบซ้ำด้วย เละคาตีนไอ้หมูเรียบร้อย จู่ ๆ มาอารมณ์หาอะไรของมัน



            “ผมไม่ให้โทรหาพี่เสา” อ้าว...ไอ้เชี่ยยย...นั่นมันเพื่อนสนิทกูไหมล่ะ!



            “ไอ้เชี่ยหมู!! โทรศัพท์กู ป๊าเพิ่งซื้อให้กูนะเว้ย...” หมูทำหน้าบึ้งไม่ได้ฟังที่ผมด่าสักนิด พอจะอ้าปากด่ามันก็ไม่อยากจะพูดอีก ก็มันทำหน้าเศร้าเหมือนผมผิดทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเหยียบโทรศัพท์ผมเละไปเมื่อกี้



            “เฮ้อ...กูไม่รู้ว่ามึงแม่งคิดอะไรอยู่ แต่กูจะบอกให้ชัดตรงนี้เลยนะว่า...ไอ้เสามันเป็นเพื่อนสนิทของกูและมันกับกูก็เป็นเพื่อนรักแบบบริสุทธิ์ใจ มันไม่ได้เหมือนมึงที่ไล่จีบกูอยู่แบบนี้ เข้าใจที่กูพูดไหมไอ้เชี่ยหมู?” ผมพล่ามอะไรไปเนี่ย



            “พี่ศิลา บอกว่าผมจีบพี่เหรอ...” ไอ้หมูถามออกมาอึ้ง ๆ ...คืออะไรของมันอีกครับ ผมล่ะงง



            “ก็มึง...เชี่ย มากอดกูทำไม!!” ผมถูกแรงดึงจากหมูที่ตัวหนากว่าผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน



            “ไอ้เชี่ย!! กูต่อยมึงจริงนะ ต่อยจริงนะ!” ผมตะโกน หมูเลยรีบปล่อยผมออก



            “ขอโทษครับ...คือผมดีใจที่พี่ยอมรับว่า ผมจีบพี่อยู่” ไอ้นี่มันประสาทรึเปล่า ก่อนจะรักษาคนอื่น ผมว่าไอ้หมูน่าจะไปเช็คสภาพจิตของตัวเองบ้างก็ดีนะ ชักจะเพี้ยนขึ้นทุกวัน



            กะจะจีบผมให้ได้เลยใช่ไหม...ถามจริง ๆ วัน ๆ มันไม่มีใครคบรึไงวะ ถึงได้มีเวลามาวุ่นวายกับผม



            “เอาตรง ๆ ผมหึง...หึงเวลาพี่ใกล้ผู้ชายทุกคน” ไอ้หมูยอมรับออกมาตรง ๆ ก็ดีครับ ลูกผู้ชายดี!! มันใช่ซะที่ไหนเล่า....มึงจะมาหึงกูเวลาอยู่กับผู้ชายทำไมมมมม...กูก็ผู้ชายนะเว้ย



            “มึงมันไม่ปกติ รู้ตัวป่ะเนี่ย” ผมทำท่ากลัว



            “มึงจะเป็นหมอก็หัดใจเย็น ๆ หน่อยได้ไหมวะ” ผมว่าที่มันเหยียบโทรศัพท์ผมไป ก่อนจะชะงักกับประโยคต่อมาที่ผมไม่น่าจะคิดอะไรแต่มันก็น่าคิด...(อะไรของมึงอีกแล้วศิลา)



            “เรื่องอื่นผมใจเย็นครับ...แต่ถ้าเป็นเรื่องของพี่ศิลา ผมเย็นไม่ลง” หมูพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นพร้อมกับหัวเราะออกมา ทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดมาก



             แต่ผมกำลังจะเครียดเนื่องจากไฟที่มันกระพริบเหมือนจะดับ และลมที่เริ่มพัดแรง



            ...อย่าว่าฝนจะตกนะ...



            “เหมือนฝนจะตกเลยนะครับ” ไอ้หมูว่าขึ้นพร้อมกับเม็ดฝนที่เริ่มตกลงมา...ไอ้เชี่ยยยย พูดทำไมวะ



            “อ้าว ตกซะละ” มันพึมพำมองไปยังข้างนอกที่ฝนกำลังตกลงมา ผมมองก่อนจะไปหยิบโทรศัพท์ไอ้หมูมาโทรหาไอ้เสา



            “ผมขอโทษนะเรื่องโทรศัพท์เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่” ไอ้หมูเดินดุ่ม ๆ มาตามผมอย่างสำนึกผิดว่าตัวเองทำอะไรลงไป ดีเนอะ เหยียบของกูจนเละแล้วค่อยมาสำนึกได้ คิดได้ไงวะว่าผมกับไอ้เสามีซัมติง ขนลุกสัด



            “มึงนี่ก็ช่างคิดเนอะว่ากูกับไอ้เสาเนี่ยนะ จะมีซัมติงกัน”



            “ก็ผมไม่รู้นี่...เห็นพี่เขาอยู่กับพี่บ่อยแถมสนิทด้วย...” ไอ้หมูพูดเสียงเบา ๆ  งึมงำ ผมส่ายหน้าเอือมก่อนจะตาโตกับโทรศัพท์ของไอ้หมู...หน้าจอของมันเป็นรูปของผมเหมือนจะเป็นรูปแอบถ่าย...แถมมีตัวหนังสือคั่นไว้ตรงกลางด้วยว่า



            ...พี่ศิลาของผม... กูชักจะกลัวมึงจริง ๆ แล้วววว.....



            “พี่ศิลา..คือเรื่องหน้าจอเอาไว้ก่อน แบบว่าแบตผมเหลือ 0% แล้วล่ะครับ...” ไอ้หมูชะโงกหน้ามาดูแต่เมื่อมันพูดจบ  ไอ้โทรศัพท์แสนแพงไอโฟน6 พลัสก็ดับลงไปทันที สงสัยเพราะเปิดยูทูปซ้อมรำ



            อ้าวเชี่ยยยยย....มัวแต่ดูรูปตัวเองอยู่หน้าจอจนไม่ได้ดูแบต สรุปคือมันดับไปแล้ว ก็ไม่มีใครมีโทรศัพท์                 
 โว้ยยยยย.....แล้วจะออกไปจากโรงยิมยังไงฟะ!!!



            .................

            .................



            “พี่ศิลา...ผมขอไปนั่งใกล้พี่ได้ไหม” ผมที่นั่งพิงผนังอยู่เหลือบมองไอ้หมูที่นั่งอยู่ห่างจากผมพอสมควร มันถือข้าวกล่องเซเว่นที่ผมซื้อมาให้มัน สรุปผมกับไอ้หมูก็ติดอยู่ในโรงยิมที่แสนกว้างอยู่กันสองคนเงียบ ๆ และบรรยากาศฝนตกพร่ำ



            เริ่มหนาวแล้วด้วย...อย่าไปบอกใครนะครับว่า ผมเป็นคนขี้หนาวติดผ้าห่มมาก



            “ทำไมต้องมานั่งใกล้ อยู่คนละมุมไปสิวะ” ผมว่าและรู้สึกว่าท้องผมเริ่มร้องละ...



            “งั้นพี่เอาข้าวกล่องไปกินนะ ผมยังไม่หิว” มันยื่นข้าวกล่องที่ผมซื้อมาให้มันมาทางผม



            “ไม่เอา มึงกินไปสิ กูซื้อมาให้มึง”



            “ถ้าพี่อิ่ม ผมก็อิ่ม” ประโยคตื้อตามฉบับของไอ้หมูทำให้ผมชะงัก ทำไมเวลามันพูดแบบนี้ผมเป็นต้องยอม ๆ ทำตามที่มันขอตลอด..เพราะขี้เกียจฟังมันพูดใช่ไหมหรือยังไง...สุดท้ายผมก็ได้กินข้าวกล่องส่วนไอ้หมูกินแซนวิชที่ผมซื้อมาพร้อมกับข้าวกล่อง



            “มึงจะไปไหน?” หลังจากที่กินเสร็จไอ้หมูก็ลุกขึ้น เขายิ้มเล็กน้อย



            “เดี๋ยวจะไปหาดูว่ามีประตูทางออกอื่นอีกไหม...พี่ศิลาหนาวเหรอ ใส่เสื้อกันหนาวของผมก่อนก็ได้นะ” มันยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ผมแต่เมื่อเห็นผมไม่รับเสื้อมา หมูก็เลยวางเสื้อมันลงไว้ข้าง ๆ ผม



            “ถ้าหนาวก็ใส่นะครับ ผมไม่อยากให้พี่เป็นหวัด” น้ำเสียงห่วงใยชัดเจน ผมมองมันที่เดินหายไปแถว ๆ หลังเบาะกระโดดสูง ๆ มันจะมีทางออกทางอื่นด้วยเหรอวะ ถ้าไม่ใช่ประตูด้านหน้า



            ผมที่นั่งอยู่คนเดียวก็ต้องรู้สึกใจหายวาบเมื่อจู่ ๆ ไฟที่กระพริบพร้อมฟ้าแลบข้างนอก ดับพรึบลง!! ชิบหาย....เฮือก...มืดไปหมด....ผมไม่ชอบ ยิ่งมีเสียงลมด้วย     ผมไม่ชอบ



            ไอ้เชี่ยหมูหายไปไหน?.... “ไอ้เชี่ย...” หมับ วงแขนแข็งแกร่งที่ผมสัมผัสได้ดึงเอวของผมเข้าไปหา แสงสว่างจากด้านนอกทำให้ผมเห็นหน้าของหมูชัดเจน...ใบหน้าที่มีแสงสว่างทำให้เห็นโครงหน้าหล่อชัดเจน



            “ผมอยู่นี่...อยู่กับพี่ศิลาเสมอนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวไฟก็ติดแล้ว” ผมยืนแข็งทื่อสบตากับหมูที่มองเห็นผมชัดเจนในความมืดเช่นเดียวกัน ราวกับว่ามันรู้ว่าผมกำลังกลัว...พอจ้องแววตาคมของมันแบบนี้แล้ว ผมว่ามันรู้สึกคุ้นชะมัดตอนมองแบบนี้



            เสียงฝนซ่าที่ยังคงกระหน่ำตกลงมาบวกกับความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของไอ้หมูที่ดังมาก...



            ใจมึงเต้นดังชะมัด...ไอ้หมูกรอบ ผมมองใบหน้าของมันที่ก้มลงมาใกล้ผม...ยื่นหน้ามาทำไมวะ



            “พี่ศิลา...ผมขอจูบพี่ได้ไหม” คำถามขอแต่กลับไม่รอฟังคำอนุญาตทำให้ผมเบิกตากว้าง!



            “ห๊ะ เหี้ย...” ริมฝีปากของไอ้หมูโน้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของผมอย่างสโลโมชั่น แรงกดจูบลงมาทำให้ผมช็อก...ลิ้นของมันพยายามจะเปิดปากริมฝีปากของผมที่ปิดอยู่....สัมผัสโคตรอ่อนนุ่ม...



            พลั่ก!! ผมผลักไอ้หมูออกอย่างได้สติเป็นจังหวะที่ไฟติดพรึบขึ้น



            ผมมองหน้ามันที่อยู่ตรงหน้าเหมือนตอกย้ำว่าเมื่อกี้มันคือเรื่องจริง...ไอ้เชี่ยมันจูบผม! สัมผัสปากของมันยังคงอยู่....ผมเอามือถูปากของตัวเองทันที หมูที่มองอยู่ก็แอบทำหน้าเศร้าลงนิดหน่อย



            ผมหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ผมเลยคว้าเสื้อกันหนาวของไอ้หมูมาคลุมหน้าตัวเองแล้วนอนลงกับตรงเบาะสำหรับเล่นยิมนาสติก



            “พี่ศิลา...โกรธผมเหรอ” ถ้าโกรธกูกระทืบมึงนานแล้วไอ้ฟาย...จริง ๆ ก็อยากกระทืบแต่หน้ามันจะไปเป็นเดือนไง      ไม่อยากทำร้าย...



            “........”



            “ผมรั้งตัวเองไม่อยู่จริง ๆ” มันยังคงพูดต่อ และผมรู้สึกว่าไอ้หมูล้มตัวลงนอนตรงเบาะข้างผม



            “แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฝืนใจพี่ ไว้ใจผมได้ครับ...” ผมที่เอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าตัวเองไว้อยู่ ไม่รู้เลยว่ามันทำหน้าแบบไหนอยู่ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วค่อนข้างจริงจังน่าดู...กลิ่นหอมจากเสื้อที่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ไอ้หมูใช้ฟุ้งเข้าจมูกของผม



            ...เชี่ย หอมชะมัด ใช้กลิ่นไหนวะ กลิ่นเย็น ๆ ที่ผู้ชายใช้...แล้วผมจะไปดมทำบ้าอะไร



            ไอ้หมูหยุดพูดไป ผมรู้สึกว่ามันก็ยังนอนอยู่ข้างผมนี่แหละ



            “พี่ศิลา...พี่ชอบคนแบบไหนเหรอ” จู่ ๆ ไอ้หมูกรอบก็ถามขึ้นมาเหมือนที่หยุดพูดเพราะไปหาคำถามมาอยู่...มาถามคำถามนี้ทำไมฟะ



            “กูจำเป็นต้องตอบเหรอ” ผมถามกลับ มันก็เงียบ “สำหรับกูก็ไม่มีสเป็กหรอก ถ้าชอบก็คือชอบ หัวใจกูจะเลือกเอง” ผมตอบ จะว่าไปเสื้อไอ้หมูก็มีประโยชน์ขึ้นมาเหมือนกันแฮะ...ทั้งอุ่นแถมยังใช้บังหน้าผมได้อีก



            “ผมอยากเป็นคนที่หัวใจพี่เลือกนะ...” จึก...พูดเชี่ยแบบนี้อีกแล้ว...



            ผมไม่หลงคารมมันหรอก...



            “แล้วคนแบบไหนที่พี่ไม่ชอบ” ไอ้หมูยังคงถามต่อเหมือนอยากสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียดและก็ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงมากด้วย



            แบบที่ผมไม่ชอบเหรอ...ผมแทบจะตอบได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย



            “กูไม่ชอบคนโกหก คนที่ไม่พูดความจริงกับกู คนหลอกลวง แล้วกูรู้เป็นคนสุดท้าย นั่นแหละที่กูเกลียดมาก”



            ผมตอบและขมวดคิ้วเมื่อไอ้หมูกรอบเงียบไปซะงั้น...มันหลับเหรอ ทำไมเงียบฟะ ผมเปิดเสื้อออกสบตากับแววตาคมที่มองมาที่ผมอยู่ ไอ้หมูมันนอนอยู่ข้างผมนี่เอง...แต่มันเว้นระยะห่างระหว่างผมไว้อยู่



            “ถ้าเกิดเขาต้องโกหกเพราะมีเหตุผลจำเป็น แต่ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกหรือปิดบัง...พี่ศิลาจะโกรธคน ๆ นั้นไหม...” คำถามของมันทำให้ผมเลิกคิ้ว



            “ก็คงโกรธมั้ง เพราะถ้ามันตั้งใจปิดกู กูก็โกรธ” ผมว่าตามความจริงที่มันถามอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่แอบเห็นว่าไอ้หมูมันเหงื่อแตก....มึงร้อนเหรอ ฝนตกจนกูจะหนาวสั่นอยู่แล้ว มึงร้อนเหรอ?



            “แล้วจะโกรธนานไหมครับ...” ไอ้หมูยังถามต่อ



            “มึงจะถามทำไมวะ? ไม่รู้สิ กูอาจจะไม่คุยกับคน ๆ นั้นอีกเลยล่ะมั้ง เพราะกูไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เอามาก ๆ ...” ผมเหลือบมองหมูที่หน้าซีดลง เป็นเชี่ยอะไรของมัน...ผมเอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าของตัวเองด้วยความง่วง



            “กูจะนอนละ ง่วง...แล้วถ้ามึงเขยิบเข้ามาใกล้กูอีกนิด ได้โดนลูกเตะกูแน่ ๆ ถ้าอยากมีหน้าหล่อ ๆ ไปประกวดเดือนก็อยู่ให้ห่างจากกู...” ผมบอกกล่าวเตือนไว้ก่อนแต่หมูก็ไม่ตอบอะไรกลับมา ช่างมัน...น่าจะได้ยินจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมนั่นแหละ



            แปลกที่ผมกลับรู้สึกเชื่อใจไอ้หมู....ไม่นานนักผมก็หลับไปอย่างง่ายดายเพราะเป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว





            ...............



            “พี่ศิลา...หลับแล้วเหรอครับ”

            “เฮ้อ...ผมจะกล้าแตะต้องพี่ได้ยังไงกัน ถ้าแตะมีหวังเฮียใหญ่ลากผมไปซ้อมแทนกระสอบทรายแน่ ๆ...”

            “ฝันดีนะครับ พี่หมวยเล็กของผม...”








...

ขอบคุุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่าน^^

-/////-  ดีใจที่ชอบน้องหมูกับพี่ศิลานะคะ ^^ :L1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mylovelysunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4: :pig4: สงสารน้องหมู

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
พี่หมวยเล็กเขินโหดตลอด ทำไมจำน้องหมูไม่ได้่ล่ะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
หมูกรอบมีความรุกแรงเบอร์10

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มีเรื่องไรปกปิดอ่ะ

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
อาจรู้จักกันมาก่อนสมัยเด็กๆ

แต่หมวยเล็กจำไม่ได้

 o13 o13 o13


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


ชอบๆๆๆๆ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 8


             [พาร์ตของศิลา]



            นับว่าไอ้หมูกรอบมีสัจจะในตัวเองสูงมาก มันไม่ได้เข้ามาใกล้ผมแม้แต่นิดเดียว พอตอนเช้ามาคนที่มาเปิดโรงยิมให้พวกผมเป็นคุณลุงภารโรงที่ล็อกเราไว้เมื่อคืนนั่นแหละครับ ไอ้หมูมาส่งผมที่หอและเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้เสามารับผมที่หอพอดี ไอ้หมูยิ้มให้ผมและขอตัวกลับไปหอของตัวเอง ไม่ได้โวยวายที่เห็นไอ้เสาก็เพราะผมเล่าให้มันฟังแล้วว่าระหว่างไอ้เสากับผมไม่มีอะไรกัน...แล้วกูจะมาแคร์ทำไมถ้าไอ้หมูจะเข้าใจผิด



            | ร้านข้าวราดแกง |



            “น้องแม่งสุภาพบุรุษไปอีก มึงรอดมาได้ไงวะ” ไอ้เสาพูดกลางร้านข้าวแกงจนคนหันมามองตาปริบ ๆ หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จก่อนจะไปคณะที่นัดประชุมเชียร์ก็เลยแวะมากินข้าวเพิ่มพลังก่อน



            ผมเล่าเรื่องเมื่อวานให้ไอ้เสาฟัง...แต่ไม่ได้เล่าเรื่องโดนจูบนะ



            “ลองมันเข้ามาใกล้กูสิ แม่จะกระทืบให้เละ...แม่งเหยียบโทรศัพท์กูแตกอีก” ผมบ่นทำเอาไอ้เสาหัวเราะสะใจออกมา



            “ฮ่า ๆ! กูควรจะระวังตัวไหมเนี่ย ไอ้น้องหมูกรอบของมึงหึงจริงจังมากว่ะ กูอาจจะโดนดักตีได้สักวัน” ไอ้เสาว่าพลางมองเมนูข้าวราดแกง



            “ดักตีอะไร มันไม่ทำหรอกมันเป็นว่าที่หมอนะเว้ย” ผมว่าก่อนจะชะงักกับสายตาไอ้เสาที่มองล้อ



            “แหม มีการปกป้องแทนกันด้วย จ๊ะ ๆ ว่าที่เมียหมอ”



            “ไอ้ส้นตีน เดี๋ยวได้กินตีนกูไอ้สัด!” ผมว่า ไอ้เสาก็เลยหัวเราะออกมาอีก...ว่าที่เมียหมอเชี่ยอะไรเล่า เสาหันไปสั่งกับป้าที่มารับออร์เดอร์



            “เอาแกงจืดกับผัดวุ้นเส้นนะครับ ส่วนอีกจานเอาผัดพริกแกงกับผัดถั่วงอกครับ” ไอ้เสาสั่งไปสองจาน ผมเลยเลิกคิ้วขึ้น ไอ้แกงจืดผมพอจะรู้ว่าของไอ้เสาแน่ ๆ แต่ไอ้อีกจานที่เผ็ด ๆ ล่ะ



            “มึงสั่งไรเยอะ?” ผมถามก่อนจะร้องอ๋อเมื่อมองไปเห็นบุคคลที่สามที่เดินเข้ามาในร้าน ไอ้สัดนนท์เดินเข้ามาพร้อมกับชานมไข่มุก และสายตาของผู้หญิงในร้านที่มองเหล่กันเป็นแถบ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไอ้หมูกรอบเลยสักนิด...รู้ว่าสาวเหล่ก็ยิ้มตอบ



            “กูสั่งให้เหี้ย” ไอ้เสาพูดทีเล่นที่จริงและโดนไอ้นนท์ที่เดินมาจากด้านหลังเขกหัวเบา ๆ



            โป๊ก!




            “ไอ้สัด! ไรวะ” เสาโวยเมื่อเห็นไอ้นนท์นั่งลงข้างมัน....เอ๊ะ ๆ อะไรของพวกมันวะ แลดูบรรยากาศดีขึ้นนะ



            “ด่ากูเหี้ยทำไม อ่ะ ชานมไข่มุกที่มึงสั่ง แดกไรทั้งวี่ทั้งวันวะ อ้วนนะมึง”



            “เรื่องของกู อ้วนก็ตัวกู” ผมไม่เห็นว่าไอ้เสากินแล้วมันจะอ้วนเพิ่มตรงไหน?



            “เออ เดี๋ยวกูพาไปเบิร์น” ไอ้สัดนนท์ตอบเรียบ ๆ แต่ทำให้ผมที่กินน้ำอยู่แทบจะสำลัก สาว ๆ ที่มองไอ้นนท์อยู่ก็ทำตาเลิกลักด้วยความอยากรู้ ผู้หญิงบางโต๊ะทำหน้าฟิน



            “ไอ้ห่าสัดนนท์!”



            “เฮ้ย ๆ พอเลยพวกมึง ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีกเหรอวะ”



            “กูไม่ได้ทะเลาะ”



            “กูก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับเมียเหมือนกัน” ไอ้นนท์พึมพำแต่ผมกับไอ้เสาได้ยินชัดครับ ไอ้เสาทำท่าจะกระโดดถีบไอ้นนท์อยู่แล้วแต่ผมห้ามไว้ก่อน ไอ้นนท์นี่ก็ขยันพูดกวนตีนเพื่อนผมเหลือเกิน เสาเลยหยุดและทำเสียงฮึดฮัดส่วนไอ้สัดนนท์นี่ท่าจะโรคจิต มันยิ้มที่ไอ้เสาด่ามันเหี้ย ห่า ไรไปเรื่อย แต่ไอ้นนท์ก็ยิ้มรับ...หรือเพื่อนผมมันยอมรับว่าเหี้ยจริง..อ้าว ไม่ใช่



            “ไอ้ศิลา แล้วนี่ตกลงมึงกลับไปสอนน้องซ้อมรำเหมือนเดิมละเหรอ” ผมที่กำลังตักไข่เจียวเข้าปากก็เงยหน้ามองไอ้เสาที่ไปขโมยหมูในจานของไอ้นนท์เฉยเลย



            “ใช่ ก็กูบอกน้องมันไว้แล้ว จะปล่อยให้มันซ้อมเองก็สงสาร”



            “แค่สงสารเหรอ...” ไอ้เสาถามล้อ ใช่ก็แค่สงสาร...เหรอ(?) ใช่ดิ ก็น้องมันไม่มีคนซ้อมให้ ผมก็ต้องช่วยใช่ป่ะล่ะ



            “มึงคิดว่ามึงจะใจอ่อนให้น้องมันไหม ไอ้น้องหมูกรอบมันมาจีบมึงขนาดนี้” คำถามของไอ้เสาทำให้ผมที่กำลังกินข้าวอยู่หยุดชะงัก...



            ใจอ่อนเชี่ยไร....



            “ทำไมกูจะต้องใจอ่อน กูเป็นผู้ชายนะเว้ย มันก็ผู้ชาย”



            “มึงก็รู้ว่าความรักมันขึ้นอยู่กับจิตใจ” เชรด...คำคมจากไอ้เสาก็มา “ยิ้มห่าอะไรของมึงไอ้สัดนนท์” มันหันไปพาลใส่ไอ้นนท์เรียบร้อย ผมหลุดขำไอ้สองคนนี้พร้อมกับส่ายหน้าเอือม ตกลงพวกมึงสองคนเข้าใจกันรึยังวะเนี่ยยย...



            ระหว่างที่ผมกำลังหัวเราะก็ต้องหยุดเมื่อสายตาหันไปเห็นไอ้หมูกรอบเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับ...น้องชมพู่คุคิ เหมือนไอ้เสาจะเห็นเหมือนกัน ตอนแรกไอ้หมูมันไม่เห็นผมหรอกครับ ดูจากสภาพตาของมันแล้วเหมือนจะไม่ได้นอน...อย่าว่าเมื่อวานตอนที่อยู่ในโรงยิมมันไม่ได้นอนเลยนะ...



            คนที่เห็นผมดูเหมือนจะเป็นน้องชมพู่คุคิ (ฉายาที่ตั้งให้แล้ว) เธอเอามือคล้องแขนไอ้เดือนแพทย์อย่างออกหน้าออกตา จนผู้หญิงที่อยู่ในร้านทำหน้าหมั่นไส้...อันนี้เห็นพวกผู้หญิงทำใส่ชมพู่จริง ๆ นะ  หมูหันมามองเห็นผมก็ตาโตนิด ๆ ถามจริงมันมีสติไหมนั่น



            “พี่ศิลา...”



            “หมูเรานั่งข้างรุ่นพี่ของหมูก็ได้” เสียงหญิงสาวเจือแจ้ว เธอนั่งลงโต๊ะข้างผม ส่วนไอ้หมูนั่งฝั่งตรงข้าม มันมองเหมือนตัวเองกำลังทำผิด....เหอะ



            “พวกเราขอนั่งด้วยนะคะ” เธอว่า ผมเลยพยักหน้า



            “ตามสบาย..”



            “เมื่อวานโทรหาหมูไม่รับเลยอ่ะ...ขอโทษที่รบกวนตอนเช้านะ ตอนแรกเราจะมาเองแหละ ไม่น่าให้แม่เราโทรไปรบกวนให้หมูมาส่งเลย” ชมพู่พูดขึ้นกับหมูที่กำลังจะสั่งข้าวแต่สายตาไอ้หมูแม่ง...มองมาทางผมซะงั้น  ดูเหมือนชมพู่จะจงใจพูดให้ผมได้ยินชัดเจน ไอ้เสามองหน้าผมแล้วทำปากพะงาบ ๆ



            “หูย น้องจงใจพูดใส่มึงชัวร์” มันพูดแบบไม่ออกเสียง...มีเหตุผลอะไรที่น้องชมพู่สุดอึ๋มนี่จะมาพูดใส่ผมครับ (ตั้งฉายาให้คนอื่นอีกแล้ว)



            “ไม่เป็นไรหรอก ก็รถเสียไม่ใช่เหรอ ยังไงก็มาทางเดียวกัน....” หมูว่าเรียบ ๆ และเงยหน้ามองผม



            “พี่ศิลา...กินข้าวรึยังครับ” ถามทำไมวะ...ก็เห็นอยู่ว่ากูกินแล้ว



            “กินแล้ว” และกูก็บ้าจี้ตอบมัน...หมูยิ้มให้ผม



            “หมูเมนูนี้ของโปรดหมูเลย” ชมพู่ชี้เมนูให้หมูดู ผมเหลือบมองนิด ๆ ดูจะรู้ใจกันจังนะ



            ผมวางช้อนของตัวเองลงด้วยความรู้สึกอิ่มขึ้นมาซะงั้น ไอ้เสาเองก็ดูดไข่มุกของมันไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนไอ้นนท์ก็กระดกน้ำกิน บ่งบอกว่าอิ่มแล้ว เหมือนพวกมันจะรู้ว่าผมต้องการจะลุกออกจากตรงนี้



            “พวกพี่อิ่มกันแล้วเหรอครับ” ไอ้หมูถามขึ้นเมื่อเห็นผมเช็ดปากของตัวเอง แต่คนที่ตอบคำถามของหมูไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้เสาแทน เสาตบบ่าของไอ้หมูปุ ๆ



            “เออ อิ่มละ พวกกูมากินนานแล้ว มึงก็กินเข้าไปเยอะ ๆ ล่ะไอ้น้อง”



            “พี่ศิลา...วันนี้พี่อยู่ที่คณะทั้งวันไหม” ผมลุกขึ้นมองหน้าเขาที่ถามออกมา



            “ก็อยู่” ผมตอบแค่นั้น ก่อนจะเดินนำไอ้เสากับไอ้นนท์ออกไปรอที่รถ และไม่ได้รอฟังไอ้หมูที่ทำท่าเหมือนจะพูดต่อแต่ก็โดนน้องชมพู่เรียกให้มันสั่งข้าวซะก่อน



            เหอะ...กินข้าวไปเถอะมึงน่ะ...



            .............

            ............



            โคตรจะเซ็งเลยครับ...โทรศัพท์ผมก็ไม่มี ได้แต่นั่งเอามือเท้าคางมองถั่วดำประชุมน้อง ๆ เรื่องการจัดระเบียบการเคารพรุ่นพี่ ผมยังไม่ได้ไปบอกป๊าเลยว่าโทรศัพท์พัง...แล้วถ้าป๊าถามขึ้นมาล่ะว่าทำไมพัง  มีคนเหยียบครับป๊าไอ้ผู้ชายที่มันมาจีบผม....ขืนบอกแบบนั้นป๊าอาจจะช็อกและตามมาดูหน้าไอ้หมูก็ได้ คิดแล้วก็ขนลุกแทน....แถมถ้าผมบอกว่าตัวเองทำพังเองก็โดนดุแหง ๆ ก็เพิ่งไปถอยมาเอง



            “คิดถึงน้องหมูกรอบของมึงอยู่เหรอ เหม่อเชียว” ไอ้เสานั่งลงฝั่งตรงข้ามผม ส่วนไอ้นนท์ก็เดินตามหลังพร้อมกับกีตาร์ในมือของผม...นี่พวกมันหายไปไหนมาด้วยกันปะวะ



            “ทำไมกูจะต้องคิดถึง...” ผมตอบทันควัน ไอ้เสาจะล้อต่อแต่ก็หันไปด่าไอ้สัดนนท์ที่นั่งลงข้างมัน



            “ไอ้เชี่ย ไปนั่งที่อื่น นู่นไปนั่งฝั่งไอ้ศิลานู่น” ไอ้เสาไล่ ถามว่าไอ้นนท์ฟังเหรอ? ไม่ครับไอ้นนท์ไม่ได้ฟังที่ไอ้เสาพูดเลยสักนิด จนไอ้เสาได้ย้ายเปลี่ยนฝั่งมานั่งข้างผมแทน...เหอะ ๆ ไอ้พวกนี้แม่งทำอะไรสวนทางกับความคิดจริง ๆ



            “ระวังเหอะมึง เดี๋ยวจะโดนน้องชมพู่แย่งไปก่อนนะเว้ย” ไอ้เสาว่าพลางกดโทรศัพท์เล่นไปด้วย  ผมเหลือบไปเห็นไลน์ของจีที่ไอ้เสากำลังตอบอยู่



            “มึงยังคุยกับจีอยู่ด้วยเหรอ” ผมถามขึ้นและมันก็ทำให้ไอ้นนท์ที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ตรงข้าม ลุกขึ้นพรึบ พวกผมสองคนสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อไอ้สัดนนท์เดินหนีออกไปจากตรงนี้เฉยเลย เชี่ย...กูพูดอะไรผิดไปรึเปล่าวะ



            “ก็คุยแหละ จีก็ยังเป็นเพื่อนกูนี่นา...แล้วไอ้เหี้ยนนท์เป็นไรของมันวะ?” ไอ้เสาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่รู้จริง ๆ



            “ว่าแต่มึงแหละไอ้ศิลา ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง” ไอ้เสาวกกลับมาเรื่องของผม “กูว่าน้องชมพู่ดูท่าทางจะทำตัวสนิทสนมกับน้องหมูกรอบของมึงมากเลยนะ”



            “จะสนิทก็สนิทไปสิ...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับกูสักนิด” ผมบอกก่อนจะโดนไอ้เสาเอาไหล่มาสะกิด



            “น้องหมูกรอบมันมานู่นล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นทันทีก็เจอหมูที่วิ่งมาหอบ ๆ ในสภาพชุดนักศึกษายับนิดหน่อย รู้สึกว่าตึกคณะมันกับตึกคณะของผมค่อนข้างห่างกันมากนะ



            วิ่งมาทำไมวะ อากาศก็ร้อน ๆ...



            “พี่ศิลา...ครับ แฮ่ก...” หายใจเข้าก่อนดีไหมไอ้หมูกรอบ “คือว่า...ผมเอาอันนี้...”



            “มึงควรจะกินน้ำก่อนนะ” ผมยื่นน้ำให้มันแก้วหนึ่ง ไอ้หมูยกมือไหว้ผมกับไอ้เสาและรับน้ำไปดื่มรวดเดียวหมด ผมมองถุงกระดาษมาให้ผมอย่างงง ๆ



            “ผมซื้อโทรศัพท์มาคืนพี่ครับ” ผมตาโตมองถุงโทรศัพท์ไอโฟน 6 พลัส เชี่ย...มันซื้อมาให้ผม ผมจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ไวเท่าไอ้หมูที่ยัดใส่มือของผมเรียบร้อย



            “ต้องรับนะครับ เป็นเพราะผมเหยียบโทรศัพท์พี่แตกเอง....ให้ผมซื้อคืนนะ ไม่มีข้อโต้แย้ง”



            เออ...เล่นรวบรัดขนาดนี้ กูจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ... ไอ้เสาที่นั่งอยู่ข้างผมหัวเราะในลำคอ



            “ทีหลังก็อย่าไปเหยียบโทรศัพท์เพราะหึงอีกล่ะ” ไอ้เสาว่าล้อทำเอาผมหันไปมองมันตาขวาง



            “ไอ้สัด!” ผมด่า



            “ฮ่า ๆ ครับ...ขอโทษนะพี่ที่ผมไปหึงพี่กับพี่ศิลา” ไอ้หมูมันดันไปคุยตอบกับไอ้เสาอีก เหมือนประมาณว่ามันเจอพวกของมัน เดี๋ยววว....มึงเป็นเพื่อนกูไม่ใช่เหรอไอ้สัดเสา!!



            “แล้วมึงวิ่งมาจากคณะมึงเหรอ?” ผมถามไอ้หมูที่กำลังคุยเรื่องผมกับไอ้เสาเพลินเชียว



            “ครับ ผมอยู่ในช่วงพักพอดี...เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว น่าจะยุ่งกว่าเดิมแน่เลย”



            “แล้วไง?”



            “เวลาเจอพี่ก็จะน้อยลงด้วยไงครับ” อ้วกกกก...เสียงไอ้เสาครับ มันทำท่าเลี่ยนเดี๋ยวผมก็ยกเท้าถีบมันเปรี้ยงไปนู่น



            “โอ๊ย ไอ้น้องเอ็งปล่อยมุขได้เสี่ยวมาก...เดี๋ยวเพื่อนกูมันก็กร่อนกันหมดพอดี”



            “ไอ้สัด เงียบ ๆ ไปเลย” ผมด่าไอ้เสา “มึงก็เหมือนกันไอ้หมูรีบกลับไปคณะมึงได้แล้ว จะหมดเวลาพักแล้วนี่ เดี๋ยวก็ถูกทำโทษหรอก” ผมหันไปบอกไอ้หมู ไม่รู้คณะแพทย์มันโหดไหมแต่น่าจะไม่โหดมากหรอก แต่ยังไงถ้าไปสายก็ต้องถูกทำโทษอยู่ดีแหละ มันจะหมดเวลาพักแล้วจะมายืนเสนอหน้าอะไรแถวนี้



            “ห่วงผมเหรอ” ห่วงพ่องดิ....



            “.........”



            “ดีใจจัง” ดีใจห่าไร....หมูอมยิ้ม



            “รีบไปได้แล้วไอ้หมูกรอบ” ผมไล่ มายืนยิ้มให้ผมอยู่ได้ โว้ย



            “เย็นนี้รอกลับพร้อมผมนะ จะพาไปกินข้าวหมูแดง” หมูถามขึ้นอย่างรอคำตอบ     
   

            “ทำไมกูจะต้องไป...”



            “นะ นะครับ อยากพาพี่ไปจริง ๆ” เวลาเจอลูกอ้อนมันแบบนี้ผมก็ต้องยอมมันทุกที เพราะรำคาญขี้เกียจเถียงไง...



            “เออ ๆ”



            “จริงนะ..” มันยิ้มกว้าง



            “เออ ถ้ามึงพูดอีกรอบกูจะเปลี่ยนใจ” หมูยิ้มรับและโบกมือบ๊ายบายผมก่อนจะวิ่งกลับคณะของมันไป



            ....ไอ้นี่แม่งบ้า....



            “แหม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ต่างไปจากน้องมันเล๊ยไอ้ศิลา...” ไอ้เสาทักขึ้นพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มหน้าของผม จึก ๆ...



            “กูไม่ได้ยิ้ม” ผมไม่ได้ยิ้มซะหน่อย...หรือจริง ๆ กูยิ้มวะ...



            “เย็นนี้มึงมีคนมารับแล้วสิน๊า...หึหึ น้องมันก็หน้าตาดี นิสัยโอนะเว้ย ไม่ได้เลวร้ายอะไร” ไม่ทราบว่าไอ้หมูไปติดสินบนมึงไว้รึไงวะ อวยอะไรเบอร์นั้น ผมส่ายหน้าเอือมและหยิบซิมของตัวเองออกมาใส่ในเครื่องใหม่ที่ไอ้หมูเพิ่งซื้อมาให้



            พอผมเปิดเครื่องปุ๊ปสายเรียกเข้าที่ผมไม่ได้รับก็เพียบ...เชี่ย สายของป๊าทั้งนั้น เฮือก...



            “โห ป๊าโทรหาหมวยเล็กกี่สายวะ” ไอ้เสาชะโงกหน้ามาดู



            “กูโดนป๊าด่าเละแน่ ๆ”



            “ป๊าไม่ด่าหรอก เห็นยอมมึงที่สุดในบ้านแล้วนะกูว่า” ก็จริงอย่างที่ไอ้เสาพูดครับ...ในบรรดาเฮียใหญ่ เฮียกลาง ป๊าก็ยอมผมมากที่สุด เพราะป๊าว่าผมหน้าเหมือนม๊า เป็นหมวยเล็กเลยมักจะไม่ค่อยโดนดุเท่าเฮียใหญ่กับเฮียกลาง



            “งั้นเดียวกูไปโทรหาป๊าก่อนก็แล้วกัน” ผมว่าและขอตัวไปเดินคุยโทรศัพท์ให้ไกลจากพวกน้อง ๆ ปี 1 ที่นั่งเรียงรายอยู่ไม่ห่างมากนัก





            .............

            .............



            ผมบอกป๊าว่าแบตหมดและก็หลับไปเลยด้วยความเหนื่อย ป๊าเลยไม่ได้ดุอะไรผม แต่ก็กำชับมาอย่างดีว่าห้ามทำให้ป๊าเป็นห่วงอีก วันนี้ทั้งวันผมก็มีหน้าที่ดูแลเสิร์ฟน้ำน้อง ๆ กับไอ้เสากันอยู่สองคน       ไอ้นนท์ก็ไปแบกน้ำแข็งมาใส่ถังให้น้อง    พอตกเย็นมาทุกคนก็ทยอยกันกลับ ไอ้นนท์หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ครับ  ส่วนไอ้เสาก็ขอตัวไปโอนเงินค่าเครื่องสำอางให้แม่ เห็นว่าเดี๋ยวมันกลับมา



            ส่วนผมน่ะเหรอ...ก็ยืนรอไอ้หมูกรอบอยู่หน้าคณะของตัวเองนี่แหละ...ตอนแรกจะกลับกับไอ้เสาแต่มันแม่งไม่ยอมให้ผมกลับด้วย บอกว่าให้รอไอ้หมูมารับ ผมยกนาฬิกาดูเวลาที่มันจะ 16:00 น. แล้ว



         + ไอ้หมูกรอบ +



            ผมมองเบอร์ที่ขึ้นอยู่ กำลังงงว่าตัวเองไปเมมตอนไหนวะ...หรือมันจะเป็นคนเมมเอง



            “ไง”



            (“พี่ศิลา...คือว่าพี่อยู่ไหนครับ // หมูเรากลับเองก็ได้นะ เดี๋ยวเราบอกคุณแม่เราว่าหมูไม่ว่าง”) เสียงของชมพู่แทรกเข้ามาทำให้ผมแอบชะงัก



            “อยู่หน้าคณะ...”



            (“คือว่าเดี๋ยวผมไปรับพี่ไปส่งหอนะ แต่วันนี้เราคงไปกินข้าวหมูแดงไม่ได้ ไว้ไปด้วยกัน....”)



            “มึงจะไปส่งน้องเขาก็ไปเถอะ กูจะกลับกับไอ้เสา” ผมตอบแทรกไอ้หมูที่กำลังพูดอยู่ ผมว่าผมไม่ค่อยชอบการคุยโทรศัพท์แบบนี้นะ เพราะมันแม่งไม่เห็นหน้ากันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำหน้าตาแบบไหน...



            (“แต่ผมบอกพี่ไว้แล้วว่าผมจะไปรับพี่...”)



            “ไม่ต้องห่วงกูหรอก ไปส่งผู้หญิงเหอะ กูเป็นผู้ชายกลับเองได้” ผมบอกตามความจริงแต่ใจกลับรู้สึกแปลก...ทำไมต้องรู้สึกโหวงเหวงวะ



            (“แต่...”)



            “ไว้ค่อยมารับกูไปกินข้าวหมูแดงวันหลัง มึงไปส่งน้องเขาเหอะ แค่นี้นะ” ผมพูดรัวพร้อมกับตัดสายจากหมูทันที



            แม้มันจะโทรกลับมาอีกผมเลือกที่จะไม่รับ...เป็นเชี่ยอะไรของมึงครับศิลา ผมเลือกที่จะเดินกลับเองและไม่ได้โทรหาไอ้เสา ลองกลับเองบ้างก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ผมบอกกับตัวเอง....



            ...............

            ..............

            “มึงไม่ได้ไปส่งไอ้ศิลาเหรอ เสา” นนท์ที่กลับมาจากไปทำธุระถามเสาที่เพิ่งขับรถกลับมาคณะเหมือนกัน



           “เห็นว่าไอ้ศิลาจะกลับกับไอ้หมูกรอบนี่?”



            “ทำไมกูเห็นน้องหมูขับรถออกไปกับผู้หญิงล่ะ...”



             “พี่เสา!! พี่นนท์” ไอ้รุ่นน้องคณะวิศวะวิ่งหอบมา “แย่แล้วพี่ ไอ้พวกคู่อริเก่าของคณะเรากำลังจะรุมพี่ศิลาอยู่ทางหน้าเซเว่นอ่ะพี่”



               “เหี้ยยยย...ไอ้สัดนนท์ไปกับกูเร็ว!!!” เสารีบลากนนท์ให้วิ่งตามไปด้วยทันที....





            ......................

            .......................



            [พาร์ตของศิลา]



            นอกจากผมจะอารมณ์เสียนิด ๆ จากไอ้หมูกรอบที่ไม่ได้พาผมไปกินข้าวหมูแดงที่มันบอกจะพาไปกินแล้ว ดันโลกกลมมาเจอกับไอ้หน้าจรวดที่เคยหาเรื่องกับไอ้หมูตอนไปห้างอีก...ถ้ามีมันคนเดียวผมสู้ได้ครับ แต่ไอ้หมาหมู่ที่ขนมา 10 คน เชี่ย....ต่อให้กูเก่งมวยแค่ไหน เข้ามา 10 คน ผมจะสู้ไหวได้ยังไง



            พลั่ก!!



            อึก...ผมโดนลูกเตะจากไอ้หน้าจรวดที่สะบักสะบอมไม่ต่างจากผม เหี้ยยย เวลาจะโทรหาไอ้เสากับไอ้นนท์ยังไม่มีเลย จุกชะมัด แม่งปัญญาอ่อนจริง ๆ พวกชอบรุมคนอื่น...ผมไม่เข้าใจว่ามันแค้นพวกรุ่นน้องอะไรผมนักหนา ผมเก็บไอ้พวกที่เข้ามาเกือบ 9 คนเรียบ แต่ร่างกายของผมก็เริ่มจะหนักอึ้งแล้วเหมือนกัน ลูกเตะของไอ้หน้าจรวดแม่งหนักชิบ หมัดมันก็หนักเหมือนกัน



            ผมเผลอนิดเดียวก็โดนมันถีบจนล้ม...ไอ้สัดหมาหมู่! ผมล้มลงกับพื้นพยายามกัดฟันจะลุกขึ้น  ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นไม้ที่ไอ้หน้าจรวดหยิบมาจะฟาดมาที่ผม กลับมีมือหนามารับไว้พร้อมกับถีบไอ้หน้าจรวดออกจนล้มกับพื้น



            พลั่ก!!



            “ใครใช้ให้มึงมาแตะต้องพี่ศิลา!!!” เฮือก...คนที่อยู่ตรงหน้าของผมคือไอ้หมู....มันมาได้ยังไง มันต้องไปส่งน้องชมพู่ไม่ใช่รึไง..?



            ตุบ! ตุบ! พลั่ก!!



            “กูถามว่ามึงแตะต้องพี่ศิลาทำไม!!!” หมัดหนัก ๆ ของไอ้หมูกระหน่ำต่อยลงไอ้หน้าจรวดเหมือนสติแตก ไอ้เชี่ย...หยุดนะเว้ยไอ้หมู สักพักไอ้นนท์กับไอ้เสาและรุ่นน้องของผมก็วิ่งเข้ามา



            “ไอ้ศิลาเป็นไงบ้างวะ” ไอ้เสาเข้ามาพยุงผม



            “ไปจับไอ้หมูกรอบไว้ หยุดมัน มันต่อยจนมือมันจะช้ำแล้ว หยุดมัน...” ผมบอกด้วยความเจ็บปากสุด ๆ ดูเหมือนไอ้หมูจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ขนาดไอ้นนท์กับไอ้เสาบอกพอแล้วมันก็ยังจะกระหน่ำต่อยไอ้หน้าจรวดที่เริ่มไม่มีทางสู้แล้ว



            ผมลุกขึ้นก่อนจะใช้มือของตัวเองกอดแขนของไอ้หมูที่กำลังจะง้างต่อยไอ้หน้าจรวด



            “สัด พอแล้วไอ้หมูกรอบ...กูไม่เป็นไรแล้ว...มือมึงจะเจ็บ.....” ไอ้หมูหยุดต่อยและหันมาทำตาโตใส่ผม...ตาโตทำไมวะ ผมว่าโลกของผมมันหมุน ๆ ยังไงไม่รู้....ผมหิวข้าวชะมัด



            “ผมไม่น่าปล่อยพี่กลับคนเดียวเลย ความผิดของผม..” มันพูดออกมา ไม่ใช่ความผิดของมึงซะหน่อย ความผิดไอ้พวกที่จะหาเรื่องต่างหาก....



            “พี่ศิลา!!....” ผมจำได้ว่าได้ยินเสียงไอ้หมูตะโกนพร้อมกับร่างของผมที่ไร้เรี่ยวแรง......





            .......................

            ......................



            ศิลาที่จู่ ๆ ก็เป็นลมไปแต่หมูรับไว้ได้ทัน แต่ร่างอันเบาหวิวของศิลากลับลอยขึ้นเมื่อมีผู้ชายร่างสูงคิ้วดกดำแววตาเข้มประดุจเหยี่ยวอุ้มศิลาแทนหมู ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นอึ้งไปตาม ๆ กัน....



            “เฮียใหญ่....มาที่นี่ได้ยังไงครับ” หมูหน้าซีดมองผู้ชายน่าเกรงขามตรงหน้า



              “มึงกล้ามากนะ ที่ทำให้หมวยเล็ก ศูนย์กลางของตระกูลกูเจ็บตัว ไหนมึงบอกจะดูแล!!!”

             ....เสียงเย็นเฉียบบ่งบอกอารมณ์ของคนพูด….



             “มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกันแล้วล่ะ ไอ้หมู....”







................... +++++++++++++++++++++++++


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  >< :L1: :pig4:  :กอด1: :กอด1:
ฝากให้กำลังใจน้องหมูด้วยยยย    ดีใจที่มีคนชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ   :L1: :กอด1: กอดดด
เดี๋ยวจะได้รู้กันเเล้วล่ะค่ะ ว่าน้องหมูไปพูดอะไรกับเฮียใหญ่บ้างงงง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2017 22:27:28 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
คนช่างตื้อไม่ว่าเพศไหนก็น่ารำคาญ
แต่ที่น่ารำคาญกว่าคือ คนที่สุภาพเกิ้นจนตัวเองเดือดร้อน

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ลำคานไอ้เหั้นหมูและ ปากบอกจีบ ศิลา แต่ไปกับอีชมพู่ ลำคาน ขอให้พี่ศิลา สั่งให้มันเลิกยุ่งสักที่ ไม่เด็ดขาดเลน ลำคาน ลำคาน อ่านแล้วลำคาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เฮียยยยยยยยย มาเท่มากโลยยยยยยยย :katai2-1:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ตายละหมู...พี่ใหญ่เขาออกมา(อย่างเท่ :o8: )แล้วจากหมูกรอบจะเป็นหมูแผ่นไหมละทีนี้

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
คือมันดีนะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องหมูแย่แน่เลย เฮียใหญ่มาแล้ว มาตอนที่หมวยเล็กถูกทำร้ายร่างกายอีกด้วย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fyfh34

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกดีค่ะ จะตอยติดตามนะคะ

ว่าแต่คู่เสา นนท์ นี่น่าสนใจดี อย่างไงคนเขียนอย่าลืมมาเขียนของคู่นี้ให้หน่อยนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด