┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==  (อ่าน 274872 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[37]==[P.24]== [18/11/60]
«ตอบ #720 เมื่อ25-11-2017 21:08:31 »

ไร่ส้มนี่กลายเป็นสีชมพูเลยค่าาา  :hao7:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[37]==[P.24]== [18/11/60]
«ตอบ #721 เมื่อ26-11-2017 19:27:34 »



-38-

 

ตั้งแต่เกิดมาภูไม่เคยต้องทำงานหนักแบบผู้ใช้แรงงานเลยสักครั้ง แม้แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างการมาอยู่ไทยแรกๆ กับแม่ในวัยเด็ก เขาก็ยังไม่เคยต้องเหนื่อยขนาดนี้ เหตุผลคงเป็นเพราะยังไม่ค่อยคุ้นชินกับการทำงานมากนัก อีกทั้งคนที่นี่ก็ดูเข้าถึงยากพอสมควร จึงทำให้อะไรๆ ก็ดูลำบากไปหมด เขารู้ดีว่าจริงๆ แล้วคนที่นี่ทุกคนล้วนเป็นคนดีและทำงานกันมานาน แม้แต่พ่อกับแม่ของเก้าก็ยังเป็นเช่นนั้น แต่สิ่งที่ทำให้คนเหล่านั้นไม่ยินยอมให้เข้าใกล้ง่ายๆ คงเป็นเพราะสถานะพิเศษที่เก้ามีให้เขา จะบอกว่าทุกคนที่นี่รักและหวงคุณหนูของตัวเองมากก็คงไม่ผิดนัก…

จนเมื่อย่างเข้าสัปดาห์ที่สอง สถานการณ์ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปช้าๆ…

“คุณภู มากินข้าวเร็วเข้า” คนงานที่แนะนำตัวว่าชื่อดำ แต่ถูกคุณหนูของตัวเองเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็นเฮียแปดกวักมือเรียกยิกๆ จากศาลาที่มีคนงานมารวมกันอยู่หลายคน

“อันนี้ส่วนของคุณภู กินเลยกิน” คนงานอีกคนดันจานข้าวมาให้เขา ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

ภูได้แต่มองข้าวในจานอย่างเงียบงัน ใช่ว่าเขารังเกียจกับข้าวพื้นๆ ธรรมดาๆ พวกนี้ เพราะเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กินมาโดยตลอด เพียงแต่วันนี้มันไม่เหมือนกัน เพราะเมื่อวานดันไปสัญญากับกระต่ายบางตัวว่าจะรอมันมากินข้าวด้วยที่นี่

“พี่ภู!” แล้วเสียงของคนที่กำลังคิดถึงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ภูหันหน้ากลับไปมองแล้วก็ต้องยกยิ้มขัน เมื่อเห็นกระต่ายตัวก้อนๆ กำลังวิ่งมาหาโดยมีใครอีกคนวิ่งตามมาทั้งหน้าตาตื่น

“คุณหนู! รอร่มก่อนสิครับ” สองที่เป็นคนสนิทตะโกนไปหอบไป โดยพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกางร่มให้คนร่าเริงที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้า แต่พอตามทันคุณหนูของบ้านก็เข้ามาถึงศาลาเสียแล้ว กลายเป็นคนวิ่งตามแทบจะล้มลงไปกองกับพื้นเพราะความเหนื่อย

“ผมเอากับข้าวมาเพิ่มให้ด้วย” กระต่ายก้อนพูดจ้อพร้อมทั้งแกะกล่องใส่กับข้าวที่ถือมาออก มันทำการแหวกวงคนงานเข้ามาโดยไม่ถือศักดิ์ ก่อนจะวางกับข้าวห้าหกอย่างไว้กลางวง “อันนี้ผมช่วยนมสายทำ เจ๋งมะ”

“โห…คุณหนูทำเองเลยเหรอครับ”

“น่ากินมากเลยครับคุณหนู”

“คุณหนูเก่งมากเลยครับ”

บรรดาคนงานที่ล้อมวงอยู่ชื่นชมคุณหนูของตัวเองกันยกใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างเก้าย่อมยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจโดยไม่คิดปฏิเสธ ภูได้แต่ส่ายหน้าหน่าย มองทั้งเจ้านายและลูกน้องที่ขยันเข้าข้างกันเหลือเกินอย่างเพลียๆ แต่พอเห็นเขาจ้องมากเข้าคนที่กำลังยืดอกก็ทำหน้าตาตกใจ ก่อนจะรีบตักกับข้าวให้

“พี่ภูหิวใช่เปล่า กินเลยๆ”

“กินได้หรือเปล่า” เขาแกล้งเลิกคิ้วมองมันแบบไม่ไว้วางใจ เล่นเอากระต่ายทำหน้าบึ้งตึงแล้วตักข้าวในจานเข้าปากตัวเองคำโต

“พิสูจน์แล้ว อร่อยชัวร์” มันพยักหน้าหงึกหงักยืนยัน ปากก็เคี้ยวข้าวยกใหญ่โดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ ภูเลยทำได้เพียงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตักกินบ้าง ซึ่งก็ไม่ต่างจากที่มันโฆษณาเท่าไหร่นัก กับข้าวที่มันทำอร่อยจริงๆ “เป็นไง”

มันทำหน้าตาตื่นเต้นจ้องมองเขาด้วยความตั้งใจ ทำเอาคนถูกถามที่กำลังจะเอ่ยปากชมต้องหุบปากเงียบแล้วแกล้งทำหน้าครุ่นคิดอย่างอดไม่ได้ เห็นท่าทางเหมือนเด็กๆ ของมันเมื่อไหร่เขาก็อยากแกล้งขึ้นมาทุกที แล้วก็เป็นไปตามที่คิด…กระต่ายก้อนทำหน้าเครียดโดยไม่รู้ตัวจริงๆ

“ไม่อร่อยเหรอ”

“อร่อย” เขาเลิกแกล้งแล้วออกปากชมก่อนที่คนร่าเริงจะห่อเหี่ยวขึ้นมาจริงๆ และแค่คำพูดสั้นๆ ก็ทำให้คนฟังยิ้มได้แทบจะทันที เพียงเท่านั้นเสียงซุบซิบด้วยความไม่พอใจของบรรดาเฮียๆ ผู้หวงคุณหนูของตัวเองก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ

“หมั่นไส้…”

“ฮือ…คุณหนู”

ถ้าเป็นช่วงแรกๆ ภูก็คงคิดมากอยู่เหมือนกัน เพราะคนเหล่านี้แทบจะไม่สนใจเขาเลย ยิ่งรู้ว่าเก้าให้ความสำคัญกับเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งแยกตัวออกห่าง ทำตัวเหมือนนายใหญ่ของที่นี่ไม่มีผิด เพราะงั้นเขาถึงได้พยายามทำทุกอย่างให้คนเหล่านี้ยอมรับ และความพยายามนั้นก็เริ่มสัมฤทธิผลมากขึ้นเรื่อยๆ จนพวกนั้นยอมคุยและยอมรับเขามากขึ้นแล้ว ถึงแม้ทุกครั้งที่เป็นเรื่องของเก้าจะดูเข้มกันอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ออกไปทางหวงมากกว่าไม่พอใจ

“พี่ภู วันนี้ผมไปเล่นกับเดอะแก๊งมาตอนเช้า พวกมันบอกว่าอยากอาบน้ำแล้ว” กระต่ายที่ไม่เคยอยู่นิ่งได้นานหาเรื่องพูดคุยต่อ และเมื่อภูหันไปมองเป็นเชิงถามมันก็พูดออกมาด้วยความกระตือรือร้น “วันนี้ผมไปขออนุญาตป๋ามา บอกว่าอยากให้พี่ภูไปช่วยอาบน้ำเดอะแก๊ง ป๋าเลยยอมอนุญาต บอกว่าวันนี้พี่อยู่ในไร่แค่ครึ่งวันพอ”

“มึงคุยกับหมารู้เรื่องเหรอ ถึงบอกว่าพวกมันอยากอาบน้ำ” ภูถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ากลับมาเป็นคำตอบ

“มันไม่ตอบแสดงว่ามันตกลงไง”

“ใครสอนให้มึงคิดแบบนี้เนี่ย” เขาผลักหัวคนที่กำลังหัวเราะอารมณ์ดีด้วยความหมั่นไส้ เหตุผลที่มันพูดแบบนั้นออกมาไม่ใช่ว่ามันคิดจริงๆ แต่เป็นเพราะมันอยากให้เขาอารมณ์ดีตามไปด้วย เรื่องนั้นภูรู้ดีที่สุด แต่เห็นสีหน้าจริงจังของมันทีไร เขาก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ทุกที

“พี่รีบกินเร็ว จะได้ไปอาบน้ำเดอะแก๊งกัน”

“อืม”

ภูจำได้ว่าเขาเคยได้รับคำสั่งให้อาบน้ำฝูงหมาของเก้าในวันแรกที่เริ่มทำงาน แต่วันนั้นเขาขลุกอยู่ในไร่ทั้งวัน กลับไปอีกทีก็มีคนอาบให้พวกมันไปแล้ว หลังจากนั้นเขาก็วนเวียนอยู่กับการทำงานในไร่หรือไม่ก็ไปช่วยงานบัญชีของแม่เก้าอยู่ทุกวัน ที่ครั้งนี้เด็กนี่ไปขอพ่อให้เขาไปช่วยงานเล็กๆ อย่างการอาบน้ำหมาก็คงเพราะอยากให้เขาพักบ้าง

“ไปเลยคุณภู เดี๋ยววันนี้พวกผมจัดการเอง” แปดซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่พยักหน้าให้เขา ก่อนจะบอกให้รีบเดินตามคุณหนูของตัวเองไป ภูเลยพยักหน้ารับแล้วเดินจากไปพร้อมเก้า

ระหว่างทางเดินกลับไปที่บ้านพักของเขาซึ่งเก้าบอกว่าเอาพวกหมาไปทิ้งไว้ที่นั่นแล้ว กระต่ายก้อนทำหน้าตาอารมณ์ดีมีความสุขอยู่ตลอดเวลา จนไม่แม้แต่จะหันมาชวนเขาคุยแบบที่มักทำ ภูเหลือบตามองแล้วก็ได้แต่อมยิ้มตาม เห็นมันมีความสุขไม่เหมือนช่วงแรกๆ ที่ทำหน้าตาเศร้าๆ เพราะเห็นเขาทำงานหนักแล้วก็โล่งใจ

“เดินนานหน่อยนะพี่ ผมไม่ได้เอารถมา” มันหันมาบอกยิ้มๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อ ไม่ต้องถามภูก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายจงใจไม่เอามาเพราะอยากอยู่กับเขานานๆ

เป็นความคิดที่ทั้งเด็ก…แล้วก็น่ารักพอๆ กัน

เมื่อได้กลับมาเจอมันอีกครั้งหลังจากห่างกันไปนานถึงสองปี ภูก็พบว่ากระต่ายของเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ยามอยู่ที่อังกฤษมันคอยช่วยเหลือและคิดแทนเขาอยู่หลายครั้ง แถมความคิดหลายๆ อย่างก็เห็นแก่คนอื่นเป็นสำคัญมากกว่าแต่ก่อนพอสมควร แต่พอเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดแล้ว รวมถึงได้กลับมาอยู่บ้านซึ่งมีครอบครัวที่รักตัวเองมากๆ อยู่ กระต่ายก้อนที่เป็นผู้ใหญ่มาหลายเดือนก็เผยมุมเด็กๆ ตามนิสัยของตัวเองออกมาในที่สุด…ซึ่งมันก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้เขาแต่อย่างใด กลับกันภูคิดว่าเขาชอบเห็นมันเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะมันดูมีความสุขมากกว่าปกติ แล้วเขาก็เชื่อว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นเรื่องที่ต้องจริงจัง มันก็จะกลับไปเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิมได้แน่นอน

เพราะงั้นตอนนี้ให้มันเป็นเด็กให้เต็มที่…เป็นกระต่ายก้อนที่ชอบทำหน้าอ้อนเขาโดยไม่รู้ตัวก็ดีแล้ว

“พี่นั่งก่อน”

ภูมองตามหลังคนที่ออกคำสั่งในทันทีที่มาถึงบ้านเงียบๆ เขายอมนั่งลงตามที่มันพูดเพราะอยากรู้ว่าเจ้าตัวจะทำอะไร และวินาทีต่อมาก็ได้รับคำตอบ เมื่อสิ่งมีชีวิตหน้าขนกว่าหกตัววิ่งดุ๊กดิ๊กมาจากหลังบ้าน

“ห้ามขึ้นโซฟานะ ยังไม่ได้อาบน้ำ” เจ้านายของพวกมันตะโกนสั่ง ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามมา ภูมองหมาหกตัวนั่งเรียงกันอยู่ที่พื้นด้วยความประหลาดใจ เขาคิดว่าคนที่นี่คงจะฝึกพวกมันมาดีมากถึงได้เชื่อฟังคำสั่งขนาดนี้ และอีกอย่าง…

“คุยกับหมารู้เรื่องจริงๆ ด้วย”

กระต่ายก้อนชักสีหน้า แต่มันคงรู้ตัวว่าคนพูดเปิดประเด็นเรื่องนี้ไว้ในตอนแรกคือตัวเอง เพราะงั้นถึงได้ยอมเมินทำเป็นไม่สนใจและไม่ได้เถียงอะไร

“พาพวกมันไปอาบน้ำกัน วันนี้พี่จะได้พัก”

ภูหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่อง เขาขยับกายลุกขึ้นยืนก่อนจะบอกให้มันนำทางไป แล้วเก้าก็พาเขามาที่หลังบ้านซึ่งมีสายยางกับแชมพูอาบน้ำหมาวางไว้อยู่แล้ว

“พี่เคยอาบน้ำหมามาก่อนไหม”

“ไม่”

“ดีเลย” มันบอกก่อนจะยิ้มแป้น และนั่นทำให้เขาต้องหรี่ตาลงโดยอัตโนมัติ “ผมก็ไม่เคยเหมือนกัน”

ภูกลอกตาเมื่อสิ่งที่มันพูดตรงกับสิ่งที่เขาคิดจริงๆ คิดอยู่แล้วว่าคนที่นี่คงไม่ปล่อยให้คุณหนูของบ้านอาบน้ำหมาด้วยตัวเอง แถมเจ้าตัวก็ไม่น่าจะขยันอยู่แล้วด้วย ดูจากนิสัยแล้วน่าจะเป็นคนพาไปทำเลอะเสียมากกว่า

“ไปเลือกตัวแรกมา” เขาออกคำสั่ง ก่อนจะพับแขนเสื้อกับขากางเกงของตัวเองขึ้น จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้เตี้ยๆ ที่วางอยู่สองตัว ซึ่งคนที่พยายามทำตัวให้มีประโยชน์ก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างตั้งใจ แล้ววิ่งไปจับหมาฮัสกี้ตัวโตมาเป็นลำดับแรก

“หมาปัญญาอ่อน” มันจับหน้าหมาฮัสกี้ของตัวเองไว้แล้วเบะปากใส่ ภูได้แต่ส่ายหน้าหน่ายขณะมองไปยังคนที่กำลังจ้องหมาฮัสกี้ตาเขม็ง “ทำไมมึงเหมือนไอ้โซจังวะ”

“เอาเพื่อนไปเปรียบกับหมาอีก”

“อย่าว่าแต่ผมเลย ขนาดเมียมันยังบอกว่ามันเหมือนหมา” มันอธิบาย ก่อนจะขยี้หัวหมาตัวโตด้วยความหมั่นไส้ เห็นแบบนั้นแล้วเขาก็เงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

สรุปแล้วถึงจะทำท่าทางอยากช่วย แต่หลังจากจัดการหมาฮัสกี้เสร็จไปตัวเดียว เขาก็ออกคำสั่งเด็ดขาดให้กระต่ายก้อนคอยจับหมาอยู่เฉยๆ เพราะถ้าขืนยังให้มันช่วย นอกจากจะอาบน้ำให้หมาไม่เสร็จเสียทีแล้วมันยังจะทำให้เขาเปียกไปทั้งตัวด้วย

“คุณอชิรา…”

ภูหยุดมือที่กำลังล้างตัวให้หมาตัวสุดท้าย ก่อนจะหันไปมองตามเสียงเรียก เช่นเดียวกันกับเจ้าของชื่อที่รีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาแม่ตัวเอง

“จ๋ามาไม”

“คุณป๋าเรียกหาค่ะ คุณแม่ให้คนรออยู่หน้าบ้านแล้ว เสร็จแล้วค่อยกลับมาอีกที”

เก้าขมวดคิ้วมองคนพูดด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ถึงอย่างนั้นเมื่อหันไปเห็นใครอีกคนพยักหน้าให้ก็ยอมตกลง โดยไม่ลืมหันไปย้ำกับแม่ตัวเองอีกที

“ห้ามแกล้งพี่ภูนะ”

สิ้นคำ เจ้าตัวก็รีบวิ่งไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็วเพราะจะได้รีบกลับ ปล่อยให้คนสำคัญของตัวเองทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น

เนิ่นนานหลายนาทีก็ไม่มีใครแสดงท่าทีอะไรออกมา ภูมองธารินทร์นิ่งงันเช่นเดียวกับที่เธอมองเขา หนึ่งคนมีใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ ส่วนอีกคนหนึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มทว่าดูอันตราย หากในยามนี้คนสำคัญของที่นี่ซึ่งเพิ่งวิ่งจากไปมาเห็น เจ้าตัวคงจะบ่นว่าจ๋าของตัวเองน่ากลัวยิ่งกว่าป๋าเสียอีกเป็นแน่

“คุณแม่มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” แล้วก็เป็นภูที่เลือกทำลายความเงียบก่อนตามมารยาท เขาก้มตัวลงปิดน้ำ จากนั้นก็วางสายยางลงแล้วยืดตัวยืนตรง แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงใจดีที่จะยอมยกลูกชายให้ง่ายๆ แต่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินทางมาหาด้วยตัวเองแบบนี้

“คุณแม่แค่จะมาเตือนอะไรคุณภูสักนิดค่ะ” ธารินทร์แย้มรอยยิ้มสวยไปถึงดวงตา เธอจ้องมองคนที่ลูกชายเลือกด้วยความชอบใจเมื่อพบว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมา ทั้งยังเหมือนจะรู้อยู่แล้วด้วยว่าเธอจะมาหา

“เชิญครับ”

“คุณภูดูไม่ตกใจเลยนะคะ”

“ผมทราบดีอยู่แล้วว่าคุณแม่คงไม่ยกลูกชายให้ง่ายๆ” ภูตอบกลับไปตามความจริง ก่อนจะสังเกตท่าทีของฝั่งตรงข้ามอย่างละเอียดผ่านสายตาเรียบนิ่งเย็นชา ยิ่งได้พูดคุยโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยแบบนี้เขาก็ยิ่งมั่นใจว่า…คนตรงหน้าน่ากลัวกว่าพ่อของเก้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนหลายเท่า

“อย่าเข้าใจผิดค่ะ” ธารินทร์ยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะเดินเข้าใกล้คนตัวเปียกที่ยังคงยืนนิ่งเป็นก้อนหินมากขึ้น “คุณแม่บอกว่ายอมรับก็แสดงว่ายอมรับ ไม่คิดคืนคำ ยิ่งเห็นคุณภูพยายามเพื่อคุณอชิรามากขนาดนี้ จะให้ใจร้ายใจดำก็คงไม่ได้”

“…”

“เพียงแต่…” รอยยิ้มสวยบนใบหน้าจางลงเล็กน้อยเมื่อมองสบกับดวงตาสีเทาของว่าที่ลูกเขย “แม้คุณอชิราจะโง่ บ้า ปัญญาอ่อนขนาดไหนก็ยังเป็นลูกชายคนเดียวของคุณแม่”

“…”

“ถึงคุณแม่จะยอมรับคุณภูแล้ว แต่ถ้าทำให้คุณอชิราเสียใจขึ้นมา…” ธารินทร์จับมือเปียกชื้นของคนที่เธอยอมรับขึ้นมาแล้วตบเบาๆ ราวกับจะย้ำ “ไม่ต้องให้ถึงมือคุณป๋า…คุณภูรู้ใช่ไหมคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่มากขึ้น ภูจ้องมองใบหน้าของคนตรงหน้านิ่งงัน ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายบีบมือนั้นกลับเป็นการตอบคำถาม

“ถึงเวลานั้นถ้าคุณแม่อยากฆ่า…ผมก็จะมาให้ฆ่าถึงที่”

มันไม่ใช่เพียงการให้สัญญากับธารินทร์ แต่หมายรวมถึงการให้สัญญากับตัวเองว่า…เขาจะไม่มีวันทำให้มันเสียใจเป็นอันขาด

 

 

เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนเต็มที่แขกผู้มาเยือนถูกใช้งานหนักยิ่งกว่าคนงานทั่วไป จากแรกเริ่มที่ต้องทำงานในไร่ส้ม ภูเริ่มได้รับงานทางด้านเอกสารเพิ่มเติมเข้ามา เขาได้รับคำสั่งจากธารินทร์โดยตรงให้ช่วยดูแลบัญชีเป็นการชั่วคราว หลังจากที่คนทำบัญชีคนเก่าขอลางาน ซึ่งภูก็เต็มใจทำทุกอย่าง เพราะเขามีความสุขทุกครั้งที่กระต่ายก้อนเข้ามาพัวพันและพยายามทำให้เขายิ้ม

แน่นอนว่ามันโดนพ่อกับแม่ขังไว้ในบ้านอยู่บ่อยครั้งเพราะมาหาเขาบ่อยเกินไป บางครั้งไม่ใช่แค่มาหา แต่ถึงขั้นมาช่วยรดน้ำต้นส้มอยู่เกือบครึ่งวัน ทำเอาคนงานทำงานกันแทบไม่ได้เพราะเป็นห่วงคุณหนูกันเหลือเกิน แต่ถึงมันจะโดนขังหรือห้ามยังไงก็ยังแอบปีนระเบียงออกมาหาเขากลางดึกได้ทุกวัน ภูไม่เคยตำหนิเพราะเขาเองก็อยากเจอมันไม่แพ้กัน เขาชอบเวลาที่มันมาบีบๆ นวดๆ แล้วถามว่าเหนื่อยไหม หรือบางทีก็พูดจากวนตีนเพื่อให้ยิ้ม

แม้จะเหนื่อย…แต่ทุกๆ วันก็เต็มไปด้วยความสุข

[เฮเลนบอกว่าจะพาผมไปหาอาซีก่อน แล้วถึงจะไปหาพี่]

“อืม ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”

[ครับ]

ภูละสายตาออกจากจอโทรศัพท์ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ หลังจากคิดใคร่ครวญอยู่นาน เขาตัดสินใจบอกแม่เลี้ยงตัวเองว่ายังไม่อยากให้ภามมาหา เพราะเขายังทำให้ครอบครัวเก้ายอมรับไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าทุกคนใจดีและแบ่งแยกสถานะได้แน่นอน แต่เขาก็ยังไม่อยากให้น้องชายมาเห็นตอนตัวเองทำงานหนักแบบนี้อยู่ดี ภามอาจไม่พูดอะไร แต่ถ้าวันไหนมีปัญหาขึ้นมาเขากลัวว่ามันจะไม่จบง่ายๆ…ยังไงเรื่องของภามก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และภูคิดว่าการป้องกันไว้ย่อมดีกว่าการตามแก้ทีหลังแน่นอน

“หมดเวลาพักแล้วนะคุณภู!”

“รู้แล้ว” ร่างสูงโปร่งขยับกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปหาแปด ทว่าเดินไปได้ครู่เดียวก็ต้องหยุดเท้าแล้วยกมือนวดขมับที่ปวดตุบของตัวเองเบาๆ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงลางไม่ดี ร่างกายที่เหนื่อยล้าสะสมมานานกำลังร้องเตือนว่าถึงเวลาที่เขาควรพักได้แล้ว

การได้นอนน้อยติดต่อกันหลายวันเพราะต้องติดต่องานที่อังกฤษในเวลากลางคืน ทำให้ร่างกายของตัวเองเริ่มรับไม่ไหว เรื่องนั้นภูรู้ดีที่สุด แต่เขาก็ยังฝืนทนทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเอง เพียงแต่เขาเคยชินกับการทำงานเกินขีดจำกัดอยู่แล้ว ตั้งแต่สองปีก่อนที่เริ่มทำงานที่บริษัทในฐานะประธานเขาก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด มาได้พักจริงจังก็ช่วงที่โดนกระต่ายบางตัวสั่งให้หยุดวันอาทิตย์

“คุณภู โอเคหรือเปล่า” แปดแตะแขนของคนข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง เพราะสนิทที่สุดเขาถึงได้รู้ว่าคุณชายคนนี้ทำงานหนักมากขนาดไหน แม้อยากบอกให้พัก แต่เขาก็ยังไม่กล้าขัดคำสั่งของนายที่ป้อนงานให้อีกฝ่ายอยู่ทุกวัน

“โอเค” ภูยืดกายตั้งตรง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าให้กลับไปราบเรียบเหมือนเคย

“เออใช่…คุณหนูฝากบอกว่าออกไปข้างนอกกับคุณผู้หญิงนะ เดี๋ยวเย็นๆ จะมาหา”

“อืม” คนฟังถอนหายใจโล่งอก ดีแล้วที่มันไม่ได้มาที่นี่ เพราะถ้ามันมา แค่นาทีแรกก็ต้องสังเกตเห็นแน่

เวลานี้เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าตัวเองจะเป็นยังไง…แต่เขากังวลว่าถ้าใครอีกคนรู้แล้วมันจะเป็นห่วงจนต้องทำหน้าเศร้ามากกว่า และถ้าเป็นแบบนั้น…ภูคงเจ็บมากกว่านี้อีกหลายเท่า

“ถ้าไม่ไหวโทร. เรียกผมนะ” แปดตบบ่าคนข้างๆ เบาๆ ก่อนจะเดินไปอีกทางเมื่อมาถึงจุดที่พวกเขาต้องแยกกันไปทำงาน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ตรงนี้แล้วกายสูงก็ทรุดลงนั่งยองๆ ที่พื้น ยกมือบีบขมับที่เริ่มปวดมากขึ้นของตัวเองแรงๆ ราวกับจะบังคับให้มันหยุดปวด

หลังจากสะบัดหัวเรียกสติอยู่หลายครั้งเขาก็สามารถลุกขึ้นได้ในที่สุด สีหน้าที่เคยราบเรียบเย็นชาฉายแววเคร่งเครียดเมื่อรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังจะไม่ไหว และสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับอาการปวดหัวของตัวเองได้

“ก้อน…” รู้ตัวอีกทีภาพในสายตาก็เลือนราง ก่อนจะดับลงพร้อมกับที่ร่างสูงโปร่งล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น

ท่ามกลางความมืดและแดดร้อนจัดในเวลากลางวัน ภูได้ยินเสียงคุ้นเคยของใครสักคนเรียกเขาจากที่ไกลๆ เปลือกตาที่ปิดสนิทพยายามปรือขึ้นมอง เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเสียงของคนคนนั้นเริ่มสั่นเครือมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงปนสะอื้นในที่สุด

“เฮีย! ใครก็ได้!…ฮึก”

คนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือด้วยเสียงที่เหมือนใจจะขาด ฝ่ามือเย็นเฉียบพยายามลูบใบหน้าของคนที่กำลังหลับตาให้รู้สึกตัว แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบรับ น้ำตาที่ไหลเป็นทางก็ล้นทะลักมากกว่าเดิม

“พี่ภู พี่ภู”

ภูรู้สึกว่าเสียงนั้นดังชัดมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เขาจะมองไม่เห็น และในที่สุดความพยายามก็สัมฤทธิผล เมื่อเขาสามารถเค้นแรงเพื่อลืมตามองมันจนได้

“พี่ภู อย่าหลับตานะ แป๊บเดียว…ฮึก…ใครก็ได้! มาช่วยผมหน่อย!” มันพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูปวดร้าว ก่อนจะเงยหน้ามองไปรอบๆ แล้วพยายามคุ้ยกระเป๋าตัวเองหาอะไรบางอย่าง “โอ๊ย! ไอ้เหี้ย!…ฮึก…ลืมโทรศัพท์ไว้อีก ไอ้สัตว์!”

ภูอยากจะขำก็ขำไม่ออก เขาเห็นตามันแดงก่ำ น้ำตาไหลเป็นทางจนอยากจะยกมือขึ้นเช็ดให้ แต่ติดอยู่ที่ไม่มีแรงแม้แต่น้อย สุดท้ายกระต่ายไร้ความอดทนก็หุบปากฉับราวกับกำลังพยายามตั้งสติ มันหยิบโทรศัพท์ออกไปจากกระเป๋ากางเกงของเขา ก่อนจะกดโทร. หาใครสักคนแล้วเรียกให้ฝั่งนั้นมาหา จากนั้นก็หันมาพยุงเขาให้ลุกขึ้น

“พี่ทนก่อนนะ” มันบอกแล้วพยายามแบกเขาขึ้นหลัง แต่ด้วยสัดส่วนที่ต่างกันพอควรเลยทำให้ทุกอย่างดูยากลำบากไปหมด ภูอยากจะบอกให้มันพอ เขาไม่อยากให้มันเหนื่อย แต่สุดท้ายกระต่ายก้อนก็พาเขามาถึงร่มไม้จนได้ “พี่อย่าเป็นไรนะ…เพราะป๋าสั่งงานหนักไปแน่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ ผมจะโกรธป๋า จะงอนสามวัน จะฟ้องจ๋าด้วย แล้วก็…”

ไม่รู้ว่าน้ำตามันหยุดไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ บางทีอาจจะตั้งแต่ที่ตั้งสติได้และรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่พอหายเครียดแล้วก็บ่นงุ้งงิ้งไม่หยุดอยู่นานหลายนาที จนเมื่อภูหัวเราะออกมาเบาๆ มันถึงได้หันกลับมาสนใจ

“พี่เป็นไงบ้าง”

“โอเค” ภูตอบสั้นๆ แต่คนฟังกลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ เขาเลยต้องพูดต่อช้าๆ “ปวดหัว”

“เดี๋ยวเฮียสองก็เอารถมาแล้ว รอก่อนนะ”

“อืม” เขาตอบรับพร้อมกับจ้องหน้ามันเงียบๆ เมื่อได้เห็นเหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามกรอบหน้าของมันแล้วก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ และคงเผลอแสดงสีหน้าออกไป มันถึงได้ยกมือเช็ดเหงื่อตัวเองเป็นการใหญ่

“ตอนแรกผมก็จะไปกับจ๋าแล้วนะ แต่มีตัวเงินตัวทองวิ่งผ่านรถ จ๋าบอกลางไม่ดีไม่ไปดีกว่า ผมเลยรีบมาหาพี่” กระต่ายก้อนพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงร่าเริง เขาเลยต้องยกยิ้มตามเมื่อเห็นความตั้งใจของมัน

“ขยับมาใกล้ๆ” ภูพูดเสียงแผ่ว ซึ่งคนฟังก็ทำหน้างงอยู่ครู่เดียว ก่อนจะขยับเข้ามาหาตามคำสั่ง เห็นแบบนั้นแล้วเขาก็ฝืนยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่ยังติดอยู่บนแก้มใสให้แผ่วเบา

กระต่ายของเขาทำหน้าตาตกใจ มันยกมือกุมสองแก้มแดงเถือกของตัวเองไว้แล้วนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ภูรู้ดีว่ามันกำลังเขิน และเขาก็กล้ายอมรับว่าชอบมากจริงๆ ยามได้เห็นมันแสดงอาการแบบนั้น เพียงแต่ความอ่อนล้าที่ยังคงอยู่ทำให้สติที่มีเริ่มจางหายไปอีกครั้ง แม้แต่เรี่ยวแรงก็ดูราวกับจะถูกใช้ไปจนหมดกับการเช็ดน้ำตาให้มันเมื่อครู่

“กูนอนแป๊บเดียว” เขาบอก ก่อนจะเอนกายไปพิงไหล่มันไว้…แล้วสติที่มีทั้งหมดก็จางหายไป

 

 

“ทำไมป๋าทำแบบนี้!”

“ตัวเล็ก…”

“เฮียแปดต้องรายงานป๋าอยู่แล้วว่าพี่ภูอาการไม่ค่อยดี แต่ป๋าก็ยังสั่งให้เขาไปทำงาน”

ภูขยับกายเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงเสียงรบกวนจากคนรอบข้าง เขาจำได้ว่าเสียงหนึ่งคือเสียงของกระต่ายก้อนที่กำลังโวยวาย ส่วนอีกเสียงคือนายใหญ่เจ้าของที่นี่ ถึงอย่างนั้นอาการอ่อนล้าและปวดหัวที่รุมเร้าก็ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะพูดอะไร

“ตัวเล็ก ป๋า…”

“ป๋า…พอเถอะนะ”

เขาพยายามฝืนลืมตาเมื่อได้ยินเสียงเก้าพูดด้วยความปวดร้าว และในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ…ภาพที่เห็นตรงหน้าคือคนสองคนซึ่งกำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ โดยไม่ได้สังเกตเห็นว่าเขาตื่นแล้ว

“เรายอมหมดแล้ว อย่าแกล้งพี่ภูเลยนะ” คนพูดยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ ด้วยท่าทางน่าสงสารที่ทำให้คนมองปวดใจ และคนที่น่าจะปวดใจยิ่งกว่าคงเป็นเจ้าของไร่ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตาม

“ตัวเล็ก อย่าร้อง…”

“เรารอเขามาสอง…ไม่สิ…สามปี เราพยายามทำให้เขาหันมามอง…ฮึก…สุดท้ายความพยายามก็ชนะใจเขาได้ ป๋าอย่าทำลายความพยายามของเราเลยนะ”

“ป๋าไม่ได้…”

“เรารู้ว่าป๋ารักเรา แล้วก็อยากให้เขาพิสูจน์ตัวเอง แต่แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอป๋า เขาทำงานให้เรามาเป็นเดือนแล้วนะ ทำทุกวันไม่มีหยุด ทำทุกอย่างยิ่งกว่าที่เฮียๆ ทำ” เก้าพูดเสียงสั่นเครือพลางกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นไม่ให้มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา

“ตัวเล็ก…อย่าร้องนะครับ…โอ๋ๆ ป๋าขอโทษนะ” ว่าแล้วนายใหญ่เจ้าของไร่ก็ดึงตัวคนที่กำลังสะอึกสะอื้นเข้าไปกอดไว้แน่นพลางลูบหัวลูบหลังปลอบยกใหญ่ สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจ ก่อนจะพูดต่อ “ป๋าไม่แกล้งคนที่ตัวเล็กชอบแล้วครับ ไม่แกล้งแล้วจริงๆ”

“จริงนะ?”

“จริงครับ ป๋าสัญญา”

“ป๋าให้เขามาอยู่บ้านใหญ่กับเรานะ” คนที่สะอึกสะอื้นเมื่อครู่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ทว่าผู้ที่รักและหลงลูกยิ่งกว่าสิ่งใดก็ยังไม่รู้สึกตัว

“ครับ เอาแบบที่ตัวเล็กต้องการทุกอย่างเลยดีไหม”

“ถ้าป๋าคืนคำ เราจะโกรธป๋าสามวัน”

“ไม่โกรธป๋านะคนดี ป๋าไม่คืนคำแน่นอน ตัวเล็กหยุดระ…” คนพูดชะงักไป เมื่อผละกายออกแล้วมองเห็นใบหน้าของลูกชายสุดรักสุดหวงเต็มตา…ใบหน้ายิ้มแย้มที่ไร้ซึ่งความเสียใจใดๆ

“เรารักป๋าที่สุดเลย” เก้าฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะโถมกายเข้ากอดคนที่ยืนนิ่งเป็นหินเต็มแรง สุดท้ายผู้เป็นพ่อก็ทำได้เพียงยิ้มน้อยๆ แล้วกอดกลับ

ต่อให้เป็นการแกล้ง…แต่เขาก็ไม่อยากเห็นลูกชายร้องไห้อีกแล้ว

“เดี๋ยวป๋ามาใหม่พรุ่งนี้นะครับ ตัวเล็กล้างหน้าล้างตาแล้วค่อยมานั่งเฝ้าคนป่วยนะรู้ไหม”

“โอเค” คนฟังพยักหน้าหงึกหงักรับคำ รอจนพ่อตัวเองเดินออกจากห้องไปแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะยกมือขยี้ตา

“ก้อน…” ภูที่มองสถานการณ์ตรงหน้าอยู่นานส่งเสียงเรียกเบาๆ จนกระต่ายสะดุ้งแล้วรีบวิ่งมาหา

“พี่เป็นยังไงบ้าง”

“โอเคแล้ว”

“ค่อยโล่งอกหน่อย”

“มาใกล้ๆ” เขากวักมือเรียกให้มันเข้ามาหา ซึ่งกระต่ายก็ทำตามแต่โดยดี และเมื่อมันเข้ามาใกล้พอให้ยื่นมือไปหาได้แล้ว เขาก็ดึงแขนมันอย่างแรงจนร่างนั้นล้มลงมาทับอยู่ที่อกตัวเอง

“พี่ภู…”

“ว่าแล้ว…”

“หือ”

“มึงทายาหม่องใช่ไหม” สีหน้าของคนป่วยดูราบเรียบว่างเปล่า ในขณะที่คนฟังเงยหน้ายิ้มแห้งพลางหัวเราะแหะๆ เป็นการยอมรับ

“นิดเดียวเอง…”

ถึงขนาดเอายาหม่องป้ายตาเพื่อให้ตัวเองร้องไห้…

“เฮ้อ…”

ในโลกนี้คงหากระต่ายเจ้าเล่ห์แบบมันไม่ได้อีกแล้ว

 

------------------------

 

 TALK: กำหนดการรอบสต็อคจะออกสิ้นเดือนนะคะ ติดตามได้ทางเพจ Chesshire. กับทวิต @Chesshire04

 

 

 

ออฟไลน์ sahatsawat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #722 เมื่อ26-11-2017 19:57:41 »

ยาหม่องง?!? ..เก้าลูกกหนูลงทุนมากกกกกกกกกกก 
ป๋าาายอมๆๆไปเถ้อออ 5555 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #723 เมื่อ26-11-2017 20:01:37 »

กระต่ายเจ้าเล่ห์.... o13

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #724 เมื่อ26-11-2017 20:15:46 »

เก้าเจ้าเล่ห์จริงๆเลย o18 o18 o18

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #725 เมื่อ26-11-2017 20:43:32 »

จิ้งจอกสุดๆ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #726 เมื่อ26-11-2017 21:22:04 »

โถ่ เก้าสงสารปะป๊าขึ้นมาทันที 555

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #727 เมื่อ26-11-2017 21:54:29 »

นังนู๋เก้า ทำไมร้าย  :m20: สงสารพี่ภู สงสารป๋า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #728 เมื่อ26-11-2017 23:02:04 »

ใช้ยาหม่องป้ายตา วิธีนี้คิดว่าก้อนคงใช้มาไม่น้อย แล้วก็คิดว่าป๋าคงรู้แน่ ๆ แต่เพราะรักไงเลยยอม ๆ ไป  :hao3:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #729 เมื่อ26-11-2017 23:04:48 »

กระต่ายก้อนร้ายยยยยย :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
« ตอบ #729 เมื่อ: 26-11-2017 23:04:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #730 เมื่อ26-11-2017 23:55:12 »

เจ้าก้อนร้ายกาจมาก!!!

ออฟไลน์ Khaoggg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #731 เมื่อ27-11-2017 00:55:53 »

กำลังจะซึ้งเลย  สุดท้ายก็อดขำไม่ได้ทุกทีสิน่า  :m20:
เอ็นดูนุ้งเก้าจริงๆ :o8:

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #732 เมื่อ27-11-2017 03:20:11 »

เก้าก็คือเก้า จะดึงดราม่าหน่ยก็ดราม่าไม่สุด 555

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #733 เมื่อ27-11-2017 09:06:30 »

คนเจ้าเล่ห์มากกกกกก5555+


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #734 เมื่อ27-11-2017 10:30:16 »

กระต่ายของพี่ภูเจ้าเล่ห์อ่ะ  o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #735 เมื่อ27-11-2017 12:32:47 »

เกือบซึ้งละเก้า เกือบซึ้งจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเอายาหม่องป้ายตาอ่ะ ก้อนแม่ง! เจ้าเล่ห์ #พี่ภูของบ่าว

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #736 เมื่อ27-11-2017 15:08:58 »

เอาความซึ้งเราคืนมา โธ่ ไอ้กระต่ายบ้าเอ้ย

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #737 เมื่อ27-11-2017 17:18:27 »

โอเค สุดท้ายก็ยังเป็นกระต่ายบ้า 555
สงสารพี่ภูที่ตกหลุมกระต่ายแล้วสิ
แต่ดูแล้วน่าจะเห็นใจคุณป๋าที่สุด

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #738 เมื่อ27-11-2017 21:50:40 »

ก้อนคือกระต่ายเจ้าเล่ห์  :hao7:

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #739 เมื่อ27-11-2017 22:41:09 »

กร๊ากกกก...คุณป๊าเสียรู้ให้กระต่ายน้อยซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
« ตอบ #739 เมื่อ: 27-11-2017 22:41:09 »





ออฟไลน์ Namshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #740 เมื่อ28-11-2017 07:06:54 »

ก้อนลูกกกกกกกกกกกทำร้ายกาจแบบนี้ :katai5:

ออฟไลน์ Pamari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #741 เมื่อ28-11-2017 19:22:26 »

ยัยก้อน!ทำไมเจ้าเล่ห์แบบเน้~~~~
ขอยายก้อนได้มั้ยพี่ภู❤ :-[ :-[

ออฟไลน์ AgotoZ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #742 เมื่อ28-11-2017 21:53:04 »

5555555  ป๋าโดนน้องเก้าหลอก  แสบจริงๆๆๆเลย

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #743 เมื่อ29-11-2017 12:40:21 »

ยาหม่อง โอ้ยย เก้าเอ้ย แสบจริงๆ  5555

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #744 เมื่อ30-11-2017 07:54:25 »

โอ้ยยอย่าว่าแต่คุณป๋าเราก็เชื่อน้องเก้าไปเหมิอนกัน :ling1:

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[38]==[P.25]== [26/11/60]
«ตอบ #745 เมื่อ02-12-2017 18:14:20 »



-39-

 

ศรันย์สบตากับภรรยาของตัวเองนิ่งงัน ใบหน้าสวยของคู่ชีวิตที่มักจะยิ้มแย้มเสมอยามนี้นิ่งสนิทยากจะคาดเดา ธารินทร์เคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงานของเขาเบาๆ ด้วยสีหน้าครุ่นคิดที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ซึ่งนั่นนับเป็นการกระทำที่ดูน่ากลัวจนคนมองทำได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วยืนตัวลีบอยู่เงียบๆ

“รันย์…” น้ำเสียงราบเรียบของภรรยาที่นานๆ จะได้ยินสักครั้ง ทำให้ผู้เป็นสามีถึงกับต้องหลุบตาลงต่ำ นับดูแล้วนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ธารินทร์เรียกเขาด้วยชื่อเล่นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเธอมักจะเรียกเขาว่าคุณป๋าตามลูกชายสุดที่รักมาโดยตลอด

หากใครบอกว่าธารินทร์เป็นคนใจดีที่ดูลั้นลาไปวันๆ ศรันย์จะมองแรงใส่แล้วด่าว่าไอ้โง่อยู่ในใจทุกครั้ง เพราะเทียบกับเขาที่ดูดุเถื่อนแล้ว เธอที่เอาเขาอยู่ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน อีกทั้งถ้าธารินทร์ลั้นลาไปวันๆ จริงๆ กิจการไร่ส้มที่เธอทำเล่นๆ เพราะชอบคงไม่เจริญรุ่งเรืองขนาดนี้แน่

“รันย์…” เสียงเรียกซ้ำทำเอาคนตัวโตสะดุ้งเฮือก ต้องรีบหันกลับไปสบตาแล้วตอบรับอย่างรวดเร็ว

“จ๋า”

“ได้ข่าวว่าคุณทำลูกร้องไห้…”

ใครเอาไปบอกวะ!

คนฟังหน้าตาซีดเซียว ในขณะที่คนพูดกลับมีท่าทีนิ่งเฉยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน และนั่นแหละที่น่ากลัว…

“ฉันบอกว่าจะยอมให้คุณพิสูจน์ตามที่ต้องการก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถแกล้งเขาแบบไร้เหตุผลได้ และที่สำคัญ…ทำไมถึงทำให้ลูกร้องไห้”

หากถามว่าคนที่ตามใจและหวงเก้าที่สุดคือใคร คนส่วนมากอาจตอบว่าคือศรันย์ แต่ตัวเขาเองรู้ดีว่า ผู้หญิงที่ไม่ชอบแสดงออกคนนี้ต่างหากที่ตามใจและหวงลูกมากที่สุด เธอยินดีหากได้เป็นคนกวนประสาทเก้าด้วยตัวเอง แต่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำให้ลูกชายสุดที่รักต้องรู้สึกแย่เด็ดขาด…และนั่นรวมถึงเขาด้วย

“แต่ดูเหมือนลูกจะไม่ได้ร้องจริง…”

“ฉันไม่สนใจว่าลูกจะร้องจริงหรือแกล้งร้อง ถ้าไม่จนตรอกจริงๆ คุณคิดว่าคุณอชิราจะใช้วิธีแบบนั้นเหรอคะ” ธารินทร์ขยับกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้าวเท้าไปหาสามีช้าๆ “เราเคยคุยกันแล้วว่าต่อให้คุณอชิราเข้มแข็งขนาดไหน เขาก็ยังต้องการคนดูแล เด็กคนนั้นต้องการคนมาอยู่เคียงข้าง และเขาก็เลือกแล้ว”

“…”

“ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาน่าจะมากพอกับการทดสอบคุณภูแล้วนะคะ เรารู้แล้วว่าเขาเป็นคนดีและพร้อมทำเพื่อตัวเล็กของคุณ นอกจากนั้นยังมีความสามารถและความตั้งใจยิ่งกว่าใคร ขนาดคุณมอบหมายงานที่ไม่จำเป็นให้ทำเขาก็ยังทำโดยไม่บ่นสักคำ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ”

ศรันย์ทำได้เพียงก้มหน้าลง เพราะเขาไม่สามารถเถียงในสิ่งที่ธารินทร์พูดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียว แม้ไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับว่าคนที่ลูกชายของตัวเองเลือกมานั้นสมบูรณ์แบบทั้งภายนอกและภายใน ทั้งที่ตัวเองเป็นถึงประธานบริษัทที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้เลยสักนิด แต่อีกฝ่ายก็ยังเต็มใจเข้ารับการทดสอบโดยไม่มีเงื่อนไข และเขารู้นิสัยของลูกชายดีอยู่แล้ว ศรันย์เชื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะฝั่งนั้นพูดอะไรไว้ เก้าต้องไม่ยอมอยู่เฉยๆ ดูคนที่ตัวเองชอบทำงานงกๆ แบบนี้แน่

ที่ลูกลงทุนใช้แผนร้องไห้ให้เขาใจอ่อน นั่นคงเป็นเพราะเจ้าตัวไม่เห็นหนทางแล้วจริงๆ

“ผมเข้าใจแล้ว” ศรันย์ถอนหายใจยาว “ผมจะไม่ขัดขวางลูกอีก”

“ทำเท่าที่ควรทำเถอะค่ะ” ธารินทร์แตะแขนสามีเบาๆ ก่อนจะยิ้มบาง “ฉันเองก็หวงลูกไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าความรู้สึกของเราคือความรู้สึกของลูก คุณก็คิดแบบนั้นใช่ไหมคะ”

“ครับคุณหญิง”

“ดีมากค่ะคุณป๋า” ธารินทร์ฉีกยิ้มเป็นปกติ ก่อนจะกลับไปพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยแบบที่เธอชอบทำ “ทีนี้ก็ลองไปคุยกับว่าที่ลูกเขยดูนะคะ เปิดใจแล้วรับฟังเขา บางทีถ้าได้ลองคุยกันตรงๆ คุณอาจจะชอบเขาก็ได้”

 

 

ศรันย์หยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของคนป่วยเป็นเวลานานกว่าสิบนาทีแล้ว ในหัวของเขามีความคิดมากมายหลายอย่างตีกันอยู่ แต่น่าแปลกที่คราวนี้เขาไม่ได้หงุดหงิดหรือหัวร้อนที่จะต้องมาเจอภูเหมือนเคย

บางทีอาจเป็นเพราะได้เห็นน้ำตา…ปลอมๆ…ของลูกชายไปเมื่อวาน อีกทั้งเขาก็รับปากไปแล้ว

สุดท้ายนายใหญ่ของที่นี่ก็ตัดสินใจเคาะประตู ก่อนจะเข้าไปด้านในโดยไม่รอคำตอบ สิ่งแรกที่เห็นคือภาพของคนป่วยที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงใช้มือเดียวกดโน้ตบุ๊ก ส่วนมืออีกข้างก็ทำหน้าที่ลูบหัวคุณหนูของบ้านซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ที่ตักเบาๆ อย่างอ่อนโยน

“ไม่ต้องปลุก” ศรันย์รีบบอก เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเขย่าตัวปลุกคนที่กำลังนอนหลับสบาย

“คุณอามีอะไรหรือเปล่าครับ” ภูก้มหน้าลงมองคนที่พลิกตัวไปมา ก่อนจะลูบแก้มเบาๆ ให้เจ้าตัวสงบลงและกลับไปนอนนิ่งเหมือนเดิม ซึ่งคนที่นอนกลิ้งเล่นเกมอยู่ข้างเขาทั้งคืนก็ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี

แต่ดูเหมือนจะมีคนเข้าใจผิด…

“ตัวเล็ก…” คนเป็นพ่อมองลูกชายตัวเองที่ยังหลับสนิทด้วยความเศร้าสร้อย ยิ่งเห็นว่าตาสองข้างของเก้ายังคงแดงก่ำและบวมช้ำเขาก็ยิ่งปวดใจ

แน่นอนว่าภูมองเห็นและเข้าใจทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็เลือกที่จะไม่อธิบายความจริงออกไปว่า…จริงๆ แล้วที่เด็กนี่ตาบวมแดงเป็นเพราะทายาหม่องเยอะเกิน แถมยังฝืนเล่นเกมจนดึกโดยไม่ยอมหยุดพักอีกต่างหาก เพิ่งจะได้นอนก็เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง ทั้งหมดไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากบอก แต่เป็นเพราะเห็นสีหน้าเสียใจโอเวอร์ของนายใหญ่แล้วไม่รู้จะพูดยังไงมากกว่า

“ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย” ศรันย์เปิดประเด็นขึ้นมา ก่อนจะยกมือเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าตัวเองเบาๆ

“ครับ”

“ฉันได้ฟังเรื่องราวของนายกับตัวเล็กผ่านคุณหญิงมามาก รวมถึงรู้ด้วยว่าเด็กคนนี้เป็นฝ่ายไปชอบและเกาะติดนายก่อน” วินาทีที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ศรันย์ยอมรับว่าเขาแทบจะอยากเอามีดไปกะซวกไส้ใครก็ตามที่บังอาจปฏิเสธลูกชายของเขา แต่เมื่อโดนสั่งทางสายตาจากภรรยาให้นั่งลงฟังต่อ โทสะของเขาก็ค่อยๆ คลายลงช้าๆ “แน่นอนว่านายจะชอบหรือไม่ชอบกลับย่อมไม่ใช่เรื่องผิด เพราะการที่ยอมให้ตัวเล็กเข้าใกล้และไม่ทำร้ายร่างกายรวมถึงจิตใจของเขากลับมาก็ดีมากแล้ว…”

“…”

“ฉันเลยอยากถามว่า…ทำไมนายถึงหันกลับมาทำเพื่อเด็กคนนี้ได้มากขนาดนี้” ศรันย์จ้องมองใบหน้าไร้อารมณ์ของคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง “และทำไม…นายถึงคิดว่าตัวเองคู่ควร”

ไม่ใช่คู่ควรในเรื่องของฐานะหรือหน้าที่การงาน ไม่ใช่คู่ควรในเรื่องของลักษณะนิสัย แต่คำว่าคู่ควรของคนเป็นพ่อ…หมายถึงคู่ควรพอให้เขายอมรับ และคู่ควรพอที่จะทำให้เขายอมปล่อยดวงใจของตัวเองไปให้ดูแล ซึ่งเพียงแค่ได้สบตา ภูก็สามารถเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการสื่อได้อย่างชัดเจน

“เมื่อประมาณสองปีก่อนมีเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตผม…” เขาเริ่มพูดออกมาช้าๆ ก่อนจะก้มลงมองเด็กคนที่ว่าซึ่งยังคงหลับสนิท “มันชอบทำตัวเป็นกระต่ายก้อนน่ารำคาญที่วนเวียนอยู่รอบกายผมไม่ห่าง ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะอยากหรือไม่อยากผมก็มักจะมองเห็นมันก่อนใครเสมอ มันทั้งแผนสูง คิดและพูดจาไม่เหมือนคนปกติทั่วไป จะทำอะไรก็ทำตามอารมณ์ของตัวเองเป็นใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคนมีเหตุผลและคิดเป็น”

ศรันย์คลายมือที่กำไว้แน่นเพราะได้ยินคนตรงหน้าว่าลูกชายตัวเองออก ขืนไม่มีประโยคสุดท้ายมารองรับเขาคงได้เข้าไปตั๊นหน้าหล่อๆ นั่นสักหมัดสองหมัด

“ตอนแรกผมมองว่ามันน่ารำคาญ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยากกำจัดไปให้พ้น เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตแน่ๆ…และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ” ภูปล่อยมือออกจากโน้ตบุ๊ก ก่อนเขาจะขยับหัวคนที่กลิ้งไปกลิ้งมาจนแทบจะตกจากตักให้กลับมานอนดีๆ “การที่ผมไม่สามารถผลักมันออกไปได้ ทั้งยังยอมให้มันเข้าใกล้มากขึ้นทุกที ทำให้ทุกความตั้งใจและความคิดของผมเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึง…คงเป็นที่ความเปลี่ยนแปลงนั้นมันไม่ได้เป็นไปในทางที่แย่ลง…คุณอาคงทราบเรื่องที่เก้าไปหาผมที่อังกฤษแล้ว”

“คุณหญิงบอกว่าตัวเล็กสัญญากับนายไว้”

“ครับ เราสัญญากันไว้…เก้าสัญญาว่าจะไปช่วยน้องผมที่กำลังป่วย สัญญาว่าจะไปหา เราไม่ได้เห็นหน้ากันมาสองปีเต็ม และตอนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้…ตอนที่มันไปหาผมที่อังกฤษ ช่วยให้น้องผมมีเพื่อนและมีอาการดีขึ้น ถึงตอนนั้นผมยิ่งมั่นใจว่ามันคือคนที่ผมอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต”

“…” ผู้เป็นพ่อไม่ตอบอะไรแต่กลับเบะปากไม่พอใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกตัวเองก็คงคิดไม่ต่างกัน

“ตอนที่รู้ว่ามันต้องกลับมาที่นี่ ผมได้แต่คิดว่าทำไมถึงเป็นตัวเองที่ต้องให้มันวิ่งตามตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ชีวิตมันสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าผมเสียอีก” ภูเขี่ยแก้มขาวของคนที่กำลังหลับอีกครั้ง ก่อนเขาจะเงยหน้ามองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ “และตอนที่ผมได้มาเห็นว่ามันมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและรักมันมากขนาดไหน ผมที่ไม่เคยคิดดูถูกตัวเองมาตลอดชีวิตกลับคิดขึ้นมาเป็นครั้งแรก…ว่าตัวเองมีอะไรคู่ควรกับมัน สุดท้ายก็หาคำตอบไม่ได้…แล้วก็เป็นมันเหมือนเดิมที่เข้ามาปลอบโยนผมแบบที่เคยทำมาโดยตลอด”

ศรันย์เหยียดยิ้ม เมื่อรู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

“แต่มาถึงตอนนี้ผมหาคำตอบได้แล้ว” คนพูดมองสบสายตาดุดันนิ่งงัน ในขณะที่คนมองต้องค่อยๆ คลายรอยยิ้มลงช้าๆ “สิ่งเดียวที่ทำให้ผมคู่ควร…”

นั่นเป็นครั้งแรก…ที่ศรันย์ได้เห็นแววตาที่ดูมั่นคงและจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นจากใครสักคน

“คือการที่เก้ารักผม…และผมก็รักเก้าไม่แพ้กัน”

“…”

“ถึงตอนนี้คุณอาจะยังไม่ให้ผมผ่านเต็มร้อยก็ไม่เป็นไร เพราะคราวนี้ผมจะวิ่งตามเก้าบ้าง และต่อให้ต้องใช้เวลาทั้งชีวิต…ผมก็จะไม่มีทางยอมปล่อยให้คนที่ตัวเองรักเดินจากไปเด็ดขาด”

สิ้นประโยคบอกรักที่ไม่ได้บอกกับใครอีกคนโดยตรง กำแพงที่มีในใจของศรันย์ก็ทลายลงโดยที่เขาไม่รู้ตัว ยิ่งยามได้มองใบหน้าของลูกชายซึ่งกำลังหลับสนิทและพลิกตัวไปซุกหน้าท้องเจ้าของตักเขาก็ยิ่งหมดแรงขัดขืน แม้ยากจะยอมรับ แต่ก็ต้องทำใจเพราะลูกเลือกไปแล้ว และระยะเวลาสองหรือสามปีที่คนอย่างเก้ายอมอดทนรอคงไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามไปได้

ศรันย์ขยับกายเดินไปยืนอยู่ข้างเตียง ก่อนจะแตะแก้มของลูกชายตัวเองแผ่วเบา เพียงเท่านั้นเขาก็ได้คำตอบ…คนคนนี้คู่ควรกับตัวเล็กของเขามากที่สุดแล้วจริงๆ

“มื้อเย็นลงไปกินข้าวข้างล่าง” พูดเพียงเท่านั้น เขาก็หมุนกายเดินจากไปโดยไม่แสดงท่าทีใดๆ อีก

ภูถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เพียงแค่ได้ยินเจ้าของบ้านชวนลงไปกินข้าวด้วยกัน ก็ทำให้ความกังวลทั้งหมดจางหายไปอย่างรวดเร็ว เขาก้มลงมองคนหลับที่เริ่มอ้าปากหวอก่อนจะยิ้มบาง แรกๆ มันก็ยังนอนดีๆ อยู่หรอก แต่นอนไปนอนมาอยู่ดีๆ ก็เริ่มขดตัวเป็นก้อน แถมยังอ้าปากหวอแล้วงับพุงเขาเหมือนกำลังฝันถึงของกินอยู่อีกต่างหาก

ก้อนมันน่ารัก…เพราะอย่างนั้นใครๆ ถึงได้รักมัน ขอแค่ได้เข้ามาอยู่ในวงโคจรทุกคนก็คงหลงมันได้ไม่ยาก และภูเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ขอบคุณนะ” คนพูดก้มลงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูของคนที่กำลังหลับสนิท ก่อนริมฝีปากบางจะประทับลงที่หน้าผากของใครคนนั้นอย่างอ่อนโยน

ขอบคุณที่มันเข้ามาหา…และขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้

“อือ…” คนหลับส่งเสียงอืออาแล้วพลิกตัวหนีราวกับรำคาญ ภูได้แต่ขำเมื่อเห็นปฏิกิริยาของมัน เชื่อว่าถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเมื่อครู่หันหนีสัมผัสของเขา มันคงต้องเอาหัวโขกพื้นด้วยความหัวร้อนเป็นแน่ “…เขียว”

“อะไรนะ” ภูขมวดคิ้วมุ่น เมื่อได้ยินเสียงมันพึมพำอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเลยก้มลงไปใกล้ๆ เพื่อฟังอีกครั้ง

“หิวชาเขียว!” แล้วคนละเมอก็ลืมตาพึ่บอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเด้งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ และนั่นทำให้…

โป๊ก!

เต็มแรง…

“โอ๊ย!” คนทำกุมหน้าผากตัวเองแล้วล้มลงไปนอนหงายหลังด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่คนโดนประทุษร้ายได้แต่นวดขมับที่กระแทกกับหน้าผากอีกฝ่ายเข้าเต็มแรงเบาๆ “พี่เอาหัวมาใกล้ๆ ผมอะ”

ภูมองคนเพิ่งตื่นที่กำลังงอแงโดยไม่พูดตอบอะไร เขาปล่อยให้มันบ่นงุ้งงิ้งอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว จนสุดท้ายเมื่อรู้สึกเมื่อยปากมันก็หยุดพูดไปเอง

“เห็นมึงทำหน้าเหมือนกระต่ายเลยก้มลงไปดู”

“ผมเนี่ยนะ…เออใช่!” มันเอามือออกจากหน้าผากแล้วหันมาฟ้องเขาด้วยสีหน้าโมโห “ผมฝันว่าไอ้เต็มมันมาแย่งเค้กชาเขียวไปกิน!”

“เต็มเป็นตุ๊กตา…”

“นั่นแหละ ถ้ากลับไปเจอมันเมื่อไหร่ ผมจะควักไส้แม่งออกให้หมดเลย”

ภูส่ายหน้าหน่าย เมื่อเห็นคนพูดทุบเตียงด้วยความหงุดหงิดราวกับตุ๊กตากระต่ายของเขาไปแย่งชาเขียวมันมากินจริงๆ

“ก้อน”

“หือ”

“มึงรู้ความหมายของชื่อเต็มหรือยัง” เขาตัดสินใจยกเรื่องที่น่าจะทำให้มันเกิดความสนใจได้ขึ้นมาพูดเพื่อให้เจ้าตัวหยุดหงุดหงิด ซึ่งมันก็ได้ผลทันใจ เพราะแทบจะทันทีที่ได้ยินกระต่ายก้อนก็หันมาทำหน้าตาตื่นใส่ แถมพอประกอบท่าทางนั้นเข้ากับหัวฟูๆ กับตาแดงๆ ของมันแล้วก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวดูน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่ “เต็มเก้า”

มันทำหน้างง คิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ แต่วินาทีต่อมาก็เบิกตากว้างแล้วขยับเข้ามาหาจนแทบจะมานั่งบนตักเขา

“ที่แท้ผมก็ได้คะแนนเต็มมาตั้งนานแล้ว!”

“ถึงบอกว่าโง่”

“ใครจะไปรู้เล่า” มันทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ แต่แค่แวบเดียวก็กลับมายิ้มกว้างมองเขาตาแป๋วเหมือนเดิม “พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องป๋าแล้วนะ ป๋าสัญญากับผมว่าจะไม่แกล้งพี่แล้ว”

ดูใช้คำ…

“รู้แล้ว” ภูเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องตอนที่มันหลับ เขาแค่ส่งยิ้มขอบคุณไปให้ ก่อนจะลูบหัวกระต่ายเป็นรางวัล ซึ่งเจ้าตัวก็ดูชอบใจกับสิ่งที่ได้รับเสียเหลือเกิน

หลังจากกลิ้งไปกลิ้งมาและขยันทำหน้าอ้อนโดยไม่รู้ตัวอยู่นาน กระต่ายก้อนก็ชวนเขาลงไปเดินเล่น โดยคาดว่าคนชวนคงจะลืมไปแล้วว่าเขาป่วยอยู่ แต่เพราะไม่ได้ปวดหัวหรือมีอาการอะไรอีก ภูเลยยอมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินตามมันไปเงียบๆ

คนเดินนำพาคนป่วยเดินออกไปนอกบ้านแล้วตรงไปยังทางที่ภูไม่เคยไป เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนที่ฉีกยิ้มกว้างไม่แคร์โลกด้วยสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ จะบอกว่ามันร่าเริงผิดปกติเกินไปหน่อยก็คงได้ แต่ภูก็รู้ดีว่ามันจะแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาเฉพาะในเวลาที่อารมณ์ดีมากๆ เท่านั้น ดังนั้นเขาเลยปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นต่อไปโดยไม่คิดขัด

“ดีที่ไม่มีแดด” มันพึมพำเหมือนจะคุยกับตัวเอง “ผมโคตรเกิดมากับโชคเลย พี่ว่าไหม”

“อืม…” คนฟังทำได้เพียงตอบรับเสียงแผ่วเพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เขาเคยชินกับนิสัยหลงตัวเองของมันแล้ว เพราะงั้นอยู่เฉยๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“เออใช่…แล้วภามจะมาวันไหนเนี่ย ผมลืมถามไปเลย”

“ไปหาอาซีเสร็จแล้วจะบินมาพร้อมเฮเลน” ภูอธิบายเสียงเรียบ ใบหน้าเฉยชาเผยความหนักใจออกมาครู่หนึ่งเมื่อนึกอะไรได้ “ก้อน…”

“ครับ”

“อีกสามอาทิตย์กูต้องกลับอังกฤษ” เขาจับแขนคนที่หยุดเดินกะทันหันให้หันกลับมาหา ก่อนจะอธิบายต่อ “กูทิ้งงานมาเป็นเดือนแล้ว จะให้พ่อมาช่วยนานๆ ก็คงไม่ดี”

ที่ภูยังสามารถอยู่ที่นี่ได้เป็นเพราะออสติน พ่อของเขาช่วยดูแลงานทางนั้นให้ ส่วนเรื่องสำคัญๆ เขาก็คอยสั่งงานผ่านโน้ตบุ๊กมาโดยตลอด ถึงอย่างนั้นตำแหน่งประธานบริษัทก็ยังไม่ควรว่างนาน อีกทั้งจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ก็สมบูรณ์ไปเกินครึ่งแล้วด้วย

“ผมรู้” คนเข้าใจง่ายพยักหน้าแล้วยิ้มบาง “เดี๋ยวผมจะไปคุยกับป๋าแล้วก็จ๋าเรื่องงานอีกที คิดว่าไม่น่ามีปัญหาถ้าป๋ายอมให้ผมไปกับพี่”

“อืม…” เขาตอบแค่นั้น ก่อนจะจับมือคนข้างกายไว้แล้วดึงให้มันเดินต่อ

หลังจากที่พูดเรื่องกลับอังกฤษขึ้นมาคนที่เคยร่าเริงก็เปลี่ยนท่าทีเป็นนิ่งเงียบ ภูมองกระต่ายของตัวเองที่ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลาเงียบๆ ซึ่งถ้าให้เขาเดาก็คงไม่พ้นคิดเรื่องการไปขออนุญาตพ่อกับแม่ของตัวเองเพื่อไปทำงานที่อังกฤษ

“อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ภูตัดสินใจดึงคนข้างๆ ออกมาจากภวังค์ที่เจ้าตัวกำลังจมอยู่ เขาปล่อยมือออกจนโดนหันมามองด้วยสายตาไม่พอใจ แต่วินาทีต่อมามันก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแป้นเมื่อเขาโอบไหล่ให้เข้ามาแนบชิดกว่าเดิม “บอกกูก่อนดีกว่าว่าจะพาไปไหน”

“อ้าว…ผมยังไม่ได้บอกพี่เหรอ” มันทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจ “ผมแค่พาเดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีจุดหมายแต่แรกแล้ว”

“…”

“ลืมบอก โทษๆ” คนพูดยกมือไหว้อย่างสวยงามจนน่าตี ซึ่งเขาก็จัดการสนองท่าทีของมันด้วยการหยิกแก้มย้วยๆ นิ่มมือนั้นอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ จนเจ้าของแก้มร้องโอดโอย “ทำร้ายร่างกาย…”

“ก็มึงทำตัวน่าหมั่นไส้”

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” กระต่ายก้อนเถียงหัวชนฝา อีกทั้งยังทำหน้าตาบูดเบี้ยวดูน่าแกล้งเป็นที่สุด

“ทำหน้าเหมือนกระต่ายก็ผิดแล้ว”

“ผมไม่ได้เหมือนมันเสียหน่อย”

“เหมือน”

“ไม่เหมือน”

“เหมือนสิ”

“บอกว่าไม่เหมือนไง” เถียงไปเถียงมามันก็เริ่มไม่พอใจหนักขึ้น ภูเลยพยักหน้ารับอย่างจำยอม ก่อนจะถามมันเป็นครั้งสุดท้าย

“ถ้างั้นมึงเป็นตัวอะไร”

“ก็เป็นกระต่ายไง…” พูดเองก็ตกใจเอง ทำเอาคนมองต้องยกมือปิดปากกลั้นขำจนร่างกายสั่นเทา และสุดท้ายเมื่อมันหาทางแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ แก้มขาวๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูเหมือนกำลังอายสุดขีด

“ดูหน้าดิ”

“เพราะพี่นั่นล่ะ” คนที่เพิ่งยอมรับต่อหน้าเขาว่าตัวเองเป็นกระต่ายทำหน้ามุ่ย ซึ่งภูก็ทำได้เพียงส่ายหน้าแล้วขยี้หัวมันด้วยความเอ็นดู

ดูเหมือนกระต่ายก้อนตัวนี้จะมีหนังหน้าบางลงยามอยู่ต่อหน้าเขาจริงๆ นั่นล่ะ…

“เฮ้ย! ดูนั่นดิ!” กระต่ายที่เปลี่ยนอารมณ์ไวยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าชี้นิ้วไปด้านหน้า ก่อนจะหันมาเขย่าแขนเจ้าของที่ยืนอยู่ข้างๆ ยกใหญ่ “นั่นเส้นวิ่งแข่งที่ผมเคยขีดไว้เล่นกับพวกเฮียๆ ตอนเด็กๆ…นานจนเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย”

ภูเลิกคิ้วก่อนจะมองไปยังจุดที่มันบอก แล้วก็พบว่าตรงนั้นมีสีขาวๆ ของอะไรบางอย่างป้ายเป็นเส้นตรงอยู่ที่พื้น แม้จะจางไปมากแต่ก็ยังพอมองเห็นได้ กระต่ายก้อนที่กลับมาร่าเริงอีกครั้งวิ่งดุ๊กดิ๊กไปนั่งมองเส้นอย่างอารมณ์ดี ซึ่งเมื่อได้เห็นมันเป็นแบบนั้นเขาก็ทำได้เพียงยิ้มตาม

เดี๋ยวร่าเริง เดี๋ยวคิดมาก เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวงอแง…จะหาคนที่สลับอารมณ์ได้ไวขนาดนี้คงไม่มีอีกแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าเขาชอบจริงๆ ที่ได้ผูกขาดมันไว้แต่เพียงผู้เดียว

“พี่ภู มาวิ่งแข่งกันเปล่า”

คนฟังทำหน้างุนงงอยู่ครู่หนึ่ง แม้อยากปฏิเสธขนาดไหน แต่ก็ทำไม่ลงเมื่อได้เห็นหน้าอ้อนๆ ที่มันชอบทำออกมาโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายเลยทำได้เพียงถอนหายใจแล้วถามต่อ

“วิ่งแล้วได้อะไร”

“เอาไว้ค่อยคิด หาคนชนะก่อนดีกว่า”

“แบบนี้ก็ได้เหรอวะ”

“ได้ดิ” มันหัวเราะฮ่าๆ อารมณ์ดี ก่อนจะดึงแขนเขาให้เดินไปอยู่ตรงจุดเริ่มต้น “วิ่งไปวิ่งกลับจากตรงนี้ถึงต้นไม้ตรงนั้นนะ”

เมื่อไม่มีอะไรให้เสียเขาก็ได้แต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ โดยที่คนชวนเล่นไม่ลืมหันมาทำหน้าตึงใส่แล้วพูดสิ่งที่ต้องการออกมา

“ขาพี่ยาวกว่าผม รอให้ผมออกตัวไปก่อนสามวิแล้วพี่ค่อยตามนะ”

“กูก็เสียเปรียบสิ”

“ไม่หรอกน่า แค่สามวิเอง” นิดๆ หน่อยๆ มันก็จะเอาให้ได้ ไม่รู้ว่ากลัวแพ้หรือกลัวไม่ได้ทับถมเขากันแน่ แต่ดูท่าแล้วน่าจะเป็นทั้งสองอย่าง

ตอนแรกภูคิดว่าเขาจะทำตัวสบายๆ แล้วปล่อยให้มันชนะไป แต่เมื่อได้เห็นท่าทางตั้งใจเกินเหตุของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนใจ…

น่าแกล้งเป็นบ้า…แค่นึกถึงภาพมันงอแงเพราะตัวเองแพ้ก็สนุกขึ้นมาแล้ว

“เอานะ…เริ่ม!”

ไม่มีการนับหรือบอกให้ตั้งตัวอะไรทั้งนั้น แค่พูดว่าเริ่มจบมันก็ออกตัวอย่างรวดเร็วในทันที ภูมองตามแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาเริ่มตั้งท่าจะออกวิ่งเมื่อครบเวลาสามวินาทีตามที่มันบอก แต่ก่อนจะได้ทำแบบนั้น…

“เฮ้ย!”

กระต่ายขี้โกงร้องเสียงหลง เมื่อเท้าสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจนล้มลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นสามตลบ สุดท้ายต้องนอนแผ่หลาหมดสภาพ ในขณะที่หัวมึนงงเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่เมื่อได้สติเพราะเห็นเงาของคู่แข่งเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ากลั้นขำเต็มกำลัง ก็ต้องรีบผุดลุกขึ้นเพราะกลัวเสียมาด

“โอ๊ย!” คนที่ข้อเท้าพลิกตัวเซจนแทบล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบเมื่อฝืนยืนกะทันหัน ยังดีที่มีอ้อมแขนแข็งแกร่งเข้ามารับตัวไว้ได้ทันเวลา

ภูมองคนเจ็บเท้าที่กำลังทำหน้าบูดเบี้ยวแล้วก็นึกสงสาร อยากจะขำก็ขำไม่ออก อยากจะปลอบก็ปลอบไม่ลง สุดท้ายเขาเลยได้แต่ประคองให้ค่อยๆ นั่งลงแล้วก้มลงดูเท้ามัน

“เจ็บสัตว์…” มันบ่นงึมงำเมื่อเขาแตะโดนจุด “ผมโทร. หาป๋าให้เอารถมารับแป๊บ”

ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอารมณ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเรียกคนอย่างมีสติ จนภูไม่รู้จะพูดยังไงกับกระต่ายผิดปกติตัวนี้ดี เขามองมันคุยโทรศัพท์จ้อทั้งที่หน้าเบ้ด้วยความเจ็บแล้วก็นึกนับถืออยู่ในใจ ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงทำไม่ได้แบบนี้แน่…

“ป๋าบอกว่ากำลังมา” มันยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วหันมาบอกเขา

“ไม่เจ็บแล้วเหรอ”

“เจ็บสัตว์ๆ แต่ทนอยู่”

“เจ็บก็ร้องออกมา” เขาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองคนที่ส่ายหน้าดิกเป็นเชิงดุ

“มันน่าขายหน้า…”

“ตรงนี้มีแค่กูกับมึง”

“ไม่ดีหรอก” ปากว่าอย่างนั้น แต่หน้าเริ่มเบี้ยว

ภูมองเด็กดื้อที่ยังเม้มปากไม่เลิกแล้วก็ต้องยอมแพ้ ไม่รู้ว่าจะกลัวขายหน้าอะไรอีก ในเมื่อสำหรับเขา มันก็แทบไม่มีอะไรเหลือให้อายแล้ว

“ดื้อจริงๆ” คนพูดว่าเสียงดุแล้วทรุดตัวลงนั่งหันหลังให้คนเจ็บ “ขึ้นมา”

ไม่มีการปฏิเสธหรือเล่นตัวอะไรทั้งนั้น คนที่ทำหน้าเจ็บปวดอยู่เมื่อครู่บัดนี้แย้มรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่แผ่นหลังของคนอาสาเต็มแรงจนเจ้าตัวเซ ซึ่งเจ้าของร่างก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากทำหน้าเอือมระอา เขาใช้เวลาจัดท่าอยู่เพียงครู่เดียวก็ช้อนขาของคนที่กอดคอตัวเองไว้แน่นขึ้นแล้วขยับตัวยืน

“ขอบคุณครับ” คนเจ็บวางใบหน้าลงบนไหล่กว้าง ก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข ลืมเลือนแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่เพิ่งเกิดขึ้นในไม่ถึงนาที

“เกาะดีๆ”

ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆ เพิ่มเติมอีก เพราะเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ชิด…พวกเขาก็เข้าใจความรู้สึกและความผูกพันที่แน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างกันและกันได้อย่างช้าๆ

.

.

และถ้าจะขอบคุณใครสักคนในยามนี้ก็คงต้องขอบคุณหนึ่ง…ซึ่งเลือกที่จะหยุดรถแล้วมองภาพของคนทั้งคู่อยู่เงียบๆ โดยไม่คิดเข้าไปขัดจังหวะ…

แม้จะต้องโดนนายด่าเขาก็ไม่สนใจ…

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้…คือใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขของคุณหนูต่างหาก

 

----------------------------

 



TALK : ตอนหน้าจบแล้วนะคะ สำหรับใครที่สนใจหนังสือ รอบสต็อคจะเริ่มแล้วนะ ตามได้ทางหน้าเพจกับทวิตค่ะ ส่วนใครสนใจ E-book เราลงขายแล้วนะคะ ทาง Meb ค้นหาชื่อเรื่องได้เลย (Apple ก็ซื้อได้แล้วนะ)


ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[39]==[P.25]== [02/12/60]
«ตอบ #746 เมื่อ02-12-2017 18:56:55 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[39]==[P.25]== [02/12/60]
«ตอบ #747 เมื่อ02-12-2017 20:53:15 »

อะไรนะ!! ตอนหน้าจบเหรอ หม้ายยยยยยยย #พี่ภูของบ่าง

ออฟไลน์ cookie12ck

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[39]==[P.25]== [02/12/60]
«ตอบ #748 เมื่อ02-12-2017 22:14:47 »

 :mew3: :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[39]==[P.25]== [02/12/60]
«ตอบ #749 เมื่อ02-12-2017 22:27:48 »

ยังไม่อยากใ้ห้จบเลยยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด