... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]  (อ่าน 488177 ครั้ง)

ออฟไลน์ __mxsae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยิ่งมาอยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้
ทนายเราว่านายไม่น่าจะห้ามใจอยู่นะ555555

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
สงสารไมล์อ่ะ แอบหงุดหงิดอาสานิดหน่อย แค่เพื่อนนี่ก็เป็นให้ไมล์ไม่ได้เลยหรอ มันอะไรขนาดน้านนน
แต่ก็นะ ไม่เคยโดนเพื่อนชอบ เลยอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกเท่าไหร่  :hao4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไม่ค่อยเข้าใจอาสาเท่าไหร่ แต่ก็...รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เจ้เครียดล่วงหน้าเลยได้ไหม
หวั่นใจคู่หูรูมเมทจริงๆ

ถ้าอาสาไม่ได้เป็นฝ่ายสารภาพว่าชอบทนายก่อน
เจ้ว่าก่อนฟ้าจะสดใสคงต้องคำรามใหญ่อ่ะ

เอาน่ะให้กำลังใจกันไป

ปล พี่อ้านโผล่มานิดเดียวแต่ถูกใจเจ้ยิ่งนักกก

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เดือนหอดาวหอย้ายเข้าห้องหอ   :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
แอบสงสารไมล์อ่ะ :mew2:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Zemerlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โฮยยยยยย พี่สงครามทำไมมุ้งมิ้งกับพี่อ้าย//////

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไปอยู่ด้วยกันสองคนมันก็ยากที่จะห้ามใจแล้วล่ะน้องทนาย 55555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
อ้างถึง
อย่างกับเพิ่งไปแดกโจ๊กบูดมา
เห็นภาพเลย  :oak:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สงสารไมค์  ทนายย้ายไปอยู่กับอาสาสองคนจะไหวรึท่าน
จะโดนฤทธิ์ของขาวเข้าไปด้วยอีกคนนึงอ่ะซิ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ยิ่งอ่านยิ่งเกลียดอาสาว่ะ เรื่องมากเกิน คิดแต่เรื่อตนเองไม่เคยจริงๆที่จะคิดถึงใจเพื่อน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
   อั๊ยย่ะ!!! ยังกะที่เราเดาไว้เลยเรื่องแยกห้องอ่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
หงุดหงิดกับอาสา เฮ้อออ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
#ทีมเมียพี่สงคราม :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 สงครามคนบ้า หาทายาทหรอ

อาสาน่าสงสาร โดนกลั่นแกล้ง
ทนายตลก บ้าจี้ ยุขึ้นด้วย .. ว้ายยยย ทนายอาสา

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เอาใจช่วยทนายออิ

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
รอค่ะรอ   เห็นชื่อเรื่องแล้วนึกว่าแฟนตาซี พออ่านไปเฮ้ย ไม่ใช่ แต่ก็สนุกดีนะ ชอบนิสัยทนายมากๆ  อยากให้พี่มีนที่ใครๆชมว่าหวาน มาชอบทนายแล้วน้องอาสาหึงคงจะมันส์น่าดู สงสารเตกับไมล์จัง

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เตกับไมล์กินกันเองแมร่ง  :hao7:

นี่ไม่อยากให้ทนายชอบอาสาก่อน แต่อยากให้อาสาชอบทนายก่อนจะได้รู้ว่าแอบรักเพื่อนมันเป็นยังไง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อยู่ด้วยกันสองคน...

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
มันจะหนักกว่าเดิมหรือเปล่า สองคนนะสองคน แล้วยิ่งมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา อาสาน่าจะเกาะหนักเลย

ที่นี่ละเว้ยยยย

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ Athikarn23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :jul1: ทนาย  นายไม่รอดไปแลล้วล่ะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
รอดูเหตุการณ์กันต่อไปครับ หุหุ

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





บัลลังก์ปักษา

ตอนที่ 8






   ห้อง 503

   ไม่ชินกับการบอกเลขห้องซึ่งเปลี่ยนแปลงไปแล้วจากเลขเดิมจริงๆ ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันอาทิตย์ บิดขี้เกียจไปมาด้วยท่าทางเมื่อยล้า อยากนอนต่อขนาดหนัก ปกติตอนอยู่ห้องเดิมซึ่งผมนอนเตียงชั้นที่สองผมจะระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าตัวเองจะตกลงไปยังข้างล่าง แต่เตียงในห้องนี้เป็นเตียงเดี่ยวแบบใหม่แล้ว ผมต้องกังวลอยู่เรื่องเดียวว่ามีสิ่งลี้ลับมานอนใต้เตียงผมมั้ย

   หรือไม่ก็ขาผมจะก่ายไปโดนตัวไอ้อาสาหรือเปล่า

   คืองี้ครับ ตอนแรกห้องจัดแยกฝั่งอย่างชัดเจน แต่เชี่ยอาสามันไม่ยอม มันบอกห้องแม่งกว้างเกินไป ให้ผมขยับเตียงเข้าไปอยู่คู่มัน ขยับโต๊ะให้มาอยู่คู่กัน และก็ขยับตู้ให้มาอยู่ชิดกัน ไอ้โต๊ะกับตู้ไม่เท่าไหร่ แต่เตียงเนี่ยสิผมเถียงมันยังไงมันก็ไม่ยอม

   สุดท้ายผมก็เลยต้องยอมมัน ยอมลากเตียงเดี่ยวของตัวเองมาติดกับเตียงไอ้อาสา เตียงนี้แม่งก็เล็กเหลือเกิน ขาผมขยับนิดเดียวก็ไปถึงตัวไอ้อาสาที่กำลังหลับปุ๋ยแล้ว

   ผมลุกขึ้นมานั่ง ปรับสภาพตัวเองให้หายจากอาการสะลึมสะลือ มองไปที่รูมเมตห้อง 503 ของตัวเองที่ได้มาเพราะตำแหน่งดาวเดือนหอซึ่งเคยมองว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่จำเป็น

   “เฮ้ออออออ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมเคยชินกับการที่จะได้เห็นเพื่อนอีกสองคนอยู่ร่วมห้อง ทว่าตอนนี้มีแค่ผมกับอาสาที่อยู่ห้องเดียวกัน มันรู้สึกแปลกๆ โหวงๆ อยู่บ้าง แต่ก็นะไหนๆ โชคชะตามันก็นำพาให้ผมย้ายห้องมาตามไอ้ดาวหอเรื่องเยอะคนนี้มาแล้วนี่

   ผมล้อเล่น...อาสามันอาจจะไม่ได้เรื่องเยอะ แต่คนอื่นต่างหากที่มาเยอะกับมันจนมันทนไม่ไหว
 
   ผมตรวจเช็กดูโทรศัพท์ รู้สึกว่ากรุ๊ปไลน์บัญชีปีหนึ่งของหอสามจะมีข้อความเด้งขึ้นมาหลายร้อย มีดราม่าห่าเหวอะไรหรือเปล่าวะเนี่ย ผมลองกดเข้าไปอ่านดู ก่อนจะทำหน้าไร้อารมณ์เมื่อรู้ว่าสาเหตุที่ข้อความเยอะขนาดนี้คืออะไร

   เชี่ยโอ๊คเพื่อนผมทะเลาะกับเด็กบัญชีปีหนึ่งจากหอหนึ่งนามว่าโจ้

   ไอ้บ้าเอ๊ย ถ้าไอ้คนที่มันทะเลาะด้วยจะมาจากหอสองผมจะเสียเวลาทำหน้าอย่างงี้เลย มันทะเลาะด้วยเรื่องปัญญาอ่อนมากๆ ครับ เมื่อวานไอ้โอ๊คไปร้านเกม แล้วไอ้คนนี้มันมาเดินตัดหน้าแย่งเครื่องคอมฯ ที่ไอ้โอ๊คเล็งเอาไว้เฉย มันก็เลยแค้น และคิดเอาไว้อย่างแน่วแน่ว่ามิดเทอมที่กำลังจะมาถึงนี้มันจะต้องมีคะแนนสูงกว่าไอ้โจ้นี่ให้ได้

   กูให้โอกาสมึงคิดใหม่ นั่นมันเด็กหอหนึ่ง เด็กหอหนึ่งเว้ยไอ้สัด! พวกมันหายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่เรื่องเรียน หอสามอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้ได้

   ผลสุดท้ายก็คือเชี่ยโอ๊คเรียกประชุมพล ขอติวอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะถึงมิดเทอมซึ่งก็ยังเหลือเวลาอีกหลายอาทิตย์อยู่ แม้จะดูเป็นศึกที่เด็กน้อยไปสักนิดแต่มันกลับเข้าทางของผม

   ผมมาที่นี่มาเพื่อมาเรียน (ย้ำเป็นรอบที่ล้านจนน่าหมั่นไส้) ในที่สุดผมก็จะได้ทำตัวสมกับสิ่งที่ผมตั้งใจเอาสักที

   “ตื่นแล้วเหรอวะ” ผมสะดุ้งเล็กน้อย เพราะจู่ๆ ไอ้อาสาแม่งก็ส่งเสียง มันบิดตัวไปมา ท่าทางเหมือนอยากนอนต่อ

   “เดี๋ยวจะออกไปติวกับเพื่อนนะ”

   “ที่ไหน”

   “หอสมุด”

   “ไปด้วยดิ”

   “จะไปเหรอ มีแต่เด็กปีหนึ่งนะ”

   “ตอนนี้กูมีแค่มึงเป็นเพื่อนแล้ว มึงอย่าลืมสิ”

   กลายเป็นละครดราม่าสุดโศกไปซะฉิบ...จริงๆ มันก็ยังคบไอ้เตกับไอ้ไมล์ต่ออยู่นั่นแหละครับ เพียงแต่ช่วงนี้มันก็มีแต่ผมอ่ะ มันเกิดมาเพื่อดึงดูดคนเพศเดียวกันทั้งทีแต่ก็อาภัพยิ่ง แทนที่อาสาจะมีเพื่อนมากมายแบบนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ดันมีแค่ผม ผู้ที่เพิ่งเข้ามาเรียนในมอได้แค่ไม่กี่อาทิตย์

   “จะออกไปกี่โมง”

   “ตอนสายๆ นี่แหละ มึงนอนต่อก็ได้นะ”

   “ไม่แล้วล่ะ” มันลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมขยี้ตา “เออนี่ เมื่อคืนมึงละเมอ”

   ฉิบหายแล้ว “กูเหรอ”

   “ช่าย”

   “ละเมอว่าอะไรวะ” ขอให้ไม่เป็นอะไรที่เกี่ยวกับมันนะ

   “มึงเรียกคนชื่อแอล” ผมชะงัก จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปทำอะไรอย่างอื่น “แอลนี่ใคร ใช่คนที่มาจัดการกับคิระที่ถือสมุดเดดโน้ตมั้ย”

   ผมขำกับมุขของมันเล็กน้อย กูจะฝันถึงเรื่องเดดโน้ตทำขนแมวอะไร

   “แฟนเก่ากู”

   “คิดถึงแฟนเก่าเหรอวะ” มันแซวแบบไม่เป็นจริงเป็นจัง

   “ไม่รู้ว่ะ กูจำความฝันไม่ได้”

   “...”

   “กูแค่เรียกชื่อมันเฉยๆ ใช่มั้ย”

   “อืม กูได้ยินแค่ว่าแอล อย่าแดกเยอะสิ”

   นั่นคือสิ่งที่ผมละเมอเรอะ!

   “แฟนเก่ามึงคงเป็นสายแดก”

   แม้ว่าผมจะเคยบอกไปแล้วว่าผมไม่รู้สึกอะไรกับแอลอีกต่อไปแล้ว แต่พอได้ยินว่าตัวเองแอบละเมอถึงชื่อเขานี่ก็ทำเอาผมชักจะสับสน แอลคือคนที่ผมคบตั้งแต่เรียนอยู่ม.5 จนกระทั่งมาเลิกกันเมื่อหกเดือนก่อน ตอนที่ผมยังเรียนปีหนึ่งอยู่ที่มหา’ลัยเดิม
    
   อย่างที่ผมเคยบอก สาเหตุของการเลิกกันเป็นเพราะเขาหมดรัก ไม่ใช่ผม ป่านนี้คงจะมีแฟนใหม่ไปแล้วล่ะมั้ง ผมไม่ได้ติดต่ออะไรเขาเลยตั้งแต่ตัดสินใจจบความสัมพันธ์กัน

   “ถ้ายังรักอยู่ก็ตามไปง้อสิ”

   “ลืมแล้วเหรอว่าเขาหมดรักกู” ผมพูด ยิ้มน้อยๆ ในแบบที่คนอื่นมองก็รู้ว่าไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจ “ไปง้อคนที่หมดรักไปแล้ว ง้อให้ตายยังไงก็ไม่มีประโยชน์”

   “กูควรเปลี่ยนเรื่องพูด กูขอโทษ”

   “เฮ้ย พูดได้” ผมโบกมือปัดเลี่ยงๆ “เมื่อคืนกูก็ได้ยินนะ มีคนทักไลน์มึงมาเยอะแยะเหมือนกัน”

   กว่าจะเคลียร์เรื่องเตียงกันได้ มันก็ทำให้ผมหมดความง่วงนอนไปแล้ว ผมก็เลยนอนเล่นโทรศัพท์ต่อก่อนนอน มีคนทักไลน์อาสามาเยอะมากๆ ครับ ไม่รู้ว่ามีดราม่าเหมือนพวกบัญชีปีหนึ่งหรือเปล่า

   “อ๋อ คนเดิมว่ะ เตยนั่นแหละ” นัยน์ตาของมันเศร้าลง

   “เขายังไม่เลิกติดต่อมึงอีกเหรอ”

   “กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

   “มึงทำใจได้หรือยัง”

   “จะทำใจไม่ได้เพราะเขามาง้อนี่แหละ”

   ผมหยิบผ้าเช็ดตัว มองดูเพื่อนร่วมห้องซึ่งเหลืออยู่เพียงคนเดียวในตอนนี้อย่างประเมิน

   “มึงคงหลงใหลเขามากเลย”

   “ทำไมวะ”

   “ดูสิ แค่จะตัดมึงยังตัดยาก”

   “แต่กูก็ไม่ได้รับสายเขาแล้วนะ”

   “...”

   “สักวันเขาคงจะเลิกโทรเลิกส่งข้อความมาเองนั่นแหละ พอถึงตอนนั้น...พาไปกูร้านพี่น้อยด้วยนะ”

   ถ้ามึงเปลี่ยนสายมาเป็นชอบผู้ชายเหมือนกัน กูว่ามึงอาจจะรุ่งก็ได้นะอาสา ดีไม่ดีจะมีผู้ชายมาให้มึงเลือกเป็นสิบเป็นร้อยเลยก็ได้

   ผมได้แต่คิดในใจครับ ไม่กล้าพูดออกไปหรอก อย่างที่รู้ๆ กันอยู่อาสามันก็ใช่ว่ามันจะชอบตัวเองที่ฮอตในหมู่เพศเดียวกันขนาดนี้ อีกทั้งมันเพิ่งโดนเพื่อนมันมาสารภาพรักอีก

   แทนที่มันจะเปลี่ยนสาย ผมคิดว่ามันอาจจะหลีกเลี่ยงทางสายนี้ตลอดไปเลยก็ได้

   ทำไมผมรู้สึกว่าใจผมวูบวะ

   เอ่อ...แล้วกูจะมาเพ้ออะไรแต่เช้า!

   ผมรีบตัดสินใจอาบน้ำอย่างรวดเร็ว หลังจากที่อาบเสร็จผมคิดว่าควรลงไปหาซื้ออาหารเช้าจากโรงอาหารด้านล่างระหว่างรออาสามันอาบน้ำ ผมเปิดประตูออกไปจากห้อง ภาพแรกที่ผมเห็นทำเอาผมตกใจเล็กน้อย

   คนจากหอสอง!

   ผมชี้นิ้วใส่มันทันที ผู้มาเยือนเอามือจุ๊ปากพร้อมส่งยิ้มให้ มันโบกมือลาคนที่อยู่ในห้องก่อนที่ห้องนั้นจะปิดประตูเบาๆ

   เฮ้ย เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะว้อยยยยย ผมปิดประตูห้องตัวเอง มองดูผู้ที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาหาเรื่อง

   “มึงมาใหม่เหรอ ปกติห้องนั้นว่างนี่”

   ไอ้สัด รู้อีก มึงอยู่หอสองไม่ใช่เหรอ

   “มึงไม่ควรมาอยู่ตรงนี้นะ”

   “ก็มาออกจะบ่อยไป”

   “เฮ้ย” ผมผลักไหล่มันอย่างโมโห

   “ไอ้นี่ ใจเย็นๆ ดิ”

   “...”

   “คนในห้องเมื่อกี้คือกิ๊กกู จะไม่ให้กูมาหากิ๊กเลยหรือไง”

   ผมไม่ได้สนใจเรื่องที่มันมีกิ๊กเป็นผู้ชายเหมือนกันและมันมีกิ๊กเป็นคนจากหอสาม แต่สิ่งที่มันทำอยู่มันไม่ถูกต้อง ยังไงผมก็ไม่ปล่อยง่ายๆ แน่

   “สาด พวกมึงก็ออกไปโรงแรมข้างนอกกันดิ”

   “ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนะกูชักคุ้นหน้ามึงแล้ว มึงคือเด็กที่สงครามมันถูกใจใช่ป่ะ” มันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับทำหน้าแหยงๆ ผมด “สเปกสงครามเป็นแบบนี้เหรอวะ”

   แม่ง  รู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ผมผลักมันอีกครั้งพร้อมเงื้อมมือเตรียมจะต่อย แต่อาสาที่อยู่ด้านหลังผมดันเปิดประตูออกมา สภาพของมันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวและผมก็ยังมีน้ำหยดติ๋งๆ

   มึงจะอยากได้ซีนทำไมตอนนี้วะครับ!

   ผมปล่อยคนจากหอสอง เดินไปถีบอาสาให้เข้าไปในห้องพร้อมปิดประตู

   ไม่ทันแล้ว ไอ้เชี่ยนั่นแม่งเห็นเพื่อนร่วมห้องผมแล้ว

   “ห้องนี้ห้องน้องอาสาเหรอ” มันทำตาลุกวาว “เหอะ กูได้มาบ่อยขึ้นแน่”

   “ฟวยเอ๊ย” ผมทำท่าจะชกมันอีกรอบ มีเสียงเปิดประตูจากห้องอื่น ทำให้ผมหันไปสนใจชั่วขณะ และพอหันกลับมาอีกที ไอ้คนแปลกหน้าจากหออื่นคนนั้นแม่งก็อันตรธานหายไปแล้ว

   ไวมาก มึงหายตัวได้ไวมาก

   ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องตัวเองอีกรอบ เห็นอาสามันยืนทำหน้าโมโหผมอยู่

   “มึงถีบกูทำไมวะ!”

   “มึงโผล่หน้าออกไปทำไม”

   “ก็เสียงมึงดัง กูก็เลยเปิดออกไปดู”

   “มึงไม่เห็นเหรอว่าใครเห็นมึงแล้ว”

   “เห็นก็แย่แล้ว ก็มึงถีบกูกลับเข้ามาอ่ะ”

   “...”

   “กูเจ็บโว้ยยย”

   มันเอามือกุมท้อง ผมเริ่มรู้สึกผิดเล็กๆ ตัวขาวๆ ของมันจะเป็นรอยแดงเพราะรอยตีนของผมมั้ยนะ

   “ขอโทษ” ผมพูดอย่างประดักประเดิด

   “ตีนหนักฉิบหาย”

   “ขอโทษแล้วไง”

   “เฮ้อ กูแต่งตัวแล้ว”

   ผมมองหลังขาวๆ ของมันที่เดินไปยังตู้เสื้อผ้าก่อนจะทอดถอนใจ แม้จะรู้สึกแปลกๆ กับความขาวเกินมนุษย์ของมันแต่ความกังวลมันมีมากกว่า ผมยังจำที่พี่อ้ายพูดกับพี่สงครามเรื่องที่เด็กหอสองปีนขึ้นมาที่หอสามบ่อยๆ วันนี้ผมได้เห็นกับตาแล้ว ปกติอาสามันจะปลอดภัยดีอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นชั้นที่มีประชากรหนาแน่น ไม่มีใครกล้าเข้ามาเดินเชิด แต่ตอนนี้มันย้ายห้องใหม่ และเด็กหอสองที่ท่าทางเกเรคนนี้มันก็รู้พิกัดห้องของอาสาเป็นที่เรียบร้อย

   ต่อไปนี้กูจะปล่อยให้มึงอยู่ห้องคนเดียวได้ไงวะเนี่ย...







   หอสมุด

   เชี่ยโอ๊คแม่งเอาจริงว่ะครับ ถึงผมจะพาดาวหอขวัญใจมหาชนอย่างไอ้อาสามา แต่สมาธิของมันไม่มีแกว่งเลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นตัวตั้งตัวตีในการติวครั้งนี้ อีกทั้งมันยังเพิ่งแสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์ว่ามันน่ะเรียนเก่ง เพียงแต่หนังหน้ามันเด่นกว่าเรื่องเรียน มันก็เลยมาลงเอยที่หอสาม

   โชคดีจริงๆ ที่มีมันเป็นเพื่อน ผมตั้งใจฟังมันติวสุดฤทธิ์ อาสาที่เรียนผ่านบทเรียนนี้ไปแล้วขอตัวแยกไปนั่งอีกโต๊ะ จากนั้นก็หยิบหนังสือเรียนของมันขึ้นมาอ่าน

   ผมลอบมองไปที่มันบ่อยๆ พามันมาหอสมุดทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายของมันโดยตรงแบบนี้ ผมรู้สึกเกรงใจมันนิดๆ น่ะ แต่ท่าทางของอาสาผ่อนคลายมาก มันดูสนุกกับการอ่านหนังสือสลับกับการเล่นเกมในโทรศัพท์

   แต่ความสนุกของมันมีเวลาจำกัด สีหน้าของอาสาเปลี่ยนไปเมื่อคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในหอสมุดชั้นนี้เป็นไอ้เตกับไอ้ไมล์ ผมทักพวกมัน สลับกับมองอาการของอาสา อาสาโบกมือทัก จากนั้นแม่งก็ไม่ยิ้มอีกเลย

   “กูพักนะ เดี๋ยวจะไปหาอะไรแดก” ผมลุกขึ้น เดินไปสะกิดไอ้ดาวหอที่สะดุ้ง “ออกไปหาอะไรแดกข้างล่างกัน”   

   “โอเค”

   อาสาแสดงสีหน้าขอบคุณผมอย่างจริงใจ ผมส่ายหน้าเบาๆ ให้มัน สบตากับอดีตเพื่อนร่วมห้องอย่างช่วยอะไรไม่ได้

   จะว่าไป...ผมห่วงความรู้สึกของอาสามากกว่าคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่

   บริเวณหอสมุดด้านล่างมีร้านกาแฟและขนมขนาดเล็กอยู่ เมื่อสั่งเสร็จผมกับอาสาก็มานั่ง อีกฝ่ายทำสีหน้าปวดหัวสุดฤทธิ์
 
   “ไม่คิดว่าจะเจอว่ะ อุตส่าห์มาในที่ๆ พวกแม่งไม่ค่อยมาแล้วนะ”

   “ใครๆ ก็มาหอสมุดกันได้”

   “มึงชวนกูออกมาตอนที่พวกนั้นมา”

   “กูรู้ไง”

   “...”

   “สำหรับกูตอนนี้กูแค่อยากเห็นมึงสบายใจอ่ะ”

   อาสามองผมอย่างซึ้งใจ “ขอบคุณที่เข้าใจนะ”

   “คนอย่างมึงเหมือนจะโชคดีนะ แต่ก็ไม่”

   “ยังไง”

   “ปัญหาเยอะฉิบหาย”

   “ไม่ได้เยอะสักหน่อย”

   “เหรอ จะให้กูพูดมั้ยว่ามึงมีปัญหาอะไรบ้าง”

   ผมโบกมือปัดเลี่ยงๆ หัวเราะในลำคอก่อนที่รับเครื่องดื่มกับขนมที่พนักงานนำมาเสิร์ฟให้ ระหว่างที่มองอาสากิน สายตาของผมเหลือบไปเห็นไอ้เตกับไอ้ไมล์ที่โบกมือเรียกผมยิกๆ อยู่ที่หลังเสา

   “เอ่อ เดี๋ยวมานะ” ผมบอกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

   “อืม”

   ผมเดินไปหาอดีตเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งตอนนี้ทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตาย

   “มันโอเคมั้ย” คำถามแรกที่ไอ้เตมันถามผมกลับเป็นคำถามที่เกี่ยวกับอาสา

   “ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ผมพูด “แล้วพวกมึงอ่ะ”

   “เฮ้อออ ทำใจว่ะ” ไมล์ส่ายหน้าเบาอย่างปลงๆ “ตอนนี้กูกำลังคิดเรื่องรุกจะจีบมัน”

   ผมกระพริบตาปริบๆ มองไมล์สลับกับมองเต ไอ้เตหันไปทางอื่น ดูมันก็กำลังลังเลกับเรื่องนี้

   “ไหนๆ ตอนนี้กูก็มาไกลเกินกว่าสถานะเพื่อนแล้ว...”

   “แล้วไอ้เชี่ยเตล่ะ” ผมผายมือไปยังคนที่ชอบอาสาอีกคน “กูจำได้ว่าพวกมึงสองคนไม่มีใครกล้ารุกเพราะต่างคนต่างก็ชอบอาสาเหมือนกัน”

   “ก็คงต้องรุกเหมือนกัน”

   “...”

   “เพราะกูไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องมันแล้ว ไม่ต้องกลัวมองหน้ากันไม่ติดมากขนาดนั้นอีกแล้ว”

   ผมยืนตกตะลึงอยู่ตรงหน้าพวกมัน

   “กูจำคำพูดมึงได้นะทนาย คำพูดที่มึงพูดกับไอ้ไมล์อ่ะ อาสาไม่รู้วันนี้ยังไงมันก็ต้องรู้วันอื่น กูจะยึดตามนั้นก็แล้วกัน”

   เราสามคนมองไปที่อาสาพร้อมกัน ผมเริ่มคิดในใจว่าที่อาสามันแยกตัวออกมาจากเพื่อนคนอื่นขนาดนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้เพื่อนมีความกล้ามากยิ่งขึ้นกับระยะห่างระหว่างพวกมันชัดๆ ยิ่งไม่ได้ใกล้ชิดคนที่ชอบมันมากมายมหาศาลอย่างเพื่อนมันทั้งสองคนเหล่านี้ก็กล้าที่จะเผชิญหน้าและก็กล้าที่จะเจ็บปวด  หากผลลัพธ์ไม่ใช่ในสิ่งที่ทั้งสองคนคาดหวัง

   เสียดายที่มันไม่รู้ความจริงในข้อนี้

   “มึงจะช่วยกูมั้ย” เตเลิกคิ้วถามผม

   ผมมองเพื่อนทั้งสองคนไปมา “กูคงจะงงว่ากูควรช่วยใคร ยังไงตอนนี้พวกมึงก็พึ่งตัวเองไปก่อนละกัน”

   เตกับไมล์พยักหน้า จากนั้นก็ตบบ่าของผมเบาๆ แล้วเดินจากไป ผมกลืนน้ำลายมองไปที่อาสาอีกครั้ง ความรู้สึกของผมหนักอึ้งกว่าเมื่อเช้ามาก นี่มันหนักหนาสาหัสกว่าเรื่องที่คนจากหอสองมาเดินเพ่นพ่านที่บริเวณชั้นห้าของหอสามอีกนะ

   ปวดหัวจริงๆ เลย...อาสา ทำไมมึงต้องเกิดมาน่ารักวะสาด






   “มันมีร้านกาแฟร้านใหม่ร้านหนี่ง น่านั่งดี เดี๋ยวกูจะพามึงไป”

   “...”

   “ทนาย”

   “...”

   “ไอ้ทนาย ระวังมอเตอร์ไซค์!”

   ผมที่ใจลอยไปชั่วขณะรีบขยับพวงมาลัยให้ไปทางขวาเพื่อหลบมอเตอร์ไซค์ที่ขับแซงซ้าย ใจเต้นตุบๆ อย่างลุ้นระทึก อาสามองมาที่ผมเป็นเชิงตำหนิเล็กน้อย

   “เป็นเหี้ยอะไร ใจลอยขนาดนี้เดี๋ยวกูขับให้ก็ได้นะ”

   “คนที่ไม่ได้ขับรถมานานหลายปีอย่างมึงนั่งนิ่งๆ ไว้เถอะ”

   “ไม่ไว้ใจกูเหรอ”

   “เปล่า กูเป็นห่วงหมาแถวนี้”

   “ไอ้เหี้ยเอ๊ย”

   อาสาขับรถเป็นตั้งแต่อยู่ม.6 แต่มันไม่กล้าขับอีกเลยหลังจากที่ขับรถไปเหยียบตีนหมาจนหมาเข้าโรงพยาบาล มันรู้สึกผิดจนถึงวันนี้ แต่ก็สามารถแหย่มันได้ เพราะมันไม่โกรธครับ

   “ตอนนี้มึงเป็นไงบ้าง” เมื่อยังไม่ถึงที่หมาย ผมจึงยิงคำถามใส่อีกฝ่าย

   “อะไรเป็นไง”

   “เรื่องไมล์”

   ผมทำหน้าสลดลง “เรื่อยๆ ว่ะ”

   “ไหนๆ มึงก็รู้ความรู้สึกมันแล้ว...” ผมมองไปยังท้องถนน “มันก็เลยบอกกูว่ามันจะรุกจีบมึง”

   “หา!” อาสาอ้าปากค้าง “ฉิบหายแล้ว”

   “เหอะๆ” ผมหัวเราะในลำคอ

   “โอ้ย กูปวดหัวเลย”

   “มันชอบมึง มันจะจีบมึงก็ถูกแล้วนี่”

   “กูรู้ แต่กูวางตัวไม่ถูกอ่ะ” มันหันมามองผมด้วยสายตาตื่นๆ “มึงห้ามทิ้งกูนะ”

   เชี่ย คำพูดแบบนั้นกับสายตาที่สั่นระริกแบบนั้นทำเอาผมมองถนนไม่เป็นถนนแล้ว

   “อะไรของมึงวะ”

   “ไอ้เตก็ไม่ได้อยู่กับกู กูมีแค่มึงเป็นเพื่อน”

   ถ้ามันรู้ความจริงเรื่องไอ้เตอีกมันจะเป็นไงบ้างเนี่ย

   “เพราะงั้นมึงห้ามทิ้งกูเด็ดขาด”

   “นี่บังคับป่ะเนี่ย”

   “กูขอร้อง”

   “นั่นคือเสียงของคนที่ขอร้องคนอื่นเหรอ”

   “สัดทนาย กูไม่ได้หล่อจนมีเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังแบบมึงนะ” อาสาทำเสียงโอดครวญ “วันนี้กูเห็นมึงกับเพื่อนปีหนึ่งแล้วกูรู้สึกอิจฉา ถ้ากูมีเพื่อนเยอะแบบนั้นกูคงไม่ต้องมารบกวนมึงหรอก แต่นี่กู...”

   “เอาล่ะๆ” ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ “ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน มึงเห็นกูแยกกับมึงหรือยังล่ะ”

   อาสายิ้มแห้งๆ “ยัง”

   “เพราะงั้นไม่ต้องมาขอร้อง ไม่ต้องมาบังคับ ยังไงกูก็อยู่ข้างมึง กูไม่ทิ้งมึง”

   คำพูดเสียงเรียบง่ายของผมทำเอาอาสามองอย่างซึ้งใจ แต่มันก็ซึ้งใจได้แป๊บเดียวเพราะมันต้องร้องตะโกนเรื่องที่ผมเกือบชนมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งที่สอง






   ร้านกาแฟ Pink Chiffon

   “ร้านเหี้ยไรเนี่ย” ผมอดบ่นไม่ได้ “ชื่อแม่งตุ๊ดสาด กูกลับแล้วนะ”

   “แต่ขนมอร่อยนะ” อาสาจับคอเสื้อผมไว้ “สาวๆ ที่นี่ก็น่ารักด้วย”

   มึงยังจะมีหน้ามามองสาวอีกเหรอ ผมมองอาสาด้วยสายตาเอือมระอา จนกระทั่งผมสะดุดเข้ากับคนๆ หนึ่งที่นั่งอยู่มุมร้าน คนๆ นั้นก็คือพี่อ้าย

   มีเรื่องจะคุยด้วยพอดี!

   “มึงไปสั่งก่อน หาที่นั่งก่อน” ผมบอกเพื่อน “กูมีเรื่องจะคุยกับพี่อ้าย”

   “อ๋อเหรอ ฝากทักพี่มันด้วยนะ”

   พี่อ้ายกำลังอ่านชีทเรียนอยู่ ผมเดินเข้าไปหาพร้อมกับนั่งฝั่งตรงกันข้ามทันที

   “ไอ้สัด กูตกใจหมด” พี่อ้ายอุทาน

   “อ่านหนังสือเรียนเหรอพี่”

   “เปล่า กูอ่านคู่มือทำหมันแมวอยู่”

   “...” ผมขมวดคิ้ว ผมจำได้ลางๆ ว่าพี่อ้ายเรียนวิศวะนี่หว่า แล้วพี่มันจะอ่านคู่มือทำหมันแมวทำไม

   “กูประชด!” พี่อ้ายร้องอย่างเหลืออด “มีอะไรอีก เดี๋ยวๆ กูขอเดาเองก่อน”

   “...”

   “มึงมาคุยเรื่องอาสาชัวร์ๆ”

   ผมกระพริบตาปริบๆ “รู้ได้ไง”

   “ถึงตัวมึงเองจะมีปัญหา แต่ส่วนใหญ่ต้นเหตุก็มาจากอาสา เพราะงั้นปัญหามึงคราวนี้ยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องนางฟ้าคนนี้ชัวร์ๆ”

   รู้สึกพูดไม่ออก แต่ยังไงก็ต้องพูด “ชั้นห้าแม่งเปิดขายตั๋วเข้าหอฟรีให้พวกหอสองเหรอ” ผมโวย “เมื่อเช้าเจอคนหนึ่ง”

   “อีกแล้วเหรอ!” พี่อ้ายเอามือนวดขมับ “กูจัดการยังไงแม่งก็ลอบเข้ามาได้อยู่ดี และพวกหอเราด้วยนี่แหละที่อ่อยเอง ยอมเอง”

   “ผมไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก แต่คนที่ผมเห็นเมื่อเช้ามันรู้แล้วนะว่าอาสาอยู่ห้องไหน”

   “...”   

   “มันจะไม่เป็นไรเหรอ ไอ้คนนั้นจะไม่พาใครมาบุกห้องผมเพราะอาสาใช่มั้ย”

   พี่อ้ายจ้องมองมาที่ผมก่อนยิ้มมุมปาก ระหว่างนั้นก็มีคนบางคนเดินเข้ามา เป็นคนที่ทำให้ผมอ้าปากค้าง ต้องมองบรรยากาศรอบร้านกับมองคนๆ นี้อีกทีหนึ่ง

   ร้านนี้เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูแทบทั้งหมด แต่คนอย่างพี่สงคราม ประธานหอสองกลับมาอยู่ในที่แบบนี้ซะได้ พี่รู้สึกอายลูกหอตัวเองบ้างมั้ยเนี่ย

   ผมหัวเราะออกมานิดหน่อย การหัวเราะของผมทำเอาพี่สงครามถึงกับหลุดเก๊กไปเลย

   “กูกลับนะ” พี่สงครามขอตัวทันที

   “ไอ้สาด ไม่มีเหี้ยไรต้องคิดมากหรอก นั่งๆ” พี่อ้ายตบมือที่นั่งข้างตัวเอง “เด็กมันมีเรื่องคุยด้วยพอดี”

   พี่สงครามนั่งลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “มึงมีอะไร”

   “เด็กหอมึงปีนหอกูอีกแล้ว”

   “ใคร” ประธานหอสองทำเสียงโหดขึ้นมาอย่างฉับพลัน รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัว “มันเป็นใคร”

   “ผมไม่รู้” ผมไม่ใช่คนขี้ฟ้องนะเว้ย ถึงจะรู้ผมก็ไม่เอ่ยชื่อหรอก “ปัญหามันอยู่ที่ไอ้เหี้ยนั่นรู้ห้องอาสาแล้ว พี่จะรับประกันได้มั้ยว่าเด็กหอพี่จะไม่บุกมาหาเพื่อนผม”

   “เดี๋ยวๆๆ” พี่สงครามยกมือห้ามผมไม่ให้พูดต่อ “อาสาอีกแล้วเหรอ ทำไมมึงสนใจเพื่อนคนนี้จังวะ”

   สายตาพี่อ้ายกับสายตาพี่สงครามแทบจะเป็นสายตาเดียวกัน นั่นคือสายตาจับผิดกึ่งหยอกล้อ

   “มาเดตกันด้วยนะ” พี่อ้ายกระซิบ ส่งยิ้มให้อาสาที่มองมาอย่างเก้อกระดาก มันคงหวาดๆ พี่สงคราม

   “ไม่ใช่ครับ” ผมโบกไม้โบกมือ “กลายมาเป็นเรื่องนี้ได้ไง”

   “ไม่ผิดหรอกที่มึงจะชอบมัน ใครๆ ก็ชอบมันนี่” พี่อ้ายยักไหล่

   “กลับมาเรื่องคนปีนหอได้แล้ว”

   “กูกับอ้ายพยายามดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว ลำพังประธานหอสองคนคงทำอะไรได้ไม่มากถ้าลูกหอมันไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งส่วนใหญ่ไอ้พวกหอกูมันก็ไม่คิดจะไปหาเรื่องทำอะไรร้ายแรงกับพวกหอสามอยู่แล้ว เพราะมีแต่กิ๊กไม่ก็แฟนมันที่อยู่หอสาม”
 
   “พี่จะพูดอะไรกันแน่วะ”

   “กูจะบอกมึงว่าลำพังตัวกูกับอ้ายคงทำอะไรมากไม่ได้ มึงต้องดูแลเพื่อนมึง และเพื่อนมึงต้องดูแลตัวเอง เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน”

   “แล้วเรื่องศักดิ์ศรีหออะไรพวกนี้ล่ะ ทำไมจู่ๆ ถึงได้ปล่อยให้ไปมาหาสู่กันได้ง่ายโคตรๆ แบบนี้”

   “ก็พวกแม่งชอบกัน อยากเอากัน สมัครใจทั้งคู่กูจะห้ามได้ไงวะ” พี่สงครามเริ่มเหลืออดกับผม “ถ้ากูรู้ว่าใครกูก็ลงโทษ ไอ้อ้ายรู้ว่าใครเป็นคนเรียกคนจากหออื่นมาหาก็จะลงโทษ กูกับมันทำได้เท่าที่ทำได้ เพราะบางครั้งแม่งก็เกินจะควบคุม”

   “มึงห่วงอาสาจนเกินความเป็นเด็กหอสามแล้วนะเนี่ย” พี่อ้ายยิ้มมุมปาก

   “ผม...เปล่า”

   “กูเชื่อว่ามึงดูแลมันได้” พี่สงครามเอ่ย “มึงชอบมันมากนี่ หอโหดๆ อย่างหอกูมึงก็บุกมาแล้ว”

   “ผมไม่ได้...”

   ผมไม่รู้จะเถียงยังไง ในเมื่อประธานหอทั้งสองคนคิดไปแล้วว่าผมคิดไม่ซื่อกับอาสา ผมพ่นลมก่อนจะไหว้ทั้งสองคนและก็กลับไปหาอาสาที่กำลังรออยู่

   “พี่สงครามมาร้านแบบนี้ด้วยเหรอ” อาสาตกตะลึง “ไม่เข้ากับหน้าพี่มันเลย”

   ผมยิ้มเบาๆ ส่งให้มัน จากนั้นก็นั่งจมจ่อมอยู่ในความคิดของตัวเอง

   ผมไม่ได้ชอบอาสาหรือผมชอบมันไม่ได้กันแน่วะครับ...ผมเองก็เริ่มคิดแล้วแหละว่าที่ผมทำขนาดนี้มันเกินกว่าคำว่าเป็นห่วง เกินกว่าคำว่าดูแลเพื่อน เกินกว่าคำว่าเสือก เกินกว่าทุกๆ คำและก็ทุกๆ คนที่ผมเคยปฏิบัติด้วย

   ทนาย มึงบอกว่ามึงมาที่นี่เพื่อมาเรียนไม่ใช่เหรออออออ

   ยังหรอก ต้องยังไม่ใช่สิ ยังไงก็ยังไม่ใช่ อย่าลืมนะว่าผมเคยบอกเพื่อนอีกสองคนว่าไง

   ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องไม่ชอบมัน แม้ว่าหัวใจเริ่มที่จะสวนทางกับความคิดก็ตาม แต่ผมก็พยายามจะสลัดมันทิ้งไป







tbc*







ห่วงเขาตลอด แต่ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่หลงเสน่ห์เขาอีก  :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด