พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|  (อ่าน 89226 ครั้ง)

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ถึงกับไม่ขันเลยเหรอเสา ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
โอ้นนน ตายแล้ววว ชอบเรื่องนี้ ชอบความเปิดเผยของนังหมูกรอบมากกก หมวยเล็กยังไงก็ไม่รอดอะ
ส่วนนนท์เสา ฟินแท้ ตัดไปรอบเดียว นนท์ถึงกับไปมีอะไรกับ ชะนีไม่ได้ เสาต้องไม่ธรรมดาแน่นวล
รอติดตามต่อง้าบบ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 13



          [พาร์ตของเสา]



            @ห้างสรรพสินค้า



          สองวันผ่านไปผมไม่เห็นไอ้นนท์เสนอหน้ามาให้ผมเห็นเลยสักนิดจนกระทั่งวันนี้เจอมันมานั่งอยู่คณะนี่แหละ ส่วนไอ้น้องหมูของไอ้ศิลาที่หายหน้าหายตาไปเหมือนกัน...เพื่อนผมก็ทำหน้าหง่อยโดยที่มันไม่รู้ตัวสักนิด เดี๋ยวกามเทพเสาช่วยเอง โฮะ ๆ รักเพื่อนส่งเสริมเพื่อนให้มีคู่ครอง (เสาสายชงรู้จักไหมครับ)



            ผมพาไอ้ศิลาไปปล่อยไว้หน้าโรงยิมเรียบร้อย เหอะ ๆ ตอนแรกจะอยู่เป็นเพื่อนมันแต่แม่กลับไลน์มาบอกให้ผมไปโอนเงินให้ซะงั้น ผมเลยปล่อยเพื่อนรักของผมไว้กับไอ้น้องหมูเรียบร้อย หวังว่ามันสองคนจะเคลียร์กันได้นะ พรุ่งนี้จะรอดูว่าผลจะออกมาเป็นยังไงบ้าง ผมมองหมายเลขในโทรศัพท์ที่จะโอนเงินเดี๋ยวนี้ดูแม่จะขยันซื้อเครื่องสำอางชะมัด ไม่รู้ขนซื้อคอลเลคชั่นไรเยอะแยะ...แต่ก็คงเป็นความสุขของแม่แหละครับ ผมไม่ขัดหรอก มีหน้าที่มาโอนให้ก็ทำตามคำสั่งไป...



            ผมโอนก็ไลน์ไปบอกแม่ รู้สึกหิวขึ้นมาชะมัด...และก็ต้องขมวดคิ้วกับแม่ที่ตอบกลับมา



            +แม่+ : เสาจ๋า...



            เวลาแม่พิมพ์อย่างนี้มาทีไร ผมว่าต้องมีเรื่องอะไรมาใช้ผมอีกแหง



            +แม่+ : อยากได้ลิปคอลเลคชั่นใหม่สีนี้อ่า...แต่ไม่รู้มันเบอร์ไหน ไปหาดูให้แม่หน่อยนะ อยู่ห้างใช่ไหม แม่จะใช้ไปงานวันพรุ่งนี้อ่ะ หาให้แม่ด้วยนะจ๊ะ รักเสาที่สุดดด...



            นั่นไงครับ...แม่ใช้ผมจริงด้วย แถมใช้ไปซื้อลิป อยากจะบ้า...ปกติจะให้จีพามาซื้อ แต่นี่ผมมาคนเดียว...หนีไม่พ้นที่จะต้องเดินเข้าร้านเครื่องสำอางใช่ไหม...



            ผมตอบตกลงกลับไปให้แม่ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ผมรู้สึกว่ามีหลายสายตาของสาว ๆ บ้างมองมาที่ผม อ๋อ...ลืมว่าผมใช้ชุดนักศึกษาเต็มยศแถมยังเซ็ตผมมาอีก ก็วันนี้ไปดูน้อง ๆ ดาวเดือนมาอ่ะครับ ผู้หญิงมองไม่เท่าไหร่หรอก...แต่เชี่ยกว่าคือ มีสายตาผู้ชายมาเหลือบมองผมด้วย...เหี้ยยย ปกติไม่มีผู้ชายมามองผมนะ แต่ทำไมวันนี้มีวะ



            ผมเลยรีบเดินหนีไปที่ร้านเครื่องสำอาง แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปแขนของผมก็โดนคว้าไว้ ว่าจะหันไปด่าก็ชะงัก...    ไอ้สัดนนท์ ไหนว่ามันกลับหอไง?



            “มึงมาทำอะไรที่นี่ ไอ้นนท์ไหนว่ากลับหอ” ผมถามและสะบัดแขนออกจากเขา แต่คำตอบที่ผมได้รับทำเอาชะงัก



            “แอบตามมึงมาไง”



            “ห๊ะ?”



            “บอกว่าแอบตามมึงมา กูยังไม่ได้กลับหอ รอมึงกับไอ้ศิลาอยู่ แต่เห็นมึงขับออกมาคนเดียวเลยขับตามมาด้วย” มันสาธยาย...ไอ้เชี่ย ตามกูทำไมครับ...



            “มึงจะมาตามกูทำไม” ผมบอกพร้อมกับหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านวัตสันตรงโซนขายเครื่องสำอาง



            “ก็อยากรู้ว่าเสามาทำอะไรที่นี่...” หือ...ผมมองไอ้นนท์ที่ใช้น้ำเสียงละมุนแปลก ๆ



            “กูมาโอนเงิน” ผมตอบพลางเปิดดูไลน์หาลิปสีที่แม่บอก ลำบากผมจริง ๆ จะไปรู้ไหมวะว่าอันไหน ไม่เคยใช้ลิปโว้ย...



            “จ้องหน้ากูทำไม กลับไปได้แล้ว เกะกะ”



            “มึงจะซื้อเครื่องสำอางเหรอ” เขาถาม ก็มีตาไหมครับไอ้สัดนนท์ ก็เห็นอยู่ว่าใช่....ผมไม่ได้ตอบแต่ก็ต้องเอามือเท้าเอวมองไอ้นนท์ที่ยืนขวางผมอยู่



            “งั้นกูจะรอกลับพร้อมมึงละกัน” เขาว่า



            “มึงจะอยู่รอใช่มะ...ดี งั้นกูยืมแขนหน่อย” ผมบอก ไอ้นนท์ทำท่างงเล็กน้อยแต่แปลกที่มันยอมยื่นแขนมาให้ผมง่าย ๆ ...หึหึ ผมเปิดลิปและลองลงแขนของไอ้นนท์



            “เฮ้ย อะไรวะเอามาลองแขน...มึงลองเหอะ ถ้าอยากจะลอง” ตอนแรกมันจะโวยวายแต่พอมันมองหน้าของผมปั๊ป     ไอ้นนท์ก็เงียบไปทันที



            “ต้องลองกี่สีเหรอ” ไอ้นนท์ถามขึ้นเมื่อเห็นผมลองลิปไปประมาณ 10 กว่าแท่งละ มันหยิบสีออกชมพูอ่อนมาเทียบกับริมฝีปากของผม...ไอ้เหี้ยจะเอามาเทียบทำไม



            “เข้ากับมึงเลยว่ะ สีนี้” จู่ ๆ ไอ้นี่ก็พูดขึ้นทำเอาพนักงานที่ยืนคุมเครื่องสำอางอยู่ไกล ๆ มองตาปริบ ๆ ส่วนพี่กระเทยอีกมุมก็เหมือนจะกรี๊ดไอ้นนท์



            “ดูสิแก...ฉันเขิน ผู้ชายหล่อเข้มกับผู้ชายสวย...” ไอ้ผู้ชายเข้มคงจะหนีไม่พ้นไอ้นนท์แต่เดี๋ยวนะครับ...หน้าสวย       มันไม่ใช่ผมเว้ย ผมหล่อ...เป็นรองเดือนเชียวนะ!! (ความขี้อวดนี้ท่านได้มาแต่ใด)



            ดูไอ้นนท์จะพอใจมากที่เจ้กระเทยพูด ไม่รู้ว่าพอใจที่เขาชมมันว่าหล่อหรือพอใจที่คนอื่นหาว่าผมสวย



            “ยิ้มห่าอะไรของมึงวะ” ผมด่ามันเข้าให้ แต่หน้าด้านอย่างมันไม่สะทกสะท้านหรอก...





            กว่าผมจะหาสีของลิปที่แม่ต้องการเจอก็ปาไปเกือบ 15 แท่งที่ลองใส่แขนของไอ้นนท์ เห็นแล้วอยากจะหัวเราะลิปที่ขีดเป็นทางเต็มแขนมันเลยล่ะครับ อยากถ่ายรูปเก็บไว้ล้อมันจริง ๆ



            ผมเอาลิปสีที่แม่ต้องการไปจ่ายเงินก่อนจะขมวดคิ้วกับไอ้ลิปสีชมพูอีกอันที่ไอ้นนท์เอามาคิดเงินด้วย แถมมันยังจ่ายเงินแบงค์พันรวมกับผมด้วย เหอะ...จะซื้อไปให้สาวของมึงล่ะสิ



            “อะไรของมึงกูจ่ายเอง” ผมว่า พนักงานที่คิดเงินอยู่เลยชะงัก



            “คิดไปเลยครับน้องจ่ายรวมกับของพี่นี่แหละ” ไอ้นนท์ไม่ได้ฟังผมสักนิด มันจ่ายเงินและยื่นถุงลิปให้ผม



            “เอาแค่ลิปของแม่กูมาก็พอ ส่วนอีกอันมึงเอาไป”



            “กูซื้อให้มึงหมด สีชมพูนั่นของมึง” สิ่งที่มันพูดออกมาทำให้เลิกคิ้ว...ซื้อให้ผม? เชี่ย นั่นมันลิปชมพูอ่อน กูเป็นผู้ชายครับ ไม่ทาลิป



            “กูไม่เอา”



            “จะเอาดี ๆ ไหม” มันถามย้ำ ผมยังคงไม่รับก่อนจะหันขวับไปฟังสิ่งที่มันพูด



            “อยากให้กูจูบโชว์ตรงนี้ก็เชิญ” ผมชะงักกับเสียงขู่ เหี้ย! มาขู่กูทำบ้าอะไร...คิดว่ากูกลัวเหรอ!!



            ...จูบพ่องไร....



            “มึงไม่กล้า...เอามานี่! กูเอาก็ได้ สัดนนท์เหี้ย!” ผมมองแววตาเข้มที่ดูจะทำจริงแน่ ๆ ผมเลยคว้าถุงมาและเดินหนีมันออกไปนอกร้าน ไอ้นนท์ก็เดินตามผมมาติด ๆ



            “จะไปไหนต่อเหรอ”



            “เรื่องของกู” ผมยังเดินดุ่ม ๆ หนี สาวแม่งก็ชายตามองไอ้นนท์กันเป็นแถบ มองผมด้วย แต่น่าจะมองไปที่ไอ้นนท์เป็นส่วนใหญ่



            หมั่นไส้และไม่สบอารมณ์อย่างแรง!



            “กินข้าวไหม ไหน ๆ ก็มาแล้ว” ไอ้นนท์ยังคงเดินตามมาติด ๆ ...จะเดินตามผมทำไม จะไปไหนก็ไปสิวะ! ไม่อยากพูดด้วย!!



            “กูไม่หิว” ผมตอบพร้อมกับท้องไม่รักดีที่ดัง โครก...กูหิวครับ...ไอ้นนท์กระตุกยิ้ม



            “ปากมึงบอกไม่ แต่ท้องมันโกหกไม่ได้หรอกนะ มาเหอะ กูเลี้ยงก็ได้” ไอ้นนท์ว่า คิดว่าผมจะสนใจของฟรีเหรอ      ทำเป็นอวดรวย...แต่มันก็ถือว่ารวยอยู่เหมือนกันครับ บ้านไอ้นนท์มันเปิดร้านทองหลายสาขาเชียวล่ะ ลูกคนรวยมีเงินระดับหรู



            “เออ ก็ได้ กูหิวเฉย ๆ หรอก” ผมกับไอ้นนท์เดินเข้ามาในร้านพิซซ่า ปกติผมเองก็มาทานข้าวด้วยกันกับไอ้นนท์บ่อยนะครับ...แต่ครั้งนี้มันดูแปลกกว่าทุกที ก็หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นใครมันจะไปเหมือนเดิมได้วะ แต่ผมกับมันก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเรื่องนี้อีกเลย ผมว่าจะแกล้งลืม ๆ ไปซะ



            ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ประโยคที่ไอ้นนท์เอ่ยต่อไปทำให้คนที่อยู่ในร้านพิซซ่าหันขวับมาหาพวกผม



            “ร่างกายของมึงตรงนั้นโอเครึยัง” ตรงนั้น...มันคิดได้หลายอย่างนะเว้ย! แล้วดูมันถามด้วยน้ำเสียงแบบเหมือนห่วงเมีย....เหี้ย เมียเชี่ยอะไรของมึงครับไอ้เสา...



            “กูหิว จะสั่งอาหาร” ผมเลี่ยงและรับเมนูมาจากพนักงานผู้ชายที่ยืนมองผมตาปริบ ๆ ผมเองก็ไม่ได้สนใจรอยยิ้มของพนักงานผู้ชายที่มองมาที่ผม



            “อะแฮ่ม ๆ!” ไอ้นนท์จู่ ๆ ก็ทำเสียงไอออกมาทำให้พนักงานที่มองหน้าผมอยู่สะดุ้ง ส่วนผมก็ขมวดคิ้ว



            “อะไรติดคอมึงไม่ทราบ? จะกินอะไรสั่งดิ” ผมบอกด้วยความรู้สึกหิว



            “มึงสั่งเลย รู้ใจกูไม่ใช่เหรอ” ผมเงยหน้ามองไอ้นนท์ที่มองพนักงานผู้ชายอยู่ หน้ามันเหมือนจะไปหาเรื่องเขาเลยแฮะ ไอ้นี่ กูจะมากินพิซซ่าไม่ได้พามึงมาตีกับใครนะเว้ย



            ผมชี้ ๆ เมนูที่ไอ้นนท์มันกินได้...จะว่าไปผมก็รู้นั่นแหละว่ามันชอบกินอะไรบ้าง ก็เป็นเพื่อนกันนี่...



            “เสา” ระหว่างที่ผมดื่มน้ำโค้กรอพิซซ่าถาดใหญ่มาเสิร์ฟไอ้นนท์ก็เรียกชื่อของผมด้วยน้ำเสียงละมุน



            ...กูขนลุก...จริง ๆ รู้สึกแปลกมากกว่า ทำไมต้องพูดละมุนวะ



            “อะไร...” ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของมันที่เลื่อนมาตรงหน้าผม



            “กูลบเบอร์ผู้หญิงทุกคนออกหมดแล้ว” ประโยคที่ออกมาจากปากไอ้นนท์ทำเอาผมงง...มึงจะลบเบอร์ผู้หญิงแล้วมาเกี่ยวอะไรกับกู?...เอ๊ะ ว่าไงนะ ลบเบอร์ผู้หญิงออกหมดแล้ว (?)



            ผมมองในจอก็พบว่ามันจริง...แถมยังเหลือแค่เบอร์ผมที่อยู่บนสุด รองลงมาก็ไอ้ศิลา และก็ครอบครัวของมันอีกสองสามเบอร์...



            และที่พีคไปกว่านั้นคือ...การเมมเบอร์ชื่อของไอ้เหี้ยนนท์...มันเมมชื่อของผมว่า +เสาของนนท์+



            เหี้ยยย....ไอ้เหี้ยมันกล้าดียังไงเมมแบบนั้นวะ!



            “อย่าเพิ่งด่านะ กูอยากพูดให้ชัด ๆ ว่ะ” ไอ้นนท์ยกมือห้ามผมที่กำลังจะพ่นคำด่าใส่มัน



            “พูดอะไรชัด ๆ กูกับมึงไม่มีอะไรจะพูด” มึงหุบปากเดี๋ยวนี้ไอ้นนท์....



            “เสาก็รู้ความจริงอยู่แก่ใจนี่ ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น” ผมชะงัก มันจะเอาเรื่องนี้มาพูดกลางที่คนเยอะ ๆ ทำไมวะ...ถึงแม้จะไม่มีใครรู้แต่ผมก็รู้ไง...เออ อย่างที่ไอ้นนท์มันพูดแหละ ผมรู้ความจริงอยู่แก่ใจ



            ...แต่กูไม่ยอมรับไงครับ ไอ้ฟาย!...



            “เกิดอะไร?” ผมไม่สนใจพลางเหลือบสายตาไปทางอื่นไม่มองสบตากับไอ้สัดนนท์ที่จ้องผมอย่างเอาจริงเอาจัง



            “มึงไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร กูเข้าใจว่าตอนนี้มึงยังช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น...แต่สำหรับกู กูดีใจนะที่คืนนั้น คน ๆ นั้นคือ มึง...” ผมกำมือแน่น...



            “และกูก็อยากบอกให้มึงรู้ไว้ว่า คืนนั้นมันทำให้กูเข้าใจอะไรชัดเจนขึ้น และกระจ่างขึ้นว่าที่ผ่านมา กูรู้สึกยังไงกับมึง....”



            อยากจะหลบมุดโต๊ะหนีไปจากตรงนี้ซะให้ได้...ไอ้นนท์มันจะมาพูดเรื่องบ้าบอชวนให้ผมสติแตกทำไมตอนนี้ คนที่อยู่ใกล้เราพากันมองตาปริบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในบทสนทนาที่ดูมีความหมายแฝงของไอ้นนท์





            ผมไม่ได้ตอบอะไรมัน ส่วนมันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น...เรานั่งกินพิซซ่ากันเงียบ ๆ เหมือนต้องการจะคิดทบทวนอะไรไปด้วย ผมไม่รู้ว่าไอ้นนท์มันคิดอะไรไปด้วยรึเปล่า แต่สำหรับผม...ผมไม่คิดครับ เพราะกินอย่างเดียว (เป็นคนตะกละได้อีกไอ้เสาเอ๊ย) ก็ไม่อยากจะคิดให้มันปวดหัวตอนนี้ไง



            แทนที่มันจะลืม ๆ ไปซะ...พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก บอกตรง ๆ ว่าจริง ๆ ....ผมก็ยังไม่ลืมสัมผัสของมัน เหอะ น่าอายจริง ดันไปจดจำสัมผัสจากไอ้ห่านนท์มันซะได้...



            ผมด่ามันในใจปั๊ปไอ้นนท์ก็จามออกมาทันที ฮ่า ๆ! สมน้ำหน้า...และผมก็จามออกมาเหมือนกัน  ไอ้สัดนนท์ต้องนินทาผมอยู่ในใจแน่ ๆ ก็ดูมันยิ้มสิ!!





            ................

            .................





            หลังจากที่กินพิซซ่าจนอิ่มแปล้โดยที่เงินในกระเป๋าของผมอยู่ครบ โฮะ ๆ (ไอ้นนท์มันเลี้ยง) ผมกับมันกำลังจะเดินออกมาจากห้าง ผมเลยแยกกับไอ้นนท์ตรงนั้นแหละ ระหว่างที่ขับรถกลับมาหอของตัวเอง ผมก็เหลือบไปเห็นรถคุ้นตา...รถไอ้สัดนนท์! ผมจอดรถตรงหอของตัวเองก่อนจะเดินลงมาจากรถเตรียมจะว๊ากใส่ไอ้นนท์เต็มที่



            ผมมองมันที่ลงจากรถมาเหมือนกัน บรรยากาศเหมือนฝนกำลังจะตกชะมัด...



            “มึงตามกูมาทำไม?” ผมถามเรียบ ๆ



            “แค่อยากรู้ว่าเสาถึงหอแล้ว เป็นห่วง” ไอ้เชี่ย...



            “ทำไมต้องมาห่วง กลับไปได้แล้ว” ผมไล่อย่างสับสนเมื่อไอ้นนท์จู่ ๆ ก็ยื่นมือมาจับมือของผมไว้



            “ไอ้เหี้ยนนท์! ปล่อย”



            “เออ กูยอมรับว่ากูเหี้ย...แต่เหี้ยมันก็รักจริงเป็นนะ” ผมจะสะบัดมือออกก็เหวอไป



            พล่ามอะไรของมึงไอ้นนท์!



            “ก็เรื่องของมึงสิ”



            “เสา กูเอาจริงนะ”



            “ห๊ะ?”



            “เรื่องของมึงกูเอาจริงนะ” เชี่ย...กูว่าสถานการณ์มันแปลก ๆ แล้วล่ะ ลุงยามหน้าหอเริ่มมองพวกเราด้วยความสงสัย ผมเลยรีบลากไอ้นนท์เข้ามาในหอเพื่อขึ้นห้องผม มันก็ยอมให้ผมลากมาอย่างไม่โต้แย้งใดใด ผมว่าคงต้องเคลียร์กับไอ้นนท์แบบจริงจังสักทีแล้วล่ะ





            “เอาล่ะ...ตกลงมึงต้องการอะไรจากกูกันแน่!” ผมพามันเข้ามาในห้องของตัวเองเรียบร้อยและกอดอกยืนมองมันที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ห้องครัว ยืนอยู่ตรงนั้นไปนั่นแหละ!



            “ก็เรื่องวันนั้น...” มันจะฝังใจกับคืนนั้นอะไรนักหนาวะ!...จริง ๆ กูก็ไม่ลืมเหมือนกัน เหี้ยจริง



            “ทำไม? เออคืนนั้นกูกับมึงเอากัน แล้วไง? ก็แค่มึงเมาจะคิดไรมาก ก็จบ ๆ ไปสิ” ผมยอมรับอย่างเหลืออด เริ่มรำคาญ...รำคาญใจของตัวเอง



            “กูจบไม่ได้..” ไอ้นนท์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เพราะเป็นเสา กูถึงจบไม่ได้...”



            ....เพราะเป็นกูแล้วทำไม....



            “มึงรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับกูบ้าง ตอนที่กูกอดมึงไปแล้ว” กูจะไปรู้ไหมล่ะ...ผมยืนฟังที่ไอ้นนท์พูดนิ่ง ๆ



            “มึงทำให้กูมองมึงเปลี่ยนไป มึงทำให้กูรู้ว่า...มึงมันแม่ง น่ารักโคตร ๆ” ไอ้นนท์เหมือนระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา...คำว่า น่ารักโคตร ๆ ของมัน ทำไมผมต้องเหวอด้วย...



            “มึงว่ามันแปลกไหมที่กูชอบ เวลามึงด่ากู เสียงของมึงแม่ง...ทำให้กูมีความสุขมาก” ไอ้สัดนนท์โรคจิตได้อีก....



            ....กูก็ชอบด่ามึงนะ สะใจดี....(นี่ก็โรคจิตไม่ต่างกันครับไอ้เสา)



            “แปลก...” ผมตอบ ไอ้นนท์ก็ยิ้มออกมา ปกติก็เห็นยิ้มมันบ่อยจนชินนะ ยิ้มที่สาวพากันกรี๊ด พากันหลง ผมก็ไม่เห็นรู้สึกอะไรแต่ตอนนี้...ทำไมกูต้องมองยิ้มมันอึ้ง ๆ



            “กูเปลี่ยนแฟนบ่อย กูเจ้าชู้....กูรู้” เออ...ผมก็รู้ แม่ง...เปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าเปลี่ยนกางเกงในอีกมันอ่ะ (เปรียบเทียบซะเห็นภาพ)



              “แต่กูก็จะหยุดทุกอย่าง...เพื่อมึง”



            “หา? อะไรนะ”



            “กูจะจีบมึง”



            “อ๋อ...ห๊ะ เหี้ย!!” ผมพยักหน้าก่อนจะตาโต “มึงว่าอะไรนะไอ้สัด!”



            “กูบอกว่าจะจีบมึง”



            “จีบเหี้ยไร! กูเพื่อนมึงนะ” ไม่นะเว้ย...อะไรของไอ้สัดนนท์มัน



            “เพื่อนกัน เอากันเหรอ” จึก...เหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดหน้า...เออ กูพลาดเอง



            “ไอ้เหี้ย!! ออกไปจากห้องกู!” ผมผลักไอ้นนท์ที่ยืนอยู่ออกไปจากห้องโดนด่วน แต่มันก็คว้าข้อมือของผมเอาไว้...เชี่ยมาก ผมมีแรงสู้ไอ้เชี่ยนี่ไม่ได้



            “รับรู้แล้วนะว่ากูพูดอะไร”



            “กูไม่รับ ไม่รู้!!”  ผมบิดข้อมือของตัวเองออกจาการจับกุม “ปล่อยสิวะ”



            “กูเชื่อว่ามึงเองก็ไม่ลืมสัมผัสของกูเหมือนกัน” เหี้ยยยย!! ไปเอาความมั่นใจของมึงมาจากขุมไหน ผมชะงักกึกเมื่อใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ผม



            “ไอ้ห่า!! ไอ้สัด ไอ้เหี้ย!!” ผมดิ้น



            “ด่าไปเหอะ กูยินดีให้มึงด่าได้เต็มที่”



            “เหี้ย!!”



            “เพราะต่อจากนี้กูจะทำให้มึงยอมเป็นเมียกูให้ได้”



            “เหี้ยยย!!” แรงบีบมือของมันแรงขึ้น



            “กูจะเลี้ยงมึงทุกอย่าง”



            “.......” ผมยังบิดข้อมือของผมออกจากมัน



            “กูจะซื้อชานมไข่มุกมาถวายมึงทุกวัน...” ไอ้สัด กูไม่ได้เห็นแก่กินอย่าเอามาล่อ!



            “........”



            “ไม่กินเหรอ ของฟรีนะ”



            “..........”



            “ร้านมิมิ ไข่มุกชาแท้ด้วย..” ร้านโปรดผมเลยว่ะ แก้วละตั้ง 50 บาท...แต่ผมก็ไปซื้อกินบ่อยอยู่ดี



            “ใส่ไข่มุกด้วย” ผมเผลอตอบ เหี้ย...ไอ้เสามึงจะแพ้ทางของกินไม่ได้นะเฟ้ย...



            “อือ ใส่ให้แบบพิเศษไปเลย” ไอ้นนท์ทำท่าใจป้ำ



            “...............”



            “ตกลงแล้วนะ” มันกระซิบ ผมมองงง ๆ ตกลงเชี่ยไร!



            “หา?”



            “ตกลงจะคบกัน” กูพูดตอนไหนฟายยยยยย....



            “คบเหี้ยไร! กูบอกจะกินแค่ชานมไข่มุก” ก็มึงพูดเองจะซื้อชานมให้กู!!



            “ก็คบกับเหี้ยได้กินชานมไข่มุกทุกวันนะ”



            “ไม่โว้ย!! ไอ้สัดนนท์ปล่อยกู” ผมดิ้นออกจากมันจนได้ อันที่จริงมันปล่อยต่างหาก



             “กูไม่คบกับมึงจบนะ อย่าวุ่นวายกับกู”



            “ไม่อ่ะ กูเหี้ยกูเลยไม่ฟัง...” อ้าวไอ้สัด...ด่าตัวเองก็เป็น



            “เรื่องของมึง”



            “เสา กูจะซื้อชานมไข่มุกมาฝากทุกวันนะ จนกว่ามึงจะใจอ่อนให้กู...” ไอ้นนท์พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้มกระชากใจสาว...กูไม่เห็นจะชอบมันสักนิด ไอ้รอยยิ้มที่แจกสาว ๆ ไปทั่ว!ผมยกเท้าจะถีบมันทีเล่นทีจริงเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้นนท์ที่เดินออกไปจากห้องของผม





            ...กูจะไม่ใจอ่อนให้มึงหรอกไอ้สัดนนท์เอ๊ย ผมจะได้กินชานมไข่มุกฟรีทุกวัน โฮะ ๆ...กำไรผมเห็น ๆ



            ...มันจะเป็นกำไรของผม หรือของไอ้นนท์กันแน่วะ...อันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ





          [จบพาร์ตของเสา]







.....................................+++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

#คู่นี้พอหอมปากหอมคอไปก่อน เดี๋ยวเอามาเเทรกความฟินต่อออ >> ตอนต่อไปจะกลับไปหาน้องหมูกับพ่ี่ศิลาเเล้วค่าา ^^

+++  ทำไมไรท์รู้สึกอย่างกินชานมไข่มุกขึ้นมาาาา 555555555555 เสามีชานมกินทุกวันเลยยยย  :pig4: :L1: :กอด1: :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ ModSii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1: น่ารักทั้ง 2 คู่เลยค่ะ

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พาร์ตเสาน่ารักมากๆๆๆๆๆชอบๆๆแต่ในใจก็ยังมีนาย..หมูกับศิลาอยู่นะ5555

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wasu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รักคู่นี้ น่ารักกกกกก

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13 คู่นี้ก็น่าร้กค่ะ...ชอบ :mew1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:




มนต์รักชานมใข่มุก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:


เสาน่ารักกก แบบไม่รู้ตัวดิ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 14



            [พาร์ตของศิลา]



            บรรยากาศบนรถเงียบโคตร ๆ ...ไอ้หมูมารับผมตั้งแต่เช้า นี่ผมว่าจะโทรบอกไอ้เสาซะหน่อยแต่แม่งปิดเครื่องหายไปไหนตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่รู้ ผมเลยโทรหาไอ้นนท์แทนก็เลยรู้ว่าไอ้เสาไข้ขึ้นครับ...นี่ก็กำลังงงว่าคนอย่างไอ้เสาเนี่ยนะเป็นไข้ ปกติเห็นมันตากฝนก็ไม่เห็นกระหม่อมมันจะบางขนาดนั้น แต่ก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมันมาก มันมีไอ้นนท์ดูแลอยู่ เหอะ ๆ ...เดี๋ยวผมจะเอาไว้ไปล้อไอ้เสา...โทษฐานชอบล้อผมกับไอ้หมูดีนัก (มีความพาลเพื่อน)



            หมูที่ขับรถไปสักพักก็เหลือบมามองผมเป็นระยะ ๆ ก่อนมันจะเปิดปากทำลายความเงียบ



            “พี่ศิลา เดี๋ยวเราแวะปั้มกันไหม ซื้อขนมมากิน” ไอ้หมูว่า ผมเลยไม่ได้คัดค้านอะไร มันเป็นเด็กน้อยรึไงครับ ถึงต้องมีขนมมากินตามทาง



            ผมกับไอ้หมูมาถึงปั้ม หมูมันก็เช็คลมยางของรถมัน ส่วนผมก็เข้าไปซื้อขนมในเซเว่น ผมออกมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่...กูจะซื้อมาเยอะทำไมยังงงตัวเอง ประเด็นคือไม่รู้ว่าไอ้หมูมันชอบอะไรไง...เออ จะว่าไปผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากเลยแฮะ...แบบว่าคนรู้จักกันก็ต้องรู้ประวัติหน่อยใช่ไหมล่ะ...



            หมูเห็นผมเดินกลับมาก็ยิ้มและช่วยผมถือของขึ้นรถ ไอ้หมูขับรถต่อไปที่บ้านของผมที่อยู่ห่างออกไปสักหน่อย ก็ไม่ถือว่าไกลมากนัก...



            “นี่ ไอ้หมูกรอบ” ผมแกะเลย์มาเคี้ยวกินตุ้ย ๆ



            “ครับ?”



            “บ้านมึงทำกิจการอะไรเหรอ” ผมถาม ไอ้หมูยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ผมถาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมรู้ หน้าไอ้หมูมันแสดงออกมาทุกอย่างเลยล่ะ...ไอ้เชี่ย กูก็แค่ถามดูไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ....



            “ดีใจจังที่พี่ถามเรื่องของผม...” ผมเหลือบตามองมันดุ ๆ ไอ้หมูก็หัวเราะ “แม่ของผมอยู่บ้านเป็นแม่บ้านรอผมกับพ่อกลับบ้านครับ พ่อของผมเป็นประธานธนาคาร YOU ครับ” ผมตาโต...เชรด ธนาคาร YOU ที่มีเงินคลังเยอะที่สุดติดอันดับที่สองน่ะเหรอ...ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้หมูมันเป็นลูกเจ้าของธนาคารดัง!!



            “พี่ศิลาครับ ขนมจะหลุดจากมือแล้ว” ก็กำลังอึ้งอยู่...ผมหยิบมากินต่อ



            “สมแล้วล่ะ ดูจากหน้ามึงแล้ว น่าจะมาจากตระกูลดัง...” ผมว่า หมูยิ้ม



            “ครับ ที่ดังน่ะ มันเป็นของที่พ่อผมสร้างไว้...ถ้าพูดถึงตัวของผมตอนนี้ ก็ยังเป็นผู้ชายธรรมดาอยู่เลย” ไอ้ถ่อมตัว...   แต่ก็ยอมรับแหละครับว่า ไอ้หมูมันก็มีคุณสมบัติดีอยู่ในตัวหลายอย่าง ถึงแม้ผมจะเพิ่งรู้จักกับมันไม่นาน...ทั้งหน้าตาดี โปรไฟล์โอเค ฉลาด นิสัยก็ดี แถมบ้านรวยอีก จนมันคว้าตำแหน่งเดือนมหาลัยมายังไงล่ะ...



            “มึงบอกว่าแอบมองกูใช่ไหม แสดงว่ามึงก็คงรู้ว่าครอบครัวกูทำอะไร” ผมถาม ไอ้หมูก็เลยเหลือบมามองผมยิ้ม ๆ ...ยิ้มบ่อยไปไหมวะ หุบบ้างก็ได้หน้าจะบานหมดแล้วไอ้หมูกรอบ!



            “รู้ครับ ครอบครัวพี่ศิลาขายพวกของตกแต่งบ้านรายใหญ่ แถมส่งออกต่างประเทศด้วย พี่ศิลามีพี่ชายสองคน พี่ศิลาเป็นน้องชายคนเล็ก และเป็นหมวยเล็กประจำบ้าน” ไอ้หมูอธิบายละเอียดยิบ เชี่ย      ผมว่ามันรู้ดีกว่าผมรู้ตัวเองอีกอ่ะ...       รู้เยอะมาก



            “มึงรู้เยอะเนอะ” ผมว่า ก่อนจะได้ยินเสียงเบา ๆ จนผมไม่ได้ยิน ไอ้หมูที่เหมือนหลุดปากพูดออกมา



            “ก็ถามเฮียใหญ่มา...”



            “มึงว่าอะไรนะ?” ผมหันขวับไปหามันที่ทำท่าสะดุ้งเล็กน้อย



            “อ๋อ...เออ ก็ผมแอบมองพี่ศิลามาหลายปีไงครับ ก็เลยรู้เยอะ....” มันยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม



            “ทำตัวเป็นโรคจิตดีนะมึงเนี่ย...” ผมพูดแค่นั้น ไอ้หมูก็ได้แต่ยิ้มแบบภูมิใจ...เออ คือ มึงยอมรับใช่ไหมว่ามึงเป็นโรคจิต...





            ผมกับไอ้หมูไม่ได้พูดอะไรกันมากจนพวกเรามาถึงบ้านของผมนี่แหละครับ ถือว่าไอ้หมูมันขับรถเร็วพอสมควร ผมมาถึงบ้านประมาณบ่ายโมง ไอ้หมูจอดรถหน้าบ้านของผม พวกเราลงไปจากรถ ไอ้หมูเปิดหลังรถของมันจะหยิบกระเป๋าของผม ผมเลยคว้าไว้



            “เดี๋ยวผมถือให้พี่ศิลาเอง..” ไอ้เชี่ยกูไม่ใช่ผู้หญิง ผมแย่งเป้มาหิ้วไว้เอง



            “ไม่ต้อง กูถือเองได้” ไอ้หมูทำท่าจะไม่ยอม นี่จะมายืนเถียงกันหน้าบ้านทำไมวะ....ก่อนเสียงเข้มจะเรียกความสนใจของผมกับไอ้หมู



            “เฮ้ย หมวยเล็กของเฮียยย....กลับมาละเหรอ ใครมาส่ง...ไอ้” ผมหันไปมองเฮียใหญ่ที่เดินออกมาแล้วชี้หน้าไอ้หมูอึ้ง ๆ ส่วนไอ้คนที่ยืนข้างผมก็ส่ายหน้ารัว...มึงจะส่ายหน้าทำไมไอ้หมู?



            “ออ เออ ไอ้...ไอ้นี่ใครหมวยเล็ก เฮียรึว่าเสาจะมาส่งซะอีก” เฮียใหญ่ทำหน้าเข้มถาม ปกติเวลาผมกลับบ้านถ้าป๊าไม่ไปรับเอง ไอ้เสาก็จะมาส่งครับ



            “อ๋อ ไอ้นี่รุ่นน้องผมอ่ะเฮียใหญ่ ส่วนไอ้เสามันไม่สบายเลยไม่ได้มาส่ง ป๊ากับม๊าล่ะ...” ผมถาม เฮียใหญ่ก็เข้ามาหิ้วเป้ช่วยผม...นั่นไงครับ ชอบคิดว่าผมแบกไม่ได้ ไอ้หมูยกมือไหว้เฮียของผม



            “เฮียใหญ่หมวยเล็กถือเองได้” ผมปฏิเสธเฮียเหมือนตอนไอ้หมูจะมาขอช่วยถือ แต่เฮียใหญ่ของผมเด็ดขาดแย่งกระเป๋าจากผมไปถือไว้เฉยเลย



            “ไม่ได้ เอามาเลยหมวยเล็กเข้าบ้านไปหาป๊าไป...มึงก็เดินตามเข้าไปละกัน” ผมมองไอ้หมูที่ทำหน้าเหงื่อตกนิดหน่อย เป็นอะไรของมันอีก ร้อนเหรอ? ผมพยักหน้าให้เฮียใหญ่และลากไอ้หมูที่ยืนเกร็งอยู่ต่อหน้าเฮียของผมเข้าไปในบ้าน



            “เวลาพี่ศิลาเรียกตัวเองว่า หมวยเล็กน่ารักจังครับ...” ไอ้หมูกระซิบทำให้ผมชะงัก...เออว่ะ ลืมตัว ปกติผมก็เรียกแทนตัวเองว่า หมวยเล็กแหละครับ เรียกตามที่คนในบ้านเรียกประจำ



            “อย่าพูดมาก” ผมดุ เดินก้าวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ก็ได้ยินเสียงของม๊าที่ดังลอดออกมาจากห้องรับแขก



            “ป๊า ขนปืนออกมาทำไมเยอะแยะ” ไอ้หมูที่เดินตามผมมาสะดุ้งด้วยแหละ (?)



            “ก็แค่เอามาเช็ดไงม๊า...โอ๊ะ หมวยเล็กของป๊า!!” ผมที่อยู่หน้าประตูห้องรับแขกยิ้มรับ ป๊า..ผู้ชายหน้าคมผมยังดำสนิท คิ้วเข้มมองผมด้วยความดีใจและวิ่งเข้ามากอดผมไว้อย่างทนุถนอม



            “มาแล้วเหรอ แล้วนี่เหนื่อยไหม ? เมารถไหม หมวยเล็ก...เอ๊ะ มากับใคร?” ป๊าของผมพูดเสียงนุ่มกับผมก่อนจะหันไปทำเสียงเรียบใส่ไอ้หมูที่ยืนอยู่ข้างผม มันยกมือไหว้ป๊ากับม๊าที่มองตาปริบ ๆ อย่างสงสัย



            “นี่รุ่นน้องน่ะครับ มันมาส่งผม” ผมบอก ป๊าของผมยังคงจ้อง...ผมเกือบหลุดขำไอ้หมูที่ดูเหงื่อตก



            “ผม หมู ครับ...เป็นรุ่นน้องของพี่ศิลา” มันแนะนำตัว



            “หมวยเล็กมีรุ่นน้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย” ม๊าของผมพูดอย่างตื่นเต้น



            “ป๊าไม่เห็นว่ามันจะหล่อตรงไหน” จึก...ฮ่า! ป๊าของผมพูดถูกใจจัง...ไอ้นี่เดือนมหาลัยเชียวนะป๊า ผมเหลือบมองหมูที่ยิ้มพิมพ์ใจตามสไตล์ของมัน ไอ้นี่ไม่ว่าอะไรมันก็จะยิ้มเสมอ....



            “อะไรกันป๊า เห็นไหม อุ๊ย...ยิ้มด้วย แถมมาส่งหมวยเล็กให้เราด้วย น่ารักจังจ๊ะ ขอบคุณมากนะ” ม๊าของผมยิ้ม ส่วนป๊าของผมจ้องไอ้หมูนิ่ง...



            และหันมามองผม



            “หมวยเล็กขึ้นไปบนห้องนอนก่อนไป ไปพักผ่อน” ป๊าบอกก่อนจะพูดกับไอ้หมู “ส่วนไอ้หมูนี่เดี๋ยวป๊าจะไปหาห้องรับแขกให้มันอยู่”



            “อ้าว ป๊าทำไมไม่ให้หมูนอนกับหมวยเล็กล่ะ” ม๊าของผมขัดขึ้น ก่อนผมกับป๊าจะพูดพร้อมกัน



            “ไม่ได้!!” ป๊าของผมเสียงเข้มเด็ดขาด



            “แยกห้องแหละดีแล้วม๊า” ผมก็แอบสะดุ้ง...ส่วนไอ้หมูที่ยืนอยู่ก็ยิ้มแห้ง



            “ผมนอนที่ไหนก็ได้ครับ....” ไปนอนที่โรงจอดรถดีไหมล่ะ...ผมประชดเฉย ๆ ฮ่า!





            ผมกับไอ้หมูเดินเข้ามาภายในห้องนอนของผม เนื่องจากม๊าบอกให้มันเข้ามารอในห้องของผมก่อน ระหว่างที่หาห้องรับแขกให้ไอ้หมูนอน หมูมองไปรอบห้องของผมอย่างสนใจ...กูคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้มันตามเข้ามา....



            “ห้องพี่ศิลาเรียบร้อยจัง...” แน่นอนก็ผมเป็นคนเรียบร้อย โฮะ ๆ ผมมองมันที่มองเหมือนสนใจมาก....ไอ้นี่ อย่ามาทำหน้าโรคจิตให้ป๊ากูเห็นนะเว้ย...



            “เฮ้อ...” ผมหันไปมองมันที่ถอนหายใจ



            “ถอนหายใจทำไม”



            “ดูเหมือนป๊าพี่ศิลาจะหวงหมวยเล็กของบ้านมากเลยนะครับ...ผมจะเข้ากับป๊าพี่ได้ไหม อุตส่าห์ได้มาบ้านพี่ทั้งที...” ผมชะงักกึกกับแววตาของมันที่มองผมอย่างมีความหมาย...เชี่ย อย่ามามองกูแบบนี้!



            ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด...มองไปเหอะ (เหรอครับไอ้ศิลา)



            “ป๊ากูก็ไม่ได้ดูใจร้ายกับมึงนี่” ผมว่าพลางนั่งลงตรงเตียงนอน ส่วนไอ้หมูมันก็นั่งลงที่พื้น...เออ สำรวมดีเนอะ รู้ว่าควรนั่งตรงไหนด้วย ฮ่า ๆ...



            “ไม่ใจร้าย...แต่ก็พร้อมจะไล่ผม ถ้ารู้ว่าผม...จะมาสู่ขอพี่ศิลาไง” ผมหันขวับไปมองมันที่เงยหน้าคุยกับผม รอยยิ้มมุมปากกวนของมัน ขัดหูขัดตาของผมมาก...ยิ่งคำพูดของมันด้วย!



            “สู่ขอเชี่ยไรของมึง” พล่ามเรื่องไร้สาระอีกแล้ว จีบกูยังไม่ทันจะติด ยังมีหน้าจะมาสู่ขอ...อ้าว แล้วกูจะมาคิดเรื่องสู่ขอกับมันทำไมวะ....ศิลาครับ สติอยู่ไหน



            “ผมว่าถ้าพูดกับป๊าพี่ ป๊าคงบอกว่าก้าว” ผมที่ได้ยินก็เลิกคิ้ว เก้า...? เก้าล้านบาทค่าสินสอด โฮะ ๆ ค่าตัวแพงดี (เดี๋ยว ๆ กูจะไปตีค่าตัวของตัวเองทำไมวะ)



            “ก้าวเข้ามาบ้านพี่อีก โดนยิง” ...แป๊ก ๆ มุขที่ถูกยิงออกมาสมควรที่จะโดนปืนของป๊าผมยิ่งมาก ! ไอ้เชี่ยหมูกรอบ...เดือนติ๊งต๊อง



            “เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ เดี๋ยวมึงก็ได้โดนยิงจริง ๆ ไอ้เชี่ยหมู” ผมว่า จริง ๆ ก็กลัวคนจะมาได้ยินและคนที่จะโดนยำเละไม่ใช่ผม....แต่เป็นไอ้หมูกรอบต่างหาก ก็บ้านผมมีทั้งป๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผู้หวงน้องชายยิ่งกว่าอะไรดี



            หมูหัวเราะออกมาเหมือนชอบใจ พวกผมนั่งเล่นอยู่ในห้องสักพักม๊าก็มาตามพวกผมลงไปทานข้าวด้วยกัน ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งป๊า...ม๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผม...และที่เพิ่มมาคือ ไอ้หมูกรอบ



            คนที่ดูจะเกร็งที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคนที่ไม่ใช่ครอบครัวของผม ไอ้หมูกรอบมันได้นั่งข้างเฮียกลางครับ มันนั่งอยู่ตรงข้ามผม หมูยิ้มให้ผมที่นั่งตรงข้ามมัน ก่อนไอ้หมูจะหยุดมองเมื่อเฮียใหญ่ที่นั่งข้างผมเอามือมาโอบไหล่ผมเข้าไปซบไหล่เฮียแกเหมือนตอนเด็กที่เฮียชอบทำ



            “คิดถึงหมวยเล็กชะมัดเลยว่ะ เป็นไงบ้างที่มหาลัย?”



            “ใหญ่อย่ากวนน้อง” ป๊าห้ามปราม “หมวยเล็กทานเยอะ ๆ นะลูก” ป๊าบอกต่อพลางเลื่อนจานอาหารที่แสนน่าอร่อยมาให้ผม



            “โหย ก็คิดถึงไอ้หมวยเล็กนี่....” เฮียใหญ่บ่น “มึงก็กินเยอะ ๆ ล่ะไอ้หมู ทำตัวตามสบาย....” เฮียใหญ่บอกแต่น้ำเสียงเฮียแบบว่า ไม่ได้สอดคล้องกับคำว่าทำตัวตามสบายสักนิด ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเล็ก ๆ ...แอบสงสารมันว่ะ พามันมาให้ลำบากใจรึเปล่านะ...



            ระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่ คนที่เงียบที่สุดดูจะเป็นไอ้หมูที่ตักข้าวทานอย่างเงียบ ๆ ป๊าที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ (ใหญ่ที่สุดในบ้าน) ถามขึ้นทำให้คนทั้งโต๊ะสนใจไปที่คนที่ถูกถาม



            “ว่าแต่ ไอ้หมู นายเป็นลูกเต้าเหล่าใครกัน มาจากไหนรู้จักหมวยเล็กได้ยังไง” ...เชี่ย ป๊าถามรัวมาก



            “ผมเป็นลูกชายของประธานธนาคาร YOU ครับ...รู้จักตอนอยู่ที่คณะครับ” ผมมองมันตอบเหมือนประมวลความคิดหนักมาก...เพราะถ้าพลาด โต๊ะอาหารนี้อาจกลายเป็นโต๊ะสงครามได้



            ...ผมจะมานั่งลุ้นกับไอ้หมูทำไมกันล่ะเนี่ย...



            “อยู่คณะวิศวะเหมือนหมวยเล็กเหรอ?” ป๊าถามต่อ ไอ้หมูที่ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบทันที



            “เปล่าครับ ผมเรียนคณะแพทย์...”



            “แล้วมาเจอหมวยเล็กที่คณะได้ยังไง...” เชรด...ป๊าถามกลับอย่างรวดเร็ว ไอ้หมูก็ชะงักกึกไป เออ มึงอยู่คณะแพทย์แล้วมาเจอกูได้ยังไง....ผมรับรู้ว่ามันกำลังเริ่มเหงื่อตก



            ผมเลยพูดขึ้นแก้สถานการณ์นี้



            “ป๊า! ของหวานอันนั้น...ผมอยากกิน” ผมชี้ของหวานที่อยู่ข้างป๊าทำให้ป๊าเลิกสนใจไอ้หมูและหันมาหาผมแทน



            “โอ๊ะ ม๊าหมวยเล็กทำนั่นแหละ ทานไหม ป๊าตักให้”



            “ครับ ตักมาเยอะ ๆ นะ” ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเหมือนขอบคุณที่ช่วยมันให้รอดพ้นจากการซักถามของป๊าไปได้....และบทสนทนาสอบถามไอ้หมูก็จบลงเท่านั้น



            ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องก็มองหาไอ้หมูที่หายไปไหนก็ไม่รู้ ห้องนอนมันเต็มหมดแล้วล่ะครับ ไอ้หมูก็เลยได้นอนที่โซฟาหน้าห้องของผม ผมเลยว่าจะให้มันไปเอาผ้าห่มในตู้ของผมมาห่ม และผมก็เจอไอ้หมูที่ยืนคุยกับเฮียใหญ่อยู่ ? ผมเดินเข้าไปใกล้ได้ยินอะไรไม่ชัดสักนิดเพราะทั้งสองคนหันมาหาผมที่เดินเข้าไปใกล้ซะก่อน



            “ไอ้หมูกูว่ามึงรนมาหากระสุนปืนของป๊าเร็วไปมะ....” พูดไรวะ ผมไม่ได้ยิน “อ้าว! หมวยเล็ก....” เฮียใหญ่หยุดพูดกับไอ้หมูหันมาหาผมแทน



            “ไอ้หมูกูหามึงตั้งนาน คุยอะไรกันอยู่เฮีย”



            “เปล๊า...พอดีกูก็ถาม ๆ ไอ้รุ่นน้องของหมวยเล็กเฉย ๆ ว่าตอนขับรถมามันติดไหม” เฮียใหญ่แถออกมา ผมเลยเลิกคิ้ว



            “เหรอครับ ? ....” เฮียใหญ่พยักหน้าก่อนจะขอตัวไปนอน ผมมองไอ้หมูที่กำลังยิ้มมุมปาก



            “ตามหาผมเหรอ”



            “เออ จะให้ไปเอาผ้าห่มที่ห้อง” ผมเดินนำมันไป ไอ้หมูก็เดินตามมาติด ๆ



            “คิดว่าจะชวนนอนด้วยกันที่ห้องซะอีก” มันพูดทีเล่นทีจริง



            “เตียงมันเล็กไหมล่ะ จะนอนยังไง” ผมตอบอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่ประโยคที่ไอ้หมูตอบมา ทำให้ผมเริ่มคิด



            “แสดงว่าถ้าเตียงใหญ่...นอนด้วยได้เหรอ” เสียงเข้มที่ดังใกล้หูทำให้ผมมองหมูตาขวาง มันเลยหัวเราะและถอยออกไปห่างจากตัวผม ไอ้นี่...แม่ง ยังมีหน้ามาเล่นหูเล่นตากับผม เดี๋ยวก็เจอป๊าไล่ออกจากบ้าน....



            “เอาไปเลยมึงอ่ะ!” ผมโยนผ้าห่มให้มันพร้อมกับดันหลังมันให้ออกไปจากห้องนอนของผม ไอ้หมูทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมออกไปจากห้องของผมแต่โดยดี ผมคว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเองและเข้าไปในห้องน้ำพลางคิดว่า...ทำไมผมถึงพาไอ้หมูมาบ้านนะ ทั้ง ๆ ที่ผมให้ป๊ามารับก็ได้ แต่กลับเลือกที่จะให้หมูมาส่ง นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่....อยากให้มันรู้จักครอบครัวของผมงั้นเหรอ...เชี่ยยย... กูไม่ได้คิดแบบนั้น ผมสะบัดหน้าของตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำ



            ใช้เวลาไม่นานมากนัก ผมก็อาบเสร็จและมานั่งตัวหอมฉุยอยู่บนเตียง ผมอยู่ในเสื้อยืดสีเทาที่ตัวใหญ่กว่าผมหน่อยเลยทำให้ผมดูตัวเล็กลงไปเลย กับกางเกงขาสั้นตัวโปรด ผมเอาแว่นมาใส่วงกลมที่วางอยู่หัวเตียงมาใส่แล้วเปิดโน๊ตบุ้คหาดูหนังเล่น



            ก๊อก ๆ



            “พี่ศิลา...หลับรึยังครับ?” เสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงไอ้หมูทำให้ผมขมวดคิ้ว มันจะมาเคาะทำไม ผมก้าวลงจากเตียงแล้วไปเปิดประตู ไอ้หมูมองอึ้ง...มันดูอึ้งมาก ผมที่อยู่ในสภาพเสื้อตัวใหญ่กว่าตัวจนบังกางเกงขาสั้น กับแว่นกลมที่เข้ากับหน้าพอดีเป๊ะ...อาหมวยเล็กดี ๆ นี่เอง เชี่ย...กูจะบรรยายตัวเองให้ดูแบ๊วทำไม



            “โคตรน่ารัก...”
หมูพึมพำแต่ผมก็ได้ยิน ผมจะปิดประตูใส่มัน ไอ้หมูรีบเอาแขนมากั้นไว้ ไอ้นี่ เดี๋ยวประตูก็หนีบแขนหรอก



            “อะไรของมึง เคาะประตูทำไม”



            “อยากคุยด้วย ผมนอนไม่หลับอ่ะ...” มันทำตาปริบ ๆ นอนไม่หลับแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ! “นะ นะ ขอเข้าไปนั่งคุยกับพี่ศิลาแป๊ปเดียว”



            “กูไม่อยากคุยไง จะนอน”



            “พี่ศิลา....” มันอ้อน ไอ้เชี่ยหมู!....กูไม่ใจอ่อนหรอกนะกับไอ้ลูกอ้อนของมึงงงง....



            “ผมนอนไม่หลับจริง ๆ นะ เครียดเรื่องพี่ด้วย” ไอ้หมูทำหน้าเครียดจริง...เครียดเชี่ยไรของมันนักหนา....สุดท้ายผมก็ยอมเปิดประตูให้มันเข้ามาจนได้ ผมเดินหันหลังเดินเข้ามาในห้อง



            “มึงนี่มันวุ่นวายชิบ จะเครียดเรื่อง...เชี่ยหมู!!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ไอ้หมูกอดผมจากด้านหลัง คืออะไรของมันนนนนน....กอดกูทำไมมมมมมมมม.....



            “อย่าเพิ่งเสียงดังสิ ขอกอดกำลังใจนิดเดียว” ไอ้เชี่ยยยย...ผมจะดิ้นแต่แรงไอ้นี่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนเยอะ (หรือจริง ๆ แรงของผมน้อย)



            “เพิ่งเคยเห็นพี่ศิลาตอนอาบน้ำเสร็จ แถมยังใส่แว่นน่ารัก ๆ แบบนี้อีก...สมแล้วที่เป็นหมวยเล็ก”



            “ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกู เลิกเล่นได้แล้ว” ผมแกะมือมันออกแต่กลับถูกหันไปเผชิญหน้ากับไอ้หมูแทน



            เหี้ย...ตกใจนะเว้ย ใบหน้าหล่อคมที่อยู่ใกล้ผมทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ... วูบวาบอะไรของมึงครับศิลา!!



            “ถามจริง ๆ นะครับ ตอบจริง ๆ ด้วย” เกลียดการถามคำถามแบบจริงจังชะมัด



            “ถามอะไร แล้วก็ช่วยปล่อยมือจากเอวกูด้วย” ผมพูดเสียงเข้ม...แต่แม่งไม่เข้มสักนิด หมูไม่คลายมือของมันออกแถมเลื่อนมาโอบเอวของไว้ด้วย...ไอ้เชี่ย...ปล่อยโว้ย ผมไม่กล้าตะโกนเพราะเดี๋ยวป๊ากับม๊าตื่นมากันพอดี



            “ไม่ครับ ไม่ปล่อย...” ไอ้หน้าด้าน...แล้วทำไมผมต้องยื่นอยู่นิ่ง ๆ ในอ้อมกอดของไอ้หมูกรอบด้วย ก็เพราะว่า...ถ้าผมขยับนิดเดียวแก้มของผมจะโดนปากของไอ้หมูทันที....เชี่ยมาก



            “รีบพูด” ผมเร่ง แววตาคมเข้มจ้องหน้าผมใกล้มากกกก....ผมที่ใส่แว่นก็เห็นหน้ามันชัดมากกก



            “เมื่อไหร่พี่ศิลาจะยอมคบกับผมสักที...” อ้าว...ไอ้นี่ มาถามอะไรตอนนี้วะ ถามผิดเวลาผิดที่มาก!



            “...............”



            “ผมรอได้นะ แต่บางทีผมก็อยากเรียกพี่ชัด ๆ ว่าแฟนบ้าง...อยากมีโมเมนต์ที่บอกว่า พี่ศิลาเป็นแฟนของผมไรงี้” เสียงทุ้มที่ดังใกล้หู...ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า มาพูดกรอกหูกูทำไมวะ!...คำว่าพี่ศิลาเป็นแฟนของผมของไอ้หมูเหมือนวนดังซ้ำในหูของผม ผมแม่ง...ใกล้บ้าเต็มทน (หรือจริง ๆ บ้าอยู่แล้ว)



            “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ” ผมเลี่ยง ๆ จะตอบ...



            ก็ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้นี่...รู้ว่าไอ้หมูมันจีบแต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่อง ‘ตกลงคบ’ ผมก็เหวอเหมือนกันนะ จู่ ๆ ผู้ชายด้วยกันมาพูดแบบนี้!



            “แล้วเมื่อนั้น ตอนไหนล่ะ” ไอ้หมูมันจงใจจะกวนตีนผมใช่ไหม มันยกยิ้มพร้อมกับมือหนาที่กอดเอวของผมแน่นขึ้น บรรยากาศทะแม่ง ๆ ชิบ....



            “ตอนนั้นแหละ อย่าถามมากได้ไหมวะ!” ผมดันมันออกนิด ๆ อย่างเว้นระยะห่าง ไอ้หมูยิ้ม



            “ไม่กวนก็ได้...แต่บอกไว้เลยนะว่าผมจะรุกหนักกว่าเดิม ผมจะทำให้พี่ดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ” มันประกาศขึ้นด้วยความมั่นใจ ไม่ทราบว่ามึงไปขนความมั่นใจมาจากไหนนนน....และระหว่างที่ไอ้หมูเอามือกอดเอวผมไว้ยังกับปลาหมึก



            ก็มีเสียงเหมือนเสียงขู่ดังขึ้นด้านหลัง...ผมซึ่งตัวเตี้ยกว่าไอ้หมูก็เลยไม่เห็นอะไรข้างหลังมัน



            “พี่ศิลา บ้านพี่เลี้ยงหมาน้อยด้วยเหรอ?” ผมเลิกคิ้ว หมาน้อยไรของมัน...



            “ทำไมผมได้ยินเหมือนเสียงอะไรขู่ข้างหลังผมล่ะ” พอไอ้หมูพูดจบเท่านั้นแหละ มันก็รีบปล่อยมือออกจากเอวของผมโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงเข้มดังขึ้นด้านหลัง



            “บ้านหมวยเล็กไม่ได้เลี้ยงหมา เสียงขู่เมื่อกี้เสียงป๊าเอง....” ไอ้เชี่ยยย....คนที่ยืนเท้าเอวอยู่ด้านหลังไอ้หมูคือ ป๊าของผมเอง...เฮือก...ไอ้หมูทำหน้าอึ้ง จะสงสารก็สงสารจะขำก็จะขำ...โอ๊ย



            “แล้วนี่กอดเอวหมวยเล็กไว้ทำไม!!” และป๊าก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมตาโต เหี้ยแล้ว...ป๊าเห็น



            ไอ้หมูหน้าซีดไปเรียบร้อยหลักฐานชัดเจนแบบว่า เถียงไม่ได้



            “หมวยเล็กเข้านอนได้แล้ว ส่วนไอ้หมูตามป๊าไปที่โรงงานข้างล่าง” ป๊าใช้นิ้วชี้ไปที่ไอ้หมูกรอบ



            “ป๊าจะให้ไอ้หมูไปทำไม...ผมไปด้วย” ผมรีบถามด้วยความ(แอบห่วงนิดหน่อย)...จริง ๆ ด้วยความอยากเผือก



            เฮียใหญ่ที่เดินมาแบบไม่ได้รับเชิญก็เลิกคิ้วขึ้น ยังไม่ทันที่เฮียใหญ่จะพูดอะไร ป๊าก็หันไปสั่ง



            “มาก็ดีไอ้ใหญ่ คืนนี้นอนกับหมวยเล็กในห้องนี้ละกัน...”



            “อ้าว จะให้ผมมานอนเป็นเพื่อนหมวยเล็กทำไมอ่ะป๊า?”



            “มีคนมากระตุกหนวดเสือ สงสัยต้องทำให้มันหลาบจำซะหน่อย...” ป๊ามองไปที่ไอ้หมูที่เหลือบมองผมยิ้ม ๆ มึงยังมีหน้ามายิ้มอีกเหรอไอ้ฟายยยย....ส่วนเฮียใหญ่ก็ทำตาโตนิด ๆ ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าไอ้หมูกับเฮียใหญ่เหมือนจะรู้จักกัน...



            ป๊าเดินนำหน้าออกไป ผมมองไอ้หมูที่กำลังจะเดินตาม มันหันมามองหน้าผมแวบหนึ่ง



            “ผมจะรีบกลับมาหาพี่ศิลานะ” ไอ้เชี่ย...เฮียใหญ่ก็อยู่ด้วยนะเว้ย แต่เฮียผมไม่ยักจะทำหน้าแปลกใจ



            “เออ รีบกลับมา”  เอาชีวิตให้รอดกลับมาด้วยนะมึง...หมูกรอบจะกลายเป็นหมูย่างไหมวะ...คำตอบของผมเรียกรอยยิ้มดีใจมากเหมือนมันได้กำลังใจ...กูก็พูดไปงั้น...



            ผมมองมันที่เดินออกไปแล้ว จะเป็นไรไหมวะ อยากตามไปดูจัง ผมจะเดินตามแต่ก็โดนเฮียใหญ่ขวางไว้...เฮียแม่งก็ตัวใหญ่กว่าผมจนผมไม่กล้าต่อกร



            “ให้มันผ่านด่านของป๊าให้ได้ด้วยตัวของมันเอง ด่านที่สำคัญที่สุด” คำพูดของเฮียทำให้ผมตาโตอีกครั้ง



            “เฮียรู้เหรอ”



            “รู้สิ ไอ้รุ่นน้องของมึงดูออกง่ายจะตายไป” ก็พูดถูกครับ การกระทำของไอ้หมูดูง่ายมาก...เชี่ย งั้นป๊าก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ...เอาล่ะครับ ผมเริ่มกังวลเรื่องไอ้เชี่ยหมูนั่นขึ้นมาซะละ มันจะรอดความกดดันออกมาได้ไหม...นี่ผมกำลังห่วงมันอยู่เหรอ เปล่าซะหน่อย...ไม่ได้ห่วง



            “เฮียว่าไอ้หมูมันจะรอดไหม” ผมถามเสียงอึกอัก...ทำไมรู้สึกห่วงมันจังวะ หาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ เลยไอ้เชี่ยหมูเข้ามาในห้องกูทำไม!



            “ไม่รู้สิ...ว่าแต่พรุ่งนี้หาซื้อหมูย่างมากินน่าจะอร่อยดีนะ” เฮียใหญ่พูดขึ้นกวน ๆ ผมเลยขมวดคิ้ว



            “เฮียใหญ่!! ผมไม่กินหมูย่าง!!” โอ๊ย...มึงต้องกลับมาสภาพเป็นไอ้หมูกรอบเหมือนเดิมนะเว้ย...



            แต่จริง ๆ ป๊าของผมไม่โหดหรอกครับ อย่ากลัวเลย....






..............................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านนะคะ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:  น้องหมูยังคงต้องสตรองต่อไปค่ะ 55555 ไหน ๆ ก็เข้ามาหาพ่อตาเเล้ว ก็ลุยขอพี่ศิลาไปเลยย 5555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
เป็นกำลังใจให้หมูกรอบ :กอด1:


 o13 o13 o13

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมูกรอบ...สู้ๆๆนะ :call:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
หมูเอ๊ย แกจะรอดจากติงป๊าหมวยเล็กไหมเนี่ย  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมูกรอบ สู้ๆ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 15



             [พาร์ตของหมู]



            เละแน่ ๆ ...คือความคิดของผมตอนนี้ระหว่างที่เดินตามป๊าของพี่ศิลาออกมา หมูกรอบจะกลายเป็นหมูแผ่นแล้วล่ะครับทุกคน....แต่เมื่อกี้ได้กำลังใจจากพี่ศิลามาแล้ว! ผมไม่กลัวหรอก (จริง ๆ กลัว) ก็ป๊าของผู้ชายที่ผมรักเชียวนะครับ...ทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้าซะแล้วรึเปล่าวะไอ้หมู...เสี่ยงต่อการโดนป๊าของพี่ศิลากระทืบ แถมยังเสี่ยงโดนพี่ศิลาโกรธอีก...ก็เพราะผมยังบอกพี่เขาไม่หมดทุกอย่างนี่ว่า ผมรู้จักเฮียใหญ่กับเฮียกลางของพี่ศิลาด้วย....(ก็กะจะบอกแหละแต่เวลาไม่เอื้อ...มึงป๊อดเองครับไอ้หมู)



            ป๊าเดินมาที่โกดังใหญ่ที่อยู่ข้างบ้านของพี่ศิลานี่เอง เป็นโกดังเก็บสินค้าน่ะครับ...เออ ผมกำลังจะโดนซ้อมรึเปล่า   โทษฐานไปแตะต้องหมวยเล็กของบ้านนี้ ผมกำลังคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยก็สะดุ้งป๊าของพี่ศิลาที่หันมาเลิกคิ้วใส่ผม



            “ไม่ต้องมาทำเป็นกลัวขนาดนั้นก็ได้...ป๊าไม่ทำอะไรหรอกน่า ไอ้หมู” น้ำเสียงทุ้มทำให้ผมมองอึ้งกับรอยยิ้มอบอุ่นของป๊าพี่ศิลา และเงิบเข้าไปใหญ่อีกกับประโยคต่อมา เอ๋!!!



            “กว่าจะเข้ามาหาที่บ้านนี่ ก็นานซะจริงเชียวนะ แอบมองหมวยเล็กมากี่ปีแล้วล่ะ?”



            “ปะ...ป๊า รู้เหรอครับว่าผมแอบมองพี่ศิลา..” ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกดดัน



            “หึ รู้สิ ไอ้ใหญ่มันแอบช่วยแกด้วยใช่ไหมล่ะ ฉันเป็นป๊าของไอ้ใหญ่กับไอ้กลางนะ ทำไมป๊าจะไม่รู้ว่าพวกมันสองคนทำอะไรกันอยู่...แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ป๊าไม่ยกหมวยเล็กให้ง่าย ๆ!” ผมสะดุ้งอีกรอบ



            “จะทำยังไงให้ป๊ายอมยกพี่ศิลาให้ผมล่ะครับ” ผมถามแบบหน้าด้านสุด ๆ แอบเหลือบมองแล้วว่าป๊าไม่ได้ถือปืนมาด้วย รอด....



            “โวะ! ไอ้นี่...ไม่ได้กลัวฉันเลยรึไง ฮ่า ๆ มิน่าไอ้ใหญ่มันถึงดูสนับสนุนแกนัก” ผมกลัวครับ...แต่หน้าด้านมากกว่า แฮะ ๆ ผมจริงจังกับพี่ศิลานิครับ ไม่ว่ายังไงผมก็จะสู้ !



            “เออ...ป๊าครับ ผมจริงจังกับพี่ศิลามากนะครับ ถ้าผมจะขอจีบพี่ศิลาต่อ...” ใช้โอกาสที่ป๊ากำลังหัวเราะชอบใจอยู่ ขออนุญาตไปในตัว ผมต้องรีบขอ ๆ เข้าไว้จะได้ผ่านด่านป๊าของพี่ศิลา



            “ฮ่า ๆ แกจะจีบต่อก็จีบไปสิ อ้าว นี่ยังจีบอยู่เหรอ? แล้วเมื่อไหร่จะมีความคืบหน้าล่ะเนี่ย” ประโยคที่ป๊าพูดทำให้ผมอึ้งไปอีกรอบ ราวกับเหตุการณ์กลับตาลปัตร ป๊าไม่ได้ปิดกั้นผมกับพี่ศิลางั้นเหรอ



            “จะบอกให้นะ คิดจะจีบหมวยเล็ก ใช้มุขหวานอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ แกน่ะ...ต้องรู้จักรักษาระยะห่างบ้าง จะได้รู้ไงว่า หมวยเล็กคิดอะไรกับแกรึเปล่า” ป๊าแนะนำผมเหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด....     ผมน้ำตาจะไหลปลื้มใจ ที่กำลังได้ฟังคำแนะนำจากป๊าของว่าที่เมียในอนาคต



            แล้วผมจะไปรักษาระยะห่างยังไงกันล่ะ....แบบว่า ห่างเหรอครับ พอดีผมโง่...เก่งเรื่องเรียนแต่โง่ดักดานเรื่องความรักนิดหน่อย แฮะ ๆ



            และผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเข้มของป๊าพี่ศิลาที่ดังขึ้น



            “แต่!! ที่มากอดหมวยเล็กของป๊าถึงที่บ้านแบบนี้! ไม่ให้อภัย...ป๊าหวงหมวยเล็กของบ้านมากรู้ไหม...แต่ที่ไม่ได้คัดค้านเรื่องการจีบของแกก็เพราะ ป๊าจะให้หมวยเล็กเป็นคนตัดสินใจเอง เพราะป๊าจะเคารพการตัดสินใจของหมวยเล็กเขา ไม่ว่าใครจะเข้ามาก็ตามใจหมวยเล็กเสมอ...."



            “จริง ๆ ป๊าเองก็เลี้ยงหมวยเล็กมาเป็นแบบลูกสาวของบ้าน...ก็เลยแบบว่า อยากให้มีสามีเหมือนกัน ป๊าไฟเขียวนะ แต่เรื่องนี้จะเป็นยังไงต่อก็ขึ้นอยู่กับหมวยเล็กและแกแล้วไอ้หมู....”




            ผมที่ได้ฟังก็ตาโตเท่าไข่ห่าน...อยากจะกระโดดเต้นกลางอากาศสองสามที !! นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ป๊าของพี่ศิลาบอกว่า ไฟเขียวโว้ยยยยย ไฟเขียว.....จะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าป๊าของว่าที่เมียให้โอกาสลุยต่อ



            แต่บอกเลยครับว่า...ป๊าของพี่ศิลาก็แสบไม่ใช่เล่น การลงโทษที่ไปกอดหมวยเล็กของบ้านนี้คือ ป๊าให้ผมไปประกอบตู้ชั้นหนังสือสองสามชั้นที่จะเอาไปส่งลูกค้าให้เสร็จภายในคืนนี้ (ป๊าแกล้งผมชัด ๆ ) โฮก...ชั้นประกอบไม่ใช่ง่าย ๆ แต่ผมก็ไม่ท้อเพราะป๊าดันเสนอว่า



            “ถ้าประกอบชั้นเสร็จ ฉันอนุญาตให้ไปนอนห้องหมวยเล็กได้...” เชรด...เอาพี่ศิลามาล่อแบบนี้ผมก็สู้ตายสิครับ!! แต่ถามว่าพี่ศิลาจะให้ผมเข้าห้องไหม...ค่อยคิดอีกทีละกันเนอะ



            เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังตั้งหน้าตั้งหน้าประกอบตู้อย่างตั้งใจ...เจ็บมือชิบเลย ร้อนด้วย...พี่ศิลาครับหมูร้อนจัง (อยากไปอ้อนพี่ศิลาแบบนี้ ผมจะโดนลูกเตะของพี่ศิลาก่อนไหม...)





            .........................

            ..........................





            [พาร์ตของศิลา]



            ผมมองเฮียใหญ่ที่นอนกระดิกเท้าเล่นเกมอยู่บนเตียงผม ส่วนผมก็นั่งอยู่ข้างเฮีย ผมมองนาฬิกาที่มันจะ 4 ทุ่มกว่าแล้ว...ไอ้หมูยังไม่กลับมาเลยครับ คุยอะไรกันนานจัง



            “เฮียใหญ่ เฮียกลับไปนอนห้องเฮียก็ได้นะ ไม่ต้องมาเฝ้าหมวยเล็กหรอก” เฮียใหญ่เด้งตัวขึ้นนั่งปั๊ป



            “รอให้หมวยเล็กไล่ตั้งนาน โอเค เดี๋ยวเฮียกลับไปนอนห้องเฮียล่ะ” อ้าว...สรุปที่เฮียใหญ่ไม่ยอมไปคือรอผมไล่? เฮียยื่นมือมาขยี้ผมของผมเบา ๆ



            “เป็นห่วงไอ้หมูของหมวยเล็กล่ะสิ” ผมรู้สึกชะงักกึก...คำว่าไอ้หมูของหมวยเล็กเต็มสองหูของผม



            “บ้าเฮีย มันไม่ใช่ของผมซะหน่อย...”



            “รู้ไหมว่าเฮียอยากให้หมวยเล็กของเฮียเจอกับคนดี ๆ เฮียว่าไอ้หมูก็ไม่เลวร้ายอะไรนะ” ทำไมเฮียใหญ่ดูเชียร์ไอ้หมูจังครับ...ผมว่าเกือบทุกคนอ่ะจะพูดว่าไอ้หมูมันดี...จริง ๆ มันก็ดีแหละ ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่ามันนิสัยดีจริง



            “งั้นเฮียไปนอนก่อนละ! ส่วนหมวยเล็กก็นอนได้แล้วนะ” เฮียใหญ่บอกแค่นั้นและเดินหายออกไปจากห้องของผมทันที ผมมองตาม...เฮ้อ จะให้หลับได้ยังไงในเมื่อไอ้หมูมันยังไม่กลับมาเลย นี่ผมเป็นห่วงมันจริง ๆ ใช่ไหม....ผมมองเวลาอีกรอบก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากเตียงเพื่อที่จะลงไปดูไอ้หมูซะหน่อย



            ผมเปิดประตูก็ต้องตาโตนิด ๆ กับคนที่อยู่หน้าห้อง ไอ้หมูที่กำลังจะเคาะประตูห้องผมพอดี... ผมมองมันที่ตัวมีแต่เหงื่อเต็มไปหมด แถมมือยังเปื้อนด้วย....เอ๊ะ มือมันช้ำกับมีเลือดด้วยอ่ะ! รอยยิ้มพิมพ์ใจประจำตัวของไอ้หมูส่งมาให้ผม



            “คิดว่าพี่นอนแล้วซะอีก คือว่าผมขอใช้ห้องน้ำพี่อาบน้ำหน่อยได้ไหมครับ” มันขอ ผมเลยเปิดประตูให้มันเข้ามาและมองที่มือของมัน



            “ทำไมมือของมึงมีเลือด?” ผมถาม ไอ้หมูที่กำลังจะซ่อนมือของตัวเองก็ชะงัก...ไม่ทันหรอกมึง!  กูเห็นแล้ว...



            “ป๊าให้มึงไปทำอะไรมาไอ้หมูกรอบ”



            “เออ ป๊าให้ผมไปประกอบชั้นหนังสือน่ะครับ...โทษฐานที่กอดพี่ศิลา” มันบอก



            “ป๊าให้ทำชั้นเนี่ยนะ...มึงทำเป็นเหรอ”



            “ก็ทำจนเสร็จหมดแล้ว ประกอบถูกต้องเป็นชั้นสวย ๆ ด้วย” ไอ้หมูอวดท่าทางภูมิใจมาก...ผมมองมือของมันอีกครั้ง ทำไมรู้สึกไม่ดีเลยว่ะ...ที่เห็นมันเจ็บตัวแบบนี้



            “มึงจะไปอาบน้ำใช่ไหม ไปสิ อ่ะ ผ้าเช็ดตัว” ผมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ในตู้ยื่นให้ไอ้หมูพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เฮียใหญ่เอามาฝากไว้ให้ มันยิ้มให้ผมก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ



            สงสัยเหมือนผมไหมว่า...ไอ้หมูมันเงียบ ๆ มันโดนป๊าดุมากกว่านี้รึเปล่าวะ แล้วมันไม่ยอมผมอะไรแบบนี้....นี่ผมกลายเป็นคนคิดมากจุกจิกไปตั้งแต่เมื่อไหร่...ผมเดินไปหยิบกล่องยาเล็ก ๆ และกระโดดขึ้นไปนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงพลางครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย....





            จนไอ้หมูมันเดินออกมาจากห้องน้ำ มันเช็ด ๆ ผมของมันแล้วมองมาที่ผมที่นั่งกอดอกอยู่บนเตียง



            “ไอ้หมูมานี่ดิ” ผมเรียก ไอ้หมูหันมาด้วยความสนใจแบบอึ้ง ๆ อีกแล้ว....มันชอบทำหน้าตาแบบนี้ตลอด ก็ตลกดีนะครับ แต่ที่แปลกคือ...ไอ้หมูไม่ยอมเดินเข้ามาหาผมที่เรียกมัน อ้าว..ไรของมึงวะ



            “คือ ผมจะไปนอนแล้วล่ะครับ” มันบอกพร้อมกับทำท่าจะเดินหนีผม เดี๋ยว...ปกติผมเรียกขนาดนี้ไอ้นี่มันจะวิ่งเข้ามาเลยนะ...เป็นอะไรของมัน!



            ไม่มีใครกล้าเดินหนีผมนะ! ผมก้าวลงจากเตียงไปคว้าแขนไอ้หมูไว้แต่เหตุไฉน พรมเช็ดเท้าไม่รักดีที่วางอยู่ข้างเตียงบวกกับน้ำที่ไอ้หมูเหยียบออกมาจากห้องน้ำทำให้มันลื่น!! ...



            “ไอ้หมู อ๊ะ เหวอ” ผมลื่น ว๊ากกก....เหี้ยแล้ววววว



            “พี่ศิลา! ระวัง เหวอ” ไอ้หมูหันมาอย่างตกใจและจะรับร่างของผมไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองคนล้มมาบนเตียงอย่างพอดิบพอดี



                ตุบ พรึบ...เสียงแรงยุบของเตียงนุ่มของผม...



            ผมเบิกตากว้างเมื่อไอ้หมูล้มลงมาทับอยู่บนตัวของผม กายแนบกายชิดติดมาก....เชี่ยยยย ไอ้หมูดูเหมือนมันจะค้างไปแล้ว มันก้มหน้าลงมาใกล้ผมเรื่อย ๆ ก่อนมันจะชะงักเพราะจมูกของมันชนกับแว่นกลม ๆ ที่ผมใส่อยู่



            แต่ผมก็ต้องหน้าร้อนวูบเพราะไอ้หมูที่กำลังจะดันตัวเองลุกขึ้น...ผมดันรู้สึกถึงไอ้หมูน้อย (ข้างล่างของมันอ่ะ!!) แม่ง....มันดันออกมานอกกางเกงมึงแล้วโว้ยยย...



            “ไอ้เชี่ยหมู!!” ผมด่าเสียงเบาเกรงว่าป๊าอาจจะตื่นมาลากคอไอ้หมูได้ มันเหมือนรู้ตัวเองเหมือนกันเลยรีบออกห่างจากผม ผมมองด้วยความไม่เชื่อสายตาของตัวเอง...ไอ้เชี่ยหมูกำลังมีอารมณ์ ไอ้เหี้ยยยย...



            “ขอโทษครับ...เดี๋ยวผมขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ” มันพูดแค่นั้นและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมที่นอนอยู่ก็นิ่งไป...ไอ้หมูมันจริงจังกับผมขนาดนี้เลยเหรอ จริงจังจนมันคิดแบบนั้นกับผมเลยเหรอ...



            ผมลุกขึ้นนั่งมองไอ้หมูที่หายเข้าไปห้องน้ำสักพักละ ผมเห็นว่ามันเริ่มนานเลยเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ เงียหูฟังนิดหน่อย...ด้วยความอยากรู้ว่ามันทำไรนานนักหนาวะ...และผมก็ต้องตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้ยินลอดออกมาเล็กน้อย



            เสียงครางต่ำ...



          “พี่ศิลา...” แถมยังมีชื่อของผมอยู่ในนั้นด้วย....ไอ้เหี้ย! ผมรีบวิ่งกลับไปที่เตียงด้วยความรู้สึกวุ่นวายใจ นี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย...เรื่องช่วยตัวเองหรืออะไรที่ผู้ชายทำกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ...แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็นไอ้หมูผมถึงได้สับสนแบบนี้ ยิ่งได้ยินชื่อของผม...ยิ่งยืนยันได้อย่างหนักแน่นว่า



            ‘ไอ้หมูมันจริงจังจริง ๆ ’



            ไอ้หมูเดินออกมาจากห้องน้ำก็ทำท่าชะงักผมอีกรอบ ราวกับเหตุการณ์เดจาวู



            “ยังไม่นอนอีกเหรอครับ?” มันถาม ผมเลยชี้ตรงเตียง



            “นั่งลง กูจะทายาที่มือให้” ไอ้หมูทำหน้าอึ้ง “นั่งลง! กูจะทายาให้” ผมย้ำ มันเลยรีบนั่งลงตรงเตียงของผม



            “เขยิบเข้ามาอีกได้ไหม กูขี้เกียจขยับ” ผมว่าไอ้หมูเลยขึ้นมานั่งขัดสมาธิตามคำสั่งของผม ผมเอามือของมันมาดูแผลที่เกิดจากการใช้พวกค้อนกับไขควงที่ต้องออกแรงกดไขน็อตแต่ละตัว



            มือของคนจะเป็นหมอทำไมไม่ดูแลดี ๆ วะ....ไอ้หมอโง่ (ด่าเขาในใจอีกแล้ว) ระหว่างที่ผมกำลังทายาแก้รอยช้ำให้มันอยู่ ไอ้หมูก็พูดขึ้น



            “พี่ศิลา...ขอโทษนะที่แบบว่า แสดงอาการหื่นออกมาให้พี่เห็น...” ไอ้ฟาย...พูดขึ้นมากูก็นึกถึงเสียงครางของมึงเมื่อกี้น่ะสิ!...อ้าวไอ้ศิลาครับไปคิดถึงทำไมมมมมม....



            “เลิกพูดได้แล้วช่างมัน” ผมบอกแต่กลับเห็นแววตาไหววูบของผู้ชายตรงหน้า



            “นั่นสินะครับ...ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับพี่ศิลานี่นา” น้ำเสียงเหมือนน้อยใจซะเต็มประดา...



            “ไอ้หมูกรอบ...” ผมมองมันที่เงยหน้าสบตากับผม แววตาไอ้หมูแม่ง...คมชะมัด มิน่าจ้องแต่ละทีสาว ๆ ละลายกันเป็นแถบ



            “ครับ?”



            “คืนนี้มึงจะนอนเตียงเดียวกับกูก็ได้นะ นอนโซฟามึงจะไม่สบายตัวเอา”



            “ครับ ผมยังไงก็ได้...ห๊ะ!!!อะไรนะครับ!!”



            “ชู่ว! เบา ๆ หน่อยสิวะ อยากโดนป๊ามากระชากคอเหรอ” ผมรีบเอามือปิดปากของไอ้หมูที่แหกปากซะลั่น หมูพยักหน้าหงึก ๆ และพูดเสียงเบาลงแต่รอยยิ้มของมันตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก



            “พี่ศิลาอย่ามาแกล้งยั่วผมแบบนี้นะ”



            “ยั่วบ้าบอไร กูให้มึงนอนเพราะเห็นว่าเดี๋ยวไม่สบายตัว กูเอาหมอนข้างกั้นไว้ มึงข้ามมาเจอตีนยันแน่ ๆ ! จะเหยียบให้มึงสูญพันธุ์ไปเลย!” ผมขู่พร้อมกับหยิบหมอนข้างมากั้นไว้ตรงกลางระหว่างผมกับไอ้หมู ผมถอดแว่นออกและทิ้งตัวลงนอน



            ไอ้หมูกระตุกยิ้มอารมณ์ดีคนละอารมณ์กับเมื่อกี้ไปเลย...หมออย่างไอ้หมูแม่งน่ากลัว...อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าอากาศ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวขรึม...มันล้มตัวนอนลงข้างผมที่มีหมอนข้างกั้นอยู่



            จริง ๆ ผมไม่ควรจะตื่นเต้นหรืออะไร ปกติผมก็เคยนอนกับผู้ชายที่เป็นเพื่อนกันเวลามานอนบ้าน...แต่ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกว่า ผมนอนไม่หลับเพราะคนข้าง ๆ ที่นอนอยู่ข้างผม มันทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป



            ไฟในห้องที่ถูกปิดลงเหลือเพียงแค่หัวเตียงให้พอสว่างเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัว บวกกับแสงพระจันทร์ทำให้ห้องนี้ดูไม่มืดสักเท่าไหร่ (บรรยากาศทะแม่ง ๆ อีกแล้ว) ผมมองเพดานห้องของตัวเองตาปริบ ๆ นอนสิวะศิลา....คิดอะไรอยู่ได้



            “พี่ศิลา..หลับรึยัง” เสียงไอ้หมูดังขึ้น



            “ยัง...”



            “ผมนอนไม่หลับอ่ะ..ตื่นเต้น” เหมือนกูเลยว่ะ...บ้า เปล่าซะหน่อย!



            “ตื่นเต้นบ้าไรของมึง”



            “ก็พี่ศิลานอนอยู่ข้าง ๆ ดีใจยังไงไม่รู้” ไอ้หมูพูดออกมา ผมเหลือบมองมันข้ามหมอนข้างก็พบว่า มันมองมาที่ผมอยู่...เชี่ยยย สบตากับไอ้หมูเต็ม ๆ



            “มองทำไม หันไปทางอื่นสิวะ!”



            “มองไม่ได้เหรอ ไม่ได้ข้ามไปฝั่งพี่ซะหน่อย” มันพูดกวน ๆ และไอ้นี่แม่งก็ไม่หยุดมองผมจริง ๆ



            ผมเลยเป็นฝ่ายนอนตะแคงข้างหันหน้าหนีมันเอง แต่คำพูดกวนบาทาก็ถูกพูดออกมาจากปากของไอ้หมู



            “หันก้นมายั่วผมทำไมล่ะครับนั่น”



            “ไอ้เชี่ยหมู!!!” ผมหันไปด่ามันก็ต้องลดเสียงลืมตัว...ไอ้เชี่ยนี่มาพูดถึงก้นผมทำไมเล่า....มันหัวเราะคิกคิกคนเดียวเหมือนพอใจมาก



            ผมพลิกตัวมานอนหงายเหมือนเดิม



            “นี่ไอ้หมูกรอบ...ป๊ากูพูดดุอะไรมึงรึเปล่า” ผมถามกลางความเงียบ...



            “อยากรู้เหรอ” ถ้ากูไม่อยากรู้ก็คงไม่ถามหรอกเฟ้ย...



            “ก็ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร...” ฟอร์มเยอะจริงครับไอ้ศิลา...กูอยากรู้บอกกูมา! ผมได้ยินเสียงไอ้หมูหัวเราะเบา ๆ



            “ครับ งั้นไม่บอก” นั่นไงมันกวนตีนผม! “ฮ่า ๆ พี่ทำหน้าเหมือนจะกระโดดมางับหัวผม บอกครับบอก”



            “ป๊าบอกว่าให้ผมเลิกยุ่งกับพี่ศิลาซะ...” คำตอบของมันทำให้ผมชะงักกึก....คำว่าเลิกยุ่ง มันทำเอาใจผมวูบแปลก ๆ



            “แล้วมึงจะทำยังไงต่อ....”



            “เลิกยุ่งกับพี่....” ผมหันไปมองหน้ามันที่มองเพดานนิง ๆ ...เชี่ย เลิกยุ่งง่ายจังไหนบอกว่ารักกูวะ    ยังไม่ทันจะอ้าปากด่า ไอ้หมูก็ตอบกลับมาก่อน แถมประโยคต่อมาเรียกรอยยิ้มของผมได้...



            “มันไม่ใช่ผมหรอกครับ เรื่องอะไรผมจะยอมให้พี่ศิลาหายไปจากผมล่ะ...”



            กูจะยิ้มทำไม...ยิ้มเพราะอะไร และก็ต้องหุบยิ้มกับประโยคต่อมา



            “จริง ๆ แล้วป๊าไม่ได้พูดหรอกที่ว่าให้เลิกยุ่งกับพี่อ่ะ”



            “อ้าวไอ้สัด...” เท้าของผมพร้อมจะลอยไปเตะมัน



            “ฮ่า ๆ นั่น ด่าผมเชียว...” ไอ้เชี่ย...กูเกือบปั่นป่วน!!ตกลงป๊าเรียกมึงไปคุยอะไรไหม! (อยากเผือกหนักมาก)



            “ป๊าไฟเขียวให้ผมแล้วนะ” ผมหันไปมองหน้ามันอีกอย่างไม่เชื่อ



            “หา?”



            “ป๊าของพี่ศิลาไฟเขียวให้ผมแล้ว...ที่เหลือก็แค่ไฟเขียวจากพี่ศิลานั่นแหละครับ” มันว่าอะไรนะ? ผมหันไปสบตากับร่างสูงที่นอนตะแคงหันมาหาผม



            ดีจริงที่เอาหมอนข้างกั้นไว้....



            “มึงล้อเล่นรึเปล่า ป๊าเนี่ยนะ? เอาเรื่องอะไรมาพูด”



            “จริงงงง...เพราะผมหล่อมั๊งป๊าเลยยอมไฟเขียว” ผมทำหน้าแหยง ๆ ไอ้เชี่ยมีความมั่นหน้ามาก     ได้ข่าวว่าป๊าเพิ่งด่ามึงว่าไม่หล่อนี่...



            “ตลก” ผมว่า มันก็หัวเราะ



            “อาจจะเป็นเพราะเห็นความจริงใจของผมที่ตามพี่มาหลายปีมั้ง..ความหน้าด้านของผม”



            “กูว่าไม่น่าเชื่อสุด ๆ...” ผมยังคงไม่ยอมเชื่อแม้จะพอรู้มาว่าป๊าเลี้ยงผมมาแบบลูกผู้หญิง...(แบบว่าอย่างที่เคยบอกตั้งแต่ต้น ๆ ว่าป๊าอยากให้ผมเป็นลูกผู้หญิงเลยเรียกผมว่าหมวยเล็ก และที่พีคไปกว่านั้นคือ อยากให้ผมมีสามี...นี่คือความประหลาดของป๊าผม...)



           “แล้วตอนนี้พี่ศิลาไฟเขียวให้ผมรึยังครับ” คำถามจี้จุดถูกถามมาตรง ๆ อ้าว...มันวนมาอีกแล้ว



            “ไม่...กูให้ไฟแดง” ผมตอบกลับ ไอ้หมูมันทำหน้าชะงัก



            “โห...อีกนานไหมกว่าจะเขียว” เสียงอ้อนตามฉบับของมันไม่ได้ทำให้ผมไขว่เขวหรอก



            “ก็รอสัญญาณไฟไปสิ”



            “ทำไมสัญญาณไฟเขียวของพี่นานจัง...น้ำมันผมจะไม่หมดก่อนเหรอ” หมดก็เติมสิไอ้ว่าที่หมอโง่...



            “อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวมันก็เขียว...กูนอนแล้ว” ผมตอบกลับเสียงแผ่วเบาแต่ก็เรียกความตื่นเต้นของไอ้คนข้างผมได้ นี่ผมจะมานอนพูดเรื่องไฟเขียวกับไฟแดงทำไมล่ะเนี่ย....



            “พี่ศิลา...ผมจะรอนะ น้ำมันเต็มถังเลยพร้อมรอไฟเขียว!” ไอ้หมูพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเป็นพิเศษ...มึงยังไม่หยุดพูดเรื่องไฟเขียวอีกเนอะ ไอ้บ้า....แล้วปากของผมจะยิ้มทำไมวะ...



            อีกไม่นานงั้นเหรอ....ผมเริ่มรู้สึกว่าผมคงจะให้ไฟเขียวกับไอ้หมูอีกไม่นานล่ะมั้ง...เชี่ย นี่กูคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปกับมันวะ....







            “หลับแล้วเหรอครับ....หมอนข้างเกะกะผมมากเลย....เอาออกนะ”

           “พี่ศิลา...คืนนี้ผมขอนอนกอดพี่ไว้ได้ไหม”

            “อื้อ...” เสียงตอบรับละเมอของพี่ศิลาดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อโดนอ้อมกอดของหมูที่สวมกอดเนียน ๆ

           “หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมาจะไม่โวยวายนะ....”หมูถีบหมอนข้างลงไปไว้ปลายเท้าเรียบร้อยและเขยิบเข้าไปนอนกอดพี่ศิลาไว้แทน...






...............................++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านค่าาา  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
มอีกไม่นานหรอก ตอนนี้ดุเหมือนวว่าสัญญานไฟจะเริ่มแสดงแระ   อิอิ

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรีดดดดดด...พี่ศิลาจะไฟเขียวให้หมูแล้วเย้เย้มาต่ออีกนะค่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 16



             [พาร์ตของศิลา]




            ผมค่อย ๆ ลืมตาแต่ก็ต้องหลี่ตากับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา...ผ้าห่มของผมทำไมมันดูอุ่นจัง...เพราะเมื่อคืนผมรับรู้ว่าผ้าห่มผมอุ่นมาก ผมลืมตาขึ้นชัด ๆ ก่อนจะเบิกตากว้างกับใบหน้าหล่อคมที่นอนหลับอยู่ข้างผม!! ประเด็นใหญ่ไปกว่านั้นคือ ไอ้หมูมันนอนกอดผมไว้ เชี่ยย!!!....หมอนข้างไปอยู่ปลายเท้าของเราสองคนเรียบร้อย! มันกอดผมตั้งแต่ตอนไหนทำไมผมไม่รู้เรื่อง (ก็หลับสนิทซะขนาดนั้นไง)



            เท้าของผมทำงานโดนอัตโนมัติคือถีบไอ้หมูทันที...กว่าจะรู้ว่าตัวเองทำอะไร มันก็ไปนอนข้างเตียงร้องโอดครวญแล้ว...



            พลั่ก! ตุบ



            “โอ๊ย!! พี่ศิลา...” ไอ้หมูร้องเจ็บ เชี่ย...ลืมตัว ผมคลานไปดูไอ้หมูที่เอามือกุมท้องของตัวเอง ก่อนผมกับมันจะหันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามาโดย ป๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง และแม่....เชรด มาครบแก๊งค์



            “มีอะไรหมวยเล็ก...อ้าว ไอ้หมูไปนั่งทำไรตรงนั้น” เฮียใหญ่ถามไอ้หมูที่ลุกขึ้นนั่งยิ้มแห้งให้ทุกคนที่เข้ามาพร้อมหน้าพร้อมตา...ดีนะ ป๊าไม่เข้ามาเห็นผมถูกไอ้นี่กอด!



            “พอดีผมตกเตียงน่ะครับ...” ไอ้หมูบอกพลางยิ้มให้ผม ทุกคนมองหน้ากันตาปริบ ๆ



            “เดี๋ยวป๊าว่าจะชวนหมวยเล็ก กับไอ้หมูนี่ด้วย ไปทำบุญที่วัดประจำเมืองกัน เพราะจะเปิดเทอมแล้วนี่ กว่าจะได้กลับมาหาป๊าก็เทศกาลนู่น” ป๊าบอกกับผม พอบอกปั๊ปป๊าก็ดันหลังทุกคนให้ออกไปจากห้อง เหลือเพียงแค่ผมกับไอ้หมูที่นั่งกุมท้องอยู่ข้างเตียง...



            “มึงเจ็บมากไหม” ผมถามด้วยความแอบรู้สึกผิด (ถีบแรงเหมือนกันนะเมื่อกี้)



            “ไม่เจ็บครับ แค่จุก” มันทำหน้าเจ็บจริงอ่ะ มีรอยช้ำปะวะ...



            “กูดูหน่อยว่ามันช้ำไหม” ผมก้าวลงจากเตียงและทำท่าจะไปเปิดเสื้อของไอ้หมูดู มันชะงักนิดหน่อยเมื่อผมเปิดเสื้อแล้วเห็นซิกแพคตรงหน้า...ผมรีบปิดลงพรึบ



            “มีไหมครับ รอยช้ำ?” มันถามผมด้วยรอยยิ้มมุมปาก ไอ้เชี่ย...ยิ้มทำไมวะ “หรือเห็นแค่ซิกแพคของผม?” น้ำเสียงขี้เล่นประจำตัวของมันทำให้ผมลุกเดินหนีมัน



            “ไม่เห็นจะมีซิกแพคสักนิด!” เห็นแต่พุง!..โกหกครับ ซิกแพคมันเต็มตาผมเลย...



            “ผมก็อยากเห็นกล้ามของพี่ศิลาบ้างจัง ว่าจะขาวแค่ไหน”



            “ไอ้เชี่ยหมู!! ลามปามละมึง...” ผมหันขวับไปด่ามันที่นั่งหัวเราะอยู่ตรงพื้น ไอ้นี่แม่งบ้าได้ตลอดเวลาเลยวุ้ย !! ผมเดินหนีหายไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ผมได้ยินแต่เสียงไอ้หมูหัวเราะคิกคักเหมือนพอใจมาก ไม่รู้พอใจอะไรของมันนักหนา แล้วผมไปนอนอยู่ในอ้อมกอดของมันได้ยังไงวะ!!...ผมไม่ใช่คนนอนดิ้นนี่นา...





            @วัดประจำเมือง



            คนที่ดูจะตื่นเต้นดี๊ด๊าที่สุดก็ดูจะเป็นไอ้หมูนั่นแหละครับ ทำเหมือนไม่เคยเข้าวัดไปได้ ยิ้มอยู่นั่นแหละ วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่พอสมควรแถมยังมีบึงไว้สำหรับปล่อยปลา ให้อาหารปลาด้วย ป๊ามักจะพาผมเข้ามาไหว้พระทำบุญที่นี่เป็นประจำแหละครับ...ที่ป๊าพาไอ้หมูมาด้วยมันเป็นเครื่องยืนยันรึเปล่านะที่หมูมันพูดว่าป๊าไฟเขียว...



            ผมที่ยืนอยู่กับป๊าสองคนตรงลานกว้าง รอทุกคนที่กำลังไหว้พระอยู่ ผมเลยได้โอกาสถาม



            “ป๊า...”



            “จ๋า หมวยเล็ก” ป๊าหันมายิ้มให้ลูกสาวประจำบ้านอย่างผม (แบบว่าผมไม่อยากยอมรับก็คงต้องยอมรับว่าเป็นเหมือนลูกสาวของป๊าแหละนะ)



            “เรื่องไอ้หมูที่ป๊าไปคุยด้วยเมื่อวาน...” กลั้นใจถามสุด ๆ



            “หือ ไอ้หมูเหรอ มันบอกหมวยเล็กว่าไงล่ะ”



            “มันบอกว่า...ป๊าให้ไฟเขียวมัน ป๊ารู้เหรอว่ามันแบบว่ามาจีบผม...” ป๊ามองผมก่อนจะเอามือมาบีบแก้มของผม ราวกับผมเป็นเด็กสาวตัวน้อย (ผมโตแล้วนะป๊า! หล่อด้วย)



            “ใช่ ไอ้หมูมันก็บอกป๊ามาหมดแล้วแหละเมื่อวาน ว่ามันจะจีบหมวยเล็ก...” เชรด...ไอ้หมูคนจริง



            “ป๊ารับได้เหรอ...ทำไมยอมไฟเขียวให้มัน” ผมถามด้วยความอยากรู้จากปากของป๊าจริง ๆ



            “เอาจริง ๆ ป๊าชอบนะที่เห็นหมวยเล็กจะมีคนดูแล...” อ้าว ป๊า... “ไอ้หมูดูก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่รู้ไหมอะไรที่ป๊าตระหนักมากที่สุด...ใจของหมวยเล็กไง ที่ป๊าใส่ใจที่สุด ถ้าหมวยเล็กเลือกใคร ป๊าก็รับได้หมด...เพราะหมวยเล็กเป็นหัวใจของทุกคนรู้รึเปล่า...” คำพูดของป๊าบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักมากมาย บ่งบอกว่าป๊ารักผมมากจริง ๆ....



            หลังจากได้ยินคำยืนยันจากป๊าก็เหมือนว่า ทุกอย่างตอนนี้กำลังขึ้นอยู่กับผม และทำให้ผมต้องมาคิดหนักอยู่ตอนนี้...เชี่ยยยย ปวดหัวขึ้นมาทันทีทันใด ใจของผมงั้นเหรอ ผมที่กำลังยืนอยู่แถวลานกว้างก็สะดุ้งเมื่อไอ้หมูเดินมายืนอยู่ด้านหน้าของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้





            “พี่ศิลา...ปล่อยปลาด้วยกันปะครับ” ปากชวนแต่มือมึงอ่ะ!! ยื่นมาจับมือของผมแล้ว ผมกำลังจะโวยวายแต่ก็ลืมว่าเราอยู่ในวัด แล้วนี่ทุกคนหายไปไหนกันหมดแล้ว?



            “คนอื่นไปไหน?”



            “เห็นไปปล่อยนกทางนู้นครับ ป่ะ พี่ศิลา ไปปล่อยปลากัน ผมอยากปล่อยกับพี่...” มันลากผมให้เดินตามมันไปตรงบึงตรงหน้าที่มีคนขายปลาอยู่ ไอ้หมูซื้อมาหนึ่งถุงใหญ่มาก มันเดินกลับมาหาผมที่ยืนรออยู่



            “พี่ศิลานี่ครับ” มันแกะออกและยื่นให้ผม ผมเลิกคิ้ว ไหนมึงบอกอยากปล่อยแล้วยื่นมาให้กูหมดทำไมล่ะนั่น



            “ปล่อยสิ”



            “ปล่อยด้วยกันสิครับ มาจับด้วยกัน นะ นะ” พวกสาว ๆ ที่พากันมายืนปล่อยปลาอธิษฐานขอให้ไม่โสดพากันมองผมกับไอ้เชี่ยหมูตาปริบ ๆ ผมเลยรีบไปจับถุงกับไอ้หมู แม่ง...พูดทีคนหันมามองเต็ม ก็ดูออร่าของมันสิ...ยังกับนายแบบ



            หมูยิ้มพร้อมกับเขยิบตัวมาใกล้ผมอย่างเนียน ๆ ...ในวัดนะมึงในวัด มือหนาเลื่อนมาจับมือของผมที่จับปากถุง ไอ้สัดเนียนเอาโล่....



            “มือมึง จำเป็นต้องมาจับมือกูมะ”



            “ขอจับหน่อยครับ” ก็มึงจับอยู่นี่ไง...ไอ้หมูกรอบ “พี่ศิลาอธิษฐานว่าอะไรอ่ะ” ผมกับมันกำลังยกถุงเทเหล่าปลาตัวน้อยลงไปในน้ำ



            “ใครเขาจะบอกกันวะ”



            “ผมขอให้พี่ศิลาใจอ่อนให้ผมเร็ว ๆ...” ไอ้หมูตอบอย่างอารมณ์ดี ไอ้เชี่ย...พูดบ้าอะไรออกมาอีก



            “ก็พี่ศิลาใจแข็ง เลยขอให้ใจอ่อน” มันบอกและเก็บถุงไปทิ้งขยะ ผมมองมันที่หันหลังให้ผม



            “รู้ได้ไงว่ากูใจแข็ง...” ผมพูดเสียงแผ่วเบาจนไอ้หมูไม่ได้ยิน มันหันขวับมาหาผม



            “พี่ศิลาว่าอะไรนะครับ?”



            “เปล่า...ไปหาทุกคนกันเหอะ” ผมบอกก่อนจะเดินนำหน้าไอ้หมู มันเดินมาตีคู่กับผมทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรอีก



            “พี่ศิลา ผมมีเรื่องจะบอกอีกเรื่อง...แต่ต้องบอกผมก่อนว่าจะไม่โกรธ พี่อยู่ในวัดนะ โกรธไม่ได้...” ไอ้หมูรวบรัด มันจะบอกอะไรอีกวะ....แถมยังมาบังคับกูว่าห้ามโกรธ ไอ้ป๊อด...



            “บอกอะไร หัวหมอนะมึงมาพูดในวัด เออ ๆ กูไม่โกรธ ว่ามา” ผมรอฟัง ไอ้หมูเม้มปาก



            “คือว่า...ผมได้เฮียใหญ่กับเฮียกลางช่วยเปิดทางให้ผมเข้าหาพี่หมวยเล็กครับ...” ผมที่ได้ฟังก็...เฉย ๆ กูว่าแล้ว...มิน่า!! เฮียใหญ่ก็ดูเชียร์ไอ้เชี่ยหมูออกหน้าออกตา แทนที่จะหวงมากกว่านี้....ไรวะ



            สรุปมีผมไม่รู้อยู่คนเดียว!....เชี่ยยย อยากโกรธว่ะ...ผมมองหน้าไอ้หมูที่เริ่มซึม เหอะ แกล้งงอนได้ไหมวะ...แกล้งงอนอะไรของกู...



            “เหรอ มีจะบอกแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถามเสียงเรียบพร้อมกับหมุนตัวจะเดินไปหาทุกคนที่รออยู่แถวหน้าวัด ไอ้หมูรีบเดินตามผม



            “พี่ศิลา..”



            “..........”



            “อย่าเงียบสิ ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดพี่นะ แค่พูดยังไม่หมด...”



            “...........” ผมยังคงเดินต่อ ไอ้หมูก็เดินตามติดจนมันเอื้อมมาจับมือของผมไว้



            “มีอะไรอีกไหม ที่มึงยังไม่บอกกู?” ผมถาม มันก็ส่ายหน้ายืนยัน



            “หมดแล้วครับ ผมไม่มีอะไรที่ปิดบังพี่อีกแล้ว...พี่อย่าโกรธผมนะ ผมทนไม่ได้”



            โป๊ก!! ผมเขกหัวของมันไม่แรงมากนัก...มันแม่งเริ่มพูดมาก ผมกลัวมันจะสติแตกซะก่อน



            “เลี้ยงข้าวหมูแดงกูด้วยตอนกลับไปมอแล้ว...ค่าที่ปิดบังกู” ผมบอก ทำให้ไอ้หมูยิ้มกว้าง บังเอิญนึกถึงข้าวหมูแดงขึ้นมา...ร้านที่ไอ้หมูซื้อมาให้มันอร่อยจริง ๆ นะครับทุกคน



            “ได้สิครับ! เลี้ยงตลอดชีวิตผมก็ทำได้...” ไอ้นี่...ได้คืบจะเอาศอกมาก



            “กูให้เลี้ยงแค่มื้อเดียว! ไปเลยมึง ป๊ากับทุกคนจะรอนาน อยากเป็นหมูย่างเหรอมึง” ผมด่าอีกรอบและเดินหนีไอ้หมูที่เดินตามผมต้อย ๆ ปากของผม...จะยิ้มทำไม จะบ้า.....



            การกลับบ้านมาครั้งนี้มีเรื่องบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม...เพราะผมดันมีไอ้หมูอยู่ด้วยในวันหยุดก่อนเปิดเทอม ได้ใช้เวลากับครอบครัวโดยมีไอ้หมูมาเพิ่ม วันหยุดช่างผ่านไปเร็วซะจริง วันนี้ผมต้องกลับไปที่มอแล้วล่ะครับ วันจันทร์นี้ก็เปิดเทอมแล้วล่ะ รู้สึกคิดถึงทุกคนในบ้านขึ้นมาเลย...พอจะต้องกลับมอแล้ว



            ระหว่างที่ไอ้หมูกับเฮียใหญ่กำลังแบกเป้กับพวกขนมที่ป๊าขนไปให้ผมกินเก็บใส่รถ ม๊าก็เข้ามากอดผมไว้



            “ตั้งใจเรียนนะหมวยเล็ก ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย..ม๊ารักหมวยเล็กนะ.... ป๊า! มายืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทำไม” ม๊าหันไปว๊ากป๊า ฮ่า ๆ ก็ดูสิป๊าทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ผมกลับมอ



            “ก็ป๊าไม่อยากให้หมวยเล็กกลับมอ...”



            “ป๊าอย่างอแงไปหน่อยเลย หมวยเล็กไปเรียนนะครับ” เฮียใหญ่ว่ากวน แทบจะโดนเท้าจากป๊าของผมอยู่แล้ว



            “ไอ้ใหญ่ไม่ต้องมาทำเก๊ก พอน้องไปอยู่มอก็มาบ่นคิดถึงทุกวัน” ป๊าด่าเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนได้ทันที ผมเข้าไปกอดป๊าไว้



            “ไว้หมวยเล็กจะกลับมาบ่อย ๆ นะป๊า”



            “ฝากดูแลหมวยเล็กด้วยนะไอ้หมูย่าง” เฮียกลางว่ากับไอ้หมูที่พยักหน้าอย่างสำรวม ฮ่า ๆ ดูหน้าไอ้หมูดิ ยังกับลูกเขยกลัวเหล่าฝ่ายพ่อตา...อ้าว ไอ้ศิลาครับ ลูกเขยไรของมึงงงงง....



            “ไป ๆ เดี๋ยวถึงมอค่ำ กลับได้แล้ว” ป๊ามองนาฬิกา ผมยกมือบ๊ายบายทุกคนที่ยืนส่งผมขึ้นรถ ทำไมน้ำตามันเหมือนจะไหลเลยนะ...จริง ๆ ผมเองก็คิดถึงทุกคนมากเหมือนกันครับ แต่ก็รู้ว่าต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง





            ระหว่างที่อยู่บนรถ



            ผมนั่งมองข้างทางไปเรื่อย ๆ ส่วนไอ้หมูก็ตั้งใจขับรถ ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรกันเลย มีเพียงแค่เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ เท่านั้น...แถมเป็นเพลงพวกสถานะคนแอบรักด้วย ไอ้เชี่ยหมูฟังเพลงได้แบบ..ตรงกับตัวของมันเนอะ อากาศวันนี้เหมือนฝนจะตกชะมัด แอร์ในรถแม่งก็เริ่มหนาว...



            เหมือนไอ้หมูรู้ความคิดของผม เพราะมันยื่นมือมาลดแอร์ลง



            “อากาศหนาว ๆ นะครับ พี่ศิลาเอาเสื้อของผมไปห่มก่อนไหม” มันถามแต่ก็เอื้อมมือไปหยิบเสื้อมายื่นให้ผมซะละ ผมก็รับมาแบบไม่ให้เสียน้ำใจ...จริง ๆ กูหนาว



            “บ้านของพี่ศิลาอบอุ่นมากเลยนะครับ ไม่แปลกใจทำไมพี่ศิลาถึงน่ารักขนาดนี้...” ไอ้หมูขับรถไปด้วยพูดไปด้วย     
 ผมเหลือบมองรอยยิ้มของมัน...ไม่เบื่อที่จะยิ้มรึไงวะ



            ผมเอาเสื้อของมันมาห่ม กลิ่นน้ำหอมนี้อีกแล้ว...กลายเป็นว่าผมดันจำกลิ่นของไอ้หมูไปซะแล้ว



            “มึงก็ดูเข้ากับครอบครัวกูได้นี่” ผมว่าตามความจริง ก็ดูทุกคนจะรักและเอ็นดูไอ้หมูดีกันทั้งนั้น



            “ครับ ถ้าเข้าไม่ได้ผมก็ลำบากน่ะสิ จะจีบหมวยเล็กบ้านนี้นี่” มีโอกาสเมื่อไหร่มันก็หยอดผมตลอด ไอ้เชี่ย...ให้ได้พักหายใจบ้าง กะจะขายขนมจีบให้ผมทุกห้านาทีเลยรึไง...



            “อดทนดีเนอะมึงเนี่ย” ผมว่าพลางหันหน้าไปทางหน้าต่างข้างนอก เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ทำให้ผมรู้สึกง่วงขึ้นมา



            “มันไม่ใช่เพราะผมอดทนหรอกครับ...” ไอ้หมูตอบกลับเสียงทุ้ม “มันเป็นเพราะความรักต่างหาก ผมถึงยังอยู่ตรงนี้...” อื้อหือ...คมเชี่ย ๆ ... ผมหลับตาลงเหมือนต้องการจะหนี...หนีหน้าที่มันเริ่มร้อนขึ้นมาซะงั้น คำพูดตรง ๆ ของมันเริ่มจะกัดกร่อนจิตใจของผมซะแล้วเหรอ...



            ผมหลับไปตั้งแต่ไอ้หมูพ่นคำคม ๆ ออกมา จากนั้นผมก็หลับยาวจนมาถึงหอเลย เพราะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของไอ้หมูใกล้หู พอลืมตาขึ้นมาก็ต้องตาโตเมื่อเห็นหน้าไอ้หมูใกล้ ๆ มันเปิดประตูฝั่งผมและกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัยฝั่งผม เชี่ยยย....กูตกใจ



            “ไอ้เชี่ยหมู..ถอย” ผมไล่ หมูเลยยิ้มพร้อมกับปล่อยมือจากสายรัดเข็มขัดฝั่งผม



            “อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ ตอนแรกว่าจะอุ้มพี่ขึ้นไปบนห้อง” ดีจริงที่กูรู้สึกตัวตื่น... ผมลงมาจากรถจะไปหยิบกระเป๋าหลังรถ ไอ้หมูก็ทำท่าจะช่วยถือ



            “ไม่ต้อง มึงกลับหอไปเหอะไป เดี๋ยวกูถือเอง ขับรถมาเหนื่อย ๆ “ ผมไล่ แต่ถามว่าไอ้นี่เคยฟังผมไหม ไอ้เชี่ยกูรุ่นพี่มึงนะครับ...มันก็แม่งไม่เคยจะฟัง ถือขนมกับกระเป๋านำผมขึ้นไปบนห้องประดุจตัวเองเป็นเจ้าของห้อง เอาคีย์การ์ดกูไปเลยไหมล่ะ! ไอ้ฟายนี่....อย่าไปพูดให้มันได้ยินนะ ผมว่ามันเอาจริงอ่ะไอ้หมูเนี่ย ผมเดินตามมันที่เดินเหมือนว่าตัวเองอยู่หอนี้



            “ส่งแค่นี้แหละ กลับไปได้แล้ว” ผมเอากระเป๋าของตัวเองมาถือไว้ ไอ้หมูทำหน้าอิดออด



            “โห ไล่จัง...พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วนะ” มันว่า



            “แล้วไง?”



            “เคยบอกพี่ศิลาไปแล้วนี่ครับ ว่า...เวลาเจอจะน้อยลง” เวลาเจอน้อยลง...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม



            “เออ แล้วไงทีนี้?” ผมถามคืนอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่มันก็ทำให้ไอ้หมูนิ่งไปเล็กน้อย



            “พี่จะไม่คิดถึงบ้างเหรอ ถ้าไม่ได้เจอผมหลายวันไรงี้” ผมฟังก็ชะงัก...ไม่เห็นจะแคร์นี่



            “ก็ไม่ ไป ๆ กลับหอไปได้แล้วไอ้เชี่ยหมู” ผมไล่อีกรอบ ก่อนจะนิ่งเมื่อหมูดันผมติดประตู เชี่ยยย..หน้าห้องนะเว้ย!!



            “พี่ศิลานี่ปากแข็งจังเลยนะครับ....ทั้งที่มันก็นุ่มแท้ ๆ...” มายุ่งอะไรกับปากของกู!! “ปากกับใจไม่ตรงกันเอาซะเลยนะครับ....” เรื่องของกูไหมมมมม.....ปากของกู ใจก็ของกูโว้ย...



            “ถอยไปไอ้เชี่ย!...” ผมตาโตเมื่อไอ้หมูมันก้มหน้าเข้ามาใกล้ผม เฮ้ยยย...หน้าห้องนะ ริมฝีปากหนาตรงหน้าผมก้มลงมาประกบปากของผมแบบกดริมฝีปากบดขยี้  ไอ้เหี้ยยยย....จู่โจมกูอีกแล้ว ผมเหมือนได้ยินเสียงของคนที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา ทำให้ผมผลักไอ้หมูออกอย่างลืมตัวพร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดไปอย่างไม่ตั้งใจ



            เพี๊ยะ!! ...เฮือก ฟาดหน้ามันไปแล้ว...เชี่ย ไอ้หมูหันหน้าไปตามแรงตบ



            “เฮ้ย กูขอโทษ...ก็มึงแหละเชี่ย มาจูบกูทำไม...” ผมบอกและตัวแข็งทื่อกับสายตาคมที่หันมามองผม มันดันไหล่ของผมติดประตูอีกครั้ง น้ำเสียงเย็นเฉียบของมันทำให้ผมรู้สึกเย็นไปทั้งตัว...



            “พี่ศิลารู้ไหมว่าผมเป็นผู้ชาย...” กูรู้! กูก็ผู้ชายเว้ย.. “เป็นผู้ชายที่รักพี่มาก...ความอดทนมันมีขีดจำกัดนะครับ การหักห้ามใจความต้องการก็เหมือนกัน....” ไอ้หมูพูดทิ้งท้ายไว้แค่นี้ก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากผม...ผมมองตามงง ๆ มันจะโกรธกูไหมวะ ที่ตบมันแบบไม่ได้ตั้งใจ...





            .....................

            ....................



            3 วันแล้วล่ะครับกับการเปิดเทอม...และก็เป็น 3 วันที่ไอ้หมูหายหน้าหายตาไปจากผมตั้งแต่วันที่เรากลับมาจากบ้าน และผมก็ตบมันไป...มันไม่โทรหรือโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกเลย นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตอนนี้ บอกเลยว่าเพิ่งจะเปิดเทอมอาจารย์ก็ขยันสั่งงานประดุจว่าคิดถึงพวกผมมาก! ขนาดคณะวิศวะของผมยังงานเยอะขนาดนี้...คณะแพทย์ผมว่าคงเป็นสองเท่าล่ะมั้ง หรือว่าไอ้หมูมันจะเรียนหนัก



            “เฮ้อ...” ผมเอามือเท้าคางระหว่างอยู่คาบเรียนซึ่งกำลังจะหมดเวลาคาบเช้า ไอ้เสาที่นั่งข้างผมก็ว่าขึ้น



            “ไอ้ศิลา...ถอนหายใจรอบที่ร้อยแล้วไอ้สัดดด....” ผมมองมันที่นั่งดูดชานมไข่มุกที่แอบไว้ตรงใต้โต๊ะ โห...ไอ้เชี่ยนี่กินไปสองแก้วแล้ว ผมยอมใจไอ้นนท์ที่ซื้อมาให้ไอ้เสามันถึงสองแก้ว เอาใจกันอย่างแรง อ้อ ลืมบอกไปครับว่าไอ้เชี่ยสองตัวนี่มันคบกันแล้วนะ ผมมาเจอมันตอนวันเปิดเทอมถึงกับเอ๋อ ว่าแล้วว่าพวกมันแม่ง...ต้องมีซัมติงแน่ ๆ ฮ่า ๆ และผมก็เดาถูก ไอ้นนท์มันมาโม้ให้ผมฟังแหละครับ เห็นว่าคบกันตอนวันที่ไอ้เสาไม่สบายแหละ ผมก็เลยมีอะไรไปล้อไอ้เสาละ เอาชื่อไอ้นนท์มาล้อมันปั๊ปไอ้เสาก็ควันออกหูแบบน่ารักสไตล์มันทันที



            “แดกชานมมึงไปเหอะ มีผัวเปย์นี่ดีเนอะ” ผมล้อ ไอ้เสาหันขวับมาจะงับหัวผมอยู่แล้ว



            “ไอ้สัดศิลาเดี๋ยวกูจะเตะมึงออกไปนู่น เอ๊ะ...ไอ้เหี้ยนนท์! มานอนตักกูหาเชี่ยไร” นั่นไงครับ...ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างไอ้เสาล้มตัวลงนอนตักไอ้เสาเฉยเลย โอ๊ย...พวกมึงงงง เกรงใจวิศวะคนอื่นที่มันนั่งมองตาปริบ ๆ ด้วย ฮ่า...     



            “กูขอหลับหน่อย ค่าชานมไง” ไอ้นนท์ก็ทำตัวหน้าด้านของมันไป



            “ไอ้เหี้ย...” ไอ้เสาด่าแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้ไล่ไอ้นนท์ที่หลับไป เหอะ ๆ ไอ้เสาหันมามองผม



            “แล้วมึงเหอะ ทำไมกูไม่เห็นไอ้น้องหมูกรอบของมึงวะ นี่จะวันที่สามแล้วนะเว้ย” นี่แหละคือสาเหตุที่ผมถอนหายใจอยู่ตอนนี้ แม่ง...กูไม่ได้เจอหน้ามันมาตั้งสามวันแล้วนะเว้ย!!...(ไหนว่าไม่คิดถึงไง)



            “ไม่รู้เชี่ยมัน หายไปไหนไม่รู้” ผมตอบตามความจริง ไอ้เสาก็หัวเราะ



            “ทำไมไม่ลองไปหาน้องมันล่ะ มันอาจจะเรียนหนักก็ได้” เพิ่งปี 1 เอง...แต่ก็น่าจะเรียนหนักแหละนะผมว่า เป็นว่าที่หมอนี่...



            “แถมตึกเราแม่งไกลกันกับตึกแพทย์มาก คงไม่มีเวลาพักขนาดนั้น” ไอ้เสาพูดอย่างเดาเหตุการณ์ ผมมีเพื่อนเป็นนักสืบตั้งแต่เมื่อไหร่



            “กูก็ไม่ได้อยากเจอมันซะหน่อย...” ผมบอกทั้งที่จริง ๆ ..ก็อยากรู้ว่ามันทำอะไรอยู่วะ ไอ้เสาเลิกคิ้วล้อ



            “แหม...ไม่อยากเจอแต่นั่งถอนหายใจเหม่อลอย คิดถึงก็ไปหาดิวะ ฟอร์มไปทำไม” ผมเหลือบมองไอ้เสาที่พูด โห...มึงไม่ดูตัวเองเลยไอ้สัดเสา ฟอร์มไม่ต่างจากกู...



            “ไปตอนเที่ยงก็ได้นี่ บ่ายเราไม่มีเรียนเร็ว เรียกอีกทีบ่ายสาม มึงก็แวะไปหาน้องดูสิ” ไอ้เสาแนะนำเหมือนอยากจะโยนเพื่อนให้ผู้ชายมาก



            ผมนั่งคิดอยู่สักพัก...จะไปดีไหมวะ ก็แบบว่าผมจะหาเหตุผลอะไรไปหามันดีวะ จะไปหาเฉย ๆ มันก็เป็นเหวอ ๆ ไหมล่ะวะ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งคิดการหาเหตุผลไปหาไอ้หมู เสียงอาจารย์บอกหมดเวลาก็ดังขึ้น เวลาเที่ยงเป๊ะ..หรือผมจะไม่ไปหามันดี



            ทั้งที่บอกแบบนั้นแต่ผมก็มา...ยืนอยู่หน้าคณะของไอ้หมูซะแล้ว คณะแพทย์ศาสตร์...ตึกขาวสะอาดมาก พวกเด็กว่าที่หมอทั้งหลายพากันใส่เสื้อกาวน์สีขาวสำหรับเรียนแล็ปมองผมตาปริบ ๆ ก็เพราะวันนี้ผมดันใส่เสื้อช็อปวิศวะมาน่ะสิ เด่นสง่าเชียวมายืนอยู่ในดงแพทย์ ตอนแรกว่าจะลากไอ้เสากับไอ้นนท์มาด้วย แม่ง....มันพากันไล่ผมมาคนเดียว ไอ้พวกฟายยย...ทิ้งกูอีกแล้ว



            “เออพี่ศิลาใช่ไหมคะ...” เสียงหวานใส ๆ ของผู้หญิงที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนพูดขึ้น



            ผมพยักหน้า “มาหาหมูใช่ไหมคะ!! กรี๊ด....พวกหนูแบบว่าแอบกรี๊ดพี่กับหมูค่ะ” พวกเธอพากันกรี๊ดทั้งโต๊ะทำเอาทุกคนหันมามองพรึบ...กูอยากจะบ้า มายืนเอ๋ออยู่กลางตึกแพทย์ทำไม....



            “เออครับ...แล้วเห็นไอ้หมูไหม” ผมถาม พวกเธอเลยชี้ไปเหมือนอยากฟ้อง



            “นั่นค่ะ! มีชะนี เอ๊ย มีผู้หญิงเรียกหมูออกไปให้ขนมหรืออะไรไม่รู้....พวกหนูอยากขัดมากค่ะหมั่นไส้!” ผมมองตามไปตรงใต้ต้นไม้ก็เห็นไอ้หมูยืนอยู่กับผู้หญิงจากคณะไหนวะ...แต่งหน้าสวยเชียว น่าจะการโรงแรมดูจากชุด เธอกำลังยื่นถุงขนมให้กับไอ้หมูเลยครับ...โคตรเสน่ห์แรงไอ้เชี่ยหมู



            “ขอบคุณ” ผมหันไปกล่าวกับพวกเธอที่ชี้ให้ผมเห็นไอ้หมู ผมเลยเดินไปหามันจากทางด้านหลัง    เธอคนนั้นให้ขนมไอ้หมูแล้วก็เดินจากไป



            “ไอ้หมูกรอบ...” ผมเรียกมันจากทางด้านหลัง มันหันขวับมามองผมอย่างตกใจและดูจะแปลกใจมากด้วย เออ กูก็แปลกใจเหมือนกันที่ตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้



            “พี่ศิลา...” เสียงเรียกชื่อผมที่มันชอบเรียกเป็นประจำ เสียงที่ผมไม่ได้ยินมา 3 วัน...ทำไมผมจะต้องรู้สึกดีใจด้วยวะ



            “มาที่นี่ได้ไงครับ?” มันถาม ด้วยความปากไวของผมก็เลยตอบแบบไม่ตรงกับใจจริง



            “มา...ดูบอลที่เตะอยู่เนี่ย” สายตาของผมหันไปตรงสนามหญ้าใหญ่ที่มีพวกผู้ชายมาเตะบอลอยู่ หมูเลิกคิ้วยกยิ้มฝืนนิด ๆ



            “อ๋อครับ...งั้นพี่ก็ดูให้สนุกนะ เดี๋ยวผมขอตัวไปกินข้าวก่อน” ไอ้หมูหมุนตัวเดินหันหลังให้ผมจะเดินเข้าไปทางโรงอาหารคณะแพทย์ เชี่ยยย...กูจะมาหามึงโว้ย ไอ้ศิลาทำไงดีวะ..และผมก็อยากจะมาขอโทษที่ตบหน้ามันด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจ



            แผ่นหลังสูงตรงหน้ากำลังเดินห่างจากผมไป...ผมรีบเดินจ้ำอ้าวตามไอ้หมูไป ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือดึงชายเสื้อนักศึกษาของไอ้หมู มันเดินเร็วมาก ตอนที่มันกำลังเดินเข้าโรงอาหารแพทย์พอดี ไอ้เชี่ย... ทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารหันพรึบมาที่ผมทันที เด็กแพทย์ทั้งหลายแหล่กำลังมองตาปริบ ๆ กับวิศวะที่มายืนอยู่ที่นี่



            ไอ้หมูเองก็หันมามองผมอึ้ง ๆ เหมือนกัน ผมหายใจเข้าลึก ๆ



            “ที่จริงแล้ว กูตั้งใจจะมาหามึง...”



            “ห๊ะ...” หมูอ้าปากเหวอ...หน้ามันทำให้ผมอยากจะขำ...



             “มากินข้าวกับมึง...” รอยยิ้มไอ้หมูเหมือนปิดบังไม่ได้คลี่ยิ้มออกมา



            “พี่ศิลา!! จริงเหรอครับ!!” ไอ้เชี่ยหมูตะโกนออกมา...เบา ๆ ดิวะโว้ย



            “กูโกหกมั้งไอ้เชี่ย มาถึงนี่...” ผมว่ากับไอ้คนที่กำลังยิ้มอึ้ง ๆ ราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าดีใจมาก



            คิดดูละกันครับว่าคนที่มองอยู่จะคิดยังไง เมื่อเห็นรุ่นพี่วิศวะกำลังยืนจับชายเสื้อของไอ้รุ่นน้องแพทย์ที่ยิ้มจนหน้าบาน เพียงเพราะผมจะมากินข้าวด้วย...



            ...และผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องบ้า ๆ ลงไปแล้ว ผมต้องเข้าไปกินข้าวในโรงอาหารแพทย์ทั้ง ๆ ที่ตัวเองใส่ช็อปวิศวะ...ไอ้เชี่ย....พร้อมกับสายตาประชาชีอีกเพียบ ช่วยด้วย...ผมไม่อยากกินแล้ว เปลี่ยนใจได้ไหม!!!.....ทุกคนช่วยศิลาด้วยยยย....



            แต่มือของไอ้หมูแม่ง..ลากผมเข้าไปในโรงอาหารแพทย์แล้ว.... T.T กูเถื่อนนะ ให้เกียรติเสื้อช็อปวิศวะกูด้วยยยยยย.....




.........................................++++++++
ขอบคุณขอบเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ นะคะ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมวยเล็ก ใจอ่อน ปากแข็ง

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด