หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]  (อ่าน 176637 ครั้ง)

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

หงส์ซาน
___________________________
ถูกบังคับให้แต่งงานก็แย่พออยู่แล้ว นี่ยังต้องมาแต่งกับผู้ชายอีก!!

เถียงไม่ได้ ห้ามไม่อยู่ สู้ไม่ไหว งานนี้ตายเป็นตายก็ต้องรักษาเอกราช 'บั้นท้าย' และ 'หัวใจ' ให้มั่นคง

"ทำอะไร" ผมถามเหมือนคนโง่
เอ้อ หรือว่าผมจะโง่วะ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าโดนจูบ

“ผัวเมียเขาทำอะไรกันก็กำลังจะทำแบบนั้นแหละ”

ถ้าคิดว่าคนอย่าง 'หงส์ซาน' จะยอมให้ 'เฮียไป่หลง' กดง่ายๆก็ฝันไปเถอะ!!!



สารบัญ
01 ตี๋เล็ก
02 ชีวิตพลิกผัน
03 จำไว้เลย จำไว้เล้ย!!
04 ช็อกซินีม่า 1
04 ช็อกซินีม่า 2
05 คืนเสียตัว
06 ฟื้นตัว
07 ดูแล 
08 หัวใจไหวไม่เป็นจังหวะ
09 คอนโทรล
10 เป็นเมียบ๊วยต้องสตรอง!
11 ปั่นหัว
12 หวานหยดจนมดต่อย
13 คุณหมอจอมป่วน
14 ภูเขาไฟระเบิด
15 แพ้ราบคาบแก้ว
16 รวนไปหมด (16 รวนไปหมด 2)
17 จูบผ่านทาง
18 หมดความอดทน
19 ไม่ได้งอนจริง ๆ (1)
19 ไม่ได้งอนจริง ๆ (2)
20 งอนพระราม & ฉันพร้อมแล้วนะ
21 กุญแจหัวใจ
22 วิกฤติ
23 ช่วยเหลือ
24 ปรนนิบัติพัดวี
25 บอดี้การ์ด & หมอ
26 บอดี้กินหมอ
27 The end (ตอนจบ)

ผลงานเรื่องอื่นๆ ในเล้า : https://goo.gl/WbWxt8

จองนิยายเรื่องนี้ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ https://goo.gl/WbWxt8
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2017 10:01:11 โดย memew »

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
หงส์ซาน #1 ตี๋เล็ก
«ตอบ #1 เมื่อ23-04-2017 14:49:25 »

#1 ตี๋เล็ก
________________________________


ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากวันนั้น
 
“ป๊า!! อั๊วเป็นผู้ชาย จะให้ไปแต่งงานกับผู้ชายได้ยังไงกัน”
 
“ได้ไม่ได้ลื้อก็ต้องแต่ง เพื่อครอบครัว เพื่อธุรกิจของเรา”
ผมส่ายหัวไปมา
 
“ไม่ใช่เพื่อครอบครัว ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ แต่เป็นเพื่อตัวป๊าเองต่างหาก อั๊วไม่แต่ง!!”

“ยังไงลื้อก็ต้องแต่ง!!”

ผมคิดว่าทุกอย่างคงจบลงแล้ว ตั้งแต่วันที่เจ้าสาวผมหนีการแต่งงานไป

แต่ผมมันโชคร้ายเองที่เกิดมาในตระกูลนี้

ผมถูกบังคับให้แต่งงานอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะเจ้าบ่าว แต่เป็นเจ้าสาวต่างหากเล่าโว้ย!!!!!
...
...
...
...
...
...

“หงส์ซาน”
ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากทางด้านหลัง ผมที่กำลังฉีกยิ้มเฮฮาท่ามกลางผู้คนที่มางานเลี้ยงวันเกิดหันไปมอง

“เฮียหยก!!”
ผมเบิกตากว้างทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร รีบวิ่งถลาเข้าไปหา สวมกอดคนตัวสูงแน่น เฮียหยกกอดตอบแน่นไม่ต่าง

“สุขสันต์วันเกิดอายุครบ 40 นะ”

“20 เหอะ”
ผมถอนตัวออกมาค้านงอนๆ

“อ้าวเหรอ เห็นหน้าแก่ขึ้น”

“ถ้าอั๊วหน้าแก่ เฮียก็คงจะใกล้เข้าโลงแล้วแน่ๆ”

เฮียหยกหัวเราะร่วน ก้มดูหน้าผมดีๆ อีกที จับคางผมเขย่าเบาๆ

“สงสัยว่าเฮียจะเมาเครื่องบินแฮะ นั่นน่ะสิ หงส์ของเฮียออกจะหน้าละอ่อนเหมือนเด็กสามขวบแบบนี้”

“นั่นก็เด็กเกินไป”
เราสองคนพากันหัวเราะครึกครื้น

“ไหนบอกว่ามาไม่ได้”

“เซอร์ไพรส์ไง”

“เซอร์ไพรส์มากกกก”
ผมลากเสียงยาว กอดเฮียหยกอีกรอบโยกตัวไปมาอย่างสุดแสนคิดถึง

เฮียหยกเป็นพี่ชายคนโตของผมเอง เป็นคนที่ผมรักและสนิทด้วยที่สุด แต่ตอนนี้แกไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอก ถูกป๊าส่งให้ไปดูแลธุรกิจของครอบครัวเราที่สิงคโปร์ ผมเคยร้องขอตามไปอยู่ด้วย แต่ป๊าไม่ยอม 

เฮียหยกดันผมออกมองอีกรอบ

“หล่อขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”

“แน่นอนสิ น้องใครให้มันรู้ซะบ้าง”

เฮียหยกหัวเราะ ขยี้หัวผมแรง หันไปพูดจาทักทายพี่น้องคนอื่นต่อ

สิงคโปร์อยู่ใกล้ไทยก็จริง แต่เฮียไม่ค่อยว่างบินมาเท่าไหร่หรอก งานเยอะ

“เฮีย แล้วของขวัญอั๊วล่ะ”
ผมทวงอย่างนึกขึ้นได้ ไม่เห็นแกหิ้วอะไรติดตัวมาสักอย่าง

เฮียหยกหน้าตื่น

“เออ! เฮียลืมไปเลยตี๋น้อย”

ผมหน้าบูด

“อะไรวะ มางานได้ แต่ลืมเอาของขวัญมาให้เนี่ยนะ”

“ใช่”

ผมหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม

“เฮียลืมว่าต้องเอาของขวัญชิ้นเล็กๆ มาให้ พอดีมันใหญ่จนเอาเข้าบ้านไม่ได้น่ะ ตอนนี้อยู่หน้าบ้านแน่ะ”

ผมตาโต รีบวิ่งถลาออกไปนอกบ้านทันที

“ว้าว”
ผมเบิกตากว้างไปกับสิ่งที่เห็น

มันคือรถมอเตอร์ไซค์ครับ ดูคาติสีแดงเพลิง ตัวที่ผมร่ำร้องอยากได้นักหนา

อย่างเท่เลย

แต่มันจะมาหลุดเท่ก็ตรงริบบิ้นติดโบว์สีชมพูแปร๋นแหล๋นให้รู้ว่าเป็นของขวัญรอบรถนี่แหละ

ผมพยายามมองข้ามสีแปร๋นๆ ของโบว์วิ่งถลาเข้าไปลูบๆ คลำๆ

ป๊าผมรวยก็จริง แต่ก็เค็มเหมือนเกลือ การจะให้ของขวัญมีราคาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เกิดเป็นลูกคนจีน น้องสุดท้องเป็นยิ่งกว่าหมาหัวเน่า เพราะส่วนใหญ่ ป๊าจะเอาอกเอาใจพวกพี่ๆ มากกว่า

ผมรีบกระชากโบว์ออกทันที ขยับขึ้นคร่อม

“เดี๋ยวๆ เฮียไม่ได้ซื้อรถให้ลื้อ เฮียซื้อไอ้นั่นให้ต่างหาก”
เฮียแกชี้ไปยังริบบิ้นที่ผมดึงทิ้งเมื่อกี้

ผมหัวเราะ รู้หรอกว่าเฮียแกแกล้งเล่น

“อั๊วไม่อยากได้ไอ้นั่น แต่อยากได้ไอ้นี่มากกว่า”
ผมยกขาตั้งขึ้น ทดลองสตาร์ทเครื่อง เสียงมันดังกระหึ่มฟังแล้วหัวใจเต้นตูมตาม

เท่จริงๆ

“เดี๋ยวๆ จะไปไหนอาหงส์ เจ้าของวันเกิดจะขี่มอไซค์หนีได้ไง ลงมาก่อน วันหลังค่อยไปขี่”
เฮียหยกรีบรั้งผมลง

“ขอสักรอบก่อนไม่ได้เหรอเฮีย”

“จะกี่รอบก็ได้ แต่ตอนนี้เข้าไปในงานก่อน”
ผมจำต้องบอกลาน้องดูคาติสีถูกใจ ก้าวลงจากรถไปสวมกอดเฮียหยกแน่นอีกรอบ

ผมเคยแง้วๆ ขอรถคันนี้กับป๊าหลายรอบ แต่ป๊าไม่ให้โดยให้เหตุผลว่ามันอันตรายเกินไป

“รักเฮียที่สุดเลย บุญนี้ขอให้เฮียอย่ามีตีนกามากล้ำกราย โรคภัยไข้เจ็บวิ่งหนีหางจุกตูด”

“อวยพรเฮียดีๆ หน่อยอาหงส์ ฟังไม่รื่นหูเลย ไปๆ”
เฮียแกรั้งคอผมให้ก้าวเข้าไปภายในด้วยกัน

งานวันเกิดผมถูกจัดขึ้นอย่างอลังการระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เพื่อผมโดยตรงหรอก ป๊าคงหาทางพบปะเครือข่ายหุ้นส่วนของป๊ามากกว่า ผู้ใหญ่แยกไปคุยกลุ่มหนึ่ง รุ่นๆ ผมอีกกลุ่ม เด็กเล็กๆ วิ่งไล่ดึงผมเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันอีกกลุ่ม

“ว่าแต่ลื้อเคยเห็นว่าที่เจ้าสาวลื้อรึยัง”
เฮียหยกหันมาถามหลังจิบเครื่องดื่มไปหนึ่งอึกใหญ่

“ยังไม่เคยเจอตัวจริงเลยเฮีย แต่เคยเห็นรูปแล้ว สวยดีนะ”

เฮียหยกหัวเราะ ชี้นิ้วที่ถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ใส่หน้าผม

“ป๊าเลือกให้ซะอย่าง รับรองได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์แบบแน่ๆ เหมือนอาซ้อลื้อไง”

ผมพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วทำไมอาซ้อกับอาเล่ยไม่มาด้วยล่ะ”

“อาเล่ยติดสอบ”

ผมพยักหน้าเข้าใจ

“เสียดาย อดเจอหลานเลย”

“เดี๋ยวพามาทีเดียววันแต่งลื้อเลย”

ผมยิ้มดีใจ

“นี่อาซ้อยังไม่ท้องอีกเหรอ หลายปีแล้วนะ อาเล่ยคงเหงาแย่”

เฮียหยกยักไหล่

“สงสัยน้ำยาเฮียจะบูด”

ผมหัวเราะร่วน
“ทำงานหนักไปน่ะสิ”

เฮียไม่ค้าน หันไปพูดจาเฮฮากับคนอื่นที่เวียนกันเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย

ผมเป็นลูกคนที่ 8 เป็นน้องคนสุดท้องของบ้าน เป็นตี๋เล็กของพี่ๆ ถ้าเป็นคนไทยแท้ๆ ลูกคนเล็กคงได้รับการเอาอกเอาใจสารพัด แต่ครอบครัวคนจีนนี่ตรงข้ามเลย ผมน่าจะเป็นลูกที่ป๊าม้าให้ความสำคัญด้วยน้อยที่สุด

“เฮียจะอยู่กี่วัน”

เฮียหยกเปลี่ยนสีหน้า ลูบหัวผมเบาๆ

“พรุ่งนี้เฮียก็กลับแล้ว”

ผมหน้าสลด รู้อยู่หรอกว่างานยุ่ง แค่ปลีกตัวมางานวันเกิดผมได้นี่ก็เก่งแล้ว

“อย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้สิ เฮียใจไม่ดี ลื้อต้องเข้าใจเฮียนะ”

“อั๊วอยากไปอยู่กับเฮีย”

“ลองขอป๊าสิ”

ผมยิ้มแค่น

“คงได้หรอก ป๊ากลัวอั๊วไปกวนเฮียจะตาย”

เฮียลูบหัวผมอีกรอบเบาๆ

“ลื้อ 20 แล้วนะหงส์ อีกไม่นานก็ต้องแต่งงาน มีลูกมีเมีย มีหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว”

“บางทีอั๊วก็ไม่อยากโตเลย”

“ถ้าลื้อทำได้ เฮียก็ไม่อยากแก่เหมือนกัน”

ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง

“นั่นน่ะสิ อั๊วต้องทำใจใช่ไหม”

“ใช่”
เฮียตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมหัวเราะอีกรอบ พยายามใช้เวลาที่มีน้อยนิดอยู่กับพี่ชายคนโปรดให้มากที่สุด





 
วันเวลาผันผ่าน เมืองไทยมีหลายฤดู แต่กรุงเทพมีแค่ฤดูเดียวคือฤดูร้อน(จัดมาก)

มันตอกบัตรเข้าทำงานทุกวันอย่างขยันขันแข็ง ผมนั่งลิ้นห้อย แหวกคอเสื้อออกกว้างหวังให้ลมเป่า จริงๆ เข้าไปนั่งในบ้านจะเย็นกว่า แต่ผมชอบนั่งเล่นในสวนข้างบ่อปลามากกว่า

“คิดว่าหมาที่ไหนมานั่งหอบอยู่ตรงนี้”

ผมหันไปมองคนพูด

เจ้หลิน พี่สาวคนที่ 2 ของผมเดินถือถาดสีแดงเข้ามาใกล้ ภายในบรรจุจานผลไม้สดกับกาน้ำชาลายดอกหลิวสีน้ำเงินปนขาว

“หมาบ้านเจ้หล่อขนาดนี้เลยเหรอ”

เจ้หลินหัวเราะ วางถาดผลไม้ไว้ข้างๆ

“โตแล้วนะอาหงส์ อีกไม่กี่เดือนก็แต่งงานแล้ว ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อย”

ผมถอนหายใจเบาๆ

เอาตามจริงแล้วผมยังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวกับใครเลย ผมว่าอายุ 20 มันยังเร็วไป น่าจะสัก 25 หรือ 30 ก็ยังดี

แต่ก็นั่นแหละ แต่งงานการเมือง รอนานขนาดนั้นมันอาจช้าเกินไปก็ได้

สำหรับครอบครัวผม ลูกคนไหนอายุครบ 20 จะถูกจับแต่งงานหมด โดยคนเลือกคู่ครองให้คือป๊ากับม้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนในตระกูลมีชื่อที่เกี่ยวข้องกันทางธุรกิจนั่นแหละ

“เจ้รู้สึกยังไงที่ต้องแต่งงานไปกับคนที่เราไม่ได้รักหรือไม่ได้เลือกเอง”

เจ้หลินมองหน้าผม ถอนหายใจแรง ลูบหัวผมเบาๆ

รองจากเฮียหยกก็เจ้หลินนี่แหละที่เอ็นดูผมเหมือนแม่

“แรกๆ เจ้ก็กลัวนะ กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่พอแต่งงานกันจริงๆ มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”

“แล้วเจ้หลินรักเฮียซ้งไหม”

เจ้หลินยิ้มละมุน

“รักสิ รักมากด้วย รักมากจนเจ้รู้สึกว่าโชคดีแล้วที่ได้แต่งงานกับเขา เจ้ยังไม่รู้เลยว่าถ้าเจ้เลือกเอง เจ้จะได้คนดีๆ แบบนี้มาเป็นสามีหรือเปล่า”

“เนอะ หาเองคงได้ประเภทหน้าขี้ริ้วนิสัยขี้เหร่แน่ๆ”

“อาหงส์!!!”
จากการลูบหัวแบบเอ็นดู กลับกลายมาเป็นผลักหัวผมแรงจนผมเซล้มทั้งนั่ง

“แอบโหดว่ะเจ้” 

“ปากหมาทำไมล่ะ อั๊วชักสงสารอาเหมยแล้วที่ต้องมาแต่งงานกับคนไม่เต็มอย่างลื้อ”

“ไม่เต็มตรงไหน อั๊วออกจะหน้าตาดี มีใบเพ็ดดีกรีพร้อม”

เจ้หลินหัวเราะ ส่ายหัวไปมา

“เจ้กลับละ ต้องรีบไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียน ถ้าเหงาก็ไปนั่งเล่นที่บ้านได้ เด็กๆ บ่นคิดถึง”

ผมพยักหน้า

เจ้หลินลุกยืน ผมลุกตามเดินไปส่งที่รถ คนขับรีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูให้ เจ้หลินยังไม่นั่ง หันมาเผชิญหน้ากับผมอีกรอบ

“จำไว้นะอาหงส์ หลังจากแต่งงานแล้ว ชีวิตไม่ได้เป็นของเราเพียงคนเดียว แต่มันจะเป็นของคู่ครองเราด้วย เพราะงั้นทำอะไรคิดให้ดีก่อนทำ และที่สำคัญ…”

ผมนิ่งฟังอย่างตั้งใจ 

“ห้ามนอกใจเด็ดขาด”

ผมมองตาคนพูด

“คิดว่าจะให้อั๊วเลิกติ๊งต๊องซะอีก”

พี่สาวผมพ่นลมหายใจแรง บอกลาด้วยน้ำเสียงระอิดระอา

“เจ้กลับล่ะ”

ผมหัวเราะ ยกมือบ๊ายบาย

“ฝากบอกเด็กๆ ด้วยนะว่าอั๊วคิดถึง”

พี่สาวผมพยักหน้า ขยับขึ้นไปนั่ง คนขับปิดประตูให้ วิ่งอ้อมไปยังฝั่งตัวเอง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่ม พี่สาวหันมามองหน้าผมอีกรอบ ยิ้มหวาน

แล้วรถคันนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ออกจากลานจอดรถไป 

ผมเดินย้อนกลับไปนั่งข้างบ่อปลาตามเดิม หยิบชมพู่ทับทิมที่ถูกหั่นชิ้นเรียบร้อยกัดกินดังกรวบ

มันหอมหวานและกรอบอร่อย รสชาติกำลังดีเลย ผมจ้องมองธรรมชาติที่ถูกรังสรรค์โดยคนสวนตรงหน้า ปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ผมมองพวกมันยิ้มๆ

ก่อนละสายตาจากปลาเงยหน้าขึ้นมองทิวไม้ประดับที่กำลังถูกสายลมพัดไหว อีกสองวันผมจะได้เจอตัวจริงของเหมยแล้ว เราคงเข้ากันได้ดีเพราะเป็นน้องเล็กด้วยกันทั้งคู่

สายลมพัดไหวแรงขึ้นให้รู้สึกเย็นผิวกาย ผมหลับตา สูดลมหายใจเอาไอดินกลิ่นน้ำเข้าปอด ลองนึกวาดภาพถึงชีวิตหลังแต่งงานกับเหมยคร่าวๆ

เขาบอกไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต 

แต่ทำไมไม่มีใครบอกผมบ้าง! ว่าแทนที่ผมจะได้เป็นเจ้าบ่าวให้เจ้าสาวแสนสวยอย่างอาเหมย กลับกลายต้องไปเป็นเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวซังกะบ๊วยคนนั้นแทน!!!

#หงส์ซาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2017 15:28:33 โดย memew »

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: หงส์ซาน
«ตอบ #2 เมื่อ23-04-2017 15:12:15 »

ชอบๆๆๆ รอออ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หงส์ซาน
«ตอบ #3 เมื่อ23-04-2017 16:12:28 »

น่าสงสารนะ ทำใจยอมแต่งได้ แต่อีกฝ่ายคงไม่ยอมสินะ

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #4 เมื่อ23-04-2017 19:13:30 »

________________________________________________
ตอนที่ 2 ชีวิตพลิกผัน

 
“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ”
ผมยิ้มให้ว่าที่เจ้าสาวของผมตรงหน้า รูปถ่ายว่าสวยแล้ว ตัวจริงสวยกว่าอีก ม้าผมนี่ยิ้มจนแก้มแทบฉีกถึงรูหู

“อาเหมยนี่สวยกว่าในรูปอีกนะ”

“ขอบคุณค่ะ หน้าตาเหมยธรรมดาออก”
แน่ะ มีถ่อมตัวด้วย

บนโต๊ะกลมสลักลายมังกรตอนนี้มีป๊าม้าผม ป๊าม้าของอาเหมย ผมและอาเหมย ผมยิ้มให้เธอ เหมยน่ารักและมีเสน่ห์มากจริงๆ

“อาหงส์ก็หล่อ หล่อไม่แพ้พวกพี่ๆ เลย”

ผมยิ้มแหยง

อย่าเอาผมไปเปรียบกับพวกเฮียๆ เขาเลย เดี๋ยวพวกนั้นจะพลอยพากันด่างพร้อยกันเสียเปล่าๆ เพราะในบรรดาพี่น้อง ผมว่าผมหน้าจืดที่สุดละ ความหล่อมันคงจืดจางลงตามลำดับการเกิดนั่นแหละ

ผมนั่งคุยกับเหมยในขณะที่ม้าคุยสนุกอยู่กับม้าของเหมยด้วยภาษาไทยลิ้นจีน ส่วนป๊ากำลังรัวภาษาจีนกับป๊าของเหมย (มารุ่นลูกอย่างพวกผมพูดไทยกันชัดแจ๋วแล้วละครับ)

“ตอนนี้เหลืออาเหมยคนเดียวแล้วใช่ไหมที่ยังไม่ได้แต่งงาน”
ม้าผมถามม้าของเหมย

“เปล่า ยังเหลือพี่ชายของอาเหมยอีกคน รายนั้นบังคับยาก แต่ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของครอบครัวเรา”

ผมฟังบทสนทนาของผู้ใหญ่แบบเข้าหูซ้ายย้ายไปหูขวา เพราะตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือเหมยตรงหน้าต่างหาก

แม่น่ารักขนาดนี้ ลูกเราจะน่ารักขนาดไหน

เราคุยกันถูกคออย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ บรรดาป๊าม้าจึงพลอยพากันมีความสุขตามไปด้วย ผมชักอยากแต่งงานกับเธอเร็วๆ ซะแล้ว

ฤกษ์ดีของเราคืออีกสองเดือนข้างหน้า ยิ่งคุยผมยิ่งอยากให้วันแต่งงานมาถึงเร็วๆ
..........
.....
...
.






และแล้ว วันที่ผมรอคอยก็มาถึง

ผมตื่นขึ้นมาเตรียมตัวแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่ (ถึงเป็นผู้ชายก็ต้องแต่งหน้าครับ เพื่อเวลาถ่ายรูปจะได้ขึ้นกล้อง) เราแต่งแบบสากลแล้วค่อยไปยกน้ำชากันทีหลัง จัดงานกันในโรงแรม หนึ่งในธุรกิจของครอบครัวผมเองนี่แหละ (พี่ชายคนที่ 5 ของผมดูแลอยู่)

ผมหันซ้ายหันขวามองตัวเองในกระจก น่าจะหล่อมากพอให้เหมยรู้สึกภูมิใจได้แล้วนะ

ผมนั่งรอฤกษ์เข้าพิธีอยู่ในห้องรับรอง แยกกันคนละห้องกับของเหมย อีกไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น (เราปิดโรงแรมกันเลยครับ) ผมเฝ้ารอเวลาด้วยความตื่นเต้น อยากเห็นเหมยในชุดเจ้าสาวจะแย่แล้ว

ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นด้านนอก ผมหันไปมอง 

นี่มันวันมงคลผมนะ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึไง

ผมลุกจากเก้าอี้ เดินออกจากห้องไปทางต้นเสียง (จริงๆ เขายังไม่อนุญาตให้เจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวออกไปเดินเพ่นพ่านครับ) ในห้องพิธีที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม เห็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาละม้ายคล้ายเหมยแต่อายุมากกว่ายืนหน้าตื่นอยู่ท่ามกลางผู้คน ป๊าม้าของเหมยก็อยู่

“เหมยหนีไปแล้วม้า!”
คำนั้นทำเอาผมก้าวขาไม่ออก ยืนนิ่งอยู่กับที่

“อะไรนะ!”
ป๊าเหมยถามคำเดียวกับสิ่งที่ผมกำลังคิดตอนนี้ 

“อาเหมย อาเหมยหนีไปแล้วป๊า อีทิ้งจดหมายนี่ไว้”
จดหมายถูกยื่นให้ป๊าเหมย ป๊าเหมยรีบก้มอ่าน พอๆ กับม้าเหมยและคนอื่นๆ ที่เข้าไปรุมอ่านจดหมายแผ่นเดียวกัน ก่อนมันจะถูกใครอีกหลายคนดึงไปเวียนอ่าน

ผมขยับขาอีกครั้ง เดินหน้าชาเข้าไปขออ่านบ้าง มันเป็นเพียงกระดาษโน้ตสีขาว เขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อย

‘ป๊าม้า เหมยขอโทษ แต่เหมยแต่งงานกับหงส์ซานไม่ได้จริงๆ เหมยมีคนที่เหมยรักแล้ว เหมยจะไปใช้ชีวิตกับเขา เหมยขออกตัญญูขอไปตามเส้นทางของเหมยเอง ไม่ต้องตามหานะคะ ฝากขอโทษหงส์ซานกับทุกคนแทนเหมยด้วย
เหมยขอโทษ
เหมย’

จดหมายร่วงผล็อยจากมือผมลงพื้น

เจ้าสาวหนีกลางงานแต่ง จะมีอะไรน่าขายหน้ามากไปกว่านี้อีก







หลังเหตุการณ์เจ้าสาวหนีกลางงานวันนั้น ผมไม่รู้ว่าสองครอบครัวแก้ไขปัญหานี้กันยังไง รู้แค่ว่าป๊าโกรธมาก ฝ่ายนั้นบอกว่าจะรับผิดชอบ ซึ่งผมไม่ได้ตามข่าวว่ารับผิดชอบยังไง

ผมทั้งอาย ทั้งช็อก เสียใจด้วย เพราะผมชอบเหมยจริงๆ (ยังไม่ถึงกับรักครับ แค่ชอบพอถูกใจ)

ปกติการแต่งงาน เป็นช่องทางการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด ป๊าหมายมั่นปั้นมือกับตระกูลหยางมาก เพราะเป็นตระกูลใหญ่ (อันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลย ใหญ่กว่าตระกูลผมอีก) พอเหมยหนีไป ไอ้ที่ป๊าแพลนไว้จึงโดนผลกระทบหมด ทางนั้นไม่เหลือลูกสาวให้จับแต่งงานแล้วด้วย

สำหรับตัวผมเอง หลังจากนี้ป๊าคงหาเจ้าสาวคนใหม่ให้ ไม่รู้ว่าจะออกมาสวยและนิสัยเข้ากันได้แบบเหมยหรือเปล่า

เหมยเองก็เก่งนะ ยอมทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง แล้วไปตามหัวใจตัวเองแบบนั้น ผมไม่ได้โกรธเหมยเลย เพราะถ้าผมเป็นเหมย มีคนที่รักมากอยู่แล้วผมคงทำแบบเดียวกัน ต่อให้การยกเลิกจะมีผลกระทบต่อธุรกิจครอบครัวก็เถอะ มันก็แค่กระทบ ไม่ถึงกับทำให้ล่มสลายหรือยากจนลงสักหน่อย

ผมพ่นลมหายใจใส่อากาศ แต่เหมยน่าจะหนีไปก่อนจัดงาน ไม่ใช่หนีไปกลางงานแบบนี้
 
ดูสิ ชีวิตหลังแต่งงานที่ผมวาดฝันไว้ พังทลายลงไม่เป็นท่าเลย

เฮ้อ~~

..........

.....

....

.






พวกคุณเคยโดนฟ้าผ่าไหมครับ

ฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ไร้เมฆไร้ฝนไร้พายุใดๆ ทั้งสิ้น มันผ่าลงในบ้านของผม ตรงตำแหน่งที่ผมยืนอยู่พอดิบพอดี และคนที่แปลงร่างเป็นรามสูรมาผ่าคือป๊าผมเอง

“อะไรนะป๊า!!”
ผมถามทวนอีกรอบ เผื่อเมื่อกี้ผมจะฟังผิด

“อั๊วจะให้ลื้อแต่งงาน”

“กับใคร”

“ไป่หลง”

“จะบ้ารึไงป๊า เขาเป็นผู้ชายนะ”

“อั๊วรู้”

“ป๊า!! อั๊วเป็นผู้ชาย จะให้ไปแต่งงานกับผู้ชายได้ยังไงกัน”

“ได้ไม่ได้ลื้อก็ต้องแต่ง เพื่อครอบครัว เพื่อธุรกิจของเรา”

ผมส่ายหัวไปมา

“ไม่ใช่เพื่อครอบครัว ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ แต่เป็นเพื่อตัวป๊าเองต่างหาก อั๊วไม่แต่ง!!”

“ยังไงลื้อก็ต้องแต่ง!!”

“ไม่!! หัวเด็ดตีนขาดอั๊วก็ไม่แต่ง!”

“ไปเตรียมตัวได้แล้ว ฤกษ์ดีคือกลางเดือนหน้า”
พูดจบป๊าก็เดินออกไป ผมพยายามจะตามไปค้าน แต่ป๊าเดินขึ้นรถไปแล้ว

“ป๊า ป๊าต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ม้า ม้าต้องพูดกับป๊านะ”
ผมรีบหันไปพึ่งบุพการีหนึ่งเดียวทันที ม้ามีสีหน้าลำบากใจ

“ขอโทษนะอาหงส์ แต่มันจำเป็นจริงๆ”

“ม้า ป๊ากำลังจะขายลูกกิน ศักดิ์ศรีของครอบครัวเราอยู่ไหน ให้อั๊วไปแต่งงานกับผู้ชายเนี่ยนะ ป๊าไม่อายรึไง เขายอมรึไง”
ผมโวยวายลั่น

“มันจำเป็นลูก เราสองครอบครัวคุยกันแล้ว เราจำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสระหว่างสองครอบครัว”

“แต่อั๊วเป็นผู้ชาย จะจดทะเบียนกับผู้ชายได้ยังไงกัน”

“จดได้สิ เรามีวิธี”

“ม้า!! อั๊วไม่ยอม ยังไงอั๊วก็ไม่ยอม!!”

..........

.....

...


.

แล้วคุณคิดว่าระหว่างผมกับป๊า ใครมีสิทธิ์มีเสียงมากกว่ากัน ไม่มีใครคัดค้านความคิดของป๊ากันสักคน (หรือพูดให้ถูกคือทุกคนค้านกันไม่ได้ต่างหาก) ผมพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพูดให้ป๊าเปลี่ยนใจ แต่พูดยังไงป๊าก็ยังยืนยันจะให้ผมแต่งงานอยู่ดี

เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นด้วย

แล้วผมควรจะทำยังไงดี

หลังจากทะเลาะกับป๊าอีกรอบเพื่อให้ป๊ายกเลิกการแต่งงาน (แน่นอนว่าผมแพ้ไปตามระเบียบ) ผมก็กลับเข้าห้องมานั่งหาหนทางใหม่

พูดกับป๊าก็ไม่รู้เรื่อง ม้าก็ช่วยอะไรไม่ได้ พี่ๆ ยิ่งไม่ได้ใหญ่ (เพราะทุกคนโดนบังคับมากันครบถ้วนทั่วหน้าแล้ว)

แต่ของคนอื่นมันก็แค่บังคับแต่ง ไม่ได้เดือดร้อนแบบผมที่ต้องแต่งกับผู้ชายนี่

หรือว่าจะหนีออกจากบ้านดี

หนี...

ใช่!
หนีไง ทำแบบเดียวกับเหมย จะอยู่ทำไมให้โง่

ผมรีบตรงดิ่งไปยังตู้เสื้อผ้า ดึงเอากระเป๋าลากมาวางบนเตียง กวาดเอาเสื้อผ้ามายัดใส่กระเป๋าพร้อมของใช้จำเป็นสำหรับการเดินทางแบบฉุกเฉิน รูดซิปปิด 

ผมลากกระเป๋าตรงไปยังหน้าประตู เปิดออกอย่างรวดเร็วแล้วก้าวพรวดออกไป 

ก่อนร่างทั้งร่างจะชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนเด้งกลับไปนั่งหงายหลังก้นจ้ำเบ้าที่พื้น กระเป๋าหลุดจากมือไปอีกทาง

ผมเงยหน้าขึ้นมองต้นเหตุทันที

มันเป็นสิ่งมีชีวิตครับ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์

แต่เป็นมนุษย์ที่ตัวโตมาก รูปร่างหน้าตาคือฝรั่งแท้ๆ หน้าเข้ม ตาสีฟ้า อากาศร้อนจะตายแต่ดันใส่สูทมา รองเท้าหนังมันปราบ


ผมยังนั่งก้นจิ้มพื้นอยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วมอง

“นายเป็นใคร”

คนตรงหน้าไม่พูดอะไร ขยับเข้ามาจับกระเป๋าผม เดินเลยเข้ามาภายใน

“เดี๋ยวๆ นี่นายเป็นใคร!”
ผมรีบดีดตัวลุก เดินไปแย่งกระเป๋าคืน แต่มันไม่ตอบ วางกระเป๋าไว้บนเตียงตามเดิม รูดซิป เปิดกระเป๋า ดึงเอาเสื้อผ้าที่ผมพับไว้อย่างดีกลับเข้าตู้ตามเดิม แถมยังเก็บได้ตรงจนน่าตกใจ

“จะทำอะไร อย่ามารุ่มร่ามกับข้าวของฉัน ฉันต้องรีบไป”

“คุณไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น”
น้ำเสียงนั้นทุ้มลึก สำเนียงแบบคนต่างชาติอยู่ไทยมานาน

“นายเป็นใคร เข้ามาได้ไง” ผมถามเสียงขุ่น “นี่บอกว่าอย่ามายุ่งกับเสื้อผ้าฉัน”

มันเก็บเรียบร้อยแม้กระทั่งกระเป๋า หันกลับมามองผมตรง ๆ ยืนกางขาออกนิดๆ สีหน้านิ่งเรียบ ไขว้มือไว้ด้านหลัง

“ผมชื่อหมิงเซียน”
อื้อหือ หน้าฝรั่งจ๋าแต่ดันชื่อหมิงเซียนเนี่ยนะ

“นั่นชื่อจีนที่เจ้านายตั้งให้ จะเรียกว่าซันไรส์ก็ได้”

“ซันไลท์? น้ำยาล้างจานน่ะเหรอ”
ผมกวนกลับ

“ซันไรส์ครับ แปลว่าพระอาทิตย์ขึ้น”
มันตอบมาอย่างนอบน้อม ผมฉุนกึก

“นี่นายน้ำยาล้างจาน กรุณาออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้”

“ผมได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองคุณหงส์ครับ”

ผมขมวดคิ้ว

“ดูแล? คุ้มครอง? คุ้มครองทำไม แล้วใครสั่งมา”

“คุณไป่หลงครับ”

ผมอ้าปากค้าง

“ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้ต้องการการคุ้มครอง”
ผมจะเดินไปหยิบกระเป๋าต่อ แต่ถูกมือใหญ่กางขวางไว้

“อย่าให้ผมต้องมัดนะครับ คุณหงส์”

ผมอ้าปากค้างอีกรอบ

“นี่จะมาคุ้มครองหรือมาคุมขังกันแน่!!!” ผมโวยวายเสียงดัง “แล้วทำไมต้องทำแบบนี้”

“เพราะท่านเดาเอาว่าคนอย่างคุณหงส์ต้องคิดหนีแบบคุณเหมยแน่ๆ”

ใช่เลย

“ท่านจึงสั่งให้ผมมาคุ้มครองครับ”

“แถวบ้านฉันเรียกสิ่งที่นายกำลังทำว่าควบคุมไม่ใช่คุ้มครอง ยังไงฉันก็ไม่แต่ง!”

คนตรงหน้าถอนหายใจแรง ล้วงหยิบบางสิ่งออกมาจากอกเสื้อด้านใน

มันคือด้ายครับ
ด้ายไนล่อนสีขาว เส้นเล็กๆ ผมจ้องมองสิ่งนั้นอย่างหวาดระแวง

มันจะเอามาทำอะไร

“จะทำอะไร”
ผมจ้องมองสองมือใหญ่ที่กำลังคลี่ด้ายไนล่อนจนตึง

“ถ้าคุณหงส์ดื้อ ผมก็ต้องมัด”

“บ้ารึไง! ใครเขามัดคนด้วยด้ายไนลอนเส้นเท่านี้กัน ไม่ใช่สิ เรื่องอะไรต้องมามัดฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจ”

คนตรงหน้ายกยิ้ม

“มันไม่ใช่ด้ายไนล่อนหรอกครับ สบายใจได้ แต่มันคือเชือกที่ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ แข็งแรงกว่าไนล่อนหลายพันเท่า เส้นเล็ก ง่ายต่อการพกพา ใช้งานได้หลายอย่างด้วย ทั้งมัด...”
มันพันเชือกเส้นนั้นรอบนิ้วตัวเอง รัดจนแน่น

ผมกลืนน้ำลาย ถ้านิ้วนั่นคือคอผม มันคงขาดเป็นสองท่อนในเวลาอันรวดเร็วแน่ๆ

“ทั้งฆ่า”
มันกระชากดึงจนตึงอีกรอบ ทำหน้าดุ ผมสะดุ้งโหยงถอยหลังกรูด ผมรีบล้วงหยิบมือถือขึ้นมากด แต่ถูกยึดจับข้อมือไว้ มันดึงมือถือไป

“ดึกแล้ว คุณหงส์นอนเถอะครับ”
มันบอกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ฉันไม่นอน เอามือถือคืนมา”
ผมยื้อแย่ง มันไม่พูดต่อ ผลักผมล้มโครมลงไปบนเตียง กระชากดึงขาผมปรับให้นอนดีๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัวเหมือนคลุมศพคนตาย

“ไอ้บ้า!!”
ผมรีบถลกผ้าห่มลง จะลุกนั่ง แต่ถูกกดอกไว้ มันขยับลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียง ใช้ฝ่ามือเดียวกดหน้าอกผมไว้

“นี่ ปล่อย ใครก็ได้ช่วยด้วย!!”
ผมตะโกนแหกปากสุดเสียง พยายามดันตัวขึ้น

“อย่าเสียงดังไปเลยครับ ทุกคนหลับกันหมดแล้ว คุณหงส์ก็ต้องนอนด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวผิวไม่สวย”

“ฉันเป็นผู้ชาย”
ผมบอกเสียงขุ่น มันถอนหายใจแรง

“คนเป็นเจ้าสาวต้องสวยเข้าไว้นี่ครับ”

ผมเบิกตากว้าง

“ใครเป็นเจ้าสาว ฉันไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายแน่ๆ ที่สำคัญไม่ยอมเป็นเมียใครด้วย”

“ตามข้อตกลงของสองตระกูล คุณหงส์ต้องแต่งเข้าบ้านคุณไป่หลงครับ”

ผมอ้าปากค้าง

“บ้าไปแล้ว ปล่อย!!”
ผมเลิกดิ้นลงกึกเมื่อไอ้น้ำยาล้างจานมันเอาเชือกบ้านั่นมาขึงพาดกลางลำคอผม แนบติดจนผมแทบกลืนน้ำลายไม่ได้ หัวใจหล่นวูบ

นี่ผมกำลังจะถูกฆ่าเหรอ

“ว่าง่ายๆ แล้วนอนดีกว่านะครับ ผมใจเย็นกว่าไฟนิดเดียว”

ไฟบ้านเตี่ยมึงดิเย็น!!
ผมด่ามันทางสายตา มันมองผมนิ่งๆ แล้วเชือกเส้นนั้นก็ถูกดึงออกไป มันตบหน้าอกผมเบาๆ

“นอนหลับฝันดีนะครับ ผมจะนั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้จนกว่าคุณหงส์จะหลับ”

“โอ๊ย!”
ผมร้องโอ๊ยออกมาเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกอะไรสักอย่างปักลงบนหลังคอ ผมรีบกุมมันไว้

“ทำอะไร”
ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือมันตรงหน้า รูปร่างคล้ายๆ ปืนแต่ส่วนปลายคล้ายเข็มฉีดยา มันเก็บเข้าอกเสื้อด้านในหน้าตาเฉย 

“GPS ครับ จะได้รู้ว่าคุณหงส์อยู่ตรงไหน”

ผมตาโต

“บ้ารึไง ฉันไม่ใช่หมาไม่ใช่แมวนะ จะได้ใส่ด็อกแท็กแบบนี้!!”

“ฝันดีครับ อีกห้านาทีถ้าคุณหงส์ไม่นอน ผมคงต้องฉีดยานอนหลับเข้าเส้นเลือดให้ แต่ผมไม่ใช่หมอ ไม่รู้ว่าจะเผลอฉีดเยอะจนเกินขนาดหรือเปล่า”
แล้วเจ้าตัวก็ยกนาฬิกาขึ้นมาจับเวลา

ผมตาโต รีบหลับตาปี๋เพราะไม่อยากเสี่ยง

ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ทั้งโดนเชือกกดคอ โดนฝัง GPS ผมยังไม่อยากหลับไม่ตื่นอีกนะ

ได้กลิ่นอะไรหอมจางๆ ตรงหน้า ผมลืมตามอง ไอ้น้ำยาล้างจานยิ้มเย็น

“ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีวิธีที่นุ่มนวลกว่าฉีดยานอนหลับ”

ผมมองสิ่งที่มันถืออยู่ ลักษณะคล้ายขวดสเปรย์ดิโคโลญนจ์ แต่มีขนาดเล็กกว่า

“อะไร”
ผมถามด้วยน้ำเสียงยานคาง รู้สึกง่วงอย่างบอกไม่ถูก

“ยานอนหลับแบบพ่นครับ”
อยากพูดอะไรสักคำ แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือปิดเปลือกตาลง ผมไม่ได้ทำเอง มันตกลงมาเองพอๆ กับสติผม
..........

.....

...

.





ผมสะดุ้งตื่นอีกทีเมื่อตะวันทอแสง กวาดมองไปรอบๆ

เมื่อคืน ฝันเหรอ

ผมเลิกผ้าห่มออกจากตัว โดดลงจากเตียง มองไปรอบๆ

ทุกอย่างก็ดูปกติดี
ผมเกาหัว

สงสัยจะฝันจริงๆ นั่นแหละ ฝันเป็นตุเป็นตะดีแฮะ

ผมเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว แต่งด้วยชุดทะมัดทะแมง วันนี้ผมจะหนีออกจากบ้าน ผมไม่อยู่เพื่อแต่งงานกับใครแน่ๆ พออาบเสร็จก็ออกไปดึงกระเป๋ามาวางบนเตียง รวบเอาเสื้อผ้าที่ผมฝันว่าพับมันไปรอบหนึ่งแล้วมาพับอีก กวาดมองไปรอบๆ

รู้สึกมึนหัวยังไงพิกล

ผมตรวจสอบกระเป๋าอีกรอบ พอเห็นว่าเรียบร้อยดีถึงได้รูดซิป ยกลงจากเตียงมาตั้งที่พื้น เดินลิ่วๆ ไปเปิดประตู

เพื่อไปพบกับร่างสูงใหญ่ของคนที่ผมฝันเห็นเมื่อคืน

ผมอ้าปากค้าง

“มื้อเช้าครับ ผมทำเองกับมือเลย”

ผมปิดประตูใส่หน้ามันดังปัง หัวใจเต้นแรง

ไม่ใช่ความฝัน!!

ทำไงดี!

ผมหันรีหันขวาง
ออกทางประตูตอนนี้ไม่ได้แน่ๆ

มองไปทางหน้าต่าง (บ้านผมชั้นเดียวครับ แต่พื้นที่กว้างมาก) ผมรีบลากกระเป๋าไปทางนั้นทันที เปิดมันออก ได้ยินเสียงกริ๊กเหมือนประตูถูกไข ผมหันไปมอง เห็นไอ้น้ำยาล้างจานมันก้าวเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร ผมไม่อยู่รอให้เสียเวลา ยกกระเป๋าทิ้งนำออกไปก่อน สองมือจับขอบหน้าต่างแน่น เตรียมจะเหวี่ยงตัวขึ้น

แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างใจคิดก็ถูกยึดจับคอเสื้อแน่น มันลากผมถลาออกห่างหน้าต่าง ก้มหยิบกระเป๋าที่ผมโยนทิ้งเมื่อกี้เข้ามาภายใน

“ปล่อยกูนะเว้ย!!”
ผมโวยวาย พยายามดิ้นหนี

“พูดจาให้เรียบร้อยด้วยครับ”

“กูไม่พูดดีกับมึง ปล่อย!”

“พูดหยาบอีกคำ โดนไอ้นี่จิ้มตานะครับ”

ผมชะงักกึกมองปลายมีดที่อยู่ห่างดวงตาไปแค่มิลเดียว

มันยกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ค่อยๆ ดึงมีดออกห่าง

“มาทานข้าวกันดีกว่าครับ”

“...ไม่กิน”
กำลังจะพูดว่า 'กูไม่กิน' แต่ผมกลืนคำแรกทิ้งไปเหลือไว้แค่สองคำหลังเท่านั้น

“ทานเถอะครับ อย่าให้ผมต้องป้อน”

ผมกลืนน้ำลายคงคอ ปากบอกป้อน แต่นัยน์ตานี่เหมือนอยากยัดอาหารใส่ปากผมมากกว่า มันจับผมดันไปทางเก้าอี้หน้าโต๊ะอ่านหนังสือ จับสองไหล่ผมกดให้นั่งเบามือ ผมมองมันตาขวาง แต่ไม่กล้าขัดขืน ไม่รู้ว่าภายใต้เสื้อสูทตัวนั้นมีอะไรซุกซ่อนอยู่อีกบ้าง เมื่อวานเจอทั้งเครื่องยิง GPS ยานอนหลับแบบพ่น เชือกสังหาร วันนี้เจอมีด ผมว่าหนึ่งในนั้นต้องมีปืนด้วยแน่ๆ

“เชิญครับ”
มันเลื่อนถาดอาหารมาวางไว้ตรงหน้าผมด้วยท่าทางสุภาพ

“ถ้าดื้อไม่ทานเอง เดี๋ยวผมจะป้อน”
มันทำท่าจะจับช้อน ผมรีบคว้าจับเอาไว้ก่อนทันที ถ้าปล่อยให้มันป้อน มีหวังข้าวคงติดคอผมตาย

ผมมองอาหารตรงหน้า เป็นอาหารไทยง่ายๆ สองอย่าง ที่สำคัญ ของโปรดผมทั้งนั้น พร้อมข้าวเปล่าหนึ่งจาน ผมเม้มปาก จำใจตักกิน

อื้อหือ อร่อย

“อร่อยใช่ไหมครับ” มันถามมาเสียงเรียบ

“ก็งั้นๆ”
ผมไม่ยอมรับ มันหัวเราะหึๆ ในลำคอ ไม่พูดอะไร ขยับห่างออกไปหนึ่งก้าว ยืนไพล่หลังด้วยท่าทีสำรวม ตาจ้องนิ่งมาที่ผม

ผมรีบตักกินให้มันหมดๆ ไป (คือ จริงๆ แล้วมันอร่อยมาก อร่อยกว่าแม่บ้านผมทำอีก) ใช้เวลาไม่นานอาหารก็เกลี้ยงฉาด มันขยับมายกถาดเปล่าถือไว้ในมือ หันหลังจะเดินออกจากห้อง ผมรอจังหวะ ถ้ามันออกไป ผมจะได้หนีอีกรอบ

ผมเตรียมจะลุก แต่มันหยุดเท้าลงแถวๆ หน้าประตู หันกลับมามอง พยักหน้าไปทางหน้าต่าง

“อย่าคิดหนีนะครับ เพราะผมรู้หมดว่าคุณหงส์อยู่ไหน”
มันจิ้มนิ้วที่หลังคอตัวเองให้ผมดูตำแหน่ง ผมรีบตะครุบหมับ รู้สึกเจ็บตรงนั้นด้วย

“และอย่าคิดกรีดออกเองนะครับ ผมฝังไว้ในตำแหน่งค่อนข้างอันตราย สุ่มสี่สุ่มห้ากรีดออกเอง มีสิทธิ์เลือดพุ่งจนหมดตัวตายได้นะครับ”

ผมกลืนน้ำลายลงคอ แล้วมันก็เปิดประตูเดินออกไป ผมหันรีหันขวาง

เอาไงดี จะเสี่ยงหนีไปอีกรอบดีไหม ผมกุมหลังคอตัวเอง แล้วนี่คนในบ้านรู้หรือเปล่าว่าผมถูกคุมตัวอยู่ อย่างน้อยหนีไปขอความช่วยเหลือคนในบ้านก็ได้

กำลังจะก้าว แต่ต้องเบรกกึก คิ้วขมวด ขนาดว่ามันสามารถไปทำอาหารในครัวได้ ถ้าไม่ใช่ว่าคนในบ้านโดนคุมตัวไว้ ก็แปลว่าเขารู้กันหมดแล้วน่ะสิ

ผมกุมหัว เอาไงดีวะ!!!

ยังไม่ทันได้ตัดสินใจทำอะไร ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมไอ้ตัวเดิมนั่นแหละ มันเดินหน้านิ่งผ่านผมไปหยิบกระเป๋าผมที่พื้น เดินเอาไปเปิดดึงเสื้อผ้าออกมาจัดเก็บตามเดิม

ผมอ้าปากค้าง พอเสร็จมันก็กลับมายืนตัวตรงมอง

“อยากไปไหนหรือทำอะไรก็ได้ตามสบายนะครับ ใช้ชีวิตปกติได้เลย เพียงแต่ผมจะติดตามไปด้วยเท่านั้น”

“มันจะไปปกติได้ไง โดนตามหนักขนาดนี้”

“ถ้าคุณหงส์ไม่คิดจะหนีก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ”

ผมนิ่งคิด สมองกำลังหาทางออก

“ก็ได้ ฉันรับปากว่าจะไม่หนี นายกลับไปได้แล้ว”

“พอดีผมเชื่อคนยากครับ ผมจะออกไปรอหน้าห้อง GPS บนตัวคุณจะส่งสัญญาณทันทีที่คุณหงส์ออกห่างผมเกินระยะที่กำหนด เพราะงั้น อย่าคิดหนีเด็ดขาด มีอะไรเรียกใช้ได้ตลอด ถ้าผมทำได้ก็จะทำ ทำไม่ได้หรือไม่อยากทำก็จะไม่ทำ”
พูดจบมันก็เดินนิ่งๆ ออกไปเลย

ผมยืนอ้าปากค้าง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมกันวะ!!!!



#หงส์ซาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2017 16:19:01 โดย memew »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #5 เมื่อ23-04-2017 20:47:56 »

นี่จะแต่งงานหรือนักโทษประหารรร

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #6 เมื่อ23-04-2017 21:19:11 »

 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #7 เมื่อ23-04-2017 21:36:46 »

ลูกน้องยังขนาดนี้... ชักอยากเห็นหน้าเจ้านายขึ้นมาตงิด ๆ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #8 เมื่อ23-04-2017 22:11:55 »

 :hao3: โดนตามคุมขนาดนี้จะทำไงต่อไปน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #9 เมื่อ23-04-2017 22:14:28 »

รบกวนไรท์ ลงวันที่เวลาอัพตอนใหม่
คือคนอ่านสับสนไม่รู้ว่าเก่าหรือใหม่
แบบ   หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน@@@@P.1@@@@23/04/2560

ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ว่าแต่ใครนะ จะเป็นเจ้าบ่าวของหงส์ซาน
อยากรู้ๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
« ตอบ #9 เมื่อ: 23-04-2017 22:14:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #10 เมื่อ23-04-2017 22:19:43 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #11 เมื่อ23-04-2017 23:23:02 »

 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #12 เมื่อ23-04-2017 23:30:54 »

ถึงกับติด gps กับตัวนี้ก็เกินไป๊ แต่ชอบเนื้อเรื่อง รีบมาต่อเถิดดด อยากเจอพระเอกละจ้า

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #13 เมื่อ23-04-2017 23:45:31 »

ติดตามจ้า  :L2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: หงส์ซาน #2 ชีวิตพลิกผัน
«ตอบ #14 เมื่อ24-04-2017 00:51:33 »

 o13

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :

ตอนที่ 3 จำไว้เลย จำไว้เล้ย!!
________________________________________________


ผมฝัน!!

ใช่ ผมฝัน ผมฝันอยู่
ผมพร่ำบอกตัวเองเป็นรอบที่ร้อย แต่ความฝันผมมันเหมือนจริงเหลือเกิน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในความฝันผมตอนนี้

ผมจ้องมองผู้คุม (เจ้หลินเรียกว่าบอดี้การ์ด แต่ผมยังยืนยันที่จะเรียกผู้คุม หรืออีกชื่อของมันคือไอ้น้ำยาล้างจาน) มันกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยภาษาเยอรมัน แต่มันไม่ได้เป็นคนเยอรมันหรอก และผมไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นคนชาติไหน เพราะตั้งแต่อยู่ร่วมกันมาสามวัน หมอนี่พูดไปแล้วมากกว่าเจ็ดภาษา ขนาดพม่าไอ้น้ำยาล้างจานมันยังพูดได้

“พูดได้กี่ภาษา” ผมถามอย่างเสือกรู้

“ได้ทุกภาษาที่มีในโลก”

ผมตาโต

“พูดจริงหรือเปล่า อัจฉริยะเกินไปแล้วนะ!”
ผมถามอย่างตื่นเต้น

“พูดได้ทุกภาษาในโลก แต่แค่คำว่าสวัสดีกับลาก่อน ถ้าเอาให้คล่องก็แค่สิบสองภาษา”

‘กวนตีน’ ผมด่ามันอยู่ในใจ

“ขอบคุณสำหรับคำชม”

ผมขมวดคิ้ว
“ใครชม ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ”

“กวนตีน เมื่อกี้พูดคำนี้ในใจหรือเปล่าล่ะครับ”

ผมตาโต อ้าปากค้าง
“นะ นี่นายอ่านใจคนได้!!”

มันส่ายหัว
“ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่คุณหงส์อ่านง่ายเกินไป”

ผมหุบปากลงฉับ

“ความสามารถมากขนาดนี้มาทำงานเป็นขี้ข้าคนได้ไง”
ผมจงใจใช้คำให้ต่ำที่สุด

“มีอาชีพไหนที่ได้ควบคุมคน ได้ทำหลากหลายอย่างโดยที่เงินเดือนสูงลิ่วกว่าวิศวกรทำมาทั้งปีอีก”

“โรคจิต”

มันไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้ม
แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนคนเป็นโรคจิตจริงๆ

ผมยังไม่ได้ล้มเลิกการหาทางหนีหรอกนะ แต่ลองมาแล้วทุกทางจนผมชักท้อ

“นี่ มีรูปว่าที่เจ้าบ่าวฉันไหม”
ผมถามเนือยๆ

“ยังไม่เคยเห็นเหรอครับ”

“ถ้าเห็นจะถามไหม”
ผมตอบหงุดหงิด มันล้วงหยิบมือถือขึ้นมากดยิกๆ แล้วยื่นให้ ผมก้มมอง ภายในเป็นรูปภาพของชายหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาดีมาก ดีแบบดีโคตรๆ เค้าหน้าไม่เห็นเหมือนเหมยเลย แววตานี่โหดยิ่งกว่าไอ้น้ำยาล้างจานตรงหน้าผมอีก

“หน้าตางั้นๆ”

“ถ้าคุณไป่หลงหน้าตางั้นๆ คุณหงส์ก็สุดยอดของความขี้เหร่”

อ๊ากกกกกก

มันว่าผมครับท่านผู้โชม

มันว่าผม!!!!!

ผมอ้าปากพะงาบๆ ตาโต มือชี้หน้า

“ไอ้น้ำยาล้างจาน!!”

มันไม่สนใจผม กดรับสายที่โทรเข้ามานิ่งๆ

“ครับ อ๋อได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ เป็นเด็กดีมาก”
ตอนพูดมันเหลือบมองผมด้วย

“ครับ คุณหงส์ชมว่าคุณไป่หลงหล่อมาก และดีใจเหลือเกินที่จะได้แต่งงานกับท่าน”
ไอ้ตอแหล ไอ้ปากปีจอ พูดไม่เป็นความจริง

“ครับ รับทราบครับ”
แล้วมันก็กดวางสายไป

“ใครไปชมว่าหมอนั่นหล่อ ใครดีใจที่ได้แต่งงาน!!”
ผมแหว มันถอนหายใจแรง

“คนโชคร้ายที่สุดคือเจ้านายผม ไม่ใช่คุณหงส์ เพราะงั้นอย่าทำตัวให้ท่านลำบากใจเลยครับ”

อยากลุกขึ้นมางิ้วข่วนหน้ามันจริงๆ เสียแต่เล็บยาวไม่พอ ไม่แข็งแรงเท่ามันด้วย

“จะแช่งให้คอหักตาย”

มันยกยิ้ม

“ไม่เคยได้ยินเหรอครับ คำแช่งมักคืนไปสู่คนแช่งเสมอ”
มันบอกพร้อมไล้ปลายนิ้วลงบนลำคอผมเบาๆ จนขนลุกเกรียว
“ทำตัวดีๆ นะครับ ผมมีธุระต้องออกไปทำข้างนอก”

ผมตาวาว สบโอกาสหนี

“แล้วอย่าคิดหนีล่ะ ไม่งั้นโดนจับมัดแน่ๆ”

ผมหัวเราะหึๆ ไม่ได้รับปาก มันลุกขึ้นยืน ขยับปรับสูทสุดเท่ให้เข้าที่เข้าทาง รูปร่างหน้าตาน่าจะไปเป็นนายแบบมากกว่า

“ขอบคุณที่ชมครับ”

“ใครชม!”

มันยกยิ้ม

“รู้สึกเหมือนเมื่อกี้คุณหงส์เพิ่งชมผมในใจไปหยกๆ ว่าผมดูดี”
นี่มึงอ่านใจกูได้ใช่ไหม มึงเป็นผี มึงเป็นพ่อมด มึงไม่ใช่คน!!

“ผมบอกแล้วว่าหน้าคุณหงส์อ่านง่าย ผมขอตัว เป็นเด็กดีนะครับ แล้วผมจะซื้อขนมมาฝาก”

“ฉันไม่ใช่เด็ก!!”
ผมแหวตามหลัง มันไม่สนใจ เดินลิ่วๆ เปิดประตูออกไป ผมนั่งฮึดฮัดชกลมชกฟ้า แล้วนั่งรอเวลา กะว่ามันไปแล้วแน่ๆ ถึงได้รีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า คว้าข้าวของทุกอย่างยัดลงกระเป๋าเหมือนที่เคยทำอย่างสองครั้งแรก

ผมยิ้มกริ่ม วิ่งลิ่วไปเปิดประตูออกผ่าง

เพื่อไปพบกับ…

ใครก็ไม่รู้ครับ

แต่ไม่ใช่ไอ้น้ำยาล้างจาน

มันสูงพอๆ กัน รูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ดวงตาสีเดียวกันเด๊ะ

“จะออกไปเดินเล่นเหรอครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปเป็นเพื่อน”

ผมอ้าปากค้าง น้ำเสียงยังคล้ายเลย!!!

“ผมวิกเซอร์ครับ เป็นน้องของซันไรส์ จะมาดูแลคุณหงส์ระหว่างเขาออกไปทำธุระ”

“วิกซอล เอ้อดี พี่เป็นน้ำยาล้างจาน น้องเป็นน้ำยาขัดส้วม”
ผมปิดประตูกระแทกหน้ามันดังปั้ง เข้ามาวนเป็นหนูติดจั่น กัดเล็บแรง

ทำไงให้หนีได้ดี

ได้ยินเสียงกริ๊ก ผมหันขวับไปมอง ไอ้น้ำยาขัดส้วมเดินหน้านิ่งเข้ามา

“เข้ามาก่อนได้รับอนุญาตได้ไง เคาะสิ มีมารยาทไหม แล้วเอากุญแจที่ไหนมาใช้”

“ไม่จำเป็นครับ ผมไขได้ทุกห้องโดยไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจสำรอง”

เอ้อ มึงมันพวกอัจฉริยะ
ผมประชดในใจ

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ”

ผมอ้าปากค้าง
มันเป็นพี่น้องกัน มันต้องเป็นพวกอ่านใจคนได้เหมือนกันแน่ๆ แล้วมันก็เดินหน้านิ่งแบบเดียวกันมาหยิบกระเป๋าจากมือผม เดินดุ่ยๆ ไปเก็บ แต่มันไม่เป๊ะเท่าคนพี่หรอก ผมมองตามตาขวาง ทำอะไรไม่ได้ก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงดังตุบ

“สรุปฉันกลายเป็นนักโทษ”

“เปล่าครับ ว่าที่เจ้าสาวคุณไป่หลงต่างหาก”

“เหอะ แล้วมีใครที่ไหนปฏิบัติกับว่าที่เจ้าสาวแบบนี้บ้าง”

“ถ้าคุณหงส์ไม่คิดหนีก็ไม่จำเป็นครับ”

“ใครไม่อยากหนีวะ ไปเป็นเจ้าสาวผู้ชายเนี่ยนะ ใช้อะไรคิด!!” ผมตะโกนลั่น “นี่จะบังคับให้ฉันท้องให้คนตระกูลหยางด้วยไหม!!”

“ผมดีใจนะครับที่คุณหงส์ท้องไม่ได้”

“ทำไม!”
ผมกระชากเสียงถาม

มันเก็บของเสร็จแล้ว หันมามองพอดี
“ไม่อยากให้ทายาทของคนตระกูลหยางสติไม่เต็มแบบแม่”

ผมอ้าปากค้างจนแมลงวันแทบบินเข้ามาวางไข่
มือชี้หน้าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปงิ้วใส่มันเป็นอันเรียบร้อย ข่วนแควกๆ
มันยกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ผมข่วนหน้ามันอีกรอบเสียงดัง (แน่นอน ว่าแค่ในความคิด)

“เจ้านายแกยอมได้ไง ชื่อเสียง อนาคต หมดกันพอดี”

“เพื่อธุรกิจท่านทำได้ครับ”

“หึ แล้วเจ้านายแกไม่อยากมีทายาทรึไง”

“วิธีสร้างทายาทไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ มีหลายวิธีให้ได้ลูก ถ้าคุณไป่หลงท่านเป็นห่วงเรื่องนี้จริงคงแต่งงานไปนานแล้ว แต่ท่านไม่ค่อยสนใจเรื่องครอบครัวหรือคู่ครองเท่าไหร่”

ผมเบ้ปาก นิ่งคิด ปกติการแต่งงานระหว่างสองครอบครัว หลักๆ แล้วคือนำใบสมรสและความสัมพันธ์มาเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ดูแลสามี มีบุตรสืบทายาท แต่ผู้ชายอย่างผม…

ผมนิ่งคิดทบทวนอีกรอบ

“นี่ เจ้านายแกเป็นเกย์หรือเปล่า คือแบบว่าชอบคนเพศเดียวกันอะไรงี้”
ครองตัวโสดมาได้ขนาดนี้ อาจเป็นเกย์ก็ได้

มันส่ายหัว

“เปล่าครับ ท่านปกติดี นอนกับผู้หญิงได้ตามปกติ”

“แล้วเขาเคยนอนกับผู้ชายไหม”

“ไม่ครับ”

ผมยิ้มออกมาได้ทันที

โธ่ มันก็แค่การแต่งงานฉาบหน้าเพื่อเอาใบสมรสเท่านั้นนี่หว่า

“แต่เห็นคุณไป่หลงเปรยๆ ไว้ว่าอยากลองดูเหมือนกัน”

ผมร้องจ๊ากในใจ

“นี่วิกซอล”
ผมเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“วิกเซอร์ครับ”

“จะอะไรก็ช่าง ไปบอกเจ้านายแก การนอนกับผู้ชายไม่ใช่ความคิดที่ดี ผู้หญิงมีนม ไปบอกเจ้านายแกอย่างนี้”

มันยกยิ้ม

“ครับ ผมจะบอกท่านให้”
แล้วมันก็หยิบมือถือขึ้นมากดยิกๆ พอเรียบร้อยก็เก็บใส่กระเป๋าเสื้อด้านในตามเดิม

แผล็บเดียวก็ได้ยินเสียงเมสเสจดัง มันล้วงหยิบขึ้นมาอ่าน ผมชะเง้อคอมองอย่างอยากรู้ มันยกยิ้ม มองตาผม

“ผมบอกท่านให้แล้วเรื่องที่คุณหงส์ฝากไว้ ท่านตอบกลับมาว่า ผู้ชายก็มีนมเหมือนกัน แต่ไม่ต้องห่วง ท่านไม่สนใจนมพร่องคุณภาพของคุณหงส์หรอกครับ”

ผมอ้าปากค้าง
ผมจะจารึกไว้ว่าคนตระกูลหยางปากหมา เห็นเหมยพูดจาดี๊ดีไม่คิดว่าจะมีพี่ชายปากหมา แถมยังมีฝูงบริวารปากหมามากกว่าอีก

“เขาคงไม่ได้คิดจะแต่งงานกับฉันตลอดชีวิตใช่ไหม เจรจาธุรกิจเสร็จก็เซ็นใบหย่า”

“อันนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสองครอบครัวครับ”

ผมอยากทึ้งหัวตัวเอง

เอาเถอะ! แต่งแค่ในนาม พอการเจรจาทุกอย่างครบ ผมจะได้เป็นอิสระ ทนๆ เอาหน่อย คงไม่นานเท่าไหร่




(35%)

ผมยืนเป็นพระเอกมิวสิกอยู่หน้าบ่อเลี้ยงปลารูปเลขแปดตรงหน้า
ปลาคาร์ปหลากหลายสีว่ายวน ราคาของมันแพงหูฉี่ ปลาบางตัวซื้อรถได้เป็นคัน อย่างที่บอก ป๊าผมรวย รวยมากด้วย มีธุรกิจในเครือหลายอย่าง แต่ป๊าไม่เคยให้ผมเข้าไปแตะแม้แต่นิดเดียว ไม่เหมือนพวกพี่ๆ ที่ได้ดูแลกันคนหนึ่งหลายอย่าง เอาตามจริงผมแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป๊าทำอะไรกันบ้าง เกิดเป็นลูกคนเล็กก็หมาหัวเน่าอย่างนี้แหละ

ผมโยนอาหารปลาลงไปหนึ่งช้อน พวกมันรุมเข้ามากิน

“มึงอย่าตะกละไอ้ขาว”
ผมบอกไอ้ขาว ปลาคาร์ปที่ตัวใหญ่กว่าเพื่อน กินเก่ง อ้วนตุบ

แล้วผมก็โยนอาหารปลาลงไปอีก

“ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ”
ไอ้น้ำยาล้างจานเดินหน้านิ่งเข้ามาหา ผมลุกจากบ่อปลา เดินไปยัดกล่องอาหารปลาใส่มือมัน

“เอ้า หิวก็กินได้”
แล้วผมก็เดินลิ่วๆ เข้าบ้านไป ม้าผมนั่งรอแล้ว ผมไม่พูดกับม้าสักคำ นั่งได้ก็หยิบตะเกียบมาคีบตักข้าวกินรัวๆ ใช้เวลากินไม่ถึงห้านาทีก็ลุกพรวด

“อาหงส์”
ม้าเรียกไว้ ผมเบรกเท้าลงกึก ผมไม่คุยกับป๊าอีกเลยตั้งแต่ผมพยายามร้องขอครั้งล่าสุด กับม้าจะพูดด้วยก็ตอนที่ถูกถามเท่านั้น

“เข้าใจป๊าเขานะลูก”

ผมไม่ตอบ หันหลังเดินจากมา

ผมกลับไปที่บ่อปลา มองหากล่องอาหารปลา ซันไรส์เดินนิ่งๆ เข้ามาหา ยื่นกล่องอาหารปลาให้

“กินไม่อิ่มเหรอครับ เอานี่ เอาไปกินต่อ”

ผมมองหน้ามัน คว้าหมับมาถือ ตักเทใส่บ่อปลาแก้เบื่อ
 


“วันพรุ่งนี้คุณไป่หลงจะมาหานะครับ”

ผมขมวดคิ้ว เข้าใจอยู่หรอกว่าตามธรรมเนียม เราจะมีการนัดเจอกันก่อนอย่างน้อยครั้งหรือสองครั้ง แต่ปกติจะนัดไปเจอกันข้างนอก อย่างห้องอาหารอะไรทำนองนี้

อยากเห็นหน้าชัดๆ เหมือนกัน หัวหน้าฝูงหมาป่าพวกนี้ คอยดูเถอะ แต่งงานไปผมจะป่วนประสาทจนมันอยากเซ็นใบหย่าให้ผมวันละสิบรอบเลยทีเดียว





 
รุ่งขึ้น

วันนี้ป๊าม้ากับอาเฮียบางคนอยู่บ้าน เพราะจะมีแขกพิเศษมาเยี่ยม

ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก แต่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวผมนี่แหละ (ไม่ได้มาสู่ขอหรอกครับ เพราะขั้นตอนนั้นผู้ใหญ่ทำกันเรียบร้อยแล้ว) ผมถูกจับใส่สูทตั้งแต่เช้ามืดทั้งที่จริงๆ หมอนั่นมาตอนเย็น

จะให้ผมแต่งตัวรอทำไม
หมอนี่น่าจะเป็นพวกบ้าอำนาจสุดๆ ใครได้เป็นผัว นรกจริงๆ

อ้าว กูเองนี่หว่า

ผมนั่งๆ นอนๆ คอย กระทั่งมีรถหรูวิ่งเข้ามาจอดภายในรั้วบ้าน ผมถูกต้อนให้ออกไปยืนรับ ทั้งป๊าทั้งม้าผมก็ออกมายืนด้วย

หมอนี่เป็นใคร
แค่ลูกชายคนตระกูลหยาง ทำเป็นใหญ่

ผมยืนหน้าหงิกทั้งที่ม้าสะกิดเตือนให้ทำหน้านิ่งๆ หรือยิ้มแย้มหน่อย

พอรถจอดสนิท ซันไรส์ที่เตรียมตัวไว้แล้วก็เดินไปเปิดประตูออก ชั่วอึดใจหนึ่ง หัวดำๆ ก็โผล่ออกมาก่อน ตามติดด้วยใบหน้านิ่งเรียบดุจรูปปั้นในชุดสูทสีเข้ม 

อื้อหือ หล่อฟัดโลก
ออร่าความหล่อมันพุ่งกระแทกตาจนอยากกลับไปเกิดใหม่เป็นลิง

ตัวสูงชะลูด แต่สมส่วน กล้ามเนื้อแน่นหนัด ผมยาวระต้นคอ สันจมูกตรง แต่ไม่ได้เป็นแท่ง มีสโลปนิดๆ ดูมีมิติ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มไปทางดำ อกผาย ไหล่ผึ่ง บุคลิกโคตรดี

ซันไรส์โค้งคำนับ มันพยักหน้านิดหนึ่งให้ ป๊ากับม้าเดินเข้าไปหาด้วยตัวเอง จับมือทักทายสไตล์สากล ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองมันตาขวาง

เอาไปเลย ความประทับใจแรก

ป๊ากับม้าพูดคุยกับมันโฉงเฉง สักพักม้าก็หันมาทางผม

“เข้ามาสิอาหงส์ นี่ว่าที่เจ้าบ่าวลื้อ”

ผมไม่เข้าไป ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“อาหงส์”
ม้าเรียกมาอีกรอบ ผมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“โทษทีม้า ยืนรอนาน รากอั๊วงอก”

ป๊ากับม้าอ้าปากค้าง

มันยกยิ้มครับ! มันยกยิ้ม มุมปาก นิดหนึ่ง

มึงกล้ายิ้มเยาะกู!!
ผมฝังรากลึกยิ่งกว่าเดิม

“อาหงส์!!”
ป๊าปรี๊ดแตกใส่ผมเสียงดัง

“ไม่เป็นไรครับ”
มันว่า เป็นฝ่ายก้าวเข้ามาหาผมแทน

เหอะ เดินบนหญ้าไม่ใช่พรมแดง ไม่ต้องเก็กหล่อขนาดนั้นก็ได้
มันเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม

ไอ้เปรต จะสูงไปไหน
อยากไว้อาลัยในความเตี้ยตัวเองจัง

มันก้มหน้าลงมา ริมฝีปากใกล้หู   

“เตี้ยจัง”

ผมอ้าปากค้าง กูรู้ว่ากูเตี้ย ไม่ได้สูงเท่าบรรดาพี่ชาย ก็ทำไมอ่ะ น้องคนสุดท้องนี่ ความฉลาด ความหล่อ ความสูง มันหมดไปตั้งแต่พี่ฮันแล้ว เหลือมาให้กูได้ภูมิใจแค่นี้ก็ดีถมถืด

“เปรต”
ผมต่อว่ากลับสั้นๆ มันเลิกคิ้วสูง หัวเราะหึๆ

อ๊ากกก อยากสกายคิก กลับหลังหันแล้วตบด้วยหลังเท้า

“เชิญๆ อาหลง ม้าเขาลงมือทำอาหารเองเลย”

“ครับ”
มันรับปาก แล้วป๊ากับม้าก็พามันเดินเข้าบ้าน ทิ้งให้ผมเดินตามหลัง

ผมมองตาม ที่เจ็บใจสุด แม้แต่ท้ายทอยมันยังดูหล่อ
มันหันกลับมามองผมนิดหนึ่ง ผมรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นตาขวางใส่ทันที มันยกยิ้มมุมปาก หันกลับไปสนใจป๊ากับม้าต่อ

ผมว่าโปรเจคที่ป๊าวางไว้ต้องใหญ่มากแน่ๆ ป๊ากับม้าถึงได้พะเน้าพะนอขนาดนี้ แล้วมันคิดยังไงถึงได้ยอมเสียชื่อเสียงมาแต่งงานกับผู้ชายอย่างผม บอกให้ม้าปั๊มน้องให้ตอนนี้จะโตทันมันแก่ไหมฮึ

ม้ากระวีกระวาดดูแลว่าที่ลูกเขยอย่างออกหน้าออกตา เชิญให้มันนั่ง เฮียฮันพี่ชายคนที่ 6 กับเจ้หมวยพี่สาวคนที่ 7 ของผมอยู่ด้วย ผมไม่สนใจใคร กำลังจะทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ตัวเอง แต่ม้าเรียกไว้

“มานั่งนี่อาหงส์ นั่งกับว่าที่เจ้าบ่าวลื้อ”

“ไม่เอา นี่มันเก้าอี้อั๊ว”
ผมเถียงม้ากลับ

“อย่าดื้อ มานั่งนี่”
ป๊าสั่งมาเสียงดุ ผมหน้ามุ่ย ยอมสละเก้าอี้ประจำกลายร่างจากคนเป็นม้าหมากรุกเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ มัน

อื้อหือ มึงอาบน้ำหอมมาเหรอ แล้วกูจะได้กลิ่นอาหารไหม
ผมไม่สนใจมองหนังหน้ามัน พอแม่บ้านตักอาหารให้เรียบร้อย ผมก็ก้มหน้าก้มตากิน

ป๊ากับม้าก็ชวนมันคุย ส่วนใหญ่ก็เรื่องธุรกิจนั่นแหละ แน่นอนสิ การแต่งงานมันทำเพื่อผลประโยชน์ไม่ได้เกิดจากความรัก ไม่งั้นหัวข้อจะกลายเป็นเรื่องสัพเพเหระแทน

“อาหงส์อย่าเอาแต่กินสิ คีบอาหารให้อาหลงบ้าง หัดทำหน้าที่ได้แล้ว”

ผมชะงักตะเกียบใกล้ปาก จ้องหน้าม้า หันไปมองใครอีกคนข้างกาย มันทำหน้านิ่ง

“ได้สิ”
ผมหัวเราะในใจ ยัดปลายตะเกียบเข้าปากให้น้ำลายติดมาเยอะๆ แล้วเอาไปคีบอาหารให้

พริกล้วนๆ มึง กินไปเลย
แล้วเอาไปวางไว้บนจานมัน ยิ้มหวาน

กินได้มึงก็เหนือมนุษย์แล้ว

“รู้ได้ไงว่าเฮียชอบพริก…แสนรู้จัง”
คำแรกมันพูดให้ทุกคนได้ยิน แต่คำหลังมันกระซิบให้ผมได้ยินคนเดียว ริมฝีปากที่ห่างผิวแก้มไปไม่เกินองคุลีสร้างความร้อนผ่าวให้พื้นที่ตรงนั้น มันร้อนวูบแปลกๆ

แต่เดี๋ยวนะ

แสนรู้!!

ผมหันขวับไปมองมันตาขวาง แต่รายนั้นไม่สนใจ คีบพริกที่ผมวางไว้ให้เข้าปากกินเฉย

อ๊ากกกกก

ด้วยความหมั่นไส้แกมโมโห ผมกระทืบตีนมันไปครั้งหนึ่ง มันชะงัก หันมามอง ใบหน้าเย็นชาขึ้น ตะเกียบถือค้าง ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“อยากได้อีกเหรอ เดี๋ยวอั๊วคีบให้”
แล้วผมก็เอาปลายตะเกียบจุ่มน้ำลายอีกรอบ คีบพริกไปวางไว้บนจานมัน ส่งยิ้มละลายตายายไปให้ มันยกยิ้มนิดหนึ่ง

ขนบนหลังคอผมลุกซู่

“เฮียป้อนหงส์ด้วยดีกว่า”
ว่าแล้วมันก็จุ่มปลายตะเกียบเข้าปาก มองกับข้าว ผมขนลุกเกรียว ยังดีที่มันไม่ได้คีบพริกหรืออะไรแปลกๆ มาให้ แค่ผักครับ

แต่แทนที่มันจะเอามาวางไว้บนจานผม มันกลับเอามาจ่อไว้ใกล้ปาก รองด้วยทิชชู่ในมือ

“เฮียป้อน”

(70%)

ผมอ้าปากค้าง

“ไม่กิน ไม่ชอบกินผัก”

“กินแล้วแข็งแรงนะ กินเถอะ เฮียอุตส่าห์ป้อน”

ผมมองตาขวาง

“อย่าเสียมารยาทอาหงส์”
ป๊าปรามมา ผมกัดกราม มองมันตาขวางยิ่งกว่าเดิม อ้าปากงับสิ่งนั้น พยายามไม่ให้ถูกตะเกียบ อยากคายทิ้ง แต่จำใจต้องเคี้ยวๆ กลืน

ฝืดคอชิบ น้ำลายมันเชียว

ผมรีบยกน้ำดื่มตาม แก้แค้นบนโต๊ะไม่ได้ก็เตะขามันไปป้าบใหญ่ มันหันมามอง และก่อนที่มันจะคีบอาหารมาป้อนอีก ผมชิ่งวางตะเกียบก่อน

“อิ่มแล้ว”

“ทำไมอิ่มเร็วจัง” ม้าถาม

“อั๊วกินขนมก่อนกินข้าวน่ะม้า”

“สอนไม่เคยจำเด็กคนนี้”

ผมยักไหล่ คนข้างตัวผมหัวเราะหึๆ อยากลุกจากโต๊ะเหมือนกัน แต่ทุกคนคุยกันอยู่ ผมจึงนั่งคอย

ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่ต้นขา ผมก้มมอง เห็นมือปริศนามาวางไว้ ผมอ้าปากค้าง เจ้าของมือยังนั่งยิ้มละมุนพูดคุยกับป๊าม้า มือขวาคีบอาหารเข้าปาก แต่มือซ้ายมันกำลังไต่ระอยู่บนต้นขาผม

ขนแขนสแตนอัพลามไปทั่วทั้งร่าง
หรือว่ามันจะแก้แค้นที่ผมเตะมัน มันจะหักขาผมงั้นเหรอ

ผมรีบลดมือลงไปดันมือมันออก แต่มันยึดจับขาผมแน่น ผมเตะขามันไปอีกรอบเพื่อแก้แค้นและหวังให้มันปล่อย สีหน้ามันไม่สะทกสะท้าน แยกร่างพูดคุย ท่อนบนอยู่กับคนบนโต๊ะ ท่อนล่างต่อสู้อยู่กับผม ผมจิกปลายเล็บลงบนหลังมือมันแรง

ได้เลือดกลับไปกูไม่รับผิดชอบนะ

มันหันมามองช้าๆ ยิ้มหวาน

หูย ขนกูลุกเกรียวไปทั่วทั้งตัว

“อาหงส์นี่น่ารักกว่าภาพถ่ายนะครับ ถึงเป็นผู้ชายก็เถอะ”

ผมชะงักมองหน้ามัน

“หน้ามันหมวย ตอนท้องคิดว่าเป็นผู้หญิง ยิ่งไปอัลตราซาวด์ หมอบอกว่าเป็นผู้หญิง ไม่รู้ตอนอยู่ในท้องหนีบไว้ท่าไหนเขาถึงมองไม่ออก คลอดออกมาตะลึงกันหมด เพราะเป็นน้องเล็ก ลูกโดดด้วย เลยดื้อสะบัด ยังไงก็ฝากน้องด้วย” ม้าไล่ยาว

“เดี๋ยวนะม้า ใครหน้าหมวย อั๊วหล่อจะตาย”
ผมเลิกจิกมือมันมาเถียงม้า แต่มือผมยังอยู่บนมือมัน

“หล่อไม่เท่าพวกเฮียลื้อ”
ผมหน้ามุ่ย เอาความจริงมาพูดกันทำไมวะ

ป๊าปัดมือไปมาให้ผมเลิกเถียงแล้วหันมาคุยกับคนข้างตัวผมต่อ

ผมหันกลับมาสนใจสภาวะเดิมตัวเองต่อเหมือนกัน ก็เพิ่งเห็นว่าตอนนี้คดีพลิก

พลิกไปไกลมาก
เพราะตอนนี้มือผมไปวางอยู่บนหน้าขามัน มือผมอยู่ล่าง มือมันอยู่บน ผมอ้าปากค้าง จะดึงมือกลับ แต่มันยึดจับแน่น จะดิ้นมากก็ทำไม่ได้เพราะเดี๋ยวคนอื่นรู้

ไอ้บ้า
ได้ อยากได้มือกูดีนักใช่ไหม

ผมจิกหน้าขามันแรง เสียดายที่มันไม่ใช่ผิวเนื้อ ไม่งั้นมีเหวอะแน่ๆ มันหยุดมือผมไว้ บีบมาแรงๆ ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด กัดฟันพยายามไม่แสดงอาการอะไรออกมา

เจ็บครับ
ผมหันไปมองหน้ามัน แต่มันไม่สนใจผม ผมพยายามจะดึงมือกลับ แต่มันไม่หลุด

และก่อนที่นิ้วผมจะหัก มันก็คลายแรงบีบลง มือผมสั่นริก เจ็บจริงนะครับ คิดว่ามือจะหักซะแล้ว ผมพยายามจะดึงมือกลับอีกรอบ แต่มันไม่ยอมปล่อย

“อั๊วจะไปเข้าห้องน้ำ”
ผมหาทางเลี่ยงด้วยการดันตัวลุก มันคลายปล่อยมือผมออกทันที เพราะขืนจับไว้คนคงเห็น

โหย กูน่าจะใช้วิธีนี้ตั้งนานแล้ว
ผมไม่รอให้ใครอนุญาต ก้าวออกมาทันที ระหว่างทางก็ยกมือขึ้นดู

บีบมาได้ซะแรง แดงเลย
ผมเป่าฟู่ๆ เล่นกับมันแรงๆ มีหวังไม่ตายดีแน่ แต่หมั่นไส้นี่ครับ และอีกอย่าง ผมอยากทำให้มันรำคาญผมเยอะๆ ด้วย มันจะได้ยกเลิกการแต่งครั้งนี้

ผมเดินเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว พอเรียบร้อยก็เปิดประตูออกไป ผมชะงักเพราะมีใครบางคนมายืนอยู่แถวๆ อ่างล้างหน้า มันสบตาผม ยกยิ้มนิดหนึ่ง

ผมขนลุกเกรียว

“เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้อาหงส์”

ผมเชิดคอขึ้น
“งั้นก็ยกเลิกงานแต่งซะสิ”

“นายก็รู้ว่ามันทำไม่ได้ กะจะแกล้งให้ฉันรำคาญรึไง”
เดี๋ยวนะ สรรพนามแทนตัวนี่มันหมายความว่ายังไง

“ใช่”
ผมยอมรับตรงๆ

คนตรงหน้าส่ายหัวไปมา
“เด็ก ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรนายหรอกนะ ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ ทำตัวดีๆ หน่อย”

“ไม่”
ผมปฏิเสธทันที
ยื้อได้ยื้อ ขวางได้ขวาง มันถอนหายใจแรง ยกยิ้มนิดหนึ่ง

“รู้อะไรไหม”

“ไม่รู้”
ผมปฏิเสธทันทีอีกรอบ

“ฉันชอบเลี้ยงเด็ก”
ผมขมวดคิ้วมองงงๆ

“โดยเฉพาะเด็กดื้อๆ”
คิ้วผมขมวดยิ่งกว่าเดิม

“เพราะเวลาปราบมันสนุกดี”
มันยกยิ้ม ทาบมือหนึ่งกับกำแพงข้างไหล่ขวาผม อีกข้างใกล้ไหล่ซ้าย ผมมองซ้ายทีขวาที

ทำไม จะต่อยเหรอ กล้าต่อยก็เอาดิ ผมก็ไม่ใช่หมูๆ ถ้ามันต่อยมา ผมจะต่อยกลับเหมือนกัน ผมจ้องมันเขม็ง ประกาศด้วยสายตาว่าถ้ามันทำอะไรมา ผมสู้แน่

มันยกยิ้ม
“ฉันเคยปราบเด็กดื้อมาเยอะนะ”
จะอวดว่าตัวเองเก่งงั้นสิ ลาออกไปเป็นครูเลยไป๊

“แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กตัวเล็กๆ อายุไม่เกิน 12-13”

แล้วไง

“แต่ไม่เคยปราบเด็กโตมาก่อน”
โด่ พวกไม่มีความสามารถ

“คิดว่าใช้สูตรปราบเด็กแบบปกติไม่น่าจะเชื่อง”

เดี๋ยวนะมึง เชื่องนี่มันใช้กับหมาไม่ใช่เหรอ!

“อาจต้องใช้วิธีอื่น”
ขนาดม้ายังระอา มึงจะทำอะไรกูได้

ผมทำสีหน้าเยาะเย้ยท้าทาย

ก่อนที่มันจะ….


(100%)
__________________________________

จะ... เดากันออกไหมว่าเกิดอะไรขึ้น = =;
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2017 10:29:57 โดย memew »

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :katai4:เอาอีกๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ค่าตัวแพงจริงนะไป่หลงเนี่ย เมื่อไหร่จะโผล่มา

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอตอนต่อไปป

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
55555 ชอบไป่หลง

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
อยากไปแอบใต้เตียงของเฮียหลงกับน้องหงส์คืนวันแต่งงานแล้วสิ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น่าร้ากกก เฮียไปอีกก

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกอีกคู่นี้ :oo1:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ชอบบบบ ฮามากกก :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด