Heartbeat: A Retelling of Beauty and the Beast เอาเล่มตัวอย่างมาอวดค่ะ (p.8)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartbeat: A Retelling of Beauty and the Beast เอาเล่มตัวอย่างมาอวดค่ะ (p.8)  (อ่าน 62663 ครั้ง)

ออฟไลน์ minemomo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/ุ7/17)
«ตอบ #90 เมื่อ09-07-2017 04:02:17 »










Heartbeat 







: A Retelling of Beauty and the Beast















สวัสดีวันพระค่ะ มีใครได้ออกไปทำบุญกันบ้างมั้ยเอ่ย ถ้าอิ่มบุญกันแล้วก็มาอิ่มใจกับ Heartbeat กันต่อเลยค่ะ



ฉากจบของตอนที่แล้วเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดไปได้เยอะทีเดียว ส่วน nc ถามว่าจะมีมั้ย นั่นสินะ จะมีมั้ยน้ออออ






















12







โจชัวร์รูดม่านออกจนสุดเพื่อให้แสงแดดส่องผ่านเข้ามาอย่างเต็มที่ เวลายามนี้สายมากแล้วทำให้อากาศกำลังอุ่นสบายสำหรับคนที่ยังหลับสนิท เขานั่งลงบนเตียงข้างๆร่างใหญ่โตที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างอย่างกับเด็ก โชคดีที่ท่อนแขนไม่ได้รับบาดเจ็บมากอย่างที่คิดจึงเหลือแต่ผ้าพันไว้กับรอยแผล รอยไหม้ประปรายทั่วร่าง เขามองริมฝีปากที่เผยอตามลมหายใจเข้าออกแล้วเผลอจับริมฝีปากตัวเองที่บวมเจ่อจนทำให้ไม่กล้าส่องกระจก และไม่อยากออกไปพบหน้าใครในตอนนี้



.



เขายกกำปั้นขึ้น นึกอยากจะทุบตัวการที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายกลายเป็นวางมือลงแล้วลูบข้างแก้มเบาๆ ลึกๆแล้วหัวใจของเขาพองโตด้วยความรู้สึกว่าเจ้าอสูรกำลังแสดงอาการหึงหวง เขาไม่ได้ยอตัวเองแต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ เขากลายเป็นขวัญใจของสาวๆทุกเพศทุกวัย เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆจะวิ่งมาให้อุ้มหรือขอหอมแก้ม สาววัยเดียวกันก็จะชอบแอบมอง ทิ้งสายตาและรอยยิ้มให้จนเก็บกวาดไม่ไหว ส่วนสาวสูงวัยกว่าก็จะเอ็นดู รักเป็นลูกเป็นหลาน



.



เวลาออกไปที่หมู่บ้าน เขามักถูกมะรุมมะตุ้ม ส่วนเจ้าอสูรจะคอยยิ้มมองดูอยู่ห่างๆ อาจมีแอบหัวเราะเยาะเวลาที่เขาโดนรุมมากจนจัดการไม่ไหว แต่สุดท้ายก็เข้ามาช่วยปรามพวกสาวๆให้ทุกที กรณีของลิเดียจึงถือเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนตัวโตแสดงอาการหงุดหงิด จู่ๆก็ดูจะไม่ชอบขี้หน้าเธอโดยไม่มีสาเหตุ แล้วก็พาลมาลงเอากับเขาจนน่วมไปทั้งตัว แล้วอย่างนี้เขาจะโกรธ หรือเอาคืนลงได้อย่างไร



.



สำหรับความรู้สึกที่มีต่อลิเดียแน่นอนว่าเป็นความสงสาร เขาเข้าใจว่าคนเรายิ่งอยู่สูง ถึงคราวตกอับก็จะยิ่งเจ็บหนักกว่าคนทั่วไป เธออาจไม่ได้มีร่างกายอ่อนแอเหมือนเบลล่า แต่ความที่เป็นลูกสาวคนเดียวซึ่งท่านเศรษฐีถนอมราวไข่ในหินทำให้เธอเปราะบางกว่าหญิงสาวทั่วไป แม้จะอายุไล่เลี่ยกันแต่เธอยังดูเป็นสาวน้อยวัยใส อ่อนต่อโลก เมื่อเจอเรื่องชอบใจก็เอาแต่ยิ้มเอียงอาย เวลากลัวก็ได้แต่ยืนตัวสั่น ไร้กำลังแม้แต่จะวิ่งหนีจากอันตราย ทำให้เขารู้สึกทั้งสงสารแกมเอ็นดู อยากจะปกป้องคุ้มครองเธออย่างสุดกำลัง



.



“คิดเรื่องอะไรอยู่หืม ทำหน้ายุ่งเชียว”



.



จู่ๆโจชัวร์ก็รู้สึกหนักอึ้ง พอก้มลงเห็นคนแอบมานอนหนุนตักหลับตาพริ้มก็นึกสนุกอยากลองแกล้งแหย่อสูรหลับ



.



“ป่านนี้คุณหนูลิเดีย...”



.



ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ถูกพลิกตัวกลับมาบนที่นอน โดยมีร่างใหญ่ ขนหนา หน้ายุ่ง คร่อมไว้ 



.



“เจ้ากล้าคิดถึงคนอื่นนอกจากข้า!”



.



โจชัวร์ต้องกลั้นขำสุดกำลัง เจ้าอสูรตีหน้ายักษ์ ตั้งข้อกล่าวหาราวกับเขาทำความผิดร้ายแรง



.



“ท่าน!... งี่เง่ามาก!”



.



เขาจิ้มแผ่นอกหนาล้อเลียน ผลคือโดนค้อนขวับ โอยยยย อยากจะร้องเรียกคนทั้งคฤหาสน์มาดู จะได้ช่วยกันตัดสินว่าควรจะมองนายท่านว่าน่ากลัวหรือน่ารัก แน่นอนว่าเขากำลังรู้สึกดีกับสิ่งที่เจ้าอสูรแสดงออก และคงไม่ผิดนักถ้าเขาจะแกล้งยั่วเพื่อขอคำยืนยันอีกสักหน่อย



.



“... ท่านหึง...”



.



“ทำไมข้าต้องหึงเจ้า” เจ้าอสูรสะบัดเสียงตอบ ทำท่าราวไม่ใส่ใจ ทว่าคำตอบกลับยิ่งมัดตัวเองแน่นหนา



.



“ก็เพราะว่า... ท่านชอบข้า...”



.



ในดวงตาสีอำพัน เขาเห็นสีหน้าของคนที่กำลังเขินกับคำพูดของตัวเอง แต่เขาก็ไม่อยากเก็บเงียบไว้ให้กลายเป็นความอึดอัด หรือได้แต่เสียเวลาไปกับการคาดเดา ความรักควรจะนำมาซึ่งความสุข เขาจึงอยากให้เจ้าอสูรได้พบกับความสุขนั้นเช่นกัน



.



“เข้าใจผิดแล้วเด็กน้อย ข้าไม่ได้ชอบ...” เจ้าอสูรเย้าตอบ เห็นอีกฝ่ายหน้าเจื่อนนิดเดียวก็รีบกลับคำ “แต่ข้ารักเจ้า รักมาก เหมือนที่เจ้าเองก็รักข้าไม่ต่างกัน”



.



โจชัวร์รู้สึกเหมือนหัวใจที่พองฟูมากอยู่แล้วระเบิดโพล่งออกจากอก นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกบอกรัก แต่คือคำรักคำแรกที่ตรงผ่านเข้ามาถึงหัวใจ สั่นสะเทือนให้ทั้งร่างเอิบซ่านไปด้วยความยินดี เขามองใบหน้าที่ขยับใกล้เข้ามา น่าแปลกที่เคยนึกกลัวแต่ตอนนี้กลับเห็นแต่ความรู้สึกแสนหวานที่ฉายออกมาจากทั้งดวงตาและรอยยิ้ม



.



“ท่านเอาอะไรมาพูด ข้ายังไม่ได้บอกสักคำว่าคิดยังไงกับท่าน”



.



“ไม่รู้ตัวเหรอว่าดวงตาของเจ้าได้บอกข้าทุกอย่าง ทั้งหมดในใจของเจ้าแล้ว”



.



เจ้าอสูรอ้างถึงดวงตาแต่กลับทวงคำยืนยันจากริมฝีปากสีฉ่ำที่ยังปรากฏรอยช้ำ สองแขนแกร่งยกร่างเพรียวบางขึ้นแนบชิด บดเบียดเนื้อตัวทุกส่วนเข้าด้วยกัน นานทีเดียวกว่าอารมณ์อ่อนหวานจะค่อยๆสงบลง แต่ไม่วายคลอเคลียใกล้ชิด เฝ้าจูบเฝ้าหอม ดอมดมราวกับอาการเสพย์ติด



.



โจชัวร์ประคองใบหน้าของเจ้าอสูรแล้วจรดริมฝีปากเหนือหน้าผาก ดวงตาทั้งสอง แก้มซ้ายและขวา ริมฝีปากลงมากระทั่งปลายคาง เขาเองก็รู้สึกเหมือนได้พบแหล่งน้ำทิพย์สำหรับหัวใจที่แห้งผากได้ดื่มกินอย่างไม่มีวันหมด เขาอยากจะเก็บกักความมหัศจรรย์นี้ไว้ตลอดไปจึงต้องปิดตายทุกประตูที่จะนำมาซึ่งการสูญเสีย



.



“แล้วท่านล่ะ ได้เปิดเผยทุกอย่างกับข้าหรือยัง ถ้าท่านยังมีเรื่องปิดบังจะไม่ถือเป็นการเอาเปรียบข้าอย่างนั้นหรือ”



.



เขาไม่ได้นึกสงสัยในคำบอกรักหรือหัวใจของเจ้าอสูร แต่ก็ไม่อยากให้อดีตที่ยังเป็นปริศนาหรือบรรดาของวิเศษเหล่านั้นกลายเป็นเสี้ยนแหลมคอยสะกิดให้เกิดรอยแผลในความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้น



.



“รออีกหน่อยเถอะโจชัวร์ สักวันข้าจะไม่มีเรื่องใดต้องปกปิด ข้าจะเปลือยตัวตนให้เจ้าพิจารณา หัวใจของข้าจะอยู่ในกำมือเจ้าอย่างไม่มีเงื่อนไข และแม้แต่ลมหายใจนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าเพียงคนเดียว ข้าสัญญา”



.



โจชัวร์ยิ้มรับด้วยความเข้าใจ อาจจะดูว่าง่ายเกินไปแต่ก็คงดีกว่าทำให้ยุ่งยากจนกลายเป็นปัญหาทั้งที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เขาไม่ได้เขินอีกแล้วเมื่อเจ้าอสูรประทับริมฝีปากลงที่กลางฝ่ามือ



.



“ตกลง ข้าจะรอ” มือข้างเดียวกันนั้นลูบโครงหน้าใหญ่และแนบลงข้างแก้มทำให้รู้สึกถึงอุณหภูมิที่อุ่นกว่าปกติ



.



“แต่สำหรับตอนนี้ ข้าขอใช้สิทธิ์คนที่ท่านบอกว่ารักมากสั่งให้ท่านนอนพักอยู่แต่ในห้อง ลูมิแยร์จะคอยดูแลทั้งอาหาร ยา และทุกสิ่งที่ท่านต้องการ คุณคอกซ์เวิร์ธจะไปจัดการความเสียหายจากไฟไหม้ ข้าจะตามไปช่วยดูแลพวกเด็กๆที่โบสถ์และจะคอยรับรองคุณหนูลิเดียจนกว่าคุณพ่อของเธอจะกลับมา ส่วนท่านก็พักผ่อนให้มากจะได้หายเร็วๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ยครับ”



.



เจ้าอสูรส่งเสียงถอนหายใจยาว ขนาดหลับตาฟังยังรู้เลยว่าแกล้งทำ



.



“แล้วถ้าข้าคิดถึงเจ้าขึ้นมาล่ะจะให้ทำยังไง”



.



คนตัวโตส่งเสียงอ้อน จงใจทำท่าหมดแรง โจชัวร์จึงได้จังหวะปลดอุ้งมือใหญ่และถอยห่างออกจากเตียง



.



“เชิญตามสบาย ข้าอนุญาตให้ท่านคิดถึงได้ แต่ห้ามงอแงอดข้าว ห้ามลืมกินยา และห้ามออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว”



.



โจชัวร์ต้องทำใจแข็งต่อเสียงเรียกแกมตัดพ้อแล้วรีบออกจากห้องในทันที เขาพบลิเดียทานมื้อเช้าอยู่เพียงลำพัง เธอยังคงอยู่ในอาการขวัญเสียจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ซ้ำร้ายต้องมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เจ้าของไร้มนุษยสัมพันธ์ คนรับใช้ก็วางตัวห่างเหิน กลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบยิ่งกว่าตัวเขาตอนที่เพิ่งมาถึงคฤหาสน์เสียอีก



.



เขาไม่อยากให้เธอจมอยู่กับความหดหู่ เศร้าหมอง จึงชวนกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อทำตัวให้เกิดประโยชน์ เธอดูจะแปลกใจที่เห็นเขาลงมือลงแรงทำงานไม่ต่างจากชาวบ้านคนอื่นๆ เมื่อถูกชวนให้ลองบ้างก็ออกอาการกล้าๆกลัวด้วยความที่ไม่เคยหยิบจับงานเป็นชิ้นเป็นอันมาก่อน แต่สักพักก็สามารถปรับตัวและสนุกกับการได้ช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะการดูแลเหล่าเด็กกำพร้าซึ่งแม้จะเพิ่งผ่านเรื่องน่าตกใจมาก็ยังมีความร่าเริงสดใส หัวเราะได้เสียงดังและมีพลังงานล้นเหลือ พลอยทำให้พวกผู้ใหญ่มีกำลังใจที่จะต่อสู้ตามไปด้วย



.



“ขอบคุณนะโจชัวร์” ลิเดียหันมาบอกคนที่นั่งห้อยขาอยู่ท้ายรถด้วยกัน วันนี้เธอหมดแรงแต่ก็สนุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และคนที่ทำให้เธอได้รับประสบการณ์แสนวิเศษนี้ก็คือชายหนุ่มแปลกหน้าแต่ดูจะเข้าใจเธอมากกว่าใคร



.



โจชัวร์ยิ้มตอบแล้วหงายหลังพิงกองสัมภาระ ลิเดียรีบทำตาม รู้สึกสนุกที่ได้ละเลยมารยาทที่ดีของกุลสตรีอีกหนึ่งข้อ ทั้งคู่แหงนมองท้องฟ้ายามโพล้เพล้ในภวังค์อารมณ์ของตน เธอซึ้งน้ำใจที่เขาคอยอยู่เป็นเพื่อน เปิดมุมมองใหม่ๆและสอนให้เธอได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ส่วนเขาก็ขอบคุณที่เธอเสนอตัวเป็นผู้อุปถัมภ์บ้านเด็กกำพร้า ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเจ้าหญิงที่เคยอยู่แต่ในหอคอยงาช้างจะได้ลงมาสัมผัสชีวิตและอุทิศตนเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น



.



รถม้าแล่นไปเงียบๆได้พักใหญ่ เป็นฝ่ายหญิงสาวที่เริ่มชวนคุย



.



“โจชัวร์ จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอถาม...” เธอเกริ่นแล้วรอจนอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ “คุณพูดจริงเหรอที่บอกว่ามาอยู่ที่นี่เพื่อรับโทษแทนพ่อ”



.



“ทำไมถึงคิดว่าผมโกหกล่ะ”



.



เธอมองรอยยิ้มที่แสนสดใสแล้วเผลอยิ้มตาม ชายหนุ่มผู้นี้มักทำให้เธอประหลาดใจได้อยู่เสมอ เมื่อแรกที่รู้ เธอรู้สึกสงสาร เห็นใจ แต่แปลกที่เขากลับไม่ได้เสียใจหรือทำให้ตัวเองจมอยู่กับชะตามกรรมอันเลวร้ายเลยสักนิด



.



“ก็คุณไม่เห็นจะเหมือนนักโทษหรือกระทั่งคนงานทั่วไปที่ตรงไหน นายท่านทั้งดูแลทั้งเอาใจใส่คุณมาก ทุกคนที่คฤหาสน์ก็ปฏิบัติกับคุณอย่างเจ้านายคนหนึ่ง แม้แต่พวกชาวบ้านยังเคารพเชื่อฟังคุณยิ่งกว่าใครๆ”



.



“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ผมแค่เชื่อว่าถ้าเรามอบสิ่งใดไปก็จะได้สิ่งนั้นตอบกลับมา ถ้าเราทำดีกับคนอื่นก็คงไม่มีใครอยากคิดร้ายกับเรา ถ้าเราเคารพคนอื่นก็คงไม่มีใครไม่ให้เกียรติเรา และถ้าเราคิดว่าทุกคนคือเพื่อนก็คงไม่มีใครเห็นเราเป็นศัตรูจริงมั้ยล่ะ”



.



ลิเดียคิดตามแล้วก็พยักหน้าเบาๆ ทั้งๆที่อายุไล่เลี่ยกันแต่เธอรู้สึกเหมือนเขาเป็นพี่ชายที่คอยปกป้องดูแล และมักจะมีข้อคิดดีๆให้เธออยู่เสมอ



.



“แต่ฉันก็ยังอดทึ่งไม่ได้เวลาที่เห็นคุณกับนายท่าน ทั้งพูดคุยทั้งเถียงกันอย่างสนิทสนม ไม่มีใครทำได้อย่างนั้น ขนาดฉันยังไม่กล้ามองท่านตรงๆเลยด้วยซ้ำ”



.



โจชัวร์รู้สึกเขินกับการถูกตั้งข้อสังเกต เขาเองก็เคยเป็นเช่นนั้น ในสายตาคนนอก เจ้าอสูรทั้งน่าเกลียดน่ากลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะมองเต็มตา แต่สำหรับเขาในตอนนี้กลับเห็นแต่แววตาที่อ่อนโยน เขี้ยวยาวๆนั่นก็ไม่สามารถปิดบังรอยยิ้ม เมื่อคุ้นเคยกันมากขึ้น เขายิ่งพบว่าเจ้าอสูรไม่ใช่คนโหดร้าย แต่มีความหลากหลายทางอารมณ์ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง



.



“เจ้า.. นายท่านก็ไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย เธอแค่ยังไม่คุ้นเคยเท่านั้นเอง”



.



“ไม่มีวันหรอก ต่อให้ต้องแต่งงานกันจริงๆ ฉันก็ไม่มีทางคุ้นกับหน้าตาน่ากลัวแถมรูปร่างประหลาดๆอย่างนั้นได้แน่ๆ”



.



เหมือนจู่ๆก็มีพายุหิมะพัดวูบมาทั้งที่ท้องฟ้าสดใส และคำสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่หูจะอื้อไปชั่วขณะจนต้องถามย้ำให้แน่ใจก็คือ...



.



“แต่งงาน?!”



.



ลิเดียยิ้มน้อยๆ พยักหน้าตอบพร้อมอาการเขินอาย



.



“คุณพ่อเคยบอกไว้ตั้งนานมาแล้วว่าฉันจะต้องแต่งงานเพื่อช่วยล้างคำสาปของนายท่าน”



.



“คำสาป?”



.



“มันเป็นเรื่องวงในที่รู้กันไม่กี่คนว่าจริงๆแล้วนายท่านก็คือทายาทของผู้ก่อตั้งเมืองของพวกเรา แต่โชคร้ายที่ไปโดนคำสาปจนต้องกลายร่างเป็นอสูรอย่างที่เห็นและจะกลับเป็นเหมือนเดิมก็ต่อเมื่อได้พบรักแท้ ฟังดูน่าเหลือเชื่อ อย่างกับเรื่องในนิทานเลยใช่มั้ยล่ะ”   



.



“รักแท้?”



.



“ใช่แล้ว” เธอตอบและแถมด้วยคำอธิบายที่เหมือนกับถูกสอนให้ท่องจนขึ้นใจ “เมื่อนายท่านพบคนที่จะมอบหัวใจให้ได้ทั้งหมด รักเหมือนเป็นอีกครึ่งชีวิตที่จะไม่มีวันพรากจากกัน และคนๆนั้นก็ต้องรักตอบด้วยหัวใจอย่างแท้จริงถึงจะเป็นรักแท้ที่แก้คำสาปได้”



.



โจชัวร์ยังคงมึนงงกับคำตอบที่ได้มาโดยฉับพลัน นี่น่ะหรือความลับที่เจ้าอสูรและคนทั้งคฤหาสน์ช่วยกันปกปิด เขารู้สึกก้ำกึ่งระหว่างความอัศจรรย์ใจกับเรื่องราวดั่งนิยายเพ้อฝัน และความเจ็บแปลบเมื่อรู้สึกได้ว่าตนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ เจ้าอสูรก็คงกำลังควานหาคนที่จะมาช่วยล้างคำสาปซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเขา ความใกล้ชิดที่เคยได้สัมผัสแท้จริงแล้วอาจเป็นเพียงเรื่องโกหก



.



เขามองสาวน้อยตรงหน้าแล้วยิ่งเหมือนตอกย้ำถึงเรื่องสมมติที่ไม่มีวันเป็นจริง คนอย่างเขาคงถูกเลือกให้เป็นได้แค่ตัวแทน ไม่ใช่ตัวจริงและไม่มีวันเป็นตัวเอกของนิทานเรื่องใดทั้งนั้น



.



“แล้วเธอรักเขาหรือเปล่า”



.



สีหน้าของหญิงสาวมีทั้งความงุนงง ลังเลปนความตระหนกที่ถูกถามตรงๆ ผิวขาวขึ้นสีระเรื่อเป็นนัยถึงความไม่เดียงสากับเรื่องรักๆใคร่ๆ



.



“มะ..ไม่รู้สิ” ความเก้อเขินทำให้ไม่กล้าสบตาฝ่ายที่จดจ้องรอคำตอบ “ฉันไม่เคย... รักใครมาก่อน แล้วก็ยังไม่รู้จักนายท่านดีสักเท่าไหร่ ฉันไม่แน่ใจหรอกว่ารู้สึกยังไง จะรักได้หรือรักไม่ได้ แต่คุณพ่อบอกอยู่เสมอว่าฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเป็นเจ้าสาวของนายท่าน ขอให้ได้แต่งงานกันเสียก่อน เรื่องของความรักอาจจะเกิดขึ้นทีหลังก็ได้ล่ะมั้ง”



.



โจชัวร์นึกเคืองหญิงสาวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่ดี



.



“แล้วถ้ามันไม่ใช่ล่ะ! ถ้าแต่งงานหรืออยู่กันไปแล้วยังรักไม่ได้ เขาก็ไม่มีวันพ้นคำสาปน่ะสิ!”



.



“ก็... ก็คงจะอย่างนั้น แต่อย่างน้อยฉันก็รู้สึกว่านายท่านเป็นคนดีนะ ท่านคอยดูแลหมู่บ้านของพวกเราเสมอมา คุณพ่อบอกว่ามีแต่ฉันเท่านั้นที่คู่ควรที่สุด ถ้าได้แต่งงานกันฉันก็คงรักนายท่านได้ไม่ยาก ฉันจะตั้งใจทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ทำให้สามีมีความสุขและภูมิใจในตัวฉัน พอถึงตอนนั้นนายท่านคงจะรักฉันเช่นกัน คำสาปร้ายๆจะได้สลายไป แล้วฉันกับนายท่านก็จะกลายเป็นคู่สามีภรรยาที่ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป”



.



ความคิดของสาวน้อยที่บอกเล่าออกมาเป็นฉากๆคล้ายถูกขับเคลื่อนด้วยจินตนาการเพ้อฝัน แต่กลับตอกย้ำให้ชายหนุ่มตระหนักถึงความจริงอันเจ็บปวดว่ารสรักอันหอมหวานลวงให้เขาหลงอยู่ในความฝันไม่ต่างกัน เขาเผลอลืมไปว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายไม่เคยเป็นที่ยอมรับ ดูตัวอย่างตัวเขากับแกสตันซึ่งยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกหาว่าเป็นพวกวิปริต เป็นต้นเหตุที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็คงไม่มีสิทธิ์อ้างความเป็นคนรัก ไม่สามารถเคียงข้างในฐานะคู่ชีวิตอย่างที่เจ้าอสูรเพียรขอ



.



แม้ความรู้สึกระหว่างตัวเขากับเจ้าอสูรอาจเรียกได้ว่ารัก ก็คงไม่ใช่รักแท้ที่จะก่อให้เกิดความสุขชั่วนิรันดร์ ในทางกลับกัน เขาเหมือนยืนอยู่ตรงกลางทางที่ต้องเลือก ปลายด้านหนึ่งคือความรัก อีกด้านคือคำสาป หากดึงดันรักษาความรัก เจ้าอสูรก็ต้องทนทุกข์อยู่กับคำสาปร้าย แต่หากปรารถนาให้เจ้าอสูรหลุดพ้น ก็คงเหมือนบีบหัวใจตัวเองให้แหลกลงคามือ



.



เขาน่าจะรู้ว่าตัวเขานั่นเองที่ถูกสาป ชีวิตของเขาไม่เคยพบพานความสุข หัวใจของเขาไม่เคยได้รักหรือถูกรัก และมันคงจะเป็นเช่นนั้นไปตลอดกาล

















ในตอนที่ดูหนังหรืออนิเมชัน อาจจะด้วยข้อจำกัดหลายอย่างเช่นเวลาหรือวิธีการเล่าเรื่อง ประเด็นคำสาปเลยถูกรวบรัดและทำเหมือนรู้ๆกันอยู่แล้ว พอมาเขียนเป็นนิยาย ทีแรกก็คิดหนักค่ะว่าจะเอายังไง จะเล่าไปตามหนังหรือนิทานเป๊ะๆเลยดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ออกมาอย่างที่ได้อ่าน โดยเฉพาะเรื่องคำสาปที่อยากจะขยายและเน้นให้ชัดขึ้นอีกสักนิดเพื่อเสนอมุมมองของความรักในแบบของ Heartbeat โดยเฉพาะ แต่ก็พยายามไม่ออกทะเลไปไกลมากนัก สัญญาว่าจะพาโจชัวร์และคณะกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัยค่ะ



สรุปนิยายเรื่องนี้เคาะๆตบๆแล้วได้ 21 ตอน นี่ก็ผ่านไปได้ครึ่งเรื่องแล้ว หวังว่าจะติดตามกันไปจนถึงตอนจบนะคะ



ส่วนตอนหน้าเราจะกลับเข้าจุดหักเหจริงๆของนิทานเรื่องนี้ ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นน้านนนนน....

ก็ต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์น่ะสิคะ




 










^__^







----- Mine -----








ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #91 เมื่อ09-07-2017 06:25:20 »

ที่นายท่านไม่พูดเพราะยังไม่แน่ใจหรือเปล่า
ส่วนโจก็เจียมเนื้อเจียมตัว
เราชอบ เรื่องนี้มาก

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #92 เมื่อ09-07-2017 08:44:12 »

 :mew5:ชอบจังเลย จะทำเล่มมั้ยคะ อยากได้ๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #93 เมื่อ09-07-2017 14:10:09 »

ชอบมากกกกกก  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Amploveakame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #94 เมื่อ09-07-2017 15:12:34 »

เง้อแล้วจะเป็นยังไงต่อละ รอตอนต่อไปนะคะ
 :impress3:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #95 เมื่อ09-07-2017 16:16:33 »

  :hao7:
 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #96 เมื่อ09-07-2017 17:38:34 »

ชอบเรื่องนี้มากๆ  :pig4: :pig4: :a9:

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #97 เมื่อ09-07-2017 18:34:38 »

งืออออ อยากให้รักกันๆ มาต่อเร็วๆนะค้า

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #98 เมื่อ09-07-2017 19:10:27 »

ทามมายมานส้านจางงงงงง
ไม่จุใจเลยง่ะะะ กำลังมันส์
 :hao7:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #99 เมื่อ09-07-2017 21:44:49 »

เขียนดีจริงๆ ครับ
ชอบมุมมองที่นำมาตีความใหม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
« ตอบ #99 เมื่อ: 09-07-2017 21:44:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #100 เมื่อ10-07-2017 12:50:05 »

หนูโจอย่าเพิ่งคิดเยอะสิลูกกกกก นายท่านก็บอกแล้วว่าเขารักหนู ที่เขาไม่บอกความจริงกับหนูเพราะอยากให้หนูรักเขาจากใจจริง ไม่ใช่เพราะสงสาร ไม่ใช่เพราะมีข้อแม้

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #101 เมื่อ12-07-2017 10:35:26 »

ไม่มีอะไรกำหนดไว้นิ ว่าความรักที่เกิดกับคนสองคน จะต้องเป็นชายกับหญิง ความรักก็คือความรัก

อย่าพึ่งไปคิดมากเลย เหมือนเรื่องสัญญาของพ่อก็เหมือนกัน เจ้าอสูญบอกว่าให้นำพาลูกคนสุดท้องมาให้ ก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นหญิง แค่เป็นคนสุดท้องก็พอ


ไม่มีอะไรที่ผิดเลยโจ   เรื่องแบบนี้อยู่ทีใจล้วนๆ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #102 เมื่อ12-07-2017 19:25:48 »

นิยายสนุก อ่านไหนลื่นไปได้เรื่อยๆเลย

เงื่อนไขไม่ได้บอกสักหน่อยว่าต้องรักกับผู้หญิง
เริ่มไม่ชอบยายลิเดียนี่ขึ้นมาและ จุ้นไม่เข้าท่า

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #103 เมื่อ12-07-2017 22:55:25 »

เค้าบอกว่าต้องเป็นรักแท้ แต่ไม่ได้กำหนดเพศนี่นาา รอท่านอสูรเป็นคนบอกดีกว่า โจจะได้เข้าใจจริงๆ ลิเดียยังใสๆอาจจะบอกพลาดไปก็ด้ายย ~

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 12 (9/7/17)
«ตอบ #104 เมื่อ13-07-2017 04:00:38 »

ต้นตอนอย่างหวาน จบตอน... :katai1:
โจชัวร์อย่าคิดมากน้าา มีอะไรก็คุยกับนายท่านก่อนนนนน

ออฟไลน์ minemomo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #105 เมื่อ16-07-2017 04:45:45 »












Heartbeat 











: A Retelling of Beauty and the Beast
















สวัสดีวันเช้าอากาศดี แต่คนเขียนเปื่อย อ่อนเปลี้ยเพลียร่างจากพิษไข้ตั้งแต่เมื่อคืน


โชคดีว่าเตรียมเนื้อเรื่องไว้กับทอล์คด้านล้างไว้ก่อนแล้ว มาถึงก็จับก็อปวาง


ไม่เมาท์แล้วล่ะ ขอตัวไปสลบต่อ คนอ่านก็ระวังรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ



















13









ท่านเศรษฐีคนสำคัญของเมืองรีบรุดกลับมาและจัดการความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้จนทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ แต่กลับออกปากฝากลูกสาวคนเดียวไว้อีกสักพัก เจ้าอสูรไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ และความจริงก็เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ที่จะมีข้ออ้างเอาตัวคนพิเศษมาอยู่ข้างกายอย่างที่ต้องการ



.



โจชัวร์รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วยหรือคัดค้านกับการที่ลิเดียจะพักอยู่ที่คฤหาสน์ต่อไปหรือตลอดไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดกับภาพของเธอกับเจ้าอสูร ทั้งคู่ดูคุ้นเคยและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เธอกล้าที่จะมอง เริ่มชวนคุย และแสดงออกถึงความดีใจทุกครั้งที่ได้รับคำชม ฝ่ายเจ้าอสูรเองก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเวลาที่เห็นเธอ บางครั้งยังเป็นฝ่ายเอ่ยทักหรือตั้งคำถามเพื่อต่อบทสนทนา รวมทั้งอนุญาตให้เธอเข้าร่วมโต๊ะอาหารและทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามที่ต้องการ แม้จะไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าสนิทสนมแต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เขาเกลียดตัวเองที่รู้สึกอิจฉา



.


ในเวลาที่ได้อยู่กันตามลำพัง เขายังคงถูกกกกอดไว้ในอ้อมแขนใหญ่แต่ความรู้สึกผิดก็ยังตามเกาะกินจนไม่อาจปล่อยใจให้อิ่มเอมกับไออุ่นได้เหมือนเดิม



.


“ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่หลับ” เสียงห้าวกระซิบถาม “เป็นอะไรไปเด็กน้อย เจ้าแกล้งหลับอย่างนี้มาหลายคืนแล้วนะ”



.


ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหูพาลให้รู้สึกเสียววาบไปทั้งสันหลัง แต่โจชัวร์ยังฝืนนอนนิ่ง ปิดเปลือกตาสนิทเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า ระหว่างนั้นสมองก็วุ่นวายเพื่อหาคำอธิบายให้กับตัวเอง เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ทั้งๆที่ความเอาใจใส่ที่ได้รับก็ไม่เคยลดน้อยลง เขายังคงเป็นที่หนึ่งสำหรับเจ้าอสูรตลอดจนทุกคนในคฤหาสน์ แต่อาจเป็นความเอาแต่ใจอย่างเด็กๆที่ทำให้ไม่รู้จักพอ การเป็นที่หนึ่งมานานทำให้เริ่มมองคนอื่นเป็นคู่แข่ง เมื่อมีการแข่งขันย่อมมีแพ้ชนะ เขาอาจกำลังกลัวความพ่ายแพ้ทั้งๆที่มีเขาคนเดียวปรากฏตัวบนสังเวียน สรุปแล้วคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดก็คงเป็นใจที่ไม่มีวันสงบของตนเอง



.




PS: ขออนุญาติแทรก ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบอกว่าเราชอบซีนนี้มากกกกกกก เขียนเองก็กรี๊ดเอง กลับมาอ่านซ้ำทีไร ก็บิดอยู่นั่นแหละ เขินนนนนนน >///<









“คิดอะไรอยู่หืม” เจ้าอสูรยังคงส่งเสียงอยู่ข้างหู นิ้วมือใหญ่วางลงที่หว่างคิ้ว “หรือว่ากำลังฝัน เจ้านี่คิดมากกระทั่งในฝันเชียวหรือ”



.


โจชัวร์ยังคงนิ่ง พยายามผ่อนลมหายใจให้คล้ายคนนอนหลับมากที่สุด แต่สักพักเขาก็โดนพลิกตัวกลับ มือข้างหนึ่งถูกจับไปแนบแผงอกกว้างให้รู้สึกถึงสิ่งที่กำลังเต้นเป็นจังหวะ



.


“อย่าได้นึกสงสัยหัวใจดวงนี้” อ้อมแขนใหญ่กอดกระชับแล้ววางจูบลงตรงขมับ “มันเป็นของเจ้า และตัวข้าเองก็เช่นกัน”



.


โจชัวร์เผลอกลั้นหายใจจนยิ่งรู้สึกถึงจังหวะระรัวที่กลางอกของตน ถ้อยคำสั้นๆดั่งมีมนต์วิเศษสลายตะกอนที่ทับถมความรู้สึกให้หนักอึ้ง เขาอยากจะลืมตาขึ้นมองแต่สัมผัสอุ่นก็เคลื่อนลงมาที่เปลือกตาและริมฝีปาก เขาเกือบเผลอจูบตอบแต่ยั้งตัวเองไว้ทัน เสียงหัวเราะเบาๆเป็นสิ่งสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่จะหลับสนิทไปจริงๆ และเป็นครั้งแรกที่เขาตื่นมาเพียงลำพังบนเตียงนอนกว้าง สัมผัสเย็นชืดทำให้รู้สึกแปลกจนต้องรีบจัดการตัวเองแล้วรุดลงมาที่ด้านล่าง ทุกหนแห่งเงียบเชียบ ปราศจากเงาของคนที่ตามหาจนเขายิ่งใจเสีย กระทั่งออกมาพบลิเดียยืนอยู่ลำพังที่หน้าคฤหาสน์



.


“แปลกจังที่วันนี้คุณตื่นสาย ฉันยังกลัวอยู่ว่าเราอาจจะไม่ทันได้เอ่ยลากัน” หญิงสาวเอ่ยทักน้ำเสียงสดใสเป็นปกติ



.


“ทำไมล่ะ?! แล้วนี่เธอจะไปไหน?!” การแต่งตัวที่ต่างไปจากทุกวันกับรถม้าคันใหญ่ที่จอดอยู่ไม่ไกลเหมือนจะบอกเป็นนัย “หรือว่าคุณพ่อของเธอ...”



.


“คุณพ่อกำลังเข้าพบนายท่านอยู่ด้านใน”



.


โจชัวร์ไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อจู่ๆเธอก็เข้ามาคว้ามือของเขาไปกุมไว้



.


“ฉันขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่ผ่านมา คุณมีน้ำใจและดีกับฉันจริงๆ ฉันขออวยพรให้คุณกับนายท่านมีความสุขมากๆนะ”



.


“เอ่อ... เธอเข้าใจผิดแล้ว คือว่ามันไม่ใช่...”



.


ลิเดียส่ายหน้าน้อยๆ อดขำกับท่าทางตื่นๆของคนที่กำลังเขินไม่ได้ เธอไม่ปฏิเสธความรู้สึกอิจฉาที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เห็นคนทั้งคู่แสดงความรู้สึกต่อกันโดยไม่รู้ตัว เจ้าอสูรอาจเห็นเธออยู่ในสายตา แต่หากโจชัวร์ปรากฏตัว ดวงตาสีประหลาดคู่นั้นก็ไม่เคยสะท้อนภาพของใครอื่น และทุกคำพูดที่ออกจากปากก็ล้วนเกี่ยวข้องกับชายหนุ่ม ทั้งสิ่งที่เขาชอบและไม่ชอบ ทั้งเรื่องที่เขาทำหรืออยากทำ พูดได้ว่าที่เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าของคฤหาสน์มากขึ้นก็เพราะเขานับเธอเป็นเพื่อนกับโจชัวร์เท่านั้นเอง 



.


“ถึงฉันจะไม่เคยมีความรักมาก่อนแต่ก็ไม่ไร้เดียงสาจนมองไม่ออกหรอกนะว่าคุณกับนายท่านรู้สึกอย่างไรต่อกัน ความจริงฉันว่าแม้แต่คุณพ่อก็คงรู้ แต่ท่านคงหวังดีกับนายท่านและหมู่บ้านของเราจริงๆถึงได้ทำอะไรเลยเถิดไปบ้าง ฉันขอโทษแทนคุณพ่อด้วยนะ”



.


“อย่าพูดแบบนี้สิ คุณพ่อของคุณเป็นคนดีมาก ผมไม่เคยคิดอะไรอย่างนั้นกับท่านได้เลย แต่ว่า... ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นายท่านก็ดีกับคุณมากนะ คุณไม่ได้รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ”



.


“ฉันเชื่อว่าทั้งฉันและนายท่านต่างรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นจริง แต่ความรู้สึกดีๆก็ใช่จะพัฒนาจนกลายเป็นความรักได้เสมอไป นายท่านคงเห็นฉันไม่ต่างจากคนอื่นๆในหมู่บ้านที่ท่านต้องปกป้องดูแล หรือหากมากหน่อยก็คงเอ็นดูฉันเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ฉันรู้ว่าการที่ฉันมาอยู่ที่นี่ทำให้คุณอึดอัด”



.


“ไม่ใช่นะลิเดีย! ผมอาจจะแค่ไม่ชิน แต่ผมก็อยากให้คุณอยู่ที่นี่ ไม่ได้อยากให้คุณไปเลยจริงๆนะ”



.


“ฉันถึงได้บอกยังไงคะว่าคุณใจดีกับฉันมาก ที่ผ่านมานายท่านก็คงเกรงใจคุณพ่อถึงได้ปล่อยให้คาราคาซังกันอยู่ แต่ฉันไม่อยากให้อะไรๆมันลุกลามจนกลายเป็นปัญหาโดยไม่รู้ตัวเลยตัดสินใจบอกให้คุณพ่อมารับ และตอนนี้นายท่านก็คงจัดการในส่วนของท่านให้เด็ดขาดเช่นกัน”



.


โจชัวร์ยังไม่ค่อยเข้าใจแต่เมื่อมองตามสายตาของลิเดียก็เห็นคุณพ่อของเธอออกมาจากคฤหาสน์ กำลังเดินตรงมาด้วยท่าทางไม่ดีสักเท่าไหร่ ท่านเศรษฐีเป็นผู้ใหญ่อารมณ์ดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เวลาเจอกันท่านมักจะทักทาย พูดคุยสารทุกข์สุขดิบด้วยเสมอ แต่วันนี้กลับมองผ่านราวกับไม่เห็นว่าเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้น 



.


“ไปกันได้แล้วลิเดีย เราเสียเวลากับเรื่องไร้สาระมามากแล้ว”



.


เมื่อลูกสาวขอเวลาส่วนตัวอีกครู่หนึ่ง ท่านก็ตวัดสายตาขุ่นเคืองมองชายหนุ่มแล้วรีบกลับไปขึ้นรถม้าที่รออยู่



.


“เอ่อ... ทำไมคุณ...” ยังไม่ทันได้ถามเขาก็ต้องคอย่นกับเสียงปิดประตูปังใหญ่



.


“นี่แสดงว่าฉันเดาใจนายท่านถูกจริงๆด้วย” หญิงสาวกลั้นขำกับอาการหัวเสียของผู้เป็นพ่อ



.


“นายท่านเลือกคุณค่ะโจชัวร์”



.


“เลือกผม?! หมายความว่า...”



.


โจชัวร์ตกใจตื่น หันไปหันมาระหว่างรถม้า คฤหาสน์ และหญิงสาวตรงหน้า



.


“นายท่านคงปฏิเสธเรื่องฉันกับคุณพ่อโดยเด็ดขาดแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไป เรื่องของนายท่านต้องฝากคุณโจชัวร์ดูแลแล้วนะคะ”



.


“ไม่ได้นะ คุณต่างหากที่จะช่วยเขาถอนคำสาป ผู้ชายอย่างผมจะไปทำอะไรได้!”



.


ลิเดียบีบมือที่กำลังสั่นให้แน่นขึ้น เธอเข้าใจว่าเขาอาจจะกลัวหรือเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่เธอเชื่อสายตาตัวเองว่าเขาเข้มแข็งพอที่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้



.


“มั่นใจในตัวเองสิคะโจชัวร์ ไม่ใช่ผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ใช่ฐานะหรือความคู่ควรเหมาะสม แต่หัวใจคนเราควรมีอิสระที่จะเลือกรักใครก็ได้ ตอนนี้นายท่านได้เลือกแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะค่ะ”



.


โจชัวร์พยายามยิ้มตอบกำลังใจที่ได้รับ ชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีสิทธิ์ได้เลือก พอจะมีโอกาสตัดสินใจก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันถึงโชคชะตาของคนสำคัญเสียอย่างนั้น



.


“หมายความว่าถ้าผมเลือกทำตามหัวใจตัวเอง...”



.


“ฉันก็ขออวยพรให้ความรักนั้นเยียวยาคนที่หัวใจของคุณเลือกได้เป็นผลสำเร็จค่ะ”



.


ทั้งสองโอบกอดและเอ่ยคำลาในฐานะมิตรแท้ที่จะรักและหวังดีต่อกันตลอดไป



.


โจชัวร์ตามไปส่งและได้มีโอกาสเอ่ยลาคุณพ่อของเธอ ท่าทางเมินเฉยในทีแรกคลายลง ดวงตามากด้วยวัยและประสบการณ์ชีวิตมีเค้าเหนื่อยล้ามองเขาอย่างจนด้วยคำพูด ท่านเพียงพยักหน้ารับแล้วนิ่งไป แต่เท่านี้ก็ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมากเพราะท่านเศรษฐีและเจ้าอสูรต่างเป็นคนสำคัญของเมือง คงไม่ดีหากทั้งสองจะบาดหมางกันโดยเฉพาะมีสาเหตุมากจากตัวเขา



.


เมื่อรถม้าคันใหญ่จากไป โจชัวร์รีบกลับเข้าด้านในด้วยความรู้สึกอยากเห็นหน้าเจ้าของคฤหาสน์ใจจะขาด เขาเที่ยวตามหาจนเหลือเพียงห้องลับใต้หลังคาซึ่งเคยได้เข้าไปโดยบังเอิญ กุญแจดอกใหญ่ถูกปลดล็อกไว้ไม่ต่างจากครั้งนั้น เขาเคาะให้สัญญาณ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจึงค่อยๆเปิดเข้าไป ห้องกว้างไม่ได้มืดสนิทเหมือนคราวก่อน ม่านหนาถูกรูดออกจนสุด แสงสว่างส่องผ่านผนังซึ่งประกอบขึ้นจากกระจกหลากสีจึงเกิดลวดลายงดงามทาบทับเต็มพื้นที่   



.


ร่างสูงใหญ่ยืนเด่นอยู่ข้างโต๊ะซึ่งมีโถแก้วใสวางครอบดอกกุหลาบเรืองแสงที่โรยลงจนเหลือกลีบสีแดงอยู่ไม่มาก แน่นอนว่ากระจกวิเศษก็วางอยู่คู่กัน องค์ประกอบทั้งหมดก่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนภาพฝัน ราวกับได้ล่วงเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง



.


นาทีนั้นโจชัวร์เกิดความรู้สึกลังเล  แต่เมื่ออุ้งมือใหญ่ยื่นออกมาหา ดวงตาสีอำพันจดจ้องดั่งมีมนต์สะกดดึงดูดให้ก้าวเข้าสู่อ้อมแขนที่โอบแน่นจนเหมือนเนื้อตัวทั้งหมดได้ถูกฝังลงในไออุ่นอันคุ้นเคย และเมื่อเงยหน้าขึ้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าของแผงอกกว้างโน้มตัวลงมา จูบรสหวานบดเบียดรุนแรงจนเขาต้องโอบแขนรอบลำคอหนา ขยุ้มเส้นขนยาวเป็นหลักยึด ร่างสูงใหญ่ยิ่งรัดแรง แนบริมฝีปากขบเม้มข้างลำคอ ปลายเขี้ยวจิกลากเบาๆจนเกิดเสียงครางไม่ได้ศัพท์ ฝ่ามือกร้านสอดเข้าลูบไล้ผิวเนื้ออ่อน สัมผัสอย่างหยาบคายปลุกอารมณ์ดิบให้ลุกโพลงจนกระทั่ง...



.


“อะแฮ่ม”



.


เสียงกระแอมดังขึ้นในจังหวะที่ผิดกาลเทศะอย่างไม่น่าให้อภัย วัตถุต้นเสียงจึงถูกหยิบขึ้นเตรียมจะเขวี้ยงทิ้ง ดีที่มีคนห้ามไว้พร้อมส่งสายตาเตือนสติ ไม่ให้วู่วามทำลายของวิเศษ แต่เจ้าอสูรไม่คิดจะใส่ใจ จัดการรวบยึดทั้งมือเล็กและของสิ่งนั้นไว้แล้วใช้ริมฝีปากของตนต่อ



.


“ว้าวววว จากมุมนี้ยิ่งเห็นชัดแจ๋วเลยขอรับ”



.


“อยู่เงียบๆไม่เป็นเลยใช่มั้ยเจ้ากระจกปากมาก”



.


โจชัวร์รีบออกแรงผลักอกกว้างด้วยความตกใจ ดวงตาสีน้ำตาลหันไปมาระหว่างเจ้าอสูรและสิ่งที่ถูกกำไว้พร้อมกับมือของตน เขาแน่ใจแล้วว่าไม่ได้หูฝาดหรือคิดไปเองว่าเคยได้คุยกับกระจกที่สามารถพูดได้ แต่ก่อนจะค้นหาความลับเบื้องหลังความวิเศษนี้ เขาควรจะจัดการกับเจ้าหื่นกามตัวโตที่เอาแต่จะล้วงปากล้วงคอเขาให้เด็ดขาดเสียก่อน



.


“ท่านจะหยุดจูบข้าก่อนไม่ได้หรือไงนะ”



.


“หรือเจ้าอยากจะให้ข้าทำอย่างอื่นที่มากกว่าจูบล่ะ”



.


“ส่วนข้าน้อยไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ช่วยวางลงก่อนจะเป็นตากุ้งยิง โอ๊ะ! ลืมไป ข้ามิมีลูกตานี่หน่า แต่ถึงยังไงก็รบกวนนายท่านรีบๆวางข้าลงเถิด อยู่ที่สูงๆแล้วแถมยังได้มาเห็นอะไรดีๆอย่างนี้มันค่อนข้างจะเสียววววววว”



.


เจ้าอสูรสนองตอบด้วยสีหน้ารำคาญหู ไม่ใส่ใจแม้จะมีเสียงขอบโลหะกระแทกโต๊ะดังอยู่หลายที เป็นโจชัวร์ที่รีบเก็บขึ้นมาดู โล่งอกที่หน้ากระจกยังอยู่ในสภาพปลอดภัยดี



.


“ตกลงว่ากระจกนี่พูดได้จริงๆ!”



.


“พูดมากเสียด้วย”



.


เสียงค่อนจากผู้เป็นเจ้าของถูกตัวกระจกสวนกลับแทบจะคำต่อคำ



.


“แต่อย่าลืมว่าข้ายังทำได้มากกว่าพูดนะขอรับ”



.


โจชัวร์พลิกกระจกไปมาก็ไม่เห็นอะไรนอกจากใบหน้าของตัวเอง จึงหันไปจ้องเจ้าอสูรเพื่อขอคำอธิบาย และต้องเสียอีกหนึ่งจูบก่อนจะได้รู้ความสามารถพิเศษที่กระจกอวดอ้าง



.


“กระจกสามารถบันดาลให้เห็นทุกสิ่งที่ปรารถนา”



.


“ทุกอย่างเลยหรือ?” เขาย้ำถามด้วยความสนใจ “แล้วท่านเคยเห็นสิ่งใดในกระจกบ้าง”



.


อาการอมยิ้มชวนให้ยิ่งสงสัยว่าเจ้าอสูรจะปรารถนาสิ่งใด หากให้เดาคงไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองซึ่งมีล้นเหลืออยู่แล้ว แต่อาจเป็นภาพของโลกกว้างภายนอก เพราะรูปลักษณ์เช่นนี้อาจทำให้เจ้าอสูรรู้สึกเหมือนถูกกักขัง ไม่ได้มีอิสระตามที่ใจปรารถนา เหมือนอย่างที่ตัวเขาเองก็เคยฝันว่าจะได้ขึ้นเรือสินค้าของพ่อเพื่อออกเดินทางไปพบผู้คนและดินแดนใหม่ๆมากมาย



.


“ตกลงว่าท่านเห็นอะไร เป็นความลับที่บอกข้าไม่ได้เลยเหรอ”



.


“เจ้า...” ดวงตาสีอำพันยังคงแฝงรอยยิ้มอ่อนๆ อุ้งมือใหญ่แนบอยู่ข้างใบหน้า แต่ลงท้ายกลับตบแก้มเบาๆแล้วตอบด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า “จะอยากรู้ไปทำไมหืม”



.


คนถูกแกล้งสะบัดหน้าเชิดใส่แต่ก็ถูกง้อด้วยวิธีง่ายๆอย่างอ้อมกอดและเสียงหัวเราะก้องที่บ่งบอกถึงความสุข



.


“แล้วเจ้าล่ะ ปรารถนาจะเห็นสิ่งใด”



.


เสียงกระซิบถามจากเจ้าของอ้อมแขนทำให้โจชัวร์หยุดคิด เอาเข้าจริงเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แก้วแหวนเงินทองไม่ใช่สิ่งจำเป็นเช่นกัน ส่วนความฝันหากเอาแต่เฝ้ามองก็คงไม่มีวันเป็นจริง คนที่หัวใจใฝ่หาก็อยู่เคียงข้างกันอยู่แล้ว หากจะมีสิ่งใดหรือใครที่สำคัญพอให้คิดถึงก็คงจะเป็นครอบครัว พี่สาวทั้งสองไม่ใช่คนที่เขาจะเลือกแน่ๆ เบลล่าก็มีสามีที่คอยรักและดูแลเธออยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้น...



.


“ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้าง กระจกจะทำให้ข้าเห็นพ่อได้มั้ย”



.


เขาเอ่ยถามกึ่งร้องขอ ฉับพลันนั้นกระจกที่อยู่ในมือก็เกิดฝ้ามัวคล้ายมีหมอกควันลอยคลุ้งอยู่ด้านใน เมื่อกระจกกลับมาใสดังเดิมก็ปรากฏเป็นภาพที่ไม่ใช่เงาสะท้อน และความพิเศษคือมีการเคลื่อนไหวราวกับผู้เป็นพ่อกำลังอยู่ตรงหน้าจริงๆ



.


“พ่อ...”



.


ภาพที่เห็นทำให้เสียงเรียกสะดุดอยู่แค่ลำคอ พ่อของเขากำลังล้มป่วย ใบหน้าแทบจะไร้สีเลือด ริมฝีปากแห้งแตกพึมพำในสิ่งที่เขาไม่ได้ยิน และสิ่งที่ทำให้เขายิ่งเจ็บแปลบในอกคือพ่อกำลังนอนตัวสั่นอยู่เพียงลำพัง ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น



.


“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้!? ทุกคนน่าจะกลับเข้าเมืองไปแล้วนี่! ทำไมพ่อถึงยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น แล้วพวกพี่ๆหายไปไหน  ทำไมถึงไม่มีใครมาดูแล ไม่เห็นหรือไงว่าพ่อไม่สบายมากขนาดนี้!”



.


“ใจเย็นๆก่อนโจชัวร์”



.


“นี่เป็นภาพของพ่อจริงๆเหรอ หมายความว่าตอนนี้พ่อไม่สบายจริงๆใช่มั้ย?!” 



.


“กระจกไม่เคยโกหก แต่ภาพที่เจ้าเห็นอาจไม่ตรงกับความจริงเสมอไป เรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วอีกอย่าง พวกพี่สาวเจ้าจะไม่ดูดำดูดีพ่อของตัวเองเชียวหรือ” เจ้าอสูรพยายามปลอบเพราะท่าทางโจชัวร์ร้อนใจจนแทบจะแทรกตัวเข้าไปในกระจกเสียให้ได้



.


“ตอนนี้เบลล่าไม่อยู่แล้ว ส่วนแมรี่เคยบอกว่าจะย้ายกลับเข้าเมือง แต่พ่ออาจจะไม่ได้ไปด้วย พ่อคงยังอยู่ที่หมู่บ้านเพื่อรอข้ากลับไป”



.


“เขาควรรู้ว่าไม่มีประโยชน์ เจ้าเป็นคนของข้าและข้าจะไม่ยอมเสียเจ้าไป”



.


โจชัวร์รู้สึกเต็มตื้นกับความมั่นคงที่สะท้อนอยู่ในดวงตาสีอำพัน แต่จิตใจก็ยังคงว้าวุ่นเมื่อนึกถึงความปลอดภัยของผู้เป็นพ่อ แม้จะไม่ได้ยกย่องเชิดชูอย่างออกหน้าออกตาแต่หากมีคนถาม คุณมอร์ริสจะแนะนำลูกชายคนนี้ด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ พ่อไม่เคยเก็บเขาไว้ก้นครัวแต่เป็นเขาเองที่เลือกจะอยู่อย่างเงียบๆเพื่อความสงบสุขของบ้าน พ่อจะคอยปลอบเวลาเขาถูกพวกพี่ๆรังแก และทุกครั้งที่คิดถึงแม่ เขาก็แน่ใจว่าจะยังมีความรักความอบอุ่นของพ่ออยู่ด้วยเสมอ



.


“แต่ว่าพ่อกำลังไม่สบาย... พ่อแก่มากแล้ว ถ้าปล่อยไว้ พ่ออาจจะ...” เขาพูดไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงวันที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่



.


“ขอให้ข้ากลับไปหาพ่อได้มั้ย” โจชัวร์อ้อนวอน อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้มีโอกาสเอ่ยลาเป็นครั้งสุดท้าย “ได้โปรดเถอะ ข้าขอแค่กลับไปดูแล แค่ให้แน่ใจว่าพ่อไม่เป็นอะไร แล้วข้าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”



.


เจ้าอสูรยังคงนิ่งงัน ดวงตาสีประหลาดปรากฏแววสั่นไหวแสดงถึงความลังเล



.


“เจ้าสัญญาว่าจะกลับมา”



.


“แน่นอน ข้าสัญญาว่าจะกลับมาและจะอยู่กับท่านตลอดไป”



.


นานทีเดียวกว่าจะมีเสียงตอบแผ่วเบา



.


“สามวัน” 



.


แม้รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบหนึ่งทางหางตาแต่โจชัวร์ก็ไม่ทันได้สนใจเพราะรู้ว่านี่ไม่ใช่โอกาสที่จะหาได้ง่ายๆ



.


“เจ้ามีเวลาสามวัน จงไปดูแลพ่อแล้วกลับมาตามที่ได้สัญญา ข้าจะรอเจ้าอยู่ทุกลมหายใจ”



.


โจชัวร์วางมือลงในอุ้งมือใหญ่ ริมฝีปากอุ่นจูบลงที่หลังมือพลันให้รู้สึกร้อนวาบไปทั้งร่าง เขายกสองมือประคองใบหน้าของเจ้าอสูรแล้วตอบความรู้สึกนั้นด้วยจูบอันดูดดื่ม หากฝ่ายหนึ่งจะเฝ้ารออยู่ทุกลมหายใจ ใยอีกคนจะไม่โหยหาวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน และแม้ไม่มีคำสัญญา เขาก็รู้ด้วยหัวใจว่าจะไม่มีวันจากไปไหนได้อีกแล้ว 


















เค้าหวานกันขนาดนี้ ขอฟังเสียงกรีดร้องดังๆโหน่ยยยยยย





คุณ janehh บอกว่าตอนที่แล้วเริ่มต้นดี จบดรามาซะงั้น ถ้างั้นตอนนี้จะเรียกว่าอะไรดีเอ่ย เริ่มตอนมาแม้จะมีซีนหวานๆ แต่อารมณ์ก็หน่วงเหลือเกิน  พอจะหวานอีกก็โดนมุขแป้กๆของเจ้ากระจกขัดจังหวะ ส่วนตอนจบก็ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกว่าจะหวานหรือขม รู้สึกเหมือนโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาบ้างมั้ยคะ






ส่วนคุณหนูลิเดีย ถือว่าจบสวย อยากให้เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีสติ รักไม่รักก็ขอให้รู้ใจตัวเอง อย่าเอาแต่ทำตามคนอื่นบอก และถ้าจะรัก ไม่ว่าจะผิดหวังหรือสมหวังก็ขอให้รักอย่างมีสติ เอ็นดูนางด้วยนะคะ





ในส่วนของโจชัวร์เองก็โดนความรักทำให้เป๋ไปพอสมควร เราว่าความอิจฉา ริษยา ผิดหวัง สมหวังเป็นเรื่องธรรมดาของความรัก แต่อย่างน้อยถ้าเรารู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในภาวะไหนก็น่าจะทำให้ก้าวผ่านไปได้ง่ายขึ้น เหมือนอย่างที่โจชัวร์อิจฉาก็ยอมรับเถอะว่าอิจฉา  อย่าตะบี้ตะบันไปต่อทั้งที่หน้ามืดตามัว ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลร้ายในภายหลังได้





หลังจากนอกเรื่องให้เจ้าอสูรปลูกต้นรักอยู่ซะนาน เราก็มาถึงจุดหักเหของนิทานตามต้นฉบับเสียที แต่เอาจริงๆเจ้าอสูรก็แอบใจร้ายไปเนาะ ในนิทานต้นฉบับให้ตั้งเป็นสิบๆวัน บางเวอร์ชันก็สองอาทิตย์เชียวนะ แต่นี่สามวัน รีบไปรีบกลับ ไม่ต้องทันพักหายใจกันล่ะ





โจชัวร์กลับบ้านไปจะเจอกับอะไรบ้าง มาลุ้นกันต่ออาทิตย์หน้าจ้า













^__^







----- Mine -----








ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #106 เมื่อ16-07-2017 12:05:24 »

 :ling3:จะเจออะไรหนอ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #107 เมื่อ16-07-2017 12:27:46 »

 :man1:
 :เฮ้อ:

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #108 เมื่อ16-07-2017 21:28:36 »

กลับไปแล้วจะดราม่าแบบในต้นฉบับมั้ยนะ

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #109 เมื่อ17-07-2017 01:59:04 »

อ่านตอนนี้นี่หลายอารมณ์มาก อย่างแรกเลยคือโล่งใจเรื่องของลิเดีย อย่างน้อยนางก็ทำให้หนูโจชัวร์ของเราเลิกคิดมาก อยากบอกว่าชอบซีนจูบแล้วขยุ้มขนมากเลยค่ะ มันกร๊าวใจจจจ  :impress2: ส่วนตอนท้ายนี่ทำเรากังวลมากกก นอกจากจะกังวลเรื่องพี่สาวที่เราอยากจะ... :beat: ก็มีแกสตันนี่แหละค่ะที่กังวล กลัววางแผนอะไรไม่ให้โจชัวร์กลับไปนี่สิ ฮืออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
« ตอบ #109 เมื่อ: 17-07-2017 01:59:04 »





ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #110 เมื่อ17-07-2017 08:53:31 »

แหงะ แต่พ่อสัญญากับแกสตันแล้วนี่ว่าถ้าโจชัวร์กลับมาจะยกน้องให้แกสตัน โอยชีวตตตตต

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #111 เมื่อ17-07-2017 13:48:07 »

แล้วแกสตันละ

โอ้ววตาย ถ้ากลับไปนี่อุปสรรค์แน่นอน


ทางนู้นก็สงสารนะ แต่ถ้ารักก็รักไปตั้งนานแล้วนิ


รอลุ้นอาทิตย์หน้าค่ะ   ฮือๆๆๆๆ

ออฟไลน์ HisokaK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #112 เมื่อ17-07-2017 17:04:14 »

สะบายใจไปเปราะหนึ่งละเรื่องลิเดีย
หนูโจรีบกลับมาหาอสูรน้า สงสารแกสตันก็จริงแต่ไงก็ทีมอสูรง่ะะะ

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #113 เมื่อ17-07-2017 20:46:56 »

จะดราม่ามั้ยอ่ะฮือออออ :ling3:

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #114 เมื่อ17-07-2017 22:06:26 »

กลับไปเจอกัสตอน แฮร่  :a5:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #115 เมื่อ20-07-2017 17:41:32 »

ละมุนมากมายอธิบายไม่ได้ ชอบคมาก่ะ
โจชัวร์เป็นเด็กดีจริงๆ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 13 (16/7/17)
«ตอบ #116 เมื่อ20-07-2017 19:50:06 »

กุหลาบจะโรยกลีบสุดท้ายในสามวันรึเปล่าเนี่ยยยยยยย!
รีบกลับหนูโจชัวร์

ออฟไลน์ minemomo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 14 (23/7/17)
«ตอบ #117 เมื่อ23-07-2017 04:53:08 »












Heartbeat 












: A Retelling of Beauty and the Beast



















สวัสดีจ้าาาา เอาหนูโจตอนร้อนๆมาเสิร์ฟกันแล้ว



กลับบ้านเรารักรออยู่.... จะใช้กับเรื่องนี้ได้มั้ย ไปลุ้นกันต่อเลยค่ะ



























14









การเดินทางจากคฤหาสน์ยังคงต้องผ่านพื้นที่และสภาพอากาศเลวร้ายไม่ต่างจากครั้งก่อน แต่เจ้าสโนว์ก็สามารถพานายของมันมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย การปรากฏตัวของโจชัวร์สร้างความประหลาดใจให้แก่พี่สาวทั้งสองอย่างที่อาจเรียกได้ว่าเกือบสิ้นสติ แมรี่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะรอดพ้นคมเขี้ยวของสัตว์ร้าย ส่วนเบตตี้คงผิดหวังที่เขาไม่ได้กลับมาพร้อมว่าที่สามีของเธอ แต่สมบัติหนึ่งคันรถที่เจ้าอสูรฝากมาเป็นของกำนัลก็ช่วยปิดปากพี่สาวทั้งสองและทำให้เขาได้รับการต้อนรับตามสมควร




.



สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามคำพูดของเจ้าอสูรทุกประการ กระจกไม่ได้โกหก คุณมอร์ริสล้มป่วยจริง และใช่ว่าลูกสาวทั้งสองจะนิ่งดูดาย แต่บางครั้งจิตใจที่เจ็บป่วยส่งผลต่อร่างกายยิ่งกว่าเชื้อโรคร้ายแรง พวกเธอพยายามสรรหาทั้งหมอและตัวยาชั้นเลิศก็ไม่อาจรักษาหัวใจคนเป็นพ่อที่บาดเจ็บจากการต้องส่งเลือดเนื้อของตนไปเป็นเหยื่ออสูรร้าย แต่ทันทีที่ได้เห็นหน้า เขาก็สามารถลุกขึ้นกอดรับขวัญลูกชายคนเดียวด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ อาการป่วยแบบที่ได้แต่นอนรอวันตายแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง 



.



คุณมอร์ริสเอาแต่พร่ำคำขอโทษด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินใจมาเนิ่นนาน เขารู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เหมือนคนบาปหนาที่ได้รับการอภัย และสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมทำผิดซ้ำอีก



.



“พ่อวางใจเถอะครับ ไม่ต้องเสียใจหรือรู้สึกผิดอะไรอีกแล้ว ลูกมีความสุขดี ความเป็นอยู่ก็สุขสบายทุกอย่าง ทุกๆคนที่คฤหาสน์ดีกับลูกมาก ส่วนนายท่านก็ไม่ได้ใจคอโหดร้ายอย่างที่พวกเราคิด เขาเป็นคนดี เป็นที่รักของทุกคนในเมือง แล้วเขาก็... เมตตาลูกมาก”



.



อาการอ้ำอึ้งในตอนท้ายไม่ได้เกิดจากการสงสัยในความรู้สึกของตน แต่เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆจะเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจ้าอสูร ดูอย่างเรื่องแกสตันยังถูกทำให้เป็นปัญหาใหญ่โต อีกทั้งสุขภาพของผู้เป็นพ่อก็ยังไม่แข็งแรงจึงเกรงว่าจะรับความจริงทั้งหมดไม่ไหว



.



“นายท่าน? หมายถึงเจ้าอสูรที่เหมือนกับสัตว์ป่าในคราบมนุษย์นั่นน่ะหรือ?”



.



“จริงๆแล้วนายท่านแค่โดนคำสาปจนต้องอยู่ในสภาพน่ากลัวแบบนั้น ถ้าคำสาปสลายไปเขาก็จะกลับมาเป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรานี่แหละครับ”



.



“ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้!” คุณมอร์ริสรีบปฏิเสธเสียงแข็ง ความน่าเกลียดน่ากลัวที่ประจักษ์แก่สายตาและความทุกข์ยากทรมานจากการเดินทางรอนแรมกลายเป็นความทรงจำอันโหดร้ายที่ยากจะยอมรับ



.



“พ่อยังจำได้ว่าเจ้าอสูรนั่นทั้งโหดร้ายป่าเถื่อนเหมือนสัตว์ป่ากระหายเลือดชัดๆ ที่เจ้าหนีมาได้ช่างเหมือนสวรรค์โปรดครอบครัวเราแท้ๆ พ่อจะไม่มีวันยอมให้ลูกของพ่อกลับไปตกนรกอย่างนั้นอีกเป็นอันขาด”



.



“โธ่! มันไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆ ลูกไม่ได้ถูกกักขังหรือลงโทษอะไรเลย นายท่านให้อิสระและตามใจทุกอย่าง เขาให้ลูกกลับบ้านเพราะรู้ว่าพ่อล้มป่วย แต่ถ้าพ่อสบายดีแล้ว ลูกก็ต้องกลับไป”



.



“หมายความว่าเจ้าจะกลับมาบ้านอีกเมื่อไหร่ก็ได้ใช่มั้ย” คุณมอร์ริสกำลังชั่งใจเพราะไม่เห็นความกลัวหรือพิรุธใดๆในดวงตาของคนเป็นลูก 



.



“ลูกคงกลับมาเองตามใจชอบไม่ได้ ต้องให้นายท่านอนุญาตเพราะการเดินทางผ่านป่ากว้างที่มีแต่พายุไม่ใช่เรื่องง่ายพ่อก็รู้นี่ครับ”



.



“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็อย่าเพิ่งกลับ อยู่กับพ่อไปก่อน อยู่ไปให้นานที่สุด แล้วถ้าไม่มีใครมาตามก็ไม่ต้องกลับไปเลยดีมั้ย”



.



“ไม่ได้หรอกครับ ลูกมีเวลาแค่สามวันเท่านั้น อย่างช้าที่สุดมะรืนนี้ก็ต้องเดินทางกลับแล้ว”



.



โจชัวร์ไม่อาจตามใจผู้เป็นพ่อ ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ แต่เหตุผลลึกๆคือหัวใจของเขาก็ปรารถนาเช่นนั้น แม้จะดีใจที่ได้พบพ่ออีกครั้ง แต่ก็เรียกว่าต้องตัดใจอย่างมากกว่าจะได้ออกเดินทาง เจ้าอสูรบอกลาเขาเป็นการส่วนตัวและไม่ได้ออกมาส่ง คงเพราะกลัวจะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย ส่วนคนอื่นๆมารออยู่ที่หน้าคฤหาสน์เพื่ออวยพรให้เขากับสโนว์เดินทางโดยปลอดภัย เขามองกลับไปยังเห็นทุกคนอยู่ตรงนั้นจนลับสายตา และที่ช่องกระจกสีซึ่งตรงกับห้องใต้หลังตาก็เชื่อว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องอย่างรอคอย นาทีนั้นเขารู้สึกเหมือนคนที่กำลังเดินออกจากบ้านและดีใจที่มีคนเฝ้ารอให้กลับไปหา



.



“เอาเถอะๆ เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง เจ้าเดินทางมาเหนื่อยๆไปพักเสียก่อนดีกว่า”



.



คุณมอร์ริสรีบตัดบทเพราะตั้งใจจะถ่วงเวลา รั้งตัวลูกชายเอาไว้ให้ได้นานที่สุด อย่างน้อยเขาก็มีแกสตันเป็นแรงสนับสนุน หากเจ้าหนุ่มนั่นรู้เรื่องจะต้องไม่ยอมปล่อยโจชัวร์กลับไปแน่ เขาอาจจะต้องยอมปิดตาสักข้าง ทำเป็นไม่รู้ไมชี้เสียบ้างเพื่อจะไม่ต้องปล่อยให้ลูกชายคนเดียวกลับไปเผชิญชะตากรรมตามลำพัง



.



ทีแรกโจชัวร์ตั้งใจว่าจะได้เฝ้าไข้อยู่ข้างเตียง ไม่นึกไม่ฝันว่ากลับบ้านมาแล้วจะได้มีห้องและเตียงนอนอย่างคนอื่นเขา ซึ่งหากไม่ใช่คำสั่งเด็ดขาดของพ่อให้เขาพักในห้องของเบลล่าที่ว่างอยู่ พี่สาวทั้งสองก็คงให้เขาได้ฟื้นความทรงจำกับฟูกบางๆที่มุมห้องเก็บของ แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่หลับๆตื่นๆ รู้สึกไม่คุ้นชินกับเตียงแคบ กลิ่นสาบสางของที่นอนเก่า และแน่นอนว่าไม่มีไออุ่นจากวงแขนใหญ่ที่จะกกกอดเขาไว้ให้หลับฝันดี



.



เขาลุกจากที่นอนตั้งแต่ยังไม่ฟ้าสางเพื่อเริ่มต้นกิจวัตรที่เคยทำ ต้องขอบคุณความเจ้ากี้เจ้าการของแมรี่ที่ใช้เหรียญทองของเจ้าอสูรในทางที่ก่อประโยชน์ บ้านทั้งหลังถูกปรับปรุงให้มีสภาพเหมือนใหม่และอยู่สบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เขาไม่ต้องเดินไปตักน้ำจากบ่อ ไม่ต้องผ่าฟืนเพื่อก่อไฟ และใช้เวลาไม่นานก็สามารถเตรียมอาหารเช้าสำหรับทุกคนได้อย่างเรียบร้อย เสร็จจากงานครัวและการทำความสะอาดก็ถึงเวลาของพวกแม่ไก่เพื่อนยาก เขาแปลกใจไม่น้อยที่เล้าไก่ได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งถูกขยายให้มีขนาดใหญ่และเป็นสัดส่วนมากขึ้นสำหรับแม่ไก่ พ่อไก่ และลูกเจี๊ยบแสนน่ารัก



.



“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคุณเดซี่ คุณลิลลี่ คุณไวโอเลต ดีใจจังที่พวกคุณยังอยู่สบายดีกันทุกตัว แล้วเจ้าตัวเล็กๆพวกนี้มาจากไหนกันล่ะเนี่ย น่ารักจัง”



.



โจชัวร์เอ่ยทักทาย บรรดาแม่ไก่ส่งเสียงระงมตอบราวกับจำเขาได้ ส่วนแม่ไก่หน้าใหม่ๆคงสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรจึงให้ความสนใจและยอมให้เขาสัมผัสเพื่อทำความคุ้นเคย แม้แต่ไก่ตัวผู้ก็ยังเชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ มันโก่งคอประกาศอำนาจ พองขนสีเหลือบสวยแสดงบารมีแต่กลับไม่มีอาการก้าวร้าวหรือส่งแววตาดุดันให้ชายหนุ่มแปลกหน้าสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝูงลูกเจี๊ยบที่แทบจะเดินเรียงเข้ามาในฝ่ามือให้เขาหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติราวกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของพวกมัน



.



เวลาผ่านไปอย่างไม่ทันรู้ตัว เขาจัดการทำความสะอาด เปลี่ยนฟางและน้ำ และให้อาหารไก่จนเรียบร้อย กำลังจะเอ่ยลาเพื่อไปดูแลแปลงผักเป็นงานอย่างต่อไปก็ถูกจู่โจมด้วยอ้อมกอดแน่นราวกับคีมเหล็ก



.



“เจ้ากลับมาแล้ว... ในที่สุด...” เสียงพึมพำของคนที่กำลังสำลักความสุขจากการได้ของรักกลับคืนทำให้คนถูกกอดไม่กล้าขยับตัว



.



“ข้ารอเจ้า เฝ้ารออยู่ทุกวันทุกคืน ในที่สุดคำอธิษฐานก็เป็นจริง ข้าไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยโจชัวร์”



.



“เอ่อ... เจ้าไม่ได้กำลังฝันหรอกแกสตัน แต่ถ้ายังไม่ปล่อย ข้าคงได้ขาดใจตายจริงๆแน่” 



.



เสียงหัวเราะก้องกังวานสะท้อนความสุขที่อิ่มซ่านเต็มหัวใจ แกสตันหมุนร่างเพรียวให้กลับมาอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีน้ำเงินเข้มยิ่งลึกล้ำยามทอดมองไปทุกส่วน เรือนผมนุ่มที่ถูกรวบไว้ลวกๆมีเศษฟางแซมให้ต้องช่วยหยิบออก ไรผมชื้นเหงื่อยิ่งขับกรอบหน้ารูปหัวใจให้เด่นชัด ดวงตากลมดังแก้วสีน้ำตาลอ่อนประดับแพขนตาหนา เรียวคิ้วรับกับสันจมูกโด่งปลายเล็กเชิดรั้น แต้มกระสีจางปรากฏที่หน้าแก้มไม่อาจกลบความเนียนละเอียดของผิวเนื้อ และสิ่งที่ชวนให้สงสัยใคร่รู้ว่าริมฝีปากสีกุหลาบจะมีรสหวานละมุนสมกับรอยยิ้มของเจ้าตัวหรือไม่



.



“เป็นเจ้าจริงๆ...” แกสตันครางแผ่วแล้วก้มลงหมายจะพิสูจน์ด้วยรสสัมผัส ดวงตากลมเบิกโต ริมฝีปากสวยเม้มแน่นราวกับรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีอะไรจะมาหยุดการเติมเต็มความปรารถนาจากคนที่เฝ้าหมายปองมาเนิ่นนาน เขาจะไม่ยอมให้สิ่งใดมากั้นขวางระหว่างเขากับ...



.



ขี้ไก่!



.



“เจ้าจะหายบ้าได้หรือยัง” โจชัวร์ถามพลางบดเบียดฝ่ามือตัวเองเข้ากับใบหน้าที่สาวๆทั้งหมู่บ้านเพ้อหา แต่หากพวกเธอมาเจอสภาพนี้คงได้วิ่งหนีแทบไม่ทัน



.



การเผชิญหน้าอันแสนหวานจบลงด้วยการที่ฝ่ายหนึ่งหัวเราะร่า ส่วนอีกคนส่งเสียงร้องดังยิ่งกว่า ร่างสูงใหญ่รีบตรงไปยังบ่อน้ำเพื่อล้างขี้ไก่ ทั้งขัดทั้งถูจนใบหน้าแสบร้อนไปหมด แต่สำหรับมือของคนที่ลากให้ตามมา เขากลับค่อยๆรินน้ำรด บรรจงล้างด้วยความทะนุถนอมจนแน่ใจว่าสะอาดหมดจดทั้งคราบทั้งกลิ่น



.



“เล่นอะไรไม่รู้เรื่องนะเจ้าเนี่ย”



.



“ก็เจ้าอยากเล่นบ้าๆก่อน ข้าก็แค่ช่วยให้เจ้าหายบ้าเป็นปลิดทิ้งเท่านั้นเอง เป็นไงบ้าง กลิ่นของพวกมาดาม หอมชื่นใจดีมั้ย”



.



แกสตันมองค้อนแล้วได้แต่ทำใจ จะโกรธลงได้อย่างไรในเมื่อรอยยิ้มนั้นคือความสุขของตัวเขาเอง แต่เห็นคนขี้แกล้งยังขำไม่เลิกก็ยิ่งหมันเขี้ยว เลยฉวยจังหวะกระชากตัวเข้ามาพิสูจน์กลิ่นแก้มไปหนึ่งฟอด ไม่ได้จูบ ขอหอมให้ชื่นใจก็ยังดี



.



“ห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาด ไม่งั้นข้าจะไปเอาขี้ของสโนว์มาละเลงหน้าเจ้า!”



.



คนถูกขู่มองตามสายตาเอาเรื่องก็เห็นเจ้าม้าขาวที่ถูกผูกไว้ใต้ร่มไม้ใกล้ๆ ลักษณะท่าทางคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก แต่ต่อให้เป็นม้าวิเศษเขาก็ไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว



.



“เจ้าเองก็ห้ามหายตัวไปอย่างที่ผ่านมา ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าขังไว้ ถ้าคิดหนีก็จะผูกติดกับตัวข้าให้แน่นๆ เจ้าไปไหนข้าไปด้วย จะไม่ยอมปล่อยเจ้าคลาดสายตาอีกแล้ว”



.



“ข้าไม่ใช่นักโทษของเจ้านะ!” โจชัวร์เสตวาดกลับ เจ็บใจนิดเดียวตรงมือที่ยังถูกจับไว้ ออกแรงสะบัดยังไงก็ไม่หลุด แถมคนตัวโตยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จนเขานึกอยากมีขวานสักเล่มจะได้สับมือที่เหนียวอย่างกับทากาวให้ขาดเป็นสองท่อน 



.



“ทำไมจะไม่ใช่ เจ้ามีความผิดที่ทำให้ข้าต้องทุกข์ทรมานอย่างไม่มีวันจบสิ้น เจ้าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ส่งข่าวคราวว่าเป็นตายร้ายดี ไม่คิดบ้างว่าคนที่อยู่ทางนี้จะกังวลหรือเป็นห่วงมากแค่ไหน ท่านลุงตรอมใจจนล้มป่วย ส่วนข้าก็แทบไม่ต่างจากคนใกล้ตาย หัวใจเหมือนจะขาดรอนๆอยู่ทุกครั้งที่คิดถึง แต่เจ้ากลับเห็นความรัก ความหวังดี ความห่วงใยของข้าเป็นเรื่องเล่นๆอย่างนั้นหรือ เจ้ากลายเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าเจ้าอยากจะปล่อยให้ข้าตายไปจริงๆเลยใช่มั้ยโจชัวร์!”



.



แกสตันระเบิดความรู้สึกที่เก็บไว้ออกมาทั้งหมด เขาอาจเคยอดกลั้นได้มากกว่านี้ เคยพอใจแค่คำว่าเพื่อน เคยเรียกร้องแค่ได้รอคอย แต่หลังจากการสูญเสียแม้เพียงระยะเวลาไม่นาน หัวใจของเขาก็ถูกความสิ้นหวังกัดกร่อนจนไม่เหลือความอดทน และเหมือนจะเพิ่งนึกได้ว่าแท้จริงแล้วคนอย่างเขาเมื่อต้องการคือต้องได้ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอและจะไม่ยอมแพ้ใครหน้าไหนทั้งนั้น



.



“ข้า... ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจ...” โจชัวร์จนด้วยคำพูด เขารู้ตัวว่าไม่อาจตอบรับความรู้สึกของแกสตนแต่ก็ยังไม่อาจเปิดเผยความลับเกี่ยวกับเจ้าอสูร



.



“ถ้าเจ้าไม่ได้ตั้งใจงั้นก็บอกมาสิว่าหายไปไหนมา ไปอยู่กับใคร ไปทำอะไร มันเป็นความลับอะไรนักหนาถึงบอกข้าไม่ได้?!”



.



“ขอโทษนะแกสตัน แต่ข้าบอกเจ้าไม่ได้จริงๆ แล้วที่สำคัญก็คือ... พรุ่งนี้ข้าต้องกลับแล้ว” ท่าทางคุกรุ่นทำให้โจชัวร์ลังเลที่จะบอก แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจด้วยการหายตัวไปเฉยๆเหมือนครั้งที่แล้ว   



.



“ไม่มีวัน! ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปไหนอีกแล้ว ห้ามเด็ดขาด!”



.



ความตั้งใจดีกลับเป็นการเปิดแผลที่ยังไม่หายสนิท มือใหญ่กุมรอบต้นแขนเล็กยิ่งกว่าตรวนเหล็กของนักโทษ เขาไม่ยอมปล่อยแม้อีกฝ่ายจะดิ้นรนจนแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้า หากมีเสียงร้องเขาจะรีบตะคอกซ้ำเพื่อให้รู้ว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยมือ หากมีอาการดิ้นรนเขาจะยิ่งจับไว้สุดแรง ให้รู้กันไปว่าเขาจะไม่สามารถเหนี่ยวรั้งหัวใจตัวเองเอาไว้ได้



.



“เจ้าไม่เข้าใจ ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ ข้าต้องกลับไป”



.



“งั้นก็บอกให้ข้าเข้าใจสิว่าเจ้าต้องไปที่ใด หรือว่ามีใครรอเจ้าอยู่ มีใครบังคับให้เจ้าต้องกลับไปใช่มั้ย?!”



.



“ข้าเป็นคนอยากกลับไปเอง ไม่มีใครบังคับทั้งนั้น เจ้าเองก็อย่าบังคับข้าเลยนะแกสตัน”



.



“แล้วถ้าข้าขอร้องเจ้าล่ะ ได้โปรดเถอะโจชัวร์ ข้าจะไม่ขออะไรอีกแค่เจ้าอยู่กับข้าเท่านั้น ถ้าเจ้าอึดอัดกับที่นี่ เราไปที่หมู่บ้านอื่นก็ได้ ข้าต้องการแค่เจ้าคนเดียว ขอแค่มีเจ้าอยู่ด้วยกันข้าก็พอใจแล้ว” แกสตันอ่อนท่าทีลงแต่ยังคงออกแรงจับจนรอยมือรอบต้นแขนเล็กปรากฏชัด



.



โจชัวร์ยอมหยุดดิ้นรนเพื่อตั้งสติและคิดหาวิธีเจรจา เขารู้ตัวว่าสู้ไม่ไหว หากแรงตอบรังแต่จะเสียเปรียบและอาจจุดไฟโทสะจนควบคุมไม่อยู่ ภาพเปรียบเทียบระหว่างเจ้าอสูรและแกสตันกำลังปรากฏชัดขึ้นทุกที เขาไม่ได้เอนเอียงเข้าข้างแต่อย่างที่รู้ว่าเจ้าอสูรไม่เคยบีบบังคับหรือใช้ความรุนแรงกับเขาเลย เขาเสียอีกที่เป็นฝ่ายทุบตีและอาศัยร่างกายใหญ่โตต่างโล่คุ้มภัย สำหรับแกสตันนั้น เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เคยหวังดีและใส่ใจดูแลกันเสมอมา ความรู้สึกที่มากเกินไปกำลังทำให้เขาอึดอัด เขาไม่อาจตอบรับแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้ปฏิเสธ ที่สุดแล้วความรักอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายทั้งสองฝ่ายอย่างนั้นหรือ 



.



“ฟังนะแกสตัน ข้าจะขอพูดให้ชัดเจนเป็นครั้งสุดท้าย เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าเจ้าจะรักข้ามากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะข้าคิดกับเจ้าได้แค่เพื่อนเท่านั้น”



.



“ในเมื่อข้ารักเจ้าได้ แล้วทำไมเจ้าจะรักข้าไม่ได้ล่ะโจชัวร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าทุ่มเทและมั่นคงกับเจ้ามากกว่าใคร ทั้งหมดนั่นไม่มีค่าอะไรในสายตาเจ้าเลยเหรอ ความจริงใจของข้าทำให้เจ้าใจอ่อนไม่ได้สักนิดเลยหรือไง”



.



โจชัวร์รับฟังทุกถ้อยคำและตัดสินใจจบปัญหา เขาระลึกถึงน้ำใจและความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กัน และเพราะอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน เขาจึงไม่ควรปล่อยให้เพื่อนเอาแต่หลอกตัวเองจนหาความสุขในชีวิตไม่ได้อีกเลย



.



“เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าบอกหรือไง ข้าซาบซึ้งกับความรู้สึกของเจ้า แต่ต่อให้เจ้าทำอะไรมากมายแค่ไหน ข้าก็ให้เจ้าได้แค่ความเป็นเพื่อน ข้ารักเจ้าได้แค่เพื่อน เจ้าช่วยเข้าใจข้าบ้างไม่ได้หรือไง”



.



ทว่าความหวังดีนี้ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายตาสว่าง



.



“ข้าไม่เข้าใจ! และข้าไม่ได้ต้องการความเป็นเพื่อน! ข้ารักเจ้าและเจ้าก็ต้องรักข้าเท่านั้น!”



.



โจชัวร์มองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ความรักที่ถูกทำลายด้วยความผิดหวัง ผสมกับความโกรธและต้องการเอาชนะได้เปลี่ยนผู้ชายคนหนึ่งให้กลายเป็นดั่งสัตว์ร้าย ใบหน้าชวนฝันแดงก่ำและบิดเบี้ยว อุ้งมือใหญ่บีบขย้ำและเขย่าตามแรงอารมณ์จนเขารู้สึกเหมือนแขนกำลังจะหลุดออกจากตัว



.



“แกสตัน... เจ้ามันบ้าไปแล้ว! ความรักบังตาจนเจ้าไม่ยอมรับความจริง ถ้าเจ้ายังไม่หยุด แม้แต่ความเป็นเพื่อนข้าก็คงให้ไม่ได้!”



.



“ข้าไม่สน! จำไว้ว่าเจ้าเป็นของข้า ของข้าคนเดียว!”



.



ร่างสูงใหญ่ในตอนนี้ไม่ต่างจากภูเขาไฟที่ปะทุรุนแรงและเอาแต่ตะคอกคำรามไม่หยุด



.



“ปล่อยข้านะ! อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อ เจ้าไม่มีสิทธิ์...”



.



“ทำไมจะไม่มี! ข้ามีสิทธิ์ในตัวเจ้าทุกอย่าง ท่านลุงยกเจ้าให้ข้าแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ไปฟังจากปากพ่อของเจ้ากันเดี๋ยวนี้เลย!”



.



แกสตันไม่รอให้ใครได้ทันตั้งตัว เขาลากโจชัวร์กลับเข้าบ้านมาอยู่ต่อหน้าสมาชิกทุกคนในครอบครัว เมื่อการอ้างสิทธิ์ได้รับการยืนยันจากคุณมอร์ริส พี่สาวทั้งสองแทบจะกรีดร้องด้วยความคับแค้น ส่วนโจชัวร์ยิ่งพูดไม่ออกกับสภาพที่ถูกกระทำเหมือนสิ่งของที่จะยกให้ใครก็ได้ ครั้งก่อนเขายังพอเข้าใจว่าพ่อทำเพื่อสวัสดิภาพของทุกคนในครอบครัว แต่สำหรับครั้งนี้...



.



“พ่อขอโทษนะโจชัวร์ แต่เชื่อเถอะว่านี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเจ้า”



.



“แต่ลูกไม่ได้ต้องการแบบนี้นะครับพ่อ”



.



“พ่อไม่มีวันยอมให้เจ้ากลับไปที่นั่นอีกแล้ว เจ้าต้องอยู่ที่นี่ พ่อเชื่อว่าแกสตันจะคุ้มครองดูแลเจ้าได้”



.



“ลูกก็บอกแล้วว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พ่อคิด ทุกคนที่นั่นดีกับลูกและลูกก็อยากกลับไปจริงๆ ให้ลูกได้ทำตามความต้องการของตัวเองสักครั้งไม่ได้เหรอครับ”



.



“ไม่! ตราบใดที่ยังเห็นว่าข้าเป็นพ่อ เจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่ นี่เป็นคำสั่ง!”



.



โจชัวร์พยายามต่อรองด้วยเหตุผล และหวังว่าพ่อจะเห็นแก่ความสุขของเขาบ้าง แต่เขาต้องผิดหวังอีกครั้งเพราะดวงตาของคุณมอร์ริสก็กำลังพร่ามัวด้วยความรักที่ถูกความขลาดกลัวบีบคั้นให้ต้องตัดสินใจ เขาอ่อนแอเกินไปจึงคิดยืมมือคนอื่น โดยไม่รู้ตัวว่าจะยิ่งเป็นการทำร้ายมากกว่าปกป้องลูกชายคนเดียวเอาไว้ได้ 



.



“พ่อ!”



.



โจชัวร์พยายามอ้อนวอน ดิ้นรน แต่ก็เหมือนปลาตัวน้อยที่ไม่อาจฝืนว่ายทวนกระแสน้ำ ร้ายกว่านั้นคือยังถูกแกสตันจับขังไว้ในห้องเพื่อไม่ให้หลบหนี น่าขำ! พ่อไม่อยากให้เขากลับไปเป็นนักโทษของเจ้าอสูรแต่สุดท้ายแล้วสภาพของเขาก็ยังไม่พ้นถูกจองจำอยู่ดี 



























ในอนิเมชัน ไม่มีชาวบ้านคนไหนเห็นด้วย และคิดว่าพ่อของเบลเป็นบ้าไปแล้ว เขาจึงต้องหาทางช่วยลูกสาวด้วยตัวเอง แต่คุณมอร์ริสในเรื่องนี้อาจจะเรียกว่าพลาดโดยไม่รู้ตัว เคราะห์ร้ายจึงมาตกอยู่กับหนุ่มน้อยของเราอย่างช่วยไม่ได้

จากนี้ไปก็เตรียมฟืน เตรียมไฟ จุดเตาต้มมาม่าหม้อใหญ่ รับรองว่าอิ่มจนจุกกันไปถึงตอนจบโน่นเลยค่ะ




ตอนนี้มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกที่เพจนะคะ สนใจก็ตามลิงค์ไปได้เลยจ้า

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=463324794026133&id=241717489520199















^__^










----- Mine -----










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-07-2017 08:09:18 โดย minemomo »

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 14 (23/7/17)
«ตอบ #118 เมื่อ23-07-2017 08:18:52 »

อ่า เริ่มต้มมาม่าแล้วสินะ

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Heartbeat : A Retelling of Beauty and the Beast... CH. 14 (23/7/17)
«ตอบ #119 เมื่อ23-07-2017 09:10:23 »

มาม่าน้ำข้นต้มยำสินะคะ โอยยยย อย่าลืมเติมผักใส่เนื้อหน่อยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี ฮือออออ  :ling1:  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด