- LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽  (อ่าน 128134 ครั้ง)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
วินอ้อนน้องงงงงง
ครุคริๆกันน่ารักน่าชัง
ผิดหวังกับคุณตะวันจริงๆอุตส่าห์เชียร์มาตลอด จะจีบก็น่าจะจีบตรงๆทำแบบนี้เสียคะแนนหมด
น้องหวานลอยลำไม่เห็นฝุ่นละเนี่ยะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณตะวันไม่เนียนเลยค่ะ นัดกินข้าวเฉยๆยังไม่หัวร้อนเท่านี้  น้องหวานสู้ๆ  :mew1:

ออฟไลน์ knxiiviii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องหวาน หนูช็อกไปแล้วหรือยังคะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ xkoxko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฟินจวางงงงงง :katai2-1:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ kstation

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โดยนิสัยคุณตะวันไม่น่าใช้วิธีแบบนี้เลยพลาดมาก ๆ  :katai1: ทำอะไรน่าจะตรงไปตรงมา จะจีบเขาก็น่าจะบอกเขาไปตรง ๆ ซะ :m31:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อ้าวววว คุณตะวันนน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โธ่ คุณตะวันไม่น่าแต่งเรื่องเลย ตอนนี้เจ้าหวานได้คะแนนไปเต็มๆ

ออฟไลน์ Mukk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เจ้าหวานมาแรงมากค่ะตอนนี้ 555555555 หยอดคนพี่เป็นขนมครกเลยนะ แหมมมมม  :-[ วินก็ใจอ่อนลงเยอะเลย ยอมมาชาร์ตแบตกับน้องหวานแบบนี้ 555 พี่ตะวันที่พูดแบบนี้เพราะอยากใกล้ชิดวินตอนทำงานสินะ เสียใจด้วยนะพี่ แต่งเรื่องแบบไม่เนียนก็ต้องโดนกันไป ถ้าเราเป็นวินก็คงโกรธเหมือนกัน :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vilcious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เเงง เราทีมคุณตะวัน!! ป๋าขาสู้ๆค่า เดี๋ยวมันต้องมีจุดพลิก...พลิกตี๋วินมาใต้ร่างคุณตะวัน!!!!

ออฟไลน์ arakanji

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก
ภาษาดีมาก
เชียร์น้องหวานสุดใจ
กินเด็กเป็นอมตะค่ะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะค่ะ
อยากให้พิมพ์เป็นหนังสือจังเลยอยากเก็บค่ะ
มาต่อเร็วๆนะค่ะ^^

ออฟไลน์ Faxh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หวานหวานอยู่ดีๆ ก็ได้แต้ม   :katai2-1:

ออฟไลน์ Faxh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึเจ้าหวานแล้วววว  :L2:

ออฟไลน์ peach_p

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบทุกพาร์ทที่ตี๋วินอยู่กับน้องหวานมากๆเลยอ่ะ มันแบบละมุนใจยังไม่รู้อ่ะ ชอบมากเลยค่ะ
เชียร์น้องหวานขาดใจเลย :-[

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 24

8.05
วันอังคาร

“ให้ไวเลย เอกสารครบมั้ยเนี่ย” ผมยืนกอดอกพิงรถในลานจอดคณะดูเด็กปีหนึ่งในชุดนักศึกษาเต็มยศรวบเอกสารกับหนังสืออ้างอิงที่ผมแนะนำไว้จนเต็มอ้อมแขน

“ครบแล้วครับๆ” หวานนับจำนวนกระดาษแล้วปิดประตู “ขอบคุณนะครับพี่วิน ให้ยืมชุดด้วย” มันยิ้มตาหยี

“มีเวลาก็ไปเปลี่ยนกางเกงซะ… ทำไมมันเต่อได้ขนาดนี้วะ” ผมบ่นปอดแปดพลางมองคนตรงหน้า ช่องว่างระหว่างขากางเกงกับข้อเท้ามันนี่แม่งไม่ให้เกียรติส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบห้าเซ็นของผมเอาซะเลย “ไปเตรียมตัวได้แล้ว เร็วเลย พรีเซนต์เก้าโมงใช่มั้ย อย่าลืมกินข้าวด้วย”

“ครับผม” หวานพูดแล้วเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม “ว่าแต่…”
“ขอกำลังใจหน่อยสิครับ”

“อะไร ไม่ต้องเลย” ผมย่นจมูกใส่คนเด็กกว่า “นี่ทั้งช่วยตัดโม รีวิวพรีเซนต์ ให้ยืมชุด จะเอาอะไรอีกฮึ”

“ว้าา… คนแถวนี้ใจร้ายจังเลย… ขอนิดขอหน่อยก็ไม่ได้” หวานแกล้งบ่นอุบอิบ
“น้าาา… นะครับ” มันอ้อนอย่างตั้งใจ

“ยุ่งยาก” ผมถอนหายใจพรืด ก่อนจะเอื้อมมือโยกหัวคนตรงหน้าไปทางซ้ายทีขวาที
“ช่วยเยอะขนาดนี้แล้ว... ถ้าไม่ได้เอมาล่ะน่าดู”
ได้ยินคำพูดผมไปมันก็ยิ้มกว้างอย่างน่าหมั่นไส้ สดใสเชียวนะเอ็ง

หวานจับมือผมออกจากหัวตัวเองแล้วกุมไว้หลวมๆ “ขอบคุณนะครับ… เดี๋ยวพรีเซนต์เสร็จจะโทรไปรายงานผล”
“แล้วเย็นนี้ไปทานข้าวกันนะ” 
 
“ดูก่อน” ผมว่าแล้วมองไปทางอื่น ก่อนจะต้องพูดขึ้นเสียงเขียว
“มือนี่ก็ปล่อยได้แล้ว จะไปทำงาน”

_ _ _ _

8.56

“หา!?” ผมพูดเสียงดังอยู่หน้าเคาน์เตอร์ออฟฟิศ “ของใครนะครับพี่จอย”

“ของน้องวินน่ะแหละค่ะ แมสเซนเจอร์มาส่งตั้งแต่แปดโมงครึ่งแล้ว”

ผมมองช่อดอกไม้สีขาวที่พี่จอยยื่นให้ในมืออย่างตกตะลึง
ไอ้ชิบหาย อะไรวะเนี่ย
ผมพลิกซ้ายพลิกขวาดูการ์ดใบกระจิ๋วที่แนบมาด้วย

T.R.

ลายมือหวัดๆ ด้านหลังเขียนไว้ว่าอย่างนั้น

“แหม… สาวที่ไหนกันนะ กล้าส่งดอกไม้ให้หนุ่มน้อยบริษัทเรา” พี่จอยพูดพร้อมนั่งเท้าคางมองยิ้มๆ

เฮอะ…
จะใครซะอีกล่ะครับ คุณตะวัน รัชยานนท์คนดังไงเล่า
ผมดึงกระดาษแผ่นเล็กออกก่อนจะยื่นช่อดอกไม้ให้คนตรงหน้า
“พี่จอยครับ ผมให้”

“เอ๋?”

“ครับ พี่เอาไปเถอะ” ผมพยักหน้ายืนยันตามที่พูด

อีกฝ่ายรับช่อดอกไม้ไปแบบงงๆ แต่ก็ไม่กล้าถามออกมา
ผมเลยได้จังหวะขอตัวไปนั่งทำงานที่โต๊ะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว 

ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้แล้วรึยังไง
จู่ๆ ก็มาดูถูกว่าไอ้อาร์ตเป็นเด็กฝึกงานดูไม่โปร ได้ฟังพรีเซนต์หรือก็เปล่า ตัวเองเป็นคนเทประชุมชัดๆ แถมไอ้ข้ออ้างเรื่องงานมีปัญหาแล้วจะให้ผมกลับไปคุมนี่มันน่าโมโหซะจริง

เขาเห็นผมโง่มากเลยใช่มั้ยวะ

อุตส่าห์มองว่าเป็นคนดี เป็นลูกค้าที่โอเค
แต่มาหาข้ออ้างแบบนี้มันห่วยแตกเกินไปหน่อย
เจอกันแต่ในงานก็แล้วกันนะครับคนแบบนี้

..

11.10

“เมื่อวานเป็นยังไงบ้างน่ะวิน” พี่ฝ้ายถามหลังจากผมเดินเข้ามาส่งรายงานการประชุม ทำเอาผมทำหน้าเหวอไปสองวินาที เรื่องมันเยอะเหลือเกินครับเมื่อวาน เป็นยังไงคืออะไรของเรื่องไหนนะครับ

“หายแล้วใช่มั้ย” อีกฝ่ายถามย้ำ

“เอ่อ… ก็โอเคแล้วครับพี่ ช่วงอาทิตย์ที่แล้วก็นอนน้อยด้วย น็อคเลย” ผมตอบอ้อมแอ้ม

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รักษาสุขภาพด้วย อย่าเครียดมากนัก”

“ครับ”

“ว่าแต่… งานโปรเจคใหม่ ที่รีเฟอร์มาจากฝ่ายอาคารเขียวนี่… เขาส่งผังมาให้แล้วใช่มั้ย”

“ส่งมาเมื่อวานแล้วครับ ช่วงเช้านี้ผมเอาลงเอ็กเซลไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลองรันตัวเลข ขอเวลาสักวัน”

“อืม ถ้าพี่จะให้วินเป็น PM โครงการนี้วินจะโอเคมั้ย งานจะโหลดรึเปล่าน่ะ งานของคุณตะวันโอนให้ฝ่าย Owner Representative กับ Construction Management ของคุณกิตหมดแล้วใช่มั้ย?”

“สบายมากครับ” ผมตอบพลางคิดเร็วๆ ถึงงานที่กำลังถืออยู่
“ที่ต้องยังทำอยู่ก็น่าจะแค่ประสานงานกับคอนเฟิร์มพวกพื้นที่ต่างๆ ให้ไม่หลุดเท่านั้นเอง ไม่น่าจะกินเวลาเยอะ ถ้าให้เริ่มโปรเจคใหม่เลยก็ได้…” พูดจนจบแล้วก็ต้องทำตาโต
“เอ๊ะ.. เฮ้ย เดี๋ยวนะ…ให้ผมเป็น PM อีกแล้วเหรอครับพี่ฝ้ายยยยย” ผมร้องโอดโอย

“เอ้า ใช่สิ ทำมาแล้วตั้งโปรเจคนึง กลัวอะไรล่ะยะ”

“ก็….” ไม่ได้กลัวอ่ะ ขยาดกับเจ้าของโครงการมากกว่า
“ประเด็นคือยังไม่จบโปรเจคด้วยซ้ำ พี่จะเอาอะไรมามั่นใจให้ผมรับเป็น Project Manager ต่อล่ะ งานของ AA นี่ผมทำเป็นยังไงบ้างยังไม่รู้ผลเลย พี่ลองประเมินก่อนสิครับ เอาตรงๆ”

“เฮ้ย ถ้าทำห่วยเจ้ซัดไปนานแล้วย่ะ” พี่ฝ้ายร้อง “ต้องโอเคสิ ทุ่มเทให้กับงานดี ตามติด ถึงจะมีหลุดๆ รายละเอียดช่วงหลังไปนิดหน่อยแต่ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับงานแรก” 

“โอย... ค่อยยังชั่ว” ผมถอนหายใจโล่งอก นึกว่าจะตกประเมินซะแล้ว
“งั้นถ้าพี่ฝ้ายว่าผมไหว ผมก็ไหวครับโปรเจคใหม่เนี่ย เอาจริงๆ ตอนนี้โครงการของคุณตะวันนี่ก็เริ่มอยู่ตัวละ งานเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ พอจะปล่อยมือได้ละครับ”

“ดีมาก งั้นพี่ขอรันตัวเลขดูภายในพรุ่งนี้เที่ยงสักสอง option ไหวป่ะ Case Study ด้วยสักสามที่”

“นั่น! ทำไมรีบล่ะครับ ผมเพิ่งได้เมลล์เมื่อวานเองนะ บรีฟก็ยังไม่มีอ้ะ” ผมตีหน้ายุ่งงอแงไปก่อน ทำเอาอีกฝั่งหัวเราะคิกคัก

“รู้หรอกย่ะ” พี่ฝ้ายบอก “เคสยังไม่ต้อง ขอดูตัวเลขอย่างเดียว พรุ่งนี้เย็นๆ ก็ได้”

“เฮ่ออ ตกใจหมดเลยอ่ะพี่ อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
“งั้นผมรีบไปทำงานก่อนละครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีส่งเจ้านายคนสวย” ว่าแล้วก็หยอดแถมให้หนึ่งที ทำเอาพี่ฝ้ายยิ้มเขินๆ

“ปากหวาน! บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าอ้อย เจ้เอาจริงแล้วเธอจะหนาว!”
   
_ _ _ _

14.50

(เดี๋ยวผมไปรับที่ออฟฟิศพี่ไงครับ)

“ไม่เอา ไม่ต้องเลย”

(อ้าว) หวานร้องเสียงลั่นผ่านโทรศัพท์
(ไหนจะทานข้าวเย็นกันไงครับ นี่ผมได้คำชมมาเต็มเลยนะ ต้องเลี้ยงข้าวที่ปรึกษาสิ)

“เมื่อเช้าบอกไปว่าดูก่อน… ยังไม่ได้รับปากว่าจะไปสักหน่อย” ผมเอาไหล่หนีบโทรศัพท์ไว้แล้วพิมพ์งานต๊อกแต๊กไปด้วย
“นี่งานก็เต็มมือไปหมด ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่”

(...)

ไม่รู้เพราะอะไรหน้าหงอยๆ ของคนเด็กกว่าก็ลอยขึ้นมาให้เห็นในความเงียบซะอย่างนั้น
ผมลอบถอนหายใจ ช่วยไม่ได้แฮะ…

“เออ… เดี๋ยวเย็นๆ จะบอกอีกทีแล้วกัน”
ผมบอกก่อนจะตัดสายไปหลังฟังคำตอบของอีกฝ่าย
ขอมองบนหน่อย… ก็ไอ้เด็กนี่ชอบดีใจจนโอเวอร์ทุกทีสิน่า

หวังว่าวันนี้จะได้เลิกงานตามเวลาละกันนะ



16.23

ผมพลิกดูการแจ้งเตือนในโทรศัพท์… แล้วก็ปวดหัวจี๊ดเลยแฮะ
ให้ตายเถอะ เคลียร์ไปหลายรอบ แต่ตัวเลขข้อความในไลน์ของคนที่ไม่อยากเปิดอ่านก็ยังโผล่มาเรื่อยๆ อยู่ดี

Tawan R. : วินครับ
Tawan R. : วิน
Tawan R. : พี่อยากขอโอกาสอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
Tawan R. : วินครับ ตอบพี่หน่อยนะครับ
Tawan R. : วินกำลังเข้าใจพี่ผิดนะครับ


งั้นเหรอ ผมว่าผมเข้าใจทุกอย่างนะ ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรน่าคุยต่อเลย
แต่ถ้าไม่ตอบ ตัวเลขแจ้งเตือนพวกนี้คงไม่มีทางลดลงได้แน่

Wynn_Tect : ไม่ทราบคุณตะวันอยากให้แก้ไขงานส่วนไหนเหรอครับ เดี๋ยวผมจะประสานงานให้

Tawan R. : วินครับ ฟังพี่ก่อนนะครับ


ผมถอนหายใจก่อนจะพิมพ์กลับไปเร็วๆ

Wynn_Tect : ถ้าคุณตะวันไม่มีรายละเอียดตรงไหนต้องแก้ไขงั้นผมขออนุญาตทำงานก่อนนะครับ พอดีผมติดประชุมยาว หากมีอะไรให้แก้ไขเพิ่มเติมรบกวนส่งเป็นเมล์มาได้เลยนะครับ ทางผมจะรับเรื่องแล้วประสานงานกับฝ่าย Owner Representative ให้ครับ

หลังข้อความขึ้นคำว่า Read ก็ผ่านไปหลายอึดใจ กว่าจะมีข้อความตอบกลับจากอีกฝ่าย

Tawan R. : โอเคครับ
Tawan R. : ถ้าวินยังไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ
Tawan R. : ยังไงก็หวังว่าวินจะชอบดอกไม้ที่พี่ส่งไปนะครับ


ผมกดปิดหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด
ให้ตาย ทำไมต้องมาเจอคนประเภทนี้ด้วยวะเนี่ย

_ _ _ _

19.45


“ก็ดี? ก็ดีเนี่ยนะ??”

ผมถามขณะหยิบไก่ทอดชิ้นหนึ่งวางลงในจานตัวเอง
หลังจากเด็กหวานโทรมาถามเวลาเลิกงาน เจ้าตัวก็สรุปเอาเองว่าจะไปรอผมที่คอนโดแล้วค่อยว่ากัน
กลับมาก็เจอร่างสูงมานั่งยิ้มเผล่รออยู่ในล็อบบี้ด้านล่างพร้อมอาหารที่ซื้อมาซะแล้ว
ทุกอย่างเลยมาจบลงที่โต๊ะทานข้าวกับเก้าอี้ตัวเดิมๆ ในห้องผมนี่แหละ

“อะไรวะ มันจะแค่ ก็ดี ได้ยังไง” ผมโวยใส่คนหน้ามึนที่ก้มลงไปเล่นหงุงหงิงกับจิ๋วที่อยู่บนตักหลังจากตอบเรื่องพรีเซนต์วันนี้ไปแบบแกนๆ ทำเอาผมหงุดหงิด ไม่สนแล้วไก่ทอดบอนชอนอะไรนี่ “บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลย”

เด็กหวานถอนหายใจแบบเซ็งๆ ก่อนจะตอบเสียงเบา “อาจารย์เก่งบอกว่าสเปซสวย แล้วก็ไปชมแต่ส่วนที่พี่ช่วยคิดอ่ะ ดีเทลตรง Facade ด้านหน้างี้ narrative ที่ทำไว้งี้… แล้วก็มัวแต่ไปสนใจโมเดลขยายตรงห้องนิทรรศการ… แล้วก็โดนเรื่องทรีดีซะเละเลย” 

ผมหัวเราะพรูดทำให้อีกฝ่ายหน้างอเข้าไปอีก
“ไม่เห็นขำเลยครับ”

“เพราะอย่างนั้นเลยมานั่งหน้าเป็นตูดแบบนี้อ่ะเหรอ” ผมพูดล้อๆ

“ก็ส่วนที่มันดี… มาจากพี่หมดเลยนี่ครับ เหมือนไม่ได้ทำงานเองเลย” หวานทำหน้าหงอย “ส่วนทรีดีที่ทำเองก็แย่ไปเลย”

“บ้าเหรอ” ผมเอานิ้วเคาะหน้าผากมันไปหนึ่งที “ช่วยคิดให้แค่นิดเดียวเท่านั้นล่ะ ไม่ได้แตะคอนเซปต์หลักกับสเปซเลยสักนิด”

“แต่ว่า…” คนเด็กกว่าตั้งท่าจะเถียง

“นี่…” ผมแทรกขึ้น “ที่เอางานมาปรึกษาน่ะ… อยากให้มันดีขึ้นไม่ใช่รึไง” ผมถาม
“ที่ทำก็แค่ให้ความคิดเห็นไปเท่านั้นแหละ คนที่ตัดสินใจปรับปรุงงานให้มันออกมาเป็นแบบนี้ก็ตัวเองทั้งนั้น โมเดลพวกนั้นก็ตัดตามแบบที่เขียนไว้แล้ว ส่วนเรื่องทรีดี คราวนี้รู้ว่าอ่อน คราวหน้าก็ปรับปรุง” ผมว่า “อยู่ที่ตัวมึงทั้งนั้นแหละ ทุกอย่างเลย”

“ก็จริงๆ แล้ว… ผมอยากทำด้วยตัวเองทั้งหมดนี่นา”  อีกฝ่ายยังคงยืนยันพลางเกาคอแมวที่อยู่บนตัก

“การมีคนมาช่วยทำงานให้เสร็จน่ะ มันไม่ได้แปลว่าห่วยสักหน่อยนี่” ผมอธิบาย “เขามาช่วยคือเขามีน้ำใจอยากจะช่วยให้งานเสร็จเร็ว” ผมว่าขึ้นพร้อมกับจิ๋วที่ร้องเหมียวขึ้นมาอย่างแสนรู้ “เห็นมั้ย จิ๋วยังเห็นด้วยเลย”

เมื่อเห็นเด็กโข่งหน้าบึ้ง เลยต้องอธิบายต่อ

“ข้อแรก… จำไว้เลยนะว่าถึงงานจะดีแค่ไหน แต่ถ้าเกินเวลาที่กำหนดล่ะก็สูญเปล่า เพราะอย่างนั้นนี่คือบทเรียนของการวางแผนงานบริหารเวลาและบริมาณงานให้พอดีกัน ข้อสอง คนที่มาช่วยเป็นแค่ลูกมือ ไม่ได้มีหน้าที่มาคิดแทนหรือก้าวก่ายแบบของเรา เขาแค่มาช่วยจบงานเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เจ้าของงานต่างหากที่ต้อง assign งานให้เป็น นี่คือแบบฝึกหัดสำหรับการสื่อสารและบริหารจัดการคนในทีม เข้าใจมั้ย...”   

“อา... ครับ” หวานตอบ

“แล้วทำไมยังทำหน้าแบบนั้น”

“ก็มันไม่เท่นี่…” มันก้มหน้าพูดอุบอิบ “ทำเสร็จด้วยตัวเองมันภูมิใจกว่า” ทำเอาผมต้องถอนหายใจพรืด

“ทำเสร็จแล้วนอนตายไปสามวันไม่ได้ทำอย่างอื่นแล้วมันจะเท่มั้ย” ผมถาม
“อีกอย่าง...มีคนมาช่วยแล้วไล่กลับ งานไม่เสร็จไม่มีส่ง นอกจากได้เอฟแล้วยังดูน่าสมน้ำหน้ามากกว่าเดิมอีก” อยากโบกหัวคนตรงหน้าซักที

“ยอมแล้วคร้าบ ยอมแล้วว” พอหมดหนทางจะแย้ง เด็กหวานก็หดคอยกมือแมวจิ๋วขึ้นสองข้างทำท่ายอมจำนนต่อคำพูด ทำเอาไอ้ตัวเล็กเงยหน้ามองร้องอืออาอย่างขัดใจ

“พอเลย จิ๋วเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย” ผมเอามือเคาะหน้าผากมันเบาๆ อีกที แล้วลุกขึ้นเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปรับเอาจิ๋วมาอุ้มไว้แทน   
“ว่าแต่….” ผมนั่งลูบหัวแมวไปด้วย ก่อนจะตัดสินใจถาม
“คือ… แล้วไหงยอมให้ฟ้าไปช่วยได้ล่ะ” อย่างว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยครับ คนมันสงสัยจริงๆ นี่นา….

“ก็… พี่ฟ้าเข้ามาซื้อกระดาษที่คณะตอนบ่ายสามเลยแวะมาทักที่สตู ทีแรกว่าจะเอาขนมมาให้ คงเห็นในกรุ๊ปสายรหัสน่ะครับ… แล้วก็โวยใหญ่เลยตอนผมบอกว่าเพิ่งส่งปริ้นท์แบบ โมเดลหลักก็ยังเพิ่งเริ่ม แถมไม่ให้คนช่วยอีก”

ผมหัวเราะเบาๆ “เจ้าแม่เลยปรี๊ดแตกสินะ”

อีกฝ่ายพยักหน้าหงึก “พี่ฟ้าบอกว่ามีงานต่อตั้งแต่แรกแหละครับ แต่ก็ยังลงมาข่วย ตอนสามทุ่มกว่าก็ลนลานแล้วว่าไม่ทันแน่ๆ สักพักก็หายออกไป ผมเข้าใจว่าจะไปเรียกคนอื่นๆ ในสายมาช่วยตัดโม ไม่รู้เลยว่าจะโทรหาพี่วิน พอเห็นพี่วิ่งมานี่ผมงงไปเลย”
“อ๊ะ แต่ผมก็ดีใจมากๆ เลยนะครับที่พี่มา” หวานรีบบอก 

“ก็ฟ้าโทรมา ร้องไห้ด้วย กูนี่โคตรตกใจ” ผมว่าแล้วก้มลงปล่อยจิ๋วลงกับพื้นห้อง “นึกว่าเป็นอะไรไปแล้ว แม่งเอ้ย ตัดโมไม่ทันเนี่ยนะ… ไม่เห็นจ--”
พอเงยหน้าก็เจอเด็กหวานยิ้มกว้างรออยู่แล้ว
ชิบหาย...

“เป็นห่วงผมมากเลยเหรอครับ” มันทำตาวิบวับ

“เพ้อเจ้อ…” ใช้เสียงเข้มนำไปก่อนแบบหวังว่าจะเห็นเด็กหน้าหงอย แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ

“แล้วที่แก้มแดงขนาดนี้ เขินหรือร้อนครับเนี่ย”
ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังเอื้อมมือมาทำท่าจะจับแก้มผมเข้าจริงๆ
ทำเอาต้องขยับหลบแล้วมองตาเขียว

ไอ้เด็กเลว…
“ร้อน! แอร์มันไม่ค่อยดีไง จะกินมั้ยข้าวเนี่ย! รีบๆ กิน รีบๆ กลับ ง่วงแล้ว!!”

“อ้าว นอนที่นี่ไม่ได้เหรอครับ” หวานร้อง

“ไม่ให้นอนว้อย กลับหอตัวเองสิ จะมาอยู่คอนโดกูทำไม” ผมโวยวาย

“ทำไมใจร้ายจังครับเนี่ย” มันตีหน้าเศร้า “เมื่อวานยังชวนผมขึ้นมาน--”

“พอเลย!! เมื่อวานก็ส่วนเมื่อวานสิวะ” ผมร้องเสียงดัง “วันนี้รีบกินแล้วก็รีบกลับไปได้แล้ว ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นด้วย!”
ไอ้ตี๋คนนี้จะไม่หลงกลสายตาลูกหมาของมันอีกเป็นอันขาดครับ บอกเลย

“ก็อ้อนไปเผื่อว่าจะโชคดี มีคนใจอ่อนยอมให้นอนด้วยนี่นา” หวานยกศอกขึ้นเท้าคางกับโต๊ะ “เหมือนที่โชคดีมีคนแอบมาทำแผลให้ตอนหลับอะไรแบบนั้น”

ถึงกับต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่ ส้นตีนละมึงเนี่ย!
“ไม่ได้เรียกว่าใจอ่อนโว้ย! รู้สึกสมเพชน่ะเข้าใจมั้ย! กลัวแผลมันจะติดเชื้อจนต้องตัดนิ้วทิ้งน่ะ”

นอกจากจะไม่สะดุ้งสะเทือนแล้ว เด็กหวานยังนั่งมองหน้าผมแล้วยิ้มจนตาหยี
“รู้มั้ย.. พี่วินทำอย่างนี้น่ะ…ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลย”

“ห้ะ”

“รักแล้วนะครับ”
“แล้วเรื่องนี้ใจอ่อนบ้างรึยัง”

โอ๊ยยยยยยย ไอ้เด็กหน้าด้านนนนนน

_ _ _ _

18.13
วันพุธ


หงุดหงิด หงุดหงิดเป็นบ้า

ไม่ใช่เพราะงานหรอกนะครับ วันนี้ทำทุกอย่างเสร็จตามที่คิดไว้ทุกอย่าง ได้กลับบ้านตรงเวลาอีกต่างหาก
จะได้กลับไปเล่นกับแมวจิ๋ว นอนดูซีรี่ย์สักสองตอนคลายเครียดอะไรแบบนั้น

ก็ดูเหมือนจะดี
แต่สาเหตุหลักน่ะเหรอครับ…

นั่นไง

ผมปรายตาไปที่อดีตดอกไม้ช่อสวยของผมที่ตอนนี้อยู่ในแจกันเคาน์เตอร์พี่จอย ระหว่างเดินออกจากออฟฟิศ
นี่ช่อที่สองแล้วนะครับ… สำหรับอาทิตย์นี้น่ะ
ทำไมคนเรามันเข้าใจอะไรยากจังวะ อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจรึยังไง
ผมไลน์ไปบอกให้หยุดส่งได้แล้ว แต่ที่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนยันจะส่งให้ จนกว่าผมจะยอมไปคุย ‘ปรับความเข้าใจ‘ กัน
เรื่องอะไรล่ะครับ...

Rrrr….
อาร์ต?
เอ๊ะ โทรมาตอนใกล้เลิกงานแบบนี้น่ะเหรอ...

“ว่า?”

(ไอ้ตี๋เพื่อนยากกกกกก เย็นนี้ว่างมั้ยจ๊ะ)   

“โว้ยย เบาหน่อย” ผมรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู “เสียงหวานขนาดนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”

(โอ๊ะ โอ๊ะ ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับเพื่อน) อาร์ตพูดเสียงดัง

“หรือไม่จริง ไหนมีอะไรว่ามาให้ไว”

(จะชวนไปแดกเหล้าครับ)

“นั่นไง ไม่เอา ไม่แดกแล้ว” ผมรีบพูด ซื้อหวยไม่ถูกงี้บ้างวะ

(กูว่าละ ไม่ต้องเลย มึงเดินลงมาจากตึกให้ไวเลย)

“หา…”
อย่าบอกนะ… ว่า….

(ไม่ต้องหา พวกกูจอดรถรออยู่ข้างตึกเนี่ย)

ไอ้ห่าาาาพวกนี้นี่แม่มมมม
“เชี่ย พวกมึงต้องเลิกทำแบบนี้ได้แล้ววว ไอ้ชิบหายย”

(มาให้ไวนะจ๊ะเพื่อน กูกับพีทรออยู่)

_ _ _ _
(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2018 21:53:20 โดย idee »

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
_ _ _ _

21.23

“มึงจะมานั่งหน้าบูดหน้าบึ้งหาอะไรล่ะเนี่ย นี่เน้นความสะดวกของมึงเป็นหลักเลยนะ”
ไอ้อาร์ตตัวแสบนั่งบ่นงึมงำแล้วตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

“พวกกูตามใจมึงสุดแล้ว” พีทพูดเสริมโดยมีน้ำพยักหน้าเป็นหน่วยสนับสนุน “ไอ้น้ำแม่งยังต้องตามมานี่เลย”

ผมมองแรงใส่เพื่อนสนิททั้งสามคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะอาหารพลางอุ้มแมวจิ๋วไปใส่กรง หลังจากเถียงกันไปมาถึงสถานที่สำหรับคืนนี้ไม่จบสักทีก็กลายเป็นว่ามาลงเอยเอากับการแวะซุปเปอร์ซื้ออาหารสำเร็จรูปง่ายๆ และสิ่งมึนเมาตามที่อยากจะกินกันคนละขวดสองขวด แล้วหอบหิ้วทั้งหมดที่ว่านั้นมาตั้งวงแบบพร้อมทิ้งตัวที่คอนโดผม 

ไอ้เชี่ยพวกนี้นี่…

“ว่าแต่ทำไมจู่ๆ ก็เรียกมากินหล้าวันพุธเนี่ย... แม่งต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ” น้ำพูดขึ้น “พวกมึงมีเรื่องอะไรให้อารมณ์ดีจนอยากจะปาร์ตี้เนี่ย วันกลางอาทิตย์แบบนี้ยุ่งจะตายห่า” น้ำพูดขึ้นพลางจิบเบียร์จากขวดไปด้วย

“นั่น! ถามได้ดี” อาร์ตดีดนิ้วเป๊าะ “วันนี้งานพวกกูผ่านฉลุยเลย พรีเซนต์ลื่นปรี๊ด ต้องฉลองหน่อย”

งานพวกมัน? ผมขมวดคิ้วแล้วนึกตาราง
อ้อ… วันนี้วันพุธ พวกมันไปประชุมเสนอ Mood and Tone รอบที่สองของโครงการนั้นนี่หว่า

“คอมเมนต์ออกมาดีเลยแหละ ตกลงเลือก Scheme ได้ภายในสองชั่วโมง ไม่มีเสียเวลา ฟันธงกันไปโช้ะเชะทุกรายละเอียด เดินหน้าทำต่อได้เลย ไม่ต้องแก้สักนิด” พีทเล่าบ้าง “แต่นี่กูก็ยังกังวลอยู่นะ ผ่านง่ายแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามีคำสั่งจากเบื้องบนขอเปลี่ยนแบบฟ้าผ่าอีก ยุ่งตายห่าเลย”

“มึงจะคิดมากอะไร มีคุณตะวันคอยหนุนอยู่ขนาดนี้ เออ… สงสัยแกจะรู้สึกผิดจากคราวที่แล้วเลยช่วยเคลียร์ข้อสรุปให้ แถมตอนจบคุณชายนั่นยังมาขอโทษกูที่เทประชุมไปคราวก่อนด้วยนะ อธิบายใหญ่เลยเขาว่าติดงานด่วนจริงๆ” อาร์ตยิ้มแก้มปริ

“แต่กูก็ยังกังวลอยู่ดี” พีทว่าแล้วยกขวดเบียร์ขึ้นดื่ม “มันประหลาดว่ะ”

“เฮ้ย แต่เขาพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะเลยนะว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง นี่ยังให้เบอร์ส่วนตัวมาด้วย บอกว่ามีอะไรให้อัพเดทเขาได้ตลอด เอ้อ ยังถามถึงมึงอยู่เลยตี๋ ตอนแยกกันน่ะ” 

หราาาาา...
นึกถึงเจ้าของโครงการแล้วผมก็เบ้หน้าในใจ ติดต่อเรื่องงานเหรอ เฮอะ...
แม่งเอ้ย ดอกไม้ช่อเบ้อเริ่มพวกนั้นอีก ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิ--

“อ๊ะ... อ๊ะ… ทำหน้าเหม็นเบื่อแบบนั้นแปลว่าอะไรครับเพื่อน” พีทยกนิ้วชี้มาทางผมทันที “เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่มีอะไรเว้ย” ผมรีบตอบ “ไม่มี” 

“ไม่เชื่อโว้ย” พีทว่า ทำเอาอาร์ตกับน้ำชะงักแล้วหันมาจ้องผมบ้าง

“ไม่มีจริงๆ” ผมยังคงยืนยัน “อะไรเนี่ย แดกต่อไปสิ”

พีทหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ “หรือว่ามึงไปพูดอะไรกับคุณตะวันนั่นมา”
“บอกมาเลยมึง มีอะไร” มันย้ำ

โอ้ย อย่ากดดันกู
“เอออออออ…” ผมถอนหายใจ แม่งเอ้ย เกลียดเซนส์บ้าเซนส์บอของไอ้เชี่ยนี่จริงๆ
“เออ… เมื่อวันจันทร์กูไปเจอคุณตะวันมา แม่งบอกกูว่างานมีปัญหา ต้องรีบออกไปคุย”

“อาฮะ ก็ไม่แปลกนี่” น้ำพยักหน้า “กูก็เป็นออกบ่อย ลูกค้าเรียกไปนอกรอบน่ะ”

“ที่มันห่วยก็คือ” ผมถอนหายใจ “เขาเรียกมาบอกว่าพรีเซนต์ของอินทีเรียใช้ไม่ได้ ไม่ตรงคอนเซปต์ที่บรีฟไว้ และบอกกับกูว่าไอ้พีทเอาเด็กฝึกงานมาคุย เด็กไม่เข้าใจแบบ จะรีเควสขอให้กูช่วยดีลกับพีทตรงๆ”

“หา…” ทั้งสามคนเหวอไปพร้อมกัน 

“ใช่ เขาหมายถึงมึงเลยครับอาร์ต” ผมขยายความ “มึงเลย เขาว่ามึงเป็นเด็กฝึกงานเลยไม่อยากคุยด้วย”

“ห๊ะ” อาร์ตอุทาน

“กูสับสนไปหมดแล้ว” น้ำแทรกขึ้นแบบงงๆ

“เดี๋ยวนะ… เขาบอกมึงว่างานที่พรีเซนต์ไปงั้นเหรอ” พีททวนคำ “ทั้งๆ ที่... “

“เออ... ทั้งๆ ที่วันนั้นมันไม่มีพรีเซนต์สักหน่อย” ผมตอบ “มาโกหกใส่กูเฉยเลยไง”

“ห๊ะ เพื่อเหี้ยอะไรเนี่ย” อาร์ตร้อง

พีทขมวดคิ้ว “โกหกว่างานมีปัญหา… นัดนอกรอบแล้วจะให้มึงกลับไปประสานงาน กับเขา น่ะเหรอ” 
“นี่แม่งประหลาดละ เชี่ยตี๋...”

“เออ.. ประหลาด” ผมพยักหน้าแล้วถอนหายใจอีกที “ประหลาดกว่านั้นก็คือ ที่นัดคุยกันนอกรอบเนี่ย… คือนัดดินเนอร์นอกรอบ… ร้าน S ดาดฟ้าโรงแรม LB”

“ไอ้เหี้ย…” น้ำทำตาโต “อย่าบอกนะว่า…”

ผมพยักหน้า

“เขาจะแดกมึงงงงงงงงงงง ไอ้ตี๋ ไอ้ชิบหายยยยยยย” อาร์ตอุทาน
“งั้นกูรู้แล้วว่าทำไมจู่ๆ ก็ญาติดีกับกูขึ้นมา อยากเป็นเพื่อนเขยกูนี่เอง…ไอ้เหี้ย”

“นั่นไง… กูมองอะไรเคยผิดที่ไหน” พีทพูดขึ้น “กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่าหมอนี่แม่งไม่ธรรมดา”

ผมกุมหัวตัวเอง
“กูก็ไม่เคยแน่ใจ แต่ครั้งนี้มันชัดมาก ไอ้ห่า”

“นี่ถ้าทำคนอย่างมึงรู้ตัวได้ ก็ไม่ธรรมดาแล้ว” น้ำที่นั่งข้างๆ ถึงกับเข้ามาแงะมือที่กำลังทึ้งผมตัวเองอยู่
“เชี่ยตี๋ แล้วมึงทำยังไง ตอบมาก่อน” มันทำหน้าเครียด

“กูก็บอกไปสิวะว่ากูรู้ความจริง ไอ้เด็กฝึกงานที่เขาว่านั่นก็เพื่อนกู และนอกจากเรื่องงานแล้วอย่ายุ่งกับกู” ผมว่า “แล้วก็เดินออกมาเลย....”

“แล้วไง หลังจากนั้นล่ะ กูว่าแม่งต้องมีต่อ”
น่าขำที่ไอ้พีทเดามั่วๆ แต่เสือกตรงทุกที

“เอ่อ…” ผมอึกอัก “ก็…”   
ทุกคนวางขวดเบียร์ แล้วหันมาใช้สายตากดดันผมแทน โอ๊ย ต้องเล่าใช่ไหมครับเนี่ย
“คุณตะวันแม่งก็ส่งดอกไม้มาหากูทุกวันเลย…สองวันติดกันแล้ว...”

“เหี้ยอะไรเนี่ย” น้ำโวยเสียงดัง “แล้วทำไมมึงไม่บอกพวกกู”

“ก็มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่หว่า… ใช่มั้ยล่ะ…” ผมพูดอ้อมแอ้ม

“โดนลูกค้าที่เป็นผู้ชายเล็งเนี่ยนะ” มันย้อน “มึงนี่ก็… โอ๊ยยย.. คนอย่างมึงเนี่ย หงุดหงิด”
กลายเป็นไอ้น้ำที่ยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองแทนแล้วครับตอนนี้

“เขาก็ไม่ได้ทำอะไรป่ะวะ” ผมพูดเสียงเบา ทำเอาพวกที่เหลือหันควับ

ได้ยินเสียงไอ้พีทถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เหรอวะ”

“กูว่าไม่จบแน่ ถึงมึงไม่ได้เป็นคนดีลก็ยังต้องเจอกัน” อาร์ตว่า “แล้วมึงจะทำยังไง”

“ก็คุยเฉพาะเรื่องงาน ซึ่งตอนนี้ก็แทบจะไม่มีแล้ว ฝ่าย CM เขาคุมอยู่ นี่กูก็กำลังจะเริ่มโปรเจคใหม่” ผมรีบบอก “ก็คงไม่มีอะไรแล้วแหละ”

“แล้วที่มึงบอกว่าเขาส่งดอกไม้ล่ะ” พีทถาม “ส่งมาทุกวันแบบนี้ ที่ออฟฟิสมึงไม่แตกตื่นเรอะ”

“ก็นิดหน่อย… แต่เขาคงไม่รู้ว่าใครส่งมา ยกให้คนอื่นไป นี่กูก็ส่งข้อความไปบอกว่าหยุดส่งมาได้แล้ว แต่เขาไม่สนใจเลยว่ะ ทุกเช้าเลย ช่อเท่านี่...” ผมกางมือประกอบ

“โคตรเปย์” พีทร้องขึ้นเบาๆ “หนักละมึง...” 

“เชี่ยเอ้ย เสน่ห์แรงนักนะ” อาร์ตว่า “เอ๊ะ แต่บอกไปว่าไม่ชอบผู้ชายก็จบป่าววะ”

“เหอะ…” พีทยกมือขึ้นห้าม “คนประเภทนั้นเหรอจะถอยกับแค่บอกว่าไม่ชอบผู้ชาย อีโก้สูงขนาดนั้นจะอยากเอาชนะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนอะไอ้ตี๋”

ไม่ต้องมาเนอะกับกู กูไม่รู้ กูปวดหัว
ผมส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจแทนคำตอบแล้วกระดกเบียร์ขึ้นดื่ม

“หาไม้กันหมามั้ย” น้ำเสนอทางแก้ปัญหา “กูก็ได้”

แทบพ่นเบียร์ออกจากปาก
“เหี้ยยย ไม่เอาา” ผมโวยวาย “ช่างแม่งเหอะ เดี๋ยวมันก็หายๆ ไปเอง”

“เอ้า กูเห็นด้วยกับไอ้น้ำนะ… ไม่งั้นเขาจะเลิกยุ่งกับมึงได้ยังไง บอกไปดิ่ว่ามีแฟนแล้ว” อาร์ตพยักหน้า

แฟน… แฟนเหรอ… โสดสนิทมาปีกว่าแบบนี้จะเอาใครที่ไหนมาอ้างวะเนี่ย
หาง่ายรึไง… คนเป็นแรงจูงใจทำให้เราอยากเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น
คนที่อยากใช้เวลาร่วมกันไปเรื่อยๆ คอยเดินไปข้างๆ
ไอ้คนที่ทำให้ใจเต้นแรง… แบบ...นั้น… น่ะ...

เชี่ย!
ถึงกับต้องสะบัดหัวไล่ใบหน้าเจ้าของไฝใต้ตากับรอยยิ้มกว้างๆ ที่โผล่ขึ้นมาในความคิด
หลอกหลอนกูเกินไปแล้วไอ้เด็กนี่

“ไอ้เหี้ย ไม่เอา” ผมยืนยัน

“ทำเป็นคิดนานนะ… หรือมึงมีคนให้อ้างเป็นแฟนแล้วด้วยล่ะ”
อาร์ตถาม ในขณะที่พีทจิบเบียร์พลางลอบยักคิ้วให้ผม

ไอ้พีท ไอ้ชิบหาย มึงรู้อะไรมาเนี่ย หยุดเลย ผมด่ามันทางสายตา
“พอๆ เรื่องนี้กูจัดการเองได้” ผมตัดบทแล้วคว้าเบียร์ขวดใหม่มาเปิดฝาให้ตัวเอง “เอ้า ไม่ต้องซีเรียส... แดกเบียร์ต่อเลย” 

“ให้มันจริง” น้ำว่าขึ้นฉุนๆ “มึงนี่แม่ง…”

“เอาเป็นว่า…ตอนนี้กูยังโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง” ผมว่า “แต่ถ้ามันเกินความสามารถของกู กูจะบอกพวกมึงแน่นอน โอเคนะ”

“เออ…มีอะไรให้ช่วยก็บอกละกัน” น้ำกำชับแล้วยกขวดเบียร์ขึ้นดื่มแบบรวดเดียวหมดก่อนจะเรียกหาขวดใหม่
“เอามาอีกดิ๊ ขาดตอนเลยเนี่ยไอ้ห่า”

_ _ _ _

00.25

“ตี๋”

“เชี่ย! ตกใจหมด”

พีทเดินแทรกตัวเข้ามายืนข้างๆ ที่ระเบียงหลังผมกดวางโทรศัพท์ไปยังไม่ถึงนาที
ทำเอาต้องรีบเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างเร็ว อุตส่าห์หลบออกมาช่วงพวกมันอาบน้ำเตรียมนอนมารับโทรศัพท์ที่ระเบียงยังจะตามมาเจอ เหมือนมันรอจังหวะอยู่อย่างนั้นแหละ ส่วนไอ้เด็กนั่นก็อะไรหนักหนาไม่รู้ โทรมากวนไปกวนมาอยู่ได้..

อุ่ย...
ไอ้พีทมอง…

“ไม่มีอะไรจะบอกกูเลย?” ร่างสูงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
 
“ก็… เพื่อน”

“เหรอ…” มันพยักหน้า “เพื่อนที่เป็นเจ้าของแปรงสีฟันอันใหม่ในห้องน้ำรึเปล่าวะ” พีทถามตรงๆ 

“...” ทำเอาอึ้งกับความช่างสังเกตของมัน มึงเป็นใคร! สถาปนิกหรือ FBI ตอบมาเลยดีกว่า
“อ่าา…” ได้แต่ทำเสียงไม่เป็นภาษาอยู่ในคอ ตอบไม่ถูกเลยแฮะ

“คนเดิม?”

ผมพยักหน้า “เอ่อ…” 

“ยังจะตอบว่าเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าวะ”

“ก็… คนที่มาจีบกู” ผมตอบเสียงเบา

“พาเข้าห้องแล้วเหรอไอ้เสือ” มันพูดยิ้มๆ แล้วเอาศอกสะกิดผม

“เชี่ย! ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด ไม่มีอะไรโว้ย เขาแค่มาค้างเฉยๆ” ผมรีบอธิบาย “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ต่างคนต่างนอน สถานะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน กูยังโดนจีบอยู่” 

“กูไม่ว่าอะไรหรอก” มันว่าแล้วเอามือโยกหัวผม “เอาที่มึงมีความสุขน่ะ”
“ไม่อยากเล่ากูก็จะไม่ขยี้ แต่ถ้าเชี่ยอาร์ตรู้กูก็ไม่รู้ด้วยนะ” มันหัวเราะเบาๆ “อาร์ตรู้โลกรู้นะมึง”

“เออ อาร์ตรู้โลกรู้” ผมทวน
“แต่กู… คือ… กูไม่แน่ใจอะไรสักอย่างเลยว่ะ…” ผมพูดเสียงเบา “มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้มั้ย กูควรจะรู้สึกยังไง”

“หวั่นไหวล่ะสิ”

“เชี่ยเอ้ย..” ผมร้องออกมา “เกลียดมากที่ต้องบอกว่าใช่…”

“เห็นหน้ามึงตอนคุยโทรศัพท์กูก็รู้แล้ว” มันว่า “นี่ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่เห็นมึงเป็นแบบนี้ ปกติตัดสินใจอะไรตรงไปตรงมาตลอด ไปไม่เป็นแล้วเหรอครับคุณนักวิเคราะห์”

“สัสพีท” กูเกลียดมึงด้วย

“ทำอะไรตามใจตัวเองบ้างเหอะว่ะ อย่าไปซีเรียสกับรอบข้าง ถ้ามันไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นละก็นะ ลุยไปเถอะ”

“แต่ว่า…”

“กูอยากเห็นเพื่อนกูมีความสุขก็เท่านั้น”
“ความรักมันไม่ยากหรอก มึงรู้สึกยังไงก็ทำไปตามนั้น อยากจะชอบก็ชอบ อยากจะรักก็รัก”
 
“นี่คำแนะนำจากคนขี้เหงาต้องมีคนคุยด้วยตลอดถูกมั้ย” ผมย่นจมูก

"ชีวิตอย่ามีเหตุผลนักเลยมึง ใช้ความรู้สึกมั่งเหอะ วิเคราะห์แค่ในงานก็พอ อย่าวิเคราะห์กระทั่งความรักเลย"

เหรอวะเพื่อน…
แต่อีกฝ่ายเป็นเด็กปีหนึ่ง… แถมเป็นผู้ชายด้วยนะ…
ถ้ามึงรู้มึงจะยังพูดแบบนี้อยู่รึเปล่า...

_ _ _ _

TBC

แฮ่ หายไปนาน ยังจำกันได้มั้ยคะ 
ตอนนี้ #วิเคราะห์การรัก ยอดวิว 25K กว่าๆ แล้วขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยยย ไหนมากอดทีนึง
(จริงๆ 10K ในนั้นเป็นของคนเขียนเอง 555)

ถึงตอนนี้คุณตะวันก็ดูจะไม่ยอมแพ้นะคะ แต่ตี๋วินจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีนะ
หวานลู๊กกก ช่วยพี่วินหน่อยยยยยยย

แถมอีกนิด
ด้วยความที่เรื่องนี้มีศัพท์ต่างดาวอยู่มาก หมวยดีก็เลย....
ทำคู่มือการอ่านมาให้ค่ะ!! 55555



กดอ่านกันไปเพลินๆ นะคะ
ถ้าอยากให้อธิบายคำศัพท์อะไรเพิ่ม บอกกันมาได้นะค้า หรือหากมีข้อมูลไหนผิดพลาด ทักท้วงกันมาได้ค่ะ
คิดว่าน่าจะอัพเดทเรื่อยๆ (ตอนเขียนอธิบายก็สนุกดีนะ 555)

ติชมและเม้ามอยกันที่ #วิเคราะห์การรัก ได้เหมือนเดิมนะคะ
แล้วพบกันค่า

 :-[
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2018 21:58:00 โดย idee »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อุ้ยๆๆๆ เนี่ย...ตี๋วินก็เริ่มยอมรับใจตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะ?

ลุ้นๆ น้องหวานสู้ๆนะลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เด็กหวานนี่ตรงกับคำว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกจริงๆ น้ำลดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนนับอะไรกับใจพี่วินละเนอะ ใจอ่อนลงเยอะแล้วเนี่ย มาวินมากๆน้องหวานเรา แอบเห็นใจน้ำเบาๆถ้ารู้เรื่องก็น่าจะเฮิร์ทหน่อย เห็นเสนอตัวช่วยแกล้งเป็นแฟนปลอมๆให้ก็น่าจะยังมีใจให้ตี๋วินอยู่ละมั้งนะ

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แอบอยากได้ไม้กันหมาเป็นน้ำ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
มี % พัฒนาความสำพันธ์เพิ่มอีก 20% แล้วน้องหวานน สู้ๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากให้มาอาทิตย์ละ2ครั้ง ฝันไป555555555555 ติดตามต่อสุ้ๆน้านุ้งหวานนตี๋วินเค้าใจอ่อนแล้ว

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
งืออออออคิดถึงตี๋และผองเพื่อน

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
หวั่นไหวมากเหลือเกิน 
คิดถึงเรื่องนี้แบบสุดดดดด

ออฟไลน์ Zhouzhou23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทีมหวานค่ะะะะ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
คุณตะวันติดลบร้อยคะแนน

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
คุณตะวันนะคุณตะวัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด