(ต่อนะคะ)
หลังจากนั้นพวกเราก็กลับมายังห้องซึ่งผมเป็นคนขออาบน้ำก่อนแม้ตอนแรกตินจะไม่ยอมด้วยเหตุผลที่ว่าผมชอบอาบนานแต่สุดท้ายตินก็ยอมแพ้ สายน้ำจากฝักบัวไหลลงตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้าโดยที่ผมใช้สบู่ลูบไล้ทั่วร่างจนเกิดฟองสีขาวเต็มไปหมด
ภายในหัวกำลังคิดเรื่องของตินอยู่เต็มไปหมด พอรู้ว่ามันไม่ได้เจ็บมากขนาดที่เซ็นว่าผมก็เกิดความลังเลและสับสนว่าจะทำยังไงต่อไปดี ระหว่างที่คิดก็เอื้อมมือที่เต็มไปด้วยฟองไปยังช่องทางด้านหลัง...เพียงแค่นิดเดียวที่แตะต้องความเจ็บก็แล่นเข้ามาทันที
“เจ็บ...”ผมไม่รู้ว่านอกจากความเจ็บมันจะรู้สึกดีได้ยังไง
ผมยังไม่เห็นตรงไหนเลยว่ามันจะรู้สึกดี
แต่ก็...ไม่อยากให้ตินรอนานกว่านี้
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่กำลังว่าจะเอายังไงกับสิ่งที่คิดอยู่ดี ตินเองก็เดินผ่านผมเข้าไปอาบน้ำต่อ...ก่อนปิดประตูยังมีการยื่นหน้าออกมาบอกให้เช็ดผมให้แห้งก่อนอีก
ทั้งที่ใจดีขนาดนี้ก็ยังไม่รู้ตัวอีกนะติน
เตียงสีน้ำเงินเข้มถูกผมกระโดดขึ้นไปนั่งพร้อมกับดึงผ้าปูขึ้นมาห่อตัวไว้ ส่วนมือก็กำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมสีเขียวเขียวที่เปียกปอนไปมา อากาศภายในห้องค่อนข้างเย็นเพราะเปิดแอร์ไว้
แกร็ก
“วิ่งผ่านน้ำ”ผมหันไปแซวทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู ตินใช้เวลาอาบน้ำยังไม่ถึงครึ่งของผมเลยแค่15-20นาทีก็ถือว่านานแล้วสำหรับติน
“ใครจะนอนเล่นจนตัวเปื่อยอย่างนายกัน”ตินสวนกลับพร้อมกับเอาผ้าขนหนูไปตากไว้ยังราวด้านข้าง
“ไม่ได้เปื่อยสักหน่อย ผิวผมนุ่มจะตาย นี่ไง”เพื่อเป็นการพิสูจน์ผมเลยจัดการชูแขนขึ้นไปให้อีกฝ่ายดูว่ายังไม่เปื่อยอย่างที่ถูกว่า
“อย่าอาบนานไปเดี๋ยวจะป่วยเอา อย่าลืมสิว่าตอนนี้นายเป็นมนุษย์นะ”ตินบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงก่อนจะนั่งลงบนเตียงเดียวกัน
“เข้าใจแล้วน่า...ผมจะอาบให้เร็วขึ้นละกัน”
“ต่อไปฉันจะให้เวลาไม่เกิน1ชั่วโมง”
“ไม่เอานะ...แค่ชั่วโมงเดียวยังถูสบู่ไม่เสร็จเลย”ผมหันไปค้านคำพูดนั่นอย่างรวดเร็ว
“คนปกติเขาถูเสร็จตั้งแต่10นาทีแรกแล้ว”ตินตอบกลับ
“ก็ผมพึ่งเป็นมนุษย์นี่ ขอเวลาปรับตัวหน่อยสิ”อยู่ๆมาให้ลดเวลาลงตั้งครึ่งไม่ไหวหรอกนะแบบนั้น
“ปรับมาจะปีแล้วมั้ง”
“ยังไม่ถึงเหอะ”ผมรีบประท้วง
“หึ...ฉันรู้สึกเหมือนเราอยู่ด้วยกันมานานมาก”อยู่ๆน้ำเสียงกวนๆก็เปลี่ยนไปทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาสีฟ้าสดที่จ้องมา
“นั่นสิ...ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”ไม่คิดว่ากาลเวลาที่มักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วนั้นมันจะเริ่มช้าลงตั้งแต่ที่ได้เจอกับติน
“ง่วงรึยัง?”
“ยัง...จะทำอะไรเหรอ”ผมถามออกไปทั้งๆที่พอรู้คำตอบอยู่แล้ว
“ออกกำลังกายหลังอาหาร”ตินตอบเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้
“จะออกกำลังกายก็ลงไปวิ่งข้างล่างไป...อื้อออ~...”คำพูดกวนๆที่คิดไว้ถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกริมฝีปากของคนด้านบนลงประกบ
เพียงแค่พริบตาจูบอันแผ่วเบาก็แปรเปลี่ยนไปเป็นจูบอันเล่าร้อนและรุนแรงจนแทบจะละลายกลายไปไอไปซะเดี๋ยวนี้เลย ไม่ว่าจะกี่ครั้งผมก็ไม่เคยชินกับความรู้สึกนี้สักที
“อื้ออ...อึก...พอ...”ผมดันตินให้ขยับถอยไปเมื่ออากาศที่มีหมดไป
“อีกนิดสิ”เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนั่นเต็มไปด้วยอารมณ์ เพียงแค่ได้ยินร่างกายมันก็ร้อนไปหมด
“คุณมันหื่น...อ๊ะ...”
“ไปเอาคำนั้นมาจากไหนฮืม”ตินถามพลางกดจูบลงตามลำคอ ทุกครั้งที่ริมฝีปากนั้นสัมผัสก็จะขบเม้มจนผมเผลอร้องครางออกมาทุกครั้งไป
“ไม่รู้ อื้ออ...หื่น ตินหื่น”ผมพูดออกไปหลายต่อหลายครั้ง
“ก็พูดไม่ผิดละนะ หื่นแค่กับนายเท่านั้นแหละ”
“อ๊ะ...อื้มม~”ผมถึงกับเม้มปากแน่นอย่างข่มอารมณ์ทันทีที่เสื้อผ้าถูกถอดโยนไปด้านข้างแล้วถูกอีกฝ่ายสัมผัสไปทั่วหน้าอก
ฝ่ามือที่ลูบไล้
ริมฝีปากที่พรหมจูบไปทั่ว
หรือแม้แต่ดวงตาสีฟ้าที่มองมา
ทุกอย่างมันทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้
“อย่าเม้มปากแพน...ให้ฉันได้ยินเสียงนาย”
“เลิกพูดลามกสักที...อ๊า!”มือที่ลูบไล้ลงไปยังส่วนล่างอย่างไม่ขออนุญาตนั่นเรียกเสียงครางจากผมที่พยายามเม้มปากได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
กางเกงขาสั้นถูกปลดออกไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ที่รู้ตอนนี้มีเพียงสัมผัสของมือที่ขยับด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเสียงครางน่าอายที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนร้อนของตินที่ขยับมาแนบชิดยิ่งสร้างอารมณ์ที่มีให้กระเจิงไปไกล ในหัวขาวโพลนไปหมด สิ่งเดียวที่รู้คือความรู้สึกดีจนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือขึ้นไปกอดคออีกฝ่ายไว้แน่น เพียงไม่นานที่ส่วนนั้นของพวกเราสัมผัสกันผมก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกับติน
“แฮ่ก...ติน...”
“แพน...ขออีกรอบได้ไหม”คำขอนั่นดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่เริ่มปลุกเร้าอารมณ์ผมอีกรอบ
“อื้ออ...คุณมันหื่นเกินไปแล้ว”ผมบ่นสลับเสียงคราง
“ฉันต้องการนาย”น้ำเสียงนั่นทำเอาในหัวขาวโพลนไปหมด
ตินเหมือนคนที่กำลังรู้สึกไม่พอ
ไม่ว่าจะทำสักกี่ครั้งก็เหมือนจะไม่สามารถเติมเต็มความต้องการได้
เขาต้องการมากกว่านี้
และสิ่งที่เขาต้องการคือตัวผม
“ติน...อึก...ผมยอมแล้ว”ผมคว้าคออีกฝ่ายลงมาพร้อมกระซิบบอกในสิ่งที่คิดอยู่
ในตอนนี้ผมไม่สนแล้ว
จะกลัวก็ช่าง
จะเจ็บก็ไม่เป็นไร
ถ้าตินต้องการผม
ผมก็พร้อมที่จะให้
“แพน...”ตินถึงกับหยุดชะงักเมื่อไดยินสิ่งที่ผมบอกออกไป
“อึ้งอะไรติน...ถ้าช้าเดี๋ยวผมเปลี่ยนใจนะ”แม้จะเป็นช่วงเวลาแบบนี้ผมก็ยังสามารถกวนอีกฝ่ายได้ นับถือตัวเองเลยจริงๆ
“ที่ว่ายอม...หมายถึงอะไร”
“นี่ไม่รู้จริงเหรอติน...แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะ”
“แพน...”
“อยากให้ผมเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ไม่ใช่เหรอ...ติน”ผมพูดพร้อมกับส่งยิ้มบางๆไปให้ตินที่ทำหน้าเหมือนกำลังประมวลสิ่งที่ได้ยินอยู่
“...แน่ใจใช่ไหม ฉันไม่คิดว่าจะมีสติพอจะหยุดกลางทางหรอกนะ”ตินบอกเสียงนิ่ง ไม่สิ ต้องพูดว่าเสียงที่ได้ยินราวกับคนที่กำลังข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้ปะทุออกมาอยู่
“อืม...ห้ามหยุดนะ”ถ้าเขาหยุดผมก็ไม่มั่นใจว่าครั้งต่อไปจะยังมีความกล้าที่จะยอมเหมือนในตอนนี้รึเปล่า
“ขอบคุณแพน...ฉันจะไม่ทำให้นายเจ็บ”คำพูดนั่นทำให้ผมยิ้มออกแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นครางอย่างรวดเร็วเมื่อขาถูกจับให้อ้าออกโดยที่ตินค่อยๆยกสะโพกผมขึ้น
“อ๊ะ อื้อออ”ผมเลือกที่จะหลับตาเพื่อจะได้มองไม่เห็นภาพน่าอายตรงหน้าทว่าการหลับตายิ่งทำให้ผมสัมผัสถึงสิ่งที่ค่อยๆเข้ามาภายในได้อย่างชัดเจน
ความเจ็บแล่นเข้ามาในร่างแต่ไม่เหมือนกับครั้งแรก อาจเพราะมีตัวช่วยในการล่อลื่นทำให้ความเจ็บที่มีทุเลาลง...
ถ้าประมาณนี้ยังทนได้
“อ๊า....ติน”เมื่อความเจ็บปวดเริ่มแปรเปลี่ยนร่างกายผมก็สั่นระริก ความรู้สึกดีถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนลืมความเจ็บก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น
แรงขยับของนิ้วเรียกเสียงครางของผมออกมาได้ทุกครั้ง สองมือผมกำผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อหวังว่าจะช่วยระบายความรู้สึกดีนี่ให้ออกไปบ้าง
เพียงแค่ถูกกระทำตรงนั้นผมก็ถึงกับปลดปล่อยออกมาอีกรอบโดยที่ตินไม่ได้สัมผัสส่วนนั้นของผมเลยด้วยซ้ำ
“ท่าจะพร้อมแล้ว...ฉันขอนะแพน”ตินบอกพร้อมกับขยับตัวเข้ามาใกล้ ความรู้สึกของสิ่งที่อยู่ภายในร่างถูกดึงออกและแทนทีด้วยสิ่งที่ใหญ่และร้อนกว่ามาก
“อื้อ...เจ็บ...”ความเจ็บปวดคือสิ่งแรกที่สัมผัสได้ นั่นทำให้ผมถึงกับนิ่วหน้า
ใจหนึ่งก็อยากจะบอกให้ตินหยุดแต่เพราะรู้สึกว่าถ้าทนอีกนิดความเจ็บที่มีก็จะหายไป ผมเลยเลือกที่จะกัดปากตัวเองเพื่อไม่ให้พูดคำว่าหยุดออกไป
“ไม่เป็นไรแพน...เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว...ทนอีกนิดนะ”คำปลอบโยนที่ได้ยินช่วยเป็นกำลังใจให้ผมได้มาก
“อืม...ติน...อึดอัด”ผมบอกออกไปเสียงเบา สิ่งที่เข้ามาในร่างดูจะขยายมากกว่าเดิมซะอีก
“โทษที ก็นายเล่นทำท่าทางแบบนี้ ฉันควบคุมสติตัวเองได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“อย่ามาโทษกันนะ...คุณมันหื่นจริงๆ”ผมบ่นกลับไป
“อ่า...ขอขยับนะ”
“ไม่รู้...อ๊ะ...”ร่างกายถึงกับสะดุ้งเมื่อตินค่อยๆขยับตัวโดยเริ่มจากเนิบๆแล้วค่อยๆเพิ่มแรงเข้าไปจนทั้งร่างของผมสั่นไปหมด
ไม่กี่วินาทีหลังจากการขยับความเจ็บปวดก็ถูกแทนทีด้วยความกระสันจนแทบสิ้นสติ
มันรู้สึกดีจนทำได้เพียงแค่ครางออกมาเท่านั้น
“อื้ออ...อ๊า...ติน...”
“หายเจ็บรึยังแพน?”เสียงของตินดังขึ้นก่อนจะขบเม้มตามแผ่นอกสร้างความเสียวซ่านที่มีให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“อ๊ะ...ไม่เจ็บ...”รู้สึกดีสุดๆเลย
“รู้สึกดีไหม?”
“อื้อ...อย่าถาม...”ผมไม่ตอบคำถามน่าอายนั่นแน่
“ถึงไม่ตอบฉันก็เดาได้”
“อย่ามากวน...อื้ออ~”แรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นทำให้มือที่กำผ้าปูที่นอนแน่คลายออกแล้วคว้าคอตินมากอดไว้แน่นแทน เสียงหอบหายใจของตินดังขึ้นข้างหูเป็นจังหวะเดียวกับแรงจากสะโพกที่ขยับไม่หยุด
ตินก้มลงมาประกบจูบอย่างดูดดื่มและร้อนแรงอีกครั้งพร้อมกับแรงขยับที่มากกว่าเดิม และไม่นานอารมณ์ทุกอย่างก็ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
“แฮ่ก...อื้อ...”ทันทีที่กิจกรรมสิ้นสุดผมก็แทบไม่มีแรงแม้แต่จะขยับร่างกาย
“ไหวไหม”ตินที่ขยับไปนั่งข้างๆหันมาถาม
“ไม่ไหว”ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว
ตอนที่กำลังทำอยู่มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกแต่พอเสร็จแล้วรู้สึกเหมือนโดนดูดพลังงานออกไปจากร่างเลย
ถ้าให้ขยับตอนนี้ผมต้องแย่แน่ๆ
“ขอโทษที่รุนแรงไปหน่อย”
“นั่นไม่เรียกว่าหน่อยแล้ว”ผมหันไปบ่น จากการกระทำนั่นอย่าเรียกว่าหน่อยต้องเรียกว่ารุนแรงสุดๆ
“ก็เห็นนายรู้สึกดี”
“ใครบอก”
“ไม่บอกฉันก็รู้น่า...เพราะฉันเองก็รู้สึกดีสุดๆเหมือนกัน”คำตอบนั่นทำให้ผมนิ่งไป
ตินเองก็รู้สึกดีเหมือนอย่างที่ผมรู้สึกงั้นเหรอ
“รู้สึกดี...จริงนะ?”เองถามกลับตรงๆ
“อืม...ดีสุดๆเลยด้วย”
“...ผมก็รู้สึกดีเหมือนกัน”ถึงจะไม่อยากบอกแต่สุดท้ายก็ยอมจนได้
“ฉันรู้...ไว้ครั้งหน้าจะให้รู้สึกดีกว่านี้อีก”
“ฮะ?...ยังจะมีอีกเหรอ”
“คงไม่คิดว่าฉันจะพอแค่ครั้งเดียวหรอกใช่ไหม”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์นั่นน่าถีบให้กระเด็นจริงๆเลย
“ไม่ให้แล้ว ผมเหนื่อย”ไม่ใช่แค่เหนื่อยธรรมดาแต่เหนื่อยสุดๆ
“วันนี้ยอมให้ก่อนละกัน เห็นว่าเป็นครั้งแรกหรอกนะ”
“ไม่คิดจะถนอมกันหน่อยรึไง”ผมบ่นอุบอิบ
“ถนอมสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปเลี้ยงของอร่อย”
“พูดแล้วนะ ห้ามกลับคำด้วย”ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินว่าจะพาไปกินของอร่อย
“หึ ไหนบอกว่าเหนื่อยไง”
“ก็เหนื่อย แต่ก็อยากกินเหมือนกัน”
“เทพแห่งการกินจริงด้วย”
“ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งว่าเป็นเทพแห่งพฤกษาน่ะ”ผมรีบแก้ด้วยเสียงดังลั่น
“ตอนนี้นายไม่ใช่เทพแล้วนะ อย่าลืมสิ”ตินบอกพร้อมกับคว้าตัวผมไปกอดไว้หลวมๆ ฝ่ามืออุ่นๆลูบเส้นผมสีเขียวเข้มที่ชื้นเล็กน้อยไปมา
“นั่นสิ...ตอนนี้ผมไม่ใช่เทพแล้ว แต่เป็นมนุษย์”
“เสียใจไหม”อยู่ๆตินก็ถามขึ้น
“ไม่เลยสักนิด”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีฟ้าสดพร้อมคำตอบที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดสักนิด
การที่ได้เจอตินทำให้ทุกๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไป
มนุษย์คนแรกและคนเดียวที่อยากช่วย
ถ้าย้อนกลับไปในวันนั้น วันที่เห็นตินโดนยิงล้มลงจมกองเลือด ไม่ว่าจะกี่ครั้งผมก็เลือกที่จะช่วยต่อให้รู้ว่าในอนาคตผมจะหมดพลังของความเป็นเทพลงก็ตาม
ผมไม่สนใจหรอกว่าผมจะมีพลังหรือไม่มีพลังเพราะในตอนนี้ที่มีตินอยู่ข้างๆทำให้ทุกๆวันล้;นมีแต่ความสุขอย่างที่ตลอด300ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้สัมผัส
ตัวผมไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่มีความรู้สึกที่เรียกว่ารัก
และยิ่งไม่เคยคิดด้วยว่ารักนั้นจะเกิดขึ้นกับมนุษย์
แต่ตอนนี้ผมกลับดีใจที่คำรักของผมได้มอบให้กับมนุษย์ที่ชื่อว่าติน
.....................................................จบบริบูรณ์.......................................................
สวัสดีค่ะ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจนได้...วันที่เรื่อง ♧♣Touch Love♣♧ สัมผัสรัก ด้วยหัวใจ ได้จบลง
เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าโล่งใจที่สามารถแต่งได้จนจบหรือเศร้าที่ไม่ได้แต่งถึงความน่ารักของแพนและตินอีก
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเรามีความสุขมากๆในการแต่งเรื่องนี้ซึ่งเนื้อหาอาจไม่ได้มีอะไรมากมายนักแต่เราก็พยายามถ่ายถอดออกมาในแบบของตัวเองอย่างดีที่สุด
หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านเรื่องนี้จะได้มีความสุขและอมยิ้มไปพร้อมๆกันนะคะ
เราเองก็แต่งนิยายมาได้ไม่นาน พวกสำนวนอาจจะยังไม่ดีนักแต่จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจที่มีให้ตลอดนะคะ
รู้ว่าเป็นตอนสุดท้ายแต่ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี 555
เอาเป็นว่าประมาณต้นปีหน้าจะมีข่าวดีเรื่องการรวมเล่มของเรื่องนี้ค่ะ
ใครสนใจหรืออยากมีแพนและตินไว้ในครอบครองสามารถติดตามข่าวได้ทางเพจเรานะคะ
>>
nicedog<<
สำหรับเรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องที่หลายคนรอคอย ภาค3 ของ Jurassic ใครชอบอ่านแนวแฟนตาซีสามารถตามไปอ่านได้นะคะ
มารอลุ้นความสัมพันธ์ของไดโนเสาร์กลายพันธ์ุกับมนุษย์กันว่าจะลงเอยกันได้อย่างไร
ไว้เจอกันใหม่ในนิยายเรื่องหน้านะคะ
บ๊ายบาย
nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪