(ต่อนะคะ)
แม้จะทั้งบ่นและสาปแช่งอีกฝ่ายยังไงผมก็ทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จในเวลาไม่นาน ไม้เลื้อยที่โตเพราะพลังผมถูกเอาไปปลูกในกระถางตรงระเบียงเช่นด้วยกับเมล็ดอื่นๆที่ถูกหว่านลงดิน
การเซอร์ไพรส์วันเกิดเหมือนจะผ่านไปด้วยดี
“โอ๊ะ...งานเลี้ยง”อยู่ๆผมก็นึกขึ้นมาได้ว่านัดกับกายและจิมว่าจะจัดงานเลี้ยงให้ตินนี่นะ
แย่ล่ะ แบบนี้จะจัดทันไหม
ปกติตินใช้เวลาอาบน้ำประมาณ20นาทีรวมแต่งตัวก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
น่าจะทัน
ผมรีบออกจากห้องไปเคาะประตูที่อยู่ข้างๆซึ่งก็คือห้องของกายและจิมทันที
“คุณแพน”คนที่เปิดประตูออกมาคือจิมที่อยู่ในชุดลำลอง
“เมื่อคืนเซอร์ไพรส์เป็นไงครับ?”กายที่เดินตามออกมาเอ่ยถาม
“อ้อ...เรื่องนั้นสำเร็จด้วยดี”
“ดูคุณแพนสีหน้าสดใสขึ้นนะครับ”จิมออกความเห็นเมื่อมองหน้าผม
“งั้นเหรอ”อาจเพราะเรื่องที่เครียดที่สุดหายไปแล้วก็ได้
“แปลว่าปัญญาที่มี...แก้ได้แล้วสินะ”
“จะว่าแก้ได้ก็ใช่อยู่”ความจริงต้องเรียกว่ามันไม่มีปัญหามาแต่แรกแล้ว ที่คิดมากไปก็คือผมและติน
“แล้วมีธุระอะไรครับ?”กายถามต่อ
“เราจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดติน เดี๋ยวนี้เลย”ผมบอกธุระที่มาหาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ไม่ได้จะจัดตอนเย็นเหรอครับ”จิมถาม
“ไม่ๆ...จัดตอนนี้เลยดีกว่า”
“แต่เรายังไม่ได้เตรียมอาหาร...”
“สั่งข้างล่างขึ้นมาเลย เมื่อวานเราซื้อเค้กไว้ในตู้แล้ว ที่เหลือก็แค่จัดเท่านั้น”
“จัดตอนนี้คุณตินก็รู้หมดสิครับ”
“ผมจะกันตินไม่ให้ออกมาเอง...เพราะงั้นทั้งสองคนช่วยจัดอาหารทีนะ”
“เวลามันจะไม่ทันสิครับ”
“ผมจะพยายามถ่วงเวลาไว้เอง...ถ้าจัดเสร็จแล้วก็เคาะประตูห้องนอน2ครั้งนะ”
“เฮ้อ...เข้าใจแล้วครับ พวกเราจะรีบจัดการให้”กายถอดหายใจก่อนจะหันไปมองหน้าจิมที่พยักหน้าส่งมาให้
“ขอบคุณมากนะ...งั้นผมไปก่อนล่ะ”พูดจบผมก็รีบวิ่งกลับห้องก่อนจะเข้าไปรอตินในห้องนอน
เสียงน้ำไหลที่ดังออกมาจากห้องน้ำทำให้ผมถอนหายใจที่ดูเหมือนตินจะยังอาบไม่เสร็จ ถ้านานแบบนี้เป็นไปได้ว่าคงจะแช่น้ำด้วย
ถือว่าโชคเข้าข้างผมล่ะ
ที่ไม่จัดงานช่วงเย็นเพราะคิดว่ามันจะไม่เซอร์ไพรส์...เมื่อคืนผมบอกไปแล้วแปลว่าตินต้องจำได้แน่ว่าวันนี้คือวันเกิด ถ้ามัวรอจัดงานตอนเย็นก็หมดสนุกกันพอดี
แกร็ก!
เสียงประตูห้องแต่งตัวด้านข้างที่ถูกเปิดออกทำเอาผมสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย ตินเดินออกมาในชุดลำรอง เสื้อคอกลมสีเทากับกางเกงสีดำ เส้นผมสีดำสนิมลู่ลงพร้อมหยดน้ำที่หยดลงบนพื้น
“นั่งรอฉันเหรอแพน”ตินถามทันทีที่เห็นผมนั่งเกร็งอยู่บนเตียง
“อืม...ผมทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนะ”บอกเสร็จก็ลุกขึ้นจากเตียงคว้าผ้านวมมาสะบัดให้อีกฝ่ายดูว่าไม่มีเศษอะไรหลงเหลือแล้ว
“ดี”
“ให้ผมเช็ดให้ไหม”
“เช็ดอะไร...”
“เช็ดผมไง”ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปดึงผ้าขนหนูในมือตินแล้วเริ่มเช็ดผมให้ทั้งๆที่ตินยืนอยู่
“แปลกๆนะ”
“...พูดอะไรน่ะ”ทำไมเซ้นส์ดีขนาดนี้นะ
“เอาเถอะ...ไปเช็ดที่ห้องรับแขกก็ละกัน”
“เดี๋ยว”ผมร้องห้ามเสียงสูงเมื่อตินเดินตรงไปยังประตู
“อะไร”ดวงตาที่หันมาสบราวกับกำลังสงสัยในการกระทำของผม
“ในห้องก็มีทั้งโซฟาทั้งโทรทัศน์ นั่งในห้องก็ได้”พูดจบผมก็คว้ามือตินลากมานั่งบนโซฟาริมห้องก่อนจะลงมือเช็ดผมให้ต่อ
“...คิดจะทำอะไร”เงียบไปสักพักตินก็ถามขึ้น
“พูดถึงเรื่องอะไร”ผมพยายามตีหน้าซื่อ
“ถ้าคิดว่าฉันจะมองข้ามพฤติกรรมแปลกๆนั่นก็คิดผิดแล้ว”
“...เปล่านี่”
“วันนี้...วันเกิดฉัน”
“อึก...”มือกำลังเช็ดผมตินถึงกับเผลอกำแน่นขึ้นเมื่อได้ยินคำว่าวันเกิด
“จะจัดงานเลี้ยงล่ะสิ”
“...ทำไมถึงรู้”
“หึ...เดาถูกด้วย”
“แปลว่าคุณไม่รู้”นี่ผมโดนหลอกให้พูดออกมางั้นเหรอ
ให้ตายสิ
ทำไมถึงได้หลงกลง่ายๆแบบนี้กันนะ
“ถ้ารู้ฉันจะถามทำไมล่ะ...โดนหลอกง่ายไปแล้วแพน”
“ก็ใครจะรู้เล่า”ผมบ่นงึมงำกลับไป
“เอาน่า...ฉันจะทำเป็นไม่รู้รอจนกว่านายจะเช็ดผมเสร็จก็ละกัน”คำพูดของตินทำให้ผมค่อยๆยิ้มกว้างออกมา
“ขอบคุณนะ”ถึงจะแกล้งไม่รู้แต่ก็ทำให้กายและจิมมีเวลาจัดของเพิ่มขึ้น
ก๊อก ก๊อก
ไม่นานสัญญาณเคาะประตู2ครั้งก็ดังขึ้น ตินที่ได้ยินก็หันไปมองบานประตูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาผมที่ส่งยิ้มไปให้ขณะเช็ดผมสีดำจนแห้งสนิท
“เสร็จแล้วสินะ”
“ใช่...ผมแห้งแล้ว”ผมบอกพลางเดินไปตากผ้าขนหนูบนราว
“ฉันว่ามันแห้งตั้งนานแล้วนะ...กำลังคิดอยู่เลยว่าถ้ายังเช็ดนานกว่านี้ไฟคงลุก”
“ไม่ลุกหรอก”ผมเถียงกลับ แค่เช็ดผมไฟมันจะลุกได้ยังไง
“ฉันออกไปได้แล้ว?”
“อืม...ไปกัน”ผมบอกแล้วกวักมือเรียกตินให้เดินมา
“ตื่นเต้นเหมือนวันเกิดตัวเองเลยนะแพน”ตินพูดระหว่างที่เดินมา
“วันเกิดแฟนทั้งทีก็ต้องตื่นเต้นสิ”
“พึ่งเป็นแฟนมาไม่ถึงชั่วโมงเนี่ยนะ”
“แต่ผมรักตินมาเป็นเดือนแล้วเหอะ...อุ๊บ...”ผมรีบยกมือปิดปากตัวเองเพราะเผลอหลุดเรื่องหน้าอายออกไปอีกแล้ว
“หึ...ฉันก็รักนายมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนจะเชิดหน้าผมขึ้นเพื่อรับริมฝีปากที่ประกบลงมาอย่างอ่อนโยน
“อื้ออ~...”ผมครางพร้อมกับเม้มปากแน่น
“เม้มปากแบบนั้นก็จูบไม่ได้น่ะสิ”
“ก็เพราะไม่อยากให้จูบเลยต้องเม้มปากไง ออกไปได้แล้ว”ผมบ่นด้วยใบหน้าที่เห่อแดงขึ้นเล็กน้อย
“ไว้คืนนี้ค่อยมาต่อเนอะ”ตินบอกพร้อมกับเปิดประตูออก
“ใครจะต่อกัน”
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณติน!”เสียงของบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างกายและจิมดังขึ้นพร้อมกันทันทีที่ตินเปิดประตูออก
โต๊ะอาหารโต๊ะใหญ่ถูกยกมาจากข้างห้องครัวโดยที่บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจากหลายชาติทั้งซูชิ พิซซ่า สเต็กหรือพวกสลัดต่างๆ กลางโต๊ะเองก็มีเค้กวันเกิดก้อนใหญ่วางอยู่
“ขอบคุณกาย จิม”ตินเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยิ้มออกมา
“คุณแพนเป็นคนเสนองานนี้เลยนะครับ”จิมบอกแล้วหันมามองผมด้วยรอยยิ้ม
“ก็เดาไว้อยู่”
“แปลว่ารู้อยู่แล้วเหรอครับ?”จิมถามต่อ
“เล่นให้คนที่มีพิรุธขนาดนี้มาคอยถ่วงเวลา ความไม่แตกก็แปลกล่ะ”
“...ว่าแล้วเชียวว่าความต้องแตก”จิมหันไปกระซิบกายเสียงเบา
“นั่นสิ”
“ที่แตกเพราะตินมาหลอกให้ผมพูดนั่นแหละ”ผมไม่ยอมหรอกนะเรื่องนี้
“ต่อให้ฉันไม่ทำอย่างงั้นฉันก็รู้อยู่ดี...คนที่รอกินมื้อเช้าอยู่ทุกวันกลับไม่ยอมพูดถึงอาหารเลยตั้งแต่ตื่น”ตินหันมาอธิบาย
“...มันก็อาจมีช่วงเวลาที่ไม่หิวบ้างแหละน่า”ผมตอบกลับไปเสียงอ่อย
“หึ...ฉันไม่คิดว่านายจะมีหรอกนะ”
“พูดงี้หาเรื่องกันชัดๆ มาดวลกันเลยมา”ผมหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาท้าทาย
โดนพูดขนาดนี้ใครจะยอมอยู่เฉยกัน
“ดวลด้วยอะไรล่ะ?”
“ใครกินมากกว่าชนะ”
“คิก...”จิมที่ได้ยินถึงกับรีบปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะดังมากออกมา กายเองก็หันไปตบไหล่เพื่อนสนิทตัวเองด้วยใบหน้าแดงๆราวกับกำลังกลั้นขำอยู่
“ชนะฉันด้วยการกินดูจะเป็นชัยชนะที่มีความสุขเนอะ”
“ติน...นี่คือคำที่คุณพูดกับแฟนงั้นเหรอ”เป็นแฟนกันมาต้องให้อารมณ์แบบไม่เป็นไรผมยอม
ไม่ใช่แบบนี้สิ
“ใช่”ตินพยักหน้าแทนคำตอบ
“ผมขอเลิกกับคุณ”ผมประกาศลั่น
“เสียใจ...ฉันไม่อนุมัติ”
“...”คำพูดของตินทำให้ผมถึงกับอ้าปากค้าง
คำพูดผมนะครับไม่ใช่เอกสารที่ต้องมีให้เซ็นอนุมัติ
“เลิกเล่นแล้วเริ่มงานได้แล้ว”ตินเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินไปมองอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ
“...ตินนะติน...จิมขอไฟแช็ค”ผมแบมือไปขอจิมที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“คุณแพนไม่ควรสูบบุหรี่นะครับมันไม่ดีต่อสุขภาพ”จิมบอกด้วยสายตาห่วงๆ
“บุหรี่? ผมไม่สูบของบั่นทอนสุขภาพแบบนั้นหรอก...จะเอาไปแกล้งตินน่ะ”
“...ระวังโดนแกล้งคืนนะครับ”แม้จะพูดแบบนั้นแต่จิมก็ยอมส่งไฟแช็คมาให้
ผมเดินถือไฟแช็คพร้อมกับหยิบกล่องใส่เทียนไปยังโต๊ะ เค้กก้อนใหญ่ถูกผมปักเทียนลงไปจนหมดกล่องก่อนจะจุดไฟท่ามกลางสีหน้างงๆของทั้ง3คน
“ติน...เป่าเทียนเลย”
“...ทำอะไรเป็นเด็ก”
“แล้ว...จะไม่เป่าเหรอ?”ผมถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆจนตินที่มองมาถึงกับถอนกายในแล้วก้มลงเป่าเทียนจนหมดทุกเล่ม
“พอใจรึยัง”
“อืม...สุขสันต์วันเกิดครบรอบ60ปีนะคุณปู่!!”ผมตะโกนเสียงดังก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างไม่อายใคร
โดนแกล้งมาก็ขอแกล้งกลับหน่อยละกัน
“ถ้าฉันปู่นายก็ทวดของทวดของทวดของทวดแล้ว”ตินสวนกลับด้วยน้ำเสียงเคืองๆบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างแรงที่ถูกบอกว่าเป็นปู่
“ไม่เป็นไร ยังไงหน้าก็เด็ก”พูดจบผมก็เอียงคอส่งยิ้มหวานไปให้
ผมไม่โกรธเพราะมาเรียกผมแบบนั้นหรอกนะ
ยังไงหน้าก็เด็กอยู่ดี
“...ชิ”สุดท้ายตินก็ยอมแพ้แล้วเลิกสนใจผมที่ส่งสายตาแห่งชัยชนะไปให้
งานเลี้ยงในช่วงเที่ยงมียาวถึงช่วงค่ำของวันเลยทีเดียว ก่อนที่กายและจิมจะกลับห้องก็ยกกล่องของขวัญ4กล่องมาวางไว้บนโต๊ะหน้าโซฟากำมะหยี่ที่มีผมกับตินนั่งอยู่
“นี่เป็นของขวัญของคุณหญิง คุณชายกับคุณคินแล้วก็ของพวกเรา2คนครับ”กายอธิบาย
“อืม...ขอบคุณมาก”
“ครับ...ถ้างั้นเราขอตัวก่อนนะครับ ไปนะครับคุณแพน”
“ขอบคุณที่มาช่วยนะกายจิม ไว้เจอกัน”ผมโบกมือลาทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม
พอกายและจิมกลับไปทั้งห้องก็เหลือผมกับตินอยู่สองคน บรรยากาศเงียบๆไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ตินก่อนจะเอียงหัวซบไหล่อีกฝ่ายที่ดูโทรทัศน์รายการข่าวอยู่
“วันเกิดเป็นไงบ้าง?”ผมถามคนด้านข้าง
“ก็ดีกว่าที่คิด”
“เห็นจิมบอกว่าคุณไม่ชอบให้จัดงานวันเกิดนี่”
“ใช่...เมื่อก่อนแม่ชอบจัดงานวันเกิดให้แล้วก็ชวนพวกนักธุรกิจมา มันน่ารำคาญจนไม่อยากยุ่งกับใคร...”
“ก็เลยทำหน้าตึงตลอกงานล่ะสิ”ผมพูดต่อให้
“...จิมบอกสินะ”
“อืม แต่งานวันเกิดนี้มีแค่4คน...คงไม่วุ่นวายหรอก”ด้วยจำนวนแค่นี้ยังรู้สึกเหมือนน้อยไปสักหน่อยด้วย
“แค่มีนายก็วุ่นเท่ากับคนสัก100คนได้”
“ไม่จริงสักหน่อย”ผมค้านเสียงดัง
แค่ผมคนเดียวจะวุ่นเท่ากับร้อยคนได้ยังไง
“จริง”ตินย้ำอีกรอบ
“แปลว่าตินไม่ชอบที่ผมวุ่นวายแบบนี้ใช่ไหม”ผมถามเสียงหง๋อย
“อืม...ไม่ชอบ...”
“แต่รักเลย”
“...”ประโยคต่อมาที่ดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีฟ้าสดที่หันมาสบทำเอาผมต้องเม้มปากแน่นเพื่อข่มความรู้สึกเขินอายที่เกิดขึ้น
ทำไมต้องเขินนะตัวผม
“แค่นายคนเดียวที่ถึงจะวุ่นวายยังไงฉันก็ยังรัก”
“แน่ใจนะ...ห้ามนอกใจด้วย”
“ฉันต้องพูดไหมไอ้ที่ว่าห้ามนอกใจน่ะ”ตินย้อนพลางหันมามองหน้าผม
“ผมก็ไม่เคยนอกใจสักหน่อย”
“อย่าคิดว่าจะลืมเจ้าของร้านไอศกรีมนั่นนะ”
“บอกแล้วไงว่าเขาไม่ได้จีบสักหน่อย”แถมผมเองก็ไม่ได้ชอบเขาด้วย
“แล้วถ้ามีคนจีบขึ้นมาจะทำยังไง?”ตินถามต่อ
“อืม...ต้องดูก่อนว่ามีเงินเลี้ยงผมรึเปล่า...”
“แพน”น้ำเสียงดุที่เรียกชื่อนั้นทำเอาผมถึงกับหลุดขำออกมา
“คิก...ผมล้อเล่นน่า จะบอกไปเลยว่ามีแฟนแล้ว”ผมบอกติบกลับไป
“ดีมาก”
“จะว่าไป...ผมไม่มีของขวัญอะไรให้ตินเลย ขอโทษนะ”ก็ว่าจะไปซื้อแต่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไร
อีกอย่างก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้มอบของขวัญให้ด้วย
“ไม่เป็นไร...ของขวัญจากนายฉันได้รับมาแล้ว”
“หมายถึงอะไร”ผมยังไม่ได้ให้อะไรสักหน่อย
“การที่นายยังอยู่ข้างฉันมันถือเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด”พูดจบริมฝีปากของตินก็ประกบลงมายังริมฝีปากของผมอย่างแนบชิด ความร้อนเพียงแค่สัมผัสเบาๆก็ทำให้ใบหน้าผมแดงขึ้น
ตินไม่หยุดเพียงแค่จูบเบาๆนั่น...เขาเริ่มรุกเข้ามาซึ่งครั้งนี้ผมก็ยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจได้โดยไม่มีการขัดขืนใดๆ
“อื้อออ~...”เสียงครางดังขึ้นพร้อมๆกับสัมผัสที่เริ่มเปลี่ยนไป ความอ่อนโยนเริ่มกลายเป็นความรุนแรงทว่ากลับรู้สึกดีกับสัมผัสนี้อย่างบอกไม่ถูก
ตินรุกล้ำอยู่ไม่นานก็ถอนริมฝีปากออกให้ผมให้หยุดพักหายใจ แต่เพียงไม่กี่วินทีต่อมาริมฝีปากร้อนๆนั่นก็แนบสนิทลงมาอีกครั้ง...
อีกครั้ง...
และอีกครั้ง
.............................................................................
มาอัพแบบหวานขั้นสุดค่ะ
แต่งเองเขินเอง
อยากตะโกนออกมาดังๆเหลือเกินว่า...
"จะหวานเกินไปแล้วนะ!!"
สำหรับตอนนี้เราชอบประโยคที่แพนขอเลิกแต่ตินบอกว่าไม่อนุมัติมากเป็นพิเศษ
อย่างที่เคยบอกว่าว่าเนื้อเรื่องได้ได้วางไว้ให้ดราม่ามากแค่อยากให้มีอรรถรสใหม่ๆเข้ามาบ้างถือเป็นการพัฒนาฝีมือการแต่งของเราไปในตัวด้วยซึ่งคำผิดก็ยังมีมากมาย(เราไม่เก่งภาษาไทยนัก55)
ภูมิใจมากที่แต่งมาได้ถึงตอนนี้
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามกันเสมอด้วยนะคะ
อีกประมาณ2ตอนเรื่องนี้ก็จะจบบริบูรณ์แล้วค่ะ
ติดตามกันจนจบเรื่องด้วยน้า
แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้า
บ๊ายบายค่ะ

nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪