เพื่อนร่วมงานแบบที่ 28
ทุกอย่างเป็นปกติดี เคยเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เบลทำงานส่วนที่ต้องรับผิดชอบ และชยาก็ทำงานในส่วนของตัวเองที่ต้องทำ ยังใช้ชีวิตเป็นปกติแบบเดิมเหมือนทุกวันและเบลที่เดินเข้ามาหาชยาที่กำลังคีย์ใบส่งของเข้าระบบ ก็ยื่นหน้าเข้ามามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อมองรายละเอียดที่ชยากำลังคีย์ข้อมูลเข้าไป
“เหลืออีกไม่เยอะแล้วใช่มั้ย”
เอ่ยถามและชยาก็พยักหน้ารับ เบลลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ชยาและเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยความเมื่อยล้า และชยาที่หยุดมือจากการคีย์ใบส่งของก็ยื่นมือมานวดที่ไหล่ของเบลเบา ๆ ไม่ได้นวดแบบจริงจังแต่เหมือนเป็นการหยอกล้อกันมากกว่า
“อาส์ โคตรสบายยยยยย”
แค่ได้ยินเสียงและท่าทางของเบล ชยาก็รีบดึงมือกลับทันที มองหน้าคนที่ทำหน้ายุ่งตอนที่ชยาหยุดนวดให้แล้วก็นึกขำจนต้องหัวเราะออกมา
“อ้าว ทำไมทำแบบนี้ล่ะคุณหนู มาทำให้อยากแล้วจากไป”
ไม่ได้จริงจังในสิ่งที่พูดและเบลก็ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาเมื่อใกล้เวลาเลิกงาน
“บ้านเช่าที่ให้ช่วยหาให้ตอนนี้หาได้แล้วนะ เลิกงานไปดูกัน”
เบลรับปากว่าจะช่วยหาบ้านเช่าแบบที่ชยาต้องการให้ และเบลก็หาให้จริง ๆ อย่างที่เคยพูดเอาไว้ ชยาหันมามองคนที่ชวนไปดูบ้านเช่าด้วยกัน และไม่คิดว่าเบลจะจำได้
“จริงเหรอ”
“ไม่จริงมั้ง”
เพราะเบลตอบแบบนั้น ชยาก็เลยพยักหน้ารับ และคีย์งานของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ กลายเป็นคนที่ตอบกลับแบบกวน ๆ เป็นฝ่ายหงุดหงิดซะเอง
“นี่คุณหนู เรื่องไหนพูดจริงหรือพูดเล่นก็น่าจะแยกออกได้เองมั้ย ต้องให้บอกหมดทุกอย่างเลยเหรอ”
ชยาเข้าใจสิ่งที่เบลพูด แต่ก็ยุ่งเกินกว่าจะต่อปากต่อคำกับเบลได้ หันมามองคนที่นั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ๆ สบาย ๆ แต่ขมวดคิ้วมุ่นแล้วก็ทำนึกขำจนต้องยิ้มออกมา
“เรื่องนั้นทำไมจะไม่รู้ แต่เบลบอกเองว่าไม่จริง จะให้เซ้าซี้ถามหรือไง”
แล้วเบลก็เพิ่งรู้ตัวว่าโดนชยากวนประสาทเข้าให้แล้ว เหลือบสายตามองหน้าของคนที่ยังอมยิ้มที่มุมปากแล้วก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา ยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงและยื่นหน้ามาใกล้ชยาอีกนิดและท้าวคางมองหน้าชยาแบบยิ้ม ๆ
“รู้แต่ก็ยังทำเป็นเฉย เอานิสัยกวนตีนแบบนี้มาจากใคร”
ชยายังคีย์เอกสารในมือต่อไป ไม่ได้ตอบสิ่งที่เบลถามแต่นิ่งเฉยและยังอยู่กับงานของตัวเองที่ยังไม่แล้วเสร็จ กลายเป็นคนที่นั่งท้าวคางมองหน้าชยาต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นว่าชยาไม่ได้สนใจกันเลยสักนิด
“นี่คุณหนู”
เรียกคนที่กำลังทำงานและชยาก็ขมวดคิ้วมุ่น หันมามองหน้าของเบลนิ่ง ๆ และพูดบางอย่างให้เบลเข้าใจ
“ทำงานอยู่ อย่าชวนคุยได้มั้ย มันทำให้เสียสมาธิ เนี่ยคีย์ผิดเลย เดี๋ยวมีปัญหาก็ต้องไปตามเคลียร์กับออฟฟิศอีก”
แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังยุ่งกับงานของตัวเองจริง ๆ และเบลที่โดนชยาหาว่ามาป่วนจนทำงานผิด ๆ ถูก ๆ ก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ลานรับสินค้าทันที
ชยาที่ยังจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์วางเอกสารที่อยู่ในมือลงแล้ว และมองเลยไปที่คนที่เดินจากไปและถอนหายใจยาวเพราะเริ่มรู้สึกบางอย่างที่หาคำอธิบายให้ตัวเองไม่ได้
ถ้าเป็นชยาแบบเมื่อก่อนก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่พักหลัง ๆ เวลาที่เบลเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ทั้งตอนที่เบลท้าวคางมองชยาก็รู้แล้วว่าทำตัวไม่ถูก พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พยายามทำให้ตัวเองยุ่งกับงาน ทั้งที่จริง ๆ แล้วอยากจะลุกขึ้นเดินหนีไปไกล ๆ ไม่กล้าหันมามองตอนที่เบลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ไม่กล้าสบตาและไม่กล้าแม้แต่จะหันไปพูดคุยด้วยตรง ๆ
...ที่เบลพูดบางอย่างเมื่อวันก่อนชยาจำได้ แต่ชยาก็พอนึกได้ว่าบางทีคนพูดก็อาจพูดไปแบบไม่จริงจังและไม่ทันได้คิดอะไร และชยาไม่ควรเก็บเอาสิ่งที่เบลพูดมาใส่ใจ...
ทั้งที่ไม่ควรเก็บเอามาคิดหรือใส่ใจ แต่ไม่รู้ทำไมถึงจำได้ทุกประโยคทุกคำจนถึงวันนี้
ชยาวางมือจากใบส่งของใบสุดท้ายของวัน และเก็บรวบรวมเอกสารเตรียมจัดส่งเข้าออฟฟิศ ปิดคอมพิวเตอร์และจัดเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย เดินมาที่ลานรับสินค้าและน้องเอื้อยที่มาเลียบ ๆ เคียง ๆ อยู่นานแล้วก็เดินเข้ามาหา
“คุณชยาจะกลับแล้วเหรอคะ”
หันไปส่งยิ้มให้น้องเอื้อยที่เดินเข้าทักทายและเดินออกมาด้วยกันเพื่อไปตอกบัตรที่ป้อมยามหน้าบริษัท
“ถ้ากลับแล้วจะไม่เห็นนะครับ”
แล้วน้องเอื้อยที่เดินอยู่ข้าง ๆ ชยาก็หัวเราะออกมาเพราะสิ่งที่ชยาพูด
“คุณชยาที่จริงเป็นคนตลกมากนะ เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็รักคุณชยากันทั้งนั้น พี่นิดหรือเซียงก็ชมคุณชยาตลอด ตั้งแต่แผนกเรามีคุณชยามาช่วยเดี๋ยวนี้สบายขึ้นเยอะเลยค่ะ”
เพราะได้รับคำชม ชยาก็เลยยิ้มกว้างและเอ่ยขอบคุณน้องเอื้อยที่เดินมาด้วยกัน
“ก็ได้ทุกคนช่วยนั่นแหละ ไม่งั้นผมก็คงมาทำให้ป่วนมากกว่า”
“ไม่หรอกค่ะ คุณชยาเก่งมากจริง ๆ เดี๋ยวนี้พวกเราก็สบายแล้วมีคุณชยาช่วย งานก็เร็วขึ้น สต๊อกก็ตรงแล้วด้วย มีอะไรดี ๆ เข้ามาที่แผนกเราเยอะมาก”
“ใช่ เยอะมากกกกกกก จนน่าตกใจ”
ประโยคถัดมาน้องเอื้อยไม่ได้พูด แต่เป็นเบลที่เดินมาแทรกกลางระหว่างคนสองคนที่กำลังเดินคุยกันและเบลก็ยกแขนกอดคอชยาทันที
“คุณนี่มันสุดยอดคนดีเป็นเกียรติเป็นศรีกับแผนกรับสินค้าจนน้ำตาผมจะไหล ปลื้มใจกับสิ่งที่คุณทำมาก คุณนี่เป็นไอดอลของแผนกรับสินค้าเลยนะคุณหนู”
เบลพูดจาแปลก ๆ จนชยาต้องเบะหน้าและดึงแขนของเบลออกและหันมามองคนที่ยิ้มกว้างแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนการแกล้งทำมากกว่า
“อะไรของคุณเนี่ย”
“อะไรล่ะ ผมก็มาชมคุณหนูด้วยคนไง”
แบบนี้เรียกว่าป่วนมากกว่า และเบลที่โดนชยาดึงแขนออกก็กลับมากอดคอชยาอีกครั้ง ลากชยามาตอกบัตรด้วยกันได้โดยทิ้งน้องเอื้อยไว้ข้างหลังและเบลก็หันกลับไปโบกมือให้น้องเอื้อยและส่งยิ้มให้
“เจอกันวันจันทร์นะเอื้อย”
น้องเอื้อยได้แต่ยืนมองชยาที่หลังจากตอกบัตรเสร็จแล้วก็ซ้อนท้ายเบลกลับบ้าน รู้ตัวและมั่นใจแล้วว่าโดนกันท่าแน่ ๆ เลยได้แต่บ่นพึมพำเสียงเบาและรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่รุ่นพี่ร่วมแผนกทำ
“พี่เบลนี่ยังไง จะสนับสนุนน้องหน่อยก็ไม่ได้”
รถมอเตอร์ไซค์ของเบลที่มีชยาซ้อนท้ายขี่ออกไปจนลับตาและน้องเอื้อยก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมอง
TBC.