ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9  (อ่าน 83389 ครั้ง)

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
อ่านแล้วลำคานคะ ตอนนี้ ขอพูดตรงๆๆนะ พระเอกก้อโอ้ย ส่วนนายเอกน่าลำคานสุด น่าจะโดนสวมเขานะ ขนาดมันจะง้อ มันยังทำตัวแบบนี้  อ่านตอนนี้แล้วหงุดหงิดมาก นายเอกแลโง่ พระเอกพูดอะไรเชื่อหมด ควรโกรธนะตอนนี้ โกหกขนาดนี้ แต่กลับไม่โกรธเออ เอาสิ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
อย่าให้มีอีกนะพี่โช ถ้ามีอีกอาร์ทคงไม่ยอมง่ายๆอีกแล้ว

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาแล้ววววววววคิดถึง  :mew2:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขัดใจ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ไม่โอเคเลยอ่า
ทำตามคำสั่ :hao4:งป๊าหรอ
คงไม่ใช่ถ้าป๊าสั่งคราวหน้ากฌมีอีกนะ  :hao4:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เอาแล้วๆๆๆๆๆจูบในห้างก็ได้หรอ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
 :-[

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไม่น่าจบนะ. ออยน่ะ. มีมาแย่งต่อแน่ๆ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
น้ำตาลจะเป็นตัวขัดขวางชะนีที่เข้าหาพี่โช

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
« ตอบ #219 เมื่อ: 20-07-2017 06:43:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ peettato

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ออกมาแล้วววตัวละครดกทง :beat:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :katai1:

ออฟไลน์ datytime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เริ่มมีความสงสารนายเอก เหมือนโดนหักหน้า

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 22


รถแล่นเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ทั้งผมและน้ำตาลมองสำรวจภายนอกไปรอบๆ ก็ต้องสะดุดกับร่างของใครบางคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่หน้าประตูบ้าน

“มึงนั่นมันไอ้กายนี่หว่า” น้ำตาลหันมาพูดกับผมก่อนจะหันกลับไปมองกายกำลังยืนคุยโทรศัพท์สีหน้ายิ้มแย้มอยู่

“มันมาทำอะไรที่นี่วะ” ผมพึมพำออกไป

“หรือว่ามันเป็น....” เหมือนน้ำตาลจะพูดอะไรแต่พี่โชพูดแทรกมาก่อน

 “ออยกายมาทำอะไรที่บ้านออยหรอ”
 
“อ้าวโชรู้จักกายด้วยหรอ” ผู้หญิงชื่อออยทำเสียงตื่นเต้น
 
“กายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับสองคนนี้น่ะ”
 
“อ่อ ไม่นึกว่ากายจะคบกับพวกนี้” เธอพูดเสียงเหยียดๆ และหันมามองเราสองคนด้วยสายตาแบบดูถูก
 
น้ำตาลทนกับสายตาของเธอไม่ไหวจึงทำท่าจะพุ่งตัวขึ้นไปหน้ารถดีที่ผมดึงแขนไว้ทัน “อ่าวเจ๊ พวกเราทำไมหรอ”

“ไม่เอาน่ามึง” ผมต้องรีบพูดปรามไม่ให้น้ำตาลวู่วาม

“ว่าไงออย กายมาทำอะไร” พี่โชถามซ้ำอีกครั้ง

 “ก็คงจะมาหาคุณพ่อกับคุณอาดิเรกหรือไม่ก็มาหายายอิน”

 “มาหาอิน?” พี่โชทำหน้าแปลกใจ

 “ค่ะ คุณพ่ออยากให้ยายอินสนิทสนมกับกายไว้น่ะค่ะ”

 “อืม” พี่โชตอบแค่นั้นจึงหันมาพูดกับผมและน้ำตาล “อาร์ท ตาล จะลงไปหาเพื่อนด้วยหรือเปล่า”

“ไปค่ะ” น้ำตาลตอบรับทันที

เท่านั้นทุกคนเปิดประตูลงจากรถเดินตรงเข้าไปหากายที่เพิ่งจะคุยโทรศัพท์เสร็จ

 “เฮ้ย พวกมึงมาได้ไงเนี่ย” กายเอ่ยทักอย่างตกใจและมีสีหน้างงนิดๆ

 “พวกกูน่ะมากับพี่โช แล้วมึงล่ะมาทำไม” ผมตอบคำถามกายพร้อมกับถามคำถามกลับอย่างอยากรู้ไม่ต่างกัน

 “กูมาธุระกับพ่อ”
 

ผมเข้าไปยืนใกล้ๆ กายก่อนจะกระซิบข้างหูกาย “มาแบบนี้หมีรู้ยังหนอ” ผมเคยแอบได้ยินมันเรียกพี่ณัฐแบบนั้นตอนอยู่ด้วยกันสองคนเมื่อตอนที่เราอยู่บนดอยแถมพี่ณัฐยังเรียกมันว่าหมูอีกต่างหากขนลุกเป็นบ้า
 
“ไอ้อาร์ทมึงเงียบไปเลย แล้วอย่าให้กูรู้นะว่ามึงเอาไปบอกพี่ณัฐอ่ะ”

“ฮ่าๆ นู่นมึงไปขอร้องพี่โชนู่น พี่ณัฐเป็นเพื่อนเขาไม่ใช่กู”

 กายมองหน้าพี่โชอย่างเว้าวอน “พี่โชผมมาเป็นเพื่อนพ่อจริงๆ นะพี่ไม่มีอะไรอย่างอื่น”

พี่โชเลิกคิ้วทำเป็นไม่เข้าใจ “แล้วมึงจะมาบอกกูทำไม”

 “พี่โชผมขอร้อง” กายพูดเสียงจะร้องไห้

พี่โชยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “มึงร้องสิ กูรอฟังอยู่”

 “พี่โชจะแกล้งมันทำไม” ผมเผลอตะหวาดพี่โชออกไป

 “ครับพี่จะไม่แกล้งไอ้กายครับ” พี่โชรับคำด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมส่งสายตาวาววับจนน่าหมั่นไส้

“โชคะเข้าไปลาคุณพ่อในบ้านเถอะค่ะ” ผู้หญิงชื่อออยไม่พูดเปล่ายังยื่นมือมาคว้าแขนพี่โชไปจับดึงเพื่อให้เข้าไปข้างในบ้าน

 “งั้นตาลกับอาร์ทรอพี่อยู่ข้างนอกนี่กับกายก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปลาผู้ใหญ่ข้างในแป๊บเดียว” พี่โชบอกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน

 
พวกเราสามคนยืนคุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อรอพี่โช กายเล่าให้ฟังว่าพ่อของผู้หญิงที่ชื่อออยพยายามจับคู่ลูกสาวคนเล็กให้กับกาย โดยให้พ่อของกายพามาให้ทำความรู้จักกันแบบที่พ่อของกายก็ปฏิเสธไม่ได้

 ไม่นานนักพี่โชก็เดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงที่ชื่อออยและผู้หญิงอีกคนซึ่งน่าจะเป็นน้องสาวเธอ ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงมาที่กายทันที

“กายออกมานานแล้วนะคะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับเดินมาเกาะแขนกายอย่างออดอ้อน

พี่โชและเราทั้งสองคนมองตามการกระทำของผู้หญิงคนนั้นที่ทำกับกายอย่างไม่สบายใจนัก เพราะทุกคนก็พอจะรู้อยู่ว่ากายกับพี่ณัฐเป็นอะไรกัน ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้พูดหรือประกาศก็เถอะ

“พอดีเพื่อนกายมากับพี่โชน่ะ เลยอยู่คุยกับเพื่อน” กายพูดพร้อมกับใช้มือที่ว่างแกะมือของผู้หญิงคนนั้นออกจากแขน

 ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าบึ้งก่อนจะพูด “อินรออยู่นะ”

 “อินจะรอกายทำไม กายแค่มาเป็นเพื่อนพ่อคุยธุระแค่นั้น” กายพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ สายตาพยายามมองไปพี่โชอย่างอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ

 พี่โชเห็นสถานการณ์อึดอัดนั้นจึงพูดขึ้น “ไอ้กายแล้วมึงจะกลับกี่โมง จะไปทันนัดพวกกูไหมเนี่ย”

 กายทำหน้างงก่อนจะเอ่ย “นัด?”

 “นี่มึงลืมหรอวะเดี๋ยวพวกไอ้ณัฐไอ้คิวได้ฆ่ามึงตาย” พี่โชทำหน้าจริงจังอย่างสมบทบาท

 “อ๋อที่จะไปเตะบอลกันอ่ะนะพี่”

“เออป่านนี้พวกมันถึงสนามกันแล้วมั้ง หรือมึงจะไปพร้อมกูเลย”

 “ได้พี่ เดี๋ยวผมเข้าไปบอกพ่อก่อน” กายพูดเท่านั้นก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในตัวบ้านเพื่อจะไปบอกพ่อ ทำให้ผู้หญิงที่ชื่ออินหน้าเหวอไปทำอะไรไม่ถูกจนต้องเดินตามกายเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

 “โชคะไว้วันหลังเราไปเที่ยวกันอีกนะคะ” ผู้หญิงที่ชื่อออยพูดไปพร้อมกับกอดแขนพี่โชไปด้วย ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมหงุดหงิดรู้สึกไม่ชอบใจที่จะได้เห็น

“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวออย โชบอกแล้วว่าที่โชมารับออยไปทานข้าวเพราะโชรับปากกับป๊าไปแล้วโชแค่ทำตามคำพูด คงไม่มีครั้งต่อไปแล้วล่ะออย” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขน

 ผู้หญิงชื่อออยหน้าเสียทำอะไรไม่ถูก เธอคงจะรู้สึกเสียหน้าที่โดนปฏิเสธต่อหน้าผมสองคน เธอจึงไม่พูดอะไรต่อเดินสะบัดตัวเข้าไปในบ้านอย่างไม่พอใจทำให้น้ำตาลหลุดขำขึ้นมา

 
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า”

“ไอ้ตาล” ผมเรียกชื่อน้ำตาลเสียงดุ

 “ทำไม มึงดูนางสิทำท่าอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่โช”

 ผมมองค้อนน้ำตาลโดยไม่พูดอะไร

 “ออยไม่ได้เป็นเจ้าของพี่หรอก พี่มีเจ้าของอยู่แล้วนี่” พี่โชพูดพร้อมทำตาหวานส่งมาให้ผมทำให้ผมต้องหลบตา

 “แหมๆ หมั่นไส้คนมีความรัก หวานจนเลี่ยน” น้ำตาลแซว

 ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกายก็เดินออกมาจากบ้าน “ไปกันเถอะพวกมึง..พี่โช” กายพยักหน้าให้ผมสองคนและหันไปพยักหน้าให้พี่โชต่อ

 “รอดแล้วเหรอมึง” พี่โชว่าขำๆ

 “ใช่ดิพี่กว่าจะรอดออกมาได้” กายพูดด้วยท่าทางขยาด

“แล้วมึงจะให้กูไปส่งที่ไหน” พี่โชถาม

“ไปอยู่ห้องกูก่อนก็ได้ไอ้กาย กูเหงาอยู่คนเดียว” ผมพูดชวนกายอย่างดีใจเพราะผมไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวจริงๆ

 “ไม่ได้” พี่โชตอบแทบจะทันควัน

“เฮ้ย ผมชวนไอ้กายไปห้องผมเกี่ยวไรกับพี่ พี่ไม่มีสิทธิ์มาห้าม” ผมร้องโวยวาย

 “ก็ไม่ได้ไงห้ามอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสอง” พี่โชตอบกลับมา

 “ไอ้กายมันเป็นเพื่อน” ผมโวยวายไม่หยุด

 “นั่นแหละเพื่อนก็ไม่ได้ ‘หวง’”

 ผมชะงักกึกเมื่อได้ยินอย่างนั้นอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น ก่อนจะถามกายด้วยเสียงแผ่วเบา “มึงจะไปลงที่ไหน”

 กายมองหน้าผมสลับกับพี่โชแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะพูด “ไปส่งผมที่คอนโดพี่ณัฐก็ได้พี่”

 “มึงเป็นอะไรกับพี่ณัฐถึงเสนอหน้าไปคอนโดเขาน่ะ” น้ำตาลถามและทำท่าทางกวนบาทา

 “ไม่แจ๋นสักเรื่องจะได้ไหมครับเพื่อนตาล” กายว่าอย่างเสียดสี

 “ฮ่าๆ พอๆ ไม่ต้องเถียงกันตอนนี้รีบออกจากบ้านนี้ดีกว่า” พี่โชบอกเราทุกคน

 

เราทุกคนขึ้นรถโดยที่กายกับน้ำตาลรีบยัดตัวเองเข้าไปนั่งข้างหลังจึงเหลือแต่ที่นั่งข้างคนขับไว้ให้ผม ผมจึงต้องจำใจยัดตัวเองเข้าไปยังที่นั่ง

 พี่โชขับตรงไปยังคอนโดพี่ณัฐเพื่อไปส่งกายก่อนจึงขับไปส่งน้ำตาลและจึงวนไปส่งผมเป็นคนสุดท้าย

 “ขอบคุณที่มาส่ง” ผมพูดโดยที่มือกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ

“เดี๋ยวเบี้ยว”

 “อะไร”

 “คิดถึงนะ”

 “อะ..เออ” ผมตอบแบบตะกุกตะกัก ทั้งที่ผมรู้สึกร้อนที่หน้าอย่างบอกไม่ถูก ใจก็เต้นแรงจนเกินจะควบคุม

 “เจอกันเปิดเทอมอาทิตย์หน้าเลยนะ กูต้องไปช่วยป๊าทำงานที่บริษัทคงไม่มีเวลาแวะมาหา”

 “เออ”

 “เดี๋ยวโทรหานะเบี้ยว” พี่โชพูดจบผมก็ลงจากรถปิดประตูโดยไม่ตอบอะไร

 
 วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่สองผมก็ขี้เกียจตื่นนิดๆ เพราะได้นอนตื่นสายมาตั้งหลายวันก่อนจะเปิดเทอมถ้าไม่นับรวมกับที่ผมอยู่บ้านอ่านะ แล้วต้องกลับมาตื่นเช้าเพื่อไปให้ทันเข้าเรียนนี่ยิ่งคิดยิ่งขี้เกียจ

ผมรีบจัดการกับตัวเองทันทีที่มองเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ผมจึงใช้เวลาจัดการตัวเองไม่ถึงสิบนาทีผมก็รวบทุกอย่างที่จำเป็นลงกระเป๋าทีเดียวและรีบใส่รองเท้าลวกๆ จนกำลังจะล็อคประตูห้องเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

Rrrrrrr

ผมกดรับทันทีโดยที่ไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไรปลายสายก็ตะโกนออกมาดังลั่น

"ไอ้อาร์ทมึงอยู่ไหน มันจะเข้าเรียนแล้วนะโว้ย ทำไมมึงยังไม่ถึงอีก" น้ำตาลโวยวายรัวคำถามมาจนไม่เว้นช่องว่างให้ผมพูดอะไรได้เลย ผมจึงปล่อยให้โวยวายให้พอค่อยตอบกลับไปทีเดียว

"เออกูอยู่หอตื่นสาย แต่กูกำลังรีบไปเว้ย ถ้ามึงไม่โทรมาขัดจังหวะกูซะก่อนป่านนี้กูถึงคณะแล้ว" ผมเลยแกล้งทำเป็นหงุดหงิดโยนความผิดไปให้น้ำตาล

"อ่าวเหรอวะ งั้นแค่นี้แหละรีบมาค่ะมึง" น้ำตาลทำเสียงอ่อนลงเหมือนจะสำนึกผิดผมก็รู้สึกสะใจนิดหน่อยจึงบอกว่าแค่นี้ก่อนกดวาง

ผมรีบลงบันไดอย่างกึ่งวิ่งกึ่งเดินแต่ยังไม่ทันจะลงมาถึงชั้นหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง


Rrrrrrr

"อะไรอีกวะ กูบอกว่ากูกำลังรีบไปไง" ผมกดรับก็รัวใส่ปลายสายไปทันทีไม่ทันได้ดูด้วยซ้ำว่าเป็นใครโทรเข้ามา

"เออรีบลงมา กูรออยู่หน้าหอ" เสียงตอบกลับมาเป็นเสียงผู้ชายที่ผมคุ้นเคยทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่เพื่อออกมาดูชื่อ 'ชิบหายไอ้พี่โชนี่หว่า' ผมอุทานอยู่ในใจก่อนจะเอาโทรศัพท์กลับมาแนบหูอีกครั้ง

"อะ..เอ่อ พี่มารอผมทำไม"

"ก็มารับมึงไปเรียนไง"

"แต่.."

"มึงจะแต่อะไรนี่สายแล้วรีบลงมาเลย" พี่โชพูดแค่นั้นก็ตัดสายทิ้งทันที

ผมจึงรีบวิ่งลงมาจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าหอที่มีรถพี่โชจอดอยู่ ผมยืนหอบหายใจแรงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่พี่โชจะเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่ใบหน้าผมออกอย่างนุ่มนวล

"ไปขึ้นรถสายแล้ว"

ผมไม่พูดอะไรก็ดีเหมือนกันมีรถไปส่งถึงคณะเพราะตอนนี้ก็สายแล้วผมอยากรีบไปให้เร็วที่สุดจะมัวมาเถียงก็ไม่ใช่เวลาสักเท่าไหร่

รถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคณะผมด้วยความรีบผมจึงไม่ได้พูดอะไรกับพี่โชเปิดประตูลงจากรถทันที แต่ประตูยังไม่ทันปิดพี่โชกะรีบพูดออกมาซะก่อน

"เดี๋ยวกลางวันมากินข้าวด้วย" ผมไม่ได้ตอบรับอะไรได้แต่รีบปิดประตูและจ้ำไปขึ้นห้องเรียนให้เร็วที่สุด

เมื่อขึ้นมาถึงห้องเรียน "โหยหอบเป็นหมาเลยมึง" ทันทีที่ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยหอบก็มีเสียงแซวมาจากกาย

"สัสเหนื่อยชิบหาย"

"มึงลืมเหรอว่าวันนี้เปิดเทอม" กายถามพร้อมกับที่น้ำตาลหันหน้ามาหาผมเตรียมกำลังจะอ้าปากพูด

"มึงมัวไปทำอะไรอยู่วะ?"

"กูตื่นสาย" ผมตอบด้วยเสียงหอบๆ

"นักศึกษาคุยอะไรกัน" น้ำตาลยังไม่ทันได้พูดต่ออาจารย์ก็ว่าขึ้นมา เราจึงไม่ได้คุยกันอีกหันไปสนใจอาจารย์อย่างตั้งใจ


ทันทีที่อาจารย์ปล่อยทุกคนต่างรีบเก็บของแล้วรีบเดินตรงไปยังโรงอาหารกันอย่างหิวโซ พวกผมเดินเข้ามาถึงโรงอาหารก็เห็นว่าวันนี้โรงอาหารดูแออัดจนแทบไม่มีที่จะนั่งจนมีเสียงเรียกจากโต๊ะด้านในส่งออกมา

"ไอ้อาร์ททางนี้" พี่ณัฐและพี่อัครโบกมือหยอยๆ ให้ผมเข้าไปหา

ผมกับเพื่อนจึงเดินตรงเข้าไปเพื่อจะได้เอากระเป๋าไปวางก่อนไปซื้อข้าว "หวัดดีพี่ แล้วทำไมวันนี้มากินกันที่นี่ได้" ผมสวัสดีพี่ณัฐและพี่อัครก่อนจะเอ่ยถามออกไปโดยไม่คิดจะทักอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยเลยด้วยซ้ำ

"กูพาเพื่อนมาจีบเด็กคณะนี้ว่ะ" พี่อัครพูดขำๆ โดยส่งสายตาไปทางพี่โช

"งั้นผมไปซื้อข้าวก่อนนะพี่" ผมไม่คิดจะถามอะไรต่อเพราะรู้สึกว่าจะไม่พ้นหาเรื่องใส่ตัวเองแน่ๆ

หมับ!

พี่โชจับข้อมือผมไว้เบาๆ "กินอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้"

ผมชะงักนิดหน่อยและส่องสายตามองไปรอบๆ เพราะกลัวว่าคนจะมอง "ปล่อย มีตีนไปซื้อเองได้"

"อาร์ท" พี่โชเรียกชื่อผมเสียงอ่อยๆ และมองผมด้วยสายตาน่าสงสาร

"เออ เอาคะน้าหมูกรอบร้านสุดท้ายนู่น" เห็นแก่สายตาน่าสงสารของพี่มันผมยอมก็ได้ ดีผมจะได้ไม่ต้องไปต่อคิว

"น้ำละ?"

"ชามะนาว"

พี่โชพยักหน้าแล้วเดินตรงไปยังร้านที่ผมบอกเวลาไม่นานพี่โชก็เดินกลับมาพร้อมข้าวและน้ำ ทุกอย่างถูกวางลงตรงหน้าผมโดยที่มีพี่โชนั่งมองผมจากฝั่งตรงข้าม

ผมเริ่มลงมือกินไม่ได้สนใจใครก่อนเงยหน้าขึ้นมองคนตรงข้าม ก็พบว่าเขานั่งมองผมอยู่แล้ว "แล้วพี่ไม่กินข้าวหรือไง"

"แค่เห็นมึงกินก็อิ่มละ" พี่โชนั่งเท้าคางและส่งยิ้มมาให้ผม ทำอย่างกับทั้งโต๊ะมีแค่ผมกับพี่มันสองคนไปได้ เพื่อนๆ ของผมและของเขาก็อยู่ไม่รู้จักอายบ้างหรือไง

"โอ๊ย กุจะอ้วก" พี่อัครพูดขึ้นมาลอยๆ ทำให้คนทั้งโต๊ะพากันอมยิ้มส่งมาให้ผมกับพี่โช

"ยิ้มไรกัน" ผมถามอย่างหงุดหงิด

"เปล๊าา" ทุกคนประสานเสียงกันตอบอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ผมจึงไม่สนใจหันมากินข้าวต่อ "ไปซื้อข้าวมากินดิ" ผมบอกกับพี่โชเบาๆ

พี่โชอมยิ้ม "เป็นห่วง?"

"เลอะเทอะ ไม่กินก็เรื่องของพี่เถอะ"

เวลาพักกลางวันผ่านไปพวกเรากับกลุ่มพี่โชจึงต้องแยกย้ายกันกลับไปเรียนก่อนจะไปพี่โชก็เรียกผมไว้

"เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะ"

"มารับทำไม?"

"ก็อยากมารับ เป็นห่วงอยากพาไปส่งให้ถึงหอได้เห็นกับตาว่าปลอดภัย"

"ประสาท"

"เลิกแล้วจะรีบมารับนะ" พี่โชพูดก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหู "ตั้งใจเรียนนะที่รัก"

ผมยื่นอึ้งทำอะไรไม่ถูกหน้าก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา "เอ้อ ไปได้แล้วไป" ผมพูดเร็วๆ จนพี่โชหลุดขำออกมา



Chokun:

เลิกยัง?

Artเองจะใครละ:

กำลัง

Chokun:

รออยู่ลานจอดรถหน้าคณะนะ

*สติ๊กเกอร์

Artเองจะใครละ:

อืม



ผมลงมาก็ร่ำลากับเพื่อนนิดหน่อยก่อนจะเดินไปขึ้นรถพี่โชระหว่างทางเราไม่ได้คุยอะไรกันมีแค่เสียงเพลงคลอเบาๆ จากวิทยุเท่านั้น ไม่นานรถก็มาจอดลงที่หน้าหอ ผมกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่ไวกว่าคือมือพี่โชมาคว้าแขนผมไว้

"เดี๋ยว"

ผมมองหน้าพี่โชพร้อมเลิกคิ้วเป็นคำถาม

พี่โชกำมือข้างขวาที่ไม่ได้จับแขนผมแล้วยื่นมาตรงหน้า "อ่ะ"

"อะไร?"

"แบมือสิ"

ผมจึงแบมือรับของในมือพี่โช เมื่อพี่โชปลอยของในมือลงบนมือผมก็พบว่ามึนคือกุญแจ ผมทำหน้างงๆ ทำให้พี่โชรีบพูดออกมา

"กุญแจห้องกู"

"แล้วให้ผมทำไม"

"เผื่อมึงคิดถึงกูจะได้ไปหากูไง"

"ใครจะไปคิดถึงวะ" ผมพูดจบก็ทำท่าจะเอากุญแจคืนให้พี่โช

"เก็บไว้เถอะ..กูอยากให้มึง"

"อืม" ผมตอบแค่นั้นแล้วยัดกุญแจลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะเปิดประตูลงจากรถโดยไม่พูดอะไรอีก


หลังจากที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมพี่โชก็มารับมาส่งผมทุกวันถ้าไม่ติดงานอะไรพี่โชก็แวะมากินข้าวกลางวันด้วยเสมอ ถ้าเย็นวันไหนต้องเข้าชมรมก็จะมารับผมเข้าไปพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน พี่โชให้กุญแจห้องของเขาเก็บไว้ที่ผมชุดหนึ่งตอนแรกผมก็ไม่อยากรับไว้ แต่พี่โชก็บังคับให้ผมเก็บเอาไว้แล้วยังบอกว่าเผื่อผมคิดถึงเขาอยากไปตอนไหนก็ไปได้เลย ใครมันจะไปบ้าคิดถึงวะเล่นโผล่มาวันละสามเวลาขนาดนี้

 
จนสามวันมานี่พี่โชได้แต่ส่งข้อความมาบอกว่าช่วงนี้จะไม่ได้มารับเพราะไม่ว่างต้องทำงาน ตั้งแต่ได้รับข้อความนั้นพี่โชก็หายเงียบไปเลย

 “ไอ้ตาลมึงได้คุยกับพี่โชบ้างไหมวะ” ผมถามไอ้ตาลที่เพิ่งจะเดินมาผม

 “ไม่นี่ ทำไมหรอวะ” มันถามกลับมาแบบงง

“เปล่า” ผมตอบปัดไป

“ทำไมผัวหายหรือไงวะ” ไอ้กายทำเสียงกวนตีน

“ผัวบ้านมึงดิ...เออว่าแต่มึงเจอพี่โชบ้างป่าววะ” ผมถามไอ้กาย

“ไม่เลยวะ”

“แล้วพี่ณัฐละ”

“ก็เจอทุกวัน”

“เหรอ” ผมตอบรับเสียงอ่อย พี่โชเรียนเหมือนพี่ณัฐแต่พี่ณัฐกลับมีเวลามาเจอไอ้กายทุกวัน งั้นพี่โชก็คงไม่ได้ยุ่งเรื่องเรียนแน่ๆ

เรานั่งเล่นกันไป จนพี่ณัฐเดินที่โต๊ะพร้อมกับเอื้อมมือมาจับไหล่กาย “กลับกันเถอะ”

 กายหันไปพยักหน้ารับ ก่อนจะถามขึ้น “ช่วงนี้เรียนหนักหรืออาจารย์สั่งงานเยอะหรือเปล่า”

พี่ณัฐทำหน้างงๆ ก่อนจะตอบ “ไม่นะ ทำไมหรอ”

 กายชี้มือมาที่ผมแล้วพูด “ก็เห็นไอ้นี่มันถามหาพี่โชก็นึกว่างานยุ่ง”

 พี่ณัฐเลิกคิ้วมองหน้าผมอย่างสงสัย

 “ก็นั่นแหละพี่ แค่เห็นพี่โชหายเงียบไปหลายวัน ไม่มีอะไรหรอก” ผมตอบปัดๆ

 “นั่นสิกูก็อยากรู้ว่ามันไปไหน มันหายหัวโดดเรียนมาสามวันแล้วเนี่ย โทรไปก็ไม่รับไปเคาะห้องก็ไม่มีคนเปิด กูก็คิดว่ามึงจะรู้” พี่ณัฐได้โอกาสร่ายยาวออกมา

 “พี่โชเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมทำหน้าเลิกลัก

“กูก็ไม่รู้กะว่าถ้าครบอาทิตย์มันยังไม่มากูจะไปบุกบ้านมันเหมือนกัน”

 เมื่อไม่ได้คำตอบว่าคนที่เงียบไปหายไปไหนผมก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา จนนึกได้ว่าผมมีกุญแจห้องเขาอยู่นี่นา คิดได้เท่านั้นผมก็ลุกพรวดขึ้นมา

 “ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่ณัฐหวัดดี” ผมยกมือไหว้พี่ณัฐก่อนหันมาบอกเพื่อนๆ “กูไปก่อนนะพวกมึง”

 ใช้เวลาไม่นานผมก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์มาลงที่หน้าหอพักพี่โชผมไม่รีรอรีบขึ้นไปยังห้องพี่โช ผมลองเคาะประตูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจไขประตูเข้าไป

 สภาพที่ผมเห็นคือห้องรกสกปรกไปหมดมีแต่เศษไม้เศษกระดาษน่าจะมาจากขยะที่ทำโมเดลของเขานั่นแหละ ผมเดินสำรวจดูก็พบว่าพี่โชนอนหลับขดตัวงออยู่บนพื้นหน้าทีวี

 ผมตกใจกับสภาพของพี่โชจึงรีบทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ แล้วใช้มือขึ้นทาบลงบนหน้าผาก ปรากฏว่าตัวพี่โชร้อนจี๋ ผมตกใจรีบเขย่าตัวเรียกพี่โชแต่ก็ไม่มีผลเพราะพี่โชเหมือนจะหลับลึกอาจจะเพราะพิษไข้ด้วย ผมจึงเดินเข้าไปในห้องหาผ้ามาชุบน้ำเพื่อเช็ดตัวให้ไข้ลดลง

เมื่อเช็ดตัวเสร็จผมก็จัดท่าให้พี่โชนอนดีๆ ก่อนที่ผมจะล้มตัวนอนข้างๆ และกอดพี่โชไว้จากด้านหลัง ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่โชขยับตัวหันหน้ามาหาผม

 “เบี้ยว” พี่โชเรียกผมด้วยเสียงที่แหบพร่า

“หือ” ผมตอบกลับไปด้วยเสียงงัวเงีย

 “มาได้ยังไง”

 “วิน” ผมยักคิ้ว

 “กวนจังนะ” พี่โชพูดขำๆ พร้อมยกมือมาจับแก้มผม

 “แล้วไม่สบายทำไมถึงไม่บอก” ผมพูดเสียงเข้มขึ้น

 “ก็ไม่อยากให้ห่วง”

 “บ้ารึไง แล้วทำแบบนี้ไม่คิดหรือไงว่ามันน่าห่วงมากกว่าอ่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ

“ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะป่วย กะแค่จะเร่งทำงานให้เสร็จจะได้มีเวลาไปอยู่ด้วย”

เมื่อพี่โชพูดถึงเรื่องงานขึ้นมาก็ทำให้ผมดีดตัวขึ้นมานั่ง ก่อนพี่โชจะลุกขึ้นมานั่งตาม

“เออแล้วไอ้ที่บอกทำงานยุ่งเนี่ยมันงานอะไร”

“ก็งานออกแบบนี่ไง” พี่โชชี้ไปที่โมเดล

“ผมถามพี่ณัฐ เห็นบอกว่าไม่มีงานอะไรเรียนก็ไม่ได้ยุ่งแถมพี่ยังไม่ไปเรียนอีกต่างหาก”

“จะไปเรียนได้ยังไงล่ะ ก็งานมันไม่เสร็จนี่นาอีกสองวันก็ต้องส่งเข้าประกวดแล้ว”

 “ฮ่ะ?”

“อือ พี่ชายกูสั่งให้ส่งงานเข้าประกวด”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมมาตรงๆ วะ” ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์

 “คิดถึงกูเหรอ” พี่โชถามด้วยน้ำเสียงยียวน

 ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองหน้าพี่โชนิ่งๆ

 พี่โชขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วดึงผมเข้าไปกอด “ใจอ่อนให้กูบ้างแล้วหรือยัง”

 “………….” ผมไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงแค่กอดพี่โชตอบไปเท่านั้น

 พี่โชคลายอ้อมกอดออกแล้วใช้สองมือจับไหล่ผมไว้ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้ามาจนใบหน้าของพี่โชใกล้กับใบหน้าผมจนลมหายใจอุ่นสัมผัสเข้าที่จมูก

 “อื้อ เดี๋ยวติดไข้”

 “ไม่ติดหรอกน่า” พี่โชพูดจบก็ประกบริมฝีปากเข้ามาที่ริมฝีปากผม

 ไม่รู้อะไรทำให้ผมเปิดริมฝีปากรับสัมผัสจากลิ้นของพี่โชที่เข้ามาตวัดเกี่ยวอยู่ภายในโพรงปาก เราต่างดูดดื่มกันอย่างเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไปด้วยความโหยหา

 

แกร๊กก!

ประตูเปิดออกพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ตะโกนเข้ามา

 “โชกุนฉันมาแล้ว อาหารและยาพร้อมค่ะ” เธอตะโกนออกมาก่อนมามาหยุดสายตาที่ผมกับพี่โชซึ่งกำลังจูบกันอยู่ “ว๊ายยย!!”

 ผมและพี่โชตกใจจึงผละออกจากกัน

 “น่ะ...นี่มันอะไรกันน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดตะกุกตะกัก

ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นชัดๆ ใจผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนอะไรมาทิ่มแทง มันเจ็บอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าที่พี่โชหายไปสามวันนี้ พี่โชอยู่กับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า แค่คิดใจก็วูบโหวงแบบบอกไม่ถูก ผมเหมือนกำลังจะร้องไห้

“อ่ะ..เอ่อ” ผมพูดอะไรไม่ออกพร้อมยกมือเกาหัว “ง่ะ...งั้น..ผ..ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า”

 พี่โชดึงมือผมไว้ไม่ให้ลุกแล้วพูด “ไม่ต้องกลับ”

“โชนี่ใคร” ผู้หญิงคนนั้นถามเสียงเข้ม

 “แฟน ชื่ออาร์ท” พี่โชตอบเสียงเรียบทำให้ผมหันมองตาพี่โชอย่างตกใจ

 “อ๋อ นี่เองหรอคนที่ชื่ออาร์ทน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาอย่างคลายสงสัย พร้อมแนะนำตัวเองต่อ “พี่ชื่อซาโยนะ เป็นพี่สาวมัน”

“พ..พี่สาว?” ผมเอียงคอมองพี่โช

พี่โชพยักหน้าพร้อมกับพูดต่อ “อืม พี่สาวกูเอง มึงคิดว่าเป็นอะไร”

“กะ..ก็” ผมพูดไม่ออก

 “หึงกู?” พี่โชไม่พูดเปล่ายังดึงผมเข้าไปกอด

 “นี่น้อยๆ หน่อย ฉันอยู่ด้วยนะยะ” พี่ซาโยแซวน้องชาย

 เมื่อผมตั้งสติได้ผมจึงยกมือไหว้พร้อมกับพูด “สวัสดีครับพี่ซาโย”

 “หวัดดีจ้า ตามสบายนะพี่แค่แวะเอาอาหารกับยามาให้มันแต่มีคนดูแลแล้วแบบนี้เดี๋ยวก็จะกลับแล้วล่ะ”

“รีบไปไหน” พี่โชถามพี่สาวตัวเอง

“โอ๊ย ฉันก็มีธุระของฉันนะแกมีคนดูฉันก็ไม่ห่วงแล้ว”

“ซาโย...”

“หือ?”

“อย่าเพิ่งบอกป๊ากับหม่าม้านะ” พี่โชพูดเสียอ่อยๆ

 “รู้แล้วน่า แกพร้อมเมื่อไหร่แกก็จัดการเองเถอะฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก” พี่ซาโยพูดเรียบๆ

 ผมได้แต่มองหน้าพี่โชอย่างลำบากใจ ผมไม่รู้ว่าเรื่องของผมกับพี่โชที่บ้านของเขาจะรับได้ไหม และดูเหมือนพี่ซาโยจะมองออกว่าผมคิดอะไร

“ไม่ต้องคิดมาหรอกน่าน้องสะใภ้ เดี๋ยวไอ้โชมันต้องหาวิธีได้อยู่แล้ว”

คำเรียกของพี่ซาโยทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาจนแดงไปหมด

 “เป็นอะไรหน้าแดง” พี่โชแกล้งแซวผมจนผมทุบที่ไหล่ไปแรงๆ

 จากนั้นพี่ซาโยก็อยู่คุยต่อกับเราสองคนอีกพักหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับเพราะจะไปทำธุระ พี่ซาโยแก่ว่าพี่โชสองปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่แต่คนละมหาวิทยาลัยกับเราสองคน จึงไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักเพราะปีสี่กำลังจะจบงานจะเยอะและโปรเจ็คจบอีก

เมื่อพี่ซาโยออกไปผมก็จัดการนำอาหารที่พี่ซาโยซื้อมาเทใส่จานให้พี่โชกินเพื่อที่จะได้กินยา

 “กินข้าวจะได้กินยา”

“กินด้วยกันดิ” พี่โชพูดพร้อมมองไปที่จาน

 “ไม่อะพี่กินเหอะผมกินมาแล้วก่อนจะมา” ผมโกหกออกไปเพราะผมอยากให้พี่โชกินเยอะๆ เพราะกำลังป่วยต้องการพลังงาน

ระหว่างที่พี่โชกำลังกินข้าวอยู่ก็พูดขึ้น “เบี้ยว”

“หือ?”

“นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ” พี่โชพูดออกมาหน้าตาเฉยแล้วตัวข้าวใส่ปากต่อ นี่พี่มันกำลังขอผมเป็นแฟนอยู่นะ

 “ไม่ใช่ ยังไม่ได้เป็นแฟน”

 “เฮ้ยได้ไงอ่ะ”

“ก็ผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ไง”

“แต่กูบอกซาโยไปแล้ว”

“นั่นมันก็เรื่องของพี่ไม่เกี่ยวกับผม”

“เบี้ยวแม่งงงง” พี่โชทำหน้าบูดหน้าบึ้ง

ผมขำกับท่าทางของพี่โชก่อนจะดุออกไป “กินเร็วๆ จะได้กินยา”

 พี่โชไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่สนใจผมอีก

"พี่โช" ผมเรียกพี่โชขึ้นเบาๆ

พีโชเลิกคิ้วเป็นคำถาม "หือ?"

"ถามไรหน่อยดิ" ผมพูดจบพี่โชก็พยักหน้าเป็นคำตอบว่าให้ถามได้  “พ่อแม่พี่นี่ชอบดูอิคคิวซังหรือไงถึงตั้งชื่อพี่กับพี่สาวอย่างนี้”

“เออใช่ หม่าม้ากูชอบการ์ตูนเรื่องนี้ พี่คนโตกูชื่ออิคคิว ยังดีนะที่หม่าม้ากูยังปราณีไม่ตั้งชื่อกูเป็นเจ้าอาวาสวัดอังคะคุจิ” พี่โชเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฮ่าๆ ยังดีที่แม่พี่ยังปราณีเนอะ” ผมขำกับเรื่องที่พี่โชเล่า ถ้าแม่พี่โชตั้งชื่อเป็นเจ้าอาวาสวัดขึ้นมาคงจะตลกน่าดู

“แหมเบี้ยว ได้ทีขำใหญ่นะ” พี่โชพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว

ผมปัดมือพี่โชออกแล้วพูดเสียงเข้มๆ ออกไป "เออกินๆ ไปเลย"

วันนี้ผมจึงไม่ได้กลับห้องเพราะอยู่ช่วยพี่โชแล้วคอยหาข้าวหายาให้พี่โชกินและช่วยพี่โชตัดนู่นตัดนี่เพราะงานของพี่โชต้องเสร็จให้ทันที่จะส่งเข้าประกวด

 ========================

TBC.


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กาย มีดราม่าจากพ่อแน่
เพราะพ่อกาย เชียร์อิน

ส่วยพี่โช ก็เหมือนกายนะ
พ่อพี่โช เชียร์ออย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :haun5:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น่ารักๆ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เจ้าอาวาสวัดอังคะคุจิ55555555555555555555555
ตระกูลออ จ้องจับ2หนุ่มนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
« ตอบ #229 เมื่อ: 09-08-2017 15:25:03 »





ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักมาก,,,

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หอบแฮ่กกก. ตามอ่านจนทัน. เพิ่งเข้ามาอ่าน
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 23

หลังจากที่พี่โชส่งงานเข้าประกวดเรียบร้อยและกลับมาเรียนปกติ พี่โชคอยรับส่งผมเหมือนเดิมทุกวันเช่นเดียวกันกับวันนี้ที่พี่โชเลิกเรียนก่อนจึงมานั่งรอผมใต้คณะ

"หมั่นไส้จริงๆ" น้ำตาลพูดกระแนะกระแหน

“หมั่นไส้ใครตาล” พี่โชเลิกคิ้ว

“หมั่นไส้คนที่เขามีคู่มารอรับทุกวันน่ะพี่โช” น้ำตาลลอยหน้าลอยตาตอบพี่โช

“เงียบปากไปเลยมึงอ่ะ” ผมพูดพร้อมกับใช้มือผลักหัวน้ำตาลเบาๆ

“มึงแม่งพอเถียงไม่ได้ก็ใช้ความรุนแรงตลอด” น้ำตาลบ่นอุบอิบก่อนจะหันไปฟ้องพี่โช “พี่โชดูไอ้อาร์ทมันแกล้งตาลดิ่”

“ฮ่าๆ โทษทีตาลพี่ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวแฟนโกรธ” พูดจบพี่โชยักคิ้วให้ผม

“ใครแฟนพี่พูดให้ดีๆ” ผมชี้หน้าพี่โชคาดโทษ

“เล่นอะไรกันอยู่เหรอ” ฟ้าเดินมาจากด้านหลังมาเกาะแขนน้ำตาล

“ฟ้ามาแล้วเหรอ ไปหาอะไรกินกันดีกว่าตาลหิวมากเลย” น้ำตาลหันไปสนใจพูดกับฟ้าพร้อมยกมือลูบท้องตัวเองปอยๆ

“แหมพอฟ้ามาก็ไม่สนใจกูเลยนะ” ผมแกล้งแซวน้ำตาล

“บางทีมึงก็พูดมากนะไอ้อาร์ท” น้ำตาลทำเป็นเสียงดังกลบเกลื่อนทั้งที่หน้าของน้ำตาลกำลังมีสีแดงระเรื่อขึ้นมา

“มึงร้อนหรอตาลหน้ามึงดูแดงๆ” ได้ทีผมก็เอาคืนน้ำตาลมันบ้างเลยแล้วกัน

“แดงเดิงอะไร มึงจะไปไหนก็ไปป่ะ กูหิว” น้ำตาลพูดจบก็หันไปหาฟ้า “ฟ้าไปกันเถอะ”

ฟ้าพยักหน้ารับน้ำตาลก่อนจะหันมาล่ำลา “ไปก่อนนะอาร์ทกายพี่โช” ก่อนไปฟ้าจึงโบกมือให้พวกเรา

“ไอ้ตาลกับฟ้านี่ยังไงวะ” กายพูดขึ้นมา

“ไม่รู้ว่ะ ไอ้ตาลมันคงไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ” ผมพูดไปเพราะรู้จักเพื่อนคนนี้ของผมดี

“เหมือนมึงอ่ะนะ” ไอ้กายย้อนผมทันควัน

ผมไม่ตอบได้แต่ยกนิ้วกลางให้มันก่อนจะหันไปหาพี่โชที่นั่งอยู่อีกฝั่ง “ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้ว”

“หือ?” พี่โชเอียงหน้าถามอย่างแปลกใจ

ผมไม่อยากอยู่เถียงกับกายเพราะเถียงไปก็มีแต่เข้าตัวจึงหาข้ออ้างออกไปจากตรงนี้ดีกว่า “ก็บอกว่าหิวไง”

“พอเถียงไม่ได้ก็ชิ่งเลยนะมึง ฮ่าๆ” กายทำเสียงล้อเลียน

“มึงนั่งเงียบๆ รอเมียมารับไปนะ ไม่ต้องพูดมาก กูไปละ” ผมแขวะกายก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนและโบกมือให้กาย

จากนั้นพี่โชก็เดินตามผมไปยังลานจอดรถ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถพี่โชก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน

“วันนี้อยากกินอะไร....หือเบี้ยว”

ผมมองหน้าพี่โชนิ่งๆ ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วยกมือขึ้นมาผลักเข้าไปที่หน้าผากของพี่โชเบาๆ

“จะพาไปกินอะไรก็พาไปเถอะน่า ถามมาก” พูดจบผมก็หลุบตาลงต่ำเพื่อหนีสายตาคนข้างๆ

“เขินเหรอ” พี่โชทำเสียงล้อๆ

“พูดมากขับรถไปป่ะ”

“หึหึ” พี่โชไหวไหล่ก่อนจะกลับไปตั้งใจขับรถ

“เออพี่โชแล้วทำไมวันนี้พี่ณัฐไม่มาพร้อมพี่วะ” ผมลืมว่าจะถามตั้งแต่ที่คณะแล้วปกติต้องมาพร้อมกันตลอดนี่นา

“มันเข้าไปทำอะไรที่ชมรมมันไม่รู้”

“อ่อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ

เราสองคนมาจบกันที่ร้านอาหารเปิดใหม่แถวมหาลัย พี่โชคงจะพาผมมาลองอาหารร้านใหม่ ผมนั่งคุยกับพี่โชระหว่างรออาหารก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้น

“อาร์ท อาร์ทใช่ไหม”

ผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นเสียงของใครจึงหันไปมองอย่างเต็มตา “อ้าวแพร”

“อาร์ทจริงๆ ด้วย แหมเดี๋ยวนี้หล่อขึ้นนะเนี่ย”

“แพรก็เหมือนกันสวยจนอาร์ทจำแทบไม่ได้”

“ปากหวานเหมือนเดิม”

“เคยชิมแล้วนี่เนอะ” ผมพูดแล้วแกล้วส่งตาหวานเยิ้มให้แพรตามนิสัยที่ขี้เล่นของผม

“อาร์ทอ่ะ” แพรทำท่าเขินก่อนจะใช้มือตีลงมาที่แขนผมเบาๆ

“แล้วแพรมาทำอะไรแถวมหา’ลัยอาร์ทเนี่ย”

“อ๋อ แพรมาหาเพื่อนน่ะ”

“เพื่อน?”

“ปิ่นไง”

ผมทำท่านึกก่อนจะนึกออกแล้วร้องออกมา “อ๋อ” ปิ่นเป็นเพื่อนในกลุ่มแพรแต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทที่สุดผมเลยต้องนึกนานหน่อย

“แล้วอาร์ทมากับใครหรอ” แพรถามผมก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหู “หล่อเชียว”

“เอ้อ ลืมแนะนำเลยแพรนี่พี่โช เป็น...” ผมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “พี่ที่ชมรมน่ะ”

“สวัสดีค่ะ แพรนะคะ” แพรยิ้มหวาน

พี่โชพยักหน้าแล้วยิ้มตอบ

“พี่โชส่วนนี่แพรเป็น...” ผมพูดยังไม่ทันจบแพรก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“เป็นแฟนเก่าอาร์ทค่ะ” แพรพูดจบก็ส่งยิ้มหวานไปให้พี่โช

พี่โชนิ่งไปสักครู่ก่อนจะยิ้มแล้วพูด “ไอ้อาร์ทเคยมีแฟนสวยขนาดนี้ด้วยเหรอ”

“แหมพี่โชก็พูดเกินไปค่ะ” แพรทำท่าเขินอาย

“ผมก็หล่อเถอะแปลกตรงไหนจะมีแฟนสวย”

“หึ” พี่โชตอบแค่นั้นก็เงียบไป

“แพรนั่งด้วยกันก่อนสิ” ผมเพิ่งคิดไว้ว่าควรจะชวนแพรนั่งด้วยเพราะปล่อยให้ยืนคุยกันอยู่ตั้งนาน

เท่านั้นแพรก็นั่งลงข้างผม พร้อมกับพูดต่อ “แล้วตาลไปไหนละปกติเห็นตัวติดกันเป็นตังเม”

“อ่อมันไปกับแฟนน่ะ”

“ฮ่ะ? ตาลมีแฟน” แพรทำท่าตกใจ

“มันแปลกตรงไหนแพรไอ้ตาลมีแฟนเนี่ย”

ที่แพรตกใจก็คงไม่แปลกอะไรเพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมกับแพรเลิกกันก็คงเป็นเพราะผมที่สนิทกับตาลเกินไปจนตอนนั้นแพรเองก็ไม่เข้าใจ ยื่นคำขาดให้ผมเลือกระหว่างแพรและตาล ซึ่งผมเองก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระเพราะไม่เห็นจำเป็นต้องเลือกเลยระหว่างเพื่อนกับแฟน จึงทำให้เราสองคนไม่เข้าใจกันและไม่คิดจะหันหน้ามาคุยกันประกอบกับเป็นช่วงที่ปิดเทอมจะเข้ามหา’ลัยพอดีจึงทำให้เราห่างกันจนแพรเป็นคนขอเลิกไปเองแต่เราก็จบกันด้วยดีและยังสามรถเป็นเพื่อนกันได้

“ก็แพรนึกว่าตาลกับอาร์ทจะติดกันจนแยกไปมีแฟนกันไม่ได้นี่นา” แพรทำหน้าเศร้าๆ

“แพรอย่าพูดเรื่องนี้เลย เออว่าแต่แพรเป็นไงบ้างสบายดีไหม” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มันจะลงลึกไปมากกว่านี้

“ก็ดี อาร์ทล่ะ”

“สบายดีมาก” พูดจบผมก็ฉีกยิ้มให้แพรแบบแก้มแทบปริ

“แล้วยังใช้เบอร์เดิมอยู่หรือเปล่า”

“ก็เบอร์เดิมนะแพรคงจะลบเบอร์อาร์ททิ้งไปแล้วสินะ” ผมแสร้งทำพูดตัดพ้อ

“ไม่ได้ลบทิ้งซะหน่อย เครื่องเก่าหายนี่ก็ไม่ค่อยมีเบอร์ใครเลย” พูดจบแพรก็ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้ “เมมเบอร์ให้หน่อยเผื่อมาครั้งหน้าได้นัดกันกินข้าวนะ”

ผมพยักหน้าแล้วรับโทรศัพท์มาเพื่อบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของผมให้แพร ผมจึงแอดไลน์แอดเฟสบุ๊คไปด้วยเลยจะได้ติดต่อกันง่าย เพราะตอนนี้ผมรู้สึกกับแพรเป็นเหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่งเท่านั้น มันก็คงไม่ผิดอะไรถ้าจะมีข้อมูลการติดต่อกัน

เมื่อบันทึกเบอร์เสร็จผมส่งโทรศัพท์คืนแพรก็นั่งคุยกันต่ออีกสักครู่จนลืมไปว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยเมื่อผมนึกได้จึงรีบหันหน้าไปหาคนที่นั่งเงียบอยู่

พี่โชมองผมด้วยสายตาที่นิ่งสนิทซึ่งทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้พี่โชอย่างเสียไม่ได้

“อาร์ทงั้นแพรไปก่อนนะปิ่นไลน์มาแล้ว” แพรพูดพลางยกโทรศัพท์ขึ้นให้ดูหน้าจอ

“อืม บายแพร”

“ไว้เจอกันนะอาร์ท” แพรบอกผมก่อนหันไปหาพี่โช “ไปก่อนนะคะพี่โช” พี่โชจึงพยักหน้าและส่งยิ้มให้แพร

เมื่อแพรไปบรรยากาศในโต๊ะก็เงียบอึมครึมขึ้นมา ทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรหรือแม้กระทั่งจะสบตาคนที่นั่งตรงข้าม ผมก้มหน้าก้มตากิน จนพี่โชเรียกเก็บเงิน ผมจึงเดินตามพี่โชไปขึ้นรถอย่างเงียบๆ

บรรยากาศในรถช่างแสนเงียบจนรู้สึกอึดอัดทำให้ผมโพล่งทำลายความเงียบขึ้นมา “เป็นอะไร”

“เป็นพี่ในชมรม” พี่โชตอบเสียงห้วนๆ โดยที่ไม่มองหน้าผม

เมื่อผมเข้าใจสาเหตุที่ทำให้คนข้างๆ เงียบไป มันทำให้ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ “นี่งอนเรื่องนี้เหรอ”

“……….” พี่โชเงียบสนใจแต่ถนนด้านหน้าไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น

“ก็จริงนี่พี่เป็นพี่ในชมรม” ผมพูดเสียงเรียบ

พี่โชไม่ตอบแต่สีหน้าบ่งบอกได้ว่ากำลังหงุดหงิดเหมือนกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมา

ผมเห็นแบบนั้นยิ่งอยากจะแกล้งไปกันใหญ่จึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วถาม “แล้วจะให้บอกแพรว่าพี่เป็นอะไรกับผม”

“……….” พี่โชยังนิ่งแถมสีหน้ายังไม่มีทีท่าว่าดีขึ้นอีก

“จะให้บอกว่าเป็นแฟนเหรอ” ผมพูดด้วยท่าทียียวน

พี่โชไม่ตอบอีกตามเคยได้แต่ปรายตามองผมชั่วครู่แล้วหันไปสนใจถนนด้านหน้าตามเดิม เวลาไอ้พี่โชมันงอนนี่ก็เหมือนสาวน้อยจริงๆ เลยตลกชะมัด

ผมจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่โชอีกครั้งก่อนจะพูด “เข้าใจหน่อยสิอยู่ๆ จะให้ไปบอกแฟนเก่าที่เป็นผู้หญิงว่ามีแฟนใหม่เป็นผู้ชายนี่นะ”

อยู่ๆ พี่โชก็หันขวับมามองผมตาโตก่อนจะพูดตะกุกตะกัก “อะ..อะไรนะ คะ..ใครเป็นแฟนใหม่”

“อ่าว ก็จะใครเล่า” ผมกระแทกตัวเองลงเบาะพร้อมกับกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์

“เบี้ยวครับ ใครเป็นแฟนเบี้ยวครับ” พี่โชพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ก็จะใครเล่า แม่งก็อยู่ด้วยอยู่คนเดียว” ผมกอดอกงึมงำแต่ก็พอที่พี่โชจะได้ยิน

“นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ะป่ะ " พี่โชถามด้วยเสียงตื่นเต้น

ผมไม่หันมองหน้าพี่โชแต่ก็พยักหน้าเบาๆ

เท่านั้นพี่โชก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วชะลอความเร็วจอดลงข้างทาง ผมจึงหันไปมองหน้าพี่โชและเอียงคอมถามอย่างงงๆ

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรพี่โชก็ดึงผมเข้าไปกอด จรดริมฝีปากลงมาที่หน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะไล่ริมฝีปากลงมายังจมูกและเลื่อนลงมาหยุดที่ริมฝีปากของผม

พี่โชทำแค่เพียงประกบริมฝีปากไว้อย่างนั้นโดยไม่รุกล้ำอะไร ผมรู้สึกว่าผมกำลังหน้าร้อนอย่างบอกไม่ถูกและทำอะไรไม่ถูกก่อนจะหลุดพูดออกมา

"ทะ...ทำอะไร"

"อยากกอด"

พี่โชดึงมือผมไปทาบไว้ที่อกแล้วพูดต่อ "รู้ไหมว่าใจกูเต้นแรงแค่ไหนที่มึงยอมรับว่าเราเป็นแฟนกัน มึงยอมให้กูเป็นแฟนมึงแล้ว" พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ในใจผมเองก็เต้นแรงไม่แพ้พี่โชหรอกนะ

พี่โชจับมือผมไปแนบแก้มแล้วบอก "กูรักมึงนะเบี้ยว"

ผมอายจนหน้าแดงพยายามหลบหน้าไปยอมสบตากับพี่โช

พี่โชจึงพูดขึ้นอีก "กูรักมึง แล้วมึงรักกูไหม"

ผมยิ่งอายกว่าเดิมก้มหน้าลงต่ำและพึมพำ "อือ"

พี่โชจับหน้าผมหันมาหาแล้วถาม "ว่าไงนะ"

"อือ" ผมตอบแบบเขินๆ

"อืออะไร"

"ก็รักไง" ผมพึมพำเบาๆ

พี่โชขยับหน้ามาใกล้แกล้งผมอีก "รักใคร?"

ผมข่มความอายและตะโกนขึ้น "รักพี่ไงเล่า ผมรักพี่ ชัดไหม" พอผมตะโกนเสร็จก็หันหน้าหนีออกหน้าต่าง

"ก็แค่นี้" พี่โชยิ้มอย่างพอใจจึงยอมปล่อยผมแล้วออกรถ

พี่โชได้แต่ยิ้มจนแก้มปริและหันไปขับรถอย่างตั้งใจ แต่ผ่านไปสักพักผมก็รู้สึกเอะใจว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางกลับหอ ผมจึงโวยวายขึ้นมา

“พี่โชนี่มันไม่ใช่ทางกลับหอผม”

“แล้วใครว่าจะไปส่งที่หอ” พี่โชพูดโดยไม่หันมามอง

ผมทำได้แค่อ้าปากค้างในคำตอบเมื่อรู้ว่าทางที่พี่โชกำลังขับไปอยู่นั้นคือทางกลับหอของพี่โช ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปนอนค้าง มีอะไรกันก็มีกันมาแล้ว แต่นี่มันเพิ่งจะเปลี่ยนสถานะไงจะไม่ให้ผมเขินผมอายเลยหรือไงเล่า

“คืนนี้ไปนอนกับแฟนแล้วกันเนอะ” พี่โชพูดออกมาหน้าตาเฉย

“ไม่เอาผมจะกลับหอ” ผมโวยวายไม่ยอม

“ไม่เอาเหมือนกันอยากนอนกอดแฟน” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุขแต่ตาก็ยังคงมองตรงอยู่ที่ถนน

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากจะมองค้อนส่งไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ก่อนจะชักสีหน้าให้รู้ว่าไม่สบอารมณ์แล้วหันออกไปมองนอกหน้าต่างไม่พูดไม่จาอีก

ไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดในที่จอดรถของหอพี่โช

พี่โชลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ผม “เบี้ยวลง”

ผมไม่ตอบอะไรแต่นั่งนิ่งไม่สนใจคนที่กำลังยืนพูดอยู่

“จะลงเองหรือจะให้อุ้มครับแฟน”

ผมคิดว่ามันก็คงจะเป็นแค่คำขู่ของพี่โชเท่านั้น จึงทำเป็นไม่สนใจและไม่ยอมตอบอะไร

พี่โชก็ไม่ถามซ้ำอีกแต่โน้มตัวลงมาช้อนตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดจนผมเหวอรีบคว้าคอพี่โชไว้อย่างตกใจ ทำให้พี่โชยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะใช้ขาดันประตูรถให้ปิดลงและใช้รีโมทกดล็อคอย่างทุลักทุเล

พี่โชยังคงอุ้มผมไว้แบบนั้นจนมาถึงหน้าลิฟท์

“ปล่อยเดี๋ยวเดินเอง” ผมโวยวายเพราะกลัวใครจะมาเห็นสภาพที่น่าเกลียดแบบนี้

“ไม่เอาไม่ปล่อย แบบนี้ดีแล้วเหมือนอุ้มเจ้าสาวเข้าหอ”

ผมได้ยินแบบนั้นจึงโวยวายจนลิฟท์มาพี่โชก็อุ้มผมเข้าไปข้างใน ผมทำได้แค่มองค้อนคนอุ้มผ่านกระจนสะท้อนในลิฟท์เท่านั้น มันทั้งเขินทั้งอายทั้งโมโหอารมณ์มันผสมปนเปกันไปหมด

เมื่อออกจากลิฟท์พี่โชเดินตรงมายังหน้าห้องและเพราะมือพี่โชไม่ว่างจึงได้พูดขึ้น

“เบี้ยวหยิบกุญแจห้องในกระเป๋าให้หน่อยครับ” พี่โชพูดด้วยเสียงออดอ้อน

ผมได้ยินแต่ผมทำเฉยไม่สนใจเสียงของพี่โช

“ถ้าไม่หยิบ งั้นก็ตรงนี้เลยแล้วกัน”

พี่โชพูดจบก็ก้มหน้าลงมาหาผมเพื่อประกบจูบลงมาที่ปาก ผมตกใจไม่คิดว่าพี่โชจะเล่นแบบนี้จึงร้องห้ามเสียงหลงก่อนจะปล่อยมือออกจากคอพี่โชข้างหนึ่งเพื่อล้วงกระเป๋าหากุญแจห้อง

เมื่อได้กุญแจแล้วผมก็เป็นคนไขกุญแจเข้าไปพอประตูเปิดออกพี่โชก็เดินพรวดเข้าไปข้างในห้องโดยใช้เท้าถีบประตูให้ปิดลงจากนั้นพี่โชก็เดินตรงดิ่งไปยังห้องนอนที่ไม่ได้ปิดประตูไว้

พี่โชจับผมวางลงบนเตียงและนั่งลงข้างๆ ผมจึงทำท่าจะลุกหนีลงจากเตียงแต่ก็ไม่ทันที่พี่โชจะใช้ตัวเองมาค่อมทับผมไว้จนผมขยับไม่ได้

"จะไปไหน" พี่โชพูดและทำท่าทางเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ

"กลับห้อง" ผมตอบโดยที่ไม่กล้าสบตากับคนถามสักเท่าไหร่

"นอนด้วยกันนี่แหละ" พี่โชก้มลงมากระซิบข้างหูเบาๆ

"พี่โช ผมอยากกลับห้อง" ผมรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

"นอนด้วยกันนะครับ"

พี่โชพูดจบก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของผมเพื่อไม่ให้ผมปฏิเสธอะไรได้อีก พี่โชค่อยๆ ส่งลิ้นเข้ามาสำรวจข้างในโพรงปากของอย่างละเมียดละไม ผมก็จูบพี่โชตอบกลับไปโดยส่งลิ้นไปตวัดเกี่ยวกับลิ้นพี่โช เราสองคนเริ่มจูบกันอย่างดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำใสๆ ไหลเปื้อนออกมามุมปาก ทำให้พี่โชใช้ลิ้นตวัดเลียจนน้ำใสๆ หายไป

พี่โชค่อยๆ เคลื่อนหน้าจากริมฝีปากลงมาที่คอแล้วใช้ปลายลิ้นหยอกล้อกับลำคอของผมจนผมเสียวสะท้านจนร่างกายบิดเกร็ง จากนั้นพี่โชก็งับเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อก่อนจะดูดจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ ร่างกายผมบิดเบี้ยวจนทำอะไรไม่ถูก แต่สมองก็สั่งให้ผมพูดออกมา

"พะ..พีโช" ผมเรียกพี่โชเสียงสั่น

พี่โชไม่ตอบอะไรแค่ปรายตาขึ้นมามองอย่างเป็นคำถามโดยที่ปากก็ยังดูดดุนอยู่ที่บริเวณลำคอของผม

"มะ..ไม่ทำได้ไหมพี่"

พี่โชคลายริมฝีปากออกจากลำคอก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ทำไมล่ะ"

"ผ...ผมเจ็บ" ผมตอบก่อนจะหันหน้าหนีจากสายตาพี่โชและพูดต่อ "ครั้งก่อนผมเจ็บตั้งหลายวัน...กะ..ก็มันไม่มีของช่วย" หลังจากครั้งก่อนผมจึงไปศึกษาข้อมูลพอสมควรเพราะตอนนั้นผมก็กลัวสารพัด

พี่โชยันตัวขึ้นจากร่างของผมก่อนจะขยับตัวไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงแล้วหยิบทั้งกล่องทั้งหลอดอะไรออกมาวางข้างตัวผม

"นี่ไงมีแล้ว งั้นก็ทำได้เนอะ" พี่โชพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

ผมตาโตเมื่อเห็นของที่พี่โชนำมาวางไว้ข้างตัวผม มันมีทั้งถุงยางและเจลหล่อลื่น นี่พี่มันมีของแบบนี้ไว้ที่ห้องด้วยเหรอ ผมอดสงสัยไม่ได้จึงเอ่ยปากถามไป

"นี่พี่มีของแบบนี้ติดห้องหรอวะ"

"อืมตั้งแต่ครั้งนั้นกูก็คิดว่ากูควรจะซื้อมาเก็บไว้ เพราะกูไม่ทำมึงแค่ครั้งเดียวแน่" พี่โชพูดอย่างเจ้าเล่ห์

คำตอบพี่โชทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา นี่พี่โชเตรียมไว้ใช้กับผมแสดงว่าพี่โชก็คงจะไปศึกษามาหมดแล้วเหมือนกันสินะ

"มีแล้วงั้นเอาได้แล้วใช่ป่ะ" พี่โชก้มลงมากระซิบข้างๆ หู พร้อมกับใช้ปากงับหูผมจนเสียวแบบบอกไม่ถูก

ผมไม่ได้ตอบอะไรทำได้แต่หลบตาพี่โชด้วยความกระดากอายและไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าของเราสองคนไม่ได้อยู่ติดร่างกายของเราทั้งคู่แล้ว

ต่อข้างล่างจ้า
VVVVV
 VVV
   V
   V
   V
   V
   V

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ต่อจ้า!!!

พี่โชค่อยๆ รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างหื่นกระหายดูดตวัดลิ้นจนพอใจก็ค่อยขยับลงมาซุกไซร้อยู่บริเวณคอของผมอย่างหลงใหล ผมบิดไปมาอย่างทรมานมันเสียวจนบอกไม่ถูกถึงกับหลุดครางออกมา

“อื้มมมม..พะ..พี่โช ส...เสียว”

เมื่อพี่โชได้ยินเสียงครางของผมก็เหมือนทำให้อารมณ์ของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นมาอย่างง่ายดาย พี่โชไล้ริมฝีปากลงมาหาตุ่มไตกลางอกและขบเม้นอย่างสนุก โดยใช้มือที่ว่างอยู่คลึงระหว่างกลางอกอีกข้างหนึ่งไว้ เมื่อพอใจแล้ว พี่โชจึงไล้ปากลงมาวนๆ อยู่แถวบริเวณหน้าท้องของผมและใช้ปลายลิ้นสัมผัสเบาๆ จนผมเสียวซ่านไปทั้งร่าง

ส่วนมือผมที่ว่างอยู่ก็ปัดป่ายไปมาจนต้องวางมือลงกับที่นอนแล้วกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นเพื่อระบายความรู้สึกนั้น พี่โชไล่ลิ้นไปยังต้นขาของผมอย่างอ่อนโยนที่ละข้างและใช้มือที่ว่างอยู่จับน้องชายผมไว้จนผมถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ฮึก!...” ผมก้มลงมามองการกระทำของพี่โชก่อนจะเขินและหันหน้าหนีไปทางอื่น

พี่โชขยับมือขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กับส่วนที่แข็งของผมและใช้ลิ้นวนรอบๆ บริเวณส่วนปลายจนผมตัวบิดเกร็ง

“ซี๊ดดด..อ๊า...อ่า..สะ..เสียว” ผมครางไม่เป็นภาษามันทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นแต่มันก็รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก

พี่โชค่อยๆ ขยับปากเข้าไปครอบตัวตนของผมไว้เกือบสุดโคนก่อนจะขยับปากขึ้นลงเป็นจังหวะ ทำให้ผมต้องขยับมือมากุมหัวของพี่โชไว้และขยับเป็นจังหวะโดยไม่รู้ตัว

“พะ..พี่โช..ผมจะ..จะ..สะ..เสร็จ” ผมพูดไม่รู้เรื่องพยามจับดึงหัวของพี่โชออกจากส่วนนั้นที่กำลังจะพ่นน้ำรักออกมาแต่พี่โชไม่ยอมแล้วขืนเอาไว้
“อ๊า.....” ผมร้องออกมาพร้อมกับน้ำขุ่นๆ ที่ปล่อยออกมาคาปากของพี่โช

“เอื๊อก..” เสียงพี่โชกลืนน้ำนั่นลงคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมที่นอนหมดแรงอยู่ “อร่อย”

พี่โชพูดแบบนั้นมันทำให้ผมเขินจนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ไม่นานที่จะได้ตั้งตัวพี่โชก็โน้มตัวลงมาประกบปากผมอีกครั้งโดยใช้สองมือบีบคลึงบริเวณสะโพกของผมเพื่อกระตุ้นความต้องการของผมอีกครั้ง

พี๋โชผละออกจากริมฝีปากและก้มหน้าลงมาที่กลางลำตัวของผมอีกครั้งก่อนจะไล้ลิ้นจากส่วนหน้าลงมาเรื่อยๆ จนถึงส่วนหลังทำให้ผมสะดุ้งเฮือก

“พะ..พี่โช ทะ..ทำอะไร” ผมพยายามขยับตัวหนีแต่พี่โชก็จับล็อคไว้แน่นก่อนจะใช้ลิ้นหยอกล้อกับช่องทางด้านหลังของผม มันเสียวจนตัวผมบิดเกร็งนิ่วหน้าอย่างทรมาน

“พะ..พี่โช มันสกปรก” ผมยังพยามจะห้ามพี่โช

พี่ช้อนสายตาขึ้นมองและยกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดขึ้น “สกปรกตรงไหน หวานออก” พูดจบพี่โชก็ใช้ลิ้นไล้บริเวณช่องทางด้านหลังอีกครั้งก่อนจะพยายามสอดลิ้นเข้าไปข้างในทำให้ผมตัวบิดเร่าอย่างทรมาน

พี่โชผละออกจากช่องทางของผมก่อนจะเอื้อมไปหยิบหลอดเจลหล่อลื่นมาบีบใส่มือและนำลงไปชโลมตรงช่องทางเข้าของผมจากนั้นก็ค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปอย่างช้าๆ

“โอ้ย” ผมร้องด้วยสีหน้าเหยเกพร้อมกับถดตัวหนีจากพี่โช

“ไม่ต้องเกร็งนะคนดี” พี่โชขยับตัวขึ้นมาอยู่ในท่าที่คล่อมร่างของผมไว้และก้มลงกระซิบข้างหูผมอย่างปลอบปะโลม

พี่โชใช้ลิ้นเลียใบหูจนผมเสียววาบไปทั้งร่างก่อนจะค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปอีกครั้ง พี่โชค่อยๆ ขยับควานนิ้วภายในช่องทางด้านหลังเพื่อหาจุดความเสียวของผม

อารมณ์ของผมตอนนี้ทั้งเจ็บและทั้งเสียวไปพร้อมๆ กันจนแสดงออกมาไม่ถูก พี่โชค่อยๆ เพิ่มนิ้วส่งเข้าไปอีกหนึ่งนิ้วและขยับเข้าออกอย่างช้าๆ จนผมเริ่มชินกับสิ่งที่เข้าไปพี่โชจึงดันตัวนั่งขึ้นก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่ของตัวเองที่โตเต็มที่แล้ว ผมมองทุกการกระทำของพี่โชแบบเขินๆ ทำหน้าไม่ถูก

“เบี้ยวเชื่อใจพี่นะ” พี่โชคล่อมร่างของผมไว้ก่อนจะก้มลงไปบอกอย่าอ่อนโยน

ผมพยักหน้าตอบแบบอายๆ หน้าร้อนฉ่าขึ้นมา

พี่โชชโลมเจลลงบนส่วนแข็งของตัวเองและชโลมไปบริเวณด้านหลังของผมจนชุ่ม พี่โชจับขาของผมให้อ้ากว้างขึ้นและสอดแขนตัวเองไว้ใต้ขาทั้งสองข้างของผมก่อนจะค่อยๆ นำของตัวเองเข้าไปสัมผัสกับทางเข้าของผมทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ กดเข้าไป แต่ช่องทางด้านหลังของผมยังคับแคบจนทำให้ผมนิ่วหน้าร้องออกมา

“โอ๊ย เจ็บ...ไม่เอาพี่โช เจ็บๆ” ผมโวยวายพยายามดันตัวพี่โชออก

พี่โชค่อยๆ โน้มหน้าลงไปประกบกับริมฝีปากผมเพื่อเบนความสนใจให้ผ่อนคลายขึ้น พี่โชจึงค่อยๆ ขยับส่วนแข็งเข้าไปอีกครั้งจนเข้าไปสุด

“อึ่ก” ผมร้องในลำคอโดยที่ริมฝีปากยังประกบกันอยู่

พีโชค่อยๆ ขยับโดยใช้มือที่ว่างจับส่วนหน้าของผมรูดขึ้นลงให้เป็นจังหวะไปด้วยทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมตาม

พี่โชขยับตัวเข้าออกเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอและส่งเสียงครางออกมาจากลำคอ “อึ้ม...ตอดกูนะเบี้ยว”

“อ๊า..อ๊า...พะ..พี่..ชะ..” ผมครางไม่เป็นภาษา

พี่โชยังขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับพูดออกมา “เบี้ยวเรียกชื่อกูหน่อย” พี่โชขอร้องผมด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า

“พะ..พี่โช…อ๊า”

“อืมมม..ดีเบี้ยว” พี่โชชื่นชมผมด้วยสีหน้าที่สุขสมและดูพอใจเมื่อผมทำตามคำขอ

“พะ...พี่โช..ผม..กะ..ใกล้จะ.ออก” ผมบอกไม่เป็นภาษาเพื่อให้พี่โชช่วย

พี่โชเริ่มขยับมือเร็วขึ้นไม่นานน้ำข้นๆ ก็ไหลเปื้อนเต็มมือของพี่โชและเปื้อนไปเต็มหน้าท้องของผม

“อ๊า......” ผมครางออกมาอย่างสุขสมพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็ง

เมื่อผมไปถึงฝั่งแล้วถึงสองรอบทำให้พี่โชเร่งจังหวะของตัวเองให้เร็วขึ้นพร้อมกับบอก “เบี้ยวอีกนิดเดียว”

จากนั้นพี่โชก็กระแทกเข้าออกอย่างแรงๆ เข้าไปอีกไม่กี่ครั้งก็ทำให้เขากระตุกเกร็งพร้อมกับครางออกมา “อ๊า...อ่า”

พี่โชยังแช่ตัวเองไว้ในตัวของผมอย่างนั้นก่อนจะทิ้งตัวลงไปจูบขมับผมอย่างอ่อนโยน

“กูรักมึงนะอาร์ท” พี่โชกระซิบเบาๆ ข้างหูผม มันทำให้ผมรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ผมยกมือสองข้างขึ้นโอบกอดคนที่นอนทับอยู่บนของร่างผมแน่น “ผมก็รักพี่”

เราอยู่กันในสภาพนั้นสักครู่เพื่อให้ลมหายใจกลับมาเป็นปกติก่อนพี่โชจะดึงตัวเองของจากช่องทางด้านหลังของผมทำให้ผมรู้สึกวูบโหวงจนเสียววาบขึ้นมา จากนั้นพี่โชจึงอุ้มผมขึ้นเพื่อพาเข้าไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำ แต่ระหว่างที่พี่โชกำลังจัดการทำความสะอาดให้ผมอยู่ก็ดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบจนเราทั้งคู่มีอะไรกันอีกรอบในห้องน้ำ ก่อนพี่โชจะทำความสะอาดให้ผมจริงๆ แล้วถึงพาผมออกมาวางไว้บนเตียง

พี่โชจับผมใส่ชุดนอนของเขาและดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ผมก่อนที่พี่โชจะไปใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้วลงมานอนข้างๆ และกอดผมไว้หลวมๆ

"เบี้ยวคืนห้องแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ" พี่โชพูดขึ้นมา

"ไม่เอาอ่ะ" ผมตอบกลับทันควันทั้งที่ตัวเองก็แทบไม่มีแรงอยู่แล้ว

"จะเอาไว้ทำไมอยู่ก็ไม่ได้อยู่ เปลืองเงินเปล่าๆ"

“เฮ้ย เดี๋ยวผมก็กลับไปนอนห้องเหอะ”

“ไม่ให้กลับ”

“.....”

“นะไปคืนห้องเถอะกูอยากนอนกอดมึงอย่างนี้ทุกคืน”

"ถ้าผมคืนห้องเวลาพี่ไล่ผมก็ไม่มีที่อยู่สิ" ผมพูดเสียงเบาเมื่อคิดว่าโดนพี่โชไล่จริงๆ ผมคงต้องบ้าตายแน่ๆ

พี่โชกระชับกอดให้แน่กว่าเดิม "ใครจะกล้าไล่เมียตัวเองครับ"

"เออเก็บเอาไว้อย่างนั้นแหละ" ในความคิดผมกลัวว่าเวลาที่เราทะเลาะหรือมีปัญหากันผมจะไม่มีที่ไปแล้วอีกอย่างขืนอยู่ด้วยกันทุกวันผมต้องโดนรังแกจนไปเรียนไม่ไหวแน่ๆ

"ไม่สงสารพ่อกับแม่หรือไงต้องเสียเงินเปล่าๆ ทุกเดือน" พี่โชเอาพ่อกับแม่ของผมขึ้นมาอ้าง

"เอ่ออออ.." ผมอ้ำอึ้ง

พี่โชจับคางผมให้หันหน้าตรงกันก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม "เบี้ยวกลัวอะไรไหนบอกสิ"

ผมเม้มปากทำท่าคิดหนักก่อนจะพูด "ก็ถ้าเราทะเลาะกันหรือละ...เลิกกัน ผมจะได้มีที่อยู่ไง"

"นี่เพิ่งจะเป็นแฟนกันคิดจะเลิกกันแล้วหรอ" พี่โชพูดเสียงเข้มขึ้นมา

"เปล่า!" ผมพูดออกเสียงดัง "ก็เผื่อไว้เฉยๆ ใครจะไปรู้ถ้าเกิดพี่เบื่อผมขึ้นมาอาจจะทิ้งผมก็ได้"

"ไร้สาระน่าเบี้ยว" พี่โชพูดพร้อมกระชับกอดเข้า และหอมแก้มผมแรงๆ "ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้จะไปทิ้งได้ยังไง"

ผมได้ยินแบบนั้นก็เขินจนทำอะไรไม่ถูกหน้าแดงจนแทบจะระเบิด

"นะไปคืนห้องแล้วย้ายของมาอยู่ด้วยกันเถอะ" พี่โชทำเสียงออดอ้อน

"อื้ม...แต่เดี๋ยวขอพ่อกับแม่ก่อนนะ"

"เดี๋ยวขอให้เองรับรองพ่อกับแม่ยอมง่ายกว่าเบี้ยวไปขอเองแน่นอน"

"เหรออออออออ" ผมพูดเสียงยานด้วยความหมั่นไส้

ผมหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรออกหาแม่

ตู๊ดๆ

(ว่าไงลูก โทรมาสะมืดเชียว)

"แม่ทำอะไรอยู่หรือว่านอนไปแล้ว"

(ยังหรอกแม่นั่งดูละครอยู่ เราล่ะทำอะไรอยู่)

"อาร์ทเพิ่งกินข้าวเสร็จ" ผมไม่ได้โกหกนะก็เพิ่งกลับจากกินข้าวจริงๆ นี่นา

(อยู่ไหนล่ะลูก)

"ห้องพี่โชอ่าแม่" ผมพูดเสียงอ่อย

(อ่าวทำไมไปอยู่ห้องพี่เค้าละ) แม่ว่าเสียงขำๆ

"แม่อ่ะ"

(อ้าวแม่ก็ถาม)

"แม่"

(ว่าไง)

"อาร์ทย้ายหอมาอยู่กับพี่โชนะ"

(แล้วทำไมต้องไปอยู่กับพี่เขาละ)

"แม่..."

(ตอบสิ แม่จะได้บอกว่าอนุญาตหรือไม่อนุญาต)

"ก็พี่โชชวนมาอยู่ด้วยจะได้ประหยัดค่าหอไง" ผมอ้างไปอย่างนั้น

(เหรอออออ เงินที่แม่ให้ก็น่าจะมากพอม้างง) แม่ทำเสียงแซว

"แม่อ่ะ"

(ให้แม่คุยกับโชหน่อยสิ)

"แม่จะคุยทำไม ไม่ต้องคุยหรอก"

(ก็จะมาขอลูกชายเขาไปอยู่ด้วยก็ต้องฝากฝังหน่อยสิ)

"แม่!!"

(เร็วให้โชมาคุยกับแม่)

"ก็ได้รอแป๊บนะแม่"

"พี่โชแม่ขอคุยด้วย" ผมพูดแค่นั้นพี่โชก็รีบเสนอหน้าคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปอย่างไม่สนใจอะไร

ผมนอนมองพี่โชที่เดินไปไกลจากผมเพื่อคุยกับแม่ผมไปสักพักใหญ่แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้างเมื่อวางสายพี่โชก็เดินเข้ามาหาผมแล้วพูด

"แม่อนุญาตแล้ว"

"อือ"

"ไปย้ายเลยป่ะ"

"แล้วแต่พี่เลย อยากทำอะไรก็ทำเลย" ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชด

"งอนเหรอ"

"เปล่าสักหน่อย"

"เออลืมไปตอนนี้มืดแล้วและก็คงไม่น่าจะเดินไหวพรุ่งนี้เบี้ยวไม่มีเรียนย้ายพรุ่งนี้ก็ได้เนอะ" พี่โชพูดเองเออเองทุกอย่าง

ผมได้แค่เบะปากไม่พูดอะไรใส่พี่โช ทำให้พี่โชหลุดขำออกมากับท่าทางผม

และก็เป็นไปอย่างที่พี่โชพูดไว้รุ่งขึ้นอีกวันเราตื่นกันก็เกือบบ่าย ร่างกายของผมมันปวดร้าวไปหมดแต่ก็พอที่จะลุกไหวเพราะก่อนนอนพี่โชทั้งหายาแก้อักเสบให้กินและทายาให้ พี่โชจึงชวนผมไปหาอะไรกินข้างนอกและต่อด้วยไปทำเรื่องขอคืนห้อง

ผมทำเรื่องเสร็จพี่โชก็อาสาเป็นคนแพ็คของคนเดียวเพราะกลัวผมเจ็บผมจึงนั่งมองพี่โชอย่างเดียว พี่โชเลือกเก็บเฉพาะของใช้จำเป็นก่อน จริงๆ ของผมก็ไม่มีอะไรมากมีแค่เสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวไม่กี่อย่างกับหนังสือเรียนและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งเครื่องเท่านั้น ทำให้เราขนของออกได้ภายในวันนี้ทีเดียวหมดเลย

เมื่อขนของเสร็จผมก็นำกุญแจและคีย์การ์ดไปคืนเจ้าของหอ และต่อจากนี้ไปผมต้องใช้ชีวิตร่วมกับพี่โชจริงๆ แล้วสินะ


==================
TBC.

Talk. มาแว้วววว เค้าได้กันอีกแล้วอ๊าาา แต่คราวนี้เค้าเป็นแควนกันแล้วน๊าาา มาเม้าส์กันนะทุกโคน อย่าทิ้งเค้าน๊าา  :monkeysad:  รักคนอ่านนะคะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2017 16:25:14 โดย Le_Let »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เปิดมาเจอพอดี ฟินไปหลายรอบเลย อิอิอิ
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อยากโดนมั่ง 5555

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นแฟนกันซะที :hao3:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
 :o8:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :haun5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด