♧♣Touch Love♣♧ สัมผัสรัก ด้วยหัวใจ {♧สัมผัส{❤}ส่งท้าย♣+แจ้งข่าว}13/01/61 P.16 จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♧♣Touch Love♣♧ สัมผัสรัก ด้วยหัวใจ {♧สัมผัส{❤}ส่งท้าย♣+แจ้งข่าว}13/01/61 P.16 จบ  (อ่าน 151213 ครั้ง)

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ว้าวๆ เขาเปิดตัวกันแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ  :laugh:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
มาเร็วๆนะ... รอ รอ รอ

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แพนน่ารักกกก เค้าเปิดตัวกันแล้วค่าาา :hao7:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ฮื่ออออออ รอค้าาาา เอาใจช่วยคนเขียนน  :กอด1:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
สัมผัส{❤}ครั้งที่10




สถานการณ์ตรงหน้าทำให้คนพึ่งตื่นแบบผมถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ...ความทรงจำก่อนจะหลับค่อยๆไหลเข้ามาเป็นฉากตั้งแต่เมื่อคืนที่นัดคู่หมั้นมากินอาหารพร้อมกับบอกถอนหมั้นหลังจากนั้นก็คุยโทรศัพท์กับพ่อและพอกลับมาดื่มไวน์ที่โต๊ะสติที่มีก็หายไปอย่างรวดเร็ว


แปลว่าในไวน์นั่นมียานอนหลับสินะ


ดูจากสภาพผมที่ถูกปลดเสื้อออกก็พอเดาได้แล้วว่าผู้หญิงข้างๆต้องการให้ทุกคนคิดว่าเรามีอะไรกันเพื่อจะได้ไม่ยกเลิกการหมั้น
เมื่อตื่นเต็มตาผมก็สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นฉากทั้งหมดเว้นแต่ร่างโปร่งในชุดยูกาตะสีน้ำเงินที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ


คำพูดที่เหมือนกับคนอื่นมองเห็นตัวเองนั่นคืออะไร


แถมยังบอกว่าอะไรนะ...


“เธอบอกว่าเป็นอะไรกับตินนะ”คุณสมศักดิ์ มั่นมงคลหรือพ่อของอีฟถามแพนกลับราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด


“ผมเป็นแฟนเขา”แพนตอบกลับก่อนจะหันมามองผมด้วยรอยยิ้ม


“แพน...”อะไร


ทำไมถึงคุยกับมนุษย์คนอื่นได้ล่ะ


“แฟน? ไม่จริงหรอกตินไม่มีทางมีแฟนหรอกแถม...คุณเป็นผู้ชายใช่ไหม”อีฟที่อยู่ข้างๆถามกลับพลางหรี่ตามองแพนอย่างไม่แน่ใจ


ดูท่าการที่ทุกคนเห็นแพนจะเป็นความจริงสินะ


แต่ทำไมถึงทำแบบนั้นกัน ถ้าจำไม่ผิดเคยพูดไว้นี่ว่าไม่ชอบให้มนุษย์เห็นตัวน่ะ


“ผู้ชายสิ...หล่อขนาดนี้เธอจะมองว่าเป็นผู้หญิงรึไง”เมื่อถูกสวนกลับคนข้างผมทำหน้าเอ๋อแทบจะทันที


แพนไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าตัวเองเหมือนผู้หญิง


ยิ่งคำว่าน่ารักหรือสวยยิ่งแล้วใหญ่


บางทีอาจถึงเวลาต้องพูดให้ชัดเจนแล้วก็ได้ว่าหน้าตาแบบนั้นมันไม่ได้เรียกว่าหล่อ...ถ้าแค่ดูดีก็จะไม่เถียงเลยเพราะว่ามันจริงแต่เป็นการดูดีแบบกล้ำกึ่งระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง เรียกว่าถ้าเป็นผู้ชายก็เป็นผู้ชายแนวน่ารักที่ผู้หญิงหลายคนชอบแต่ถ้าเป็นผู้หญิงคงเป็นผู้หญิงห้าวๆในสเปคของชายหลายๆคนเช่นกัน แถมเส้นผมสีเขียวเข้มยาวๆนั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนผู้หญิงมากเข้าไปใหญ่


“...ตินเขาไม่ได้ชอบผู้ชาย”สาวข้างผมพยายามเปล่งเสียงออกไปทั้งที่กำลังตกใจ


“เธอรู้ได้ยังไง...ลองถามน้องตินดูสิว่าพี่ตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย”แพนบอกพร้อมกับมองไปทางคินที่ยังจ้องไปที่ตัวเองโดยไม่ละสายตาออกมา


“คิน...ไม่จริงใช่ไหมที่ตินชอบ...”เธอพูดพลางมองไปยังแพน


“เอ่อ...ก็ไม่อยากบอกหรอกนะแต่ว่าเป็นความจริง”คินตอบเสียงเบา


เจ้าของหัวข้อสนทนาอย่างผมได้ยกมือขึ้นเสยผมสีดำให้ไปด้านหลังอย่างเอือมๆที่ถูกทั้งน้องชายมองว่าชอบผู้ชายแถมยังถูกแพนตีบทแฟนอีก...


เอาเข้าไปสิ


“เห็นไหมล่ะ...ผมกับตินน่ะนะ...รักกันสุดๆเลย”แพนพูดจบก็หันหลังเดินมายังเตียงก่อนจะขึ้นมานั่งบนตักผมเหมือนอย่างที่ทำแทบทุกครั้งตอนเวลาตื่นนอน เพียงแต่ครั้งนี้น้ำหนักที่ไม่เคยสัมผัสได้กลับรู้สึกอย่างชัดเจน ฝ่ามืออุ่นๆเองก็เอื้อมมาลูบใบหน้าผมเหมือนอย่างทุกทีผมเลยไม่ได้หลีกหนีอะไร


การกระทำนี้ทำให้ทุกคนที่มองไม่เว้นแม้แต่บอดี้การ์ดคนสนิทเบิกตากว้าง ใครที่รู้จักผมก็ต่างรู้กันว่าการสัมผัสร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุด อย่างอาทิตย์ก่อนที่โดนคินทั้งกระโดดกอดและหอมแก้มก็ทำเอาเกือบถีบตอบเหมือนกัน...


แต่กับแพนมันเป็นข้อยกเว้นที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม


สัมผัสของฝ่ามืออุ่นที่ลูบทั้งเส้นผมและใบหน้าทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก


ยิ่งตอนที่ถูกริมฝีปากชมพูๆนั่นหอมเบาๆที่แก้มผมก็ไม่ได้รังเกียจอย่างที่เป็นกับคนอื่นๆ


จริงอยู่ที่ผมเป็นลูกครึ่งการทักทายด้วยการถึงตัวถือเป็นเรื่องปกติ ทุกครั้งที่มีการไปต่างประเทศผมก็ยอมทักทายตามแบบต่างชาติแม้จะไม่ชอบก็ตาม ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจ


“ติน...ไว้ผมจะอธิบายให้ฟัง...ช่วยเนียนกอดเอวผมสักหน่อยสิ”เสียงกระซิบเบาๆดังขึ้นให้ได้ยินกันสองคน


ถึงไม่อธิบายผมก็พอจะเข้าใจแล้ว...


เขาทำเพื่อผม


เพื่อไม่ให้ผมต้องถูกจับแต่งงานทั้งที่ไม่อยากหรือเพื่อไม่ให้ผมทะเลาะกับน้องชายตัวเองด้วยเรื่องของผู้หญิง


ถูกช่วยไว้ตลอดสิน่า


เขาช่วยผมถึงขนาดนี้แล้ว...


ผมก็ควรจะตามน้ำไปก่อนสินะ


“...หนักขึ้นรึเปล่าแพน”ผมพูดเสียงอ่อนโยนก่อนจะยกมือขึ้นกอดเอวคนบนตักไว้หลวมๆเพื่อให้ทุกคนเชื่อเรื่องที่เราเป็นแฟนกัน


“หนักขึ้นเพราะตินชอบพาไปเลี้ยงของอร่อยนั่นแหละ”แพนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม


“หึ...”ตอบได้ดีนี่


“เอ่อ...อย่าพึ่งเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวสิครับ”คินพูดเสียงเบาด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงเล็กน้อย


“ก็อย่างที่ว่าไป...ผมชอบเขาเพราะงั้นไม่มีทางมีอะไรกับลูกสาวคุณได้หรอก”ผมบอกให้คุณสมศักดิ์ฟัง


“เรื่องนี้หมายความว่าไงอีฟ”ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกสาวตัวเองอย่างเคืองๆ


“เอ่อ...หนู...หนูขอโทษค่ะ...หนูผิดเองที่ใส่ยานอนหลับในแก้วไวน์ให้ตินดื่ม”สุดท้ายเธอก็สารภาพออกมาจนหมด


“ว่าไงนะ...เป็นผู้หญิงกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง”


“ก็หนูรักตินนี่คะ...หนูไม่อยากเลิกกับเขา...ฮึก...แต่ถ้าตินเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง...อึก...หนูก็คงไม่ดึงดันต่อไปหรอกค่ะ”เธอพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม


“...เฮ้อ...ขอโทษด้วยที่ลูกสาวฉันทำเรื่องน่าอับอายแบบนี้”คุณสมศักดิ์หันมาบอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด


“ไม่เป็นไรครับ”


“ถ้าเป็นไปได้เรื่องนี้ก็ช่วย...”


“ไม่ต้องห่วงครับจะไม่มีใครรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แน่นอน”ผมตอบรับเมื่อรู้ความหมายถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ


“ขอบคุณมาก...ไว้ฉันจะไปคุยกับพ่อเธอให้เอง...ไปแต่งตัวได้แล้วอีฟ”พูดเสร็จก็หันไปบอกลูกสาวที่นั่งยกมือสองข้างขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้เสียงสะอื้น


“ตินก็ใส่เสื้อได้แล้วมั้ง”แพนบอกก่อนจะก้มลงไปหยิบเสื้อที่ตกพื้นส่งมาให้


“จะใส่ให้”ผมลองถาม


“อยากให้ใส่ให้?”อีกฝ่ายย้อนพร้อมยกยิ้มขึ้น


“หึ...เอามา”ผมคว้าเสื้อในมือแพนมาใส่อย่างลวกๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงโดยมีแฟนหมาดๆอย่างแพนยืนอยู่ข้างๆ


“พี่...”


“ไปคุยกันที่ห้องอื่นเถอะ”ผมรีบบอก คุยกันที่นี่ไม่สะดวกเท่าไหร่ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของฝ่ายหญิงที่กำลังไปแต่งตัวนี่ด้วยยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่


“ก็ได้ครับ”


“กาย”ผมเรียกหนึ่งในบอดี้การ์ดคนสนิท


“ครับคุณติน”


“ไปจองห้อง2905ต่ออีกวัน”


“ได้ครับ”


“เสร็จแล้วตามเข้าไปในห้องด้วย”ผมสั่ง


“ครับ”


จากนั้นพวกเราก็เปลี่ยนสถานที่มาเป็นห้องพักหรูในชั้นที่29ห้อง2905ที่ถูกจองไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ยังไม่ได้เข้าไปดูภายในเลย โรงแรมระดับนี้ค่าห้องแต่ละคืนถือว่าสูงมากแต่สำหรับผมก็ถือว่าเฉยๆไม่ได้เรียกว่าแพงอะไรนัก


เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสักนิด


“เอ่อ...พี่ครับ”ทันทีที่นั่งลงบนโซฟาหรูในห้องคินก็เริ่มบทสนทนาทันที


“แกเชื่อไหมว่าฉันไม่ได้มีอะไรกับอาริศา”ผมถามไปตรงๆ


“เชื่อสิครับ...ก็พี่มี...เอ่อ...แฟนอยู่แล้วนี่”ระหว่างพูดคินก็เหล่ไปมองแพนที่นั่งอยู่ข้างผม


“ก็ดี”ถือว่าจบไปเรื่องนึงโดยไม่ต้องทะเลาะกัน


“ถ้ายังไงแนะนำแฟนพี่ให้ผมรู้จักหน่อยสิ”


“อยากรู้จักก็ทำเองสิ”ผมตอบพลางปรายตาไปหาแพนให้อีกฝ่ายจัดการเรื่องต่อจากนี้เอง


ถึงผมจะรู้สึกขอบคุณที่ช่วยแต่การแนะนำให้เจ้าตัวทำจะเป็นผลดีที่สุด...ขืนผมแนะนำแล้วพูดอะไรไม่จริงออกไปจะแย่เอาในภายหลังได้


“ก็ได้ครับพี่...ผมชื่อคินนะเป็นน้องชายพี่ติน...ยินดีที่รู้จักครับ”คินแนะนำตัวเองอย่างมีมารยาทพร้อมกับยื่นมือไปทักทายอีกฝ่าย


“ผมชื่อแพน...ยินดีที่รู้จักนะคิน”แพนตอบแล้วเอื้อมมือไปจับด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาน้อยชายผมถึงกับหน้าขึ้นสีเล็กน้อย


“...แพน”ผมเรียกคนข้างกายเสียงเหี้ยม


ไอ้รอยยิ้มที่ยินดีรู้จักซะเต็มประดานั่นคืออะไร


ไหนบอกว่าไม่ชอบมนุษย์ไง


แล้วทำไมผมถึงรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้กัน


“อะไรเหรอติน”ใบหน้าขาวหันมาตามเรียกทันทีแถมยังเอียงคอเล็กๆเป็นการถามอีกด้วย


“เปล่านี่”


“ก็เรียกอยู่เห็นๆแล้วจะบอกว่าไม่มีอะไรได้ยังไง”คิ้วบางๆนั่นขมวดเข้าหากันแน่นอย่างไม่เข้าใจ


ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละน่า


“คุณแพนครับ...คือมีเรื่องอยากถามเยอะแยะเลยได้รึเปล่า”คินพูดแทรกบทสนทนาด้วยเสียงอ่อนๆ


“ถามผมเหรอ...ลองว่ามาสิ”แพนเลิกสนใจผมแล้วหันไปคุยกับคินแทน


“คุณเป็นคนต่างชาติสินะ”คำถามแรกดูจะเป็นสิ่งที่คินคาใจมากที่สุดซึ่งถ้าผมเป็นคินก็คงถามคำถามเดียวกันแน่


ใบหน้าเรียวขาวนวลกับดวงตาสีเขียวอ่อนนั่นอาจไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับประเทศไทยเพราะมีลูกครึ่งอยู่เยอะแต่กับเส้นผมสีเขียวเข้มนั่นดูยังไงก็แปลกตาไม่ใช่แค่กับประเทศนี้แต่แปลกตากับทุกประเทศแหละถ้าไม่ใช่สีผมที่ย้อมขึ้น


จากที่ทำธุรกิจมานานหลายสิบปีผมไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนที่มีเส้นผมสีนี้มาก่อนเลย


“อืม...จะว่างั้นก็ถูก”


“หรือคุณเป็นลูกครึ่ง?”


“ใช่ๆ...ผมเป็นลูกครึ่ง”แพนพยักหน้าส่งไปให้


“ลูกครึ่งอะไรเหรอ”คินยังคงถาม


“ก็...ญี่ปุ่น...ฝรั่งเศส...เกาหลี...อเมริกา...จะ...”


“แค่นั้นแหละ...เขาเป็นลูกเสี้ยว”ผมรีบพูดขัดก่อนที่ชื่อประเทศจะออกมาจากปากสีชมพูนั่นมากกว่านี้


คนอะไรมีเชื้อสายต่างชาติขนาดนั้นแถมไม่มีประเทศไทยแล้วพูดภาษไทยได้ยังไง


ผมน่าจะลากแพนเข้าไปทำความเข้าใจก่อนให้แนะนำตัวจริงๆ


“อ้อ...แล้วคุณพูดภาษาไทยได้ยังไง”นั่นไง...คำถามที่ผมสงสัยก็ดังออกมาจากปากน้องชายตัวเองจนได้


คินเป็นพวกขี้สงสัย...ถ้ามีอะไรคาใจก็ถามไม่หยุดจนบางครั้งก็น่ารำคาญ


“...ตินสอนน่ะ”


“...”คำโกหกนั่นทำให้ผมหันไปมองหน้าคนข้างกายอย่างเคืองๆ


เล่นโยนมาให้กันแบบนี้เลยเหรอ


“โห...สุดยอดเลยพี่...แต่พูดคล่องเลยนะแบบนี้ต้องสอนมาหลายปีแล้วแน่เลย”คำถามนั่นดูยังไงก็หลอกถามเวลาที่ผมคบกับแพนชัด


“...ก็นานอยู่...เนอะติน”


“อืม”เนอะอะไรเล่า...ผูกเองก็แก้เองสิ


ผมส่งสายตาไปบอกแบบนั้นแต่ดวงตาสีเขียวอ่อนที่เบนมาสบหรี่ลงอย่างขอความช่วยเหลือจนผมได้แต่ถอนหายใจออกมา


“ฉันเจอเขาตอนไปประเทศอเมริกาเมื่อ4ปีก่อน”สุดท้ายการโกหกนี่ก็ยืดยาวต่อไป


“อ้อ...ช่วงที่พี่บอกว่าอยากออกไปเปิดหูเปิดตาโดยไม่มีบอดี้การ์ดนี่...แปลว่าพอเจอกันก็ถูกใจแต่แรกเห็นเลยสินะ”คินสรุปง่ายๆ


“หึ...คนที่ถูกใจแต่แรกเห็นไม่ใช่ฉันสักหน่อย”ผมบอกพลางยักคิ้วให้แพนที่สะดุ้งตัวอยู่ข้าง


ผลัดกันตอบละกันแพน


“แปลว่าคุณเข้ามาจีบพี่ชายผมก่อนเหรอ”คินหันไปถามอย่างสนใจ


“...ก็อย่างที่ตินพูดแหละ”


“ทำไมถึงชอบพี่ผมล่ะ”


“...”คำถามนี้เรียกให้ผมหันไปมองหน้าแพนเหมือนกัน


ทำไมถึงชอบเหรอ อยากรู้เหมือนกันว่าจะตอบไปยังไงเพราะความจริงเขาไม่ได้ชอบผมสักหน่อย


“ตอบอยากนะ...ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกสนใจตินหรอกแต่พอเห็นดวงตาสีฟ้าที่ทอประกายอย่างกล้าหาญนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกว่าคนคนนี้ต่างจากทุกคนที่เคยเจอมาในชีวิต ตินทำให้ผมรู้สึกว่าไม่เสียดายเวลาของตัวเองเลยที่จะมอบให้กับเขานับแต่ที่ได้เจอกัน”ทั้งน้ำเสียงที่พูด ทั้งแววตาที่หันมาสบผม ทั้งรอยยิ้มบางๆที่ยกขึ้น ทุกอย่างมันล้วนเป็นความจริงไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน...หัวใจที่สงบนิ่งอยู่จนถึงเมื่อครู่เต้นแรงขึ้นมาเล็กน้อย...


นี่คือความรู้สึกตอนที่เขาช่วยผมตอนที่ถูกยิงทะลุหัวใจสินะ


ช่วงเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันไปจนหมดอายุไขไม่ใช่เวลาน้อยๆเลย


ถ้าวันนั้นแพนเลือกที่จะไม่ช่วยผมก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ คงไม่ได้มีโอกาสได้รู้ว่าสิ่งที่เป็นแค่ความเชื่อจะมีอยู่จริงในยุคนี้


“...สุดยอดเลย...แบบนั้นเขาเรียกว่ารักแรกพบ”คินพูดขึ้นหลังจากอึ้งไปนาน


“รัก...แรกพบ?”แพนทวนสิ่งที่คินบอกเสียงเบาก่อนที่ใบหน้าขาวจะแดงขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวอ่อนหันมามองหน้าผมก่อนจะอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไป


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“คุณคินครับ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างของบอดี้การ์คนสนิทของผมจะเดินเข้ามา


“พี่กาย...พี่จิม...มาก็ดีเลยตอนนี้กำลังถามเรื่องความรักระหว่างพี่กับคนรักพอดีเลย...นี่พี่กายเคยเห็นเขามาก่อนสินะ”คินหันไปถามกายและจิมที่เดินเข้ามายืนหลังโซฟา


“...คิดว่าไม่เคยเห็นนะครับ”กายมองหน้าแพนสักพักก่อนจะตอบไปตามความจริง


ก็ไม่แปลกที่บอกว่าไม่เคยเห็น


จะเห็นก็คงแปลกล่ะ


“นี่พี่พาเขามานี่โดยที่พวกพี่กายไม่รู้ได้ยังไงน่ะ”คินหันมาถามอย่างสนใจ


“...”เอาล่ะสิ...จะตอบยังไงดีนะ


การที่พามาโดยที่กายและจิมไม่เคยเห็นไม่มีทางเป็นไปได้เพราะทั้งคู่ต่างอารักขาผมอยู่เกือบ24ชั่วโมง เรียกว่าทุกคนที่เข้าใกล้ทั้งคู่ต้องคุ้นหน้าบ้าง


“ตินไม่ได้พาผมมาหรอก”เสียงนุ่มๆด้านข้างตอบแทน


“หมายความว่า...”


“ผมพึ่งบนมาจากญี่ปุ่นเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง”


“อ้อ...คุณเลยใส่ชุดยูกาตะนี่เอง”คินพยักหน้าเล็กน้อย


“ใช่ๆ...แล้ววันนั้นคินมาที่ห้องตินใช่ไหมล่ะ”


“ใช่...แต่ผมหาคุณไม่เจอเลยนะ”คินพูดพร้อมขมวดคิ้ว


หาเจอก็แปลกล่ะ


“ที่หาไม่เจอเพราะตอนที่พวกคุณเข้ามาผมออกไปซื้อของข้างนอกพอดี...พอดีวัตถุดิบในซุปที่จะทำให้ตินทานขาดไปแต่พอขึ้นมาแล้วเห็นว่าในห้องเสียงดังผมเลยรีบกลับไปเพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์กับตินแตก”แพนตอบพลางทำหน้าเศร้าก่อนจะก้มหน้าลงจนเส้นผมสีเขียวเข้มนั้นปิดใบหน้าไว้หมดจึงไม่มีใครเห็นรอยยิ้มที่ยกขึ้นเหมือนอย่างที่ผมเห็น


“...”ผมล่ะอยากจะชูนิ้วโป้งให้เขาจริงๆ


เล่นใหญ่ขนาดนี้...ทุ่มเกินไปมั้ง


“อย่างเมื่อคืนตินก็นัดให้ผมไปหาที่ห้องแต่เพราะรอนานแล้วแต่ตินไม่มาสักทีผมเลยขึ้นไปหาเขาที่ภัตตาคารด้านบนจนได้รู้ว่าตอนถูกผู้หญิงคนนึงพาไป”แพนยังคงอธิบายทั้งที่ก้มหน้า


“...ก็ว่าอยู่ปกติคุณตินไม่ชอบนอนข้างนอก...นัดเจอกันนี่เอง”จิมหันไปกระซิบกับกายเสียงเบา


แพนนี่เรียกว่าหัวดีในการประติดประต่อเรื่องราวสินะ ที่ผมจองห้องไว้ก็เพราะเห็นว่าแพนอยู่แต่ในห้องกับที่ห้างมาหลายอาทิตย์ติดผมเลยอยากให้เขาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายสร้างเรื่องได้ขนาดนี้


“แล้วเข้าไปในห้องได้ยังไงเหรอ”คินถามต่อ คำถามนั้นดูจะยากพอดูเพราะคนถูกถามถึงกับนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ามาหาผมเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ


“ประตูห้องไม่ได้ล๊อค”ผมเอ่ยไปประโยคเดียวแพนก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนรู้แล้วว่าจะตอบไปยังไง


“ใช่ๆ...ประตูห้องไม่ได้ล๊อคผมเลยแอบเข้าไปได้”


“เรื่องเป็นแบบนี้เองสินะ...คุณแพนคงรักตินมากเลยใช่ไหมถึงได้ยอมเฝ้าอยู่ถึงเช้าแบบนั้น”


“ไม่ได้รักหรอก...”


“...”คนทั้งห้องขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำพูดนั่นไม่เว้นแม้แต่ผม


“ไม่ได้รัก...แต่รักที่สุดต่างหาก”ใบหน้าขาวพูดอีกรอบพร้อมกับเอียงหัวมาหนุนไหล่ผม


“โอ้วว...สุดยอด...พี่ครับ...พี่ห้ามปล่อยคนที่รักพี่ขนาดนี้เด็ดขาดเลยนะ...เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพ่อให้เอง”ประโยคสุดท้ายทำให้ผมนึกได้ว่ามีเรื่องต้องคุยกับน้อยชายร่วมสายเลือดอยู่นี่นา


“แกบอกพ่อไปแล้วไม่ใช่รึไง”เมื่อคืนตอนที่คุยโทรศัพท์พ่อก็ถามขึ้นมาว่าชอบผู้ชายเหรอแค่ได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนไปบอก


“ใช่ผมบอกแล้ว...แต่จะไปบอกอีกว่าแฟนพี่นิสัยดีมากแถมยังดูดีด้วย”คินมองแพนที่ยังคงหนุนไหล่ผมด้วยรอยยิ้มเหมือนยอมรับคนคนนี้แล้ว


“ไม่ต้อง”ผมรีบขัด


“แปลว่าพี่จะบอกเองสินะ”


“อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น”


“แหมๆ...ผมเข้าใจน่าเวลามีคนที่จริงจังด้วยก็อยากบอกด้วยตัวเองทั้งนั้นแหละ...รู้สึกว่าไม่กี่เดือนข้างหน้าพ่อกับแม่จะกลับมานี่ เดี๋ยวผมนัดให้ละกัน”


“...จะทำอะไรก็ทำไป”ถ้าปฏิเสธก็รู้เลยว่าเรื่องต้องถึงพ่อแม่ภายในวันนี้แน่นอน


อย่างน้อยถ้ายืดเวลาออกไปแล้วบอกว่าแพนกลับไปต่างประเทศแล้วก็ได้


“คนนี้ตัวจริงสำหรับพี่จริงๆด้วย...แล้วคุณจะอยู่ถึงเมื่อไหร่เหรอ”


“หื้อ?...ผมกะจะอยู่กับตินตลอดชีวิตแหละ”


“แพน”ผมหันไปเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้มทันที อุตส่าห์คิดไว้แล้วว่าจะปฏิเสธยังไงเล่นบอกแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้สิ


“อะไร...นี่ตินคิดจะให้ผมกลับไปอยู่คนเดียวเหมือนตอนที่คุณจากมาเมื่อ4ปีก่อนอีกเหรอ”น้ำเสียงเศร้าและน้ำตาที่เริ่มไหลนั่นทำให้คนอื่นนอกจากผมส่งสายตามาเหมือนผมทำผิดซะเต็มประดา


น้ำตานั่นปลอมชัดๆ


“นี่พี่ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวมาตั้ง4ปีโดยไม่ไปหาเลยเหรอ...พี่ทำไม่ถูกนะ...รู้ไหมว่าการรอคอยมันเหงาและรู้สึกแย่ขนาดไหน...พี่ไม่...”


“รู้แล้วๆ...เข้าใจแล้ว...ฉันขอโทษ...พอใจไหม”ผมกัดฟันหันไปบอกคนที่กลั้นหัวเราะอยู่ด้านข้างด้วยความหงุดหงิดที่มากขึ้นเรื่อยๆ


“พี่อย่าประชดแบบนั้นสิ”คินพูดต่อ


“ไม่ได้ประชด...จบเรื่องก็กลับไปได้แล้ว”ผมมีเรื่องต้องเคลียร์อีกเยอะ


“โหย...ไล่กันตลอด...ไปก็ได้”คินพูดก่อนจะลุกขึ้น


“คิน”ผมเรียก


“หื้อ?”


“เรื่องอาริศา...รอสักพักค่อยไปคุยเถอะ”ผมบอกอย่างห่วงๆ


“ผมรู้น่า...ผมจีบหญิงเก่งกว่าพี่อีกนะ”น้องชายหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมเหล่าบอดี้การ์ด
ไม่รู้ว่าคินจะสานสัมพันธ์กับอาริศาได้ไหมเพราะดูเธอจะชอบผมมากเอาการอยู่


“คุณตินครับ”


“มีอะไร”ผมถามกาย


“เอ่อ...”สายตาของกายที่มองมายังแพนทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าต้องการอะไร


“เขาจะมาอยู่กับฉัน...คอยดูแลด้วยล่ะ”ผมสรุปง่ายๆ


ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว...ให้แพนอยู่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็ดีเหมือนกัน


“ครับ...สวัสดีครับคุณแพนผมชื่อกายและคนที่ยืนข้างๆผมคือจิม...ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ประโยคสุดท้ายบอดี้การ์ดทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน


“ผมชื่อแพน...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะกาย จิม”แพนเองก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง


“เอาล่ะ...กลับห้องได้แล้ว”ผมลุกขึ้นปล่อยให้คนที่พิงไหล่หงายตกไปบนโซฟานิ่มทั้งๆแบบนั้น


“ลุกไม่บอกกันเลยนะ”คนที่หัวกระแทกเบาะพยุงตัวขึ้นนั่งก่อนจะพูดเสียงเคือง


“แค่นี้น่าจะรู้นี่”


“ไม่รู้หรอก...ปล่อยแฟนหัวทิ่มแบบนี้ได้ไง”


“อย่างอนเลย...ไปได้แล้ว”ถ้าไม่ติดที่บอดี้การ์ดสองคนมองอยู่ผมคงทิ้งให้แพนนอนอยู่แบบนั้นไปแล้วแต่พอบอกว่าเป็นแฟนกันผมก็ได้แต่ต้องยื่นมือไปให้จับ


แพนที่เห็นผมยื่นมือไปให้ก็ยิ้มกว้างก่อนจะจับมือที่ยื่นไปลุกขึ้น




(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)



จากนั้นพวกเราก็กลับมาที่ห้องชั้นบนสุดของคอนโดใจกลางเมืองอีกครั้ง...ตลอดทางที่นั่งรถมาแพนก็หันไปดูวิวด้านข้างเหมือนอย่างทุกครั้งมีบ้างที่หันมาถามว่าตรงนั้นคืออะไรซึ่งผมก็ตอบกลับไปได้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ต้องเงียบไว้เพราะคนอื่นไม่สามารถมองเห็นแพนได้


“มีอะไรตามพวกเราได้นะครับ”กายบอกก่อนจะขอตัวไปพักอีกห้องพร้อมกับจิม


“เข้าห้องได้แล้ว”ผมบอกแพนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง


“อืม...”น้ำเสียงเหนื่อยอ่อนทำให้ผมผมหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างนั้นโครงเครงไปมา ไม่นานแพนก็ทำท่าจะหงายหลังผมเลยรีบเข้าไปรับร่างที่หมดสติไปอย่างทันท่วงที


“เฮ้ย...แพน”ผมเรียกเทพที่หลับสนิทอย่างเป็นกังวล


ในทุกๆวันแพนมักจะตื่นก่อนผมเสมอและก็ไม่รู้ด้วยว่าหลับไปเมื่อไหร่เพราะทุกครั้งที่ตื่นก็จะเห็นว่าอีกฝ่ายตื่นก่อนแล้ว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นอีกฝ่ายหลับสนิทแบบนี้


เมื่อเห็นว่าอยู่ตรงทางเดินแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ผมเลยอุ้มร่างในชุดยูกาตะสีน้ำเงินก่อนจะเดินเข้าไปในห้องโดยมีจุดหมายอยู่ที่เตียงในห้องนอน...ร่างอันอ่อนแรงถูกวางลงบนเตียงก่อนจะห่มผ้านวมให้จนถึงอก


เครื่องปรับอากาศภายในห้องถูกเปิดเพื่อให้อากาศที่ร้อนอบอ้าวเย็นสบายขึ้นอีกหน่อย...


ที่สลบไปอาจเพราะอากาศร้อนก็ได้...


แต่ก็ไม่น่าใช่...อยู่ด้วยกันมาตั้งนานไม่เห็นเคยเป็น


“แพน...”ผมเรียกคนบนเตียงเสียงเบาก่อนจะเอื้อมมือไปลูบใบหน้านั่นเหมือนอย่างที่เคยถูกลูบบ้าง...ผิวนิ่มๆทำให้ผมเผลอลูบใบหน้านั่นอยู่นาน


ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดลำลองก่อนจะขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงมองดูแพนที่หลับสนิทอยู่ตลอดหลายชั่วโมง ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นเท่านั้น


ใจหนึ่งก็อยากจะเรียกหมอแต่ก็รู้ว่าแพนไม่ใช่มนุษย์ถึงจะเรียกมาก็รักษาไม่ได้อยู่ดี


“เป็นอะไรน่ะแพน...”เป็นอีกครั้งที่ผมเอ่ยถามแม้จะรู้ว่าไม่มีคำตอบก็ตาม


ฝ่ามือผมสัมผัสอีกฝ่ายไปทั่วทั้งเส้นผมสีเขียวเข้มหรือตามใบหน้าขาวที่หลับตาพริ้มอยู่ด้านข้าง...


“...อื้อ...”มือที่ลูบถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆดังขึ้น


“แพน”ผมเรียกชื่อคนด้านข้างเบาๆ เมื่อถูกเรียกเจ้าของชื่อก็ค่อยๆปรือดวงตาสีเขียวอ่อนขึ้นมาทีละนิดแต่ไม่นานดวงตานั่นก็ปิดลงอีกรอบ


“แพน...”ผมขมวดคิ้วกับท่าทางแปลกๆนั่น เหมือนกับคนที่นอนไม่พอเลย


“...ผมไม่เป็นไร”เสียงนุ่มตอบหลับมาทั้งๆที่หลับตาอยู่


“ไม่เป็นไรที่ไหน”คนไม่เป็นจะนอนหมดแรงแบบนี้รึไง


“แค่เหนื่อยเฉยๆ...”


“เหนื่อย?”


“อืม...เคยบอกแล้วนี่ว่าผมไม่ชอบให้มนุษย์เห็นตัว”อีกฝ่ายอธิบายเสียงเบา


“ใช่...แต่วันนี้นายกลับปรากฏตัวให้คนอื่นเห็น”


“ผมอยากช่วยคุณนะ”ระหว่างที่พูดดวงตาคู่เดิมก็ปรือขึ้นอีกครั้ง


“ฉันรู้...ขอบคุณ”


“...อืม”แพนยิ้มบางๆส่งมาให้


“แล้วเกี่ยวอะไรกับที่เป็นแบบนี้”


“...การที่จะปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นจำเป็นต้องใช้พลังมากแถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ปรากฏร่างต่อหน้ามนุษย์ทำให้การควบคุมไม่ค่อยเสถียร พลังงานที่มีเลยหมดไป”


“...”คำอธิบายดูงงจนผมต้องนิ่งไปสักพักเพื่อทำความเข้าใจ


“แต่ไม่ต้องห่วงหรอก...ถ้าปรากฏร่างอีกครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นแบบนี้แล้ว”


“แน่ใจนะ”


“อืม...มนุษย์เวลาทำอะไรครั้งแรกมักไม่ชินใช่ไหม เทพเองก็เหมือนกันแหละ...เพราะงั้น...อย่าทำหน้ากังวลแบบนั้นเลย”ดวงตาสีเขียวอ่อนที่ปรือขึ้นมองมายังผมพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าผมเบาๆ


“...ใครกังวลกัน”ทำไมถึงรู้ว่าผมกังวลอยู่


หรือว่าแพนจะอ่านใจได้กันนะ


“ผมรู้ว่าคุณกังวลและเป็นห่วง...ผมไม่ได้อ่านใจได้แต่เพราะการกระทำของคุณมันบอก”


“การกระทำ?”


“...ผมขอนอนต่ออีกสักพักใหญ่นะ”


“ตื่นมาจะกินอะไร”ผมถามคนด้านข้างที่ปิดตาทั้งสองข้างไปแล้ว


“จะสั่งให้เหรอ”น้ำเสียงใสๆกับดวงตาที่ทอประกายดีใจลืมขึ้นมาอีกครั้งทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา


“อืม”


“อยากกินอาหารไทย...ขอแบบเด็ดๆ”แพนบอกพลางคลี่ยิ้มออกมา


“กินเผ็ดได้แค่ไหนกันล่ะจะมาขอเด็ดๆ”อาหารไทยส่วนมากรสจัดทั้งนั้น เทพที่มาจากญี่ปุ่นไม่น่าจะกินรสจัดมากๆได้


“ได้อยู่...ขอประมาณต้มยำที่แม่ตินทำ”


“ได้...นอนพักเถอะ”พูดจบผมก็วางมือลงบนเส้นผมสีเขียวเข้มแล้วลูบไปมาเบาๆ


“...นี่ติน”


“อะไร...นอนได้แล้ว”


“ตอนผมลูบผมคุณรู้สึกดีรึเปล่า”อยู่ๆแพนก็ถามขึ้น


“...ถามทำไม”


“ผมอยากรู้ว่าคุณรู้สึกดีเหมือนที่ผมรู้สึกตอนนี้รึเปล่า”เสียงพึมพำเบาๆนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาอีกรอบโดยที่มือก็ยังคงลูบเส้นผมสีแปลกตรงหน้าอยู่


รู้สึกดีไหมงั้นเหรอ


คำถามง่ายๆที่ไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบสักนิด


“ถ้าไม่รู้สึกดีคงยอมให้ลูบหรอก”



จากนั้นผมก็ลูบหัวแพนอยู่สักพักจนเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอก่อนจะเดินออกมาอยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อให้อีกฝ่ายได้พักอย่างเต็มที่ ระหว่างที่รอก็โทรสั่งอาหารไทยให้กายและจิมเอาขึ้นมาให้...ที่สั่งไปก็มีต้มยำกุ้ง ยำวุ้นเส้น แกงเขียวหวานและน้ำพริกกะปิโดยให้คนสนิทไปซื้อจากร้านที่ขึ้นชื่อแถวนี้มา


หลายชั่วโมงต่อมาของทุกอย่างที่สั่งก็ถูกเทใส่ถ้วยชามวางไว้บนโต๊ะ...


“คุณตินครับ”


“มีอะไร”ผมถามจิมที่เรียก


“แล้วคุณแพนอยู่ไหนเหรอครับ”จิมถามต่อ


“นอนพักอยู่ในห้อง”ผมตอบไป


“ไม่สบายเหรอครับ...ถ้ายังไงให้เรียกหมอ...”


“ไม่ต้อง...แค่เหนื่อยจากการเดินทางเท่านั้นพักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”


“ถ้ายังไงให้ผมไปตรวจหน่อยไหมครับ”จิมถามต่อ จิมเองนอกจากเป็นบอดี้การ์ดฝีมือดีแล้วยังเรียนจบแพทย์มาด้วย เรื่องการดูแลหรือรักษานั้นถือว่าดีในระดับหนึ่ง


หรือจะลองให้จิมไปตรวจคร่าวๆดีล่ะ


แกร็ก


“ผมหายแล้ว”เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับแพนที่เดินออกมาในชุดยูกาตะตัวเดิม


“พักอีกหน่อยก็ได้”ผมบอกอย่างห่วงๆ จากที่กะรู้สึกจะนอนไปแค่4ชั่วโมงเอง


“ไม่เป็นไร...ขอบคุณที่เป็นห่วงนะติน...กายและจิมด้วยนะ”พูดกับผมเสร็จก็หันไปคุยกับบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ยืนอยู่


“ครับ...ถ้ารู้สึกไม่สบายบอกได้นะครับผมจบหมอมาค่อนข้างมีความรู้ด้านนี้”จิมบอกแพน


“อืม”แพนพยักหน้าตอบ


“คุณตินถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวนะครับ”กายบอกลาก่อนจะหันไปมองหน้าจิม ไม่นานทั้งคู่ก็ออกไปจากห้อง


“ว้าว...นี่อาหารไทยเหรอ”แพนตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ


“อืม...ปรากฏตัวออกมาแบบนี้ไม่เป็นไรแน่นะ”ผมถามพลางมองไปยังแพน


“ไม่เป็นไรแล้ว...ผมต้องฝึกอยู่ในร่างมนุษย์ให้ชินไว้เพราะงั้นจากนี้ผมจะอยู่ในร่างมนุษย์ตลอด...แต่อาจขอเว้นบางวันนะ”พูดจบแพนก็นั่งลงก่อนจะยกช้อนขึ้นตัดแกงเขียวหวานไก่เข้าปากคำโต


“เป็นไง”ผมนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมถามความเห็น


“อร่อยมากกก”


“งั้นก็กินเยอะๆ”


“ได้เลย...ตินก็กินด้วยกันนะ”แพนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ทั้งที่มุมปากเลอะน้ำต้มยำกุ้งจากที่ตักกินเมื่อครู่


“หึ...กลัวไม่มีใครแย่งรึไง”


“แย่งกันกินสนุกดีออก...อืม...อันนี้ก็อร่อย...ตินลองดูสิ”ยำวุ้นเส้นรสจัดถูกตักใส่จานข้าวผมด้วยฝีมือของแพน


มื้อเย็นของพวกเราผ่านไปอย่างไม่รีบร้อนอะไร จานชามทุกอย่างถูกแพนจัดการล้างทำความสะอาดทั้งที่ผมบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวจะให้แม่บ้านขึ้นมาทำแต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้ารัวๆเป็นเชิงปฏิเสธจนผมต้องถอนหายอย่างปลงๆก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำด้านใน


เมื่ออาบน้ำเสร็จผมก็อยู่ในชุดนอนปกติคือเสื้อแขนสั้นและกางกางขายาวสีเทาเหมือนอย่างทุกวัน


“ตินน”เสียงเรียกชื่อดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิด แพนเข้าไปอาบน้ำหลังจากที่ผมออกมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วถ้ายังนานกว่านี้ผมคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นลมคาห้องน้ำไปแล้ว


ปกติแพนไม่อาบน้ำ


ไม่ล้างหน้า


ไม่สระผม


ไม่แม้แต่เปลี่ยนชุด...ที่เปลี่ยนก็มีแค่สีของยูกาตะเท่านั้นแต่รูปแบบก็ยังคงเหมือนเดิมจนผมไม่รู้ว่าเขาอาบน้ำหรือเปลี่ยนชุดตอนไหน


แต่วันนี้ร่างที่เดินออกจากห้องน้ำไม่ได้ใส่ชุดยูกาตะเหมือนทุกครั้ง เสื้อแขนสั้นตัวใหญ่ของผมถูกแพนใส่อยู่โดยที่ท่อนล่างเป็นกางเกงสามส่วนที่จำไม่ได้ว่ามีอยู่ในตู้เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่


แพนเดินขึ้นมานั่งบนเตียงทั้งที่กำลังเช็ดเส้นผมสีเขียวเข้มที่เปียกน้ำอยู่


“ไปเช็ดข้างล่าง...เดี๋ยวเตียงเปียก”ผมบ่นเบาๆก่อนจะหันไปหาคนด้านข้างเพราะได้กลิ่นหอมๆของทั้งสบู่และยาสระผมลอยออกมา


“ผมหอมไหม”แพนไม่สนใจกับคำบ่นแต่ขยับตัวเข้ามาชิดกว่าเดิมจนได้กลิ่นหอมๆนั่นชัดเจนขึ้น


“ปกติไม่เห็นได้กลิ่น”อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายเดือนแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กลิ่น


“ไม่แปลกหรอก...เทพอย่างพวกเราเป็นสิ่งมนุษย์ทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้ดังนั้นทั้งเสียงหรือกลิ่นก็สัมผัสไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”แพนอธิบาย


“แต่ฉันมองเห็นนายนี่...ได้ยินเสียงด้วย”


“เอาง่ายๆนะ...”


“อืม”


“เพราะผมไม่ได้อาบน้ำเลยสักครั้งตั้งแต่ที่มาอยู่กับคุณทำให้คุณไม่ได้กลิ่นผม...แต่ตอนนี้ผมอาบน้ำแล้วคุณเลยได้กลิ่นผม...จบนะ”


“ห๊ะ?”


“ตอบมาได้แล้วว่าหอมไหม”แพนพูดก่อนจะเบียดตัวเข้ามาชิดกับร่างผม


“...เป็นเทพที่ซกมกจริงๆไม่อาบน้ำมากว่า4เดือนแบบนี้”ผมพึมพำกับตัวเอง


“ไม่ได้ซกมกนะแค่ไม่จำเป็นต้องอาบ เทพส่วนมากก็ไม่อาบกันหรอกแต่ผมอยากลองสระผมแล้วก็ใช้สบู่เลยลองอาบดู”แพนรีบพูดแก้สิ่งที่ผมเข้าใจผิด


“แล้วเป็นไง”ถึงไม่ต้องถามผมก็เดาคำตอบได้ลางๆอยู่แล้ว


“รู้สึกดีสุดๆเลย...แบบว่าตอนที่ลูบสบู่ไปทั่วร่างนะแบบว่าลื่นๆแล้วก็รู้สึกหอมด้วยแถมพอสระผมแล้วรู้สึกว่าหัวเบามากเลยแถมยังหอมสุดๆ”แพนบอกพลางคว้าเส้นผมตัวเองมาดมด้วยใบหน้าชื่นใจ


“ฉันจำไม่ได้ว่าซื้อกลิ่นพวกนี้มา”ทั้งยาสระผมและสบู่ทุกยี่ห้อที่อยู่ในห้องน้ำผมเป็นคนเลือกเองกับมือและจำได้ด้วยว่าไม่ได้ซื้อกลิ่นหวานๆแบบนี้มา


“ผมซื้อมาตอนออกไปซื้อของครั้งก่อนเอง”


“แอบซื้อสินะ”


“เปล่านะ...ก็ตินบอกว่าจะซื้อให้นี่แล้วก็แบบว่า...คือ...ขอโทษที่ไม่ได้บอก”


“ฉันไม่ได้ว่าสักหน่อย”


“จริงนะ”น้ำเสียงหง๋อยๆเปลี่ยนมาเป็นสดใสอย่างรวดเร็ว


“อืม”


“งั้นๆ...ผมหอมไหม”


“สรุปก็วกมาเรื่องเดิมสินะ”


“น่าๆ...ตอบหน่อยสิ ผมเลือกกลิ่นสบู่เองเลยนะ”แพนบอกก่อนจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตักผมเหมือนอย่างปกติแต่ครั้งนี้กลิ่นหอมๆที่ลอยมาแตะจมูกทำให้ความรู้สึกแปลกๆเริ่มแล่นเข้ามา


“แพน...ลุกไป”


“ไม่ลุกจนกว่าตินจะตอบว่าหอม”แพนส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบแล้วขยับตัวเข้ามาให้ผมได้กลิ่นชัดเจนขึ้น


“...หอม...พอใจรึยัง”ผมตอบกลับ


“ทำไมเสียงดูไม่จริงใจ”แพนบ่นเล็กน้อย


“แล้วต้องทำเสียงแบบไหน”


“ก็แบบ...หอมมากเลยแพน...แบบนี้”แพนทำตัวอย่างให้ดูก่อนจะมองมาด้วยสายตาที่คาดหวัง


“หึ...จัดให้ตามคำขอ”พูดจบผมก็จัดการดึงตัวแพนให้มาประชิดตัวมาขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นโอบเอวไว้หลวมๆ


“ตะ...ติน”แพนเรียกผมเสียงสั่น ดูเหมือนจะตกใจกับการกระทำของผมซึ่งผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่ทำแบบนี้


รู้แค่กลิ่นหอมๆนี่...อยากได้กลิ่นมันใกล้ๆ


“...หอมมากเลยแพน”ผมกระซิบบอกที่ข้างหูเบาๆก่อนจะใช้ปลายจมูกไล่ตามลำคอขาวที่มีกลิ่นหอมอบกวนจนคนบนตักสะดุ้ง


“อ๊ะ...แกล้งกันนี่”


“ใครแกล้ง”


“คุณไง...แกล้งมาผมแกล้งกลับนะ”เสียงนุ่มบอก


“ยังไง”จะแกล้งอะไรผมกลับกัน


“ผมจะทำให้คุณสะดุ้งเหมือนที่ผมเป็น”พูดจบแขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบคอผมไว้หลวมๆก่อนจะซุกหน้าลงที่คอแล้วใช้ปลายจมูกสัมผัสไล่ลงไปช้าๆ


“...”อย่างที่แพนพูดไว้ เขาทำให้ผมสะดุ้งได้จริงๆ...


แต่ไม่ได้แค่สะดุ้งเท่านั้น...


ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของตัวเองกับของคนที่แนบชิดอยู่ตอนนี้ต่างเต้นรัวแทบไม่ต่างกันเลย


“ติน...”


“อะไร”


“รู้สึก...แปลกๆ”แพนกระซิบบอกเสียงเบา


“...เหมือนกัน”ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในหัวใจนี่คืออะไรกัน


“ผมง่วงแล้วขอนอนก่อนนะ”ทันทีที่พูดจบแพนก็ผลักผมออกแล้วพลิกตัวนอนคลุมโปรงอย่างรวดเร็วจนผมได้แต่หันไปมองก้อนอะไรสักอย่างที่อยู่ด้านข้างอย่างงงๆ


“แพน”


“ไม่คุยแล้ว...ผมจะนอน”อีกฝ่ายตอบเสียงอู้อี้


“เช็ดผมให้แห้งก่อนเดี๋ยวไม่สบาย”ผมบอกก่อนจะดงผ้านวมที่คลุมอยู่ออก


“...ไม่เป็นไรหรอกน่า”


“เป็นสิ...ลุกเร็ว”


“ชิ...”สุดท้ายแพนก็ยอมลุกตามที่ผมบอก ผ้าขนหนูที่ถูกทิ้งไว้บนตักถูกหยิบขึ้นมาเช็ดที่เส้นผมสีเขียวเข้มเบาๆ ในตอนแรกดวงตาสีเขียวอ่อนก็หันมามองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะหันกลับไปนั่งนิ่งยอมให้ผมเช็ดจนแห้ง


“นอนได้แล้ว”ผมยกมือขึ้นสัมผัสเส้นผมสีเขียวเข้มนั่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดโคมไฟที่อยู่ใกล้ๆ


“...ติน”หลังจากปิดไฟไม่นานเสียงอู้อี้จากข้างๆก็ดังขึ้น


“ว่ามา”


“ขอบคุณนะ...พึ่งรู้ว่าการถูกเช็ดผมให้จะรู้สึกดีขนาดนี้”


“ถ้ารู้สึกดี...”ผมเงียบไปเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้


“อะไรเหรอ”แพนถามต่อ


“เปล่านี่”


“เปล่าที่ไหนกัน...บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะติน”


“ไม่...นอนได้แล้ว”ผมจับตัวแพนที่กำลังจะลุกให้นอนลงก่อนจะพลิกตัวนอนอีกฝั่งท่ามกลางเสียงตะโกนอย่างไม่พอใจที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


“คนขี้โกง...ใจร้าย...ปิดบัง...”


“ฝันดีแพน”ผมตัดจบการสนทนา


“ฮึ้ย...ฝันดีก็ได้”สุดท้ายแพนก็ยอมนอนสงบๆจนได้


ในความมืดดวงตาสีฟ้าของผมยังคงลืมอยู่ทั้งที่ผ่านมาหลายสิบนาทีแล้ว ความง่วงที่มีเข้าโจมตีจนอยากหลับตาลงแต่เพราะประโยคที่ยังพูดค้างไว้นั่นทำให้ผมไม่สามารถหลับลงได้...


‘ถ้ารู้สึกดี...คราวหน้าจะเช็ดให้’


ผมชักเริ่มไม่เข้าใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ

......................................................................................
สวัสดีค่ะ

มาอัพต่อแล้ววว

เหมือนตอนที่แล้วจะเรียกเรทติ้งได้ดีกว่าตอนอื่นๆ 55

ดีใจจังเลย

หวังว่าตอนนี้ทุกๆคนก็จะชอบกันนะคะ

ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากขอบคุณทุกๆกำลังใจและขอฝากความน่ารักมุ๋งมิ๋งของแพน เทพผู้น่ารักด้วยน้า

แล้วเจอกันตอนหน้าน้าาา

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
อั้ยยย มีการสัมผัสกันเกิดขึ้นน
เขินนน ตินหอมคอเลยอะ เขินจางงง
อยากให้รักกันเร็วๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MorethanMore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หยุดเขิลไม่ได้เลยค่ะ 555

ทำไมน่ารักแบบนี้ อ่านแล้วเบาหวานขึ้นตา
คู่นี้ทำทุกอย่างตามความเคยชิน จนกลายเป็นเรื่องปกติ แล้วจะรู้ไหมเนี่ยว่ารักกัน ลุ้นตรงนี้

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือตินแบบสับสน ~_~

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เอ้าๆ รักกันแล้วสิเนี่ยยย

หวานกันสุดๆ :hao3: :mew1:

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนเห็นแพนได้แค่คนเดียวก็เขินแล้วนะพอยิ่งสัมผัสกันได้มากขึ้นยิ่งเขินหนักมากอ่ะเทพแพนน่ารักน่าฟัดจริงๆยิ่งตอนที่ให้ตินตอบว่าหอมมั้ยนี่น่ารักมากกก

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พลาดเรื่องนี้ได้ไง น่ารักอบอุ่นมากๆๆ ท่านเทพน่าฟัดเกิ้นนน><  :mew1: :mew1:
ขอบคุณคนเขียนค่า  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เขาเป็นแฟนกันแล้ววววว

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดด >\\\\\\<
ไม่ไหวแล้วๆ อ่านแล้วอยากจจะจิกหมอนให้ทะลุ!!

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ตอนนี้ดาเมจมาก งื้อออ น่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
อั้ยยยย ดีใจจังที่มาต่อแล้ว
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เขินนน เป็นแฟนได้เนียนมากค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ tonnum18

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนนี้อ่านแล้วมุ้งมิ้ง  โลกเป็นสีชมพูสำหรับ 1 เทพและ 1 คน  ที่ต้องการโลกสีชมพูเท่านั้น

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
นี้อ่านตอนมาคหน้าแล้วแบบ ต้องกลั้นยิ้มอ่ะ งุ้ย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยิ้มปวดแก้มเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
บ้าจริง! หยุดยิ้มไม่ได้เลย :heaven

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด