ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561  (อ่าน 84978 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
อ้าว ไม้เองก็มีเหมือนกันเหรอ
นึกว่าแซวๆ แต่พี่ลม อิอิอิ
น่ารักจังครอบครัวนี้
 o13

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นัท ลืมที่เคยรับปากกับไม้สินะ
น่าจะมีใครมาชอบไม้นะ
ไม้ นัท จะได้รู้ตัวว่ามันถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หากจะถามว่าไม้ตัดใจได้รึยัง คำตอบก็คือไม่!! เพียงแต่ความเป็นจริงมันฟาดหน้าเขาซะจนต้องยอมรับว่ามันควรจะถึงทางตันแล้ว วันนี้ก็เป็นอีกวันที่มันยังคงมาวอแวชวนผมไปกินข้าว หลังจากที่พี่ลมจัดการกับปรุงเล่นเอากลายเป็นข่าวใหญ่ ซุบซิบกันทั่วทั้งจังหวัด ส่วนเสี่ยปานตอนนี้ก็เงียบหายไป ซึ่งลมมันก็ไม่ได้วางใจนักได้แต่กำชับให้ผมดูแลโรงงานให้ดี ตอนนี้จ้างคนงานมาเพิ่มแถมยังมีสายตรวจมาอยู่ในโรงงาน ใครล่ะที่จัดมาถ้าไม่ใช่ไอ้นัท นั่นยิ่งทำให้มันเข้ามาวุ่นวายกับผมขึ้นเรื่อยๆ
   “ไปกินข้าวกัน”
   “กูไม่ว่าง” เงยหน้าไปตอบก่อนที่จะฝังตัวลงกองเอกสารที่ผมต้องรื้อออกมาเพราะผมต้องการให้โรงงานมีการรับรองที่ได้มาตรฐาน แต่การที่ผมบริหารงานคนเดียว นั่นทำให้บางทีเอกสารมันก็ขาดๆหาย ให้ตายเหอะ นี่กูหามาจะครึ่งวันแล้วทำไมไม่เจอวะ อ๊ากกกกูอยากจะบ้าตาย ขอยืมตัววามา ไอ้พี่ลมแม่งก็เป็นห่วง จนบอกจะมาช่วยตอนเย็นๆ มาเป็นครอบครัวพร้อมหน้ากันเลยทีเดียว
   “น่าไปกินแปบเดี๋ยวไม่หรอกเว้ย”
   “โธ่เว้ย ไม่เห็นรึไงกูยุ่งอยู่ มึงไปหาอะไรกินคนเดียวก่อนนะ” โบกมือไล่ไอ้ผู้กองที่เหมือนงานจะว่างเหลือเกิน หูได้ยินเสียงปิตประตูเบาๆคงจะหนีไปกินข้าวแล้ว  ผมยังวุ่นวายกับการลื้อแฟ้มเอกสารเพื่อต้องการหาเอกสารก่อตั้งโรงงานที่ดูเหมือนผมจะเก็บดีเกินไป จนหาไม่เจอ
   หอม
   กลิ่นหอมๆทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นจากกองแฟ้มผมก็เห็นนัทที่กำลังเทแกงใส่ถ้วยพอดี นัทหันหน้ามาพอดีที่เห็นผมทำหน้างงๆ
   “ก็มึงไม่ว่างกูเลยชื้อมาเสิร์ฟมึงไง”
   “อ่า......” บางทีเพราะมันเป็นแบบนี้ไง ผมถึงได้คิดเข้าข้างตัวเองมาตั้งแต่สมัยขาสั้นไง กูนี่โง๊โง่เนาะ
   “หิวจนเบลอรึไงวะ ลุกดิ๊” ไอ้นัทที่เห็นผมยังนั่งเอ๋ออยู่เรียกผมอีกรอบ ผมเลยลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะ นัทยืนช้อนส้อมมาให้และผมก็รู้ว่าผมหิวมาก ไม่พูดพร่ำทำเพลงผมก็ตักข้าวเข้าปากไม่พูดไม่จา อีกคนก็นั่งกินข้างๆ พยายามชวนคุยผมก็เพียงแต่ตอบคำถาม มึงจะให้กูกินก่อนไหมล่ะ
   “แล้ววันนี้มึงจะกลับกี่โมง”  ผมรีบเคี้ยวก่อนที่จะตอบไปว่าผมจะนอนนี่ ที่ห้องทำงานจะมีห้องเล็กๆอยู่ด้านหลังมีเบาะเอาไว้ซุกหัวนอนซึ่งเอาจริงๆก็แค่ไม่กี่ซั่วโมง นัทพยักหน้ารับแต่ก็ไม่พูดอะไรจนกระทั่งกินเสร็จ
   “เดี๋ยวกูเก็บเอง มึงกลับไปเข้าเวรเหอะ” ผมบอกนี่มันก็จะบ่ายแล้วมันยังไม่กลับไปอีก
   “ขอกูนั่งย่อยก่อน”
   “ถามจริง ไม่มีเพื่อนกินข้าวด้วยเหรอวะ” ผมยกถ้วยไปอีกห้องที่แบ่งสัดส่วนไว้สำหรับห้องครัวและห้องเก็บเสื้อผ้าและข้าวของบางส่วนที่เหมือนจะเป็นที่อยู่มากกว่าที่ทำงานชัดๆ
   “มีแต่อยากมากินกับมึง” ตึกตัก ให้ตายเหอะทำไมผมต้องใจเต้นรู้สึกเหมือนเด็กๆด้วยนะ
   “เหอะๆ เพื่อนไม่คบล่ะสิ”
   “เดี๋ยวเหอะ กูแค่อยากมาคุยกับมึงนี่หว่า แม่งตั้งหลายปีกว่ากูจะกลับมาแถมกลับมามึงก็เปลี่ยนไปอีก” ผมหัวเราะแห้งๆกับคำพูดของมัน เอาจริงๆมันก็แค่สัญญาเด็กๆที่มันไม่จำแค่นั้นเอง ผมเช็ดมือกับผ้าก่อนที่จะกลับไปนั่งที่กองแฟ้ม โดยมีไอ้นัทนั่งกระดิกตีนกินกาแฟเย็นมองอยู่ นี่มึงว่างอะไรขนาดนั้นวะ
   “กูไม่ได้เปลี่ยนเว้ย แต่กูไม่รู้จะคุยกับมึงยังไง”
   “ทำไมวะหรือเพราะกูหล่อขึ้น” สิ้นคำมันก็หัวเราะเมื่อผมทำหน้าจะอ้วก ไอ้ความหลงตัวเองนี่มัน...ไม่มีลดจริงๆ
   “กล้าพูดนะมึง กูเจอคนหล่อกว่ามึงอีก” ไพล่คิดถึงไปถึงเพื่อนซี้ตอนที่เรียนมหาลัย ไม่อยากจะโม้นะแต่มันเป็นเดือนเลยทีเดียว แต่จะว่าไปก็ไม่ได้ติดต่อมันนานแล้วนะ
   “แน๊ะๆ มีเหม่อ มีเหม่อ เพื่อนหรือแฟน”
   “ก็น่าจะนะ” ผมพูดทีเล่นทีจริง เอาจริงๆผมได้ทั้งหญิงและชายเพียงแต่คนที่รู้มันก็น้อย ไอ้นัทก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น มันทำหน้าตกใจ
   “เฮ้ยใครวะ แนะนำให้กูรู้จักหน่อยสิวะ”
   “กูยังไม่ได้บอกว่ามีเลยสัส กลับไปทำงานได้แล้วชวนกูคุยอยู่นี่”  ผมว่ามันนั่งสบายมองดูผมทำงาน
   “เอองั้นกูกลับล่ะ” ผมโบกมือไล่ มันเพียงหัวเราะก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานผมไป แม่งดีแต่มาป่วนทั้งมาป่วนงานป่วนหัวใจกูอีก แม่ง จะด่ามันก็กระดากปาก จะคุยเหมือนตอนม.ปลายก็เหมือนผมจะจำไม่ได้แล้วว่าอดีตผมคุยเล่นกับมันยังไง
   เฮ้อ
   สมาธิ สมาธิ ทำงาน ทำงาน
   นั่งรื้อแฟ้มต่อไป เอกสารนี้สำคัญมากแต่ผมหามันไม่เจอ โว้ยยยกูเอาไว้ไหนวะ ตอนนี้ทั้งห้องเต็มไปด้วยเอกสาร เต็มไปด้วยแฟ้ม และกล่องหลายใบ ผมมัวแต่หาเอกสารและจัดเตรียมเอกสารอีก จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
   ก๊อกๆ
   “พี่ไม้พักก่อนดีไหมครับ” เสียงที่ชวนฟังแล้วให้ความรู้สึกสบายดังขึ้นทำให้ผมโงหัวจากการทำงาน
   “น้องวา ความหวังของพี่!!!!!!!!!!!” ผมแทบจะพุ่งเข้าไปหาวาถ้าไม่ติดไอ้พี่ชายที่อุ้มลูกทำหน้าตาเข้มอยู่ เออ หวงจริงวุ้ย
   “ฮ่าๆๆ ผมทำกับข้าวมาด้วยเดี๋ยวพี่ไม้กินก่อนนะครับนี่ก็เย็นมากแล้ว” ผมรีบปัดเนื้อปัดตัวลุกขึ้นไปรับปิ่นโตอันใหญ่ที่น้องวาหิ้วมาให้ก่อนที่จะนั่งกินตรงโต๊ะนั่นล่ะ วาบอกพี่ลมพาน้ำออกไปเล่นข้างนอกก่อนที่จะช่วยเก็บแฟ้มเข้าชั้นทีละอัน ฝีมือทำกับข้าววานี่สุดยอดเลยครับ
   “พี่ไม้หาอะไรอยู่นะครับ มันถึงได้รกแบบนี้ล่ะครับ” วาบ่นผมพร้อมกับเก็บแฟ้มที่กระจายไปทั่วห้อง ผมขำเมื่อวาทำหน้ารับไม่ได้กับการทำงานของผม
   “อ่า พี่หาตัวขอจัดตั้งโครงการกับตัวผ่านการรับรองเมื่อปีที่แล้วนะ” ผมนั่งนึกเมื่อมันเหลืออยู่แค่สองอย่างที่ผมหาอยู่ เท่าที่นึกออกตอนนี้ล่ะนะ
   “ก็พี่ไม้เก็บไม่เป็นระเบียบนิครับ แต่ล่ะแฟ้มพี่ไม้เอามาปนกันหมดเลย แถมบางอันยังมีใบเสร็จอีก พี่ไม้..” เสียงอ่อนอกอ่อนใจของวาทำให้ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ ก็วาพูดถูกเมื่อการทำงานของผมมันก็ออกจะไม่เป็นระเบียบนิดหน่อย เออ.......ยมมรับก็ได้ วาจัดของให้ผมเป็นระเบียบด้วยความรวดเร็ว และวาก็เอาเอกสารที่ผมหามาหลายชั่วโมงขึ้นมา ให้ตายเหอะ ให้วามาทำงานกับผมได้ไหม อยากจะจ้างผู้ช่วยนะ แต่ก็ไม่มีใครทำงานได้นานซักที
   “ขอบคุณมากนะน้องวา”  วาได้แต่ส่ายหัวเมื่อผมส่งยิ้มอ้อนๆไปให้ เป็นอย่างนี้ทุกที พอผมอ้อนวาจะขำตลอด ผมผิดตรงไหนกันวาใช้เวลาไม่นานก็เก็บเสร็จเรียบร้อย เอกสารที่ต้องเตรียมก็ถูกจัดไว้บนโต๊ะเรียบร้อยเสร็จก่อนที่ผมจะกินเสร็จซะอีก
   “เสร็จแล้ววันนี้พี่ไม้ไม่กลับบ้านเหรอครับ” วาวางแฟ้มก่อนที่จะหันมาถามผม
   “ไม่ล่ะพี่ว่าจะนอนเฝ้าโรงงาน”
   “น้ำบ่นแล้วนะครับว่าอาไม้ไม่ยอมกลับบ้าน” ผมนี่ขำลั่นห้อง ไอ้ลูกหมูมันไม่มีคนเล่นด้วยซะมากกว่ามั้งถึงได้บ่นนะ  ผมปิดปิ่นโตก่อนที่พี่ลมจะขึ้นมาตามวา
   “อาไม้ น้ำโกรธอาไม้แล้ว” ไอ้ลูกหมูสะบัดอยู่บนบ่าพ่อซะจนผมกลัวว่าคอหลานจะเคล็ด
   “อ่าวโกรธอาไมอ่ะ” ผมเดินเข้าไปหาพร้อมกับหยิกแก้มยุ้ยแรงๆหนึ่งทีก่อนที่ผมจะหอมแก้ม
   “อาไม้ไม่กลับไปเล่นกับผมเลย”
   “อาไม้วุ่นอยู่นะครับ สัญญาอีกสาม ไม่สิอีกสองวันอาจะกลับไปนะครับคนเก่ง” น้ำทำหน้ามุ้ยก่อนที่จะหยักหน้าหงึกหงักก่อนที่จะหอมแก้มผมทั้งสองข้าง เอาจริงๆน้ำก็ติดผมมากกว่าพี่ลม เพราะผมพาหลานไปเที่ยวกับดูแลตั้งแต่เด็ก หลานเลยเกิดอาการงอน ครอบครัวสุขสันต์ก็กลับไปก่อนไปไอ้พี่ลมยังบอกว่าให้เพลาๆงานลงบ้าง พอบอกว่าให้วามาช่วยงานมันก็บอกให้ผมนอนเน่าอยู่โรงงานนิล่ะ โหดร้ายจริงๆ  ผมปิดประตูห้องทำงานก่อนที่จะหยิบไฟฉายเดินดูรอบๆโรงงาน
   “อ่าวนาย” พวกคนงานกะดึกที่มาเฝ้ายาม ทักขึ้นเมื่อเดินมาเจอกันที่หลังโรงงาน
   “ไง ฝั่งนั้นเป็นไงบ้าง” ผมถามถึงอีกฝั่งที่พวกคนงานเดินลาดตะเวน
   “ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ว่าแต่นายไม่กลับบ้านอีกแล้วเหรอครับ” 
   “ไม่ล่ะ งานฉันเยอะเกิน” พอผมบอกไอ้สองคนนั่นก็หัวเราะ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ผมเดินวนรอบโรงงานรอบหนึ่งก่อนที่จะกลับมาที่ห้องของตัวเอง ปิดม่านลงแต่ไม่ได้ล็อคประตูเพราะตอนนี้ทั่งข้างบนก็มีเพียงผมอยู่แล้ว ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบชุดกับผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จคงจะต้องนั่งทำงานอีกหน่อย
   ซ่า
   อ่างน้ำอุ่นที่ผมลงทุนขยายห้องน้ำเพื่อเวลาเหนื่อยๆจะได้นอนแช่น้ำอุ่นให้สบาย อ่า มันสบายจริงๆ เอนหลังพิงอ่าง น้ำอุ่นๆช่วยให้ผมผ่อนคลายและหายเหนื่อยได้อย่างดี แช่สบายซะจนผมเกือบเคลิ้มหลับ ได้แต่ลุกขึ้นจากอ่างคว้าเอาผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
   “วิ๊ดวิ้ววว” ผมสะดุ้งโหยงเมือออกมาเห็นใครอีกคนนั่งบนเก้าอี้ ไอ้นัท
   “มึงมาทำอะไรดึกๆดื่นๆวะ”
   “กูมาหามึงไง แล้วมึงไม่ไปแต่งตัวเหรอวะ” มันทักเมื่อผมยืนกอดอกทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูพันไว้  ผมหยักไหล่ มึงมาบุกรุกเวลาส่วนตัวของกูเอง
   “มีเรื่องอะไรวะ” ผมว่าก่อนที่จะเดินไปเข้าไปในห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้า ใส่บ็อกเซอร์กับเสื้อยืดเน่าๆตัวใหญ่ ผมชอบใส่แบบนี้นะมันนอนสบายดี เพียงแต่วันนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
   “กูแค่มาดู มันยังไม่หมดเรื่อง”
   “ไม่ต้องห่วง มึงก็เห็นกูแล้วนิกลับได้แล้วไป กูจะนอนแล้ว” ผมโบกมือไล่มันพร้อมกับหยิบเอาเอกสารที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกินความผิดพลาดเมื่ออีกไม่กี่เดือนที่เขาต้องผ่านการประเมินเพื่อการรับรอง
   “กูนอนด้วยดิขี้เกียจขับรถกลับ” ผมเลิกคิ้วขึ้น
   “เรื่องดิ กลับไปนอนกกสาวที่บ้านมึงโน้น” ผมขยับเดินไปโยนแฟ้มเข้าไปในห้อง ถ้าวามาเห็นผมคงโดนดุอีกรอบ
   “น่าคืนเดียวกูง่วงวะเนี้ยพึ่งออกเวรมาด้วยเมื่อคืนกูก็ไม่ได้นอน” ผมถอนหายใจเดินเข้าไปหาไอ้คนที่นั่งสบายๆอยู่ บนใบหน้าหล่อๆของมันมีร่องรอยอิดโรย จนผมอดไม่ได้ที่จะใจอ่อนให้นัทอีกครั้งถึงจะใจอ่อนทุกครั้งก็ตามแต่
   “รกหน่อย แต่จะไปอาบน้ำก่อนก็ได้”
   หมับ
   “ขอบคุณเพื่อน”
   “ไม่เป็นไรเพื่อน” ผมตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง ยิ้มที่เหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง นัทยิ้มร่าก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป ผมเดินไปเก็บข้าวของเพื่อให้อีกคนนอนได้ สงสัยว่าผมคงต้องเคลียงานจนเช้าแน่ๆ ผมย้ายมาทำงานที่โต๊ะทำงาน จนกระทั่งนัทเดินออกมาพร้อมกับชุดนอน
...................ลายเป็ดสีเหลือง...........................
   “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยยยยยยยยยยชุดอะไรของมึง” ผมขำแทบตกเก้าอี้มันหลุดลุคหล่อๆของมัน
   “ทำไมวะมันน่ารักดีนะเว้ย”
   “อุ๊ฟ เออๆ น่ารักก็น่ารัก เข้าไปนอนก่อนเลย” ผมบอกมันก่อนที่จะหันมาสนใจงาน มันพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอน ผมหลุดยิ้มเมื่อเหมือนอีกคนจะมีรสนิยมที่เปลี่ยนไป ชุดนอนลายเป็นเหลืองเหรอ หึๆ  ผมส่ายหัวเบาๆ  พร้อมกลับเรียกสติให้มาจดจ่อกับงาน เขาจะไม่เข้าไปนอน!!!
   หาววว
   จำไม่ได้ว่าหาวครั้งที่เท่าไหร่ เพียงแต่เขาพยายามถ่างตาไว้ ขอพักสายตาซักหน่อยก็แล้วกันนะ ฟุบลงกับโต๊ะหนุนแขนตัวเองก่อนที่จะหลับตาลง
   “เฮ้ ตื่น เข้าไปนอนในห้องสิวะ” อือ หนวกหู  ปัดไม้ปัดมือที่วุ่นวายออกแล้วหลับต่อ กำลังหลับสบายๆ และผมก็รู้สึกตัวหวิวก่อนที่จะซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นแล้วหลับสนิททันที
   อือ
   ผมค่อยๆบิดขี้เกียจก่อนที่จะลืมตาขึ้นก็พบว่าห้องนอนว่างเปล่ ยกมือขึ้นยีหัวแรงๆเพื่อเรียกสติเข้าร่าง มองทั่วห้องก่อนที่จะสะดุดตากับโพสอิสสีแสบตาที่ติดไว้ตรงประตู
   “รีบไปเข้าเวร เดี๋ยวแวะมากินข้าวเที่ยงด้วย ปล.ตัวมึงหนักมาก”  ไอ้นัททททททททททททท แม่ง กล้าว่ากูเหรอ ได้แต่ขยี้หัวทั้งๆที่ผมควรโมโหแต่กลับห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้เลย  ผมอาบน้ำเตรียมตัวสำหรับการทำงานในวันนี้ วิ่งหัวยุ่งตั้งแต่เช้าจนบ่าย ยังไม่เห็นว่าใครอีกคนจะมาจนทนหิวไม่ไหว
   “นิว พี่จะไปกินข้าวในเมือง ฝากพี่ชื้ออะไรไหม”
   “นิวจะกินเค้กร้านข้าวหอมนะพี่ ขอสองชิ้นเลย”
   “กินเข้าไปจะกลิ้งแข่งกับไอ้น้ำอยู่แล้ว” ผมว่าให้ก่อนที่จะนิวลูกน้องที่ขยันกินพอๆกับขยันทำงาน ยัยนี่ทำงานได้ทุกอย่างยกเว้นทำงานเป็นเลขาผม เพราะจะทะเลาะกันตลอด  ได้ยินแต่ไอ้นิวตะโกนโวยวายไล่หลังมา ขับรถออกจากโรงงานเข้าตัวเมือง ปัญหาโลกแตกผมควรจะกินอะไรดีเที่ยงนี้ ปกติไอ้นัทจะสรรหาอะไรอร่อยๆมาให้ผมกินเสมอ มันทำให้ผมนิสัยเสียแล้วล่ะสิ คิดอะไรไม่ออกเลยไปที่ตลาด เผือจะมีไอเดียว่าจะกินอะไร
   “อ่าวพ่อไม้วันนี้มาซะบ่ายล่ะ”
   “งานยุ่งๆนะครับ ป้า คิดถึงขนมปั้นขลิบป้าเลยมาชื้อไง”
   “แหมพ่อไม้ปากหวานตลอด” ป้าเขินเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มทำให้ผมยิ้มก่อนที่จะสั่งให้ป้าห่อให้สามร้อยเผือเด็กๆที่โรงงาน แล้วค่อยกลับมาเอาผมเลยเดินเข้าร้านอาหารตามสั่งก่อนที่จะสั่งเมนูสิ้นคิดกินเสร็จก็ไปเอาขนมก่อนที่จะไปร้านข้าวหอมเพื่อสั่งเค้กไปให้ไอ้นิว
   “เอานี่สองชิ้นกับนี่อีกชิ้นนะครับ” ผมจิ้มๆตู้สั่งส่งๆ พร้อมกับสั่งกาแฟให้ตัวเองอีกแก้ว ระหว่างที่ยืนรอจัดเค้กให้ เสียงหัวเราะใสก็เรียกความสนใจให้ผมหันไปมองพร้อมกับการก้าวเข้ามาของคนอีกสองคน
   “ร้านนี้อะไรอร่อยนะนัท”
   “ก็อร่อยทุกอย่างนะ ไม่ได้มากินนานแล้วแพร” อ่ากาแฟทำไมมันขมจังเลยวะ
   “เค้กได้แล้วค่ะพี่ไม้”
   “ขอบคุณนะ” ผมรับเอาถุงเค้กพอดีกับที่อีกคนพึ่งสังเกตเห็นผม ทั้งๆที่ผมก็ยืนเป็นตอม่ออยู่ เอาเหอะ
   “ไง”
   “อ่าวไม้มากินข้าวเหรอ” มันถามเหมือนไม่ได้บอกอะไรไว้ ก็น่าจะจำนะ ว่ามันเคยพูดแบบนี้แล้วเกิดอะไรขึ้น โถมึงนี่ดักดารนะไม้
   “เออ แนะๆ มีเดตกับสาว กูไม่กวนล่ะ เดี๋ยวลูกน้องจะแดกคอกูแทนเค้ก” ผมชูถุงเค้กพร้อมกับอ้างไอ้นิว 
   “เฮ้!!ไม้”มันร้องเรียกก่อนที่ผมจะเดินออกนอกร้า ผมหันไปมองหน้ามันแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาผมเลยเดินออกจากร้านเพื่อขึ้นรถ แต่ก่อนที่จะสตาร์ทรถโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์แปลกๆ
   “ครับ”
   “(อ่าไม้ใช่ไหม)”
   “หืมใครนะ”
   “(เห้ย จำเพื่อนซี้ไม่ได้เหรอไอ้ไม้ผุ)” ฉายานี้ มีคนเดียวที่เรียก ไอ้ทัพพี
   “ไอ้ทัพพี”
   “(สัสอยากมาเรียกฉายากู แม่งเสียสถาบันเดือนหมด)” ผมหัวเราะร่าเมื่อมันว่าผมอย่างไม่จริงจังนักเอาจริงๆมันก็ไม่ได้คุยกันตั้งแต่ผมกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะต่างคนก็ต่างมีชีวิตถึงจะติดต่อกันมันก็ส่วนน้อยจริงๆ
   “มึงเกิดนิมิตอะไรถึงได้โทรมาหากู”
   “(พอดีกูอยากไปพักผ่อนที่เหนือ กูเลยคิดถึงมึงไง)” ผมขำ
   “ได้ดิ แต่ที่พักฟรีมึงต้องมาทำงานช่วยกู” ทันทีที่ผมบอกมันก็หัวเราะแล้วบอกว่ายอม
   “(กูจะเดินทางพรุ่งนี้น่าจะไปถึงบ่ายๆ ไงก็กรุณามารับเพื่อนหน้าตาหล่อๆตาดำๆอย่างกระผมด้วยนะครับ)” ดูมันพูด นิสัยมากผมอยากจะโบกมันซักที กวนยังไงก็กวนอย่างนั้น ผมรับคำมันกวนตีนผมอีกสองสามคำก่อนที่จะวางสายไป ผมมาถึงโรงงานโยนเค้กกับขนมให้ไอ้นิวไปแจกพร้อมกับบอกว่าผมไม่ต้องการให้ใครรบกวน
   “เหนื่อยชะมัด” กลับไปฟัดไอ้ลูกหมูดีกว่า ขอเยี่ยวยาจิตใจหน่อยดีกว่า ถึงเวลาเลิกงานปุ๊บผมก็ปิดห้อง ไปสั่งงานกับกะเย็นอีกสองสามอย่างแล้วบึงรถกลับบ้าน
   “อ่าวพี่ไม้ไหนว่าจะกลับอีกสองสามวัน”
   “พี่คิดถึงน้ำกับฝีมือกับข้าววานะ” ผมโยนกระเป๋าส่งๆไปที่โซฟาแล้วเดินไปหาวาที่อยู่ในครัว
   “ทำไรกิน”
   “อ้อพะแนงหมู ต้มจืดมะระ และก็ผัดเผ็ดปลาสามรสครับ” อือหืออออออออ แค่ได้ยินผมก็น้ำลายไหล
   “โหยยพี่หิวเลย ไอ้ลูกลิงล่ะ”
   “อยู่ข้างบนครับพึ่งกลับมาจากไร่เลยไล่ให้ไปอาบน้ำ”
   “เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน” ผมหยิบเอากระเป๋าก่อนที่จะวิ่งขึ้นบ้านโยนกระเป๋าเข้าห้องก่อนที่จะเข้าไปป่วนไอ้ลูกหมูที่อาบน้ำเสร็จ
   “อาไม้ อาไม้กลับมาแล้ววววววว”
   แอ่ก
   “จุกเว้ยไอ้ลูกหมู ทำร้ายอาเหรอหนอย” ผมพุ่งเข้าไปอุ้มก่อนที่จะโยนขึ้นเตียงแล้วฟัดพุงขาวๆแรงๆ
   “ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ย อาไม้ น้ำจักกะจี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
   “ยอมยัง”
   “ยอมแล้วววววววว” ลูกหมูพูดพร้อมกับกอดคอผมทำให้ผมฟัดแก้มยุ้ยๆไปอีกหลายๆที
   “วันนี้อากลับมานอนด้วย”
   “เย้ๆๆๆๆ” เจ้าลูกหมูล่อนจ้อนกระโดดดึ๋งๆบนเตียง จนวาเห็นว่าทั้งผมและน้ำยังไม่ลงไปซักทีเลยขึ้นมาตาม ระหว่างกินข้าวไอ้พี่ลมเหลือบมามองผมบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร จนกระทั่งถึงเวลาล้างจาน
   “เป็นอะไรวะ”
   “เปล่านิพี่”
   “มึงทำตัวติดกับลูกกูขนาดนั้น กูพี่มึงนะ” คำขาดของมันมาอีกแล้ว มันพูดว่าพี่มึงนะทีไรผมแทบจะปิดอะไรมันไม่ได้ แต่คราวนี้มันไม่ใช่
   “ไม่มีไรหรอกน่า มันจบแล้วกูเลยมาขอฟัดไอ้ลูกหมูเพิ่มพลังนี่ไง”  ไอ้พี่ลมทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรผม เลยปล่อยเลยตามเลย ถึงเวลาเข้านอนผมเข้าไปนอนกับน้ำ พี่ชายมันเพียงส่ายหน้าพร้อมบอกวาว่าผมเป็นหนักแล้วก็โอบเอววากลับห้อง เหม็นเบือคนมีความรัก ไอ้ลูกหมูกอดผมแน่น ผมนอนนิ่งพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวต่างๆ เอาน่า ถึงเวลาแล้วสินะ
*********************

*****************************************************************************
Talk
เค้าตอนนี้วุ่นวายระดับสิบ กับการวิ่งไปสอนงานเด็กใหม่ที่ต่างจังหวัด
ลงตอนเลิกงานพอดี ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นต์กันนะคะ
แวะไปพูดคุยกันที่เพจได้ เค้าเหงา บายยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2017 09:01:11 โดย Letter123 »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ไม้ทำงานหนัก ก็มีเหงาบ้าง มองคนข้างๆ บ้างนะอย่าทำซื่อบื้อ
 :haun5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม้ ถึงเวลาอะไร
ถึงเวลา ตัดใจเลิกจากนัทเหรอ
เพราะทัพพีที่จะมาพักผ่อนสินะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของพี่ลม เขาต้องพยายามค่อยๆแงะแขนแกร่งที่โอบกอดเขาแน่นก่อนที่จะเอาหมอนนุ่มให้อีกคนกอดแทน ค่อยๆขยับลงจากเตียงเข้าไปทำธุระส่วนตัวแล้วค่อยลงไปที่ครัว เปิดโทรทัศน์ฟังเสียงข่าวเบาๆ ก่อนที่จะเข้าครัวต้มกาแฟรอพี่ลมที่อีกไม่นานคงจะตื่นพร้อมกับชงโกโก้ให้ตัวเอง พร้อมกับเปิดตู้เย็นค้นเอาผักและเนื้อสัตว์ออกมา
   “อืมต้องให้พี่ลมพาไปตลาดแล้วล่ะ” เสียงหวานบ่นเบาๆ เพราะในตู้เย็นมีของสดเพียงเล็กน้อย วันนี้ต้องไปส่งน้ำตอนเช้าไปซื้อของบ้านเลยละกัน เตรียมของที่จะทำกับเข้าตอนเช้าไว้แล้วหยิบเอาแก้วโกโก้ไปนั่งที่โซฟา ฟังข่าวตอนเช้า ร่างบางยกเข่าชันขึ้นแขนเรียวยกขึ้นกอดเข่า
   “นี่ก็สองเดือนกว่าแล้วสินะ” สองเดือนกว่าที่เขามาอยู่ที่ไร่สายลม สองเดือนที่ผ่านเรื่องราวมากมายจนเหมือนเวลามันสั้นนิดเดียว และยังเรื่องราวที่ยังไม่จบ เขาเป็นห่วงคนในไร่นี้เหลือเกิน ทั้งเจ้าลูกหมูที่ตอนนี้เขารักเด็กคนนี้มาก รวมทั้งราอีกคนที่หัวใจเขาเปิดรับยิ่งนานวันหัวใจดวงน้อยของเขายิ่งเต็มตื้นกับความดีของคนตัวโตที่ใส่ใจความรู้สึกและดูแลเขาทุกอย่างนั่นยิ่งทำให้เขาไม่อยากจากที่นี่ไป
   ฟอด
   “เหม่ออะไรอยู่ครับ”  เขาสะดุ้งเมื่อคนที่กำลังคิดถึงนั้นจู่ๆก็มาหอมแก้มเขา
   “เปล่าครับ พี่ลมลงมานานรึยัง” วารีบนั่งดีๆเมื่อลมเดินอ้อมมานั่งข้างๆ
   “นานพอที่จะรู้ว่าเรานั่งเหม่อ” สายตาคมทอประกายอ่อนโยน บ่งบอกว่าเป็นห่วงเขาแต่เรื่องอะไรที่เขาจะบอกเล่า มันน่าอายจะตายไป
   “อ่า วาไปเอากาแฟมาให้นะ” ผมรีบลุกขึ้นหนี ไปเทกาแฟใส่แก้วยื่นให้พี่ลมที่ยังมองตามเขาอยู่
   “จะไม่บอกพี่เหรอ” ผมรีบส่ายหน้า พี่ลมยกยิ้มแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่หันไปดูข่าวเงียบๆ ส่วนผมก็เดินเข้าครัวทำอาหารเช้าไว้รอทุกคน
   “เดี๋ยววาไปปลุกน้ำก่อนนะครับ”
   “งั้นพี่เข้าไร่ก่อน  แล้วจะกลับมากินข้าวด้วย” ผมพยักหน้ารับคำต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ ผมเดินขึ้นไปห้องน้ำเพื่อปลุกลูกหมู ที่เขาต้องพยายามให้ลดน้ำหนักลงแล้ว ชักจะอวบเกินไป
   “ลูกหมูตื่นได้แล้วครับ”
   “งืออ พี่วา น้ำยังง่วงอยู่เลยครับ” น้ำงัวเงียลุกขึ้นพร้อมเบ้ปากพี่วาทำไมมาปลุกเขาแต่เช้าเขายังอยากนอนอยู่เลยอ่า
   “ไปออกกำลังกายกันครับ” วาขำเมื่อลูกหมูทำหน้ายุ่งแล้วทำตาโตเมื่อได้ยินว่าจะไปออกกำลังกาย
   “ไม่ทำได้ไหมครับ” แขนป้อมยกขึ้นกอดเอวพร้อมกับแก้มยุ้ยที่ถูไถออดอ้อนตรงท้องทำให้วาขำ
   “ไม่ได้ครับลุกเร็วครับเดี๋ยวสายไม่รู้น้า” เมื่อเห็นว่าอ้อนไม่ได้ผลน้ำก็ยอมลงจากเตียงไปล้างหน้าล้างตาก่อนที่จะออกมาแต่งตัวในชุดที่เขาเตรียมไว้ให้ ถ้าเขายังตามใจลูกหมูอีกหน่อยคงจะกลิ้งไปตามทางเดินจริงๆ แม้จะอิดออดแต่น้ำก็ยอมลงไปวิ่งกับผมโดยที่ผมพาวิ่งรอบบ้านเพียงแค่สองรอบกับยืดเส้นยืดสายอีกครึ่งชั่วโมงก็ให้น้ำขึ้นไปอาบน้ำแล้วค่อยลงมากินข้าวพอดีกับที่พี่ลมกลับมาจากไร่มาวุ่นวายกับผมในครัวซักพัก หลังจากที่เข้าครัววันนั้นแล้วพี่ลมก็ไม่กล้าขอทำอาหารอีกเลย
   “พี่ลม!! ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วครับ” ผมรีบยกมือขึ้นยันใบหน้าคมพี่พยายามจะหอมแก้มผมอยู่เนี้ย มันจะช้ำหมดอยู่แล้ว
   “หึๆก็ได้ๆ” ได้แต่ส่งสายตาค้อน
   ฟอด
   “พี่ลม!!!” ผมยกมือปิดแก้มเมื่อคนว่าได้ๆกลับฉวยโอกาสหอมแก้มเขาก่อนที่จะหัวเราะร่าเมื่อผมทำหน้าบึ้งแล้วเดินหนีขึ้นไปอาบน้ำ นับวันยิ่งแหย่เขาถึงเนื้อถึงตัวเขาตลอด ยกมือลูบอกให้จังหวะหัวใจกลับมาปกติก่อนที่จะตั้งโต๊ะ
   “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไม้” ผมทักคนที่กลับมานอนบ้านได้สองวันแล้วแถมยังทำตัวติดลูกหมูอีก
   “อรุณสวัสดิ์ ได้ข่าวว่าลากไอ้ลูกหมูไปวิ่งเหรอ”
   “ใช่ครับ คงต้องคุมอาหารด้วย” ผมยกจานผัดผักบุ้งมาวางที่โต๊ะ ผมทำข้าวต้มกุ้ย ที่มีผักและเครื่องเคียงเยอะๆน้ำจะได้ไม่เบือ
   “ฮ่าๆๆ จะทนลูกอ้อนน้ำไหวเหรอ” พี่ไม้ถามผมขึ้นพร้อมกับรับถ้วยข้าวต้ม
   “พี่ไม้ต่างหากล่ะ วารู้นะว่าพี่ชอบพากันไปเที่ยวกินของอร่อยๆหลังน้ำเลิกเรียนนะ” เจ้าลูกหมูถึงได้ติดกินขนมและกินไม่ยั้งตอนเย็นๆไง พี่ไม้หัวเราะแห้งๆเหมือนคนมีความผิด
   “ไม่พูดดีกว่าเข้าตัวหมด” ผมตักข้าวเตรียมไว้ให้อีกสองคนที่กำลังเดินลงมา
   “หอมจังเลยครับพี่วา” จากที่พูดเก่งอยู่แล้วตอนนี้น้ำพูดเก่งกว่าเดิมแถมยังพูดชัดขึ้นไม่เหมือนก่อนหน้านี้
   “หอมก็ทานเยอะๆนะครับ” ผมบอกน้ำที่ยิ้มร่าแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าว
   “แล้วมึงจะเข้าโรงงานไหม” พี่ลมหันไปถามพี่ไม้ที่นั่งจิ้มพุงหลาน
   “เข้าอยู่แต่จะกลับมานอนบ้าน” ผมเงยหน้ามองพี่ไม้ที่หลังๆมาจะติดบ้านเหลือเกิน  ทานข้าวเสร็จผมกับพี่ลมก็เตรียมไปส่งน้ำ ส่วนพี่ไม้อาสาล้างจานแล้วจะไปโรงงานเลย หลังจากที่ส่งน้ำเข้าห้องเรียนผมกับพี่ลมก็เดินกลับมาที่รถด้วยกัน
   “พี่ลมขากลับแวะซื้อของเข้าบ้านก่อนนะครับ”
   “ได้เดี๋ยวพี่พาไปเดินตลาด” พี่ลมว่าก่อนที่จะขับรถพาไปตลาดสด
   “พี่ลมอยากกินอะไรไหม วาจะได้ซื้อกลับไปทำให้” ผมหันไปถามคนตัวโตเที่เดินถือของตามหลังที่ส่วนมากเขาจะเลือกไว้ทำให้น้ำกินเผือว่าอยากจะกินอะไรพิเศษ พี่ลมยกยิ้มก่อนที่จะก้มลงมากระซิบเบาๆที่ทำให้เขาหน้าแดงต้องรีบเดินหนี
   “อยากกินวา”
   “พี่ลม!!!” เขาอยากทำร้ายคนตรงหน้าจริงๆ ที่นี่มันตลาดนะ เหมือนหลายๆคนจะมองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
   “อ่าวพ่อเลี้ยงทำไมได้มาตลาดเองล่ะ”
   “พอดีพาคนทำกับข้าวมาเลือกเองนะ”
   “แฟนพ่อเลี้ยงก่อ น่าฮักขนาดเจ้า” แม่ค้าขายผักแผงข้างๆเอ่ยขึ้น
   “ใช่ แฟนผมเอง” คำตอบของพี่ลมยิ่งทำให้ผมรู้สึกหน้าเห่อร้อนกว่าเดิม
   “วาจะไปรอที่รถ” เขาบอกก่อนที่จะรีบเดินหนีแต่เขายังได้ยินเสียงแซวแว่วๆมา ให้ตายเถอะเขาอายจะแย่แล้ว
   ครืดๆ
   เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเรียกความสนใจเขาได้ตอนนี้เขาได้แต่ยืนอยู่ข้างรถเพราะพี่ลมยังไม่กลับมาเลย
   “ครับพี่ไม้”
   “(วา เมื่อเช้าพี่ลืมบอก วันนี้เพื่อนพี่จะมาเที่ยวพี่เลยให้มันไปนอนที่บ้าน พี่ก็ลืมไปเลย)”
   “จะมาถึงกี่โมงครับ วาจะได้เตรียมห้องกับทำกับข้าวไว้รอ” ที่บ้านยังมีห้องรับแขกที่ปิดไว้นานแล้วถ้าจะพักห้องนั้นเขาคงต้องเข้าไปทำความสะอาดซักหน่อย
   “(น่าจะกลับไปพร้อมพี่เลย แต่ไม่ต้องเตรียมห้องหรอกเดี๋ยวพี่ให้มันนอนกับพี่)” แม้จะแปลกใจแต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ไม้เขาเลยเลือกที่จะไม่ถามอะไรออกไป
   “ได้ครับเดี๋ยววาจะทำกับข้าวไว้รอ” พี่ไมขอบคุณก่อนที่จะวางสายไป พอดีกลับพี่ลมที่เดินหอบของเดินมาที่รถพอดี
   “มีอะไรเหรอ”
   “พอดีพี่ไม้บอกว่าจะมีเพื่อนมาพักด้วยครับ หนักไหมครับขอโทษที่วาไม่ได้ช่วยเลย” ผมรีบช่วยเอาของวางในรถ ทั้งยังรู้สึกผิดที่เมื่อกี้เขามัวแต่เขินเดินหนีออกมาปล่อยให้พี่ลมถือของคนเดียวมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ
   “ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ”
   “เข้าใจว่า???” เขาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
   “เข้าใจว่าวาเขินที่แม่ค้าแซวไง”
   “พี่ลมจะแซววาทำไมเล่า ขึ้นรถไปเลยไป๊” ได้แต่ก้มหน้าหลบคนที่พยายามยิ้มล้อเขาอยู่จนต้องไล่ให้ขึ้นรถ ขับกลับมาถึงไร่พี่ลมก็บอกว่าจะขึ้นไปดูไร่ผักทีแรกว่าจะช่วยเขาขนของเข้าบ้านแต่เขาไล่ให้ไปทำงานนี่ก็สายมากแล้วยังมีเวลาอู้มากวนเขาอีก หลังจากที่เก็บของเสร็จผมก็ไปที่สำนักงาน ไล่เคลียบัญชีก่อนที่จะไปไร่องุ่นที่ตอนนี้เริ่มแทงยอดอ่อนแล้ว
   “อ่าวคุณวามีอะไรหรือเปล่าครับ”
   “ไม่มีอะไรครับลุง นี่ละอองไปไหนเหรอครับ” ผมถามหาสมุนซ้ายของพี่ลม
   “อ้อละอองมันไปดูสวนส้มนะคุณลมเห็นว่าเอาปุ๋ยไปว่าน”
   “ขอบคุณครับ” ผมเดินกลับไปเอาจักรยานที่สำนักงานแล้วค่อยปั่นไปที่สวนส้ม ตั้งแต่แต่งกิ่งไปเขายังไมได้มาดูเลย เร่งปั่นจนถึงไร่ส้มเขาก็หอบแทบแย่จะวาไกลก็ไกล จะว่าใกล้ก็ใกล้แต่ก็เล่นเอาเขาหอบไปเลย
   “อ่าวคุณวาทำไมได้ปั่นจักรยานมา ไม่บอกให้ไอ้ละอองไปรับ”
   “ไม่ละ ฉันเข็ดแล้วส้มเป็นยังไงบ้าง”
   “ฮ่าๆๆๆๆ ออกจะเร้าใจ คุณวานี่ไม่วัยรุ่นเลย”เขาขำเมื่อละอองทำหน้าเบือๆพร้อมกับเดินหนีเข้าสวนส้ม ที่ตอนนี้แทงยอดแทงช่อดอกแล้วอีกไม่นานก็จะได้เก็บผลอีกรอบ เดินดูทั่วไร่แล้วเขาเลยขอให้ละอองไปส่งที่แปลงผัก เขาถึงกับต้องขู่ให้เจ้าละอองขับช้าๆ ไม่นานก็มาถึงแปลงผัก ผมลงไปเก็บใส่ตระกร้าก่อนที่จะซ้อนท้ายกลับบ้านเพราะตอนนี้ก็บ่ายแล้ว พี่ลมโทรมาบอกว่าจะไปไปรับน้ำเอง
   ผมเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารสำหรับตอนเย็นที่จะมีแขกมาเพิ่ม ทำโน่นทำนี่ในครัวซักพักก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามา
   “กลับมาแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ” เสียงเล็กๆร้องขึ้นทันทีที่ก้าวเข้าบ้านและวิ่งเข้ามาในครัว ผมนั่งลงอ้าแขนรอรับร่างป้อมที่วิ่งเข้ามาหา
   ฟอด ฟอด ฟอด
   “ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะร่าเมื่อโดนหอมแก้ม ผมฟัดแก้มยุ้ยแรงๆหลายทีจนน้ำหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
   “เลิกนัวเนียกันซักทีเถอะ”
   “อิอิๆ พ่อลมขี้อิจฉา” ผมหลุดขำเมื่อพี่ทำท่าโมโหเดินเข้ามาอุ้มน้ำพาดบ่า
   “ว่าพ่อเหรอ กล้าว่าพ่อไปอาบน้ำเลย” พี่ลมพาน้ำขึ้นห้องผมได้แต่ขำแต่เอาจริงๆน้ำก็พูดถูกล่ะนะ ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อเสียงรถอีกคันก็จอดที่หน้าบ้าน
   “พี่กลับมาแล้ว” ผมรีบเดินออกไป พี่ไม้เดินนำเพื่อนผู้ชายที่หน้าตาดีมากจนเขานึกว่าเป็นดาราซะอีก
   “อ้อไม่ต้องอค้งขนาดนั้นนี่เพื่อนพี่เองมันชื่อทัพพี มีดีแค่หน้าตานี่ล่ะ”
   พลั๊วะ
   “ไอ้ไม้ผุ พี่ชื่อทัพไทนะ อย่าไปฟังไอ้ไม้ผุมันบอก” ท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคนทำให้เขายิ้มก่อนที่จะยกมือไหวพี่ทัพไท
   “เชี่ยกูเจ็บนะมึง เดี๋ยวพี่พามันขึ้นไปข้างบนก่อนนะแล้วค่อยลงมากินข้าวกัน”
   “ครับ” สองคนนั่นก็เดินขึ้นไปห้องข้างบน ผมจะทำกับข้าวเสร็จไหมล่ะเนี้ยเมื่อกำลังจะเข้าครัวก็มีใครมา
   “อ่าวพี่นัท”
   “วาไม้อยู่บ้านรึเปล่า” พี่นัทรับไหว้แต่ก็ถามถึงพี่ไม้ทันที สองคนนี้เขาเล่นหนังอินเดียกันเหรอ วิ่งไล่ตามหากันได้ตลอด
   “อยู่ข้างบนครับ พี่นัทไปช่วยผมทำกับข้าวได้ไหมครับ”พี่นัททำท่าอยากขึ้นไปข้างบนแต่เมื่อผมขอร้องพี่นัทเลยยอมเดินเข้าครัวกับผม พี่นัทช่วยได้มากเลยทีเดียวแตกต่างจากผู้ชายบ้านนี้ที่แม้แต่หั่นผักยังไม่รอด ทำให้เขาทำกับข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว
   “ทำไมวันนี้ทำกับข้าวเยอะจัง”
   “อ้อพอดีพี่ไม้มีเพื่อนมาหานะครับ” ยังไม่ทันที่พี่นัทพูดอะไรน้ำก็ลงมาซะก่อนพร้อมกับพี่ลมที่ที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
   “อานัททท มาเล่นกานนนนนนนนนนนนนนนนนน” เมื่อเห็นว่าน้ำมีคนเล่นด้วยผมเลยบอกให้พี่ลมตั้งโต๊ะรอส่วนเขาจะขึ้นไปอาบน้ำ
   ผมลงมาทุกคนก็พร้อมหน้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าวแล้ว แต่ทำไมบรรยากาศมันดูแปลกๆนักล่ะ
   “พี่วา” น้องน้ำดิ้นมาหาผมทันทีที่ผมนั่ง จนพี่ลมต้องปรามว่าให้นั่งดีๆถึงเวลากินข้าวแล้ว ทั้งโต๊ะมีเพียงเสียงช้อนทั้งๆที่ปกติจะมีเสียงพูดคุยตลอด
   “อร่อยมากเลย วาทำเองเหรอ สุดยอด” และคนที่ทำลายความเงียบก่อนคือพี่ทัพไท
   “ขอบคุณครับงั้นทานเยอะๆเลยนะครับ”
   “มึงอย่าเต๊าะวามากเดี๋ยวพี่กูไล่มึงออกจากบ้าน”
   “ห๊ะ อย่าบอกนะว่า............” พี่ทัพเว้นช่วงไปนานจนเขารู้สึกหวั่นใจ “โหมีคนจองแล้วเหรอเนี้ย” พี่ทัพพูดเล่นๆ ก่อนที่บรรยากาศในโต๊ะจะดูเป็นกันเองขึ้น
   “แล้วนี่มาเที่ยวกี่วัน”พี่ลมถาม
   “ผมก็คิดว่าจะมาซักหลายอาทิตย์ เผือไอ้ไม้ผุมันเห็นว่าผมช่วยงานได้ อาจจะได้ทำงานอยู่นี่เลย” พี่ทัพหันไปโยกหัวพี่ไม้เบาๆ เห็นว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยตอนเรียนมหาลัย
   “อย่างมึงกูไม่จ้างหรอก ทำงานแลกข้าวแลกที่อยู่ก็พอไป๊” พี่ไม้ปัดมือออกแล้วผลักหัวพี่ทัพแรงๆไปที
   เคร้ง!!!!!
   เสียงช้อนกระทบจาน เรียกให้ทุกคนหันไปมอง..................อ่า.............หวังว่าจะไม่มีสงครามอะไรหรอกนะ

   “พี่วา อานัททำหน้าตาหน้ากลัวจัง” นี่ล่ะที่ผมหวั่นใจ
**********************************************************
เอามาลงก่อนครึ่งหนึ่ง เสาร์อาทิตย์นี้ต้องไปทำงานต่างจังหวัด
ถ้ามีเวลาเดี๋ยวจะปั่นมาลงต่อนะคะ
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า
รักคนเม้นขอบคุณคนอ่านค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
จะเกิดสงครามหรือเปล่านะ น่ากลัว :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยังไงๆ นัท ทำลืมๆกับคำสัญญาที่ให้กับไม้
หรือนัทสับสนกับความรักเพศเดียวกัน
แล้วทำไมตอนนี้ เหมือนไม่ชอบความสนิทสนมของไม้กับทัพล่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2017 15:53:58 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ทุกคนหันไปมองนัทที่ทำหน้าเหมือนพึ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปเลยจัดการรวบช้อน
   “ขอโทษพอดีนึกว่ามีธุระด่วน ผมกลับก่อนนะพี่ลม ไปนะวา” พี่นัทที่จู่ๆนึกได้ว่าตัวเองธุระด่วน รีบผลุนผันลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วขอตัวกลับโดยที่ไม่หันไปมองใครอีกคนที่ตอนนี้หน้าเสียไปเรียบร้อย
   “กินข้าวต่อเหอะ พรุ่งนี้มึงจะไปเที่ยวที่ไหนก่อนไหม เดี๋ยวกูพาไป” พี่ไม้หันกลับไปคุยกับพี่ทัพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยมีเจ้าลูกหมูที่วอนขออยากไปด้วย
   “น้ำไปไม่ได้ครับพรุ่งนี้เราต้องไปเรียน”
   “ง่า แต่น้ำอยากไปพี่วา”  อ้อนเสียงอ่อนแถมยังเกาะแขนเขาเขย่าเบาๆ ผมถอนหายใจนับวันน้ำยิ่งอ้อนเก่ง อดใจไม่ไหวที่จะบีบจมูกรั้นเบา
   “ไม่ได้ครับ เดี๋ยววันหยุดค่อยไปนะคนเก่ง” น้ำทำหน้ามุ่ยแต่ก็ไม่งอแงอีก
   “น้องวานี่เหมือนแม่น้ำเลยนะครับ”  พี่ทัพที่เลิกทานหันมามองเขากับน้ำคุยกัน ผมที่กำลังจะพูดแย้งพี่ลมก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อนแถมยังทำให้ผมรู้สึกเขินมากๆเลยด้วย
   “ก็อยากให้เป็นอยู่ล่ะนะ เจ้าตัวเขาไม่ยอมซักที” แล้วทำไมต้องพูดด้วยรอยยิ้มร้ายแบบนั้นด้วยล่ะ มือไม้เริ่มรู้สึกเก้งก้าง ไม่รู้ว่าจะวางตรงไหน
   “พี่ลม วาเป็นผู้ชายนะ” ผมประท้วงไป พี่ลมเพียงยักคิ้วกวนๆ หึ่ยให้ตายเถอะอย่าให้ถึงทีเขานะ สามหนุ่มขออาสาทำความสะอาดผมเลยพาน้ำขึ้นไปนอน ผมก็เดินไปอาบน้ำแล้วเดินถือหมอนไปห้องน้ำ
   “พี่วา??” น้ำงัวเงียปรือตามองผมที่กำลังจะล้มตัวนอนข้างๆ
   “พี่มานอนด้วยครับ ไม่ให้พี่นอนด้วยเหรอ”
   “เย้ นอนๆ น้ำจะนอนกอดพี่วา” น้ำตบลงข้างตัวผมขำเบาๆก่อนที่จะเอนตัวนอนข้างๆ น้ำขยับตัวเข้ามากอดแล้วซุกที่อกผม
   “ฝันดีครับคนเก่ง”
   จุ๊บ
   “ฝันดีครับ” น้ำตาปรือก่อนที่จะหลับลงและผมก็ค่อยๆเข้าสู่นิทราด้วยกัน ไม่อยากบอกแต่ผมเอาคืนพี่ลมด้วยการหนีมานอนห้องน้ำ ปล่อยให้นอนคนเดียวซะให้เข็ด แม้จะชินกับไออุ่นของอีกคนก็ตาม 
   
   อุ่น
   ความอบอุ่นที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ซุกซบกับแผ่นอกกว้างพร้อมรอยยิ้มพอใจบางๆแตะแต้มใบหน้า คนที่พึ่งตื่นได้ซักพักเมื่อคนที่นอนข้างๆขยับพลิกตัวเข้ามาเบียดแนบชิดเหมือนทุกคืน ลมก้มลงมองหัวทุยที่ตอนนี้ผมสีชาเริ่มยาวระใบหน้าเนียนที่หลับสนิท มือใหญ่ค่อยๆปัดผมที่ปรกแก้มเนียนขึ้น เมื่อคืนหลังจากที่เขากับสองคนนั่นนั่งคุยและดูฟุตบอลกันพอขึ้นห้องเขาก็ไม่เห็นคนที่ต้องนอนข้างเขาทุกคืน จนเขาเปิดเข้าไปในห้องนอนลูกชายก็เห็นสองคนนอนกอดกันแน่น แต่ปล่อยให้เขาต้องนอนคนเดียวเนี่ยนะ เหอะ ฝันไปเถอะ สุดท้ายเขาก็นอนข้างๆโดยที่อีกสองคนยังหลับสนิท จนกระทั่งอีกคนพลิกตัวเข้ามาซุกเขา เหมือนแมวจริงๆ ตอนนี้เรื่องยุ่งยากทั้งหมดก็เหลือแค่รอเวลา แต่เขาก็ไม่อยากให้วาเป็นอันตรายตอนนี้เลยให้วาอยู่แต่ในไร่ไปซะก่อน
   “อือ..”เหมือนว่าเขาจะลูบแก้มนุ่มจนทำให้อีกคนตื่นซะแล้ว
   “ตื่นแล้วเหรอ”
   “ครับพี่ลม เอ๋...มะ.....มานอนห้องนี้ได้ไง”คนที่ยังเมาขี้ตาอยู่ถึงกับทำตาโต รีบยกมือขึ้นกั้นความใกล้ชิด
   “ก็ใครให้พี่นอนคนเดียวล่ะ”
   “วาไม่ผิดซักหน่อย” ลมมองคนที่ทำหน้ามุ่ยไม่ยอมรับผิดที่แอบมานอนห้องนอนลูก ถึงจะล็อกห้องเขาก็ไขกุญแจเข้ามาได้ล่ะกัน
   “ไม่ผิดงั้นเหรอ ทิ้งพี่นอนคนเดียว ไม่ได้กอดวาพี่ก็นอนไม่หลับนะสิ” ได้ทีก็หยอดบ้าง ถึงแม้ว่าท่าทีของวาจะเอนเอียงมาทางผม แต่มีโอกาสจะทิ้งทำไม ยอมรับว่าการนอนคุยกันนั้นไม่เคยอยู่ในความคิด เขาต้องรีบตื่นไปเข้าไร่ การนอนแบบนี้มันไร้ประโยชน์แต่ตอนนี้เขาอยากจะนอนกอดคนที่ทำแก้มแดงระเรื่อทั้งวันก็ยังได้
   “ง่า ปล่อยได้แล้วครับ เดี๋ยววาลงไปชงกาแฟไว้ให้พี่ลมต้องเข้าไร่นะครับ”
   “พี่อยากนอนกอดวา”
   “ไม่เอาครับปล่อยเลยครับพี่ลม เกเรใหญ่เลยแล้ว” ผมหลุดขำกับคำต่อว่าของวา ถ้าเขาจะเกเรวาต้องเขินหนักกว่านี้แน่
   ฟอด
   “อรุณสวัสดิ์ครับ เดี๋ยวพี่ปลุกลูกเอง” ยังฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มที่แดงระเรื่อล่อตาล่อใจก่อนที่จะปล่อยให้วาจากอ้อมแขน ทันทีที่ปล่อยวารีบลงจากเตียงเดินหนีออกจากห้อง ใบหน้าคมเข้มนอนยิ้มกว้างอยู่บนเตียง
   “ลูกหมูน้ำตื่นได้แล้ว”
   “อืออ”
   “ถ้าไม่ตื่นพ่อจะไม่ให้พี่วามานอนด้วยนะ”
   พรึบ
   ทันทีที่ยกวามาอ้างไอ้ลูกหมูก็เด้งตัวขึ้นทันทีทั้งๆที่ตายังปิดอยู่นั่นล่ะ ตกลงมันลูกใครกันวะเนี้ย ยกวามาทีไรทำตามตลอด มันน่าหมั่นไส้จริงๆ บอกให้ไปแต่งตัวล้างหน้าก็ทำตาม ผมอุ้มเจ้าลูกหมูที่รู้สึกว่าจะหนักขึ้นเยอะเลย
   “ลงมากันแล้วเหรอครับ” วาที่เดินออกมาจากครัวพร้อมกับแก้วกาแฟของเขาทันทีที่ไอ้ลูกหมูเห็นวาก็ดิ้นไปหา วายืนแก้วกาแฟมาให้ผมถือก่อนที่จะรับไอ้ลูกหมูที่โน้มตัวไป
   “พี่วา” เกลียดไอ้น้ำเสียงอ้อนของลูกตัวเองจะผิดไหม ทันทีที่อยู่ในอ้อมแขนวา น้ำก็ซุกแล้วออดอ้อนจนผมกลัวว่าแขนวาจะหักเมื่อน้ำหนักน้ำไม่ธรรมดา
   ฟอด
   อยากจะแยกลูกกับว่าที่เมียออกจากกันจะผิดไหม
   “มานี่เลยไอ้แสบ อ้อนจังเลยนะ” ผมหิ้วคอน้ำ ก่อนที่ผมจะกินกาแฟจนหมดแก้วแล้วพาน้ำออกไปวิ่งรอบบ้านเอง ปล่อยให้วาทำกับข้าวไปเพราะมีแขกมาเพิ่มผมไม่อยากให้วาเหนื่อยแต่วาก็ยังอยากทำ
   “แฮ่กๆ”
   “อีกรอบเจ้าลูกหมู”
   “เหนื่อยแล้วอ่าพ่อลม” ผมมองลูกที่ตอนนี้เหงื่อท่วมแก้มยุ้ยแดงก่ำ ก็เพราะทั้งผมและไม้ตามใจอยากกินอะไรอยากได้อะไรพวกเขาไม่เคยห้ามเพราะไม่ค่อยมีเวลาแต่ก็ยังดีที่น้ำไม่เป็นเด็กเอาแต่ใจที่ทำให้ผมปวดหัว เพียงแต่เรื่องกินนี่ล่ะที่ตามใจหนักมาก หนักจนลูกลิงกลายเป็นลูกหมูแบบนี้ไง
   “อีกรอบ พี่วาของน้ำบอกว่าห้ารอบนะวันนี้”
   “แง้ แต่น้ำเหนื่อยแล้ว”
   “เลิกอิดออดได้แล้ว วิ่งเข้าไอ้ลูกหมู” น้ำทำปากยู่แต่ก็ยอมขยับวิ่งจนครบรอบที่วากำหนดไว้ น้ำก็เดินคอตกเหงือซกเข้าบ้านทีแรกว่าจะเข้าไปหาพี่วาแต่ผมไล่ให้ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมไปโรงเรียน สวนทางกับสองเพื่อนที่กำลังเดินลงมา
   “ให้พี่ช่วยอะไรไหม” ผมเดินเข้าไปในครัว
   “ยังไม่เข็ดเหรอพี่ลม วาว่าพี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”  วาคงจะห้ามให้ผมเข้าครัวตลอดไป  ได้แต่หมุนตัวขึ้นชั้นห้องไปอาบน้ำ
   “พี่ วันนี้ผมจะพาไอ้ทัพไปเที่ยวตัวจังหวัดนะ เรื่องโรงงาน”ไอ้ไม้ร้องถามผมทันทีที่เดินลงมา
   “เดี๋ยวกูเข้าไปดูให้”
   “แล้วไร่ล่ะพี่”
   “ไม่มีอะไรวุ่นวายหรอกเดี๋ยวพี่กับวาจะเข้าไปดูให้” ไอ้ไม้ทำหน้าเหม็นเบือ
   “เหม็นความรักวะ ไปไอ้ทัพไปกินข้าวกัน” มันกอดคอเพื่อนไปที่โต๊ะกินข้าว เดี๋ยวกูโบกหัวทิ่ม ผมเดินไปนั่งวาตักข้าวต้มปลาให้ ซักพักน้ำก็วิ่งตุ๊บตับลงมา อาหารที่วาทำก็เป็นเพราะต้องการคุมน้ำหนักเจ้าลูกหมู
   “อร่อยยยย”
   “วานี่เป็นพ่อครัวได้เลยนะ”
   “ตอนเย็นเดี๋ยวผมทำกับข้าวไว้ พี่ทัพกับพี่ไม้จะกลับบ้านไหมครับ”
   “กลับๆ พี่จะพามันไปเที่ยวแค่ตัวเมืองเดี๋ยวพี่จะรับน้ำกลับมาเอง” วาพยักหน้ารับก่อนที่จะสั่งห้ามทั้งสองคนซื้อขนมให้น้ำตามใจชอบ
   “พี่ไปล่ะ ฝากด้วยนะ” ไม้บอกลาวา พี่มึงนั่งหัวโด่อยู่นี่เมินกูตลอด
   “วาขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะเก็บเอง”
   “ขอบคุณครับ” รอยยิ้มกว้างของวายิ่งทำให้ผมตกหลุมรักอีกรอบ ให้ตายเถอะ แค่รอยยิ้มวาก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว เก็บกวาดเสร็จวาก็ลงมาพอดี ผมกับวาไปที่โรงงานปล่อยให้วาจัดเอกสารที่แสนจะวุ่นวายเพราะไอ้ไม้มันเก็บไม่เป็นระเบียบ
   “อ่าวพี่ลม ไมได้มาอยู่โรงงาน” ไอ้ผู้กองนัท ตัวต้นเหตุที่ทำให้ไอ้ไม้อยู่กวนตีนเขาที่บ้านตั้งสามวัน แต่จะโทษมันก็ไม่ได้ เมื่อฝ่ายเขาคิดไปเองคนเดียว
   “ไอ้ไม้มันพาเพื่อนไปเที่ยว ว่าแต่มึงมานี่มีธุระอะไรกับมันเหรอ” ยืนกอดอกมองคนที่ทำหน้าเครียด ซึ่งรู้เลยว่าไม่ได้เครียดเรื่องกู
   “เปล่า เออพี่ลมตอนนี้ผมออกหมายจับไปแล้วนะ เห็นว่าหนีไปกบดานที่ตะเข็บชายแตน”
   “เออ กูขอบใจมาก เรื่องหลักฐานได้พอแล้วใช่ไหมต้องการเพิ่มก็บอกกูได้” หลักฐานที่ผมใช้เส้นสายหลายอย่างเพื่อให้ได้มา เพื่อเล่นไม่ให้มันดิ้นหลุดแต่ก็อย่างว่าคนเลวลื่นเป็นปลาไหลอย่างมันก็ดิ้นหาทางรอดได้อยู่ดี ได้แต่หวังว่าครั้งนั้นจะไม่แว้งกัดอะไรเขาอีก
   “งั้นผมกลับก่อนล่ะ เออเดี๋ยวผมจะให้เพื่อนตามเรื่องนี้ให้นะ พอดีต้องไปช่วยงานที่อื่นสองเดือน”
   “เหรอแล้วไอ้ไม้รู้เรื่องรึเปล่า” 
   “ไม่หรอก ทีแรกว่าจะมาบอกมันแต่เพื่อนมันมาพอดี ช่างเหอะพี่ ไปนะ” มันโบกมือลาที่คงคิดว่าโคตรเท่ ได้แต่ส่ายหัว เอาเหอะ ถือว่าเป็นสองเดือนที่คนของเขาจะได้ทำใจได้ แล้วเริ่มต้นใหม่ได้ซักที
************************************************************
ทำไมเขียนถึงไม้แล้วอินมาก
พ่อเลี้ยงคือใคร ฮ่าๆๆๆๆ 
ขอบคุณเสียงตอบรับต้อนรับพี่ไม้นะคะ
คงจะได้กลับมาอีกทีก็คงสิ้นเดือนถ้าคึกมากก็จะอู้งานปั่นมาลง
55555555555 ดูเป็นคนดีไหมล่ะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :กอด1:  เป็นภาพในฝันเลยๆๆๆ. พ่อเลี้ยงลมคับ. อยังมาน่าฮักแต้ว่า.  อนาคตแ้อเลี้ยงวา. อยังมาเป็นคนดีจนาดดด.  พ่อเลี้ยงไม้นี้ด้าบ่ฮู้ใจตัวเองเนา.


มาเร็วๆๆๆนะ.  จ
รออยู่ป้อเลี้ยงสายลม

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
:กอด1:  เป็นภาพในฝันเลยๆๆๆ. พ่อเลี้ยงลมคับ. อยังมาน่าฮักแต้ว่า.  อนาคตแ้อเลี้ยงวา. อยังมาเป็นคนดีจนาดดด.  พ่อเลี้ยงไม้นี้ด้าบ่ฮู้ใจตัวเองเนา.


มาเร็วๆๆๆนะ.  จ
รออยู่ป้อเลี้ยงสายลม
โอ๊ยยยเค้าชอบเม้นนี้ ขอบคุณที่ชอบนะคะ ฮึบๆ มีแรงป่ันต่อ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม้ รู้ใจตัวเอง และพยายามตัดใจ
นัท มาใกล้ชิดไม้นี่ แบบเพื่อนหรือแบบคนรัก
นัท ไม่ชัดเจน เพราะยังควงสาวอยู่นี่
ให้ไม้พูดเรื่องสัญญา มันก็แปลกๆ
แล้วเมื่อไหร่จะรู้ใจกันซักที

หรือการที่นัทมาเข้าหานัท เพราะอยากใกล้ชิดไม้
แต่ไม้บ่ายเบี่ยงตลอด มันวนลูปอีกและ
แต่คิดว่าถ้านัทชอบไม้จริง ควรพูดให้รู้ชัดเจน
ไม่ใช่ชวนกินข้าวเฉยๆ

พ่อเลี้ยงลม วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ไม้ รู้ใจตัวเอง และพยายามตัดใจ
นัท มาใกล้ชิดไม้นี่ แบบเพื่อนหรือแบบคนรัก
นัท ไม่ชัดเจน เพราะยังควงสาวอยู่นี่
ให้ไม้พูดเรื่องสัญญา มันก็แปลกๆ
แล้วเมื่อไหร่จะรู้ใจกันซักที

หรือการที่นัทมาเข้าหานัท เพราะอยากใกล้ชิดไม้
แต่ไม้บ่ายเบี่ยงตลอด มันวนลูปอีกและ
แต่คิดว่าถ้านัทชอบไม้จริง ควรพูดให้รู้ชัดเจน
ไม่ใช่ชวนกินข้าวเฉยๆ

พ่อเลี้ยงลม วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
คู่นี้จะยังอึนๆต่อไป ฮ่าๆๆๆ เค้าชอบความมึนนี้ ฮ่าๆๆมันจะสวนทางเหมือนทางวันเวย์

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮาอ่านรอบที่ 3 แล้วหนา. เฮามาดูฮักป้อเลี้ยงลม กับ  วาทิน. เอาะ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หลังจากที่ไปรับไอ้ทัพพีที่สนามบินคำทักแรกของเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานคือ
   “หน้าเหมือนคนอกหักนะมึง” แทบอยากจะข่วนหน้ามันแหก หลังจากที่พามันกลับมาบ้านแล้ว พอลงมาจากห้อง ก็แปลกใจเมื่อเห็นไอ้นัทกำลังเล่นกับหลานอยู่ เขายังคิดไม่ถึงว่ามันจะมาอยู่นี่ในตอนทีใจยังไม่เต็มร้อย เลยได้แต่ลากคอไอ้ทัพพีเข้าครัวไปตั้งโต๊ะ หูได้ยินเสียงหัวเราะแว่วๆ
   “ใครวะ” ไอ้ทัพพีที่กำลังตักแกงขยับเข้ามาใกล้แล้วถามขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
   “หือ อะไร”
   “ไอ้คนที่ทำให้มึงทำหน้าตกใจไง”
   “ถ้ามึงอยากอยู่เที่ยวแบบสบายๆอย่าเสือก ถือออกไปได้แล้วเว้ย”
   “เชี่ยคำว่าเสือกกระแทกหน้ากูเลยเออกูไม่ซักมึงก็ได้ แต่ถ้าจะร้องอกพี่พร้อมให้ซบนะจ๊ะ” แล้วมันก็ทำหน้ากวนตีนสะบัดตูดเดินออกจากครัว ไอ้เพื่อนเลวววววววววววววววววววววววว อยากจะทำร้ายมันแต่วาลงมาก่อน ทั้งโต๊ะเหมือนมีบรรยากาศแปลกๆ โดยที่ไอ้เพื่อนเขาไม่ได้สนใจเลยซักนิด จนกระทั่งนัทขอตัวกลับ ผมเหมอืนได้กลับมาหายใจเต็มท้อง เห็นสายตาไอ้พี่ลมมองมาแต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ เก็บกวาดเสร็จผมก็บทัพก็พากันขึ้นห้องไปนอน ไอ้คนที่เดินทางมาไกลก็หลับไปแล้วเหลือเพียงเขาที่ยังหลับไม่ลง
   “ไม่นอนรึไงวะ” ไอ้คนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับพลิกตะแคงข้างหันมาหาผม
   “ยังไม่นอนเหรอ กูไม่ง่วง” ผมพลิกตัวไปคุยกับเพื่อนซี้ที่ยังทำตาใส ไม่มีท่าทางของคนง่วงเลยซักนิด
   “อกกูซบได้นะเว้ย” มันพูดยิ้มๆ
   “กูผ่านจุดๆนั้นมาแล้ว”
   “เดี๋ยวมึงก็ทำใจได้”
   “เหมือนมึงนะเหรอ” ให้มันมาปลอบฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนะคนอย่างมันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเบอร์ที่ใช้มาตั้งแต่มหาลัยแถมยังดั้นด้นมาหาเขา
   “สัส อย่ารู้ทันกู” มันทำหน้าเซ็ง แน่ล่ะก็กูเพื่อนมึง
   “กูคงทำได้แค่ทำใจวะ เดี๋ยวกูกับมึงก็คงผ่านมันไปได้” ผมยิ้มกว้าง ปลอบใจทั้งตัวเองทั้งมัน มือหนายกขึ้นขยี้หัวผมจนฟู
   “หัวกูฟูหมดแล้ว” รีบปั่ดมือใหญ่ให้พ้นหัว ทำร้ายกูเหรอ ผมยกมือบีบแก้มมันเหมือนที่บีบแก้มไอ้ลูกหมูก่อนที่จะยืดออก
   “โอ๊ยยยยย อ่อยกู เอ็บๆ”
   “ฮ่าๆๆๆ  แต่มึงอยากเล่าไหม” มันส่ายหัวก่อนที่ฟุบหน้าลงกับหมอน ผมเลยไม่เซ้าซี้ ก่อนที่แต่ละคนจะจมกับความคิดตัวเองก่อนที่จะพากันนอนทั้งๆที่ในใจยังคงยุ่งเหยิง
   หลังจากที่ขอให้วากับพี่ลมช่วยดูโรงงานให้ผมกับไอ้ทัพก็ขับรถเข้าตัวเมืองก่อน ทั้งๆที่ออกมาเที่ยวแต่เหมือนแต่ละคนจะจมกับความคิดตัวเองซะงั้น
   “เลิกเหม่อเหอะ มึงมาพักผ่อนนะเว้ย” ผมหันไปแซวมัน ท่าทางอาการมันจะหนักกว่าผมซะอีก ทัพถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะยกมือขึ้นเสยผม
   “เออ แม่งกูไม่น่าคิดถึงเรื่องมันเลย กูน่าจะลืมๆมันไปซะ” ท่าทางหัวเสียทำให้ผมมองมันด้วยความเป็นห่วง เลยปล่อยให้มันนั่งพิงกระจกมองวิวข้างทาง ก่อนที่จะหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางออกนอกตัวเมือง จนกระทั่งมาจอดที่ทางเข้าอุทยาน
   “ไหนมึงบอกว่าจะพากูเที่ยวในเมือง”
   “ถ้ากูพามึงไปชายแดนมึงก็ยังไม่รู้ตัวหรอก ลงมา เดินต่ออีกหน่อยก็ถึงแล้ว” ผมลงจากรถเดินไปหยิบขวดน้ำกับอาหารที่แวะซื้อไว้โดยที่ไอ้ทัพแม่งมัวแต่เหม่อ ผมเดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่ในขณะที่ไอ้ทัพยังบ่นงืมงัมเป็นหมีกินผึ้งอยู่
   “จะยืนบ่นอะไรหนักหนา เสด็จได้แล้วครับไอ้เพื่อน”
   ผลั๊ว
   “กวนตีนแล้วสัด” เหี้ยหัวกู แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน ผมเดินนำมันขึ้นเขาไปเดินไม่ไกลเท่าไหร่เสียงน้ำตกก็ได้ยินชัดขึ้นจากที่บ่นๆไอ้ทัพก็รีบเดินนำอย่างกับมันรู้จักทาง ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินตามมันไปจนกระทั่งถึงน้ำตกที่พึ่งเปิดเส้นทางใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่แต่เขากับพี่ลมและกรมป่าไม้ร่วมกันบุกเบิกเพียงแต่เหลือแค่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
   “โคตรสวยเลยวะ” มันวางกระเป๋าลงบนก้อนหินพร้อมกับนั่งลงถอดรองเท้าถุงเท้าก่อนที่จะแช่เท้าลง
   “ใช่ไหม สบายใจขึ้นยัง” ผมถามก่อนที่จะนั่งลงข้างๆมัน
   “เออ บางทีกูก็เหนื่อยวะ แม่งหนีมันไม่ได้ซักที”
   “มันหนีไม่ได้หรอกวะ ทำได้แค่ยอมรับมัน” ผมเงยหน้ามองดูร่มไม้ฟังเสียงน้ำตกที่ช่วยทำให้ใจที่วุ่นวายสงบลง ทั้งผมกับไอ้ทัพต่างปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทนที่ ทั้งผมทั้งมันต่างจมกับความหลัง
   วันปฐมนิเทศ
   วันที่ผมคิดว่ามันจะทำตามสัญญาทั้งๆที่หลังจากที่มันพูดออกมา มันเหมือนให้ความหวังผมโครมใหญ่ไม่งั้นผมจะคิดไปไกลขนาดที่รอให้ถึงวันนี้อีกเหรอ ทั้งการเดินจับมือ ทั้งอนาคตที่พูดถึง ทั้งถ้อยคำหวานหูที่มันพูดออกมาผมจำได้ทุกคำ รอวันนี้ วันที่ถ้าผมรู้ว่าต้องเจ็บ ผมคงไม่ต้องการให้มันมาถึง หลังจากที่ออกจากหอประชุมผมยืนรอมันที่ใต้ตึกพร้อมกับคำถามที่อยากให้มันตอบ
   มึงยังจำคำสัญญาได้ไหม
   รอจนกระทั่งคนเริ่มซาก็ยังไม่เห็นมันลงมาจากห้อง ขึ้นไปตามมันก็ได้วะ มันบอกว่าจะกลับบ้านด้วยกันนี่หว่า
   “ไอ้นะ.........” ผมที่กำลังจะเรียกต้องรีบกลืนคำพูดแล้วหลบฉาก เมื่อนัทไม่ได้อยู่คนเดียว
   “เราชอบนัท ชอบมานานแล้ว”
   “เอ่อ...”
   “เราคบกันได้ไหม”
   “ได้สิ” คำตอบของนัททำให้ผมเหมือนทุกอย่างดับวูบ หูไม่ได้ยินเสียงอะไร ไม่รู้ว่าพาตัวเองมาอยู่หน้าโรงเรียนได้ยังไง ไม่รู้ว่าโทรหาไอ้พี่ลมมารับตอนไหน จนกระทั่งพี่มันมายืนอยู่ตรงหน้า
   “มึงเป็นไรไอ้ไม้” คำถามของพี่ชายที่แม้มันจะดูห้วนแต่ก็แฝงด้วยคำห่วงใย จนบ่อน้ำตาที่กลั้นไว้แตกพราก
   “พี่ลม”
   “อ่าวไอ้ห่า ร้องทำเหี้ยไรวะ” ถึงมันจะด่าแต่มันก็ดึงผมเข้าไปกอด
   “เอ่าๆ ร้องเข้าไปสิ เสื้อกูเปียกหมดแล้วไอ้เหี้ย ไปกลับบ้านร้องอย่างกับญาติมึงเสีย” มันโยกหัวผมแรงๆก่อนที่จะล็อกคอผมขึ้นซ้อนท้ายกลับบ้าน หลังจากที่กลับมาถึงบ้านไอ้พี่ลมมันก็ไม่ถามอะไรมากแตะผมเข้าห้องแล้วบอก ร้องไห้ตายแล้วค่อยกลับมา นี่ล่ะความรักฉบับไอ้พี่ลม ผมนั่งร้องจนพอใจ เออวะ ปล่อยมันแม่ง ตอนเย็นผมก็กลับมาเป็นคนเดิมถึงจะไม่เต็มร้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครเป็นห่วง
   “ไอ้นัทมันโทรมาหามึง”
   “ช่างมันเถอะ เออพี่ผมจะไปเรียนที่กรุงเทพนะ” ทีแรกตอนประกาศผลเขาคิดที่จะเรียนที่จังหวัด เพียงแต่ตอนนี้เขาเลือกที่ไปอยู่ที่ไกลๆ
   “ตัดสินใจดีแล้ว”
   “เออ”
   “ก็แล้วแต่มึง” ครับ พี่ผม หลังจากที่ตัดสินใจเลือกแล้วผมก็เริ่มเตรียมตัวโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนคนไหน โดยเฉพาะไอ้นัทที่ก็เริ่มไม่ได้คุยกันเพราะมันติดนายร้อยก็เริ่มวุ่น ก็ดีเหมือนกันเขาก็ยังไม่อยากคุยกับมัน เพราะที่คุยกันไปมันก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่มันเคยพูดไว้เลยซักนิด แล้วจะคุยกันทำมะเขืออะไรวะ จนกระทั่งผมไปเรียนที่กรุงเทพเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อยอมรับสิ่งใหม่ๆ ได้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ แต่ยังไงผมก็ยังคงรักมัน ถึงจะรู้ว่าท้ายที่สุดคำสัญญาจากปากมันไม่มีความหมาย
   “มึงรักคนนั้นมากเลยใช่ไหม”
   “ก็คงงั้น แล้วมึงล่ะ” ผมหันไปถามมันที่เลิกเหม่อ
   “ก็รักนะแต่ความเจ็บมันมีมากกว่าวะ มันเหมือนสิ่งที่กูทุ่มเทให้มันไม่มีความหมายอะไรเลย”
   “งั้นทำไมเราต้องเสียใจด้วยวะ กับคนที่มันไม่เห็นค่าความรักเรา” ผมพูดปลอบทั้งตัวเองทั้งมันด้วย ใช่ไหมล่ะ ทำไมเราสองคนต้องจมปลักกับความรักที่คนอื่นไม่เห็นค่าด้วย
   “เออวะ กูจะกลับไปเป็นคนใหม่เว้ย หาคนที่รักกูดีกว่าวะ สนใจไหมเพื่อน” มันหันมายักคิ้วเท่ๆให้ผม
   “เหอะๆ” ผมหัวเราะแล้วขยับลุกขึ้นยืน
   ตู้ม!!!
   “ไอ้เชี่ยไม้!!!”
   “ปากมอมนะมึง กูไม่สนใจมึงหรอกสัสหล่อแต่หน้า” ผมนั่งลงใกล้ๆน้ำตกชี้หน้าว่าไอ้ทัพมันลูบหน้าลูบตาเสยผมขึ้นมองผมเคืองๆ
   “สัสกูพูดเล่นนะเข้าใจไหมวะ เหี้ยกูเปียกหมด”
   “เอ๊ามาเที่ยวน้ำตกมึงจะไม่เปียกจะใช่เหรอ”  ผมยิ้มกวนตีนมัน
   ตู้ม!!!!!!
   “งั้นมึงก็ลงมาด้วยสิ”
   “แค่กๆไอ้ทัพพี”
   “ไอ้ไม้เน่ามีปัญหา”
   “ไอ้ทัพพีคด” แล้วก็จ้องหน้ากันก่อนที่จะหลุดขำกันดังลั่นป่า ยังดีนะไม่มีคนอื่นนอกจากเขาสองคน เดี๋ยวจะโดนด่า
   “ถือว่าเริ่มต้นใหม่นะ กูกับมึง”
   “เออ แต่ก่อนอื่นมึงไม่หนาวเหรอวะ” ผมถามมันน้ำตอนนี้ก็ถือว่าเย็นสบายสำหรับเขาอยู่
   “ไม่วะ เย็นดีวะ รู้สึกโล่งชิบหายเลยวะ คิดถูกแล้วที่มาหามึง” มันว่าก่อนที่จะลอยตัวปล่อยตัวตามสบายมองดูท้องฟ้าใส ที่เหมือนหัวใจของพวกเขาที่ไม่มีตะกอนอยู่แล้ว
   “แน่นอนกูเพื่อนซี้มึงนิ”
   “หึๆ” กูเกลียดเสียงหัวเราะมันจริงๆ เล่นน้ำกันซักพักก็ขึ้นมาพักกินข้าวพากันกลับบ้านแล้วแวะรับลูกหมูกลับบ้าน
   หมับ
   “อาไม้ น้ำคิดถึงงงงงงงงงงงงงง”ยังไม่ทันข้ามวัน จะมาคิดถึงอะไรกันขนาดนั้น
   “เดี๋ยวปล่อยอาก่อนลูกหมู”
   “กลับกันๆๆ น้ำคิดถึงพี่วา” น้ำดึงมือผมไปที่รถ นั่นไง คิดไว้แล้วว่าอามันแค่ตัวแถม
   “เดี๋ยวๆไอ้ลูกหมู ลืมอะไรไปรึเปล่า” ผมยืนกอดอกกดดันน้ำที่คึกเกินเหตุจนลืมสิ่งที่ควรทำ น้ำทำหน้าสลดก่อนที่จะยืนดีๆแล้วยกมือขึ้น
   “อาไม้ อาทัพ สวัสดีครับ” น้ำก้มลงไหว้สวยก่อนจะเงยหน้ามายิ้มแป้น ผมลูบหัวทุยแรงๆ
   “ดีมากเจ้าลูกหมู ป่ะเดี่ยวพาไปหาพี่วา”
   “เย้” น้ำวิ่งนำพวกผมขึ้นรถ ขับรถไปส่งลูกหมูที่โรงงานเห็นแค่วาอยู่ในห้องส่วนไอ้พี่ลมเห็นว่าอยู่ในโรงงานก่อนที่พวกเขาสองคนจะกลับบ้านไร่ ผมไล่ให้ไอ้ทัพไปอาบน้ำบนห้องส่วนผมก็เข้าไปอาบห้องไอ้ลูกหมู
   “ไอ้ไม้โทรศัพท์เว้ย”ไอ้ทัพตะโกนโหวกเหวกหน้าห้องน้ำ
   “เออๆ” ผมขานรับก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวผูกเอวลวกๆเดินออกไปเอาโทรศัพท์กับมัน
   “ฮัลโหลครับ”
   “(ไม้นี่กูนะ)”
   “ไอ้นัท มีไรวะ” ผมถามแต่ตาเหลือบมองไอ้ทัพที่ยืนพิงกรอบประตูแต่หูนี่กางเก็บข้อมูลเต็มที่
   “(กูจะโทรมาบอกมึงว่ามึงคงไม่ได้เห็นกูอีกซักสองเดินวะ)”
   “อ่าวเหรอ มึงจะไปไหนวะ”
   “(กูได้ไปช่วยงานที่จังหวัดอื่น สองเดือน ไม่ต้องคิดถึงนะเว้ย ฮ่าๆๆ)” สองเดือนเลยเหรอ
   “ใครจะไปคิดถึงมึงไอ้สันขวาน” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ใจผมก็หวิวๆไปเหมือนกัน
   “(แต่กูคงคิดถึงมึงวะ)” เนี้ยะ...ก็เพราะมันเป็นคนอย่างนี้ไง แล้วผมจะทำใจได้ที่ไหนกันล่ะ แม่งเอ๊ยยยย
   “เสี่ยวแดกวะ”
   “(เดี๋ยวกลับไปกูสัญญา)”
   “มึงเลิกพูดคำว่าสัญญาซักทีได้ไหม” ผมรู้สึกทนไม่ไหวกับคำว่าสัญญาจากปากมัน ที่มันไม่แม้แต่จะจดจำ
   “(มึงโมโหอะไรกูวะ)”
   “มึงเลิกสัญญาซักที ในเมื่อมึงไม่ทำตามที่พูดซักที ทั้งเมื่อก่อนนี้ จนถึงตอนนี้ มึงเคยจำสัญญาที่เคยให้กับกูซักครั้งไหม”
   “(มึงอย่าจริงจังนักสิวะ)
   ปึด
   เหมือนเส้นความอดทนของผมมันขาดลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทนเพราะผมจริงจังผิดกับมันที่ลืมทุกอย่าง
   “เออ กูผิดที่จริงจังกับคำพูดมึง กูผิดที่เคยเชื่อทุกอย่างที่มึงพูด ผิดที่ชอบมึง ผิดที่ยังเพ้อฝัน กูเคยคิดนะว่าทำไมกูจริงจังกับคำสัญญากับมึงทำไมทั้งๆที่กูก็เคยเจ็บ เคยเสียน้ำตา แต่กูก็เหมือนคนโง่ที่ยังเชื่อมึงซ้ำๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมากูไม่ไหวแล้ว มึงเคยถามว่าทำไมกูไม่เป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม เพราะกูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นเพื่อนไง มึงไม่ต้องมาพ่นคำว่าสัญญาออกมาอีกเลยนะ” ร่ายยาวจนต้องหอบหายใจไอ้ทัพเดินเข้ามาบีบไหล่ผม
   “(ไอ้ไม้กู...)”
   “มึงไม่ต้องพูด เพราะกูจะพูดครั้งเดียวจบ ส่วนมึงจะคิดไงก็เรืองของมึง กูจะไม่รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ แต่กูอยากถามว่ามึงจำสัญญาได้ไหม สัญญาก่อนจบม.ปลาย”
   “(เรื่องอะไร......เห้ย!!)” เสียงตกใจของมันทำให้ผมรู้ว่ามันจำไม่ได้เลย ตอนนี้ผมแทบไม่รู้ตัวเลยว่าร้องไห้เมื่อไอ้ทัพมันเอาผ้าขนหนูที่พาดคอมาถูหน้า เช็ดดีๆก็ได้มั้งมึง
   “กูรู้ว่ามึงจำไม่ได้ สองเดือนนี้คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่มึงจะได้รู้ว่าจะเอายังไงต่อ แต่กูคงกลับไปเป็นเพื่อนมึงไม่ได้ แล้วคำสัญญาของมึง  มึงเอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ กูคงไม่เชื่อมึงอีกแล้ว แต่กูขอบคุณมึงนะที่เป็นเพื่อนกู ขอโทษที่เป็นเพื่อนมึงไม่ได้ อึก แค่นี้นะเว้ย โชคดีกับการเดินทางนะ” ผมกดตัดสาย พร้อมกับไอ้ทัพดึงตัวผมไปกอด
   “มึงทำดีแล้วไม้”
   “อืม” ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลโดยที่ไอ้ทัพลูบหัวผมเบาๆไม่พูดอะไร
   ตึงๆ
   “พ่อลมมมมม อาไม้แก้ผ้ากอดกับอาทัพพพพพพพพพพพพพพ” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านผมกับไอ้ทัพรีบผละออกจากกันทันที ไม่รู้ว่าครอบครัวนั้นกลับมาเมื่อไหร่
   “ไปแต่งตัวก่อนเถอะเดี๋ยวกูลงไปก่อน”
   “เออ ขอบใจนะเว้ย”
   “มึงทำดีแล้วล่ะ” ผมพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป ว่าแต่ไม่น่ารีบวางเลยแหะ น่าจะด่าให้สมกับที่มันทำเขาเจ็บ แต่จะด่าว่าควายก็สงสารควาย แต่พอได้ระบายออกไปก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ แต่งตัวเรียบร้อยก็ลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงไอ้ทัพกับน้องวาแว่วมาจากครัว เลยเดินไปนั่งข้างๆไอ้พี่ลม
   “ไงมึงได้ข่าวว่าแก้ผ้ากอดกันเหรอวะ”
   “เลิกแซวได้แล้วน่าพี่”
   “คิดดีแล้วนะมึง”มันคงได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์แล้วสินะ
   “ดีแล้วล่ะไม่ต้องห่วง”
   “กูไม่ห่วงมึงหรอกโตเท่าควายแล้วมึงอ่ะ”
   “อานัทเป็นควาย” เอาแล้วไงอยู่ดีๆกูก็โดนหลานด่า
   “พี่ลม!! วาบอกแล้วไงเรื่องคำหยาบเห็นไหมลูกพูดตามแล้ว” วารีบเดินออกมาจากครัวพร้อมกับใบหน้าหวานบึ้งตึงแถมยังยกมือกอดอก ที่ผมมองว่ามันไม่ได้ดูน่ากลัวซักนิด
   “โธ่ วาพี่แค่ลืมตัวไป” โอ๊ยยยยยกูเห็นแววอนาคตพี่ชายกูรำไรเลยเว้ย โธ่พี่กู กลัววาซะจนออกนอกหน้าแล้ว
   “พี่ไม้ก็เหมือนกันนะครับ ตอนนี้น้ำเริ่มจำคำไปใช้แล้ว ผมไม่อยากให้น้ำเป็นเด็กไม่น่ารัก”
   “พี่วา น้ำน่ารักน้า น่ารักจริงๆน้า” เจ้าลูกหมูรีบลุกไปเกาะขาอ้อนวาทันที
   “งั้นน้องวาต้องขอโทษอาไม้ก่อน ส่วนคำเมื่อกี้น้องน้ำห้ามเอาไปว่ากับใครนะครับ” น้ำพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่จะหันมาขอโทษผม แล้วไปอ้อนพี่วาต่อผมว่าต่อไปนี้วาต้องคุมทุกคนได้แน่นอน ผมยิ้มขำๆ
   “ไปกินข้าวกันเถอะครับ พี่ทัพเลยได้ตั้งโต๊ะคนเดี๋ยวเลย”
   “ไม่เป็นไรๆ ครอบครัวสุขสันต์ก็งี้ล่ะ” บอกแล้วสกิลปากมันแซวหน้าตายเป็นยังไงมองหน้ามันเลยครับ วาเขินหน้าแดง ไม่ยอมสบตาไอ้ทัพอีกเลยตลอดการทานข้าว ผมกับไอ้ทัพขึ้นห้องเตรียมเข้านอน
   “เออพรุ่งนี้กูไปช่วยมึงที่โรงงานล่ะกัน ยังไงกูก็ว่าง” ไอ้ทัพมันพูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะหลับ
   “อ่าวแล้วมึงไม่ไปเที่ยวเหรอวะ”
   “ไม่วะ กูมาแค่อาทิตย์เดียวแถมยังไม่รู้จะไปไหน”
   “ไปเที่ยวเหอะ กูแค่ล้อมึงเล่นเอารถกูไปใช้เลย มึงจะได้พักผ่อนเต็มที่”มันนิ่งคิดไปนิดก่อนที่จะพยักหน้าตกลง ในเมื่อมันช่วยผมผมก็อยากให้มันดีขึ้น
   อยากรู้หลังจากที่ผมตัดสายไอ้นัทไปนะเหรอครับ โทรศัพท์ผมก็เงียบสงบมันคงจะคิดได้ล่ะนะ ผมก็คิดได้แล้วเหมือนกันมันเป็นการยึดติดของผมเอง ผมอาจจะรักมัน แต่ผมจะไม่ยึดติดอีกแม้ตอนนี้มันจะหน่วงๆหน่อยแต่มันดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ผมว่ามันคงจะคิดได้แล้วล่ะนะ โว้วคิดอะไรมากมาย นอนดีกว่านะ

***********************************************
มาแบบสั้นๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงครึ่งหลังนะคะ
พี่ไม้เราจะดราม่าต่อไปค่ะ
5555555555
โดยส่วนตัวชอบพี่ไม้นะ นิสัยยึดติดแปลกๆ 55555
ส่วนคู่พี่ลมกับวานั้น .......ปล่อยให้เพิ่มความหวานไร่ส้มต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ตกลงแล้วพี่ไม้ ฝังใจกับคำสัญญามาตลอดสินะ
 :sad4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อืออออ..........ชัดละ ชัดเลย  :z3: :z3: :z3:
นัท ลืมสัญญา
พอมีสาวมาบอกชอบ ขอคบก็ไปคบสาวเลย
เป็นคนที่พูดคำว่าสัญญาๆ ติดปาก
โดนไม้สวนกลับไป จำได้เลยมั้ง
แต่ถ้านัทชอบหญิง ก็ไปทางเดิม จบกับไม้ไป
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม้ๆๆๆ. จงพลางพลูออกมาได้สบายใจนะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ก็ยังรอเหมือนเดิม.เพิ่มเติมวนอ่านอีกรอบ. 55

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
“วาครับหายโกรธพี่เถอะนะพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ผมที่กำลังเป่าผมอยู่เหลือบไปมองคนตัวโตที่ทำหน้าจ๋อยอยู่บนเตียงเพราะตั้งแต่ที่เขาดุอีกฝ่ายเขาก็ไม่ยอมคุยด้วย เพราะเรื่องนี้คุยกันแล้วและพี่ลมก็รับปากแต่ก็ยังหลุดปากทำให้ไปพูดไม่น่ารักใส่พี่ไม้ถ้าไม่เตือนไม่ห้ามตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็น้ำจะคิดว่าตัวเองทำได้ แล้วจะติดเป็นนิสัย
   “โธ่วา คุยกับพี่หน่อยสิ พี่ขอโทษนะคนดี” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูพร้อมกับแขนแกร่งสอดรัดที่แอว ทำไมต้องมากระซิบอ้อนเขาแบบนี้ด้วยล่ะ เขารับรู้ถึงมือที่สั่นน้อยๆจนต้องวางไดร์เป่าผมลง
   “ปล่อยได้แล้วพี่ลม วาหายโกรธแล้ว คราวหน้าพี่ลมก็ระวังหน่อยสิครับ”
   “อืม พี่จะระวัง”
   ฟอด
   “พี่ลม!!” เขาได้แต่ปิดแก้มหนีอีกคนที่ฉวยโอกาสก้มลงหอมแก้มเขาเฉยเลย
   “ป่ะไปนอนได้แล้ว”  ได้แต่ลุกตามแรงฉุดเบาๆก่อนที่จะโดนรวบไปกอดจนชินไปซะแล้ว ผมขยับตัวเพื่อหาจุดสบายๆ
   “พี่ลมเรื่องพี่ไม้” พวกเขากลับมาบังเอิญได้ยินที่พี่ไม้คุยกับพี่นัทก็เสียงดังขนาดนั้น ตอนแรกเขาคิดว่าจะขึ้นไปดูแต่พี่ลมคว้าแขนไว้ก่อนแล้วบอกว่าปล่อยให้พี่ไม้พูดไป แต่พี่ลมคงจะทันห้ามแค่ผมไม่ได้ห้ามน้ำที่วิ่งขึ้นไปชั้นสองแล้วร้องโวยวายลงมา
   “มันไม่เป็นไรหรอก วาไม่ต้องห่วง ห่วงแค่ไอ้คนดักดารนั่นดีกว่านะ” คนดักดาร? ใครกันนะ
   “พรุ่งนี้เราจะเข้าไร่ส้มกันไหมครับ”
   “วาเข้าไปดูเลยก็ได้ พี่จะขึ้นไปดูฝาย ว่าจะทำเพิ่ม” ผมพยักหน้าหงึกหงักกับอกกว้าง ที่หลังๆพี่ลมเริ่มใส่แค่เสื้อกล้ามนอน
   “ราตรีสวัสดิ์นะวา” ริมฝีปาหนาแนบชิดกับหน้าผากเนียน
   “ครับฝันดีนะพี่ลม” ร่างบางตอบกลับก่อนที่จะซุกหน้าลงกับอกกว้างก่อนที่จะหลับไหลไปพร้อมกับอ้อมกอดอุ่น
   ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดเสียเวลากับการแงะตัวเองออกจากอ้อมแขนพี่ลมหลังๆมาพี่ลมจะตื่นเช้ากว่าเขาประมาณหนึ่ง ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก่อนที่จะลงไปชงกาแฟไว้สำหรับทั้งสามคนแล้วเตรียมทำกับข้าวเช้า ไม่นานนักพี่ลมก็ลงมา พร้อมกับพี่ไม้ที่เตรียมตัวเสร็จแล้ว
   “พี่ไม้จะไปไหนแต่เช้ามืดครับ” ผมถามพร้อมกับยืนกาแฟให้ทั้งสองคน
   “พี่จะแวะไปท้ายไร่แล้วค่อยไปโรงงานนะ” ผมทำหน้างงๆแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร
   “แล้วพี่ทัพล่ะครับ”
   “อ้อ มันจะไปเที่ยวนะตอนนี้ยังไม่ตื่นหรอก”  ผมพยักหน้า งั้นวันนี้คงจะได้ไปส่งน้ำก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไร่
   “พี่ไปก่อนนะ” พี่ไม้ซดกาแฟอักๆเหมือนไม่ร้อนจนเขากลัวแทน ก่อนที่จะสะพายเป้เดินออกจากบ้านไป เหมือนจะดูร่าเริงขึ้นกว่าปกตินะ
   “หึๆ คราวนี้มีเรื่องสนุกๆให้ดูอีกแล้วล่ะสิ” เหมือนจะมีคนที่รอดูเรื่องสนุกคนเดียว
   “พี่ลมรู้อะไรบอกผมด้วยสิ”
   “อยากรู้เหรอ” ผมรีบพยักหน้ารัวๆ พี่ลมกวักมือให้ผมเข้าไปใกล้ๆ ผมขยับเข้าไปชิดก่อนที่พี่ลมจะชี้นิ้วไปที่แก้ม
   บ้าเหรอ!!!!
   ผมรีบดีดตัวออกห่างได้ทีนี่เอากำไรเข้าตัวตลอด จะให้เขาหอมแก้มเหรอจะบ้าหรือไง
   “โธ่ไม่อยากรู้เหรอไง”
   “ไม่อยากรู้แล้ว”  ตลอด พี่ลมอ่ะตลอดนิดๆหน่อยๆก็ชอบทำให้เขาเขินจนทำตัวไม่ถูก คิดที่จะลุกขึ้นหนีเข้าครัวแต่ก็ช้ากว่าอีกคนที่ตวัดวงแขนรอบเอวบางรั้งให้นั่งตัก
   “ยอมๆพี่ซักทีให้พี่ชื่นใจไม่ได้เหรอครับ”
   “นี่วายังไม่ยอมอีกเหรอ” อยากจะถามใจแทบขาดว่าทุกวันนี้เขาไม่ยอมอีกเหรอ เดี๋ยวกอดเดดี๋ยวหอมไหนจะปล้นจูบเขาอีก
   “โธ่วา แค่หอมแก้มพี่เองน้า” หันไปมองเสี้ยวหน้าคนตัวโตที่ทำหน้าอ้อน ให้ตายเถอะคุณพ่อลูกหนึ่งทำไมถึงชอบอ้อนเขาแข่งกันกับลูกนักนะ แต่เขาก็มองเห็นสิ่งที่พี่ลมให้เกียรติและความชัดเจนจนเขาคิดไม่ผิดที่ยอมเปิดใจให้อีกฝ่าย ผมยกมือขึ้นกอดคอหนาก่อนที่จะจรดปลายจมูกลงที่แก้ม
   “หอมแล้วก็เลิกงอแงแล้วปล่อยวานะครับ”
   “หืย!! ทำไมน่ารักอย่างนี้นะ พี่ล่ะอยากฟัดเราทั้งตัวแล้ว” ฉ่า คำพูดที่เหมือนกำลังสะกดกั้นอารมณ์ทำให้เลือดสูบฉีดจนแก้มแดงก่ำ
   “พี่ลม!! ปล่อยเลย ปล่อยๆ” เขารีบดิ้นและพยายามแกะมือพี่ลมออกเมื่อรับรู้ถึงอะไรที่ใหญ่ขึ้น
   “อ่า วาอยู่นิ่งๆ” เสียงแหบพร่าพร้อมกับอ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นทำให้ผมต้องนั่งนิ่งเหมือนถูกสต๊าฟไว้   
   “ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวมันก็สงบไปเองพี่ขอกอดอีกซักพักนะคนดี” มือใหญ่ลูบขึ้นลงเพื่อปลอบร่างบางที่สั่นเทา  วาไม่รู้ตัวเองเลยว่าตัวเขานั้นสั่นและตื่นตระหนกเมื่อสัมผัสถึงความต้องการของร่างใหญ่ แม้จะใกล้ชิดแต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ก้าวข้ามไปอีกขั้นเพราะลมเองก็กลัวว่าวาจะรองรับความต้องการของเขาไม่ได้ อีกทั้งเขาก็ไม่กล้าทำอีกฝ่ายเจ็บ แม้จะนอนกอดกันทุกคนแต่ทุกคนไม่รู้หรอกว่าเขาต้องใช้ความอดทนแค่ไหนที่จะไม่กดวา แถมเจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าเวลานอนนั้นยั่วยวนเขาแค่ไหน เขาต้องอดกลั้นแค่ไหน แล้วไอ้ที่ลงมาช้ากว่าวาเนี้ยเพราะเขาเสียเวลาปลอบลูกชายที่มันตื่นเคารพธงชาติให้สงบลงถึงได้ลงมา
   ผ่านไปซักพักทุกอย่างก็กลับมาปกติ วานั่งนิ่งๆถึงแม้จะหายสั่นแต่ผมก็ไม่ได้ปล่อยให้วาลงจากตัก
   “พี่ขอโทษนะ”
   “มะ...ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ลมปล่อยวาก่อน”
   “พี่ถามหน่อยสิ วากลัวพี่ไหม” เขาก้มมองคนที่พยายามหลบหน้าหลบตาเขาพอถามไปแก้มเนียนก็แดงก่ำ มือเรียมบีบแน่นริมฝีปากเม้มและคลายออก ทำไมเขาดูว่ามันเชิญชวน กูคิดเรื่องดีๆเป็นไหมวะ นับวันยิ่งอยากฟัด นับวันยิ่งอยากกด แหมไม่อยากจะอวดผมไปถามผู้มีประสบการณ์มาแล้ว  แลกกับการโดนมันแซวจนหน้านี่เพิ่มความหนาขึ้นอีกหลายนิ้ว จากที่กระดากอายมันแซวจนผมเลิกอายจะคิดดู
   “อ่า พี่ลมปล่อยก่อนไม่ได้เหรอ”
   “ตอบพี่ก่อนสิ”
   “ก็ได้ๆ วาไม่กลัวพี่ลมหรอก พี่ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ไอ้สายตาท้าทายนี่มัน อย่าให้พี่ทำนะ จะเอาให้พูดไม่ออกเลย ก็ได้แต่คิดในใจล่ะครับจะให้ทำอะไรล่ะในเมื่อผมกลัววาเจ็บ ผมคลายอ้อมแขนวาก็กระโดดหนีเข้าครัวทันทีจะกลัวอะไรขนาดนั้นถ้าพี่ทำแล้วจะรู้สึก  ทำไมรู้สึกกูหื่นจังวะ คิดแต่เรื่องสัปดน คนหื่น 2017เลยกู  ปล่อยให้วาทำอะไรให้หายเขิน ผมเลยขึ้นไปปลุกไอ้ลูกหมูไปวิ่ง เดี๋ยวนี้ชินไม่ค่อยโยเยเท่าไหร่แล้ว เหมือนจะน้ำหนักลงแต่แก้มยังยุ้ยเหมือนเดิม ปล่อยให้วิ่งรอบบ้านส่วนเขาก็ไปสั่งงานไอ้ละออง
   “นาย ไอ้ละอองขอถามหน่อย”
   “ถามไรวะ” ผมมองมันอย่างระแวง เมื่อไอ้ละอองเริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้ๆแถมยังทำหน้ากวนตีน
   “นายจับคุณวากินรึยัง” แหมมึงกระซิบดังขนาดนี้ให้กูเอาโทรโข่งให้ไหม สายหน้าแทนคำตอบ
   “โหหหหหหหหหหห นายแม่งไม่มีน้ำยาว่ะ” มันโห่แล้วลอยหน้าลอยตาทำหน้าสมเพศเวทนาผม
   “หึๆไอ้ละออง อย่าอยู่เลยมึง”
   ผล๊วะ
   “โอ๊ยยยยย นายๆๆๆๆๆ ไอ้ละอองผิดไปแล้ว ไอ้ละอองขอโทษ” มันวิ่งสี่คูณร้อยไปหลบหลังไอ้สน
   “ปากดีนักนะมึง”
   “ก็นายทำไมไม่จับกินซักทีเล่า”
   “แล้วมึงเสือกอะไรกับชีวิตครอบครัวกูหนักวะ กูไม่ทำแล้วมันทำไมวะ” อยากจะแตะมันอีกซักที เผือมันจะหายกวนตีนซักที
   “ก็เป็นห่วง หลักๆคืออยากเสือกอ่ะ” ดีมากไอ้ลูกน้องตัวดี ดีจริงๆ
   “สิ้นเดือนกูจะหักเงินเดือนมึง”
   “ม่ายยยยยยยยยย ผมจะฟ้องคุณวา” ดู ดู๊มันสิแม่งรู้อีกว่าควรเข้าข้างใคร ไอ้มือขวาแปลพักตร์
   “มึงไม่ต้องอ้างวาเลย วันนี้งานที่กูสั่งไว้ไม่เสร็จมึงเจอดีแน่ไอ้ละออง” ผมชี้หน้ามัน ซึ่งมันก็ตเบะรับ กวนตีนแบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ สั่งงานเสร็จก็กลับเข้าบ้าน ลูกหมูแต่งตัวเตรียมพร้อมนั่งกินข้าวพร้อมกับทัพ ที่วันนี้แต่งตัวเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก
   “หวัดดีพี่ลม เดี๋ยวผมไปส่งน้ำให้พอดีว่าจะเข้าไปเที่ยวเมืองนะพี่”
   “ไม่รบกวนนะ”
   “ไม่พี่ อยากไปกับอาไม้ลูกน้ำ” ลูกกูได้ชื่อใหม่อีกแล้ว  น้ำเงยหน้าขึ้นจากถ้วยข้าวต้มพยักหน้ารัวๆ เดี๋ยวนี้น้ำเริ่มเข้าสังคมมากขึ้น ไม่กลัวคนที่ไม่คุ้นหน้าเหมือนเมื่อก่อน
   “งั้นพี่ฝากหน่อยนะ”
   “ไม่มีปัญหาพี่ ป่ะลูกน้ำ เดี๋ยวตอนเย็นผมไปรับลูกน้ำให้ด้วยนะ”ทัพโยกหัวทุยของน้ำไปมา ดีจริง ทัพกับน้ำก็ออกไปแล้ว ว่าแต่วาหายไปไหนล่ะ จนเขากินข้าวเสร็จยังไม่เห็นวาเลย
   ตึงๆๆๆ
   “วาวิ่งทำไมระวังเดี๋ยวก็ล้มหรอก” ผมรีบคว้าคนที่วิ่งพุ่งเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
   “พี่ลม” รอยยิ้มกว้างทำให้ผมชักอยากรู้แล้ววาดีใจเพราะเรื่องอะไรกัน
   “มีอะไรกันถึงได้ดีใจขนาดนี้ หือ” วาก้มหน้าลงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะแตะแต้มใบหน้า
   “พี่โย พี่โยจะมาหาวาล่ะ พี่ลมวาดีใจมากๆเลยล่ะ”
   ห๊ะ
   ห๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
   เชี่ยล่ะ พี่ว่าที่เมียจะมา
   กูปิดไร่ทันไหม
**************************************************************************************
5555555555555555555555555555555
ตอนหน้าปูพรมแดงเปิดตัวพี่โยอย่างเป็นทางการ
พ่อเลี้ยงควรได้โล่ #คนกลัวเมีย2017 #คนหื่น2017
นับวันพ่อเลี้ยงเรายิ่งง๊องแง๊ง 555555555555555

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ละออง นายนี่จริงๆ เลยนะ พูดดีทำดีมาก อิอิอิ
สู้ๆ นะพี่ลม พี่เมียไม่ได้น่ากลัวหรอก หื่นสู้พี่ลมไม่ได้แน่ๆ
 :hao6:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ละออง. นายแน่มากๆๆๆ.

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ไหนๆพี่ทัพเค้าก็อกหักพอดี เราว่าจับเค้าให้ได้กับพี่โยเลยดีไหม :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด