- LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽  (อ่าน 128111 ครั้ง)

ออฟไลน์ dashdash

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุงตะวันถึงตื้อเค้าจะยิ่งรำคาญนา หวานหวานน่ารักตลอดเลยอิอิ

ออฟไลน์ peach_p

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทีมหวานสุดใจเลย ส่วนตัวชอบการเข้าหาแบบหวานอ่ะแต่ดูๆไปวินก็ดูจะสบายใจที่ได้อยู่กับหวานนะ
คุณตะวันนี่มาเท่ๆแต่ตกม้าตายตอนไปโกหกเขานี่แหละพ่อคุณ

ออฟไลน์ Mukk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรือเจ้าหวานแล่นแรงมาก 5555555 เด็กนี่มันก๊าวจริงๆ :hao7: ชอบที่พีทบอกอะ ทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง อย่าวิเคราะห์กระทั่วความรักเลย โดนใจมากค่ะ รอคนเขียนมาอัพต่อนะคะ :katai4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุณตะวันนี่นะอุตส่าห์แอบเชียร์ ทำมาเสียซะได้
ใครจะน่ารักเหมือนน้องหวานไม่มี หวั่นไหวแล้วก็เดินหน้าต่อเลยค่าน้องวิน

ออฟไลน์ yprjb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๊ากกก เขินมั่กกก ยอมรับแล้วสินะว่าหวั่นไหว มาตามอ่านช้าเลย แต่ก็มาอ่านแล้วนะคะ สนุกเหมือนเดิม รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อจ้า

ออฟไลน์ xkoxko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 25

วันพฤหัส
13.45


ผมเปิดโค้กในมือด้วยความเซ็งสุดขีด ไม่ใช่ว่าเบื่อเจ้าเครื่องดื่มกระป๋องแดงนี่หรอกนะครับ
แต่เป็นกล่องขนมร้านดังจากทองหล่อที่วางอยู่ในแพนทรี่นี่ต่างหาก

ดอกไม้ตอนเช้าน่ะจัดการยกให้พี่แม่บ้านเอาไปใส่แจกันตรงทางเข้าแล้ว ส่วนกล่องชูครีมนี่เพิ่งมาถึงตอนสิบโมงกว่า ไม่ได้ส่งถึงผมแต่ระบุส่งถึงฝ่ายวิเคราะห์ที่ดิน แถมติดนามบัตรคนส่งชื่อดังมาซะหรา จะเอาไปทิ้งที่ไหนก็ไม่ได้ แถมพี่ฝ้ายยังบอกให้ไปพิมพ์ขอบคุณในห้องไลน์อีก

ผมกดส่งข้อความที่จงใจเขียนอย่างเป็นทางการเกินปกติ ก็ยังดีที่ห้องไลน์มันอยู่กันหลายคน…
ส่วนข้อความส่วนตัวของผมน่ะเหรอครับ…
ขอนัดคุย ขอโอกาสอธิบาย ขอเลี้ยงข้าวชดใช้
ข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาก็วนไปวนมาทั้งนั้น... ลืมๆ มันไปซะเถอะ

“วิน เอกสารของโครงการปิ่นเกล้า ที่ให้ปรับตัวเลขแล้วเป็นยังไงบ้างน่ะ” พี่ฝ้ายชะโงกหน้าเข้ามาถามหลังผมเข้ามานั่งประจำโต๊ะ

“เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวผมส่งอีเมลล์ให้เลย นี่ถ้าเขายอมซื้อที่อีกแปลงข้างๆ ตึกมันจะขึ้นได้สูงอีกห้าชั้นนะครับ พื้นที่ขายเพิ่มอีกตั้งเกือบ 1,200 ตารางเมตรแน่ะ” ผมสรุปสั้นๆ “พี่ลองดูในตารางนะครับ”

“โอเค ขอบใจมากสุดหล่อ” พี่ฝ้ายตอบ “เอ้อ แล้วงานของ AA นี่ฝ่าย Construction Management นัดประชุมรีวิวไฟนอล TOR ข้อกำหนดผู้รับเหมาอีกทีเมื่อไหร่นะ”

“อ่าาา น่าจะอังคารหน้าครับ รอผู้ออกแบบคอนเฟิร์มหัวข้อประชุมก่อน เขาว่าถ้าแบบมันใกล้จบแล้วอาจจะให้รีวิวแบบประมูลด้วยเลยจะนัดเช้าบ่าย ถ้าแบบเสร็จไม่ทันอาจจะต้องนัดรีวิวแบบแยกอีกวัน… แต่ยังไง TOR ก็ต้องประชุมวันอังคารครับ” ผมเปิดปฏิทินดูไวๆ

“โอเค อัพเดทพี่อีกทีแล้วกันนะ” พี่ฝ้ายพยักหน้าแล้วหันไปพูดกับน้องแคร์ “เอ้อ แคร์ไปหยิบชูครีมในแพนทรี่มาเตรียมไว้หน่อยสิ เดี๋ยวฝ่ายกรีนเขามาคุยเรื่องพื้นที่สีเขียวของโปรเจคลาดพร้าวตอนบ่ายสองจะได้กินกัน คุณตะวันแกซื้อมาฝากเยอะเชียว” พูดไปก็ยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี

โอ๊ย ขอหลบไปกินโค้กก่อนประชุมต่อดีกว่า...
เดี๋ยวเผลอทำหน้าบูดใส่แล้วจะโดนซักยาว…

_ _ _ _

16.30

“เอ๊… พี่วิน เมลล์นี้มันถูกรึเปล่าอะคะ ทำไมแคร์ส่งแล้วมันตีกลับมาตลอดเลย” น้องแคร์เดินหน้ายุ่งเข้ามาถาม
“จะส่งรายงานเซอร์เวย์ราคาพื้นที่เช่าให้เขาน่ะค่ะ ของปิ่นเกล้าน่ะ” 

“ไหน ขอดูก่อนนะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองชื่ออีเมลล์ที่ถูกเขียนมาในกระดาษแบบหวัดๆ แล้วกดคีย์บอร์ดดูคอนแทคลิสต์ “อ่าาา ถูกแล้วนะ เซอร์เวอร์เขาดาวน์มั้ง แคร์โทรเข้าออฟฟิศเขาไปแจ้งก่อนเลยว่ารายงานเสร็จแล้ว ส่งไม่ไป จะให้ทำยังไงต่อ ให้ส่งเมลล์ส่วนตัวมั้ย เดี๋ยวเราโดนหาว่าส่งงานเลทนะ เรื่องจะยุ่ง” ผมพูดยาวๆ

“โอเคค่ะ เดี๋ยวแคร์โทรเลย” น้องคนเก่งของผมตอบกลับ ก่อนจะทำหน้านึกได้
“เอ้อ คือ... พี่วิน… แคร์ขอถามอีกอย่างสิ” 

“ได้เลย”

“อ่าา.. อย่าโกรธแคร์นะคะ” อีกฝ่ายมองผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คือ…พี่วินโอเคมั้ย”

“หือ?”
ที่ผมลางานไปวันก่อนน่ะเหรอ “เรื่องอะไรล่ะนั่น”

“ก็… แคร์รู้มาว่าดอกไม้ที่โต๊ะพี่จอยช่วงนี้… อ่า… ที่จริงมีคนส่งมาให้พี่วิน” น้องแคร์พูดอ้อมแอ้ม “คือพี่โอเคใช่มั้ย” 

“อ้อ…”

ความลับไม่มีในโลกจริงๆ
ถึงขนาดน้องในทีมต้องออกปากถามเอง รู้กันไปถึงไหนแล้วล่ะเนี่ย
“ไม่มีอะไรหรอก เรื่องเล็กน่ะ ไม่ต้องห่วง” ผมยิ้มตอบ “แคร์อย่าสนใจเลย”

“อ่า… งั้นก็… คืนดีกันเร็วๆ นะคะพี่วิน” น้องแคร์ยกนิ้วโป้งให้กำลังใจ

เอ่อน้องครับ… เข้าใจไปถึงไหนแล้ว... ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละ นอกจากลูกค้าและคนทำงาน
ทำเอาต้องยิ้มแหยๆ แล้วชูนิ้ว… โป้ง กลับไปให้ ทั้งที่จริงๆ แล้วไอ้เรื่องดอกไม้นี่เหมาะกับนิ้วกลางที่สุดแล้ว
แต่จะให้มานั่งเล่าอะไรให้น้องฟังมันก็ไม่ดี… คงได้แต่ปล่อยให้เข้าใจผิดไปแบบนี้นี่แหละ

_ _ _ _

17.04

บ่ายนี้จะว่ายุ่งก็ยุ่ง จะว่าไม่ยุ่งก็ไม่เชิง
ก็มีแต่งานที่ต้องประสาน ต้องโทรคุยคอนเฟิร์มนั่นนี่เต็มไปหมดเลยนี่ครับ
เอาจริงๆ เหมือนไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่เลย เฮ่อออ… เซ็งอยู่ลึกๆ

ตอบอีเมลล์ต่อดีกว่าแฮะ

ยังไม่ทันจะตั้งท่าถอนหายใจเป็นรอบที่สอง โทรศัพท์ที่ต่อสายชาร์จแบตอยู่ก็สว่างขึ้นมาพร้อมการแจ้งเตือนจากห้องไลน์ส่วนตัว ไหน ใครไลน์มาวะเนี่ย ผมมองชื่ออย่างระแวงหน่อยๆ ก่อนจะแอบโล่งใจเมื่อพบว่าเป็นไอ้น้ำนี่เอง

Nahm_Tect : ตี๋ มึงเข้าออฟฟิศป่ะวะ

Wynn_Tect : อยู่ ว่าาาาาาา

Nahm_Tect : เย็นนี้แดกข้าวกัน นี่อยู่แถวออฟฟิศมึง

Wynn_Tect : เออ เอาดิ่

Nahm_Tect : ออกมาได้เลยป่ะวะ

Wynn_Tect : ห่า… กูเลิกหกโมง

Nahm_Tect : เห้ย ออกเร็วไม่ได้รึไง

Wynn_Tect : ไม่ได้ว้อย งานยังไม่เสร็จ

Nahm_Tect : อ้าว ทำไง
Nahm_Tect : ให้รอไหน
Nahm_Tect : กูถึงตึกมึงละเนี่ย

Wynn_Tect : เร็วจังวะ
Wynn_Tect : ร้านกาแฟข้างล่างไง ไปนั่งดิ่

Nahm_Tect : ที่เขาถูพื้นกันอยู่ตอนนี้อ่ะเหรอ...

Wynn_Tect : อ้าว ปิดแล้วเหรอวะ
Wynn_Tect : ขึ้นมารอบนนี้ป่ะล่ะ

Nahm_Tect : บริษัทมึง?


เออ สิวะ
ไอ้นี่ถามประหลาด

Wynn_Tect : ขึ้นมาเลย ชั้นสามสิบแปด บริษัท OO
Wynn_Tect : เข้ามาแล้วก็รออยู่ตรงโซฟาล็อบบี้นั่นแหละ บอกว่ามาหากู

Nahm_Tect : ได้ใช่ป่ะ โอเค เดี๋ยวกูขึ้นไป

Wynn_Tect : เออ


...


Nahm_Tect : เห้ย ถึงละนะ รออยู่

Wynn_Tect : เคร เดี๋ยวหกโมงแล้วกูออกไป ส่งเมลล์ที่ค้างๆ นี่ก่อน เยอะชิบหาย
Wynn_Tect : นั่งเล่นรอกูไปก่อนนะจ๊ะ

Nahm_Tect : สัด ให้ไว้เลย หิวละเนี่ย


โว๊ะ ก็กูเลิกหกโมงไงเชี่ยน้ำ พูดไม่รู้เรื่องเนอะ
ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมาจัดการตอบอีเมลล์หน้าคอมพิวเตอร์ต่อ

“พี่วินน”

ผมละสายตาจากแป้นพิมพ์แล้วหันไปตามเสียงที่น้องแคร์เรียกอยู่ข้างพาร์ทิชั่น “อื้อ ว่าไง”

“อันนี้ไฟล์ที่พี่สั่งไว้ค่ะ แคร์ไฮไลท์พื้นที่ขายกับราคาไว้แล้ว”

“ขอบใจมากเลย” ผมเอื้อมมือไปรับเอกสารมาเปิดดูผ่านๆ แล้ววางแผ่ไว้บนกองเอกสารบนโต๊ะ อันนี้ต่อคิวเอาไว้ก่อน ยังไม่ค่อยรีบ เดี๋ยวเก็บใส่กระเป๋ากลับไปดูที่บ้านชิวๆ ก็แล้วกัน
พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อพบว่าคนส่งงานยังยืนยิ้มอยู่ที่เดิม
“ว่าาา...” ผมลากเสียงยาว   

“คือ... นอกจากเอกสารก็… วันนี้มีใครมารอรับพี่วินน้าาาาาา”

อ๋อ..
ไอ้น้ำสินะ ข่าวไวจริงๆ
 
“เพื่อนถาปัดพี่เอง ชื่อไอ้น้ำ” ผมว่า

“เพื่อนจริงอ้ะ… หล่อมากกก มีแฟนยัง” พี่ฝ้ายชะโงกหน้ามาถามจากข้างพาร์ทิชั่น ถึงกับสะดุ้งเลยนะครับ
นี่พี่แอบฟังผมเรอะ! จริงๆ แล้วส่งน้องแคร์มาแอบถามใช่มั้ย!

“เพื่อนครับเพื่อน ส่วนมีแฟนรึเปล่า ไปถามมันเองดีกว่าพี่” 

“ไม่เอาอ่ะ นี่ทีมน้องพีท รักเดียวใจเดียว” พี่ฝ้ายตอบอย่างจริงจังแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง ทำเอาผมกับน้องแคร์หัวเราะก๊าก “ขำอะไรยะ”

“ขำความมุ่งมั่นคุณเจ๊อ่ะค่ะ” น้องแคร์ว่า “ว่าแต่ทำไมเพื่อนพี่วินมีแต่คนหล่ออ่ะ”

“นี่คือจะบอกว่าพี่ไม่หล่อเหรอ” ผมแกล้งตีหน้ายุ่ง

“โอ๋ๆๆ ทำไมจะไม่หล่อล่ะ พี่ชายแคร์น่ารักที่สุดเลยค่าาา” น้องแคร์พูดเสียงหวาน “ไม่น้อยใจเนาะ”

“เห็นแบบนี้นี่ในมหาลัยป๊อปมากนะพูดเลย” ผมพูดยืดๆ “แก๊งค์นี้ไม่มีใครไม่รู้จัก--”

“น้องน้ำ ภาคิณ อายุ 23 ปี เกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ภาคสถ. รหัส 036 เป็นมือกลองประจำรุ่น 76 สูง 182 เซนติเมตร หนัก 68 กิโลกรัม เลือดกรุ๊--”

“เฮ้ยยยยย” ผมร้องขึ้น “ละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ เอามาจากไหนอ้ะ”
ถึงกับต้องลุกขึ้นยืนไปชะโงกดูข้างพาร์ทิชั่น นี่เป็นเพื่อนมันยังไม่รู้เลยนะว่ามันหนักเท่าไหร่

“เสิร์ชแก๊กเดียวก็ขึ้นแล้วเนี่ย มีของวินด้วยนะ ตี๋วิน มาวินทร์ เกิดวันที่ 2 มีน--”

“พอแล้วคร๊าบบบบบบบบบบ” ผมโวย “นี่มันอะไรเนี่ยยยยย”

“โห เชื่อแล้วว่าป๊อบจริง อะไรจะมีประวัติละเอียดขนาดนี้” น้องแคร์พยักหน้าพูด “นี่มีแฟนด้อมเป็นของตัวเองเลยป่ะเนี่ย”

แฟนด้งแฟนด้อมอะไร พี่ไม่รู้เรื่องงงง
นี่พี่ฝ้ายเปิดเว็บอะไรวะเนี่ยยยย   

“แหม ก็นึกว่าอยากฟังความป๊อปของตัวเอง นี่เพจสมาคมนิยมหนุ่มถาปัดเขาโพสไว้เลยนะ… นี่ไงๆ… น้องพีทของเจ๊ อันนี้รูปรวม โหย น้องเราก็งานดีเหมือนกันเนอะ… เอ๊ะ คนที่ชื่อน้องบอย กับน้องเอกก็น่ารักอ้ะ แคร์มาดูนี่ดิ่” พี่ฝ้ายชี้ชวน

เอ้า… งานการไม่ต้องทำแล้วครับ

_ _ _ _


19.40

“ออฟฟิศมึงดูสนุกดีเนอะ”

“หือ? ทำไมอ่ะ” ผมละสายตาจากชามบะหมี่เกี๊ยวแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตรงข้ามแบบงงๆ
มื้อเย็นของพวกเราก็จบลงแถวๆ ออฟฟิศนี้แหละครับ ง่ายดี
“สนุกยังไงวะน้ำ งานแม่งอย่างดาร์ก พื้นที่เช่า เงิน คุ้มทุน บลาๆๆ มีแต่เรื่อง”

“กูไม่ได้หมายถึงเรื่องงาน” มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะอธิบาย “เห็นคุยกันเฮฮาดี นี่ก่อนมึงออกมา เจ้านายมึงกับน้องผมสั้นๆ เข้ามาทักกู บอกว่ามึงกำลังเคลียร์งาน เดี๋ยวก็ออกมาแล้ว กูเลยบอกว่าไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ สองคนนั้นมองหน้ากันแล้วหันกลับมาตอบกูว่า ‘สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ดอกไม้สวยมากๆ’ กับ ‘วินไม่ใจร้ายหรอก ทำตัวมึนตึงไปอย่างนั้นเอง ฝากด้วยนะคะ’ เฉยเลย” 

“เอ้า…” ผมร้อง “นี่คือเข้าใจว่ามึงมาง้อกูเรอะ”

“ก็คงอย่างนั้น”

“แล้วมึงว่ายังไงน่ะ บอกเขาไปป่ะเนี่ย” ผมถาม

“ก็ไม่รู้จะตอบอะไรนะ” ว่าพลางยักไหล่แล้วก็ก้มลงไปกินบะหมี่ต่อ “ก็เลยพูดว่า ครับ”

“อ้าวไอ้ห่าาาาา นี่เข้าใจผิดกันไปถึงไหนแล้ววะเนี่ย”

“น่า… นี่กูมาเป็นไม้กันหมาให้เลยนะ ทุ่มเทสุดๆ” น้ำว่า
 
“กันหมาก็เหี้ยละ นี่มันมาสวมรอยชัดๆ ไม่ได้ทำให้กูสบายใจขึ้นเลย”

“เขาจะได้เข้าใจว่ากูส่งดอกไม้มาไง ไม่ใช่ไอ้คุณตะวันอะไรนั่น” อีกฝ่ายว่าขึ้น “เออ แล้วนี่มันยังตามตื้อมึงอยู่ป่ะ”

“ก็… เออ…” ผมทำหน้าเซ็ง “ดอกไม้ก็ส่งมาทุกวันแต่ไม่ได้ลงชื่อ วันนี้เริ่มมีขนมมาให้คนในออฟฟิส ไลน์กูนี่เด้งทุกสองชั่วโมงเลย ดูดิ่” ผมถอนหายใจแล้วกดโทรศัพท์เปิดไลน์ให้น้ำดู 

“ไหน” มันหยิบโทรศัพท์ผมไปอ่านออกเสียง คิ้วเข้มๆ ขมวดมุ่น
“วินครับ พี่ยังรออยู่นะครับ ขอโอกาสพี่ได้อธิบายหน่อย พี่อาจจะพูดเกินไป แต่วินกำลังเข้าใจผิดอยู่นะครับ... วินครับ หวังว่าวินจะชอบดอกไม้ที่พี่ส่งไปนะครับ อย่ารำคาญกันเลยนะครับ พี่อยากให้วินจริงๆ...  วินครับ วันนี้พี่ส่งขนมไปให้ที่ออฟฟิศ ทานให้อร่อยนะครับ วินครับ… โอ๊ยไอ้เหี้ย!! อะไรเยอะแยะวะเนี่ย!” น้ำพูดขึ้นอย่างหัวเสีย “เยอะชิบหายเลย ต่อยมั้ยจะได้จบๆ”

“มึงจะบ้าเรอะ เดี๋ยวก็ได้ลงข่าวหน้าหนึ่ง” ผมเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์คืน “ก็ปล่อยไปเถอะ เดี๋ยวก็เบื่อไปเอง ยิ่งโวยวายเดี๋ยวเรื่องมันจะยาว”

“เชี่ยตี๋… มึงนี่ก็ใจเย็นเกินไปนะบางที รอให้เขามาโผล่ในออฟฟิศเลยมั้ย”

“ไอ้เหี้ยยยย ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยไอ้น้ำ” พูดแล้วขนลุก “แดกเสร็จยังเนี่ย กูมีเอกสารต้องรีวิวต่อเพียบเลย”

“งานเยอะขนาดนี้มึงเป็นประธานบริษัทรึยัง” มันทำหน้าเหม็นเบื่อ “เออน่า วันนี้กูเอารถมา เดี๋ยวกูไปส่งคอนโด”

โอ๊ะ เข้าทาง
“โหโหโห ใจดีจังเลยครับ แวะซุปเปอร์ด้วยนะ อาหารแมวกูจะหมดพอดี”
ถือโอกาสเลยละกันนะ ไหนๆ วันนี้ก็มีคนขับรถให้แล้ว



20.15

“ตี๋ มึงจะแวะไหน ท็อปส์ โลตัส บิ๊กซี” น้ำที่กำลังขับรถอยู่บอกตัวเลือก

“อ่า… ไหนก็ได้ เอ๊ะ เอาท็อปส์ดีกว่า จิ๋วกินรอยัลคานิน” ผมนึกได้ “จะได้ซื้ออาหารเปียกไปด้วยเลย”

“มึงเหมือนพ่อลูกอ่อนมากกก” มันพูดลากเสียงก่อนจะขับรถเปลี่ยนเลน “ต้องรีบกลับไปเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกมั้ย”

“กวนตีนละ” ผมหันขวับ อ้าปากกำลังจะด่ามันต่อแต่หน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นมาซะก่อน พอมองดูก็เห็นว่าเป็นไลน์ของเจ้าเด็กหวานเลยต้องเปิดอ่านสักหน่อย ไม่อยากให้การแจ้งเตือนมันขึ้นรกๆ อยู่บนหน้าจอเท่านั้นแหละ

นายหวาน : เพิ่งเลิกประชุมเอง
นายหวาน : นึกว่าปิดเทอมจะมีเวลามากขึ้นซะอีก เหมือนเดิมเลย TT


ไอ้นี่… โคตรงอแง ผมคิดในใจก่อนจะพิมพ์กลับไปเร็วๆ

Wynn_Tect : บ่นอะไรเนี่ย มีงานก็ทำไป

Wynn_Tect : ปิดเทอมมันไม่มีอยู่จริง ไม่รู้เรอะ


นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ เด็กสถาปัตย์แบบเราๆ ไม่มีปิดเทอมกันหรอก หลังสอบเสร็จก็มักจะเป็นช่วงเวลาของการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะทำดีไซน์เวิร์คช้อป ค่ายอาสา ละครถาปัด เปิดคลาสติวความถนัดสำหรับเด็กม.ปลาย ลงพื้นที่ช่วยเก็บข้อมูลเพื่อวิจัย หรือแม้กระทั่งเรียนสตูดิโอต่อก็ยังมี ในกรณีที่ทั้งอาจารย์และเด็กบ้าพลังอยากพัฒนางานต่อหลังเกรดออกอะไรแบบนี้ เอาครับ ไปให้สุดแล้วหยุดที่ไม่ได้นอน

นายหวาน : ว่าแต่ว่า
นายหวาน : พี่วินไม่รู้สึกว่าช่วงนี้ขาดอะไรไปบ้างเหรอครับ


ขาด? หมายถึงอดนนอนน่ะเหรอ
Wynn_Tect : หือ ก็ไม่นะ อะไรวะ

นายหวาน : อย่างขาดคนหล่ออย่างผมไปอยู่ข้างๆ
นายหวาน : เหมือนที่ผมขาดคนน่ารักอย่างพี่ไปตั้งหลายวันไง

Wynn_Tect : กวนตีน

นายหวาน : ก็อาจจะใช่… แต่ที่ถนัดที่สุดก็เห็นจะเป็นกวนใจพี่นี่แหละครับ

Wynn_Tect : …………..
Wynn_Tect : พอเลย อะไรของมึงเนี่ย

นายหวาน : ก็อยากเจอนี่นา พี่ไม่อยากเจอผมบ้างเลยเหรอครับ


ผมขมวดคิ้ว
ไอ้เด็กนี่…ถามอะไรวะ...

Wynn_Tect : ก็ไม่นะ

นายหวาน : โห เสียใจนะครับเนี่ย ทำไมใจร้ายจัง
นายหวาน : มีแค่ผมเหรอครับที่อยากเจอ
นายหวาน : คิดถึงนะครับ
นายหวาน : อยากไปหาจะแย่อยู่แล้ว


ผมเม้มปากอย่างชั่งใจ ก่อนจะกดพิมพ์คำตอบสั้นๆ

Wynn_Tect : เรื่องของมึงสิ

Wynn_Tect : กูก็ไม่ได้ห้ามนี่...

   
“ตี๋!… ไอ้เชี่ยตี๋!!“
 
“ห้ะ!!” ผมสะดุ้ง “อะไรเหี้ยน้ำ มึงจะเสียงดังทำไมเนี่ย!!”
“ตกใจหมด”

“กูถามว่าอยากลงก่อนมั้ย เดี๋ยวกูจอดรถแล้วตามเข้าไป” น้ำโวยบ้าง
“ขวัญอ่อนกระทันหันเหรอ กูเรียกตั้งนานละ หูตึงรึไง แล้วนี่มึงไม่สบายเหรอ ทำไมหน้าแดงๆ”

“หา… ไม่นี่” ผมจับหน้าผากตัวเอง

เอ๋…
ร้อน?

ไอ้น้ำมองผมจับหน้าจับคอตัวเองด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาทาบมือวัดอุณหภูมิกับหน้าผากผมบ้าง
“นั่นไง ตัวรุมๆ นะ” มันถอนหายใจพร้อมกับเลื่อนมือมาโยกหัวผมเบาๆ แล้วผลักออก
“โอ๊ย มึงนี่… งั้นเดี๋ยวจอดรถแล้วค่อยลงไปซุปเปอร์พร้อมกัน จะได้แวะร้านขายยาด้วย เดี๋ยวก็ไม่สบายคว่ำไปอีกหรอก” คนขับรถบ่นอุบ “นึกว่ามึงมานั่งเขินอะไรตรงนี้ โว้ะ” มันพูดขำๆ

ผมหันขวับ
ไอ้เชี่ยน้ำ กูเปล่า!! ใครจะเขินโทรศัพท์ จะบ้าเรอะ!!!
อยากจะเถียงออกมาดังๆ แต่ก็เหมือนจะปฏิเสธได้ไม่เต็มปาก

“อ่า… ก็อาจจะเป็นไข้… ล่ะมั้ง...”

_ _ _ _

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2018 21:24:40 โดย idee »

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
วันศุกร์

18.25


ถ้าซูมแบบโคลสอัพที่หน้าผม คงเห็นว่าเส้นเลือดสมองเต้นตุบๆ เหมือนจะระเบิด 
สาเหตุน่ะเหรอครับ….

“เก็บของเสร็จรึยังล่ะ นี่เขากลับกันจะหมดแล้วเนี่ย ขยันจังครับน้องวิน” คนยืนกระดิกเท้าฉีกยิ้มอยู่หน้าพาร์ทิชั่นโต๊ะผมพูดแซวอย่างสบายอารมณ์… ไอ้อาร์ตเองครับจะใครล่ะ 

“เดี๋ยวสิวะ จะเร่งทำไมเนี่ย ยังส่งเมลล์ไม่เสร็จเลย” ผมบ่นเสียงเขียว “ไอ้พีททำอะไรอยู่ไหนเนี่ย ไปอยู่กับมันไป๊” เมื่อกี้ยังเห็นตัวสูงๆ ของไอ้พีทกำลังก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อยู่แว้บๆ หายไปไหนแล้ววะ มาเอาเพื่อนมึงไปเก็บที

“มันไปอัพเดท Schedule ใหม่กับ PM” อาร์ตตอบพลางเดินสำรวจรอบโต๊ะทำงานผม

“อ้าว แล้วมึงไม่ไป”

“คนเดียวก็พอแล้วครับ… พี่อาร์ตคนนี้จะอยู่เป็นเพื่อนน้องวินเอง เห้ย… อันนี้แดกได้ป่ะวะมึง” มันยกโหลมินิชอคโกแลตบาร์ขึ้นถาม ผมเลยพยักหน้าให้ นี่สรรพนามชาติไหนเขาใช้ปนกันแบบนี้วะ

“แล้วนี่ถึงกับต้องเอาเอกสารมาให้เองเลยรึไง แมสเซ็นเจอร์มั้งอาชีพมึงน่ะ” ขอแขวะหน่อยนะคุณอาทิตย์

“เอ้า ไหนๆ ก็มีเอกสารต้องส่งให้พอดี พี่อาร์ตกับพีทก็เลยถือโอกาสแวะมาหาน้องวินด้วยเลยนี่ไงครับ” มันตอบพลางแกะห่อชอคโกแลตไปด้วย “ไม่ได้เจอกันนาน… พี่ละคิดถึ๊งงง คิดถึง” แหม… ฟังแล้วอยากจะมือกระตุกโดนหัวมันสักทีนะครับเนี่ย

มาพี่ๆ น้องๆ อยู่นั่น เดี๋ยวกูก็โบกให้

จู่ๆ ตอนห้าโมงครึ่งสองในสามเดอะแก๊งค์ก็โผล่มาที่ออฟฟิศพร้อมซองเอกสารรายงานการประชุมและซีดีแบบพรีเซนต์รอบแรก ก็รู้แหละครับว่านัดส่งและอัพเดทกับฝ่าย CM กันวันนี้ แต่ก็นึกว่าจะให้มอเตอร์ไซค์มาส่งและติดต่อกันทางอีเมลล์หรือ Conference Call กันตามปกติ ไม่ได้มายืนยิ้มแป้นเป็นตัวเป็นตนกวนตีนอยู่ที่โต๊ะผมแบบนี้นี่

“ก็วันนี้วันศุกร์แห่งชาตินะครับน้องวิน” มันยังไม่เลิก… แถมรีบถลาเข้ามากอดคอผมไว้อีกต่างหาก 
“จะกลับบ้านไปนอนเหงาๆ ได้อย่างไร”

“เชี่ยยย เพิ่งแดกกันไปเมื่อกลางอาทิตย์” ผมโวยวายแล้วแงะมือมัน “พวกมึงอยากไปก็เอาเลย กูไม่ไป จะกลับไปนอน”

“พรุ่งนี้วันเสาร์ มึงจะนอนให้ฟูกยุบเลยก็ได้นะ” พีทที่เดินสะพายกระเป๋าตามมาสมทบพูดขึ้นบ้าง “นี่กูมีธุระกับที่บ้านตอนเช้า ดึกมากก็คงไม่ไหวเหมือนกัน เพราะงั้นคืนนี้ต้องจบเร็ว”

“นี่ไอ้น้ำอุตส่าห์จะแบกเอาอุเมะชูขวดละสองลิตรมาเลยนะโว้ย” อาร์ตยังคงเกลี้ยกล่อม “หรือถ้าน้องวินง่วง… น้องวินจะนอนก่อนก็ได้นะครับ พวกพี่ไม่ว่าหรอก”

ผมถอนหายใจ “พวกมึงนี่นะ…”

เดี๋ยว…
“คือจะมาแดกห้องกูเหรอ” ผมหันขวับ เอาอีกแล้วนะพวกมึง “สัส บอกอะไรกูซักคำรึยัง”

“ทำไม ไม่ได้รึไง” อาร์ตรีบย้อน “ช่วงนี้น้องวินห่างเหินกับพรี่เหลือเกินนะครับ พรี่เสียใจ” มันดัดเสียงจีบปากจีบคอซะน่าเตะ

“มาน้องมาพี่กับกูอีกคำกูเอาหนังยางดีดปากตามจำนวนพยางค์เลยนะเชี่ยอาร์ต” ผมคาดโทษ

“โถ่ว… ไม่หนุกเลย” ไอ้ตัวดียังมีหน้ามาบ่น “แซวกันหนุกๆ น่า”

ไว้ให้พ่อมึงได้เพลิดเพลินเถอะครับเพื่อน ไม่ต้องเอาเรื่องแบบนี้มาเอนเตอร์เทนกู
ได้ยินก็หลอนแล้ว โอ๊ย ปวดกบาล

“ตอนโดกูไม่ใช่สวนสนุกพวกมึงนะ ห่า เดินเข้ากันเป็นดิสนี่ย์แลนด์เลย ถามความสะดวกกูบ้างมั้ยเนี่ย”

“ก็ถ้ามึงไม่มีใครซุกไว้ที่คอนโดนอกจากแมว กูก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหานะ” พีทพูดแบบลอยหน้าลอยตา พลางเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมามองหน้าผม “ใช่มั้ย”

ไอ้ห่าพีท หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ
ผมทำตาโตส่งโทรจิต 

“โอ๊ย อย่างแม่งจะมีใคร๊” อาร์ตขึ้นเสียงสูง “ไม่พ้นหูพ้นตากูหรอก”

“เหรออ” พีทลากเสียงยาว ทำเอาต้องหันไปมองแรงใส่อีกรอบ

เงียบไปเลย ผมแยกเขี้ยว “เออๆ อยากไปก็ไป กูห้ามมึงได้ซะที่ไหนวะพวกห่านี่…”
“แต่พวกมึงเก็บกันเองให้เรียบร้อยเลยนะ กูจะนอน ใครแดกแล้วทิ้งไว้ตื่นมากูจะเอาไปยีหัวเรียงตัวเลย”

“เออน่า รับรองเก็บเรียบ” อาร์ตพนักหน้า

“มึงนี่แหละที่จะทิ้งวงไปก่อนใคร” พีทว่าเข้าให้ “ตกลงว่าไปห้องตี๋ เดี๋ยวกูไลน์บอกให้น้ำมันซื้อโซดาด้วยเลยดีกว่า เจอกันที่คอนโดทีเดียว” มันสรุป

“เก็บของเสร็จยัง ไปเร็ว ไปซื้อของกินก่อนแล้วค่อยกลับด้วย”

แหม… สั่งเอาสั่งเอาเป็นเตี่ยกูเลยนะ เชี่ยอาร์ต...
 
_ _ _ _

23.56

หลังจากจัดการอาหารการกินเสร็จ และผมเอาจิ๋วใส่กรงกันป่วนเรียบร้อย วงเหล้าญี่ปุ่นก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ไอ้อาร์ตยืนยันว่าต้องนั่งล้อมวงกินกับพื้น จะได้เข้าถึงจิตวิญญาณของอุเมะชูที่แท้จริง แต่มองจากสภาพแล้วผมว่าเหมือนวงเหล้าเถื่อนตามชายแดนเลยครับ ขาดแค่แคร่ไม้ไผ่กับมะยมไว้แกล้มเหล้าเท่านั้นก็ครบแล้ว 

หลังจากกินดื่มกันพอกรึ่มๆ ก็ขอต้อนรับสู่รายการเรื่องจริงผ่านจอภาคสถาปนิกสู้ชีวิต ประจำไตรมาสนี้ครับ

เริ่มที่คุณอาทิตย์ Construction inspector บริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังที่กำลังนั่งชันเข่าเอามือทุบพื้นระบายอารมณ์อยู่ด้านขวามือผมเลยครับ ท่าทางจะเก็บกดมานาน

“โอ๊ยยย ไอ้เชี่ยย มึงคิดดูดิ่ ความชุ่ยของผู้รับเหมานี่โคตรบียอร์น ฉาบปูนแบบนั้นมันก็ร้าวหมดเพราะไม่ได้ใส่ wire mesh ก่อนอ้ะ แล้วกูมาเจอตอนสร้างบล็อกที่สอง ไอ้ชิบหาย แตกลายงาเป็นกังไสเมืองจีนเลย”

“เอ้า... แล้วถ้าเจอแบบนั้นแล้วมึงจะทำยังไงวะ” ผมอดสงสัยไม่ได้ “ลูกค้าก็ยังไม่ได้ตรวจรับ”

“แก้สิครับ” มันตอบเซ็งๆ “ถ้าตรงไหนร้าวก็ต้องรื้อเลย แล้วไปเฝ้าตอนปู Wire mesh ก่อนฉาบ”
“ส่วนถ้ามันยังไม่ร้าว… ก็ใช้ศรัทธาเอา” มันพนมมือประกอบ “เพี้ยง อย่าร้าวเลยครับผนัง ขอความยืดหยุ่นของปูนฉาบจงมีแก่เจ้า”

“ฮ่าๆ โคตรเหี้ย” ไอ้น้ำหัวเราะเสียงดัง “ตึกมึงอยู่ได้ด้วยความเชื่อเรอะ”

“อย่าให้กูเห็นมึงไปไหว้เสาเอกตอนก่อสร้างนะ” อาร์ตชี้หน้าคาดโทษ

“กล้วย อ้อย ข้าวตอกดอกไม้ มาเป็นเซ็ตเลย” พีทแทรกขึ้น “แม่งต้องมีอ่ะ ทุกโครงการเลยที่กูเจอ”
“นี่มึงยังไม่เจอฤกษ์เทปูนใช่มั้ย”

“คือเชี่ยไรเนี่ย ฤกษ์เทปูน” น้ำทำหน้างง เออ นี่ผมก็เพิ่งได้ยินนะ

“ก็เวลาเทปูนครั้งแรกนั่นแหละ มีโพยมาเลยนะมึง เวลาเท่านี้เท่านั้น ละเอียดระดับนาทีเลยแหละ” พีทอธิบาย “เหมือนเวลาออกรถอ่ะ”

“กูเคยได้ยินแต่ตึกเสร็จแล้วมีฤกษ์เปิดตึก” ผมว่า “งั้นกูต้องดูเวลากดชักโครกครั้งแรกด้วยป่ะวะ ชักสงสัยแล้ว”

“กวนตีนนะมึงอ่ะ” อาร์ตโยนฝาโซดาใส่ขาผม ทำเอาผมหัวเราะเสียงดังบ้าง

“แต่ถ้ามึงเจอผูรับเหมาถ้าทำงานชุ่ยงี้ มึงก็ต้องคุมแจเลยดิ่ เข้าไซต์ทุกวันเหรอ” น้ำถามบ้าง

“เออ ดำจนจะไหม้แล้วเนี่ย” อาร์ตบ่นอุบ “ใครจะได้นั่งหน้าใสแช่แอร์ในออฟฟิศแบบไอ้ตี๋ละครับ”

ถึงกับเหวอ
“อ้าว แวะมาแซะกูทำไม”

“ตี๋มันก็มีเรื่องกลุ้มใจของมันป่ะวะ” พีทว่าขึ้น

“เออ… จะว่าไป... แล้วมึงเป็นไงบ้างละ เรื่องไอ้คุณตะวันอะไรนั่นน่ะ” อาร์ตถึงกับวางแก้วในมือลงแล้วหันมาถามอย่างจริงจัง
“ตอบมาเลยไวๆ”

โอ๊ยไอ้เชี่ยนี่ บ่นเรื่องผนังร้าวต่อไปสิวะ

“ก็ยังเหมือนเดิม…” ผมว่าแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม

“เพิ่มเติมคือความเปย์…” น้ำต่อประโยคให้ผม “บอกแม่งไปดิ่ว่านอกจากจะส่งไลน์กับดอกไม้มาเซ้าซี้ทุกเช้าแล้ว ยังส่งขนมมาเป็นบรรณาการคนในออฟฟิศมึงอีก”

“เหยดดดดดดด” สองคนที่เหลือร้องขึ้นพร้อมกัน

“เชี่ยน้ำ…” ผมว่า “ขายกูซะหมดเกลี้ยงเลยนะ” 

“กูบอกแล้วว่าไม่ธรรมดา” พีทรีบบอก “เคยพูดผิดที่ไหน”

“ก็อยากจะชมว่าความพยายามแม่งดีเหลือเกิน แต่จุดนี้กูเริ่มจะกลัวแทนมึงแล้วว่ะตี๋” อาร์ตว่าพลางเอื้อมมือมาตบไหล่ผม
ขอบใจมาก กูสบายใจขึ้นเยอะเลยไอ้ห่า

“แล้วตกลงมึงจะทำยังไงต่อ นิ่งๆ ไปแบบนี้จะดีเหรอวะ” น้ำถามขึ้นอีกครั้ง “มึงควรทำอะไรสักอย่างนะ”

ถึงกับต้องนั่งคิดกันตาลอย

ทำยังไงดีวะ ถึงจะให้คุณตะวันนี่เลิกยุ่งเรื่องส่วนตัวและ เอ่อ… เลิกเปย์… และ...ก็…  อ่า… เลิกจีบผมด้วยวิธีแบบนี้สักที
เอาแบบไม่แตกหักด้วยนะครับ นี่ยังต้องมีคุยงานกันต่อแน่ๆ ทำโปรเจคนี้ใช่ว่าจะใช้เวลาน้อยๆ 

“เฮ้ย!! กูรู้ละว่าควรจะทำอะไร” อาร์ตพูดเสียงดังแล้วตบเข่าตัวเองดังป้าบ ทำเอาพวกผมที่เหลือต้องหันหน้าไปฟังแผนมันอย่างสนใจ ณ จุดนี้ ขอฟังความเห็นคนอื่นหน่อย ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตแล้วครับ

“มึงต้อง… ไปทำบุญ!! กูว่าได้เวลาที่มึงจะต้องเติมแต้มบุญแล้วเว้ยตี๋!!!” ฟังจบแทบอยากจะถุยเม็ดบ๊วยใส่หน้า ไอ้สองคนที่เหลือนี่อึ้งไปเลย ไอเดียมึงสร้างสรรค์เหลือเกินนะเพื่อนอาร์ต
“ทำไมพวกมึงมองกูแบบนั้น ไอ้ตะวันนั่นอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรไอ้ตี๋ก็ได้นะโว้ย”

“เชี่ยอาร์ตตต ไอ้ชิบหายยยยย นึกว่าจะมีทางแก้สถานการณ์อย่างมีชั้นเชิง” ผมโวยในขณะที่พีทกับน้ำนั่งกลั้นขำจนไหล่สั่น
“ให้กูไปทำบุญเนี่ยนะ!” 

“เก้าวัดเลยไง แม่งต้องช่วยมึงได้บ้างแหละ” มันยืนยัน “แต่ซวยระดับนี้กูว่าไปอยุธยาเลยดีกว่า เคสมึงเกาะรัตนโกสินทร์อาจจะเกินเยียวยา มึงจะได้ไหว้ที่เมืองเก่าของเราแต่ก่อน เอาแบบเก้าคูณสองเลยก็ยังได้ เอาจำนวนวัดเข้าสู้ไง” มันตอบหน้าตาเฉย 

“โอ๊ยยย ไอ้เหี้ยยยยย” ไม่รู้จะด่าความครีเอทนี้ด้วยคำว่าอะไร ได้แต่กุมขมับแล้วโวยวาย ไอ้น้ำกับพีทเห็นแล้วถึงกับปล่อยหัวเราะก๊ากเลยทีเดียว

“ฮ่าๆ จะว่าไปก็ดีนะกูว่า คือมึงหาทางออกไม่ได้แล้วจริงๆ นี่หว่า” พีทพูดไปขำไป “ได้เวลาใช้ไสยศาสตร์แล้วมึง ฮ่าๆๆ”

“เออ ถือว่าไปพักผ่อนด้วย” น้ำเสริมขึ้น “มึงบ้างานเกินไปละรู้ตัวป่ะ”

“อันนี้เห็นด้วย แม่งทำงานตลอดเวลา กูเห็นแล้วจะบ้าแทน” พีทบอก “แต่ไปวันอาทิตย์นะ พรุ่งนี้กูติดธุระกับที่บ้าน”

“กูยังไม่ได้ตกลงเลยยย” ผมร้อง

“นี่ทริปเติมแต้มบุญของมึงเลยนะครับเพื่อน” อาร์ตย้ำ “เพื่อมึงเลย”

“กูรู้ว่ามึงแค่อยากแดกกุ้งแม่น้ำอยุธยา” ผมหันขวับ “อย่ามาเนียน”
ไอ้ตัวต้นคิดแค่ยักไหล่กลับมา กูทายถูกสินะ...

“เอาน่า พักบ้างๆ เดี๋ยวเช้าวันอาทิตย์ก็ออกเดินทางกันซัก… แปดโมง” พีทบอกข้อสรุป

“เชี่ย แปดเลยเหรอ” อาร์ตอุทาน “เช้าไปปป กูง่วงง ออกสักสิบเอ็ดโมงได้ป่ะวะ”

“หราา... สิบเอ็ดโมงเหรอออ... มึงก็ไม่ต้องไปก็แล้วกัน” พีทตอบอย่างไร้เยื่อใยทำเอาไอ้อาร์ตเบ้หน้า ”เดี๋ยวพวกกูไปกันเอง”

“อ้าว ได้ไงล่ะ…” อีกฝ่ายเตรียมจะโวยแต่ก็เปลี่ยนใจ “เออๆๆ แปดก็แปด โว้ะ...”
ถูกแล้ว มึงคิดยังไงจะไปเถียงไอ้พีท แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

“น้ำ มึงไปด้วยใช่มั้ย” พีทหันหน้ามาถาม

“อาฮะ” น้ำพยักหน้าตอบ “ไป”

“เอาจริงใช่มั้ยเนี่ย” ผมว่า “พวกมึงนี่ โอ๊ยย”

“เอาจริงสิวะ ถือว่าไปเที่ยวก็แล้วกัน” พีทพูด “สรุปว่า วันอาทิตย์นี้ ทริปแก้ชงไอ้ตี๋ เจอกันบ้านกูแปดโมง”
“....ถ้าใครให้กูไปรับถึงบ้านกูจะนัดหกโมงครึ่ง” พีทดักคอ ทำเอาไอ้อาร์ตได้แต่ทำปากมุบมิบ

“ส่วนตอนนี้ จัดการอุเมะชูตรงนี้ให้หมดแล้วแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน” ไอ้น้ำชูขวดเหล้าบ๊วยที่เหลืออยู่หนึ่งในสี่

นี่ตกลงผมต้องไปไหว้พระแก้ชงจริงๆ เหรอวะเนี่ย

_ _ _ _

TBC

แฮ่ พาเด็กๆ มาส่งค่ะ

เที่ยวนี้หายไปนานเลย หวังว่าจะยังไม่ลืมกันนะคะ
ได้รับค่าตัวเจ้าหวานจากแม่ๆ มาแล้วนะคะ มีแต่คนแซวว่าค่าตัวแพง 5555
ตอนหน้าหายคิดถึงแน่นอนน สัญญา ตอนนี้ขอพาตี๋วินเข้าวงเหล้าหน่อย คนเขียนคิดถึงเดอะแก๊งค์ค่ะ 5555 
อาจจะดูเฉื่อยๆ ไปบ้าง แต่ตี๋วินก็ใจอ่อนแล้วจริงๆ น้าาา

ขอบคุณทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ อ่านทุกคอมเมนต์จริงๆ นะเออ จำชื่อได้ทุกคนด้วย รักส์
ยินดีน้อมรับทุกคำติชมค่าาาา

เม้ามอยกันได้ที่ #วิเคราะห์การรัก เหมือนเดิมนะคะ
แวะไปเล่นกับคนเขียนได้ที่ทวิตภพ @huentrop ค่ะ

คู่มือการอ่าน คลิกที่นี่ค่า


แล้วพบกันตอนหน้าค่า

 :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2018 21:32:38 โดย idee »

ออฟไลน์ Mukk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไลน์คุณตะวันนี่ดองมาเป็นชาติ แต่ไลน์เจ้าหวานนี่รีบตอบเลยน้าาาา เหม็นความรักจ้าาา 55555555555  :hao7: เจ้าหวานค่าตัวแพงมากจริงๆค่ะ ตอนนี้มาแค่แชทเอง 555555555 เดอะแก๊งค์ยังตลกเหมือนเดิม คนจริงจังแบบตี๋ควรมีเพื่อนตลกๆแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวจะเครียดเกิ๊นน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องหวานดูยุ่งกว่าพี่เขาอีกกก ว่าแต่คุณตะวันนี้ไม่ยอมปล่อยง่ายๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จ้าาาา ไลน์ของน้องต้องรีบตอบเนอะ เดี๋ยวข้อความมันค้างนาน ดูรกๆงี้เนอะ ไม่ได้เลือกตอบเลยยยยยย

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เห็นไลน์รกตาไมได้ ต้องรีบตอบสินะ
อื้มๆ 555555555555555552
ไม่เนียนไปเรียนใหม่นะจ๊ะตี๋วินนนนนน

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ไปๆมาๆก็แอบเชียร์คุณตะวันนะ เพราะแกเปย์หนักจริงๆ

ออฟไลน์ kstation

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เข้ามาดูทุกวันเลยครับว่าเมื่อไรจะ up ซักที ขอบคุณครับที่มา up ให้อ่านรอตอนหน้านะครับ เอาหวาน ๆ เลยนะครับ

ออฟไลน์ Lukaka

  • ★น้อยนิดมหาศาล★
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 613
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
มาแสดงตัวเป็นทีมน้ำ แม้ว่าตอนนี้ดูเหมือนไร้่แต้มต่อใดๆ ..... ไม่แข่งยิ่งแพ้ ที่แท้จริง
แต่ก็ต้องทำใจเพราะชอบมวยรอง ฮึกๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Faxh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงเจ้าเด็กหวาน  :hao7:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่ยังคงเป็น #ทีมน้ำ ฮ่าๆๆๆ ชอบโมเม้นเขานะ ชอบบรรยากาศของคู่นี้ แต่อยู่กับหวานก็น่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวานค่าตัวแพงจังเลย มาแค่ไลน์แล้วหายไปนึกว่าจะมาเซอไพรส์พี่วินที่ห้องซะอีก
ยังดีมีเพื่อนมาป่วนให้หายเหงา

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจ้าหวานตัวไม่โผล่แต่ก็ยังสามารถมาง็องแง๊ง(?) กับพี่วินได้ ของเขาแน่จริงๆ(แอบทำตี๋วินเขินอีก) เพื่อนน้ำกับคุณตะวันก็ต้องหลีกแล้วนะจ้ะ ตัวจริงเขามาแล้วว อิอิ :katai2-1:

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 26

7.43
วันเสาร์


เป็นอีกครั้งที่ต้องได้รับการบันทึกว่าได้ค้นพบเหล้าที่ไม่แฮงค์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายการ เรียกว่าพออาบน้ำปุ๊บก็ตื่นเต็มตาเฉยเลย ผมเลยได้โอกาสมานั่งรีวิวงานชิวๆ ตอนเช้าวันเสาร์แบบนี้อย่างสบายใจ ส่วนเดอะแก๊งค์ที่เหลือนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงหกโมงเช้า เพราะไอ้พีทมีธุระกับที่บ้าน เลยยกโขยงกันไปทีเดียวแบบน้ำไม่ต้องอาบ ก่อนกลับก็ยังย้ำเป็นมั่นเป็นเหมาะถึงทริปทำบุญเก้าวัดที่อยุธยาวันพรุ่งนี้เพราะกลัวผมจะเบี้ยว นี่นึกว่ามันจะลืมๆ ไปแล้วนะครับเนี่ย

แต่มานั่งคิดอีกที
เออ... ไปก็ได้ครับ เผื่อบุญมันจะช่วยอะไรได้บ้าง
ได้เที่ยว ไม่ต้องขับรถเอง ยังไงก็สบาย

ใช้เวลาอีกไม่นานนักเอกสารที่เอาติดมือมาก็รีวิวเสร็จเรียบร้อย เลยได้เวลามาเอาอกเอาใจแปรงขนให้เจ้าแมวนี่สักหน่อย เมื่อวานตอนตั้งวงเหล้ากันตัวแสบนี่มัวแต่จ้องจะแทะกางเกงยีนส์รุ่ยๆ ของไอ้อาร์ต ปีนหัวไอ้พีท แถมเผลอเป็นไม่ได้ชอบมาดมขวดเหล้าอยู่เรื่อย ป่วนจนต้องเอาไปใส่กรง ขี้เหล้าเหมือนใครเนี่ยไอ้ตัวจ้อย!

หลังผมลูบหัวลูบหางจนมันพอใจ เจ้าตัวก็นอนขดตัวกลมป๊อกอยู่บนตักแบบไม่ให้ลุกไปไหน ช่วยไม่ได้แฮะ ว่าจะจับตัดเล็บเช็ดหูให้สักหน่อย ไว้ก่อนแล้วกัน ผมเลยได้แต่นั่งจุ้มปุ๊กยอมให้แมวสิงอยู่บนโซฟาแล้วเปิดดูทีวีไปเรื่อย จะว่าไปตอนนี้แมวจิ๋วเริ่มจะไม่จิ๋วแล้วนะครับ มานอนทับตอนหลับทีนี่ยังกับโดนผีอำ ต้องตื่นขึ้นมาโกยแมวกลางดึกทุกคืนเลย

Rrrr…. Rrrr…

โอ๊ะ โทรศัพท์...
แอบมองด้วยความลุ้น ขออย่าให้เป็นคนที่ชื่อขึ้นต้นด้วยต. เต่าคนนั้นเลย…
อ้อ… ไม่ใช่แฮะ

“ว่าไง”

(ว้าา… ตื่นเช้าจังเลย นึกว่าจะได้โทรมาปลุกซะอีก)
เสียงเจ้าเด็กปีหนึ่งบ่นหงุงหงิงมาตามสาย ทำเอาผมต้องขมวดคิ้ว

“อะไรเล่า… นี่มันแปดโมงกว่าแล้ว”

(ก็อยากได้ยินเสียงพี่วินงัวเงียบ้างนี่)

“พอเลย” ผมเบรคเสียงเข้ม

(อย่าดุนักสิครับ ออกจะน่ารักแท้ๆ...)

กูคงเป็นคนดุที่ไร้ประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกแล้วแหละ ดุจริงมันต้องมีคนเกรงกลัวบ้างป่ะวะ
ดูจากที่มึงยังอารมณ์ดีหยอดนู่นคุยนี่กับกูได้เนี่ย ห่างคำว่าดุไปหลายซอยเลยนะ
กวนตีน...เดี๋ยวกูตัดสายซะนี่…
ผมเตรียมโวยใส่โทรศัพท์ “ไอ้เด็--”

(อ๊ะๆ อย่าเพิ่งว่าครับ…) มันขัดจังหวะ (นี่ทานข้าวเช้าแล้วรึยัง) อีกฝ่ายถามกลั้วหัวเราะ

“อ่า… ยัง” ผมว่าแล้วบิดชี้เกียจ จะว่าไปก็ยังไม่ค่อยหิวนะ “ทำไมเหรอ”

(เฮ่อ ค่อยยังชั่ว นึกว่าข้าวต้มจะมาเก้อซะแล้ว)
(กดลิฟต์ให้หน่อยสิครับ รออยู่ข้างล่างเนี่ย)


“หา” ผมร้อง
ทำไมทุกคนชอบมาหากูแบบไม่ถงไม่ถามสุขภาพอะไรสักคำวะเนี่ย

_ _ _ _

8.34

ผมยืนกอดอกอุ้มแมวอยู่หน้าประตูตอนเจ้าเด็กปีหนึ่งเปิดเข้ามา
มองแล้วก็ต้องขมวดคิ้วกับออร่าความหล่อของมัน แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม… มันดูดีได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ
ไม่นับที่มันยิ้มกว้างอย่างน่าหมั่นไส้เข้ามาด้วยนะ...

“โห คิดถึงจังเลยยย” ร่างสูงเดินปรี่เข้ามาหา “ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน ไหนมาหอมหน่อยสิครับ”

“ห๊ะ” ผมทำตาโต เผลอก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ “อะไรของมึงเนี่ย หยุดเลย” ผมยกเท้าขู่
เข้ามากูถีบนะเอาจริงๆ

อีกฝ่ายแค่กระตุกยิ้มแล้วทำสายตาวิบวับ “ก็… ขอหอมหน่อย” มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ “นะครับ...”
ทำเอาผมเผลอเม้มปากกลั้นหายใจระหว่างมองตากัน เด็กหวานหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มตัวลงกดจมูกลงไปที่หัวกลมๆ ของแมวจิ๋วในอ้อมแขน

อึ้ง…
แดก...


มันเงยหน้าสบตาผมแล้วย่นจมูก
“จิ๋วไม่ได้อาบน้ำแน่เลย”

โอ๊ยยย ไอ้เด็กบ้าาาาาา
อยากหอมแมวตอนถามมึงก็ไม่ต้องมองหน้ากูมั้ย ไอ้ชิบหายย
แล้วเคยบอกรึยังว่าเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของมึงมากกก ไอ้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผนการแบบนี้น่ะ

ในขณะที่กำลังคิดคำจะด่าไอ้เด็กนี่ให้สาสม คนตรงหน้าก็ยืดตัวขึ้นแล้วฉวยโอกาสยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่  จะหลบก็ไม่ทัน จะร้องก็ไม่ออก ก่อนจะตั้งสติได้อีกฝ่ายก็รีบผละออกไปอย่างรวดเร็ว ผมเลยได้แต่อ้าปากค้างอุ้มแมวยืนโง่ๆ เรียงลำดับเหตุการณ์อยู่ที่เดิม

“อื้ม… ส่วนคนนี้อาบแล้ว” มันพูดพร้อมยิ้มแก้มจะแตก

ผมตาโต…
เมื่อกี้… มั่นใจว่าจมูกโด่งๆ นั่นชนเข้ากับหน้าผมแบบจังๆ ลมหายใจยังติดอยู่ที่ผิวอยู่เลย
คิดขึ้นได้แล้วหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมาทันที

“ไอ้หวาน!!” ผมร้องเสียงดัง ไม่ต้องถามแล้วครับว่าหัวใจเต้นแรงขนาดไหน “ทะลึ่งใหญ่แล้วมึงเนี่ย!!”
พูดจบก็ต่อยไปที่ท้องของอีกฝ่ายอย่างไม่เบานัก ทำเอาคนโดนถึงกับต้องงอตัวร้องโอดโอย

“โอ๊ย ทำไมมือหนักจังเลยครับ”

“ตีนก็หนักถ้าอยากจะลอง!” ผมวางแมวลงกับพื้น “เล่นอะไรบ้าๆ” ผมว่าเสียงเขียวก่อนหันไปส่งสายตาอาฆาตให้เด็กหวาน  ถึงปากจะร้องแต่หน้ามึงยังยิ้มร่าอยู่เลยนะ หุบก่อนยิ้มไม่ได้รึไง แล้วทำไมแอคติ้งนานแบบนี้เนี่ย “อย่าเว่อร์ ลุกเลย”

“จุกเหมือนกันนะครับ…”

“สมแล้วแหละ” ผมตอบส่งๆ   

“แต่คุ้ม...”
หวานยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำเอาอยากจะทดสอบพลังหมัดอีกสักรอบ
ก็… ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ใจสั่นอยู่ละก็นะ…   

เดี๋ยว... ผมแต่ตกใจไปหน่อยเท่านั้นแหละน่า! ไม่มีอะไรหรอก

“ไม่เข็ดนะมึงเนี่ย” ผมพูดก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วเดินปึงปังนำเข้าไปในห้อง
“ไหนข้าวต้ม ให้ไว”

_ _ _ _

10.02

ผมนั่งขัดสมาธิอยู่ที่หน้าโซฟาโดยมีจิ๋วนั่งหงายพุงอยู่บนตัก ตัวเล็กส่งเสียงประท้วงต่ำๆ ในลำคอ
“อย่าบ่นน่า… ตัดเล็บนิดเดียว” ผมเอามือหนึ่งจับเท้าหน้า ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ถือกรรไกรตัดเล็บไว้ในมือ
จิ๋วออกแรงดิ้นขลุกขลักไปมา “นิ่งๆ” ว่าแล้วก็ยกขาล็อคเจ้าขนฟูไว้อีกที 

“ล้างจานเสร็จแล้วครับ สะอาดเอี่ยม ผมรับประกัน” คนตัวสูงส่งเสียงนำมา ก่อนจะโผล่หน้ามาจากครัวแล้วมองมาอย่างอึ้งๆ
“โห ต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่วิน”

“ขนาดนี้ยังไม่ยอมเลย ดูสิ” ผมวางกรรไกรในมือลงแล้วหันมาแงะเอาจิ๋วออกจากเสื้อยืดย้วยๆ ของตัวเอง “เนี่ย กางเล็บเกี่ยวมั่วไปหมด” ผมยกจิ๋วขึ้น เชื่อมั้ยครับว่าแมวมันทำหน้าบูดได้ด้วย 

“ผมช่วยดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินมารับแมวจากมือผมแล้วนั่งขัดสมาธิลงฝั่งตรงข้าม ไม่นานนักจิ๋วก็โดนจับหงายท้องแล้วล็อคอุ้งเท้าหน้าไว้อย่างคล่องแคล่ว ตัวแสบเลยได้แต่เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมืออย่างเด็กหวาน ผมเลยได้ทีคว้ากรรไกรตัดเล็บมาลงมือสักที

“ไม่ต้องขู่เลย เสื้อเป็นรูไปกี่ตัวแล้วเห็นมั้ย” ผมว่าแล้วค่อยๆ จับอุ้งเท้าจิ๋วพลิกไปมาแล้วค่อยๆ ตัดเอาส่วนที่แหลมๆ ออกไปทีละเล็บ “เวลาจับตัดเล็บนี่อาละวาดทุกที” ผมบ่น 

“พี่วินก็น่าจะใส่กางเกงขายาว” หวานพูดหน้างอ “เนี่ย ขากับแขนโดนเล็บจิ๋วขูดเป็นรอยหมดเลย”
ไม่พูดเปล่า สายตาของไอ้คนพูดยังจ้องมายังต้นขาที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นออกมาอีกต่างหาก
เออ… รู้แล้วว่ารอยแดงๆ นี่มันเด่นและดูน่ากลัวไปหน่อย แต่ไม่ต้องมองขนาดนั้นได้มั้ยล่ะ! 

“หะ… เห้ย… ธรรมดา เลี้ยงแมวมันก็ต้องมีบ้างสิ” ผมว่าพลางก้มหน้าก้มตาตัดเล็บแมวต่อ

“นั่นแหละครับ พี่ต้องระวังด้วยสิ” หวานตอบ “แล้วนี่ก็ไม่ต้องไปแกล้งพี่วินเลย ยังมามองหน้าอีก ไอ้จิ๋วตัวเหม็น”

ผมขมวดคิ้ว “ไหน มันเหม็นขนาดนั้นเลยเหรอ” ชะโงกหน้าไปหาคนตัวสูงแล้วก้มลงดมหัวจิ๋วบ้าง
อาบน้ำครั้งสุดท้ายก็อาทิตย์ที่แล้วนี่เองนะ มันจะเหม็นได้ยังไง
“อืม… ก็ไม่นี่…” ผมขมวดคิ้ว

พอเงยหน้าขึ้นไปจะเถียงเจ้าเด็กขี้มั่ว ก็เจอเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิด
แต่ครั้งนี้นอกจากสายตาที่จับจ้องมา… ยังเจอเข้ากับลมหายใจที่สะดุดลงอย่างสังเกตได้
แววตาของคนเด็กกว่าไหววูบ ดูประหม่ากว่าที่เคยเป็น...
อีกอย่าง…ผมว่าแก้มของอีกฝ่ายขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

นี่… มัน….
เขินเหรอ...


ผมแอบยิ้มในใจ… เจ้าหวานนี่ก็มีเวลาที่เสียศูนย์เหมือนกันแฮะ
แค่ผมเข้ามาใกล้แบบนี้เนี่ยนะ…

เอ๊ะ...

ทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในท่าทางแบบไหน ก็กลายเป็นผมเองที่รู้สึกถึงความร้อนบนหน้า และได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมครามทะลุออกมาจากอก ผมกัดริมฝีปากกับความจริงที่ว่าใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ และตัวผมเองนี่แหละที่เป็นคนทำให้เกิดสถานการณ์ชวนน่าอายนี่

ตัดเล็บแมวต่อดีกว่า… ผมหนีเอาดื้อๆ
“ไม่เห็นจะเหม็นเลย มึงแม่ง...” ผมก้มหน้างุด เล็บแมวนี่มันตัดยากจริงๆ นะครับ ดูสิ

“เหม็นดิ่” หวานยังเถียง

“ไม่เห็นจะมีกลิ่นอะไรเลย” ผมย่นคิ้วกับกรรไกรตัดเล็บในมือ

“มันหอมไม่เท่าพี่วินนี่นา” คนตรงหน้าเอนตัวมาพูดใกล้ๆ 

ถึงกับต้องรีบเงยหน้ามาชี้มือคาดโทษ “ไอ้นี่ เงียบไปเลย… เดี๋ยวโบกด้วยกรรไกร”
แต่หวานแค่ยกยิ้มแล้วยักคิ้วใส่แบบไม่แคร์โลก
ช่วยกลัวกูสักนิดได้มั้ยวะไอ้เด็กบ้าาาา

“อ่ะ เสร็จแล้ว” ผมวางกรรไกรตัดเล็บลงที่พื้น ยกตัวจิ๋วขึ้นจากตักของอีกฝ่าย
“ไหน ดูหน้าแมวหมดเขี้ยวเล็บหน่อยซิ” ดูจากสีหน้าแล้ว… ถ้าพูดได้ จิ๋วคงกำลังบอกผมว่า ปล่อยเลยมนุษย์ ไม่ตลกนะ!
โอ๊ย แต่มองยังไงก็ตลกอ้ะ ผมขยี้มือกับหัวกลมๆ ก่อนจะปล่อยให้เดินกับพื้น ตัวแสบยิ่งหน้าง้ำเข้าไปใหญ่

เด็กหวานหัวเราะแล้วผละตัวไปหยิบที่โกยผงมาเก็บเศษขนเศษเล็บแมวที่กองอยู่
เอ้อ สบายดีเหมือนกันแฮะ มีคนทำความสะอาดให้ด้วย ผมนั่งแปะอยู่หน้าโซฟา มีบริวารเป็นแมวจิ๋วที่นั่งหันหลังให้อยู่ข้างๆ
ท่าทางจะยังงอนอยู่ ต้องง้อด้วยขนมสักสองซอง

“นี่… วันนี้มีโปรแกรมไปไหนอีกหรือเปล่าน่ะ” ผมถามหลังจากคนตัวสูงเดินกลับมานั่งขัดสมาธิลงข้างๆ

“ไม่ครับ พี่วินจะออกไปไหนหรือเปล่า ผมไปส่งมั้ย” คนตอบพูดเร็วปรื๋อ

“ม่ายย” ผมพูดเสียงยานคาง “ก็นึกว่ามีธุระะไรต้องไปทำต่อ ไหนบ่นว่าปิดเทอมแล้วไม่ว่างไง”

“เสาร์อาทิตย์นี้ไม่มีครับ เคลียร์ไว้โดยเฉพาะ” หวานยิ้มตาหยี

“คือจะมาอยู่นี่ทั้งวันเลยงั้นสิ?”

“อยากอยู่สองวันหนึ่งคืน อนุญาตไหมล่ะครับ” มันทำตาเป็นประกาย

“พอ” ผมย่นจมูกแล้วย้ายตัวเองมานั่งบนโซฟา “ว่างแล้วไม่กลับบ้านบ้างล่ะ พ่อแม่จำหน้าได้บ้างมั้้ย”
เออ พูดจบแล้วก็นึกได้ บางทีผมควรจะถามตัวเองมากกว่า นี่ไม่ได้กลับบ้านตั้งเกือบสองอาทิตย์แล้ว
ป๊าม๊ายังจำได้รึเปล่าวะว่ายังมีลูกชายอยู่อีกตัวเนี่ยยย 

“ใครว่าผมอยู่หอล่ะ นี่กลับบ้านทุกวันเลยนะครับ”

“ลูกคนเดียว?” ผมเดา
จะว่าไปก็ไม่เคยรู้เรื่องครอบครัวของเด็กตรงหน้าเลยนี่นา
วิเคราะห์โดยทั่วไปจากการสังเกต ที่บ้านก็คงไม่ธรรมดา… ชาวบ้านทั่วไปเขาจะให้ BMW 320d ลูกเพื่อขับไปๆ กลับๆ บ้านกับมหาลัยเหรอครับ กว่าผมจะได้รถของตัวเองนี่ตั้งปีสามเข้าไปแล้วเชียวนะ   

“ผิดครับ” หวานพูดพร้อมลุกขึ้นแล้วยื่นหน้ามาจ้องผม “ทายผิดต้องโดนทำโทษนะ” มุมปากยกยิ้มอย่างทะเล้นเหมือนเคย

“อย่าได้คิดเชียว” ผมว่าเสียงเข้ม ทำเอาคนเด็กกว่าหัวเราะเสียงดังก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ   

“ไม่ทายต่อแล้วเหรอครับ”

ผมเลิกคิ้ว “คนสุดท้อง”
นิสัยขี้อ้อนแบบนี้… คงไม่ใช่พี่คนโตแน่ล่ะ

“ปิ๊งป่อง ถูกต้องครับ” หวานว่ายิ้มๆ “แต่เรียกลูกหลงเลยดีกว่า… ห่างกับพี่คนโตก็... สิบปีพอดี” 

ผมหันขวับ “สิบปี? นี่พี่ชายก็ยี่สิบแปดแล้วสิ”

“ใช่ครับ พี่คนโตอายุยี่สิบแปด ส่วนพี่คนรองปีนี้ก็ยี่สิบหก ตอนนี้ช่วยงานที่บ้านอยู่”

“อ้อ…” ก็ไม่แปลกที่จะนิสัยเด็กขนาดนี้ เป็นน้องเล็กที่ทุกคนโอ๋นี่เอง
“อ๊ะ… อย่าบอกว่ามีพี่ชื่อขมกับเปรี้ยว”

อีกฝ่ายได้ยินแล้วก็หัวเราะ “ที่ไหนล่ะครับ พี่ชื่ออันดากับอัศวินต่างหากล่ะ ส่วนผมก็ชื่ออารัญไง”
 
“อ้าว” ผมว่า “แล้วหวานมาจากไหน” สงสัยจริงๆ แล้วนะ

“แม่อยากได้ลูกผู้หญิงครับ เลยตั้งชื่อรอไว้เลยว่าหวานใจ”

“สาวซะไม่มี” ผมหลุดขำ “แล้วออกมาตัวอย่างกับตึก”

“เลยได้ชื่อเล่นว่าหวานไงครับ” คนพูดอธิบายชื่อตัวเองยิ้มแป้น “แต่ก็อยากเป็นหวานใจของพี-- อุ๊!”
เสียงอีกฝ่ายอุทานเพราะโดนหมอนอิงที่อยู่ในมือผมปาใส่เอานั่นหละครับ

“โอ๊ะ หลุดมือ…” ผมแกล้งร้อง
     
“ทำไมขี้เขินอ้ะ” มันทำหน้ายุ่ง
ผมไม่ตอบ ทำไม่รู้ไม่ชี้ก้มหน้าลงไปอุ้มจิ๋วที่อยู่ข้างโซฟาขึ้นมากอดไว้

“ไม่เป็นไร น่ารัก ยังไงผมก็ยอม”
มันยังไม่เลิกครับ ไอ้คนหน้าไม่อาย!

โอ๊ะ ดมหัวแมวคราวนี้ผมว่ามันเหม็นๆ นะ
“ไปอาบน้ำดีกว่าจิ๋ววว” ผมลากเสียงยาวแล้วรีบลุกขึ้น

เมื่อกี้เด็กหวานมันพูดว่าอะไรนะ? ไม่ค่อยได้ยิน
แต่แมวต้องอาบน้ำแล้วล่ะ มันจำเป็น
ไม่ได้หนีเลยนะครับเนี่ย

แม่ง...
อย่าหัวเราะแบบนั้นได้มั้ย น่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย!

_ _ _ _
(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2018 16:39:10 โดย idee »

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
12.23

“บอกว่าจะไปช่วยก็ไม่เชื่อ” เสียงคนเด็กกว่าพูดเซ็งๆ

ผมทำเสียงฮึในคอ “ง้อเจ้าตัวนั้นเถอะ” ผมชี้มือไปยังแมวจิ๋วที่ตอนนี้นั่งขนฟูสะอาดเอี่ยมแต่ตาขวางอยู่บนชั้นวางของ ก่อนจะยกผ้าขึ้นเช็ดผมตัวเองลวกๆ

ไม่น่าลืมไปว่าตัวแสบยังงอนอยู่ พอเข้าห้องน้ำเปิดฝักบัวปุ๊บก็วิ่งปั๊บ ทั้งสะบัดทั้งหนีจนวุ่นไปหมด กว่าจะจับได้เล่นเอาเหนื่อยแฮ่กทั้งแมวทั้งคน พออาบน้ำแมวเสร็จสภาพผมนี่อย่างกับออกมาจากข้าวสารตอนวันสงกรานต์ เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เลยจำเป็นต้องเรียกให้เจ้าเด็กหวานมารับจิ๋วจากหน้าประตูห้องน้ำไปเป่าขน ส่วนผมก็เลยต้องอาบน้ำสระผมใหม่ซะอย่างนั้น ดีหน่อยที่จับตัดเล็บไปแล้ว ไม่งั้นคงได้เลือดเอาแน่ๆ

“ตัวนั้นให้ขนมหน่อยก็ลืมแล้วครับ ที่จะเป็นหวัดน่ะคนนี้ต่างหาก เช็ดอย่างนั้นเมื่อไหร่จะแห้งล่ะครับพี่วิน” พูดจบก็จัดการจับจูงผมไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะยืนยิ้มกว้างแล้วหยิบปลายผ้าผืนเล็กไว้ในมือตัวเองแทน “ผมช่วยนะครับ”   

ผมมองตามผ้าไปอย่างชั่งใจ
พลันนึกถึงคำแนะนำประหลาดของเพื่อนตัวเองเมื่อไม่นานมานี้

ชีวิตอย่ามีเหตุผลนักเลยมึง ใช้ความรู้สึกมั่งเหอะ

ยังไม่รู้หรอกครับว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร แต่ตอนนี้ที่มีมันอยู่ข้างๆ ก็ดีเหมือนกัน

“อือ”
ผมส่งเสียงตอบไปเบาๆ ในลำคอ แล้วขยับตัวนั่งกอดเข่าเงียบๆ ปล่อยให้เด็กหวานใช้ฝ่ามือใหญ่ๆ กับผ้าขนหนูซับน้ำออกจากเส้นผมตัวเองจนเกือบแห้ง

ผมวางคางลงกับเข่าตัวเองแล้วหลับตาลง

มึงรู้สึกยังไงก็ทำไปตามนั้น อยากจะชอบก็ชอบ อยากจะรักก็รัก

“พี่วิน” คนเด็กกว่าเรียกขึ้น ทำเอาต้องลืมตาขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้
เมื่อไหร่กันที่เจ้านี่หยุดมือไปแล้วมานั่งจ้องหน้าผมแบบนี้

“พรุ่งนี้ไปทานข้าวกันมั้ยครับ”

พรุ่งนี้เหรอ ผมขมวดคิ้ว
“ไม่ได้ว่ะ… นัดกับพวกแม่งไว้น่ะสิ ทั้งวันเลย”

“อ้าว…”

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย” ผมพูดดักคอ “ไว้วันหลังสิ”

“สัญญานะ” ร่างสูงพูดเสียงเบา 

เซ้าซี้จริง “อือ”

หวานยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นพร้อมผ้าเช็ดผมในมือ “ห้ามเบี้ยวนะครับ”

เออน่า…
ไอ้เด็กนี่คิดว่าผมรับปากไปอย่างนั้นหรือไงกัน

ทุกอย่างที่ผมทำน่ะ เลือกแล้วทั้งนั้นล่ะ

_ _ _ _

20.32

“เห้ยย อะไรวะเนี่ยยย” ผมโวยวายแล้วโยนจอยลงบนโซฟา “โกง มึงโกงแน่ๆ”

“อ้าว แพ้แล้วพาลนี่ครับ”

“มีอย่างที่ไหนจะมายิงได้สามประตูในสองนาที” ผมว่าเสียงดัง “บ้าแล้ว บ้า”

เด็กหวานหัวเราะหึ “แพ้ก็ยอมรับสิครับพี่วิน”
“คนแพ้ต้องล้างจานนะ พี่วินบอกเอง”

ใครจะไปคิดว่าจะแพ้วะ
ผมย่นจมูก “เออ คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” ผมเดินปึงปังไปที่ครัวพร้อมเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย
ก็ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตใส่คนชนะที่กำลังเก็บเครื่องเกมไปฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี อะไรวะ ผมเป็นเจ้าบ้านนะ
ปล่อยให้ทีมหลุดลีกแบบนั้นมาชนะได้ยังไง หงุดหงิดเป็นบ้า

เดี๋ยวจะไปซ้อมกับพวกไอ้อาร์ตให้หนักเลยคอยดู
แต่ตอนนี้ต้องล้างจาน เฮอะ!

สรุปแล้วเด็กหวานมันมาขลุกอยู่ที่นี่ทั้งวันจริงๆ ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยทีเดียว
เมื่อตอนกลางวันหลังจากง้อแมวจิ๋วด้วยทาโร่ครึ่งซอง หวานก็ขอไปค้นเอาหนังสือในห้องทำงานผมมานั่งอ่านหน้าโซฟา ท่าทางจะเจ็บใจที่โดนติเรื่องทรีดีเรนเดอร์และพรีเซนเทชั่นมากอยู่ หนังสือที่วางกองอยู่ตรงหน้านอกจากหนังสือของทาดาโอะ อันโดะที่มันชอบแล้ว ถึงได้เป็นรวมผลงานของ BIG (Bjarke Ingels Group) แก๊งค์สถาปนิกชื่อดังของเดนมาร์กที่ทำงานนำเสนอได้โดดเด่นกว่าใคร

เห็นร่างสูงนั่งจมจ่อมกับหนังสือแบบนั้น ผมก็เลยกึ่งนั่งกึ่งนอนจับจองโซฟาซะเต็มที่แล้วคว้าหนังสือเศรษฐศาสตร์การเงินเล่มโตขึ้นมาบ้าง กลายเป็นว่างต่างคนต่างอ่านหนังสือไปเงียบๆ จนกระทั่งที่เจ้าจิ๋วเริ่มป่วนปีนแข้งปีนขา ร้องเหมียวๆ กวนเอาตอนห้าโมงเย็นนั่นแหละ ถึงได้รู้ตัวว่าลืมมื้อกลางวันไปซะสนิท

นี่ถ้าอยู่คนเดียวผมก็คงกินขนมปังเปล่าๆ กับนมไปอีกตามเคย แต่ก็คิดว่าเจ้าเด็กตัวโตนี่คงจะไม่อิ่มแน่ๆ ผมเลยตัดสินใจลงทุนสั่งอาหารดิลิเวอรี่ง่ายๆ มาส่งที่ห้องแทน ถือซะว่าสปอยล์ตัวเองด้วยอาหารดีๆ ไปก็แล้วกัน

นั่งกินไปสักพัก เจ้าเด็กนี่ก็พยักเพยิดไปที่เครื่องเกมส์ที่วางอยู่หน้าทีวี แถมยังริอาจจะถามถึงฝีมือวินนิ่งของผม เลยต้องมีแมตช์เล่นให้เด็กมันดู พนันกันด้วยจานกองหนึ่งของมื้อเย็นวันนี้
แล้วผมก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้มายืนล้างให้มือเปื่อยอยู่นี่ไง
แม่งเอ้ย…

“แล้วพรุ่งนี้พี่วินไปไหนเหรอครับ” หวานนั่งลงที่เคานเตอร์ครัว
จิ๋วรีบกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะอย่างเรียกร้องความสนใจบ้าง

“ไปทำบุญ… อยุธยาน่ะ”

“เห… กับพวกพี่พีทน่ะเหรอครับ” หวานเลิกคิ้ว “ดูไม่ใช่แนวเลย”

ก็ถ้าไม่มีสาเหตุก็คงไม่ไป…
แต่ให้ตายยังไงก็จะไม่เล่าให้ไอ้หมอนี่ฟังเด็ดขาด
“ทำไม ต้องทริปบาปหรือไงถึงจะเหมาะ” ผมย้อนให้แล้ววางจานใบสุดท้ายลงตะแกรง

“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อยครับ” มันยิ้ม “แค่แปลกใจหน่อยๆ”
“แล้วไปกันยังไงครับ พี่วินขับไปเหรอ” หวานถามต่อพลางเกาคางให้แมวไปด้วย

“ไอ้พีทขับน่ะ นัดกันที่บ้านมันแต่เช้า”

“งั้นผมไปส่งนะ” อีกฝ่ายรีบพูดแล้วยิ้มตาหยี

“อะไร” ผมทำเสียงเขียว “จะไปทำไม”
 
“พี่วินจะได้ไม่ต้องเรียกแท๊กซี่ตอนเช้า ถ้าจะขับรถไปก็ไม่สะดวกใช่มั้ยล่ะครับ ต้องจอดทิ้งไว้ กว่าจะขับกลับมาอีก” อีกฝ่ายว่า “ให้ผมนอนนี่แล้วไปส่งพี่วินตอนเช้าดีกว่า” หวานกระพริบตาปริบๆ

“ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย” ผมขมวดคิ้ว “ข้ออ้างชัดๆ” 

“เปล่านะครับ” คนเด็กกว่าพูดมาหน้าตาเฉย
“ก็… พี่วินไปทั้งวันเลยใช่มั้ยล่ะครับ… เนี่ย เจ้านี่ก็โดนทิ้งไว้ตัวเดียวอีกแล้วสิน้า…” พูดจาหงุงหงิงเสร็จแล้วก็เอานิ้วขึ้นเกลี่ยหูจิ๋วที่อยู่บนเคาน์เตอร์เบาๆ ทำเอาเจ้าตัวเล็กสะบัดหัวเงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋ว
“นี่ๆ พี่วินจะทิ้งไปอีกแล้วล่ะ”

“เดี๋ยวเหอะ ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย ออกไปหน่อยเดียวเอง เย็นๆ ก็กลับมาแล้ว” ผมตีหน้ายุ่งเดินไปนั่งข้างอีกฝ่าย

“ตั้งตอนเย็นเลยน้า… เราน่ะก็ต้องหิวข้าวท้องกิ่ว หิ้วท้องรอพี่วินจนหมดแรงแน่ๆ” หวานพูดลอยๆ ใส่จิ๋วที่เอียงคอฟังอยู่
“กว่าพี่วินจะกลับ ต้องอยู่ตัวเดียวเหงาๆ ห้องก็กว้างออกขนาดนี้เนอะ เหงามั้ยเรา”

ผมมองเด็กหวานที่ตั้งหน้าตั้งตาสื่อสารกับแมวแล้วก็เกือบจะหลุดขำ ก็ภาพแบบนี้มันตลกน้อยเสียเมื่อไหร่
ไหนดูซิ… จะมาไม้ไหนต่อ

“หือ อะไรนะ… ให้มาอยู่เป็นเพื่อนเหรอ…” หวานพยักหน้าใส่แมวหงึกๆ “ต้องขอพี่วินก่อนนะ ไม่รู้ว่าจะใจร้ายไม่ยอมให้มาหรือเปล่าน้อ” พอดีกับที่จิ๋วร้องเหมียวขึ้นมา ทำเอาอีกฝ่ายได้จังหวะแกล้งทำตาโต “โห อยากให้อยู่ด้วยตั้งแต่คืนนี้เลยเหรอตัวจิ๋ว”

“มากไปละ” ผมยกมือเบรค “อันนี้เพ้อเจ้อ”

คนเด็กกว่าตีหน้าเศร้า เล่าให้แมวฟังต่อ “นี่ดูสิ เขาว่าเราเพ้อเจ้อ.. เนี่ย จิ๋วยังเสียใจเลยดูสิครับ”

“เป็นเรื่องเป็นราวเชียวนะ” ไอ้เด็กจิตนาการสูง

“ก็พี่วินใจร้ายกับผมตลอดเลยนี่นา…” หวานพูดเสียงเบา

ผมได้โอกาสอุ้มจิ๋วมาไว้บนตักตัวเอง ปรายตามองคนข้างตัวเร็วๆ
“คำก็ใจร้าย สองคำก็ใจดำ” ผมก้มหน้าพูดกับแมว
“ก็ยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่ให้อยู่เนอะ”

“หือ...” เสียงอีกฝ่ายพูดอย่างงุนงง “พี่วิน?”

ผมยังคงมองก้อนขนบนตัก “ก็…จะกลับก็ตามใจ แต่ถ้าอยู่...พรุ่งนี้ก็ดูแลห้องกับเจ้านี่ให้ดีแล้วกัน” ผมลุกขึ้นแล้วปล่อยแมวจิ๋วลงกับพื้น เจ้าตัวเล็กเอาตัวถูกับขาผมอย่างเอาใจ “เอ่อ… แล้วก็...”
ผมก้มหน้างุด ก่อนจะตรงไปที่ประตูห้องนอน “ถ้าจะนอนในนี้ก็… กฎเดิม ทำไม่ได้ก็นอนโซฟาไป...”   

อยากหายไปจากตรงนี้เร็วๆ ไม่ค่อยอยากเห็นหน้าอีกคนยังไงก็ไม่รู้
ก็กลัวว่าเสียงหัวใจมันจะดังทะลุออกมาน่ะสิ

_ _ _ _

7.23
วันอาทิตย์


“ข้างหน้าเลี้ยวซ้าย… อือ ตรงไปเลย นั่นๆ ซ้ายมือ ตรงห้องแถวสีเทาๆ ที่มีรถจอด” ผมชี้ไม้ชี้มือบอกคนขับรถอาสาประจำวันที่ยังอยู่ในชุดนอน “แล้วจอดตรงนี้เลยก็ได้ เดี๋ยวเดินเข้าไปเอง”

320d คันงามหยุดลงอย่างนิ่มนวลตามคำขอ ไม่ต้องขับเองนี่มันสบายจริงจริ๊ง
หวานถอดแว่นตากันแดดออก “อื้อหือ บ้านพี่พีททำอะไรครับเนี่ย ห้องแถวตั้งหกห้องติดกัน”

“โรงงานเฟอร์นิเจอร์น่ะ” ผมว่า “มันถึงเลือกเรียนอินทีเรียไง เห็นอย่างนั้นก็คุณชายเหมือนกันนะ” 

“อ๋อ…” หวานพยักหน้า

“ส่งเสร็จก็กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวขากลับไอ้พีทคงไปส่งที่คอนโด” ผมเดา จะไม่ไปส่งก็จะแล้งน้ำใจเกินไปนะครับเพื่อนพีท
“ดูแลจิ๋วดีๆ ล่ะ ว่างๆ ก็อ่านหนังสือซะ” ผมกำชับ “กองที่เอามาให้เมื่อคืนน่ะ”

“คร้าบ… รีบกลับมานะครับ ผมรออยู่น้าา อย่าปล่อยให้คิดถึงนานนะ” อีกฝ่ายลากเสียงอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนลงจากรถผมเลยอดไม่ได้ที่จะเคาะหน้าผากเด็กปีนเกลียวไปหนึ่งที โทษฐานทำตัวกวนประสาทแต่เช้า

มองรถขับออกไปสักพัก เลยได้เวลาโทรหาเจ้าบ้านเพื่อรายงานตัว ปรากฏว่าเพื่อนอีกสองหน่อยังไม่โผล่ ผมเลยได้โอกาสเข้ามานั่งตากแอร์ในบ้านพีทก่อน อ่าห์… โซฟาหนังแท้ชุดเบ้อเร่อนั่งแล้วสบายตูดสมกับเป็นร้านขายเฟอร์เนิเจอร์จริงๆ ราคาคงจะหลายหลัก นั่งให้คุ้มหน่อยละกัน

ผมนั่งอ้าปากหาววอดๆ แล้วบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที
“ฮ้าวว…” หรือไม่ก็ควรจะนอนไปเลย น่าจะคุ้มที่สุด 

“ตี๋ มึงช่วยให้เกียรติกาแฟที่พึ่งแดกไปหน่อยได้มะ กูซื้อเครื่องมาแพงนะสัด” ไอ้พีทมองผมอย่างเซ็งๆ แล้วนั่งลงข้างตัว

“ก็กูง่วงอ่ะ” ผมเถียง 

“ไม่ได้นอนรึไงล่ะครับเพื่อน” มันแหย่ “ทำอะไรดึกดื่นกับใครรึเปล่าครับ”

“สัดพีท อย่าเพ้อเจ้อ” ผมขว้างซองน้ำตาลที่ยังไม่ได้แกะใส่มัน “กูดูซีรีส์ถึงตีสอง”

“ตอบคำถามไม่ครบ กูถามด้วยว่ากับใคร”

“...”
กูไม่รู้ กูหิวน้ำ
ผมยกกาแฟขึ้นดื่มอึกๆ

“ฮั่นน่อววว ร้ายว่ะไอ้เสือ” มันยิ้มกริ่มแล้วเอาศอกสะกิดผม
“เอ้อ… เมื่อเช้ามึงมายังไง แท๊กซี่เหรอ?”

“อือ กูมาแท๊กซี่” ผมโกหกหน้าตาย

ไอ้พีทพยักหน้า… ค่อยโล่--
“อื้มม… เดี๋ยวนี้เขาเอาบีเอ็มมาขับแท๊กซี่กันแล้วเหรอวะ” มันลูบคางแล้วมองหน้าผมด้วยสายตาล้อเลียน ในขณะที่ผมได้แต่อ้าปากค้าง เดี๋ยวก่อน!
“ก็กูดูวงจรปิดอยู่” มันเฉลย “หึ… อย่าริอาจโกหกกูครับเพื่อน”

ไอ้สัด! ไอ้พีทแม่ง!!
เดี๋ยวก่อน!
CCTV มันยี่ห้ออะไร ความละเอียดเท่าไหร่วะ
ผมคิดเร็วๆ รถไอ้หวานติดฟิล์มหกสิบหรือสี่สิบกันแน่… มันจะเห็นชัดไปถึงหน้าคนขับมั้ยเนี่ย
กรรม!!

“เออน่า… ไม่ต้องเครียด” มันเอื้อมมือมาตบไหล่ผม “กูยังไม่รู้ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น จนกว่ามึงจะพร้อมให้กูรู้”

ชัดเลย… แม่งเห็นแน่ๆ
“เอ่อ…” ผมนั่งนิ่ง “มึง… มึงโอเคเหรอวะ กับ… คือ…”

“ทำไมกูต้องไม่โอเค?” มันย้อน “กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีแล้วไอ้ตี๋ ถ้ากูไม่โอเคกูคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว”

“แต่ว่า.. คนที่กูคุยอยู่… มัน...” ผมยกมือลูบหลังคอตัวเอง
โอ้ย จะเริ่มตรงไหนดีวะ

“มึงมีความสุขมั้ย” มันถาม

“หา?”
ผมขมวดคิ้ว ยังไงนะ

“เวลาเขายิ้ม มึงยิ้มมั้ย… แล้วเวลามึงยิ้ม เขายิ้มกับมึงหรือเปล่า”
“โลกของมึงกับโลกของเขา มันหมุนในจังหวะเดียวกันหรือเปล่า” 
“อยู่กับเขาแล้วมึงมีความสุขมั้ย” 
“ทั้งหมดนี้ไม่ต้องตอบกู” มันยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ “ตอบตัวเอง”

“ว่ามึงเจอคนนั้นของมึงหรือยัง”

“...”

“แค่มึงมีความสุขกูก็ดีใจแล้วตี๋” มันยิ้ม “ต่อให้แม่งเป็นมนุษย์ต่างดาวกูก็ไม่แคร์”

_ _ _ _

TBC


เอาเด็กๆ มาส่งเป็นกำลังใจวันกลางอาทิตย์แบบนี้อีกแล้วค่า
ตี๋วินลู๊กก ยอมเปิดใจให้น้องสักทีเนอะ ถึงเด็กจะทำตัวน่าตีไปหน่อยก็ตาม
ว่าแต่ทำไมยิ่งเขียนยิ่งรักพีท 5555

ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆ อ่านวนไปวนมาเวลาเขียนไม่ออกบ่อยมากๆ มากอดทีนึง
ถ้าเรื่องนี้ช่วยฮีลลิ่งคนอ่านได้บ้างเราก็จะดีใจมากเลย ไม่ดราม่าค่ะสัญญา
ยินดีรับคำติชมจากทุกคนค่าา
เม้ามอยกันได้ที่ #วิเคราะห์การรัก เหมือนเดิมนะคะ ส่วนบ้านคนเขียน ณ ทวิตภพ @huentrop ก็มาคุยเล่นได้เหมือนกันค่า ยินดีๆ 

ปล. ค่าตัวเจ้าหวานที่ทุกคนโดเนทมาสำแดงเดชแล้วค่ะ บทเยอะจนเบียดทุกคนไปเลย
ปลล. กดเข้าไป คู่มือการอ่าน
>>Insight Analyst<< ได้เหมือนเดิมนะคะ แต่อาจจะยังไม่ได้อัพเดทมากเท่าไหร่ งงคำไหนบอกได้เหมือนเดิมค่า

ตอนหน้าเรามาดูทริปแก้ชงของตี๋วินกันนะคะ ว่าเดอะแก๊งค์จะป่วนขนาดไหน แล้วที่คุณตะวันเงียบไปนี่ยังไงกันน้อ

พบกันตอนหน้าค่ะ

รักส์

 :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2018 21:16:43 โดย idee »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้ำตาจะไหลลลล ในที่สุดก็มีวันนี้ค่ะ เอาใจช่วยน้องหวาน 60% แล้ว แวะมาหาพี่เขาบ่อยๆนะลูก  :hao5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หวาน เธอไปเอาความเนียนนี้มาจากไหน?

ปล. รักความพีท

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เอ็นดูความคุยกับแมวรู้เรื่องของน้องหวาน กับความเริ่มใจอ่อนของพี่ เป็นตอนที่น่ารักตอนนึงเลย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ค่อยๆรู้สึก

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตี๋วินแพ้ทางเด็กหวานเต็มที่เลยล้ะ555555 หวานสู้ๆใกล้เส้นชัยแล้ว ปล.อยากหอมตี๋วินบ้างง่าา :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด