◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 302017 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เราเดาทางพี่ปูนไม่ถูก แต่รู้ว่านางร้ายมาก5555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นี่มัน 'ลูกไก่วัดในกำมือสมภาร' ชัดๆ :hao3:
ลุงคนซื่อ ตามพี่ปูนไม่ทันหรอก

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
น้องลุงมีเมียแล้วจ้าาาาา5555555  :mc4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตอนแรกนึกว่าพี่ปูนต้องการแสดงให้ส่อไปในทางนั้น ไป ๆ มา ๆ ชักไม่แน่ใจ แต่พอเห็นลุงเชื่อแบบนั้นก็คงเลยตามเลย เพราะตัวเองได้ประโยชน์
ดูเหมือนตอนนี้จะมีคนแอบสารภาพว่ามองลุงอยู่หรือเปล่านะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ใสเกินลุง ไม่ทันเล่ห์พี่มันหรอกบอกเลย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
55555 ไอ้พี่ปูนไม่ได้แผนอะไร ำอ้สองรอบที่ว่สน่สจะเป็นนอนดิ้น ถีบ หรืออะไรทำนองนี้ แต่ทำไมแก้ผ้าอะ อ้วกหรอ น่าจะใช่ 555555 

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
พี่ปูนน่าสงสัยมากๆๆ   o18 ตกลงว่าจริงอย่างที่น้องลุงคิดไหมน้อ
 :pig4: :กอด1: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เด็กดีกับพี่ปูนคนฉวยโอกาส ตอนน้องเข้าใจผิด ร้านมากนะแกกกกก

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:ruready นี่พี่ปูนกำลังวางแผนหลอกล่อน้อง ให้ตกหลุม(รัก) ใช่ไหมเนี๊ย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
555555 นี่พยายามจะไม่ขำน้องลุงนะ

แต่แบบ... เด็กดี .... กร๊ากกกกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ขำ ก๊ากกก เลย
ต้องเป็นผลพวงมาจากเมื่อวานแน่ๆ
แค่โดนผมจิ้มไปทีสองทีทำให้พี่เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้เลยรึ พระเจ้า!
แสดงว่าพี่ปูนเป็นฝ่ายรับน่ะสิ พี่ชอบโดนจิ้มโดยหนอนน้อยน่ารักงั้นสิใช่มั้ย!!

พอพี่ปูน ชมลุงว่าเด็กดี มันยิบๆ แหม่งๆ ในใจเลย
แถม “ถ้าไม่มองอยู่ตลอด พี่จะกล้าพูดได้ยังไง” อะจ๊ากกกกก มองยังไง เมื่อไหร่  :katai1: :katai1: :katai1:

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:  เฮ่อ......ที่ว่าสองรอบ นี่ไม่ใช่ถีบพี่ปูนตกเตียงสองรอบนะ  :z3: :z3: :z3:

พัด-เถอะ-ลุง โดนป้าปูน หลอกชัดๆ
แรงตบที่ไหล่ยังไม่ทำให้ลุง รู้ตัวอีกเรอะ
ว่าน้ำหน้าลุง จะไปปล้ำพี่ปูนได้ยังง้ายยยยย
พี่ปูน ได้อัดเตะลุงขาดสองท่อนแน่  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:





ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่ปูน :z3:  :z3: น้องลุงเป็นเด็กดีของพี่ปูนน้าาา   :mew1:

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
พี่ปูนแกก็ไหลตามน้ำซะงั้น 555 ที่มองอยู่ตลอดอะคิดอะไรกับน้องมันนานแล้วรึป่าววว ยังไงก็เชียร์พี่ปูนเป็นผะอัวนะเออ 555

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
นายเสร็จพี่ปูนแน่ๆพัทลุง คุณปุริมช่างร้ายกาจ รอวันลุงโดนกดจะได้ตาสว่างากที ว่าเอ็งน่ะเมียแน่ๆ ลุงเอ๊ย #ทีมคุณปุริม

ออฟไลน์ dumpWINNY

  • m a e w m e i n .
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ว้ากกกก พี่ปูนนนนน จริงๆลุงแค่ถีบพี่ตกเตียง 2 ครั้งเองใช่มั้ย โถ่ ลุงเอ๊ย หลังจากนี้เจอฤทธิ์พี่ปูนบ้างละ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พี่ปูนมันร้ายยยยยยยยยยย :hao6:

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ่านแล้วหัวเราะก๊ากเลย อีตาพัทลุงก็ช่างคิดได้เป็นตุเป็นตะ งานนี้เสร็จพี่ปูนแน่นวลลลล....555+

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ สนุกมากๆ   :3123:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 4 _โลกสวยด้วยมือเรา_



ฟ่อววว  !!

เสียงไลน์ที่ทำเอาคุณดาหลาตกใจทุกครั้งเมื่อได้ยิน ดังขึ้นในเช้าที่ผมกำลังเพิ่งโผเผลลุกจากเตียง มันไม่ได้ดังขึ้นครั้งเดียว แต่หลังจากตั้งสติได้มันก็ดังถี่ๆ อีกสองสามครั้ง ไม่รู้ว่าจากใครหรอกนะ แต่สำหรับคนเพื่อนน้อยอย่างผมแล้วมันไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ไอ้บรรดาเพื่อนที่ผมมีก็ไม่มีซะหรอกที่จะส่งมาอรุณสวัสดิ์ด้วยคำคมเก๋ไก๋ หรืออวยพรให้โชคดีในแต่ละวัน

ฟ่อวว!!


โอเค! กูเปิดอ่านก็ได้!


เป็นเช้าที่ทำเอาอารมณ์เสียเล็กน้อยเลยนะเนี่ย ใครวะแม่ง! ถ้าพ่อไม่ตายแม่ยายไม่ป่วยล่ะก็จะพิมพ์ด่าให้สักสามหน้ากระดาษ ผมปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยความรวดเร็วเมื่อข้อความแจ้งเตือนแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เพื่อนเวรทั้งหลายแหล่ส่งมากลั่นแกล้ง

แต่เป็นข้อความจากเมียหมาดๆ ของผมต่างหาก

มือผมสั่นด้วยความระทึกขณะกดเปิดอ่านตัวอักษรทีละข้อความ ก็เหมือนเดิมล่ะครับ... พี่ปูนไม่ได้ส่งอะไรมาเวิ่นเว้อให้สมกับตำแหน่งเมียที่ผมมอบให้หรอก ข้อความสั้นๆ ห้วนกระชับและเข้าใจง่าย

[ตื่นได้แล้ว!!]
[มาหาพี่ที่นี่]
[ซื้อกาแฟให้ที]
[แซนด์วิชด้วย]

และข้อความสุดท้าย หลังจากการแชร์สถานที่ตั้งมาให้ ก็ทำเอาผมซึ้งจนน้ำตาไหล

[ให้ไว!!]


ครับเพ่!!!

ไอ้พี่ปูน ไอ้หน้าหนังจิ้งจก ไอ้ขนอกแพะ แม่ง! ผมไม่รู้ว่าจะด่ามันในใจว่ายังไงดีแล้วเนี่ย! มันเห็นว่าผมยกให้เป็นเมียใช่มั้ยถึงได้จิกหัวใช้ปานสนิทสนมกันมาสิบชาติแบบนี้ แค่ไม่กี่วันเองนะที่ตกลงปลงใจคบกันน่ะ พอหลังจากนั้นมันก็คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์เหนืออธิปไตยของผมแล้วอย่างนั้นเหรอ! ได้! -- ถ้าไอ้พี่ปูนจะคิดอย่างนั้นล่ะก็...

[พี่อยากได้กาแฟกับแซนด์วิชแบบไหนครับ]

หึ ให้มันรู้ซะบ้าง! คราวหน้าคราวหลังจะได้สั่งให้มันละเอียดหน่อย




และผมก็มายืนตรงนี้...

ยืนมองเซ็กซี่กายแห่งปีเปิดประตูรถเก๋งคันงามออกมา แว่นสีชาสะท้อนสิ่งที่ตกกระทบจนบิดเบี้ยวช่างเข้ากับหนังหน้าคมเข้มและทรงผมเสยแสนยุ่งเหยิงนั้นได้อย่างที่ผู้หญิงแทบจะแดดิ้นตาย ส่วนผมนั้นมองด้วยความอิจฉาและเกือบถึงขั้นริษยากับความสมบูรณ์แบบนั้น ถ้าผมมีสารร่างและความสูงเยี่ยงพี่ปูน ผมคงไม่ถูกทิ้งบ่อยๆ แน่

“ขอบใจนะ”   สีหน้าเรียบตึงของคุณเมียหมาดๆ ของผมเอ่ยขึ้นพลางรับของในมือผมไปถือไว้เอง   “ขึ้นรถสิ”

“อะ!...”   เวรกรรม! ผมมัวแต่มองพี่ปูนจนลืมไปเลยว่าตรงนี้เป็นป้ายรถเมล์ในเวลาเร่งด่วน   “เอ่อ -- ผมขับให้ครับพี่”

พี่ปูนมองผมคล้ายชั่งใจไม่ถึงวินาทีก่อนจะเดินปลีกตัวไปเปิดประตูข้างคนขับโดยไม่พูดอะไร ผมเองเมื่อเห็นว่ารถเมล์ขับมาแต่ไกลก็รีบซอยเท้าไปเปิดประตูเพื่อเข้าไปนั่งในรถบ้าง และเมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ถึงคราวออกรถไปให้พ้นเสียงกร่นด่าด้วยสายตาจากผู้คนมากมายที่ป้ายรอรถ

รถหรูนี่มันขับลื่นสมกับราคาจริงๆ ให้ตาย แค่แตะคันเร่งเบาๆ ก็แล่นฉิวแถมยังไร้เสียงรบกวนจนห้องโดยสารเงียบสนิท ผมใช้หางตาเหล่มองคนนั่งข้างกันเป็นระยะ พี่ปูนเพียงแค่ดูดกาแฟจากหลอด นิ่งสงบจนผมเกร็ง หรือว่าพี่แกไม่ชอบให้ใครมาแตะรถตัวเองวะ อย่างนี้ผมก็ก้าวก่ายเข้าไปในเขตหวงห้ามของแกน่ะสิ

“คือผมไม่ได้ตั้งใจขับรถพี่นะครับ”   ผมรีบร้อนบอกให้พี่ปูนเข้าใจ ซึ่งผลคือพี่แกหันมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย   “ผมแค่อยากให้พี่กินได้สบายๆ น่ะครับ เพราะเห็นว่าพี่ต้องไปเอาปรู๊ฟแล้วต้องไปพบลูกค้าเลย”

“ก็เลยอาสาขับแทน?”   

“ถ้าทำให้พี่ไม่พอใจผมก็ขอโทษด้วยนะครับ”   ผมหันไปมองหน้าพี่ปูนอีกครั้ง คราวนี้แม่งตาโตอย่างกับเห็นผมเป็นผีก็ไม่ปาน   “ไมอ่ะพี่?”

“แกไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าวะพัทลุง”

“ก็ไม่นะพี่ เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรนะ”   ผมเน้นหนักตรงวรรคหลังอย่างให้มันรู้สึกสำนึกบ้างว่าตัวกรูนี่ต้องรีบออกมาแค่ไหน เพื่อที่จะมาเจอมันเนี่ยผมถึงกับอดข้าวเช้าเลยทีเดียว ไอ้จะให้ซื้อของกินจากร้านกาแฟเจ้าประจำของมันมาด้วยก็คงไม่ไหวด้วยราคาที่ไม่เหมาะกับสถานะทางทรัพย์ แค่สองอย่างของพี่แกก็สองร้อยกว่าบาทเข้าไปแล้ว

มาคิดๆ ดูแล้วผมจะเลี้ยงพี่ปูนไหวได้ยังไง? แค่ฐานะก็ต่างกันเหมือนรังนกกับรังปลวก พี่กินของดีราคาแพง ส่วนผมเอาถูกเข้าว่า ซื้อเสื้อตลาดนัดตัวละไม่ถึงสองร้อย แต่เครื่องทรงพี่แกเล่นแบรนด์เนมยกชุด แล้วอย่างนี้มันจะไปกันรอดสักกี่น้ำวะ ขนาดผู้หญิงบ้านๆ ธรรมดาผมยังรั้งไว้ไม่ได้เลย

“พี่รีบกินสิครับ พอถึงออฟฟิศแล้วต้องรีบไปต่อไม่ใช่เหรอ?”   พี่ปูนทำท่าขนลุกเล็กน้อยเมื่อผมพูดจบ แต่จากนั้นมันก็หยิบแซนด์วิชชิ้นใหญ่น่ากินสมราคาออกมาจากถุงกระดาษ ลอกพลาสติกใสติดโลโก้ร้านออกแล้วกัดซะคำโต ดูท่าไอ้พี่ปูนจะหิวน่าดู เพราะไม่ถึงห้านาทีทุกอย่างก็หมดเกลี้ยงแบบที่ไม่มีการเผื่อแผ่ร่วมชวนผมกินเลยสักนิด

“เหมือนหิวมากเลยนะ เอาอะไรเพิ่มอีกมั้ยพี่”  ผมเหลือบมองคนข้างตัวเป็นระยะ สลับกับมองหาร้านตามข้างทางเผื่อเอาไว้

“ไม่ต้องแล้ว”  พี่ปูนตอบพลางเก็บเศษพลาสติกยัดใส่ถุงกระดาษ

“ครับ”  แต่ผมยังไม่หมดความสงสัยได้ง่ายๆ  “แล้วคอนโดฯ นั่น...” 

เพื่อความรวดเร็วพี่ปูนจึงให้ผมยืนรอตรงป้ายรถเมล์ ใต้สถานีรถฟ้า ที่เบื้องหลังคืออาณาเขตของคอนโดสูงหลายสิบชั้น ดูไม่ได้หรูหราอะไรมากนักแต่น่าจะแพงได้ใจตรงการคมนาคมที่แสนสะดวก และที่สำคัญผมเห็นรถยนต์ของพี่ปูนเลี้ยวออกมาจากที่นั่น

“...ห้องของกร เบื่อๆ ก็เลยไปค้างเท่านั้นแหละ”  เสียงต่ำตอบเรียบๆ แต่จู่ความหยอกเย้าก็ปรากฏในน้ำเสียง  “ทำไมเหรอ? คิดว่าพี่ไปค้างห้องใครมา”

“เปล่าสักหน่อย”  ผมทำเสียงแข็งใส่ แต่ใจนี่หวิวไปแล้ว แม่งรู้ได้ไงวะว่าผมแอบคิดอะไร

“ถ้าไม่เชื่อไว้วันหลังจะพาขึ้นไป”

“แล้วผมจะต้องไปทำซากอะไรล่ะ นั่นมันห้องคนอื่นเขา” 

“ไม่คิดว่าพี่จะโกหกรึไง”

ผมเงียบไปชั่วอึดใจ ประกอบกับการจาราจรที่เริ่มติดขัดอีกครั้ง ผมอาศัยจังหวะนี้เพื่อหันไปมองคนข้างตัวแบบเต็มตา พี่ปูนเลิกคิ้วมองมาอย่างเร่งเร้าในคำตอบ เหยียดรอยยิ้มแปลกๆ

“พี่โกหกรึเปล่าล่ะ?”

“เปล่า”

“งั้นผมก็เชื่อพี่”  ผมตอบเสียงหนักแน่น พลางพยักหน้ายืนยันความมั่นใจ พี่ปูนมองผมด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนที่ไม่ถึงสองวินาทีจากนั้นจะเผยยิ้มเต็มริมฝีปาก เล่นเอาคนมองอย่างผมต้องหยีตาให้กับแสงเจิดจ้าประหนึ่งอยู่ในโฆษณายาสีฟัน พี่ปูนยิ้มหนักมาก หล่อมากด้วย...

“ไหนว่าไม่คิดอะไรไง”  พระเอกโฆษณาเฉพาะกิจกระเซ้าเสียงรื่นเริง

พลาดแล้วไงกู!
 




ไม่นานรถยนต์คันแพงกับคนขับมือใหม่อย่างผมก็แล่นเข้ามาจอดยังที่ประจำยังลานจอดหน้าออฟฟิศ ผมเปิดประตูรถลงไปสมทบกับพี่ปูนที่คล้ายจะยืนรออยู่ ผมยื่นกุญแจรถส่งให้คุณภรรยาตัวสูงและอีกฝ่ายก็ตอบแทนความหวังดีของผมด้วยถุงกระดาษที่บรรจุพลาสติกห่อกับแก้วน้ำที่เหลือแต่น้ำแข็ง

“ทิ้งด้วย”

ซาบซึ้งตรึงใจอย่างที่ไม่มีผู้ใดทำให้มาก่อน

น้ำตาผมปริ่ม ความรู้สึกมันท่วมท้นใจจนพูดอะไรไม่ออก ผมได้เมียไม่เหมือนใครจริงๆ แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีผู้ชายที่โดนกระทำย่ำยีแบบผมอยู่ก็ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีเพจพ่อบ้าน ให้เหล่าราชสีห์ได้ฮึกเหิมกันแค่บนคีย์บอร์ดรึ เอาน่า... ผมปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยผมต้องดีใจเสียอีกที่ได้มีโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการไม่ขัดขืนคำสั่งเมีย


นอกจากเดินตามหลังพี่ปูนเข้าออฟฟิศไปเงียบๆ แล้ว ผมก็พบว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาแค่ไหนในสถานที่ทำงานที่คนน้อยเหลือเกินแห่งนี้ มันเริ่มจากป้าแม่บ้านที่ยืนอึ้งมองผมกับพี่ปูนเดินผ่านไปอย่างตะลึงงัน เหมือนเห็นน้าเดชกับเจมส์จิ๊จูบกัน ไม้ถูพื้นถือคาอกไว้คอก็หันมองตามก้าวเดินของผมจนแทบจะหมุนรอบ

พอขึ้นมาชั้นบนก็เห็นพี่ริชที่กำลังเดินซดกาแฟอยู่ปรายตามามองแล้วถึงกับชะงักไป แก้วกาแฟถือค้างไม่ต่างจากไม้ถูพื้นของป้าข้างล่าง ส่วนผู้ชายในอุดมคติของผมนั้นไม่สนเรื่องราวของใครอยู่แล้ว และแน่นอนว่าจะพลาดไอ้โป้ยไปได้อย่างไร

ไอ้เพื่อนรักชะงักมือค้างกับคีย์บอร์ด จับจ้องพี่ปูนทีผมทีอย่างสับสนระคนงงงวย จนกระทั่งลูกพี่มันเดินอึนๆ หายเข้าไปในห้องทำงานนั่นแหละ เป้าสายตาจึงตกมาที่ผมแบบเต็มๆ ไอ้โป้ยใช้สายตาจิกผมชนิดที่ว่าพรุนได้ทั้งตัว มันออกคำสั่งให้ผมส่ายตูดไปหามันผ่านกระแสจิต ความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนพุ่งขึ้นพรวดๆ จนผมรู้สึกได้

ผมพยายามทำตัวให้นิ่งเข้าไว้เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปูนถูกตีแผ่ มันจะดูไม่ดีกับพี่ปูนที่เป็นเจ้านาย และที่สำคัญคือการที่ผู้ชายแมนๆ อย่างพี่ปูนต้องตกเป็นเมียผม มันอาจจะทำให้พี่ปูนดูอ่อนด๋อยในสายตาผู้ชายคนอื่นได้ ถึงผมจะมั่นใจว่าถึงบอกไอ้โป้ยไปมันก็คงไม่ปูดให้ใครฟังแน่ แต่ผมก็ไม่ควรเสี่ยง


เพราะเมียผมอาจจะเขิน


“หมายความว่าไง?”   มันยิงคำถามเปิดประเด็นทันที แต่ผมแสร้งเลิกคิ้วใส่มันเหมือนว่าไม่เข้าใจ   “อย่ามาทำใสไอ้ลุง มันไม่เข้ากับหนังหน้ามึง”

สึด!! เหน็บกูซะงั้น   “ก็กูไม่เข้าใจ มึงสงสัยอะไร?”

“มึงกับพี่ปูนไปสงบศึกกันตอนไหนวะ?”   มันปัดการแถของผมตกท้องร่องในทันที   “กูนึกว่าฟ้าถล่มแผ่นดินทลายแต่เช้า มึงกับพี่ปูนแม่งอย่างกะทอมแอนด์เจอร์รี่ แต่วันนี้มึงดันเดินสงบเสงี่ยมตามเขาต้อยๆ”

“มึงมโนไปไกลแล้ว ก็แค่เจอกันโดยบังเอิญหน้าออฟฟิศ”

“จริงอ่ะ”

“ไม่เชื่อแล้วจะถามเพื่อ?”   ผมทำไม่สนใจ เลื่อนเก้าอี้กระแทกตูดนั่งไปตามเรื่อง

“แต่จิตสัมผัสของกูมันบอกว่ามีอะไรมากกว่านั้น”

“จิตสัมผัสมึงป่วยแล้ววีรภาพ พามันไปหาหมอซะ”  คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานเมื่อถูกเปิด ผมพยายามใส่ใจใบหน้าไม่ไว้วางใจของไอ้โป้ยให้น้อยที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นผมอาจจะหลุดอะไรออกมาให้เป็นที่จับผิดได้

“ก็ได้ถ้ามึงว่างั้น”   ไอ้โป้ยคล้ายจะยอมแพ้ แต่...   “แต่อย่าให้กูจับได้ทีหลังนะว่ามีอะไรในกอไผ่”

ผมไหวไหล่ให้คำขู่แบบเด็กๆ ของเพื่อนโป้ย และเริ่มต้นใช้ไฟฟ้าของบริษัททำงานต่อจากที่ค้าง งานในคราวนี้ก็เป็นงานที่ไปถ่ายรูปกับพี่ปูนเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งดีอยู่อย่างตรงที่ทุกภาพประกอบนั้นเป็นฝีมือจากตัวเอง เพราะงั้นการเลือกภาพที่ต้องการจึงเป็นเรื่องง่าย แต่เรื่องที่ยากสำหรับผมผู้มีจินตนาการเป็นเลิศคือการตะล่อมตัวเองให้เข้าร่องเข้ารอยตามการบรีฟที่ได้ฟังมา ไม่อย่างนั้นผมคงได้ถูกพี่ปูนเหน็บแนมอีกรอบ

“มีนัดหรือครับลูกพี่”   เสียงไอ้โป้ยดังขึ้น แต่ผมต้องฝืนตัวเองไม่ให้หันไปมอง เพราะลูกพี่มันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่ปูน   “โชคดีครับพี่”

ผมไม่ได้ยินหรอกว่าพี่ปูนตอบมันว่าอะไร แต่ผมเดาว่าก็คงแค่พยักหน้างึกๆ ให้แล้วเดินจากไปมากกว่า  แล้วปกติไอ้โป้ยมันทักพี่มันอย่างนี้เมื่อไหร่วะ ผมเดาว่าที่มันร้องทักซะเสียงดังขนาดนี้คงเพราะอยากจะชมว่าผมมีปฏิกิริยายังไงต่างหาก เห๊อะ! ผมไม่ยอมให้มันสมหวังง่ายๆ หรอก

“พัทลุง...”   เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นไม่กี่วิหลังจากนั้น พี่ปูนทำเอาผมไม่อาจปรายตาไปมองไอ้โป้ยที่นั่งข้างๆได้

“ค...ครับพี่ปูน”

“ตอนเย็นเดี๋ยวพี่กลับมารับนะ -- รอด้วยล่ะ”

แล้วคุณเมียล่ำๆ ของผมก็เดินจากไป ทิ้งไว้แต่หยดเหงื่อซึมตรงขมับของผม กับสีหน้ามาดร้ายของไอ้โป้ย

“กูว่าจิตสัมผัสของกูก็ปกติดีนะ”   มันพูดขึ้นมาลอยๆ หลังจากพี่ปูนเดินลงบันไดไปแล้ว

“จิตสัมผัสหรือว่าความเสือก? มึงนิยามให้แน่”

ไอ้โป้ยไม่ตอกกลับหรือว่าถกเถียงอะไรต่อ มันแค่โปรยยิ้มร้ายๆ ใส่ผมก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


และมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ


ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องเข้าใจว่าไอ้พี่ปูนมันต้องการแกล้งผมให้ได้อายเป็นแน่ แต่ในเมื่อตอนนี้มันกลายมาเป็นยอดชู้ประตูดินของผมแล้ว การจะคิดแบบนั้นก็เหมือนการใส่ร้ายป้ายสีให้คนรัก ซึ่งสุภาพบุรุษที่ดีมิควรทำอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นผมจึงเดาได้ว่าพี่ปูนต้องติดธุระด่วนขึ้นมา ทำให้ไม่อาจมาตามคำที่บอกต่อหน้าธารกำนันได้ แต่ก็นับว่าเป็นการดีที่ผมไม่ต้องมานั่งเครียดกับสายตาจับผิดของไอ้เพื่อนโป้ยที่ถึงขนาดทำตัวติดผมไม่ห่าง

แต่จะให้ผมเงียบเฉยไปเลยก็ดูจะไม่ใส่ใจเท่าที่ควร จากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นสอนให้ผมรู้ว่า ผู้ชายควรทำการติดต่อคนรักอย่างสม่ำเสมอถ้าไม่อยากมีปัญหาเรื่องการไม่ใส่ใจ -- เหมือนอย่างที่ผมโดนกล่าวหามาตลอด -- ผมก็ไม่เข้าใจว่าคนเราต้องการการสื่อสารอะไรมากมายนัก ทั้งที่เพิ่งแยกกันไปไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ ทำไมจะต้องโทรหา ต้องส่งข้อความบอกว่าคิดถึง ทั้งที่ความรู้สึกมันยังเดินไปไม่ถึงตรงนั้นเลยแท้ๆ ผมอุตส่าห์เว้นพื้นที่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเป็นส่วนตัวบ้าง แค่ไม่ติดต่อสามหรือสี่วันเท่านั้นแต่กลับโดนกล่าวหาว่าไม่ใส่ใจ

ดังนั้นผมต้องเอาความผิดพลาดจากคนก่อนๆ มาเป็นบทเรียน

[พี่ไม่มารับผมเหรอครับ?]

ข้อความถูกส่งออกไปด้วยปลายนิ้ว ผมมองหน้าจออยู่สักพักก่อนที่ข้อความล่าสุดนั้นจะถูกอีกฝ่ายอ่าน ผมเลยรีบพรมนิ้วชี้ลงบนหน้าจออีกครั้งเพื่อส่งข้อความต่อไป

[งั้นผมกลับบ้านแล้วนะพี่]

รอเกือบนาทีแต่ก็ไร้การตอบกลับ ผมจึงจัดแจงข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านอย่างจริงจัง แต่เมื่อสองเท้าก้าวพ้นประตูออฟฟิศเท่านั้นแหละ เสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้น ผมหยุดยืนเพื่อเปิดดูข้อความที่ส่งมาจากเซ็กซี่กายคนเดิม มันเป็นแผนที่ที่ถูกแชร์มาให้ สถานที่ตั้งคอนโดบริเวณใกล้อนุสาวรีย์ชัย ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก และถ้าผมจำไม่ผิดนี่คือสถานที่ตั้งคอนโดมีเนียมของพี่ปูน

[ชั้น18 ห้อง1802]

ผมนี่เบ้หน้าใส่มือถือจนผิดรูปไปเลย คืออะไรวะ? พี่ปูนแม่งต้องการอะไรจากผมถึงได้ส่งที่อยู่มาซะละเอียดแบบนี้
 
[จะให้ผมไปเหรอพี่?]   ความสงสัยผมที่กลั่นเป็นตัวหนังสือถูกส่งขึ้นไปบนหน้าจอ และไม่กี่วินาทีต่อมาข้อความจากอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา

[ไม่อย่างนั้นจะส่งที่อยู่มาทำไม]
[จะซื่อก็ให้มันน้อยๆ หน่อย]

ไอ้หน้าหนังปลาดุก!!

นี่มันหลอกด่าว่าผมโง่ใช่มั้ย!? เอ๊ะ? หรือไม่ใช่? ไม่หรอกน่า...ผมไม่ควรคิดแง่ร้ายกับเมียตัวเอง มันบอกว่าผมซื่อนี่นา แลดูน่าเอ็นดูจะตาย พี่ปูนมันคงหวังดีไงเลยเตือนผม ก็คนซื่อๆแม่งอยู่ในสังคมลำบากนี่นะ

[ขอบคุณที่ตักเตือนครับพี่]

และในเสี้ยววินาทีต่อมา ข้อความสรรเสริญก็เด้งขึ้นหน้าจอพร้อมกับสติ๊กเกอร์สื่ออารมณ์ชัดเจน

[...กวนตีน]

เอาวะ...เมียด่าแปลว่าเมียรัก....





ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำกว่าที่รถเมล์จะฝ่าการจราจรที่แสนจะสะดวกสบายในยามเย็นเพื่อมาถึงที่หมาย สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากผู้ชายใช้แรงงาน ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เหงื่อไหลโทรมกายตั้งแต่หน้าผากจรดร่องตูด กางเกงในผมนี่เหมือนเขื่อนร้าวใกล้แตกเข้าไปทุกทีเพราะอุ้มน้ำเอาไว้

อย่าไปสนใจเรื่องใต้ร่มผ้าผมเลยครับ

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเดินมาถึงคอนโดแห่งหนึ่งในเมืองกรุง มันไม่ได้ดูหรูหราอย่างที่ผมคิด เหมือนคอนโดทั่วๆ ไปที่แลดูแพงกว่าปกติเล็กน้อย เมื่อก่อนหน้าจะเกิดเรื่องมโนของผมนั้นมันวาดภาพไว้ประมาณว่าต้องเป็นอะไรที่หรูหรากว่านี้ อย่างมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดหรือมีลิฟต์สำหรับนำรถไปจอดได้ถึงบนห้อง อันที่จริงผมก็ไม่รู้ว่าพี่ปูนรวยขนาดไหนหรอกนะ แต่ก็ไม่คิดว่าสถานที่อยู่จะแลดูธรรมดาขนาดนี้

ผมสามารถเดินเข้าอาคารไปได้ง่ายๆ โดยมีแค่สายตายพี่ยามปรายตามองมาแบบคนง่วงนอน และเมื่อลิฟต์โดยสารขึ้นมาถึงชั้นที่ผมต้องการก็พบว่าทั้งชั้นนั้นมีเพียงแค่สี่ห้องเท่านั้น ผมไล่สายตาไปยังหมายเลขประตูแต่ละบานจนกระทั่งบานสุดท้ายสุดทางเดิน ไม่มีกริ่ง ไม่มีดอร์โฟน ผมเลยเคาะด้วยหลังมือล้วนๆ

“มาช้าจริง”   ประโยคต้อนรับแรกทันทีที่มันเปิดประตู เดาว่ามันคงส่องผมผ่านตาแมวมาแล้ว

“เอ่อ...รถมันติดครับพี่”

“เข้ามาก่อนสิ”   ว่าแล้วคุณชายก็กระตุกมือผมให้ตามเข้าไป

เสียงประตูปิดลงสลักเองอัตโนมัติทำผมเสียวสันหลังเบาๆ  แต่ทันทีที่พ้นทางเดินสั้นๆเข้ามาเท่านั้นแหละผมก็เจอสิ่งที่ทำให้ผมเสียวยิ่งกว่า พี่ปูนปล่อยมือผมแล้วเดินไปผายมือยังรอบห้องราวกับอวดบรรยากาศ แต่ไม่เลย...มันไม่ใช่เลย ครั้งสุดท้ายที่เห็นมันไม่ได้เป็นหนักถึงเพียงนี้!

“ทำไม...ทำไมมันโสโครกอย่างนี้ล่ะพี่!!”

ผมครางเสียงหลงรับกับเสียงหัวเราะขึ้นจมูกของคนโดนประณาม ไม่ว่าจะดูตรงไหนก็เหมือนกันไปหมด ทั้งลิฟวิ่งรูม เคาท์เตอร์ครัว มีทั้งเศษขยะจากอาหารสำเร็จรูปมากมาย ฝุ่นผง หรือแม้แต่ชามที่ยังไม่ได้ล้างในอ่าง นี่มันคืออะไรกันวะ! สถานที่อยู่อาศัยที่ถูกยึดครองด้วยความสกปรกนี่คืออะไร? ทำไมพี่ปูนถึงได้ไร้ความสะอาดถึงขนาดนี้

“พอดีว่าแม่บ้านประจำลาไปธุระ เลยไม่มีคนมาทำแทนน่ะ”

“แล้วเขาไม่ส่งคนอื่นมารึไงครับ”

“ส่งมา แต่พี่ให้กลับไป”   

เพื่อ!!??  ในเมื่อห้องมันเละเทะขนาดนี้แล้วยังจะไล่ไปเพื่ออะไร

“พี่ไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาวุ่นวายที่ส่วนตัว”

ถ้าหน้าผมมันขึ้นแสดงตัวอักษรได้คงหราไปด้วยคำว่า ‘ทำไม’  ผมหันมองทั่วห้องอีกครั้ง เอาจริงๆแล้วถึงเครื่องเรือนจะดูมีราคาขนาดไหน แต่มันก็ยากเกินกว่าจะหยิบฉวยไปได้ง่ายๆ และที่สำคัญมันยังโล่งแสนโล่งประหนึ่งห้องตัวอย่างก็ไม่ปาน อย่างกับว่าพี่แกไว้แค่ซุกหัวนอนเท่านั้น

“แล้วที่เรียกผมมา?”

“ก็นี่ไง”   พี่ปูนผายมืออีกครั้ง  “อย่างที่พี่บอกไงว่าให้ดูแลพี่อย่างดี”

เวรของกรรม!!! 
   


“เครื่องล้างจานพี่ก็มี! เสีย!! โอ๊ย...แล้วทำไมพี่ไม่ตามช่างมาซ่อม”

“อี๋~ พี่ปูนนี่มันซากตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แหวะ!”

“ไอ้พี่ปูน!! ทำไมกางเกงในพี่ถึงมาอยู่ในตู้เก็บของ”

“ต...ตู้เย็นเหม็นเป็นบ้า!! โอ๊ย แหวะ! ผมจะอ้วก”

“แม่งเอ๊ย!! พี่ปูน!! มะเขือเทศพี่แม่งเละคามือผมเลยเนี่ย!!”



ทั้งห้องมีแต่เสียงผม

ผมบ่น แล้วก็บ่นจนรู้สึกว่าคอจะแตกเสียงจะแหบซะให้ได้ แต่ไอ้เจ้าของห้องก็ยังเฉยเมยไร้เสียงตอบรับหรือแสดงความละอายใจใดใด มันนั่งกางแขนกางขาบนโซฟาตัวใหญ่แล้วดูโทรทัศน์ไปเงียบๆ แม้จะได้ยินเสียงขบขันลอยมาในบางครั้งที่ผมโวยวายบ้างก็ตาม ผมไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพี่ปูนจะเป็นโสมมแมนได้ขนาดนี้

“นึกว่าจะดีแต่บ่นซะอีก เก็บกวาดเก่งนี่หว่า”   เสียงชื่นชมดังลอยมาจากข้างหลัง

ผมปาดเหงื่อจากหน้าผากทิ้งด้วยความเหนื่อยหน่าย หลังจากปิดประตูติดผนังสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดลง ร่างมอมแมมของผมจึงได้หันกลับไปมองคนที่กำลังกอดอกพิงกำแพง ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มราวกับสาแก่ใจนักหนาที่เห็นผมแทบล้มทั้งยืน ผมหมดแรงซ้ำยังเริ่มเจ็บคอจากการบ่นอย่างต่อเนื่อง และแม้ใจอยากจะตอกกลับไปแค่ไหนผมก็ทำเพียงยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา

“งั้นผมกลับนะพี่”   แม้แต่จะยกมือขึ้นหวัดดียังไร้เรี่ยวแรง ไม่คิดเลยว่าผมจะหลงมัวเมาอยู่ในวังวนความสกปรกมาหลายชั่วโมง จนตอนนี้ห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้วและเดาว่าผมคงไม่พ้นต้องเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน

“ไปอาบน้ำก่อนสิ”   พี่ปูนเอ่ยชวนง่ายๆ อย่างกับบอกว่าให้ไปล้างมือ

“ไม่ล่ะพี่ มันดึกมากแล้ว”

“ไปอาบเหอะว่ะ ตัวเหม็นขนาดนี้แท็กซี่คงให้ขึ้นหรอก”

ผมยกจั๊กกูแร้ขึ้นดมอย่างไม่อายในทันที อืม...ก็มีกลิ่นเหงื่อพอดูอะนะ แต่ก็ยังไม่นับว่าถึงขั้นเหม็นเปรี้ยว แท็กซี่คงไม่เตะโด่งออกจากรถหรอกมั้ง

“ไปซะ พี่จะหาเสื้อให้เปลี่ยน”   

“เอ่อ...ไม่ต้องหรอกพี่”   ผมก็ยื้อแขนไว้สุดแรง แต่แทนที่มันจะยื้อกลับดันปล่อยข้อมือผมซะงั้น แล้วกูจะเป็นไงล่ะสึด?  ผมล้มก้นจ้ำเบ้าเต็มๆ ไอ้พี่ปูนหันมามองพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามข่มอมเอาไว้ในปาก สีหน้าแม่งขบขันสุดๆ

“ทำความสะอาดแค่นี้ถึงกับเข่าอ่อนเลยเหรอ?”

“ไอ้! -- ฮึ่ม! -- แค่เมื่อยอะพี่ นี่ก็ลงมานั่งเล่นๆ”   ผมกัดฟันตอบกลับไป ตูดนี่ปวดตุบๆ แม่งเลวจริงๆ จะขอโทษผมสักคำก็ไม่มี ไอ้พี่ปูนหัวเราะขึ้นจมูกใส่หน้าผมเสร็จก็ยื่นมือส่งให้ผมใช้ยึดเพื่อลุกขึ้น ใจอยากจะแกล้งฉุดแม่มลงมาด้วยกัน แต่กลัวจะโดนเอาคืนหนักกว่า เลยจำต้องลุกขึ้นมาแบบไร้พิษสง

พี่ปูนพาเดินอ้อมไปยังอีกด้านของห้องนั่งเล่น ขึ้นบันไดเล็กๆ ตรงไปยังชั้นลอย อันเป็นที่ตั้งของห้องนอน ซึ่งการตกแต่งนั้นเรียกได้ว่าเป็นห้องตัวอย่างดีดีนี่เอง พี่ปูนเดินไปยังมุมวอร์คอินโครเซต เลือกผ่านๆ ก็ได้ติดมือมาชุดหนึ่ง แล้วกลับมายื่นส่งให้ผม

“ใส่นี่แล้วกัน ไปอาบซะ-- สกปรก”

อ๊ากกก!! น้ำหน้าอย่างมันไม่มีสิทธิ์กล่าวหาใครว่าสกปรกได้หรอกนะ ไอ้โสมมแมน!

ทันทีที่ไอ้เจ้าของห้องเดินทอดน่องออกไปผมก็ลุกขึ้นยืนกระแทกส้นเท้าเดินเข้าห้องน้ำไปบ้าง ตอนแรกผมกะแค่อาบๆให้น้ำผ่านตัวเท่านั้น แต่พอมาเห็นห้องน้ำแบบที่ถอดมาจากแมกกาซีนทั้งดุ้นแบบนี้ความอยากลองก็ตีตื้นขึ้นมาตงิด เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมได้เห็นอ่างจากุชชี่ระยะประชิดขนาดนี้ อ่างสีขาวสะอาดเข้ามุมกว้างขวางขนาดที่ว่าผู้ชายตัวควายสองคนเข้าไปสิงสู่พร้อมกันได้ ในครั้งแรกรีบร้อนจนไม่ได้สนใจ แต่คราวนี้ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรหรอกครับในเมื่ออ่างน้ำวนมาให้ลองอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้าของเขาก็บังคับให้มาอาบเองก็คงไม่ต้องเกรงใจกันหรอกเนอะ ผมรีบตระเตรียมเปิดน้ำใส่อ่างแล้วไปอาบน้ำชำระคราบไคลเสียก่อน

“อา~”

และเมื่อถึงเวลาหย่อนก้นสัมผัสผิวน้ำอุ่นจัดๆ แล้วมันสบายตัวที่สุด ผมเหยียดตัวนอนแช่ให้คลื่นน้ำวนนวดตัวไปเรื่อยๆ ปิดตาลง ปล่อยใจผ่อนคลายไปกับความสบายที่ไม่เคยเจอมาก่อน  อา... หรือผมควรจะทุ่มเงินเก็บไปกับการปรับปรุงห้องน้ำแล้วถอยเจ้าอ่างสวรรค์นี้มาสักเครื่องนะ ไม่ๆ ผมไม่ควรใจเร็วด่วนได้ขนาดนั้น... แต่แม่งเอ๊ย!!! สบายชิบหายเลยว่ะ~


.
.
.

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook

.
.
.


“ลุง...”

ความเย็นสบายทำให้ผมไม่อยากจะลืมตาขึ้นมา และนั่นทำให้ผมหันหลังให้กับเสียงเรียกชื่อ ผ้าห่มผืนหนาถูกปลายเท้าผมตะกุยเป็นก้อนมากอดซุกหว่างขาเอาไว้ มันนุ่ม อุ่นแล้วก็หอม อากาศเย็นน่าขดตัวขนาดนี้ผมไม่ลุกให้โง่หรอก...


เดี๋ยวๆๆ


ทำไมมันเย็นล่ะ? แล้วผ้าห่มมาจากไหน? อ่างจากุชชี่รุ่นอะไรวะ?

พัทลุง!

ผมกระเด้งตัวลุกทันทีเหมือนโดนจิกหัวขึ้นมา สองตาผมยังมึนงงไม่ต่างจากหัวสมองที่งงงวย ผมมองรอบห้องด้วยสองตาที่รู้สึกได้ว่ามีขี้ตาเกาะอยู่ มันไม่ใช่ห้องน้ำแน่ล่ะ แต่ผมมาอยู่นี่ได้ยังไง? โอเค -- มันเป็นห้องนอน และผมกำลังนั่งอยู่บนเตียง อืม...เด้งดีเสียด้วย


เป้าะ!!


เสียงดีดนิ้วเรียกสองตาผมให้หันไปมองใครคนหนึ่ง ที่กำลังนั่งมองมาที่ผมด้วยหัวคิ้วขมวดมุ่น ผู้ชายคนนี้นั่งหันหลังให้ประตูกระจกที่ถูกแสงแดดผ่านลอดม่านบางๆ เข้ามาอาบร่างไว้ ช่างเป็นผู้ชายที่ดูดีแบบไม่ปรึกษาใครจริงๆ ตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะไม่เถียงกับไอ้โป้ยเรื่องผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ทั้งที่ดูก็รู้ว่าพึ่งตื่นมาเหมือนกันแล้วทำไมสวรรค์เสกสรรให้หนังหน้าผมกับเขาต่างกันเช่นนี้ หน้าผมคงบวมเปื่อย แต่กับเซ็กซี่กายคนนี้กลับ...

“พี่แม่งโคตรหล่อเลยรู้ตัวป่ะ...”

เดี๋ยวนะ? กูพูดเชี่ยอะไรออกไปเนี่ย

“หึหึ ก็ฟังมาจนเบื่อแล้วล่ะ”

นี่ก็ไม่มีถล่มตัวเอาซะเลย!

สติผมเริ่มเข้าร่างหลังจากฟังเสียงหัวเราะขึ้นจมูกของพี่ปูน ผมเริ่มประมวลสิ่งแวดล้อมรอบตัวอีกครั้ง พี่ปูนกำลังนั่งขัดสมาธิโชว์แผงอกล่ำสันกับหน้าท้องเป็นลอนคลื่นน่าลงไปเซิร์ฟเล่น ต่ำลงมาคือขอบกางเกงยางยืด ส่วนผมนั้น...เฮ้อ...เสื้อกางเกงครบชุด ขอบคุณสวรรค์

“เอ่อ ผมมาอยู่นี่ได้ไงอ่ะพี่”

“แกหลับในห้องน้ำ หัวห้อยคาอ่าง พี่เลย --”

“พี่เลยปลุกผมตื่นให้เดินมาแต่งตัวนอนเองใช่มั้ยครับ?”   ผมรีบพูดแทรกด้วยใจหวั่นระทึก

“พี่เลยอุ้มแกขึ้นมาเช็ดตัวให้ แต่งตัวให้ แล้วก็นอนกอดให้ด้วย”

สวรรค์ทำไมทำกับลุงอย่างนี้!

“อันที่จริงพี่ปลุกผมก็ได้”

“ถ้าปลุกแล้วตื่นจะต้องอุ้มขึ้นมามั้ย?”   

หมดกันศักดิ์ศรีของคนเป็นผัว... ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าใครต่อใครรู้ว่าผมถูกเมียตัวเองอุ้ม แถมยังแต่งตัวให้อีก แม่เจ้า!! หนอนน้อยของผมคงแผ่หลาให้พี่ปูนเชยชมแล้วสินะ พี่ปูนจะรู้สึกอะไรรึเปล่าที่ฝ่ายรุกแบบผมกระบองเล็กกว่า แต่ของอย่างนี้มันอยู่ที่เทคนิคและลีลานี่นะ  ไม่ใช่สิ มันใช่เรื่องที่ผมต้องมาเครียดรึไง

“พี่ปูน...คือ...ผมไม่ได้ เอ่อ...ไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ป่ะ”

“จะทำอะไรได้วะ แกนอนหลับสนิทขนาดนั้น”   พี่ปูนพ่นลมหายใจที่คลับคล้ายจะสมเพชผม ก่อนที่รอยยิ้มจากริมฝีปากบางจะเด่นขึ้นอย่างน่ากลัว

ผมถอยกรูดโดยอัตโนมัติ ไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนกันแต่รอยยิ้มของพี่ปูนโคตรเจ้าเล่ห์ คนเป็นผัวอย่างผมกำลังสะพรึงกับเมียกล้ามแน่นที่กำลังคืบคลานมาใกล้จนถึงระยะได้เสีย หวั่นวิตกยังน้อยไปในหัวผมตอนนี้ เพราะความรู้สึกพรั่นพรึงมันฉาบไปทั้งร่างผมแล้ว พี่ปูนแม่งจะทำอะไรผมวะเนี่ย!

“เอ่อ...พี่ถอยไปหน่อยก็ได้ป่ะ มาคร่อมกันอย่างนี้มันคุยกันไม่สะดวกหรอก”   ปลายนิ้วผมสั่นระริกยามจิ้มไปกับผิวเนื้อตึกแน่นเพื่อผลักไสความคุกคามให้พ้นตัว แต่กลับถูกอีกฝ่ายรวบมือไว้ซะงั้น   “พี่ปูน!”

“ลุงถามเหมือนว่าอยากทำอะไรพี่”   

เสียงต่ำเอ่ยเนิบนาบติดใบหูผม -- อ่อยสินะ! มึงอ่อยกูแน่ๆ พี่ปูน แต่ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกคึกคักเอาซะเลยแต่กลับเสียวสันหลังวาบๆ อย่างกับว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมนิ่งค้างกับความใกล้ชิดที่เกินพอดี โอยยย...แม่งหล่อจริงอะไรจริง ยิ่งมันพามือผมลูบหน้าอกมันไปมา ขนทั้งตัวถึงกับลุกซู่ สองตาผมตะลึงงันอยู่ที่ฝ่ามือตัวเองที่กำลังถูกพาให้ลากเลื้อยไปบนกล้ามท้องแน่น ลูกที่หนึ่ง...ลูกที่สอง...

“วันนั้นที่ตื่นขึ้นมาลุงก็ลูบตัวพี่ใหญ่เลยนี่”

โอยยย...ลูกที่ห้า  ลูกที่หก -- ท...ทำไมหน้าผมร้อนอย่างงี้วะเนี่ย!!!

“แถมยังขยำตรงนี้”

แม่เจ้า!!! ไอ้พี่ปูนมันพามือผมลงไปกุมเป้ามันในที่สุด เต็มไม้เต็มมืออย่างที่ผมต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก

“ปล่อยเหอะพี่ คือ...คือ...มันไม่ดีมั้งครับ”   ผมปากคอสั่นไปหมด แต่สองตาก็ไม่อาจละจากอุ้งมือตัวเองที่กำลังถูกทำให้กอบกุมพวงเครื่องปรุงของพี่ปูน คลึงมันแล้วคลึงมันอีกจนแตงกวากลายเป็นแตงร้าน

“ไหนว่าเราเป็นผัวเมียกันไง?”

เออ มันก็จริง   “ง...งั้นพี่จะให้ผมทำไงอ่ะ”

ทันทีที่ผมเงอะงะพูดออกไปสีหน้าไอ้พี่ปูนมันฉายแววเจ้าเล่ห์สุดขีด เหมือนผมเป็นหนูที่พร้อมใจกระโดดลงไปตายในรังงูด้วยตัวเองเลย

“ล้วงเข้าไปดิ”

“ล...ล้วง!!!”   

ยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยด้วยซ้ำมันก็จับมือผมล้วงเข้าไปในกางเกงมันทันที ขนผมลุกซู่ทั้งตัวเมื่อนิ้วเลื้อยผ่านพงหญ้าแพรกของมันลงไปจนปะทะกับแตงร้านเกรดเอ และเมื่อมือกำเข้ากับเป้าหมายได้สำเร็จมันก็ปล่อยมือผมให้เป็นอิสระ มือผมกำหะหรำมันอยู่ในระหว่างที่สองตาก็มองจ้องกันเหมือนวัดใจ แต่ไม่เลย...กูสับสนมาก ผมควรจะทำยังไงต่อดี มันเป็นเช้าที่ต้องตื่นเพื่อไปทำงาน ไม่ใช่ตื่นเพื่อมากุมไข่ผู้ชายแบบนี้

“จะกุมมันไว้ทั้งวันก็ได้นะ”   เสียงพี่ปูนดูจะขบขันเล็กน้อย มันขยับตัวไปมาเพื่อให้อยู่ในท่วงท่าที่สบายโดยมีอุ้งมือผมประคองแตงของมันไปด้วย

“พี่จะให้ผมทำไงอ่ะ”   ผมถามปากคอสั่นเมื่อพี่ปูนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้แล้วแนบริมฝีปากกับแก้มผม มันซุกไซ้จนรู้สึกสยิวปนสยอง

“ไม่เคยว่าวรึไง”

สั้นและได้ใจความมากครับเพ่!

“พ...พร้อมนะพี่”

มันจูบไซ้คอผมไปมาพลางตอบด้วยเสียงหื่นจนน่ากลัว   “พร้อมตั้งนานแล้ว”

นับว่าเป็นครั้งแรกที่มือขวาของผมต้องไปบรรเลงเพลงกระบี่กับชายอื่น มันก็เหมือนผมนั่นแหละที่ไม่เคยแตะต้องชายใดมาก่อนก็เลยมีขัดเขินกันบ้าง อย่างน้อยๆ ก็เท่าที่จำได้น่ะนะ ผมเลยเริ่มจากการคลึงเค้นของในมือก่อนเป็นอันดับแรก พอได้ยินเสียงฮึมฮัมอย่างพอใจจากพี่ปูนผมก็เริ่มสเตปสอยไข่มดแดงอย่างช้าๆ

จากนั้นแตงร้านมันก็กลายร่างเป็นหัวไชเท้า

ผมเริ่มสปีดเร็วขึ้นอีกนิด ไอ้พี่ปูนก็ไซ้ผมไปทั่วซ้ายบ้างขวาบ้างจนผมเริ่มจะเคลิ้มๆ ตามแล้ว ก็นะ...ผมเองก็เป็นผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พอโดนแตะเนื้อต้องตัวในเชิงนั้นมากเข้ามันก็ปึ๋งปั๋งกันได้ และต้องบอกตรงนี้เลยว่าพี่ปูนมันคงโชกโชนมามากเพราะแค่มันเห็นผมโอนอ่อนผ่อนตามเท่านั้นมันก็ล้วงมือเข้ามาจกลูกรักผมทันที

“อื้อ!! พี่ปูนไม่ต้อง”   ปากเนี่ยปฏิเสธ แต่ตัวนี่แอ่นให้จับไปแล้ว

“เอาน่าผัวเมียกันอายอะไร”


เออ มันก็จริง...


แต่ผมเป็นผัวป่ะวะ! มันย่อมไม่ดีถ้าจะให้พี่ปูนมาทำเคลิ้มอยู่ฝ่ายเดียว เพราะงั้นผมเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่ปูนบ้างเพื่อหอมแก้ม แม้จะรู้สึกว่ามันชะงักไปนิดหน่อยแต่ผมก็ไม่สนใจก้มหน้าก้มตาไซ้คอมันคืนบ้าง แล้วเหมือนมันตั้งสติได้เลยกลายเป็นว่าผมกับมันนัวเนียกันใหญ่ มันบี้นมผม ผมก็บี้มันคืนบ้าง มันกัดนมผม ผมก็แอ่นให้มันกัดบ้าง...เอิ่ม...อารมณ์มันพาไปอ่ะครับ...

จนกระทั่งเมื่อผมรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าขีปนาวุธที่อเมริกาเฝ้าตามหาที่แท้อยู่ในอุ้งมือของผมนี่เอง

เสียงหอบหายใจดังกระเส่า ในหัวมึนงงร้อนฉ่าจนคิดอะไรไม่ออก ไอ้พี่ปูนมันสบถเชี่ยๆ แม่งๆ ข้างหูผมได้อย่างไม่ขาดตอน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ส่วนมากถ้ามันอยากจะให้ผมรับรู้มันก็จะพูดกรอกหูซ้ำไปมาสลับกับจูบขมับผมไปด้วย

“เสียวว่ะ”

“อื้อ”   ผมก็ตอบรับมันไปมั่วซั่วเพราะสติมันเตลิดไปหมดแล้ว

“เมื่อวานตอนพี่อุ้มแกขึ้นมา อา... ก้นลุงแม่ง!”

“อื้อๆ”

“โคตรน่าฟัดชิบ! แต่พี่ก็รู้อยู่แล้วน่ะนะ”

“อื้อๆ”   

“ซี๊ดดด...เห็นแล้ว ซี๊ดดด... อยากว่ะ”

“พี่ปูนๆ ผมจะไปแล้ว”   อา...มือแม่งพลิ้วสุดๆ ผมเห็นสวรรค์ที่ปากทางอยู่รำไร

และด้วยความด๋อยกว่าผมก็เลยเกิดอาการแตะขอบฟ้าเป็นคนแรก มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่อย่างบอกไม่ถูก ผมไม่เคยถูกไซ้อย่างนี้มาก่อน แฟนทุกคนที่ผ่านมาไม่เคยเขมือบนมผมอย่างเอร็ดอร่อยขนาดนี้ หรือเพราะว่าการเป็นผู้ชายด้วยกันมันเลยทำให้รู้จุดอ่อนไหวกันงั้นเหรอ แต่พี่ปูนแม่งเป็นไบนี่หว่า...หรืออาจจะเป็นแค่ความเชี่ยวชาญจากที่มันทำกับผู้ชายมาเยอะก็ได้มั้ง?

“แรงๆ...อา...ลุงขยับเร็ว”   เนื้อตัวมันเกร็งไปหมด ผมก็เลยเร่งจังหวะชนิดที่ว่าข้อมือแทบหัก จนกระทั่งเสียงครางยาวดังออกมาพร้อมการกระตุกหงึกหงักในอุ้งมือผม

เชี่ยเอ๊ย!

น้ำแม่งพุ่งปรี๊ดขึ้นมาถึงปลายคางกระเด็นโดนปากผมด้วย ทุกอย่างหยุดชะงักในทันทีเหมือนโดนกาว ไอ้พี่ปูนเหลือบตาขึ้นมองปากผมแล้วยิ้มชั่วๆ อีกครั้ง

“แลบลิ้นสิ”

ผมว่าง่ายอย่างกะโดนล้างสมอง มือผมก็ยังกำของมันอยู่ ปากก็เผยออ้าแลบลิ้นออกมาตามที่มันสั่งอีก พี่ปูนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ มันแลบลิ้นออกมาตวัดเศษซากลูกๆ มันที่เปรอะเปื้อนบนหน้าผมเพื่อมาส่งให้ถึงลิ้นของผมที่ยื่นรอรับอยู่อย่างไม่ตั้งใจ มันเหมือนมีไฟฟ้าแล่นแปร๊บไปทั่วจนร่างสั่นไหวเบาๆ ผมไม่รู้ว่าไอ้พี่ปูนมันรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า แต่ตอนที่ริมฝีปากของเราประกบกัน หัวไชเท้าในมือผมเหมือนจะกลายร่างเป็นขีปนาวุธอีกครั้งแล้ว

เมียผมนี่สุขภาพดีได้ใจเลย

.
.
.


และเป็นอีกวันที่ป้าแม่บ้านต้องยืนกำไม้กวาดตาค้าง และคราวนี้พี่เปี๊ยกต้องมองมาด้วยสายตาอึ้งกิมกี่ เมื่อผมเดินตามหลังพี่ปูนเข้าออฟฟิศพร้อมกัน ด้วยกางเกงยีนของตัวเองและเสื้อเชิ้ตเรียบหรูไฮโซตัวใหญ่อันไม่ใช่สไตล์ที่ผมใส่อยู่ทุกที แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นดันไปคล้ายคลึงกับเสื้อของคนตัวตัวสูงข้างหน้าที่เดินเอื่อยๆ อย่างกับจะอวดความเหมือนให้ผมได้อาย พี่ปูนแม่งจงใจแกล้งผมแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เลือกเสื้อที่เหมือนกันมาให้ผมหรอก แล้วตัวเองเป็นไง! พอสาสมใจก็สะบัดตูดเข้าห้องไป ทิ้งให้ผมจมอยู่กับสายตาจับผิดของไอ้โป้ย

“จิตสัมผัสกูมันบอกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล”   ไอ้โป้ยพูดกับผม แต่เสแสร้งทำเป็นมองคอมฯ

“ฝากบอกจิตสัมผัสของมึงด้วยว่าอย่าเสือก”


สั้นๆ จบนะมึง...กูอาย!!                 

     


ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดด พัทลุ้งงงงงงงงงง ช่างเป็นผัวที่ประเสริฐอะไรเยี่ยงนี้5555555. เป็นที่แน่นอนละว่าตอนนั้นพี่ปูนไม่ได้เสร็จอิลุงแน่ๆ. มาเสร็จ?ตอนนี้แทน 555555 :katai3: :katai2-1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
พี่ปูนแกล้งผัว(?)แบบนี้ไม่ดีเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด