** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ** ความรักที่หายไป **แจ้งข่าว**เปิดจองพี่เดียวน้องปลา 17/12/61-17/1/62  (อ่าน 163453 ครั้ง)

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มันต้องค่อย ๆ ดีไปเรื่อย ๆ แหละเนาะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
อ่านไปยิ้มไป  แค่อีกใจกำลังกลัวว่าพายุจะเข้า

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ละมุน น่ารักมาก

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หวัดดีคุณพันวาค่า :กอด1:
ขอบคุณที่จะชวนไปออกรอบน้า^^บอกกงๆว่าเล่นไม่เป็น555
คือรู้สึกอิจฉาเล็กๆแต่ชื่นชมมากๆกับผู้หญิงที่ชอบกีฬานี้อ่าค่ะ คิดว่าเก่งมีสมาธิและความอดทนสูงมากๆ

ชอบที่ให้ปลาเป็นคนไม่คิดเข้าข้างตัวเอง
อีกฝ่ายยังไม่ชัดเจนอะไรมากมาย ปลาก็ไม่หวั่นไหวและรีบทึกทักไปเองว่าเขามีใจให้
นับว่าเป็นเรื่องดีที่ควรจะเซฟหัวใจตัวเองไว้ก่อน
รออ่านต่ออยู่นะคะ :pig4:


ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เรื่องนิยายที่ชอบบบบบจริงๆ 10 10 10 ไปเลยจ้า

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5


ตอนที่ 9  เผลอ..เป็นห่วง


จากวันที่คุณสงครามทำมัจฉาตื่นตกใจในห้องนอนตอนที่เขาไปปลุกวันนั้น ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว 

เหมือนอะไรๆจะลงตัวไปหมด คุณสงครามกลับบ้านทุกวัน และตอนเช้า มัจฉาจะเข้าไปปลุก ทุกเช้าเหมือนเดิม 

แต่เหตุการณ์เหมือนๆวันแรกที่เข้าไปปลุกคนตัวโตนั่นไม่มีอีกแล้ว เหมือนคุณสงครามจะระวังการกระทำมากขึ้นทำให้เขาเบาใจไปเยอะ
 
แต่ก็ยังพูดจาแปลกๆกับเขาเหมือนเดิม รอยยิ้มใจดีนั่นก็เหมือนเดิม  ไหนจะคอยซื้อหนังสือมาให้เขาอ่านอีกกองเท่าภูเขา

บางครั้งมัจฉาต้องคอยบอกว่าอย่าพึ่งซื้อเพราะเขาอ่านไม่ทัน  ชีวิตประจำวันของมัจฉาก็ยังมีแต่คุณหนูเหมือนเดิม
 
เดี๋ยวนี้มัจฉาต้องคอยรับมือกับลูกอ้อนคุณหนูที่อ้อนให้เขานอนด้วยทุกวัน  บางวันเขาก็ต้องบอกว่าคุณหนูโตแล้วต้องหัดนอนคนเดียว 

เคยนอนคนเดียวมาตั้งนานมาดื้อเอาตอนนี้ได้ยังไง บางวันเขาก็ต้องรอให้คุณหนูหลับค่อยย่องออกจากห้อง

 
 
และวันนี้ก็เช่นกัน กว่าจะส่งคุณหนูเข้านอนได้ก็เกือบสามทุ่ม  หลังจากส่งคุณหนูเข้านอนแล้ว

 มัจฉาก็เข้ามาช่วยยายกิ่งเก็บครัวเช่นทุกวัน  กว่าจะเก็บทุกอย่างเรียบร้อย ดูเวลาก็ปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว 

ก่อนเข้านอน มัจฉาจะออกมาตรวจเช็คความเรียบร้อยของบ้านอีกครั้ง แสงไฟจากห้องรับแขก และเสียงโทรทัศน์ที่ยังดังอยู่ทำให้มัจฉาสาวเท้าเข้าไปดู

“อ้าว ? คุณสงครามไม่ไปนอนล่ะครับ  ดึกแล้วนะ“

ภาพนายจ้างตัวโตนั่งเอนตัวอยู่กับโซฟาตัวใหญ่ ในมือมีแก้วบรั่นดี ถืออยู่ เหมือนจะพร่องไปบ้างแล้ว

“ยังไม่ชินนอนหัวค่ำ   มานั่งเป็นเพื่อนหน่อยสิ “สงครามใช้มือตบลงเบาะโซฟา สองสามทีเป็นเชิงบอกให้พี่เลี้ยงลูกชายมานั่งด้วย

“คุณสงครามกินเหล้า?”เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“หือ..แค่นี้เอง จิบๆเป็นยา เธอจะกินไหมล่ะ “

“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบแอลกอฮอล “

“อือ...ไม่ได้กินมากมาย แค่จิบๆทำให้หัวโล่งดีจะได้หลับง่ายๆ “

“มีวิธีอื่นตั้งเยอะแยะ แค่อยากกินเหล้าไม่เห็นต้องหาข้ออ้างเลย “

มัจฉาอดเถียงไม่ได้เขาไม่ชอบเหล้าเพราะพ่อเคยติดเหล้าช่วงที่แม่ทิ้งพวกเขาไปใหม่ๆ  เหล้าทำให้พ่อเปลี่ยนไป เขาเลยไม่ชอบมันสักเท่าไหร่


“วิธีไหนล่ะหืม “สงครามแกล้งชะโงกหน้าเข้ามาใกล้พี่เลี้ยงของลูกชาย เขารู้สึกสนุกที่ได้แหย่ให้มัจฉาทำหน้างอๆ

“มีสิครับ คุณสงครามวางแก้วก่อนครับ “

แต่อีกคนไม่รู้สึกถึงการกลั่นแกล้งของคนตัวโตเพราะยังคงพุ่งความคิดทั้งหมดไปที่เหล้าและอาการนอนไม่หลับจนต้องกินเหล้าของคนตัวโต

“หืม ?”

สงครามแปลกใจ ที่มัจฉาไม่โวยวายเวลาที่โดนเขาแกล้ง ร่างโปร่งบางของพี่เลี้ยงลุกเดินไปหยิบเอาหมอนอิงใบใหญ่มา
ก่อนจะนั่งขัดสมาธิ แล้วเอาหมอนวางบนตัก

“คุณสงครามนอนเอาหัวมาวางตรงนี้ครับ"

 บอกพลางตบหมอนบนตักตัวเองอย่างคนไม่คิดอะไร แต่สงครามกำลังอึ้ง นี่มัจฉาจะรู้ตัวไหมนะว่ากำลังทำอะไรอยู่ แบบนี้มันอ่อยกันชัดๆนี่หว่า 

“จะทำอะไร”

ไม่แน่ใจเท่าไหร่จึงถามไปแบบนั้น เพราะคนอย่างมัจฉาเนี่ยนะจะอ่อยเขา หึหึ ซื่อบื้อน่ะสิไม่ว่า คิดอะไรบ้างเถอะ ก่อนที่เขาจะคิดเยอะไปกว่านี้ 

“นอนลงครับ “

เสียงดุๆแต่ไม่ได้น่ากลัวเลยในความคิดของสงคราม เขาวางแก้วในมือลงบนโต๊ะ ก่อนจะเอนตัวลงนอนหงาย

เอาหัวหนุนหมอนที่วางอยู่บนตักของมัจฉาเงยหน้าขึ้นมองพี่เลี้ยงคนสวย  ที่ยื่นมือเรียวมาจับประคองหน้าเขาเอาไว้นิ่งๆ

ก่อนจะลงมือนวดคลึงเบาๆตั้งแต่หน้าผาก ขมับ และนวดวนไปมาที่ขอบตาและหัวคิ้ว

 มือนุ่มนิ่ม ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆที่สงครามคิดไม่ออกว่ามันคือกลิ่นอะไร แต่เป็นกลิ่นที่ทำให้เขาผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาดจนต้องหลับตาลง

“เป็นไงครับ “

มัจฉาถามเมื่อเห็นสงครามหลับตาลง รับสัมผัสจากมือเขา  ท่าทางตึงเครียดผ่อนลงไปจนเขาต้องยิ้มด้วยความดีใจ ที่สามารถทำให้คุณสงครามผ่อนคลายลงได้

“อืม...สบายดีจัง ไปเรียนมาจากไหน”

“ผมเคยนวดให้พ่อบ่อยๆครับ  พ่อจะปวดหัวบ่อยเวลาเครียดๆ “

มัจฉาเล่าไปพร้อมทั้งนวดวนไปทั่วใบหน้า ด้วยเขาไม่อยากให้คุณสงครามกินเหล้า ไม่อยากให้คุณหนูร้องไห้เหมือนเขา
คุณสงครามบอกแค่จิบๆ แต่เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี

“กินหล้าไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ กินให้หลับ ตื่นมาก็ปวดหัวอยู่ดี”

“พูดเหมือนเคยกิน “

“เปล่าครับ เห็นพ่อเป็นบ่อยๆตอนเมา “คำบอกเล่าของมัจฉาทำให้สงครามอดคิดไม่ได้ว่า คนๆนี้เคยใช้ชีวิตแบบไหนมากันนะ
 
“ฉันไม่มีคนมานวดให้นี่ เลยต้องพึ่งเหล้า “

“ก็อย่าโหมงานหนักมากสิครับ กินอาหารดีๆ พักผ่อนให้พอเดี๋ยวร่างกายก็ปรับได้เอง คุณสงครามทำงานหนัก ยังจะมากินเหล้าอีก นอนก็ไม่ค่อยพอ สุขภาพจะแย่เอานะครับ ”

“เป็นห่วงฉันเหรอ”

รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจเมื่อคิดว่าคนตัวบางเป็นห่วงเขา ไม่ใช่ไม่มีใครคอยเป็นห่วงเขา ทั้งกันธร และการันต์ ต่างเป็นห่วงเขา

ทั้งยายกิ่งมะตูมและป๋อง แต่ความเป็นห่วงของมัจฉาทำให้เขารู้สึกแปลกไปจากทุกคน

ไม่ใช่ไม่ดีใจที่ทุกคนเป็นห่วง แต่อาการดีใจมันต่างกันจนรู้สึกได้ ท่าทางจะเป็นเอามากแล้ว สงคราม

ชายหนุ่มได้แต่บ่นตัวเองในใจ


“เอ่อ...เป็นห่วงคุณหนูต่างหากล่ะครับ ถ้าคุณสงครามกลับบ้านบ่อยๆ อยู่กับคุณหนูบ่อยๆ คุณหนูจะดีใจยิ้มทั้งวัน  แต่ถ้าคุณสงครามเมาไม่กลับบ้านคุณหนูก็จะเศร้า  ผมสงสารคุณหนู เพราะฉะนั้น คุณสงครามต้อง พักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวก็หลับได้เอง ไม่ต้องกินเหล้า“


ไม่รู้ทำไมมัจฉาถึงได้อธิบายยาวเหยียดขนาดนั้นทั้งๆที่คุณสงครามถามสั้นๆเอง

“ไม่เอา อยากนวด มันสบาย “

มัจฉาก้มลงมองหน้าผู้ใหญ่ที่กำลังงอแง สงครามที่หลับตาอยู่ๆก็ลืมตาทำให้เห็นใบหน้าของพี่เลี้ยงที่ห่างกันแค่คืบ

เขาลืมตาขึ้นมองพี่เลี้ยงของลูกชาย แววตาที่มองมามันสับสนความไม่เข้าใจ ของมัจฉาทำให้เขาลืมตัว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่สายตาเขาเอาแต่ไล่ตามพี่เลี้ยงของลูกชาย ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ในความคิดมีคนชื่อมัจฉาคนนี้เต็มไปหมด 

รู้ตัวอีกที เขาก็คิดอกุศลกับพี่เลี้ยงของลูกชายไปแล้ว  อยากสัมผัสริมฝีปากนั่นอีกสักครั้ง อยากทำมากกว่าจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางๆนั่น

 อา...ทำไมนะเขากลายเป็นคนที่คิดแต่เรื่องแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


สงครามยกมือขึ้นคว้าเอาต้นคอของมัจฉาเอาไว้แล้วกดเบาๆโน้มเอาใบหน้าเนียนนั่นเข้ามาใกล้ ๆ

เขายกหน้าตัวเองขึ้นมาจนชิดกับใบหน้าของมัจฉารู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

สายตาของสงครามจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากบางๆนั่น มัจฉาก้มลงไปตามแรงกดที่ต้นคอ ในหัวอื้ออึงไปด้วยคำถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ 

จนกระทั่งรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก  แรงกดย้ำเบาๆเข้ามาเรียวลิ้นที่สัมผัสกับริมฝีปากของเขาทำให้มัจฉาใจสั่น
 
“อย่า ....”

เอ่ยห้ามเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก มันเหมือนมีอะไรติดขัดลมหายใจ  เหมือนมีสัญญานบอกว่าเขากำลังจะเป็นอันตราย 


.. สงครามถอนริมฝีปากออกจากปากสีสดของอีกฝ่าย พลางยันกายลุกขึ้นนั่ง มองหน้าพี่เลี้ยงคนสวยชัดๆ

เขารู้ว่าเขากำลังทำอะไร  แต่ความนุ่มความหอมตรงหน้ามันพาให้เขาขาดสติ เขาที่ห่างหายจากเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่มายาทิ้งเขาไป

ไม่ว่าจะมีผู้หญิงหลายคนเข้ามาหาเขา ตีสนิทหรือ ใกล้ชิดเขาจนล่อแหลมไปในทางนั้น แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นหรือมีอารมณ์ร่วมกับเธอเหล่านั้น จนกันธรค่อนขอดว่าเขาตายด้านแล้ว


แต่กับมัจฉาแค่ดวงหน้าขาวๆความนุ่มนิ่มของริมฝีปากที่เขาสัมผัสแค่บางเบา ดวงตาปรือปรอยของมัจฉามันกลับทำเขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว


“.......”


ไม่มีคำพูดเล็ดลอดออกมาจากปากเขา มือหนายังไล้วนไปมาที่สองข้างแก้ม ตาสบตา เห็นความหวาดหวั่นสั่นระริกอยู่ข้างใน

 สงครามโน้มหน้าเข้าหามัจฉาอีกครั้งแต่คราวนี้มัจฉาดึงสติตัวเองได้ทันก่อนจะออกแรงยันหน้าอกคนตัวโตเอาไว้
 
“ผะ...ผมจะ...ไปนอนแล้ว”

 เอ่ยเสียงขาดๆหายๆ ก่อนจะลุกพรวดพราดแล้วเดินขึ้นด้านบนตรงไปที่ห้องนอนตัวเอง

สงครามยังนั่งอยู่กับที่ทบทวนการกระทำของตัวเองไป พลางเอามือลูบหน้าหนักๆ  อย่างเหนื่อยใจกับตัวเอง 

หรือว่าเขาห่างหายเรื่องอย่างว่ามานานเกิน หรือว่าเขา ควรจะแน่ใจได้แล้วว่าเขารู้สึกอย่างไรกับมัจฉา 


ฝ่ายมัจจฉาที่เข้าห้องมาก็ได้แต่เอามือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายที่มันเต้นระรัวไม่หยุด

คุณสงครามจูบเขางั้นเหรอ จูบทำไม เขาไม่เข้าใจว่าทำไม เขาถึงรู้สึกวูบไหวไปทั้งตัว ทำไมเขารู้สึกดีแบบนั้นมันรู้สึกดีเสียจนเขาอยากจะร้องไห้

อีกคนได้แต่ยืนพิงประตูห้องเอามือกอบกุมหน้าอกที่เต้นกระหน่ำเอาไว้อย่างไม่เข้าใจ

อีกคนกลับนั่งคิดถึงความนุ่มนิ่มของริมฝีปากบางสวย คิดถึงความหอมที่เขาฉวยโอกาสเอากับคนใจดีที่วิ่งหนีเข้าห้องไปแล้ว

คิดถึงว่า เขาจะทำยังไง ที่จะได้มีโอกาส จูบ อีกสักครั้ง ใจรู้สึกขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องกลัวอะไรอีก ยิ่งแน่ชัดในความรู้สึกริมฝีปากก็หยุดยิ้มไม่ได้เลย
 
................................

เป็นเช้าที่ขัดเขินสำหรับมัจฉาที่จะต้องเข้าไปปลุกคุณสงครามตามหน้าที่ๆได้รับมา

ทำไมกัน ที่ผ่านมาเขาเข้ามาปลุกคุณสงครามได้โดยไม่คิดอะไร แต่พอเหตุการณ์เมื่อคืน มันทำให้ มัจฉาคิดมากจนหัวแทบแตก

 ถ้าเขาไม่ปลุกล่ะ คุณสงครามก็จะตื่นสาย คุณหนูก็จะไม่ได้กินข้าวกับพ่อ คุณหนูจะเสียใจ 

มัจฉายืนลังเลอยู่หน้าห้องคนตัวโตก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูและเปิดเข้าไป คุณสงครามยังหลับอยู่ 

ดูเอาเถอะขนาดเขาเคาะห้องดังขนาดนี้ ยังไม่ได้ยิน นี่ถ้าโจรขึ้นบ้านไม่ถูกปล้นจนหมดตัวหรือไงนะ

ยิ่งคิดแบบนั้นยิ่งหงุดหงิด จนลืมความกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ลืมแม้กระทั่งว่าเมื่อคืนพึ่งจะโดนคนขี้เซานี่ขโมยจูบไป

 มัจฉาเดินตรงไปที่เตียงหลังใหญ่ก่อนจะยื่นมือเข้าไปเขย่าแขนเจ้าของเตียงเช่นที่เคยทำ

“คุณสงครามครับ ตื่นได้แล้วครับ “

หมั่บ!

“อ๊ะ คุณสงครามปล่อยก่อนครับ”


แล้วเหตุการณ์ก็เข้าอีหรอบเดิมเหมือนเช้าวันแรกที่เขามาปลุก   ร่างบางถลาเข้าสู่อ้อมกอดของคนตัวโตที่ตั้งใจดึงแขนมัจฉาเข้าหา

 จนล้มกลิ้งลงไปบนเตียงกว้างพร้อมกับเจ้าของเตียง สงครามพลิกร่างเพรียวบางนั่นลงข้างล่างกักกันคนตัวหอมเอาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง

เขาตื่นอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่เสียงเคาะประตู  แต่เขาไม่บอกมัจฉาหรอกว่าแค่เคาะประตูเขาก็ตื่นแล้ว แกล้งเป็นคนขี้เซาก็ดีเหมือนกันแฮะ

“ไม่ปล่อยหรอกเมื่อวานปลาหนีฉันขึ้นห้องก่อนนี่นา “

“แต่..แต่..แบบนี้มัน..”มัจฉาแย้งเสียงสั่น เพราะท่าทางเขากับเจ้าของห้องมันล่อแหลมเกินไป

“มันอะไร หืม “

สงครามถามทั้งยังโน้มหน้าลงมาหาใกล้ๆจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ชิดแก้มเนียนที่คงจะขึ้นสีเรื่อๆ ถ้ามีแสงสว่าง

สงครามกอดรัดเอาคนตัวบางเข้าหาเขาจนแนบชิด  ทิ้งน้ำหนักทาบทับลงไปทั้งตัว 


มัจฉาใช้สองมือยันหน้าอกของเจ้าของเตียงไว้ ใจที่เต้นกระหน่ำจนกลัวว่าตัวเองจะหัวใจวาย

สงครามแนบหน้าลงตรงหน้าอกของมัจฉา เสียงที่ได้ยินทำให้เขายิ้มกว้างทั้งๆที่ยังไม่ได้เห็นหน้าคนตัวบางในอ้อมกอด 

เพราะเสียงนั่นมันบ่งบอกว่ามัจฉาเองก็คงคิดไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่

 
“นี่..ปลา ถึงฉันจะยังบอกไม่ได้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ ฉันแค่อยากอยู่ใกล้ๆ อยากกอดแบบนี้  อยากจูบแบบเมื่อวาน   

ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ฉันอยากจะแน่ใจ ก่อนที่จะทำมากกว่าสิ่งที่ฉันบอกเธอไป

เพราะฉะนั้น ฉันขอได้ไหม ขอโอกาส ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินไปปกว่าจูบนะ จนกว่าเราสองคนจะแน่ใจว่ามันไม่ใช่แค่ อารมณ์ชั่ววูบ นะปลา ได้ไหม”


เสียงทุ้มฟังนุ่มหูดังเบาๆอยู่ใกล้ๆ จนคนฟังแทบจะละลายเข้าไปในอ้อมกอด

มัจฉานิ่งเงียบไปเมื่อได้ยินแบบนั้น หน้าก็ยังไม่หายร้อน เขาคิดว่าตอนนี้หน้าเขามันคงแดงเถือกไปหมดแล้ว

คนบ้าอะไรพูดได้ไม่อายปากว่าอยากจูบผู้ชายอยากทำอะไรๆ แบบนั้นโอ๊ย.คุณสงครามต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

มาขอโอกาสกับเขาโอกาสอะไรกันเล่า  มัจฉาได้แต่โวยวายในใจ มัจฉาเองจะว่าคุณสงครามบ้าคนเดียวก็คงไม่ถูกนัก

เพราะตัวเขาที่ยอมให้คุณสงครามกอดนี่ยิ่งกว่าบ้าเถอะ แค่คิดก็อยากจะบ้า ตั้งแต่เล็กจนโตมัจฉาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้ 

เจ๊นิดยังเคยแซวว่าเขาจีบใครไม่เป็นเลยไม่มีแฟนทั้งๆที่หน้าตาออกจะดี


“แต่..ว่า ผมๆเป็นผู้ชาย แล้วๆ คุณสงคราม มีคุณหนู..ผมทำไม่ได้หรอกครับ คุณหนูจะเสียใจ”

เสียงใสเอ่ยออกไปอย่างละล่ำละลักยิ่งมัจฉาคิดแบบนี้สงครามยิ่งไม่คิดจะปล่อยไป ต้องมัจฉาเท่านั้น  มัจฉาที่คิดถึงลูกเขาก่อนตัวเองทุกครั้ง


“เรื่องมาเฟียเอาไว้เราแน่ใจค่อยคุยกับลูกนะ ส่วนเรื่องของเรา ปลาว่าไง ให้โอกาสฉันหรือเปล่า หืม ?”

“อะ..โอกาสอะไร “

มัจฉามองหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างหน้าของเขาเพียงแค่เล็กน้อย ใบหน้าที่ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มทั้งยัง น้ำเสียงแบบนั้น มันดูล่อลวงเจ้าเล่ห์พิกล


“ขอจีบปลา...ได้ไหมครับ “

เสียงทุ้มนุ่มหู กระซิบสั่นอยู่ข้างๆ จมูกโด่งยังคลอเคลียหากำไรไม่ว่างเว้น มัจฉาที่หมดแรงในอ้อมแขนของสงคราม

ทั้งๆที่คนตัวโตนั่นยังไม่ได้ทำอะไรเขาด้วยซ้ำ  แบบนี้มันแย่มากเลย เขาเสียเปรียบเห็นๆ  มัจฉาได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากัน

 ด้วยความครุ่นคิด สงครามมองหน้าเนียนใสที่เริ่มชัดเจนในความมืดสลัวเมื่อเขาเริ่มชินกับแสงสว่างเพียงเล็กน้อย ในห้อง

 เขาใช้มืออีกข้างค่อยๆประคองดวงหน้าที่ยังคง งุนงง ให้เข้ามาใกล้ๆเขา ใบหน้าคมคายดูหล่อเหลาแม้ยามที่พึ่งจะตื่นนอน  เคลื่อนใกล้เข้า

“มะ..ไม่..”

สิ้นเสียงสั่นๆ คนตัวโตก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นแก้มนิ่มๆแทนปากนุ่มๆของคนที่กำลังสั่นอยู่ในอ้อมกอดเขาตอนนี้

จากที่อยากจะจูบให้สมกับความต้องการเมื่อเห็นว่าอีกคนคงจะยังไม่พร้อมเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เขาต้องใจเย็นกว่านี้

 ถ้าเขาบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป มัจฉาต้องหนีเขาแน่ๆเลย


“ไม่อะไร..ไม่ให้จีบ หรือไม่ให้จูบ” คำถามที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ อย่างหยอกเย้า
 
“ไม่ให้จูบ “ด้วยความรีบร้อนที่จะตอบเลยไม่นึกว่าคำตอบของตัวเองกำลังเข้าทางของอีกคน

“อ้อ..ไม่ให้จูบแต่จีบได้ รับทราบครับ พี่เดียวจะจีบน้องปลาแล้วนะ หึหึ “


มัจฉาได้แต่อ้าปากค้างกับการที่คุณสงครามแทนตัวเองและเรียกเขาว่าน้องทั้งยังตีความเข้าหาตัวเองแบบนั้น

คุณสงครามผู้ที่เคยเคร่งขรึมน่ากลัวคนนั้นหายไปไหน  ยิ่งคำแทนตัวแบบนั้นใครจะทนไหวกันล่ะมาพ่งมาพี่แบบนี้

ใครจะไปรอดกันเล่า   ยิ่งคิดแบบนั้นมันยิ่งทำให้มัจฉาทั้งเขินทั้งหมั่นไส้จนต้องกำหมัดแน่นๆ แล้วทุบเข้าตรงหน้าอกคนขี้แกล้งเท่าที่เรี่ยวแรงเขาจะอำนวยตอนนี้

ปั่ก!!!

“โอ๊ย..ใจร้าย “เสียงงึมงำดูไม่ได้เจ็บจริงอย่างที่ร้องออกมายิ่งทำให้มัจฉาหงุดหงิดที่เอาคืนไม่ได้ 

“ปล่อยได้แล้วผมจะไปเตรียมข้าวเช้า”

 เสียงเบาหวิวที่หลุดรอดออกมาจากคนขี้เขินที่ทุบเขาไปเมื่อสักครู่ทำให้สงครามต้องกดจมูกลงบนแก้มอีกข้าง อย่างจงใจ
 
“ คุณสงคราม !”เสียงที่เริ่มจะหงุดหงิด ของคนตัวบางทำให้สงครามรีบปล่อย เพราะขืนทำให้โกรธเดี๋ยวเขาก็อดน่ะสิ
อดจีบนะ หึหึ


มัจฉารีบก้าวออกจากห้องนอนของคนขี้แกล้งอย่างเร่งรีบทันทีที่อ้อมแขนของคนขี้แกล้งคลายออก

ในหัวเต็มไปด้วยคำพูดของคุณสงคราม** ขอจีบ** บ้าแน่ๆคุณสงครามบ้าไปแล้วแน่ๆเลย


....................................


“พี่ปลาเป็นอะไร ?”

คุณหนูตัวน้อยเอ่ยถามพี่เลี้ยงที่กำลังตั้งใจทำอาหารเช้าให้ วันนี้เด็กชายอยากกินข้าวผัดสีชมพูที่พี่ปลาเคยบอก

เขาอยากรู้ว่าไอ้ข้าวผัดมันจะเป็นสีชมพูได้ยังไง เพราะทุกครั้งที่ยายกิ่งผัดให้กินมันไม่ใช่สีชมพูนี่นา
 
“เปล่าครับ ทำไมคุณหนูถามแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็ พี่ปลาไม่ได้ยินที่เฟียเรียกนี่ เรียกไปตั้งหลายครั้งตัวก็เฉย “

เสียงติดจะงอน ของคุณหนูทำให้มัจฉากลั้นขำ แต่ก็ต้องหยุดคิด ตามคำพูดของนายจ้างตัวน้อย

“คุณหนูเรียกพี่ปลาทำไมครับ”

มัจฉาไม่ตอบคำถามของคุณหนูแต่เลี่ยงที่จะถามแทน  จะให้ตอบได้ยังไงล่ะว่ากำลังเหม่อคิดถึงพ่อของคุณหนูน่ะ

บ้าจริงแค่คิดหน้าก็ร้อนๆอีกแล้ว เขาจะทำอย่างไรดีกับความรู้สึกแบบนี้ มันไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ยิ่งมองดูหน้าคุณหนูมัจฉายิ่งเศร้าในหัวใจ เขาจะทำผิดต่อคุณหนูไม่ได้ เขาทำไม่ได้.....



“เฟียอยากเห็นข้าวผัด ทำยังไง “


“งั้นคุณหนูมานั่งนี่ดีกว่ามาครับ”

มัจฉาดึงมือน้อยมานั่งลงตรงโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องครัว  วัตถุดิบในการทำข้าวผัดสีชมพูที่อยู่ในถ้วยวางอยู่บนโต๊ะ ให้นายจ้างตัวน้อยได้มองดูด้วยความสนใจ

“พี่ปลาเฟียอยากทำ”

“คุณหนูล้างแตงกวาก็พอครับ ตรงนี้มันร้อน “

มัจฉาว่าพลางหยิบกะละมังใบย่อมใส่น้ำมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมทั้งเทแตงกวาออกจากถุง ลงในกะละมังที่เตรียมไว้

มัจฉาจัดการแนะวิธีให้คุณหนูตัวน้อยได้ช่วยงาน ตอนนี้เขาควรสนใจคนลูกมากกว่า เรื่องของคนพ่อ เอาไว้ก่อนเถอะนะ 

คิดได้อย่างนั้น มัจฉาก็ยิ้มออกมาอย่างไม่ต้องคิดมากไปกว่าเดิมอีก  ยายกิ่งมองดูทั้งพี่เลี้ยงและคุณหนูที่ช่วยกันทำกับข้าว  ก่อนจะเดินเข้าไปสมทบ


“ทำอะไรกันคะ “

“ทำข้าวผัดครับยายกิ่ง ”มัจฉาหันมายิ้มให้ผู้เข้ามาใหม่ 

“ข้าวผัดสีชมพูด้วยล่ะยาย”เด็กน้อยฉีกยิ้มแฉ่งเมื่อพูดถึงของที่ไม่เคยเห็น

“โอ..เหรอคะ ทำยังไงเหรอคะคุณปลา”

ยายกิ่งเป็นคนรุ่นเก่า กับข้าวบางอย่างที่คนรุ่นใหม่ๆดัดแปลงเพื่อความสวยงามยายกิ่งจะไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่ อย่างข้าวผัดสีชมพูนี่ก็เหมือนกัน
 
“ก็ทำเหมือนข้าวผัดทั่วไปแหละครับยาย เพียงแต่จะมีซอสเย็นตาโฟเอามาผัดกับข้าวทำให้เป็นสีชมพูครับ”

หญิงชราส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ เธอชอบที่คุณปลาพยายามทำทุกอย่างให้คุณหนู

ก่อนไปโรงเรียนคุณปลาจะทำข้าวกล่องเมนูแปลกๆ ใหม่ๆ หน้าตาน่ากินให้คุณหนูไปโรงเรียนทุกวัน

หากวันไหนมีเวลามากคุณหนูก็จะเข้ามาช่วย  แบบนี้ทุกเช้ามันเป็นภาพที่เธออยากให้เจ้าของบ้านได้มาเห็นจริงๆ 

คิดพลางหันไปมองที่ประตูห้องครัวก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคุณสงครามในชุดกางเกงขาสั้นสีเทา กับเสื้อยืดตัวโคร่ง ที่ใส่อยู่กับบ้าน 

ยืนพิงประตูห้องครัวมองมายังลูกชายและพี่เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว และยังส่ายหน้าให้ยายกิ่งเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไร 

หญิงชราได้แต่ยิ้มรับคนเป็นนายก่อนจะหันไปคุยกับสองหนุ่มต่างวัยในห้องครัว

 
“วันนี้เฟียขอห่อข้าวสีชมพูไปโรงเรียนได้ไหมฮะพี่ปลา”

“ได้สิครับ  เดี๋ยวพี่ปลาทำไข่ปลาดาวให้ด้วยนะ “

“ฮะ..เฟียชอบไข่ปลาดาว  “

เด็กชายที่ชื่นชอบการดัดแปลงอาหารของพี่เลี้ยง   ตั้งแต่จำความได้กล่องข้าวที่เอาไปโรงเรียนก็มีตลอด

แต่ไม่มีครั้งไหนที่อาหารจะหน้าตาสวยงามและน่ากินเหมือนกับที่พี่ปลาทำให้  ไข่ดาวธรรมดาๆ พี่ปลายังทำเป็นรูปปลาดาวได้

 และเขาก็ชอบกินมากเสียด้วย


  ..........................

ตัวอักษรเกินค่ะ ต้องต่อด้านล่างนะ  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
......

ต่อจากด้านบนค่า :katai5: :katai5:



...............................................


สงครามมองดูลูกชายที่ยิ้มแป้นไปกับพี่เลี้ยง มือเล็กๆที่พยายามล้างแตงกวาในกะละมัง

ทั้งยังคอยชะโงกดูพี่เลี้ยง ปรุงข้าวผัดบนเตา สงครามใช้สายตากวาดมองไปทั่วร่างของมัจฉา

เขาพิจารณา คนที่ยืนอยู่หน้าเตา อย่างเงียบๆ มัจฉาเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงพอประมาณ น่าจะไม่เกิน 175 เซ็นติเมตร 

แต่ด้วยความผอมของเจ้าตัวเลยดูเหมือนสูงพอสมควร  แต่ก็เตี้ยไปเลยเมื่อมาเทียบกับเขา

 มัจฉาทำให้เขานึกถึงการันต์ เพื่อนรักเขาอีกคนที่ตัวคงจะพอๆกัน ในกลุ่มมีแค่เขาและกันธรที่ดูจะสูงเกินมาตรฐานชายไทย

 สงครามอยากให้มัจฉามีเนื้อมีหนังมากกว่านี้  แม้ว่าความผอมจะทำให้ดูดี แต่บางทีมันก็ผอมเกินไป 

สงสัยเขาต้องขุนมัจฉาอีกนิดมีเนื้อกว่านี้อีกสักหน่อยพอดีมือเลย หึหึ


“ให้พ่อช่วยล้างไหมฮึ “เขาเดินไปนั่งลงข้างๆลูกชาย ที่ยังล้างแตงกว่าไม่เสร็จ

“อ๊ะ!..พ่อฮะ วันนี้พี่ปลาทำข้าวผัดสีชมพูด้วยล่ะ”


นี่เป็นอีกอย่างที่เป็นข้อดีของมัจฉา พี่เลี้ยงคนนี้เข้าใจทำอาหารให้เด็กสนใจกิน ผักที่มีให้บ้างในเมนูไม่มากไปจนลูกเขาเบื่อ

แต่ก็ไม่น้อยไปจนลูกเขาขาดสารอาหาร  มัจฉาใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกชายเขา ชักจะอิจฉาลูกแฮะ

“มีแต่ข้าวผัดลูก แล้วของพ่อล่ะครับ”

มัจฉาไม่ได้หันไปโต้ตอบคนที่ทำทีว่าคุยกับลูกแต่เสียงดังเหมือนบอกเขายังไงยังงั้น 

เดี๋ยวห่อข้าวผัดสีชมพูให้ไปกินซะเลยนี่ เอ๊ะ..ความคิดดี มัจฉายิ้มกริ่มอยู่คนเดียวเมื่อนึกถึงประธานบริษัทหิ้วปิ่นโตไปทำงานและข้างในเป็นข้าวผัดสีชมพู หึหึหึ


“หัวเราะแบบนี้ คิดอะไรอยู่ ฮึ”เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆทำเอาคนที่คิดแผลงๆต้องสะดุ้งก่อนจะรีบปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว


“ก็..กำลังคิดว่า จะทำปิ่นโตให้ท่านประธานอยู่น่ะครับ “

ทั้งคำพูดแฝงนัยทั้งน้ำเสียงที่เหมือนจะกำลังกลั้นขำแถมแววตาวาววับเหมือนคนที่กำลังเจอเรื่องสนุกๆทำให้สงคราม เกิดอาการระแวงขึ้นมาทันที


“เอ่อ...ฉันล้อลูกเล่นเฉยๆ”

“ไม่ได้ครับ พอได้ยินคุณสงครามพูดแบบนั้นผมเลยคิดว่า ในเมื่อคุณสงครามเป็นนายจ้าง และยังอยากได้ส่วนแบ่งปิ่นโตจากคุณหนู

ผมเลยตั้งใจทำเป็นพิเศษ แล้วแบบนี้ ท่านประธานจะไม่รับน้ำใจจากผมเหรอครับ “


สงครามมองคนที่แสร้งทำหน้าเศร้าแต่แววตาสั่นระริกด้วยความสนุก คนที่แสร้งทำเสียงอ้อนใส่เขาอย่างลืมตัว

เพียงเพราะต้องการแกล้งเขาหรืออาจจะเอาคืนเรื่องเมื่อเช้า  ทำให้เขาต้องยิ้มแหยๆพลางถอยหลังกลับไปนั่งอยู่ข้างๆลูกชาย

เขาชะโงกมองดูข้าวผัดสีสันสวยงามที่อยู่ในกระทะ อย่างหวาดๆ ไม่ได้กลัวที่จะกิน ถ้าหากต้องกินที่บ้าน

เพราะรสชาติอาหารที่มัจฉาทำนั้นอร่อยใช้ได้ แต่..การหิ้วปิ่นโตเข้าบริษัทนี่สิ...


“เอ้า...เสร็จล่ะ อันนี้ของคุณหนู อันนี้ของท่านประธาน  กินให้หมดนะครับ ไม่งั้นคนทำเสียใจนะ”

มาอีกแล้วไอ้เสียงอ้อนๆแต่ฟังดูอันตรายแบบนี้ ทำให้สงครามต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่  ผิดกับลูกชายที่ยิ้มเริงร่า เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

สงครามมองกล่องเมลามีน สี่เหลี่ยมสีขาวสะอาดตา ที่บรรจุข้าวผัดสีชมพูตกแต่งหน้าตาน่ากินอยู่เต็มกล่อง

ที่พี่เลี้ยงลูกชายส่งมาให้ ก่อนจะรับเอาไว้ เอาก็เอาวะไม่มีใครรู้สักหน่อยว่าข้างในคืออะไร 

มัจฉาได้แต่กลั้นขำทีแรกคิดจะแกล้งทำเล่นๆแต่ไม่คิดว่าท่านประธานจะรับเอากล่องข้าวไปจริงๆทั้งที่ทำหน้าเหมือนกินยาขมขนาดนั้น หึหึ...น่ารักดีเหมือนกันนะคุณพ่อ ..


..................................


“ท่านประธานคะมื้อกลางวันนี้ท่านจะรับอะไรคะ “

เป็นปรกติทุกวันที่เลขาหน้าห้องจะเข้ามาถามเมื่อได้เวลามื้ออาหาร แต่วันนี้ แทนที่จะได้คำตอบจากประธานกลับได้รับการโบกมือให้แทน  พร้อมกับคำปฏิเสธที่เธอแทบจะไม่เชื่อหู


“ไม่เป็นไรยุ้ย ผมมีแล้ว”

มีแล้ว?คือมีอะไรคะท่านไม่เคลียร์เลย แต่เลขาคนสวยก็ได้แต่ทำหน้างงๆก่อนจะถอยออกมาพลางปิดประตูให้เสร็จสรรพ จนชนเข้ากับคนที่กำลังจะเดินเข้าห้องพอดี

“อุ๊ย!!”

“ขอโทษครับคุณยุ้ย”

“อ๊ะ คุณรัน ..คือท่านประธานแปลกๆนะคะวันนี้น่ะ “

หลายคนอาจจะกลัวคุณรันที่ทำหน้านิ่งตลอดเวลาแต่เลขาหน้าห้องกลับรู้ดีว่าคนๆนี้ใจดีขนาดไหน

“แปลก?”

“ก็ไม่สั่งอาหารเหมือนเคย ไม่ไปทานกับลูกค้า และบอกว่ามีแล้ว  นี่แหละค่ะที่ยุ้ยว่าแปลกๆ”

“อืม..ก็แปลกจริงๆนั่นแหละไม่เป็นไรเดี๋ยวผมดูเองนะ”

 “ค่า ^^ “


การันต์ยืนมองคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านาย ที่นั่งนิ่งๆมองข้าวในกล่องเมลามีน ที่วางอยู่ตรงหน้าเขาไม่รู้ว่าในกล่องมีอะไร

 แต่หน้าบอสเขานี่ มันละมุนแปลกๆ รอยยิ้มน้อยๆ กับสายตาอ่อนโยนที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว  หรือว่า...


“อะแฮ่ม “แค่เขากระแอมเบาๆแต่สงครามสะดุ้งสุดตัวแบบนั้นมันมีพิรุธชัดๆ

“อ่า...กูยังงไม่พร้อมให้มึงมาซักฟอกกูตอนนี้นะเว้ย เอาไว้เดี๋ยวว่างๆกูเล่าให้มึงฟังหมดเลยโอเค้”


ประโยคยาวๆที่บอกมาก่อนที่เขาจะถามนั่นมันบ่งชัดว่าเพื่อนเขากำลังมีความลับ และความลับนั้นต้องเป็นเรื่องของหัวใจอย่างแน่นอน

  การันต์หวังว่าคราวนี้ สงครามจะเจอคนที่รักกันจริงๆเสียที การันต์ไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้ม

และส่งสายตาให้เพื่อนเป็นทำนองบอกว่ากูรู้แล้ว และกูจะไม่พลาดโอกาสเสือกเรื่องของมึงแน่นอนสงคราม มึงเตรียมใจไว้เลยหึหึ..

.
.
.
..

TBC .......


หวัดดีค่าาาาาาา โฮ้ยยยยคิดถึงๆหายไปหลายวันจิลงแดงไม่ได้อัพนิยาย 5555555

จริงๆวันนี้พึ่งเสร็จงานรอบเช้า เลยรีบมาลงไว้ก่อน เพราะคาดว่าคงยุ่งอีกยันค่ำ พรุ่งนี้เดินทางอีกแล้ว สามวันกลับค่า

มาเรื่องพ่อสงครามดีกว่า จริงๆสงครามเจ็บหนักมาเมื่อคราวโดนเมียทิ้ง ความเจ็บปวดนั้นพันวาใส่ไว้ในพาร์ทของ คู่หน่วง การันต์+กันธร ที่กำลังปั่นตามมาติดๆ

แรกเริ่มตั้งใจใส่มาเป็นคู่รอง แต่พอแต่งๆไปมันมีรายละเอียดเยอะ เลยแยกเรื่องซะเลย คนเขียนมันอินดี้ 5555

จริงๆสงครามปิดกั้นตัวเองพอสมควร แต่เจอนุ้งปลาที่ทุ่มเทความรักให้ลูกชายเขาเพียงคนเดียว ก็ทำเอาสงครามลืมที่จะปิดหัวใจตัวเองไปเลย

ส่วนน้องปลา เป็นเด็กที่ต้องการความรักมากๆ น้องขาดความรัก  พอมาเจอคุณหนูมมาเฟียที่เปิดใจให้เขาก่อนคนพ่อ

และความขี้อ้อนของคุณหนูน้องปลาเลยทุ่มหมดหน้าตัก พอหันมาเจอคุณพ่อน้องปลาเลยลังเล ไม่ได้กลัวที่จะรัก แต่ความลังเลนั้น เหตุมาจากคุณหนูตัวน้อย

เพราะปลารักคุณหนูมาก เขากลัวว่าความรักของเขาจะทำให้คุณหนูเสียใจ

เหตุเลยกลับกัน คนที่กลัวความรักกลับพยายามที่จะรักเพื่อยึดอีกคนเอาไว้ 

คนที่อยากจะรักกลับลังเลที่จะรักเพราะกลัวจะเสียอีกคนไป


เหมือนจะมาม่า 5555555 ไม่หรอก น่ารักไสๆเนอะ 5555555


ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่าน และมาเม้นท์ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:   

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกันไป เดี๋ยวลูกก็เปิดใจเองแหละ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ทำไมละมุนได้ขนาดนี้
ชอบจุดยืนของปลา ถึงจะหวั่นไหวแต่พยายามห้ามใจ ดีอ่ะ

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ชอบความใส่ใจของปลาที่มีต่อน้องเฟียจังเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้องเฟียน่าร้ากก

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ปลาน่่ารักจังเลยยยยยยย  :man1:

มีอุปกรณ์ทำกับข้าวสำหรับเด็กนะคะ น้องเฟียลอง
อ้อนพ่อให้พาไปซื้อเลย  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2017 12:20:40 โดย PiiNaffe »

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ปลาผู้น่ารักจะเสร็จคุณเดียวซะละ :ling1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ชอบปลามาก คนไม่มีพ่อแม่ใช่ว่่าจะต้องทำตัวแย่

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



ตอนที่  10  แขกที่ไม่ได้เชิญ..



“เดียวคะ เดี๋ยวนี้ยุ่งเหรอคะ คุณไม่มีเวลาให้แจงเลยนะ “

“แจง..ผมต้องทำงานนะ “

“แต่ตอนนี้เที่ยงแล้วและวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ พักบ้างก็ได้ค่ะ เดียวเป็นเจ้าของบริษัทนะ   ไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ “

สาวสวยไม่วายดื้อดึง สงครามเป็นที่ต้องตาต้องใจสาวๆไม่ว่าจะสาวน้อยสาวใหญ่ไฮโซแม้กระทั่งพนักงานในอ๊อฟฟิศ

ต่างให้ความสนใจในตัวพ่อหม้ายเนื้อหอมคนนี้  แต่สงครามกลับปิดกั้นทุกคน หัวใจเขาปิดสนิทไม่เปิดรับใครเลยแม้แต่คนเดียว 

จันจิราจึงใช้ความเป็นเพื่อนเข้าหาชายหนุ่มเขาเป็นเพื่อนในวัยเด็กของเธอ แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยเรียน เพราะจันจิราไปโตที่ต่างประเทศ แต่ก็นับว่าสนิทกันพอควรในวัยเด็ก

แจงเองชอบสงครามมาตั้งแต่ก่อนที่สงครามจะแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังพ่อของเธอและเขาเป็นเพื่อนรักกัน  สงครามเลยปฏิเสธเธอได้ไม่เต็มที่นัก


“จะไปไหนกันเหรอ  “เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นที่ประตูห้องทำงาน กันธรเดินเข้ามาพร้อมยิ้มร่าเริง ส่งให้เพื่อนรักและหญิงสาวในห้อง 

“หวัดดีคุณแจงคนสวย  ไม่ทำงานทำการหรือไงกัน”

กันธรเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ แม้แจงจะเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กของสงครามเป็นลูกสาวเพื่อนรักพ่อของสงคราม

แต่กับเขา จันจิราไม่ได้เกี่ยวข้องรู้จักกันทางไหน  ช่วงที่เขาไปต่อปริญญาโท ที่ออสเตเรีย  เขาเจอจันจิราที่นั่น

และได้เห็นความเหลวแหลกของผู้หญิงคนนี้ แต่จันจิราไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของสงคราม

และเพราะแบบนั้นมันทำให้เขาได้ รู้ว่าจันจิราเป็นคนยังไง   หลังจากที่มายาแม่ของมาเฟีย ทิ้งไอ้เดียวไป

เธอคนนี้ก็เข้ามาตีสนิททำไมเขาจะไม่รู้ว่าแจงคิดอะไรกับสงคราม ถ้าเป็นคนอื่น เขาจะไม่ห้ามเลยสักนิด

แต่ผู้หญิงคนนี้  ไม่เหมาะที่จะมาเป็นแม่ของเจ้าหนูมาเฟียหลานเขาแน่ๆ


“ เจ้าของบริษัทอย่างฉันน่ะ ไม่ต้องทำก็มีกินนะ ไม่เหมือนลูกจ้างอย่างนาย เดียวควรปรามลูกน้องบ้างนะลามปามเจ้านายได้ยังไง ”

จันจิราว่าเหน็บกันธรอย่างไม่คิดจะถนอมน้ำใจเธอรู้สึกไม่ชอบหน้านายคนนี้อย่างแรง แม้ว่าจะคุ้นๆหน้าแต่เธอก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันธรที่ไหน

แต่เพราะดูเหมือนกันธรจะรู้ทันเธอไปทุกอย่าง เธอเลยไม่ชอบหน้านายคนนี้เอาเสียเลย 

อีกอย่าง เพราะนายคนนี้เป็นแค่ลูกจ้างในบริษัทของสงคราม เธอจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรักษามารยาท ไม่รู้สงครามลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนี้ทำไม 


“แจง ธรมัน..”สงครามชะงักไปเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนที่บอกว่าไม่ต้องพูดอะไร

“ทำไมคะเดียวไม่เห็นต้องเกรงใจเลยพวกลูกจ้างแบบนี้ ..แล้วนี่....เดียวมีนัดทานข้าวกับแจง ...คนเดียว ”หญิงสาวเน้นคำว่าคนเดียวใส่หน้าอีกคน


“อ้าว ท่านประธาน จะมีนัดกับคุณแจงได้ยังไง วันนี้วันเสาร์ เจ้านายผมนัดลูกชายไว้แล้วนี่  ผมเลยต้องมาขับรถให้ท่านประธานของผม  เชิญคุณแจงมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยครับ”

อย่าได้มีคำว่าให้เกียรติผู้หญิงในคำพูด เพราะถ้าเป็นคนอื่นกันธรจะไม่พูดหรือทำแบบนี้แน่ๆ แต่กับจันจิราเขารู้ดี ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนดีพอที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเพื่อนเขาหรือมาเป็นแม่เลี้ยงหลานเขา


“ต้องขอโทษแจงด้วยนะครับ  พอดีนัดลูกเอาไว้แล้วน่ะ “

สงครามรีบเอ่ยทันทีแม้ว่าตอนบ่ายเขาจะมีงานไม่ได้นัดลูกแต่ก็ขอไปหาลูก ดีกว่าไปกับจันจิรา  เขารู้สึกขอบคุณเพื่อนที่มาได้จังหวะมาก

 กันธรรู้ดีว่าเขาไม่ได้ชอบพอกับจันจิราแต่ทุกวันนี้ที่ยังไปไหนมาไหนด้วยเพราะเกรงใจลุงทด   

แต่การที่เขาทำแบบนั้นกลับกลายเป็นว่าจันจิราตีความเข้าข้างตัวเอง
 
“งั้นแจงไปด้วยนะคะ แจงยังไม่ได้เจอน้องเฟียเลย นะคะเดียว  แจงไปด้วยนะ”

“นี่คุณ เดียวมันอยากอยู่กับครอบครัวนะคนนอกไม่เกี่ยว”

“แล้วนายเป็นอะไรก็แค่ลูกจ้าง ยังไปได้ ทำไมฉันจะไปไม่ได้......นะคะเดียว”  สงครามถอนใจเฮือกรู้ว่าถ้าปฏิเสธจันจิราเรื่องคงไม่จบแน่ๆ

“ก็ได้ครับ  งั้นแจงออกไปรอที่ห้องรับรองก่อนนะครับ ผมขอเคลียร์งานกับธรแป้บนึง“

“ได้ค่ะ เร็วๆนะคะ”

พอคล้อยหลังหญิงสาว สงครามก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทั้งยังทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวโตอย่างหมดแรง

“มึงไม่บอกไปเลยล่ะวะว่าไม่ชอบ”

“กูเคยพูดแล้วเถอะ  ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่แจงคนเดียวมึงก็รู้นะธร  “

“ก็..เออ...กูเข้าใจมึง แต่กูว่าลุงทดแกรู้จักลูกสาวแกดีนะ  วงในฉาวโฉ่จะตายมีหรือจะไม่รู้”

“ธร ไม่เอาน่า อย่าลามผู้ใหญ่ ลุงทดกับแจงคนละคนกัน    อย่างน้อยงานศพพ่อกูถ้าไม่มีลุงทดกูคงไม่รู้จะทำไง“

“เกรงใจก็ส่วนเกรงใจสิวะ พ่อเป็นคนดีใช่ว่าลูกจะดีเหมือนพ่อซะเมื่อไหร่กัน เฮอะ..”

“เอาน่า ..เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูโทรหาลูกก่อน  “

สงครามกดเบอร์โทรฯเข้าที่บ้านเสียงรอสายดังอยุ่นานกว่าจะมีคนมารับ
 
(สวัสดีครับ )

“ปลาเหรอ”

( ครับ ? )

“อีกสักครึ่งชั่วโมงฉันจะกลับไปกินข้าวกับลูกนะ ช่วยบอกยายกิ่งเตรียมกับข้าวให้ด้วย อ้อ  เผื่อเพื่อนฉันด้วยนะ สองคน”

(ครับ..ได้ครับ)เสียงร่าเริงดังมาตามสายทำไห้สงครามอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ นี่คงจะลืมเรื่องนั้นไปแล้วมั้งหึหึ

สงสัยเขาจะต้องหาโทรศัพท์ไว้ให้ปลาสักเครื่องแล้ว เผื่อเกิดมีอะไรจะได้ติดต่อได้ง่ายกว่านี้

“แน่ะ ๆ ยิ้มๆ ถ้าปลายสายเป็นผู้หญิงนะเดียวกูนี่คิดว่ามึงตกหลุมรักชัวร์เลยเพื่อน”

“ไร้สาระน่า นั่นผู้ชาย และอีกอย่างเด็กมันเป็นเด็กดีไม่แปลกที่กูจะเอ็นดูนะ “

สงครามยังไม่อยากจะพูดอะไรมากตอนนี้ เอาไว้เขาจีบมัจฉาติดเมื่อไหร่ ค่อยบอกเพื่อนอีกที

แม้ว่ากันธรจะบอกว่าไม่ได้รังเกียจถ้าเขาจะคบใคร แต่เขาก็ไม่อยากจะให้เรื่องของมัจฉาทำให้เพื่อนต้องคิดมาก

 “กูก็ว่ามันยังแปลกอยู่ดี มึงน่ะเสือยิ้มยากจะตายห่า นี่อะไรแค่คุยโทรศัพท์...”กันธรหรี่ตามองเพื่อนอย่างสงสัย

“พูดมากน่า  มาช่วยกูเคลียร์เอกสารดิ๊ จะได้ไปสักทีเดี๋ยวลูกรอ “

“หึหึ ลูกรอ หรือใครรอ วะ เดี๋ยวนี้หายใจเข้าออกเป็นลูกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ “


“มึงพูดซะกูดูเป็นพ่อที่แย่เลยว่ะ “

เสียงหัวเราะของเพื่อนรักทำให้สงครามอดที่จะหมั่นใส้ไม่ได้ มันคงจริงอย่างหนึ่งที่กันธรพูด เขาเป็นคนยิ้มยากมาแต่ไหนแต่ไร

แต่เท่าที่จำได้ตั้งแต่รู้จักเด็กปลาคนนั้น เขายิ้มบ่อยมาก แค่วันเดียวที่อยู่กับเด็กนั่นเขายังยิ้มมากกว่าทั้งปีรวมกันเสียอีก

บางทีเขาอาจจะไม่ต้องคิดมาก เพราะความรู้สึกมันบอกเขาชัดเจนอยู่แล้ว สงครามคิดพลางยิ้มในหน้าอย่างอารมณ์ดีขึ้น

เมื่อคิดถึงหน้าเนียนๆของอีกคน  ผิดกับกันธรที่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจในตัวเพื่อน


......................................


“สงสัยฝนจะตกเดือนเมษาคุณเดียวกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน”มะตูมเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก พลอยทำให้ยายกิ่งหัวเราะไปด้วย

“ขนาดนั้นเลยหรือตูม”

“ใช่ค่ะคุณปลา คุณเดียวน่ะ ไม่ได้กินข้าวกลางวันหรือข้าวเย็น  ที่บ้านนานมากแล้ว  หลายปีเลยมั้งตั้งแต่คุณมายา...”

“....ตูม!..”

ยายกิ่งรีบปรามก่อนที่หลานสาวจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น  มันยังไม่ถึงเวลาที่คุณปลาจะรู้อะไรตอนนี้ เอาไว้ดูกันไปสักพัก

หากคุณปลาของเธออยู่ที่นี่ได้เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ก็จะต้องบอกกล่าวกันไป แต่บางเรื่องยายกิ่งคิดว่าให้เป็นเรื่องส่วนตัวของนายจะดีกว่าเอามาพูดกันไปทั่ว
 
มัจฉาไม่ถามอะไรต่อ ท่าทางของยายกิ่งทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่าเป็น เรื่องที่ไม่ควรรู้   เขาเองพึ่งจะได้รู้มาไม่นานว่าคุณสงครามเป็นพ่อหม้าย

แต่ไม่รู้ถึงสาเหตุการหย่า เพราะงั้นเขาเลยเลือกที่จะเงียบเรื่องนี้  ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไร นอกจากเรื่องคุณหนูมาเฟีย ไม่รู้เป็นเพราะทั้งชีวิตเขาอยู่คนเดียวมาตลอด


 พอได้มาดูแลคุณหนูมันเลยทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องอยากดูแล คุณหนูน่าสงสาร มัจฉาคิดว่าเพื่อนคนแรกของเขาคือคุณหนูด้วยซ้ำ

เด็กๆมักจะใสซื่อคิดอะไรพูดและแสดงออกไปตามนั้น ที่ผ่านๆมา มัจฉาเจอแต่คนไม่จริงใจ ขนาดพ่อกับแม่ปากบอกว่ารักเขา

ที่จริงแล้วกลับไม่มีใครสักคนที่ต้องการเขา  มัจฉาถือว่าตัวเองยังโชคดีที่เจอนายจ้างดีๆแบบคุณสงคราม ถึงแม้พักหลังมานี่คุณสงครามจะชอบทำตัวแปลกๆกับเขาก็ตามที


......................................

“พ่อ..! ลุงธร”เสียงร่าเริงของลูกชายที่วิ่งออกมารับเขาที่หน้าบ้านทันทีที่จอดรถ 

“เดียวกูบอกให้มึงสอนลูกว่าไง ไอ้นี่ ......น้องเฟียครับ อาธรครับไม่ใช่ลุงธร “

“พ่อบอกว่าเรียกลุงธร เพราะลุงธรเป็นลุง เพราะงั้นต้องเรียกลุงธรฮะ”

อธิบายเสียงแจ้ว พร้อมทั้งชูแขนให้คนเป็นพ่ออุ้มถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่าเขาโตแล้วแต่มาเฟียก็ชอบให้พ่ออุ้ม 

“สอนลูกแปลกๆนะมึงนี่ “

“ฮึบ..อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ยลูกพ่อ หืม “

“พี่ปลาทำกับข้าวอร่อย เฟียกินเยอะ เลยอ้วน “

“ฮ่าๆๆเข้าใจโบ้ยนะตัวแสบ “

กันธรขำไปกับคำพูดของเด็กชายมาเฟีย ทั้งยังนึกถึงเรื่องที่สงครามเคยโทรไปปรึกษาไหนจะหน้ายิ้มๆของมันตอนคุยโทรศัพท์กับพี่เลี้ยงน้องเฟีย

กันธรชักอยากจะเห็นหน้าพี่เลี้ยงคนนั้นซะแล้วสิ  จะว่าไปเขาก็ไม่ได้เจอหลานนานแล้วเหมือนกันเพราะยุ่งแต่กับคนเป็นพ่อ
 
“นี่น้องเฟียใช่ไหมคะ น่ารักจังเลยจำพี่แจงได้ไหมคะ “

ทันทีที่จอดรถเสร็จ จันจิราก็รีบเดินมายืนเคียงข้างสงครามก่อนจะเอ่ยทักทายเด็กน้อย ที่เธอเคยเจอเมื่อนานมากแล้ว

“หน้าอย่างนี้ให้หลานเรียกพี่ ต้องเรียกป้าเลยดีกว่าเถอะ” กันธรอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเช่นเคย 

“ไอ้บ้านี่ไม่พูดใครเขาก็ไม่ว่าหรอกนะ หุบปากเน่าๆของแกซะมั่ง ”

“ป้าพูดไม่เพราะฮะ  พี่ปลาบอกว่าคนพูดไม่เพราะจะไม่มีใครรักนะ “

เด็กน้อยจำคำพี่เลี้ยงสอนได้ขึ้นใจเขาหวังดีนะเลยบอกป้าคนนั้น ก็ลุงธรบอกว่าต้องเรียกป้านี่ เขาเชื่อฟังผู้ใหญ่
 
“อ๊าย !! ไม่ได้นะคะต้องเรียกพี่แจงค่ะ   เดียวคะ..“เสียงแหลมจนแสบแก้วหู  ทั้งยังรี่เข้ามาเกาะแขนของสงครามเอาไว้
 
“อย่ามาจับพ่อเรานะ! “

มาเฟียตวาดแว้ดขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าจันจิรายังเกาะแขนของพ่อเอาไว้ไม่ปล่อย เด็กน้อยรีบแกะมือของหญิงสาวออกจากแขนพ่อ

แต่เจนจิรามีหรือที่จะปล่อย

“เอ๊ะ น้องเฟีย ทำไมนิสัยไม่ดีแบบนี้คะ พี่เลี้ยงดูแลกันยังไงเนี่ย เดียวดูสิคะ น้องเฟียก้าวร้าวแบบนี้ไม่ดีเลยนะต้องเรียกพี่เลี้ยงมาสั่งสอนซะหน่อย ”

หันไปฟ้องสงครามกันพวกพี่เลี้ยงเอาไว้ก่อน ยิ่งเธอได้ยินข่าวว่าพี่เลี้ยงลูกของสงครามแต่ละคน จบสูงๆมานั้งนั้นแถมมีแต่คนสวยๆซะด้วยสิ  เธอต้องรีบกันยัยพวกริ้นไรนั่นให้ห่างจากสงคราม
 
“แจง !”สงครามเริ่มจะไม่พอใจ  ที่จันจิรายังทำท่าทางเหมือนจะทะเลาะกับลูกเขา

“ก็มันจริงนี่คะ “

“ปล่อยแขนผม”เสียงนิ่งๆของสงครามเริ่มบอกให้จันจิรารู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาชนะคะคานกับใครตอนนี้

เธอปล่อยมือจากแขนของครามอย่างขัดใจ หนอยไอ้เด็กเวรฝากไว้ก่อนเถอะ

“คุณนี่โง่กว่าที่คิดนะแจง”

กันธรว่าแค่นั้นก็เดินตามเพื่อนรักเข้าบ้านไป ปล่อยให้หญิงสาวที่โดนด่าอย่างไม่รู้ตัวกระทืบเท้าด้วยความขัดใจก่อนจะรีบเดินตามเข้าบ้านมา
 
“แล้วพี่ปลาอยู่ไหนล่ะ “สงครามถามลูกพลางหันไปมองรอบบ้าน เมื่อเดินเข้าบ้านมาแต่ไร้วี่แววพี่เลี้ยงคนเก่งจะเข้ามาทักทาย

“พี่ปลาอยู่ในครัวกับยายกิ่งฮะ”

“คุณเดียวจะตั้งโต๊ะเลยไหมคะ จะบ่ายแล้ว เดี๋ยวคุณๆจะหิวกันแย่เลย”

ยายกิ่งเดินออกมาจากครัว เมิ่อเห็นว่าคุณสงครามเข้าบ้านมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน

“ตั้งเลย..แล้วนี่ ....”

“อ้อ คุณปลาเธอทำมันม่วงแกงบวดอยู่ค่ะ เป็นของหวาน วันนี้ค่ะ “

“อร่อยมากเลยฮะพ่อ พี่ปลาเคยทำให้กิน “

 เด็กน้อยรีบอวยพี่เลี้ยงคนเก่ง ยิ่งทำให้จันจิราหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าสงครามยิ้มน้อยๆเมื่อเอ่ยถึงพี่เลี้ยง ทีเวลาอยู่กับเธอสงครามไม่เคยยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง

“เสร็จแล้วยายกิ่งตามปลามากินข้าวด้วยกันนะ  “

“ค่ะคุณเดียว “ยายกิ่งบอกให้มะตูมจัดโต๊ะ และช่วยปลายกสำรับเข้ามาที่ห้องทานข้าว
 
จันจิรารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงของมาเฟียเป็นผู้ชายแต่โครงหน้าสวยหุ่นเพรียวบางแบบนั้นมันทำให้เธอคิดไปไกล ไม่จริงหรอกน่า ..

จะสวยยังไงนั่นก็ผู้ชาย สงครามไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้น แล้วถ้าไอ้ผู้ชายคนนี้มันยั่วสงครามของเธอล่ะ เพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน

เธอจะต้องจัดกการเขี่ยไอ้คนนี้ให้พ้นทาง  สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวได้แต่คิดแค้นเคืองในใจ 

“สวัสดีครับ “มัจฉายกมือไหว้ทั้งสงคราม อาธรและจันจิรา ก่อนจะขอตัวกลับเข้าข้างใน
 
“ปลา..จะไปไหน” สงครามเรียกมัจฉาที่กำลังหันหลังเดินกลับเข้าครัวไปเมื่อจัดโต๊ะเสร็จ

“ไปทานกับยายกิ่งกับมะตูมในครัวครับ “

“มานั่งนี่”

“แต่...”

“มานั่ง “สงครามเอ่ยเสียงดุ อย่างที่เขาคิดว่ามัจฉาจะไม่ขัดคำสั่งเขา

“จะไปบังคับเขาทำไมคะเดียว เขาอยากไปกินที่ไหนก็ให้เขาไปสิคะ “

“พี่ปลามานั่งกับเฟียนะ ไหนพี่ปลาบอกจะกินข้าวกับเฟียทุกวันไง “

เด็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงจะเดินหนีไปก็เอ่ยปากทันที ยิ่งทำให้จันจิรารู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนจะให้ความสำคัญกับพี่เลี้ยงคนนี้เหลือเกิน

คงมีแต่กันธร ที่กำลังสนุก เขาเฝ้าสังเกตุอาการของเพื่อนรักและพี่เลี้ยงของลูกชาย กันธรยอมรับว่าเห็นครั้งแรกเขาก็ตกใจ

เพราะพี่เลี้ยงเจ้าหนูมาเฟียที่เขารู้มาว่าเป็นผู้ชาย แต่เขาไม่คิดว่า ผู้ชายจะสวยได้ขนาดนี้   ยิ่งรอยยิ้มสวยๆที่ส่งมานั่นทำให้ใจแกว่งได้ง่ายๆ

ความเป็นธรรมชาติ ทั้งการกระทำและคำพูด อีกทั้งยังมัดใจน้องเฟียอยู่หมัด หึหึ ไม่แปลกที่ไอ้เดียวมันจะหวั่นไหว
 
“ครับๆคุณหนู”

มัจฉายิ้มให้นายจ้างตัวน้อย พลางส่ายหัวอย่างระอา แต่ก็อดที่จะเอ็นดูคุณหนูไม่ได้  วันนี้เขามีความสุข คุณหนูยิ้มทั้งวัน

ยิ่งพ่อกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้านแบบนี้เด็กชายยิ้มแก้มปริกว่าที่เคย 

“ไม่คิดจะแนะนำให้กูรู้จักเหรอวะเดียว”เสียงเพื่อนดังขึ้นเมื่อมัจฉานั่งลงข้างๆมาเฟีย

“ปลา..นี่กันธร กับแจงเพื่อนฉันเอง แล้วก็นี่ปลาพี่เลี้ยงคนใหม่ของเจ้าเฟียน่ะ “

จันจิราเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์เรื่องที่สงครามชอบทำตัวสนิทกับลูกจ้าง ทั้งนายกันธรคนนี้และนายการันต์เลขาหน้านิ่งคนนั้นอีก 

เอาไว้เธอกับสงครามแต่งงานกันเมื่อไหร่คนไหนที่เธอไม่ชอบใจจะเขี่ยให้หลุดวงจรชีวิตเลยคอยดู

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ “ มัจฉายกมือไหว้ทั้งสองคนอีกครั้ง
 
กันธรรับไหว้อีกครั้งแต่จันจิรากลับนั่งเฉยทำเป็นมองไม่เห็นซะอย่างงั้น  มัจฉาตักกับข้าวใส่จานให้คุณหนูก่อนจะลงมือกินไปมองดูคุณหนูไป

เวลาที่คุณหนูกินเลอะ มัจฉาจะคอยเอาผ้าที่พาดอยู่บนไหล่เช็ดให้  มัจฉาคอยมองแขกทั้งโต๊ะที่นั่งกินข้าวเงียบ ๆ

จะมีก็แต่คุณจันจิรา ที่คอยตักกับข้าวใส่ลงในจานของคุณสงคราม เห็นคุณกันธรนั่งอยู่ห่างจากทอดมันกุ้งที่วางอยู่ตรงหน้าเขา

คุณจันจิราก็ตักให้แต่คุณสงครามเขาเลยตักเอาทอดมันกุ้งส่งลงไปที่จานข้าวของคุณกันธร

“ขอบคุณครับ “กันธรเอ่ยปากขอบคุณทั้งยังมองดูพี่เลี้ยงใจดีคนนั้นไม่วางตา สงครามรู้สึกหงุดหงิดกับภาพที่เห็น

“ตักให้ฉันมั่งสิ”เขาโพล่งขึ้นมาด้วยความลืมตัว

“เอ๋...ในจานคุณสงครามก็มีนี่ครับ “

“ก็อยากได้อีกนี่ “

กันธรแทบจะลงไปขำกลิ้งที่พื้นกับความเอาแต่ใจของเพื่อน มันกำลังอิจฉาเขาแบบเด็กๆ  อาการงอแงที่เขาไม่เคยได้เห็นมานานมากแล้ว

 สนุกจริงโว้ย หึหึ หึ กันธรกลั้นขำจนไหล่สั่น ผิดกับจันจิรา ที่เริ่มจะไม่พอใจพี่เลี้ยงหน้าสวยคนนั้น


“เดียวคะ เดี๋ยวแจงตักให้ค่ะ “

จันจิรารีบตักอีกชิ้นไปวางในจานข้าวของสงคราม แต่หน้าตาที่บูดบึ้งบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างแรง ทำให้กันธรกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ 

ดูเหมือนพี่เลี้ยงคนสวยนั่นจะยังไม่รู้อะไรกับใครเขาเลย ยิ่งไอ้เพื่อนรักของเขานี่มันรู้ตัวเองบ้างหรือเปล่าเหอะว่ามันแสดงออกโคตรชัด  หึหึ

น่าจะมีเรื่องอะไรดีๆให้เขาได้เสือกเล่น  วันหลังชวนคุณเลขานั่นมาด้วยดีกว่า ท่าทางน่าสนุก 

ตอนแรกสงครามเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมเขาถึงหงุดหงิด  ที่เห็นมัจฉาตักกับข้าวใส่จานให้กันธร เวลาตักให้ลูกเขาไม่เห็นว่าเขาจะรู้สึกอะไร

 ยิ่งจันจิราคอยดูแลคอยตักนุ่นนี่นั่นให้เขาไม่ขาดเขายิ่งหงุดหงิด  แต่พอเห็นมัจฉาคุยกับกันธรอย่างถูกคอ

รอยยิ้มสว่างไสวนั่นถูกส่งไปให้กันธรบ่อยๆเขาก็รู้สึกขัดใจอยากเตะเพื่อนรักสักที


หมดเวลาอาหารเที่ยงทุกคนย้ายที่นั่งมาที่ห้องนั่งเล่น มัจฉาเสิร์ฟแกงบวดมันม่วงให้ทุกคนได้ชิม เพราะเป็นเมนูโปรดของเขาและคุณหนู ด้วย

คุณกันธรชมไม่ขาดปากเขาที่เป็นคนทำก็อดที่จะยิ้มแก้มปริไม่ได้ มันภูมิใจเวลาที่เห็นคนกินอร่อยไปกับสิ่งที่เขาตั้งใจทำ


 แต่นายจ้างตัวโตทำไมทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลาก็ไม่รู้  ทั้งๆที่คุณผู้หญิงก็ออกจะเอาอกเอาใจขนาดนั้น


สงครามบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับการที่มัจฉายิ้มแย้มพูดคุยราวกับถูกคอกันนักหนากับกันธร  เขารู้สึกหวงรอยยิ้มนั่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ  อา...หรือว่า..เขากำลังหึง..!!

จันจิรารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นส่วนเกิน สงครามไม่เคยมีท่าทีจะชอบเธอเกินเพื่อนแต่ก็ไม่เคยมีท่าทางแบบนี้กับใคร 

การแสดงออกชัดเจนว่าหวงไอ้พี่เลี้ยงคนนั้น หน้าตาที่บึ้งตึงเมื่อไอ้ลูกจ้างธรนั่นหันไปเอาใจกับไอ้เด็กปลา 

ไหนจะยังยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อไอ้เด็กนั่นหันมายิ้มให้และคอยพูดคุยด้วย  สงครามไม่เคยเป็นแบบนี้

มันทำให้เธอกลัวว่าสิ่งที่เธอพยายามเต็มที่มาตลอดกำลังจะสูญเปล่า เธอไม่ยอมหรอก ไม่มีทางยอม

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่มีทางปล่อยสงครามให้คนอื่น แค่ยัยมายาคนเดียวเธอก็แทบจะขาดใจตายแล้ว ตอนนี้สงครามไม่มีใคร

เธอต้องทำให้สงครามเป็นของเธอให้ได้  ไม่ว่าจะทางใด.


กว่าจะกลับมาที่บริษัทได้เขาก็แทบจะลากไอ้เพื่อนตัวดีที่ยังไม่อยากกลับเพราะเขาไม่อยากกลับกับแจง 

ไม่รู้มันเกิดติดใจอะไรกับแกงบวดมันม่วง จนเขาบอกว่าวันนี้ ต้องรีบจบงานนะ ตอนเย็นมีงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้ากับผู้ถือหุ้นด้วย

 
“งั้นวันนี้คุณสงครามก็ไม่ได้มากินข้าวเย็นที่บ้านสิครับ”

เขายังจำน้ำเสียงจ๋อยๆกับหน้าหงอยๆของพี่เลี้ยงลูกได้ดี ทำเอาเขาไม่อยากกลับมาทำงานเลยล่ะไม่รู้ทำไม
 
“แค่วันเดียวเอง พรุ่งนี้ฉันพักทั้งวันไปคิดโปรแกรมกับมาเฟียละกันว่าอยากไปไหน “

พรุ่งนี้เขาจะใช้เวลาอยู่กับลูกและมัจฉาทั้งวันโดยไม่มีก้างอย่างไอ้เพื่อนตัวดีนี่


“จริงเหรอครับ “ท่าทางตื่นเต้นดีใจ เหมือนเด็กๆทำให้เขาต้องยิ้มอีกจนได้  ว่าแล้วงานเลี้ยงคืนนี้ไม่อยากไปเลยจริงๆ

แค่คิดว่าจะต้องไปเจออะไรที่งานเลี้ยง สงครามก็ต้องถอนใจ เขาไม่เคยเหนื่อยกับงานหรือการออกงานกลางคืนแบบนี้

 แต่วันนี้เขากลับรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องไปออกงานแบบนี้ เอาไว้ให้เข้าที่เข้าทางกว่านี้เขาจะส่งไอ้ธรกับไอ้รันไปแทน

มันทะเลาะกันดีนักก็ไปด้วยกันบ่อยๆมันคงดีกันสักวัน สงครามคิดพลางต่อสายหาการันต์และกันธรสำหรับงานคืนนีร้ ไม่พ้นเมาอีกตามเคยสินะ

หนุ่มนักธุรกิจเนื้อหอมได้แต่คิดทอดถอนใจอยู่อย่างนั้นก่อนจะเตรียมตัวเพื่องานคืนนี้

แม้งานจะเหนื่อยแต่ในใจกลับกระชุมกระชวยอย่างน่าประหลาด รีบๆไปรีบๆจบงานรีบๆกลับบ้านดีกว่า หึหึ



TBC.......

กลับมาล้าววววววววว เหนื่อยโฮกเลยค่า งานก็คืองานเนอะ ต้องทำเนอะไม่งั้นไม่มีเงิน555555

น้องแจงแค่หมากตัวเวล็กๆเนอะไม่ค่อยจะหนักหนาเท่าไหร่แค่มาเป็นตัวแปลให้กับทุกๆคนแค่นั้นเอ๊ง เนอะ55555

บางคราวเราก็ไม่เข้าใจเหมือนคุณสงครามนะ การที่พูดตรงๆไปแล้วแต่คนไม่ยอมรับฟังหรือตื๊อจนน่าเกลียดนี่ไม่กลัวคนอื่นเขาเกลียดเอาหรือไร

แต่ก็นั่นแหละนะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน  แจงเป็นคนคิดน้อย พูดง่ายๆก็ติดเอาแต่ใจนั่นแหละค่ะ 

น้องปลายังมึนต่อไปแต่อิพี่มันนี่เริ่มหวงก้างเกินงาม  น่าหมั่นไส้ 

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามแม้คนเขียนจะหายไปบ้างแต่จะมาอัพจนจบแน่นอนนะคะ

รักคนอ่านจุ๊บคนเม้นท์กอดรวบตึงทุกคนเลยค่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2017 11:19:32 โดย Phanwa86 »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถึงคนเขียนจะบอกว่านางเป็นแค่ตัวเล็ก ๆ แต่เราว่านางต้องน่ารำคาญและสร้างปัญหามากแน่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
มีเพื่อนดีนะคุณเดียว  :hao3:
คนไม่ยอมรับคำปฏิเสธสุภาพๆแบบแจงนี่ก็ยังดีที่มีคนช่วยด่าแบบกันธรแทนคนอ่าน555
รออ่านต่อจ้า :กอด1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คุณเดียวมีสิทธิ์อะไรไปหึงปลาคะ

งานเลี้ยงคงไม่มีใครมอมเหล้าแล้วลากขึ้นเตียงนะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
โอยย ยัยหอยจุ๊บแจง หล่อนจะหน้าหนาอะไรขนาดนั้น

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ซึนเข้าไว้ก่อนค่ะปลา เราต้องไม่รู้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขุ่นพ่อหึงหนักมากค่าาาาาาา อิอิ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ตัวปัญหาโผล่มาละ  แม้ว่ามันจะเล็กๆ  เหมือนก้างปลาจิ๋วๆติดคอนั่นละ ถึงจะไม่ทำให้เป็นอะไรมาก แต่มันรำคาญอย่างสุดๆเลยละ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ปลาน่ารักอะ อีสงครามอย่ารีบจับกินซะละ อิอิออ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
สงครามระวังเสียทียัยแจงนะ  นางน่ะถ้าจะตัวแม่เลยนะ กลัวว่าจะเล่นงานพี่ปลากับน้องเฟียอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด