<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>  (อ่าน 151916 ครั้ง)

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สู้เขานะคะเจ้าชาย  :mew2:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอให้ปลอดภัยน้าาาาา
เป็นห่วงจัง

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
คู่นี้หวานได้สามบรรทัด เธอรียมตัวรบด้วยจ้า

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ระเบิดตู้มๆๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขอให้ปลอดภัย ขอให้ชนะ งื้ออออ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
ขอให้ท่านเชคฮปลอดภัย หวานยังไม่ทันไร สงครามมาซะแล้ว

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เปิดศึกกันแล้ววว :ling1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หวานได้ไม่นาน...

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
สงครามมาแล้ว สู้นะชารุกข์ T^T

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
วันคืนหวานชื่นได้แปบเดียว กลับมาเจอรสขมซะแล้ว

สงสารชารุกข์นะ คำว่าครอบครัว ทำให้ยั้งมือบ้าง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว

ชอบ และฟินมาก ตอนเค้าเคียงคู่กัน ขอให้กลับไปเจอกันไวๆนะคะ
ถล่มราชิดให้ล่มไปเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องกลับมาเจอเรื่องแบบนี้อีก

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
โห มาอ่านอีกทีเข้าช่วงดราม่าแล้ว

นี่ดองไว้กะมาอ่านแบบเต็มอีกดันค้างจนได้อีก :hao5:

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ท่านชารุกข์ในบทพิเศษอ่านจบถึงกับว้าววว เขิน ที่สุด
มาบทปกติ ก็เขินในความละมุน
นี่ไม่อยากให้สองคนต้องจากกันแบบนี้เลยอ่ะ มันจะทรมาน ถ้าคนที่ห่วงเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเป็นไง

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
โอ๊ย ลุ้นอีก เครียดอีก ฮือ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ลุ้นมาก คืออยากรู้ว่าสายคนนั้นคือใครรร

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                           ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                                     บทที่ 19



                    คาลีลตรงดิ่งไปยังที่ทำการของคณะรัฐบาลด้วยความรีบร้อน เขาก้าวไปยังหน้าห้องทรงงานของสมเด็จพระราชาธิบดีรา

ชิด ทัชฮดิน บินซาฟาร์ อัลฟาดี ทหารรักษาพระองค์ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องหันมามองเมื่อเห็นว่าเป็นเขาจึงเปิดประตูให้คาลีลก้าวเข้าไป

ในห้องทรงงานได้

                     ชายหนุ่มโค้งศีรษะคำนับผู้นำของประเทศที่ประทับอยู่บนเก้าอี้หนังทอดพระเนตรภาพข่าวจากจอโทรทัศน์ติดผนัง ผ่าน

มาถึงยามเช้ารัฐบาลเข้าสลายการชุมนุมด้วยอาวุธปืนและกระสุนจริงจนเริ่มมีการสูญเสียชีวิตของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ต่างประเทศเริ่มรับรู้

เหตุการณ์ความรุนแรงของฮาลียันจนออกประกาศเตือนภัยความรุนแรงให้แก่ประชาชนประเทศของตนที่อาศัยอยู่ที่นี่


                       “กราบทูลฝ่าพระบาท” คาลีลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด


                       “สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีต่อฮาลียันเลยกระหม่อม ถึงพวกเขาจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระองค์แต่เช่นไรพวกเขาก็เป็น

ชาวฮาลียันนะกระหม่อม”


                     สมเด็จพระราชาธิบดีราชิดทรงหันขวับมามองเลขานุการวัยหนุ่มของพระองค์ด้วยพระเนตรที่ไม่พอพระทัยนัก


                    “เรื่องนี้ฉันไม่จำเป็นต้องขอความเห็นจากเธอนะคาลีล ฉันออกคำสั่งในฐานะผู้นำของประเทศที่ถูกต้องอย่างแท้จริง และ

คนพวกนั้นคือพวกที่เข้าข้างกษัตริย์ที่รับตำแหน่งอย่างไม่ชอบธรรม”


                    “สมเด็จพระราชาธิบดีอาซัลทรงรับตำแหน่งจากการแต่งตั้งของพระราชบิดาของพระองค์กระหม่อม”


                     กษัตริย์ราชิดใช้สายพระเนตรเคืองขุ่นจ้องมองชายหนุ่มรุ่นลูกที่บังอาจค้านพระดำรัส ทรงตบโต๊ะดังปังก่อนจะยก

พระหัตถ์ชี้หน้าของคาลีล


                     “มากเกินไปแล้วนะคาลีล ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกชายของนายทหารเก่าที่ทำงานให้แม่ของฉันและเป็นคนเก่ง แต่ใช่ว่าฉัน

จะปล่อยให้เด็กอย่างเธอมาสั่งสอนฉันได้”


                     “หม่อมฉันมิบังอาจเช่นนั้น”


                      คาลีลพูดต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเหมือนใบหน้าของเขา


                       “เพียงแค่กราบทูลให้ทรงทราบถึงความสูญเสียที่จะตามมาในฐานะเลขานุการของพระองค์และในฐานะประชาชนคน

หนึ่งของฮาลียันกระหม่อม”


                      ประมุขของประเทศพลันลุกขึ้นยืน สีพระพักตร์แสดงให้เห็นว่าทรงกริ้วเพียงใดที่ถูกคาลีลย้ำเตือน


                     “หากเป็นคนอื่นฉันคงสั่งแขวนคอเธอเสียให้สิ้นเรื่อง แต่นี่เห็นแก่พ่อของเธอที่เคยทำคุณความดี ฉันขอไล่เธอออกจาก

ตำแหน่งเลขานุการและกักตัวเธอไว้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง”


                         ตรัสจบทหารรักษาพระองค์ที่ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้าห้องทั้งสองคนก็ปรี่เข้ามายึดท่อนแขนของคาลีลไว้

แล้วกระชากเขาออกไปจากห้องทรงงานทันที 








                    วิกเตอร์นั่งกระวนกระวายอยู่ในรถยนต์ของคาลีลที่จอดนิ่งอยู่ภายนอกรั้วของที่ทำการรัฐบาลฮาลียัน เขาขอร้องแกม

บังคับให้คาลีลพาเขามาด้วยแม้ว่าคาลีลจะไม่เต็มใจก็ตาม


                    “คุณจะปล่อยให้ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้” วิกเตอร์ยืนกราน


                    “ผมเป็นนักข่าว และนี่คือความจริงที่คุณต้องการให้ทั่วโลกรู้ไม่ใช่หรือ ใช้ผมให้เป็นประโยชน์สิ ใช้ผมเป็นเครื่องมือบอก

เล่าเรื่องของคุณให้โลกรู้”


                     “แต่มันอันตราย และผมเองก็ไม่อาจจะดูแลความปลอดภัยให้คุณได้ ผมยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวผมด้วยซ้ำ”


                      คาลีลยังคงปฏิเสธแต่วิกเตอร์ก็ยังดื้อดึงตามนิสัยของเขา


                       “ผมดูแลตัวเองได้ แค่คุณพาผมไปด้วยเท่านั้นพอ”


                        เหตุผลเหล่านั้นเองทำให้วิกเตอร์ได้นั่งมาในรถของคาลีลจนกระทั่งคาลีลขับรถมาจอดอยู่ข้างรั้วของที่ทำการรัฐบาล


                        “ทำไมไม่ขับเข้าไปด้านใน”


                      วิกเตอร์เอ่ยถาม คาลีลส่ายหน้า แววตาบ่งบอกความกังวลอย่างเห็นได้ชัด


                       “ผมไม่ไว้ใจสถานการณ์ในตอนนี้ จำไว้นะวิกเตอร์ หากเกิดอะไรขึ้นคุณขับรถหนีไปได้เลยไม่ต้องเป็นห่วงผม และนี่...”


                      คาลีลเปิดลิ้นชักด้านหน้าของวิกเตอร์ เขามองเห็นด้ามปืนสีดำมะเมื่อมวางสงบอยู่ในนั้น


                       “...ใช้มันในยามคับขัน ผมไปละ”


                        วิกเตอร์มองตามแผ่นหลังของคาลีลด้วยหัวใจที่ไม่ปกตินัก เขานึกเป็นห่วงความปลอดภัยเมื่อคาลีลก้าวเดินเข้าไปใน

สถานที่ซึ่งเขารู้แล้วว่าเป็นภัยต่อคนที่กำลังเดินตรงไปยังอาคารที่ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามและหรูหราเบื้องหน้า วิกเตอร์พยายาม

สอดส่ายสายตามองว่าเมื่อไหร่ที่คาลีลจะเดินกลับออกมา

                     มีเพียงรถยนต์คันหนึ่งเท่านั้นที่ขับออกมาจากประตูทางเข้าออก วิกเตอร์พ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อยังไม่

เห็นคาลีล รถยนต์คันนั้นขับผ่านเขาไป อะไรบางอย่างเรียกให้วิกเตอร์เงยหน้าขึ้นมองท้ายรถคันนั้นราวกับมันเป็นลางสังหรณ์ และสิ่งที่

เห็นทำให้วิกเตอร์เบิกตากว้าง

                  ศีรษะด้านหลังของคาลีล น่าแปลกที่วิกเตอร์จำได้แม่น คาลีลกลับออกมาด้วยพาหนะของรัฐบาลโดยมีนายทหารนั่ง

ประกบข้างมาด้วยคนหนึ่ง เหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลทำให้วิกเตอร์ตัดสินใจสตาร์ทรถ เขาขับตามรถคันนั้นไปทันทีพร้อมกับเอื้อมมือ

เปิดลิ้นชักและหยิบปืนกระบอกเล็กขนาดเหมาะมือออกมา

                  หากคาลีลสืบประวัติของเขาจริง ๆ ก็จะรู้ว่าสมัยช่วงวัยรุ่นวิกเตอร์เคยเป็นนักกีฬาแม่นปืนระดับทีมชาติชุดเยาวชนมาแล้ว

เขาพยายามข่มความตื่นเต้นเมื่อนี่คือเหตุการณ์คับขันไม่ใช่ในสนามฝึกซ้อม วิกเตอร์เปิดประจกแล้วใช้เพียงมือเดียวบังคับพวงมาลัยรถ

เขายื่นแขนออกไปนอกหน้าต่างแล้วเล็งปืนไปยังยางของรถยนต์คันที่ขับนำอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนัก


                   เปรี้ยง!


                      ท้ายรถปัดไปมาทันที ระยะแค่นี้ไม่พ้นความแม่นปืนของวิกเตอร์ไปได้ วิกเตอร์ชะลอรถลงพร้อมกับจ้องมองด้วยความ

ระมัดระวัง เขามองเห็นการต่อสู้ของคาลีลกับทหารที่นั่งประกบมาบนเบาะหลังภายในรถคันนั้น


                       “คาลีล ระวัง”


                       วิกเตอร์ตะโกนลั่นด้วยความตกใจ คนขับรถพยายามบังคับทิศทางจนรถยนต์จอดนิ่งสนิทขวางกลางถนน เดชะบุญที่

ถนนว่างโล่งเพราะประชาชนต่างหวาดกลัวกับสงครามกลางเมืองจนไม่กล้าสัญจรไปมา วิกเตอร์รีบจอดรถตามและพุ่งตัวออกจากรถ เขา

วิ่งไปที่ด้านหน้าของรถยนต์ที่คาลีลนั่งมาและเล็งปืนใส่คนขับรถทันที


                        “เปิดประตูรถ”


                        วิกเตอร์ตวาดลั่น เขาเป็นห่วงคาลีลที่กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตอนหลังของรถ ทหารที่ประกบคาลีลคว้าข้อมือ

ของคาลีลและกดลำคอของคาลีลอยู่กับกระจกรถจนเจ้าตัวหน้าซีดเผือด คนขับรถมองวิกเตอร์อย่างเดือดดาลก่อนจะเปิดประตูแล้วกระ

โจนเข้าหา


                       เปรี้ยง เปรี้ยง


                      วิกเตอร์ลั่นกระสุนออกไปอีกสองนัด นัดหนึ่งยิงเข้าที่สะบ้าเข่าของคนขับรถจนล้มลง ส่วนอีกนัดเขายิงมือที่คว้าอาวุธ

ปืนจากเอวออกมาจนกระทั่งปืนกระเด็นห่างออกไป เมื่อเห็นว่าคนขับรถที่นอนกองกุมหัวเข่าเลือดไหลแดงฉานไม่สามารถทำอันตราย

เขาได้แล้ว วิกเตอร์จึงพุ่งตัวไปที่ประตูรถแล้วกระชากออก เขาคว้าคอเสื้อทางด้านหลังของทหารคนนั้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี

                      กลายเป็นวิกเตอร์ที่ทหารคนนั้นเปลี่ยนมาต่อสู้ด้วย วิกเตอร์ชกด้วยหมัดเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูกจนคู่ต่อสู้หน้าหงาย เขา

เป็นชาวตะวันตกที่มีรูปร่างได้เปรียบจึงใช้มันให้เป็นประโยชน์ ระหว่างนั้นคาลีลที่ตั้งหลักได้แล้วก็รีบออกมาจากรถยนต์และพุ่งตัวไปยัง

รถยนต์ของเขาทันที


                         “วิกเตอร์ ทางนี้”


                        คาลีลสตาร์ทรถรอ เขาเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับและตะโกนบอกวิกเตอร์ เห็นดังนั้นวิกเตอร์ที่ยังต่อสู้พัวพันก็ปล่อย

หมัดฮุคเข้าที่ลิ้นปี่ของทหารจนตัวงอก่อนที่เขาจะรีบวิ่งและพุ่งตัวเข้าไปในรถของคาลีล


                       เปรี้ยง!


                      ทหารคนนั้นยิงปืนใส่เขา วิกเตอร์กัดฟันหันหลังกลับแล้วยิงปืนในมือตัวเองตอบโต้ ฝีมือของแชมป์เยาวชนทีมชาติไม่มี

พลาดเมื่อทหารของรัฐบาลถูกยิงเข้าที่ข้อมือข้างที่จับปืนจนปืนหลุดมือ วิกเตอร์จึงรีบกระโดดขึ้นรถและปิดประตูตาม คาลีลเหยียบคัน

เร่งจนรถกระชากตัวหนีไปอย่างรวดเร็ว

                      วิกเตอร์ทิ้งศีรษะลงไปกับเบาะรถ ท่าทางผิดปกติของชายหนุ่มทำให้คาลีลผิดสังเกต เขาเหลียวกลับมามองวิกเตอร์

เมื่อเห็นว่ารถของรัฐบาลไม่ได้ติดตามมาแล้ว คาลีลเบิกตากว้างเมื่อเห็นไหล่ข้างไกลตัวของวิกเตอร์เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน






มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2017 19:31:56 โดย Belove »

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เว้นบรรทัดหน่อยค่า ตาลาย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...





                 “คุณถูกยิง!”


                  ช่างภาพหนุ่มหันมาฝืนยิ้มทั้งที่สีหน้าเจ็บปวดจากบาดแผล


                  “ไกลหัวใจน่า กระสุนถากไหล่ไปเท่านั้น”


                     น้ำใจที่วิกเตอร์ช่วยเหลือจนได้รับบาดเจ็บทำให้คาลีลรู้สึกผิดและมองวิกเตอร์ในแง่ดีขึ้น เขากลอกตาไปมาก่อนจะคิด

ออกว่าควรจะหาใครมาช่วยเหลือวิกเตอร์ดี


                    ไวเท่าใจคิดคาลีลรีบขับรถไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างไปจากใจกลางเมืองพอสมควร ระหว่างนั้นเขาก็มองวิกเตอร์ที่นั่ง

กัดฟันต่อสู้กับความเจ็บปวดด้วยความเป็นห่วง และเมื่อถึงหน้าประตูรั้วบ้านหลังนั้นคาลีลก็เปิดกระจกรถให้กล้องมองเห็นใบหน้าของเขา

ไม่นานหลังจากนั้นประตูรั้วจึงเปิดให้คาลีลขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังเล็ก ๆ เขารีบก้าวลงจากรถเดินอ้อมมาฝั่งวิกเตอร์และประคอง

เขาลงจากรถ


                        “อาการของผมยังไม่หนักขนาดนั้นหรอกน่า”


                        แม้จะหน้าซีดเพราะเสียเลือดไปไม่น้อยแต่วิกเตอร์ก็ยังมีอารมณ์แหย่ให้คาลีลมองอย่างหมั่นไส้


                        “พูดมากน่า เดินได้แล้ว เดี๋ยวจะปล่อยให้อาการหนักอยู่แถวนี้เสียเลย”


                          คาลีลช่วยประคองวิกเตอร์เข้าไปยังภายในบ้าน ชายหนุ่มยิ้มรับและเอ่ยทักเจ้าของบ้านที่รีบออกมาต้อนรับ


                         “อัสสลามุอะลัยกุมครับฟาฮีมและคุณด้วยนะนูรอัยนี”


                          “นึกว่าใคร คาลีลนั่นเอง อัสสลามุอะลัยกุมเช่นกันครับ แล้วนั่น...”


                          ฟาฮีมน้องชายของเชคฮชารุกข์มองทางอาคันตุกะแปลกหน้า คาลีลรีบตอบทันที


                        “วิกเตอร์ คอร์นเนอร์ ช่างภาพจากสำนักข่าวครับ เขาได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยผม คุณช่วยทำแผลให้เขาหน่อยได้ไหม

ระหว่างนี้ผมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณฟัง”







                        บาดแผลที่ไหล่ของวิกเตอร์ได้รับการดูแลเรียบร้อยแล้ว คาลีลกล่าวขอบคุณและรีบขับรถออกมาจากบ้านของฟาฮีม

โดยเร็วที่สุด เขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักเพราะไม่มั่นใจว่ากษัตริย์ราชิดจะส่งคนตามมาหรือไม่ เขากลัวว่าครอบครัวของฟาฮีมจะพลอยได้

รับอันตรายตามไปด้วย


                        “ผมว่าคุณหาที่หลบซ่อนสักพักเถอะ ตอนนี้คุณคงกลายเป็นตัวอันตรายสำหรับทางการไปแล้วอีกคนก็ได้”


                       ฟาฮีมให้คำแนะนำเมื่อรู้เรื่องแล้ว เขาหน้าเครียดเพราะเป็นห่วงพี่ชายที่อาจจะตกอยู่ในอันตรายกลางทะเลทราย คาลีล

พยักหน้ารับก่อนจะขับรถออกมาจากเขตบ้านของฟาฮีม

                     อันดับแรกที่ต้องทำในตอนนี้คือพาวิกเตอร์ไปส่งที่สถานทูตก่อน อย่างน้อยความเป็นต่างชาติก็จะทำให้เขาปลอดภัย

จากเหตุร้ายในประเทศ คาลีลหันไปมองวิกเตอร์ที่คล้อยหลับอยู่ข้างกายด้วยความเป็นห่วง

                    ความมีน้ำใจและไม่นิ่งดูดายยามเห็นผู้อื่นเดือดร้อนเป็นอุปนิสัยของวิกเตอร์ที่คาลีลได้เรียนรู้ เขาประทับใจความช่วย

เหลือจนได้รับบาดเจ็บของชายหนุ่ม คาลีลไม่ต้องการให้วิกเตอร์เข้ามาข้องเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในประเทศไปมากกว่านี้อีกแล้ว

                     เขาปล่อยให้วิกเตอร์ได้หลับเพราะความอ่อนเพลียเและจากฤทธิ์ของยาระงับอาการปวดที่ฟาฮีมฉีดเข้ากล้ามเนื้อ จน

กระทั่งถึงสถานทูตอังกฤษ คาลีลเขย่าตัววิกเตอร์เบา ๆ


                      “วิกเตอร์ วิกเตอร์ ตื่นได้แล้ว วิก”


                   วิกเตอร์สะดุ้งตื่น เขาเหลียวมองนอกรถเมื่อเห็นว่าเป็นสถานทูตประเทศตนจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทั้งคู่ลงจากรถมา

ยืนบนพื้นแล้วมองสบตาซึ่งกันด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย


                  “ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลยที่ช่วยผมไว้ ขอบคุณนะวิกเตอร์”


                  นัยน์ตาคู่สวยมองวิกเตอร์ด้วยความรู้สึกดีกว่าก่อนหน้านี้มาก วิกเตอร์ยักไหล่อย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่


                   “คนเดือดร้อนก็ต้องช่วยเหลือกันสิ ผมทิ้งคุณไว้กลางทางไม่ได้หรอก”


                       คาลีลถอนหายใจ เขาพยายามไม่สนใจความอ่อนไหวที่ปะทุอยู่ในความรู้สึกเมื่อรู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องจากผู้ชายตรง

หน้าไปแล้ว


                    “ผมมาส่งคุณที่สถานทูตแล้ว ต่อจากนี้คุณจะปลอดภัยในพื้นที่ของคุณ ผมขอโทษที่ดึงคุณมาเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้

จนได้รับบาดเจ็บ”


                      “เดี๋ยวสิคาลีล” วิกเตอร์ใจหายวาบ


                      “คุณพูดเหมือนคุณจะกลับไปแล้วไม่เจอผมอีกอย่างนั้นแหละ ผมไม่ยอมหรอกนะ”


                      คาลีลส่งสายตางงงันกลับไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมวิกเตอร์ต้องรั้งเขาไว้


                    “ผมยังต้องกลับไปทำงาน”


                       “หมอฟาฮีมเพิ่งบอกคุณก่อนที่เราจะกลับมาว่าคุณอาจจะกลายเป็นตัวอันตรายของทางการไง คุณลืมไปแล้วหรือ ถ้า

คุณกลับบ้านคุณตอนนี้กษัตริย์ของคุณเขาต้องส่งคนไปจับคุณและเค้นความจริงจากคุณแน่ ๆ “


                     “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”


                     คาลีลยังคงไม่เข้าใจจุดประสงค์ของวิกเตอร์


                       “อยู่ที่นี่สิ อยู่ที่สถานทูตกับผมจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย รัฐบาลของคุณไม่กล้าส่งคนเข้ามายุ่มย่ามในสถานทูต

ต่างประเทศแน่”


                     คาลีลเบิกตากว้างกับข้อเสนอของวิกเตอร์ เขาอึกอักเมื่อยังตัดสินใจไม่ได้


                     “แต่ว่า...”


                   “ผมได้รับบาดเจ็บ ต้องมีคนดูแล”


                     วิกเตอร์ยื่นคำขาด ดวงตาดื้อดึงจ้องมองอย่างไม่ยอมแพ้


                     “คุณบอกว่าแผลของคุณไกลหัวใจไงล่ะ”


                    “มันไกลหัวใจก็จริง แต่ถ้าดูแลไม่ดีมันก็อาจติดเชื้อและผมก็อาจตายได้ ทีคุณไม่สบายเพราะแพ้แก๊สน้ำตาผมยังอยู่ดูแล

คุณเลย คราวนี้คุณก็ต้องดูแลผมบ้าง”


                   ความสับสนฉายชัดอยู่บนใบหน้าของคาลีลจนวิกเตอร์อดใจไว้ไม่อยู่ เขาเหนี่ยวรั้งแขนของคาลีลเข้าหาตัวแล้วส่งเสียง

เว้าวอน


                      “นะ คาลีล อยู่ที่นี่กับผมเพื่อความปลอดภัย อย่าห่างจนผมต้องเป็นห่วงคุณอีกเลย”






                    กวินท์อดตื่นเต้นกับความโกลาหลที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ดูเหมือนจะเป็นความวุ่นวายที่ได้มีการจัดเตรียมแผนการกันไว้ล่วง

หน้าแล้ว ทันทีที่ระเบิดลูกแรกส่งเสียงดังชาวบ้านฝ่ายชายก็พากันคว้าอาวุธที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านออกมา ส่วนฝ่ายหญิงก็ช่วยกันพาผู้

อาวุโสและเด็กเล็กมารวมกันเพื่อเตรียมหลบหนี

                     ยาก็อบวิ่งนำกวินท์มาที่บ้านของเชคฮอาลี เจ้าของบ้านคว้าปืนกลสั้นมาถือไว้ในมือข้างหนึ่งและเข็นรถเข็นพาอดีต

กษัตริย์ออกมาภายนอกห้องลับ


                   “เกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยินเสียงระเบิด”


                   ริฮานเอ่ยถามเสียงเครียด เชคฮอาลีรีบตอบคำถามทันที


                   “เชคฮชารุกข์ได้รับคำเตือนจากบีวันว่ากษัตริย์ราชิดสั่งโจมตีพวกเราแล้ว เราต้องหนีครับ”


                    ชายชราขมวดคิ้ว สีหน้าของริฮานไม่ได้บอกถึงความแปลกใจ


                     “ผมได้รับคำสั่งจากเชคฮชารุกข์ให้มาดูแลท่านกับกวินท์ครับ เราต้องรีบไปแล้ว”


                     ยาก็อบบอกกล่าว เขาตรงเข้าไปเปลี่ยนกับเชคฮอาลีเข็นรถของริฮานออกมานอกตัวบ้าน


                   “กวินท์ คุณวิ่งตามผมมานะ ระวังตัวด้วย”


                    กวินท์พยักหน้ารับ เขาวิ่งตามยาก็อบที่บังคับรถเข็นของริฮานไปทางท้ายหมู่บ้าน กวินท์มองเห็นขบวนอูฐและม้าเกือบสิบ

ตัว อูฐทุกตัวมีของบรรทุกอยู่บนหลัง มีลาจำนวนหนึ่งถูกเทียมไว้ด้วยรถเลื่อนมีหลังคาปิดบัง ยาก็อบพาเขาและริฮานขึ้นไปนั่งบนรถ

เลื่อนเหล่านั้นก่อนที่เขาจะกระโจนขึ้นบนหลังม้าและรับปืนมาจากชาวบ้านคนหนึ่ง คนในขบวนส่วนมากเป็นสตรี คนชราและเด็กเล็ก

                    ขบวนลี้ภัยปิดบังตัวเองกลายเป็นคาราวานเบดูอินเดินทางออกสู่ทะเลทราย ทิ้งไว้แต่หมู่บ้านยาคีนที่กลายเป็นสมรภูมิ

แห่งการต่อสู้ ภาพบ้านเรือนห่างไกลมากขึ้นทุกทีจนเหลือเพียงจุดเล็ก ๆ ท่ามกลางทะเลทรายเวิ้งว้าง ริฮานและกวินท์ต่างก็เฝ้ามอง

ภาพนั้นด้วยความเงียบงัน หัวใจของกวินท์ปวดร้าวจนต้องยกมือมากุมไว้เมื่อคิดถึงภาพของบุรุษบนหลังม้าที่กำลังต่อสู้กับอำนาจอันยิ่ง

ใหญ่


                              และในที่สุดเสียงปืนก็ดังขึ้นที่หมู่บ้านยาคีน!


 

                                                             TBC

                                                  แต่งเองก็หน่วงเองนะ

                                     
:o11: :o11: :o11: :o11: :o11:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2017 22:21:03 โดย Belove »

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มาชะเง้อดู (แบบปิดตา)

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เนื้อเรื่องตอนนี้ลุ้นระทึกมากเลย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :z3: :z3: :z3: เมื่อไรคนเลวจะได้รับผลของการกระทำค่ะ
แต่แหมๆๆในความกดดันทาการเมืองก็มีโมเม้นต์สีชมพูระหว่างวิกเตอร์กับคาลีนนะค่ะ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
วิกเตอร์ ยังไงค่ะยังไง
ท่าทางเราจะเดาผิด ตอนแรกคิดว่าคาลีลจะรุกวิกเตอร์ มาถึงตอนนี้ชักจะไม่ใช่แล้วนะสิ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เมื่อไหร่สงครามจะจบ!

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตามทั้งคู่หลัก และ คู่รองเลย

คู่หลักก้อฟิน คู่รองก้อน่ารักดี

ชอบความรักท่ามกลางสงครามที่ต้องผ่านไปด้วยกัน

 :katai5:   :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:

..

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอให้ทุกคนปลอดภัยน้าาาาาา

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
โอ่ยยย ลุ้นหัวใจจะวาย ปลอดภัยนะทุกคน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด