... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ... สิ บ ส อ ง เ ศ ร้ า ... l (I) บัลลังก์ปักษา l up : 19/08/17 [END]  (อ่าน 488800 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อาสาเอ้ยยย จะฮอตไปไหน ขนาดทนายที่ว่าน่าไว้ใจยังเป๋
ทนายสมควรไปเคลียร์กับตัวเองก่อนจริงๆ

เอิ่มมม แต่ละคนทั้งไมล์และเต รุกไวมาก กะไม่ให้เสียแต้มกันเลย
แต่สงสารอาสาบ้างเหอะ คิดแค่เพื่อน จะเป็นอะไรที่รับมือยากมาก

อาสาเสียงอ่อยเลย ทนายจะทิ้งไปจริงหรอ

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ทนายเอ้ยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1

ออฟไลน์ Zamii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออยู่หน๊าาาาาา

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
สงสารทนายเหลือเกิน อาสานี่ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยยคนกลางโคตรแย่ทำตัวไม่ถูกเลย

ไปชวนเต อีกคนไป แล้วบอกยกเลิกนัดแล้ว

เข้าใจไมล์นะ อยากจีบอะ แต่แมร่งรุกเกิ้น

สงสารอาสาเลย

โดนโกธรแน่ ไหนบอกจะอยุ่ข้างๆกันไง

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เกิดเป้นทนายแท้จริงแสนรำบาก

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ทนายอาสา ชื่อเหมาะเป็นคู่กันมากๆๆ  ทนายน่าจะรุกจีบอาสาไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เป็นเรื่องที่ความสัมพันธ์วุ่นวายมากจริงๆ 55555
ถ้านี่เป็นทนายก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกันนะ ชวนอึดอัดไปหมดเลยอ่ะ เลือกข้างก็ไม่ได้ :katai1:
สงสัยว่าเตจะคู่กะไมล์มั้ย ก๊ากกกก ยังไม่รู้ว่าคู่รองที่ชฟค.บอกคือคู่ไหน แต่เดาว่าคู่นี้..มั้ง =0=;; จะได้ตัดปัญหาพวกนี้ไปได้เลยไง
ปล.แอบกรี๊ดพี่สงครามมมม >///< และก็ชอบทนายด้วย ฮาา
รอตอนหน้านะคะ มาต่อไวๆ น้า มันค้างงงง ตอนหน้าจะหน่วงมั้ยเนี่ย ถ้าอาสารู้ว่าทนายเปิดทางให้ไมล์งี้ต้องเป็นเรื่องแน่ๆ เลย T^T

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
สิบสองเศร้า  นี่หมายถึง  สิบสองเส้า?  โอ้  ถ้าเป็นเยี่ยงนั้น  อีรุงตุงนัง จริงๆ

 :really2:

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เพิ่งเห็นว่ามีเรื่องใหม่ ดีจัยยย

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทนาย ใจเทให้อาสาเกินแปดสิบละม้าง  :z3: :z3: :z3:

พี่สงคราม ไม่มีคู่เหรอ  :hao3:
ดูเคมี พี่สงคราม เข้ากับทนายนะ
อยากเชียร์ พี่สงคราม ทนาย  :กอด1: นะ

อาสา มีคนชอบเยอะมากกกกกกกกกก  :ling1: :ling1: :ling1:
จะ 3p ไมล์ เต อาสา ดีมั้ย
แต่ใจทนาย เกินเลยผู้พิทักษ์อาสา ไปแล้ว  :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nutty_FanFan13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารทนาย  สับสนน่าดูเลย  :o12:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12



บัลลังก์ปักษา
ตอนที่ 10


   
   กลางดึกคืนนั้น

   ผมอยู่ห้องไอ้โอ๊ค ไม่ได้ออกไปไหนและก็นิ่งเพื่อรอเวลา ท่าทางของผมเหมือนคนอกหักจนไอ้โอ๊คแม่งเดาไปสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วว่าผมโดนพี่อาสาของมันหักอก

   ไม่ใช่แค่สุ่มสี่สุ่มห้าแล้วไอ้สัด นี่มันสุ่มไก่เหอะ แม่งมั่วฉิบหาย

   แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่มีอารมณ์ที่จะโกรธมัน สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดตอนนี้ก็คืออาสาครับ ไม่ว่ามันจะแสดงออกกับผมยังไงผมก็กลัวมันไปหมดแล้วตอนนี้ เชื่อป่ะ ผมอยากให้มันด่ามากกว่าตัดพ้อ สำหรับผมแล้วเวลาแฟนด่าคือแฟนโกรธเฉยๆ แต่ถ้าแฟนตัดพ้อคือแฟนทั้งเสียใจและก็น้อยใจ ซึ่งมันหนักหนาสาหัสกว่าโกรธเฉยๆ อีกนะผมว่า

   ทฤษฎีนี้จะใช้กับอาสาได้มั้ย...   

   แล้วมันใช่แฟนมึงมั้ยล่ะทนาย

   หลังจากที่ซึมกะทืออยู่ห้องเพื่อนนานจนเพื่อนมันเริ่มง่วง ผมก็ขอตัวกลับห้องตัวเองสักที ผมคิดว่าหนังที่พวกมันดูน่าจะจบไปแล้วล่ะตอนนี้ ผมเดินขึ้นมาจากชั้นสองเพื่อที่จะมายังชั้นห้าซึ่งเป็นห้องของผมเอง รู้สึกใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ หนักกว่าตอนที่สอบเข้ามาในมอนี้อีก

   ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเคาะประตู

   ไม่นานนักอาสาก็เข้ามาเปิดให้ ไฟในห้องยังสว่างจ้า และตอนนี้มีแค่มันคนเดียวที่อยู่ในห้อง ที่สำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั่นก็คืออาสาแม่งไม่มองหน้าผมเลย

   “คือว่า...”

   อาสาตวัดสายตามามองผม เหี้ย น่ากลัวมาก ผมไม่รู้จะพูดว่าอะไรต่อดี

   “พูดมา” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบมากจนผมรู้สึกกระวายกระวายไปหมด

   “หนังหนุกมั้ย”

   สิ้นเสียงของผม อาสาถึงกับขมวดคิ้วใส่ผมทันที มันหันไปสนใจสิ่งที่อยู่บนโต๊ะแทน

   “กูขอโทษ”

   “ที่กูโกรธที่สุดคืออะไรรู้ป่ะ” เสียงของมันสั่นเล็กน้อยจนผมใจสั่นตาม “มึงโกหก มึงไม่ได้ไปงานเลี้ยงเซคชั่นห่าเหวอะไรนั่นของมึง มึงไปอยู่ในห้องกับไอ้โอ๊คเพื่อนมึง”

   พระเจ้าฆ่าผมเลย ฆ่าผมให้ตายเดี๋ยวนี้เลย

   “ทำไมวะ มึงก็รู้ว่ากูมีแค่มึงอ่ะ แต่มึงกลับเปิดโอกาสให้ไมล์มันเข้ามาหากู”

   “ก็มันขอร้อง” ผมโอดครวญ

   “เมื่อเช้าก็ไอ้เต ตอนเย็นก็ไอ้ไมล์”

   “ไม่ใช่แล้ว” อย่างน้อยเรื่องไอ้เตก็เป็นเหตุสุดวิสัย

   “กูแม่งโคตรเสียใจเลย” อาสาเอาหน้าฟุบโต๊ะ “ตอนนี้มึงคือความสบายใจเดียวของกู แล้วดูสิ่งที่มึงทำกับกูสิ”

   พระเจ้าคงไม่เมตตาผมกระมัง ถึงไม่ได้สนใจคำวิงวอนของผม ผมรู้สึกเจ็บปวดไปหมดตอนที่อาสาพูดกับนั้น เจ็บยิ่งกว่าโดนมีดกรีดหัวใจอีก ทำไมผมเหี้ยขนาดนี้วะ

   ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ได้แต่เลื่อนเก้าอี้ตัวเองไปใกล้ๆ มัน จากนั้นก็สะกิดเบาๆ

   “อาสา”

   “...”

   “เฮ้ย กูขอโทษ”

   ถ้ามันรู้ว่าใจผมไม่ได้อยากทำแบบนั้น มันจะรู้สึกดีขึ้นมั้ย

   “ไม่เอาแบบนี้อีกแล้วได้ป่ะ” อาสาเงยหน้าขึ้นมา มันตกใจเล็กน้อยที่ใบหน้าของผมใกล้มันเกินไป จนมันต้องเขยิบใบหน้าออกห่าง “อย่างน้อยมึงก็ควรอยู่ทีมกูอ่ะ”

   “ทีม?”

   “ใช่ ทีมกู ทีมอาสา”

   “นี่มึงแข่งห่าอะไรกันอยู่”

   “กูไม่ได้แข่ง แต่กูอยากเลี่ยง” อาสาคอตก “ถ้ามึงกลายเป็นทีมไอ้เตหรือไม่ก็ทีมไอ้ไมล์ กูตายจริงๆ นะเพื่อน”

   กูก็อาจจะตาย...

   “ขอร้อง มึงอย่าทำแบบนี้อีกนะ”

   ผมเอื้อมมือไปจับมือของมันเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว “ถ้ากูจะบอกมึงว่าสิ่งที่กูเพิ่งทำ มันไม่ได้มาจากความต้องการจากใจกูจริงๆ มึงจะรู้สึกดีขึ้นป่ะ”

   อาสามองหน้าผม มันกลืนน้ำลายเล็กน้อย “หา”

   “แค่อยากให้มึงรู้ไว้”

   ผมบีบมือมันเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือ อาสากำมือของตัวเองไปมาพร้อมกับจดจ้อง อาจจะงงว่าผมจับมือมันทำไม

   “แล้วเป็นไง ดูหนังกับไอ้ไมล์”

   “เหี้ย อึดอัดดิ”

   “ได้คุยอะไรกันบ้างป่ะ”

   “มันบอกว่ายังไงมันก็จะไม่เปลี่ยน” อาสาถอนหายใจ “ไม่ว่ากูจะเลือกมันเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟน มันก็จะไม่เปลี่ยนความรู้สึกของมันที่มีต่อกู”

   ผมพยักหน้ารับรู้

   “กูปฏิเสธมันไปแล้วนะ” คำพูดของอาสาทำเอาผมต้องมองหน้ามันอีกที “ตอนแรกมันก็คิดว่าเป็นเพราะกอเตย แต่กูบอกว่าถึงไม่มีกอเตยยังไงเรื่องของมันกับกูก็เป็นไปไม่ได้ แต่มันก็อยากลองขอโอกาสกูดู”

   “...”   

   “กูปวดหัวสัดๆ เลยว่ะ”

   อาสาเอนตัวมาพิงผมราวกับหาที่พึ่ง มันยังคงจ้องมือตัวเองและก็กำมือสลับกับแบมืออยู่อย่างนั้น ผมปล่อยให้มันพิงผมได้ตามอำเภอใจ อันที่จริงตอนนี้ถ้ามันจะเตะหรือจะต่อยผมก็ยอมหมด อะไรก็ได้ที่ทำให้มันรู้สึกดีขึ้น

   “อย่างที่กูบอก อะไรที่มึงสบายใจ มึงทำเลย” ผมพูดหลังจากที่เงียบไปนาน

   “...”

   “แล้วมึงเงียบทำไม”

   “อย่าขัดดิ”

   อะไรของมันวะ ผมชะงักเล็กน้อย ขยับศีรษะไปมองหน้าคนที่เอนหัวมาซบกับตัวผม

   “กูกำลังสบายใจอยู่เนี่ย...”






   เช้าวันต่อมา


   “ไม่เอาอีกแล้วนะ” ปากที่คาบขนมปังแผ่นของอาสาพูดเสียงบังคับ

   “โอ้ย เหี้ย บ่นจังวะ” ผมโอดครวญ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแม่งเอาแต่พูดคำนี้ ผมมองดูอาสาที่แต่งตัวอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นพุงขาวๆ ของมันโผล่พ้นเสื้อ ผมก็หันกลับมามองตัวเองในกระจกอย่างรวดเร็ว

   “กูต้องย้ำ คนอย่างมึงแม่งชอบให้ย้ำซ้ำๆ”

   “กูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “กูคิดอยู่ว่าบางทีกูอาจจะให้อภัยง่ายเกินไป”

    ผมเดินเข้าไปกระชากตัวของอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนด้วยใช้มือเพียงข้างเดียว หลังจากเมื่อคืนดูเหมือนผมกับมันจะใกล้ชิดกันมากขึ้นนะครับ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็กล้าถึงเนื้อถึงตัวกับมัน

   “เห็นกูยอมแล้วข่มกูจัง” รู้สึกหมั่นไส้แม่งฉิบหาย

   ใบหน้าของมันในกระจกดูขัดๆ เขินๆ แปลกๆ จนมันต้องกระทุ้งสีข้างผมเพื่อเอาตัวรอด

   อย่างน้อยแม่งก็ไม่โกรธที่ผมจับตัวมันล่ะวะ

   “ต้องย้ำไง มึงแม่งชอบไม่ให้ความสำคัญกับตัวเอง”

   “กูน่ะเหรอ” ผมชี้นิ้วใส่ตัวผม

   “ใช่”

   “...”

   “แม่งไม่เคยมองตัวเองเลยว่าตอนนี้มึงคือที่พึ่งเดียวของกู ซึ่งสำหรับกูมันสำคัญฉิบหายเลยนะ”

   “เอาล่ะ” ผมตัดบท เพราะอีกฝ่ายแม่งเริ่มสวดผมอีกแล้ว “กูไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว สบายใจเหอะ กูกราบบบบบบบบบ”

   “กูบ่นเยอะเหรอ”

   “เออ”

   “กูแค่...”

   “เนี่ย เห็นมั้ย เดี๋ยวแม่งก็วกมาเรื่องเดิมอีก”

   “กูเจ็บไง กูอุตส่าห์เชื่อใจ วางใจมึง”

   ไม่จบชัวร์ ผมที่แต่งตัวเสร็จแล้วเลื่อนเก้าอี้มากลางห้อง จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกอดอก

   “อะไรของมึงวะ” อาสาดูงงๆ กับพฤติกรรมของผม

   “บ่นมาเลย ด่ามาเลย พูดมาเลย เอาออกมาให้หมด และต้องจบภายในอีกยี่สิบนาทีนี้ด้วยนะ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”

   ไอ้อาสาทำสีหน้าโมโหเล็กๆ ใส่ผม “กวนตีนสาด”

   “ว่ามา รอฟัง”

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   อาสาพยักเพยิดไปที่ประตู “บททดสอบมาแล้ว”

   ผมรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย เบื้องหลังประตูบานนั้นอาจจะเป็นไอ้เตและก็ไอ้ไมล์ก็ได้ ผมสบตากับอาสาก่อนจะเปิดประตู คนที่อยู่หลังประตูก็คือไอ้เต

   อาสาแม่งฮอตจริงๆ มีผู้ชายมาหาแต่เช้าตลอด #ประชดประชัน

   “มีรถไปเรียนกันยังวะ” ไอ้เตเนียนมากครับ มันวางท่าชิลๆ ซึ่งถ้าไม่คิดมากก็เหมือนเพื่อนทั่วไปเขาถามกันนั่นแหละ

   อาสายิ้มน้อยๆ แล้วก็เงียบ รอให้ผมเป็นคนตอบ โอ้ยยยย แสบสัดๆ นี่น่ะเหรอนางฟ้าของใครหลายคน กัดไม่ปล่อยจริงๆ
 
   “มีแล้ว เดี๋ยวอาสาจะไปกับกูว่ะ” ผมตอบ

   “งั้นเหรอ ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย”

   “กูกับมันกินของในห้องแล้วว่ะ โทษที”

   “เออ งั้นไว้เดี๋ยวเจอกัน”

   เต กูขอโทษจริงๆ ผมปิดประตูก่อนจะหันหน้ามามองอาสาที่ดูพอใจในตัวผม

   “ต้องอย่างงี้ดิ”

   “เห็นหน้าเชี่ยเตมั้ย” ผมถาม

   “จะให้กูทำไงล่ะ” มันเกาหัวตัวเองแรงๆ “สุดท้ายแล้วคนเราแม่งก็ต้องแคร์ตัวเองมากที่สุดป่ะวะ กูแคร์คนทั้งโลกไม่ได้หรอกนะ”

   อาสาพูดไปเก็บของไป ผมถอนหายใจมองตามมันก่อนจะคิดอะไรบางอย่างในใจ สิ่งที่อาสาต้องการให้ผมทำนั้นมันง่ายสำหรับผมมาก แต่อาสาไม่รู้ครับ มันคิดว่าผมฝืน มันก็เลยทดสอบผม

   มึงได้หารู้ไม่ว่า...สิ่งที่กูทำนั้นมันล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น และมันก็ง่ายสำหรับกูมาก

   อีกไม่นานคงจะมีวันนั้นใช่มั้ยครับ วันที่ผมเลิกแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง วันที่ผมกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเพื่อนทั้งสองคน และเป็นวันที่ผมจะได้กลืนน้ำลายตัวเองอย่างชัดเจนที่สุด

   ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ใช่ว่าผมจะสมหวังอยู่ดี

   อาสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความจากกอเตย ใบหน้าของมันก็ไม่สบอารมณ์ไปเลย

   อย่าลืมนะครับว่าไอ้เหี้ยที่เป็นเจ้าของหัวใจของชายหลายคน...แม่งชอบผู้หญิง

   ที่สำคัญมากไปกว่านั้นอีกก็คือจุดที่ผมยืนอยู่คือจุดที่อาสามอบคำว่าเพื่อนให้ผมอย่างเต็มร้อย แม้ปากมันจะบอกว่าผมคือความสบายใจของมัน คือที่พึ่งเดียวของมัน แต่มันก็ย้ำหลายครั้งว่าตอนนี้มันเหลือผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว คล้ายกับมันขีดวงกลมล้อมรอบผมไม่ให้ผมหลุดออกจากคำว่าเพื่อน ถ้าหลุดออกจากนี้คือผมทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของมัน เดินตามรอยเพื่อนมันสองคนที่มันพยายามเลี่ยงทันที

   เพราะงั้นถึงใจอยากจะชอบ แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่แม่งไม่ยอมให้ผมชอบมันง่ายๆ อยู่ดี

   การจะชอบใครสักคนแม่งต้องคิดเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ

   นางฟ้าพากูคิดหนักอีกแล้วมั้ยล่ะ!






   คณะบัญชี

   “กูชอบดีมั้ย”

   “...”

   “หรือกูไม่ชอบดี”

   ตอนนี้ปีหนึ่งเรียนกันเสร็จหมดแล้ว ผมกับเพื่อนๆ กำลังนั่งอ้อยอิ่งกันอยู่ที่ใต้ตึกคณะ ทุกคนดูชิลๆ กันหมด ยกเว้นผมที่เริ่มเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที

   “หุ้นตกเหรอเพื่อน” ไอ้โอ๊คยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมๆ กับเอ่ยถาม ผมตกใจจนต้องดันหน้ามันออกไป “บ่นห่าอะไรกับตัวเองตั้งแต่มาถึงแล้วเนี่ย”

   “เรื่องของกูน่า”

   “พี่อาสามา!” เพื่อนในกลุ่มของคนหนึ่งร้องลั่น ผมหันไปมองคอแทบหัก สรุปก็คือมันล้อเล่น อาสาขึ้นไปเรียนตั้งแต่บ่ายนานแล้ว และผมก็เสือกจะเชื่อมันไปอีก

   “ตลกมากมั้ยสัด” ผมด่าเพื่อน

   “คิดมากเรื่องพี่อาสาชัวร์ๆ”

   “กูเห็นด้วย แม่งหันไปซะคอแทบเคล็ดขนาดนี้” โอ๊คพยักเพยิดกับเพื่อน “มีปัญหาอะไร ไหนเล่าซิ”

   เล่าไปก็มีแต่จะพัง ถ้าพวกมันรู้ คนทั้งหอก็จะรู้ ซึ่งคนทั้งหอที่ว่าแม่งรวมตัวละครสำคัญเอาไว้หมด อาทิเช่นไอ้เต ไอ้ไมล์ และก็ที่สำคัญที่สุดก็คือไอ้อาสา

   ผมยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด

   “กูไม่เล่า”

   “พวกกูไม่ได้เสือกนะ พวกกูแค่อยากให้คำปรึกษา”

   เหรออออ ใครจะไปเชื่อ ไอ้พวกบ้า

   “กูถามหน่อย” ผมพูดอย่างจริงจัง “ทำไมพวกมึงต้องคิดว่ากูคิดมากเรื่องอาสาวะ” ถึงแม้ว่าพวกแม่งจะเดาถูก แต่ผมก็ขอรู้หน่อยเหอะว่ามันคิดกันได้ยังไง

   “มึงเอ๊ย” ไอ้โอ๊คหัวเราะ “แค่พี่อาสาเดินผ่านนะชาวบ้านชาวช่องเขาก็พากันหวั่นไหวจะตายห่า แล้วนี่มึงอยู่ใกล้ชิดพี่เขาที่สุดนะ ถ้ามึงจะไม่หวั่นไหวมึงก็เป็นพระพุทธรูปแล้ว”

   มั่นใจในการใช้คำพูดมาก...แต่แม่งจริงว่ะ

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจ “กูเองก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย”

   “กูว่ามึงมีคำตอบแล้วล่ะ” ไอ้โอ๊คหยิบขนมของเพื่อนคนอื่นมาแดกเฉย “คำตอบของมึงมันมีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่มึงเริ่มสงสัยในตัวเอง”

   “ถ้าไม่คิดอะไร จะหวั่นไหวได้ไง”

   “ถ้าไม่คิดอะไร จะสนใจทำไมว่าเขาอยู่แถวนี้มั้ย”

   “แม่งหันคอหักอ่ะ ตอนกูแกล้ง”

   “ฉายาใหม่ต่อจากทนาย เดือนหอ เป็นทนาย หันจนคอหัก ฮ่าๆๆๆ”

   ตลกตรงไหนวะ ผมปล่อยให้พวกแม่งรื่นเริงบันเทิงใจกันต่อไป จนกระทั่งเพื่อนมันเหนื่อยที่จะหัวเราะและก็หยุดไปเอง
 
   “เพื่อนแม่งเครียดว่ะ” โอ๊คปรามทุกคนให้หยุดขำ ก่อนหันมาผม “มีห่าอะไรพูดมา”

   “กูไม่มี”

   “ไม่มีหรือพูดไม่ได้”

   “พวกเหี้ย” ผมพึมพำอย่างขุ่นมัว บทมึงจะรู้ทันมึงก็รู้ทันจังเลย

   “เอางี้ กูรู้นะว่ามึงสนิทกับพี่อาสา และพี่อาสาก็รู้จักพวกกูทุกคน แต่สิ่งที่มึงพูด มันจะหยุดอยู่แค่นี้ ตรงนี้ พวกกูจะไม่พูดถึงอีกตอนอยู่ที่อื่นถ้ามึงไม่เป็นฝ่ายพูดเอง” โอ๊คตบไปที่อกตัวเอง “ด้วยเกียรติของเด็กหอสาม”

   เพื่อนทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก จากที่คบๆ มาไอ้พวกนี้ไม่มีใครปากสว่างสักคนครับ ส่วนใหญ่จะบ้าๆ บอๆ ไม่ก็กวนประสาทมากกว่า (อีกทั้งยังหน้าตาดีสมกับเป็นเด็กหอสามอีกด้วย)

   ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองตาพวกมันแกมข่มขู่ว่า ‘ถ้าพวกมึงเอาไปปูดที่ไหน กูตามไปกระทืบไข่แน่’ กิตติศัพท์ตอนไปบุกหอสองของผมก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องขี้ๆ เพราะงั้นถึงไอ้พวกนี้มันจะเป็นเพื่อนผม แต่มันก็ยังมีความเกรงอกเกรงใจอยู่

   ผมเล่าให้พวกมันฟังคร่าวๆ เรื่องที่อาสามีคนมีเพื่อนตัวเองมารุมชอบ เรื่องที่มันจำเป็นต้องขอร้องให้ผมคอยอยู่เป็นเพื่อนมันเพราะมันแทบไม่มีเพื่อนเหลืออยู่เลย เรื่องที่ผมวางตัวลำบากว่าจะอยู่ทีมใครดีระหว่างทีมอาสาหรือเพื่อนอีกสองคน และก็เรื่องสุดท้ายนั่นก็คือเรื่องที่ผมเริ่มสับสนเล็กๆ ในหัวใจ แต่ก็ไม่กล้าตามใจตัวเอง เพราะเหตุผลแปดล้านประการซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผมไม่สามารถชอบอาสาได้

   หลังจากที่ฟัง เพื่อนแม่งอ้าปากค้างปล่อยให้แมลงวันบินเข้าปากหมด

   “มึงทนมีชีวิตมาอยู่ถึงตอนนี้ได้ไง”

   “เป็นกูนี่กูอึดอัดตายห่า”

   “เอาไงดีล่ะเพื่อนกู นี่เรื่องมันยากกว่าวิชาที่เพิ่งเรียนไปอีกมั้งเนี่ย”

   ผมยักไหล่พร้อมคิดในใจว่า ‘เป็นไงล่ะ เข้าใจกูหรือยัง’

   “จริงๆ มันก็ไม่ยากนะ” ไอ้โอ๊คคอสเพลย์เป็นกุนซือด้านความรัก ด้วยความพึมพำคล้ายกับคนรู้เยอะ พร้อมกับทำท่าครุ่นคิดด้วยการเอามือแตะคางตัวเอง “มึงชอบพี่อาสาหรือเปล่าล่ะ”

   ไอ้ห่า มึงถามในสิ่งที่กูกำลังสับสน!

   “เอางี้ กูเปลี่ยนคำถามก็ได้” ไอ้โอ๊คทำหน้าเซ็งเมื่อเห็นสีหน้าของผม “มึงชอบพี่อาสามากแค่ไหน”

   “คำถามห่าอะไรเนี่ย” ผมโวยวายเสียงดังทันที

   “โห คิดเรื่องเขาขนาดนี้ต้องชอบบ้างนิดๆ แหละวะ” เพื่อนในกลุ่มเริ่มออกความเห็น

   “กูไม่ได้...”

   “มันไม่ได้ชอบนิดๆ หรอกมั้งกูว่า” เพื่อนคนอื่นพูดบ้า “อาจจะเป็นช่วงเริ่มต้นก็ได้นะ”

   “จริงๆ ก็ชอบนั่นแหละ แต่หาเหตุเข้าข้างตัวเองเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นมากกว่า” เป็นอีกครั้งที่คำพูดของไอ้โอ๊คแทงใจดำผมอย่างจัง “มึงก็แค่รู้สึกผิดกับเพื่อนอีกสองคน และก็รวมกับที่มึงรู้สึกไม่กล้าชอบอาสาเพราะคำว่าเพื่อนค้ำคอด้วย นั่นแหละสิ่งที่มึงเป็นอยู่ตอนนี้”

   ผมนิ่งชะงักค้าง ช็อกไปเป็นที่เรียบร้อย

   “จริงๆ แล้วอ่ะ มันไม่มีอะไรยากเลยนะ ถ้ามึงชอบพี่เขาจริง มึงก็จีบเลย แต่อาจจะไม่ต้องรุกหนักเหมือนพี่สองคนนั้น กูวิเคราะห์ดูแล้วนะ พี่อาสาเป็นคนที่มีเสน่ห์ แต่พี่มันไม่เคยใช้เสน่ห์อันมากมายมหาศาลนี้กับคนอื่นเลย เพราะงั้นก็เหมือนกับคนอินโนเซนต์คนหนึ่งและก็เป็นพวกไก่ตื่นด้วย ถ้ามึงชอบพี่เขาจริง มึงต้องคอยตะล่อมๆ ทีละนิด ค่อยๆ จีบอย่างเนียนๆ อย่าใจร้อน ใช้ความใกล้ชิดที่สุดของมึงเป็นจุดแข็ง เดี๋ยวพี่อาสาก็เปิดใจให้มึงเอง”

   “เดี๋ยวๆ” ผมรีบหยุดไอ้โอ๊คก่อนที่มันจะเล็กเชอร์ให้ผมฟังยาวไปมากกว่านี้ “กูยังไม่ได้ตอบมันเลยว่ากูชอบมันหรือเปล่า”
   
   สิ้นเสียงของผม เพื่อนๆ ต่างก็พากันส่งเสียงร้องโอดครวญกันใหญ่ อ้าว กูพูดไรผิดวะ

   “เอางี้ละกัน มึงไปนั่งคิดดีๆ ว่ามึงจะเอาไงกับพี่เขา ถ้ามึงชอบ มึงก็ลุยเลย”

   “แต่ว่า...”

   “เรื่องพี่เตกับพี่ไมล์กูเข้าใจมึงนะ แต่นี่คือความรักว่ะ ถ้ามึงรักจริงมึงก็ต้องทรยศคนอื่นบ้าง”

   “แต่...”   

   “พี่อาสาหวัดดีครับ” เพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมยกมือไหว้ใครก็ไม่รู้ อีกหลายๆ คนก็เริ่มพากันไหว้ตาม

   “อย่ามาอำกู คราวนี้ไม่ได้แดกกูหรอก”

   “แดกไรกัน” เป็นครั้งแรกที่เสียงของอาสาทำเอาผมรู้สึกขนหัวแทบลุก มันหันไปมองเห็นมันมองกลับมาด้วยสีหน้างงๆ
 
   เวรตะไลแล้วมั้ยล่ะ...มันจะได้ยินที่สิ่งที่ผมเพิ่งพูดกับเพื่อนๆ มั้ย!

   “คุยไรกันอยู่” อาสาหันซ้ายหันขวา จากสีหน้าและก็ท่าทางของมันทำเอาผมเบาใจไปเยอะ เพราะมันยังคงดูใสๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวตามสไตล์ของมันอยู่

   “คุยเรื่องพี่นี่แหละ” ไอ้โอ๊คส่งยิ้มให้อาสาจนตาเยิ้ม ไอ้เหี้ย! พูดออกไปแบบนั้นได้ไง

   “หา นินทากูเหรอ”

   แม่งต้องรีบลากต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างออกไปจากตรงนี้

   “มาหากู อยากให้กูพาไปไหนเหรอ” ผมลุกขึ้นพร้อมดึงแขนอาสาให้ออกมาจากสถานการณ์ที่โคตรเสี่ยง 

    หลังจากที่ยืนอยู่กันแค่สองคน ผมก็รู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น

   “เมื่อกี้พูดถึงกูจริงหรือเปล่าวะ”

   “เชี่ยโอ๊คมันพูดเล่น”

   “เหรอ” อาสายักไหล่ เลิกใส่ใจประเด็นนี้ “จะกลับยัง”

   “หา”

   “ถ้ากลับก็กลับพร้อมกันไง”

   “...”

   “มึงตกใจอะไร เมื่อเช้ากูก็มากับมึง ตอนเย็นกูก็ต้องกลับกับมึงดิ”

   นั่นสิ ผมจะตกใจทำไมวะ นี่เป็นสิ่งสามัญธรรมดาที่เพื่อนเขาทำกัน แล้วผมจะคิดมากทำไม ผมมองไปที่กลุ่มเพื่อนซึ่งกำลังมองมาด้วยสายตาล้อเลียนพร้อมกับเอ่ยซุบซิบ

   สัดเอ๊ย

   “กลับกันเหอะ กูหมดธุระพอดี”

   “ไม่คุยกับเพื่อนต่อเหรอ”   

   “ไม่แล้ว”

   อาสาดูงงนิดหน่อย แต่ก็ยอมปล่อยให้ผมดันตัวมันเดินไปข้างหน้าทันที พวกเพื่อนส่งเสียงแซวในแบบที่ผมเห็นและได้ยินคนเดียว จนผมต้องชูนิ้วกลางใส่พวกมัน






   “ปากบอกไม่ชอบๆ แต่ก็กลัวเขารู้”

   “สมกันดีนะกูว่า”

   “ฮือ พี่อาสาของกูกำลังจะมีเจ้าของ”

   “พี่อาสาของมึงอะไรล่ะ พี่อาสาของกู”

   “ของไอ้ทนายมันว้อย เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว”

   “เชี่ย อย่าพูดดัง พี่ไมล์อยู่แถวนี้นี่คือฉิบหายเลยนะ”

   “เออ ลืมไป”

   “สรุปตอนนี้พี่อาสาก็ยังเป็นของกูอยู่”

   “ยังไม่หยุดเพ้อเจ้ออีก!”







   รถของผมจอดอยู่ด้านหลังตึกคณะ หลังจากที่ได้คุยกับเพื่อนผมก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ จริงๆ แล้วผมไม่ใช่คนที่จะต้องมาคอยคิดมากเรื่องความรู้สึกนะ ปกติแล้วผมชอบใครผมจะไม่ระมัดระวังและก็สงสัยในตัวเองขนาดนี้

   ...แต่สำหรับไอ้นี่ ไอ้คนที่กำลังเดินนำหน้าผมตอนนี้ ผมยกให้เป็นกรณีพิเศษของโคตรพิเศษ!

   นึกไปถึงคำพูดของไอ้โอ๊คกับเพื่อนๆ เมื่อไม่กี่นาทีก่อน

   “คำตอบของมึงมันมีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่มึงเริ่มสงสัยในตัวเอง”
   “ถ้าไม่คิดอะไร จะหวั่นไหวได้ไง”
   “ถ้าไม่คิดอะไร จะสนใจทำไมว่าเขาอยู่แถวนี้มั้ย”


   นี่ผมตกหลุมรักนางฟ้าของหอสามแล้วใช่มั้ยครับ

   “เตย” อาสาพึมพำหลังจากที่ผมคิดจบพอดี ผมหันไปมองสาเหตุที่มันพูดชื่อนี้ กอเตยกำลังยืนรออยู่ที่รถผม ท่าทางของเธอเศร้าสร้อยราวกับต้องการมาง้ออาสาให้ถึงที่สุด

   เธอมาในช่วงที่ผมเพิ่งยอมรับกับตัวเองพอดี โห...นี่ผมซวยหรือผมดวงกุดเรื่องความรักวะครับ ดูสายตาไอ้อาสาสิ แม่งดูเจ็บปวดรวดร้าวขนาดนี้ แสดงว่ายังไงก็ยังแคร์อีกฝ่ายมากอยู่ดี

   “เรามาคุยกันให้รู้เรื่องเถอะ อาสาอย่าเลี่ยงเตยอีกเลย”

   “เพราะเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วไง”

   “ถ้าอาสารำคาญเตย ทำไมไม่บล็อกไปเลย ทำไมยังเปิดให้เตยติดต่ออาสาได้ทุกช่องทาง”

   “...”

   “แสดงว่าอาสาก็ยังแคร์เตยอยู่”

   ผมยืนนิ่ง มองดูสถานการณ์ตรงหน้าว่าควรจะไปเสือกดีหรือไม่ ในใจของผมอ่ะอยากเสือกแน่แท้อยู่แล้ว เพราะผมไม่เคยรู้สึกดีกับกอเตยอีกเลยหลังจากที่รู้ว่าเธอไม่ได้มีแค่อาสา

   เพียงแค่อาสามันมองมา...ส่งสายตาเว้าวอนให้ผมช่วยเหลือเหมือนเมื่อวาน ตอนที่ไอ้ไมล์มาหาเพื่อจะดูหนังด้วย ผมก็คงจะไม่ลังเลที่จะเข้าไป

   ขึ้นอยู่กับมัน...ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของมัน

   หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที อาสาก็หันมาพร้อมๆ กับส่งสายตาแบบเมื่อวานเด๊ะๆ

   ไอ้เหี้ย กูถูกหวย!

   คราวนี้กูจะไม่ปล่อยมึงเอาไว้ให้อยู่กับใครที่ไม่ใช่กูอีกแล้ว...ผมเดินเข้าไปหาอาสาพร้อมกับเกาะไหล่ อีกทั้งยังเอียงหน้าเข้าไปใกล้ “มีอะไรกันเหรอ”

   อาสาดูตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ทำเนียนๆ ไป “เอ่อ ตะ เตยมีเรื่องจะพูดกับกูว่ะ”

   “ถ้ากูไม่ให้คุยจะเป็นไรป่ะ”

   กอเตยหน้าซีดเผือดเป็นที่เรียบร้อย ผมส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้อาสาจนมันถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก

   “มึงไม่ให้คุย...ก็ไม่คุยไง”

   “ดี” ผมหันไปมองกอเตย “อะไรที่มันไม่ใช่ก็ควรหยุดนะ เสียเวลาเปล่าๆ”

   ฝ่ายหญิงเสียหน้าจนต้องเดินหนีไปในที่สุด ผมมองตามก่อนจะทำสีหน้าเหน็ดเหนื่อยใจ หวังว่าคราวนี้เธอจะไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรกับไอ้อาสาอีก

   ตอนที่อาสากระทุ้งสีข้างผม ผมถึงได้รู้สึกตัว

   “เนียนสัด” มันยิ้มน้อยๆ

   “ไม่กลัวเป็นข่าวกับกูหรือไงวะ ถึงได้ยอม” ผมเลิกคิ้วแล้วยิ้มตอบ

   “อะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้กูทนไม่ไหวแล้ว ยังไงก็ต้องทำให้เขาเลิกติดต่อมาได้แล้ว”

   “ทำไมมึงยังดูเศร้าๆ”

   “สาด ก็กูบอกว่ากับคนนี้กูจริงจัง”

   “แต่มึงก็ปฏิเสธเขาเอง”

   “คนปฏิเสธใช่ว่าจะไม่เจ็บนะเว้ยยย”

   แล้วแต่มึงละกัน ผมเดินไปเปิดประตูให้อาสาเพราะต้องการให้มันรีบขึ้นรถผมเร็วๆ จากนั้นเราสองคนก็อยู่ในรถเป็นที่เรียบร้อย ผมมองอาสาที่นั่งอยู่ด้านข้าง รู้สึกใจสั่นผิดปกติ อาจเป็นเพราะผมรู้แล้วมั้งว่าผมจะไม่ปิดกั้นความรู้สึกตัวเองอีกต่อไป

   ถ้ามันเป็นความรู้สึกที่เพิ่งเริ่ม ผมก็อยากจะเพิ่มให้มันเป็นความรู้สึกที่มากกว่าเดิม

   “ทีนี้มึงก็โสดสนิทดิ” ผมพึมพำพร้อมออกรถ

   “ช่าย”

   “แต่คนชอบมึงเยอะมากนะ”

   “ไอ้เตก็ด้วยเหรอ ใช่จริงๆ ใช่มั้ย” อาสายังคงสับสนเรื่องของเตอยู่

   “เอ่อ...” ผมให้มันคิดเองดีกว่า

   “เฮ้อ”

   “...”

   “มีคนชอบเยอะแล้วไงวะ กูไม่ได้ชอบคนพวกนั้นนี่”

   “งั้นมึงก็โสดสนิทสินะ”

   “มึงจะย้ำทำไมเนี่ยทนาย ตอกย้ำในความนกของกูเหรอ”

   “เปล่า”

   กูย้ำเพื่อให้กำลังใจตัวเองในการจีบมึงต่างหาก






TBC*





น้องหันหัวเรือพร้อมเป็นกัปตันแล้วค่ะ 555

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
วั้ยตั่ยแล้ววววววววววววว

ทนายจะเป็นพระเอกแล้วใช่ไหมลูก
งั้นเจ้พักจากทีมพี่สงครามมาอยู่ทีมทนายชั่วคราวแล้วกันนะ

ตอนนี้หนูทำดีมาก
หนูต้องขึ้นหลังเสือเสียที
อีกไม่นานอาสาต้องรักทนายในแบบคนรัก

เอ้าทนายสู้ววววววววววววว

ปล.น้องนุ่นก็สู้ๆเน้อ เจ้คิดถึงเสมอนะคะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
งืออ ขอให้ทนายโชคดี จีบนางฟ้าติดดด

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จากที่อาสาเขินๆ ตอนหน้ากระจกนี่ก็พอให้ทนายเรามีความหวังอยู่นาา   :hao3:
เอาใจช่วยทนายให้จีบอาสาติดเร็วๆ หุหุ
รักเรื่องเน้  :กอด1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ แพรพลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นรักสี่เศร้าที่ชวนอึดอัดเป็นที่สุดเลย นั่นก็เพื่อนนี่ก็เพื่อนแถมยังหลงชอบเพื่อนที่เพื่อนอีกสองคนก็ชอบด้วยอีก คือชีวิตวกวนวุ่นวายเหลือเกิน ถ้าทนายลงเอยกับอาสาแล้วแอบกลัวว่าจะเกิดการแตกหักกับเตและไมล์ แต่จะทางไหนก็ดูจะร้าวฉานทั้งนั้น เอาใจช่วยทั้งสี่คนนะ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เรื่องของความรัก เรื่องของหัวใจ มันต้องมีเห็นแก่ตัวกันมั่งแกละ ลุยทนาย เอ้าาา แจวค่ะแจว ฮึบๆๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของก่อนจีบ 55

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ปวดหัวแทนทนาย อาสานี่เอาแต่ใจตัวเองอยู่หน่อยๆแฮะ

ออฟไลน์ jazumine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
หึหึหึ
ต้องให้ถึงมือเพื่อน
ต้องการกำลังสนับสนุนใช่มั้ยล่าาา
ทนายจะเลิกอ้างนู้นนี่ละเนอะ จีบเลยลูก ลุยยยย

ออฟไลน์ sebest

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อาสานี่เห็นแก่ตัวจัง ดูเอาแต่ใจมากๆด้วย ดูแคร์แต่ตัวเองมากๆแบบไม่สนใจคนอื่นเลย น่าจะคิดว่าให้ทนายทำแบบนั้นน่าจะมีปัญหาตามมาบ้างและทุกปัญหาน่าจะลงที่ทนายหมดเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้หละเธออออออ  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด