<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>  (อ่าน 151884 ครั้ง)

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
กลายเป็นหนุ่มในฮาเร็มไปซะแล้ว 55555

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
กวินท์อยู่ในฮาเร็ม ชนิดที่ออกไปไหนไม่ได้แน่

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะเจ๊ยยยยยยยย.... :z3: :z3: :z3:
พูดเรื่อฮาเล็มกันไปแหม่บๆ
กวินท์ ก็กลายมาเป็นนายฮาเล็มซะละ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                   ตอนพิเศษ ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                                  ชายในฮาเร็ม

                                                                                        บทที่ 2
 


              กวินท์ได้แต่ตกตะลึงกับความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า


               เขาจินตนาการว่าประมุขของฮาลียันเป็นบุรุษเลยวัยกลางคนไปแล้ว รูปร่างท้วมไปด้วยไขมันใบหน้าเต็มไปด้วยเหนาเครา

อย่างที่ได้รับความนิยมในบรรดาชายชาวอาหรับ แต่ความจริงนั้นช่างแตกต่างกับสิ่งที่เขาคิดไว้เหลือเกิน


               สมเด็จพระราชาธิบดีชารุกข์ เซรีมเป็นบุรุษร่างสูงกว่ากวินท์เกือบคืบพระชนมายุราวสามสิบพรรษา พระพักตร์คมเข้มด้วยผิวสี

น้ำตาลคล้ายทะเลทรายกลางแดดจัด ดวงตาคมดุหากแต่ยามมองกลับทำให้ร้อนระอุสลับไปกับหนาวสะท้าน รอบริมฝีปากและคางมีไร

หนวดสีเขียวจาง ๆ ทำให้ดูยิ่งคมสัน


                  กวินท์ไม่อาจบังคับสายตาให้หยุดมองได้ เขาเลื่อนมองไปตามไหล่กว้าง ต้นแขนล่ำด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด แผงอกกำยำต่อ

เนื่องกับลำตัวที่มีซิกแพ็กเป็นลอนเด่นชัด ไรขนเป็นระเบียบเรียงตัวสวยไล่จากแผ่นอกเป็นแนวยาวจนถึงเหนือท้องน้อยก่อนมันจะหาย

ไปกับขอบกางเกงสีน้ำตาลบางเบาที่ทรงปกปิดกายท่อนล่างอย่างหมิ่นเหม่ และเมื่อถึงตอนนี้กวินท์ก็เกือบลืมหายใจ


               ร่างสูงก้าวเข้ามาหาเขา ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กวินท์ตัวแข็งเมื่อกษัตริย์ชารุกข์ เซรีมหยุดยืนเบื้องหน้าใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ

พระพักตร์คมก้มลงมองสบตากับเขา พระเนตรคู่นั้นวิบวับจนกวินท์อยากจะวิ่งหนี


               “จะไปไหน”


               ตรัสเสียงทุ้มเมื่อเห็นกวินท์ทำท่าจะก้าวถอยหลัง ชายหนุ่มร่างโปร่งหันรีหันขวางจนชารุกข์ทอดพระเนตรอย่างเอ็นดู


               “เข้ามาแล้วออกไปไม่ได้หรอก นอกจากผมจะเป็นคนเปิดประตูให้คุณออกไป”


               “งั้นคุณ เอ่อ พระองค์ก็เปิดประตูให้ผม เอ๊ย หม่อมฉันออกไปสิครับ”


               กวินท์กระสับกระส่าย เขามองทางหนีทีไล่แล้วก็ได้แต่คิดถึงคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายที่เคยอ่านจากการ์ตูนสืบสวนของ

ญี่ปุ่น ตอนนี้เขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นกระต่ายที่ติดอยู่ในกรงเล็บของสิงโต และสิงโตตัวร้ายก็กำลังจะขย้ำเขาด้วยเขี้ยวฟันแสนคม


                 “คงไม่ได้”


                  ชารุกข์ปฏิเสธทันควัน พระโอษฐ์แย้มสรวลขณะพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าที่ทรงถูกพระทัยตั้งแต่แรกเห็นเมื่อวันวาน


                เมื่อแยกจากกันเพราะอีกฝ่ายก้าวหนีไปอย่างรวดเร็วแล้วชารุกข์จึงสั่งให้คาลิลที่ติดตามอยู่ห่าง ๆ ด้านนอกของร้านเครื่อง

ดื่มรีบถ่ายรูปเก็บไว้ เพียงอึดใจก็ทรงทราบประวัติของชายหนุ่มที่พบกันในห้องน้ำ หนุ่มลูกครึ่งคนนี้มีความสมบูรณ์แบบของเครื่องหน้า

จากสองทวีปอย่างลงตัว ทรงชื่นชมตั้งแต่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มและดวงตาสีฟ้า จมูกโด่งรั้นและกลีบปากสีแดงเรื่อธรรมชาติจนไม่อาจถอน

ใจได้ตั้งแต่แรกเห็น

               และในที่สุดกวินท์ก็มาอยู่ตรงนี้ ภายในห้องส่วนพระองค์ที่มีไว้สำหรับทรงพระสำราญ หากแต่ตอนนี้ชารุกข์ไม่ได้นึกถึงสตรี

คนใดที่อยู่เบื้องนอกมากไปกว่ากวินท์ แอนเดอร์สัน


                  “เพราะผมต้องการให้คุณอยู่ในสายตาของผม”


                  “พระองค์ทรงบ้าไปแล้ว”


                  กวินท์ส่ายหน้า เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น


                 “ผมเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ เอ่อ คนของพระองค์”


                 “ผมจะถือว่าคุณเป็นทูตที่มากระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็แล้วกัน”


                  ทรงดื้อรั้นเกินกว่าจะต้านทานได้ กวินท์มองซ้ายมองขวาก่อนตัดสินใจขยับเท้าหลีกหนี แต่วรกายสูงแกร่งกลับตวัดคว้า

แขนของเขาไว้ราวกับคาดเดาไว้แล้ว ร่างของกวินท์ถูกรั้งเข้าหาก่อนที่ชารุกข์จะรวบเอวของกวินท์ขึ้นมาพาดบ่าอย่างง่ายดาย


                “เฮ้ย ปล่อยผม”


                 กวินท์ดิ้นรนอยู่บนบ่ากว้าง เขาตกใจเมื่อชารุกข์ก้าวดุ่ม ๆ ไปที่เตียงกลางห้องอย่างไม่สนใจว่าเขาจะขัดขืนแค่ไหน ทางหนี

ของกวินท์หมดสิ้นทันทีเมื่อชารุกข์เหวี่ยงเขาลงไปบนเตียงก่อนจะโถมกายหนาลงมาทาบทับจนกวินท์หมดสิ้นอิสรภาพ


               “จะดิ้นทำไม คุณก็รู้ว่าหนีไม่พ้นหรอก”


               ทรงหยอกเอินพลางใช้ปลายพระหัตถ์เกลี่ยไล้อยู่บนแก้มเนียน กวินท์ตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดที่กักขังเขาไว้บนแท่นพระ

บรรทมแสนกว้าง ชารุกข์บีบจมูกกวินท์อย่างมันเขี้ยว


             “ยอมรับเถอะว่าเราต่างปิ๊งกันตั้งแต่แรกเห็นเมื่อวานนี้”


             สุรเสียงแสนนุ่มนวลคล้ายจะกล่อมให้กวินท์เลิกหวาดกลัว กวินท์เหลือบสายตามองพระเนตรวาววับพลางเถียงเอาตัวรอด


            “ใครจะไปปิ๊งกันในห้องน้ำล่ะ พระองค์เพี้ยนแน่ๆ”


             “ก็เราไง” ทรงยืนยันกลั้วเสียงหัวเราะ


               “ผมกับคุณมองหน้ากันที่โถปัสสาวะ ใจคุณไม่เต้นบ้างเหรอตอนที่มองผม”


             “หลงองค์เองชะมัด”


               แก้มของกวินท์แดงก่ำลามไปถึงใบหูและลำคอ พยายามออกแรงผลักร่างแกร่งออกแต่ก็ราวกับผลักภูผาหินก้อนใหญ่ ข้อมือ

ทั้งสองของเขาถูกชารุกข์รวบไว้ทันที ชารุกข์คลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่ากวินท์ตัวสั่น


              “ตอนนี้ก็ใจเต้นนี่นะ”


              ทรงแนบพระกรรณไปกับหน้าอกของกวินท์เพื่อฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็ว ร่างของกวินท์เมื่อเทียบกับพระองค์แล้วเหมือนจม

อยู่ในอ้อมกอด


                 “ตื่นเต้นเหรอที่ผมกำลังจะจูบคุณแบบนี้”


                 “อยะ อย่านะท่าน อื้อ!”


                   เสียงของกวินท์เงียบหายเมื่อเขาถูกปิดปากจนแนบสนิทด้วยโอษฐ์ของชารุกข์ กวินท์เบิกตากว้างกับสัมผัสเรียกร้องนั้น

ริมฝีปากของเขาสั่นระริกจนชารุกข์ต้องปลุกปลอบด้วยการไล่ขบเม้มก่อนจะฉวยโอกาสสอดปลายลิ้นเข้าสู่โพรงปากหวานฉ่ำที่ทรงอยาก

พิสูจน์ เรียวลิ้นชื้นของกวินท์ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชารุกข์    เซริมในทันที


               “อืม หวานจริงด้วย”


                 ทรงพึมพำอย่างถูกพระทัยขณะตักตวงตวัดชิวหาไปกับความละมุนนั้น พลางวางพระหัตถ์ลงไปกับต้นขาของกวินท์จนสะดุ้ง

สุดตัว ผ้าทอผืนบางมิอาจช่วยกางกั้นความร้อนจากฝ่ามือที่กำลังถูไถไปกับเนื้ออ่อนเช่นสิงโตหิวโหย ชารุกข์ผละจากปากอิ่มนั้นอย่าง

เสียดายก่อนที่พระองค์จะลิ้มรสเหยื่อคำแรกที่ซอกคอหอมกรุ่น






มีต่ออีกนิด....



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2017 20:17:25 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...






              “อื้อ พระองค์”


               “เรียกว่าชารุกข์สิ”


             ตรัสแผ่วเบาอู้อี้อยู่ตรงลาดไหล่ ร่างเพรียวของกวินท์สะท้านไหวอยู่ใต้ร่างของพระองค์ ทรงจับมือกวินท์ที่ดูเกะกะให้คล้องไป

รอบพระศอเพื่อที่พระองค์จะได้ก้มพักตร์ลงไปหน้าเม็ดเล็กที่พุ่งชันผ้าเนื้อผ้าบางเบาขึ้นมาแล้วแตะปลายลิ้นลงไปโลมเลีย


               “ไม่ ไม่นะ อื้มม”


                อยากจะกัดปากตนเองนัก กวินท์เจ็บใจที่เขาเตลิดไปกับสัมผัสหวามไหวที่ชารุกข์กำลังปลุกเขาขึ้นมา เนื้อผ้าทอบางเบา

เปียกชุ่มอยู่รอบเนินอกราบเรียบหากแต่ยอดอกนั้นกลับชูชันเพราะฤทธิ์ปลายลิ้น ซ้ำพระหัตถ์ร้อนยังสอดลึกเข้ามาในเสื้อแล้วขยำมันจน

กวินท์เผลอส่งเสียงน่าละอายออกมา


                  “ถอดนะ เกะกะจัง”


                  “เอ่อ ถอดเหรอ”


                  กวินท์เม้มปากขัดเขิน ชารุกข์ทอดพระเนตรแล้วอยากจะกินเขาใจแทบขาด


                  “คุณจะถอดเองหรือให้ผมถอดให้”


                   ทรงตรัสกระซิบข้างหูก่อนจะเม้มใบหูของกวินท์ด้วยโอษฐ์ กวินท์หลับตาหนีข่มความอายพลางกล่าวตอบเสียงเบา


                   “คุณอยากถอดก็ถอดเองสิ”


                   ชารุกข์คำรามเบาๆราวกับเจ้าป่ายามตะปบเหยื่อ ทรงฉีกผ้าทอที่กวินท์สวมใส่ดังแควก ๆ ไม่กี่ครั้ง กวินท์ก็สะท้านไปทั้ง

กายเมื่อสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ ความร้อนระอุของผิวกายของกษัตริย์แห่งฮาลียันทาบทับลงมาแนบสนิทแม้กระทั่งตรงนั้นจนกวินท์สะดุ้งเป็น

รอบที่ร้อย


                     “ผิวของคุณเนียนละเอียดน่าลูบไล้เหลือเกิน”


                  ทรงทอดพระเนตรเรือนร่างเปลือยเปล่าตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ดวงตาคมโชนแสงแสดงความเป็นเจ้าของออกมาจน

กวินท์ไม่กล้าสบตา วรกายของชารุกข์ช่างน่าตื่นตะลึงเมื่อทรงอวดกายโดยปราศจากกางเกงปิดบัง ท่อนขาของชารุกข์แข็งแกร่งเต็มไป

ด้วยพละกำลังอย่างบุรุษผู้นิยมการออกกำลังกาย กวินท์เบิกตากว้างเมื่อมองเห็นลำกายอันแข็งขัน หน้าเนียนฉีดสีแดงก่ำราวกับมะเขือ

เทศสุก


                    “อย่ากลัวสิกวินท์”


                     ทรงคว้ามือของกวินท์ให้มาจับทักทายส่วนนั้นพลางบังคับให้เขาพรมปลายนิ้วลงไปเบา ๆ พระเนตรคมส่องประกาย

วาววามอย่างพอพระทัยก่อนจะสบถเบาๆ


                    “ทนไม่ไหวแล้ว เป็นของผมเถอะนะกวินท์”


                    พรมจูบไปทั่วร่างเนียนนุ่มอย่างกระหาย ทรงใช้สะโพกกดลงไประหว่างขาให้กวินท์เปิดทางรับ พระหัตถ์ร้อนนวดเฟ้นจุด

อ่อนไหวจนกวินท์ผวา เสียงครางผะแผ่ดังไม่ขาดสายเมื่อปลายนิ้วนวดเฟ้นอยู่รอบช่องทางพลางสอดเข้าไปทักทายภายใน


                   “อึก ชารุกข์”


              กวินท์ยกเอวลอยคว้างอย่างลืมตัว ชารุกข์กระหน่ำปลายลิ้นไปที่ยอดอกทั้งสองข้างพลางฝากรักสีกุหลาบอยู่รอบเนินเนื้อ

สองแขนของกวินท์โอบรัดรอบพระศอและโน้มกดให้ชารุกข์ระเริงอยู่กับร่างกายของเขาจนกระทั่งชารุกข์รู้ว่ากวินท์พร้อมแล้วที่จะเป็น

พระองค์เสียที

               ใจหายเมื่อปลายนิ้วถูกดึงออกจากช่องทางก่อนที่กวินท์จะสะดุ้งสุดตัวเมื่ออะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่านิ้วร้อนกำลังจ่อเข้าหา

ชารุกข์ทรงปลุกปลอบพลางบดโอษฐ์ลงมาบนกลีบปากของกวินท์และทรงดันกายเข้าสู่ร่างของกวินท์ช้าๆ


                “อื้อ เจ็บ!”


                “จะไม่เจ็บไปกว่านี้แล้วฮาบิบี”


                พึมพำเสียงกระเส่าเมื่อส่วนกว้างสุดผ่านทางแคบเข้าไปได้แล้ว ชารุกข์ทอดพระเนตรกวินท์ที่หน้านิ่วเพราะความเจ็บปวด

และประทานรางวัลเป็นจุมพิตเร่าร้อนพร้อมกับดันพระองค์ให้แทรกลึกสุดทาง


                  “เยี่ยมที่สุด”


                  ชารุกข์ขับเคลื่อนอยู่ในร่างกายของกวินท์อย่างถูกพระทัย ช่องทางของกวินท์รองรับแรงปรารถนาของพระองค์ได้ดีกว่า

สตรีมากหน้าที่อยู่ในความครอบครองของพระองค์จนเทียบไม่ติด ชารุกข์โถมกายเข้าใส่และสอนให้กวินท์ตอบรับไปกับท่วงท่าที่

พระองค์ประทานให้

               หัวใจของกวินท์เต้นรัว กล้ามเนื้อเต้นระริก เขาโลดแล่นไปตามอารมณ์ที่ชารุกข์ทรงพาเขาให้ล่องลอยราวกับความฝัน บาง

คราวชารุกข์ก็เร่งเร้าเอาแต่ใจ บางคราวก็ปรนเปรอให้กวินท์จนเขากู่ไม่กลับ สมรภูมิบนเตียงกว้างผ่านไปจนกวินท์ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

เหลือเพียงแค่กษัตริย์แห่งฮาลียันที่กลายเป็นเจ้าของร่างกายของเขาโดยสมบูรณ์







                   “เหนื่อยไหม”


                    สุรเสียงนุ่มนวลกระซิบถามเมื่อสุดท้ายกวินท์หลับตาลงอย่างอ่อนเพลียอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น เขาไม่สนใจผ้าปูที่นอนยับ

ย่น ร่างกายเปรอะเปื้อนด้วยเหงื่อและร่องรอยแห่งความสุข ชารุกข์ทรงสละท่อนแขนให้เขาได้หนุนนอน ทรงกอดเขาอย่างหวงแหน


                    “หมดแรงแล้วครับ ทำไมทรงพระแข็งแกร่งอย่างนี้”


                    ชารุกข์สรวลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทรงเชยคางของกวินท์ขึ้นแล้วจุมพิตเบา ๆ


                    “พูดธรรมดากับผมเถอะ อย่าใช้ราชาศัพท์แบบงง ๆ ของคุณเลยกวินท์”


                     “คุณจะปล่อยผมไปไหมครับชารุกข์”


                    กวินท์ฝืนความง่วงงุนลืมตาขึ้นมอง เมื่ออารมณ์ร้อนแรงผ่านไปเขาก็กลับมาสู่ความจริงว่าบุรุษที่เขากอดอยู่คือผู้มีอำนาจ

ที่สุดในประเทศนี้


                  “คิดว่าผมจะปล่อยคุณไหมล่ะฮาบิบี”


                  ชารุกข์ทรงกระชับวงแขนให้กวินท์อบอุ่นยิ่งขึ้น


                 “ผมไม่เคยปล่อยสิ่งที่เป็นของผม นอกจากว่าคุณจะอยากไปจากผมเอง”


                    กวินท์ยิ้มอยู่กับอ้อมกอดนั้น เสียงหัวใจของชารุกข์สะกดเขาไว้ได้ อันที่จริงก็ตั้งแต่พบกันครั้งแรกเมื่อวานนี้ กวินท์ยอมรับ

ว่าเขาตกอยู่ในมนต์สะกดของชารุกข์ เซรีมไปแล้ว


                    “ตอนนี้ผมยังอย่างท่องเที่ยวฮาลียันสักพัก กลับไปก็ยังไม่มีงานทำ ตกงานอยู่น่ะครับ”


                     “งั้นมาทำงานกับผม”


                    “คุณจะให้ผมทำอะไร”


                     กวินท์เอียงคอมองพลางยิ้มหวาน ชารุกข์ทอดพระเนตรอย่างหลงใหล


                    “ถวายงานเป็นการส่วนพระองค์ให้แก่กษัตริย์แห่งฮาลียัน ตำแหน่งนี้ใหญ่พอสำหรับความน่ารักของคุณไหม”


                  “ผมมีวีซ่าท่องเที่ยวแค่สามเดือน”


                   กวินท์พลิกกายขึ้นไปนอนทับอยู่บนร่างแกร่งพลางจูบที่คางของชารุกข์คลอเคลียราวกับเป็นลูกแมวขี้อ้อน ชารุกข์ยก

พระหัตถ์ลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนอย่างถูกใจ


                 “ผมจะออกวีซ่าทำงานให้คุณเป็นกรณีพิเศษ เป็นวีซ่าตลอดชีพ”


                 “ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์เลยครับ”


                   ชารุกข์พลิกวรกายกลับให้กวินท์กลายเป็นนอนหงายอยู่เบื้องล่างและพระองค์ทาบทับอยู่เบื้องบน ทรงทอดพระเนตรแมว

ขี้อ้อนด้วยดวงตาพราวแสง


                 “ไหนว่าง่วงไงล่ะ”


                 “หายง่วงแล้วครับ อยากเริ่มงานแก่กษัตริย์แห่งฮาลียันโดยเร็ว”


                  กวินท์ช้อนสายตายั่วเย้าจนชารุกข์หมดความอดทน


                 “ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวรับโบนัสได้เลยกวินท์”


                เสียงหัวเราะดังประสานก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแห่งรักที่จูงมือกันโลดแล่นบนเตียงกว้างอีกครั้ง





                                                       จบดีกว่า


                                                  เราจะไม่ได้เห็นท่านเชคฮชารุกข์หื่นกามเช่นนี้บ่อยนัก
                                                                 ดังนั้นจงตักตวงไว้ซะ 5555

                                                            :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2017 20:25:53 โดย Belove »

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ในเรื่องจริง จะได้เห็นชารุกข์หืนแบบนี้บ้างไหมค๊ะ

ออฟไลน์ namaquaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เขินนนนนนนนน กวินท์มีความร้อนแรงเบาๆ
 :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มันต้องหื่นแบบนี้

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชารุกข์ก็หื่นว่วนกวินทร์ก็ขี้ยั่ว  :z1:

แต่จะได้เห็นแบบนี้ในตอนหลักมั้ยเนี่ย  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าอยากได้...อยากได้น้องกวินทร์มาเป็นของตัวเอง // ก้มตัวหลบกระสุน

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ใจง่าย ชริชริ  :hao5:  นี่มัน ปิ้งรักในห้องน้ำ ใช่มะ  :a5:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
   เขินนนแต่พอคิดถึงเรื่องหลักถอนหายใจรัวๆๆๆ
ขอให้ไม่มาม่ามากไปนะค่ะใจบ่ดีอิอิ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอ่อ กวินตอนแรกยังเกรงๆ อยู่เลย พอโดน....แล้วไหงกลายเป็นอ้อยท่านชารุกข์ได้ล่ะ สงสัยโดนเสน่ห์แน่ๆ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กรี๊ดดด ฉันฟินน

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดูกวินท์จะชอบงานนี้นะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ปลื้มใจ

ชารุกข์มุมนี้ มีไม่มาก แต่จะไม่เห็นกวินท์ได้ยั่วเย้าแบบนี้แน่ๆ
น่ารักดีค่ะ ดูอบอุ่น ดูหยอกล้อ

ตกหลุมกันไปเต็มๆ

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เป็นเวอร์ชั่นต่างจากเรื่องหลักจริงๆ ร้อนแรงมากค่าาา
เลือดจะไหลหมดตัวแล้วว
 :pighaun: :pighaun:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เอาตอนพิเศษมาหลอกล่อให้ตายใจใช่ไหมล่ะ ตอนหลักอย่างหน่วง

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                     ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                               บทที่ 17


               คาลีลออกจากบ้านไปแล้ว และบอดี้การ์ดของคาลีลก็ยอมปล่อยให้วิกเตอร์เป็นอิสระภายในตัวบ้านเท่านั้น คนรับใช้ไม่ได้มา

คอยสอดส่องวิกเตอร์จึงเท่ากับอยู่เพียงลำพังในบ้านหลังใหญ่ เมื่อวิกเตอร์ตัดสินใจว่าเขาจะสืบหาข้อมูลของคาลีลเขาจึงเดินไปบนชั้น

สองที่และไปหยุดหน้าประตูห้องหลังหนึ่งที่วิกเตอร์มั่นใจว่ามันคือห้องส่วนตัวของคาลีล

               ทดลองเปิดประตูก็พบว่าไม่ได้กดล็อกวิกเตอร์จึงเปิดมันและก้าวเข้าไปในห้องด้วยความระมัดระวัง เขากวาดสายตาไปทั่ว

ห้องที่ไม่ได้ต่างอะไรกับห้องนอนกว้างของพวกคนรวย ภายในมีเฟอร์นิเจอร์หรูหราประกอบด้วยเตียงและตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน ชุดโฮม

เธียเตอร์กับเครื่องเสียงราคาแพง และมีชั้นหนังสือเล็ก ๆ ตั้งอยู่ที่ผนังด้านหนึ่งของห้อง ใกล้กันมีโต๊ะทำงานกับคอมพิวเตอร์และเอกสาร

กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะคล้ายกับเจ้าของห้องรีบร้อนออกไปโดยไม่ทันได้จัดให้เป็นระเบียบ

                วิกเตอร์พุ่งตัวไปที่โต๊ะทำงานทันที เขาคว้าเอกสารเหล่านั้นขึ้นมาอ่าน บางแผ่นเป็นภาษาอังกฤษ บางแผ่นเป็นภาษาอารบิก
ทั้งหมดประทับตราคณะรัฐบาลซึ่งทำให้วิกเตอร์คิดว่าคงเป็นงานในตำแหน่งเลขานุการในสมเด็จพระราชาธิบดี วิกเตอร์ย่นหัวคิ้วอย่าง

ขัดใจที่ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ อย่างที่เขาคาดการไว้

              ลองขยับไปยังชั้นหนังสือ วิกเตอร์เพ่งมองไปตามสันหนังสือเพื่อดูชื่อว่ามีอะไรควรค่าแก่ความสนใจของเขาหรือไม่ เขาดึง

หนังสือบางเล่มออกมาเผื่อว่าจะมีสิ่งผิดปกติ วิกเตอร์พยายามทุกอย่างจนเขาถอดใจ

               บางทีคาลีลอาจเป็นแค่เลขานุการของกษัตริย์แห่งฮาลียัน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น อาจจะไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติอย่าง

ที่วิกเตอร์สงสัย เขาสบถอย่างขัดใจและหันหลังเพื่อก้าวกลับไปนอกห้อง

               เพราะความรีบร้อนทำให้ไหล่ของวิกเตอร์ชนเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่มีมุมยื่นออกมาล้ำกว่าเล่มอื่นจนมันร่วงลงพื้น วิกเตอร์

หยิบมันขึ้นมาเพื่อจะใส่เก็บที่เดิม พลันดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าช่องว่างที่เกิดขึ้นเบื้องหลังหนังสือกลับมีสลักเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ที่

ชั้นหนังสือ วิกเตอร์ชั่งใจครู่หนึ่งเขาจึงตัดสินใจดึงสลักนั้น

              เสียงครืดคราดเกิดขึ้นกับตู้หนังสือเมื่อมันขยับเอียงเปิดเผยช่องลับที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของมัน หัวใจของวิกเตอร์เต้นเร็วราวกับ

กำลังดูภาพยนตร์ฉากสำคัญ ชายหนุ่มสองจิตสองใจว่าควรจะเข้าไปในช่องลับขนาดพอดีคนเบื้องหลังชั้นหนังสือดีหรือไม่ เขายังเป็น

ห่วงสวัสดิภาพของตัวเองอยู่ แต่ในที่สุดความเย้ายวนอยากรู้ความจริงก็ชนะวิกเตอร์ตัดสินใจก้าวผ่านช่องแคบนั้นเข้าไป

               ความตื่นตาเกิดขึ้นกับเขาเมื่อแสงสว่างอัตโนมัติพลันวาบขึ้นมาจนทั้งห้องเปิดเผยให้เห็น มันเป็นห้องที่มีความกว้างขนาดได้

สักครึ่งหนึ่งของห้องนอนด้านนอก ทุกด้านเป็นผนังทึบปิดบังซ่อนเร้นจากสายตาได้เป็นอย่างดี วิกเตอร์พุ่งตรงไปที่โต๊ะกว้างกลางห้อง

ซึ่งมีอุปกรณ์บางอย่างวางอยู่ เขาเพ่งมองสำรวจมันและจากประสบการณ์ของเขาที่รู้จักเครื่องมืออิเลกโทรนิคส์ดีพอสมควร วิกเตอร์รู้ทัน

ทีว่านี่คือเครื่องมือส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารกำลังแรงสูง

                ในยุคที่ความเจริญของดาวเทียมกระจายไปได้ทั่วโลก แต่ภายในห้องนอนของคาลีลกลับมีวิทยุสื่อสารซ่อนอยู่ วิกเตอร์เดา

ไม่ออกเลยว่าผู้ชายคนนั้นใช้มันเพื่ออะไร วิกเตอร์เบนความสนใจไปที่กองกระดาษบนโต๊ะที่เขียนด้วยลายมือ ล้วนแล้วแต่เป็นข้อความ

ภาษาอารบิกที่เขาไม่เข้าใจ วิกเตอร์สุ่มเลือกแผ่นด้านบนในกองมาสองถึงสามแผ่นพับใส่กระเป๋าเสื้อไว้ก่อนจะรีบก้าวออกจากห้องลับ

                 คิดหาวิธีปิดประตูห้องลับ วิกเตอร์ทดลองดันสลักที่เขาเปิดมันคืนกลับ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็ขยับเคลื่อนที่กลับไปที่เดิม วิก

เตอร์เรียงหนังสือเข้าชั้นกลับที่ของมันก่อนจะเดินมาทรุดตัวนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ของคาลีลแล้วดึงแผ่นกระดาษจากกระเป๋าเสื้อของตน

ออกมามองข้อความสั้น ๆ ด้วยลายมือของคาลีล

               อาจเป็นเพราะคาลีลรีบร้อนออกไปจากบ้านเขาจึงไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ เมื่อวิกเตอร์ขยับเม้าส์หน้าจอแสตนด์บายก็แสดงตัว

ขึ้น วิกเตอร์ผุดรอยยิ้มขึ้นมา

                เขาว่างมากพอที่จะเรียนภาษาอารบิกแบบเร่งรัด วิกเตอร์เชื่อว่าไม่มีอะไรอยู่เหนือความพยายามของคนเรา จะว่าเขาเป็นคน

สอดรู้สอดเห็นก็ได้ แต่วิกเตอร์คิดว่านี่คือการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในเมื่อคาลีลต้องการให้เขาอยู่อย่างสงบวิกเตอร์ก็จะทำ เขาจะ

นั่งนิ่ง ๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นี่แหละ

                กว่าคาลีลจะกลับมา ภาษาอารบิกแบบเร่งรัดที่เขาเรียนคงประสบความสำเร็จไปหลายแผ่น

                และถึงตอนนั้นวิกเตอร์อาจจะรู้แล้วว่าคาลีลคือใคร







                 คาลีลจอดรถยนต์ของเขาไว้ในซอยแห่งหนึ่งห่างจากถนนเส้นหลักกลางเมืองหลวง เขาถอดเสื้อสูททิ้งไว้บนเบาะรถและใช้

ผ้าปิดบังใบหน้าเหลือทิ้งไว้เพียงดวงตาเท่านั้น ผ้าโพกศีรษะทิ้งชายยาวช่วยซ่อนเร้นเค้าหน้าได้อีกชั้นจนกระทั่งพร้อมแล้วคาลีลจึงได้

ลงจากรถยนต์กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังถนนใหญ่ที่มีแต่ความโกลาหลของจลาจลครั้งใหญ่

              ชายหนุ่มแทรกตัวเองไปกับประชาชนคลาคล่ำบนท้องถนน มองเห็นความวุ่นวายและความรุนแรงของสถานการณ์อย่างน่าเป็น

ห่วง ฝ่ายทหารยืนเป็นแผงใช้กระบองกับโล่เข้าผลักกลุ่มคนหัวรุนแรงที่อยู่ด้านหน้า เสียงโห่ร้องขับไล่ดังก้องไปทั่วท้องถนนในเขต

เศรษฐกิจของฟาดีเลาะฮ์ คาลีลพยายามมองหาบุคคลที่เป็นเป้าหมายของเขาด้วยความยากลำบากเพราะแทบทุกคนล้วนพรางใบหน้า

เฉกเช่นเดียวกัน

                ดูเหมือนเป้าหมายของคาลีลเองก็รอคอยอยู่เช่นกัน ณ จุดนัดพบ ชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนไปทางท้วมคนหนึ่งหันมาสบตา

กับเขาอยู่คนละฟากฝั่งถนน คาลีลใจชื้นเมื่อได้เห็น เขาฝ่าฝูงชนข้ามฝั่งไปหาชายผู้นั้นทันที


                   “เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้างคับฮัสซัน”


                   คาลีลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ชายผู้นี้คือแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้กษัตริย์ราชิดมอบพระราชอำนาจ

คืนเพราะความไม่ถูกต้องของการขึ้นสู่บัลลังก์


                “รุนแรงมาก มีคนบอกว่าทหารเตรียมการใช้แก๊สน้ำตากันแล้ว ผมคาดการว่ากษัตริย์ราชิดกำลังคิดจะโค่นล้มพวกเราลงใน

อีกไม่ช้า”


                 ฮัสซันกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เขาปิดบังใบหน้าเช่นเดียวกับทุกคนที่กำลังต้านทานพวกตำรวจทหารอย่างแข็งขัน


                 “ทางคุณล่ะคาลีล มีข่าวอะไรหรือเปล่า อามิรเป็นอย่างไรบ้าง”


                   “อามิรปลอดภัยดีอยู่”


                  คาลีลรีบตอบให้ฮัสซันสบายใจ


                 “แต่ผมยังแปลกใจว่าการโจมตีที่ตั้งลับมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมรู้ข่าวก่อนหน้านั้นเพียงแค่ไม่กี่นาที ก่อนที่พวกทหารจะ

ระเบิดจนทำให้เราเสียกำลังคนไปเยอะเหมือนกัน”


                “กษัตริย์ราชิดก็ใช่ย่อยหรอกนะ เขาได้กลุ่มทหารที่ภักดีต่อพระชายาพระมารดาของเขาช่วยเหลืออยู่ มิเช่นนั้นไหนเลยจะ

กล้าชิงอำนาจ”


               ฮัสซันกล่าวอย่างเคียดแค้น


                “ผมกลับคิดว่าฝั่งโน้นก็มีสายลับของเขาเช่นกัน ซึ่งเราไม่อาจรู้เลยว่าใครที่ทำเช่นนั้น”


                คาลีลวิตกเรื่องนี้มาได้หลายวัน ฮัสซันสบตาเขาด้วยความกังวล


                “แล้วด้วยหน้าที่ของคุณ ไม่มีข่าวหรือคำสั่งจากกษัตริย์ราชิดเลยงั้นหรือ”


                  “ผมเป็นเลขานุการในฐานะผู้นำรัฐบาลเท่านั้น งานที่รู้ก็มีแต่คำสั่งบริหารงานภายในประเทศ แต่ในฐานะทรงเป็นประมุข

ของประเทศบางทีมันก็นอกเหนืออำนาจที่เขาจะปล่อยให้ผมล่วงรู้ นี่ผมยังคิดว่าพระองค์อาจจะทรงระแคะระคายในสิ่งที่ผมทำอยู่ก็ได้”


               แววตาของความหนักใจเกิดขึ้นทั้งกับคาลีลและฮัสซัน แต่ทันใดนั้นบทเจรจาก็ต้องยุติลงด้วยความตกใจเมื่อพวกเขาและ

ผู้คนที่อยู่โดยรอบได้ยินเสียงระเบิดแก๊สน้ำตาลูกแรก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นทันทีประชาชนผู้ภักดีต่อกษัตริย์พระองค์เก่าต่าง

ต้องวิ่งหนีกันวุ่นวาย ด่านหน้าที่ยื้อยุดอยู่กับเหล่าตำรวจทหารถูกไอจากแก๊สน้ำตาจนมองอะไรแทบไม่เห็น บางคนถึงกับมีอาการหายใจ

ลำบากเพราะฤทธิ์ของมัน

                คาลีลกับฮัสซันต้องแยกจากกันทันทีเมื่อกองกำลังตำรวจปราบจลาจลบุกฝ่าด่านหน้าของผู้ชุมนุมประท้วงเข้ามาได้แล้ว

ระเบิดแก๊สน้ำตาลูกต่อไปถูกยิงเข้ามาในฝูงชนเป็นระยะ ไอขาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนผู้คนต่างก็วิ่งหนีกันวุ่นวาย ตำรวจและทหารที่

มีหน้ากากป้องกันกรูกันเข้ามาใช้กระบองทุบตีผู้ชุมนุมอย่างไม่ปรานี


                 “นี่คือกองกำลังของรัฐบาลซึ่งมีสมเด็จพระราชาธิบดีราชิดทรงเป็นประมุข ผู้ชุมนุมทุกคนจงวางอาวุธ มิเช่นนั้นทั้งตำรวจ

และทหารจะใช้ความรุนแรงเพื่อยุติการชุมนุม”


                 เสียงดังจากลำโพงกระจายเสียงดังขึ้นต่อเนื่องเพื่อข่มขู่ให้ผู้ชุมนุมยอมแพ้ หากแต่คล้ายจะยิ่งกระตุ้นให้ฝ่ายผู้ชุมนุมโกรธ

แค้นเกลียดชังมากขึ้น ความรุนแรงทวีขึ้นทุกขณะเมื่อเริ่มมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงหัวรุนแรงกับกองกำลังของรัฐบาล


                “หนีไปก่อน”


                ฮัสซันตะโกนบอกคาลีล


                 “อย่าให้ใครจับคุณได้ หนีไป”


               คาลีลละล้าละลัง แต่เขาก็ตระหนักในบทบาทของตัวเองดี ดวงตาเรียวแดงก่ำเพราะไอของแก๊สน้ำตาที่คละคลุ้งไปทั่ว คาลีล

พยายามใช้ชายผ้าโพกศีรษะเช็ดน้ำตาออก ตอนนี้เขาแสบโพรงจมูกจนแทบหายใจไม่ออกแต่เขาจำเป็นต้องหนีไปจากสถานการณ์แห่ง

ความรุนแรงนี้

               ชายหนุ่มกระเสือกกระสนหาทางหนีไปจากประชาชนซึ่งกำลังบ้าคลั่งด้วยความยากลำบากจนกระทั่งสามารถออกจากถนน

ใหญ่ไปยังซอยเล็กที่แยกออกมาจนได้ เขาวิ่งกระเซอะกระเซิงไปถึงรถยนต์ที่จอดไว้ห่างจากที่เกิดเหตุ  คาลีลเปิดกระโปรงท้ายรถควาน

มือหาขวดน้ำดื่มที่เขาจำได้ว่าใส่ไว้และคว้ามันมาล้างที่ดวงตาจนอาการแสบร้อนเจือจางลงจึงได้ทิ้งขวดน้ำและก้าวขึ้นรถ

               คาลีลทุบมือไปกับพวงมาลัยรถยนต์และฟุบหน้าลงอย่างเจ็บใจเมื่อได้ยินเสียงการปะทะกันดังแว่วมาแม้ว่าจะอยู่ห่างออกมา

แล้ว เขาเจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เลยแม้ว่าอยากจะอยู่เพื่อต่อสู้ก็ตาม แต่หน้าที่ของเขาที่ต้องรับผิดชอบยังไม่หมดสิ้นลง คา

ลีลจะต้องกลับไปทำหน้าที่ของเขาให้บรรลุเป้าหมายมากที่สุด

                      เขาสตาร์ทรถและขับมันกลับบ้านด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย






มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2017 14:59:51 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...





                 คาลีลหายไปนานหลายชั่วโมงจนวิกเตอร์นึกเป็นห่วง มันนานจนวิกเตอร์ลุกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความเมื่อยขบและ

ลุกไปที่ห้องครัวเพื่อขออาหารจากแม่ครัวมากินจนอิ่มท้องและกลับมานั่งเปิดโทรทัศน์ในห้องโถงด้านหน้า วิกเตอร์ตาลุกเมื่อเห็นภาพ

ข่าวการปะทะกันของผู้ชุมนุมประท้วงกับฝ่ายรัฐบาล

               วิกเตอร์เลือกเปิดช่องข่าวจากประเทศอื่นที่มิใช่ข่าวจากฮาลียัน เขาฟังการวิเคราะห์ข่าวอย่างเข้มข้นจากสำนักข่าว และ

มั่นใจว่าตอนนี้ฮาลียันกำลังอยู่ในช่วงจุดเริ่มต้นของความรุนแรง วิกเตอร์ตั้งใจฟังข่าวจนกระทั่งได้ยินเสียงรถยนต์คุ้นหูดังขึ้นภายนอกตัว

บ้าน วิกเตอร์รีบผุดลุกขึ้นมาทันทีเพื่อจะรอให้คาลีลก้าวเข้ามา


              “คุณหายไปนานมาก”


               วิกเตอร์พูดขึ้นมาเห็นคาลีล คิ้วดกของเขาย่นเข้าหากันเมื่อเห็นสภาพของเลขานุการของกษัตริย์ราชิดที่บัดนี้แทบไม่เหลือ

สภาพความเนี้ยบให้เห็น เสื้อผ้าของคาลีลเปื้อนมอมแมมไปทั้งตัว ผ้าโพกศีรษะหลุดลุ่ยจนวิกเตอร์เพิ่งจะได้เห็นใบหน้าของคาลีลอย่าง

เต็มวงหน้าเป็นครั้งแรก

                เส้นผมของคาลีลสีดำสนิท ใบหน้าคมคายอย่างบุรุษชาวตะวันออกกลาง สีผิวค่อนมาทางขาวแม้จะไม่จัดนักแต่ก็พอรู้ว่าเขา

เป็นคนที่ไม่ค่อยนิยมให้ร่างกายถูกแดดแผดเผา ดวงตาคมเปลือกตาสองชั้นแดงเรื่อจนน่ากลัว


                “ในเมืองมีการปะทะกันแล้ว คุณควรจะให้ผมไปทำงานของผม”



                 “ถอยไป”


                  คาลีลแทบจะยืนไม่อยู่แล้วตอนนี้ เขาฝืนทรงตัวให้แลดูเข้มแข็งทั้งที่จริงกำลังปวดแสบปวดร้อนไปตามผิวหนังทั้งเนื้อทั้ง

ตัว มันเป็นผลจากแก๊สน้ำตาที่เขารับมันมาเต็ม ๆ แต่ชาวต่างชาติที่เขาพาตัวมาไว้ที่บ้านกลับขวางทางไว้


                “ผมต้องการให้คุณปล่อยผม”


                  วิกเตอร์ส่งเสียงเด็ดขาด เขาชูแผ่นกระดาษในมือขึ้นมาราวกับมันเป็นตัวประกันชั้นดีที่จะทำให้คาลีลต้องยอมทำตามที่เขา

ต้องการ


                     “หากคุณไม่ปล่อยผม กระดาษแผ่นนี้ที่แสดงข้อความการติดต่อกันระหว่างคุณกับจอมโจรแห่งดาฟาร์จะถูกเปิดเผย ว่า

ไงล่ะท่านเลขา”


                 คาลีลตกใจเป็นอย่างมาก กระดาษเหล่านั้นมีลายมือของเขา และลายมือภาษาอารบิกของเขากลับมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่

เขากล่าวโทษความเผอเรอของตนเองและไม่นึกว่าวิกเตอร์จะกล้าทำเช่นนี้


                “คุณ...”


                 คาลีลยกมือสั่นเทาชี้หน้าของวิกเตอร์ที่มองตอบอย่างเป็นต่อ วิกเตอร์ยักคิ้วท้าทายให้คาลีลเจ็บใจเมื่อเขาค้นพบความลับ

สุดยอดที่เพียรปิดบังไว้ คาลีลนึกอยากจะออกเสียงสั่งให้คนของเขาที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าบ้านให้เข้ามาจัดการกับวิกเตอร์ แต่ในความ

เป็นจริงสิ่งที่เกิดขึ้นคือร่างของคาลีลกลับเข่าอ่อนร่วงไปกองอยู่บนพื้น


              “คาลีล คาลีล!”


                 วิกเตอร์ตกใจเมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคมลอยคว้างก่อนจะล้มพับไปกับพื้น วิกเตอร์ถลาเข้าไปสำรวจสภาพของคาลลีลอย่าง

รีบด่วน ใบหน้า ดวงตา จมูกของคาลีลแดงก่ำไปหมด ลักษณะท่าทางการหายใจลำบาก วิกเตอร์เอะใจ เขารีบปลดกระดุมเสื้อของคาลีล

แล้วแหวกมันออกทันที

                 จริงอย่างที่คิด ผิวกายแดงก่ำมีผื่นขึ้น อาการเช่นนี้วิกเตอร์ที่ทำงานมาแล้วหลายสถานการณ์รู้ทันทีว่าคาลีลแพ้อะไรบาง

อย่างและมันรุนแรงมาก


                “คาลีล นี่คุณไปทำอะไรมา บอกผมมาเร็ว”


                    ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขานึกเป็นห่วงชายผู้มีท่าทางเคร่งขรึมระเบียบจัดคนนี้ ยิ่งรู้ว่าจุดประสงค์แท้จริงในสิ่งที่คาลีลทำ

คืออะไร มันทำให้วิกเตอร์เข้าใจคาลีลมากขึ้น และอาการของคาลีลมันทำให้วิกเตอร์โยนเรื่องของตัวเองทิ้งไปก่อน


             “แก๊ส แก๊สน้ำตา”


             คาลีลเอ่ยอย่างลำบากเพราะเขาหายใจไม่ทัน วิกเตอร์ละล้าละลังไปกับการช่วยเหลือ


             “ต้องไปโรงพยาบาลไหม หรือจะให้คนของคุณไปพาหมอมาที่นี่ คุณแพ้แก๊สน้ำตานะ ตอนนี้อาการคุณไม่ดีเลย”


              “ไม่ ไม่ได้”


             คาลีลรีบห้าม เขาจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น


              “ผมมียาแก้แพ้อยู่ในห้อง แค่ แค่พาผมไป”


              วิกเตอร์พยักหน้า เขายกแขนของคาลีลขึ้นพาดบ่าก่อนจะประคองคาลีลให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล วิกเตอร์เดินประคองคาลีล

ไปยังห้องนอนและช่วยให้คาลีลได้นอนพักอยู่บนเตียง


               “ไหนล่ะยาแก้แพ้”


             วิกเตอร์ถามทันทีเมื่อช่วยคาลีลนอนบนเตียงแล้ว คาลีลชี้มือไปยังกล่องบนชั้นวางของ วิกเตอร์ที่ก้าวไปทันทีเขาคว้ากล่อง

สำหรับเก็บยาสามัญประจำบ้านขึ้นมาแล้วหายาแก้แพ้อย่างรวดเร็ว เมื่อพบแล้ววิกเตอร์ก็รีบไปที่ตู้เย็นคว้าขวดน้ำมาเทน้ำใส่แก้วก่อนจะ

กลับมาหาคาลีลอีกครั้ง


               “คาลีล กินยา”


                ประคองศีรษะคาลีลด้วยท่อนแขนและป้อนเม็ดยาเข้าปาก คาลีลกลืนมันลงคอพร้อมกับน้ำที่วิกเตอร์ป้อนเขา ชายหนุ่ม

หลับตาลงและปล่อยให้ฤทธิ์ยาทำงาน

                      วิกเตอร์มองใบหน้าที่เพิ่งคล้อยหลับไปด้วยความเป็นห่วง อาการหายใจลำบากทุเลาลงแล้วแต่ใบหน้าและผิวกายของ

คาลีลก็ยังแดงจนน่ากลัว

                   ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องเป็นห่วงผู้ชายที่นอนหลับอยู่ตรงหน้านี่ด้วย


                   วิกเตอร์ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ

               


                                                                            TBC


                                                    แบ่งบทให้คู่รองบ้าง เดี๋ยวน้อยใจ

                                                :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2017 15:06:29 โดย Belove »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คาลีลอยู่ฝ่ายชารุกข์จริงๆด้วย

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ว่าแล้วคาลีลต้องเป็นสายแน่ๆ รอตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด