ความเสี่ยงที่ 9
8.50ผมตื่นมาก็พบว่าไอ้เจ้าเด็กหวานนั่นหายไปแล้ว สงสัยว่าจะกลับบ้านพักไปตั้งแต่เช้า
ผมบิดขี้เกียจสองสามที ก็ลุกขึ้นมาเจอน้ำนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ปลายฟูก ส่วนพีทกำลังแต่งตัวด้วยหน้าตาสดใส
“เอ้า ตี๋ ไปอาบน้ำปะ กูกะลังจะปลุกเลย” พีททักขึ้น
“พวกมึงตื่นเช้ากันจังวะ นึกว่าจะตายยาว” ผมหาวไปพูดไป
“เฮ้ย ชั้นนี้แล้ว” น้ำพูดขึ้น
“เหยดด พวกมึงไม่แฮงค์เลยเรอะ” ผมถามอย่างสงสัย
“เหอะ จะเหลือเหรอ” พีทเงยหน้าขึ้นมาจากการติดกระดุมเสื้อ “กูกับไอ้น้ำไปถอนมาแล้ว” มันชูขวดเบียร์เปล่าๆให้ผมดูแล้วยักไหล่ ไอ้น้ำหัวเราะหึหึ
ผมเบ้หน้าใส่
ทฤษฎีบ้านไหนของมันก็ไม่รู้ล่ะครับ ถ้าตื่นมาแล้วแฮงค์ต้องอัดเข้าไปอีกน่ะ
“ตกลงเมื่อคืนไอ้น้องหวานนอนนี่เรอะ” น้ำทักขึ้น “กูตื่นมาตอนมันเปิดประตูออกไป ซักช่วงเจ็ดโมงกว่าๆ”
“อือ กูเห็นว่ามันดึกแล้ว บ้านพักแม่งไกล ทางก็มืด เลยให้แม่งนอนนี่แหละ” ผมตอบ
“เออ แต่ไอ้เด็กหวานนี่แม่งคอโคตรแข็ง มอมไม่ได้เลย” พีทพูดเสริม
ขอกูมองบนหน่อยเหอะ ใครว่าไม่เมา
นอกจากจะเรี่ยราดแล้วแม่งยังปีนเกลียวอีกต่างหาก
“แน้ ไอ้ตี๋ มึงแสดงอาการแบบนั้นหมายความว่าอะไรร” ไอ้พีทขยับเข้ามานั่งข้างผม “น้องแม่งเต๊าะมึงเหรอ”
“พ่อสิครับคุณเพื่อน” ผมสวนกลับไป “มันเมา แต่มันฟอร์ม”
“อ่าวจริงดิ่” น้ำพูดงงๆ “กูก็ยังว่าทำไมกินเก่งจัง ดวลกับกูแก้วต่อแก้วจนกูงี้เดินจะไม่ตรง”
“มันน่าจะเมาพอๆกับมึงอ่ะแหละ คือพอมีสติ รั่วๆบ้างนิดหน่อย” ผมว่าเร็วๆ “เออ มีใครไปเก็บเชี่ยอาร์ตจากข้างนอกรึยัง” ผมเตือนก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ
“เออว่ะ รีบไปดูแล้วถ่ายรูปแบล็กเมล์มันดีกว่า” พีทรีบคว้าโทรศัพท์แล้วเดินออกไปนอกห้อง
_ _ _ _
10.55 “สำหรับวันนี้ พวกพี่ก็ต้องขอบขอบคุณน้องๆมากๆ นะคะที่มาสนุกกันน” น้องหมิวประกาศเสียงแจ๋วๆ
“ถ้าพวกพี่ทำอะไรเกินเลยไปพี่ขอโทษด้วยนะ ความตั้งใจหลักคือพี่อยากให้เป็นความทรงจำดีๆ” น้องปาล์มพูดขึ้นบ้าง
“แล้วก็ขอบคุณปีสองที่ดูแลเรื่องจัดการสถานที่ ปีสามที่แปลนทริปนี้ ปีสี่ที่ดูเรื่องสวัสดิการ ปีห้าที่มาสนุกกันแม้งานจะเดือด แล้วก็พี่ปีโตๆที่มาเจอกันนะค้าาาา” น้องหมิวพูด
น้องๆทุกคนต่างปรบมือ หลายคนผิวปากดังวิ้วให้เป็นกำลังใจ ทีมงานทุกคนคงหายเหนื่อยกันแล้วล่ะครับ ดูพวกมันยิ้มสิ ผมยังมีความสุขเลย
หลังจากนั้นพวกเราก็ตบท้ายด้วยการร้องเพลงคณะเสียงดังลั่นรีสอร์ท
จบแล้วล่ะครับมีตติ้งปีนี้
“เอ้อ! สมุดกระจกจะย้ายไปแขวนที่คณะอีกสองอาทิตย์นะครับ ยังไม่ต้องเอากลับไป ยกเว้นของพี่บัณฑิตที่จะแจกคืนตอนเที่ยง ถ้าอยากเขียนของพวกพี่บอย พี่น้ำสุดหล่องี้ ก็ต้องรีบนะจ้ะเธอออ” น้องหมิวประกาศ
“เอ๊ พี่น้ำเนี่ย สาวๆเขียนสมุดได้มั้ยน้าาา ต้องขอใครมั้ยน้าาา” น้องพงศ์แซวสมทบ
ไอ้คนถูกพูดถึงก็ยืนหัวโด่ตีหน้านิ่งไม่ได้ปฏิเสธหรือว่าอะไรต่อ พอมองไปที่โต๊ะปีห้าน้องพลอยคนสวยก็ยืนแก้มแดงเพราะโดนเพื่อนๆล้ออยู่ ผมกับไอ้อาร์ตหันมาสบตาแล้วยักคิ้วใส่กัน ถ้ามีคนเปิดซับไตเติ้ลข้างล่าง คงอ่านได้ว่า มึงดูดิ่ แล้วใครมันจะไม่เข้าใจผิด
พวกผมนั่งๆยืนๆ อยู่ตรงโต๊ะตัวเมื่อคืน ทำตัวเป็นศาลพระภูมิให้น้องๆเดินเข้ามาทักทายคุยเล่นไปเรื่อยเปื่อย เอาตรงๆ สมองผมจำปีหนึ่งปีนี้ได้ห่วยมากครับ จะจำได้ก็พวกกลุ่มสีชมพูที่เล่นเกมกับผมและอาร์ต แค่ยี่สิบกว่าคนเท่านั้นแหละ
หนึ่งในนั้นก็หมอนี่ไง
“เมาดิ่ แฮงค์ดิ่” ผมพูดนำไปก่อนเมื่อเห็นนายหวานเดินตรงดิ่งเข้ามาหา ใต้หางตาตกๆนั่นมีรอยคล้ำอยู่บ้าง นอนไม่พอล่ะสิ
“ผมตื่นก่อนพี่อีกนะ” มันทำยิ้มทะเล้น
ผมเบ้ปาก “แล้วไง ไม่เห็นเกี่ยวเลย”
มันพูดเสียงเบาเหมือนไม่อยากให้ใครได้ยิน “นี่ ถามอะไรหน่อยสิ” ทำหน้าจริงจังแล้วขยับเข้ามาใกล้ผม
“อ อื้อ” ผมเอียงคอเข้าไปรอฟัง ท่าทางดูซีเรียส หรือมันจะไม่สบายวะ
“นอนน้ำลายยืดทุกวันเลยป่ะเนี่ย” มันกระซิบใส่หูผม
ไอ้เด็กบ้าาาาาาาาาาาาาาผมทุบเข้าที่หลังมันดังพลั่กจนไอ้กล้าใต้กับปั่นที่อยู่ใกล้ๆหันมาทำหน้างงใส่
ไอ้เด็กตัวแสบยืนกุมท้องกลั้นหัวเราะอยู่หน้าผม
“อูย มือหนักจัง ล้อเล่นไม่ได้เลยนะเนี่ย” มันแกล้งโอดโอย
“เดี๋ยวจะโดนมากกว่านี้” ผมตั้งท่าจะเขกหัว แต่ไอ้ปีหนึ่งนี่ก็รู้ดีเตรียมยกมือมาปิดหัวมันไว้เฉยเลยครับ
ชิ คิดว่าจะหลบได้ใช่มั้ยย มาาา กูมีพี่บัวขาวเป็นไอดอลนะแสดดดดดด
“นี่มึงเล่นไรกันอ่ะ” น้ำที่เพิ่งเดินมาขมวดคิ้วแล้วทักขึ้น ในมือมีถุงพลาสติกใส่สมุดกระจกอยู่เต็ม
“เด็กนี่มันกวนตีนกู” ผมชี้ตัว
“เฮ้ย ไม่ฟ้องดิ่” มันร้องขึ้น
“ฮ่าๆ นี่มึงโดนน้องแกล้งเหรอ โถ ตี๋เอ้ยยย” ไอ้น้ำหัวเราะใส่เฉยเลยครับ “อ่อนแอก็แพ้ไปเนาะ” ประโยคสุดท้ายก็หันไปพยักหน้ากับไอ้เด็กหวานปีหนึ่ง ซึ่งมันก็พยักหน้ากลับรัวๆ ถ้ามึงจะสนับสนุนกันขนาดนี้ มึงไม่รับเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันไปเลยวะไอ้พวกบ้าาาา
แถมพอไอ้น้ำพูดจบก็มีการเอามือมาตบหัวผมแปะๆ อีกต่างหาก ไอ้เพื่อนเลวววววววว
“พ่อเมิงงงงงงงงงง” ผมปัดมือมันออกแล้วด่าเสียงดัง
ไอ้น้ำยิ้มแล้วยักไหล่ให้ผม ส่วนไอ้เด็กหวานก็ไม่ได้พูดอะไร สะใจมึงสินะ!!
“เอ้าาา ใครกลับรถบัส มาเชคชื่อตรงโต๊ะนี่นะค้าา” น้องหมิวพูดใส่โทรโข่ง “ตัวแทนรถออกมารับข้าวกล่องกับน้ำด้วย”
“เดี๋ยวผมไปละ ทางโน้นเรียกรวมแล้ว” หวานพูดขึ้น
“เออ” ผมตอบมัน “ไปเลย”
“เออๆ กลับดีๆพวกมึง วันหลังมาแดกเหล้ากัน บายย” น้ำโบกมือให้หวาน
“ไว้เจอกันครับ…. นี่.. อย่าลืมสัญญานะ คำไหนคำนั้น” มันหันมาพูดกับผม
“เออ เออ ไอ้เด็กเรื่องเยอะ” ผมตอบปัดๆ
“สองรอบ” มันพูดแล้วก็หันหลังเดินไป
อยากเขวี้ยงรองเท้าตามมันจังเลยครับ จะเอาอะไรกับกูนักหนาเนี่ยยยยย
ไอ้บ้าเอ้ยยยย
_ _ _ _
11.20 หลังจากยืนดูน้องๆขึ้นรถบัสจนรถขับออกไปเรียบร้อย พวกปีแก่ๆอย่างพวกผมก็ได้เวลาแยกย้ายกันจะกลับแล้วครับ
ผมยืนร่ำลาเพื่อนๆ ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเวทนา (โดยเฉพาะไอ้เทพกับนัท) ด้วยสภาพพวกแม่งแบบนี้ น่าจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าแอลกอฮอลล์จะระเหยออกไปจากเลือดหมด อย่าคิดว่าจะต้องไปไหนต่อกันเลยครับ เดินไปขึ้นรถให้ถูกคันก็พอ นี่ถ้าเจ้านายพวกมึงมาเห็น เขาจะยอมให้มึงเขียนแบบบ้านให้มั้ย
โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าผมสั่นครืด เมื่อผมหยิบขึ้นมาก็พบว่ามีเมลล์เข้าจากเจ้านายสุดสวยของผม
พี่ฝ้ายตอบกลับเมลล์ที่ผมส่งไปเมื่อวานมาซะยาวยืด นี่ไม่มีใครหยุดทำงานวันอาทิตย์เลยเหรอครับเนี่ยย
ผมยืนพิงรถพิมพ์ตอบอีเมลล์นั้นไปยาวพอๆกัน เกี่ยวกับแผนงานโปรเจ็กต์คุณชายตะวันที่ผมเป็น PM กับอีกสองโปรเจ็กต์ที่ผมเป็นผู้ประสานงานกับผู้ออกแบบอยู่ เอ.. จะว่าไปต้องเมลล์ไปหาน้องแคร์คนงามให้ช่วยปริ้นท์งานเตรียมไว้ประชุมตอนบ่ายวันจันทร์ด้วยสินะ ไหนจะต้องคุยกับพี่บัญชีอีก เอ้า เขียนไปเลยครับยาวๆ
เปิดดูทำไมเนี่ยอีเมลล์ อยากตีมือตัวเองจริงๆ
ผมติดนิสัยอยู่อย่างนึงครับ คงนับเป็น OCD ได้แล้วล่ะ ผมไม่ชอบให้มีไอคอนขึ้นเตือนบนหน้าจอ อินบ็อกซ์เมลล์ต้องเป็นศูนย์ ไลน์ต้องไม่ค้าง เมจเสจอะไรต้องเปิดดูให้หมด ไม่งั้นเวลามองเห็นแล้วมันรำคาญใจทุกที เหมือนมีอะไรคั่งค้าง รู้สึกทำงานไม่เสร็จตลอด
“เอ้า พร้อมยัง” ไอ้พีทถามขึ้นหลังปิดกระโปรงท้ายรถ “เอ้า ไอ้น้ำล่ะ?”
ผมยืนจิ้มโทรศัพท์อยู่ข้างรถเงยหน้าขึ้น เออ หายหัวไปไหนวะ
“กูว่าไปกะน้องพลอยชัวร์” อาร์ตว่าขึ้น
“ห้ะ มึงรู้ได้ไง” ผมงง
“โอ่ย มึงนี่ ไม่งั้นมันจะหายไปไหนล่ะวะ” อาร์ตพูด “มึงนี่อ่อนด้อยจริงๆ”
“มึงว่าน้องเขาคิดเหมือนไอ้น้ำป่ะวะ” พีทถามขึ้น “ที่ว่าเป็นแค่พี่น้องกันอ่ะ”
อาร์ตส่ายหน้าดิก “กูว่าไม่มีทาง น้องแม่งยืนม้วนขนาดนั้นมึงก็เห็น”
“เนอะ กูว่าไอ้เพื่อนห่าของพวกเรานี่แหละทำอะไรไม่ชัดเจน” พีทเสริมขึ้น
“อย่ามั่ว… กูไปแจกสมุดกระจกให้พวกแม่งมา” เสียงของน้ำแทรกขึ้น ร่างสูงชูสมุดที่เหลือในมือขึ้น “นี่ของพวกมึง”
หันหน้ามองกันเลิ่กลั่กสิทีนี้ ผมตีเบลอเดินไปรับสมุดไว้ในมือแล้วพลิกเร็วๆ
โห คนเขียนเยอะเหมือนกันแฮะ ผมเก็บสมุดใส่ลงในกระเป๋าเป้ที่มีแมคบุคลูกรักอยู่ ไว้เดี๋ยวค่อยไปอ่านที่บ้านทีเดียวละกันครับ ตอนนี้ย้ายตูดขึ้นรถไปจองเบาะหน้าดีกว่า
_ _ _ _
11.48 “มึงว่ามีตติ้งปีนี้เป็นไง” ขณะขับรถพีทก็ถามขึ้นลอยๆ “กูว่าดีนะ ไม่มีแก้ผ้าให้อุจาดตาด้วย”
“ใครว่า ตอนบ่ายพวกปีสามก็เล่นเหอะ” อาร์ตพูดไปกดโทรศัพท์ไป
“เหยดดดดดด” พีทกับน้ำร้องขึ้นพร้อมกัน ส่วนผมได้แต่ทำตาโตแล้วถามขึ้น “นี่มึงไปดูมาเหรอ”
“กูเอะใจตั้งแต่แยกน้องผู้หญิงออกไปละ เลยนั่งดูไกลๆ” อาร์ตทำหน้าสยอง “พวกไอ้น้องหมิวปีสี่เอากล้องไปส่องแล้วเม้ากันใหญ่เลย”
“กูว่าแม่งต้องมีปล่อยรูปในเฟสบุคชัวร์” พีทพูด
“มันมาแล้ว” อาร์ตชูโทรศัพท์ “และนี่ มีอัลบั้มขายรูปผู้ชายงานดี ติดต่อหลังไมค์”
“เชรดดด… ไหนเอามาดูดิ้” น้ำยื่นหน้าไปมอง
“อื้อหือ แฮชแทกห้าแซ่บปีหนึ่ง น้องแม็กอิน น้องคิวเต็ก น้องบิวเต็ก น้องหวานเต็ก น้องฟิวอิน เหี้ยอะไรเนี่ยยย” ไอ้น้ำโวยวาย
“มีแฮชแทกปีโตเปียกน้ำ แล้วมีชื่อพวกมึงด้วยนะ ฮ่าๆๆ” อาร์ตพูดเสริมแล้วขำ
“เหี้ยยยยยยยย ขนลุกกกกกกก” ไอ้พีทร้อง
ไอ้เด็กหวานติดหนึ่งในห้าด้วยเหรอครับ
เออ.. จริงๆแล้ว แต่ถ้าไม่ติดคงจะน่าแปลกใจมากกว่า
คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตาเรียว หางตาตกๆ กับไฝสเน่ห์ใต้ตา
สูงแบบต้องเงยหน้ามอง กล้ามก็มี ผิวก็พอๆกับไอ้พีท ไม่ได้ขาวซีดเป็นไก่ต้มแบบผม
ดูรวมๆแล้ว...มันก็หน้าตา.. เอ่อ… ดีอยู่… ละมั้ง…นะ….
แล้วกูจะมานั่งชื่นชมความหล่อมันทำไมวะครับ!
“ตอนปีหนึ่งมึงก็เคยโดน” อาร์ตบอก “มึงสองคน ไอ้บอย ทอมเอ้งี้ ไอ้ปั่น มาปีนี้อีก! ทำไมเราสองคนไม่ติดอันดับบ้างวะตี๋~~” มันแกล้งโอดครวญ
“จริงๆแล้วรูปมึงสองตัวก็เยอะอยู่นะ แทรกอยู่ตามรูปพวกกูไง ฮ่าๆๆ” พีทพูดแซะ ทำเอาไอ้น้ำที่เบาะหลังหัวเราะก๊าก
“เออจริง แว้บๆเหมือนชัตเตอร์อ่ะ” น้ำพูด
“กูจะขี่คอมึงให้หักเลย” อาร์ตเค้นเสียง
“เออ พวกกูก็เป็นได้แค่ส่วนประกอบแหละ” ผมประชดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ้าง
“เอ๊ะ เอ๊ะ... มึงเปิดโทรศัพท์ทำไม อยากส่องรูปน้องๆเหรอจ้ะตี๋~” อาร์ตพูดล้อ
“ก็เชี่ยละ! กูจะเชคเมลล์ เชคเฟสบ้างไม่ได้เรอะ” ผมโวย “นี่ไง รูปกูโดนแท็ก กับพวกปีหนึ่งแอดเฟสกูมา” ผมยกโทรศัพท์ขึ้นให้พวกมันดู ไอ่เชี่ยอาร์ตนี่คิดได้เชี่ยจริงๆครับให้ตายดิ่
“ไหนๆ มีใครแจ่มบ้าง” พีทถาม ไอ้อาร์ตกับน้ำชะโงกหน้ามาดูจากเบาะหลัง
ผมไล่พูดชื่อเด็กปีหนึ่งที่อยู่ในเฟสบุค “มีน้องจอย น้องนิว คนนี้ไม่คุ้น น้องใหม่ น้องโม นอกนั้นเป็นเดือยล้วนละ พวกมึงคงไม่สนใจ” พวกมันสองคนพยักหน้าหงึกๆ แล้วหันไปเปิดโทรศัพท์ตัวเองเชคเรตติ้งบ้าง
แอพไลน์ผมมีเลขสามสีแดงแจ้งเตือนอยู่
พอดูชื่อก็ได้แต่เบ้ปากใส่
นายหวาน add you as a friend.ไอ้คนตายยากเอ้ย
นายหวาน : นี่
นายหวาน : กลับบ้านดีๆนะครับ
นายหวาน : อย่าลืมที่สัญญากับผมนะ
คือ
ถ้ามึงจะทวง.. มึงก็ควรบอกกูก่อนนะครัช ว่ามึงอยากได้อะไร..
อ่านจบผมก็ไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับ แค่กดปิดหน้าจอลงไปเท่านั้น
ไม่รู้จะตอบอะไรนี่ครับ
“พวกมึงหิวกันป่ะ” พีทที่กำลังขับรถอยู่ถามขึ้น
“กูไม่ แล้วพวกมึงอ่ะอาร์ต? น้ำ?” ผมตอบส่วนของตัวเองแล้วหันหน้ากลับไปมองที่เบาะหลัง พวกมันส่ายหน้าเงียบๆ
“งั้นกูไม่แวะนะ ยิงยาว” พีทสรุป
“นี่กลับถึงกรุงเทพแล้วทำอะไรกันต่ออ่ะ” อาร์ตถามขึ้น “กูอยากไปดูหนังห้องไอ้ตี๋” มันแจ้งความจำนง
“เออๆ เดี๋ยวซื้อของเข้าไปกินมื้อเย็นด้วย” ไอ้พีทรีบบอก
“นี่มึงถามความสะดวกกูซักคำมั้ย” ผมถาม
“กูรู้ว่ามึงโอเค” อาร์ตตอบกลับเร็วๆ
“วันนี้ไม่ได้ กูจะกลับไปนอนบ้าน หม่อมแม่กูงอนละเนี่ย” ผมบอกมัน “เดี๋ยวมึงส่งกูตรง..” ผมกำลังจะบอกที่หมาย
“งั้นไปบ้านตี๋กัน!!” ไอ้พีทแทรกขึ้นเสียงดัง “พวกมึงว่างใช่ป่ะ”
“ว่าง!” น้ำกับอาร์ตตอบขึ้นพร้อมกัน
“เฮ้ยย” ผมร้อง
“วันนี้ม๊ามึงทำอะไรเลี้ยงอ่ะ” อาร์ตถาม “แต่ซื้อเข้าไปด้วยดีกว่า เดี๋ยวไม่พอ”
“เดี๋ยวแวะตรงตลาดเลียบทางด่วนซื้อของกินเข้าไปละกัน” น้ำสรุปให้อย่างใจเย็น
“โอ้ย พวกมึงแม่ง!!!”
พูดได้เท่านั้นจริงๆ
_ _ _ _
18.44 รถติดเป็นบ้าเลยครับ
นี่มันวันอาทิตย์แห่งชาติชัดๆ ทุกคนมุ่งหน้าเข้าเมืองกันหมด กว่าจะถึงกรุงเทพ กว่าจะแวะเข้าตลาดไปซื้อของกิน อาร์ตก็นั่งนับเวลากระดื๊บจากตลาดถึงบ้านผมได้หนึ่งชั่วโมงครึ่งพอดิบพอดี ผมว่าจะเปลี่ยนมือขับรถซักหน่อย แต่ไอ้พีทที่หาวแล้วหาวอีกก็ยังยืนยันว่าขับไหว พวกที่เหลือก็เลยได้แต่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้มันหลับมาตลอดทางนี่แหละครับ กว่าจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านได้ลุ้นแทบตาย
ผมเดินบิดขี้เกียจลงจากรถไปเปิดประตูรั้ว บ้านผมเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นดีไซน์โมเดิร์น (เมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้วน่ะครับ..) ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีพื้นที่สวนพอให้ม๊าปลูกต้นไม้และให้เตี่ยเลี้ยงปลาคาร์ฟได้ โลเคชั่นนับว่าอยู่เกือบจะชายขอบกรุงเทพ ใกล้ที่ทำงานเตี่ยที่เป็นโรงงานของกงสีแค่สามสิบนาที แต่ถ้าจะมุ่งหน้าเข้าเมืองละก็ต้องเผื่อเวลาสักชั่วโมงเพื่อไปให้ถึงรถไฟฟ้า
หลังจากที่จอดรถเข้าบ้านและคลานเข่าไปกราบหม่อมแม่เรียบร้อย พวกผมก็ได้เวลามานั่งเขมือบข้าวเย็นกันแล้วครับ หลังจากที่ตอนอยู่ตลาดผมโทรกลับมาที่บ้านเพื่อจะบอกว่าจะมีพวกแม่งมาฝากท้องอีกสามตัว อาม๊าก็รีบลงมือทำกับข้าวเพิ่มเพราะกลัวพวกมันจะไม่อิ่ม บวกกับของที่พวกผมซื้อเข้ามาก็แทบจะเลี้ยงได้ทั้งซอยแล้ว
“พีท ไม่เจอนานเลย ซูบไปนะลูก กินเยอะๆ” ม๊าผมตักหมี่ผัดใส่จานของพีท ใช่ครับ ไอ้พวกนี้มันเลื่อนชั้นมาเป็นลูกม๊าลูกเตี่ยเท่าผม ก็เจอกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ความเกรงใจเหรอ ไม่มีเหลือแล้วครับ
“เจ้าอาร์ต นี่ทำงานเป็นยังไงบ้างล่ะ” พ่อผมถามขึ้น “ไม่เห็นเล่าให้ฟังเหมือนน้ำกับพีทเลย”
“ก็เรื่อยๆครับเตี่ย ชีวิตดีไซน์เนอร์ก็งี้ ไม่ชิคเท่าไอ้วินหรอกครับ” มันรีบกลืนข้าวแล้วพูดตอบ
“ชิคอะไร ไม่เห็นจะได้กลับบ้านกลับช่องเลย” ม๊าผมแหวขึ้น “ไม่รู้ไปแอบมีสาวที่ไหนรึเปล่า ใครรู้มั้ยลูก”
“คุณพระ มึงมีสาวเหรอ” พีทแกล้งทำเป็นตกใจแล้วเอามือทาบอก
มีใครบอกมึงมั้ยว่ามึงเล่นใหญ่มาก
“ห้ะ หรือว่าที่มึงบอกกูบ่อยๆว่ามีงานดึกๆ นี่…” อาร์ตรีบตบมุก
“ก็เชี่ยละมึง ม๊าาา ผมทำงานจริงๆ” ผมรีบหันไปพูดประโยคสุดท้ายกับหม่อมแม่ พวกแม่งหัวเราะคิกคัก
“เอ้า ก็นึกว่าจะมีว่าที่สะใภ้” เตี่ยพูดเล่นเสียงเรียบทำเอาผมแทบพ่นข้าวลงจาน ไอ้พวกเพื่อนตัวดีขำก๊าก
“ฮ่าๆๆๆๆ พวกผมช่วยสกรีนเองครับ ถ้ามีเนี่ยไม่ต้องห่วง เตี่ยรู้ก่อนไอ้วินแน่นอน” ไอ้พีทรับปากแข็งขัน
“พวกมึงจะมายุ่งอะไรกับชีวิตกู๊ววววว” ผมโวยวาย
“สอดส่องให้ม๊าหน่อยนะพวกเราน่ะ” จะลุกไปหยิบของหวานมาให้ก็ยังไม่วายกำชับ
“ม๊า!!” แน่ะ ดูท่านแม่สิครับ
หวงลูกชายจังเล้ยยยย
“แล้วนี่พรุ่งนี้ทำงานกันรึเปล่า จะค้างนี่กันมั้ย” เตี่ยผมถามขึ้น
“ทำสิครับ แต่ไม่เป็นไรครับเตี่ย กินขนมเสร็จพวกผมก็กลับแล้ว” น้ำพูดขณะช่วยม๊าผมแกะถุงบัวลอยไข่หวาน
“วินมันเข้างานเช้าอ้ะ พวกผมตื่นไม่ไหวแน่” พีทบอกเหตุผล
เตี่ยหัวเราะเบาๆ “โอ้ย เด็กพวกนี้นิ่ เป็นโรคแพ้การตื่นเช้าหมดเลยเว้ย วินก็ด้วย”
เอ้า รายการเผาลูกวันนี้ท่าทางจะยังไม่จบง่ายๆแฮะ
“ว่างๆ ก็แวะมากินข้าวที่นี่บ่อยๆสิ ม๊าอยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา” ม๊าเปรยขึ้น “เตี่ยแกบางวันก็ทำงานดึก ทิ้งม๊าไว้คนเดียว”
“แน๊ รีบกลับบ้านสิเตี่ย อยู่โรงงานดึกทำไมเนี่ย ขับรถดึกๆก็อันตรายอีก” ผมได้โอกาสว่าบ้าง
“เฮ่ย ขี้บ่นเหมือนม๊ามึงเลย” พ่อผมโวยวาย
“น้อยๆหน่อยเถอะย่ะ!” ม๊าส่งเสียงเบรค
ผมละคิดถึงเสียงล้งเล้งแบบนี้จริงๆ
หลังจากจัดการกับของหวานเสร็จและส่งม๊ากับเตี่ยไปนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นเรียบร้อย พวกผมก็มาแบ่งหน้าที่กันเก็บกวาด
บ้านผมไม่มีแม่บ้านประจำหรอกครับ จะมีคนเข้ามาทำความสะอาดวันเว้นวันเท่านั้น ตอนนี้พีทกับอาร์ตก็เลยช่วยกันล้างจานอยู่ที่แพนทรี่ น้ำยืนเช็ดจานเช็ดแก้วที่ล้างเสร็จ ในขณะที่ผมมัดปากถุงขยะเตรียมเอาไปทิ้ง แหม่ มีแรงงานให้ใช้ฟรีแบบไม่ต้องเอ่ยปากขอนี่มันดีจริงๆ
พวกแม่งนี่เข้าออกบ้านผมมาตั้งแต่ปีสองละครับ ช่วงปีหนึ่งผมไปอยู่หอ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับบ้าน แต่ด้วยความที่มหาลัยมันก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น บางวันม๊าก็ชอบแอบมาเซอร์ไพรซ์พาไปกินข้าวเย็นบ้าง ทำกับข้าวมาให้บ้าง ด้วยความหน้าหนาอยากมีส่วนร่วมทุกกิจกรรม ไอ้พวกนี้ก็เลยพลอยได้ส่วนแบ่งไปด้วยทุกที ยันผมย้ายกลับมาอยู่บ้านแม่งก็ยังตามมากินข้าวด้วยบ่อยๆ ฝากท้องกันไปยาวๆจนถึงตอนนี้นี่แหละครับ
“ขนมที่เหลือนี่กูเก็บในตู้เย็นนะ” น้ำชูถุงพลาสติกสีสดขึ้น
“เหอะ พวกมึงเอากลับไปเหอะ บ้านกูมีอยู่สามคนเอง กินไม่หมดหรอก” ผมรีบพูด
“อ่ะ ได้ๆ งั้นกูแบ่งไปนะ อาร์ต อันนี้มึงแดกมั้ยเนี่ย” น้ำถามพลางหยิบขนมออกจากถุง
“ไหนนนน กูเลือกก่อนน” พีทรีบถลาตัวเข้ามาแทรก
“อันนี้อร่อย กูไม่ให้” อาร์ตพูดแล้วหยิบขนมใส่ถุงในมือตัวเอง
พอแบ่งขนมกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาแยกย้าย พวกมันเดินเข้าไปสวัสดีเตี่ยกับม๊าที่ห้องนั่งเล่น
กว่าผมจะส่งพวกมันปิดประตูรั้ว กว่าจะแวะแซวแม่กับเตี่่ย กว่าจะได้ทำนู่นนี่นั่นโน่นแล้วได้เข้ามานั่งพักในห้องนอนก็ปาไปสี่ทุ่มแล้วครับ
ผมหยิบมือถือที่ชาร์ตเอาไว้ก่อนทานข้าวเย็นขึ้นมาเชคอีเมลล์ เผื่อว่าจะมีใครติดต่อมาแบบด่วนๆ
ในกรุ๊ปไลน์แก๊งค์พี่ว้ากทั้งสิบเอ็ดคนก็กำลังคึกคักด้วยรูปจากทริปมีตติ้ง ไอ้อาร์ตแอบอัพรูปโต๊ะพร้อมกับข้าวบ้านผมไปอวด เรียกความอิจฉาได้เยอะเชียว
First_Tect : โอ้ยยย ไอ้ตี๋ ทำไมไม่เรียกกกกก
Thep_int : ชายหนึ่งหมี่เกี๊ยวแบบเหงาๆ เพราะกูยังแฮงค์อยู่เลย
/รูปเซลฟี่กับชามบะหมี่
Nut_Tect : อะไรของมึ๊งงงง
Boyy_Tect : ไอ้เชี่ยเทพ ไอ้คนใจบาป กูหิว!!!
Wyn_Tect : /อีโมติค่อนมองบน
Boyy_Tect : ไอ้ตี๋ มึงด้วย!!!!
Klar_Tect : เหยด
Pete_Int : /รูปคะน้าหมูกรอบ
/รูปปลาทับทิมราดพริก
/รูปบัวลอยไข่หวาน
Nahm_Tect : ถือเป็นเรื่องราวดีๆ
Boyy_Tect : ทำไมกูที่กำลังจะนอนต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ ห่าาาาาาาา
ผมนั่งหัวเราะกับคำสรรเสริญของเพื่อนๆ แล้วกดดูรูปในอัลบั้มกรุ๊ปดูเล่นไปเรื่อย
อื้อหือ นอกจากจะเมากันเละเทะ ก็ยังมีรูปไว้เป็นหลักฐานด้วยนะครับ นี่รูปตอนเช้าวันเสาร์ที่ไอ้เทพ บอย นัท นอนกองกันอยู่กับพื้นพร้อมกองกระป๋องเบียร์ เหอะ แค่มองรูปนี่กลิ่นก็มาเลอ.. ส่วนนี่ก็รูปตอนเล่นเกมในทะเลกันจนเปียกมะล่อกมะแล่ก ดูไม่จืดจริงๆ แล้วนี่อะไร รูปไอ้พีทกับน้ำตอนเปียกทำไมเยอะจัง หุ่นนี่เหมือนกับฟิตมาเพื่อการนี้ โด่ว รอกูก่อนนะ จะเป็นสตีฟ โรเจอร์ให้ดู
ผมเลื่อนผ่านไปเรื่อยจนเจอกับรูปตัวเองที่กำลังทำหน้าเหวอขี่หลังไอ้ปีหนึ่งตัวสูงอยู่ ผมกำลังเอามือข้างหนึ่งจับหมวกบนหัวของตัวเองไม่ให้ปลิว อีกข้างโอบรอบคอเด็กหวานที่กำลังยิ้มร่าเริงจนเห็นไรฟันสีขาว แขนที่สอดอยู่ใต้ขาผมเกร็งจนกล้ามเนื้อขึ้นเป็นเส้นจนน่าอิจฉา ดูเทียบกันแบบนี้เหมือนมันกำลังแบกหมาตัวใหญ่ๆมากกว่าผู้ชายหนึ่งคน ตัวกูยิ่งดูเล็กเข้าไปใหญ่เลย
ห่า
รูปแบบนี้ไม่ต้องถ่ายก็ได้มั้ง
_ _ _ _
23.31 ผมแต่งตัวอย่างลวกๆแล้วมานั่งเช็ดผมให้แห้งอยู่ปลายเตียง พลางรื้อของออกจากกระเป๋าเป้ อันนี้ต้องลงตะกร้าซักผ้า อันนี้ชุดยังไม่ได้ใส่ แล้วนี่อะไร เสื้อยืดใครวะเนี่ย ผมเอานิ้วคีบออกมา.. ต้องเป็นของไอ้เชี่ยอาร์ตแน่ๆ แม่งเมาแล้วเอาอะไรมายัดใส่กระเป๋ากูเนี่ย โอ้ยย
ในระหว่างนั้นสมุดเล่มเล็กก็ตกลงมา
พี่วิน <3
043 ใครมาเติมหัวใจหลังชื่อผมวะ
ผมเอื้อมมือหยิบสมุด พอดีกับที่เหลือบเห็นหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงแจ้งเตือนว่ามีไลน์เข้า
ถ้าแจ้งเตือนหน้าจอต้องเป็นไลน์ส่วนตัว ส่วนกลุ่มเพื่อนที่มีกันหลายๆคนผมตั้งไว้ว่าให้ขึ้นเตือนที่ไอคอน
เออ ดูไลน์ก่อนก็ได้วะ
ผมเลื่อนมือไปกดอ่าน
นายหวาน : ไม่ตอบหน่อยเหรอครับ อ่านนานแล้วนะ
นายหวาน : นั่นแน่ะ อ่านอยู่นี่นา!
ไอ้เด็กนี่… ผมกดพิมพ์กลับไปเร็วๆ
Wynn_Tect : รู้ดี
นายหวาน : กว่าจะตอบนานจัง
Wynn_Tect : รีบเหรอ? กูไม่รีบนะ
นายหวาน : ผมรอได้ พี่ล่ะรอได้รึเปล่า
Wynn_Tect : เชี่ยอะไรของมึงเนี่ย
นายหวาน : ไปล่ะ
แล้วบทสนทนางงๆ ก็จบลงแค่นั่นแหละครับ
มันประสาทรึเปล่าวะ
ผมเลื่อนอ่านไลน์ในกลุ่มสุมหัวทำชั่วอีกนิดหน่อยแล้วก็หันกลับมาสนใจสมุดกระจกที่วางอยู่บนเตียงต่อ
ผมนอนพังพาบไปกับเตียง มือก็เปิดสมุดอ่านอย่างตั้งใจ
จะว่าไปก็มีคนมาเขียนสมุดผมเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
คิดถึงคลาสติวฮิสทรี่ก่อนไฟนอลของพี่วินมากกกก
/หนุงหนิง#2
หนักเหรอวะพี่ หายหน้าไปเลย สมาคมบอลวันอังคารรออยู่นะ
/กอล์ฟ#4 แหม่ ให้กูได้มีเวลานอนมั้ย
พี่วินน่ารักก จะแอบแอดไลน์ไปนะคะ
/ปีหนึ่งคนนึง
ขอบคุณค่าที่เลี้ยงไอติม
/นิว#1
หล่อกว่าเดิมอ่ะ มีแฟนหราาาา
/ไม่บอกหรอกว่าใคร
#น้ำวินไอ้ชิบหาย แฮชแท็กเชี่ยอะไรเนี่ยยย
เฮียยยย
ติวเอนเทกให้ด้วยยยย
/น้องเต้ของเฮียเอง
พี่วินไม่ใส่แว่นแล้วอ้ะ เสียดายจัง
#ชอบหนุ่มแว่น
โสดแล้วจีบได้มั้ยคะ ฮะอิ้ววววว
หมิว#4
พี่วินคือพี่ที่เป็นลมตอนว้ากป่ะ
เห็นไม่ชัด แต่รักสุดใจ
/ได้แต่แอบมองอยู่แถวหน้าสุดห่า กูว่าแล้ว น้องจำกูได้เพราะแบบนี้แหละ
อยากอยู่สายรหัสนี้อ้ะ
จิ๋ว#1
แวะมาหาพวกผมบ้างดิ่
เอก#3
ตอนเป็นลมก็น่าร้าก
ตอนเล่นเกมยิ่งน่ารักใหญ่เลยยยยยยย
/ปี1
ปอนด์#2มาเยือน!
พี่วินเข้าคณะบ่อยๆ หน่อย คิดถึงงงงง
/ทีมพี่วินผมนั่งอ่านข้อความต่อไปเรื่อยๆแล้วหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะพลิกไปถึงหน้าสุดท้าย
ไอ้คนเขียนหน้าถัดไปมันคือใครรรรรรร →
/พี่วินของกูววววว หือ?
ผมรีบไล่สายตาตามลูกศรไปยังกระดาษฝั่งขวามือ
แล้วก็เจอเข้ากับลายมือยุกยิกไม่คุ้นตา
ให้เบอร์ไป คงเอาไปไว้ไหนแล้วไม่รู้
เห็นว่าคราวนี้แจกเบอร์ให้เองกับมือหรอกนะ
ปล. ตอนหลับน่ารักดีนะครับ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นโผล่ขึ้นมาในหัวแบบไม่ต้องสืบ
ไอ้เด็กหวาน! _ _ _ _
แฮ่ ตอนที่ 9 มาแล้วค่า
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ หวังว่าจะสนุกไปด้วยกัน
ยินดีต้อนรับทุกคำติชมนะคะ

/วินเป็นคนซีเรียสกับงานเกินไปง่ะ จะป่วยก็เพราะแบบนี้
/อาทิตย์นี้วินกลับมานอนที่บ้านนะฮะ ให้เวลาให้ฮีอยู่กับครอบครัวบ้างเนาะ
/โปรเจ็กท่วมแน่วิน กลับไปวันจันทร์น่ะ
ไปปั่นต่อละค่ะ
รัก
