ความเสี่ยงที่ 12
ผมล้างมืออยู่ที่เคานเตอร์หลังคุณหมอล้างแผลให้แมวจิ๋วเสร็จ
ให้ตายสิ เห็นแผลทุกวันยังรู้สึกสยองไม่ได้ รอยที่โดนน้ำร้อนส่วนขาหน้ากับช่วงไหล่นั่นลึกไปถึงกล้ามเนื้อ ต้องอาศัยวิธีขูดเนื้อตายออก ใส่ยา แล้วรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเองจนแผลปิดสนิท อัดยาฆ่าเชื้อกันไป นี่ไม่นับแผลใบหูด้านซ้ายที่โดนตัดออกไปจนหมด ไม่แปลกหรอกถ้าแมวมันจะดิ้นจะร้องขนาดนั้น
ส่วนตอนนี้เหรอครับ โน่น ตัวโวยวายนอนครางครืดๆอ้อนอยู่บนตักของไอ้เด็กหวานที่ไม่รู้ไปสนิทกันเมื่อไหร่ที่มุมห้องโน่น พี่ผู้ช่วยบอกว่าไอ้หมอนี่โผล่มาตอนสิบโมงกว่า บอกว่าเป็นเพื่อนผมมาดูเคสแมวมัมมี่ มาด้อมๆมองๆริมกรงแล้วก็อาสาช่วยจับตอนคุณหมอจะล้างแผลให้ แหม่ คุณหมอนะคุณหมอ นัดกันไว้ซะดิบดีว่าวันนี้จะล้างแผลตอนเที่ยงๆ เจอไอ้เด็กนี่ปั๊บก็ลืมผมซะงั้น
“โอ๋ ไม่เจ็บแล้วเนอะ” เจ้าตัวพูดเสียงเบาๆขณะนั่งลูบหลังแมวตัวจ้อยไปด้วย
ผมปรายตาไปมองคนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังโอ๋แมวด้วยความหมั่นไส้ เด็กหวานอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดัง แค่จะมาคลีนิครักษาสัตว์จำเป็นต้องเซ็ทผมมั้ย ดูกูนี่ เสื้อยืดย้วยๆหมายเลขสิบแปดกับกางเกงบอลขาสั้น บวกด้วยแว่นตากรอบหนาเพราะวันนี้ขี้เกียจใส่คอนแทคเลนส์และทรงผมส่งตรงจากที่นอน นี่ถ้าไม่ได้ใส่รองเท้าวิ่งมาด้วยก็เด็กส่งแก๊สชัดๆ
“ไหน หมดแรงเลยสิ ร้องซะลั่นเชียว” ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะย่อตัวลงด้านหน้าเก้าอี้ที่หวานนั่งอยู่ มองก้อนขนกลมๆที่ขดอยู่บนตักคนตัวสูง
“น่ารักเนอะครับ” หวานบอก
“อือ เงียบๆแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย จิ๋วเอ้ย” ผมว่าขึ้นก่อนจะเอานิ้วเขี่ยใบหูข้างขวาที่เหลืออยู่เบาๆ “จะหลับแล้วเนี่ย” ตัวแสบกระดิกหางอย่างรำคาญใจ
“ให้ไปนอนพักในกรงดีกว่า” ผมแนะนำ หวานพยักหน้าแล้วอุ้มลูกแมวที่กำลังส่งเสียงประท้วงขึ้นมาใส่มือผมอย่างเบามือ ตัวเล็กดิ้นนิดๆ แล้วร้องเมี้ยวขึ้นดังๆทั้งๆที่ตายังหลับอยู่
“ไอ้นี่… ขี้บ่นจัง” ผมว่าในขณะยืดตัวขึ้นแล้วเดินเอาแมวไปใส่กรง โดยมีเด็กหวานตามมาติดๆ
“หายเร็วๆล่ะจิ๋ว” ผมบอกขณะปิดประตูกรง “เดี๋ยววันจันทร์มาหานะ”
“พรุ่งนี้พี่ไม่มาเหรอครับ” หวานถามขึ้นอย่างเร็ว
“อืม” ผมตอบเบาๆ อีกฝ่ายพยักหน้าพร้อมเสียง อือ เบาๆในคอ
“แผลที่หูก็ไม่น่าเป็นอะไรค่ะ ก็ห่วงแต่ที่ขาขวาหน้ากับไหล่ คงต้องเอาเนื้อตายออกเรื่อยๆ” คุณหมอพูด “แต่ไม่ซึม กินเยอะอีกต่างหาก อึดอยู่ค่ะเจ้าตัวนี้”
“ค่อยยังชั่วครับ วันก่อนท่าทางแย่เชียว” ผมนึกไปถึงคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา เจ้าตัวแสบนอนแหม่บอยู่กับพื้นกรง เรียกก็ไม่ตอบ ตาก็ลอยๆคุณหมอบอกให้ทำใจ นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว
“แล้วคุณวินตั้งชื่อรึยังคะเนี่ย”
ผมส่ายหน้าดิก “ยังเลยครับ เรียกแต่จิ๋ว” พูดจบคนข้างตัวก็ขำพรืดออกมา ผมตวัดสายตาไปมอง “ขำอะไรล่ะ!”
“เปล่าครับ” เด็กหวานส่ายหน้ารัวๆ
“ถ้างั้นลงชื่อนี้ไปก่อนก็ได้ค่ะ น่ารักดีนะ แมวจิ๋ว” คุณหมอตอบแล้วเขียนลงใบประวัติอย่างอารมณ์ดี
“เอางั้นแหละครับ ฝากด้วยละกันครับคุณหมอ พรุ่งนี้ผมคงไม่ได้เข้ามา”
“แต่เดี๋ยวผมมาครับ” คนข้างตัวผมรีบแทรกขึ้น
“หือ?” ผมหันควับ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องล้างแผลใช่มั้ยครับหมอ” พูดแล้วก็พยักหน้าให้หมอหนึ่งที “เดี๋ยวผมมาช่วยจับเอง” แถมด้วยยิ้มกว้างให้ไปอีกหนึ่งดอก อื้อหือ มึงใช้ท่าไม้ตายเลยเหรอ
แล้วคุณหมอก็พ่ายแพ้ “ได้สิคะ ยินดีๆ” ตอบมันเฉยเลย
ได้ยินแบบนั้นมันก็หันก็หันมายักคิ้วใส่ผม
เออ อยากมาก็เรื่องของมึงเลย
_ _ _ _
“พี่ไปไหนต่ออ่ะครับ” มันหันหน้ามาถามผมหลังจากเราออกมายืนหน้าคลีนิก
“กูจะขึ้นรถไฟฟ้าไปวิ่งที่สวนตรงนู้น” ผมชี้มือ
มันก้มลงดูนาฬิกาแล้วขมวดคิ้ว “นี่มันบ่ายโมงกว่าแล้วนะครับ อยากเป็นมะเร็งผิวหนังเหรอ”
“ในสวนต้นไม้เยอะจะตาย วันนี้แดดไม่แรงด้วย”
“งั้นไปด้วยสิครับ” มันพูด ทำท่าจะออกเดิน
“เดี๋ยวๆๆ” ผมขัด “ว่างมากเหรอ งานไม่มีทำรึไง”
“เกือบเสร็จแล้ว นี่ทำมาตลอดสองวันเลยนะ นอนตีสี่มาสองคืนแล้ว” มันทำหน้าเหนื่อย “โมอยู่หลังรถ เอามาให้พี่ตรวจด้วยเนี่ย”
“เรื่องอะไรต้องตรวจให้วะ น้องรหัสกูก็ไม่ใช่”
“พี่ฟ้าบอกว่าให้ส่งมาให้พี่คอมเมนต์ พี่ฟ้าชอบงานป้าซาฮ่า ฮาดิด ไม่อินงานทาดาโอะ”
อ้าวเฮ่ย ทำไมโยนมาแบบนี้ล่ะครับอดีตแฟน
“อะไรวะเนี่ยยย”
“น่าพี่ เดี๋ยวไปส่งบ้านเป็นการตอบแทน”
“ไม่ต้อง”
“บ้านพี่ไกลจากตรงนี้จะตาย เดี๋ยวไปส่ง”
“กูขับรถไปเอง”
“โม้ละ ไม่เห็นมีรถใครเลย” มันชี้ไปที่ลานจอดรถข้างตึก รถที่จอดโดยไม่มีแผง “เจ้าหน้าที่” กั้นอยู่ก็มีแต่ BMW มันปลาบคันเดิมคันเดียวของเจ้าตัวนี่แหละครับ
แหม ช่างสังเกตนักนะ
“ไม่ได้จอดตรงนี้ จอดไว้คอนโดน่ะ”
“อ่อออ” หวานพยักหน้า “อยู่แถวนี้สินะครับ”
“อือ ตรงรถไฟฟ้าน่ะ” ผมชี้มือ “คอนโด N ตรงนั้นน่ะ”
“อ้อออ” มันหันมามองหน้าแล้วทำตาวิบวับ
“ดีเลย! งั้นผมไปนั่งรอพี่วิ่ง” ทำหน้าจริงจัง “ผมเอาคอมมาด้วยอยู่ในรถ เดี๋ยวนั่งทำเพลทพรีเซนต์เลยที่ร้านกาแฟ พี่จะได้ตรวจงานเลยทีเดียว”
ผมทำหน้างงใส่คนตัวสูงที่พูดเร็วปรื๋อ
“หะ..”
“ปะครับ ขึ้นรถ เดี๋ยวพาไปส่งที่สวน” หวานกดรีโมทปลดล็อคประตู
“อะไรของมึงเนี่ยยยย”
“ก็นี่ไงครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่สวน พี่ไปวิ่ง ผมนั่งทำงาน พอพี่วิ่งเสร็จก็มาตรวจงานผม พอจบแล้วผมก็ไปส่งพี่ที่คอนโด โห โคตรลงตัว” มันสรุปง่ายๆ แล้วเปิดประตู
“ขึ้นไปสิครับ เดี๋ยวแดดร้อนนะ” พูดจบก็ดันหลังผมให้ขึ้นรถ ปิดประตูให้อีกต่างหาก นี่มันเป็นรุ่นน้องหรือพ่อกูวะ บังคับกันจัง
เออ ได้นั่งบีเอ็มไปวิ่งว่ะ ไม่ต้องเปลืองตังค์ขึ้นรถไฟฟ้าเอง
ดีเหมือนกันล่ะมั้ง
_ _ _ _
14.56หอบแฮ่กสิครับ
สรุปสถิติที่ทำได้วันนี้ คือ 5.3 กิโลเมตรในหนึ่งชั่วโมง เคยฟิตกว่านี้นะไม่อยากจะคุย แต่หลังจากร้างลาไปนาน ได้แค่นี้โดยไม่เป็นลมก็ถือว่าบุญโขแล้วล่ะครับ เหนื่อยเป็นหมาหอบแดด เหงื่อไหลเป็นน้ำ ครึ่งกิโลสุดท้ายนี่ขาสั่นหงึกๆ
ผมวิ่งเหยาะๆ ไปที่ทางออกสวน เอามือเสยผมเปียกๆ ไปด้วย
“โห ดูไม่จืดเลย” ไอ้เด็กปีหนึ่งที่ควรจะนั่งปั่นเพลทอยู่ที่ร้านกาแฟข้างๆ กลับมายืนยิ้มเผล่อยู่ที่หน้าสวนซะนี่ “นี่มารออุ้มเลยนะ นึกว่าจะเป็นลม” มันยิ้มตาหยี
“เป็นลมพ่องงงงง!!” ผมหอบไปด่าไป “แล้วมาทำไมตรงนี้เนี่ย! ไหนงาน! เสร็จยัง จะให้ดูมั้ย”
“รอให้หายเหนื่อยก่อนมั้ยครับ” ว่าแล้วก็บิดฝาขวดน้ำแล้วยื่นให้
ผมเบ้หน้า “มีสินบน กลัวกูไม่ดูงานให้รึไง”
“โธ่ ไม่ใช่สักหน่อย” คนตัวสูงแกล้งทำหน้าหงอย เชอะ เพราะกูรู้ทันล่ะสิ
“เหอะ” ผมคว้าขวดน้ำจากมือมันมาดึมอึ้กๆ “ให้ไว จะให้ดูงานก็เอามา”
มันฉีกยิ้มแก้มจะถึงหู
ไอ้พวกทำอะไรหวังผลเอ้ยยย
_ _ _ _
15.46“แล้วอันนี้อะไร จะเขียนทำไมยืดยาว” ผมเอานิ้วจิ้มหน้าจอ “ทำไดอะแกรมอธิบาย circulation เอาดิ่”
“อ้าว แล้วชั้นสองจะทำไงอ่ะ” หวานทำหน้างง
“อธิบายเป็นภาพ isometric ไง แล้วเขียนลูกศรเอา”
“เอออ จริงด้วยยยย”
ตอนนี้พวกเรามานั่งแช่แอร์อยู่ที่ร้านกาแฟใต้คอนโดผมครับ หลังจากกินน้ำพักจนหายเหนื่อยแล้วไอ้เด็กปีหนึ่งก็สารภาพว่างานยังไม่เสร็จ ขอต่อเวลาอีกครึ่งชั่วโมง (แล้วมึงจะเดินไปที่สวนทำแมวอะไรวะ) พร้อมเสนอว่าให้ขึ้นรถมันกลับคอนโดไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนแล้วค่อยมานั่งตรวจงานในร้านกาแฟใต้คอนโดนี่แทน
ผมที่กำลังคันตัวยุบยิบเจอข้อเสนอน่าสนใจแบบปฏิเสธไม่ลงเลยต้องตอบรับไปครับ เพราะสภาพผมนี่เรียกว่ายับเยินได้ที่ ได้อาบน้ำสระผมแล้วค่อยดีขึ้นหน่อย
ผมเลื่อนดูเพลทพรีเซนต์ในไฟล์ illustrator
“เนี่ย แล้วอันนี้มันเป็น narrative architecture จริงๆควรจะต้องทำ sequence chart เวลาเดินเข้าไปในตึกด้วย เติมเข้าไปตรงนี้ สัก 9 scenes” ผมขีดๆ ใส่กระดาษให้อีกฝ่ายดู
“โห..” มันมองหน้าผมอึ้งๆ
“อะไร มีเวลาตั้งเยอะ ทำไปดิ่ งานสตูส่งตั้งวันอังคาร”
“นี่พี่วินพูดมาเนี่ย เพลทผมจากสี่จะกลายเป็นสิบแล้วนะ”
ผมเบ้หน้าใส่
“ทำครับทำ” คนตรงข้ามรีบรับปากแล้วจดลงสมุด “แล้วโมเดลล่ะครับ” หวานชี้ไปข้างๆ
ผมหยิบโมเดลสีขาวขึ้นมาส่องซ้ายส่องขวา เออ เนี้ยบขึ้นเยอะเลย ทำดีๆ ก็เป็นนี่หว่า ตัดเข้ามุม 45 องศาซะด้วย น่อวว
“แก้ตามที่บอกแล้วนิ่ ก็โอเคแล้ว ไม่มีไร ให้ผ่าน” พูดจบก็วางโมเดลลงบนโต๊ะแล้วคว้าเอาอเมริกาโน่เย็นขึ้นมาดื่มต่อ
“เฮ่ออ นึกว่าจะต้องตัดใหม่อีกรอบซะแล้ว” มันถอนหายใจเบาๆ
“เห้ย นี่ตัดใหม่เลยเหรอ” ผมตกใจ
“อื้อ ไม่อยากแก้อ่ะ ตัดใหม่เร็วกว่า”
“เสียเวลามั้ยยย แทนที่จะเอาเวลาไปทำเพลทก่อน แล้วค่อยกลับมาแก้โม”
“ไม่อ่ะ มันคาใจ พอพี่คอมเมนต์เสร็จวันก่อนก็ตัดใหม่เลย” หวานหยิบแลปท็อปกลับไปวางไว้ที่หน้าตัวเองแล้วเริ่มคีย์ต็อกแต๊ก
“มึงก็เกินไป” ผมบอก “กูก็พูดไปตามที่คิดอ่ะ มึงไม่ต้องเชื่อทุกอย่างก็ได้ป่ะวะ”
ไอ้เด็กนี่จัดลำดับงานไม่เป็นรึไงวะ ควรทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนสิ นี่ดีนะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็น่าจะใช้เวลาอยู่
มันยิ้มๆกับคำบ่นของผมแล้วทำงานต่อ ไอ้เด็กนี่ รู้ร้อนรู้หนาวอะไรบ้างสิฟะ
Rrr…ผมกำลังจะอ้าปากว่ามันต่ออีกนิด แต่เสียงโทรศัพท์ก็แทรกขึ้นซะก่อน
ผมหยิบออกมากดรับสาย
“ว่าไงฟ้า” ผมทักหลังจากดูชื่อจากหน้าจอ
(วิน คุยได้มั้ยยย)
“ได้ๆ ว่างๆ” ผมตอบแล้วนั่งพิงลงไปกับพนักเก้าอี้ คนตรงหน้าเหลือบตาขึ้นมามองนิดหนึ่งแล้วก้มลงไปใหม่
(วินมีคอนแทคซัพพลายเออร์กระจก shop window สูงเกินสามเมตรมั้ยอ่ะ)
ผมคิด “สามเมตรเหรอ มีนะ แต่วินไม่แน่ใจว่าเบสผลิตอยู่ไทยรึเปล่า คุ้นๆว่าน่าจะอิมพอร์ตกระจก แต่เอามาประกอบในไทย”
(โหย นี่งานเร่งด้วยอ่ะ)
“เดี๋ยววินส่งให้สองเจ้าละกัน จำได้ว่าประมูลแข่งกันอยู่ ฟ้าลองติดต่อดู”
(จ้า ขอบใจมาก แล้วนี่ทำอะไรเสาร์อาทิตย์)
“ฮ่าๆ อยู่แถวนี้แหละ จะไปไหนล่ะ”
(ได้ว่างก็ดีแล้ว นี่ฟ้ายังทำงานอยู่เลย)
“สู้ๆ เก่งเกินก็งี้แหละ วันไหนว่างมากินข้าวกัน” ผมบอก
(เอาสิๆ เดี๋ยวฟ้าบอกวันว่าง ต้องพ้นช่วงนี้ไปก่อนล่ะ เดือดมาก อย่าลืมส่งคอนแทคให้เราหน่อยน้า ขอบใจมาก ต้องไปล่ะ บายย) ฟ้าบอกลาเสียงใส
“บายๆ”
ผมกดตัดสายแล้วค้นอีเมลล์หารายชื่อผู้ผลิตอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดส่งไปให้ฟ้าในไลน์
“นี่พี่ฟ้า 012 เหรอครับ” หวานถามขึ้นมาทั้งที่ตายังจ้องคอมพิวเตอร์อยู่ ผมพยักหน้าหงึกๆตอบไปพลางดูดกาแฟในแก้วไปด้วย “พี่ฟ้าสนิทกับพี่วินจังนะครับ”
“ฮ่าๆ ต้องสนิทดิ่” ผมบอก
มันเลิกคิ้ว “เป็นแฟน?”
“อือ..เคยเป็น” ผมตอบเรียบๆ พลางขยับหลอดในแก้วกาแฟ หวานหยุดพิมพ์กึกแล้วเงยหน้ามองผมตาโต
“ฮ่าๆ ทำหน้าตลกว่ะ มึงจะตกใจอะไรขนาดนั้น” ผมพูดขำๆ
“ตกใจดิ่ ผมแซวเล่นไปอย่างงั้นแหละ ใครจะนึกว่าเป็นเรื่องจริงล่ะ” มันตอบหน้าอึ้งๆ “แต่เคยเป็น… งั้นตอนนี้..”
“โสด แต่เสียใจด้วย ฟ้าเขาไม่ชอบคบเด็ก เพลทถึงไหนละ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“ว้าา เขาว่ากินเด็กแล้วเป็นอมตะนะ” หวานทำหน้าเสียดาย
“เอามาให้ดูเลยเร็วๆ” ผมเร่ง เด็กหวานเลยรีบเลื่อนคอมพิวเตอร์กับเมาส์มาให้
ผมนั่งเท้าคางตรวจสไลด์พรีเซนต์
“อืมมม อันนี้โอเคแล้วแหละ แต่อันนี้เอาไปแต่งช้อปหน่อย สีมันโดดไป” ผมชี้ไดอะแกรม
“ได้ครับ ปรับ white balance เอาละกัน”
ผมพยักหน้าตอบ “นอกนั้นไม่มีอะไรละแหละ”
“โอเคคค” หวานตอบเสียงดีใจ “เดี๋ยวผมทำเสร็จส่งให้พี่ดูนะ”
“อื้อ” ผมเลื่อนคอมกลับไปให้
“โปรเจ็กต์นี้ A ลอยมาแหงๆ” หวานพูดยิ้มๆ
“ลองไม่ได้ดูดิ่ กูนี่แหละจะตามไปเตะ”
“ฮ่าๆ เก็ทเอแน่ๆครับ สัญญา” มันกดเซฟงานแล้วพับหน้าจอลง
“ขอบคุณมากนะครับ” เด็กหวานยิ้มตาหยี
“เออ ไม่เป็นไร จริงๆ งานมึงก็ดีอยู่แล้วแหละ กูแค่เพิ่มเติมอะไรนิดๆหน่อยๆ แค่นั้นเอง”
ไม่อยากชมมาก เดี๋ยวแม่งเหลิง
“ยังไงพี่ก็ช่วยผมนี่”
“ฟ้าฝากมานี่หว่า” ผมบ่น
“แล้วถ้าพี่ฟ้าไม่ฝาก”
“มึงก็ไลน์มาถามงานกูอยู่ดีน่ะแหละ!” ผมโวย
ไอ้เด็กตัวดีหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี “พอละ มึงกลับไปทำงานต่อ เดี๋ยวกูก็จะกลับบ้านละ”
ผมลุกขึ้นรวบแก้วพลาสติกบนโต๊ะ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทิ้งลงถังขยะข้างๆ
“คร้าบ คร้าบ” หวานพูดแล้วก็เก็บคอมพิวเตอร์ลงกระเป๋าสะพาย
ผมมองคนตัวสูงที่กำลังยืนนิ่งชั่งใจกับกองกระดาษกับโมเดลบนโต๊ะอยู่พักหนึ่ง คงกำลังคิดว่าจะหอบไปยังไงดีโมเดลถึงจะไม่พังและกระดาษไม่ยับ(ไปมากกว่านี้) ผมก็เดินมาคว้าเอาโมเดลลูกรักผลผลิตจากการอดนอนของมันมาถือไว้ให้
“ไปดิ่” ผมพูดหน้าเรียบ
.
..
“ถือให้”
มันยิ้มกว้าง
ทำไม
การที่ผมมีน้ำใจกับรุ่นน้องมันน่าแปลกนักรึไงเล่า
_ _ _ _
21.40 “กูไม่ไปปปปปปป” ผมพูดเสียงยานใส่โทรศัพท์ตอบอาร์ต เสียงล้งเล้งจากลำโพงบอกได้ว่าอีกฝั่งกำลังปาร์ตี้อยู่อย่างเมามัน นี่พวกมันไม่เหนื่อยกันเหรอครับทำงานเนี่ย ผมล่ะอยากจะฝังตัวเองลงที่นอน นี่ก็นอนกลิ้งกลุกๆ อยู่หน้าทีวีกับเตี่ยกับม๊า
(ทำไมมึงอนามัยจังว้าาาาา หรือเพราะกูไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัท AA เลยไม่ได้สิทธิ์ดินเนอร์ ฮ่าๆๆๆ)
ห่า...ไอ้น้ำปากสว่างสินะ
“สัสอาร์ต” พูดจบนี่ม๊าหันหน้าขึ้นมามองควับ ขอโทษครับ ไอ้อาร์ตมันกวนตีนลูกม๊าก่อนอ่ะ
(แหมๆ เดี๋ยวนี้ไม่มาเจอเพื่อนเจอฝูง พวกกูมันไม่สำคัญแล้วสินะ ฮึก) มันทำเสียงงอน
“ไม่ต้องอ้อร้อ กูไม่ไป จะอยู่บ้าน” ประกาศกร้าว
(โด่ว) แว่วเสียงไอ้เฟิร์สว่า ตี๋ๆ ถ้ามึงจะออกมาพวกกูไปรับบบบ
“ถุยเถอะครับ เดินให้ตรงมั้ย” ผมถอนหายใจ “พวกมึงเถอะ กินกันเพลาๆหน่อย ออกแม่มศุกร์เสาร์อาทิตย์ ตับน่ะแข็งเป็นหินแล้วแสด”
(เอ้อ แล้วไอ้น้ำอยู่กับมึงป่ะ) อาร์ตถามขึ้นอย่างไม่สนใจคำบ่นก่อนหน้า
“หือ ไม่นะ กูอยู่บ้านเนี่ย”
(อ้าว เดาผิดว่ะ แล้วทำไมกลับบ้านวันนี้เนี่ย นึกว่าคืนนี้จะไปนอนคอนโดมึงซะหน่อย อดเลอ)
“ห่า”
(เออๆ ไม่ไปก็ไม่ไป มึงก็กลับบ้าน ไอ้น้ำก็หายหัว กูโทรไปแม่งไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน หายไปไหนของแม่งก็ไม่รู้ วันหยุดแบบนี้ไม่น่าพลาดนะจริงๆแล้ว)
ไอ้หน้าหล่อประจำกลุ่มคงหลบไปทำใจเรื่องอดีตแฟนมีคนใหม่อยู่ละมั้ง ผมคิด
“มันคงยุ่งๆอยู่มั้ง เห็นว่าโปรเจ็กต์เร่ง” ผมตอบปัดๆ “มึงก็อย่าแดกเยอะ กูไม่ได้อยู่คอนโดให้มึงทิ้งตัวนะ ให้ไอ้พีทมันไปส่งบ้าน ไม่งั้นก็นอนบ้านแม่งแหละ”
(ครับพ่อครับ ไปละ ติดตามในกรุ๊ปละกันนะครับ) แล้วมันก็ตัดสายไป
ไอ้พวกนี้เที่ยวได้แม่งทุกอาทิตย์จริงๆ.. ผมนอนบิดขี้เกียจ
“เหล้าก็อย่ากินเยอะ” เตี่ยพูดขึ้นลอยๆ
“นานๆจะกินทีน่า แพ้เหมือนเตี่ยนั่นแหละ” นี่ดีหน่อยนะครับผมแค่ตัวแดงๆ คันๆ แต่เตี่ยเนี่ย ทั้งผื่นทั้งลมพิษ แพ้แอลกอฮอลล์เต็มรูปแบบ ผมเลยไม่ได้แตะของมึนเมาเลยจนกระทั่ง.. นั่นแหละครับ เข้ามาเรียนสถาปัตย์เนี่ย
เพื่อนแนะนำความจังไรทั้งน้านน
“แล้วนี่อาร์ตชวนไปเที่ยวเหรอ ไม่ไปกับเพื่อนล่ะ” ม๊าถามขึ้น
“อ้าว นี่ลูกอยู่ติดบ้านนะไม่ดีเหรอม๊า กลางอาทิตย์ยังบ่นอยู่เลยว่าให้ผมกลับบ้าน” ผมลุกขึ้นมานั่งงง
“ออกไปแล้วกลับมานอนบ้านสิ”
“ไม่อ่ะม๊า วินขี้เกียจ เพิ่งเจอกันมาเอง นี่อยู่คอนโดแม่งก็มากันบ๊อยบ่อย อยากให้มันช่วยหารค่าไฟด้วยเลยเนี่ย” ผมพูดปัด “อยู่บ้านเป็นตัวเกะกะเตี่ยกะม๊าดีกว่าาา” ผมพูดอ้อน
“โว้ เกะกะตั้งกะเด็กแล้ว เบื่อหน้า!” ม๊าแกล้งบ่นเสียงดัง ทำเอาเตี่ยกับผมหัวเราะเสียงดัง
“เออ พรุ่งนี้ตอนบ่ายๆเตี่ยกับม๊าจะไปดูละครเวทีนะ อาแปะใหญ่จองบัตรไว้” ม๊าทำท่านึกขึ้นได้
“อ่าว” ผมร้อง
“ลื้อก็เฝ้าบ้านไป” เตี่ยสรุปหน้าที่ให้
“โธ่ วินอุตส่าห์กลับบ้าน”
“อยู่บ้าน ทำอย่างอื่นนอกจากงานซะบ้างเถอะลื้อน่ะ”
ผมพยักหน้าหงึกๆแล้วเลื้อยลงไปนอนกับพื้น "ก็ด้ายยย"
บ้านผมเป็นแบบนี้แหละครับ โลกส่วนตัวสูงทั้งบ้าน เจอกันแป๊บๆพอให้หายคิดถึงเท่านั้นแหละ
นี่กลับบ้านมาใช่จะมีกิจกรรมอะไรร่วมกันนอกจากกินข้าว ตอนนี้อยู่ด้วยกันทั้งบ้านก็จริง แต่ผมกำลังผมนอนพังพาบแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นๆ อ่านโน่นอ่านนี่ไปเรื่อย ปล่อยเตี่ยนั่งอ่านหนังสือบนโซฟาตัวใหญ่ ส่วนม๊าก็นั่งดูละครหลังข่าวไป ใครอยากทำอะไรทำครับ เอาที่สบายใจ อยากไปไหนก็เชิญ กลับดึกได้ไม่มีเคอร์ฟิว แค่อย่าให้มีเรื่องถึงตำรวจก็พอ
อิสระเกินครับ พูดเลย
เออจะว่าไป ไอ้น้ำมันไปอิสระอยู่ไหนวะ
ถ้าอาร์ตมันโทรไปไม่รับ ถึงผมโทรไปแม่งก็คงไม่รับเหมือนกัน
เอาวิธีนี้แล้วกัน
ผมกดไลน์ทักไป
Wynn_tect : มึงอยู่ไหน ไปแดกกับพวกแม่งป้ะ
ไม่ถึงสองนาที หน้าจอผมก็โชว์ข้อความใหม่
อ้าว มันก็ตอบไลน์นี่?
Nahm_Tect : ไม่ได้ไป
Nahm_Tect : กูพาแนนมาดูหนัง ร้องอยากดูมานานละ มิน่าเลยไม่ได้รับโทรศัพท์
อ้ะ แต่แนนที่ว่าเนี่่ย ไม่ใช่เด็กในสต็อกมันหรอกนะครับ น้องสาวแท้ๆของไอ้น้ำนี่แหละ ตอนนี้อยู่ปีสองแต่คนละมหาลัย ใสกิ๊ง น่ารัก ตากลม คิ้วเข้มเหมือนพี่มันในเวอร์ชั่นขาวกว่าหน่อย ไอ้เต้น้องผมเคยเห็นรูปในเฟสแล้วขอจีบ โดนไอ้น้ำไล่เตะรอบโรงอาหาร ไม่รู้จะหวงไปไหน นี่ผมเองยังเคยเจอแค่สี่ห้าครั้งเอง
Wynn_tect : อ๋ออ
Wynn_tect : แหม คุณพี่ชายที่แสนดี
Nahm_Tect : มึงจะออกไปเหรอ เดี๋ยวกูไปรับWynn_tect : เห้ย เปล่าๆ ถามเฉยๆ กูอยู่บ้านเนี่ย
ผมรีบพิมพ์ตอบไป
Nahm_Tect : เอ้า
Nahm_Tect : นึกว่าอยากก๊ง Wynn_tect : ไม่ก๊งว้อย! ถามไปงั้นแหละ กูไปละ
Nahm_Tect : 555555ผมอ่านแล้วก็โล่งใจ เออ มึงยังหัวเราะได้ก็ดีละ
ไม่ได้อกหักนี่นะ แค่สถานะชัดเจนขึ้น แต่ยังไงก็คงต้องใช้เวลาปรับตัว
ผมเลื่อนดูรูปในไลน์กลุ่มสุมหัวฯ สมาชิกก็หน้าเดิมๆ พีท อาร์ต บอย นัท เทพ เฟิร์ส พวกแม่งนี่จัดหนักกันแต่หัววันอีกละ
ว่าแต่ใครใจป้ำสั่งแบล็กเลเบลวะ ทีตอนสมัยเรียนกินกันแต่หงษ์ทอง ชิ รวยกันแล้วสินะ มีเงินหน่อยไม่ได้
ระหว่างกำลังไล่ดูเฟสคนอื่นสนุกๆ notification จากไลน์ก็ขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอให้ต้องกดเข้าไปอ่าน
Tawan R. : /แนบรูป
อยู่ที่เซี่ยงไฮ้แล้วเจอ Community Mall ครับ บรรยากาศแบบนี้ผมว่าโอเคเลย
ใช้เป็นแนวทางการออกแบบโครงการได้ไหมครับ ฝากให้ทางแบรนด์ดิ้งดูด้วยWynn_tect : ได้ครับ
Tawan R. : กวนวันเสาร์หน่อยนะครับวินWynn_tect : สบายมากคร้าบ พี่ตะวันต่างหาก เซี่ยงไฮ้เป็นไงบ้างครับ
Tawan R. : อยู่แต่ในตึกครับ ไม่ได้ไปไหนเลย นี่เพิ่งได้ออกมาเดินรอบๆโรงแรม เห็นตึกนี้สวยดีเลยถ่ายมาWynn_tect : โหย ที่นั่นจะห้าทุ่มแล้วนะครับ
ว่าจะบอกให้เที่ยวเผื่อ แต่สงสัยจะไม่มีเวลา
Tawan R. : ฮ่าๆ งี้แหละ พี่ชินแล้วWynn_tect : ถ้างานจะเยอะขนาดนั้น พี่รีบพักเถอะ
Tawan R. : โอเคๆ พี่ฝากโปรเจ็กต์ด้วยละกันผมจิ้มโทรศัพท์บอกลาลูกค้ารายใหญ่ แล้วก็มาส่องเฟสบุคต่อ
โว้ มีแต่คนออกไปเที่ยวแฮะ สงสัยเป็นเพราะอาทิตย์นี้มันปลายเดือน เงินเดือนออกกันล่ะสิ
“แน่ะ คุยกะใครอ่ะ” ม๊าถาม อ่าว นี่ไม่ได้ดูละครอยู่หรอกเหรอ
“ลูกค้าอ่ะม๊า”
“หยา ลูกค้าอะไรคุยดึกดื่น ไม่รู้เวล่ำเวลาเลย”
“เขาส่งรูปมาเป็นเรฟเฉยๆ คุยนู่นนี่อีกนิดหน่อย” ผมลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ
“นี่ลูกค้า VIP สุดๆๆๆ เลยนะม๊า เลยต้องดูแลหน่อย”
“อย่างลูกจะไปดูแลใคร ตอนมีแฟนยังไม่ค่อยเห็นเทคแคร์เลย” ม๊าสวนขึ้นทันควัน
“เกี่ยวอะไรด้วยเล่าา” ผมทำหน้าบุ่ย
“แล้วหนูฟ้าเป็นไงบ้างล่ะ นี่เขามีแฟนใหม่ยัง” จู่ๆเตี่ยก็ถามขึ้นทั้งๆที่ตายังมองอยู่ที่หนังสือบนตัก
“วันนี้ก็เพิ่งคุยกัน ว่าแต่วินจะไปรู้ได้ไงว่าเขามีแฟนใหม่ยัง”
“ไหนว่าคุยกัน ไม่รู้เลยรึไงเล่า”
“เหอะ” ผมส่งเสียงในคอ “ก็คุยกันแต่เรื่องงาน ไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัวนี่นา”
“โถ ลูกโดนหญิงทิ้ง” ม๊าพูดลอยๆ
“เฮ่ยยย ไม่ใช่ดิ่ม๊า นี่่ตกลงว่าเลิกกันไงงงง วินไม่ได้โดนทิ้งง” ผมร้องเสียงหลง
“ก็มีแฟนซะทีสิ” ท่านแม่ชี้ทางสว่าง
“หาาา”
“ตกใจทำไม ม๊าก็อยากให้ลูกมีคนดูแลไง ยิ่งบ้างานอยู่ เดี๋ยวอายุสั้น” นี่ม๊าแช่งผมรึเปล่าครับ
ผมนวดขมับตัวเองหนึ่งที “ไม่เห็นเกี่ยวเลย นี่วินก็ดูแลตัวเองอยู่นะ อีกอย่าง..ผู้ชายก็ต้องดูแลผู้หญิงสิม๊า”
“เกี่ยวกับผู้ชายผู้หญิงที่ไหน มันต้องดูแลกันและกันต่างหากล่ะ ไอ้ลูกหมาเอ้ย” เตี่ยแทรกขึ้น
จู่ๆ ก็พูดคำคมนะเตี่ยเนี่ย
“ครับครับ พรุ่งนี้จะรีบหาลูกสะใภ้ไว้ดูแล เตี่ยกับม๊าไม่ต้องเป็นห่วงเลยยยยย” ผมรับคำแล้วลากเสียงยาวยืดดดดด ทำเอาทั้งสองคนส่ายหน้าด้วยความเอือมลูกชายตัวเอง
อะไรล่ะครับ
ไม่เชื่อผมรึไง?_ _ _ _

ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันค่ะ
เย้ พาตี๋วินกลับมาแล้วค่ะ
/เอาหัวซบคนอ่าน
คิดถึงบรรยากาศวงเหล้ากันมั้ยคะ พักนี้ไม่ได้พานายวินไปเจอเดอะแก๊งค์เลย
หวานก็ต้องส่งงาน คุณตะวันก็ไปประชุมต่างประเทศ นายน้ำก็หลบไปรักษาแผลใจ ส่วนอาร์ตกับพีทนี่ก็ยังตั้งมั่นกับการออกเที่ยวกลางคืน
นายวินก็ทำงานหนักราวกับไถนา
คนเขียนก็งานท่วมเหมือนกัน หาเวลาปั่นได้ยากเหลือเกิน
จะรีบมาต่อนะคะ
เลิ้บบบ
