“พี่วาคร๊าบบบบบบบบบบ” เสียงเรียกเสียงดังพร้อมกับเจ้าลูกหมูวิ่งมาหาผมที่ตอนนี้กำลังจดน้ำหนักองุ่น
“ว่าไงครับคนเก่ง” ผมก้มอ้าแขนรอร่างป้อมที่วิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลัง
“น้องน้ำไปโรงเรียนนะครับ”
ฟอด ฟอด
“ฮ่าๆๆ มาครับ” เขาหอมแก้มยุ้ยคืน “ตั้งใจเรียนนะครับ”
“ครับ น้ำไปก่อนน้า” มือป้อมโบกมือพร้อมกับวิ่งไปที่รถที่คุณไม้รออยู่ ผมโบกมือให้จนรถลับสายตา
“ชักอิจฉาไอ้ลูกลิงแล้วสิ” ผมหันไปมองคนที่พึ่งเดินเข้ามา คิ้วเรียวขมวดเมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ อิจฉาน้องน้ำ
“พี่ลมพูดอะไรก็ไม่รู้”เขาว่าก่อนที่จะเดินไปคุยกับคนขึ้นของ ลงบัญชีก่อนที่จะนับเงิน ตอนนี้องุ่นล็อตสุดท้ายเก็บเกี่ยวเสร็จหมดแล้วก็จะต้องพักต้นองุ่นยังดีที่ตอนนี้ส้มพึ่งออกผลผลิต เขาจดรายรับลงสมุด พี่ลมกำลังคุมคนงานให้เริ่มตัดกิ่งองุ่น
“พี่ลมใช้เวลานานเท่าไหร่ครับ” เขาเดินเข้าไปถาม
“ก็คงราวสองอาทิตย์ ไอ้ละอองกูบอกให้ตัดกิ่งไม่ได้ได้บอกให้มึงตัดต้นองุ่นกูทิ้งนะเว้ย”
“นายๆอย่ามายืนคุมดี๊ ละอองตื่นเต้นนน” ละอองทำท่าสะดีดสะดิ้ง ซักพักละอองก็ต้องวิ่งเมื่อทำท่างอนเป็นผู้หญิงแล้วพี่ลมหมั่นไส้เลยวิ่งไล่เตะ
“โอ๊ยยยยย พ่อเลี้ยงๆๆๆ พอๆๆๆๆ ละอองเจ็บ”
“ไปทำงานได้แล้วเว้ย” พี่ลมว่าก่อนที่จะเดินกลับมาหาผมที่ยืนหัวเราะอยู่เล่นกันเหมือนเด็กๆ
“ร้อนรึเปล่า” เขาผงะเมื่อมือใหญ่ยืนมาปัดผมชื้นเหงือให้พ้นใบหน้า
“อ่าขอบคุณครับ” ทำไมเขาถึงรู้สึกร้อนที่หน้ากว่าเมื่อกี้อีกนะ
“เดี๋ยววาเข้าไปที่สำนักงานก่อนเลย พี่จะไปดูไร่ผักกับสตอเบอร์รี่ซักหน่อย” สามอาทิตย์แล้วที่เขามาอยู่ที่นี่แต่เขาก็ยังไปทั่วทั้งไร่เลย ได้ไปแค่ท้ายไร่ ไร่ส้ม กับป่าเหนือไร่แค่นั้น เขารู้ว่าที่นี่ปลูกผลผลิตหลายอย่างแต่ก็ไม่คิดว่าไร่นี้จะปลูกเยอะจริงๆ โดยที่ร่างบางยังไม่รู้เลยว่าการที่เขาไปท้ายไร่มันพิเศษกว่าใคร
“ผมไปด้วยได้ไหม”
“หืม แต่มันจะใกล้เที่ยงแล้วนะ” คนตัวโตห่วงว่าอีกคนจะกินข้าวไม่ตรงเวลา
“น่านะพี่ลม” ไม่รู้ตัวว่าเขาเผลออ้อนให้อีกคนตามใจ
“ก็ได้ ใส่หมวกด้วย” เพียงเท่านั้นรอยยิ้มหวานก็มอบให้เขา
“โอ๊ยยย มดกัดๆ แถวนี้มดเยอะจังเลย” เสียงแซวจากละออง พี่ลมทำเพียงถลึงตาก่อนที่จะคว้าข้อมือผมไปกุมแล้วพาขึ้นรถขับไปที่สวนผัก คุณลมเข้าไปหาคนดูแลสวน ผมเดินเข้าไปในสวนที่ตอนนี้ปลูกผักกาดแก้ว และกะหล่ำปลีอีกแปลงถัดไป
“ผักน่ากินเลยนะครับ”
“คุณวาเอากลับไปไว้ที่บ้านด้วยสิ” ป้าคนงานที่เห็นผมก้มๆเงยๆมองผักกะหล่ำเดินเข้ามาตัดกะหล่ำหัวใหญ่ให้เขา
“โอ๊ยขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเอาไปไว้ที่รถก่อนนะครับ” เขาเดินเอาไปเก็บที่รถก่อนที่จะเดินมาช่วยป้าเก็บกะหล่ำ
“หลานป้าดีขึ้นรึยังครับ” เขาถามเมื่อวานนี้หลานคนเล็กของป้าไม่สบายหนักมากเขากับละอองเลยพาไปหาหมอ หลังจากเกิดอุบติเหตุผมถูกสั่งห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้ขับรถ อีกทั้งรถที่ใช้จะต้องตรวจเช็คก่อนเสมอ หลังจากที่ตรวจอาการผมก็พาน้องกลับมาส่ง ป้าขอบคุณผมซะยกใหญ่
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะคุณวา ขอบคุณคุณวาจริงๆนะคะ” ผมยิ้มก่อนที่จะบอกกล่าวว่าไม่เป็นไร
“วา” เสียงเรียกทำให้ผมหันไปมอง พี่ลมกวักมือเรียกผมบอกลาก่อนที่จะรีบเดินไปหาพี่ลม
“มีอะไรครับ”
“ร้อนไหม หิวยัง เดี๋ยวไปที่ไร่สตอเบอร์รี่ก่อนแล้วค่อยกลับไปกินข้าว” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบว่ายังไม่หิว พี่ลมพยักหน้าก่อนที่จะขึ้นรถจักรยานแล้วบอกให้ผมขึ้นซ้อน
“จับดีๆล่ะ”
“พี่ลมก็อย่าปั่นซิ่งนักก็แล้วกัน” ได้ยินแต่เสียงหัวเราะทุ้มก่อนที่ขายาวจะออกแรงถีบ ผมรีบจับชายเสื้อทั้งสองข้างไว้ จริงๆมีทางที่เอารถไปได้เพียงแต่ต้องอ้อมนิดหน่อย
“พี่ลม วาจะขอเก็บสตอเบอร์รี่ไปทำขนมให้น้ำได้ไหม”
“อะไรๆก็เจ้าลูกลิง ได้สิ พี่ก็อยากลองกินบ้าง”
“ฮ่าๆอย่าว่าผมอวยตัวเองเลยนะ พี่โยกินจนน้ำหนักขึ้นตั้งหลายกิโล” พูดถึงพี่ชายแล้วขำนั่นเป็นผู้ช่วยในการชิมเลย แรกๆผมก็ทำอาหารอย่างเดียวแต่พอดูรายการทำขนมแล้วอยากลองทำ พี่โยเลยต้องมาเป็นหนูทดลองผลคือน้ำหนักขึ้น ฮ่าๆ
“วา คิดถึงบ้านไหม”
“ถ้าบอกว่าไม่คิดถึงคงโกหก ผมคิดถึงพี่โย มัมและแด๊ด ทุกคนมีบุญคุณกับผมมาก ผมคิดถึงพวกเขาทุกคน”
“งั้นเหรอ” ระหว่างทางต่างคนต่างเงียบจนถึงไร่สตอเบอร์รี่ พี่ลมเดินดูตามไร่ ส่วนผมรับเอาตะกร้าไม้ไผ่ก่อนที่จะเดินตามพี่ลม
“พี่ลมปลูกพันธ์อะไรครับ” เขาถามคนที่ทำหน้านิ่งและไม่ยอมคุยกับผม
“พันธ์พระราชทาน 80 พึ่งลองปรับหน้าดินปลูกมาได้สองสามปีแต่ก็ได้ผลผลิตที่น่าพอใจ” พี่ลมว่าก่อนที่จะนั่งลงข้างๆแปลงพลิกดูใต้ใบว่ามีเพลี้ยหรือใบที่เป็นโรครึเปล่า
“พี่ลมนี่เก่งนะครับ” เขาเอ่ยสิ่งที่คิดในใจมาตั้งนานแล้ว คนที่อายุไม่ถึงสามสิบดี แต่เสียทั้งพ่อและแม่ กลายเป็นเสาหลักในบ้าน บริหารจัดการไร่ ทั้งยังเลี้ยงน้องน้ำอีกด้วย ไหนจะโรงงานทีพี่ลมสร้างมาเพื่อแปรรูปสินค้าตกเกรดเพื่อเพิ่มมูลค่า ถึงจะมีพี่ไม้แต่ผมก็ว่าพี่ลมเก่งจริงๆที่ทำทุกอย่างได้ดีขนาดนี้
“ชมพี่นี่หวังอะไรหรือเปล่า” เสียงหัวเราะทุ้มในลำคอ
“ไม่นะพี่ลมเก่งจริงๆ พี่ลมทำหลายๆอย่างพร้อมกัน ยังดูแลคนงาน แถมยังเลี้ยงน้องน้ำได้น่ารักน่าชัง”
“เออๆ พอเหอะก่อนที่พี่ตัวจะลอย” เขาเหลือบไปมองก็เห็นใบหูเหมือนจะแดงนิดๆ นั่นทำให้ผมแอบขำ ก่อนที่จะเลิกพูดแล้วเก็บสตอเบอร์รี่ดีกว่า ปล่อยให้พี่ลมเดินหนีไปเขินที่อื่น เก็บได้พอประมาณก็เรียกพี่ลมที่เหมือนจะคุยติดลม
“งั้นกลับเลย พี่หิวแล้ว” ผมยิ้มก่อนที่จะเดินตามขึ้นซ้อนจักรยาน มือหนึ่งจับชายเสื้ออีกมือก็ถือตะกร้าที่ใส่สตอเบอร์รี่ลูกโตๆเต็มตะกร้า
“ผมหนักไว้ไหมอ่ะพี่ลม”
“ไม่ จริงๆพี่ว่าวาตัวเล็กไปด้วยซ้ำ” ก็ถ้าเทียบกับพี่ลมเขาก็แทบเป็นคนแคระเลย เขาไม่ได้ตัวเล็กนะ พวกพี่ลมตัวใหญ่เองต่างหาก
หลังจากที่ปั่นมาถึงไร่กะหล่ำ เราสองคนก็ขึ้นรถกลับมาที่บ้าน ผมให้พี่ลมหอบเอากะหล้ำกับผักอื่นๆที่คนงานเก็บมาไว้ท้ายรถให้เข้าบ้านส่วนผมก็เดินเข้าครัวอุ่นกับข้าวที่ทำไว้เมื่อเช้าแล้วตั้งโต๊ะ
“พรุ่งนี้ไปตัดไหมใช่ไหม เดี๋ยวพี่พาไป ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม”
“ครับ ไม่เจ็บแล้วมันคันมากกว่าอ่ะ” เขาว่าก่อนที่จะตักหมูใส่จานอีกคน
“อย่าเกา พี่จะเข้าไปในไร่อีก เอกสารที่พี่ให้เตรียม...”
“ผมทำไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ อยู่บนโต๊ะในห้องนอนพี่ลมจะใช่เลยไหม เดี๋ยวผมจะขึ้นไปเอาให้”
“ไม่ต้องหรอกพี่แค่ถามไว้ พรุ่งนี้พี่จะเอาไปยืนกับธนาคารตอนที่พาวาไปโรงพยาบาล” เขาพยักหน้า พี่ลมกินน้ำกอ่นที่บอกว่าจะเข้าไปในไร่ แต่ก็บอกว่าผมไม่ต้องเข้าไปแล้ว
ค้นเอาแป้งสาลีออกมากับไข่ได้ที่ผมออกไปชื้อมาเก็บไว้นานแล้ว ร่อนแป้งน้ำตาลเกลือให้เข้ากัน ก่อนที่จะตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้แป้งเนียนก่อนที่จะเทแป้งลงถาดเอาเข้าเตาอบ ระหว่างนั้นก็เอาครีมสดมาตีจนตั้งยอด พักไว้ ก่อนที่จะล้างสตอเบอร์รี่แล้วซับน้ำออกหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า ระหว่างที่หั่นก็แอบกินไปหลายลูก ลูกสดๆนี่อร่อยจริงๆ เสียงเตาอบดังขึ้น เขาเอาแป้งที่อบได้ที่ออกมา แกะออกจากถาดพักบนเขียง รอเย็นก่อนที่จะปาดวิปครีมลงไปแล้วค่อยโรยสตอเบอร์รี่หั่นชิ้นให้ทั่วก่อนที่จะม้วนเบามือ ห่อไว้ด้วยแร็พ เอาเข้าตู้เย็นแช่ไว้รอเวลาที่ลูกหมูเลิกเรียน
จริงๆก็เริ่มคิดแล้วว่าผมสมัครงานมาเป็นผู้ช่วยหรือเขามากลายเป็นพี่เลี้ยงและพ่อบ้านกันแน่ ได้แต่ส่ายหัวไร่ความคิดไร้สาระ ก่อนที่จะขึ้นไปเก็บห้องนอนทั้งห้องพี่ลมและห้องเจ้าลูกหมู
“น้ำกลับมาแล้วววววววววววววววว” เสียงโวยวายขณะที่ผมกำลังปูผ้าปูผืนใหม่ให้น้ำต้องวางมือก่อนที่จะเดินลงมารับน้ำที่ตอนนี้กำลังถอดรองเท้าเก็บไว้ที่ตู้
“กลับมาแล้วเหรอครับ” เขาถามก่อนที่จะอ้าแขนรอรับร่างป้อมที่พุ้งเข้ามา
“น้ำหิ๊วหิว” เจอหน้าเขาแล้วหิวนี่ยังไงกันห๊ะไอ้ลูกหมู เขาบีบจมูกเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เห็นหน้าพี่แล้วหิวนี่มันน่าน้อยใจจังน้า”
“อุ๊บ น้ำคิดถึ๊งคิดถึงพี่วา”
ฟอด
แค่อ้อนไม่พอยังมีออฟชั่นเสริมด้วยการหอมแก้มผมอีกฟอดใหญ่ ผมยีหัวแรงๆก่อนที่จะไล่ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยลงมาทำการบ้าน น้ำรับคำก่อนวิ่งตึงตังขึ้นห้องตัวเอง
“เชื่อฟังกันจริงสองพี่น้องนี่” พี่ไม้ที่หิ้วของเข้ามา ก็แซวผมทันที
“น้องน้ำว่าง่ายอยู่แล้วครับ พี่ไม้ทานน้ำก่อน” เขายกน้ำส่งให้พี่ไม้ที่นั่งพักตรงโซฟา
“บ้านพี่พอมีวาแล้ว พี่นึกถึงตอนที่แม่อยู่เลย”
“เหรอครับ”
“พี่ดีใจจริงๆนะที่วามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้” เขาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่เหรอ ไม่ได้เป็นคนนอก แต่เป็นคนในครอบครัว เป็นส่วนหนึ่ง ริมฝีปากบางค่อยๆยกยิ้ม ถึงเขาจะมีมันแด๊ดพี่โยแต่ส่วนหนึ่งในจิตใจเขาก็รู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน เขาอยากมีครอบครัว ครอบครัวของเขาเอง พื้นที่ที่เป็นของเขา และที่นี่อาจจะเป็นที่นั่น
“ผมก็ดีใจ”
“หึๆ”
“พี่ไม้จะทานขนมไหมเดี๋ยวน้ำก็ลงมาผมจะได้ตัดใส่จานมาไว้เลย”
“เอาสิ” พี่ไม้เปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปเรื่อยก่อนเสียงขัดความสุขจะดังขึ้น
“อะไร........ไม่ว่าง........ไม่ต้องมายุ่งน่า......................ว่างนักรึไงห๊ะ...................ไสหัวไปทำงานได้แล้ว” เสียงตะโกนด่าคุยโทรศัพท์ดังมาถึงในครัว เขาได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย พี่ไม้ไม่เคยตะโกนอารมณ์เสียแบบนี้มาก่อน
“ทานอะไรหวานๆดีกว่าครับ” เขายกเค้กไปเสิร์ฟคนที่ทำท่าทางหัวเสีย
“ขอบคุณนะวา”
“กลิ่นอะไรห๊อมหอมมมมมมมมม” นั่นไง มาตามกลิ่นของหวานเลย
“ฮ่าๆๆ มาเลยเจ้าลูกหมู นั่งลงดีๆครับพี่วาให้ทานชิ้นเดียวน้า”
“ถ้าน้ำไม่อิ่มอ่ะ” แก้มป่องพองลมถาม
“ว้า....งั้นข้าวเย็นคืนนี้น้องน้ำอดเข้าเย็นล่ะกันเนาะ”
“ง่า........ไม่เอาน้า พี่วาคนสวยยย กับข้าวพี่วาอร่อยจะตายน้ำจะกิน”
“งั้นก็ทานชิ้นเดียวนะ ถ้ากินเยอะกว่านี้ ลูกหมูจะกลิ้งไปอยู่แล้ว” ผมบีบพุงน้อยๆของเจ้าลูกหมู
“ฮ่าๆๆ ขอบคุณครับพี่วา ฟอด” ไม่ขอบคุณเปล่าๆ ยังหอมแก้มผมอีกครั้ง
“ให้ตายเหอะถ้าเจ้าลูกลิงนี่โตกว่านี้พี่ว่าพี่คงได้สู่ขอวาให้น้ำแน่ๆ”พี่ไม้ว่าขำๆก่อนที่จะตักเค้กทานอีกคำ
“พี่ไม้!!!” เขาร้องอย่างตกใจถึงจะแซวก็เถอะแต่ถ้าใครได้ยินคงไม่ดี
“โอ๊ะต้องบอกว่าน้องวาคนสวยของไอ้ลูกลิงถูกจองไว้เสียแล้ว” จอง ใครจองอะไรยังไง สังสัยหน้างงของผมจะน่าขำมากเพราะพี่ไม้ขำได้ยิ่งใหญ่มาก
“เออสบายกันจริงๆนะ” เสียงทุ้มดังมาจากหน้าบ้านทำให้ทุกคนเงียบทันที
“ไงพี่” พี่ไม้ทักพี่ลม เจ้าลูกหมูมัวกินไม่ได้สนใจพ่อหรอก ผมเลยลุกขึ้นเดินไปกดน้ำให้คนที่พึ่งกลับเข้ามา
“กลับมาเร็วนะมึง”
“มีตัวปัญหาไปป่วนนิดหน่อย” พี่ไม้บ่น ตัวปัญหา?? เขาทำหน้าสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรพร้อมกับยืนแก้วน้ำเย็นให้คนที่พึ่งนั่งแกล้งลูกที่โซฟา
“ขอบคุณนะวา” ผมยิ้มแทนคำตอบก่อนที่จะลงไปนั่งข้างน้ำที่ดิ้นหนีพ่อที่ยังแกล้งไม่เลิก
“พี่ลมเลิกแกล้งลูกได้แล้ว เดี๋ยวขนมก็ติดคอ” ผมรีบจับมือใหญ่ที่พยายามจี้พุงพุ้ยของน้องน้ำอีกรอบ ทำไมชอบแกล้งเจ้าลูกหมูจัง
“พี่ลม!!!” ผมต้องร้องดังเมื่อจากที่ผมจับมือใหญ่ไว้ กลายเป็นพี่ลมดึงมือกลับแรงๆ ทำให้ตัวผมลอยขึ้นไปนั้งระหว่างขาของคนที่ดึงผมขึ้นมา มืออีกข้างที่โอบที่เอวผมอย่างพอดี
ฉ่า
“พี่วาไม่สบายเหรอครับ” ยิ่งน้ำถามยิ่งรู้สึกร้อนที่หน้าเหมือนจะระเบิดแล้ว ได้แต่ก้มหน้าลง
“หึๆ พี่จะรุกหนักเกินไปแล้ว ดูหน้าน้องบ้าง” ไม่รู้ว่าคนที่นั่งซ้อนหลังทำหน้ายังไงได้ยินแต่เสียงหัวเราะในลำคอนั่นยิ่งทำให้ผมก้มหน้าลงไปอีก
“ทำไม น้องวาเขินเหรอ”
“ปล่อยเถอะครับ” ผมได้แต่พยายามแกะมือที่โอบเอวไว้ออก
“ฮ่าๆโอเคพี่ปล่อยก็ได้”
“ผมจะไปทำกับข้าว” ผมรีบเดินจนแทบเหมือนวิ่งหนีเข้าไปหลบภัยในครัว ทรุดตัวลงนั่งก่อนที่จะยกมือกุมหน้าอกแน่น หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมาอยู่แล้ว
ดวงตาคมมองตามคนที่เดินหนีเข้าห้องครัว ริมฝีปากหนายกยิ้มที่หากวามาเห็นคงจะต้องเขินยิ่งกว่าเดิมแน่นอน
“แหมไม่ค่อยรุกเลยนะพี่” ไอ้ไม้พูดแซวขึ้นมาเมื่อเห็นผมมีความสุขกับการเย้าแย่คนที่ “ชอบ”
“ทำไมวะ ก็ไม่อยากเสียเวลานี่หว่า” พอถามว่าน้องคิดถึงบ้านไหม พอน้องบอกว่าคิดถึงผมนี่ใจหาย ยิ่งได้ยินที่น้องคุยโทรศัพท์กับพี่ชาย ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวใจ กลัวใจน้องจะกลับ แต่พอน้องบอกว่าจะอยู่ในใจของผมเหมือนมีเรี่ยวแรง อาจจะเห็นแก่ตัวแต่ผมก็ไม่อยากเสียความอบอุ่นนี้ไป วาอาจจะเหมือนเข้ามาในชีวิตพวกเขาไม่นาน แต่วาเหมือนเป็นความอบอุ่นที่เข้ามาในครอบครัว และผมอยากให้ความอบอุ่นนี้อยู่กับเขานานๆ
“เออ ผมอนุมัติผ่าน เจ้าลูกลิงล่ะ”
“น้ำชอบพี่วา” เท่านั้นล่ะ มติเอกฉันท์ ผมยกยิ้ม
“ว่าแต่ ไอ้ผู้กองมันได้เรื่องว่ายังไงบ้าง” ผมมองไอ้ไม้ที่ทำหน้าเหม็นเบือ
“มันบอกว่าได้เรื่องแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเพียงแต่มีผู้สงสัย ว่าแต่พี่ให้ไอ้ผู้กองติดต่อพี่เองสิ” ผมยิ้มร้าย เรื่องอะไรกูจะเข้าไปวุ่นวาย
“เรื่องสิ ดูหลานไปนะมึง กูเข้าไปช่วยวาก่อน”
“ช่วยให้วินาศสันตะโรดิ” เขาไม่ตอบเพียงแต่เดินเข้าครัว เห็นร่างบางที่เหมือนจะหายขัดเขินทำโนนทำนี่อย่างคล่องแคล่ว พอได้กินฝีมือว่าแล้ว กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่า
“ให้พี่ช่วยอะไรไหม”
“มะ...ไม่ต้อง พี่ลมออกไปรอข้างนอกเถอะครับ” วาหน้าแดงได้น่าดูชม เขาเลยเผลอมองเพลิน
“ทำไมล่ะพี่อยากช่วย” ผมเดินเข้าไปใกล้อีก
“แค่พี่ออกไปข้างนอกก็ถือว่าช่วยผมแล้วนะครับ” วารีบเดินอ้อมไปอีกทาง นั่นทำให้เขารู้สึกแปลกๆ หรือเพราะเรื่องเมื่อกี้
“รังเกียจพี่เหรอ” เขาลองถามอย่างลองเชิง แสร้งทำหน้าเศร้าอีกนิด
“ไม่ใช่นะพี่ลม...... วาแค่ทำตัวไม่ถูก” เสียงพูดอ่อยๆนั่นทำให้เขายิ้มกว้าง และเขาก็เริ่มรู้สึกเก้อๆขึ้นมานิด
“อ่า งั้นพี่ออกไปก่อนนะ” เขาว่าให้วาอยู่ในครัวคนเดียวนั่นเป็นความคิดที่ดีแล้ว
“อ่าวไหงออกมาเร็ว”
“กูขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ”
หลังจากที่ขึ้นไปอาบน้ำกลับลงมาดูเหมือนอาการขัดเขินจะลดลง ถึงแม้จะมีบ้างที่วาหลบสายตา และเอาแต่ดูแลไอ้ลูกลิง แต่แก้มเนียนกลับแดงระเรื่อทันทีเมื่อสบสายตา แม่ง น่ารักโคตร กูเผด็จศึกเลยดีไหมวะ
“พี่ ...เก็บอาการบ้างพี่ หน้านี่.....” ไอ้สัด!!!ไม้
******************************************************************************
เอาพ่อเลี้ยงไปเก็บที
เขาอยากบอกว่า ......เขาแต่งพร้อมกันสี่เรื่อง
บางที่ก็ตันเรื่องโน้นมาแต่งเรื่องนี้
เพราะฉะนั้นความสับสนจะมีมากมาย
ขอบคุณทุกคนที่เข้่ามาอ่าน
ขอบคุณที่เข้ามาเม้นท์ให้กำลังใจ
ชอบคนอ่าน รักคนเม้นท์
ฮ่าๆๆๆๆ