♧♣Touch Love♣♧ สัมผัสรัก ด้วยหัวใจ {♧สัมผัส{❤}ส่งท้าย♣+แจ้งข่าว}13/01/61 P.16 จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♧♣Touch Love♣♧ สัมผัสรัก ด้วยหัวใจ {♧สัมผัส{❤}ส่งท้าย♣+แจ้งข่าว}13/01/61 P.16 จบ  (อ่าน 150944 ครั้ง)

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :ruready เทพแห่งการกินชัดๆ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
นึกถึงแพนให้นึกถึงเรื่องกิน(?) 55555

ตินๆหวงแพนใช่ไหมล่ะ ~
ใจเย็นนะนาย สองคนไม่แยกจาก แพนอยู่กับตินตินเสมออ
น่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่านตอนนี้แล้วต้องรีบไปหารูปวากาชิเลย ฮา

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
มีความทะเลาะกันเบา
แต่ถ้าท่านเทพรักตินขึ้นมาจิงๆ จะเปนไรรึเปล่าน๊าาาาา

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
อารมณ์แปรปรวนนะติน

มีหวงๆ

 :hao3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ติณแอบหึงไดจิใช่มั๊ย  :jul3:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :mew1: :mew1: น่ารักจังสุดท้ายแพนก็แพ้ต่อขนมอิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ติน ตอนนี้นี่เหมือนเด็กเลยแต่กะน่ารักดี

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ชอบเขามากไหมล่ะติณณณณณ  :laugh:

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตินน้อยใจกับคำตอบของแพนเหรอ -0-

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 :pig4: :pig4:

เรื่องน่ารักดีค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
แพนน่ารัก

ตินก็หวงแพนไม่น้อยเลยยนะ


ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เชื่อเขาเลย เทพแห่งการกิน  :hao7:

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แพนเทพสายกิน vs พี่ตินสายเปย์  :hao7:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
แพนน่ารักจัง อยากจิ้มแก้มบ้าง :กอด1:

ออฟไลน์ neyney_mumi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
งือออ คนเขียนขาาา หายไปนานเลยยยย
คิดถึงแพนแล้ววว รีบมาต่อน้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
สัมผัส{❤}ครั้งที่17



แสงแดดยามเช้าส่องสว่างเข้ามาภายในห้องชั้นบนสุดของคอนโดสุดหรูทางหน้าต่างที่ลืมเลื่อนผ้าม่านปิดไว้ ดวงตาสีเขียวอ่อนของผมปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่วางทับอยู่บนเอว พอเลื่อนผ้านวมออกก็พบกับแขนของเจ้าของห้องที่พาดอยู่


ลมหายใจที่สม่ำเสมอนั้นทำให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงหลับสนิทอยู่ก็เลยพลิกตัวกลับไปมองใบหน้ายามหลับนั้นในระยะใกล้ การได้มองหน้าตินเวลานอนเหมือนเป็นงานอดิเรกอย่างใหม่ที่พึ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ โดยปกติเมื่อตื่นผมมักจะออกไปรับแสงแดดยามเช้าจนถึงเวลาที่ตินตื่นไม่เหมือนกับตอนนี้


ความรู้สึกที่อยากอยู่ข้างๆเริ่มมีมากขึ้นทั้งที่การอยู่ด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกติของพวกเราที่ไม่สามารถแยกกันได้จนกว่าจะหมดอายุไขอยู่แล้ว


ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตินมันเป็นความสุขที่ต่างจากชีวิตเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง


ทุกๆวันที่ได้เถียงกัน


ได้ทะเลาะในเรื่องไร้สาระ


หรือแกล้งกันบ้างในบางโอกาส


มันล้วนทำให้ผมยิ้มออกแถมเป็นรอยยิ้มจากใจจริงด้วย


ก็สมกับที่ตินเป็นมนุษย์ที่ผมชอบที่สุดละนะ


ระหว่างที่มองใบหน้าของตินผมก็เอื้อมมือข้างนึงไปเกลี่ยเส้นผมสีดำสนิทนั่นเล่นไปมาก่อนจะต้องยกยิ้มขึ้นเมื่อนึกถึงตอนที่อีกฝ่ายตื่นผมคงไม่ได้จับผมของเขาง่ายๆเหมือนอย่างในตอนนี้


ตินเป็นพวกหวงตัวไม่ว่าจะเป็นกับคนที่รู้จักหรือไม่รู้จัก แม้จะรู้จักอย่างครอบครัวหรือคนสนิทก็ตินก็แทบไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวยิ่งกับคนที่ไม่รู้จักแค่จับมือบางทียังหน้าตึงเลย


น่าแปลกที่กับผมตินกลับไม่เคยมีอาการรังเกียจเหมือนอย่างที่เป็นกับคนอื่นซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รับการยอมรับให้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของอีกฝ่ายมากขึ้น


“ขอแกล้งนิดนึงนะติน”ผมขออนุญาตพร้อมยกยิ้มขึ้นเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ ผมขยับร่างของตัวเองเข้าไปชิดกับตินก่อนจะกอดอีกฝ่ายแน่นๆ กลิ่นของตินลอยมาเข้าจมูกจนผมเผลอซบหน้าลงไปกับแผ่นอกนั้นอย่างไม่รู้ตัว


ถ้าตินตื่นมาเจอสภาพนี้คงตกใจมากแน่ ไม่แน่นะอาจกลิ้งตกเตียงก็ได้ใครจะรู้


ถ้าตกเตียงจริงผมจะได้มีเรื่องให้ล้อสักที


ครั้งนี้แหละผมอาจชนะได้เป็นครั้งแรก


ร่างของตินที่หลับสนิทค่อยๆขยับตัวทีละน้อยนั่นทำให้ผมอยู่นิ่งๆโดยมือทั้งสองข้างยังคงกอดอีกฝ่ายไว้แน่น แรงขยับตัวนั้นดูจะชะงักไปเล็กน้อยคิดว่าคงเพราะเห็นว่ามีผมนอนกอดตัวเองอยู่แน่


“...แพน?”เสียงทุ้มที่ติดงัวเงียดูจะตกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นผมในสภาพนี้ แต่แค่ตกใจเองไม่เห็นจะถอยหลังตกเตียงอย่างที่คิดไว้
จะว่าไปผมก็กอดแน่นขนาดนี้จะให้ตกเตียงก็คงไม่ได้


อ่า...ผมพลาดซะแล้ว


“หึ...น่าแปลกที่ฉันตื่นเช้ากว่านะ”หลังจากนิ่งไปสักพักตินก็พึมพำออกมาเสียงเบา ไม่นานก็ตามมาด้วยสัมผัสของเส้นผมที่ถูกอีกฝ่ายลูบไปมา...แรงที่ลูบนั้นไม่เหมือนกับทุกครั้งที่มักจะแจ้งขยี้จนหัวฟูแต่ครั้งมันกลับอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก


รู้สึกดีจัง


ไม่แปลกเลยที่ตินจะรู้สึกดีเวลาที่ผมลูบ ในเมื่อรู้สึกดีขนาดนี้ผมก็อยากจะหลับต่ออีกตื่นเหมือนกัน


“...แพน”หัวใจที่เต้นอยู่ทวีความเร็วขึ้นทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงที่ตินเรียกชื่อตัวเอง ทั้งที่ชื่อเหมือนเดินแต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกจนผมต้องซุกหน้าตัวเองเข้าที่อกตรงหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าที่เหมือนจะร้อนขึ้น


ทั้งที่คิดว่าอีกสักพักคงกลับมาเป็นเหมือนแต่สัมผัสต่อมานั้นทำเอาทั้งร่างผมเกร็งโดยอัตโนมัติ...


มันไม่ใช่มือที่ลูบหรือน้ำเสียงที่พูด


สัมผัสแบบนั้นเหมือนกับที่เคยได้รับมากก่อนเพียงแต่ไม่ใช่ที่หัวแต่เป็นที่ริมฝีปากของตัวเอง


นี่ติน...จูบ...


ผลัก!


“ทำอะไรน่ะ!”ผมผลักอีกฝ่ายออกพร้อมกับถอยไปตั้งหลักที่ปลายเตียงอย่างรวดเร็ว ทั้งความร้อนบนใบหน้าหรือแม้แต่จังหวะของหัวใจ ทุกอย่างล้วนแต่เพิ่มมากขึ้นจนอยากจะมุดไปใต้ผ้านวมมันซะเดี๋ยวนี้เลย


นี่ผม...


กำลังเขินอายขนาดนี้


บ้าน่า


กับมนุษย์เนี่ยนะ


เป็นไปไม่ได้!


“นายตื่นอยู่”ตินไม่ตอบแต่ทำเพียงมองมาอย่างคาดคั้นคำตอบ


“...เปล่า”


“คิดว่าฉันจะเชื่อคำโกหกนั่นรึไง”


“...”ผมเลือกที่จะเงียบแทนที่จะต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย ตอนนี้ผมอยากให้หัวใจตัวเองกลับมาเต้นปกติให้เร็วที่สุด


“หน้านายแดงนะ...หรือว่าเป็นไข้?”ตินที่เห็นใบหน้าที่ขึ้นสีของผมก็ขยับตัวมาใกล้ก่อนจะเอื้อมมือมาสัมผัสบริเวณหน้าผาก ทั้งที่ผมควรจะหนีฝ่ามือนั่นแต่กลับทำได้เพียงนั่งเม้มปากตัวเองแน่นอยู่กับที่ยอมให้ตินทำตามต้องการ


“ไม่ได้เป็นไข้นี่...ทำไมหน้าแดง”


“...อย่าถามได้ไหม”ผมไม่คิดจะบอกเหตุผลให้ฟังหรอกนะ


ต่อให้เอาอาหารทั้งโลกมาล่อผมก็ไม่ยอม


จะให้รู้ได้ยังไงล่ะว่าผมเขินน่ะ


เทพเจ้าที่อยู่มากว่า300ปีกลับเขินเมื่อถูกจูบที่หัว


น่าอายเป็นบ้า


“ถ้าไม่ได้เป็นไข้...อย่าบอกนะว่าเขินน่ะ”


“พูดบ้าๆ...เพี้ยนไปแล้วรึไง”ผมตะโกนเสียงดังอย่างไม่อายใครเมื่อได้ยินคำว่าเขินในประโยคนั่น


“หึ...อ้อ...อย่างงี้นี่เอง”อยู่ๆตินก็ยกยิ้มขึ้นก่อนจะทำหน้าเจ้าเล่ห์


“อะ...อะไร”


“เขินที่ฉันจูบ”


“ไม่ใช่นะ”


“หึ”คำปฏิเสธอันรวดเร็วของผมทำให้ตินยกยิ้มขึ้นอีกรอบ


รอยยิ้มนั่นคงรู้แล้วแน่ๆว่าผมเขิน


นี่ผมจะเอาหน้าไปไว้ไหนดี


“...ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย...ความจริงคุณต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายตกใจจนกลิ้งตกเตียงน่ะแต่ทำไมกลายเป็นผมที่ต้องมาเขินอายแบบนี้กัน!”สิ่งที่อยู่ในหัวถูกระบายออกไปราวกับน้ำป่าไหลหลาก


“อ้อ...แปลว่าวางแผนไว้”


“อุ๊บ!...”ผมรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองที่เผลอพูดออกไปจนหมดทว่ามันคงปิดไม่ทันซะแล้ว


“จะให้ฉันตกใจจนกลิ้งตกเตียงแต่ดันกอดไว้ซะแน่นจนขยับแทบไม่ได้น่ะเหรอ”คำถามกวนๆนั่นทำเอาผมต้องเม้มปากแน่นด้วยความอับอาย


“...มันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง”


“แล้วคนที่เป็นฝ่ายแกล้งกลับถูกฉันทำให้เขินจนหน้าแดงแบบนี้”


“ไม่ได้เขินสักหน่อย”ยังไงก็ไม่อยากให้ตินรู้ว่าผมเขิน


“โกหกไม่ได้ก็อย่าพยายามเลย...มันเสียเวลา”


“ติน”แบบนี้มันจะมากไปแล้วนะ


“ครับท่านเทพ”คำตอบรับนั่นยิ่งเพิ่มอารมณ์ที่มีให้มากขึ้นไปอีก


“รับผิดชอบเลยนะ”ผมตะโกนเสียงดังลั่น


“รับผิดชอบ?...แต่งงานกันเลยไหมล่ะ”


“ฮะ?...พูดเป็นเล่น”เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องแต่งงานเลยงั้นเหรอ


“ฉันพูดจริง”


“ติน...”


“หึ...ทำหน้าตลก”ติกเปลี่ยนสีหน้าที่จริงจังเป็นใบหน้านิ่งๆตามปกติก่อนจะเอื้อมมือมาดีดหน้าผากผมเบาๆ


“...แกล้งกันนี่”ผมพึมพำพลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง เล่นทำน้ำเสียงจริงขังแบบนั้นผมก็ไปต่อไม่ถูกน่ะสิ


“เป็นการลงโทษที่คิดจะแกล้งคนอื่น”ตินบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง


“คนอื่นผมไม่แกล้งหรอก...แกล้งตินคนเดียวก็พอแล้ว”


“ถ้าแกล้งมาจะแกล้งกลับให้แดงไปทั้งตัวเลย”ตินพูดเสียงเข้ม


“ทำไมขี้แกล้งขนาดนี้นะ”


“ขอคืนคำพูดนั้นให้เลยแพน”ตินสวนกลับ


“ชิ...”สุดท้ายผมก็ไม่ชนะจริงๆด้วย


เมื่อการถกเถียงช่วงเช้าผ่านไปยกแรกตินก็ก้าวเข้าไปยังห้องน้ำก่อนจะออกมาทางห้องแต่งตัวที่อยู่ติดๆกันในชุดลำลองปกติ ห้องแต่งตัวด้านข้างมีประตูเชื่อมจากในห้องน้ำทำให้เวลาอาบเสร็จก็สามารถเดินเข้าไปแต่งตัวอีกห้องได้เลย ยกเว้นพวกชุดนอนที่จะมีเตรียมไว้ให้ในห้องน้ำอยู่แล้ว


“ทำไมใส่ชุดนี้ล่ะ...ไม่ไปทำงานเหรอ”ผมเอ่ยถามออกไปเมื่อเห็นตินใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาแต่ไม่มีเสื้อนอกเหมือนอย่างทุกที ถ้าไปบริษัทต้องมีเสื้อนอกกับเนคไทด์แสนอึดอัดด้วย


“ใช่...วันนี้ไม่ไปทำงาน”ตินบอกพลางใช้มือเสยผมที่ปกหน้าให้ไปอยู่ด้านหลัง


“ไม่ไปทำงานแต่จะออกไปข้างนอกสินะ”เพราะถ้าไม่ออกก็คงไม่อยู่ในชุดนี้เหมือนกัน


“อืม”


“จะไปไหนล่ะ...วันนี้ผมจะอยู่ในร่างมนุษย์นะ นี่ก็ผ่านมาเดือนนึงแล้วจากเหตุการณ์นั้น”เหตุการณ์ที่ว่าคือตอนที่ผมเข้าไปรับกระสุนแทนติน แม้ว่าจะรักษาได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแต่เพราะไม่อยากให้กายกับจิมสงสัยผมเลยต้องแกล้งทำเป็นพักอยู่ในห้องทั้งที่ความจริงผมกลับร่างเทพลอยตามตินไปทุกที่


“ถึงไม่บอกฉันก็ให้อยู่ในร่างมนุษย์อยู่แล้ว”


“ทำไมล่ะ”


“ฉันจะพาไปเดท”


“...”ทำพูดของตินทำเอาดวงตาสีเขียวอ่อนของผมเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ


เดท


หมายถึงการที่คนรักออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆนั่นน่ะเหรอ


“ทำหน้าตกใจทำไม”


“ก็ทำไมอยู่ๆถึงพาไปเดทเล่า!”


“ตอนนี้เราเป็นแฟนกันอยู่...และมันจะแปลกถ้าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาฉันไม่ได้พาคนรักตัวเองไปเดทเลย”ตินอธิบาย


“อ้อ...แล้วจะพาไปไหน”


“ที่ที่นายต้องชอบ”


“...ฮะ?”ผมกระพริบตาปริบๆกับคำพูดนั่น


“เลิกทำหน้างงแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว...ตั้งแต่อยู่ในร่างเทพไม่เห็นจะอาบน้ำ เหม็นไปหมดแล้ว”ตินพูดพร้อมกับแสดงท่าทางประกอบโดยการยกมือขึ้นแล้วปัดไปมา แค่นั้นเหมือนจะยังไม่สะใจพอเลยเพิ่มการย่นจมูกเป็นของแถม


“ไม่เหม็นสักหน่อย”ผมค้านหัวชนฝา ต่อให้ไม่ได้อาบน้ำเป็นปีผมก็ไม่มีทางเหม็น


“จริงเหรอ?”


“จริงสิ...นี่ไง...ลองดมดูสิ”แค่คำพูดคงไม่ทำให้ตินเชื่อผมเลยเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายพร้อมกับโอบคอตินให้ก้มลงมาหาจนสามารถมองเห็นดวงตาสีฟ้าสดที่ทอประกายขบขันได้อย่างชัดเจน


อย่าบอกนะว่า...


“เอาคืนที่คิดจะแกล้งฉันตอนหลับ”รอยยิ้มที่ยกขึ้นเล็กน้อยนั้นหุบลงก่อนจะเลื่อนมาสัมผัสหน้าผากผมเบาๆแล้วผละออกไปอย่างเชื่องช้า


“...ติน...”ทำอะไรน่ะ


จูบหน้าผากผม?


“รีบไปอาบน้ำ...เราต้องออกจากนี่ก่อน8โมงไม่งั้นจะเดินได้ไม่ทั่ว”นาฬิกาเรือนเงินบนข้อมือตินถูกยื่นมาตรงหน้าผมเพื่อมองหน้าปัดที่บอกเวลา7โมง35นาที


“ว่าไงนะ”


“ฉันบอกว่ามีเวลาให้นายอาบน้ำแค่15นาทีเท่านั้น...อีก10นาทีก็เอาไปใช้แต่งตัวซะ”


“ต่อให้เอาเวลาแต่งตัวมารวมเวลาอาบน้ำก็น้อยไป”แค่20กว่านาทีจะให้อาบเสร็จได้ยังไง


ผมไม่คิดจะวิ่งผ่านน้ำเหมือนที่คนอื่นทำกันหรอกนะ


“ไม่รู้ล่ะ...ถ้ามาช้าฉันจะไปก่อน อ้อ นายลอยตามไปได้นี่นะ ยังไงก็หาฉันเจออยู่แล้วด้วย”


“ติน”ฟังกันบ้างสิ


“ยิ่งเถียงเวลาก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ...ตอนนี้เหลือแค่22นาที”


“อ๊ากก...คุณนี่มัน...”


“มัน?”


“ฝากไว้ก่อนเถอะ”ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงหรอก ต้องรีบอาบน้ำให้เสร็จภายในเวลา22นาทีตามที่กำหนดให้ทัน


การอาบน้ำสำหรับเทพเหมือนเป็นการชำระล้างมลทินดังนั้นจึงให้เวลาอย่างน้อยเป็นชั่วโมงแต่นี่ผมกลับต้องมาเร่งทั้งอาบน้ำทั้งสระผมจนแทบไม่เป็นอันรับรู้กลิ่นของสบู่หรือแม้แต่แชมพูสระผมที่ใช้


เมื่ออาบน้ำเสร็จผมก็ต้องรีบเปิดห้องแต่งตัวเข้าไปเลือกเสื้อผ้าของตัวเองในตู้ที่อยู่ติดผนังห้อง ตู้นี้ตินซื้อให้หลังจากที่เขาซื้อเสื้อผ้าให้ผมมากเกินไปจนไม่มีที่เก็บ ตู้เสื้อผ้านี้จึงมีขนาดใหญ่มากๆ ตอนแรกที่เห็นผมยังบอกตินเลยว่าจะซื้อตู้ใหญ่ขนาดนี้มาทำไม


แต่พอผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ก็แน่นไปด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ซะแล้ว และไม่ได้มีเพียงชุดลำลองปกติแต่ยังมีชุดยูกาตะที่ไม่รู้ว่าตินไปสั่งตัดหรือสั่งซื้อมาจากที่ไหนอยู่เกือบ10ชุด บางวันผมก็จะใส่ยูกาตะเดินไปเป็นจุดเด่นตามสถานที่ต่างๆที่ตินพาไป


ปัง!


“สะ...เสร็จแล้ว...แฮ่ก...”ผมเปิดประตูออกมาจากห้องนอนพร้อมกับตะโกนบอกด้วยเสียงเหนื่อยหอบ


“ช้าไป5นาที”ตินลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่แล้วหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า


“ผมพร้อมแล้ว...ไปกันเถอะ”พูดจบก็เตรียมจะเดินไปทางประตูแต่กลับถูกตินคว้าแขนเอาไว้ผมเลยหันไปมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ


“ไปเปลี่ยนเสื้อ”


“...ทำไมต้องเปลี่ยน”ผมก้มดูเสื้อคอปกสีเขียวอ่อนกับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลเข้มส่วนที่ใส่อยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถาม


ไหนบอกว่าสายแล้วไงทำมังมีเวลาให้เปลี่ยนเสื้ออีกล่ะ


“กางเกงไม่มีปัญหาแต่ไปเปลี่ยนเสื้อเป็นแบบมีฮูดซะ”


“ขอเหตุผลไม่งั้นผมไม่เปลี่ยน”ผมยืนกอดอกนิ่งแสดงออกว่าถ้าไม่ได้คำตอบก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น


“ตอนกลางวันแดดจะร้อนมากถ้าไม่มีอะไรคลุมหัวอาจเป็นลมได้”


“...จะรีบไปเปลี่ยน”สองขาของผมเดินกลับไปยังห้องแต่ตัวด้วยหัวใจที่เต้นแรงอย่างผิดปกติเพียงแค่ถูกตินเป็นห่วง


ก่อนหน้านี้ก็มีหลายครั้งที่ตินเป็นห่วงแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแบบนี้


ความสุขและความดีใจเวลาถูกตินเป็นห่วงเริ่มมีความเขินอายเข้ามาร่วมด้วย


เสื้อแขนสั้นสีน้ำตาลมีฮู้ดถูกผมสวมก่อนจะกลับออกไปหาตินโดยที่ไม่ลืมความหมวกแก๊ปที่อยู่ไม่ไกลออกมาด้วย


เมื่อออกมาหน้าห้องก็พบกับกายและจิมรออยู่อย่างที่คิด พวกเราลงไปข้างล่างก่อนที่กายจะขับรถพาไปยังจุดหมายปลายทางของการเดท


สวนพฤกษศาสตร์เหรอ


จะว่าไปก็เคยได้ยินชื่ออยู่แต่ไม่เคยไปมาก่อน


สำหรับผมภูเขาที่ติดกับศาลเจ้าคิตากามินั้นก็มากพอที่จะทำให้ผมรู้สึกดีแม้จะไม่ออกไปไหน ถึงจะมีบ้างที่ออกไปเที่ยวแต่ก็ไม่เคยไปที่ไหนที่มีต้นไม้เยอะๆเท่ากับป่านั้นเลย


“นี่ติน”ผมหันไปสะกิดตินที่ทำหน้านิ่งอยู่ด้านข้าง


“อะไร”


“สวนที่เราจะไปใหญ่มากไหม”


“ใหญ่กว่าที่นายคิดหลายเท่า”เป็นอีกครั้งที่คำตอบของตินทำให้ผมต้องมานั่งแปลคำพูดนั้นอีกรอบเพื่อทำความเข้าใจ


“แปลว่าใหญ่มากเหรอ”


“ใช่”


“มากขนาดไหน”


“ไว้ไปถึงก็รู้เอง”


“บอกหน่อยน่า”


“อยู่เงียบแล้วกินมื้อเช้าได้แล้ว”พูดจบตินก็หยิบกล่องด้านข้างมาวางบนตักผม


จะว่าไปมื้อเช้ายังไม่ได้กินเลยนี่นะ


“แล้วของตินล่ะ”ผมถามออกไปเมื่อเห็นว่ากล่องพาสติกที่ส่งมาให้มีแค่อันเดียวเท่านั้น


“ฉันไม่...”


“ห้ามบอกว่าไม่กิน”ผมรีบพูดแทรกเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดคืออะไร


“ฉันไม่...”


“และห้ามบอกว่าไม่หิวด้วย”ตินที่คิดจะเปลี่ยนคำพูดแต่ก็ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ถูกผมพูดแทรกอีกรอบ


ข้ออ้างของตินในการไม่กินข้าวมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอก


แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้วยกันตลอดอย่างผมรู้เรื่องนี้ดีที่สุด


“...กินไป”ตินเลือกที่จะเบนหน้าหนีพร้อมกับบอกเสียงเข้มเหมือนจะบอกว่าอย่ามายุ่งแต่มีเหรอที่ผมจะยอมอยู่เฉยๆตามที่ถูกสั่ง
ไม่มีทาง


“นี่ติน”


“อย่าคิดว่าจะใช้วิธีเดิมได้ผลเสมอไปนะ”ตินพูดทั้งๆที่ยังไม่ยอมหันหน้ามา วิธีที่ตินว่าคงเป็นการที่ผมจะเรียกเขาให้มาก่อนจะอาศัยจังหวะที่กำลังพูดจัดการยัดอาหารเข้าไปแน่


แหม...เล่นรู้ทันแบบนี้ก็ถือว่าเสมอกัน


ก็อยากจะชมอยู่หรอกแต่ตอนนี้ผมพึ่งคิดวิธีใหม่ขึ้นมาได้


กล่องพาสติกในมือถูกเปิดออกก่อนจะหยิบแซนด์วิชชิ้นหนึ่งขึ้นมาถือไว้โดยส่วนที่เหลือก็จัดการวางไว้บนเบาะด้านข้าง ดวงตาสีเขียวอ่อนของผมมองไปยังตินที่ไม่ยอมหันหน้ามาพร้อมกับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย...ไม่นานผมก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนตักตินด้วยความคล่องแคล่ว


“เฮ้ย...”ไม่ใช่แค่ตินที่ตกใจในการกระทำนี้แต่ทั้งกายและจิมที่มองจากกระจกหน้ารถก็มีท่าทีตกใจไม่ต่างกัน


“กิน”ผมพูดเสียงเข้มแล้วเอาแซนด์วิชในมือจ่อปากตินที่หันมามองผมที่กระโดดขึ้นมานั่งอยู่บนตัก


“ลงไป”


“กินก่อน”ผมไม่กลัวน้ำเสียงโทนต่ำนั่นหรอกนะ


“แพน...ลงไป”ตินเหมือนกำลังพยายามข่มอารมณ์อยู่พอสมควร ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่พยายามดันตัวผมออกไปแต่มีเหรอที่จะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายๆ


“ถ้ากินจะยอมลง”เมื่อถูกดันด้วยแรงที่ค่อนข้างเหนือกว่าผมเลยจำเป็นต้องใช้มือข้างที่เหลือจับไหล่ตินแล้วกดตัวให้นั่งบนตักนั้นแนบสนิทมากขึ้น


“แพน!”


“อย่าดื้อสิติน”ผมบ่นเมื่อนอกจากตินจะไม่ยอมให้ผมกดตัวลงไปนั่งดีๆแล้วยังคิดจะขยับตัวหนีอีก


“ใครกันแน่ที่ดื้อ...ลงไป”


“ก็กินก่อนสิ”ถ้าไม่ยอมกินผมจะไม่ยอมลงจากตักนี่แน่


“รู้แล้ว...ลงไปสักที”สุดท้ายตินก็ยอมแม้ว่าน้ำเสียงนั่นจะติดหงุดหงิดก็ตาม


“ถ้าผมลงแล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าตินจะยอมกินจริงๆ”ผมไม่เชื่อสัญญาปากเปล่าหรอกนะ โดยเฉพาะกับคนที่ทำท่าไม่ยากอาหารตลอด24ชั่วโมงแบบนี้


“ฉันไม่โกหกหรอกน่า”


“...ก็ได้”แม้จะไม่เชื่อเต็มร้อยแต่ผมก็ยออมขยับตัวออกจากตักนั้นกลับไปนั่งที่ของตัวเองตามเดิม


ผมกล่องพาสติกที่มีแซนด์วิชอีกชิ้นไปให้ตินซึ่งเขาก็รับก่อนจะหยิบมันขึ้นมากินด้วยหน้าตาตึงๆ


“เด็กดีๆ”การกระทำนั่นทำให้ผมยิ้มกว้างก่อนจะลงมือกินมื้อเช้าของตัวเองบ้าง


“ใครเด็ก?”ตินหันมามองตาขวาง


“อ้อ...ลืมไปว่าแก่แล้ว”


“แพน”


“อะไรครับ”


“ถ้าฉันแก่นายก็ทวดล่ะ”เพียงแค่ได้ยินคำพูดนั่นผมก็หันควับไปมองอย่างเคืองๆทันที พวกเราจ้องตากันอย่างไม่ยอมแพ้สักพักก่อนที่ผมจะยกยิ้มขึ้นเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้


“ผมยอมเป็นทวดก็ได้...ยังไงก็เป็นทวนที่หน้าเด็กกว่าคนแก่แถวนี้ละกัน”คำกวนผมดูจะได้ผมเพราะคนฟังถึงกับคิ้วกระตุก


“เอ่อ...ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับแต่พวกเรามาถึงแล้ว”จิมดูเหมือนจะเกรงใจอยู่พอสมควร ก่อนพูดเขายกมือเป็นเชิงขออนุญาตด้วย


“ถึงแล้วเหรอ...ว้าว”ดวงตาสีเขียวอ่อนของผมถึงกับเบิกกว้างเมื่อมองออกไปนอกกระจกรถ วิวสองข้างทางที่เต็มไปด้วยบ้านและตึกติดๆกันเปลี่ยนเป็นต้นไม้สีเขียวขจีทั้งสองข้างทางแถมไม่ใช่แค่ต้นหรือสองต้น ถนนเส้นยาวนี้มีต้นไม้สีเขียวประดับไปตลอดทาง



(มีต่อค่)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)



รถยนต์คันสีดำสนิทแล่นผ่านถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้แล้วชะลอลงเมื่อถึงจุดจ่ายเงิน สิ่งที่ผมสนใจไม่ใช่ที่จ่ายเงินแต่เป็นวิวไกลที่มองเห็นต้นไม้นานาพันธ์อยู่เต็มไปหมด


“สุดยอดเลย...เร็วๆสิ ผมอยากลงไปแล้ว”ผมหันไปเร่งตินขณะที่สายตายังคงมองไปตามทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม


“ฉันไม่ใช่คนขับรถ”


“กาย...จอดเลยได้ไหมผมอยากลงไป”ผมเลิกสนใจตินที่ไม่ช่วยอะไรแล้วหันไปขอกายซึ่งเป็นคนขับรถแทน


“เดี๋ยวจะถึงที่จอดแล้ว...รอสักพักนะครับ”กายตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มบางๆ


“ได้ๆ”ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นไปหมดแล้ว


อยากลงไป


อยากไปอยู่ท่ามกลางต้นไม้เหล่านั้น


ทันทีที่รถจอดสนิทผมก็ไม่สนใจอะไรรีบเปิดประตูลงแล้ววิ่งตรงไปยังทางเข้าที่เป็นซุ้มไม้เลื้อยสีเขียวสดสลับกับไม้เลื้อยที่ออกดอกบานสะพรั่งหลากสีสัน กลิ่นหอมอ่อนๆตามธรรมชาติที่แสนคิดถึงทำให้ผมสูดกลิ่นหอมๆนี่เข้าจนเต็มปอด


“รู้สึกดีจัง”ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ


“แพน!”เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นพร้อมกับร่างของตินที่วิ่งตามมาด้วยใบหน้าไม่พอใจนัก


“ติน...ดูสิ ต้นไม้พวกนี้ออกดอกเต็มเลย สวยสุดๆ”ผมวิ่งกลับไปหาตินก่อนจะดึงให้มาดูดอกไม้ที่ประดับอยู่ตามซุ้มยาวไปจนสุดสายตาด้วยความชื่นชม


“ฉันรู้แล้ว...คราวหน้าอย่าวิ่งออกมาแบบนี้นะ ถ้าหลงขึ้นมาจะทำยัง”


“ผมไม่หลงหรอกน่ะ...คงไม่ลืมนะว่าผมเป็นใคร”


“เทพแห่งกานกิน”ตินพึมพำเสียงเบา


“ไม่ใช่สักหน่อย...ว่าแต่กายกับจิมล่ะ”ผมถามต่อเมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะตามมา


“ให้ไปพักน่ะ”


“แปลว่าเราจะเดินกันแค่สองคนสินะ”


“ไม่ชอบ?”


“เปล่า...ดีแล้วเพราะผมอยากจะคุยกับพวกต้นไม้ด้วย...ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยคงคิดว่าผมเป็นคนบ้าแน่”พูดจบผมก็หันไปมองทางเดินที่มีดอกไม้และไม้เลื้อนปกคลุมไปถึงสุดสายตาด้วยรอยยิ้มก่อนจะวิ่งไปตามนั้นโดยไม่สนเสียงที่ดังตามมา


“อย่าวิ่งแพน...เดี๋ยวได้สะดุดหรอก”


ผ่านซุ้มดอกไม้มาสิ่งแรกที่เห็นคือสวนขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีป้ายติดว่าสวนยุโรป สวนแห่งนี้ถูกจัดแต่งราวกับเข้าวงกดในหนังสักเรื่องพอเดินเข้าไปก็กลัวว่าจะออกมาได้เหมือนกัน อาจเพราะกลัวว่าจะมีคนหลงเลยมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดทาง


ต่อมาคือสวนที่มีต้นไม้ถูกตัดแต่งเป็นรูปร่างหลากหลายอย่างรูปเลขาคณิตหรือรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ถัดออกไปไม่ไกลก็มีสวนลอยน้ำขนาดใหญ่อยู่ ภายในสวยลอยน้ำนี้ล้วนแต่เป็นพืชที่ปลูกในน้ำโดยเฉพาะ...ดอกบัวต่างเฉดสีออกดอกบานอยู่เต็มบ่อเป็นหย่อมๆราวกับถูกจัดวางไว้


ที่ต่อมาก็คือสวนกล้วยไม้ที่อยู่ในห้องเพาะพันธ์เฉพาะ ด้วยจำนวนของสายพันธ์ที่เยอะมากทำให้ดอกรวงใหญ่นั่นมีสีแตกต่างกันไปหมด เรียกว่าแค่เข้ามาก็ต้องหันซ้ายทีขวาทีเพราะทุกอย่างช่างน่าสนใจไม่หมด


“สุดยอด...พวกคุณสวยมากๆเลย”


‘ขอบคุณที่ชม’เสียงตะโกนของผมเหมือนจะได้รับเสียงตอบรับจากเหล่ากล้วยไม้ทุกต้นกลับมา


“ว้าว...ดอกสีเขียวแซมม่วงของเธอดูไม่เหมือนใครดีจัง”ผมเข้าไปใกล้กล้วยไม้ที่ออกดอกสีเขียวแซมม่วงด้วยความสนใจ


‘พวกเราถูกผสมข้ามสายพันธ์น่ะ’


“ผสมข้ามสายพันธ์?”


‘คุณได้ยินที่เราพูดเหรอ...อ๊ะ...จะว่าไปคุณไม่ใช่มนุษย์นี่’ดูเหมือนกล้วยไม้ต้นนี้จะรู้แล้วว่าผมเป็นใคร


“ใช่เลย”


‘คุณดูแตกต่างจากท่านเกบเลย’


“เกบ?...หมายถึงเทพที่สถิตตอยู่นี่ที่งั้นเหรอ?”ผมถามกลับด้วยความสนใจ


‘ใช่...ท่านเป็นผู้มีความเมตตาคอยดูแลพวกเราอยู่เสมอ’


“ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะ”ไม่แปลกที่สถานนี่นี้จะมีเทพสถิตอยู่เพราะถ้าไม่มีสิแปลก


การที่มนุษย์จะสามารถทำให้พืชพรรณและเหล่าดอกไม่เจริญเติบโตได้ขนาดนี้มันไม่ง่ายเลย


อยากเจอเหมือนกันแฮะ


ปกติผมไม่ค่อยได้เจอเทพองค์อื่นนัก เทพอย่างพวกเรามักจะอยู่ในสถานที่ที่ตัวเองชอบแน่นอนว่าแต่ละองค์ล้วนไม่เหมือนกันอย่างผมก็ชอบสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เสียงนกและน้ำตก แต่ก็มีเทพหลายองค์ที่ชอบเสียงรื่นเริงเลยมักจะเข้ามาร่วมงานเทศกาลของมนุษย์อยู่บ่อยๆ


พอเดินสวนกล้วยไม้จนทั่วผมก็เดินกลับออกมาเพาะทางเข้าออกมีแค่ทางเดียว ผมมองซ้ายขวาสักพักก็เห็นตินที่นั่งพักอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสภาพเหงื่อโชก


นี่ผมสนุกจนลืมตินไปเลย


“ติน...ไหวไหม”ผมวิ่งเข้าไปถามตินที่นั่งเอนหลังพิงเก้าอีกไม้อยู่


“ไม่พักหน่อยล่ะแพน”


“ผมยังไม่เหนื่อยเลยนะ”


“นายเดินมา3ชั่วโมงแล้วนะ...ไม่เหนื่อยเลยรึไง”


“ไม่นี่...ปกติผมเดินเล่นรอบภูเขาอยู่บ่อยๆ นี่มีแค่ทางราบไม่เหนื่อยอยู่แล้ว...ตินร้อนเหรอ”ผมถามเพราะเห็นอีกฝ่ายเหงื่อออกมาก


“นิดหน่อย...นะ...”มือของผมที่เอื้อมไปเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาทำให้ตินชะงักไป ทั้งที่คิดว่าจะถูกบ่นแต่อีกฝ่ายกับนั่งนิ่งๆให้ผมเช็ดเหงื่อนั่นตามใจ
“ไม่ไหวก็อย่างฝืนนะ...อ๊ะ...ใส่หมวกไว้สิ”พูดจบผมก็หยิบหมวกที่เอามาด้วยใส่ให้ติน


“ขอบคุณ...นายก็สวมฮู้ดด้วยสิ หัวโดดแดดตรงๆแบบนั้นเดี๋ยวจะไปสบายเอา”ตินพูดเสร็จก็ดึงแขนผมให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเดียวกันก่อนจะยกฮูดขึ้นมาคลุมหัวให้


“คิก...พ่อคนขี้เป็นห่วง”ก็บอกอยู่ว่าไม่เป็นไรก็ยังจะห่วงอีก


ถึงจะแบบนั้นแต่ผมก็ดีใจที่ถูกเป็นห่วง


“เป็นห่วงอยู่คนเดียวแหละ”ดวงตาสีฟ้าสดทอประกายอย่างสื่อความนัยบางอย่างระหว่างที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา


“ติน...”


“จะเดินต่อไหม”


“อืม...อยากเดินให้ทั่ว...จะว่าไปที่นี่ไม่เห็นมีคนมาเลยแฮะทั้งที่ออกจะสวยแท้ๆ”ผมพึมพำโดยที่มองไปรอบๆ ตั้งแต่ที่เข้ามาผมก็ยังไม่เห็นมนุษย์สักคนเลย


“ถ้าวันอื่นคนคงจะเยอะแหละ”


“หมายความว่ายังไง”จะบอกว่าที่ไม่มีคนแค่วันนี้เหรอ


“วันนี้ฉันจองทั้งสวนไว้”


“ฮะ?”ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยิน


จองทั้งสวน


ทั้งสวนเนี่ยนะ


“ไม่ต้องทำหน้างง...ฉันแค่อยากให้นายได้คุยกับเพื่อนใหม่สบายๆ”


“ถึงแบบนั้นมันก็ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย...หมดเงินไปเท่าไหร่กัน”ยังไงก็คงไม่ใช่จำนวนน้อยๆแน่ สวนใหญ่และสวยขนาดนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวแต่ละวันคงไม่น้อย


การที่จะจองแปลว่าต้องให้เงินในจำนวนที่มากกว่ายอดขายของวันที่ทำได้


“ก็ไม่เท่าไหร่”ตินไม่ยอมบอกตัวเลขตามจริงมา


ถ้าเขาบอกผมอาจจะหมดแรงเดินก็ได้


“ในเมื่อจองไว้ผมก็จะเดินให้ทั่วเลย”จะให้คุ้มกับเงินที่ตินเสียไป


“ไม่ต้องฝืนแพน”


“ผมไม่ได้ฝืน...อ๊ะ...”สัมผัสของสายลมที่ก่อตัวขึ้นรอบๆทำให้ผมหันไปมองบริเวณนั้นด้วยความสงสัย


สัมผัสแบบนี้มัน...


หรือว่า...


“แพน...มีอะไร?”ตินดูจะรู้สึกถึงความผิดปกติเลยถามออกมา


“อืม...แป๊บนะติน”ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก้าวไปหาสายลมที่พัดหมุนเป็นวงกลมตรงหน้า


ไม่นานสายลมนั่นก็สลายไปพร้อมกับร่างของชายหนุ่มในชุดแปลกตาที่ปรากฏตัวขึ้น ผิวสีแทนกับโครงหน้าอันหล่อเหลาบวกกันเส้นผมสีดำซอยสั้นและดวงตาเรียวคมสีเงินที่หรี่ลงเล็กน้อยเมื่อมองมายังผม ชายตรงหน้าดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน


‘เจ้าเองก็เป็นเทพเหมือนข้าสินะ’เสียงทุ้มของเทพตรงหน้าเอ่ยถามพลางนั่งขัดสมาธิบนอากาศ


“ใช่...ท่านคือเกบสินะ”ชื่อของเทพที่ต้นกล้วยไม้บอกผุดขึ้นมาทันที


‘แล้วท่านคือใครกัน’


“เรียกแพนก็ได้”ผมไม่ได้ถือตัวให้ต้องเรียกว่าท่านหรอก


‘แพนงั้นเหรอ...เจ้ามาทำอะไรที่นี่ละ...หรือว่าอยากมาอยู่กับข้าที่นี่’เทพเกบพูดพร้อมรอยยิ้มที่ถ้าเป็นมนุษย์ที่เห็นคงจะอ่อนระทวยไปตามๆกันเป็นแน่


แต่รอยยิ้มนั้นใช้ไม่ได้กับผมหรอก


“เปล่า...ผมแค่มาเที่ยวเท่านั้น”


‘จะว่าไป...เจ้านี่น่ารักดีนะ’เทพเกบพูดพลางลอยมาสำรวจผมโดยการลอยวนรอบๆตัวผม


“ใครน่ารักกัน!”ผมถึงกับขึ้นเสียงเมื่อได้ยินคำที่ไม่ชอบที่สุด


นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่ถูกบอกว่าน่ารัก


รู้แค่ว่ามันมากจนไม่คิดจะจำหรอก


‘โอ๊ะ...อย่าโกรธสิ’


“ไม่ได้โกรธ...ผมแค่ไม่ชอบให้ใครมาชมว่าน่ารัก...”


“แพน...สรุปเกิดอะไรขึ้น”ตินที่นั่งอยู่ลุกตามมาพร้อมกับคิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดเข้ากันแน่น


‘มนุษย์?...จะว่าไปเจ้าอยู่ในร่างมนุษย์นี่...แบบนี้ไม่ดีนะ เทพอย่างเราไม่ควรปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นแบบนี้’


“เขาไม่เหมือนมนุษย์คนอื่น”ผมตอบกลับไป


‘ฮืม?...อ๊ะ...อย่าบอกนะว่าเจ้าแบ่งพลังให้มนุษย์นี่’ดวงตาสีเงินถึงกับเบิกกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของเทพในตัวมนุษย์อย่างติน
“ตามที่ท่านเข้าใจ...ติน...คุณมองเห็นคนที่ลอยอยู่นี่ไหม”ผมหันกลับไปถามตินที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ด้านข้าง


“คน?...ลอยอยู่?...ไม่เห็นมีอะไรเลย”ตินเพ่งมองยังบริเวณที่ถูกบอกสักพักก่อนจะตอบกลับมา


แปลว่ามองไม่เห็นสินะ


น่าแปลกที่ตินมองเห็นผมได้แต่กลับมองไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เหล่าพืชพรรณพูดหรือแม้แต่เทพอีกองค์ที่อยู่ตรงหน้า จะพูดว่าตินไม่เชื่อก็คงได้แต่ถ้าไม่เชื่อก็คงมองไม่เห็นผมเหมือนกัน


สิ่งเดียวที่คิดได้คือเขาเชื่อแค่ผมมีตัวตนแต่กลับสิ่งอื่นเขาอาจไม่เชื่อ


‘มนุษย์นี่มองเห็นเจ้าแต่มองไม่เห็นข้างั้นสิ’เทพที่ดูเหตุการณ์อยู่สรุปเสียงเรียบ


“แพน...สรุปเกิดอะไรขึ้น”


“ตรงหน้าผมมีเทพที่สถิตอยู่ที่นี่มาทักทายน่ะเลยคุยกันอยู่”ผมบอกตินไปตามตรง


‘เจ้านี่แปลกนะ...พึ่งเคยเจอเทพที่อยู่เหมือนมนุษย์แบบนี้ ข้าไม่กวนเวลาเจ้าแล้ว...เชิญชมสวนที่ข้าคอยดูแลนี้ตามใจเลย และถ้าวันหนึ่งมนุษย์นั่นหมดอายุไขเจ้าจะมาอยู่กับข้าก็ได้นะ’เทพเกบบอกพร้อมส่งยิ้มมาให้


“ขอบคุณสำหรับคำชวน...แต่ผมคงไม่อาจอยู่ที่นี่ได้”ต่อให้ตินจะจากไปแล้วผมก็คงไม่อาจอยู่กับเขาได้หรอก


‘เจ้านี่ดื้อใช่เล่นนะ...เอาเถอะ...ข้าขอตัว’พูดจบร่างของเทพเกบก็หายไปอย่างรวดเร็ว


“แพน”ตินคว้าแขนผมก่อนจะดึงให้ร่างผมหันไปเผชิญหน้ากับเขา


“อะไร”


“คุยอะไรกัน”ตินถามเสียงเข้ม


“เขาชวนให้ผมมาอยู่ด้วย...”


“ว่าไงนะ...แล้วตอบไปว่ายังไง”


“คุณก็ได้ยินแล้วนี่ว่าผมปฏิเสธน่ะ”สิ่งที่ผมพูดยังไงตินก็ได้ยินอยู่แล้ว


ไม่เข้าใจว่าจะร้อนรนทำไมขนาดนี้


“...กลับกัน”อยู่ๆตินก็ลากผมไปตามเส้นทางที่เดินผ่านมา


“เดี๋ยวสิ...ทำไมล่ะ”ผมยังดูไม่หมดเลยนะ


“ถ้าอยู่แล้วหมอนั่นมาชวนนายอีกจะทำยังไง”


“ผมไม่ไปหรอกน่า”


“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับนาย ยิ่งกับสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่”ทั้งคำพูดและน้ำเสียงของตินแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ


“ติน...”


หมับ


มือที่ถูกจับอยู่ถูกอีกฝ่ายออกแรงดึงจนร่างผมเซเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนที่อ้ารอรับไว้ แขนที่กอดผมอยู่รัดแน่นขึ้นพร้อมกับตินที่ซุกหน้าลงแถวคอผม


“นายเป็นของฉัน”


“ติน...นี่อย่าบอกนะว่า...หึงผมเหรอ”ก็รู้ว่ามันไม่มีทางใช่แต่การกระทำของตินมาเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว


ขอร้องล่ะติน...


บอกออกมาว่าไม่ใช่ที


เพราะถ้าตินไม่ปฏิเสธผมก็คง...


“อืม...ฉันหึงนาย”


“...ติน”ผมเรียกพร้อมขย้ำเสื้ออีกฝ่ายแน่น ทั้งที่ผมควรจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องขำแล้วเปลี่ยนเรื่องไปเหมือนอย่างทุกทีแต่ผมกลับทำได้เพียงก้มหน้าลงชิดกับแผ่นอกนั่นเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงและหัวใจที่เต้นรัวขึ้นเท่านั้น


แบบนี้มันแย่จริงๆแล้ว


ใครก็ได้ช่วยหยุดมันที...


ความรู้สึกนี้น่ะ


ช่วยหยุดมันทีเถอะ

.........................................................................................

สวัสดีค่ะ มาอัพต่อแล้วนะคะ

กว่าจะแต่งได้จบแต่ละตอนนี้ใช้เวลานานกว่าที่คิดอีก

อย่างที่เราบอกไปตอนที่แล้วว่าช่วงนี้เรากำลังอยู่ในช่วงออกสหกิจหรือฝึกงานเราจึงไม่มีเวลาแต่งเหมือนเมื่อก่อน

แต่เราจะไม่ให้เกิน2อาทิตย์ต่อตอนแน่นอนค่ะ

อดใจรอกันหน่อยเนอะะะ

เรื่องนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว

หวังว่าทุกคนจะติดตามกันต่อจนจบนะคะ

อีกเรื่องคือวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดพรีนิยายที่เราแต่งจบไปเรื่องJurassic Confidant คู่หู กลายพันธุ์รัก หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ทางเพจเราน้าา

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ mxb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ท่านเทพซื่อของเราจะทำยังไงต่อ อย่ามาทำแบ๊วน้า
ใจตรงกันแล้วที่เหลือก็รอให้รถอ้อยคว่ำใส่คนอ่านเสียที~ 55555555
/ตัดฉึบตรงนี้ เหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองโดนตัดไปด้วยเลย :hao5:

ปล. ท่านเกบขา เราขออาสาไปอยู่เองค่ะ'-'

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ขยันสกิลชิปจังเลยสองคนนี้อะ
แกล้งกันไปแกล้งกันมา เขินกันไปเขินกันมา เหม็นความรักกก 55555

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนคบกันจริงๆ ยังเปย์ขนาดนี้
แพน ตกลงแต่งงานเลยดีกว่า  :katai2-1:

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ต่างคนต่างหวั่นไหว

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ตินแสดงออกเยอะมากกก
หึงด้วยย หวงด้วย เนียนขอแต่งงานไปอีกก
แพนจะทำไงละเนี่ยย

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
หวั่นไหวกันทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มีความเขินอายเกิดขึ้น อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด