เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นสุดวาย(Y)ฉบับนิทานสุดฟิน ตอน โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2 (จบแล้ว)  (อ่าน 15241 ครั้ง)

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ราพันเซล 2/2


       “ราพันเซล ราพันเซล นี่แม่เอง ส่งผมของเจ้าลงมา” ข้ารีบวิ่งมายังหน้าต่างเมื่อได้ยินเสียเรียกของท่านแม่ดังขึ้นมาข้าส่งผมลงไปให้ท่านแม่ ไม่นานร่างของท่านแม่ก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมาเมื่อสุดปลายผมของข้า

 “วันนี้แม่เอาหนังสือใหม่มาฝากดจ้าด้วยนะ” หนังสือใหม่!! ข้ารีบวิ่งไปหยิบมันมาดูทันที

 “ขอบคุณมากขอรับท่านแม่ ข้าดีใจมากเลย” ท่านแม่ทิ้งกายลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน

 “แม่เหนื่อยจังเลย เจ้าช่วยนวดให้แม่ได้หรือไม่ราพันเซล”

“ขอรับๆ” ข้าเดินไปหาท่านแม่ทันทีโดยไม่สนใจหนังสือสี่เล่มนั้นอีก ข้าค่อยๆนวดเบาๆบริเวณไหล่ของท่านแม่จนท่านแม่ครางออกมาด้วยความสบายตัว

 “ดีหรือไม่ขอรับท่านแม่”

 “ดีๆ ลงมาอีกหน่อย อ๊า นั่นล่ะๆ” ข้าค่อยขยับหาจุดที่ท่านแม่บอกจนไม่นานท่านแม่ก็หลับอยู่บนเก้าอี้ตัวเก่านี้ ข้าจึงละมือออกแล้วกลับไปสนใจหนังสือสี่เล่มก่อนหน้าอีกครั้ง แต่แน่นอนข้าไม่ลืมที่ตะหาผ้าห่มและหมอนมารองคอท่านแม่ให้ได้นอนหลับอย่างสบาย หนังสือๆ

 “ว้าว ผจญภัยในโลกแห่งความฝัน พิชิตดาบศักดิ์สิทธิ์ อันนี้อะไรเอ่ย โอ้...อาณาจักรแห่งแสง นี่ก็ สิบผู้กล้าแห่งแดนปีศาจ ไม่อยากจะเชื่อ!” นี่มันหนังสือที่หายากมาก ท่านแม่หามาได้อย่างไรกันนะ
ข้าเพลิดเพลินกับหนังสือจนหลงลืมเวลาไป ไม่รู้เลยว่าฟ้ามืดตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีท่านแม่ก็ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว

 “ทำไมไม่ปลุกข้า ราพันเซล”

 “ทะ ท่านแม่ตื่นแล้วหรือขอรับ” ข้ารีบลุกขึ้นมานั่งเมื่อท่านแม่มองข้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

 “ขะ ขออภัยขอรับ ข้ามัวแต่อ่านหนังสือจนลืมเวลา”

 “เอาเถอะ อย่าให้มีเช่นนี้อีก ข้าจะกลับแล้ว”

 “ขอรับๆ”

 ข้าปล่อยผมยาวสลวยสีทองลงไปดั่งเช่นทุกวันเพื่อส่งท่านแม่กลับลงไป ท่านแม่โบกให้ข้าก่อนจะเดินลัดเบาะแนวป่าออกไป อยู่ที่สูงมันก็ดี แต่ออกไปไหนไม่ได้ข้าไม่รู้สึกว่ามันดีเลย

 “ราพันเซล ราพันเซล” อะไรกัน เสียงของใคร ท่านแม่หรือ

 “ส่งผมของเจ้ามา นี่แม่เอง” ข้าไม่ได้เอะใจใดๆกับน้ำเสียงที่ไม่คุ้นหูหากแต่คำพูดมันกลับเหมือนดังเช่นทุกวันข้าจึงตัดสินใจส่งผมยาวสลวยลงไปเพื่อรอรับท่านแม่ขึ้นมา
ไม่นานนัก ร่างของผู้ที่เอ่ยวาจาจากด้านล่างก็ปรากฏสู่สายตาของข้า หากแต่คนๆนี้ข้ามิเคยรู้จักเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้ข้าตกใจจนต้องถอยหนีให้ห่างจากเขา

 “จะ เจ้าเป็นใครกัน!!!”

 “อภัยด้วยเถิดคนงาม ข้าเพียงหลงใหลในเสียงอันไพเราะของเจ้า จนข้าอดไม่ได้ที่จะต้องขึ้นมาเพื่อดูใบหน้าของเจ้าให้เต็มตา” ชายผู้อยู่ตรงหน้าข้าช่างมีรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน การแต่งตัวดูดีและเครื่องประดับที่ตัวข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ข้าเผลอมองจนอีกฝ่ายมีท่าทีเขินอาย

 “เจ้ามองข้าเช่นนี้ ข้าเขินนะ”

 “ขะ ข้าเปล่านะ” ข้าก้มหน้าหลบสายตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้น

 “เจ้างดงามจริงๆ ข้ามีนามว่าโจนาธาน เจ้าล่ะ”

 “ขะ ข้าชื่อ....ราพันเซล”

 “รูปก็ช่างงดงาม นามเจ้าก็ช่างไพเราะ ราพันเซล” ข้ารู้สึกแปลกจนไม่สามารถที่จะอยู่เฉยๆได้ จึงทำทีเป็นเดินไปจัดหนังสือ

 “ขะ ขอบคุณ”

 “หากไม่รังเกียจ......ข้าอยากจะขอเจ้า”

 “อะไรหรือ ท่านต้องการสิ่งใด” ข้าหันไปถามเขาอย่างสงสัย

 “เจ้ายินดีแต่งงานกับข้าหรือไม่” คือสิ่งใดกันนะ

 “การแต่งงานคือสิ่งใดหรือ หากข้าตอบตกลงข้าต้องทำเช่นไร”

 “หากเจ้าตอบตกลง เราก็จะได้อยู่ด้วยกัน ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่ ที่เจ้าต้องการจะไป และกลับไปยังอาณาจักรของข้า” ทุกๆที่หรือ คนตรงหน้าเสนอให้ข้า......

 “ทะ ท่านจะพาข้าออกไปจากที่นี่หรือขอรับ” ข้ามองหน้าของโจนาธานอย่างตื่นเต้น

 “แน่นอน ข้าขอสัญญา”

 “ถ้าเช่นนั้น ข้ายินดีจะแต่งงานกับท่าน” โจนาธานมองข้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดีใจสองมือจับมือขอข้าขึ้นมากุมไว้

 “พรุ่งนี้ ข้าจะหาทางพาเจ้าออกไปจากที่นี่ รอข้านะ ข้าจะกลับมา”

 ข้าพยักหน้าตอบรับโจนาธาน เขายิ้มให้ข้าก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนหลังมือเบาๆ ข้าปล่อยผมยาวของข้าเพื่อส่งโจนาธานให้ลงจากหอคอยนี้ เขาสัญญาแล้ว พรุ่งนี้เท่านั้น พรุ่งนี้ เขาจะพาข้าออกไป

 “ช่างกล้าดีนะ ที่คิดจะไปจากข้าที่เลี้ยงดูเจ้ามา!!!”
ข้าสะดุ้งสุดตัวหันไปมองร่างของท่านแม่ที่นั่งอยู่บนไม้กวาดซึ่งกำลังลอยอยู่เหนืออากาศ

 “ทะ ทะ ท่านแม่!!”

 “อย่ามาเรียกข้าว่าแม่!! ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้า!!!” ท่านแม่ตวาดจนสุดเสียงใบหน้าดำแดงจนน่ากลัว

 “ท่านแม่ ได้โปรดฟังข้าก่อนนะขอรับ”

 “บอกว่าอย่ามาเรียกข้าว่าแม่ เจ้ามันก็แค่ไอเด็กที่ข้าเอามาเลี้ยงเท่านั้น”

 “!!!”

 “ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่เจ้าขโมยผักกาดจากสวนของข้า มีรึข้าจะมาเสียเวลากับเจ้าแบบนี้!!!”

 “มะ ไม่จริง” ท่านแม่มองข้าด้วยสัหน้าเย้ยหยัน

 “จริงสิ!!”

 หมับ!!

 “โอ้ย....ข้าเจ็บขอรับท่านแม่” ท่านแม่คว้าผมที่ยาวสีทองของข้าก่อนจะดึงให้ตัวข้าเข้าไปหาตัวจนใบหน้าของข้าแหงนเงยขึ้น

 “ผมเจ้ายาวไปแล้วราพันเซล มันยาวจนพาเอาผู้ชายแปลกหน้าและคิดจะพากันไปจากข้า!!!”

 “!!!” ข้าเบิกตากว้างไม่เคยสักครั้งที่ข้าคิดจะทิ้งท่านแม่ไป ข้าคิดจะพาท่านแม่ไปกับข้าด้วยซ้ำ

 “ถ้าเจ้าคิดจะไป ก็ไป”

 “ฮื่อๆ ท่านแม่ขอรับ” ข้าเสียใจจนไม่อาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

 “แต่ข้าไม่ให้เจ้าเอาสิ่งที่ข้าเลี้ยงมาไปด้วย!!!”

 ฉับ ฉับ ฉับ

 ผมที่เคยยาวสลวยของข้าถูกตัดออกจนสั้นปลายผมที่ขาดสะบั้นล่วงหล่นลงพื้นข้ามองเส้นผมกองนั้นอย่างหมดแรงจนต้องทิ้งร่างลงบนพื้นนิ่ง

 “ฮื่อๆๆ ท่านแม่ ทำไม ทำไม”

 “เจ้าอยากไปจากข้า ข้าก็จะส่งเจ้าไป ไปไกลๆจนไม่สามารถเจอชายผู้นั้นอีก!!!”

 หลังจบคำแสงก็สว่างจนแสบตาทำให้ข้าไม่สามารถมองเห็นอะไรอีก แต่เมื่อแสงสว่างค่อยๆหายไป ภาพตรงหน้าข้ากลับเป็นผืนทรายที่ร่างกายข้ารับรู้ถึงความร้อนระอุ ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ตรงหน้าทำให้ข้าหมดกำลังจะทำอะไรอีก

 “ท่านแม่ ฮื่อๆ ทำไมต้องทำกับข้าเช่นนี้” ข้าได้แต่ร้องไห้จนหมดแรง ขาของข้าเคลื่อนไหวไปอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย จนเบื้อหน้าปรากฎโอเอซิสแอ่งน้ำและต้นไม้ที่ร่มรื่นขึ้นพอให้ข้าได้พักบ้าง

   จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีที่ข้าติดอยู่ที่นี่วันๆข้าทำได้แค่ร้องเพลงเคล้าน้ำตา ไม่มีวันไหนที่ข้าไม่รู้สึกเสียใจไม่มีวันไหนที่ข้าไม่รู้สึกหมดหวัง ความหวังก็เหมือนดั่งดาวที่พร้อมจะถูกเมฆกลบจนสิ้นเช่นเดียวกับความหวังของข้าตอนนี้ที่ดับศูนย์ไป

 “ราพันเซล ราพัเซล เจ้าอยู่ที่ไหน” เสียงนี่มัน!!

 “โจนาธาน ข้าอยู่ทางนี้”

 ข้าตะโกนกลับไปหวังว่าโจนาธานจะได้ยินเสียงข้าเดินทางมาทางที่ข้าอยู่ ไม่นานข้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าที่ดังขึ้นไม่ไกลและร่างของชายผู้ที่ข้ารอคอยอยู่บนหลังม้า

 “ราพันเซล เจ้าอยู่นี่หรือ” ท่านไม่เห็นข้าหรือ?

 “เกิดอะไรขึ้น ข้ายืนอยู่ตรงหน้าท่าน ทำไมท่านจึงถามข้าเช่นนี้” โจนาธานมีสีหน้าเศร้าสร้อยลงเมื่อข้าเอ่ยถาม

 “โถ่......ราพันเซล ยอดรักของข้า ข้าปรารถนาจะมองหน้าเจ้าอีกสักครั้งเหลือเกิน” มือของโจนาธานลูบไล้สะเปะสะปะไปทั้วใบหน้าของข้าก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะล้มลงตรงหน้าข้า

 “ท่านเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น” ข้าจับร่างของโจนาธานให้นอนลงใช้ตักของตัวเองเป็นหมอนเพื่อรองศรีษะของเขาเอาไว้

 “วันนั้นข้าไปหาเจ้า ตะโกนเรียกเจ้าเช่นดังเคย หากแต่เมื่อข้าได้ขึ้นไปคนที่ข้าได้พบกลับไม่ใช่เจ้า แต่เป็นแม่มดชราผู้หนึ่ง” ท่านแม่.....ข้าได้แต่ฟังไปพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้ไป

 “นางบอกข้าว่า......แม้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีวันจะได้เจอเจ้าอีก”
โจนาธานใช้มือของเขาจับใบหน้าของข้าอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง ช่างเป็นรอยยิ้มที่สวยงามกว่าครั้งก่อน

 “แต่ในที่สุด ข้าก็ได้พบเจ้าราพันเซล” ข้ามองรอยยิ้มตรงหน้าด้วยน้ำตาที่เริ่มไหลนอง เพียงเพราะข้าคนเดียวเรื่องทุกอย่างถึงได้เป็นเช่นนี้ หยาดน้ำตาหนึ่งหยดหล่นลงกระทบดวงตาของโจนาธานจนบังเกิดแสงสว่างสีทองและเพียงไม่นาน โจนาธานยันกายเพื่อลุกขึ้นใช้มือทั้งสองข้างจับแขนของข้า ใบหน้าข้าราวกับต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง

 “ราพันเซล!!” ข้ามองดวงตาสั่นระริกของโจนาธานอย่างไม่เข้าใจ

 “หระ หระ หรือว่า”

 “ใช่แล้ว!! ในที่สุดข้าก็ได้เห็นใบหน้าของเจ้าอีกครั้ง ที่รักของข้า” โจนาธานสวมกอดข้าอย่างดีใจและข้าก็เช่นกัน เราสองคนกอดกันอยู่สักพักเสียงหัวเราะด้วยความสุขดังอยู่ไม่ขาดสาย เมื่อความเศร้าได้ถูกปัดเป่าความสุขย่อมมาแทนที่
   
           โจนาธานพาข้าขี่ม้าเดินทางข้ามทะเลทรายสองวันจนเรามาถึงอาณาจักรของเขา ข้ามองเห็นการต้อนรับอย่างดีจากผู้คนมากมาย ทำไมเขาถึงเป็นที่รู้จักของคนมากมายเช่นนี้กันนะ ทุกคนตะโกนโห่ร้องไปมาด้วยความดีใจ ทันทีที่ตัวม้าไปถึงบ้านซึ่งใหญ่มากๆในสายตาข้า ก็มีชายร่างท้วมวิ่งออกมาด้วยสีหน้าตกใจและตามมาด้วยร่างของใครต่อใครอีกหลากหล่ยคน ช่างมากหน้าหลายตาเสียเหลือเกินบ้านของโจนาธาน

 “โจน!!! ลูกหายไปไหนมา รู้ไหมพ่อให้ทหารตามหาเสียทั่วทั้งเมือง” ชายชราตรงหน้าสวมกอดโจนาธานด้วยน้ำตา ทหารคืออะไร???

 “ขอโทษครับท่านพ่อ ข้าหลงทางนิดหน่อย”

 “ไม่เป็นไรๆ แค่เจ้ากลับมาพ่อก็ดีใจแล้ว ว่าแต่.......เจ้าพาใครมา” สายตาของชายผู้นั้นเบี้ยงมามองทางข้าอย่างสงสัย

 “ท่านพ่อข้าขอแนะนำ.......นี่คนรักของข้า ราพันเซล”

 “โอ้......ดีๆ เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ต้องจัดงานฉลอง อีกสามวันเตรียมงามมงคลสมรส!!!”

 “ขอรับ!!!” ทุกคนต่างพร้อมใจกันตอบรับคำสั่งอย่างพร้อมเพียง

 “ฮ่าๆ มาๆ ราพันเซลใช่ไหม” พ่อของโจนาธานถามข้า

 “ขะ ขอรับ”

 “ยินดีต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรของเรานะ เจ้าช่างดูงดงามจริงๆ ลูกชายข้านี่ตาถึงจริงๆ ฮ่าๆ”
แม้ข้าจะไม่ค่อยเข้าใจมากนักแต่ข้าก็พร้อมที่จะส่งยิ้มไมตรีให้แก่ท่าน ความนอบน้อมเป็นสิ่งเดียวที่ข้าทำได้ดีเสมอมา

 “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้านะที่รัก นับจากวินาทีนี้ไป ข้าจะไม่มีวันทิ้งเจ้าแน่นอน” ข้ายิ้มรับแก่โจนาธาน มั้นใจในสิ่งที่เขาบอกข้าว่าเขาจะไม่ผิดคำพูดกับข้าแน่นอน

 “ขอบคุณ.....ข้าเชื่อท่าน ข้าจะอยู่กับท่านตลอดไป”


            สามวันต่อมา
   
      หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสามวันแล้วท่านพ่อของโจนาธาน ไม่ใช่สิ พระราชาท่านช่วยตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของข้าจนพบ แต่น่าเสียดายพวกท่านทั้งสองตรอมใจตายหลังจากที่แม่มดใจร้ายคนนั้นได้เอาตัวข้าไปจากท่านพ่อและท่านแม่ ข้าเสียใจเหลือเกินที่ไม่ได้พบหน้าท่านทั้งสอง แต่เมื่อผ่านพ้นเรื่องร้ายๆและเรื่องเศร้าใจ งานแต่งของข้าก็ถูกจัดขึ้น ข้าไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้มายืนจุดนี้ แต่เพียงข้าได้เห็นหน้าของชายผู้เป็นที่รัก ข้าก็มีความสุขที่สุดแล้ว

 “เจ้าคิดอะไรอยู่ หืม....” โจนาธานสวมกอดข้าจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าข้ายืนเหม่อลอยอยู่กลางห้องหอ

 “ข้าแค่มีความสุขที่มีท่านอยู่ขอรับ”

 “อย่ามัวคิดเลยที่รัก คืนนี้เป็นคืนของเรา มาเถอะข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขมากกว่านี้อีกนะ” โจนาธานซุกไซร้ซอกคอของข้าก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาจุมพิศที่ริมฝีปากปลายลิ้นของเราทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันจนเกิดเสียง มือของโจนาธานค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของข้าออกจนหมดเพียงไม่นานตัวข้าก็เปลือยเปล่า เขาถอนริมฝีปากออกมองร่างกายข้าที่ต้องแสงจันทร์ด้วยแววตาพราวระยับจนข้าอาย

 “เจ้างดงามเหลือเกินเมียข้า”

 ชุดของโจนาธานค่อยถูกปลดออกจนเขาเปลือยเช่นเดียวกับข้า วงแขนเขาค่อยๆอุ้มข้าขึ้นแล้วพาร่างของข้าไปวางบนเตียงใหญ่

 “ข้าจะทำเบาๆ อย่ากลัวไปเลย”

 แม้น้ำเสียงของเขาจะทำให้ข้าสบายใจขึ้นสำหรับข้าครั้งแรกของการเข้าหอย่อมทำให้คิดมาก

 “อื้อ”

 ริมฝีปากของเขาดูดดึงยอดอกสีสวยของข้าจนเกิดเสียง ทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆจนต้องแอ่นอกขึ้นรับริมฝีปาก ปลายลิ้นร้อนไล่วนอยู่กับมันราวกับว่าเจอของเล่นที่ถูก มือของเขาลูบไล้ขาเรียวของข้าขึ้นมาจนถึงกลางร่าง ตัวตนของข้าตั้งชูรับฝ่ามือที่จับมันรูดรั้งขึ้นลงตามจังหวะ

 “อ๊ะ อื้อ” ความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นมานั้นข้าไม่เคยรู้จักมาก่อนจนไม่รู้ว่าควรทำตัวเช่นไรดีข้าจึงเลือกที่จะนอนเฉยๆ แต่อาการเสียววาบทำให้ข้าบิดกายไปมาหลายครั้ง

 “ข้าจะค่อยๆทำนะ” ข้าไม่เข้าใจแม้แต่น้อยจนเมื่อปลายนิ้วของเขารุกล้ำเข้ามายังช่องทางที่ข้าไม่คิดว่าจะมีใครล่วงล้ำ

 “อ๊ะ อย่า ข้าอึดอัด” ข้าส่ายใบหน้าที่ชื้นเหงื่อไปมาเพราะรับไม่ได้กับความรู้สึกแน่นและจุก

 “ข้าต้องเตรียมพร้อมเจ้าราพันเซล มันจะดีขึ้น เชื่อข้านะ”

 “อ๊ะ อื้อ” โจนาธานไม่ปล่อยให้ข้าคิดเพราะเมื่อพูดจบเขาก็ขยับปลายนิ้วเข้าออกและหมุนวนอยู่ภายในราวกับหาอะไรบางอย่าง

 “อ๊า!!” อะไรกัน ความรู้สึกเช่นนี้

 “อา.....ตรงนี้เอง”

 ข้าไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร รู้เพียงว่าเมื่อเขาระบายยิ้มออกมาปลายนิ้วของเขาก็เดิ่มจำนวนขึ้น

 “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”

 ข้าทนไม่ได้กับความอึดอัดที่เกิดขึ้นและความรู้สึกที่ข้าอธิบายไม่ถูกรู้เพียงแค่เมื่อเขาขยับปลายนิ้วสะโพกของข้าก็ขยับตามเช่นกัน

 “อ๊า อย่า ข้าไม่ไหว อื้อ” จำนวนนิ้วมือเพิ่มขึ้นจากสองเป็นสามในระยะเวลาไม่นาน ตัวตนของข้าก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา

 “อื้อ แฮกๆ”

 “ข้ารักเจ้า”

 โจนาธานจุมพิตที่หน้าผากข้าแผ่วเบา เขาอาศัยจังหวะที่ข้ายังคงเบลอสอดแทรกสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วมือมาก

 “อ๊า!! เจ็บ ไม่เอา” ข้าได้แต่ดิ้นไปมา มือก็พยายามพลักไสร่างกายที่ทาบทับข้าไว้ให้ออกห่าง แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย

 “อืม....อย่าดิ้นสิ ข้าจะทนไม่ไหวเอา”

 โจนาธานเม้มปากแน่น กายหนาก็ยังคงพยายามกดแทรกสิ่งแปลกปลอมเข้าในช่องทางของข้าช้าๆ ยิ่งเห็นสีหน้าที่ทรมานของเขาทำให้ข้าเผลอหยุดดิ้นไปชั่ขณะ สายตาของเราสองคนสบกันก่อนที่ริมฝีปากของข้าจะถูกอีกฝ่ายดูดดึง รสจูบของเขาทำให้ข้าล่องลอยไปในอากาศจนหลงลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จนหมด

 “อื้อ!!!!!”
 
 ข้าสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลรินอย่างไม่อาจตะห้ามได้เมื่อเขาอาศัยจังหวะที่ข้าเผลอกดกายเข้ามาจนหมด สะโพกของข้ารับรู้ได้ถึงหน้าท้องแกร่งของคนตรงหน้า

 “ไม่เจ็บอีกแล้ว อย่าร้องเลยที่รักของข้า” เขาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของข้าอย่างแผ่วเบาก่อนจะจูบแก้มใสของข้าอย่างรักใคร่

 “อ๊ะ อื้อ”

 ร่างกายของโจนาธานที่มีน้ำหนักมากกว่าข้าเริ่มขยับกายแผ่วเบาอย่าเชื่องช้า เมื่อเห็นว่าข้าไม่เจ็บอย่างตอนแรกเริ่ม เขาก็เพิ่มแรงมากยิ่งขึ้น

 “ดีใช่ไหมราพันเซล อืม....เจ้าชอบใช่ไหม”

 “อ๊ะ อื้ม ชะ อ๊า ชอบ อ๊ะ อ๊ะ ข้าชอบ”

 ร่างกายข้าตอบรับจังหวะแห่งรักที่เขามอบให้อย่างไม่ยอมแพ้ มือของข้าลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างอย่างเป็นเจ้าของ ยิ่งเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านเพิ่มขึ้น ข้ามักจะเผลอจิกปลายนิ้วไปบนแผ่นหลังตรโจนาธานต้องซี๊ดปาก

 “อ๊ะ แรงๆเลยขอรับ ข้า ข้าไม่ไหว อ๊า แล้ว”

 “ข้าก็ไม่ไหวแล้ว อา เจ้ารัดแน่นเหลือเกิน” ฝ่ามือร้อนทั้งสองข้างจับเอวของข้าไว้แน่นก่อนจะดึงให้ตัวข้ารับแรงกระแทกที่เร็วขึ้นจนตัวข้ารู้สึกราวกับขึ้นที่สูง

 “อ๊า อีก อ๊ะ เร็วอีก อ๊ะ”

 เขาทำตามที่ข้าพูดทุกอย่าง ตัวเขาเร่งจังหวะจนตัวข้าสั่นไปด้วยแรงที่โจนาธานกระแทกเข้า ข้าไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าขยับสะโพกเป็นจังหวะตามเขาเมื่อไหร่

 “ใกล้แล้ว อา....เจ้าช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”

 “อ๊ะ อ๊า!!!!!”

 ข้าปลดปล่อยออกมาจนเลอะหน้าท้องของโจนาธานแต่ตัวเขากลับไม่ได้สนใจยังคงเร่งจังหวะของตัวเองต่อจนข้ารับรู้ได้ถึงความร้อนที่ถูกฉีดเข้าไปภายในร่าง โจนาธานล้มกายลงนอนเคียงข้างข้าเราสองคนนอนมองหน้ากันทั้งๆที่ยังคงหอบหายใจด้วยความเหนื่อย

 “ข้ารักเจ้า ราพันเซล จะรักเจ้าตลอดไป”

 “ข้าก็เช่นกัน ข้ารักท่านโจนาธาน จะรักท่านตลอดไป”

   เราทั้งสองต่างยิ้มให้แก่กัน แค่ความรักที่ส่งผ่านแววตาของเราทั้งสองคนแม้ใครอาจจะไม่เข้าใจเราก็ไม่เป็นไร แค่เราทั้งสองคนเข้าใจซึ่งกันและกันก็พอ ความรักทำให้เราทั้งสองได้พบกันอีกครั้งแม้เราทั้งคู่จะอยู่ห่างไกลกัน หากเรารักกันสักวันเราก็จะได้พบกันอีก ข้าเชื่อมั่นในตัวของโจนาธานและโจนาธานก็เชื่อมั่นในตัวข้าเช่นกัน แสงดาวแม้จะถูกเมฆหมอกปรกคลุมแต่ใช่ว่ามันจะเลือนหายไป เพราะเมื่อเวลาที่เมฆหมอกพัดผ่านพ้นไป ดาวก็จะส่องแสงอีกครั้ง เช่นเดียวกับความรักของเราสองคน



The End
[/b][/size]





แหม.....จริงๆแมวคิดว่าเรื่องนี้จะไม่ใส่ฉาก18+ แล้วเชียวเพราะเนื้อเรื่องมันควรจะจบแบบใสๆ แต่แล้วแมวก็แอบไปเติมมัน อ๊าก!!! สับสนกับตัวเอง เรื่องต่อไป แมวจะพาไปแอบในบ้านลูกหมูทั้งสามกันนะคะ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามน๊า  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ในที่สุดก้อสมหวัง...รอลูกหมูต่อจ้า   :pigwrite: :pigwrite: :pigwrite:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ตอนแรกแอบกลัวจบไม่สวย

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ลูกหมูสามตัว 1/3


            กาลครั้งหนึ่ง ณ หมูบ้านอันไกลโพ้น ยังมีหมาป่ารูปร่างสูงใหญ่สองตัว พวกเขาเป็นพี่ชายของข้าแต่ทำไมกันนะ ตัวผมจึงเป็นเพียงหมาป่าตัวน้อย ผมเกิดมาอ่อนแอ เมื่อแรกเกิดแม่บอกว่าผมนั้นไม่ยอมแม้แต่จะดื่มนมต้องบังคับกันหลายครั้ง ผมจึงได้ตัวเล็กกว่าพวกพี่ๆ
จนเมื่อวันก่อน.........

 “พวกลูกโตแล้ว หาอาหารเองกันได้แล้ว แม่ไม่สามารถเลี้ยงพวกลูกได้ตลอดหรอกนะ” แม่พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนเมื่อกำลังของแม่เริ่มไม่ไหวที่จะหาเหยื่อมาให้เราทั้งสามด้วย

 “แต่ท่านแม่....” พี่ชาร์สโอดครวญ พี่ชาร์สคือพี่ชายคนโตของผมครับ

 “เจ้าอ่อนแอล่ะสิ ถึงไม่กล้าออกไปหาเหยื่อเอง” พี่ชาเวซพี่คนรองซึ่งชอบหาเรื่องกัดกับพี่ชาร์สเสมอๆ

 “กล้าว่าพี่รึเชส นายเคยเอาชนะพี่ได้หรือเปล่า” พี่ชาเวซยักไหล่ไม่สนใจคำกล่าวยั่วยุของพี่ชาร์สแม้แต่น้อย แม่นั่งกุมขมับด้วยความเครียด

 “ไปๆ แม่อยากจะพักแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปชาร์ส เชสและชาล็อต ลูกทั้งสามต้องออกไปหาอาหารเองเท่านั้น แม่จะไม่หาอะไรให้ลูกอีกแล้ว”

 ปัง!!

 ผมและพี่ๆต่างมองหน้ากันอย่างหมดอาลัยตายอยาก อ้าว.....มีผมคนเดียวนี่ที่หมดอาลัย เพราะพวกพี่ๆของข้ามีสีหน้าที่ปกติไม่ทุกข์ร้อนใดๆเลยแม้แต่น้อย

 “พี่ชาร์สพี่เชสเอาไงดี”

 “เจ้าจะไปกลัวอะไร๊ มีพี่และชาเวซทั้งคน เดี๋ยวพวกพี่จะสอนเจ้าเอง” ข้าว่าความคิดพี่อันตรายกว่าไม่มีอาหารกินเสียอีกนะ แต่ถึงผมจะคิดเช่นนั้นแต่เพื่อปากท้องยังไงๆผมก็ต้องเรียนรู้การล่าจากพี่ชายทั้งสองอยู่ดี พี่ชาร์สยกยิ้มมุมปากใบหน้าปรากฏความคิดอันชั่วร้ายออกมาอย่างชัดเจน ส่วนพี่ชาเวซก็เอาแต่ยิ้มให้กับหมาป่าสาวที่เดินผ่านไปมาทุกตัว ความเจ้าชู้ไม่เคยหมดไปจากพี่ชายคนนี้ของผมเลย สาวๆหลงใหลได้ปลื้มกับพี่ชายผมทั้งสองคนมาก ถึงขนาดยอมตกลงกันเพื่อแบ่งเวลาจะได้อยู่กับพี่ผมกันครบทุกคน ส่วนผมน่ะหรือ คงมีหรอก หมาป่าตัวเล็กที่ราวกับยังโตไม่เต็มที่อย่างข้าสาวไหนที่จะหันมามองกัน คิดแล้วก็น้อยใจเหลือเกิน หากผมกินให้มากกว่านี้คงจะตัวเท่ากับพี่ๆข้าไปแล้ว

 “พี่คิดออกแล้ว!” อยู่ๆพี่ชาร์ทก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นจนผมกับพี่ชาเวซสะดุ้ง

 “อะไร คิดอะไรออกหรือพี่”

 “หมู่บ้านตรงชานป่าพี่จำได้ว่าเป็นหมู่บ้านของพวกหมู เราไปดักล่าแถวๆนั้นกันดีกว่า”

 “ดะ เดี๋ยว!!” คิดว่าฟังไหมล่ะครับ ไม่มีทาง!! คนอย่างพี่ชาร์ทไม่มีสักครั้งที่จะฟังเพราะตอนนี้เจ้าตัววิ่งนำไปก่อนแล้ว เหลือแต่ผมและพี่ชาเวซที่ยืนมองหน้ากัน

 “เอาไงต่อดีครับพี่เชส”

 “ทำไงได้ พี่ใหญ่สั่งมาแบบนั้น แถมออกตัวไปก่อนแล้ว งานนี้คงต้องตามนั้นแล้วล่ะ” พี่ชาเวซยักไหล่ก่อนจะเดินตามพี่ชาร์สออกไป นี่มีผมคนเดียวใช่ไหมครับที่กลัวการไปที่นั่น แต่จะทำไงได้ล่ะครับ สองเสียงยังไงก็ชนะผู้แพ้ก็ต้องยอมรับและตามไป
 
 ผมเดินตามพี่ชายทั้งสองไปเรื่อยๆจนมาถึงหมูบ้านที่อยู่ชานป่า ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นอย่างที่พี่ชายผมพูดจริงๆ หมู่บ้านหมู นะ น่ากินทั้งนั้นเลยครับ เห็นแล้วท้องผมร้องขึ่นมาทันทีเลย

 “พี่เชสพี่ชาร์ส กินเลยได้ไหม ผมหิว!!” ผมบอกพี่ทั้งสองด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นสุดๆ

 “รอก่อน.....เราต้องหาเหยื่อของตัวเองก่อน แล้วเฝ้ารอโอกาสของเรา” พี่ชาร์ทเก่งเรื่องวางแผนเสมอ ทุกๆอย่างสำหรับพี่ชาร์ทแล้วมันคือเกมส์ที่มีไว้เพื่อความสนุก

 “ดูนั่น หนึ่ง...สอง...สาม เจ้าหมูสามตัว เรามีกันสามพวกมันมีสาม ครบจำนวน”

 “เราเข้าไปดูใกล้ๆดีกว่าพี่ชาร์ส” ว่าแล้วพี่เชสก็เดินนำเราไปใกล้ๆกับต้นไม้ใหญ่เพื่อจะได้ดูเหยื่อของพวกเราอย่างใกล้ชิด

 “แต่แม่ ทำไมพวกเราต้องไปสร้างบ้านกันเองด้วยละครับ”

 “นั่นสิครับแม่ ทำไมพบกเราอยู่กับแม่ไม่ได้” เหมือนพวกมันจะเจอสถานการณ์เดียวกับเรา

 “ฟังนะ ลูอิส รีซ ลีออง ลูกทั้งสามโตเป็นหนุ่มกันหมดแล้ว จะมาอยู่แต่กับแม่ได้ยังไง ลูกต้องไปสร้างบ้านสร้างครอบครัวของลูกเอง เข้าใจไหม”

 หมูทั้งสามพยักหน้าให้กับแม่ของตัวเอง ส่วนผมได้แต่มองหน้าพี่ชายว่าจะเอายังไงต่อ สุดท้ายเลยได้แค่เดินตามเจ้าหมูทั้งสามไปเรื่อยๆแทน ผมกับพี่ๆเดินตามลูกหมูมาจนถึงเนินเขาที่มีความอุดมสมบรูณ์มาก อากาศก็สดชื่น หมูทั้งสามนี่เก่งเรื่องการเลือกที่สร้างบ้านจริงๆ

 “เอาไงต่อดีพี่” ผมหันไปถามพี่ชายทั้งสอง

 “ก่อนอื่น เลือกเหยื่อก่อน พี่จองเจ้าหมูตัวนั้น ผิวขาวน่ากินดีจริงๆ”

 “แต่ตัวเล็กแบบนั้นพี่จะกินอิ่มเหรอ” ไม่ได้ห่วงอะไรหรอกครับ แต่ตัวเล็กๆแบบนั้นผมว่าผมน่าจะล่าได้ง่ายกว่าอีกสองตัวที่เหลือ
 
 “ชาล็อตฟังพี่นะ ที่เลือกตัวเล็กๆเพราะตัวโตๆนั่นพี่เหลือไว้ให้นายไง” ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

 “ไม่เอา พี่ก็รู้ว่าผมไม่ได้แข็งแรงขนาดที่จะล้มไอหมูยักษ์นั่นได้หรอก”

 “ไม่ลองจะรู้ได้ไง เอาน่าลองดูๆ”

 สุดท้ายเป็นไง ผมก็ได้ไอหมูผิวสีแทนร่างหนาๆตัวใหญ่กว่าพี่ชายผมอีกมั้ง ผมว่าเหตุผลคือพี่ๆผมไม่กล้าไปแหยมกับมันมากกว่าเลยโยนภาระมาหาผมแทนแบบนี้ คงกะว่าถ้าผมล้มไอหมูนั่นได้แล้วพวกพี่ๆไม่อิ่มก็คงมากินกับผมแทนน่ะสิ ผมรู้หรอก ผมกับพี่จึงตกลงกันแยกย้ายกันไปเฝ้าเหยื่อของแต่ละคน

--ชาร์ส--
   
        ผมเดินตามเหยื่อตัวน้อยต้อยๆ ให้ตายเถอะ น่ากินอะไรแบบนี้ นี่แค่ผมเห็น ถ้าได้กลิ่นจะขนาดไหน ตัวของหมอนี่ต้องหอมมากแน่ๆ อา อยากกินจัง

 “ผมขอซื้อฟางได้ไหมครับ” เหยื่อตัวน้อยของผมเดินเข้าไปสอบถามชาวนาที่กำลังขนฟางออกไป

 “นายจะเอาไปทำอะไรล่ะ”

 “เอ่อ ผมกำลังจะสร้างบ้านครับ เลยต้องการฟางจากคุณ” ทำไมตัวสั่นได้น่ากินขนาดนี้นะ

 “อ้อ.....อย่างนั้นเหรอ เอาสิ! เอาไปเลยไม่ต้องซื้อหรอก”

 เจ้าเหยื่อตัวน้อยของผมยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะหอบฟางที่ได้มาไปไว้บนเนินเขาอีกครั้ง เจ้าหมูน้อยตัวขาวของผมเดินขึ้นเดินลงเนินเขานับหลายสิบรอบกว่าจะได้จำนวนฟางที่เพียงพอแก่การสร้างบ้านอยู่ โถๆ เจ้าหมูน้อยของพี่ สร้างด้วยฟางแบบนี้ ก็เข้าทางพี่สิครับ หิวจังเลย แต่ต้องอดทน ต้องอดทนรอให้ถึงที่สุดเสียก่อนตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
 
      แดดเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำอะไรผมไม่ได้หรอกเพราะผมยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ สายตาของผมยังคงจับจ้องไปยังภาพตรงหน้าที่เจ้าหมูที่มีเหงื่อหยดย้อยไหลไปตามใบหน้าและลำคอ ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่กลิ่นหอมหวานจากตัวเจ้าหมูตัวนี้ก็ยิ่งแรงขึ้นตามไปด้วย กลิ่นยั่วน้ำลายจริงๆ

 “ร้อนชะมัดเลย” มือเล็กๆบาดไล่เหงื่อที่ไหลกวนใจเจ้าตัวออก อีกข้างก็โบกสะบัดให้ลมช่วยคลายความร้อนออกไปบ้าง ก่อนที่จะลงมือสร้างบ้านของตัวเองอีกครั้ง ผมนั่งรอจนถึงเวลาช่วงเย็นของวันนั้น และเห็นแล้วว่าคงไม่ดีหากผมจะล่าเหยื่อวันนี้ เพราะดูท่าทางเหยื่อตัวน้อยของผมเหนื่อยมามากแล้วต้องให้พักผ่อนเสียบ้างให้ได้กินอิ่มๆ จะได้อยู่ท้องผม ผมจึงกลับไปรวมตัวกับน้องๆอีกครั้งเพื่อจะถามเกี่ยวกับตัวเหยื่อของพวกนั้นบ้างว่าเป็นยังไง

 “เป็นไงบ้างวันนี้”

 ท่าทางสบายใจของเจ้าเชสดูไม่น่าจะต้องห่วงอะไรมาก แต่ท่าทางหมดอาลัยตายอยากของชาล็อตน้องคนเล็กของผมเนี่ยสิ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 “ด้านนายเป็นยังไงบ้างวันนี้เชส” เจ้าน้องชายคนกลางผมยักไหล่ก้วยท่าทางสบายๆ

 “ไม่ไง ดูท่าทางไม่ยาก กลิ่นหอมน่ากินดี” ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปหาไอตัวเล็กของพวกผม

 “แล้วเราละชาล็อต วันนี้เป็นไงบ้าง” ชาล็อตเบะปากราวกับจะร้องไห้จนผมชะงัก

 “พี่ชาร์ส ฮื่อๆ ผมไม่อยากได้เหยื่อตัวนี้แล้วอ่ะ ผมกลัว” ผมเห็นใจน้องนะครับ แต่ผมอยากให้น้องเข้มแข็งถึงได้ให้เจ้ายักษ์นั่นกับน้องไป (จะได้กินอิ่มๆตัวใหญ่ๆ)

 “อย่าคิดมาก พรุ่งนี้พี่เชื่อว่าเราทำได้แน่” อาว เขื่อนแตก นี่ผมพูดอะไรผิดครับ ถึงทำให้น้องร้องไห้ขนาดนี้

 “พี่ๆไม่มาเห็นบ้านที่ไอหมอนั่นสร้างอย่างผมนี่!!!”

 “ทำไม....มันสร้างบ้านบนฟ้าเหรอ”

   ป๊าบ!!

 “ไม่เล่นนะ!! โกรธจริงด้วย” ดูสิ ตีผมเสร็จทำหน้างอนต่อ

 “โอ๋ๆ ไหนเล่าสิ หมอนั่นมันสร้างบ้านยังไง”

 “เขาสร้างบ้านกับอิฐ ฮื่อๆ พี่คิดว่าผมจะทำอะไรอิฐแข็งๆแบบนั้นได้ละพี่!!" เวรกรรม นี่ผมโยนงานหนักให้น้องชายตัวน้อยของผมเหรอเนี่ย

 “อะ เอ่อ พรุ่งนี้เราก็ลองเคาะเรียกสิ ถ้าหมอนั่นเปิดก็จับกินเลย!!” ง่ายไหม ง่ายดีแต่ถ้าเปิดประตูมามันก็ง่ายต่อการจับกิน น้องชายผมคงจับไอหมูยักษ์กินได้แหละ เชื่อสิ!!

 “จริงเหรอพี่!!”

 “อื้อ ใช่ไหมเชส แค่เปิดประตูก็กระโดดกัดเลยใช่ไหม”

 “ใช่สิ แค่นั้นชาล็อตก็จะได้กินหมูตัวใหญ่แล้วนะ” ดีมากไอน้อง ในที่สุดน้องชายผมก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที

 “งั้นเรานอนพักกันก่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้แยกย้ายไปบ้านใครบ้านมัน” อาว ผมพูดอะไรผิด ทำไมหันมามองผมกันแบบนั้นละ

 “ผิดเปล่าพี่ชาร์ส บ้านเหยื่อใครเหยื่อมันเปล่า” เออวะ พูดผิด

 “ฮ่าๆ โทษทีวะ ตื่นเต้นไป หน่อย”
น้องสองคนส่ายหน้ากับความเป็นเด็กของผมที่เอาแต่เล้นสนุกเสียส่วนใหญ่ เอาเถอะครับ พรุ่งนี้พี่จะฟาดหมูให้ดูเป็นขวัญตา!!

        วันใหม่กับอากาศที่สดชื่นและเหยื่ออันโอชะที่เดินออกมาจากบ้านฟาง สงสัยจะไปหาอาหารมากักตุนไว้ในบ้าน วันนี้ผมก็ยังคงเดินตามเจ้าหมูตัวน้อยๆตัวนี้เหมือนเดิมครับ คอยตามดูว่าวันนี้ไปไหน ทำอะไรบ้าง บอกแล้วไงครับ สำหรับผมการล่ามันคือเกมส์และเมื่อเป็นเกมส์มันต้องรอเวลาที่จะจัดการ

 “รีซ.....บ้านนายสวยจัง” เจ้าหมูตัวขาวของผมพูดทักทาย

 “อ้าวพี่ลูอิส บ้านพี่เสร็จแล้วเหรอ” พี่น้องคู่นี้น่ากินทั้งคู่เลยแหะ

 “อะแฮ่ม.....หวังว่าพี่คงไม่ยุ่งกับเหยื่อผมนะพี่ชาร์ส” หึ หวงจริงนะ

 “แน่อยู่แล้ว ก็แบ่งกันแล้วนี่”

 ผมว่าแต่ตาก็ยังมองเหยื่อตัวน้อยที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับบรรดาพี่น้องด้วยความผ่อนคลาย ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองถูกจ้องมองด้วยสายตาของนักล่าอย่างพวกผมทั้งสาม เอ่อ....สามแหละเนอะ ถึงแม้ว่าเจ้าน้องชายตัวน้อยของผมจะตัวเล็ก แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหมาป่าอยู่ดี

 “เคาะประตู แล้วกิน เคาะประตู แล้วกิน เคาะประตู แล้วกิน”
ผมเดินตามลูอิที่เดินไปหาหมูอีกตัว ก่อนหันไปมองตามเสียงถึงได้เห็นชาช็อตที่เดินท่องคำที่ผมเพิ่งจะบอกไปเมื่อคืนมาตลอดทาง คงนืนเฝ้าเจ้านี่นานแล้วสินะ

 “เป็นไงบ้างชาล็อต”

 “พี่ชาร์ส ผมรอเวลาอยู่ครับ แต่ผมจำที่พี่บอกได้นะ เคาะประตูแล้วกิน ผมจำได้” โธ่.....ตัวเล็กของพี่ ยิ้มแบบนี้ ถ้าไม่ใช่น้องชาย ไม่พ้นได้ถูกพี่จับกินแน่ๆ

 “ดีแล้วๆ เด็กดี เดี๋ยวพอพระอาทิตย์ตกดินก็เดินเข้าไปจัดการเลยนะ เข้าใจไหม”

 “ครับพี่”

     ชาล็อตพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน คงจะเตรียมตัวพร้อมแล้วสินะ ผมละปลื้มปริ่มกับการเติบโตของน้องคนนี้เหลือเกิน
หึหึ ในที่สุด เวลานี้ก็มาถึง

 ผมเดินเข้าไปยังตัวบ้านที่ถูกทำขึ้นจากฟางเส้นเล็กๆดูก็รู้ว่ามันไม่แข็งแรงแม้แต่น้อย

  ก๊อก ก๊อก ก๊อก

 “ใครครับ” เสียงหวานดังขึ้นจากในตัวบ้าน

 “ขอฉันเข้าไปหน่อยสิครับ คุณลูกหมูน้อย”

 “หมะ หมาป่า ไม่ได้ครับ ห้ามเข้ามา!!” ผมได้แต่ยิ้มขบขันกับความตื่นตูมของลูอิส น่ารักจริงๆ

 “ถ้าไม่เปิด ฉันจะเป่าให้พังเลยนะ!!” ผมพูดขู่ด้วยน้ำเสียงเข้ม ไม่รู้ว่าป่านนี้จะนอนตัวสั่นอยู่หรือเปล่า

 “อยะ อย่านะ กวะ กว่าผมจะสร้างได้มันนานนะ!!”

 “งั้นก็เปิดให้ฉันเข้าไปสิ” ผมยืนรอคำตอบอย่างสบายใจ

 “ถะ ถ้าผมเปิด คุณก็กินผมน่ะสิ”

 “ไม่หรอก ฉันไม่กินนายหรอก ฉันแค่หนาวมาก ข้างนอกอากาศหนาวจนฉันจะแข็งตายแล้ว” ว่าไปนั่น

 “จระ จริง จริงเหรอครับ เดี๋ยวผมเปิดให้นะ” เสร็จผม

  แอ๊ด...........

 เจ้าลูกหมูค่อยๆโผล่แก้มใสๆออกมาทีละนิดจนผมเห็นแววตาที่หวาดระแวงด้วยความกลัวนั่น ให้ตายเถอะ ผมแทบจะคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว

 “เชิญครับ เดี๋ยวผมหาผ้าห่มอุ่นๆมาให้”

 ในระหว่างที่ลูอิหันไปหาผ้าห่มมาให้อย่างที่เจ้าตัวว่า ผมหันไปล็อคประตูอย่างแน่นหนาก่อนจะหันไปกอดรัดร่างขาวเอาไว้ในอ้อมแขน

หมับ!!

 “ปละ ปล่อยผมนะ!!!” ลูอิสดิ้นไปมาอย่างต้องการจะหนีไปจากผม ไม่มีทางหรอกครับ

 “หึหึ หนีไม่รอดหรอกหมูน้อย กลิ่นหอมดีจริงๆ”
ผมก้มลงไปสูดดมแก้มกลมๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะหันไปขบกัดบริเวณลำคอเบาๆ แต่ด้วยผิวที่ขาวของลูอิสจึงเกิดรอยแดงได้ง่ายๆ

 หอม หอมเหลือเกิน

 “อื้อ อยะ อย่ากินผมเลย ผมไม่อร่อยหรอกครับ” ตัวที่สั่นระริกแบบนี้ยิ่งกระตุ้นบางอย่างให้มันทำงานง่ายขึ้น ให้ตายแค่กอดผมก็ตั้งเสียแล้ว

 “อย่ากลัวไป”
ผมวางร่างของลูอิสลงบนที่นอนก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้ แรงของหมูตัวเล็กๆหรือจะสู้หมาป่าตัวใหญ่อย่างผมได้

 “เดี๋ยวฉันจะทำให้นายรู้สึกดีที่โดนกิน จนต้องร้องให้กินหลายๆรอบเลยล่ะ หึหึ!!”

  ผมก้มลงปิดปากแดงที่ทำท่าจะร้องออกมาเสียก่อนที่ทันจะได้ออกเสียง ดวงตากลมโตเบิกกว้างจนน่าสงสาร แต่ไม่เป็นไรครับ ผมปลอบเก่ง จากร้องไห้ เดี๋ยวก็ได้ร้องคราง หึหึ ก็ผมมันนักรักนี่ครับ ว่าแล้วก็ขอไปกินหมูขาวก่อนนะครับ หิวแล้ว หึหึ......




TBC



            บอกแล้วว่าแมวจะพาไปแอบดูบ้านลูกหมู นี่แค่ตัวแรกนะค๊าาา สำหรับใครหวังขบวนรถไฟไว้ ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้ผิดหวัง ก็แมวเขียนแบบนั้นไม่เป๊นนนน 4P มันยากจริงๆนะคะสำหรับแมว พรุ่งนี้พบกันนะคะ   :katai4:  :katai5:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
หืม..มมมมมม ข้ามสายพันธุ์กันเลยทีเดียว   :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ลูกหมูสามตัว 2/3


    --ชาเวซ--
   
              หลังจากที่เราตกลงเรื่องเหยื่อกันเรียบร้อย ผมก็แยกตัวออกมาเดินตามเหยื่อของผม เกิดมายังไม่เคยเจอใครยั่วอารมณ์ได้ขนาดนี้เลย ท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส ความสดใสในตัวหมูน้อยที่ชื่อรีซมันทำให้เนื้อตัวผมสั่นสะท้านไปด้วยความต้องการ หมาป่าสาวๆในหมู่บ้านของผมไม่มีใครกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของผมได้เท่ากับรีซเลย ผมเดินตามดูรีซห่างแต่ก็ไม่ได้ห่างมากมาย เพียงแค่ไม่ให้เจ้าตัวรู้เท่านั้นว่ากำลังถูกตามอยู่
     
    รีซเดินไปลงจากเนินเขาซึ่งผมเดาว่าคงจะไปหาบางสิ่งเพื่อที่จะใช้ในการสร้างบ้าน ผมอยากจะออกไปช่วย แต่ผมรู้นิสัยตัวเองดีถ้าผมออกไป คงไม่พ้นจับรีซกิน

 “คุณลุงครับ คุณลุง”

 “อ้าว.....รีซ ว่าไงมีอะไรให้ลุงช่วยเหรอ” เจ้าหมูแก่ที่กำลังตัดไม้อยู่หันมามอง

 “ผมอยากจะขอซื้อไม้ของคุณลุงหน่อยครับ”

 “เอ้า....เอาสิ ต้องการเท่าไหร่ล่ะ” รีซนิ่งไปสักพัก

 “ไม่ทราบเลยครับ จะสร้างบ้านนี่ผมต้องใช้เท่าไหร่ครับ” รีซถามด้วยความไม่แน่ใจ

 “เอาแบบนี้ ลุงเอาแค่นี้ก็พอ รีซขนไปเท่าที่ต้องการได้เลย” รีซยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

 “ขอบคุณครับคุณลุง”

 ผมมองรีซที่ยังคงคุยเรื่องอื่นๆกับเจ้าหมูแก่ตัวนั้นด้วยความไม่สบอารมณ์เลย ผมไม่ชอบที่รีซไปคุยกับใครไม่ชอบที่รีซเอาแต่ยิ้มแบบนี้ให้กับทุกคน และผมไม่ชอบที่ผมเป็นคนที่อยู่ในเงามองเขาอยู่ห่างๆทั้งๆที่จริงๆแล้วผมอยากจะไปดึงเขามาเก็บไว้คนเดียว ไม่ให้ใครได้เห็นเขาอีก

 “กรอด!!! จะคุยกันไปถึงไหนวะ” ผมกำมือทุบต้นไม้อย่างแรงจนมันไหว ไม่รู้หรอกว่ามันทำให้เขาทั้งสองคนสะดุ้งด้วยความตกใจไหม แต่ถ้ามันแยกพวกเขาได้ให้หักมันทั้งต้น ผมก็ทำ!!!
   
       ในที่สุดรีซก็ยอมออกมาจากหมอนั่นเสียทีและมันก็ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นทันตา ผมยังคงใช้เวลาเดินตามรีซอยู่ตลอด กลัวหายครับ ยิ่งน่ากินๆอยู่ด้วย รีซขนไม้ที่ได้ขึ้นเนินเขาไป มือเล็กๆต้องหอบกองไม้คนเดียว ผมแอบเห็นผิวขาวๆเป็นรอยถลอกแดงจากการบาดของกิ่งไม้ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือเกิน แต่ก็ได้แต่อดทนเท่านั้น
   
         เมื่อได้เยอะจนพอใจ รีซก็ลงมือสร้างบ้านทันที ผมหลบแดดที่ร้อนด้วยการขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ นั่งมองร่าฃกายขาวบางตรงหน้าที่ขมักเขม่นในการลงมือสร้างที่อยู่อาศัย ก่อเป็นรูปร่างคร่าวๆขึ้นมาให้ได้เห็น รีซใช้มือเล็กหยิบผ้าขึ้นมาซับใบหน้าของตัวเองที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ผมนั่งมองรีซอยู่อย่างนั้นจนเย็น เมื่อพระอาทิตย์ตกดินรีซก็เดอนลงจากเนินเพื่อนกลับไปยังบ้านของแม่ตัวเอง ผมเดินตามไปเพื่อให้แน่ใจว่าระหว่างทางรีซไม่ได้โดนใครคาบไปกินก่อนผม เมื่อรีซเดินเข้านไปผมก็เดินกลับไปหาพี่น้องของตัวเอง ผมเห็นชาล็อตที่นั่งหน้าสลดอยู่ตรงหน้าจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่าฃสงสัย เกิดอะไรขึ้นกับน้องผมกันเจ้าตัวถึงได้มีสีหน้ากังวลแบบนั้น ผมจึงเลือกที่จะเดินไปหาและทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆอย่างเป็นห่วง ในบรรดาพี่น้องผมเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด พี่ชาร์สเป็นคนที่พูดมากที่สุด และชาล็อตจะเป็นเด็กขี้กลัวที่สุด
 
     พอดึกมาขึ้นพี่ชาร์สที่นั่งอยู่ข้างๆก็ชวนชาล็อตคุยให้น้องหายเศร้า ผมรู้ว่าพี่ชาร์สหวังดีอยากให้ชาล็อตเข้มแข็งดูแลตัวเองได้ แต่จากที่ผมดูขนาดตัวของไอหมูยักษ์แล้ว ผมว่ายากที่จะให้ชาล็อตไปสู้มัน ผมนั่งมองพี่ชาร์สไปเรื่อยๆ อยากจะรู้จริงๆว่าพี่ชาร์สจะทำยังไง

 “ทำไม....มันสร้างบ้านบนฟ้าเหรอ”

 ป๊าบ!!

 “ไม่เล่นนะ!! โกรธจริงด้วย” ผมนั่งขำกับมุขของพี่ชายที่พยายามเหลือเกินให้น้องชายขำ แต่แทนที่จะขำน้องกลับฟาดมือลงบนแขนแทน แถมน้องยังงอนใส่อีกด้วย

 “โอ๋ๆ ไหนเล่าสิ หมอนั่นมันสร้างบ้านยังไง”

 “เขาสร้างบ้านกับอิฐ ฮื่อๆ พี่คิดว่าผมจะทำอะไรอิฐแข็งๆแบบนั้นได้ละพี่!!" นั่นไงครับ ไอหมูยักษ์นั่นมันฉลาด พี่ชาร์สตัวดีนั่งหน้าซีดเผือด ผมล่ะอยากจะรู้จริงๆ ระหว่างไอหมูยักษ์กับพี่ชาร์สจอมกระล่อนใครมันจะเหนือชั้นกว่ากัน

 “อะ เอ่อ พรุ่งนี้เราก็ลองเคาะเรียกสิ ถ้าหมอนั่นเปิดก็จับกินเลย!!” เอ้า เอากับพี่ผมสิ แทนที่จะแนะนำวิธีดีๆให้น้องดันเสนอให้ไปเคาะประตู แต่บางทีมันอาจจะดีก็ได้นะสำหรับไอตัวเล็ก วิธีนี้อาจจะดีที่สุด

 “จริงเหรอพี่!!”

 “อื้อ ใช่ไหมเชส แค่เปิดประตูก็กระโดดกัดเลยใช่ไหม”

 “ใช่สิ แค่นั้นชาล็อตก็จะได้กินหมูตัวใหญ่แล้วนะ” ผมยืนยันอีกเสียงจนน้องยิ้มออกมาได้ พวกเราจึงได้แยกย้ายกันไปนอน

         วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมยังคงนั่งเฝ้ารอรีซเช่นเดิม รีซยังเป็นรีซที่แม้จะเหนื่อยและร้อนแค่ไหนก็ยังคงมีรอยยิ้มให้ได้เห็น จนผมเห็นเจ้าหมูอีกตัว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อลูกอิส หมอนี่มันเหยื่อของพี่ชาร์สนี่ ผมมองทั้งคู่ที่ทักทายกันด้วยรอยยิ้ม

 “รีซ.....บ้านนายสวยจัง”

 “อ้าวพี่ลูอิส บ้านพี่เสร็จแล้วเหรอ” ผมได้ยินเสียงฝีเท้าด้านล่างที่ผมอยู่ผมจึงมองลงไป พี่ชาร์ทยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มองตรงไปยังหมูน้อยทั้งสองด้วยแววตาที่ทำให้ผมต้องกระโดดลงมา

 “อะแฮ่ม.....หวังว่าพี่คงไม่ยุ่งกับเหยื่อผมนะพี่ชาร์ส” ไม่ได้หรอกครับ สายตาแบบนี้ ผมไม่ไว้ใจ

 “แน่อยู่แล้ว ก็แบ่งกันแล้วนี่”
หึ ให้ในจริงเถอะครับพี่ เพราะต่อให้เป็นพี่ก็ตามผมก็ไม่ยอมปล่อยเอาไว้แน่!!!
พี่ชาร์สเดินตามเหยื่อของตัวเองออกไป ส่วนผมก็ยืนเฝ้าเหยื่อของตัวเองต่อ มันก็แค่รอเวลาเท่านั้น แค่รอให้พระอาทิตย์ตก รีซก็จะเป็นของผมคนเดียว ระหว่างนี้แค่อดทนรอ

 “ในที่สุด ก็ถึงเวลาเสียที หึหึ”
ผมเดินตรงไปยังตัวบ้านที่ถูกทำขึ้นจากไม้ ภายในตัวบ้านนั้นมีสิ่งที่ผมต้องการอยู่ ไม่ว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องได้มา

 “รีซ.......เปิดประตูหน่อย”

 “ใครครับ!” เสียงหวานถามกลับมาอย่างไม่แน่ใจ

 “เปิดสิครับ จะได้รู้ว่าเป็นใคร”

 “เพียซเหรอ ใช่เพียซหรือเปล่า”

   ปัง!!!

 “เปิดเดี๋ยวนี้!!!” ความอดทนผมสิ้นสุดเมื่อได้ยินชื่อของคนอื่นออกจากปากของรีซ นั่นทำให้ผมทุบประตูอย่างแรงโดยไม่กลัวว่ามันจะพังเลยแม้แต่น้อย

 “ออกไปจากบ้านผมนะ!!” เสียตะโกนไล่ดังมาจากข้างใน กับผมนี่ไล่ หรือว่ารอใครอยู่

 ปังๆๆ

 “เปิดประตู!!! ไม่งั้นฉันจะเป่าให้พังไปเลย!!”ผมไม่เคยขู่ และไม่คิดจะขู่ เพราะผมเอาจริงๆ

 “ไม่มีทาง บ้านผมแข็งแรง มันไม่มีทางพังง่ายๆ!!” หึ......สงสัยจพอยากลองดี ได้!!
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆเพราะผมภนัดทำมากกว่า ในเมื่อเจ้าตัวเขาอยากจะลองของ ผมก็จะจัดให้ ผมถอยออกมาจากตัวบ้านเล็กน้อยก่อนจะหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ

    ผมปล่อยลมออกไปอย่างแรงทำฝห้ตัวบ้านที่ดูไม่ได้แข็งแรงอะไรอยู่แล้วนั่นลู่ไปกับลมจนแทบพัง เสียงร้องของรีซดังเข้ามาในหูผม ผมแค่อยากจะทำให้เจารู้เท่านั้นว่าผมทำได้อย่างที่พูดจริงๆ ผมหยุดเป่าแล้วเดินเข้าไปใกล้ประตูอีกครั้ง

 “เปิด!! ถ้าไม่เปิดคราวนี้จะพังจริงๆ”

 ประตูค่อยๆเปิดออกพร้อมกับรีซที่มีน้ำตานองหน้า ผมมองไปยังร่างของรีซแล้วใจอ่อนยวบ ดวงตารีซเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าผมที่ยืนอยู่หน้าประตูคือหมาป่า และอาจจะด้วยความตกใจทำให้รีบปิดประตูแต่ด้วยความที่ผมเร็วกว่าทำให้รั้งประตูเอาไว้ได้ทัน

 “ออก ออกไปนะ!!” มือเล็กๆพยายามดันประตูให้ปิดอีกครั้งแต่ก็ยังสู้แรงของผมไม่ได้อยู่ดี แน่ละครับ ตัวนิดเดียวจะมาสู้หมาป่าตัวใหญ่อย่างผมได้ยังไง ผมตัดสินใจใส่แรงลงไปให้มากขึ้นจนร่างเล็กๆล้มกองลงไปกับพื้นและนั่นทำให้ประตูเปิดออกกว้างจนผมสามารถเข้าได้ไปผมปิดประตูตาหลังทันทีที่เข้ามาได้

 “อยากินผมเลยนะ ผมไม่อร่อยหรอกนะ ปล่อยผมไปเถอะ” ผมค่อยๆก้าวเข้าไปหาด้วยความเอ็นดู ช่างน่ารักจริงๆ กลิ่นก็ช่างหอมหวาน แปลก.....เพียงแค่ได้กลิ่นก็ทำให้ผมมีอารมณ์ได้ขนาดนี้ ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับผม

 “จะกลัวทำไม หืม.....มาสิ มานี่มา”

 “ไม่เอา!! ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!” ผมกัดฟันด้วยความโมโหเมื่อรีซร้องเรียกให้คนมาช่วย ใครก็เข้ามาไม่ได้!!! ผมจับร่างของรีซเหวี่ยงไปบนที่นอนของเจ้าตัวก่อนจะคล่อมร่างรีซเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

 “นายร้องหาใคร!! คิดว่าใครมันกล้าเข้ามาช่วยนายงั้นเหรอ!!” รีซได้แต่มองผมอย่างหวาดกลัว ผมไม่สนใจปฏิกิริยาของรีซแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้ผมรู้แค่ว่า รีซเป็นของผม

 “อย่าร้องนะเด็กดี เราจะมีความสุขกันสองคน”

 ผมปิดปากของรีซด้วยริมฝีปากผมไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ส่งเสียงใดๆอีก กลิ่นหอมจากร่างกายยังไม่เท่าควาทหวานจากริมฝีปากที่ผมได้ชิม

 หวานอะไรอย่างนี้

 ผมหลงใหลรสชาติที่ได้ชิมจนไม่อยากผละออกจากร่างบางตรงหน้า ความร้อนรุ่มเล่นงานผมจนปวดไปหมดร่างกายช่วงล่างแทบจะระเบิดและผมคงไม่ปล่อยให้อาหารอันโอชะตรงหน้านี้ไปเป็นของใครเด็ดขาด หึหึ......คนอย่างชาเวซไม่มีวันปล่อยให้ลูกหมูตัวนี้ไปเป็นของคนอื่นอยู่แล้ว หากใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้คงได้ยินเสียงครวญครางของผมและรีซที่ดังตลอดทั้งคืน หึ.....ผมไม่บอกหรอกนะว่ารีซหวานแค่ไหน เพราะผมจะต้องเป็นคนเดียวที่รู้ ว่าแต่.....หาอาหารไม่ได้แต่หาเมียเข้าบ้านได้นี่ แม่จะว่าไงนะ


TBC


ชาเวซรังแกน้องงงงง สงสารรีซเลยใช่ไหมคะ จริงๆถ้าเป็นแมว แมวหมั่นใส้ชาร์สมากที่สุดเลย แล้วทุกคนหมั่นใส้ใครคะ อ๊ะๆ แต่อาจจะยังตัดสินไม่ได้จนกว่าจะได้อ่านเรื่องของชาล็อตสินะคะ วันศุกร์แมวจะมาลงชาล็อตให้อ่านกันนะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆคนที่เข้ามาอ่านค่าาาา    :really2: :pigha2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สังหรณ์ใจว่าชาล็อต จะเป็นฝ่ายโดนพี่หมูจับกิน  :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
ลูกหมูสามตัว 3/3


        —ชาล็อต—


        โอ้ย!!! ทำไมผมต้องซวยได้เหยื่อตัวใหญ่กว่าด้วยนะ ไอดีมันก็ดีที่ได้กินอิ่ม มีกินนานๆ แต่คิดดูสิครับ ผมจะไปล่าหมูยักษ์ยังไง ตัวมันใหญ่กว่าผมตั้งสองเท่า ไม่รู้เป็นหมูหรือตัวอะไรกันแน่ ผมค่อยๆเดินตามหลังไอหมูยักษ์ที่ชื่อลีอองไปเรื่องๆ เห็นมันไปขนหินขนดินมากองรวมๆไว้บนเนินเขา ไม่เข้าใจเลยว่ามันหามาทำอะไร จะด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ไอหมูยักษ์มันถอดเสื้อออกจากตัวไป ผมเห็น.....กล้าม กล้ามทั้งนั้นเลยครับ!! แล้วขี้ก้างอย่างผมมันจะไปงัดกล้ามได้ยังไง!!!! พี่ชาร์สพี่เชส ช่วยชาล็อตด้วยคร๊าบบบบบ

     เจ้าหมูลีอองพยายามก่อรูปร่างของดินและหินที่ตัวเองผสมไว้ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อนจะนำไปตากแดด อยากจะเดินเข้าไปถามเหลือเกินว่าทำไปเพื่ออะไร เอาเวลาไปสร้างบ้านดีกว่าไหม แต่ก็เท่านั้น ผมกล้าเดินไปที่ไหน แค่วูบหนึ่งที่รู้สึกเหมือนเขามองมาที่ผมก็รู้สึกฉี่จะราดอยู่แล้ว เดินไปหามีหวังอึราดแน่ๆ ผมนั่งเฝ้า นั่งรอจากตะวันตรงหัวจนตะวันเกือบจะลับฟ้ายังไม่เห็นวี่แววว่าหมอนี่จะทำอะไร แต่จู่ๆ....เจ้าหมูยักษ์ลีอองก็หยิบไอสิ่งที่ตากเอาไว้มาก่อเรียงตัวกันขึ้นไปเรื่อยๆจนสูง ให้ตายเถอะ ผมว่าแล้วว่าหมอนี่มันคิดจะทำบ้าอะไรไม่ยอมสร้างบ้าน ที่แท้หมอนี่ก็คิดจะสร้างบ้านจากอิฐนี่เอง แค่ตัวใหญ่ก็ล้มยากแล้วนะนี่ยังจะสร้างบ้านที่แข็งแรงอีก แล้วผมจะเอาปัญญาที่ไหนไปล้มม๊านนน!!!! ชาล็อตเอ้ยชาล็อต เวรกรรมอะไรของแกวะเนี่ย

     พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็กลับไปหาพี่ชายทั้งสองคนแต่ผมดันมาถึงคนแรกเนี่ยสิ มีใครสนใจผมบ้างไหมว่าเครียดขนาดไหน ผมนั่งจับเจ่าอยู่กับที่ ติดวิธีต่างๆนาๆที่พอจะเอาชนะไอยักษ์ได้ ไม่มีเลย!! ผมคงต้องไปตายสักสองรอบมั้งครับ ถึงจะเอาชนะไอยักษ์ได้

 “แล้วเราละชาล็อต วันนี้เป็นไงบ้าง” ผมเบะปากจะร้องไห้ เมื่อพี่ชาร์สถามจี้จุด

 “พี่ชาร์ส ฮื่อๆ ผมไม่อยากได้เหยื่อตัวนี้แล้วอ่ะ ผมกลัว” แลกกันเถอะนะพี่ แต่ก็พูดไม่ออก

 “อย่าคิดมาก พรุ่งนี้พี่เชื่อว่าเราทำได้แน่” พี่ชาร์สพูดออกมาได้ยังไง ผมปล่อยน้ำตาไหลนองหน้าให้เห็นไปเลยว่าผมร้องไห้เนี่ย

 “พี่ๆไม่มาเห็นบ้านที่ไอหมอนั่นสร้างอย่างผมนี่!!!”

 “ทำไม....มันสร้างบ้านบนฟ้าเหรอ”

  ป๊าบ!!

 “ไม่เล่นนะ!! โกรธจริงด้วย” ผมงอนพี่ชายแล้ว คนกำลังเครียดๆ พูดอะไรก็ไม่รู้

 “โอ๋ๆ ไหนเล่าสิ หมอนั่นมันสร้างบ้านยังไง”

 “เขาสร้างบ้านกับอิฐ ฮื่อๆ พี่คิดว่าผมจะทำอะไรอิฐแข็งๆแบบนั้นได้ละพี่!!" จะใช้ฟันแทะก็กลัวว่าฟันจะหัก จะต่อยให้พังก็กลัวมือหักอีก

 “อะ เอ่อ พรุ่งนี้เราก็ลองเคาะเรียกสิ ถ้าหมอนั่นเปิดก็จับกินเลย!!” จริงด้วย!! ทำไมผมคิดไม่ได้นะ

 “จริงเหรอพี่!!”

 “อื้อ ใช่ไหมเชส แค่เปิดประตูก็กระโดดกัดเลยใช่ไหม”

 “ใช่สิ แค่นั้นชาล็อตก็จะได้กินหมูตัวใหญ่แล้วนะ” นั่นสินะ แค่เคาะประตู พอเจ้ายักษ์นั่นเปิดผมก็กระโดดเขใส่ แค่นี้ก็ได้กินหมูแล้ว พอสบายใจผมก็เริ่มง่วงเลยแยกย้ายกับพี่ๆไปพักผ่อนเอาแรง สบายใจจัง พรุ่งนี้ก็มีหมูตัวใหญ่ๆกินอิ่มท้องแล้ว

          เบื่อจังเลย เบื่อจังเลย อยากกินหมูจังเลย เมื่อไหร่จะถึงเวลานะ ผมอยากกินแล้ว ท้องผมร้องบอกว่าหิว ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากกิน แต่ใจหนึ่งผมก็กลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะสู้หมูใหญ่ลีอองไม่ได้

 “เคาะประตู แล้วกิน เคาะประตู แล้วกิน เคาะประตูแล้วกิน” ระหว่างที่สองตามองตรงไปยังร่างไอหมูยักษ์ ปากผมก็ท่องวิธีที่พี่ชาร์สบอกกันลืม

 “เป็นไงบ้างชาล็อต”

 “พี่ชาร์ส ผมรอเวลาอยู่ครับ แต่ผมจำที่พี่บอกได้นะ เคาะประตูแล้วกิน ผมจำได้” ผมส่งยิ้มกว้างให้พี่ชายด้วยความตื่นเต้น

 “ดีแล้วๆ เด็กดี เดี๋ยวพอพระอาทิตย์ตกดินก็เดินเข้าไปจัดการเลยนะ เข้าใจไหม”

 “ครับพี่”

 พระอาทิตย์ตก แค่พระอาทิตย์ตกดินผมก็จำด้กินแล้ว ดีใจจัง ตื่นเต้นจังเลย ผมนั่งรอแล้วรอเล่ารอจนเจ้าหมูตัวใหญ่นั่นสร้างบ้านจนเสร็จ สวยชะมัด ผมเห็นแล้วอดทึ่งในความอดทนของมันไม่ได้ คิดๆดูแล้วหมอนี่ก็ฉลาดใช่ย่อยนะ หินเอาดินมาสร้างก่อรูปก่อร่างให้เป็นอิฐแล้วเอามาสร้างบ้านต่อ แข็งแรงทนทานเสียด้วย

 “อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว เย้ พระอาทิตย์ตกแล้ว!!!” ผมเดินตางไปยังตัวบ้านตรงหน้า ตอนเดินมาก็ดีหรอก แต่พอมาถึงนี่สิ ทำไมตัวผมสั่นละ

  ก๊อก ก๊อก ก๊อก

 ผมเคาะประตูเสียงไม่ดังมากนักด้วยมือที่สั่น แต่รอแล้วรอเล่า เจ้าหมูก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ผม ทำไงดี ก็พี่ชาร์สบอดให้เคาะพอเปิดแล้วกิน เคาะแล้วไม่เปิดแบบนี้ผมควรทำไงล่ะ ระหว่างที่คิด ผมดันเหลือบไปเห็นปล่องไฟที่หางตา ความคิดชั่ววูบดันขึ้นมาในสมองเสียอย่างนั้น

 “เอาวะ!! ปีนก็ปีน!”

 ผมตัดสินใจปีปล่องไฟ ในเมื่อเจ้าหมูลีอองไม่ยอมเปิดประตู ผมก็ต้องเสี่ยงปีนเข้าไปเท่านั้น โชคดีที่ไม่ได้มีการจุดไฟใดๆ ไม่งั้นผมคงกลายเป็นหมาป่าย่างสดไปแล้ว พอแอบเข้ามาได้ ผมก็ค่อยๆเดินหาไปหมูยักษ์ทันที บ้านก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย แล้วอยู่ๆหมูยักษ์มันหายไปไหนได้

 “จ๊ะเอ๋....”

 “เฮ้ย!!!” ผมแทบจะกระโดดหนีทันที ติดอยู่ที่ว่า ไอหมูลีอองมันดันกอดผมเอาไว้จากทางด้านหลังเนี่ยสิ

 “ปล่อยนะ ปล่อยนะไอหมูยักษ์ ไม่งั้นจะจับกินนะ!!” ผมขู่มันรู้ดีครับว่าเสียงตัวเองสั่นแค่ไหน

 “หึหึ อยากกินเหรอ”

 “อยากกินสิ จะให้เรากินเหรอ” ผมหยุดดิ้นทันทีที่ไอหมูมันถามราวกับว่าจะให้ผมกินมันง่ายๆ

 “ให้สิ ให้กินแน่นอน” มือใหญ่ค่อยเกลี่ยผมของผมให้ออกไปพ้นหน้า ทำไมไอหมูนี่มองผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนเวลาที่พี่ชาร์สมองสาวๆเลย

 “จริงนะ!! เราสัญญาเลยว่าเราจะกินเบาๆ ไม่ให้นายเจ็บเลยนะ!!” ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดก็จะได้กินแล้ว

 “กินแรงๆก็ได้ เราชอบ” ไอหมูบ้านี่ทำไมมันต้องมากระซิบข้างๆหูผมด้วยนะ ผมย่นคอหนีเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจร้อนที่สัมผัสผิวแก้มของผม

 “กินได้เลยไหมอ่ะ เราหิวแล้ว”

 “ได้สิ แต่ต้องกินส่วนนี้ก่อนนะ” ผมมองตามมือใหญ่ที่ปลดกางเกงลงจนเห็นส่วนสำคัญของความเป็นชายตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

 “ตะ แต่เราไม่ชอบกินตรงนั้น” ผมไม่อยากกินเลยอ่ะ กินพวกแขนหรือขาไม่ได้เหรอ

 “อร่อยนะ กินๆไปสักพักจะมีน้ำหวานออกมาด้วย” ผมตาโตเมื่อเจ้าหมูยักษ์พูดถึงน้ำหวาน ผมชอบของหวานๆ

 “จริงๆเหรอ”

 “จริงสิ มาสิ มาลองกินมันดู”

 “ก็ได้” ผมคุกเข่าลงไปที่เจ้าตัวใหญ่ที่ใช้สองมือของผมกอบกุมเอาไว้ไม่หมด

 “แต่ว่าเวลากินเนี่ย ห้ามกัดนะ ต้องดูดและอมมันเท่านั้น”

 “ทำไมล่ะ!” ไม่กัดแล้วจะกินยังไง

 “เพราะถ้ากัดละก็ น้ำหวานก็จะไม่ออกมา”

 เอาวะ ไม่กัดก็ไม่กัด เอ่อ.....ต้องทำไงบ้างนะ อมกับดูด ผมค่อยๆเอาความใหญ่โตนั่นเข้าไปในปากอย่างช้าๆ มันใหญ่จนคับไปทั้งปาก ผมอึดอันจนอยากจะเอาออกแต่พอผมดึงออกได้เกือบหมด มือใหญ่ก็กดหัวผมลงไปอีก

 “อา”

 ผมเลยจำใจต้องดูดและอมมันไว้อย่างนั้น แม้ว่ามันจะอึดอัดแค่ไหนก็ตาม ผมดูดส่วนปลายอย่างแรงมือก็ประคองความใหญ่โตนั่นเอาไว้ให้ดูดได้อย่างถนัดๆ

 “ซี๊ด ดี เลียหน่อยสิครับ”

 ผมเหลือบตาขึ้นมองเห็นไอหมูยักษ์เงยหน้าขึ้นซูดปากร้องคราง หรือว่ามันเจ็บ เลยให้ผมเลีย เอาวะ ถือว่าทำบุญ ดันไปบอกมันไว้ด้วยสิว่าจะกินไม่มห้เจ็บ ผมตวัดลิ้นเลียไปรอบๆส่วนปลายสุดก่อนจะใช้ลิ้นเลียไปตามรอยแยกจนได้ยินเสียงครางดังลั่น

  “อ๊า ดีจังเลย ดูดแรงๆเข้าไว้นะครับ น้ำหวานจะได้ออกมาเร็วๆ”
ผมรีบดูดความใหญ่โตนั่นอย่างรวดเร็ว กลัวว่าหากปล่อยไว้นาน น้ำหวานของผมจะแห้งหายไปเสียก่อนเนี่ยสิ

 “อู้ๆ อื้อ” มือหนาจับศีรษะของผมเอาไว้ก่อนจะดันเข้าออกอย่างรวดเร็วจนหายใจไม่ออก ผมพยายามดันร่างของไอหมูยักษ์ออกแต่ก็สู่แรงมันไม่ได้ มือที่จับศีรษะของผมโยกเข้าออกเริ่มแรงขึ้นๆจนผมหายใจไม่ออกและอยากจะอ้วก เพราะรู้สึกว่ามันเข้าไปลึกจนเกือบจะถึงคอหอยผมอยู่แล้ว

 “มันจะออกมาแล้ว กินให้หมดเลยนะ อ๊า!!”
น้ำหวานอุ่นๆถูกฉีดเข้าไปในโพรงปากของผมเป็นระยะๆจนหมด ผมค่อยๆกลืนมันลงคอทั้งๆที่ไอหมูบ้านี่ยังไม่ยอมถอนความใหญ่โตออกจากปากผมไปด้วยซ้ำ

 หวานจริงด้วย

 พอเห็นว่าผมดูดน้ำหวานจนหมดแล้วทุกหยดหยาด ไอหมูลีอองก็เอามันออกจากปากผมไป

“แค่กๆ”

 ผมสำลักความคาวที่คละคลุ้งออกมาจากปากจนแตะจมูก ถึงรสมันจะหวาน แต่กลิ่นแบบนี้ผมไม่เอาแล้ว หมูลีอองจับแขนผมให้ลุกขึ้นทั้งๆที่ยังไม่หยุดไอด้วยซ้ำ

 “ต่อไปก็ได้เวลากินจริงๆแล้วนะ”

ผมตาโตด้วยความดีใจ เนื้อหวานๆ ผมจะได้กินเนื้อหวานๆเสียที หมูลีอองพาผมไปนั่งบนเตียง ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมต้องกินบนเตียงด้วย แต่สงสัยได้ไม่นานร่างผมก็ถูดกดให้นอนลงไปตามด้วยร่างของหมูลีอองที่ทับลงมา

 “ทำอะไร!! ไหนบอกมห้เรากินนายไง!!!” ผมโวยวายดิ้นไปมาให้หลุดออกจากการทาบทับนี้

 “ก็กำลังจะให้กินไง อยู่นิ่งสิครับ รับรองว่าคืนนี้ได้กินจนอิ่มแน่ๆ” น้ำเสียงที่ไม่น่าไว้ใจและความเสียเปรียบของผมตอนนี้ทำให้ผมไม่เชื่อที่หมอนี่พูดอีกแล้ว ผมจึงใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพยายามดึงตัวเองออกมาให้ได้แต่ก็มาไม่สำเร็จ

 “ปล่อยนะ พี่ชาร์ส พี่เชส ช่วยชาล็อตด้วย!!!” มือทั้งสองข้างของผมถูกหมูยักษ์จับเอาไว้ข้างตัวแน่น ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ออก ใบหน้าของไอหมูบ้าก้มลงมาจนริมฝีปากของผมกับไอหมูบ้าแตะกัน ผมพยายามเม้มปากแร่ไม่ยอมให้อีกฝ่ายดูดดึงหรือทำอะไรตามใจชอบได้ แต่ไม่ได้ผล เพราะผมโดนปลายลิ้นของไอหมูบ้าไล้เลียกลีบปากบางของผม บ้างก็ดูดดึงมันราวกับว่าถูกใจ

 “อื้อ!!!” เมื่อเห็นว่าผมคงไม่ยอมเปิดปากง่ายๆ เจ้าตัวจึงใช้ฟันกัดลงมาอย่างแรงจนผมต้องยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาแทน ความหวานละมุนทำให้ผมตาลาย ในหัวมันขาวโพลนจนผมไม่มีสติพอจะดิ้นรนใดๆอีก ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าจูบตอบอีกฝ่ายไปเมื่อไหร่ ผมมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายของผมไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้าสักชิ้นปกปิดร่างกาย

 “ยะ อย่า”

  ผมส่ายหน้าไปมา ส่งเสียงห้ามทัเงๆที่รู้ส่าไม่ได้ข่วยอะไร ไอหมูบ้าดูดเม้มยอดอกผมจนเกิดเสียดัง ความรู้สึกราวกับถูกช็อตทำให้ผมสะดุ้งพยายามแอ่นอกหนีริมฝีปากและลิ้นร้อนๆนั่น แต่มือผมถูกกดเอาไว้จึงทำได้เพียงแค่แอ่นอกขึ้นเท่านั้น

 “หึหึ”

 จุ้บ จ๊วบ

 “อย่า อื้อ พอแล้ว”

 ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมร่างกายผมถึงได้ร้อนรุ่มขนาดนี้ ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างในร่างกายของผมตื่นตัวขึ้น มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

 “หึหึ ตั้งเชียวนะ หื่นไม่ใช่เล่น ขอชิมน้ำหวานหน่อยนะครับ”

 “อยะ อ๊า!!!”

 ผมถูกริมฝีปากร้อนๆครอบครองตัวตนเข้าไปจนสุด รู้สึกได้ถึงความร้อนและความนุ่มภายในปากที่ทำให้ผมปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว

 “เสร็จเร็วจัง แต่หวานดีนะ” ไอหมูบ้าเลียปากตัวเองอย่างชอบใจ ปล่อยให้ผมนอนหมดแรงหอบหายใจและมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่ทันจะได้ตั้งตัว นิ้วมือของไอหมูบ้าก็สอดแทรกเข้ามาในพื้นที่ต้องห้ามของผม

 “ทำอะไร เอาออกไปนะ!!”

 ผมดิ้นรนหนีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มือหนาขยับนิ้วเข้าออกอย่างเร็วจนรับรู้ได้ถึงเสียงตามจังหวะที่มันดังออกมา

 “อื้อ เอาออกไป อ๊ะ!”

 “เด็กดี นิ่งๆสิครับ”

 นิ้วที่ถูกเพิ่มจากสองเป็นสามนิ้วทำให้ผมขยับสะโพกตาม ส่วนที่อ่อนลงไปกลับมาชูชันขึ้นอย่างเช่นก่อนหน้านี้ ทำไมกัน เพียงแค่นิ้วมือของไอหมูบ้านี่กลับทำให้อารมณ์ที่ถูกปลดปล่อยไปของผม กลับมาร้อนรุ่มอีกเช่นอีกครั้ง

 “น่าจะพร้อมแล้วล่ะ ถึงเวลากินแล้วนะ กินให้หมดนะครับ”
ผมไม่เข้าใจ กินอะไรที่เขาหมายถึง จนเมื่อนิ้มมือถูกถอดออกไปความใหญ่โตก็เข้ามาแทนที่

 “โอ๊ย!! เจ็บ ไม่เอานะ เอาออกไปนะ!!!” ผมทุบตีไปตามร่างกายของไอหมูบ้า แต่มันกลับไม่สะทกสะท้านใดๆเลย

 “ชู่ว์.....เพิ่งจะกินไปได้นิดเดียวเอง อา....แน่นดีจัง”
ผมเจ็บจนร้าวไปถึงกระดูกสันหลัง เพียงแค่ขยับตัวนิดเดียว ความเจ็บปวดก็เข้ามาเล่นงานผม ไอหมูบ้าแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองอย่างกระหายในอะไรบางอย่าง ซึ่งผมคิดว่ามันคงไม่ดีกับผมแน่

 “โอ้ย หยุดนะ โอ้ย อ๊ะ!”

 แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด ไอหมูบ้าหยัดกายเข้ามาในตัวผมทีเดียวจนจุก ผมรับรู้ได้ถึงบริเวณด้านหลังที่กำลังเต้นตุบๆด้วยตวามเจ็บปวด ยิ่งเจ็บผมยิ่งทำทุกอย่างให้คนที่ทาบทับผมอยู่เจ็บไปด้วย

 “อูย.....รัดแน่นไปแล้ว ฮืม!!!!”

 เสียงคำรามดังข้างๆหูจนผมนึกกลัว แต่ไม่มีอะไรทำให้ผมกลัวได้เท่ากับความเจ็บปวดที่เพิ่งเจอไปเมื่อกี้อีกแล้ว

 “เจ็บ หยุดนะ อ๊ะ!!”

 จู่ๆความรู้สึกเจ็บก็แปรเปลี่ยนไปเมื่อไอหมูบ้าลีอองมันขยับให้ความใหญ่โตนั้นเข้าออกภายในร่างผม

 “อะ อะไรน่ะ อื้อ!!”

 “ซี๊ด อา รัดดีจังเลยครับชาล็อต”

 ไอหมูบ้า ไม่อยากได้ยินเสียหน่อย ลมหายใจผมหอบถี่ขึ้นเช่นเดียวกับความร้อนในร่างกาย ยิ่งเมื่อไอหมูบ้าเร่งจังหวะมากขึ้นแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ยิ่งทำให้ผมลืมตัวเผลอครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ฝ่ามือของไอหมูบ้าจับหน้าผมให้หันไปรับจูบดูดดื่มที่เจ้าตัวมอบให้ ลิ้นของผกับมันเกี่ยวกระหวัดกันจนไม่รู้ว่าน้ำลายใครเป็นน้ำลายใคร ในขณะที่สะโพกของไอหมูบ้ายังคงเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆจนเราทั้งคู่ปลดปล่อยออกมาเมื่อถึงฝั่งฝัน ผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่นอนนิ่งให้ไอหมูบ้ากอดรัดร่างก่ยตัวเองเอาไว้ด้านหลังไม่ได้หลบเลี่ยงแม้แต่ริมฝีปากที่พรมจูบไปตามไหล่บางขอฃผม เหนื่อยจนอยากจะพัก เจ็บจนอยากจะนอน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อไอหมูบ้าที่ยังอยู่ในตัวผมเริ่มขยายตัวอีกครั้ง การกินของผมเป็นไปตามที่ไอหมูลีอองมันพูดจริงๆ ผมนี่กินจนอิ่มเลยครับ ไม่รู้กี่รอบ ขนาดผมหลับไปแล้วมันยังไม่ยอมหยุด ยังไงขอตัวไปนอนก่อนนะครับ เพลีย!!




         
  The End
[/b][/size]



ของแถมท้ายบท.....

 “แม่!! ผมกับน้องๆกลับมาแล้ว!!” หายไปไหนนะ ไม่นานแม่ก็เดินออกมา

 “อ้าว มาแล้วเหรอลูก ว้าว!! นี่พวกลูกหาหมูได้ตั้งสามตัวเลยเหรอ ดีเลยๆ แม่กำลังหิว ขอแม่กินหน่อย”

 “ไม่ได้//ไม่ได้นะ//กินไม่ได้!!!” ผมกับพี่ๆพูดพร้อมกันทันที พี่ลูอิสกับพี่รีซหลบหลังพี่ชายของผมทั้งสองคน ส่วนลีอองดึงผมเข้าไปกอดไว้ ไม่ใช่เพระกลังหรอกครับ ไอหมูนี่มันชอบแต๊ะอั๋งผม

 “ทำไมล่ะ” แม่คงจะสงสัยมากแน่ๆ

 “แม่ครับ จริงๆพวกผมไม่ได้อาหารกลับมาบ้านหรอกครับ” พี่ชาร์สพูดขึ้น แต่แม่กลับงงหนักเข้าไปอีก

“ก็เห็นๆอยู่นี่ ลูกเล่นอะไรของลูกชาร์ส”

 “คือ จริงๆแล้ว เอาวะ!! แม่ครับนี่ลูอิสเมียผม”

“ห้ะ!!” แม่เหวอไปเลยครับงานนี้ แต่ก็ยังหันไปทางพี่เชส

 “เอ่อ นี่ก็เมียผมครับแม่ ชื่อรีซ” หนักเลยครับ แม่ตาค้างไปแล้ว

 “แม่คร๊าบ นี่ลีออง เป็น...” ผมกัดปากพูดไม่ออก พอเห็นแววตาของแม่แบบนั้น

 “เป็นผัวลูกแม่ครับ”

 “เฮ้ยๆ / เย้ย!! / ว๊าก!!” รีแอคชั่นผมกับพี่ๆนี่แทบจะคนละแนวเลยครับ ไอพี่ชาร์สไม่คิดว้ามันจะพูดออกมา ส่วนพี่เชสตกใจคงนึกว่ามันเป็นเมียผม (พี่เอาอะไรคิดวะ!!) ส่วนผมตกใจที่มันประกาศออกไปโต้งๆแบบนั้น

“มะ เมีย ผะ ผะ ผัว เอิ๊กกกกก”

 ตึง!!

 “แม่!!!!” ผมสามคนเรียกแม่สุดเสียงก่อนจะเข้าไปดูแม่ที่หงายท้องล้มตึงไปกับพื้น ดีจริงๆครับครอบครัวผม แม่ให้ไปหาอาหารมากิน ดั๊นนน ไปหาเมีย(ผัว) อาหารก็ไม่ได้ แถมได้ลูกเขยลูกสะใภ้เข้าบ้านซะงั้นแม่ผมคงช็อคมาก หึหึ ผมขอตัวไปดูแม่ก่อนนะครับ




          ชาล็อตมาแล้วค่าาาา เป็นไงบ้างคะ ถูกใจกันไหม ไหนใครอยากได้พี่น้องคนไหนกันเอ่ย แมวถามหน่อย ถ้าbeauty and the beast เวอร์ชั่นของวอลดิส แล้วแมวเอามาเรียงใหม่มันจะได้ไหมคะ กลัวมีปัญหาจังเลย ถ้ามันโอเค เรื่องหน้าเราเจอ beauty and the beast แน่นอนค่าาา แต่ถ้าไม่......แมวคงมาแจ้งอีกทีนะคะ  :hao5: :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ไม่มีปัญหา เอาเลยๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
กรี๊ดดดดด. ชอบลูกหมูเวอร์นี้มากมาย 

รอเบลนะ เราชอบเบล  :mew3:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
และแล้วเราก็เดินทางมาจนถึงปลายทาง เรื่องที่แมวจะลงวันพรุ่งนี้คือเรื่องสุดท้ายของเรื่องสั้นนี้แล้วนะคะ ขอบพระคุณที่ติดตามเรื่องสั้นเรื่องนี้มาตลอด กราบขอบพระคุณทุกท่านจริงๆค่ะ แต่แมวรับรองเลยว่า แมวจะมีเรื่องอื่นๆอีกแน่นอน เพราะตอนนี้ แมวกำลังแต่งอยู่เลย เย้!!~ พบกันพรุ่งนี้กับ beauty and the beast ครัชท่าน!!

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 1/2


          “อ๊ากกกก!!!!” เสียงร้องดังไปทั่วจนทำให้เหล่าฝูงนกบินหนีไปด้วยความตกใจ สัตว์เล็กสัตว์น้อยต่างหาที่หลบซ่อนกายให้พ้นจากสิ่งนั้น ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร ร่างสูงใหญ่ ฟันที่แหลมคมกับกรงเล็บนั่น ไหนจะดวงตาสีทองคู่นั้นที่หากได้ลองจับจ้องไปที่เหยื่อแล้ว เชื่อว่าไม่มีผู้ใดจะสามารถรอดพ้นไปได้ ชายป่าตะวันตก สิ่งลึกลับนั่นคืออะไรกันนะ


      ยามเย็นของวันอันสดใสของข้าช่างไม่น่าอภิรมย์นัก ชาวบ้านต่างมองข้าด้วยแววตารังเกียจแต่ข้าหาแคร์ไม่ เพราะสิ่งที่ข้าสนใจนั้น.....มันได้มาอยู่ในมือของข้าแล้ว

 “อลิซ อา....ข้าชอบเรื่องนี้จริงๆ”

 ใครจะคิดว่าคนอย่างข้าจะสนใจแต่หนังสือ ทุกๆวันของข้าจะหมดไปกับการใช้เวลาว่างกับหนังสือพวกนี้ ข้าไม่สนใจหรอก หากไม่มีใครคิดจะคุยกับข้า อาจจะเป็นเพราะพ่อข้าเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งแต่ทุกคนกลับไม่เห็นมัน พวกเขาเอาแต่เรียกพ่อข้าว่า ตาแก่สติฟั่นเฟือน ส่วนข้ายิ่งแล้วใหญ่ การที่หมกตัวอยู่แต่กับหนังสือทุกวันๆ มันทำให้ทุกคนมองข้าเป็นตัวประหลาด จะมีเหลือก็แต่เขา......ชายผู้เป็นที่หมายปอง แต่ไม่ใช่ของข้านะ!!!

 “เบลล์ จะไปไหน ให้ข้าไปส่งไหม” สเวน คือผู้ชายร่างใหญ่ที่คอยตามข้าจนน่ารำคาญ

 “ไม่ต้องหรอก ขอบคุณ ข้าเพียงจะกลับบ้านเท่านั้น”

 “ข้าไปส่งเจ้าจะปลอดภัยกว่านะ”

 อยู่กับเจ้าน่ะสิที่อันตราย

 ข้าเพียงส่ายหน้ากับความหวังดี(?)ของสเวนที่ข้าไม่อาจ(สนใจ)จะรับไว้แม้แต่น้อย สเวนกับข้าเราโตมาในหมู่บ้านด้วยกัน ก่อนหน้านี้สเวนไม่แม้แต่จะแลข้าด้วยซ้ำ แต่เมื่อข้าเติบโตจนอายุครบ16ปี ท่าทีของสเวนที่มีต่อข้าก็แปลกไป

 “ไม่เป็นไร เดินแค่ไม่กี่เก้าก็ถึงบ้านข้าแล้ว อีกอย่าง.....ข้าเองก็โตมาจากที่นี่ คงไม่มีอะไรอัตรายกับข้า” นอกจากเจ้าหรอก หลายต่อหลายครั้งที่ข้าถูกสเวนชวนไปขี่ม้าด้วยกันสองคน แค่ข้าหรือจะไป ไม่มีทาง หากข้าต้องการจะขี่ม้า ข้าขี่เองคนเดียวยังสนุกกว่าเลย ข้าเดินหนีสเวนมาโดยไม่สนใจว่าเขาจะมองข้าเช่นไร แต่อย่างน้อยเขาไม่ตามข้ามาก็เพียงพอแล้ว

 “พ่อ.....ข้ากลับมาแล้ว”

 “เบลล์ มาดูนี่สิ้บลล์ พ่อทำสำเร็จแล้วนะ ในที่สุดพ่อก็ทำได้” ข้าเบิกตากว้างดีใจกับสิ่งที่ท่านพ่อบอก

 “จริงหรือครับ!!”

 “จริงสิ คราวนี้แหละ ทุกคนจะต้องตะลึงกับงานของพ่อชิ้นนี้ พ่อจะต้องรีบไปแล้ว” พ่อข้ามองหาบางสิ่งรอบตัวจนข้ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ เก็บเองแท้ๆ กลับลืมเสียได้

 “นี่ครับพ่อ” ข้าส่งเสื้อคลุมให้พ่อ

 “โอ้......ขอบใจมากเบลล์ แล้วพ่อจะรีบกลับ พ่อจะซื้อของมาฝากเจ้านะ” ข้าโบกมือให้ท่านพ่อที่รีบกระโดดขึ้นหลังม้าก่อนจะทยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครเรียกพ่อของข้าว่าตาแก่สติฟั่นเฟือนอีกแล้ว
ข้าเดินเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้งหยิบหนังสือเล่มหนาที่เพิ่งได้มาจากตลาดขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา ข้าเชื่อว่ามันต้องผ่านไปได้ด้วยดี ความท้าทายของหนัฃสือเล่มใหม่ทำให้เลือดในกายข้าสูบฉีด เพียงแค่อ่านไปได้แค่หนึ่งหน้าเท่านั้น กลับทำให้ข้ารู้สึกราวกับว่าได้หลุดเข้าไปอยู่ในหนังสือเสียเอง ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ข้าจดจ่ออยู่กับหนังสือนั่นเพราะตอนนี้ข้าเริ่มเห็นตัวหนังสือนั้นเลือนลางไปหมด จนในที่สุดความมืดมิดก็เข้ามาบดบังทุกสิ่ง แต่การผจญภัยของข้ามันเริ่มจากนี้ต่างหาก......


         เสียงนกร้องและแสงแดดสาดร้องเข้ามาจนข้าต้องใช้มือป้องแสงนั้น อา....นี่ข้าหลับคาหนังสือเลยหรือนี่ ดีที่ข้าไม่ได้ทำน้ำลายไหลลงบนหนังสือไม่เช่นนั้นข้าคงเสียดายแย่
แปลกจริง....ทำไมป่านนี้พ่อข้ายังไม่กลับมาอีกนะ
ยิ่งคิดข้าก็ยิ่งแปลกใจ ข้าได้แต่เดอนออกไปรอพ่ออยู่ที่ด้านนอกของตัวบ้าน ชะเง้อคอมองรอคอยให้ร่างของพ่อปรากฏ แต่มันก็เป็นได้แค่สิ่งที่ข้าคิดเท่านั้น เพราะความจริงไม่มีแม้แต่เงาของพ่อข้าเลย เกิดอำรขึ้นหรือเปล่านะ

 “อรุณสวัสดิ์ เบลล์” เฮ้อ....เสียงแบบนี้ สเวนอีกแน่ๆ ข้ากรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย

 “เช่นกันสเวน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” สเวนยื่นดอกไม้สีแดงให้ข้า ให้ข้าเนี่ยนะ!!

 "อะไร???”

 “ดอกไม้ ข้าซื้อมันมาให้เจ้า” ข้าเพียงแค่มองเท่านั้นไม่ได้รับดอกไม้ตรงหน้ามาถือจนสเวนหัวเราะออกมาอย่างไม่ถือสา

 “ไม่อยากได้หรือเบลล์ ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบ” ข้าเลิกคิ้วขึ้นมอง แปลกใจที่เขาจำเรื่องนี้ได้ ข้าคงเชื่อไปแล้วหากสายตาข้าไม่บังเอิญไปเห็นใครอีกคนที่หลบอยู่ตรงพุ่มไม้ เจ้าทึ่มเอ้ย ชอบเขาแล้วไปบอกเขาทำไมเล่าว่าข้าชอบอะไร

 “ขอบใจนะ แต่ข้าเลิกชอบมันไปแล้ว” สเวนดูแปลกใจก่อนจะหันไปคาดโทษใครอีกคนที่หลบอยู่

 “อะแฮ่ม!! เอาตรงๆเลยนะ คือข้าอยากจะขอเจ้าแต่งงาน” นี่คือสิ่งที่ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยิน แน่นอนมันทำให้ข้าแปลกใจ และใครอีกคนเศร้าลงทันตา

 “ข้าไม่แต่งกับเจ้าหรอก”

 “นะ นี่เจ้า เจ้าปฏิเสธข้า?” ทำไมต้องทำเสียงแปลกใจ

 “ใช่สิ คำว่าไม่แต่งแปลเป็นอย่างอื่นได้ด้วยหรือ” ช่างน่าตลกเสียจริง สเวนไม่เคยมองข้างๆเลยว่ามีใครอีกคนที่เฝ้ามองตัวเขาอยู่ ใครบางคนที่ทุ่มเททุกๆอย่างให้ไปจนหมด แม้แต่หัวใจ

 “ข้าคือชายที่ใครๆก็หมายปอง!!! เจ้ากล้าดียังไงถึงปฏิเสธข้า!!”

 “ข้าไม่ได้ชอบเจ้านี่ ทำไมข้าต้องแต่งกับเจ้าด้วย ถ้ามีคนอยากแต่งกับเจ้าเยอะเจ้าก็ไปแต่งกับคนอื่นเสียก็สิ้นเรื่อง” ข้ามองไม่เห็นเลยว่ามันยากเย็นตรงไหน ที่สงสัยมากกว่าคือทำไมสเวนจะต้องโกรธเสียมากมายขนาดนั้น

 “แต่เจ้าคือคนที่งดงามที่สุดของหมู่บ้าน! เพราะแบบนั้นเจ้าจึงเหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นภรรยาของข้า” อ๋อ....แบบนี้เอง

 “เสียใจด้วย คำตอบของข้ายังไงก็ไม่เปลี่ยน”
ข้าไม่สนใจสเวนที่ยืนระบายอารมณ์กับต้นไม้น้อยใหญ่พวกนั้น แต่ข้ากลัวว่าสเวนจะลงมือกับเขา บิลล์ เจ้านั่นตัวก็เล็ก แรงก็ไม่มี สมองยิ่งแล้วใหญ่ ทุกวันนี้ทำได้แค่เดินตามสเวนต้อยๆ ข้าเห็นแววตาอิจฉาทุกครั้งที่สเวนคุยกับข้า จับมือข้า ข้าไม่เข้าใจเลยว่าบิลล์รออะไร ตัวบิลล์เองก็ใช่ว่าจะขี้เหร่เสียเมื่อไหร่ ข้าส่ายหน้ากับความชุลมุนวุ่นวายของหัวใจคนอื่นแล้วตัดสินใจเดินเข้าบ้านไปแทน

 ฮี่~ ฮี่~

 เสียงม้า ข้ารีบวิ่งออกไปดูเผื่อพ่อจะกลับมาบ้าน หากแต่ข้ากลับพบเพียงเจ้าจอร์ชม้าที่พ่อข้าขี่มันออกไป ถ้าจอร์ชอยู่นี่ แล้วพ่อข้าละ พ่อข้าไปไหน!

 “จอร์ช! พ่อข้าละ พ่อข้าอยู่ไหน!!”

 “ฮี่!!” อะไรกัน ไออาการสะบัดหัวสะบัดหางแบบนี้ หรือว่ามันต้องการให้ข้าขึ้นหลังมันไป

 “เจ้าต้องการให้ข้าขี่เจ้างั้นเหรอ”

 “ฮี่!!!”

 ข้าคงบ้าไปแล้วที่ยืนคุยกับม้าแบบนี้ แต่นาทีนี้ต่อให้ใครหาว่าข้าบ้าก็ตาม ข้าขอลองเสี่ยงดูแล้วกัน เสี้ยววินาทีที่ข้ากระโดดขึ้นบนหลัง จอร์ชก็ออกตัวพาข้าวิ่งเข้าไปในป่าทันที ความเงียบสงบมันก็ดี แต่เงียบจนวังเวงแบบนี้ ข้าไม่ชอบเลย อากาศก็หนาว ไหนจะหิมะที่ตกลงมาจนข้าเริ่มมองไม่เห็นทาง ดีหน่อยที่จอร์ชมองเห็นและพาข้ามาได้เรื่อยๆ ข้าพยายามมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า นั่นอะไรกัน หรือจะเป็นบ้านคน

 “จอร์ช!! เราเข้าไปถามเขากันเถอะ เผื่อพวกเขาจะพบพ่อของข้า”

 “ฮี่!!”

 เหมือนจอร์ชลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมวิ่งตรงไปยังปราสาท ตัวปราสาทดูเก่าแก่ รอบๆข้างเต็มไปด้วยสวนดอกไม้ต่างๆดูท่าทางแล้วเจ้าของที่นี่คงจะชอบดอกไม้เอามากๆเลย ข้าลงจากหลังจอร์ชก่อนจะวิ่งตรงไปยังด้านในของตัวปราสาท

 “มีใครอยู่บ้างครับ ข้ามาตามหาพ่อ” 
ข้ากวาดสายตาไปรอบๆเผื่อจะเจอใครสักคนเดินออกมาให้ข้าได้ถาม แต่ไม่มีเลย ปราสาทใหญ่โตแต่ไร้คนหรือเนี่ย

 “ได้โปรดเถอะครับ ข้าเพียงต้องการจะสอบถามเรื่องของพ่อข้าเท่านั้น”

 “เบลล์ เบลล์หรือลูก” เอ๊ะ นั่นเสียงของพ่อข้านี่

 “พ่อ!! พ่ออยู่ไหนครับ!!” ข้าวิ่งขึ้นบันไดไปตามเสียงร้องเรียกของพ่อข้า ข้ามั่นใจว่านั่นคือพ่อของข้า นี่มันเรื่องอะไรกันนะ

 “เบลล์ อย่ามาที่นี่ กลับไปลูก”

 “พ่อ!!!” สิ่งที่ข้าเห็นมันทำให้ข้าตกใจ ทำไมพ่อข้าจึงต้องไปอยู่ในนั้น นั่นมันคุกไม่ใช่หรือ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ

 “กลับไปเบลล์ มันอันตราย เชื่อพ่อกลับไป” ข้าจับมือพ่อไว้แน่น มองใบหน้าอิดโรยของพ่อทั้งน้ำตา

 “พ่อ ใครทำแบบนี้กับพ่อ ฮึก”

 “กลับไปเบลล์ กลับไปในตอนที่กลับได้”

 หมายความว่ายังไงกัน ทำไมข้าจะกลับไม่ได้

 “ไม่ครับ ข้าจะพาพ่อกลับไปด้วย” ข้าพยายามจะเปิดประตูแต่มันถูกปิดล็อคแน่นหนาด้วยกุญแจ ทำอย่างไรดี ข้าจะทำอย่างไรดี

 “เขาจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น!!!”

ข้าสะดุ้งตกใจเมื่อเสียงทุ้มตะหวาดดังก้อง เสียงใครกัน!!!

 “ท่าน ท่านจับพ่อข้าไว้ทำไม พ่อของข้ากำลังหนาวและป่วย ได้โปรดเถอะครับ ปล่อยพ่อข้าไป” ข้ามองเจ้าของปราสาทที่ยืนอยู่ในเงามืดด้วยแววตาขอร้องให้เขาเห็นใจ

 “แล้วเจ้าจะให้อะไรข้าล่ะ ถ้าข้าปล่อยเขา”

 “แล้วท่านต้องการสิ่งใดเล่า” เขาดูลังเลไม่น้อยเมื่อข้าเอ่ยถามแบบนั้นออกไป

 “เจ้า...”

 อะ อะไรนะ

 “ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ที่นี่แทนเขา ไม่ใช่แค่วันเดียว ไม่ใช่แค่อาทิตย์เดียว แต่เป็นตลอดไป”
ไม่นะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ ข้าเกือบจะส่ายหน้าปฏิเสธออกไปแล้ว แต่เมื่อข้าเห็นพ่อข้าที่อาการหนักมันก็ทำให้ข้าไม่กล้าที่จะปฏิเสธออกไป ชีวิตข้าแลกกับพ่อของข้าสินะ หึ มันก็คุ้มจริงๆนั่นล่ะ

 “อย่านะเบลล์ พ่อแก่มากแล้ว อีกไม่นานก็ตาย เจ้ายังเด็กจะมาติดอยู่ที่นี่ไม่ได้ พ่อไม่ยอม แค่กๆ”

 “ตกลง!! ข้าจะอยู่เอง ปล่อยพ่อข้าไปเถอะ”

 “เบลล์!!!” ข้าหันไปมองหน้าพ่อส่งยิ้มให้พ่อเห็นว่าข้าไม่เป็นไร ดีแล้ว ข้าทำถูกแล้ว แค่ให้พ่อปลอดภัยก็พอแล้ว

 “ดี!! ตกลงตามนั้น”

 “เดี๋ยวสิ พ่อ พ่อ!!”

 เมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการเขาก็ลากพ่อของข้าออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าข้าจะพยายามเดินหรือร้องเรียกเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่าข้าอยากคุยกับพ่อบ้างไหม เขาไม่สนใจความรู้สึกของข้าเลย



TBC




            ใกล้แล้วสินะคะ เวลาของการท่องไปในโลกแห่งจิตนาการใกล้จะหมดแล้ว เมื่อติดอยู่ในฝันยังไงก็ต้องตื่น เหมือนกับเรื่องนี้ ย่อมต้องมีวันจบ และเวลานั้นก็มาถึง เรื่องนี้แมวจะเขียนเป็นนิทานเรื่องสุดท้าย แต่แมวบอกเลยนะคะว่า มันใส่ความหื่นลงไปม่ายด้าย!!!!! ทำไมน่ะเหรอคะ คุณต้องเห็นความละมุนของพี่อสูรกับเบลล์เขาก่อน กราบขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกันมา พบกันพรุ่งนี้ค่าาาา  :impress3:  :m15:  :monkeysad:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แอบใจหาย...เป็นกำลังใจให้เสมอ รอพี่อสูรหวานละมุนกะนุ้งเบลล์ แล้วอย่าลืมหื่นต่อนะ 555  :hao6: :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ llมว_น้oe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-4
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 2/2



          ข้าเดินมาถึงหน้าปราสาทแต่ไม่พบร่างของพ่ออีกแล้ว จอร์ชเองก็หายไปด้วย ร่างกายข้ารู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันใด เมื่อข้าได้เห็นใบหน้าและร่างกายของเจ้าของปราสาท คนที่ข้าจะต้องอยู่ด้วยที่นี่ ไม่สิ จะเรียกว่าคนก็ไม่ถูก เขาคืออสูรชัดๆ! ใบหน้าที่ดุร้าย สายตาที่คมกล้าสีทองกับฟันที่แหลมคม ไหนจะกรงเล็บที่อยู่ใต้อุ้งมือนั่น ตัวจ้าสั่นไปด้วยความกลัว
 
 “ทะ ท่าน ท่านเป็นตัวอะไร” ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาข้าที่ถดถอยหนี

“ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องรู้!!!”

 “โอ้ย!! ปล่อยนะ!!”

 เขาไม่สนใจเสียงร้องข้าแม้แต่น้อย มือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บคมยังคงลากข้าไปเรื่อยๆเพื่อเข้าไปในตัวปราสาท เขาลากข้าที่ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดเข้าไปในห้องๆหนึ่งและโยนข้าเข้าไป

 “อ๊ะ!”

 “เจ้าต้องอยู่ในนี้ ห้ามออกไปไหน อยู่ได้เพียงในปราสาทเท่านั้น” อสูรหันหลังปิดประตูออกไป โดยที่จ้าได้แต่ซุกหน้าร้องไห้อยู่กับเข่า พ่อครับ นี่ข้าจะไม่ได้เจอท่านอีกแล้วเหรอ ยังดีที่มีหน้าต่างให้ข้าได้มองออกไปบ้าง ไม่เช่นนั้นข้าคงเหงาตาย ไม่สิ ก็อสูรบอกข้าว่าให้ข้าอยู่เพียงแค่ในปราสาท ห้ามออกไป แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าห้ามไปวุ่นวายห้องอื่นๆ นั่นสิ ถ้าแบบนั้น ข้าก็สามารถจะเดินไปดูให้ทั่วปราสาทได้น่ะสิ

 “จะมีหนังสือบ้างไหมนะ”

 ข้าตัดสินใจค่อยๆเปิดประตูออก แอบมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่ไหม เมื่อเห็นว่าปลอดภัยข้าก็แทรกกายออกจากประตูทันที เอาล่ะ จะไปทางไหนก่อนดีนะ ข้าตัดสินใจเดินไตามทางขึ้นของบันได สูงมากเลยไม่ใช่แค่สูงเท่าน้น แต่ละชั้นยังมีห้องอยู่มากมายเข้าไปอีก แต่ที่สะดุตาข้ามากที่สุดเห็นจะเป็นแสงสีชมพูที่ลอดออกมาจากช่องของประตู มันคือะไร นั่นคือคำถามที่ติดค้างในใจข้า ตัวข้ามีนิสัยที่แก้ไม่หาย นั่นคือเมื่อข้าสงสัยสิ่งใด ข้าจะมุ่งตรงไปหาคำตอบมันแม้สัญชาตญาณจะร้องเตือนข้าว่าไม่ควรก็ตามที

 แอด.......

 นั่นมันอะไรกัน!! สิ่งที่ถูกแก้วครอบไว้นั่นมันดอกกุหลาบไม่ใช่หรือ แล้วทำไมดอกกุหลาบถึงเรืองแสงละ ทำไมมันถึงสามารถลอยได้กัน ความพิเศษของมันทำให้ข้าที่ชอบดอกไม้อยู่แล้วสนใจเข้าไปใหญ่และนั่นก็ดึงดูดให้ข้าทั้งสองข้างของข้าก้าวเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว แต่เพียงแค่ชัวอึกใจที่ข้าเอื้อมมือหมายจะสัมผัสมัน เสียงคำรามที่ดังกึกก้องก็ทำให้ข้าสะดุ้งด้วยความตกใจ

 "ใครอนุญาติให้เจ้าเข้ามาในห้องนี้!!!!!"

 "ขะ ข้า ข้าขอโทษ ข้าเพียงแค่..." เขาไม่สนใจเสียงของข้า แขนของเขากวาดข้าให้ออกห่างจากดอกไม้แสนสวยน้นอย่างแรง

 "ออก-ไป" ข้าที่อึ้งจนไม่ได้สติคิดตามไม่ทันและร่างกายก็ไม่ยอมฟังเสียด้วย
 
 "ข้าบอกให้ออกไป!!!! ออกไปให้พ้น!!!!!"

 ทันทีที่สติและเรี่ยวแรงข้ากลับมา ข้าก็ไม่รอช้าวิ่งออกไปสุดชีวิต ความกลัวจากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ข้าตัดสินใจจะกลับไปที่บ้าน ไม่เอาอีกแล้ว ข้ากลัวเหลือเกิน ทั้งชีวิตนี้ข้าไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดเท่ากลับสิ่งที่เพิ่งพานพบมาเลย กลัว คือสิ่งเดียวที่ข้ารับรู้ ข้าไม่รู้ว่าข้าวิ่งออกมาทางไหน รู้เพียงแค่อยากไปให้พ้นๆ เหตุการณ์เหมือนจะดีที่ข้าออกมาจากที่นั่นได้ แต่เปล่าเลย หิมะตกหนักจนข้ามองทางแทบไม่เห็น ข้ารับรู้ได้เพียงความหนาวที่ต้องกายข้าเท่านั้น

  กรรรจ์!!!!

 มะ ไม่จริง นี่ข้าหนีจากอสูรร้ายมาเจอกับหมาป่าอีกหรือ ชีวิตข้าทำไมถึงพบแต่เรื่องเลวร้ายกันนะ ข้าทำอะไรผิดหรือไรกัน ทำไมสวรรค์ถึงได้ทำเช่นนี้ ข้ามองไปรอบๆอย่างหวาดระแวว สิ่งที่ข้าพบคือหมาป่าดุร้ายที่ค่อยๆย่างกลายเขามาใกล้ๆข้าทีละนิด พวกมันมากันเยอะมาก รุมล้มข้าเอาไว้ไม่ยอมให้หนีไปไหน เมื่อสายตาข้าเห็นว่าตัวหนึ่งกำลังจะกระโดดเข้ามาทำร้ายข้า วิธีเดียวที่ข้าคิดออกคือการเอาแขนปกป้องตัวเองเข้าไว้

กรรรจ์!!!!

 เกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมข้าถึงไม่เจ็บปวดอะไรเลย ข้าค่อยๆลดแขนลง สิ่งที่ข้าเห็นมันทำให้ข้ายิ่งตกใจเข้าไปอีก อสูร เขามาช่วยข้าหรือ แต่...ทำไมล่ะ ในเมื่อเขาไล่ข้าไปแล้วนี่ อสูรต่อสู้กับหมาป่าอย่างเหนือชั้น แม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่เท่ากับพวกมันที่เจ็บยิ่งกว่าหลายเท่า ไม่นานเมื่อเห้นว่าคงสู้ไม่ไหว พวกมันทั้งหมดก็หนีไป ข้าไม่กล้ามองหน้าเขา ไม่กล้าสบสายตา อาจจะด้วยความน่ากลัวของเขาที่ยังคงติดตาข้า หรือเพราะข้า....ที่ละอายใจกันแน่ก็ไม่รู้

"แฮกๆ เจ้าคิดยังไงถึงวิ่งออกมาแบบนี้ หากข้ามาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น!!" นี่เขาดุข้าหรือ จากที่ละอายใจ ข้ากลับยิ่งโมโหแทน

 "กลับกับข้า"

 ข้าหรือจะขัดขืนสิ่งใดได้เมื่อท่านอสูรสั่งข้าแบบนี้ ข้า็ได้แต่เดินตามร่างของเขาต้อยๆ เหอะ!!! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยข้าไว้นะ พ่อจะด่ากลับให้ แต่อย่างว่า ข้าก็ได้แค่คิดเท่านั้น เพราะเพียงเขาส่งสายตาดุๆมาให้ข้าก็หงอแล้ว ไม่ได้กลัวนะ ข้าไม่ได้กลัวเลย เห็นอสูรฟาดฟันกับหมาป่าตรงหน้าเลือดสาดแค่ไหน ข้าก็ไม่กลัวหร๊อกกก

        เมื่อกลับมาถึงปราสาท ข้าต้องไปหายามาทำแผลให้เขา ลำบากข้าไปอีก แต่เอาเถอะ ข้าคงบ่นอะไรไม่ได้ แต่สายตาของอสูรสิ อย่างกับจะกินข้าเข้าไปอย่างนั้นแหละ

 "จ้องข้าทำไม"

"เจ้าทำผิด ไม่คิดจะขอโทษเลยหรือไร" ข้าเม้มปากแน่น ข้าหรือผิด

 "ข้าผิดตรงไหน"

"แล้วเจ้าหนีออกไปแบบนั้นทำไมล่ะ"

 "ก็เจ้าไล่ข้าแล้วนี่ เจ้าตะคอกข้า ข้าตกใจนะ่!!!"

 "ก็แล้วเจ้าเข้าไปในห้องนั้นทำไมล่ะ!!! โอ้ย!!" ข้าหมั่นใส้จึงกดมือให้หนักขึ้น สมน้ำหน้า อยากว่าข้านัก

 "ใครจะไปรู้ว่าห้ามเข้า ทีหลังเจ้าก็ติดป้ายไว้สิ"

 "ต่อให้ข้าติดป้าย เด็กอย่างเจ้าก็เข้าไปอยู่ดี" ข้าได้แต่กัดปาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันก็ถูก เพราะต่อให้มีป้ายติดอยู่ ข้าก็ต้องแอบเข้าไปอยู่ดี

 "ก็ได้ ข้าขอโทษ" อย่างไม่เต็มใจ

 "ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือโทษเด็ก" หนอย เจ้าอสูรนี่ ข้าได้แต่กัดฟันด้วยความโมโห แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะในลำคออย่างสบายอารมณ์

 "อย่าโกรธไปเลย มันไม่เหมาะกับหน้าเจ้าหรอก เบลล์"

          ตึกตัก

 เพียงแค่น้ำเสียงทุ้มที่เรียกชื่อข้า มันก็ทำให้ข้าใจเต้นแรง ข้าไม่เข้าใจแต่หนังสือหลายๆเล่มทำให้ข้ารู้ดีว่าสิ่งนี้คืออาการเริ่มต้นของ ความรัก ไม่จริงน่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ นี่ข้า กำลังมีความรักกับอสูรอย่างนั้นเหรอ

       หลายวันที่ผ่านมาอสูรดีกับข้ามากจนแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาดูแลข้าอย่างดี อาหารที่ข้าได้ทานล้วนแต่เป็นของดีทั้งสิ้น  ไหนจะบรรดาหนังสือที่เขายกให้ข้าทั้งห้องอีก ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่รูเลยว่าตัวเองจะอ่านมันได้หใดหรือเปล่า อสูรชวนข้าดูพระจันทร์เต็มดวง และหมูดาวที่รายล้อมจันทร์ มันสวยมา สวยจนทำให้ข้าคิดว่า ทำไมกันนะ ก่อนหน้านี้ข้าถึงได้กลัวเขา ทั้งที่เขาไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย ข้ากลับคิดว่า เขาช่าง น่ารัก เสียมากกว่า  วันเวลาผ่านไปแล้วผ่านไปเล่า ข้าไม่เคยเบื่อเลยเมื่ออยู่กับเขา มันเป็นความสุขที่ข้าไม่เคยพบแม้แต่กับหนังสือก็ตาม ทุกครั้งที่ข้ามองเขาข้ามักจะยิ้มออกมาบ่อยครั้งที่เราเผลอสบตากันและเราต่างก็หลบตาของกันและกัน มันน่าขันที่เห็นอสูรตัวใหญ่อย่างเขาเขินอาย แต่ความสุขกลับมาได้ไม่ยั้งยืน เมื่อพ่อขอข้าพาคนในหมู่บ้านมาช่วยข้าออกไป แน่นอนวาผู้นำของคนพวกนั้นคือ สเวน

 "พังเข้าไปเลย จัดการเจ้านั่นให้มันรู้ว่า ที่นี่เป็นของใครกันแน่" ข้าวิ่งออกมาห้ามพวกเขาที่พังประตูเข้ามา

 "หยุดนะ หยุด ทำอะไรกัน!!!"

 " โอ้....เบลล์ เบลล์ลูกพ่อ เจ้าเป็นยังไงบ้าง" พ่อข้าพุ่งตัวมากอดข้าเอาไว้

 "พ่อ ข้าดีใจที่ได้พบพ่ออีก ข้าสบายดีครับ อสูรดูแลข้าอย่างดีเลย" ข้าไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าเช่นไร เพราะทุกครั้งที่เอ่ยถึงเขา ข้ามักจะสุขใจ

 "จริงหรือเบลล์"

 "นี่เจ้า!!! เจ้าชอบมันงั้นหรือเบลล์ เจ้าต้องแต่งกับข้าสิ!!!"

 "ข้าจะชอบเขาหรือไม่ไม่ใช่เรื่องอะไรของเจ้าสเวน ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่แต่งกับเจ้า!!" ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมสเวนจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับข้านักหนา

 "ข้าคือชายที่รูปหล่อที่สุดในหมู่บ้าน แต่เจ้ากลับเลือกไออสูรอัปลักษณ์นั่นหรือ!!!" ข้ามองสเวนด้วยววตาแน่วแน่

 "ถึงเขาจะเป็นอสูร เขาก็มีจิตใจที่ดี บางที คนที่เป็นอสูร ควรจะเป็นเจ้าเสียมากกว่า"

 "เบลล์"สเวนโมโหมาก เขาพุ่งตัวเข้ามาจะทำร้ายข้า และแน่นอนขาไม่กลัวเลย ในเมื่อสิ่งที่ข้าพูดล้วนแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น

โฮกกกกกกกกกก

 เสียงคำรามดังลั่นตามด้วยร่างของสเวนที่กระเดนไปกระแทกกับตู้ในปราสาท ข้าหันไปมองสิ่งที่ทำให้สเวนกระเดนไปแบบนั้น และแน่นอน ย่อมเป็นเขาเสมอที่มาช่วยข้า อสูร

 "อั๊ก"

 "กล้าดียังไงมาทำร้ายเบลล์!!!"

 "อสูร อสูรจริงๆด้วย" ทุกคนๆในหมู่บ้านต่างมองเขาด้วยแววตาหวาดกลัว

 "ไม่ๆ เขาเป็นคนดี เขาไม่ได้น่ากลัวเลย" ข้าอธิบายเรื่องต่างๆที่ข้าและเขาทำร่วมกันให้ทุกคนฟัง นั่นจึงทำให้ทุกคนค่อยวางใจ

 "อย่าไปเชื่อ!!! ดูสิ่งที่มันทำกับข้าสิ" สเวนยังคงไม่ยอมยังปลุกระดมให้ชาวบ้านฟัง

 "พอเถอะสเวน ที่เขาทำร้ายเจ้าก็เพราะเจ้าจะทำร้ายเบลล์ไม่ใช่หรือ"

 ข้ายิ้มอย่างวางใจ ในที่สุดก็หมดปัญหาแล้ว ทุกคนเชื่อแล้วว่าอสูรไม่ได้เลวร้ายสักนิด ทุกคนทยอยกันกลับหมู่บ้านไปเหลือเพียงแค่สเวน บิลล์ และพ่อของข้า ระหว่างที่ข้าว่างใจ จู่ๆสเวนก็ดึงปืนออกมาแล้วยิงใส่อสูรจนล้มไป

 "ไม่นะ!!!"
 "สเวนเจ้าทำอะไร!!!!" บิลล์จับร่างของสเวนเอาไว้แน่น

 "ข้าจะฆ่ามัน ถ้าไม่มีมัน เบลล์ก็ต้องแต่งกับข้า"

 "เขาไม่แต่งกับเจ้าหรอก เบลล์ไม่ได้รักเจ้า ยอมรับมันเสียที!!!" เสียงตะคอกของบิลล์ทำให้สเวนชะงัก ก่อนจะหันไปมองบิลล์ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

 "กล้าขึ้นเสียงกับข้าหรือเจ้าแหย ดี!! อย่าหาว่าข้าไม่เตือน"

 สเวนลากร่างเล็กของบิลล์ออกไป โดยไม่สนใจเสียงร้องไห้ของบิลล์แม้แต่น้อย ข้าเป็นห่วงบิลล์ หากแต่อสูรสิน่าห่วงมากกว่า พ่อข้าเหมือนจะเข้าใจดี จึงทำหน้าที่ไปดูบิลล์แทนข้า

 "อสูร อย่าตายนะ ลืมตาสิ ข้าอยู่นี่"

 "อะ แค่กๆ จะ เจ้า ไม่บาดเจ็บใช่ไหม" น้ำตาข้าไหลจนสะอื้น ในตอนนี้ที่เขาบาดเจ็บ ยังห่วงข้าอีกหรือ

 "ไม่ ฮื่อ ข้าไม่เป้นอะไร ฮึก แต่เจ้า"

 "ข้าไม่เป็นไร แค่เจ้าไม่เจ็บก็ดีแล้ว แค่กๆ เบลล์.....เจ้าเป็น อึก อิสระแล้ว" ข้ามองดวงตาสีทองที่ค่อยหลับลง อิสระอะไรกัน ข้าไม่ต้องการเสียหน่อย

 "ไม่เอาหรอก ข้าอยากอยู่กับเจ้าต่างหาก ตื่นสิ ตื่น"
ไมมีสิ่งใดที่ทำให้ข้าเจ็บปวดได้เท่ากับเจ้าจากข้าไป

 "ข้ารักเจ้า"
 จู่ๆ แสงสีทองก็พลันสว่างขึ้นมาจนข้ามองอะไรไม่เห็น เกิดอะไรขึ้นน่ะ แต่เมื่อแสงนั้นหายไป กลับปรากฎชายใบหน้าคมคายดวงตาสีทองและรูปร่างสูงใหญ่ ใครกัน แล้วอสูรล่ะ อสูรของข้าไปไหน

 "เบลล์......" เสียงนี่มัน หรือว่า

 "อะ อสูร" รอยยิ้มหล่อเหล่าถูกส่งมาให้ข้าพร้อมกับอ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบกอดข้า

 "ใช่แล้ว เจ้าถอนคำสาปให้ข้า ขอบคุณนะ" ข้ายิ้มทั้งน้ำตาพร้อกับโอบกอดร่างสูงกลับไป เขาฟื้นแล้ว
 
 "ท่านทำให้ข้ากลัวนะ ฮื่อ" มือหนาเกลี่ยน้ำตาบนผิวแก้มข้า ก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของข้าอย่างแผ่วเบา

 "ข้าขอโทษ เบลล์ เจ้ารู้ไหม เจ้าคือคนแรกที่ข้ารักและจะเป็นคนสุดท้ายในชีวิตของข้าเช่นกัน" ข้ายิ้มเขินกับคำพูดของเขา

 "ข้าด้วย ข้าจะรักเพียงแค่เจ้าคนเดียว"

 เราสองคนกอดกันด้วยเสียงหัวเราะ ตอนนี้เมื่อมีเขา ข้าไม่กลัวสิ่งใดอีกแล้ว ไม่ต้องการสิ่งใดอีก แค่เขาคนเดียวเท่านั้น ความรักของข้าเป็นของเขาทั้งหมดแล้ว รวมทั้งหัวใจของข้าด้วย




 
The End
[/size][/color]
     

   



                   ฮื่ออออ เจ็บมืออ่ะ ขอโทษที่มาช้านะคะ เพราะมีการบาดเจ็บที่มือข้างซ้ายเลยมาช้าไปหน่อย เป็นไงคะ ถูกใจไหม เรื่องนี้เราควรปล่อยให้เขาสานสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆเนอะ ส่วนคู่สเวนกับบิลล์ ไม่แต่งต่อแล้วน๊า ให้ทุกคนจิตนาการเรื่องราวตามแบบที่ตัวเองชอบเลยค่าา นั่นล่ะคือสิ่งที่สนุก แล้วพบกันใหม่เมื่อแมวเปิดม่านเรื่องหน้านะคะ รักและขอบคุณทุกคนมากๆค่าาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักมากเลย ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
หว๋าย..วาย รอเรื่องใหม่ (แอบปาดน้ำตา)   :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สนุกทุกเรื่องเลยค่า  :katai2-1:
แต่สงสารน้องไม้ขีดไฟที่สุดเลย งื้ออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด