เพื่อนร่วมงานแบบที่ 27
“ของมันต้องคีย์เข้าให้หมด ถ้าทำให้จบวันนี้ก็หยุดได้อย่างสบายใจ วันจันทร์เปิดมาเช็กสต๊อกก็สบาย มันก็ไม่ใช่ว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ทุกวันหรอก วันที่เหนื่อยมันก็เหนื่อยใช่มั้ย วันที่สบายมันก็มี”
ชยาพยักหน้ารับและเขี่ยข้าวในจานไปมา หลายวันมานี้มีเรื่องให้คิดมากทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัว เงินไม่พอใช้คือปัญหาใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะรบกวนใคร คุณอาวิษณุให้ความช่วยเหลือมามากพอแล้วและชยาคงไม่มีหน้าไปขอรบกวนอยู่บ่อย ๆ เพราะที่ได้รับมาก็มากเกินพอแล้ว
“วันศุกร์หน้าจะลานะ”
บอกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าและเบลก็พยักหน้ารับ น้ำเสียงของคนพูดเฉื่อยชาและเบลที่กำลังกินข้าวอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองชยาที่เริ่มถอนหายใจยาวและยังเขี่ยข้าวไปมาไม่ยอมกิน
“นี่คุณหนู มีอะไรอยากพูดก็พูดออกมา อย่าทำหน้าแบบนั้นมันไม่ได้เข้ากับตัวเองเลย”
แล้วชยาที่กำลังเขี่ยข้าวก็เริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง บางครั้งก็แค่อยากมีใครสักคนที่ถามว่าเหนื่อยมั้ย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปบ้าง
“พอจะรู้จักคนที่ปล่อยบ้านให้เช่าบ้างมั้ย อยากได้บ้านเช่าเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ สักหลัง จะได้ไม่ต้องขึ้นลงลำบาก พอดีมีคนอยากเช่าบ้านที่อยู่น่ะ เข้าใจใช่มั้ยว่าบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้น มันดูแลรักษาลำบาก ปล่อยให้เช่าน่าจะได้เงินมากกว่าอยู่เอง”
คำพูดเรียบง่ายและคนพูดพยายามพูดไปยิ้มไป ทั้งที่แค่ดูก็รู้ว่าแววตาของชยาฉายแววของความทุกข์ใจมากขนาดไหน
“อืม...เดี๋ยวช่วยดูให้นะ”
แค่เบลบอกว่าจะช่วยดูให้ ชยาก็เริ่มยิ้มออกมาได้บ้างและเริ่มตักข้าวเข้าปากหลังจากที่เขี่ยไปมาอยู่นาน
“โทษทีนะ เป็นคุณหนูตกอับก็แบบนี้แหละ ดูมีปัญหาชีวิตเยอะไปหน่อย"
แบบนั้นเรียกว่าการประชดประชันตัวเองและเบลก็ชะงักมือที่กำลังตักข้าว เงยหน้าขึ้นมองหน้าของชยาและขมวดคิ้วมุ่น ไม่ชอบใจที่ชยาเรียกตัวเองแบบนั้น
“นี่คุณหนู ผมเรียกคุณว่าคุณหนูได้คนเดียวนะ แล้วจะตกอับหรือไม่ตกอับนั่นผมก็ไม่สนใจด้วย ยังไงผมก็จะเรียกคุณว่าคุณหนูแบบนี้แหละ”
ชยาไม่เข้าใจ ทำไมเบลถึงได้ทำหน้ายุ่งขนาดนั้นตอนที่บอกว่ายังไงก็จะเรียกชยาว่าคุณหนูแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ให้ได้
“คุณหนูตกอับ”
ก็แค่หัวเราะออกมาเสียงเบาและเรียกตัวเองแบบนั้น และเบลก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของชยานิ่ง ๆ ปรามด้วยสายตาและคำพูดที่มาพร้อมกับน้ำเสียงนิ่ง ๆ ก็ทำให้รู้ว่าเบลไม่ชอบใจที่ชยาเรียกตัวเองแบบนั้น
“ชยา”
เรียกชื่อของชยาแบบจริงจังและชยาก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำกับเบลอีก กินข้าวต่อไปเงียบ ๆ จนหมดและไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยสักคำ จนกระทั่งกำลังจะเดินออกจากร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ ที่มากินด้วยกัน
“พี่เบล”
ใครสักคนที่ชยาไม่รู้จักเดินเข้ามาทักเบลและเรียกชื่อจนเบลต้องหันกลับไปมอง
“พี่เบล”
“..........”
เบลไม่ได้ตอบกลับ และแค่เพียงเห็นหน้าคนที่มาทักก็เดินหนีทันที ไม่สนใจจะพูดกับผู้หญิงคนนั้นเลยสักคำ
“พี่เบล”
เธอยังไม่หยุดเดินตาม และชยาที่ไม่รู้เรื่องระหว่างคนสองคนก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง
“พี่เบล”
ไม่ใช่แค่เรียกแต่เธอเดินเข้าไปกอดแขนเบลเอาไว้และเบลก็สะบัดแขนจนเธอเซไปอีกทางจนเกือบล้มและชยาก็ช่วยพยุงเธอเอาไว้
“พี่เบล ทำไมพี่ทำแบบนี้กับหนูได้ลงคอ”
ชยาแน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเบลคงไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดาแน่ ๆ และเบลก็ฉุดข้อมือของชยาให้ยืนขึ้นไม่ต้องการให้ชยาช่วยผู้หญิงที่ล้มลงไปอีก
“คุณเบล”
เรียกคนที่กำลังทำสีหน้าที่แสดงออกให้เห็นได้ชัดว่ากำลังโกรธและไม่พอใจกับสิ่งที่ชยาทำ และชยาก็ต้องลุกขึ้นเดินตามเบลไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ห่างออกไปและทิ้งให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งร้องไห้โดยไม่คิดจะสนใจเลยสักนิด
“ทำไมถึงทำแบบนี้”
ถามด้วยความสงสัยและเบลก็ไม่ยอมตอบนอกจากแสดงท่าทีโมโหกระฟัดกระเฟียดอย่างเห็นได้ชัด จนชยาไม่กล้าพูดอะไรอีก นอกจากสวมหมวกกันน็อคไปเงียบ ๆ และทำได้แค่รอให้เบลอารมณ์เย็นลงกว่านี้ก่อน
ยืนรอเงียบ ๆ และไม่พูดอะไรเลยจนกระทั่งคนที่แสดงท่าทางว่ากำลังโมโหเริ่มสงบจิตสงบใจได้บ้างและเบลก็เริ่มพูดบางอย่างออกมา
“นั่นแฟนเก่าผมเอง...”
“..........”
“ตอนที่เลิกกันแม่งเหี้ยมาก เละเทะพังพินาศ”
“..........”
“แม่งเอาผู้ชายมานอนที่ห้อง”
“..........”
“..........”
“เกลียดชิบหาย ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่กระทืบแม่งให้ตายคาตีน”
“..........”
เบลพูดแค่นั้น และสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ หยิบหมวกกันน็อคมาสวมและเรียกให้ชยาขึ้นมาซ้อนท้าย
ชยาสัมผัสได้ถึงความเงียบงันบางอย่าง อารมณ์ความโกรธ ความรู้สึกแย่ ๆ ที่บางทีมันอาจจะอยู่ในส่วนลึกของใจเบลมานาน เป็นความทรงจำแย่ ๆ ที่เบลคงไม่อยากจำ ไม่ต้องการพูดถึง แต่ความรู้สึกนั้นก็วนเวียนกลับมาอีกครั้งในวันนี้
ชยาไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง ไม่แน่ใจว่าควรนิ่งเงียบไปแบบนี้และไม่พูดอะไรต่อไปดีหรือเปล่า
สุดท้ายแตะมือไปที่หลังของเบลและตีเบา ๆ หลายครั้งจนเบลที่กำลังสตาร์ทรถต้องเอ่ยถาม
“ทำอะไรคุณหนู”
“ปลอบใจ”
“ปลอบใจทำไม ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“อ้าว ไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ”
“ทำไม อยากให้เป็นหรือไง”
ถ้าเบลสามารถต่อปากต่อคำกับชยาได้ขนาดนี้ชยาก็มั่นใจแล้วว่าเบลคงไม่ได้เป็นอะไรแล้วอย่างที่พูดจริง ๆ
“แฟนเก่าแม่งก็เป็นแค่แฟนเก่าผมไม่สนหรอก แฟนใหม่ซ้อนท้ายอยู่ทั้งคน”
ชยาไม่รู้ว่าเบลพูดอะไร เพราะตอนที่พูดเสียงลมที่แทรกเข้ามาทำให้ชยาฟังแทบไม่ได้ยิน
“ว่าไงนะ”
ตะโกนถามและเบลก็ตะโกนตอบกลับมาให้ชยาได้ยินชัดเจนขึ้น
“ผมบอกว่าแฟนใหม่ซ้อนท้ายอยู่ทั้งคน จะสนใจแฟนเก่าทำไม”
TBC.