** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62  (อ่าน 163448 ครั้ง)

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
น้องเฟียน่ารัก  พี่ปลาด้วย   อยากเอามาเลี้ยงดูที่บ้านจังเลย   :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เคยมีคนบอกว่า
ผู้ใหญ่พูดอะไรมาแล้วไม่จำ
แต่เด็กจะฟังแล้วไม่เคยลืม

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
โอ้ยยย น้องปลาของแม่ อย่าไปตกหลุมรักคุณเจ้านายก่อนนะ  :katai1:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5

ตอนที่ 6 ไถ่โทษ....(ครึ่งหลัง)



..............................................................................


(เดียวอยู่ไหนคะ)

“มีอะไรหรือเปล่าครับ “ สงครามเลี่ยงคำตอบของจันจิรา เป็นการถามกลับไปแทน

(วันนี้แจงมาหาเดียวที่บริษัท มาชวนเดียวไปทานมื้อกลางวัน เดียวไม่เขาอ๊อฟฟิศเหรอคะ )

“เปล่าครับวันนี้คงไปไม่ได้เพราะต้องไปรับเจ้าเฟียครับ”

(แต่เดียวคะให้พี่เลี้ยงไปรับสิคะ จ้างมาแล้วให้เขาทำหน้าที่เขาสิ  เดียวมาทานมื้อกลางวันกับแจงได้ไหมคะ นะคะ )

ชายหนุ่มทำสีหน้าลำบากใจ แจง หรือเจนจิรา  ผู้หญิงที่เข้าหาเขาอีกคน ที่จริงเขาไม่เคยตกลงคบกับใครอีกเลยนับตั้งแต่หย่ากับมายา

แต่กับแจงก็ถือว่าเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็ก และที่สำคัญเป็นลูกสาวของลุงทดเพื่อนสนิทของพ่อที่เป็นหนึ่งในคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา

ตอนลำบาก มันเลยทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้มากนักทั้งๆที่เขาไม่ชอบใจเลยที่จันจิราเกาะติดเขาเกินไป 


“วันนี้ไม่ได้หรอกนะแจง เอาเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ “

(เดียวสัญญาแล้วนะ ห้ามเบี้ยวแจงด้วย)

“ครับ”

(งั้นตอนเย็นแจงไปหาที่บ้านได้ไหมคะ)

“อย่าเลยแจง ผมไม่สะดวก “

(ก็ได้ค่ะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะเดียว)

“ครับ”



เขากดวางสายพลางถอนหายใจ ดูเหมือนแจงจะรุกเขามากเกินไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าจันจิราคิดยังไงกับเขา

กันธรเคยบอกให้เขาหาแม่ใหม่ให้มาเฟีย เพื่อที่จะได้มีคนดูแลลูก  และคอยกันท่าจันจิราออกจากเขาด้วย


กันธรไม่ชอบจันจิรา เพราะกันธรเคยบอกเขาว่าเจอจันจิราตอนที่ไปเรียนต่อที่ออสเตเรีย  แต่ไม่บอกว่าทำไมกันธรถึงไม่ชอบจันจิรา 

แต่เขากลับไม่มีความคิดแบบนั้นเพราะไม่ว่าจะกับใครเขาก็ไม่ต้องการ  จันจิรายังคงเป็นเพื่อนหากจันจิราต้องการมากกว่าเพื่อนเขาคงให้ไม่ได้  เพราะหัวใจของเขามันปิดตายมานานแล้ว
 
“อ้าว..เสร็จแล้ว?”เมื่อกลับมาก็เห็นพี่เลี้ยงลูกชายนั่งถือถุงยารอเขาอยู่ที่เก้าอี้

“ครับ “

“หิวไหม “

“กลับไปทานที่บ้านก็ได้ครับ”

“แสดงว่าหิว ไปทานร้านแถวนี้ดีกว่าใกล้ๆนี่เอง อร่อยนะ “

ไม่รู้เพราะอะไรสงครามถึงอยากจะให้คนตัวผอมนี่กินข้าวบ้างอาจจะเป็นเพราะดูผอมเกินไปมั้ง เมื่อเทียบกับเขาแล้ว  เหมือนอีกคนจะดูเล็กไปถนัดตา

“แต่ว่า...”


สงครามไม่ฟังเสียงค้าน เขาขับรถมุ่งหน้าไปร้านอาหารที่เขามากินกับกันธรและรันบ่อยๆเป็นร้านริมน้ำ ที่บรรยากาศดี และอาหารสดอร่อย

 มัจฉาได้แต่นั่งเงียบๆเมื่อรู้ว่าค้านไปก็เท่านั้น ยกข้อมือดูเวลาอีกนานกว่าคุณหนูจะเลิกเรียน คงไม่เป็นไรหรอก
 
“สั่งสิ”

สงครามยื่นเมนูมาให้มัจฉารับมาเปิดดูก่อนจะตาโตกับราคาอาหารทำให้เขาไม่กล้าสั่งอะไรมากนัก 

สงครามลอบสังเกตดูพี่เลี้ยงลูกชายที่มีสีหน้าลำบากใจเมื่อเห็นราคาอาหาร  เขาแอบอมยิ้มนิดๆดูซิว่าพี่เลี้ยงคนเก่งจะทำยังไงต่อไป

มัจฉาสั่งแกงคั่วหอยขม มาแค่อย่างเดียว ทำให้สงครามแปลกใจ

“สั่งแค่นี้อิ่มหรือไง “

“อิ่มครับ ที่เหลือแล้วแต่คุณสงครามเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้ “

สงครามส่ายหัวอย่างระอา คิดแล้วเชียวท่าทางแบบนี้ ขี้เกรงใจเกินเหตุ เขาเลยสั่งพวกเมนูปลาทอด ทั้งพวกต้มยำ ผัดผัก และแกงกะทิอีกหลายเมนูจนมัจฉาอดที่จะตกใจไม่ได้

“นี่คุณสั่งอะไรเยอะขนาดนั้นครับ จะกินหมดหรือไง”

“กินไม่หมดก็ห่อกลับบ้านด้วยสิ เอาไปฝากยายกิ่งกับมะตูมด้วยก็ได้  “

“แต่นี่มันเยอะไปนะครับ ทำไมไม่สั่งแต่พอกินล่ะ กินแบบนี้จนกันพอดี”


อดที่จะบ่นตามนิสัยไม่ได้ เขาเคยอยู่อย่างประหยัดมาทั้งชีวิตพอมาเจอคนที่จ่ายเกินพอดีมันก็อดที่จะบ่นไม่ได้

รู้อยู่หรอกว่าอาหารแค่ไม่กี่อย่างบนโต๊ะคุณสงครามจ่ายได้สบายมากแต่เขชาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี


“เอาน่านานๆครั้ง ขี้บ่นจริงๆถือว่าเลี้ยงปลอบใจเธอไง  อีกอย่างเพราะฉันผิดสัญญาเธอเลยต้องเจ็บตัวแบบนี้“

“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

ยังคงเถียงเขาไม่ลดละ สงครามมองหน้าใสๆที่ติดจะงอของเจ้าตัวอย่างนึกขำ เหมือนมาเฟียเวลางอนเขาไมมีผิด

คนที่ทำท่าทางกลัวเขาเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกนั่นหายไปไหนแล้วนะ มัจฉาในตอนนี้พูดเก่งขึ้น กล้าเถียงเขาด้วย สงครามคิดพลางยิ้มในหน้าอย่างคนอารมณ์ดี ไม่รู้เพราะอะไร


  เป็นไปตามที่คาดกับข้าวหลายอย่างถูกบรรจุลงกล่องใส่กลับบ้าน มัจฉาบ่นพึมพำไปตามเรื่องเมื่อเห็นกับข้าวเหลือเยอะแยะอย่างที่คิด

 สงครามยังส่ายหน้าระอากับคนขี้บ่น  เขาไม่รู้ว่าไปถูกคออิท่าไหนกับลูกชายเขา ขี้บ่นออกปานนี้

สงครามคิดถึงแต่เปรียบเทียบลูกชาย แต่ตัวเขากลับลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าเขาเองก็ไม่ชอบคนขี้บ่นจุกจิก  เพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมองผ่านข้อนี้ของมัจฉาไปเลยด้วยซ้ำ


กลับถึงบ้านก็บ่ายแล้ว สงครามให้มะตูมมาถือเอากับข้าวเข้าบ้านส่วนเขาก็ช่วยประคองพี่เลี้ยง เข้าบ้านแม้จะถูกปฏิเสธแต่เขาก็ไม่คิดจะฟัง ไม่อุ้มเข้าบ้านก็ดีเท่าไหร่แล้ว เพราะรูปร่างอย่างนี้เขาอุ้มได้สบายมาก

 
“เอาล่ะ มานั่งคุยกันหน่อยสิ เราไม่ได้คุยกันเลยนี่นะ จากวันนั้นน่ะ “สงครามเอ่ยขึ้นหลังจากที่เข้ามานั่งใน ห้องรับรองแขกของบ้าน กันเรียบร้อยแล้ว

“ครับ”

“จะว่าไปฉันยังไม่รู้จักเธอเท่าไหร่เลย  ลองเล่าเรื่องของเธอคร่าวๆให้ฉันฟังทีสิ”

“เรื่องอะไรล่ะครับ ผมไม่มีเรื่องที่ต้องเล่าเลย”มัจฉาทำหน้างงๆ เมื่อคิดว่าต้องเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง เขาเองก็นึกไม่ออกว่าจะเล่าแบบไหนยังไง 


“ก็อย่างเช่น บ้านอยู่ไหน ลูกเต้าเหล่าใคร เรียนอะไรมาหรืออยากเรียนอะไร ทำไมมาเป็นพี่เลี้ยง อะไรประมาณนี้”

สงครามบอกคร่าวๆจริงๆเขาอยากทำความรู้จักคนตรงหน้าให้มากกว่านี้เผื่อได้ทำงานร่วมกันนานหน่อยเพราะเท่าที่ดูเจ้าลูกชายจะติดพี่เลี้ยงคนนี้เข้าเสียแล้ว และมัจฉาเองก็ทำให้เขาประทับใจได้หลายเรื่องเลย

 
“ผมเหรอ ครับ..ผมไม่มีบ้าน....ไม่มีครอบครัวหรอก ผมตัวคนเดียวไม่มีพี่น้อง ไม่มีพ่อแม่   ผมอยู่กับเจ๊นิด
เจ้าของร้านขายของชำตรงซอยหน้า ม .Y จบแค่ ม.สามผมก็ไม่มีปัญญาเรียนหนังสือต่อ เพราะไม่มีเงิน
แค่หาเลี้ยงชีวิตให้รอดไปวันๆก็ดีมากแล้ว  ผมอยากเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ลำบากมากนักแต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้
เพราะค่าเล่าเรียนมันแพงเกินไปสำหรับผม  พอดีว่าร้านของเจ๊นิดต้องปิดน่ะครับ ผมเลยตกงาน คุณก้อยเองก็เป็นลูกค้า ของเจ๊นิด
ผมไปส่งของให้คุณก้อยๆบ่อยๆ แกคงสงสารเลยพาผมไปหาคุณสงครามวันนั้นแหละครับ  แต่เอาจริงๆ สามหมื่นที่คุณสงครามให้ ผมว่ามันเยอะไปอยู่ดี เทียบกับความรู้ของผมนะ “


มัจฉาพูดไปเรื่อยๆ ตามที่คิดออก เขาไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องพึ่งพาตัวเอง เขาเลยรู้สึกเฉยๆเมื่อต้องบอกใครสักคนว่าเขาตัวคนเดียว

ผิดกับสงครามที่ได้ฟังเขาเองอึ้งไปสักพัก เด็กตัวแค่นี้ อยู่เพียงลำพัง ใช้ชีวิตคนเดียว แถมโตมาได้โดยไม่เสียคนไปซะก่อน

หรือเดินทางผิดไปเข้าแหล่งอบายมุข มันทำให้เขานึกทึ่งคนตรงหน้ามากกว่าเดิม

“อยากเรียนต่อไหมล่ะ”

“ก็..อยากเรียนครับ แต่กว่าผมจะเก็บเงินได้คงอีกหลายปี ถึงตอนนั้น คงจะแก่เกินไปที่จะเรียนครับ ฮะ ๆ”

มัจฉาเอ่ยอย่างขำๆเมื่อนึกว่าตอนเขาอายุสักสามสิบแล้วพึ่งจะไปเรียนมัธยมปลาย

“เดี๋ยวนี้เขามีเรียนแบบโฮมสคูลไม่รู้เหรอ”สงครามพูดอย่างคนตัดสินใจแล้ว

“หือ..?”

“แบบเรียนที่บ้านน่ะ  แล้วพอผ่านหลักสูตร ก็ไปสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้”

“ถึงจะมีอย่างนั้น ผมก็ยังเรียนตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องทำงานก่อน”

“ถ้าฉันอนุญาตล่ะ ส่งเฟียไปโรงเรียนแล้วเธอก็ว่างนี่ จ้างครูมาสอนที่บ้านสักวันละ สามชั่วโมงน่าจะพอ”สงครามพูดไปเรื่อยๆตามที่คิด

“เอ๋...เดี๋ยวๆครับ ผมไม่เข้าใจ”

“จะเข้าใจยากอะไรนักหนาล่ะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจ้างครูมาสอนเธอที่บ้านละกัน “

“เฮ้ยๆ ไม่ได้ๆ  ผมต้องทำงานนะคุณ จะเอาเวลาไหนไปเรียนล่ะและอีกอย่างจ้างครูมาสอนที่บ้านมันแพงนะครับ ”

“ไหนบอกว่าอยากเรียนหนังสือไง”

“ก็อยากเรียนครับ แต่....”

“ไม่เถียงฉันสักเรื่องจะได้ไหม นี่เป็นคำสั่ง”


มัจฉานั่งนึกถึงสิ่งที่คุณสงครามบอกเขา แน่นอนมันเป็นความหวังดีและเป็นโอกาสที่เขาควรจะคว้าเอาไว้ แต่เขาก็ยังไม่เห็นด้วยทั้งหมดที่คุณสงครามพูดมา

“คุณสงครามครับ ..ผมขอบคุณในความมีน้ำใจของคุณครามนะครับ แต่ว่าผมพึ่งจะเริ่มงานไม่อยากเอาเปรียบคุณสงคราม
หรือเอาเวลาที่ต้องดูแลคุณหนูมาทำเรื่องส่วนตัว  ผมอยากเรียน แต่ตอนนี้คงไม่เหมาะ  ผมขอทำงานตรงนี้ให้ดีก่อนดีไหมครับ ถ้าเกิดผมไม่ผ่านงาน ตกงานอีกผมคงเสียดายที่เรียนแบบขาดๆเกินๆ  “


สงครามนั่งนิ่งฟังเด็กที่วุฒิภาวะน้อยกว่าเขาแต่ความคิดความอ่านทำให้เขาแปลกใจได้ตลอดเวลา โดนเด็กสอนเข้าให้ 

นั่นสินะ ถ้าเด็กนี่ทำงานกับเขาไม่ได้ หรือถ้าเด็กนี่เอาแต่เรียนโดยไม่สนใจลูกเขาตามหน้าที่  เขาคงคิดน้อยไปหน่อย

ตามนิสัยที่พอเจอคนดีๆเขาก็อยากจะช่วยเหลือ เขาอยากให้โอกาสมัจฉาเหมือนที่กันธรและลุงทดให้โอกาสเขา


“ถ้างั้น เอาอย่างนี้ดีไหม เธอยังไม่ต้องเรียนช่วงนี้ก็ได้  แต่แค่หาหนังสือมาอ่านไปเรื่อยๆในเวลาว่างดีไหมล่ะ”

“ครับ ขอบคุณครับ”มัจฉาฉีกยิ้มกว้างให้นายจ้างที่นั่งหน้าเครียดราวกับว่าเป็นเรื่องซีเรียสนักหนาที่เขาจะต้องเรียนหนังสือ

“คุณสงครามครับ”มัจฉาอึกอักเมื่อมีคิดว่าเรื่องที่จะพูดกับนายจ้างตรงหน้านี่เขาควรจะพูดหรือไม่

“ว่าไง ...มีอะไรก็พูดมา วันนี้ฉันว่างฟัง หึหึ”สงครามเอ่ยเย้าอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางอึดอัดใจของมัจฉา

“ถ้าผมจะขอบอกอะไรคุณสงครามสักอย่างคุณสงครามอย่าโกรธผมนะครับ”

“เรื่องอะไรล่ะ”

“คุณสงครามสัญญาก่อนสิว่าไม่โกรธอ่ะ”มัจฉานึกอะไรไม่ออกนอกจากขอสัญญาป้องกันตัวเองไว้ก่อน
 
สงครามมองหน้ามุ่ยๆของพี่เลี้ยงพลางนึกขัน คนอะไรยังไม่ทันเล่ามาขอสัญญาแล้วเอาเปรียบชัดๆ

“ก็ได้ สัญญาจะไม่โกรธมากละกัน หึหึ”

“เอ่อ...คือเรื่องคุณหนูน่ะครับ”



พอมัจฉาเอ่ยปากสงครามเริ่มจะถอนหายใจ อุตส่าห์คิดว่าไม่เหมือนคนอื่นแล้วเชียว ก็ไม่เห็นต่างกัน ก็ลองฟังดู ว่าจะฟ้องอะไรเกี่ยวกับวีรกรรมลูกชายเขา

ท่าทางและสีหน้ามึนตึง แบบทันทีของคุณสงครามทำเอามัจฉาเกือบถอดใจ แต่ก็ไหนๆก็ตัดสินใจแล้ว ก็ลองพยายามดูสักครั้ง

“คือ เป็นไปได้ไหมที่คุณสงครามจะกลับบ้านเร็วกว่านี้อีกหน่อย หรือตื่นตอนเช้าๆก็ได้ หรือไม่ก็ถ้ามีวันหยุดสักวันต่ออาทิตย์ก็ยังดี ครับ”

สงครามเลิกคิ้วแปลกใจ ไม่ใช่เรื่องฟ้องเขาแต่เป็นเรื่องของเขาเองเลยยิ่งต้องแปลกใจ


“ทำไม”

“ก็ คุณหนูน่ะยังเด็กมากเลยนะครับ แม้จะดูว่าเข็มแข็งเข้าใจอะไรง่ายๆดูเหมือนโตก่อนวัยด้วยซ้ำ  แต่คุณหนูต้องการคุณพ่อนะครับ
คุณสงครามน่าจะสังเกตเห็นวันนี้คุณหนูมีความสุขมากเลยนะครับ ผมอยากเห็นคุณหนูร่าเริงแบบนี้ทุกวัน
ไม่ใช่ชะเง้อคอมองแต่ประตูบ้านทุกวันแล้วทำหน้าหงอยๆ”


สิ่งที่พรั่งพรูออกจากปากของมัจฉาทำให้สงครามนั่งคิด  ว่าที่ผ่านมาเขาเป็นพ่อที่แย่มากแค่ไหน

“แค่มีเวลาให้คุณหนูนิดหน่อยคุณหนูก็ดีใจมากแล้วครับ “

“ตกลงว่ามาเฟียนี่ ลูกฉันหรือลูกเธอ”

พอฟังพี่เลี้ยงพูดจบ ซึ่งมันต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาอีกจนได้ หึหึ ขอแซวหน่อยละกัน


“ปละ..เปล่านะครับ คุณสงครามคงไม่โกรธที่ผมบอกแบบนี้นะครับ ผมไม่ได้ว่าคุณสงครามนะ แค่คิดว่าถ้าคุณสงครามทำได้คุณหนูคงดีใจกว่าใครๆ”

“ปลุกฉันสิ”

“ห๊ะ!”หน้าตื่นๆนั่นสงครามว่ามันน่าเอ็นดูดีไม่น้อย


“ตอนเช้าน่ะ เธอก็เข้าไปปลุกฉันสิ ปลุกก่อนเฟียตื่นก็ได้  เป็นหน้าที่เธอนะ ต่อไปเข้าไปปลุกฉันทุกเช้าด้วยฉันจะได้ตื่นมาทันกินข้าวเช้ากับลูกและส่งลูกขึ้นรถไปโรงเรียน”

“หา!!!”


“ก็นี่ไง  ทางออก ที่เธอพูดมามันก็ถูก ที่ผ่านมาฉันยอมรับว่าเป็นพ่อที่แย่มาก  แต่เพราะหลายๆอย่างมันทำให้ฉันต้องทำงานหนัก

แต่อีกไม่กี่วันนี้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยแล้ว  แต่ก็ใช่ว่าฉันจะทิ้งอะไรได้ เพราะงั้น ปลา เธอต้องเป็นคนปลุกฉันทุกเช้าก่อนเฟียตื่นเข้าใจไหม “


เขารู้สึกสนุกเมื่อเห็นท่าทางทำอะไรไม่ถูกของพี่เลี้ยงลูกชาย  เขาไม่บอกหรอกว่าต่อไปเขาจะมีเวลามากขึ้นแค่กลับบ้านเร็วขึ้นและตื่นเช้า

เขาทำได้อยู่แล้ว  ก็ท่าทางของมัจฉามันน่าแกล้งจะตายไป เป็นการคลายเครียดจากงานหนักได้บันเทิงดีจัง หึหึ
 
“แหะๆ มันจะดีเหรอครับ  ก็..”

“ก็อะไร..มะตูมเป็นผู้หญิง ยายกิ่งก็ยุ่งตอนเช้าอยู่แล้ว เพราะงั้นหน้าที่เธอ ถูกต้องที่สุด “

“ตั้งนาฬิกาปลุกสิครับจะยากอะไร “เขาไม่เข้าใจนายจ้างคนนี้จริงๆ ในชีวิตไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกหรือไง

“ฉันไม่ชอบเสียงนาฬิกาปลุก “เหตุผลที่ฟังดูแปลกๆ แต่ก็เอาเหอะ


“ก็ได้ครับ  ถ้าผมปลุกห้ามงอแงด้วยล่ะ”มัจฉาเอ่ยขึ้นอย่างลืมไปว่าคนที่เขาคุยด้วยน่ะ อายุจะสามสิบแล้ว

“นี่ฉันไม่ใช่มาเฟียนะใช้คำว่างอแงได้ไง “

“ก็..นั่นแหละครับเช้าๆ คนง่วงๆจะอารมณ์เสียห้ามพาลผมนะ”

มัจฉาพูดปกป้องตัวเองไว้ก่อน ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อคุณหนูล่ะก็จ้างให้เขาก็ไม่เสี่ยงไปปลุกคนหลับที่หน้าโหดอย่างนายจ้างเขาคนนี้หรอก

“หึหึ “เสียงหัวเราะเบาๆอย่างพอใจของคนเป็นนายทำให้มัจฉาอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้  สรุปเพิ่มงานให้ตัวเองซะงั้น
 
“เรื่องเรียนเอาเป็นว่าเอาไว้ทุกอย่างเข้าที่เราค่อยมาคุยกันอีกทีละกัน เดี๋ยวฉันหาหนังสือมาให้อ่านเตรียมตัวไปก่อนนะ “

“ครับ ...ขอบคุณมากครับ “

มัจฉาเอ่ยขอบคุณพร้อมทั้งยกมือไหว้ เขารู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจที่คุณสงครามมีให้  อย่างน้อยเขาก็ถือว่าโชคดีมากๆได้งานดีๆ ค่าจ้างดีๆ นายจ้างใจดี แค่นี้มัจฉาก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว
 
สงครามมองดูรอยยิ้มที่ส่งมามันทำให้เขารู้สึกดีแปลกๆ  ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงให้มัจฉาทำหน้าที่เข้าไปปลุกเขาทุกเช้า

ทั้งๆที่เขาเองเป็นคนที่หวงพื้นที่ส่วนตัวมาก ถ้าไม่ใช่แม่บ้านซึ่งก็มีแค่ยายกิ่งเท่านั้นที่ทำความสะอาดห้องเขา

คนอื่นไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าห้องเขา  ตัวเขาเองยังแปลกใจที่โพล่งไปแบบนั้น  อาจจะเพราะเขาอยากแกล้งมัจฉาก็เป็นได้

สีหน้าหลากอารมณ์ของเด็กคนนี้มันน่าสนใจ  อืม  คงเป็นเพราะแบบนั้นนั่นแหละน่า.. 


“เย็นนี้ผมขอไปรับคุณหนูด้วยได้ไหมครับ”

“เจ็บตัวก็อยู่บ้าน ไปด้วยลำบากเปล่าๆ”

“ไม่เจ็บแล้วผมเดินได้แค่เขย่งนิดเดียวเอง นะครับ ผมไปด้วยนะ “

ทั้งเสียงทั้งสายตาที่อ้อนโดยไม่รู้ตัวของมัจฉาทำเอาสงครามนั่งมองตาปริบๆ  ท่าทางแบบนั้น ไม่รู้หรือไงนะว่ามัน.น่า....เฮ้อ.....สงครามรู้สึกร้อนวูบๆที่หน้า อะไรกันเขาเขินเด็กนี่หรือไง  ...คนอย่างเขาเนี่ยนะ!


“อือๆ จะไปก็ไป”

 และสิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือยิ้มกว้างสดใสของพี่เลี้ยงลูกชาย  สงครามรู้สึกแปลกๆ กับรอยยิ้มนั้น  ก่อนจะเสไปหยับรีโมททีวีเปิดดูรายการเรื่อยเปื่อยเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ถูก นับวันตัวเขาก็เริ่มแปลกไปทุกที

 
“เดี๋ยวผมไปช่วยยายกิ่งเตรียมข้าวเย็นดีกว่า “

“จะลุกไปลุกมาทำไมเดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอกไม่หายกันพอดี ไปนอนไป  เดี๋ยวเย็นๆไปรับลูกฉันจะปลุก”

“งั้น ผมขออ่านหนังสือรอละกันครับไม่อยากนอนตอนนี้  เดี๋ยวกลางคืนจะไม่หลับ”

“ตามใจ ฉันของีบก่อนละกันใกล้เวลาปลุกด้วย”

 สงครามลุกขึ้นไปหยิบเอาหมอนอิง มาวางแทนหมอน  ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆพี่เลี้ยงลูกชาย

“..ไม่ไปนอนที่ห้องดีๆล่ะครับเดี๋ยวก็ปวดหลังหรอก  “


มัจฉาอดที่จะทักท้วงไม่ได้ก็ตัวออกจะโต มานอนที่แคบๆ บนโซฟานี่ แถมพอเขานั่งตรงนี้ขาคุณสงครามก็เลยโซฟาไปอีก แต่กลับกันสงครามที่ได้ยินแบบนั้นเขากลับรู้สึกดีจนอยากอยู่ใกล้ๆกับเด็กคนนี้

“สงสัยต้องซื้อโซฟาใหม่ ตัวนี้สั้นไป “สงครามพูดไปตามเรื่อง จริงๆโซฟาก็ยาวอยู่หรอกแต่เพราะมีมัจฉานั่งอยู่ด้วย เลยสั้นลงมานิดหน่อย
 
“เดี๋ยวผมไปนั่งอ่านตรงนุ้นก็ได้ครับ “ มัจฉาว่าพลางเตรียมตัวลุกไปนั่งอีกที่ แต่

“ไม่ต้องหรอก นั่งลงๆ “


มัจฉานั่งลง อย่างไม่เข้าใจ เมื่อคุณสงครามดึงเอาหมอนอิงนั่นมากอดเอาไว้ แต่ยกตัวเองขึ้นเอาหัวมาวางแหมะลงที่ตักเขา นอนกอดหมอนสบายใจเฉิบ

 
“อ๊ะ คุณสงคราม !”มัจฉาร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไร  แต่สงครามกำลังคิดว่าเขาแค่อยากจะรู้อะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง

“อยู่นิ่งๆ ฉันของีบแป๊บเดียว”


สงครามแอบลอบยิ้มในหน้าจะว่าเขาตั้งใจก็ใช่ เขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆมัจฉาอีกสักนิด เผื่ออะไรๆมันจะชัดเจนขึ้นกว่านี้ 

เขาอยากเห็นรอยยิ้มอยากมองหน้า อยากสัมผัส ...แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆไอ้เดียวเอ๊ย ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ และแกล้งหลับตาลง

 เพราะจะถอยตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว นี่ก็แปลกชักจะงงกับการกระทำของตัวเองซะแล้วสิ ช่างมันเหอะอย่าคิดเยอะนักเลย แค่เรื่องงานก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว 

สงครามไม่สนใจเสียงโวยวายของมัจฉาสักนิด  เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้อยู่ใกล้ๆมัจฉาบรรยากาศที่อุ่นสบาย

รู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียด เมื่ออยู่ใกล้เด็กคนนี้มันทำให้เขาไม่อยากจะห่างเลย

มัจฉาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยปล่อยให้เจ้านายตัวโตนั่นหนุนตักหลับไปทั้งอย่างนั้น แม้ในใจจะขัดแย้งว่า คุณสงครามไม่ควรทำแบบนี้ 

แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะดุนายจ้างตัวโตจอมเอาแต่ใจคนนี้ เขากลัวตกงานหรอกเลยไม่กล้าขัดใจ  ถ้าตระคิวกินนะ จะบ่นให้หูชาเลยคอยดู

มานอนทับขาคนเจ็บได้ไงเนี่ย ฮึ่ย!!!

ในขณะที่มัจฉากำลังคิดหงุดหงิดที่ต้องมาเจอผู้ใหญ่จอมดื้อเอาแต่ใจไม่ต่างจากลูกชายตัวน้อยนั่น

สงครามกำลังคิดวุ่นวายขัดแย้งอย่างหนักกับการกระทำและความรู้สึกของตัวเขาเอง เขาเคยคิดไว้ว่า เขาจะไม่รักใครอีกแล้ว

ตั้งแต่มายาจากไป เขากลัวว่าเขาจะเจ็บแบบนั้นอีก คำว่าเจ็บปางตายนั้นไม่ไกลเกินจริงเลย

และเขาก็ไม่สนใจใครไม่จีบใครไม่คิดจะหาใครเข้ามาเป็นหุ้นส่วนชีวิตนับแต่นั้น

แต่ว่าตอนนี้ เขากำลังสับสน ถ้าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงเขาจะไม่คิดมากเลย แต่นี่มันกำลังเกิดขึ้นกับผู้ชาย!!

เขายอมรับว่าเขากำลังกลัวจริงๆถ้ามันใช่เขาจะทำยังไงดี....

.
.
.
..
TBC....

วันนี้ว่างเล็กน้อยเลยมาต่อได้อีกครึ่งยาวๆที่เหลือ

จริงๆพันวาคิดจะตัดเป็นสองตอนนะเพราะยาวมาก แต่คิดอีกทีขี้เกียจตั้งชื่อตอนใหม่ 555555

มันเลยกลายมาเป็นตอนไถ่โทษที่ยาวมากๆ 

มีเรื่องเม้าท์ คุณพ่อข้างบ้านเอาลูกชายมาฝากเลี้ยง1คืน เพราะคุณพ่อไปประชุมต่างจังหวัดคุณพี่เลี้ยงป่วย กรรมจริงเราไม่เคยเลี้ยงเด็กน๊าาาาาา ไม่รู้ว่าคืนนี้จะรอดไหม พันวาติดสามแอ๊พของคุณหลวงผลิตอยู่นะ ต้องรอไลฟ์ตอนดึกอีก แล้วถ้าน้องมานอนด้วย ไม่อยากจะเหลา อ๊าาาาาาาาาา :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ทีแรกว่าจะไม่ช่วยแล้วแต่ดูท่าทางคงจำเป็นจริงๆไม่งั้นคงไม่กล้าเอาลูกมาฝากคนแปลกหน้าอย่างเราหรอกเนอะ  เฮ้อ เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นสักคืนเนอะ ไปซื้อทาโร่มาไว้เยอะๆดีกว่าแบ่งน้องกิน เผื่อน้องไม่งอแงจะได้ดูผลิตด้วยกันซะเลย555555

เม้าท์เพลินมาเรื่องพ่อสงครามดีกว่าเนอะ  เดียวเคยผิดหวังครั้งใหญ่ ความเจ็บปวดมันเป็นแผลขนาดใหญ่

พอมารู้สึกแปลกๆกับเด็กผู้ชายที่เจอกันแค่ไม่นาน มันก็ต้องกลัวกันบ้าง แม้ว่าสงครามจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว

 แต่การซ่อนบาดแผลเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ บางทีแผลสดที่กลายเป็นแผลเป็นมันยังดีกว่ากลายเป็นหนองข้างใน

สงครามต้องหาคนมากลัดหนองออก น้องปลาของเราจะทำได้หรือไม่ มาลุ้นไปพร้อมๆกันเนอะ


วันนี้ทอล์คยาว แหะๆ เหมือนเดิมนะคะ พบคำผิดสะกิดบอกพันวาด้วยค่า... :katai4:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจคนเขียนมากๆ ขอบคุณค่าาาาา :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2017 07:23:04 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ขอเป็นแฟนคลับนนะคะ
ชอบแบบนี้ :mew1:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่ารักจัง คุณเดียวนี่ก็เนียนเต๊าะเด็กเก่งนะคะ ชอบๆ
โตๆกันแล้วเนาะคิดว่ารักก็ชัดเจนกันไปเลย อย่ามามัวเสียเวลาหาข้ออ้างปฏิเสธความรู้สึก
รีบๆแน่ใจแล้วรีบทำให้ใจปลาคิดตรงกัน รีบทำครอบครัวให้อบอุ่นแข็งแรง ขจัดอุปสรรคภายใน
เอาเวลามาเตรียมรับมือกับอุปสรรคภายนอกอย่างการยอมรับของสังคม การแย่งชิงของผู้หญิงอื่นดีกว่า
 
ดีใจกับคุณพ่อและน้องข้างบ้านที่มีเพื่อนบ้านที่มีน้ำใจคอยช่วยประคับประคองจิตใจอย่างคุณพันวานะคะ
หวังว่าน้องคงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบที่ไม่มีบาดแผลในจิตใจได้ สู้ๆน้า :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถ้ามันใช่ก็รีบยอมรับ ก่อนจะทำอะไรไม่เข้าท่าเพื่อปฏิเสธตัวเองไงล่ะเดียว

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ก็เอาปลานี้แหละมาเป็นไม้กันแจง

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เฟียนี้ตกกระป๋องไปเลยเจอคุณพ่ออ้อนได้น่ารักนัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ความน่ารักเริ่มบังเกิด 

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
งานดีมาก ค่ะคุณสงคราม  (ถูกใจค่ะ)   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



ตอนที่ 7 ...พี่เลี้ยง ..


“คุณปลาเป็นอะไรเหรอครับ”เสียงป๋องคนขับรถ ที่ชะเง้อมองมาเบาะหลังเมื่อเห็นคนเป็นพี่เลี้ยงคุณหนูหน้าบึ้งผิดปรกติ

“เหน็บกินน่ะป๋องเลยงอแง หึหึ “แต่คนที่ตอบดันไม่ใช่พี่เลี้ยงคนโปรดแต่เป็นคุณสงครามที่ตอบพร้อมทั้งรอยยิ้มที่ป๋องดูแล้วมันจั๊กจี้ชอบกล

“เพราะใครกันล่ะ “

หน้าที่ยังบึ้งตึง ไม่ยอมคนเป็นนายจ้าง เสียงงอแงอย่างที่เจ้านายว่าที่ทำให้ป๋องต้องหัวเราะไปกับเจ้านาย

เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างที่ป๋องไม่เคยเห็น คุณสงครามเป็นคนเงียบมาก หน้านิ่งอย่างกับรูปปั้น

เขาไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มสักทีตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อห้าปีก่อน  ยกเว้นตอนที่อยู่กับคุณหนูเฟีย 

แต่วันนี้คุณสงครามผู้เงียบขรึมกำลังเย้าแหย่ให้พี่เลี้ยงของลูกชายงอน ทั้งยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อารมณ์ดี ผิดจากที่ป๋องเคยรู้จัก

จนป๋องอยากจะถ่ายวีดีโอเก็บเอาไปให้ยายกิ่งกับมะตูมดู


“ทำไมไม่ปลุกล่ะ ฮึ “


“ก็....ฮึ่ย!!”

เมื่อหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเขาไม่ปลุกคุณสงคราม มัจฉาก็ยิ่งทำหน้างอกว่าเดิม  ทำไมกันนะ เขาไม่เข้าใจ แค่เห็นสีหน้าเหนื่อยๆ

แค่เห็นว่าอีกคนอยากพักผ่อน เขาก็ไม่กล้าจะปลุกแม้ว่าขาทั้งสองข้างจะโดนเหน็บกินจนชา ทำไมเขาต้องเป็นห่วงคนที่โตแต่ตัวคนนี้ด้วยนะ
 
“หึหึ “

เสียงหัวเราะที่ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าเจ้าของเสียงอารมณ์ ดี ยิ่งทำให้มัจฉาหงุดหงิด ป๋องที่มองเจ้านายทีมองดูพี่เลี้ยงคุณหนูอีกที

ก็ส่ายหน้าไม่เข้าใจ เขาน่ะไม่เข้าใจเจ้านายรูปหล่อของเขามากกว่า เพราะการที่คุณปลาหน้าบึ้ง งอแง ทำไมเจ้านายยังอารมณ์ดีอีกวะ ป๋องล่ะไม่เข้าใจ


........................


“คุณพ่อ!!..”

เด็กชายวิ่งถลาเข้าหาคนเป็นพ่อ ที่เดินเข้ามารับที่โรงเรียน มันเป็นสิ่งที่เขาคิดมาตลอดว่าอยากให้พ่อมารับมาส่ง นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีก็ว่าได้  มันเลยทำให้เด็กน้อยเริงร่ามีความสุขมากเป็นพิเศษ

“ว่าไงตัวเล็ก หืม เป็นเด็กดีหรือเปล่าครับ “

“เฟียเป็นเด็กดีอยู่แล้วฮะ” 

“งั้นพ่อมีรางวัลเด็กดี  ไปกินไอศกรีมกันดีไหม “

“เย้...ดีฮะๆ  “

รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเล็กๆนั่นทำให้สงครามอดที่จะยิ้มไปกับลูกไม่ได้  นี่สินะสิ่งที่พี่เลี้ยงคนเก่งอยากเห็น 

สงครามอุ้มเอาร่างเล็กๆของลูกชายมาที่รถ  เด็กชายทำตาโตเมื่อเห็นว่ามีอีกคนนั่งรออยู่ในรถ

 
“พี่ปลา ...”

น้ำเสียงดีใจที่เห็นพี่เลี้ยงมาด้วยทั้งยังดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของพ่อเพื่อไปหาพี่เลี้ยงที่นั่งยิ้มกว้างอยู่ในรถ

ทั้งๆที่พออยู่กับเขาดันทำหน้าบึ้ง  ทำให้คนเป็นพ่อต้องส่ายหัวอย่างระอากับท่าทางที่เหมือนจะขาดกันไม่ได้ของพี่เลี้ยงกับลูกชาย

“ไปกินติมกันพ่อจะพาไป“

“ครับๆ แต่คุณหนูกินเยอะไม่ได้นะครับ เดี๋ยวกินข้าวไม่ได้ยายกิ่งเสียใจแย่เลย”

“พี่ปลาขี้บ่น ..ชิส์”

ถึงจะว่าอย่างนั้นเด็กชายตัวน้อยก็เขยิบเข้าไปใกล้พี่เลี้ยงก่อนจะยกมือเล็กๆลูบไปที่แผลบนหน้าผากของพี่เลี้ยง

“หายยัง”

“หายแล้วครับ พรุ่งนี้ก็เอาผ้าปิดออกได้แล้ว นะ “

ตอบคำถามนายจ้างตัวน้อยทั้งยังส่งยิ้มไปให้เมื่อเห็นการกระทำที่เหมือนว่าจะเป็นห่วงเขานักหนา

มัจฉารู้สึกดีใจ รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่คุณหนูเริ่มทำตัวอ้อนเขาบ้าง และเรียกชื่อเขา แทนการเรียก ตัว ๆเหมือนทุกครั้ง

ช่องว่างที่เคยมี มันลดลงเรื่อยๆ และพอคิดอย่างนั้นมัจฉาก็ยิ้มกว้างด้วยความสุขที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
 
“อื้อๆ หายนะ เพี้ยง “

เสียงหัวเราะของพี่เลี้ยงกับการกระทำของลูกชายทำให้สงครามที่นั่งนิ่งๆมาตลอดต้องยิ้มตาม เขากำลังคิดว่าหากหยุดงานสักวันแล้วได้อยู่กับบรรยากาศแบบนี้มันก็คุ้มค่า 

“ไปร้านไอศกรีม ข้างบริษัทนะป๋อง”

“ครับคุณเดียว” เพราะเป็นทางที่แยกไปไม่ไกลนักจากเส้นทางกลับบ้าน เขาเลยคิดจะให้รางวัลเด็กดีสักหน่อยทั้งพี่เลี้ยงทั้งลูกชาย
 
“เธอชอบกินอะไรล่ะ”สงครามอดที่จะถามคนตัวบางไม่ได้เพราะยังไงมัจฉาก็เป็นผู้ชายอาจจะไม่ชอบกินพวกไอศกรีมหรือของหวานเหมือนเขาก็ได้

“ไอศกรีมก็ชอบครับ แต่ผมไม่ค่อยกินเท่าไหร่เปลืองเงิน “

คำตอบสมกับเป็นพี่เลี้ยงเขา ไม่แปลกใจเลยสักนิดสงครามยิ้มเมื่อรู้ว่าตัวเองคิดถูก  จะว่าเขาตัดสินคนเร็วไปก็ได้

แต่ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาพร้อมทั้งการันตีจากญาติผู้พี่ มัจฉาคนนี้เป็นคนดีไว้ใจได้  และที่สำคัญ มัจฉา..น่ารัก 

ใช่แล้วคำๆนี้เหมาะกับคนอย่างมัจฉามาก ...น่ารัก.. เขามองเห็นแต่ความน่ารักในตัวมัจฉา  จนทำให้เขาตกหลุมรักนั้นไปแล้วหรือเปล่านะ ไม่หรอกน่ามันยังเร็วเกินไป


“ฮึบ...อีกหน่อยพ่ออุ้มไม่ไหวแล้วมั้งเนี่ย โตแล้วนะเราน่ะ “

สงครามเอ่ยกระเซ้าลูกชาย เพราะเขารู้ว่าลูกชอบให้เขาอุ้มแม้จะโตแล้ว เขาก็ชอบที่จะอุ้ม

แม้บางครั้งจะเหนื่อยแต่เขาก็ยังอยากจะอุ้มลูกชายของเขาเพราะโตอีกหน่อย เด็กน้อยคงไม่อยากให้พ่ออุ้มแล้ว

 
“ยังไม่โตฮะ เฟียยังอยากให้พ่ออุ้มนี่นา “

เด็กน้อยเองก็ยังชอบความรู้สึกแบบนี้ จะว่าเขาติดการกอดก็ว่าได้แต่พ่อไม่มีเวลามานอนกอด เขาเลยให้พ่ออุ้มแทน

“เอ้า ลงมาสิ”สงครามหันไปหามัจฉา  พลางยื่นมืออีกข้างเข้าไปหาพี่เลี้ยงลูกที่พยายามจะลงจากรถ

“เอ่อ....”มัจฉาทำหน้างงๆ เมื่อเห็นคนตัวโตกว่ายื่นมือมาให้


“ปล่อยให้เดินเองคงไม่ถึงร้านไอศกรีมหรอกวันนี้น่ะ “

เด็กหนุ่มก็พอจะเข้าใจแต่ยื่นมือมาให้เขานี่มันแปลกๆนะที่ผู้ชายสองคนจะเดินจูงมือกันเข้าร้านไอศกรีมน่ะ

“แต่..ผมเดินได้ครับคุณสงครามเดินไปกับคุณหนูก่อนเลยครับ”

“อย่าดื้อได้ไหม “เสียงดุๆที่ส่งมาพร้อมทั้งหน้านิ่งๆทำให้มัจฉาลังเล

“พี่ปลาดื้อ พ่อก็อุ้มเลยสิ ฮะ“เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งคู่ไม่ยอมออกจากรถเสียที เมื่อไหร่จะได้กินล่ะ


“ความคิดดีมากลูกชาย ....มา..เดี๋ยวฉันอุ้ม”

สงครามทำท่าจะเข้าไปอุ้มร่างบางตรงหน้าด้วยแขนข้างเดียว  จริง ๆเขาไม่ได้บ้าจี้ตามลูกหรอกแต่สีหน้าของพี่เลี้ยงลูกเขานี่มันน่าแกล้งชะมัด


“อะ..อะไรเนี่ย อย่าบ้าตามลูกสิคุณสงครามเนี่ย...ฮึ่ย...จับก็ได้”

มัจฉาเอ่ยตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่านายจ้างตัวโตนั่นทำท่าจะเข้ามาอุ้มเขาจริงๆ จนรู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ

สองพ่อลูกหัวเราะร่าท่าทางอารมณ์ดีทั้งคู่ที่ได้แกล้งพี่เลี้ยงคนเก่ง ให้หงุดหงิด   ทั้งคำพูดของมัจฉาที่พูดออกมา

ทั้งดวงหน้าที่ขึ้นสีเรื่อๆที่แก้มใสทั้งสองข้างทำให้สงครามรู้สึกแปลกๆ เหมือนโดนภรรยาดุยังไงไม่รู้ 

หึหึ สงครามขำทั้งมัจฉาขำทั้งความคิดไร้สาระของตัวเองก่อนจะคอยเป็นหลักให้คนเจ็บพยุงตัวเองเข้าร้านไอศกรีม ทั้งๆที่แขนอีกข้างก็อุ้มลูกชายตัวน้อยเอาไว้ด้วย


สามหนุ่มต่างวัยเดินเข้าร้านไอศกรีม ท่ามกลางสายตาคนมากมายที่มองมา แต่ทั้งสามคนหารู้ไม่ว่าได้กลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว 

ด้วยหนึ่งหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคมคาย ที่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

สายตาที่จ้องมองแต่คนตัวบางที่หน้าตาหล่อสดใสในแบบวัยรุ่น ใบหน้าติดจะบึ้งตึงแต่แก้มใสกลับมีสีเรื่อๆราวกับเขินอายการกระทำของคนตัวโต

กับเด็กชายที่ตัวเล็กหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงคนตัวโตที่หัวเราะเริงร่าในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อ

แววตาหยอกเย้าคนตัวบางให้มีแววขุ่นเคืองอยู่เป็นนิจ  แม้จะต้องเดินเขย่งปลายเท้าด้วยความลำบาก

แต่มือเรียวก็เกาะแขนคนตัวโตไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  ภาพที่ใครเห็นก็ต้องมองว่า  มันช่างเป็นภาพที่น่าดูไม่น้อย

สาวๆหลายคนในร้านไอศกรีมถึงกับแอบเบือนหน้าหนีภาพนั้นด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะเขินซะเอง


 
“พี่ปลาอันนี้อร่อย เฟียชอบกิน “

เด็กชายภูมิใจนำเสนอเมนูโปรดของตัวเองเต็มที่ จนเผลอใช้คำพูดติดปากเวลาอยู่กับพ่อ จะว่าไป ตั้งแต่วันที่เด็กน้อยทำพี่เลี้ยงหัวแตก

 เด็กชายมาเฟียก็เริ่มจะเข้าใจว่าคนเป็นพี่ปรารถนาดีต่อตัวเขามากแค่ไหน ตั้งแต่วันแรกที่มา แม้เขาจะตั้งแง่รังเกียจพูดจาไม่ดีใส่

 แต่พี่เลี้ยงคนนี้ก็ยังขยันหากิจกรรมที่เขาชอบให้ทำ 


อยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลาที่เขาเหงา ไม่เคยหาเรื่องฟ้องพ่อ หรือคอยรังแกเขาตอนที่ทุกคนในบ้านไม่อยู่ 

และคืนที่เขาได้นอนกอดคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อเด็กชายกลับพบว่าอ้อมกอดพี่เลี้ยงมันก็อุ่นได้เหมือนกัน  เด็กชายเลยวางทิฐิทั้งหมดลง

ไม่ว่าจะเพราะอะไรแต่เขาชักจะชอบพี่ปลาคนนี้เสียแล้ว 


“งั้นพี่ปลาเอาอันนี้ก็ได้ครับ “


มัจฉาเอ่ยเสียงใสพร้อมรอยยิ้มกว้างเมื่อนายจ้างตัวน้อยแทนตัวเองด้วยชื่อ มัจฉารู้สึกว่าเขาเข้าใกล้คุณหนูมาเฟียได้อีกขั้นแล้ว 

ยิ่งคิดยิ่งปลื้มเพราะในชีวิตไม่เคยได้ดูแลใคร และยิ่งได้รับการตอบรับที่ดีแบบนี้มัจฉาเองอดที่จะดีใจไม่ได้ 


“คุณหนูกินสองลูกก็พอนะครับ เดี๋ยวกินข้าวไม่ได้ “

ว่าพลางหยิบทิชชู่เช็ดปากให้เจ้าตัวน้อยที่กินเลอะขอบปากไปด้วย สงครามมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

มันอุ่นๆอยู่ข้างในเขานั่งมองคนที่คอยเป็นห่วงลูกเขา คนที่คอยบ่นเรื่องการกิน ทั้งยังคอยดูแลลูกเขาตลอดทั้งๆที่ตัวเองก็ยังเจ็บตัวเพราะลูกเขา 

สงครามมองเห็นความรักในแววตาคู่นั้นที่มองลูกเขา  ทำยังไงเขาถึงจะได้แววตาแบบนั้นบ้างนะนึกอิจฉาลูกแบบไม่มีเหตุผล   

พลันความคิดก็มาสะดุดเมื่อคนที่นั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมาถาม


“คุณสงครามไม่กินเหรอครับ “มัจฉาหันไปถามคนตัวโตที่นั่งเงียบมาสักพักแล้ว เพราะบนโต๊ะมีแค่ของเขากับของคุณหนู
 
“เด็กๆกินไปเถอะ “

“ผมโตแล้วเถอะ”สวนกลับทันควัน แต่สิ่งที่ได้มาคือมือใหญ่ที่เอื้อมมาขยี้กลุ่มผมนุ่มนิ่มนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว

”คุณสงคราม..ผมยุ่งหมดแล้วเล่นอะไรเป็นเด็กไปได้”

ว่าพลางปัดมือหนาออกให้พ้นหัวที่ยุ่งเหยิงจนต้องละมือจากถ้วยไอศกรีมมาจัดทรงใหม่

“ใครเด็ก เธอนั่นแหละเด็ก”

สงครามรู้สึกสนุกที่ได้เถียงกันแบบเด็กๆกับมัจฉา หน้าตางอง้ำเหมือนโดนขัดใจมันกลับทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก


“คร๊าบๆ คุณผู้ใหญ่”เสียงกึ่งประชดทั้งหน้าที่มุ่ยอย่างขัดใจทำให้สงครามหลุดหัวเราะออกมาจนได้ 

“กินเลอะเหมือนมาเฟียเลยเด็กน้อย หึหึ”


สงครามว่าพลางใช้นิ้วชี้ปาดเอาไอศกรีมที่ติดอยู่มุมปากของมัจฉาออกให้ ก่อนจะยื่นนิ้วที่เลอะไอศกรีมนั่นเข้าปากมัจฉาที่อ้าเหวอค้างอยู่จนต้องรีบหุบปากฉับ เผลองับเอานิ้วมือใหญ่นั่นอย่างไม่ตั้งใจ

 
สงครามที่คิดจะแกล้งอีกฝ่ายเล่นกลับเป็นเขาเองที่รู้สึกราวกับไฟฟ้าช็อตที่ปลายนิ้วแล่นเข้าสู่หน้าอกข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว

จนต้องดึงมือกลับมาเสมองไปที่ลูกชายแทน อย่างไม่รู้ว่าจะวางสายตาไว้ตรงไหน 

มัจฉารู้สึกหน้าร้อนแทบไหม้เมื่อเห็นการกระทำของนายจ้างตัวโตที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับยิ้มกว้างเสียจนน่าหมั่นไส้ 

เสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆดังมาแว่วๆ แต่มัจฉาไม่กล้าที่จะมองหาต้นเสียงหรอกนะเพราะตอนนี้หน้าเขาเห่อร้อนไปหมดแล้ว

ไม่บอกก็รู้ว่ามันคงแดงเถือกไปทั้งหน้า อะไรกันอาการแบบนี้เขาไม่เคยเป็นให้ตายเถอะ เหมือนมันจะหายใจไม่สะดวก
 
มาเฟียมองพ่อทีมองพี่เลี้ยงทีอย่าง งง ๆ จะถามหาเด็กกันทำไม ก็เขาเป็นเด็กนั่งอยู่นี่แล้วพ่อกับพี่ปลาจะเถียงกันทำไม

แล้วพ่อทำไมยิ้มแปลกๆ พี่ปลาหน้าแดงมากเลย ไม่สบายหรือเปล่านะ  เด็กน้อยได้แต่สงสัย

แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเมื่อเห็นพ่อยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากบอกสัญญาณว่าไม่ต้องพูด พ่อคงแกล้งพี่ปลาสินะ แล้วแกล้งแบบไหนพี่ปลาถึงได้หน้าแดงๆแบบนั้น


................................................


ความร่มรื่นของแมกไม้ในบริเวณบ้านทำให้สงครามต้องหันไปมองรอบๆ เมื่อป๋องพาพวกเขากลับมาถึงบ้าน 

ทันทีที่ลงจากรถลมเย็นๆก็พัดเข้ามาพาให้สดชื่นจนต้องมองบ้านตัวเองเหมือนไม่เคยเห็น  มันนานจนจำไม่ได้แล้วว่า

ครั้งสุดท้ายที่เขานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านนี่กี่ปีมาแล้ว


“ยายกิ่ง  วันนี้เฟียอยากทำแกงเหมือนวันนั้นอีกได้ไหม นะๆ”

“คุณหนูอย่าวิ่งครับ”

เสียงเล็กๆดังมาก่อนจะเห็นตัว ตามด้วยเสียงเอ่ยปรามของพี่เลี้ยงไล่หลังมา  ทำให้ ยายกิ่งเงยหน้าขึ้นมองแล้วอยากจะยกมือทาบอกด้วยความแปลกใจ 

ก็คุณสงครามของเธอผู้ไม่เคยสนใจใครไม่เคยดูแลหรือเป็นห่วงใครนอกจากลูกชาย กำลังประคองคุณปลาเข้าบ้าน มา พร้อมคุณหนูตัวน้อยที่วิ่งนำ มันดูคล้ายพ่อแม่ลูกยังไง.ไม่รู้


  “เฟีย...อย่าไปซนในครัวเดี๋ยวจะเกะกะยายกิ่งนะ”เสียงพ่อดุตามหลังมาทำให้เด็กน้อยชะงักพลางหันไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างต้องการหาตัวช่วย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เราเข้าครัวกันทุกวัน อีกหน่อยคุณหนูก็ทำกับข้าวเองได้แล้วเนอะ ไปๆ เดี๋ยวพี่ปลาไปด้วย”

มัจฉาบอกคนเป็นพ่อที่ขมวดคิ้วเป็นปมอยู่ข้างๆพลางขยับออกห่างจากคนตัวโตแล้วเดินโขยกเขยกเข้าไปหาเด็กน้อย

โดยไม่รอฟังคำตอบของคนตัวโตสักนิด มาเฟียยิ้มร่าเมื่อไม่เห็นว่าพ่อจะพูดอะไร พี่ปลาของเขาเก่งที่สุด


สงครามเดินตามพี่เลี้ยงและลูกชายเข้าครัวไป ท่าทางกระฉับกระเฉงเมื่ออยู่หน้าเตา และคอยบอกลูกชายเขาเป็นระยะๆว่าต้องทำอะไร

เขาอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปชะโงกดูว่าทำอะไรกัน แต่คงยืนชิดไปหน่อย เลยกลายเป็นว่ามัจฉายืนพิงอกเขาอยู่

“อ้ะ คุณสงครามอย่ามายืนตรงนี้สิครับ มันเกะกะนะ”

“อยากรู้เฉยๆ “

“เป็นน้องชายของมาเฟียเหรอครับ เล่นอะไรเป็นเด็ก”

พี่เลี้ยงคนสวยหน้าคว่ำเมื่อเขาแกล้งยืนชิดเข้าไปอีก จนคนที่ตัวเล็กกว่าอยู่ในอ้อมกอดของเขาเพราะขยับตัวไม่ได้

“หอม”สงครามได้กลิ่นหอมๆ อยู่รอบตัวมัจฉา กลิ่นที่ดมแล้วสบายใจชอบกล
 
“ถอยหน่อยครับลูกมองอยู่นะ”


มัจฉาพูดเพื่อเตือนสติคนตัวโตที่เหมือนจะรุ่มร่ามโดยไม่ตั้งใจ  แม้ว่าเจ้าตัวที่พูดออกมาจะไม่ได้คิดอะไร 

แต่คำพูดเตือนกลับทำให้สงครามยิ้มอย่างถูกใจ  ลูกมองอยู่งั้นเหรอ...มันเหมือน......กึก!...

สงครามชะงักเมื่อปลายจมูกสัมผัสเข้ากับแก้มใสของอีกคน


“อ๊ะ !”
“อุ๊ย!”


สองเสียงที่ดังมาด้วยความตกใจ ทำให้สงครามผละออกจากตัวมัจฉาทิ้งตัวลงไปนั่งกับลูกชายบนโต๊ะที่กำลังเด็ดยอดผักบุ้ง

ปล่อยให้มัจฉาและมะตูมที่พึ่งเดินเข้ามายืนหน้าแดงกันอยู่สองคน  ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป

ก็มันอดใจไม่ไหวนี่หว่าแก้มแดงๆกลิ่นหอมๆ อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ก็แค่อยากรู้ว่าจะหอมไหม จะนิ่มหรือเปล่า...ก็แค่นั้นเอง..


มัจฉากำลังสับสนกับการกระทำของคุณสงคราม และกำลังสับสนกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

หัวใจที่เต้นถี่ขึ้นจนเหมือนเขาจะหายใจไม่ทัน หน้าที่เห่อร้อนวูบวาบเวลาที่คุณสงครามเข้าใกล้ มันคืออะไร เขาไม่เข้าใจ

แต่ก็ได้แต่เก็บเอาไว้ไม่กล้าแม้จะถามมันออกไปทั้งๆที่ปรกติเขาเป็นคนที่สงสัยอะไรจะถามเลยแท้ๆ   ช่างเหอะ คงไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ตกใจ เท่านั้นเอง


อาหารค่ำมื้อนั้นผ่านไปท่ามกลางความสุขของทุกคน   โดยเฉพาะเด็กชายมาเฟีย ที่ได้รับคำชมจากพี่เลี้ยงและพ่อ ไม่ขาดปาก

 แม้ว่าเด็กชายจะยังปรุงอาหารเองไม่ได้ แต่การเป็นลูกมือในครัว นั้นก็ฝึกวินัยและสมาธิให้เด็กน้อยได้เป็นอย่างดี

ข้อนี้สงครามอดที่จะเห็นด้วยกับมัจฉาไม่ได้ว่าตัวเขาควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกให้มากกว่านี้


 และก่อนเข้านอนคืนนั้นพี่เลี้ยงคนเก่งก็ทำเขาประทับใจอีกไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ เมื่อลูกชายสุดที่รักของเขาอาบน้ำเองแต่งตัวเอง

ซึ่งพี่เลี้ยงเพียงแค่ช่วยเตรียมเสื้อผ้าและเตรียมน้ำอาบให้เท่านั้น ลูกชายตัวน้อยก็ยิ้มอวดกับเขาตลอดว่าตอนนี้ มาฟียทำอะไรได้ด้วยตัวเองแล้ว 

ท่าทางภูมิใจของลูกชาย ทั้งยังสีหน้ามีความสุขของพี่เลี้ยง มันทำให้เขามีความสุขไปด้วย

  นับเป็นเรื่องดีจนเขาอดที่จะโทรฯหากันธรไม่ได้ และเล่าเรื่องพี่เลี้ยงคนล่าสุดให้เพื่อนรักฟัง 

เขารู้สึกประทับใจในตัวพี่ลี้ยงลูกชายคนนี้มาก มันมากจนเขารู้สึกได้ว่ามันพิเศษ มันรู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้มัจฉา มันจะใช่หรือเปล่านะ

 เวลามันเร็วเกินไป อาจจะไม่ใช่ก็ได้ สงครามก็ได้แต่บอกตัวเองในใจ ก่อนจะโทรออกหาเพื่อนสนิท อย่างต้องการที่ปรึกษา


(ไงมึงไม่หลับไม่นอน มีอะไรอีก)

“ธร มึงเคยรู้สึกเขินๆทำตัวไม่ถูกกับผู้ชายหรือเปล่าวะ “

(ถามทำไมมึงไปแอบรักผู้ชายที่ไหนบอกมานะ มิน่าล่ะสาวๆมึงไม่สน)

“เฮ้ย ไม่ใช่อย่างงั้น คือกูแค่อยากรู้ว่า ควงหญิงมาทั้งชีวิตเหมือนมึงนี่จะรู้สึกกับผู้ชายได้หรือเปล่าวะ”

(มึงไม่ต้องมาถามกูเลยเดียว...เล่ามาเดี๋ยวนี้)

“ก็...” เรื่องราวดีๆของพี่เลี้ยงที่เขาประทับใจถูกเล่าผ่านโทรศัพท์ถ่ายทอดไปยังเพื่อนรักแบบไม่มีกั๊ก แต่เขาแค่ยังไม่บอกว่าเขารู้สึกยังไงกับพี่เลี้ยงคนนี้

“กูว่าจะขอบคุณพี่ก้อยสักครั้งที่หาพี่เลี้ยงดีๆมาให้ “

(เสียดายว่ะ)

“เสียดายเรื่องอะไรวะ? “

(พี่เลี้ยงน้องเฟียน่าจะเป็นผู้หญิงนะ มึงจะได้แม่เลี้ยงน้องเฟียไปในตัวเลย)

“คิดอะไรมึงนี่  กูไม่คิดจะหาแม่เลี้ยงให้ลูกกูหรอกนะ แค่.....”คำต่อมาขาดหายไปในลำคอ จนคนเป็นเพื่อนสงสัย

(แค่อะไรวะ..นั่นแน่ )เสียงที่เอ่ยแบบกระเซ้าเพื่อนสนิทดังมาตามสายพาให้สงครามยิ้มไปด้วย
 
“เปล่าไม่มีอะไรไปนอนได้แล้วไป กูจะนอนแล้วพรุ่งนี้จะต้องตื่นเช้าอีก “

(เออๆ อะไรของมึงวะวู้...แต่ว่านะเดียว บางครั้งความรักน่ะ ใช้ใจนำทางให้มากกว่าสมองนะ ว่าใจรู้สึกยังไง ไม่ใช่ใช้สมองแยกออกว่านั่นหญิงหรือชาย  รักได้หรือรักไม่ได้  ... เผื่อมึงจะอยากรู้ ไม่ว่ามึงจะชอบเพศไหนรักใคร กูจะรักด้วย ยกเว้นยัยแจงมึงเข้าใจใช่ไหม )


“ขอบใจเพื่อน”กดตัดสายเพื่อนไปแล้วก็ต้องมานั่งคิดถึงคำพูดที่ขาดหายไป

เพียงแค่...มีมัจฉาอยู่เขาก็ไม่ต้องการใครแล้ว...แอบตกใจกับความคิดตัวเอง.คำพูดนี้อยู่ในห้วงคิดของเขา ..

.ก็พี่เลี้ยงดีๆแบบนี้หายากจะตาย มัจฉาเองก็ตัวคนเดียว หากเขาดูแลดีๆให้เงินเดือนดีๆ เพิ่มสวัสดิการให้ ทั้งเรื่องเรียนด้วยมัจฉาคงไม่ใจร้ายทิ้งเขากับลูกไปหรอกนะ


....หืมม์?...อะไรกัน นี่เขาถึงเวลาที่ต้องมานั่งกังวลกลัวพี่เลี้ยงทิ้งเหรอวะ คิดอะไรบ้าบอสิ้นดี

สงครามสะบัดหัวไล่ความมึนงงเขาเฝ้าคิดตามคำพูดของกันธร  ถ้าเป็นอย่างนั้นมันต้องพิสูจน์สินะเวลาแค่นี้ มันเร็วไปไหม

หรือยังต้องรอแน่ใจกว่านี้   เขาลุกไปหาลูกชายที่เข้านอนไปแล้ว พลางคิดถึงภาพที่เขาหวังว่าจะได้เห็นอีกครั้ง


 และเขาก็เห็นอย่างที่หวัง มัจฉานอนหลับสนิทสองแขนเรียวโอบกอดลูกชายตัวน้อยของเขาเอาไว้

เจ้าตัวแสบก็ก่ายเกยพี่เลี้ยงเต็มที่ซุกตัวเข้าหาอีกคนราวกับเป็นพ่อลูกกันเสียเอง  สงครามยิ้มกับภาพตรงหน้า

ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกทาง แล้วก้มลงกดจูบเบาๆที่หน้าผากลูกชาย

“ฝันดีนะเด็กดีของพ่อ”

 เสียงกระซิบแผ่วเบาด้วยเกรงว่าอีกคนจะตื่น เขายืนมองหน้าพี่เลี้ยงคนเก่งเงียบๆ ปากบางๆที่มือเขาสัมผัสไปเมื่อตอนอยู่ที่ร้านไอศกรีม

 มันนุ่ม ถ้าได้สัมผัสอีกครั้ง.ไวเท่าความคิดสงครามโน้มหน้าเข้าหาคนหลับข้างๆลูกชาย  ทั้งยังกดจูบแผ่วเบาลงบนริมฝีปากของมัจฉา

เขาแค่แตะปากลงไปเบาๆ  ก่อนจะผละออกมายืนมองคนหลับเงียบๆ  และเดินออกไปจากห้อง  พร้อมรอยยิ้มที่กระจายทั่วใบหน้า

ยังหรอก เขายังต้องพิสูจน์อะไรอีกเยอะ แต่ตอนนี้เขาตอบตัวเองได้หนึ่งอย่างว่า เขาไม่ได้รังเกียจที่จะสัมผัสตัวมัจฉา

และความรู้สึกดีๆ แบบที่คิดว่าคืนนี้เขาต้องฝันดีแน่ๆ  และ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่า เขาคนนี้ ตกหลุมรักผู้ชายที่เป็นพี่เลี้ยงลูกชายเขาคนนั้นจริงหรือเปล่า

 ใครจะว่าเขาคิดมากก็ได้ เพราะการที่จะรักเพศเดียวกันมันไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับ.... ยิ่งเวลาที่รู้จักกันมันสั้นแค่นี้

ความเป็นไปได้ยิ่งทิ้งห่าง  แต่สำหรับมัจฉาอาจจะเป็นข้อยกเว้นก็ได้....สงครามได้แต่ครุ่นคิดวนเวียนไปเรื่อย จนหลับไป

พร้อมทั้งรอยยิ้มที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าแม้ยามหลับสนิท

……………………………………..
.
.
.
.


TBC..........

เป็นเช้าที่วุ่นวายพอควรสำหรับพันวาเมื่อคืนฝนตกหนัก ไฟดับ เน็ตดับ กว่าทุกอย่างจะใช้ได้ปรกติก็สายโด่ง :o12: :o12:

หลังจากคุณหมอคอนเฟิร์มว่าสามารถเล่นกอล์ฟได้แล้ว พันวาก็เหมือนงานจะเพิ่มขึ้นแหะๆ อาจจะไม่ได้มาอัพบ่อยๆนะคะ

ยังไงก็อย่าพึ่งลืมกันนะ มาเม้นมาถามหากันบ้างแก้เหงาเน้อ...ปรกติทำงานกลางวันกลางคืนปั่นนิยาย แต่ช่วงนี้กลางคืนมัวแต่ตามผู้ชาย5555

นิยายเลยปั่นได้น้อยมาก เรื่องนี้พันวาแยกออกเป็น2 พาร์ทนะคะ พ่อเดียวกับพี่ปลาจบแล้วจะต่อด้วยเรื่องของพ่อเลขาหน้านิ่งกับหุ้นส่วนกวนTeen 555ดูแนวๆเหมือนจะฮาใช่ไหมแต่บอกไว้ว่าหน่วงงงงงงนะจ๊ะ อิอิ

จริงๆพันวาพึ่งจะค้นพบตัวเองว่าชอบแต่งแนวหน่วงๆหนึบๆบีบคั้นน้ำตามาก  ทั้งๆที่เป็นคนตลกเนอะ แต่แต่งคอมเมดี้ไม่เป็น  :hao7: :hao7:

 เรื่องนี้ยังไม่ครึ่งทางเลย นี่จะปั่นเรื่องหน้าแล้ว????

เอาเป็นว่าไว้คอยติดตามกันดูนะคะ  ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน  :mew1: :mew1:

กอดแน่นๆสำหรับคนเม้นท์ให้เป็นกำลังใจคนเขียนมากค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: 

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คุณพันวาเป็นโปรกอล์ฟ!!! สุดยอดไปเลยเท่ห์มากๆเลยค่ะ o13

สะดุดนิดๆกับการพิสูจน์ใจตัวเองของคนพ่อ
การอยากรู้ใจตัวโดยทำให้ใจคนอื่นหวั่นไหวไปด้วย ถ้ารู้ใจตัวเองแล้วว่าไม่ใช่ความรักจะสะบัดทิ้งเลยงั้นหรอ??
คิดถึงใจของคนที่เข้าไปพิสูจน์กันสักนิดน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่ควรมี

นี่รออ่านคู่หน่วงเลย555
ขอบคุณค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
คุณพันวาเป็นโปรกอล์ฟ!!! สุดยอดไปเลยเท่ห์มากๆเลยค่ะ o13

สะดุดนิดๆกับการพิสูจน์ใจตัวเองของคนพ่อ
การอยากรู้ใจตัวโดยทำให้ใจคนอื่นหวั่นไหวไปด้วย ถ้ารู้ใจตัวเองแล้วว่าไม่ใช่ความรักจะสะบัดทิ้งเลยงั้นหรอ??
คิดถึงใจของคนที่เข้าไปพิสูจน์กันสักนิดน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่ควรมี

นี่รออ่านคู่หน่วงเลย555
ขอบคุณค่ะ :กอด1:

หวัดดีคุณป้ากิ่งค่า

กอล์ฟเป็นกีฬาโปรดของพันวาเลยค่า แต่ยังไม่ได้เป็นโปรน๊าาาา  :hao5: :hao5:

ว่าด้วยเรื่องคุณพ่อ วิธีการพิสูจน์นี่ ออกจะห้าวหาญมาก ก่อนจะลงมือออ่ยน้องปลาพ่อเดียวก็ 80 % ในใจแล้วเนอะ ที่เหลือก็ยังเผื่อใจกลัวน้องปลาไม่คิดเหมือนตัวเองมากกว่าค่า

เรื่องนี้ไม่เน้นดราม่ามากค่ะป้ากิ่ง แค่มีพอกรุบกริบ เดี๋ยวไปน้ำตาท่วมจอกับ คู่หน่วงกันดีกว่าเนอะ อิอิ

จุ๊บๆป้ากิ่ง ที่มาเม้นท์ให้ตลอดเลย ว่างๆไปออกรอบด้วยกันนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ วางไม่ลงเลยๆๆ น้องเฟียน่ารัก พี่ปลาก็น่ารัก
มีแต่คุณพ่อนี่แหละที่น่าตี !!!!!!

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
น่ารักอะ

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เพิ่งมาอ่าน อยากจะเขกหัวตัวเองจริง ๆ สนุกมากค่ะ
น้องเฟียน่ารักน่าหยิกมากกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2017 14:18:07 โดย ♠DekDoy♠ »

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5




ตอนที่ 8 นาฬิกาปลุก


ความมืดภายในห้องทำให้มัจฉาต้องเพ่งมองหาตำแหน่งที่ต้องการแม้จะมีแสงสลัวที่เล็ดลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านผืนสวยเข้ามา

แต่มัจฉาก็ยังไม่ชินกับความมืดอยู่ดี   เตียงหลังใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง เจ้าของห้องที่ยังหลับสนิททำให้มัจฉาลังเล ที่จะเดินเข้าไปไกล้ๆ

 คิดวนไปมาอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่เตียงใหญ่หลังนั้น

 
“คุณสงครามครับ ตื่นได้แล้วครับ”

“........”

ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาให้รู้ว่าคนบนเตียงตื่นแล้ว เด็กหนุ่มเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆเตียงก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสเบาๆที่ต้นแขนใหญ่ก่อนจะเรียกซ้ำ

“คุณสงครามครับ “

“อือ...”

ร่างนั้นขยับเพียงเบาๆก่อนจะเงียบไป   เหมือนกันไม่มีผิดทั้งพ่อทั้งลูกปลุกยากชะมัด มัจฉาตัดสินใจเขย่าแขนของคนหลับเพื่อเพิ่มแรงให้คนหลับได้รู้สึกตัว

“คุณสงครามครับ ..”

หมั่บ !!

“.อ๊ะ...!!”

ข้อมือเล็กถูกดึงเข้าหาตัวคนบนเตียงเป็นผลให้คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปทาบทับเจ้าของห้อง แขนแกร่งตวัดเอาร่างบางนั่นเข้าสู่อ้อมกอดทันที 

“คุณสงคราม!!”

“............”ไม่มีเสียงตอบกลับมีแต่แรงจากอ้อมแขนแข็งแรงนั่นกอดกระชับเอาตัวเขาไว้เต็มอก

“คุณสงครามครับ ปล่อยผมก่อน” เสียงอู้อี้ดังมาใกล้ๆ ทำให้สงครามปรือตาขึ้นมองอย่างงัวเงีย
 
“หืม?? ..  “

ชายหนุ่มหรี่ตามองคน ที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างงงๆ กลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้ามากระทบจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มเนียนอย่างลืมตัว ก่อนจะปล่อยคนตัวหอมไปอย่างน่าเสียดายทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร

 ตราบใดที่เขายังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเขาเอง เขาจะยังไม่ทำอะไรเกินเลยไปเพราะคนดีๆแบบมัจฉาหายาก

เขายังไม่อยากเสียพี่เลี้ยงลูกชายคนนี้ไป เพียงเพราะความไม่แน่ใจของเขาเอง

สงครามเอื้อมมืออีกข้างไปเปิดไฟหัวเตียงขณะที่มืออีกข้างยังกักอีกคนไว้ในอ้อมแขน  ก่อนจะหันมามองดวงหน้าเนียนใส

พร้อมแววตาตื่นตกใจอยู่ห่างจากหน้าเขาแค่คืบ สงครามปล่อยมือออกจากพี่เลี้ยงของลูกชาย แม้จะเสียดายอยากกอดเอาไว้นานๆ

 แต่ความไม่แน่ใจก็ฉุดรั้งสติเขากลับมาได้ทุกครั้ง  มัจฉารีบผละออกห่างเจ้าของห้องทันทีที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันได้ลุกนั่ง

อาการแปล๊บที่ข้อมือก็ทำให้ต้องร้องออกมาเบาๆ
 
“เจ็บ “

เสียงร้องจากคนที่เข้ามาปลุก  ทำให้เขารีบผุดลุกนั่ง ผ้าห่มผืนใหญ่ร่นลงมากองที่หน้าตัก ทำให้มัจฉาตาโตกว่าเดิม

เพราะท่อนบนของเจ้าของห้องเปลือยเปล่า กระทบกับแสงไฟสีนวลตายิ่งทำให้ภาพนั้นดูเซ็กซี่ขึ้นมาทันที

 มัจฉาแอบบ่นให้ตัวเองในใจว่าไม่รู้จะตกใจไปทำไมเพราะร่างกายเขากับคุณสงครามก็เหมือนๆกันแม้จะต่างที่ขนาดก็เถอะ

คุณสงครามมีอะไรเขาก็มีแบบนั้น แล้วเขาจะตกใจไปทำไมนะ แค่คิดก็หงุดหงิดตัวเอง

“หึหึ  “

สงครามอดที่จะหัวเราะไม่ได้เมื่อมองเห็นหน้าเจื่อนๆเจือสีเรื่อๆสองข้างแก้มของพี่เลี้ยงลูกชาย  เขาตวัดผ้าห่มผืนใหญ่ออกจากตัว อย่างรวดเร็ว

“เฮ้ยย!!” มัจฉาร้องเสียงหลงอย่างลืมตัว  ก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อท่อนล่างของนายจ้างตัวโตยังมีกางเกงขาสั้นอีกตัวสวมอยู่

“อะไร...คิดว่าฉันโป๊อยู่หรือไง “อดไม่ได้ที่จะกระเซ้าเมื่อเห็นท่าทางตื่นตกใจเกินเหตุของมัจฉา

“ใครจะไปรู้เล่า หมดหน้าที่ผมแล้ว คุณสงครามไปอาบน้ำเลยผมจะไปเตรียมข้าวเช้าให้คุณหนู “

หน้างอๆนั่นสะบัดเล็กน้อยบอกให้รู้ว่าขัดใจกับการโดนแกล้งรับอรุณของเขา แต่สงครามกลับรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก 

นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีใครมาปลุกเขาตอนเช้าๆแบบนี้ 


“เตรียมให้แต่คุณหนูเหรอ แล้วพ่อของคุณหนูล่ะครับ”

มัจฉาร้อนวูบไปทั้งหน้ากับคำพูดที่ติดจะอ้อนนี่มันอะไรกัน หน้ายิ้มๆทั้งที่หัวกระเซิงแบบนั้น ยังดูดีในสายตามัจฉา แถมมาพูดจาแบบนี้เขาไม่เขินก็แปลกคนแล้ว

“ก็ให้ยายกิ่งเตรียมสิครับ”



“ไม่เอาอยากกินฝีมือปลา ...ไม่ได้เหรอ”มัจฉากัดปากล่างเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก  เขานิ่งๆไปเพียงครู่เดียวก็เอ่ยถามคนตัวโตขี้แกล้งที่ยืนมองเขายิ้มๆ

“คุณสงคราม..ไม่สบายหรือเปล่าครับ”

คราวนี้มัจฉาสงสัยว่าไอ้เสียงอ้อนๆชวนเขินแบบนี้เป็นเพราะเจ้านายตัวโตนี่ยังไม่ตื่นดี หรือว่าป่วยจนเบลอ

“ใจร้ายจริงๆคนเรา มาแช่งกันได้ไง ....เมื่อกี๊ที่บอกเจ็บน่ะเจ็บตรงไหน”สงครามคว้าเอาข้อมือของมัจฉาขึ้นมาดู

“โอ๊ย!”

“อ้าวขอโทษที มือนี่เหรอ ไหนมาดูซิ “

สงครามขยับไปนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง  และดึงเอาตัวมัจฉาให้นั่งลงข้างๆกัน ก่อนจะจับข้อมือเล็กๆนั่นพลิกไปมาเพื่อตรวจดู

เห็นรอยช้ำจางๆ ที่ข้อมือ ทำเอาเขาหงุดหงิดที่เห็นรอยช้ำพวกนี้บนตัวของมัจฉา

“ไปโดนอะไรมาเนี่ยเมื่อวานไม่เห็นมี “

มัจฉามองหน้านายจ้างตัวโตที่ดูจะสนใจรอยบนข้อมือเขาเกินกว่าปรกติเขาไม่ชินกับการถึงเนื้อถึงตัวเกินปรกติของคุณสงคราม
 
“เมื่อเช้านี่เองครับพอดีเข้าไปอาบน้ำ เดินไม่ระวังเลยสะดุดจะล้มผมเลยเอามือยันพื้นไว้ก็เลยเจ็บอย่างที่เห็น”

มัจฉาบอกคร่าวๆถึงเหตุที่ต้องเจ็บตัวเพิ่ม เขาว่าเขาระวังดีแล้วแต่มันก็ไม่ทันเห็น เพราะรีบด้วยล่ะ

“ซุ่มซ่ามจริง ข้อมือพลิกหรือเปล่าเนี่ยหืม ?”ถามพลางขยับเข้าใกล้จนคนตัวบางรู้สึกได้ว่านั่งชิดเกินไปจึงพยายามจะดึงมือออก

“เอ่อ..คงไม่มั้งครับ เดี๋ยวทายาก็หายแล้ว “ปากว่าอย่างนั้นแต่หน้าเริ่มร้อนๆขึ้นมาอีกแล้ว รู้สึกขัดเขินจนทำอะไรไม่ถูก

“ปลา”

“ครับ ?”

มัจฉาเงยหน้าขึ้นมองนายจ้างตัวโตที่ตอนนี้อยู่ใกล้ชิดเขามากจนใจสั่น แผ่นอกกว้างๆที่อยู่ใกล้แค่คืบ ทำให้มัจฉาต้องหลุบตาลง

หน้าเริ่มร้อนอีกแล้วสิ จะร้อนอะไรบ่อยๆเดี๋ยวได้ไหม้ทั้งหน้าหรอก

“เขินฉันหรือไง “

สงครามใช้มือเชยคางพี่เลี้ยงคนเก่งขึ้นมาเมื่อเจ้าตัวก้มหน้างุดหลบตาเขา แต่พอได้สบตา สงครามเองกลับจ้องมองไปทั่วใบหน้าหวานและแววตาที่ฉายแววสับสนในนั้น

 สายตาของสงครามจับจ้องไปที่ริมฝีปากบางสีส้มอ่อนๆนั่นมันทำให้เขานึกถึงเมื่อคืนที่เขาแอบขโมยจูบคนหลับ 

สงครามอยากจะลิ้มลองอีกสักครั้ง ว่ามันจะนิ่มสักแค่ไหน นิ้วโป้งที่จับคางมนนั่นเอาไว้กลับไล้ไปมาที่ริมฝีปากของคนตัวเล็ก


“อะ..เอ่อ..ผมไปทำข้าวเช้าดีกว่า “

มัจฉารวบรวมสติผลักอกแกร่งนั่นออกห่างก่อนจะลุกขึ้นและจ้ำพรวดๆออกจากห้องมาด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามแทบจะหลุดออกมานอกอก จนลืมความเจ็บที่ข้อมือและเท้าไปสนิท

สงครามถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งใจ เมื่อสักครู่เขาคิดอะไรนะ เขาอยากจูบมัจฉางั้นเหรอ ทำอะไรไม่คิดอีกแล้วจะว่าไปเวลาอยู่กับมัจฉาเขาก็เผลอตัวทุกที   

เมื่อคืนก็เผลอไปทีแล้วแม้เขาจะรู้ว่าเขาไม่ได้รังกียจสัมผัสกับมัจฉา แต่ใช่ว่าคนตัวบางนั่นจะชอบเขาเหมือนกันนี่นา   

สงครามยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเองนัก ถึงจะไม่เข้าใจแต่เขาก็กำลังยิ้ม  แกกำลังบ้าจริงๆนั่นแหละสงคราม 

ตอนนี้เขาพอจะรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่มันยังไม่ชัดเจนพอที่จะตอบคำถามตัวเองได้  เพราะความที่เขาและมัจฉาเป็นผู้ชายทั้งคู่

เลยต้องระวังเป็นพิเศษ ไหนจะมาเฟียลูกชายเขาอีก จะว่ายังไงดีล่ะ เหมือนทุกอย่างมันเข้ามาเร็วจนเกินไป จนเขาแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว

สงครามได้แต่เตือนตัวเองว่าให้ระวัง อย่าพึ่งรีบร้อนค่อยๆดูไปดีกว่า เอาไว้เขาแน่ใจเมื่อไหร่ เขาจะทำตามใจที่ต้องการเลยคอยดู 

สงครามใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน ก่อนจะเดินลงมาสมทบกับลูกชายที่โต๊ะกินข้าว

“คุณเดียวจะรับข้าวต้มหรือเอาแซนวิชคะ”

ยายกิ่งถามหลังจากยกกาแฟมาเสิร์ฟเจ้าของบ้าน แม้จะนึกแปลกใจที่เช้านี้คุณสงครามตื่นเช้า

เพราะปรกติกว่าจะตื่นก็สายจนทุกคนไปทำหน้าที่ของตัวเองกันหมดแล้ว  ไม่ว่าจะด้วยอะไร เธอเห็นคุณหนูของบ้านยิ้มร่าเริงแต่เช้า

เธอก็รู้สึกยินดีไม่น้อยเลย  ได้แต่ภาวนาให้เป็นแบบนี้ไปทุกวัน


“ยังดีกว่าครับ เช้าๆแบบนี้ผมยังกินอะไรไม่ลงแน่ๆ “

“ลองข้าวต้มดีไหมครับเช้าๆนี่ค่อยๆกินดีต่อร่างกายนะครับกินแต่กาแฟมันจะได้อะไรกัน”

มัจฉาที่บอกตัวเองว่า เหตุการณ์เมื่อเช้าคุณสงครามคงไม่ได้ตั้งใจเขาเองก็แค่ตกใจ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น พอคิดแบบนั้นแล้วทำให้คนที่คิดบวกปลอบใจตัวเองปรับตัวได้ค่อนข้างเร็ว
 
“ก็ฉันยังไม่หิวนี่”พูดไปมองหน้าพี่เลี้ยงไปสายตาไม่ห่างจากพี่เลี้ยงของลูกชายเลยนับตั้งแต่เดินเข้ามาที่โต๊ะกินข้าว

“เฟียก็ยังไม่หิวครับพ่อแต่พี่ปลาบอกว่าต้องกินเพราะสมองจะได้โตเร็วๆ”

“เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกไงครับ หึหึ “เหมือนคนร่างบางจะสนุกเมื่อเห็นหนทางแกล้งเขากลับ 

จะบอกว่าไม่กินเกิดลูกเอามาเป็นข้ออ้างดื้อไม่กินข้าวเช้าเหมือนกันล่ะก็ยุ่งตายเลย เฮ้อ...เอาก็เอา

“ขอข้าวต้มครับยายกิ่ง”เขาเอ่ยขึ้นอย่างขัดไม่ได้ สร้างความแปลกใจให้กับยายกิ่งแต่เธอก็รีบตักข้าวต้มให้คนตัวโตโดยไม่ว่าอะไร

“ใส่ต้นหอมอีกหน่อยครับ จะได้หอมๆ”มัจฉาว่าพลางตักเอาต้นหอมที่หั่นเตรียมไว้โรยลงบนชามข้าวต้มของสงคราม

“ฉันไม่ชอบกินต้นหอม”มัจฉาอยากจะหัวเราะด้วยความเอ็นดูคนแก่ที่ทำหน้ามุ่ยเหมือนลูกชายตัวน้อย

“ชู่ว์...ลูกมองอยู่ครับ”เสียงเอ่ยเบาๆข้างๆหูทำให้สงครามหันมาทำตาเขียวใส่คนที่กำลังบังคับเขากินข้าวต้มใส่ต้นหอมที่เขาไม่ชอบ

 แต่ไม่รู้ทำไมเขากลับชอบคำว่าลูกที่ออกจากปากของมัจฉา ทั้งยังคนตัวบางที่คิดแต่จะแกล้งเขาแต่ลืมไปว่าตัวเองเอียงหน้ามากระซิบ

จนแก้มใสๆนั่นแทบจะแนบกับแก้มของเขาแล้ว สงครามได้แต่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์แอบสูดกลิ่นหอมๆนั่นไปหลายที เขาคิดว่าบางทีความรู้สึกที่มันชัดเจนขราดนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้วก็ได้
 
“โห..คุณพ่อเก่งจังกินต้นหอมได้ตั้งเยอะ ..เฟียจะกินมั่ง พี่ปลาขออีก”

เด็กชายยกชามข้าวต้มที่กินพร่องไปเกือบหมดแล้วยื่นให้พี่เลี้ยงหลังจากทำตาโตใส่ถ้วยข้าวต้มของพ่อ 

สงครามทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฝากไว้ก่อนเถอะตัวแสบ ..สงครามคิดมาดมั่นในใจ พลางกลั้นใจตักข้าวต้มที่มีแต่ต้นหอมซอยเต็มถ้วยเข้าปาก

รสชาติของข้าวต้มทำให้ลืมต้นหอมไปสนิท ปริมาณข้าวที่พร่องลงเรื่อยๆทำให้ทั้งมัจฉาและยายกิ่งหันมายิ้มให้กัน

เป็นเช้าที่ยายกิ่งมีความสุขที่สุด เธออยากเห็นบรรยากาศแบบนี้ทุกวัน
 
“ยายๆ คุณเดียวเพี้ยนหรือเปล่านั่น ตื่นเช้าได้ด้วยแถมกินข้าวต้มชามเบ้อเร่อ”

“แกไม่ชอบหรือไง”คนเป็นยายย้อนถามหลานสาวที่ยังขะมักเขม้นล้างชามช่วยยาย

“แหม ชอบสิยาย แบบนี้ดีจะตาย ดีใจแทนคุณหนูเนอะ เป็นแบบนี้ไปตลอดก็ดี คุณปลาเธอนี่เก่งเนอะยายเนอะ หล่อด้วยใจดีด้วย
ตูมล่ะปลื๊มปลื้ม ..เออนี่ยายเมื่อวานตูมเห็นคุณเดียวหอมแก้มคุณปลาด้วยล่ะ  “


“ อย่ามัวแต่พูด...เรื่องของเจ้านาย อย่าพูดไปมันไม่ดีเข้าใจไหมมะตูม  ไปทำความสะอาดห้องคุณปลาเธอได้แล้วไป “

ยายกิ่งเอ็ดหลานสาวไปอย่างนั้น เพราะในใจเธอก็คิดเหมือนกันว่าบรรยากาศรอบๆตัวคุณปลากับคุณเดียวมันดูแปลกๆ

ดูมีความสุขอบอวลอยู่รอบๆ ที่มะตูมพูดบางทีอาจจะเป็นอุบัติเหตุคุณเดียวคงไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรอก

มะตูมคงเข้าใจผิดแต่ถึงจะเป็นเรื่องจริงยายกิ่งก็คิดว่าไม่แปลกอะไรเพราะคุณปลาเป็นคนดีน่ารักขนาดนั้น 

ดีซะอีกจะได้ตัดปัญหา เรื่องสาวๆทั้งเมียเก่าอย่างคุณมายาด้วย  หญิงชราได้แต่ซ่อนยิ้มในหน้า

พลางลอบมองคนสามคนบนโต๊ะกินข้าวไปด้วย


“หูย..ห้องคุณปลาน่ะแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เรียบร้อยขนาดนั้นบางทีตูมยังนึกอายเลยห้องตูมยังรกซะกว่า”

มะตูมว่าอย่างที่คิด ห้องนั้นสำหรับพี่เลี้ยง คนที่ผ่านๆมาน่ะเหรอ ผ้าห่มยังไม่เคยพับเองเลยด้วยซ้ำ แถมบางทียังต้องเอาเสื้อผ้ามาซักให้อีก

บางคนให้มะตูมซักกระทั่งชุดชั้นใน ถึงจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็เถอะ  แต่มะตูมก็ไม่เคยฟ้องคุณสงครามเพราะยายกิ่งบอกว่าทำๆไป

เพราะยังไงก็เป็นหน้าที่อยู่แล้ว แต่กับคุณปลา มะตูมมีหน้าที่แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้กับปัดกวาดเช็ดถูบ้างเท่านั้น

ที่เหลือคุณปลาของมะตูมทำเองหมด มันยิ่งทำให้มะตูมชื่นชมพี่เลี้ยงคุณหนูคนนี้มากเป็นพิเศษ

“ตุม”

“ขา..คุณเดียวมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ขอกาแฟให้ฉันอีกแก้วนะที่ห้องทำงาน”

“ได้ค่ะ”

เด็กสาวส่งยิ้มแก้มปริไปให้ก่อนจะลงมือชงกาแฟให้คุณสงคราม วันนี้คุณสงครามอารมณ์ดีหน้าไม่โหดเท่าไหร่ ทำให้มะตูมอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ มันช่างดีต่อใจมะตูมเหลือเกิน ฮิฮิ

“วันนี้พ่อไม่ได้ไปส่งนะครับเดี๋ยวเย็นๆพ่อจะรีบกลับนะ “

“ฮะพ่อ ตอนเย็นเฟียจะทำขนมกับพี่ปลาด้วยล่ะพ่อกลับมากินนะ  “

แม้ในใจจะคิดว่าถ้าพ่อไม่มาก็ไม่เป็นไรเพราะเมื่อวานนี้ ที่พ่อมีเวลาให้ทั้งเช้าและเย็น แถมเช้านี้อีกด้วยแค่นี้ เด็กน้อยก็ดีใจมากแล้ว

“ครับคนเก่ง อย่าดื้อกับพี่ปลาเขาล่ะ อ้อป๋อง..วันนี้ป๋องอย่าให้ปลาลงจากรถนะแค่ส่งเฟียหน้าโรงเรียนก็พอ ขายังไม่หายดี เดี๋ยวขากลับต้องไปทำแผลอีก”

สงครามหันไปสั่งคนรถไว้ด้วยคิดว่าพี่เลี้ยงคนเก่งต้องฝืนลงรถเดินไปส่งลูกเขาที่หน้าประตูแน่ๆ

“ผมเดินได้ครับ ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้ว ไปกันเถอะคุณหนูเดี๋ยวสายเนอะ”

สงครามส่ายหน้าให้กับคนดื้อที่ไม่ฟังเขาที่เป็นห่วงสักนิด...อ่า.จริงสินะ เขาเป็นห่วงนี่นา สงครามยิ้มให้กับตัวเองเมื่อฉุกใจคิดว่าเขาเอาแต่ห่วงพี่เลี้ยงลูกชายโดยที่เจ้าตัวไม่รู้อะไรสักนิด

มัจฉารีบพาคุณหนูไปขึ้นรถบอกตามตรงเขาไม่อยากอยู่ใกล้คุณสงครามเลยมันทำให้เขาเขินจนทำตัวแปลกๆตลอดเวลา
 
สงครามมองดูพี่เลี้ยงกับลูกชายขึ้นรถไปจนลับตา  ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป ในหัวก็เฝ้าแต่คิดถึงการกระทำของตัวเองและหน้าแดงๆของมัจฉา

 ...วันนี้เขาทำงานด้วยรอยยิ้มทั้งวันจนเลขาหน้าห้องทั้งเลขาส่วนตัวต่างแปลกใจไปตามๆกัน  คุณพระ !คุณสงครามยิ้ม

เป็นอะไรที่หาดูได้ยากมากๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ หลายคนก็ได้แต่ถามในความคิดของตัวเอง ตั้งแต่ทำงานบริษัทนี้มาเกือบห้าปี

คุณสงครามไม่เคยยิ้มเลยสักครั้งนอกจากยิ้มการค้าที่มีให้กับลูกค้าและผู้ร่วมหุ้น แต่รอยยิ้มแบบวันนี้ เป็นรอยยิ้มของคนที่ดูมีความสุขฉายชัดออกมาจากแววตา ไม่มีใครรู้ว่าทำไม ท่านประธานอารมณ์ดีทั้งวัน

 
มีแต่สงครามที่รู้ว่าวันนี้เขาอารมณ์ดีสาเหตุหนึ่งมาจาก JSR  บริษัทที่เขาปลุกปั้นมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยตลอดห้าปี 

ได้เป็นที่ยอมรับของนักลงทุนที่บินมาจากญี่ปุ่นและอเมริกา จนได้ตกลงร่วมหุ้น ขยายกิจการของเขาและเปิดตลาดใหม่ ทั้งสองประเทศ 

การที่ได้ลงนามร่วมทำการค้ากับต่างชาติที่เป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจอย่างอเมริกาและญี่ปุ่น

มันทำให้ชื่อเสียง JSR ของสงครามดังเพียงชั่วข้ามคืน หุ้นพุ่งขึ้นสูงจนติดเพดานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 
จากนี้ไปแม้ว่างานจะหนักแต่ก็ไม่ถึงขั้น กินนอนที่อ๊อฟฟิศอย่างที่แล้วมา  เขาและเพื่อนๆจะได้พักบ้าง คงมีเวลาให้ลูกเยอะขึ้น

ไอ้ธรกับไอ้รันก็คงมีเวลาทะเลาะกันมากขึ้น แต่อีกหนึ่งสาเหตุที่อารมณ์ดีนั้น  เพราะคนที่อยู่ในห้วงคิดเขาแทบจะตลอดเวลา

 มัจฉา..เป็นคำตอบสำหรับรอยยิ้มของเขา สงครามไม่เคยวางใจว่าจะมีใครดูแลลูกเขาได้ดี ความรู้สึกผิดเมื่อคราวที่เขาพลั้งมือตีลูก 

มันยังหลอนเขาอยู่ไม่หาย  เขาใช้เวลาห้าปีทุ่มเทให้กับบริษัทฯ ทุ่มลงไปสุดตัวกับงาน แต่เวลานับจากนี้ไปจนตลอดชีวิต เขาจะทุ่มกลับไปที่ลูก และใครอีกคน...

………………………………


เป็นวันแรกในรอบปีที่เขากลับบ้านก่อนห้าโมงเย็น  เพราะไม่อยากผิดนัดลูก หลังจากคราวนั้นที่การผิดนัดของเขาทำให้ลูกต้องเสียใจและพี่เลี้ยงต้องเจ็บตัว
 
“วันนี้ ผมว่าจะทำขนมหวาน คุณสงครามชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ  “

“ขนมหวานเหรอ  บัวลอย ทำได้ไหมฉันไม่ได้กินนานแล้ว”

“ได้ครับทำง่ายๆเอง บัวลอยไข่หวาน คุณหนูชอบกินหรือเปล่าครับ “มัจฉาผละจากคนพ่อไปถามลูกชาย ที่นั่งซ้อนตักพ่ออยู่

“ชอบฮะ แต่เฟียอยากทำด้วยได้ไหมพี่ปลา”

“ได้สิครับ  งั้น ไปปั้นแป้งกันเนอะ “

“ไปๆ “

เด็กน้อยกระตือรือล้นที่จะช่วยพี่เลี้ยงทำขนม ไหนบอกว่าอยากอยู่กับพ่อไง พอพ่อกลับมาไม่เห็นจะสนใจพ่อเลยสักนิด

สงครามคิดพลางส่ายหัวกับอาการติดพี่เลี้ยงของเจ้าตัวแสบ 

“งั้นพ่อทำด้วยได้ไหม”

เขารีบเสนอตัวทันที นั่นทำให้ยายกิ่งต้องแปลกใจเมื่อคุณสงครามเข้าครัวแต่ก็ต้องยิ้มเมื่อเห็นว่าคุณหนูของเธอกำลังมีความสุข เธออยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันจริงๆเลย
 
 มัจฉาผสมแป้งสำหรับทำขนม จัดการให้คุณพ่อเป็นคนนวดแป้ง โดยมีเขาคอยดูอยู่ใกล้ ๆและลูกชายคอยเชียร์

  “ใส่น้ำอีกหน่อยครับ  อ๊ะ!!“

มัจฉาเทน้ำลงไปในชามแป้งที่อีกคนกำลังขะมักเขม้น ในการนวดแป้งโดยใช้มือข้างเดียว  จนเผลอบีบมือแรงๆ เป็นเหตุให้น้ำที่ยังไม่ซึมเข้าเนื้อแป้งกระเด็นไปโดนเต็มหน้าของมัจฉา

“โทษๆ ฮ่าๆๆ”สงครามกลั้นหัวเราะไม่ไหว เมื่อเห็นหน้าพี่เลี้ยงลูกชายเลอะไปด้วยแป้งสำหรับทำขนม

“พี่ปลาหน้าขาวเลย คิกคิก”

ทั้งพ่อทั้งลูก ที่เอาแต่หัวเราะเขา ทำให้มัจฉาพยายามเช็ดแป้งออกจากหน้า จนลืมไปว่ามือเขาก็เลอะเหมือนกัน

“หึหึ มานี่มา “สงครามจับเอามือเล็กๆนั่นไว้ก่อนที่แป้งจะเลอะไปทั้งหน้า ทั้งยังดึงเอาตัวพี่เลี้ยงคนสวยมายืนใกล้ๆ
 
เขายื่นมืออีกข้างที่ยังไม่เลอะแป้ง เช็ดไปตรงที่แป้งเลอะข้างแก้มเบาๆ สายตายังจ้องมองไปที่หน้าของมัจฉา 

สวย...ผู้ชายอะไรจะสวยได้ขนาดนี้กันนะ

“เอ่อ...ผมเช็ดเองได้ครับ ปล่อยก่อน “เสียงประท้วงแผ่วเบาทำเขายิ้มได้ทั้งวัน

“แหนะๆ พ่อแกล้งพี่ปลาอีกละ  “เสียงของลูกชายทำให้เขาผละออกจากพี่เลี้ยง มัจฉาก้มหน้างุดอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

ผู้ใหญ่สองคนสาละวนกับการทำแป้งขนม มัจฉาที่ยังคงเขินอายกับการกระทำของนายจ้างตัวโต

แต่การกระทำก็ยังไม่เท่ากับสายตาที่ส่งมาให้   แก้มใสยังมีสีเรื่อๆติดอยู่ที่พวงแก้มตลอดเวลา สงครามที่เอาแต่มองดูหน้าพี่เลี้ยงแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างคนอารมณ์ดี
 
ยายกิ่งที่เฝ้าสังเกตการณ์ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าเป็นอย่างที่เธอคิด เรื่องยุ่งๆคงตามมาอย่างแน่นอน  เธอไม่ได้รังเกียจเรื่องรักร่วมเพศ

ตรงกันข้ามเธอออกจะดีใจด้วยซ้ำที่เป็นคุณปลา หากคุณสงครามจะรักใครสักคน แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เธอเป็นห่วงคุณหนู เป็นห่วงคุณปลา

ทั้งยังเป็นห่วงคุณสงคราม  คนที่ผ่านร้อนหนาวมามากอย่างเธอ แค่มองดูก็รู้ว่าคุณสงครามคิดอะไรกับพี่เลี้ยง

แต่เวลาสั้นๆแค่นี้ และอีกอย่างพี่เลี้ยงคนนี้เป็นผู้ชาย  คุณสงครามคิดยังไงกัน ไม่ใช่ว่ามาหลอกเล่นให้คุณปลาเธอเสียใจนะ 

จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ยายกิ่งได้แต่นึกเป็นห่วงคุณหนูมาฟียมากที่สุด 
 
เป็นมื้อเย็นที่อบอวลไปด้วยความสุข  ทั้งรอยยิ้มทั้งเสียงหัวเราะ มัจฉาอยากจะให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลย
 
หลังจากคุณหนูเข้านอน มัจฉาก็มาช่วยยายกิ่งเก็บครัวเช่นเคย
 
“คุณปลาไปพักผ่อนเถอะค่ะ เหลือแค่ล้างจานพวกนี้นิดเดียว ยายล้างเองนะคะ “

“ขอบคุณครับ งั้นปลาไปอาบน้ำก่อนนะครับ “

“ค่ะไปเถอะ”

ยายกิ่งหันไปง่วนอยู่หน้าอ่างล้างจาน  มัจฉาผละออกมาจากครัว รอยยิ้มยังกระจายอยู่ทั่วใบหน้าสวยของคุณพี่เลี้ยงที่ดีใจแทนคุณหนู 

ถ้าเป็นอย่างนี้ไปตลอดก็คงจะดี  คุณสงครามก็ไม่ได้ดุอย่างที่เขากลัวตั้งแต่แรก ออกจะใจดีด้วยซ้ำ และ...ท่าทางแบบนั้น

ยิ่งคิดถึงท่าทางที่เจ้าของบ้านปฏิบัติต่อเขามัจฉาก็พลันจะหายใจไม่ออกเอาดื้อ ๆ

ทั้งที่ใจดีเรื่องเรียนหนังสือ ทั้งที่อ่อนโยนต่อเขาเมื่อเขาเจ็บตัว ไหนจะการกระทำแปลกๆคำพูดแปลกๆ 

คงไม่มีอะไรหรอก  คุณสงครามคงจะเป็นคนใจดีแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ พี่ป๋องก็เคยบอกแบบนั้น อย่าคิดอะไรให้มากเลย

แค่คุณสงครามดีกับเขาขนาดนี้มันก็เพียงพอแล้ว 

…….
.
.
.
.
TBC ..................

อรุณสวัสดิ์ค่า...พันวามาแว้ววววว 5555ช่วงนี้เหมือนจะแบ๊วมากตั้งกะวันที่ต้องเป็นพี่เลี้ยงจำเป็น ก็สนุกดีค่ะ 

แต่เลี้ยงเด็กนี่เหนื่อยเนอะ ขนาดพันวาอยู่ด้วยแค่คืนเดียว ยังเหนื่อยขนาดนี้ แล้วคนที่มีลูกต้องเลี้ยงกว่าจะโตนี่ท่าทางจะเหนื่อยมากเนอะ

 จากเดิมที่ตั้งใจจะวีนคุณพ่อบ้างานคนนั้นตอนนี้เริ่มเห็นใจนิดๆแล้วแฮะ  :hao5:

เนื้อเรื่องช่วงนี้จะเรื่อยๆนะคะ เป็นการขยับความสัมพันธ์ของคนสองคนไปเรื่อยๆก่อน  จะพยายามหวานนะ 555

แต่พันวาหวานไม่ค่อยเป็นสังเกตได้จากนิยายพันวาฉากหวานแหววน้อยมาก  :sad4:

เป็นคนไม่หวานเนอะ แต่จะพยายามนะ  :hao5:

เช่นเคยนะค๊าพบเจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยค่า :katai4: :katai4:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณมากมายสำหรับคนเม้นท์  ขอบคุณค่าาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1:




ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ครอบครัวอบอุ่นดีจัง คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกยายกิ่ง อิอิ

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปอะเนอะ  :hao7:  :กอด1:  :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สถานการณ์สงบแบบน่าระแวงหน่อย ๆ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ปลาไม่คิดเข้าข้างตัวเองเลยก็ดีแล้วแหละเนอะ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เป็นกำลังใจให้คุณพ่อสงครามจีบแม่ปลาอย่างละมุนละม่อม จะได้ทั้งแม่และไม่เสียลูก
เป็นครอบครัวอบอุ่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทั้งน่ารักและอบอุ่น.  อยากรู้จังค่ะ.  คุณเดียวเส้นขีดสุดของความน่ารักและอบอุ่นสักเพียงไหน.  ปรอทแตกไหม.   แก้มพี่ปลาจะแตกไหมค่ะ?

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด