เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)  (อ่าน 15259 ครั้ง)

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
เจ้าชายนิทรา 1/2



        ณ อาณาจักรงดงามแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่รักพระราชาและราชินี พระราชาและพระราชินีต่างปกครองด้วยความรักและเอาใจใส่ โอบอ้อมอารีแก่ทุกๆชีวิต ไม่นานพระราชินีก็ทรงให้กำเนิดรัชทายาทเป็นเด็กชายหน้าตางดงามยิ่ง ทั้งสองจึงเฉลิมฉลองแก่การกำเนิดของเจ้าชายองค์น้อย โดยพระราชาเชิญนางฟ้าผู้ปกปักรักษาเมืองมาให้พรแก่เจ้าชายน้อย

 “วันนี้เป็นวันดี ราชินีแสนสวยของข้าได้ให้กำเนิดเจ้าชายน้อยแก่ข้า ฮ่าๆๆ ข้าดีใจยิ่งนัก” พระราชากล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนความสุขข้างๆราชินีที่อุ้มเจ้าชายน้อยไว้ในอ้อมแขน
 
“ข้าทั้งหลาย ขอแสดงความยินดีแก่พระราชาและพระราชินี และขอให้เจ้าชายน้อยสุขภาพแข็งแรงตลอดไปขอรับ” ข้าทาสบริวารต่างโค้งตัวมอบคำอวยพรแก่เจ้าชายตัวน้อยอย่างไม่ขาดสาย
 
“ข้ามีความสุขยิ่งนัก ขอบคุณเจ้ามากราชินีของข้า” พระราชาโอบกอดร่างของราชินีและเจ้าชายน้อยอย่างรักใคร
ไม่นานประตูก็เปิดออก ร่างเล็กๆของเหล่านางฟ้าต่างทยอยบินเข้ามา พระราชายิ้มยินดีเมื่อเหล่านางฟ้าต่างตอบรับคำเชิญของเขา
 
“อา....ขอบคุณมากที่พวกท่านสละเวลามา”

 “อย่าได้เกรงใจเลยราชาอเล็กซ์ พวกข้ายินดีที่จะให้พรแก่เจ้าชายน้อยอย่างที่สุด” นางฟ้าองค์หนึ่งพูดขึ้น ในขณะเดียวกันเหล่านางฟ้าทั้งหมดก็บินเข้าไปล้อมร่างของเจ้าชายน้อย เมื่อเห็นเช่นนั้นพระราชินีจึงวางเจ้าชายน้อยลงบนที่ๆเตรียมเอาไว้

 “ช่างน่าชังอะไรเช่นนี้ ดูแก้มกลมๆนั่นสิ”

 “ใช่ๆ งดงามราวเด็กสาวก็มิปาน” เหล่านางฟ้าต่างพากันชื่นชมความงดงามของเจ้าชายน้อยที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ

 “แต่น่าเสียดายยิ่งนัก” นางฟ้าคนเล็กสุดกล่าวขึ้นพร้อมใบหน้าที่เศร้าสร้อย นั่นทำให้พระราชาและพระราชินีมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

 “มีอะไรหรือท่านเซลล่า” พระราชาถาม นางฟ้านามเซลล่ามองหน้าพระราชาอย่างสงสาร

 “ชะตาของเด็กคนนี้ จะต้องสิ้นก่อนอายุ18”

 “ไม่นะ!!” พระราชินีกรีดร้องพร้อมร่างของพระองค์ที่ทรุดกายสลบไปในอ้อมแขนของพระราชา

 “อลิซเบธ!!! ทำใจดีๆไว้” พระราชาคอยพัดวีให้ร่างของพระราชินีอย่างห่วงใย

 “เช่นนั้น ข้าควรจะทำเช่นไรท่ายเซลล่า หากมีวิธีข้ายินดีที่จะทำทุกอย่าง”

 “ชะตามันฝืนกันมิได้หรอกราชาอเล็กซ์ โปรดเข้าใจด้วยเถอะ” นางฟ้ามิลาดาเอ่ยบอก

 “แล้วท่านจะให้ข้า นั่งดูลูกชายคนเดียวของข้าตายลงต่อหน้าต่อตาหรือ” พระราชากล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด นางฟ้าทั้งสี่หันมามองหน้ากันอย่างใช้ความคิด

 “ข้าพอจะช่วยได้อยู่บ้าง ถ้าหากท่านทั้งสองรับได้”

 “ได้ ได้แน่นอน ขอแค่ท่านบอกมา ข้ายินดีจะทำตาม” พระราชินีที่ฟื้นขึ้นมาได้ยินเรื่องที่นางฟ้าบอกรีบพูดอย่างรวดเร็ว ขอแค่ช่วยลูกชายของข้าได้ สิ่งใดข้าก็จะทำ นางฟ้าเซลล่าถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

 “อย่างแรก เจ้าชายน้อยจะต้องห้ามตัดผมเป็นอันขาด”

 “ได้ ได้ ข้าจะมิให้ผู้ใดตัดผมของเขา” พระราชาและพระราชินีรีบตอบรับ

 “อย่างที่สองแม้ข้าจะช่วยให้องค์ชายน้อยรอดจากการสิ้นชีพ แต่จะต้องหลับใหลเป็นเวลานาน เพื่อรอรักแท้ของเจ้าชายมาปลุกพระองค์เอง”

 “นานเท่าไหร่หรือท่านเซลล่า แล้วพวกเราจะได้เห็นคู่ครองของเขาหรือไม่”

 “แน่นอน ท่านจะได้เห็น เมื่อเจ้าชายน้อยหลับใหล ทุกคนในปราสาทจะหลับใหลไปเช่นกัน” พระราชาและราชินีมองหน้ากันอย่างดีใจ น้ำตาของพระราชินีไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

 “แต่ทุกอย่างได้มาย่อมเสียไป” เสียงของนางฟ้าคนที่สามนามว่าเอลลี่ขัดขึ้น

 “ใช่แล้ว อย่างที่เอลลี่พูด ทุกสิ่งต้องจ่ายด้วยความเท่าเทียม”

 “มันคือสิ่งใดหรือ หากข้าหามาให้ได้ ไม่สิ ข้าจะหามาให้ท่านแน่นอน ขอแค่ท่านบอกมา” เซลล่าส่ายหน้ากับคำพูดของพระราชา

 “ไม่มีใครจ่ายได้ นอกจากเจ้าชายน้อยเอง” เอลลี่แตะไหล่บางของเซลล่าก่อนจะพูดขึ้น

 “เจ้าชายน้อยจะมีผมสีขาวตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง มันคือคำสาปที่ไม่อาจจะล้างได้เพราะการฝืนชะตา”

 “ไม่มีปัญหาท่านเอลลี่ ข้ายอมรับได้ๆ” ไม่มีอะไรร้ายแรงเท่าสูญเสียดวงใจดวงนี้อีกแล้ว

 “อา.....ข้าต้องบอกท่านเอาไว้อีกเรื่อง คู่ครองของเจ้าชายน้อย จะเป็นบุรุษเพศ มิใช่สตรี” คำกล่าวนั้นทำให้พระราชาและราชินีนิ่งอึ้ง ก่อนจะยกยิ้มบางๆ

 “หากเขาคือคนที่มาช่วยลูกข้าแล้วล่ะก็ ข้ารับได้ทั้งนั้น ขอบคุณพวกท่านมาก หากมิเป็นการรบกวน ได้โปรด ตั้งชื่อให้เขาได้หรือไม่”พระราชินีกล่าว

 “แน่นอน พวกข้าจะให้พรเขาเช่นกัน” นางฟ้าคนแรกบินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าชายน้อย

 “โอ้เจ้าชายน้อย ข้าเอลลี่ ขอให้ความงดงามดั่งบุรุษพึงมี จงอยู่กับท่านตลอดไป” แสงสีทองส่องสว่างกลางหน้าผากของเจ้าชายน้อยทันทีที่นางฟ้าเอลลี่กล่าวจบ นางฟ้าคนที่สองนามว่าไอรีนก็มาแทนที่เอลลี่ทันที

 “โอ้เจ้าชายน้อย ข้าไอรีน ขอให้ความแข็งแกร่งเหนือบุรุษใด จงอยู่กับท่านตลอดไป”

 “โอ้เจ้าชายน้อย ข้ามาลาเลซ ขอให้ทุกสิ่งเป็นดั่งใจท่านปราถนาเสมอ” นางฟ้าตัวน้อยเซลล่าบินมาหยุดอยู่เบื่อหน่าของเจ้าชายน้อย

 “โอ้เจ้าชายน้อย ข้าคือผู้อารีย์นามว่าเซลล่า ขอให้ความสุขโปรดอยู่กับท่านตลอดกาล” นางฟ้าเซลล่าหันมามองหน้าพระราชาและพระราชินี

 “บุรุษผู้ปลุกเจ้าชายจากการนิทรา จะมีดวงตาสีฟ้า ผมสีดำ ใบหน้าจะหวานราวหญิงสาว เขาคือคำตอบของสวรรค์ หากเพียงแต่ว่า...”

 “มีสิ่งใดหรือท่านเซลล่า” นางฟ้าเซลล่าถอนหายใจ

 “เขายังมิเกิดมา และอาจจะเป็นเวลานานพอควร” พระราชายิ้มตอบอย่างมิได้กังวล

 “มิเป็นปัญหาใดๆเลยท่านเซลล่า ไม่ว่าจะนานเท่าใด ข้าจะรอ รอเวลานั้น”

 “เช่นนั้น ข้าจะตั้งชื่อลูกของท่านว่า คริสโตเฟอร์”

 “ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ” ราชินีอลิซเบธกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา
เมื่อความเศร้าโศกหายไป ทั้งท้องพระโรงก็กลับมาครึกครื้นเติมเต็มด้วยเสียงหัวเราะ เจ้าชายน้อยค่อยๆเติบโตขึ้นทุกปีๆ ความหล่อเหลาปรากฎแก่สายตาทุกคู่ที่ได้มอง เหล่าข้ารับใช้สาวต่างพากันหลอมละลายเพียงได้มองรอยยิ้มของเจ้าชายคริสโตเฟอร์และหวังให้ตนเองคือผู้ถูกเลือกให้ปลุกพระองค์ ยิ่งนับวัน เวลายิ่งผ่านไปไวจนพระราชาและพระราชินีเป็นห่วง ด้วยเวลาที่จวนจะถึงกำหนดวันเกิดครบสิบเจ็ดของเข้าชายคริสโตเฟอร์ที่จะต้องเข้าสู่นิทราจนกว่าชายผู้เป็นคู่ชะตาจะมาปลุก

 “ท่านแม่ มีอะไรหรือเปล่าขอรับ ทำไมท่านแม่จึงทำสีหน้าเช่นนั้น”

 “อา.....คริส แม่มีเรื่องต้องบอกลูก” เจ้าชายคริสโตเฟอร์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นพระราชินีมีสีกน้าเคร่งเครียด

 “เรื่องอะไรหรือขอรับ?”

 “อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของลูก และ....ปีนี้ ลูกก็อายุสิบเจ็ด”

 “ใช่ขอรับ แล้วทำไมท่านแม่จะต้องเครียดด้วยล่ะขอรับ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ

 “ท่านเซลล่าได้บอกแม่ไว้ ลูกจะหลับใหลไปในวันเกิดปีที่สิบเจ็ด และจะต้องรอชายผู้เป็นคู่ชะตามาปลุกลูก” พระราชินีน้ำตาคลอเมื่อคิดว่าอีกไม่นานลูกชายคนเดียวของท่านจะต้องอยู่ในการนิทรา

 “ชาย!!! แต่ลูกเป็นชายนะขอรับ จะมีคู่ชะตาเป็นชายได้เช่นไร” พระราชินีถอดถอนใจ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันเฉลิมฉลองที่พระองค์และพระราชาได้เชิญเหล่านางฟ้ามาให้พร เจ้าชายคริสโตเฟอร์ตกใจเมื่อได้รับรู้ความจริง มิน่าเล่า ผมของเขาจึงได้มีสีที่ต่างจากผู้อื่น

 “ถ้าเป็นเช่นนั้น คนผู้นั้นจะมาเมื่อไหร่ก็มิรู้ใช่หรือไม่ขอรับ” พระราชินีพยักหน้าตอบ

 “ข้าคงไม่มีทางเลือกสินะขอรับ หวังว่าบุรุษผู้นั้นคงมิได้รูปร่างสูงใหญ่เช่นลูก ไม่เช่นนั้นคงเป็นภาพที่ไม่น่ามองสักเท่าใด หึหึ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์หัวเราะในลำคอด้วยความขบขัน แต่แววตากลับพราวระยับจนผู้เป็นมารดาอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วไอคนที่มันปฏิเสธก่อนหน้านี้หายไปไหนกัน




        ในที่สุดวันที่ถูกกำหนดก็ได้มาถึง เมื่อร่างของเจ้าชายคริสโตเฟอร์ล้มลงต่อหน้าพระราชาและพระราชินีจนมั้งสองอุทารด้วยความตกใจ ทุกคนต่างมีสีหน้าเป็นกังวลแม้จะทราบเรื่องราวอยู่แล้วก็ตาม ร่างของเจ้าชายคริสโตเฟอร์ถูกวาวลงบนเตียงสีขาว ทหารและข้ารับใช้ต่างแสดงความเคารพต่อเจ้าชายรูปงามที่แม้จะหลับไหลแต่ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาลดลงแม้แต่น้อย

 “ท่านเซลล่า คู่ชะตาของคริโตเฟอร์จะมาเมื่อไหร่หรือท่าน” พระราชินีอลิซเบธถามอย่างกังวลใจ

 “ไม่นานหรอก อย่าได้กังวลใจไปเลยองค์ราชินี เมื่อเขามาถึง พวกข้าทั้งสี่ จะช่วยทำทุกวิถีทางให้ได้พบกับเจ้าชายน้อยแน่นอน”
พระราชินีพยักหน้ารับอย่างเบาใจ หากมีท่านเซลล่าและเหล่านางฟ้าคอยช่วยเขาก็เบาใจ

 “ในเมื่อเจ้าชายคริสโตเฟอร์ได้ตกอยู่ในการนิทรา ก็ถึงเวลาของพวกท่านแล้วล่ะ” นางฟ้าเอลลี่กล่าวบอกทุกๆคนในปราสาท เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปอยู่ในจุดต่างๆ พระราชาและพระราชินีกลับเข้าไปยังห้องบรรทมของตนเอง นางฟ้าเอลลี่เริ่มร่ายมนต์แห่งการหลับไหลแก่ทุกคนในอาณาจักรจนในที่สุด เสียงเจื้อยแจ้วก็ค่อยๆหายไปเหลือเพียงความเงียบสงัดราวกับไร้ผู้คนอาศัยเข้ามาแทน..







แมวไม่อยากให้ทุกคนผิดหวัง แต่เรื่องนี้แมวไม่มีไอเดียเลยค่ะ อาจจะด้วยว่าไม่ค่อยชอบโดยส่วนตัว จึงอยากจะขอโทษๆๆๆ ผู้อ่านทุกท่านล่วงหน้า แล้วแมวจะชดเชยให้เรื่องหน้านะคะ อย่าเลิกอ่านกันเลยนะคะ พลีสสส (@_@) ปล.เรื่องแต่งนานมาก และอาจจะออกมาไม่ค่อยดี ขอโทษทุกท่านที่แมวหายไปนานนะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
หายไปนานเลย คิดถึง..งงงง :katai2-1:

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
เจ้าชายนิทรา 2/2





     10ปีผ่านไป

เสียงฝีเท้าม้าย่ำพื้นดังต่อเนื่อง ชายหนุ่มร่างบอบบางบนหลังม้ากวาดสายตาไปทั่ว เพราะรู้ดีว่าตรเองนั้นเริ่มหลงทางเข้าเสียแล้ว เฮ้ออ นี่เขาต้องไปทำสัญญาค้าขายกับอาณาจักรของราชาคามูสนะ แต่ตัวเองอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้สิเนี่ย พลันสายตาของร่างเล็กก็มองเห็นปราสาทใหญ่โตอยู่ข้างหน้า รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างามอย่างดีใจ ในที่สุดก็มาถึง!!
 
“ย๊า!!!”
หนุ่มน้อยควบม้าด้วยความเร็วสุดฝีเท้าเพื่อให้พ้นแนวป่านี้ไปสักที เพียงไม่นานตัวเขาและม้าคู่ใจก็เดินทางมาถึง ความเงียบสงัดและไร้ผู้คนทั้งที่อาณาจักรก็ไม่ได้ร้างเสียหน่อย ความสงสัยมีมากมายนักภายในใจ ร่างบางจึงตัดสินใจเดินทางต่อเพื่อนไปยังปราสาทใหญ่ที่เขาเห็นก่อนหน้า อย่างน้อยๆคนในนั้นคงมีสักคนบอกเขาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมาถึงหน้าประตูของปราสาทใหญ่ หนุ่มน้อยก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเมื่อพบว่าทหารทุกนายได้หลับไหลไม่ได้สติอยู่หน้าประตู

 “พี่ชายๆ ตื่นเถิดท่าน” แม้จะใช้แรงปลุกเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้ทหารทั้งหลายพวกนี้ตื่นขึ้นมาเลย

 “เกิดอะไรขึ้นกันนะ หรือข้าจะมาผิดเมือง”
ด้วยความสงสัยร่างเล็กจึงตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าไปสำรวจ ยิ่งเดินเข้าไปมากเท่าไหร่ก็พบเพียงแค่ร่างที่หลับไหลของทุกคน ในขณะที่ร่างบางเดินสำรวจอยู่นั้น เจ้าตัวไม่ได้รับรู้เลยว่าถูกจับตามองด้วยสายตาทั้งสี่คู่ของเหล่านางฟ้า

 “คนนี้สินะ คู่ชะตาของเจ้าชายคริสโตเฟอร์” เอลลี่เอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

 “ใช่แล้ว เขาคือคำตอบของทุกสิ่ง” นางฟ้าเซลล่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

 “ถ้าอย่างนั้น เราไปดูหน่อยดีไหม ว่าจะมีอะไรที่เราจะช่วยเขาได้บ้างหรือเปล่า"” นางฟ้าทั้งสี่มองหน้ากันแล้วบินตามไปดูห่างๆ เมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าจะเดินผ่านห้องที่เจ้าชายคริสโตเฟอร์ได้หลับไหลอยู่ นางฟ้ามาลาเลซจึงเสกให้ร่างของหนุ่มน้อยสะดุดเชือรองเท้าถลาล้มลงกระแทกประตูจนเปิดออก

 “โอ้ย เจ็บชะมัดเลย” ร่างบางบ่นพึมพำก่อนจะมองเข้าไปภายในห้อง

 “ใครกัน.....” ความอยากรู้ทำให้ร่างเล็กๆไม่รีรอที่จะเดินเข้าไป เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงใหญ่ ดวงจาสีฟ้ากลมโต มองใบหน้าที่อยู่ในการหลับไหลอย่างไม่กระพริบตา
หล่อจริงๆ น่าอิจฉาจังเลย
นางฟ้าทั้งสี่ที่ลอบมองอยู่นั้นรู้สึกขัดใจยิ่ง เมื่อร่างเล็กตรงหน้าไม่ทำอะไรเอาแต่ยืนมองอยู่เช่นนั้นนิ่งๆ

 “โอ้ยย..ฉันทนไม่ไหวแล้ว เด็ดคนนี้ซื่อบื้อชะมัด เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

 “อย่า/เดี๋ยวไอรีน/หยุดก่อน”
นางฟ้าทั้งสามสงเสียงห้ามนางฟ้าตัวน้อยไอรีนที่ไม่ได้ฟังเสียงใดๆพุ่งตรงเข้าไปพลักร่างเล็กยืนอยู่ให้ล้มหน้าทิ่มลงไป

 “เฮ้ย อุ๊บ” ริมฝีปากบางกระแทกลงบนเรียวปากของเจ้าชายคริสโตเฟอร์อย่างจัง เปลือกตาที่ปิดอยู่ของเจ้าชายคริสโตเฟอร์ค่อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงก่อนจะตื่นเต็มตา เจ้าชายคริสโตเฟอร์วาดแขนแข็งแรงโอบรัดเอวบางไว้ทั้งๆที่ยังมึนงงจากการหลับไหลไปหลายปี

 “ขะ ขออภัยขอรับ” ปากก็เอ่ยขอโทษขอโพย ร่างกายก็พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนด้วยความตื่นตกใจ

 “เจ้า.......เป็นใครกัน”

 “ข้า ข้ามีนามว่าอลันขอรับ เป็นพ่อค้าจากอาณาจักรโลเวนที่อยู่ทางใต้ขอรับ ขอเจ้าชายโปรดปล่อยข้าด้วยเถอะขอรับ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจ ดวงตาเป็นประกายยิ่งเมื่อเห็นร่างเล็กอึกอักยิ่งชอบใจ

 “ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามาในนี้หรืออลัน”

 “มิ มิได้มีผู้ใดอนุญาตขอรับ ข้ารู้ตัวว่าบังอาจ ขอเจ้าชายโปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะนะขอรับ” ดวงตาสีฟ้าเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เมื่อคิดว่าตนเองจะต้องตายเป็นแน่

 “ข้าน้อยยังมีพ่อแม่ มีน้อะ อุ๊บ อื้อออ” เจ้าชายคริสะกดริมฝีปากเรียวลงกับปากบาง เมื่อใบหน้างามตรงหน้าช่างยั่วยวนตาจนไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป เจ้าชายคริสดูดดึงริมฝีปากของอีกฝ่ายพยายามจะสอดแทรกปลายลิ้นร้อนเข้าหปชิมลิ้มรสหวานล้ำภายใน แต่คนตรงหน้ากลับปิดปากสนิท มือเล็กๆยกขึ้นพลักดันให้หลุดออกจากอ้อมแขน แต่เจ้าชายคริสกลับเพิ่มแรงกอดรัดจนร่างบางอึดอัดหายใจไม่ออก ในที่สุดก็ยอมเปิดปากให้ปลายลิ้นร้อนชื้นได้รุกล้ำเข้าไปนั่นแหละ เจ้าชายคริสจึงยอมคลายอ้อมแขนออกเล็กน้อย เหล่านางฟ้าหน้าแดงกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนแยกย้ายหนีกันไปคนละทิศละทางเพื่อคลายมนต์สะกดที่ใช้กับชาวอาณาจักรทุกคน




     เจ้าชายคริสมองร่างเล็กๆในอ้อมแขนที่หอบหายใจหนักๆ แก้มแดงปลั่งและริมฝีปากสีแดงที่บวมเจ่อนั้นอย่างเพลินตา

 “ปละ ปล่อยนะขอรับ” แม้ปากจะพูดเช่นนั้นแต่ร่างกายกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะพลักดันร่างตรงหน้าให้ออกห่าง

 “มิชอบหรือ จูบของเรา” หน้าที่แดงอยู่แล้วกลับยิ่งแดงขึ้นอีกเมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้

 “ขออภัยขอรับเจ้าชาย หากแต่ข้าเป็นบุรุษธรรมดาที่พึงใจสตรีเท่านั้น ข้ามิอาจพอใจกับจูบที่ท่านประทานให้ขอรับ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์หน้าตึงด้วยความเคืองจคงหยัดกานขึ้นนั่งแต่ก็ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กออกเช่นกัน จึงกลายเป็นว่า อลันนั่งคล่อมอยู่บนตักกว้างของเจ้าชายแทน

 “มิอาจพอใจจูบของข้า เหอะ เจ้าช่างกล้าพูดนัก” เมื่อถูกเจ้าชายมองด้วยสายตาหยามๆ อลันก็ทำได้เพียงเม้มริมฝีปากและพยายามดันตนเองออกจากร่างของเจ้าชายแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่ออ้อมแขนยังคงรัดแน่นไว้อย่างเดิม

 “ข้าคงต้องพิสูจน์ให้เจ้ารับรู้อีกสักรอบ”
จบคำเจ้าชายคริสโตเฟอร์ก็กดริมฝีปากลงมาอีกครั้งซึ่งมันช่างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ฝ่ามือใหญ่บีบที่คางเล็กเพื่อรุกล้ำชิมความหวานภายใน ลิ้นร้อนกวาดต้อนเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของอลันอย่างไม่ลดละแม้อีกฝ่ายจะหลีกหนีก็ตาม ไม่นานร่างของอลันก็เริ่มสั่นสะท้าน การขัดขืนแปลเปลี่ยนเป็นการสมยอมนั่นทำให้เจ้าชายคริสโตเฟอร์พึงพอใจอย่างมาก

 “อือ”
เจ้าชายคริสโตเฟอร์ครางเบาๆในลำคอเมื่อรับรู้ถึงการตอบสนองของปลายลิ้นที่รุกไล่กับเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ฝ่ามือบางลูบไล้แผงอกกว้างอย่างลืมตัว

 “จุ๊บ จุ๊บ อา จุ้บ”
เจ้าชายคริสโตเฟอร์ยกสะโพกของร่างเล็กให้ขยับเสียดสีไปมากับแก่นกายที่อยู่ใต้กางเกง

 “อือ อ๊ะ อืมม”
ดวงตาสีฟ้าของอลันปรือ ริมฝีปากปล่อยเสียงครางโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเมื่อเจ้าชายคริสโตเฟอร์ละริมฝีปากลงมาครอบครองยอดอกผ่านเสื้อตัวสวยจนอลันแอ่นอกขึ้นรับอย่างลืมตัว ความร้อนและความเปียกชื้นจากลิ้นหนานำพาความเสียวซ่านมาให้อลันจนต้องยกมือขึ้นมากำผมสีขาวนุ่มมือไว้

 “อย่า อื้อ พะ พอแล้ว” แม้จะปากจะพูดอย่างนั้น แต่ร่างกายกลับแอ่นขึ้นให้รับสัมผัสได้อย่างถนัดถนี่

 “ดีจริงๆที่เป็นเจ้า คู่ชะตาของข้า” เจ้าชายคริสโตเฟอร์พึมพำกับซอกคอขาวอย่างหลงใหล

 “มะ ไม่ ข้าเป็นบุรุษนะ!!!” คำพูดของเจ้าชายคริสโตเฟอร์เรียกสติของอลันได้อย่างดี มือเล็กๆพลักร่างสูงออกอย่างสุดแรงจนทำให้ตัวอลันเองกลิ้งตกเตียงไป

 “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” น้ำเสียงช่างเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่อลันไม่ได้สนใจกลับถดถอยกายหนีเมื่อร่างสูงก้าวลงมาจากเตียงเพื่อมาดูตนเอง

 “ไม่ขอรับ ขะ ข้าไม่เป็นไร”

 “เจ้าจะถอยไปไหน กลัวข้าหรือ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์ถามเมื่อเห็นว่าอลันยังคงถอยห่างไม่หยุด

 “เปล่าขอรับ ไม่ใช่ เพียงแต่ เอ่อ ข้าจำเป็นต้องรีบไปแล้วขอรับ ข้าต้องไปทำสัญญาการค้ากับอาณาจักรโลเวน” คริสโตเฟอร์มองอลันด้วยแววตาเรียบเฉย

 “จะสนใจไปทำไมกัน อีกหน่อยพอข้าแต่งกับเจ้า เจ้าก็ไม่ต้องทำงานพวกนั่นอีก”

 “เอ่อ ข้า ข้าลาล่ะขอรับ” อลันพุ่งตัวไปทางด้านประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าพูดอะไรไปเจ้าชายก็คงไม่ฟัง แต่เพียงแค่มือบางเปิดประตูออกก็ถูกกระชากกลับเข้าไปอย่างง่ายดาย

 “คริส ลูกตื่นแล้วหรือ” เสียงของพระราชินีสอบถามอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นแผ่นหลังที่โผล่พ้นประตูออกมา

 “ช่วยด้ อื้ออออ” ฝ่ามือหนาปิดลงบนปากบางทันทีเมื่ออลันส่งเสียงขอความช่วยเหลือ

 “เสียงใครน่ะคริส มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เจ้าชายคริสโตเฟอร์ยื่นใบหน้าออกมานิดประตู ส่งยิ้มให้พระราชินีทั้วที่อขนแกร่งยังกอดกักร่างอลันอยู

 “ไม่มีอะไรขอรับท่านแม่ ข้าเพียงพูดคุยกับคู่ชะตาเท่านั้นขอรับ”

 “จริงหรือ แม่อยากพบเขาจัง เขาอยู่ที่ไหนล่ะ” พระราชินีตื่นเต้นยินดีอย่างที่สุด

 “ตอนนี้คงไม่ได้ โอ้ย อา ถ้าหากท่านแม่ไม่มีอะไรอีก ลูกขอตัวก่อนนะขอรับ” เจ้าชายคริสโตเฟอร์กัดฟันบอกพระราชินีเมื่อรับรู้ถึงฟันของคนตัวเล็กที่กัดลงบนฝ่ามือของเขา

 “เอาเถอะ ยังไงก็พาเขามาพบแม่ด้วยล่ะ แม่ไปหาท่านพ่อเจ้าก่อนดีกว่า ป่านนี้คงหาแม่ให้วุ่นแล้ว”

 “ขอรับท่านแม่” เจ้าชายคริสโตเฟอร์ปิดแระตูลงและใส่กลอนทันทีเมื่อเห็นว่าพระราชินีเดินห่างออกไปแล้ว อลันถอยห่างจากร่างสูงทันทีที่หลุดออกจากอ้อมแขนแกร่ง

 “เจ้าจะหนีข้าทำไมกันคู่ชะตา ใช่ว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้เสียหน่อย”

 “เช่นนั้นก็โปรดปล่อยข้าไปเถอะขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องต้องไปทำ” อลันพูดน้ำเสียงสั่นๆ

 “ที่นี้ ตอนนี้ เจ้าเองก็มีเรื่องต้องทำเช่นกัน กับข้าไง” เจ้าชายคริสมองอลันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เมื่ออลันเผลอเจ้าชายคริสก็มาถึงตัวเขาทันที แขนแกร่งโอบเอวเล็กไว้พาร่างเล็กๆเดินถอยไปจนล้มลงบนเตียวกว้าง ฝ่ามือเล็กยกขึ้นดันร่างหนาเอาไว้อย่าลนลาน ยิ่งเมื่อได้สัมผัสกับบางสิ่งที่ตื่นตัวอยู่ในกางเกงของร่างสูง เรี่ยวแรงที่ดันร่างหนายิ่งเพิ่มขึ้น

 “ปล่อยข้าเถอะขอรับ ข้าขอร้อง”

จุ้บ

 “อย่าขอร้องเลยอลันยอดรัก มันเสียเวลาเปล่า” ริมฝีปากเรียวไล่จูบตามร่างกาย มือใหญ่ก็ปลดเสื้อผ้าของอลันในเวลาเดียวกันแม้ร่างบางจะยินยอมก็ตาม ไม่นานร่างกายเปลือยเปล่าขาวนวลตัดกับผมารดำและตาสีฟ้ากลมโต คริสโตเฟอร์มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง แก่นกายยิ่งขยายขึ้นจนสติของเจ้าชายคริสขาดผึง

 “อ๊า!!”
คริสโตเฟอร์ก้มลงกัดยอดสีสวยอย่างแรงจนอลันแอ่นอกขึ้นรับสัมผัส มือบางขยุ้บเสื้อของอีกฝ่ายเพื่อระบายความเสี่ยวซ่าน น้ำตาไหลลงอาบแก้มแต่เจ้าชายคริสโตเฟอร์ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขามัวเมากับกลิ่นกายอันหอมเย้ายวนและยอดสีสวยที่ล่อตา มือหนาบีบยอดอกอีกข้างแล้วดึงขึ้นจนอลันดิ้นพล่าน ส่วนล่างของอลันขยายขึ้นอย่างไม่อาจห้ามได้ ปายลิ้นตวัดโลมเลียริมฝีปากดูดดึงอย่างรุนแรงจนยอดอหสวยแดงช้ำ และเปียกชื้น แต่ภาพตรงหน้าช่างน่ามองสำหรับคนิสโตเฟิร์เหลือเกิน

 “หยะ หยุดเถอะขอรับ”
แม้จะอ้อนวอนเท่าไหร่คริสโตเฟอร์ก็ไม่ได้ยินมันแม้แต่น้อย

 “เจ้างามจริงคู่ชะตา เจ้าต้องตาต้องใจข้ายิ่งนัก ไม่ต้องกังวล ข้ารับผิดชอบเจ้าเอง”
ฝ่ามือใหญ่จับแก่นกายของตนและอละนเข้ามารวบไว้ด้วยกันก่อนจะขยับมือขึ้นลงช้าๆ

 “รู้สึกอย่างไร ชอบไหมคู่ชะตา”

 “มะ ไม่ชอบขอรับ อือ ขะ ข้าน้อย อื้อ อ๊ะ มะ ไม่ชอบ” คริสโตเฟอร์ยิเมอย่างเอ็นดู

 “เช่นนั้นหรือ”

 “อ๊า ย๊า!!! อื้อ หยะ อ๊า หยุดขอรับ อ๊า อ๊า” ใอใหญ่แกล้งขยับขึ้นลงเร็วขึ้นมือร้อนที่โอบรัดนั้นยังไม่เท่าแก่นกายที่เสียดีกันไปมา ร่างเล็กแกร็งด้วยความกระสัน เมื่อเห็นร่างเล็กใกล้ถึงฝั่ง มือใหญ่ก็หยุดขยับไปเสียดื้อๆ

 “อือ ดะ ได้ ได้โปรด อย่าทรมาน อะ ข้าน้อยเลยขอรับ”

 “เจ้าพร้อมแล้วหรือ เจ้าเรียกร้องให้ข้าทำเองนะ อย่าโทษข้าทีหลังล่ะ”

 “โอ้ย!!”
คริสโตเฟอร์สอดกายเข้าไปช้าๆ แต่มันก็ทำให้อลันมีปฏิกิริยาขึ้นมาอีกครั้ง มือเล็กทุบตีไปทั่วทั้งร่างของเจ้าชาย ลืมเลือนบรรดาศักดิ์ต่างๆนาๆ ลืมไปด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้รู้สึกเช่นไร รู้แค่ตอนนี้เขาเจ็บ เจ็บมากๆ

 “อย่าตีข้าสิคู่ชะตา ข้าไม่ได้อยากให้เจ้าเจ็บ แต่ใครให้เจ้าเล็กขนาดนี้ล่ะ”

 “ฮืออ ข้าอยากกลับบ้าน ปล่อยข้าไป เอามันออกไปเถอะขอรับ”
โถ ฆ่าข้าเสียดีกว่า ให้ข้าหยุดตอนนี้

 “ทนหน่อยนะ ข้าขอโทษ”

 “กรี๊ดดดด!!!!”
อลันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อเจ้าชายคริสโตเฟอร์สอดแทรกแก่นกายเข้าไปทีเดียวจนมิดมือเล็กทุบไปบนไหล่กว้าง น้ำตาไหลอาบแก้มเสียงสะอื้นดังขึ้นไม่หยุดแม้เจ้าชายคริสจะหยุดขยับกายแล้วก็ตาม คริสโตเฟอร์จูบซับน้ำตาให้คนใต้ร่าง แต่อบันกลับส่ายหน้าหนีด้วยความโกรธเคือง

 “คู่ชะตา”

 “ไม่ใช่!! ฮือๆ ข้าไม่ใช่คู่ชะตาของท่าน” เจ้าชายชะงัก มองคนใต้ร่างอย่างโกรธา

 “เจ้าใช่ เจ้าคือคู่ชะตาของข้า!!”

 “อย่า!!!!” คริสโตเฟิร์ขยับกายช้าๆ แม้จะโกรธร่างเล็กสักเพียงใดแต่เขาก็ไม่อยากให้คนตัวเล็กเจ็บมากนักหรอก
มือหนากอบกุมแก่นกายสีชมพูสวยของคนใต้ร่าง ขยับขึ้นลงจนเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากปากอลัน เมื่อเห็นว่าอลันเลิกต่อต้าน มือเล็กที่พลักดันร่างของเขาก็เปลี่ยนมาจับเสื้อของเขาไว้แทน คริสโตเฟอร์ขยับกายอีกครั้งอย่างช้า มองคนใต้ร่างอย่างสื่อความหมายแม้อีกฝ่ายจะไม่มองเขาก็ตาม

 “อื้ออ อ๊ะ อ๊า”

 “เจ้าชอบใช่ไหม คู่ชะตา การร่วมรักกับข้าเจ้าชอบใช่หรือไม่” คริสโตเฟอร์กระซิบถามร่างบาง อลันกัดนิ้วตนเองเอาไว้เมื่อแก่นกายที่เข้าออกภายในเสียดสีกับจุดกระสันเข้าอย่างจัง

 “พูดสิ เจ้าชอบใช่ไหม”

 “อือ ขะข้าไม่ชอบ ไม่ชอบขอรับ อ๊า” อลันร้องลั่นเมื่อคริสแกล้งดึงแก่นกายออกเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปใหม่

 “พูดใหม่สิ ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้งคู่ชะตา”

 “ข้าไม่ชอบ ไม่ชอบๆๆๆ”

 “หึหึ ไม่เป็นไร เรายังเวลาพิสูจน์กันอีกหลายรอบ อย่าได้กังวลไปเลยคู่ชะตา ข้าจะไม่หยุดร่วมรักกับเจ้าง่ายๆหรอก”
เจ้าชายคริสโตเฟอร์กระแทกกายเข้าออกอย่างรวดเร็ว เมื่อภายในช่องรักนั้นบีบรัดตัวตนเขาจนจะเสร็จอยู่รอมร่อ ยิ่งกระแทกกายถี่เท่าไหร่เสียงครางหวานก็ดังขึ้นเท่านั่น เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเตียงสั่นไหวไปตามแรงกระแทกอย่างรุนแรง

 “อา อลัน อย่ารัดข้านักสิยอดรัก”

 “อ๊า อ๊า”
จังหวะรักยังคงดำเนินไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะจบ อลันสั่นสะท้านครางเสียงแผ่วหวานเมื่อคริสก้มลงมาดูดเลียยอดอกทั้งที่ยังกระแทกกายไม่หยุด ไม่นานนักคริสโตเฟอร์ก็หยัดกายขึ้นมือใหญ่จับเอวบางให้รับการกระแทกที่รุนแรงและรวดเร็วจนในที่สุด ร่างทั้งสองก็ถึงฝั่งฝัน เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังระงบอยู่ภายในห้องนั่น แต่แน่นอนว่าหากใครผ่านไปผ่านมาย่อมต้องได้ยินเสียงเตียงกระทบผนังแน่นอน ท่วงทำนองบทเพลงรักของเจ้าชายคริสโตเฟอร์และอลันดำเนินไปเรื่อย จนกว่าที่คนตัวโตจะอิ่มเอม แน่นอนคู่ชะตาของเจ้าชายคริสทั้งคน ใครจะยอมปล่อยไปง่ายๆ
หลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างจบสิ้น งานแต่งระหว่างเจ้าชายคริสโตเฟอร์และอลันก็ถูกจัดขึ้นใหญ่โต ทุกอย่างช่างลงตัว ทุกคนต่างอิจฉาคริสโตเฟอร์ที่มีหนุ่มรูปงามดุจเทพธิดามาข้างกาย และอิจฉาอลันที่ได้เจ้าชายผู้หล่อเหลาที่ทุกคนใฝ่หามาครอบครอง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น ความสุขและเสียงหัวเราะกลับมายังอาณาจักรนี้อีกครั้ง

 “ดีจังนะ อาณาจักรนี้เหมาะกับความสุขมากกว่า”

 “นั่นสิ”เหล่านางฟ้าต่างยิ้มให้กันอย่างสุขใจ มันต้องเป็นแบบนี้สิ แบบนี้แหละดีแล้ว




The  End
[/size][/color]



จบแล้วกับเรื่องนี้ โล่งงงง บอกตรงๆเลยว่าแมวแต่งเรื่องนี้ไม่ออกจริงๆ เขียนๆหยุดๆจนท้อ แต่เราก็เขียนจนจบ ฮ่าาา!! ดีใจที่มีคนชอบค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านนะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกคอมเม้นค่ะ นักเขียนมือใหม่แบบแมว ขอแค่มีคนอ่านแล้วชอบ แมวก็ดีใจจนติดฝาเพดานบ้านแล้วค่ะ ลอยยยยย




ปล. เรื่องหน้า ซินโดเรล่านะเออ ถ้าใครชอบเจ้าชายกบ(เวอร์ชั่นllมว น้oe)เราบอกเลย คุณต้องชอบเรื่องหน้าแน่นอน นับวันรอ อาทิตย์หน้าพบกันนะค๊าาาา จุ้บๆ <3

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คนเขียนชอบมีอะไรมาให้แปลกใจตลอด
ตอนแรกนึกว่าเจ้าชายจะเคะ ฮา

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เจ้าชายยยยยย ถนอมน้องหน่อยสิคะะะะ ช้ำหมดแล้ว

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ซินเดอเรลล่า 1/2



      “ว่ายังไงนะ!!!! ท่านพ่อจะให้เราแต่งงาน” ข้าทรุดกายลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่ท่านพ่อจะเลิกคิดเรื่องนี้สักที

 “ท่านเซน ใจเย็นๆเถอะขอรับ” คีซเป็นคนสนิทของท่านพ่อข้าเอง เห็นข้ามาตั้งแต่แบเบาะ จึงไม่แปลกที่เขาจะเอนเอียงมาทางข้าเป็นพิเศษ

 “แล้วท่านจะให้ข้าทำเช่นไรเหล่า ข้าไม่อยากแต่ง ไม่อยากไปงานเต้นรำบ้าบอนั่น”  ข้าเต้นเป็นเสียที่ไหนกัน

 “แค่งานเต้นรำเองนะขอรับ ท่านเพียงแค่ไปร่วมงาน มองดูผู้คนอาจจะมีสักคนที่ท่านจะถูกใจ หรืออาจจะไม่” คีซรีบเปลี่ยนคำพูดทันทีเมื่อข้าตวัดสายตาใส่

 “แต่ถ้าหากท่านพ่อบังคับให้ข้าเต้นรำกับหญิงสาวเล่า”

 “หึหึ ท่านก็ชิงเต้นรำกับชายหนุ่มเสียสิขอรับ” อะ อะ อะไรกัน

 “ท่าน!!! ข้าโกรธจริงๆนะ” ไม่รู้แหละข้าจะพองลมให้แก้มแตกไปเลย ข้าเหล่ตามองสีหน้าของคีซแต่นั่นกลับทำให้ข้ายิ่งโกรธ ก็เขากำลังหัวเราะข้าอยู่น่ะสิ

 “ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว ข้าจะไปคุยกับท่านพ่อ!!!” ข้าสะบัดก้นหนีร่างของคีซทันทีไม่สนใจเสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังมาอย่างต่อเนื่อง หึย!!! ข้าโกรธ ข้าโกรธธธธธธ!!!




 “ท่านพ่อออออออ” ข้าวิ่งเข้าไปหาชายร่างท้วมที่ยืนตรวจงานทั่วไปอยู่ ถูกต้อง นั่นพ่อข้าเอง

 “อย่าวิ่ง เจ้าโตแล้วนะเซนเลิกทำตัวเป็นเด็กๆเสียที” ท่านพ่อส่ายหัวให้ข้าอย่างระอา

 “เตรียมงานเลี้ยงของใครอยู่หรือขอรับ?” แบ๊ว แบ๊วใส่อย่างเดียว

 “ของเจ้าไง”

 “ท่านพ่อ!!!”

 “อย่าโวยวายสิ พ่อหวังดีหรอกนะถึงจัดงานขึ้น” หวังดีอะไรกัน โกหก

 “ข้าไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากได้งานเลี้ยงเต้นรำด้วย”

 “เจ้าต้องไป พ่อประกาศออกไปแล้ว สาวงามจะหลั่งไหลกันมาเพื่อให้เจ้าได้เลือก เจ้าหญิง สาวชนชั้นสูง หรือแม้แต่สาวชาวบ้าน ล้วนจะมาร่วมงานเลี้ยงนี้กันทั้งนั้น เจ้าอาจจะถูกใจใครเข้าก็เป็นได้นะ” ข้าเบ้ปากทันทีที่ท่านพ่อพูดจบ

 “ถ้าเช่นนั้น ใยท่านไม่หาแต่งเองสักคนละ” ร่างท่วมของพ่อข้าสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงเย็นๆดังมาทางด้านหลัง

 “ชะอุ๊ย เบบี๋ เจ้ามาเมื่อไหร่จ๊ะ”

 “มาทันได้ยินว่าจะมีสาวงามเข้ามาให้เลือกมากมายนั่นแหละเจ้าค่ะ” แม้ท่านแม่จะพูดเสียงราบเรียบ แต่สายตาท่านแม่จิกกัดสุดๆ

 “โถ่เบบี๋ พี่พูดถึงให้ลูกชายตัวดีของเราเลือกต่างหาก เจ้าอย่าคิดมากสิ” ท่านพ่อกอดเอวบางของท่านแม่ไว้ มองด้วยแววตาหวานเยิ้ม

 “ก็ลูกชายตัวดีของเรา เขาไม่อยากจะไปงาน ท่านจะให้ข้าคิดเช่นไรล่ะเจ้าคะ นอกเสียจากท่านอยากจะเจอเสียเอง”

 “ไม่จริงเลยจ้ะ พี่ไม่เค๊ย ไม่เคยคิดจะมีคนอื่นเลย”ท่านพ่อรีบส่ายหน้าปฎิเสธ หากแต่ท่านแม่เพียงปรายตามองเท่านั้นแล้วร่างของท่านแม่ก็เดินจากไป ท่านพ่อกระส่ายกระสับเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมเมื่อโดนท่านแม่โกรธ

 “ทำยังไงดีๆ”

 “เวส!!!!” ท่านพ่อตะโกนเรียกคีทเสียงดัง

 “ขอรับ ข้าอยู่นี่ขอรับ ห๊าววว” เอ่อ เวสเดินมาพร้อมปิดปากหาวอย่างไม่รีบร้อน

 “เวสๆๆๆ นางโกรธข้า นางโกรธข้าอีกแล้วว ทำอย่างไรดีๆ” ท่านพ่อถามด้วยสีหน้าร้อนใจ แต่ไม่ได้สังเกตหน้าคู่สนทนาเลยสักนิด มือขยี้ตา ปากหาววอด ช่างเป็นภาพที่ดู......อนาถ

 “จะไปยากอะไรขอรับ โกรธ ก็จับปล้ำ โกรธอีก ก็ปล้ำอีก ไม่นาน พระราชินีต้องคืนดีกับท่านแน่นอน เอิ๊ก!” ข้าล่ะอยากจะบ้าตาย เดี๋ยวหาว เดี๋ยวเรอ นี่ข้าอยู่ในปราสาทใช่ไหม?

 “จริงหรือ ดีๆ ข้าจะลองทำดู เอาล่ะ เจ้าเตรียมงานเต้นรำต่อ เดี๋ยวข้าจะไปปล้ำเมีย เอ้ย ง้อเมียข้าก่อน” ท่านพ่อเดินไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนเวส ก็ยืนทำท่าแคะขี้มูกไม่สนใจโลก ซึ่งข้าคงไม่ต้องสาธยายถึงความอุบาทว์นั้น

 “เจ้าเลิกแคะขี้มูกสักที ข้าเห็นแล้วจะอ้วก”

 “ก็อย่ามองสิขอรับท่านเซน” ดูสิ สนใจข้าที่ไหน สงสัยข้าต้องใช้ไม้ตาย

 “คีท!” ได้ผล เวสรีบเอามือลงทำท่าสงบเสงี่ยมเจี๋ยมตั๋ว เอ้ย เจียมตัวเสียอย่างกับว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำตัว....อย่างที่ข้าว่า

 “ขอรับท่านเซน”

 “ไม่มีอะไร ท่านพ่อให้เวสเป็นคนดูเรื่องงานเต้นรำ ยังไงท่านก็ช่วยเวสดูหน่อยก็แล้วกันนะ” คีทหันมองหน้าเวสที่หลุกหลิกไปมาอย่างหาทางออกด้วยรอยยิ้มที่น่าขนลุก

 “ข้าเต็มใจที่จะช่วย ขอรับ”

 “ข้าทำคนเดียวได้!!!” ข้าเลิกคิ้วขึ้นมองเวสที่รีบร้อนออกตัว

 “จริงๆนะขอรับ ข้าทำคนเดียวได้จริงๆขอรับ” ข้ามองหน้าเวสเพื่อสื่อว่าเข้าใจ ข้าเข้าใจ แต่ข้าไม่หยุด

 “เอาเป็นว่า.....” เวสมองหน้าข้าด้วยสีหน้าคาดหวัง แต่คีทดันเอาแต่มองหน้าเวสไม่หยุด มันยังไงๆกันแน่นะ

 “คีท ท่านช่วยเวสด้วยละ ข้าไปดีกว่า ฮ่าๆๆ”

 “ท่านเซนนนน!!!!” ข้าไม่สนใจเสียงโวยวายตามหลังมา เพราะไม่นานคีทก็คงจะทำให้มันหยุดเอง แต่ด้วยวิธีไหนก็น๊า ข้าอยากรู้จัง
   

   ว่าแต่ ข้าลืมอะไรไปหว่า
       


      ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง งานเต้นรำถูกจัดขึ้นอย่างหรูหรา ผู้คนมาหน้าหลายตาทั้งหญิงสาวชนชั้นสูง และสาวขาวบ้านต่างมาร่วมงานทั้งสิ้นและแน่นอนเมื่อในงานมีหญิงงามมากมาย ก็ย่อมต้องมีชายหลากหลายคนเช่นกัน ข้ามองไปรอบงานอย่างเบื่อหน่ายโดยมีท่านพ่อที่นั่งยิ้มกว้างหน้าบานอยู่ข้างๆ ใช่สิ ก็ง้อท่านแม่ได้แล้วนี่ ยิ่งคิดข้ายิ่งหมั่นใส้ หากไม่ใช่เพราะท่านพ่อเจ้ากี้เจ้าการจัดงานพวกนี้ขึ้นมา ข้าคงไม่ต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มเมื่อมีหญิงสาวมาแนะนำตัวอยู่ตรงหน้า

 “เจ้าน่าจะพานางไปเต้นนะเซน” ไม่รู้ว่าคนที่เท่าไหร่แล้วนับตั้งแต่ที่งานเริ่มขึ้น ท่านพ่อก็เอาแต่บอกให้ข้าพาพวกนางไปเต้นรำ

 “น่าเสียดาย แต่เพลงจบแล้วขอรับ” ข้าส่งยิ้มบางไปให้คนตรงหน้าที่ทำหน้าเหวอโดยไม่คิดว่าเจ้าชายเช่นข้าจะเอ่ยคำนี้

 “อะ เอ่อ ข้าขอตัวนะเจ้าคะ รู้สึกกระหายขึ้นมาพอดี” หญิงงามที่ข้าปฏิเสธนางพูดขึ้นแก้เก้อก่อนที่นางจะเดินหนีไปเมื่อเห็นว่าข้าไม่สนใจ

เพี๊ยะ

 “โอ๊ย ท่านแม่! ตีข้าทำไม” ข้าลูบแขนตัวเองปอยๆ เมื่อท่านแม่ฟาดลงมาที่แขนอย่างแรง

 “ตีให้เจ็บไง มีที่ไหนพูดกับนางแบบนั้น”

 “ก็ข้าไม่ชอบนางนี่ขอรับ”

 “หึ!”ท่านแม่สะบัดหน้าหนีข้าไปแล้ว โถ่ ก็ข้าไม่ชอบนี่
ข้าเดินออกมาจากงานเพื่อเลี่ยงการเต้นรำกับคนมากหน้าหลายตา แต่เดินไปที่ไหนก็เจอแต่สาวๆ อ๊ากก ข้าเบื่อ ข้าอยากอยู่ลำพัง!!!

 “อ๊ะ หยุดนะ เจ้า อ๊า!”
เสียงอะไร??

เสียงดังออกมาจากห้องของคีท ข้าตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อฟังชัดๆ ยิ่งข้าเดินเข้าไปใกล้ๆ เสียงยิ่งชัดมากขึ้น

 “หากเสียงเจ้าดังมากๆ อาจจะมีคนมาเห็นก็ได้นะ”

 “เจ้าก็ อ๊า หยุดสิ อ๊ะ อ๊ะ”

 คีทคุยกับใคร ทำไมเสียงถึงคุ้นหูข้าเช่นนี้

 “รัดข้าออกจะแน่นเสียขนาดนี้ ยังกล้าพูดให้ข้าหยุดอีกรึ หึหึ!” ข้าแง้มประตูเพื่อจะมองให้เห็นว่าใครกันแน่ที่อยู่กับคีท

 “เวส” ข้าพึมพำออกมาด้วยความตกใจ คีททาบทับร่างของเวสไว้ทางด้านหลัง ความเป็นชายของคีทยังคงขยับเข้าออกช่องทางเล็กๆของเวสอย่างไม่หยุดหย่อน

 “เจ้ามันชั่วช้า! อ๊า!” คีทดันกายออกมาแล้วกระแทกเจ้าไปอีกครั้งอย่างเน้นย้ำ

 “กล้าปากดีกับข้าเช่นนี้ คงไม่อยากจะนอนแล้วสินะคืนนี้” เสียงครางกระเส่าของเวสยังควดังอย่างต่อเนื่อง ข้าค่อยๆถอยหลังออกห่างอย่างช้าๆ เกิดอะไรขึ้น ทำไมสองคนนั้นถึงได้...

   ปึก!!

 “อ๊ะ ขอโท..” ข้าชนเข้ากับร่างใหญ่ของใครคนหนึ่ง

 “หึหึ ไม่คิดว่าเจ้าชายเซนจะมีรสนิยมชอบแอบดูข้ารับใช้” กล้าดียังไงกัน

 “ข้าเปล่า!” แขนทั้งสองข้างของชายปริศนาโอบเอวของข้าเอาไว้ทำให้ร่างของข้าแนบชิดเข้ากับอกแกร่ง

 “ปล่อยข้านะ!”

แต่แทนที่เขาจะปล่อยข้า กลับจับข้อมือของข้าแล้วลากข้าไปแทน

 “จะพาข้าไปไหน ปล่อยนะ”

 “ตามข้ามาก็พอขอรับ” เขานังคงลากข้า แม้ข้าจะสะบัดข้อมือหนีเท่าไหร่ก็ตาม

 “ปล่อยข้า!! ทหาร! อื้อๆๆๆ” ฝ่ามือของเขาปิดปากข้าทันที่ข้าเริ่มร้องเรียกทหาร

 “ท่านช่างดื้อเสียจริง” แม้จะพูดด้วยเสียงนุ่มทุ้ม แต่แรงที่ปิดปากข้าอยู่ทำให้ข้ารู้ดีว่าเขาไม่พอใจ ชายปริศนาพาร่างของข้าเข้าไปยังห้องรับรองแขก ซึ่งเป็นห้องนอนที่มีเอาไว้ให้เหล่าเชื้อพระวงค์ที่แวะเวียนมาเยี่ยมอาณาจักรของเรา เมื่อเข้ามาได้ เขาก็พลักร่างข้าออกห่างก่อนจะลงมือล็อกประตูทันที

 “เจ้าเป็นใครกัน กล้าดีอย่างไรถึงทำเช่นนี้กับข้า!” ร่างสูงตรงหน้าโค้งตัวลงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 “ขออภัยขอรับ หากแต่ใบหน้าน่ารักของท่านช่างต้องใจข้าจนข้ามิอาจหักห้ามใจ ไม่ให้เข้ามาทำความรู้จักท่านได้” เชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัว

 “ข้าจะมิเอาโทษแล้วกัน เจ้าชื่ออะไร”

 “ข้ามีนามว่า ‘ซินเดล’ ขอรับ ดีใจที่เจ้าชายเซนให้ความสนใจข้า” ข้าหันขวับทันทีที่ได้ยินซินเดลพูดเข้าข้างตัวเอง

 “ข้ามิได้สนใจเจ้า! อย่าหลงตัวเองนัก” ข้าเดินหนีเพื่อจะออกจากห้อง

    หมับ

 “ข้ายังมิได้อนุญาตให้ท่านออกไปขอรับ” ข้าก้มลงมองมือหนาที่จับแขนเล็กๆของข้าเอาไว้แน่น ก่อนที่ข้าจะสะบัดมันออกอย่างแรง

 “ข้ามิต้องขออนุญาตใคร” ข้าจ้องตาซินเดลอย่างเอาเรื่อง

 “ข้าได้ยินมาว่า พระราชาทรงจัดงานนี้ขึ้น เพื่อให้ท่านเลือกคู่ครอง”

 “ใช่! แล้วมันยังไง?” ข้าถามเมื่อไม่เข้าใจสีหน้าและแววตาที่เขาส่งมา

 “หากเช่นนั้น.....” ซินเดลมองข้าทั้งร่างด่วยแววตาจาบจ้วง จนข้าต้องถอยหลังไป

 “เป็นข้าก็ได้สินะขอรับ” สิ้นเสียงของเขาร่างของข้าก็แข็งทื่อ ด้วยความตกใจทำให้ข้าประมวลผลช้าถึงความหมายที่ซินเดลสื่อมันออกมา จนเมื่อหลังของข้าสัมผัสกับกำแพงที่แข็งและเย็น นั่นถึงทำให้ข้ารู้ตัวว่า ข้าตกอยู่ในอันตราย





มาแล้วค่าาาา สำหรับเรื่องนี้ โฮ๊ะๆๆๆ อีกไม่กี่เรื่องเราจะจบเรื่องสั้นแล้วนะค๊า แล้วแมวจะเริ่มเขียนเรื่องยาวเสียที อยากเขียนแล้วค่าา รอแมวนะคะ พบกันใหม่ พรุ่งนี้ค่าาา o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2017 12:12:13 โดย llมว_น้oe »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
่โหว ก็คิดอยู่นะตอนบอกว่าอมลมแก้มแตกนั่น ว่าเจ้าชายเซนคงได้คู่ครอง (แข็งแรงกว่า) ในงานนี้เอง

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ ชอบเรื่องสั้นแบบนี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จะรอติดตามผลงานจ้า  : 222222:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ซินเดอเรลล่า 2/2


     “ถอยไปเสีย แล้วข้าจะถือว่าข้าไม่ได้ยินที่เจ้าพูด!!”  มันไม่ได้ผล เมื่อซินเดลยังคงเดินเข้ามาหาข้า ใบหน้ายิ้มกริ่มและเสียงหัวเราะในลำคอช่างน่าขนลุกยิ่ง

 “ได้ยินก็ดีแล้วนี่ขอรับ...เพราะอย่างไร ข้าก็ยังยืนยันเช่นเดิม”

 “ปล่อยข้า” ข้าโวยวายเมื่อมือใหญ่กดข้อมือทั้งสองข้างของข้าเอาไว้จนติดผนัง

 “ทำไมต้องปล่อยเล่าขอรับ”

 “เจ้า! อื้มมม” ข้าไม่ได้พูดอะไร ซินเดลก็กดริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว ข้าเบิกตากว้างแต่ข้าทำอะไรไม่ได้ ซินเดลจูบข้าอย่างจาบจ้วง ดูดดึงริมฝีปากของข้าเมื่อข้าไม่ยินยอมให้เขาสอดลิ้นเข้ามา ซินเดลใช้ฟันขบปากข้าเบาๆและใช้ลิ้นร้อนๆไล่เลียไปมาอยู่เช่นนั้น ข้าส่ายหน้าไปมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ซินเดลละความพยายามแม้แต่น้อย ยิ่งข้าดิ้นรนความเหนื่อยยิ่งเพิ่มมาก ลมหายใจข้ายิ่งใกล้จะหมด จนข้ายอมแพ้เปิดริมฝีปากออกเพื่อสูดลมหายใจ แต่ซินเดลที่รอเวลานั้นอยู่ก่อนแล้วจึงสอดแทรกลิ้นร้อนๆเข้าเกี่ยวกระหวัดชิมรสความหวานภายในช่องปาก ข้าหลีเลี่ยงลิ้นร้อนของเขาไปมาแต่กลับเป็นการตอบรับจูบอันดุเดือดเยอย่างนั่น ขาทั้งสองข้างของข้าเริ่มอ่อนแรง แขนแกร่งของเขาไม่ได้จับข้อมือข้าไว้อีกแล้วแต่เลื่อนมากอดเอวบางของข้าเอาไว้แทนเพื่อไม่ให้ข้าล่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ซินเดลถอนจูบออกน้ำลายของเราทั้งคู่ยืดเป็นสายจนน่าอายแต่ซินเดลกลับเลียมันอย่างอร่อย

 “หน้าแดงเชียว ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้” จากที่มึนงงสติข้าก็กลับมาทนที

 “ปล่อยข้านะ เจ้ากล้าดียังไงมาทำกับข้าเช่นนี้” ซินเดลกลับกดเรียวปากมาดูดดึงริมฝีปากข้าอีกครั้งและปล่อยมันอย่างรวดเร็ว

 “อย่างไรเสียข้าก็จะเป็นคู่ครองของท่าน ทำแค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ขอรับ”
ฝ่ามือหนาสอดเจ้าไปภายในกางเกงตัวยาวของข้า เขาจับเข้าที่แกร่นกาของข้าโดยไม่มีความกระดากอายใดๆ ข้าดันร่างเขาออกและเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง

 “ปล่อย เจ้าจับอะไรน่ะ เจ้าโรคจิต!”

 “ชู่ว อย่าเสียงดังสิขอรับ เดี๋ยวก็มีคนได้ยินหรอก” ข้านิ่งอึ้งพยายามประมวลผลกับสิ่งที่เขาบอก

 “อื้อ เจ้า อย่าขยับนะ อ๊ะ”

 “ครางเสียงหวานขนาดนี้เชียวหรือขอรับ”

 “ใครคราง อ๊า! เจ้า ปล่อยนะ อย่าจับ อื้อ หยุดนะ” มือหนายังคงขยับตัวตนของข้าอยู่เช่น ไม่สนใจในสิ่งที่ข้ากล่าวแม้แต่น้อย

 “อ๊ะ อ๊า อืม” ข้าพยายามกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อห้ามเสียงร้องของตัวเอง

 “แค่มือ ท่านก็ร้องครางเสียขนาดนี้ แล้วถ้าอย่างอื่น...”

 “เจ้า เจ้าหมายถึง อ๊ะ อะไร” ซินเดลไม่ตอบข้อสงสัยหากแต่เขากลับก้มลงไปแทน

 “อ๊ะเจ้า! หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้!!!” ข้าร้องลั่นเมื่อซินเดลคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วถอดกางเกงของข้าออกอย่างชำนาญ

 “โอว......ตั้งเสียขนาดนี้แล้วหรือ รสชาติจะเป็นเช่นไรนะ ขอข้าชิมสักนิดเถอะ”

 “อ๊า ย๊า!!!” ข้าอ้าปากจะร้องห้ามหากแต่ไม่ทันจะได้ส่งเสียงด้วยซ้ำ ปากร้อนๆก็ครอบครองตัวตนของข้าจนหมด

 จ๊วบ จุ้บ

 “แฮกๆ อ๊า อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” สติของข้าเลือนหายไปจนหมด ในหัวขาวโพลน แม้แต่ภาพตรงหน้าก็ยังพร่าเลือน มีเพรยงเสียงดูดเลียและเสียงครวญครางของข้าเท่านั้นที่มันชัดเจน ข้ายกมือขึ้นขยุ้มลงบนไหล่กว้างอีกมือยกขึ้นปิดปากเอาไว้

 “ดีใช่ไหมล่ะขอรับ คงทรมานมากสินะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะช่วยให้ท่านสบายตัวเอง” สิ้นเสียงซินเดลก็ครอบครองแก่นกายของข้าอีกครั้งโดยที่ข้าไม่สามารถห้ามอะไรได้เลย

 “อือ อ๊ะ อ๊ะ อา”  ข้าเริ่มไม่มีแรง เริ่มควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงส่ายหน้าไปมา

 “จุ้บ จุ้บ แผล่บ จ๊วบ อา หวานจริงๆ” ซิลเกล เริ่มขยับมากและลิ้นมากขึ้น เขากลืนกินแก่นกายของข้าจนสุดทุกครั้งที่ขยับปากเข้าไป ข้าทรมานจนต้องระบายมันด้วยการจิกเสื้อที่ไหล่หนา ยิ่มเขาเพิ่มความเร็วมากขึ้นข้ายิ่งขยับสะโพกตอบรับตามจังหวะมากขึ้นเช่นกัน

 “ปล่อยๆ ข้าไม่ไหว ปล่อยข้า อื้อ ได้โปรด อ๊ะ ปล่อย” ข้าดันใบหน้าของเขาออก แต่เขาไม่ขยับแม้แต่น้อย

 “พะ พอ ไม่นะ จะถึง อื้อ ไม่ อ๊า!!!” ข้าปลดปล่อยความสุขเข้าในปากเขาจนหมด มาเหลือเรี่ยวแรงที่จะยืนจึงทำได้เพียงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้อง

 “แฮกๆๆ”

 “หวานจริงๆ เซนของข้า”

 “จะทำอะไร เอาคืนมานะ!!” ข้ารีบพุ่งตัวเพื่อจะคว้าชั้นในของข้าคืน นี่มันบ้าอะไรกันเรี่ย!!!!

 “ถือว่าเป็นของหมั้นหมาย แล้วข้าจะมาหาท่านแน่นอน” ซิลเดลไม่สนมใจข้าอีกเพราะเขาถือกางเกงและชั้นในของข้าออกไปทันที ทิ้งให้ข้านั่งเปลือยท่อนล่างอยู่ภายในห้อง

      หึย!!!! แล้วข้าจะออกไปยังไงละเจ้าบ้าเอ้ย






             “ตกลงเจ้าจะอธิบายกับพ่อได้หรือยัง ว่าทำไมกางเกงเจ้าถึงหายไป” ข้ามุ่ยหน้าลงทันที

 “ไม่ทราบขอรับ สงสัยสุนัขนิสัยไม่ดีมันคงคาบไปแทะเล่นกระมังขอรับ” คิดแล้วเคือง เพราะเจ้านั่นทำให้ท่านพ่อและท่านแม่มาเห็นข้าในสภาพเช่นนั้น แถมคีทยังยิ้มแบบมีเลสนัยอีกต่างหาก ข้าอยากจะบ้าตาย ผ่านมาจะสามวันอยู่แล้ว ท่านพ่อยังไม่เลิกซักไซร้ถามข้าเรื่องนี้เลย

 “อย่ามาเล่นลิ้นกับพ่อนะ เซน!!”

 “...” เงียบใส่ ทำมึนไปเป็นทางเดียวที่ข้าจะรอดจากเรื่องนี้

 “หากมิว่าอะไร ขอข้าเสนอความคิดได้รึไม่ขอรับ” ข้าหันไปมองคีททันที รอยนิ้มปีศาจนั่นมันอะไรก๊านนนน!!

 “เอาสิ ว่ามาเลยข้ารอฟังอยู่”

 “แต่ท่านพ่อ ข้าว่า...”

 “หยุดเลย ในเมื่อเจ้าไม่อยากบอก พ่อก็จะหาวิธีเอง” ท่านพ่อนกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามให้ข้าหยุดพูดเสีย

 “ข้าคิดว่า เมื่อกางเกงเจ้าชายเซนหายไปนั้น ย่อมหมายความว่ามีคนเอาไปใช่ไหมขอรับ” ท่านพ่อพยักหน้าเห็นด้วย

 “ท่านพ่อ คือข้า..”

 “หมดเวลาของเจ้าแล้วเซน อยู่เฉยๆ” ข้ากัดปากแน่นเมื่อท่านพ่อไม่ยอมฟังข้าอีกแล้ว คีทนะคีท ทำกับข้าได้ ข้าได้แต่ค้อนคีทอย่างขุ่นเคือง

 “หากเช่นนั้น เราลองเสนอไปสิขอรับ ‘ผู้ใดนำสิ่งที่เจ้าชายเซนทำหายไปในงานเต้นรำมาคืนได้ ผู้นั้นจะได้เป็นคู่ครอง’ เท่านี้ก็น่าจะได้แล้วบ่ะขอรับ” จะบ้าเหรอ!!!!! ข้ารั่งมองหน้าคีทด้วยความอึ้ง อึ้งในความคิดของคีทสุดๆ

 “ตกลง เจ้าไปประกาศได้เลย” บ้าไปแล้ว!!!! นี่แม้แต่พ่อข้าก็เห็นดีเห็นงามด้วย

 “ขอรับ!!!” เดี๋ยวสิ ว๊ากกกก ข้าไม่เอาน๊า!!!

 “ท่านพ่อออออออ ข้าไม่ยอมมมมมม”

 “ข้าเป็นราชา ตรัสแล้วไม่คืนคำ”

 “ทำไมท่านพ่อไม่ฟังข้าเลย!” ข้ามองบิดาด่วยสีหน้าง้ำงอ

 “แล้วเวลาที่ข้าจะฟัง เจ้าเล่าไหม!! ช่างมัน ข้าจะทำแบบนี้แหละ หึ!”

 “เดี๋ยวขอรับ ท่านพ่อ ท่านพ่อ กลับมาคุยกันก่อนน!!!!!” ท่านพ่อเดินหนีข้าไปแล้ว โฮ......ไม่จริงใช่ไหม ใครก็ได้บอกข้าทีว่ามันไม่จริง

ในระหว่างที่ข้าตรอมตรม มีมือปริศนามาแตะที่ไหล่

 “ไม่เป็นไรนะขอรับท่านเซน มีผัวไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าเอาใจช่วย แต่ครั้งแรกจะเจ็บหน่อยนะขอรับ” ข้าชะงัก เวสรู้ได้ยังไงเดี๋ยวนะ

 “ใครบอกเจ้ากันว่าข้าจะมีผัวะ..เอ่อ สามี” เวสส่งยิ้มมาให้ ยิ้มของเวส สยองมากกกก

 “มันอาจจะฉีกขาดได้นะขอรับ”

 “........” บอกข้าทำไม?

 “เลือดออกเยอะเลย”

 “......” ข้าไม่อยากรู้!!!

 “นอนซมเลยด้วยนะ”

 “.....” ม่ายฟางงงงงงง

 “ลุกไม่ขึ้น กินไม่ได้ เอาทั้งวันยิ่งแล้วใหญ่”

 “หยุดนะ หยุด!!! ข้าไม่อยากฟังงงงงงง” ข้าวิ่งหนีออกมาด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร แต่เวสกลับหัวเราะชอบใจ ไอบ้านั่น ข้าขอแช่งมัน 
 
ขอให้.....

ขอให้......

 ขอให้....คีททำจนลุกไม่ขึ้นนนนน!!!!!!


   
        ความเงียบกลับมาอีกครั้ง กลับมาจริงๆ เงียบเป็นป่าช้า เพราะระหว่างที่ทานอาหารไม่มีใครพูดกันเลยสักคำ
“พระราชาขอรับบบ!!!!” เวสวิ่งและตะโกนมาแต่ไกล

 “มีอะไรสำคัญหรือเวส”

 “สำคัญขอรับ สำคัญมาก” ข้าตักซุปเข้าปาก อืมม วันนี้ช่างอร่อยยิ่งนัก สงสัยต้องไปชมคนปรุง

 “มีชายหนุ่มคนนึงเดินเข้ามาพร้อมกางเกงของเจ้าชายเซนขอรับ”

    พรูดดดดดด!!!

ซุปที่ว่าอร่อย ไปกองรวมกันอยู่บนหน้าท่านพ่อของข้าเรียบร้อย

 “ขออภัยขอรับท่านพ่อ ข้าเพียงตกใจ” ท่านพ่อยกผ้าขึ้นมาเช็ด ใจจริงข้าอยากจะไปเลียให้ เสียดายมันอร่อย แต่เกรงใจ กลัวจะมีรสอื่นปะปนมา

 “ไปพามา”

 “ขอรับ” เวสวิ่งออกไปอีกรอบ

 “ท่านพ่อขอรับ ลูก เอ่อ ลูกปวดท้อง ขออนุญาตไปพัก สามปีขอรับ” ข้ายกมือขึ้นพูดอย่างรวดเร็ว

 “สามปี!!! ปวดท้องหรือเจ้าจะไปนอนตายห้ะ!! ไม่ต้องหนี อยู่รอฟังที่นี้แหละ” ท่านพ่อไม่เข้าใจ ท่านพ่อไม่เข้าใจ!! ข้าได้แต่น้ำตาคลอ เพราะท่านพ่อไม่ฟัง ไม่นาน ร่างสูงอันคุ้นตาก็ก้าวเข้ามานั่นทำให้ข้าต้องเกร็งตัว

 “เจ้าหรือ คือคนที่เก็บได้”

 “ขอรับ อันที่จริง จะเรียกว่าเก็บได้ก็ไม่ถูก” ซินเดลอมยิ้ม ปรายตามองหน้าข้าที่เบนสายตาไปทางอื่น

 “ต้องเรียกว่าหยิบมามากกว่าขอรับ”

 “แล้วเหตุใด เจ้าจึงหยิบไปล่ะ” ท่านพ่อถามต่อด้วยความใจเย็น

“หรือเจ้าไม่มีกางเกงใส่?” พ่อข้าช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ ==

 “ข้าหยิบมาเพราะนี่คือของหมั้นหมายของข้ากับเจ้าชายเซนขอรับ”
   
   ปึง!!

 “โกหก ข้าไปหมั้นกับเจ้าตอนไหนกัน!!” ข้าทุบโต๊ะเสียงดังแล้วตะเบงเสียงถามออกไป

 “ท่านต้องการให้ข้าเล่ารายละเอียดหรือขอรับ?” ข้าทำได้เพียงสงบปากสงบคำนั่งลงเช่นเดิม

 “ใส่รายละเอียดก็ดีนะ”

 “ท่านพ่อ!!!”

 “แต่ไม่ต้องก็ได้ เจ้าเอามาคืนก็ดีแล้ว” เหมือนท่านพ่อจะทำมึนให้ซินเดลออกไปจากตรงนี้ แต่ซินเดลกลัยทำมึนกว่า เพราะเจายังอยู่ที่เดิม

 “อาว รออะไรล่ะ เออใช่ เจ้าชื่ออะไรรึ?” ทานพ่อถามเมื่อนึกขึ้นได้

 “ข้าชื่อ ซินเดลขอรับ”

 “อ่อ....ซินเดล งั้นเจ้ากลับไปเถอะ จ้าหมดเรื่องแล้ว” ท่านพ่อลงมือทานอาหารต่ออย่างไม่สนใจ

 “ข้ายังหลับไม่ได้ขอรับ ข้ายังต้องสอบถามพระราชา”

 “อืมม เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเถอะ” ท่านพ่อถามขณะตักซุปเข้าปาก

 “งานแต่งของข้ากับเจ้าชายเซนจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ขอรับ”
 
   พรวดดด!!

นั่นไง เต็มๆ

 เต็มหน้าข้านี่แหละ!!! ข้ายกมือขึ้นลูบหน้าที่เต็มไปด้วยซุปและน้ำลายของท่านพ่อออก

 “เอ่อ เรื่องนั้น ข้าไม่คิดว่า...”

 “พระราชา ตรัสแล้วมิคืนคำใช่หรือไม่ขอรับ” เมื่อเห็นว่าท่านพ่อของข้าตั้งท่าจะปฎิเสธซินเดลจึงแย้งขึ้นมา

 “ชิส์!! ก็ได้ อีกสองอาทิตย์ข้าจะจัดงานแต่งขึ้น”

 “ขอบพระทัยขอรับพระราชา” ซินเดลยิ้มกว้าง และแลบลิ้นเลียริมฝีปากเมื่อหันมาหาข้าก่อนจะเดินออกไป
     
       


          ก่อนงานแต่งของข้าจะมาถึง ซินเดลเอาแต่มาเฝ้าจ้าราวกับกลัวข้าจะหนีอย่างนั้นแหละ และที่ข้าเพิ่งจะรู้คือ ซินเดลคนนี้ช่างปากหวาน ป้อยอเก่งสุดๆ จนข้าใจสั่น แต่จะให้ข้ายอมรับหรือ หึ!! ไม่มีทางเสียหรอก เหล่าข้ารับใช้สาวเมื่อเห็นหน้าซินเดลเป็นต้องเคลิบเคลิ้มหลอมละลาย จนตัวจ้าชักจะหมั่นใส้ สรุปแล้ว มาจีบข้าหรือมาหาพวกนางกันแน่นะ หึยยยย

 “เป็นอะไรหรือขอรับ” ซินเดลถามเสียงนุ่ม

 “เปล่า” แต่ตาข้านี่แวววาวตามแรงอารมณ์

 “หึหึ หากเช่นนั้น ใยท่านจะต้องหน้าบึ้งด้วยเล่า” มือหนายกขึ้นไล่เกลี่ยแก้มจ้าเล่น

 “บอกว่าเปล่าๆ เจ้าจะตื้อทำไม”ข้าปัดมือหนาออก

 “หึงรึขอรับ”

 “ใครหึงเจ้า!!!” ข้าแหวกลับทันที

 “หากไม่หึง ใยจ้องจะกินเลือดกินเนื้อพวกนางด้วยล่ะ” ข้าเนี่ยนะ ข้ายกมือขึ้นจับหน้าตัวเองดู

 “ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นเสียหน่อย” ข้าพูดเสียงอ่อนลง

 “อย่ากังวลไปเลย ข้าน่ะ มีตาไว้มองท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น หากไม่ใช่ท่าน ข้าขอไม่มีดวงตาเสียดีกว่า” ความร้อนเกิดขึ้นบนผิวแก้มอย่างช่วยไม่ได้

 “ระ เรื่องของเจ้าสิ มาบอกข้าทำไม” ข้าเชิดหน้าหนี ให้ตายสิ พูดออกมาหน้าตาเฉนเลยนะ

 “จูบได้ไหมขอรับ” ข้าหันกลับมาเพื่อจะปฎิเสธ แต่สายตาของซินเดลที่มองอยู่ก่อนนั้น ทำให้ข้าพูดอะไรไม่ออก ส่ายหน้าก็ไม่ได้ ทำได้เพียงรอรับริมฝีปากที่กดลงมาเท่านั้น สายตาคู่นั่น
สายตาที่ใช้มองคนที่รักอย่างสุดห้วใจ
เอาเถอะ เจ้าก็ใช่ว่าจะแย่นัก ข้าจะรักเจ้าดู
     


           ให้ตาย ไม่เคยมีใครบอกข้าสักคนว่างานแต่งงานมัรยุ่งยากและเหนื่อยขนาดนี้ กว่าข้าและซินเดลจะได้เข้าห้องเพื่อพักผ่อนก็ดึกเอาการ ยิ่งเหนื่อนข้ายิ่งหงุดหงิด

 “ใยเจ้าทำหน้าเช่นนั้นเล่า ยอดรัก” ซินเดลรอบร่างของข้าเข้าไปกอด

 “หึย!! ข้าเหนื่อยแล้ว ปล่อยๆๆ” หงุดหงิดๆๆๆ

 “เจ้าไม่ได้ทำอะไรนี่ นอนเฉยๆเดี๋ยวข้าทำเอง” ข้าหันไปมองหน้าซินเดลตรงๆ

 “เรื่องอะไร ข้าจะทำเอง”

 “มาต้องห่วง หากเจ้าอยากทำ ข้าจะให้ทำจนอิ่มเลยล่ะ” ซินเดลกระซิบใกล้ๆหูจนขนของข้าลุกชันทั้งกาย

 “อื้อ เจ้าขี้โกงข้า”

 “ก็เจ้าอยากน่ารักทำไมล่ะ ข้าทนมานานเกินไปแล้ว มาเถอะ” ซินเดลอุ้มร่างของข้ามาวางยนเตียงใหญ่ มือของข้าสอดคล้องคอของซินเดลเอาไว้ ลมหายใจของเราทั้งคู่ปะทะกันจนให้ความรู้สึกวูบไหวในช่องท้องแปลกๆ ซินเดลกดเรียวปากลงมากับริมฝีปากของข้า สอดปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นร้อนๆของข้าจนร่างของข้าสั่นเบาๆ มือหนาไล่ปลดกระดุมออกจนหมดแล้วเลื่อนสาปเสื้อออกจากกัน ซินเดลถอนริมฝีปากออกมามอง ดวงตาคมฉายแววถูกใจเมื่อเห็นว่าผิวขาวๆของข้านั่นไร้สิ่งปกปิด

 “ผิวกายนี้ของข้า”

 “อื้ออ” มือของซินเดลลูบไล้ไปบนแผ่นอกของข้า ก่อนจะหยุดลงที่ยอดสีสวย

 “นี่ก็ของข้า จ๊วบ”

 “อ๊ะ..” ซินเดลก้มลงมาดูดเลีย ตวัดลิ้นวนอยู่ที่ยอดอกทั้งสองข้า

 “และนี่......” มือของซินเดลลากลงไปวางบนกางเกงสีขาวที่ข้าใส่ ส่วนใต้ร่มผ้าโป่งนูนขึ้นเมื่อมือหนาลูบไล้มันอยู่

 “ก็ของข้าเช่นกัน ทุกอย่างของท่านเป็นของข้า เซน” ซินเดลกดริมฝีปากลงไล้เลียยอดอกของข้าอีกครั้ง ในขณะที่มือยังคงพยายามถอดกางเกงของข้าไปด้วย ไม่นานร่างของข้าก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปกปิด ซินเดลเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายในขณะที่ข้าทำเพียวหอบหายใจ

 “ต้องทำท่าไหนนะ เจ้าจึงจะตั้งท้องลูกให้ข้า”

 “จะบ้าหรือ ข้าเป็นชายจะตั้งท้องได้เช่นไร” ข้าพูดออกไปอย่างขุ่นเคือง หากอยากมีลูกจะมาแต่งกับข้าทำไมกัน

 “หึหึ ไม่ลองก็ไม่รู้ วันนี้ไม่ท้อง ก็ทำไปเรื่อยๆจนกว่าเจ้าจะท้องดีหรือไหมยอดรัก ทำทุกวัน ทำบ่อยๆ เดี๋ยวเจ้าก็ท้องเอง”

 “อ๊ะ เจ้ามันบ้า อือ” ซินเดลลูบไล้เซนน้อยเบาๆ จนเซนน้อยของข้าผงกหัวสู้มือ

 “อ๊ะ อ๊ะ ฮา อ๊า อื้อ อ๊ะ” ซินเดลกุมแก่นกายข้าเอาไว้พร้อมขยับมือเนิบนาบและเร่งจังหวะจนตัวจ้าตามแทบไม่ทัน

 “ตัวเจ้าแดงหมดแล้วเซน ดูสิ เจ้าสู้มือข้าดีจริงๆ” บ้าจริง เรื่อน่าอายแบบนี้

 “ยะ อย่าพูด อ๊ะ มันออกมา อื้อ ง่ายๆสิ” ซินเดลก้มลงครอบครองแก่นกายสีหวานด้วยริมฝีปากร้อน ซินเดลกดริมฝีปากลงไปจนมันแก่นกายของข้าเข้าไปจนสุดก่อนจะดึงริมฝีปากออก ลิ้นสากของซินเกลเลียไปตามรอยหยักของส่วนหัว นั่นทำให้ข้าแทบจะอั้นมันไว้ไม่ไหว

 “อ๊า พะ พอแล้ว ข้า”

  จ๊วบ จ๊วบ จุ้บ

ไม่ทันที่ข้าจะได้พูดอะไร ริมฝีปากเรียวก็ดูดเข้ากับส่วนปลายราวกับหิวกระหายสุดๆ สะโพกบางของข้าแอ่นขึ้นมาตามจังหวะของริมฝีปากเรียว จนรู้สึกอึดอัน ยิ่วความร้อนและความเร็วของริมฝีปากเรียวทำให้ข้าเกือบจะไปถึงจุดนั้นในทันที

 “พะ พอ ข้าจะ เสร็จ อื้ออ”

ซินเดลถอนกายของข้าออกจากริมฝีปาก ซินเดลผละออกจากร่างข้าเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตนเอง ข้ามองคนตรงกน้านิ่งๆ แต่นั่นกลับทำให้ข้าร้อนมากขึ้น เมื่อสิ่งที่ผงาดตั้งขึ้นมานั้น ช่างใหญ่โตและเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสไม่ต่างจากข้า ซินเดลขยับมาคล่อมร่สงกายของข้าไว้อีกครั้ง นิ้วเรียวยาวค่อยๆสอดแทรกเข้าไปยังรอยจีบสีแดงอย่างช้าๆ

 “อื้อ! เจ็บ อึดอัด”

 “ใจเย็นๆเซน แค่นิ้วเท่านั้น”
ซินเดลขยับนิ้วช้าๆเข้าออกภายในกายข้าอย่างแผ่วเบา ร่วงกายของข้าเริ่มร้อนขึ้นอีกครั้งสะโพกของข้าขยับตามจังหวะอย่างเนิบๆ จนเมื่อซินเดลรู้สึกว่าข่องทางนั้นนุ่มขึ้นแล้ว นิ้วเรียวก็สอดเพิ่มเป็นสองและสาม

 “อื้อ อ๊ะ อ๊ะ”
ซินเดลก้มลงตวัดลิ้นบนยอดอกของข้าและดูดดึงมันอย่างแรงจนแดงก่ำ นิ้วเรียวค่อยๆถอนออกไปอย่าช้าๆ จนร่างกายข้าผวาตาม

 “อื้อ ทำอะไร อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว”

 “ใจเย็นๆยอดรัก จุ้บ อย่ากังวล”
ซอนเดลกดความใหญ่โตที่มากกว่านิ้วทั้งสามเข้ามายังช่องทางสีสวยช้า แต่เพียงแค่ส่วนหัวเข้าไปเท่านั้นข้าก็ร้องลั่นและพลักร่างแกร่งออก

 “เจ็บ ไม่เอา ปล่อยนะ ถอยไปนะ ข้าเจ็บ!!”

 “ฟู่ว เซน อย่าดิ้น เดี๋ยวข้าทนไม่ไหวแล้วเจ้าจะยิ่งเจ็บ อา แน่นจริงๆ”
ซินเดลฝืนกายกดค้างเอาไว้เพื่อให้ข้าได้คลายความเจ็บปวด มือหนาจึงเอื้อมมาข้างหน้า ชักนำแก่นกายของข้าให้คล้อยตามจนลืมเลือนความเจ็บไป

 “อื้อ อ๊า ขะ ข้า ไม่ อ๊ะ”
ร่างสูงค่อยๆสอดแทรกเข้ามาอีกครั้งอย้างรวดเร็ว จนข้าสะดุ้งสุดแรง น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่อาจจะห้ามได้

 “ชู่ว์ อย่าร้องไห้ หากเจ้ายังไม่พร้อมข้าจะไม่ขยับดีไหม” ซินเดลถามอย่างอ่อนโยนมือหนาค่อยลูบไล้ใบหน้าเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ ลิ้นร้อนทำหน้าที่ปรนเปรอจนข้ากลับมาร้องครวญครางอีกครั้ง

 “อืม ดีไหมเซน ข้าขยับได้ไหม จ๊วบ จุ้บ จุ้บ”
ข้าแอ่นอกขึ้นรับริมฝีปากและเรียวลิ้นของซินเดล มือทั้งสองข้ากดศรีษะของเขาให้แนบแน่นกับยอดอกของข้ามากนิ่งขึ้น

 “อื้อ ขยับ อ๊ะ ขยับเอลย ขะ ข้า ไม่เจ็บแล้ว อ๊า”
เมื่อได้ข้าอนุญาต สะโพกหนาก็ขยับกายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหนักหน่วงขึ้น

 “อ๊ะ อืม โอ๊ะ เดี๋ยว อ๊า!”
ข้ายกมือขึ้นดันกายแกร่งไว้ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มเร่งจังหวะจนข้าจะขาดใจ ซินเดลโถมกายด้วยความเร็ว กระแทกกายเน้นๆจนร่างของข้าสั่นคลอน มือของข้าจิกแผ่นหลังกว้างเมื่อความเสียวซ่านทวีคูณมากขึ้นจนข้าใกล้จะแตะขอบสวรรค์

 “อา อ๊ะ หยุด อื้อ หยุดทำไม” ข้าปรือตามองซินเดลอย่างไม่เข้าใจ

 “เจ้าบอกว่าอยากทำเองไม่ใช่รึ”

 “อ๊ะ!!” ซินเดลพลิกกายของข้าขึ้นมาอยู่ด้านบนทั้งที่แก่นกายของเขายังคงเชื่อมต่ออยู่กับช่องทางของข้า

 “ทำสิ” มือหนาขยับสะโพกของข้าขึ้นลงช้าเหมือนเป็นกานสอนข้ากลายๆ มือของข้าค้ำอยู่บนหน้าท้องแกร่งในขฯที่สะโพกของข้าค่อยๆขยับตามจังหวะชักนำ

 “อา แน่นจริงๆเซนของข้า ขยับเร็วอีกยอดรัก” ข้าเร่งจังหวะขึ้นลอบมองใบหน้าหล่อเหลาเป็นระยะ ยิ่งเห็นซินเดลซูดปากลูบไล้ไปตามเอวบางของข้ายิ่งย่ามใจ ข้ากดกายย้ำๆเน้นๆ จนคนที่อยู่ข้างใต้ครางต่ำ

 “อื้อ อ๊ะ อ๊ะ”

 “ดี อูยย ดีอะไรอย่างนี้ เซน อา เซนที่รัก”

 “อ๊า อ๊า ฮะ อ๊ะ เดี๋ยว อ๊ะ ข้า ไม่ไหว อ๊า” เมื่อทนไม่ไหว มือหนาจับเอวของข้าให้ขยับรับแรงกระแทกจากสะโพกหนาอย่างหนักหน่วงรุนแรง ข้าสะบัดหน้าไปมา ลมหายใจหอบถี่และเสียงครวญครางแทบบไม่เป็นภาษา ความเสียวซ่านค่อยๆมารวมกันตรงส่วนปลายจนใกล้จะระเบิด ซินเดลกระแทกอีกไม่กี่ครั้งข้าก็ปลดปล่อยน้ำรักสีขุ่นเต็มหน้าท้องแกร่ง ร่างของข้ากระตุกสองสามครั้ง ภายในช่องทางตอดรัดจนซินเดลใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างเสียวซ่านและเร่งตัวตามมาจนในที่สุดซินเดลก็ฉีดอัดความสุขเข้ามาในร่างข้าจนหมดสิ้นทุกหยาด ข้าเอนกายซบลงบนอดแกร่งมือลูบไล้แผ่นหลังของข้าอ่างปลอบประโลม

 “ยะ ยังไม่พออีกหรือ” ข้าถามขึ้นเมื่อภายในกายนั้นรับรู้ถึงกานตื่นตัวของอีกคน

 “หึหึ เมียข้างามขนาดนี้ จบง่ายๆได้อย่างไรกัน บอกแล้วนี่ ข้าจะทำตนกว่าเจ้าจะท้อง” หมดคำจะโต้แย้งเมื่อซินเดลก้มลงมาปิดปากด้วยริมฝีปากของเขา และแน่นอน เสียงครวญครางยังคงดังอยู่เช่นนั้นทั้งคืนอย่าไม่รู้จักจบสิ้น ข้าก็ทำได้เพียงตามเกมที่ซินเดลชักนำพาข้าไปเท่านั้น กว่าข้าจะได้พักก็เกือบจะเช้า ตกลงแล้วข้าโชคดีหรือโชคร้ายกันนะ ที่มีซินเดลเป็นสามี



   
The End





จบแล้วค่า สนุกกันไหมเอ่ยยย โปรดอย่าแปลกใจ นิทานแบบที่ชาวบ้านเค้าเขียนกัน แมวจะไม่เขียน ฮ่าๆๆๆ ถ้าเขียนแบบที่เขาเขียนกันทั่วไป แมวกลัวทุกคนจะเบื่อนี่นา เอาล่ะค่ะ สถานรต่อไป ลิตเติ้ลเมอร์เมด เนอะ พบกันใหม่อาทิตย์หน้าจ้าา

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เป็นคู่ที่มุ้งมิ้ง..เรียกเลือดได้ดี  :jul1:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
หมดยุครองเท้าแก้วแล้ว
นี่มันยุคของกางเกงแก้ว(????)
ได้สามีฟรีเลยนะคะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :m25:นี่มันสุดยอดนิทาน

รอนายเงือก!!!!!  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ลิตเติ้ลเมอร์เมด 1/2


      ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าปลาเล็กปลาน้อนมากมาย และสัตว์ทะเลนาๆชนิด หากแต่สิ่งหนึ่งที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลเช่นกันนั่นก็คือ เหล่าเงือก ผมมีชื่อว่าเซบาสเตียนเป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงเฮน่าซึ่งเป็นเงือกสาวแสนสวย พระราชาไม่ค่อยพอใจนักที่เจ้าหญิงเอาแต่เล่นกับผม ไม่ยอมออกไปเล่นกับเหล่าเงือกในอาณาจักร แต่ใครจะรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นคืออะไร

 “เซบาสเตียนๆ เร็วๆสิ เดี๋ยวก็ไปไม่ทัน"

 “แฮกๆ ช้าๆหน่อยสิครับ ผมเป็นกุ้งนะ ว่ายเร็วเหมือนเจ้าหญิงได้ที่ไหนกัน” เฮ้ออ เหนื่อยจนแทบสำลักน้ำตาย

 “อ๊ะ ข้าขอโทษๆ ข้าลืมไป” ทำตาเศร้าสร้อยก็ไม่ช่วยหรอก ฮึ!

 “ก็ได้ครับ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็หมดสวยหรอก” ใจอ่อนจนได้สินา

 “เย้!!! นายใจดีที่สุดเลยยย”

 เจ้าหญิงเฮน่าว่ายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก็ไหนว่าเข้าใจแล้วไงเล่า!! ผมทำได้เพียงว่ายไปเรื่อยๆเท่านั่น จะให้เร็วเหมือนเงือกคงไม่ได้

 “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าหญิงเฮน่า ทำไมถึง......” ผมมองเธอที่หยุดนิ่งทั้งที่ยังมองตรงไปข้างหน้า

 “ฉันว่า....”

 “..........”

 “ฉันกำลังตกหลุมรัก”

 “!!” นั่นเป็นเรื่องสุดช็อคของผม ทำไมน่ะหรือ ผมจะไม่ช็อคเลยหากว่าคนที่เธอพูดถึงนั้น.....ไม่ใช่มนุษย์

 “ตะ แต่ นั่นมันมนุษย์นะ มันเป็นกฎต้องห้ามของ...”

 “ฉันรู้หรอกน่า” เฮน่าหันมาพูดกับผมด้วยท่าทางหงุดหงิด ปกติเฮน่าจะน่ารัก ยิ้มเก่ง จะมีแค่ไม่กี่เรื่องและไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่จะมำให้เฮน่าหงุดหงิดได้

 “เร็วเซบาสเตียน”

 “เดี๋ยวสิ” เฮน่าไม่ฟังเสียงผมอีกแล้ว เธอลากผมให้ตามไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่มีความสุขสุดๆ ครับ ผมคงมีความสุขด้วย ถ้าผมมองไม่เห็นหายนะที่จะเกิดขึ้น บอกได้เลยว่าราชาเฮสตันไม่ยืนยิ้มเฉยๆแน่ถ้ารู้เรื่องนี้เข้า

 “บาส.. เซบาสเตียน!!!”

 “ครับ!!” ผมสะดุ้งตัวตอบอย่างรวดเร็ว

 “เหม่ออะไรของนาย กลับกันได้แล้ว” อ้าว????

 “แล้ว ผู้ชายคนนั้นละครับ” เฮน่ากรอกตาไปมา

 “นี่นายเหม่อไปนานมากสินะ เขากลับไปแล้ว และตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย ถ้าไม่รีบกลับละก็ พ่อฉันย่างนายกินแน่ๆ” หึย!! แค่นึกถึงสีหน้าของราชาเฮสตันผมก็สยองแล้ว

 “ไปครับๆ รีบกลับกันเลยครับ” ผมว่ายนำเฮน่าไปโดยได้ยิ้นเสียงหัวเราะคิกๆดังมาจากด้านหลัง  ผมกลัวนี่ ผมผิดหรือ
       



           “ลูกมาช้านะเฮน่า!” นั่นไง ว่าแล้วเชียว

 “โถ่ เสด็จพ่อ ลูกแต่ออกไปว่ายน้ำเล่นกับเซลาสเตียนเองนะคะ ไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลย” เห็นไหมครับ เฮน่าคนนี้น่ะหนือจะสลด ย่นจมูกใส่ราชาเฮสตันอยู่นั่นไง

 “พ่อจะไม่ห่วงเลย หากลูกไปกับชาวเงือก” ราชาเฮสตันปรายตามามองผมก่อนจะกระแทกเสียงตอบลูกสาวตัวเอง

 “ไม่ใช่เจ้ากุ้ง หอย ปู ปลา” ครับ ผมได้สัญชาติเพิ่ม ขอบคุณมาก!!

 “เซบาสเตียนเป็นเพื่อนลูกนะ อย่ามาว่าเขาน่ะ ลูกโกรธจริงๆด้วย!!” เฮน่ายกแขนขึ้นเป็นเกาะกำบังร่างของผมออกจากสายตาอาฆาตของพ่อเธอ

 “ซะที่ไหนเล่าลูกรัก โธ่ พ่อแค่ล้อเจ้าเล่นเอง ไปๆ ทานข้าวกันดีกว่า พี่ๆเจ้านั่งรอที่โต๊ะแล้วละ” ราชาเฮสตันยกยิ้มหวานดันหลังลูกสาวให้เดินเข้าไปข้างใน

 “เอ๊ะ หรือคะ แหมลูกตกใจหมดเลย” เชื่อด้วยหรือ!!!!

 “งั้นไปกันเซบาสเตียน ไปทานอาหารกัน” ผมเหล่มองราชาเฮสตันที่มองมาด้วยสายตาที่บ่งบอกเลยว่า หากผมตอบตกลง ผมคงกลายเป็นอาหารมื้อนี้แน่นอน

 “ผม ผมต้องไป เอ่อ อ๋อใช่ ซื้อของต่อน่ะครับ คงอยู่ทานด้วยไม่ได้ อภัยด้วยครับเจ้าหญิงเฮน่า ราชาเฮสตัน” ผมก้มหัวขอโทษ

 “เห็นไหมลูกรัก เขาไม่ว่าง งั้นเราเข้าไปกันเถอะ”

 “อ๊ะ โอเคค่ะ งั้นไปก่อนนะเซบาสเตียน เจอกันพรุ่งนี้” จึ๋ยย แรงกดดันและออร่าสีดำด้านหลังเธอนี่ ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเลย มีแต่ผมนี่ล่ะที่รู้สึกจนต้องรีบพยักหน้ารับและว่ายออกมา ให้ตายเถอะ อยู่กับเฮน่าสนุกก็จริงแต่รู้สึกเหมือนใกล้ตายเข้าไปทุกวันๆ ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าราชาเฮสตันไม่ชอบอะไรผมนักหนา ถ้าใครบอกผมได้บอกผมทีเถอะ ผมโง่!!
หลังจากออกมาผมก็ว่ายไปเรื่อยๆ ก็แหมผมไม่รู้จะไปไหนนี่ อยู่บ้านตัวเดียวมันเหงานะ ผมเดินไปเรื่อยๆตามพื้นทรายชมความงดงามของท้องทะเล สวยจริงๆ ยิ่งเวลาใกล้ค่ำยิ่งสวย ผมเพลิดเพลินไปกับความงดงามจนลืมเวลา ทว่ากว่าจะรู้ตัวรอบข้างมันก็มืดเสียแล้ว




        “ซวยล่ะ ที่ไหนล่ะเนี่ย”

 ผมมองไปรอบตัวเพื่อหาความคุ้นเคยแต่กลับไม่เจอเลย นี่ผมหลงมาไกลขนาดไหนกันแน่ มืดก็มืด หิวก็หิว ผมจะร้องไห้แล้วนะ

 “นายเป็นใครน่ะ หน้าตาไม่คุ้นเลย ไม่ได้อยู่แถวนี้นี่”

 ผมหันไปมองร่างกายใหญ่โตและหนวดที่ยาว แย่ล่ะ ผมจะโดนกินไหมเนี่ย

 “ชะ ใช่ ผมหลงทางครับ”

 “อ๋อ......มาสิเดี๋ยวฉันจะพาไปส่ง ว่าแต่นายอยู่แถบไหนละ” ผมมองเขาด้วยความหวาดหวั่น คงไม่หลอกผมไปกินเป็นอาหารหรอกนะ

 “เอ่อ...ก็แถวๆแนวปะการังสีฟ้าน่ะ” เขาเลิกคิ้วก่อนที่แววตาของคนตรงหน้าจะเปลี่ยนไป

 “หึ!! อาณาเขตของราชาเฮสตันล่ะสิ”

 “ครับ” ผมตอบเสียงเบา เพราะความกลัวเข้ามาเกาะกินเมื่อสบดวงตาคมดุ เขาโกรธอะไร ผมทำอะไรผิด

 “ขอ ขอโทษครับ ผะ ผมขอแค่บอกทางก็พอ เดี๋ยวผมกลับเอง”

 “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปส่งเอง แถวนี้มันอันตราย มาสิ” เขาว่ายนำผมไปอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของผมเทียบเขาไม่ได้หรอกครับแต่จะให้บ่นก็คงไม่ได้ ได้แต่เร่งตัวตามให้ทันเท่านั้น

 “ถึงแล้ว” เอ๊ะ??

 “อ๊ะ เอ่อ ขะ ขอบคุณมากนะครับ” ผมก้มหัวให้เขาเล็กน้อยแต่เหมือนจังหวะที่ก้มนั้นผมว่าผมเห็นเขายิ้มมุมปาก หรือผมตาฝาดไปกันแน่นะ

 “ตรงไปทางทิศเหนือเรื่อยๆ ก็จะเจอแล้วล่ะ” ผมมองตามนิ้วเรียวที่ชี้ไป

 “อ่อครับๆ”

 “แล้วก็....”

 “.......”

 “ยินดีที่ได้พบนะ เซบาสเตียน” เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบริมใบหูของผม ยินดีที่ได้พบหรือ ผมส่งยิ้มกว้างไปให้เขาทันที

 “คร๊าบบบ” ผมตรงไปตามทางที่เขาบอกอย่างเร่งรีบเพราะกระแสน้ำที่เริ่มแรงขึ้นนั่นล่ะ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองควรจะรีกลับได้แล้ว ว่าแต่ว่า....เขารู้จักชื่อผมได้ไงกันนะ??
   


     วันต่อมาผมก็ต้องทำเรื่องเดิมๆ คือการไปเฝ้ามองชายผู้กุมหัวใจของเจ้าหญิงเฮน่า

 “เจ้าหญิงเฮน่า เรากลับกันเถอะครับ” ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่ผมรู้แค่ว่าเรามานั่งมองมนุษย์คนนั้นตั้งแต่อาทิตย์ขึ้น จนอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว

 “แต่ข้าอยากจะมองหน้าเขาอีกสักพักนี่ เฮ้อออ.....คนอะไรหล่อบาดใจจริงๆ” โอ้ย นี่ใช่คำพูดที่ควรออกมาจากปากผู้หญิงไหมเนี่ย ผมส่ายหน้าอย่างระอา

 “กลับเถอะครับ แล้วเราค่อยกลับมาใหม่กันก็ได้”

 “ก็ได้...” เจ้าหญิงเฮน่าทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ

 “เซบาสเตียน พบกันอีกแล้วนะ” อา คนเมื่อวาน

 “เอ่อ ครับ คุณรู้ชื่อผมได้ยังไงครับ”

 “หึหึ นั่นสิ รู้ได้ไงกันนะ” อ้าว สรุปผมจะได้รู้ไหมเนี่ย แต่ไม่ทันได้ถามซ้ำ ร่างสูงของคนตรงหน้าก็กล่าวทักทายคนข้างๆผมเสียก่อน

 “สวัสดีครับ เจ้าหญิงเฮน่า” แม้เจ้าตัวจะทักทายด้วยรอยยิ้มแต่แววตากลับแข็งกร้าว

 “สวัสดีค่ะ........ใครหรือเซบาสสตียน” ประโยคหลังเธิหันมากระซิบถามผมเบาๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะได้ยิน

 “ผมเอสตันครับ เป็นลูกชายของแม่หมอซินเซีย เจ้าหญิงคงรู้จัก” ผมเกลียดสีหน้ายกยิ้มมุมปากของหมอนี่ชะมัด

 “ชื่อของคุณคล้ายๆชื่อของพ่อฉันเลยค่ะ” ผมว่าเธอพึมพำคนเดียวมากกว่า เสียแต่ว่ามันดังเกินจนได้ยินกันทั่วหน้า ผมลอบมองใบหน้ายิ้มแย้มนั่น เพราะอะไรไม่รู้ผมถึงรู้สึกได้ว่า คนๆนี้ไม่น่าไปยุ่งด้วย

 “เอ่อ ผมว่าเรา”

 “คุณเป็นลูกครึ่งหรือคะ” ยังไม่ทันจะพูดผมก็โดนเจ้าหญิงเฮน่าขัดขึ้นเสียก่อน

 “ครับ ผมเป็นลูกครึ่ง แต่ผมอาศัยอยู่กับแม่แค่คนเดียว”

 “ทำไมหรื..”

 “อ๊ะเจ้าหญิง หากกลับช้ากว่านี้ ราชาเฮสตันจะดุเอานะครับ” ผมขัดขึ้น เพราะผมแน่ใจในประโยคถัดไปที่เจ้าหญิจะเอ่ยถามแน่ๆ ผมกลัวเพราะรังสีบางอย่างในตัวเขาทำให้ผมต้องรีบพาเธอออกไป

 “เอ๊ะ จริงด้วย ตายแน่ๆ”

 “ถ้ายังไง ผมกับเจ้าหญิงขอตัวก่อนนะครับ” ผมโค้งลาแล้วรีบว่ายออกไป ผมเชื่อว่าเจ้าหญิงต้องว่ายตามมาแน่ๆ

 “รอด้วยสิเซบาสเตียน!!” เจ้าหญิงว่ายตามมาติดๆ ดีจริงๆที่ออกมาได้ ผมหันไปมองข้างหลังอย่างอยากรู้ แต่สิ่งที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมรีบร้อนว่ายเข้าไปใหญ่ ผมเห็นอะไรร่ะหรือ ผมเห็น ตาคมนั่นจ้องมาทางเราด้วยสายตาแวววาว แต่เพราะมันอยู่ไกลผมจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ผมคงต้องดูแลเจ้าหญิงอย่างใกล้ชิดกว่านี้เสียแล้ว เฮ้อออ งานเข้าอีกแล้วสิเรา   พอกลับไปถึงผมก็โดนราชาเฮสตันบ่นจนหูชา ให้ตายเถอะ ลูกสาวท่านต่างหากที่ทำให้กลับช้า ไหงกลายเป็นความผิดผมไปได้ล่ะเนี่ย แต่อย่าคิดนะครับว่ามันจะจบแค่นี้ ไม่เลย มันเพิ่งเริ่มต่างหาก
   



            “โอ๊ยย หล่อบาดใจอะไรขนาดนี้~” ผมมองเจ้าหญิงเฮน่าอย่างระอา เพราะวันนี้ก็อาทิตย์หนึ่งแล้วที่ผมต้องมาเฝ้ามองมนุษย์คนนี้กับเธอ ผมไม่เห็นว่าวันๆเขาจะทำอะไร แค่เดินไปเดินมา พูดคุยกับมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งน่าจะมีฐานะที่ต่างกัน แถมยังมีเสียงแหลมๆของมนุษย์สาวพวกนั้นที่ดังจนแสบแก้วหูอีก ทำไมพวกมนุษย์ผู้หญิงจะต้องร้องราวเจ็บปวดด้วยสีหน้าเพ้อฝันแบบนั้นนะ ไม่เข้าใจจริงๆ

 “เจ้าหญิงเฮน่า พบกันอีกแล้วนะครับ” บุคคลที่ไม่อยากจะพบที่สุด กล่าวทักทายเจ้าหญิงเฮน่าอย่างสนิทสนม(กันตอนไหนวะ??)

 “อ้าว!! เอสตัน มาพอดีเลย เรื่องที่ฉันขอร้องได้เรื่องไหม” ผมขมวดคิ้วมองหน้าทั้งคู่สลับกันอย่างไม่เข้าใจ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันนะ ทำไมผมไม่รู้

 “หึหึ ครับ แม่ตกลงจะทำให้”

 “จริงหรือ!!! ดีใจจังขอบคุณมากนะเอสตัน” ไม่ๆ มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

 “เจ้าหญิงเฮน่า นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”

 “อ๊ะ จริงสิ เซบาสเตียนยังไม่รู้สินะ คือฉันไปขอให้เอสตันเขาคุยกับแม่ของเขาให้หน่อย ..” ผมหรี่ตามองเจ้าหญิงที่มีสีหน้ามีความสุขสุดๆ กับอีกคนที่ทำสีหน้าราวกับว่ามันสนุก

 “ฉันอยากจะเป็นมนุษย์”

 “ไม่ได้นะครับ!!!!” ผมตกใจตาโตจนร้องออกมาเสียงดัง ไม่ได้ๆ ใครๆก็รู้ว่าการขอให้แม่หมอซินเซียช่วยนั่น มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน

 “แต่ฉันตกลงไปแล้วนี่!” เจ้าหญิงเฮน่าเชิดหน้าขึ้น

 “แต่ แต่มันอันตรา..”

 “โอ๊ย ไม่อยากฟังหรอก ฉันตัดสินใจแล้ว และไม่ยอมเปลี่ยนใจแน่” ผมจะบ้าตาย เจ้าหญิงไม่ฟังผมแถมยังว่ายหนีไปอีก ตายๆ ราชาเฮสตันต้องฆ่าผมแน่ๆ

 “คุณ!!! บอกมานะ สิ่งที่เจ้าหญิงต้องแลกคืออะไร!”

 “นั่นสิ อะไรกันน๊า” น้ำเสียงยียวนนี่มันน่า!!

 “บอกผมมาเดี๋ยวนี้นะ!!”

 “หึหึ เสียงไงล่ะ”

 “!!!” ผมช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าหากเจ้าหญิงเฮน่าไม่ได้รับรักตอบแทนล่ะ หากเธอหัวใจสลาย สิ่งที่เธอแลกไปมันจะคุ้มกันหรือ

 “คุณ......ร้าย”

 “หืม??”

 “คุณมันใจร้ายที่สุด!!” ผมตะคอกใส่หน้าเขาก่อนจะรีบว่ายหนี ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้  เสียแรงที่ผมเคยคิดว่าเขาเป็นคนดี




     “เจ้าหญิงเฮน่า อย่าทานเลยนะครับ” ผมบอกเมื่อเธอยกขวดที่บรรจุน้ำสีเขียวอยู่ภายใน

 “โธ่ เซบาสเตียน ฉันต้องไปหาเขา”

 “แต่ ถ้าเกิดว่าเขาไม่” ผมกัดปากพูดคำนั้นออกมาไม่ได้จริงๆ

 “ไม่มีทางหรอก อ้อ!! จริงสิ ของนายก็มีนะ” ผมมองเจ้าหญิงเฮน่าที่ยื่นขวดแบบเดียวกับของเธอมาให้ผม

 “ผมไม่เข้าใจ”

 “นายคงไม่คิดจะให้ฉันไปคนเดียวใช่ไหม” โอ้ยให้ตาย สีหน้าแบบนั้นมันอะไร ทำไมต้องทำตาละห้อยด้วย ผมจึงหันไปมองอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่ตลอดเวลาแทน

 “ผมต้องแลกด้วยอะไร” น้ำเสียงของผมติดห้วนด้วยความขุ่นเคือง

 “ไม่ต้องหรอก เจ้าหญิงเฮน่าจ่ายมันแล้วล่ะ” ผมหันไปมองใบหน้าสวยที่ส่งยิ้มน่ารักมาให้ผม ผมทำได้แค่ถอนหายใจและยกขวดขึ้นดื่ม ระหว่างที่ผมยกขวดขึ้นดื่มนั้น สายตาของผมก็เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎบนใบหน้าของเอสตัน ให้ตาย เขาคงไม่วางยาพิษผมหรอกนะ ผมและเจ้าหญิงดื่มมันจนหมดขวด รสชาติอย่าให้ต้องบรรยายเลย ความขมยังคงติดอยู่ปลายลิ้นเลยให้ตายสิ

 “เจ้าหญิงเฮน่า คุณมีเวลาแค่ ‘สามวัน’ เท่านั้น หากคุณทำให้เขารักคุณและจุมพิตคุณไม่ได้แล้วล่ะก็ คุณจะกลายเป็นฟองอากาศ คุณเข้าใจใช่ไหมครับ” ผมหันไปมองด้วยความตกใจ

 “ทำไมคุณถึงไม่บอกก่อนที่พวกเราจะดื่มยาล่ะ” ผมถามด้วยความโมโห

 “เอสตันบอกฉันตั้งแต่แรกแล้วล่ะ เซบาสเตียน” เจ้าหญิงเฮน่าส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ผมทั้งที่สายตาก้มลงมองบนพื้นทราย

 “ทำไมถึงตกลง อ๊ะ เจ็บ!” อยู่ๆผมก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดราวร่างกายจะแตกสลาย ผมเหลือบมองเจ้าหญิงเฮน่าที่ไม่ต่างจากผมด้วยความเป็นห่วง

 “คุณต้องขึ้นไปเหนือน้ำ นายด้วยเซบาสเตียน” เขาพูดและลากผมและเจ้าหญิงมาบนฝั่ง ความเจ็บปวดทำให้ผมสะลึมสะลือ จึงไม่อาจจะได้ยินประโยคที้ขาพูดใกล้ๆหูของผม

 “แล้วฉันจะมารับนาย เซเบียส”

 เขาพูดว่าอะไร ผมรู้สึกแค่ว่ามีบางอย่างสัมผัสกับริมฝีปากของผม มันนุ่มยุ่นและเปียกร้อน ก่อนที่ผมจะสลบไป



TBC




กราบขออภัยที่แมวได้หายไป แต่แมวบอกเลยว่า แมวไม่รู้จะแต่งเรื่องไหนต่อแล้ว ม๊ายน๊าาาาาาา แต่....ถ้าหากว่า มีผู้ใดเสนอนิทานให้แมวได้จะเป็นพระคุณมากเลยค่ะ จริงๆแมวกะว่า ถ้าจบเรื่องนี้แมวจะปล่อยเรื่องสั้นแล้ว ว่าจะไปแต่งเรื่องยาวเลย หรือถ้ามีการเรียกร้องเยอะๆหรือคิดตอนใหม่ๆได้ เราจะกลับมาลงให้อ่านนะคะ รักทุกคนเลย พบกับบทสรุปของบิเติ้ลเมอร์เมดพรุ่งนี้นะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อะไร??ยังไง?? เสนอเรื่อง -ราพันเซล- นานๆเข้ามาต่อก้อได้ คิดตึ๋งๆๆๆๆๆๆ  :เหอะ1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ง่า...อดใจรอครึ่งหลังไม่ไหวแล้วสิ


ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ลิตเติ้ลเมอร์เมด 2/2


      ผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสง ความสว่างที่ตัวผมไม่คุ้นชินยิ่งทำให้ผมหรี่ตามากขึ้นผมยกมือขึ้นป้องแสงไว้
 
 หืม?? มือ????


 ผมยกมันขึ้นมาให้ชัดๆอีกครั้งและมันใช่ ผมกลายเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว ผมไล่มองร่างกายของตัวเอง แขน ขา เท้า ว้าว ผมมีเท้าด้วย นิ้มมือ ให้ตายเถอะ มหัศจรรย์จริงๆ ผมยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ

 แกร็ก!!

 “อ่า ตื่นแล้วหรือครับ” ผมหันไปมองหน้าคนที่เข้ามาใหม่ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเป็นใครเหมือนกัน เหมือนเขาเองจะเข้าใจ

 “ผมเป็นคนดูแลเจ้าชายลูอัสครับ ผมและเจ้าชายพบคุณและเพื่อนของคุณที่ชายหาด แต่เราสอบถามเพื่อนของคุณไม่ได้เลย เธอไม่ยอมพูด” จริงสิ สิ่งแลกเปลี่ยนคือเสียงนี่นะ

 “คือเธอพูดไม่ได้ครับ ผม หากไม่รบกวน ผมอยากจะพบเธอ”

 “ได้สิครับ ผมจะพาไป” ผมเลื่อนผ้าห่มออกจากตัวแล้วลงจากเตียง

 “อ๊ะ!!”

 “ระวังครับ” จังหวะที่เท้าทั้งสองข้างรับน้ำหนักตัวผมนั้น ผมกลับไม่มีแรงเสียดื้อๆจนเซล้ม ดีที่อีกคนรับผมไว้ทัน

 “ขอบคุณมากครับ” ผมส่งยิ้มให้เขา แต่เขากลับชะงักและหน้าแดงระเรื่อ อา สงสัยเขาคงจะร้อน ผมไม่ได้สนใจแค่ให้เขาพยุงร่างที่แทบไม่มีแรงของผมไปหาเจ้าหญิงเฮน่าเท่านั้น โดยที่ผมไม่รู้เลยว่า ยังมีสายตาอีกคู่ที่มองมาด้วยโกรธเกรี้ยว สายตาคู่นั้นในมุมมืดที่ไม่นานก็ค่อยๆหายไป

 ผมมองหาร่างของเจ้าหญิงเฮน่าแล้วก็พบว่าเธอก็ไม่ต่างจากผม เพียงแต่คนที่ช่วยเธอคือมนุษย์คนนั้น คนที่เธอปรารถนา

 “นั่นไงครับ นั่นเจ้าชายลูอัสที่อยู่กับเพื่อนของคุณ” ผมพยักหน้าให้เขาแต่สายตายังคงมองไปยังคนทั้งคู่ ผมเป็นคนนอก ในสายตาของผม เจ้าหญิงเฮน่าเธอรักเจ้าชายลูอัสมากแต่.... เจ้าชายคนนั้น เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยและนั่นแหละปัญหา หาเขาไม่รักเธอ เจ้าหญิงจะกลายเป็นฟองอากาศ เจ้าหญิงเฮน่ามองเห็นผมแล้วครับ เธอโบกไม้โบกมือเป็นเด็กๆที่ดีใจมาก ผมรู้ได้ไงน่ะหรือ ก็เล่นยิ้มกว้างเสียขนาดนั้น จะไม่รู้ได้ยังไง ผมยิ้มตอบอ่อนๆ ก็นะ ผมน่ะแพ้เธอเสมอแหละ

 “เป็นไงบ้างครับเจ้า..เอ่อเฮน่า” ผมรีบเปลี่ยนคำคุ้นเคยที่เรียกเธอเพราะสายตาราวกับจะฆ่าผมที่เธอส่งมาให้นั้นแหละครับ

 “เธอไม่เป็นไรหรอก ผมเพิ่งจะทราบชื่อเธอจากคุณนี่เอง เฮน่า เป็นชื่อที่น่ารักมากๆเลยครับ” น้ำเสียงที่กล่าวไม่ได้แฝงสิ่งใดๆ ที่คนฟังอย่าเจ้าหญิงเฮน่ากลับหน้าแดง

 “ขอบคุณที่ดูแลเธอนะครับ เจ้าชายลูอัสและขอบคุณที่ช่วยพวกเราเอาไว้” ผมก้มหัวให้ชายตรงหน้า

 “ไม่เป็นไรครับ เป็นใครก็ต้องทำ” ผมได้แต่ถอนหายใจ ท่าทางจะยากเสียแล้วสิงานนี้ ผมยังคงมองเจ้าหญิงเฮน่าที่มองดูเจ้าชายลูอัสที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้เธอฟัง แววตาของเธอช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ผมรู้ดี ว่ามันจะเปลี่ยนไปแน่นอน หากเธอได้รู้ความจริงว่าเจ้าชายลูอัสไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย

 “อ๊ะ!!”

 “ใบไม้น่ะครับ” เขาส่งยิ้มให้ผมพร้อมยื่นใบไม้ให้ผมดูว่าเขาไม่ได้โกหก ผมพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปมองเจ้าหญิงเฮน่าต่อ บอกตรงๆว่าผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี หามันเป็นไปตามที่ผมเห็นและรับรู้ล่ะก็ เจ้าชายลูอัสไม่ได้มีท่าทีที่จะสนใจหรือมองเจ้าหญิงเฮน่าเป็นคนพิเศษเลย

 “เฮ้อออ”

 “มีอะไรหรือเปล่าครับ” อาว ผมเผลอถอนหายใจหรือครับเนี่ย ผมส่ายหน้าตอบน้อย

 “ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่ คุณชื่ออะไรครับ ผมยังไม่ทราบเลย” คนตรงหน้าผมสางยิ้มบางๆและแววตาอ่อนโยนมาให้

 “ผมชื่อโควครับ แล้วคุณ..”

 “เอ่อ ผมเซบาสเตียนครับ ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยผมไว้นะครับ”

 “ไม่เป็นไรครับเซบาสเตียน”

 ผมและโควคุยกันด้วยเรื่องของเจ้าชายลูอัส ซึ่งผมพยายามหลอกถามจ้อมูลต่างๆให้ได้มากที่สุด ซึ่งผมถึงได้รู้ว่า ผมไม่ควรถามออกไปเลย

 “เจ้าหญิงเฮน่าครับ” ผมเรียกเธอเมื่อเราเข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัวซึ่งไม่มีโควและเจ้าชายลูอัสหรือคนอื่นๆ เธอหันมามองผมด้วยแววตาสงสัย ผมลังเลก่อนจะพูดมันออกไป

 “เรากลับบ้านกันไหมครับ ไปหาทางล้างมนตรากันดีไหมครับ หรือให้ราชาเฮสตันช่วยดีครับ” เจ้าหญิงเฮน่ามองผมด้วยแววตาที่ปวดร้าว ผมรู้ รู้ว่าเธอเสียความรู้สึกกับผม แต่ผมไม่อยากให้เธอกลายเป็นฟองทะเล

 “อะ อะ อะ อะ” เธอพยายามสื่อสารกับผมด้วยมือ และท่าทาง

 “ผมไม่ได้ขัดขวาง เพียงแต่” ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนเจ็บ

 “เพียงแต่ผม มองไม่เห็นว่าเจ้าชายลูอัสจะรักคุณเลย”

 “อะ อะ อึก อะ อะ อะ อึก ซู๊ด อะอะ” น้ำตาของเธอไหลตามแนวของแก้ม พยายามสื่อสารให้ผมรู่ว่าผมคิดผิด

 “เจ้าหญิงเฮน่า เชื่อผมเถอะครับ เรากลับบ้านกันเถอะ คุณไม่....”

 เพล้ง!!! เพล้ง เพล้ง เพล้ง!!!!

 “เจ้าหญิงเฮน่า!!” เธอกวาดข้าวของทุกอย่างทิ้งลงพื้น กรีดร้องทัเงๆที่ไม่มีเสียง ผมมองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวด ก้าวขาไปโอบกอดเธอแต่เธอกลับพลักไสผมออกมา

 “เกิดอะไรขึ้นครับ” โควเข้ามาด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะมาพยุงและปลอบโยนเจ้าหญิงเฮน่าไว้

 “มาครับคุณเฮน่า ผมจะพาคุณไปพักผ่อน”

 ผมมองตามร่างของเจ้าหญิงจนลับสายตา อยากจะโอยกอดก็ทำไม่ได้ ปลอบโยนเธอผมก็ทำไม่ได้ ถ้าจะหาคนผิดในเรื่องนี้ ก็คงมีเพียงแค่ เขา เท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเขา เรื่องทัเงหมดคงไม่เป็นแบบนี้ เจ้าหญิงคงไม่กล่ยเป็นมนุษย์ ไม่ต้องถูกสาป เพราะเขา เอสตัน!!!!

 “คิดถึงผมอยู่หรือครับ”

 !!!

 ผมหันกลับไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา เอสตัน เป็นเขาจริงๆ เขาในร่างของมนุษย์ แต่ทำไม

 “คุ คุณ คุณมาทำไม ไม่ใช่สิ เพราะคุณ!!!” เอสตันเลิกคิ้วขึ้น ราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดออกไป

 “ผมทำอะไรหรือครับ?”

 “คุณมันเป็นตัวการ คุณวางแผนไว้ใช่ไหมคุณรู้ใช่ไหมว่าเธอไม่มีทางสมหวัง คุณต้องการให้เธอกลายเป็นฟองอากาศใช่ไหม”

 “ อย่ากล่าวหาผมสิ เจ้าหญิงเป็นคนเลือกมันเองต่างหาก” เอสตันยักไหล่ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน

 “แต่คุณเป็นคนเสนอมันออกมา คุณมันเลว โอ๊ย!!”

 “อย่าให้มันมากนักนะเซบาสเตียน ผมใจเย็นกับคุณมามากแล้วนะ” มือหนาบีบคางเล็กๆของผมแน่น ดันร่างของผมติดกำแพง ผมสบตาสีแดงฉานด้วยความโกรธนั้นจนร่างของผมสั่นอย่างช่วยไม่ได้

 “ปล่อยนะ ผมเจ็บ”

 “จำเอาไว้ให้ดีนะเซบาสเตียน” เอสตันก้มลงมาจนใบหน้าของเราอยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว จนผมสามารถรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวจากคนตรงหน้าได้

 “อย่าให้ผมเห็นว่าคุณให้ใครแตะต้องร่างกายนี้อีก ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าผมไม่เตือน!!” มือใหญ่ปล่อยผมให้เป็นอิสระ ก่อนจะหายไป ทิ้งผมให้ทรุดกายลงอย่างหมดแรง ผมกลัวเขาจริงๆ ความกดดันจากบรรยากาศรอบตัวเขาเหมือนของใครคนนึง ใครคนนั้น คนที่เป็นราชาแห่งท้องทะเล ราชาเฮสตัน แต่มัน.....ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย




      เช้าวันต่อมา

 ผมและเจ้าหญิงเฮน่าต่างนั่งร่วมโต๊ะอาหารของเจ้าชายลูอัสโดยที่เธอไม่มองแม้แต่หน้าของผม ผมจึงทำได้เพียงก้มหน้าทานอาหารเงียบๆเท่านั้น

 “จริงสิ เฮน่า วันนี้ผมมีคนจะแนะนำให้คุณได้รู้จัก” เจ้าหญิงเฮน่ามองสบตาเจ้าชายลูอัสพร้อมส่งรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจไปให้เขา และพยายามถามด้วยท่าทางของเธอว่าใครที่เจ้าชายอยากให้เธอรู้จัก

 “คู่มั้นของผมเอง”เฮน่าชะงักมองตาลูอัสด้วยความไม่เข้าใจ

 “อ่า ผมอาจจะยังไม่เคยบอก แต่ซีเรียเธอเป็นคนอ่อนโยนมาก เธอต้องดีใจแน่ๆหากได้พบซีเรีย” เจ้าชายลูอัสกล่าวด้วยรอยยิ้ม คอยเล่าเรื่องของซีเรียต่ออย่างไม่ทีสิ้นสุด ผมมองใบหน้างามของเฮน่าอย่างสงสาร ผมไม่อยากให้เธอมารับรู้เลยแม้แต่น้อย เฮน่ากำมือแน่นปากบางเม้มเข้าหากันอย่างอดกลั้น ผมเห็นดวงตาคู่นั้นที่ฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตาแม้มันจะไม่ได้ไหลลงมาก็ตามที

 “เฮน่า ไปเดินเล่นกันไหม” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปประคองร่างเล็กๆ เธอหันมาสบตาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมจึงพาเธอออกมาเดินเล่นที่ริมทะเล สายลมพัดผ่านไม่ได้ช่วยปัดเป่าความเศร้าหมองในใจของเจ้าหญิงเฮน่าแม้แต่น้อย มันกลับยิ่งตอกย้ำความเจ็บช้ำเสียอีก หยาดน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ หลั่งไหลลงมาอย่างไม่อาจจะห้ามอยู่ แต่ผมกลับทำได้เพียงยืนมองเท่านั้น

 “กลับบ้านเรากันเถอะครับเจ้าหญิงเฮน่า” เฮน่าหันมามองผมเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันกลับไปมองเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งอีกครั้ง

 “ผม ผมจะไปคุยกับราชาเฮสตัน ท่านต้องมีวิธีช่วยแน่ๆ ผมมั่นใจ”
เจ้าหญิงเฮน่าส่ายหน้าพร้อมหันกลับมามองผมอีกครั้ง ก่อนจะส่งยิ้มที่แสนเศร้ากลับมาให้ผม นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เราต่างยืนอยู่ตรงนี้และเหม่อมองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่ ที่ซึ่งเราเคยแหวกว่ายมาด้วยกัน

 “อยู่นี่เองหรือ ผมตามหาเสียทั่วเลย” เจ้าชายลูอัสเดินมาพร้อมสาวงามอีกคนข้างกาย

 “ขอแนะนำ นี่คือคู่หมั้นของผมเอง ซีเรีย ซีเรียนี่เฮน่า คนที่ผมเล่าให้คุณฟังไงครับ” หญิงสาวตรงหน้างดงามหยดย้อย สง่าและมีดวงตาที่แสนอ่อนโยน

 “ยินดีที่ได้พบนะคะเฮน่า” ซีเรียส่งยิ้มสวยให้เจ้าหญิงเฮน่าโดยที่เฮน่าเองก็ส่งยิ้มตอบกลับอย่างเสียไม่ได้

 “ไปพบท่านพ่อดีกว่า ท่านบ่นคิดถึงคุณมาตั้งหลายวันแล้ว ยังไงผมขอตัวพาซีเรียไปพบท่านพ่อผมก่อนนะครับ” เจ้าชายลูอัสกล่าวจบก็แยกตัวออกไป ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาเหมาะสมกัน แต่มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เจ้าหญิงเฮน่าสะอื้นไห้เมื่อเจ้าชายและคนรักเดินจากไป น้ำตาของเธอไหลลงมาไม่ขาดสาย ผมทำได้เพียงกอดปลอบเธอเท่านั้น เฮน่ากระตุกเสื้อผมเบาทำให้ผมก้มลงมองใบหน้าแสนสวยด้วยความสงสัย

 “อะ อะ อะ” มือบางชี้ไปที่ทะเล นั่นไม่ต้องเดาเลย

 “ครับ กลับบ้านกัน” ผมส่งยิ้มบางเบาให้ พร้อมพาเธอลงทะเลไปเรื่อยๆ คนอื่นเห็นอาจจะเข้าใจว่าเราสองคนกำลังจะฆ่าตัวตาย แค่เปล่าเลย เรากำลังจะกลับบ้านของเราต่างหาก บ้านที่เราควรจะอยู่
เมื่อร่างกายได้สัมผัสกับน้ำทะเลเจ้าหญิงเฮน่าก็กลับกลายเป็นเงือกอีกครั้งแต่...... ทำไมมีแค่ผมละ ที่ไม่เปลี่ยน ทำไมมีแค่ผมที่ยังอยู่ในร่างของมนุษย์ แล้วทำไมผม ถึงยังหายใจในน้ำได้กัน เอสตันทำอะไรกับผมกันแน่ เจ้าหญิงเฮน่าจับมือผมเอาไว้ เพราะเธอรู้ว่าเพียงกำลังขาของมนุษย์นั้นไม่อาจจะสู้ความเร็วของหางเงือกได้เลย เธอจึงเลือกที่จะจับมือผมแล้วพาผมว่ายไปยังบ้านของเธอแทน

 “โอ้วว เฮน่า ลูกกลับมาแล้ว ลูกไปไหนมา” ราชาเฮสตันว่ายตรงมายังเราทั้งสองก่อนจะโอบกอดเจ้าหญิงไว้แน่น ด้วยความรักความอบอุ่นจากพ่อนั้นยิ่งทำให้เจ้าหญิงเฮน่าร้องไห้โฮ

 “เกิดอะไรขึ้น เล่าให้พ่อฟังสิ แล้วนี่ลูกพามนุษย์ลงมาได้อย่างไร”

 “อะ อะ อะ อะ อะ อะ”

 “ผมเซบาสเตียนเองครับราชาเฮสตัน ผมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังเองครับ” ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ราชาเฮสตันฟัง ทันทีที่ราชาได้ยินชื่อของเอสตันสีหน้าของราชาก็เปลี่ยนไป แววตาของท่านราวกับว่าค้นพบสิ่งที่ตามหามานานแสนนาน กระตือรือร้นถามว่าตัวผมนั้นไปพบเขาที่ไหน ผมจึงบอกสถานที่แกราชาเฮสตันไป

 “ไม่ต้องห่วงลูกรัก พ่อจะช่วยลูกเอง” ราชาเฮสตันก็ว่ายออกไป ผมทำได้แค่คอยปลอบใจเจ้าหญิงเฮน่าและรอคอยด้วยความหวังว่า ราชาเฮสตันจะทำสำเร็จ เราสองคนรอแล้วรอเล่า รอและรอและรอ จนทั้งท้องทะเลปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งน่ากลัวเลยเพราะที่นี่คือบ้านของเรา อย่างน้อยๆเราก็อุ่นใจได้ และแล้วสิ่งที่เรารอคอยก็สิ้นสุดลง เมื่อเห็นร่างของราชาเฮสตันว่ายกลับมายังร่างของผมและเฮน่าแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะปัญหาคือ ราชาเฮสตันพาไอหมอนั่นมาทำไมกัน!!!

 “เฮน่า มาหาพ่อสิลูก” เจ้าหญิงเฮน่ามองหน้าผมก่อนจะว่ายตรงไปยังร่างของบิดา ผมมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เอสตันหยิบสาหร่ายสีทองออกมาก่อนจะส่งให้เจ้าหญิงเฮน่า เจ้าหญิงรับมาก่อนจะทานมันเข้าไป ไม่นานแสงสีทองจากสาหร่ายก็ประกายอยู่รอบกายของเธอ เฮน่ามองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ซึ่งผมเองก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงนั่นเช่นกัน

 “เสด็จพ่อ” เสียงใสเรียกหาบิดาด้วยน้ำเสียงที่สั่นใบหน้าสวยงามของเจ้าหญิงเฮน่านองไปด้วยน้ำตาร่างของเจ้าหญิงโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อแน่น

 “โธ่ ลูกพ่อ ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว” ผมยืนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา มันเป็นน้ำตาแห่งความสุขและปลื้มใจดีใจผสมกันไปหมด

 “คราวนี้ ก็ของแลกเปลี่ยน” ผมหันไปมองใบหน้าของเอสตันที่พูดขัดขึ้น

 “เข้าใจแล้ว.....” ราชาเฮสตันมองหน้าผมด้วยแววตาที่อ่อนแสงลงราวกับต้องการจะกล่าวคำว่าขอโทษ แต่ผม......ไม่เข้าใจ

      หมับ!!!

 “อ๊ะ ปล่อย ทำอะไรของคุณ” ผมสะบัดแขนออกจากฝ่ามือของเอสตันด้วยความตกใจ

 “เสด็จพ่อ นี่อะไรกันคะ” เฮน่าถามเมื่อเห็นว่าผมตกใจจากการโดนจับแขนเข้า

 “เสด็จพ่อของเจ้าหญิง ขอให้ผมถอนคำสาปให้โดยแลกกับ....” ดวงตาดุดันมองมาทางผม

 “เซบาสเตียน”

 “ไม่จริง ไม่ใช่ไหมครับราชาเฮสตัน” ผมพยายามยื้อแขนตัวเองออกจากฝ่ามือหนาแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

 “เสด็จพ่อ บอกลูกสิคะว่ามันไม่จริง”

 “พ่อขอโทษ แต่พ่อไม่มีทางเลือก”

 “กลับกันได้แล้ว” เอสตันพยายามจะกระชากลากถูผมไปโดยที่ผมเองก็พยายามจะดึงแขนออกเช่นกัน

 “ราชาเอสตัน ได้โปรด ช่วยผมด้วย เจ้าหญิงเฮน่า ช่วยผมด้วยครับ ช่วยผมด้วย”

 “เซบาสเตียนนนน” ผมได้แต่มองเจ้าหญิงเฮน่าที่พยายามจะเข้ามาช่วยผมแต่โดนราชาเฮสตันจับเอาไว้

 “จะไม่อยู่ที่นี่ด้วยกันจริงๆหรือเอสตัน” ราชาเฮสตันเอ่ยถาม

 “ผมเพียงมาทำตามคำขอของคุณเพื่อแลกกับเขาเท่านั้นครับ คงต้องกลับไปแล้ว ท่านแม่รอผมอยู่ขอตัวก่อนนะครับ” เอสตันไม่สนใจใยดีที่จะคุยต่อ เขาลากผมออกจากที่นั่นทันที ผมมองภาพรอบข้างที่เปลี่ยนไป จากที่ๆคุ้นตา กลับเปลี่ยนเป็นความเคว้งคว้าง ยิ่งดำดิ่งลงไปลึกเท่าไหร่ยิ่งมืดมิดและเหน็บหนาวเท่านั้น ผมมองแผ่นหลังของคนตรงหน้า แผ่นหลังกว้างแต่ดูอันตราย เขาจะพาผมไปไหนกันนะ หรือจะเขาจะฆ่าผมกันนะ


 “โอ้ย!!!” ร่างของผมถูกเหวี่ยงเข้าไปในถ้ำที่มีปะการังอยู่ภายใน มีมุมเล็กๆเป็นจุดชมความสวยงามภายนอก แต่ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาสำรวจ บ้าจริง

 “พาผมมาทำไม ผมไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ” เขาหันมามองผมด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ

 “ฉันไม่สนใจความคิดของนายหรอก เพราะนี่คือข้อตกลง แต่ฉันไม่ช่วยใครฟรีๆ” ผมได้แค่กอดเข่าตัวเอง มองเขาที่รื้อค้นหาอะไรสักอย่างในห้องอย่างเงียบๆ ยื้อความตายที่จะมาถึงอีกสักนิด ให้ผมได้มีชีวิตอีกสักนาที

 “ผมไม่อยากตาย” ผมพึมพำออกไปเบาๆ

 “นายพูดว่าไงนะ”

 “ผะ ผม ยังไม่อยากตาย”

“แล้วใครบอกละว่านายจะตาย หืมม” ร่างสูงของเอสตันค่อยๆขยับคืบคลานเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนผมเองต้องขยับถอยหนี

 “กลับมาแล้วหรือ เอสตัน” เหมือนระฆังช่วยชีวิตเมื่อเสียงหวานของใครบางคนเรียกเขาเอาไว้

 “ครับแม่”

 “ดีแล้ว อาว...นี่ลูกพาใครมาด้วยละ” เอสตันยกยิ้มมุมปากให้ผม

 “เจ้าสาวของผมครับแม่ แม่ชอบไหมครับ” บ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้ว

 “มะ ไม่ใช่นะครับ ผะ ผมไม่ใช่เจ้าสาวของเขา ผมโดนลากมา ผมไม่เต็มใจจะมานะครับ ได้โปรด ช่วยผมด้วยผมอยากกลับบ้าน โอ้ย!!!”เอสตันมองผมด้วยสายตาดุดัน บีบแขนผมแน่นจนมันเจ็บ

 “จริงหรือเอสตัน ทำไมลูกถึงทำแบบนี้ล่ะ”

 “เขาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนของผมครับ อีกฝ่ายตกลงแล้ว เพราะฉะนั้นเขาเป็นของผม” เอสตันบอกกับแม่ของเขา ก่อนจะหันมาลากผมไปอีกห้องหนึ่ง

 “ปล่อยผม ช่วยผมด้วย ผมขอร้อง ผมอยากกลับบ้าน”

 “เอสตันแม่ว่า......”

 “เขาเป็นของผม พ่อยกเขาให้ผมแล้ว เพราะงั้นเขาเป็นของผม!!” ร่างของผมถูกยกขึ้นพาดบ่าว่ายไปด้วยความเร็วจนถึงห้องส่วนตัวของเขาเอง

 “อุก”

 “กล้ามากนะ ที่พูดแบบนั้น” มือหนาจับคางของผมไว้แน่นบีบมันอย่างแรง

 “ผมอยากกลับบ้าน” น้ำตาผมไหลอย่างห้ามไม่อยู่

 “กลับไปหาใคร เขายกนายให้ฉันแล้ว หรือจะไปหาไอหน้าอ่อนบนพื้นดินนั่น คิดว่าฉันมองนายมานานแค่ไหน คิดว่าฉันวางแผนพวกนี้เพื่อปล้อยนายไปหรือ ห้ะ!!!ไม่มีทางหรอก ” ผมส่ายหน้าไปมา แต่เขาไม่คิดจะสนใจเลยด้วยซ้ำ

 “ตัวนายของฉัน ริมฝีปากของนายก็เป็นของฉัน” ปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามสัดส่วนบนร่างของผมราวกับเป็นเจ้าของ

 “ผมขอโทษ ผมขอโทษครับ ฮื่ออ ผมขอโทษ” ร่างสูงชะงักค้าง ผมสะดุ้งเมื่อปลายนิ้วนั้นเปลี่ยนมาเกลี่ยน้ำตาของผมแทน ผมมองใบหน้าของเขาอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าเขาราวกับเจ็บปวดเมื่อผมร้องไห้

 “ขอโทษทำไม นายทำอะไรผิดกันบ่ะ หืม??”

 “ฮื่ออ คุณโกรธ อึก คุณโกรธผมคุณถึงทำผมเจ็บ”

 “ชู่วๆ ไม่ใช่หรอก ฉันไม่ได้โกรธนาย แต่ที่ฉันโมโห เพราะฉันหึงรู้ไหม ฉันรักนายมากนะ” อะ อะไรนะ

 “คุ คุณรักผมหรือครับ” ฝ่ามือหนาลูบไล้แก้มใสของผมอย่างแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มที่เขาส่งมาให้ผม

 “ใช่สิ รู้ไหมจากนี้ไป ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าสิ่งไหน หากนายต้องการแล้วล่ะก็ ฉันจะหามาให้ หากนายอยากไปที่ไหนฉันก็จะพานายไป” ผมมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

 “นายจะไม่ต้องอยู่คนเดียว ไม่ต้องทานอาหารคนเดียว ไม่ต้องอยู่เดียว เพราะนายจะมีฉันกับแม่อยู่กับนาย เจ้าสาวของฉัน” เอสตันกดริมฝีปากลงจูบผมอย่างแผ่วเบาแล้วผละออก ผมสบตาหวานฉ่ำนั้นอย่างเผลอไผล ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก้มลงมาจูบผมอีกครั้งเมื่อไหร่ รับรู้แต่ลมหายใจร้อนผ่าวของเราทั้งคู่ และปลายลิ้นที่กวาดไล่ต้อนปลายลิ้นของผม ผมไม่เคยรู้เลยว่าจูบจะหวานขนาดนี้ บางทีผมอาจจะชอบเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรกก็อาจจะเป็นได้ เพียงแต่ผมไม่เคยรู้ใจตัวเอง ไม่อย่างนั้น ใจผมคงไม่เต้นระรัวขนาดนี้เพียงแค่เขาจูบผมเพียงแค่เขากระซิบคำว่ารักกับผม

 “ฉันรักนายนะ เซเบียส”

 “ผมก็รักคุณครับเอสตัน” เอสตันยิ้มกว้างเมื่อผมบอกรักเขา เขากอดผมแน่นจนหายใจแทบไม่ออก

 “ขอบคุณ แค่นี้ก็พอแล้ว แค่นี้ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว” ผมกอดตอบอ้อมแขนแข็งแรงนี้แน่นขึ้น ให้เขารู้ว่าผมไม่ไปไหน อยู่ตรงนี้กับเขาไม่ว่าเมื่อไหร่ เราจะมีกันและกันตลอดไป เขาและผมมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแม้จะเป็นยิ้มทั้งน้ำตาแต่มันก็ออกมาจากความสุขของเราทั้งคู่ ริมฝีปากของเราสัมผัสกันอีกครั้ง ความเปียกชื้นไม่ได้ทำให้เกิดความขยะแขยงแต่ทำให้เกิดอาการขนลุกซู่หวิวๆในช่องท้อง ยิ่งปลายลิ้นของเขาที่สอดเข้ามานั้นยิ่งทำให้หัวใจเต้นเร็ว ผมตอบสนองปลายลิ้นของอีกฝ่ายอย่างเงอะๆงะๆด้วยความไม่ประสีประสาแต่กลับทำให้อีกคนครางด้วยความพอใจ มือหนาปลดชุดเปียกชื่นในร่างมนุษย์ของผมออกอย่างเร่งรีบทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ผละออกจากกัน

 “อื้อ” ผมขยับกายให้มือของอีกฝ่ายทำงานได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องถอดชุดของผมออก

 “อา....สวยจริงๆ”

 จุ้บ จุ้บ

 ริมฝีปากสัมผัสไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ไม่นานความเปียกร้อนก็ลากปัดผ่านยอดอกผมอย่างแผ่วเบาก่อนจะดูดดุนมันอย่างหิวกระหายจนเกิดเสียง

 “อ๊า อย่า อื้อ อย่าดูด”

 “ทำไมล่ะ จุ้บ จุ้บ นายออกจะชอบไม่ใช่หรอ”

 “อ๊า ผมจะ อื้อ” ยิ่งห้ามเขากลับยิ่งดูดดุนมันซ้ำๆจนบวมแดง มือหนาเลื่อนลงสัมผัสกับตัวตนเบื้องล่างของผม เขาปลดทุกอย่างดึงมันออกอย่างรวดเร็วจนไม่นานผมก็เปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าเขา

 “อื้อ พอแล้ว” ผมส่ายหน้าไปมาเมื่อเขาเริ่มขยับมือ

 “มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น อย่ากลัวไป ปล่อยใจเธอตามสบาย มองแค่ฉันก็พอ” ผมพยายามควบคุมตัวเองแต่มันก็ทำได้ยาก เพราะเขาทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมแอ่นอกขึ้นรับริมฝีปากร้อนๆของเขาที่ฉกชิมยอดอกของผมอย่างไม่อิ่มเอม ราวกับรอการหลั่งไหลขอน้ำนมซึ่งผมมั่นใจว่าผมไม่มีแน่นอน ผมมองใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆพรมจูบลงต่ำไปเรื่อยๆ จนปลายลิ้นสากแตะลงที่แก่นกายสีสวย

 “อ๊ะ อ๊า” ผมสะดุ้งบิดเร่าใต้ร่างเมื่อแก่นกายของผมผลุบหายเข้าออกอยู่ในปากคนตรงหน้า มือสองข้างของผมคว้าหมับเข้าที่ผมสีดำของอีกฝ่ายเผื่อหาที่ระบายความเสียวซ่าน ขาวผมอ้าออกกว้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพียงเพราะต้องการให้คนตรงหน้าทำตามใจได้อย่างสะดวก

“อ๊า เอสตัน อืม ผมไม่ไหว พอ อ๊า”
เอสตันยอมปล่อยแท่งร้อนออกจากปากเขา เพียงไม่นานผมก็ต้องตกใจเมื่อปลายนิ้วของเขาสอดเข้ามาในตัวผม

 “อะ อะ อะไรน่ะ เจ็บ!!” ผมดิ้นหนีน้อยๆ

 “ไม่เป็นไรๆ มันจะดีขึ้น มองหน้าฉันสิ” เอสตันไม่ปล่อยผมคิด เขาก้มลงจูบผมอีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ จนมันเริ่มนุ่มขึ้นเขาจึงเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไป

 “อ๊ะ อือ”
ผมหอบหายใจครางแผ่วอย่างลืมตัวเมื่อนิ้วทั้งสามของเข้าขยับเร็วขึ้น ร่างผมร้อนผ่าวความเสียวซ่านทำให้ผมขยับสะโพกตอบรับนิ้วเรียวนั้น

 “นายพร้อมแล้ว” ผมผวาร่างหาเมื่อร่างสูงดึงนิ้วออก ก่อนมันจะถูกแทนที่ด้วยความใหญ่โต

 “โอ๊ย เจ็บ ไม่เอาแล้ว” ผมเริ่มดิ้นรน เมื่อส่วนปลายกดเข้ามาจนผมรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้น

 “ชู่วๆ นิดเดียว อย่าดิ้นสิ อา” ผมไม่รู้เลยว่าผมทำให้เขาทรมาน หากผมมองหน้าเจาผมก็คงเห็นว่าเจาเองก็อดทนอยู่เช่นกัน เอสตันเลื่อนมือมากอบกุมแก่นกายของผม ขยับมันจนอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงเพราะความเจ็บเมื่อครู่กลับมาอีกครั้ง ร่างสูงดันกายเข้ามาทีละน้อย เมื่อเห็นว่าผมเกร็งเขาก็จะหยุดและก้มลงมาดูดดุนหยอกล้อกับยอดอกที่บวมแดงของผม

 “อ๊า เข้าไปหมดแล้ว พร้อมไหม”

 “ครับ ขยับเถอะ อื้อ” ผมพยักหน้ารับให้รู้ว่าผมไหม เขาค่อยๆขยับกายเข้าออกช้าๆไม่เร่งเร้าผม แต่เป็นผมเองที่อยากให้เขาเร่งเร้ามากกว่านี้ นั่นทำให้ผมเผลอบยับสะโพกยั่วยวนเขาอย่างที่ผมไม่รู้เลยว่าทำอะไรลงไป

 “อา เด็กดี อย่างนั้น” เอสตันครางอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าผมเองก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาเร่งจังหวะจนตัวผมโยกไปตามที่เขาใส่แรงลงมา เสียงหอบหายใจและเสียงครางของเราทั้งสองดังระงมอยู่ภายในห้องโดยที่คนภายนอกไม่มีทางรู้เลยว่า ภายในห้องได้มีสงครามแห่งรักที่ดุเดือดอยู่ในขณะนี้

 “อย่า อ๊า ตรงนั้น อื้อ” ผมรู้สึกราวกับถูกไฟช็อต ราวกับผมแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป

 “เร็วอีก เอสตัน อ๊า เร็ว” เอสตันก้มลงบดจูบลงกับริมฝีปากผมก่อนจะเร่งกายตามที่ผมต้องการจนในที่สุดเราทั้งสองก็ปลดปล่อยออกมาในที่สุด

 “เหนื่อยไหม” ผมสบตากับเขาและพยักหน้าเบาๆ

 “ต่ออีกรอบนะ”

 “อื้อ ไม่เอาแล้ว อ๊ะ อ๊า” ผมไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า มันวิเศษมากกับสิ่งที่เขามอบมันให้ผม และผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้นอกจากรองรับความปราถนาที่เขามอบให้ต่อไป มันก็ไม่แย่นะครับ รักของผม อย่างน้อยผมก็มีความสุขและรู้สึกดีมากด้วยสิ ว่าแต่ ผมจะท้องไหมครับเนี่ย



The End
[/b][/size]






กลัวทุกคนเบื่อ เพราะฉะนั้น มันต้องหักมุมอย่างเดียวเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ หวังว่าจะชอบเรื่องนี้กันนะคะ เรื่องหน้า ราพันเซลค่ะ (ดองไว้นานเกินตั้งแต่ปีเตอร์แพนอ่ะค่ะ)

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แอบรักกุ้งเซเบียสนี่เอง...รอราพันเซล   :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
เฮอร์คิวลิส, หมู 3 ตัว, ราชสูห์กับหมี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 บวกเป็กบวก1 ให้เลย

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขอบคุณค่า สนุกมาก ๆ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
สนุกทุกเรื่องเลย แต่งต่อนะ เป็นกำลัง และรออ่านนะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เจ้าชายอสูรกับโฉมงาม อยากอ่านเรื่องนี้ครับ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       ขอบคุณนะค่ะที่แต่งเรื่องสั่นออกมาได้สนุกมากๆเลยค่ะ
เป็นเรื่องสั่นที่จบลงตัวไม่ค้างค่ะซึ่งเราว่าแนวการจบแบบนี้ดีมากค่ะอย่าจบแบบไม่ชัดเจนเลยค่ะขอแบบจบแล้วชัดเจนทุกตัวละครมีความสุขจะดีมากกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
     เพราะในโลกความเป็นจริงปวดหัวปวดตับมากเเล้วอิอิ
     แล้วยิ่งมาอ่านเรื่องสั่นของนักเขียนท่านนี้บอกเลยว่ารู้สึกดีค่ะ o13 o13
รออ่านผลงานชิ้นต่อไปนะค่ะหรือจะใจดีมาลงเรื่องสั้นเรื่องใหม่ก็รออ่านนะค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ราพันเซล 1/2


           
         กาลครั้งหนึ่งของข้า ผู้มีนามว่าราพันเซล ตัวข้านั้นเป็นชายที่มีผมยาวสลวยและอาศัยอยู่บนหอคอยสูงที่สามารถมองออกไปได้ไกลโพ้น (เห็นแค่ต้นไม้) ข้ามีความสุขในทุกๆวัน ตั้งแต่เด็กจนโต ข้าเฝ้าแต่อ่านหนังสือต่างๆที่แม่ข้าหามาให้ ใช้เวลาไปกับการวาดภาพตามที่ข้าได้จิตนาการ โลกภายนอกนั้นข้าไม่รู้เลยว่าเป็นเช่นไร แต่แม่มักบอกข้าเสมอว่ามันเป็นที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ดุร้ายและคนซึ่งเห็นแก่ตัว

 “เจ้าช่างงดงามจริงๆราพันเซลตัวน้อยของข้า” ข้าได้เพียงส่งยิ้มบางๆให้แม่

 “ข้าก็เหมือนท่านแม่อย่างไรเล่าขอรับ”ท่านแม่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับสิ่งที่ข้าพูด

 “ถูกของเจ้า แม่งามจริงๆหรือ” ท่านแม่ใช้มือลูบไล้ไปตามใบหน้าของตนเอง
 
 “ขอรับ หากข้ามิใช่ลูกของท่านแม่ ข้าคงหลงรักท่านแม่ไปแล้วขอรับ”

 ท่านยิ้มอย่างเพ้อฝันโดยที่ข้าได้แต่ยืนมอง แต่เพียงไม่นานท่านแม่ก็กลับมามีสีหน้าจริงจังเช่นเดิม ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมมีแต่ท่านแม่ที่ออกไปหาอาหาร ออกไปข้างนอกหอคอยได้ ทำไมข้าถึงออกไปบ้างไม่ได้แต่จ้าก็ไม่สามารถเอ่ยถามสิ่งมดๆที่ค้างคาใจข้าออกไปได้ ทำได้เพียงกักเก็บความสงสัยเอาไว้เท่านั้น

 “แล้วพรุ่งนี้แม่จะมาหาเจ้าใหม่นะ”

 “ขอรับท่านแม่”

ข้าค่อยๆปล่อยผมที่ยาวสีทองของข้าเพื่อส่งท่านแม่ลงไปสู่พื้นดินด้านล่างนั่น ข้ายืนมองท่านแม่ที่โบกมือให้ข้าน้อยๆจากด้านล่างหอคอยก่อนที่ข้าจะยกมือขึ้นโบกตอบกลับไป ท่านแม่เดินหายเข้าไปในป่าซึ่งข้าทำได้เพียงแค่มองตามไปเท่านั้น
จากตะวันที่สาดแสงแรงจนตอนนี้ที่ดวงตะวันคล้อยจนทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มเย็นตากับป่าที่เริ่มส่งเสียงร้องของสัตว์ต่างๆ ข้ามองฝูงนกบินที่เริ่มกลับไปยังรังของตนเอง เป็นนกนี่ช่างอิสระนัก หากคิดจะไปที่ใด เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ เกิดเป็นมนุษย์ดีเช่นไร ข้าเห็นมีแต่ความทุกข์มากมาย จะกายหรือใจก็ไม่ต่างกัน ตัวข้าอยากถลาบินไปดั่งเช่นนกแต่กลับเป็นได้เพียงราพันเซลที่ต้องคอยอยู่แต่ในหอคอยเท่านั้น

 “เฮ้อ....”

คิดไปก็เท่านั้น คิดไปข้าก็ทำได้เพียงถอนหายใจ รอบกายข้าเต็มไปด้วยหนังสือและเหล่ากล่องสีกับพู่กัน หากจะหาอะไรทำมิให้เบื่อ ข้าคงต้องกลับไปวาดรูปหรืออ่านหนังสือพวกนั้นอีกครั้งเสียแล้ว จนล่วงวันเวลาไปอีกวัน

       เสียงนกร้องกับแสงที่สาดเข้ามาปลุกให้ข้าตื่นขึ้นจากการนิทรา เช้าวันใหม่กับสิ่งเดิมๆที่ข้าพบเจอมาตลอดสิบเจ็ดปี มันไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจอีกแล้ว ข้าลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่หากข้าไม่ลุกขึ้นมาแล้วท่านแม่กลับมาข้าอาจจะโดนท่านแม่ดุเอาได้ จำได้ว่าครั้งก่อนที่ข้าตื่นสาย ท่านแม่ตีข้าเสียจนก้นของข้าลายไปหมด แต่ข้าก้เคยสงสัยทำไมตัวข้าและท่านแม่ถึงได้มิคล้ายคลึงกันเลย หนำซ้ำท่านแม่เองก็ชราเกินกว่าที่จะมีลูกด้วย ความสงสัยของข้ามีมากนัก

 “ราพันเซล” เหมือนใครเรียกข้า??

 “ราพันเซล โยนผมของเจ้าลงมาสิจ๊ะ นี่แม่เอง” อ๊ะ.....ท่านแม่มา
ข้าค่อยๆส่งผมลงไปโดยที่เมื่อท่านแม่รับมันเอาไว้ได้ท่านแม่ก็ใช้มันปีนขึ้นมาหาข้าจนได้

 “อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านแม่”

 “โอ้.....เช่นกันลูกรักของแม่ วันนี้แม่นำอาหารมาให้ลูกด้วย” ข้ามองตะกร้าในมือท่านแม่ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายยามได้กลิ่น

 “ท่านแม่ ให้ข้าเป็นคนไปหาอาหารมาให้แก่ท่านไม่ดีกว่าหรือขอรับ” ท่านแม่มองข้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง

 “เจ้าพูดอะไร ข้าทำให้ไม่ดีรึ?” ข้าส่ายหน้าไปมา

 “ไม่ใช่นะขอรับ ข้าแค่อยากจะแบ่งเบา ไม่อยากให้ท่านแม่ต้องลำบาก”

 “เจ้าไม่ต้องพูด!!! เจ้าอยากจะออกไปข้างนอกสินะ ใช่ไหม!!!” ข้ามองท่านแม่ด้วยความไม่เข้าใจ

 “ไม่ใช่นะขอรับ ข้าแค่....”

 “ไม่!! จบแค่นี้ ข้าคุยจบแล้ว เจ้าจะไม่มีวันได้ออกไปข้างนอกเด็ดขาด!!” ท่านแม่เดินไปหน้าโต๊ะตัวใหญ่มุมห้องก่อนจะวางตะกร้าเอาไว้

 “ข้าจะกลับแล้ว”

 “เอ๊ะ!! แต่ท่านแม่เพิ่งจะมานะขอรับ ไม่ทานข้าวกับข้าก่อนหรือขอรับ” ท่านแม่ตวัดสายตาดุใส่ข้า

 “ข้าจะกลับ แล้วอย่าให้ข้าได้ยินอีกว่าเจ้าคิดจะออกไปภายนอกหอคอย!!” ข้าก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่ทำท่าว่าจะไหลออกมา

 “ขอรับท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”

 “เฮ้อ....” ท่านแม่ถอนหายใจก่อนที่ข้าจะนับรู้ได้ถึงอ้อมกอดอันคุ้นเคยความอบอุ่นของอ้อมกอดท่านแม่ยังเหมือนเดิม ข้ากอดตอบและซบใบหน้าลงบนไหล่ของท่านแม่

 “แม่ไม่ได้อยากจะดุเจ้าเลย แต่แม่เตือนเจ้าหลายต่อหลายครั้งเจ้าเองก็รู้ดี เพราะฉะนั้น อย่าพูดเรื่องนี้กับแม่อีกนะราพันเซล” ข้ากระชับอ้อมกอดของท่านแม่แน่นขึ้น

 “ขอรับท่านแม่”

 “ดีแล้ว” มือของท่านแม่ลูบผมของข้าอย่างปลอบโยน อบอุ่น สบาย อยากจะอยู่เช่นนี้นานๆ แต่เพียงไม่นานอ้อมกอดตรงหน้าข้าก็ผละออก

 “ส่งแม่หน่อย แม่ต้องไปธุระต่อแล้ว” ข้ากำมือแน่น ขาดความอบอุ่น มันเป็นเช่นนี้เอง ทุกครั้งที่จ้าต้องการอุ่นไอจากท่านแม่ ข้ามักจะได้รับมันเพียงผิวเผินเท่านั้น ข้าส่งท่านแม่ลงไปข้างล่างนั้นโดยที่ข้าทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังของท่านแม่ที่ค่อยๆจากไปเท่านั้น เพิ่งจะเช้าอากาศก็ไม่ได้หนาวแสงแดดก็แรง แต่ทำไมตัวข้าถึงได้สั่นเช่นนี้ อะไรกันฝนตกในหอคอยรึ ทำไมหน้าของข้าเปียกเช่นนี้ หึ.....ข้าต้องร้องไห้อีกกี่ครั้งกันนะถึงจะเพียงพอให้ท่านแม่หันกลับมารักข้า ทำไมกันนะข้าจึงไม่รู้สึกถึงความรักของท่านแม่เลยแม้แต่น้อย

ลา ล๊า ลา ลัล ลัล ลา ล๊า ล๊า ละ ละ ลา~

ช่างเงียบสงบจนข้าได้ยินเสียงตัวเองที่ก้องกังวานกลับมา สายลมพัดผ่านจนผมของข้าปลิวสไวไปตามแรงลมจนข้าต้องจับมันทัดเอาไว้ที่ข้างหูระหว่างที่ข้ายังคงส่งเสียงร้องออกไป สุขยิ่งนักเวลาเช่นนี้ ยามใดก็ตามที่ข้าได้กลับกล่อมดนตรีออกไปมักทำให้ข้ายิ้มออกเสมอจนเหมือนคนบ้าที่ยิ้มให้กับฟ้ากับลมกับป่าที่ไร้ผู้คนโดยที่หากข้าได้มองลงไปสักนิด ข้าคงเห็นชายผู้หนึ่งที่ยืนมองข้าอยู่


TBC




มาแล้วค่าาาาา ถึงจะช้ากว่ากำหนด(ไปเยอะ!!!) แต่แมวก็มาน๊า ต้องขอโทษที่เรื่องนี้อาจจะสั้น จริงๆจำนวนหน้าก็เท่าๆกับเรื่องแรกนะคะ แต่พอแบ่งออกมาแล้วมันน้อยๆไงไม่รู้ ถ้าไม่สนุกหรือยังไงแมวขอแก้ตัวเรื่องหน้านะคะ อย่าทิ้งแมวน๊าาาา แมวมาลงตามสัญญาแล้วเนอะๆ ขอให้สนุกกับการอ่านเรื่องนี้นะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พระเอกค่าตัวแพง...ออกมาบรรทัดสุดท้ายเลย รออ่านตลอด..ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน   :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด