◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 302402 ครั้ง)

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กลับมาพร้อมความหื่นมากกกกก :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เหมือนลุงจะเริ่มรับรู้สถานะที่แท้จริงของตัวเองแล้วเน๊อะ

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คุณนายดาหลาต้องสงสัยอะไรแน่ๆ พี่ปูนระวังแม่สามีนะ 555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ลุงกลับมาพร้อมความเสียวที่เพิ่มขึ้น
ปุริมใจเย็นมว๊ากกกกกกก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
โธเอ่ย นึกว่าจะเสร็จพี่ปูนซะแล้ว  :hao7:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :z2: สนุกสุดๆ ไปเลยค่าาา ลุงเอ้ยลุง :hao3:

ออฟไลน์ pockypocky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
สงสารลุงวงงงงงงงงง55555 คุณดาหลาสังเกตเห็นอะไรแล้วแน่ๆ พี่ปูนงานงอกซะแล้ว o18

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
มาต่อแล้วววว ดีใจ

สงสารคุณลุงนะเนี่ย ถ้าวันนึงรู้สถานะของตัวเองขึ้นมาจะเป็นยังไง
พี่ปูนรับมือให้ไหวนะ เราจะเชียร์
แต่ตอนนี้ ต้องผ่านด่านคุณนายดาหลาให้ได้ก่อนนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขำ ตรงที่ลุงบีบเจลใส่มือพี่ปูนแล้วเอาไปใส่ที่เดิม อะไรจะปานนน้านน

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ความฉลาดนี้ลุงได้แต่ใดมา

คุณนายฟังเรื่องนิดเดียวก็จับได้แล้ว

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
คุณรู้เรื่องแล้ววว จะไปเจอลูกเขยแล้-- แค่ก
พี่ปูนร้ายยยย 5555

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ใคร ๆ เขารู้กันทั่ว มีแต่ลุงนี่แหละที่ยังสงสัยอยู่

ออฟไลน์ tutatoomtam

  • รัก.................!
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มารอดูลุงโดนพี่ปูนทับ.  เอ้ยยยยยยยยยไม่ช่ายยยยยย :hao7:

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
แพ้ทางพี่ปูนทุกทางเลย


55555


ชาติหน้าก็ไม่ได้รุกนะจ๊ะลุงจ๊า

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
อีกไม่นานหรอก ลุงจะค้นพบสถานะที่แท้จริงของตัวเอง

ออฟไลน์ waiieiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยอมเถ๊อะะะะะลุง คนอ่านรออยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ลุงจะแหย่พี่ปูนที่ไหนได้คดีพลิกโดนแหย่ซะเอง55555 คราวหน้าเจอคุณดาหลาจ้องจับผิดแน่ลุง

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
555 เมื่อน้องลุงจะรู้ว่าอย่างน้อง ลุง นะเมียแน่นอน

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
คราวนี้แหละได้สลับหน้าที่กันสักที

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 14 _ความลับไม่มีในโลก



อย่าได้สงสัยว่าท้ายที่สุดแล้วส้มตำร้านกระเด้งนั้นอร่อยหรือไม่ เพราะกว่าที่ผมกับพี่ปูนจะเกี่ยวก้อยกันลงมากิน ของทุกอย่างบนโต๊ะก็เซ็งจนไม่รู้จะเซ็งยังไงแล้ว แต่จากการพรีเซนต์ของแม่ค้าและรสชาติหมูตกครกที่จกชิมไปก่อนหน้านั้น ผมต้องขอบอกว่าไว้มีโอกาสจะกลับไปชมการกระเด้งอันน่าตื่นตาอีกแน่นอนครับ

หลังจากอิ่มหนำกับอาหารมื้อเย็นที่กลายเป็นมื้อดึก ก็ถึงคราวแปรงฟันแล้วเข้านอน ตัวพี่ปูนไม่ร้อนแล้วเมื่อได้รับการออกกำลังกายติดต่อกันหลายชั่วโมง นับว่าเป็นการเสียเหงื่อที่ได้ประโยชน์มากในครั้งนี้ แม้จะไม่สบายตัวผมสักเท่าไหร่ก็ตาม

‘วันนี้ผมกลับบ้านแล้วนะ แล้วตอนเย็นมีนัดกับคุณดาหลาไปกินสุกี้แล้วก็ช้อปปิ้ง’

นั่นคือสิ่งที่ผมพูดออกไปเมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนในขณะที่แต่งตัวเตรียมพร้อมจะออกจากห้อง ผมกะเวลาให้ออกแต่เช้าสักหน่อยเพื่อเวลาทำงานจะได้มากขึ้นอีกนิด รถไม่ติด ไม่ต้องหงุดหงิดหัวใจ แต่หลังจากพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเริงร่า เจ้าของห้องกลับตีหน้ามุ่ย เดินดุ่มๆ ตรงเข้ามาประทุษร้ายผมชนิดที่ตั้งตัวกันไม่ทัน

“อ๊ะ! อ๊า~ พอแล้วพี่ปูน”

ครับ...นี่คือสภาพปัจจุบัน

จากโถงทางเดินด้านล่างก็ถูลู่ถูกังกันมาจบที่บนโซฟา เสื้อยืดถูกดึงทึ้งไปมาจนค้างเติ่งคาคอ ต่อให้แขนข้างหนึ่งถอดออกไปได้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ส่วนกางเกงยีนส์นั้นถูกโยนทิ้งหายไป กางเกงในก็เช่นกัน... ส่วนคนที่ถูกผมบังคับให้หยุดงานอีกวันนั้นสวมเพียงแค่กางเกงนอนขายาวเดินลงมาส่งเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้ก็ยังอยู่ติดตัวเพียงแค่ถูกร่นลงมาก็กองตรงหน้าขา


ความแตกต่างชัดเจนแม้กระทั่งท่วงท่าที่เป็น


นี่คือเช้าที่อากาศสดใสเหมาะแก่การนั่งรถเมล์ไปทำงาน ไม่ใช่การนั่งคร่อมตัวผู้ชายด้วยกันแล้วกินแตงร้านเป็นอาหารเช้า ใช่! แตงนั้นมีประโยชน์ แต่เมื่อคืนผมก็กินไปเยอะแล้วไม่ต้องการกินเพิ่มอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ชาวสวนผู้โหดเหี้ยมก็ปลุกปล้ำยัดแตงเข้าปากผมจนได้ ไม่ทราบว่ารมต.กระทรวงเกษตรจะจัดการกับพืชผลล้นปากในตอนนี้ได้อย่างไร ตำรวจจะลงโทษชาวสวนเหิมเกริมคนนี้ได้มั้ย

ช่วยหน่อยเถอะครับ...ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ~

“อื้ม! พอแล้วปุริม”  ผมพยายามโหย่งก้นหนี แต่ก็ถูกกดรั้งให้กลับมาสู่ตำแหน่งเดิม  “เอานิ้วออกซะที! ลุงแสบ”

“แต่ทำไมตรงนี้ยังแข็งปั๋งอยู่ล่ะ”  กล่าววาจาหยอกล้อเสร็จปั๊บ หนอนน้อยของผมก็ถูกคว้าเข้าปากคนช่างพูดปุ๊บ นิ้วก็จ้วงเข้าจ้วงออกหลุมแบบไม่กลัวเป็นตะคริว ตอนนี้ผมระบมไปหมด เรี่ยวแรงแทบจะไม่เหลือติดร่าง ไอ้เสียวมันก็เสียวอยู่หรอกแต่มันไม่ใช่เวลา!

ผมปรือตามองของในมือ ตอนนี้แตงร้านเกรดพรีเมี่ยมคงใกล้เวลาเก็บเกี่ยวเต็มที เพราะมันพองใหญ่จนน่ากลัวแถมยังแข็งเป็นเนื้อสาก ถ้าไม่ใส่ปุ๋ยเร่งโตล่ะก็ วันนี้ผมคงไม่ต้องไปทำงานมันแล้วล่ะ -- คิดได้ดังนั้นก็อ้าริมฝีปากกลั้นใจอมแตงเข้าไป พยายามโขกหัวดูดรั้งจนสุดฝีมือ ชาวสวนชั่วก็ไม่รอช้าที่จะงัดเสยช่วยกันเป็นอย่างดี

โอย~ จะอ้วกอยู่แล้วโว้ย

“นิ่มมากเลยลุง...ซี๊ด~”  เสียงหื่นกระหายดังคลอไปพร้อมกับเสียงคราง  “สามนิ้วแล้ว...อา~ พี่อยากจะ...อ๊ะ! อื้ม!!”

แล้วผมก็เก็บเกี่ยวแตงจากสวนนี้ได้อีกครั้ง

เสียงหอบหายใจของพี่ปูนรุนแรงเสียจนร่างผมที่นอนทับอยู่เคลื่อนไหวตามจังหวะเข้าออกของลมหายใจ ผมเองก็เหนื่อยไม่ต่างกันเท่าไหร่ นอนนิ่ง อิงหน้าซบเนินหญ้ามองแตงเหี่ยวๆ ด้วยลมหายใจรวยริน ใบหน้าเปรอะน้ำคาวไปทั่ว ในปากนั้น...อย่าพูดถึงเลยครับ

ผมไม่เคยมีเซ็กส์ที่หยาบโลนลามกสกปรกขนาดนี้มาก่อน การคบกับพี่ปูนนี่ช่างเปิดโลกทัศน์แปลกใหม่ ได้รู้ว่าการมีเซ็กส์นั้นเร่าร้อนแถมยังรุนแรงได้เหมือนในหนัง AV ไม่ใช่แค่การกอดจูบลูบคลำอย่างอ่อนโยนแล้วแพนกล้องไปยังโคมไฟ หรือจูบกันอย่างดูดดื่มแล้วตัดภาพไปจบที่ตอนเช้าเราอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน...ผมเชื่อแล้วว่ามันมีแต่ในละครเท่านั้นเอง ชีวิตจริงมันหยาบโลนกว่านั้นเยอะ พี่ปูนทำให้บทรักที่ผ่านๆ มาของผมกลายเป็นพวกไก่อ่อนไปเลย

“เปลี่ยนท่าหน่อย”  มือใหญ่ตบก้นผมเบาๆ  “มาคร่อมหน้าพี่สิ เดี๋ยวพี่ช่วย”

“ไม่ต้อง...” 

“ลุงยังไม่ถึงเลยนี่”

“พอแล้ว...”  ไม่ใช่ว่าผมอึดถึกกว่าเดิมหรอกครับ แต่น้ำแรกน่ะพี่ปูนได้จากผมไปตั้งครึ่งทางก่อนแล้ว

“ขืนยังซุกหน้าอยู่ตรงนั้น ถ้าพี่จัดให้อีกรอบก็อย่ามางอแงนะ”

เท่านั้นแหละผมถึงได้ยอมขยับตัว พี่ปูนก็ช่วยเหลือจัดท่าทางให้อย่างใจดี เมื่อตั้งหลักได้พี่ปูนก็จัดการรีดพิษหนอนออกไปด้วยเวลาไม่ถึงห้านาที พี่ปูนปล่อยให้ผมนอนเบี่ยงตัวกอดหัวอยู่ท่านั้นเพื่อคลายความร้อนในตัวโดยที่ก้นก็ถูกนวดคลึงไปด้วย บอกตามตรงว่าขาชาจนสั่น หน้าหลุมก็เจ็บแถมในหลุมยังร้อนผ่าวปนแสบอีกต่างหาก ปวกเปียกไปทั้งตัว... ทำไมผมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ก่อนไปทำงานด้วย

“เด็กดีของพี่”  ร่างผมไถลลงมากองบนตักเมื่อพี่ปูนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ริมฝีปากอมยิ้มพรายพลางหอมแก้มผมแรงๆ อีกสองฟอด  “พี่จะพาไปอาบน้ำนะ แล้วเราค่อยไปทำงานด้วยกัน”

ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นแหละ อุ้มผมไปเถอะ! ผมจะกอดพี่เป็นลูกลิงขึ้นไปแบบนี้แหละ... ผมว่าตัวเองต้องกลับมานั่งคิดถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์นี้ใหม่แล้ว คนอย่างผมน่ะหรือจะกดพี่ปูนได้ เท่าที่ดูจากทุกวันนี้...เหอะๆ ไม่มีทาง!!

“ไว้เราไปซื้อเสื้อผ้าของลุงกันนะ ลุงอยากได้ตัวไหนพี่จะซื้อให้หมดเลย”  น้ำเสียงพี่ปูนรื่นเริงมาก ไอ้ผมก็ฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกขวา ปล่อยให้คนตัวโตใช้ฟองน้ำชุ่มครีมลูบเนื้อลูบตัวไปเงียบๆ อย่างคนใช้ความคิด  “แล้วเราก็เก็บไว้ที่นี่ดีมั้ย? เวลาลุงมาค้างจะได้มีเสื้อเปลี่ยนตลอด”

เดี๋ยวก่อนนะ! วันนั้นผมเมามาก...มากจนพี่ปูนบอกว่าผมอ้วกออกมา

“หรือจะหาโน้ตบุ๊กอีกสักเครื่องดี? ลุงจะได้เอางานมาทำได้...ดีมั้ย?”

“อืมๆ ดีครับ”

แล้วคนเมาขนาดนั้นเนี่ยมันโด่เด่กันไหวด้วยเหรอวะ?

“มีน้ำหอมกลิ่นหนึ่งให้บรรยากาศเข้ากับบุคลิกของแม่ลุงเลย ถ้าพี่ซื้อให้ ลุงว่าคุณน้าจะชอบรึเปล่า?”

“ชอบครับชอบ”

แล้ววันนั้น...วันนั้นพี่ปูนเป็นคนขับรถพาผมกลับไป...?

“แล้วพี่สาวลุงชอบอะไรล่ะ พี่จะได้ซื้อฝากด้วย”

“อืม...อะไรก็ได้”

หมายความว่าพี่ปูน...ไม่ได้เมา...?

“ลุง?”

แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น...

“ลุง...”

ถ้ามันเป็นแบบนั้น...

“พัทลุง!!”

เฮือก!!

ผมสะดุ้งโหยงกับเสียงเรียกที่ดังอยู่ข้างหู ความคิดทุกอย่างเตลิดเหมือนลูกบอลที่ถูกเตะลอยออกไป ผมกระพริบตาปริบๆ มองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น

“มีอะไร?”

“ลุงเหม่อ...ไหวรึเปล่า?”  คำถามนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองรอบตัวที่คลับคล้ายว่าจะเปลี่ยนไป เวรกรรม! นี่ผมออกมาจากห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เมื่อก้มตัวลงมองร่างกายตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้านั้นถูกใส่ให้ครบชุด เสื้อเชิ้ตที่ออกจะใหญ่ไปสักนิดยี่ห้อดัง กับกางเกงยีนตัวใหม่ที่หลวมไปสักหน่อย และตอนนี้ก็มีมือของพี่ปูนกำลังช่วยสอดสายเข็มขัดเข้าตามห่วงให้

“ทำเหมือนผมเป็นเด็กอนุบาลไปได้”

“ก็แต่งให้จนเสร็จแล้วไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนี่”  พี่ปูนบอกน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ  “ไปทำงานไหวแน่นะ”

“อืม แค่ขาสั่นนิดหน่อย”

“พี่ขอโทษนะ อยู่ใกล้ลุงทีไรพี่คุมตัวเองไม่ค่อยจะได้เลย”  ริมฝีปากอุ่นยื่นประทับข้างแก้มอีกครั้ง ได้ยินแบบนี้แล้วผมจะไปโมโหยังไงได้ แล้วที่สำคัญเป็นตัวผมเองทั้งนั้นที่ตามใจพี่ปูนตลอด

“นั่งรอก่อนนะ พี่แต่งตัวแป๊บ”  ผมเดินไปลงนั่งรอตรงอาร์มแชร์ ไม่ออกปากห้ามปรามแต่อย่างใด ก็เมื่อครู่พี่ปูนพิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่ามีพลังเหลือเฟือที่จะทำงานขนาดไหน

.
.
.

"เฮ้ย? ทำไมมึงดูโทรมจังวะ"

เสียงเพื่อนโป้ยทักทายผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะทำงาน อันที่จริงมันมองมาตั้งแต่ที่ผมเดินตามหลังพี่ปูนขึ้นบันไดมาแล้วล่ะ สีหน้ามันอมยิ้มมองมาแปลกๆ แต่มันก็ยกมือไม้ทักทายพี่ปูนปกติ

"มึงก็ดูรื่นเริงผิดปกตินะ"  ผมหันไปบอกมันบ้าง ปกติแล้ววีรภาพก็ไม่ใช่คนชอบตีหน้าขรึมหรือมุมปากตกแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าระรื่นเหมือนเดินอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์เหมือนกัน  "เมื่อคืนมีอะไรดีๆ รึไง ได้หญิงเหรอ?"

"ได้นะ...แต่ไม่ใช่หญิง"  ริมฝีปากจุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเล็กน้อย พอให้คนฟังฉงนแล้วก็เปลี่ยนเรื่องตามเคย  "ว่าแต่มึงเถอะ เมื่อคืนคงไม่ได้กลับบ้านล่ะสิ"

"อ...อืม"  ผมหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเพื่อนโดยตรงทันที  "แฟนกูยังไม่หายดีไง อีกอย่างที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ด้วย กูเลยค้างเป็นเพื่อนอีกคืน"

เครื่องคอมฯ เริ่มการทำงาน ผมจ้องมองจอภาพพยายามทำตัวนิ่งเฉยไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างค้นหา ไอ้โป้ยอาจจะกำลังส่งกระแสจิตเข้าไปล้วงความลับในไส้ติ่งผมอยู่ก็เป็นได้

“คงดูแลเหนื่อยล่ะสิ มึงถึงได้โทรมปานนี้”

“อืม กูดูแลดีมาก”  ผมได้แต่ขบฟันเข่นเขี้ยวตอบออกไป ถ้าโป้ยรู้ว่าผมนั้นทุ่มเทแค่ไหน มันคงร้องไห้ให้กับความเหนื่อยยากของผมแน่ๆ ขนาดตัวผมเองยังรู้สึกเลยว่าเป็นการทุ่มเทที่เกินไปจริงๆ

ว่าแต่...

“โป้ย...กูถามอะไรหน่อยดิ”  เสียงคลิกเมาส์ดังขึ้นเป็นระยะ การทำงานไปด้วยพร้อมกับถามเหมือนอยากรู้อยากเห็นน่าจะช่วยป้องกันจิตสัมผัสของโป้ยได้บ้างไม่มากก็น้อย

“ว่า”

“มึงเคยไปดื่มกับพี่ปูนใช่ป่ะ พี่เขาคอแข็งรึเปล่าวะ?”

“พอๆ กับกูล่ะมั้ง?”

“งั้นแสดงว่าแข็งมาก” 

“มีอะไรวะ? อยากรู้ไปทำไม”  โป้ยเหลือบมองผมเล็กน้อย

“อยากรู้เฉยๆ ไม่ได้รึไง”  ผมแสร้งทำเสียงรำคาญเพื่อนเล็กน้อย แต่ความอยากรู้มันท่วมท้นเสียจนตัดบทหนีไปเรื่องอื่นไม่ได้  “แล้วมึงจำคืนที่พี่ปูนเก็บกูได้ที่ผับรึเปล่า?”

คราวนี้ไอ้โป้ยทิ้งงานของตัวเองเพื่อหมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้าผมเต็มตัว ใจก็อยากจะจับเข่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนเหมือนกัน แต่เรื่องมันดันกระทบกระเทือนอธิปไตยส่วนตัวเนี่ยสิ

“กูชักจะสนใจเรื่องที่มึงคิดแล้วสิ” 

“จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ไง ก็เลยอยากรู้เฉยๆ”  ปากผมยังเฉไฉต่อไปได้ แต่รู้ตัวเองได้เลยว่าอีกไม่นานหรอก! ขืนโป้ยมันตั้งใจซักขึ้นมา ผมคงเล่าหมดเปลือกชนิดทุกซอกทุกหลืบแน่นอน

“อะ -- เอาเป็นว่ากูจำได้ แล้วไง?”

“พี่เขาเมารึเปล่าวะ?”

ผมรอคำตอบจากเพื่อน แต่จนแล้วจนเล่าโป้ยก็ยังไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา ความเงียบอันแปลกพิกลนี้ทำให้ผมยอมหันหน้าไปเผชิญสายตาคนข้างๆ โป้ยนั้นกำลังมองผมนิ่งๆ แต่แววตานั้นคล้ายกำลังประเมินบางอย่างอยู่

“ว่าไงล่ะ?”  ผมกระตุ้นย้ำ

“แค่โทรคุยกัน กูจะไปรู้ได้ยังไง”  มันถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก

“แล้วถ้าฟังแค่เสียงล่ะ?”

“...มึงอยากจะรู้ไปทำไมวะลุง”

โป้ยไม่เคยบ่ายเบี่ยงเวลาผมต้องการคำตอบอย่างจริงจังเลยสักครั้ง...รึอาจจะเคย? แต่ตอนนี้ผมอยากให้มันตอบสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมาสักที สองตาผมจับจ้องเพื่อนเขม็ง ส่งแววตาคาดคั้นที่ทำเอาอีกฝ่ายถอนหายใจออกมาเฮือกยาว

“เออ! ถ้าแค่เสียงที่กูฟัง...พี่ปูนไม่ได้เมา”

โป้ยมองผมเงียบๆ เหมือนกับสังเกตปฏิกิริยาหลังจากที่ได้คำตอบ ใบหน้าที่แสดงเอกลักษณ์สองสัญชาติได้อย่างลงตัวมีแววครุ่นคิดเล็กน้อย ปากเผยอคล้ายอยากจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบแล้วหันกลับไปทำงานต่อโดยไม่สนใจผมอีกเลย เมื่อเห็นว่าการสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ ผมก็เริ่มลงมือทำงานของตัวเองบ้าง แต่ไม่วายที่หัวสมองยังคงครุ่นคิดถึงแต่เรื่องนี้อยู่

การแสดงออกของโป้ยเหมือนรู้บางเรื่องแต่พูดออกมาไม่ได้ หรืออาจจะไม่ใช่เรื่องที่มันควรเข้าไปยุ่ง แต่ผมมั่นใจอยู่อย่างว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายแน่นอน เพราะถ้ามันเป็นเรื่องที่จะสร้างความเดือดร้อนหรือร้ายแรง โป้ยจะต้องพูดออกมาและปกป้องผม การเป็นเพื่อนกันมาเกือบตลอดชีวิตทำให้ผมพูดได้เต็มปากว่า โป้ยไม่ใช่คนดีอะไรนัก แต่มันจะไม่มีวันปล่อยให้ผมเจอเรื่องเลวร้ายเด็ดขาด

ผมเชื่อใจเพื่อน

ซึ่งสรุปออกมาได้ง่ายๆ ว่าในคืนเกิดเหตุนั้น พี่ปูนไปเก็บผมที่สภาพเมาเยี่ยงหมาได้ที่ผับ และขับรถพาผมกลับไปด้วย และได้มีการโทรบอกเพื่อนสนิทของผู้เสียหาย ซึ่งจากคำให้การของพยานคนดังกล่าวพี่ปูนไม่เมา อันหมายถึงว่ามีสติครบถ้วน

แล้วคนเมาปลิ้น จะปล้ำผู้ชายตัวโตสติสมบูรณ์ได้อย่างไร?

...

...นอกเสียจากว่า...!!

.

.

.

ไม่คิดเลยว่าพี่ปูนจะทำเรื่องแบบนี้... ทุกครั้งที่เรากอดกันพี่เขาไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจหรืออย่างไร เขาแอบหัวเราะเยาะในใจหรือเปล่ายามผมเตลิดตกใจในวันแรกที่เห็นว่าเรานอนบนเตียงด้วยกัน ผมที่รู้สึกผิดกับความไร้สติในวันนั้น ผมคิดว่าตัวเองปลุกปล้ำพี่ปูน ยอมรับผิดชอบจนเบนเข็มขึ้นมาบนทางสีรุ้ง ยอมสารพัด พลีกายให้ทำสารพัน

แต่ทั้งหมดมันกลับเป็นเรื่องหลอกลวง...

พี่ปูนเห็นผมเป็นคนโง่เง่า ที่จะไม่มีวันคิดเท่าทันได้หรือยังไง

ความขมุกขมัวเกิดขึ้นในใจเล็กๆ มันก็จริงที่เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ตลอดมาพี่ปูนทำให้ผมเชื่อไปในทางนั้นมันจะต่างอะไรกับการโกหก แต่อีกใจหนึ่งผมก็เข้าใจ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น คงไม่มีทางเสียหรอกที่ผมจะ...

เฮ้อ~ ทำไมความรักของผมครั้งนี้ถึงได้วุ่นวายมากขนาดนี้นะ

ฟ่อว~

เสียงข้อความเข้าดึงสติผมออกมาจากการใช้ความคิด ผมเหลือตามองหน้าจอมือถือที่สว่างวาบขึ้นมาพร้อมกับป๊อบอัพข้อความ พี่ปูนส่งข้อความมาง่ายๆ ว่าด้วยการชวนไปกินข้าวกลางวัน ผมถึงเริ่มตั้งสติตัวเองอีกครั้งเมื่อมองเห็นเวลาปัจจุบัน นี่ผมหมกมุ่นกับเรื่องเกือบจะไร้สาระแบบนั้นจนเวลาผ่านมาเนิ่นนานปานนี้

“เชี่ย!”  เสียงอุทานเบาๆ หลุดมาจากปาก เมื่อหน้าจอคอมฯ เต็มไปด้วยความวิบัติของการเหม่อลอยในเวลางาน สิ่งง่ายๆ ที่ผมช่ำชองอย่างการลงสีนั้นเรียกได้ว่าผิดเพี้ยนไปหมด ตัวอักษรก็กระจัดกระจายด้วยฟอนต์น่าเกลียดที่ไม่เข้ากัน

ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นเล็กๆ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสมาธิในการทำงาน ผมจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างไร ถ้าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกันจนเสียงาน

ฟ่อว~

เสียงข้อความดังอีกครั้ง เดาว่าพี่ปูนอาจจะแอบมองอยู่จากภายในห้องทำงานของตัวเองก็ได้ เมื่อเห็นผมไม่แม้แต่จะหยิบมือถือขึ้นมาอ่านถึงได้ส่งมาย้ำๆ

ฟ่อว~

ผมยังคงตั้งมั่นกับการแก้งาน แต่ก็ยังไม่วายแอบมองข้อความที่เด้งขึ้นมา อันที่จริงผมไม่รู้ว่าจะพูดกับพี่ปูนยังไงดี ไม่รู้ว่าจะเริ่มการสนทนาแบบไหนที่จะไม่ทำให้เราทั้งคู่ตะขิดตะขวงใจ ผมคงกำลังทำให้พี่ปูนฉงน ในเมื่อตอนเช้านั้น เราเพิ่งจะ...เอิ่ม...ผ่านความเร่าร้อนกันมา

ฮึ้ย!! ตั้งสติหน่อยพัทลุง 

งานที่ไม่เป็นไปตามแผนถูกแก้ทีละจุด ความหงุดหงิดใจสงบลงได้ในที่สุด และดูท่ามันจะถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับคนอื่นแทนเสียแล้ว

เสียงประตูเปิดออกในระดับที่ดังกว่าปกติ ผมนิ่งฟังเสียงรองเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะดังใกล้เข้ามาจนกระทั่งหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะทำงาน เงาร่างใหญ่บดบังแสงไฟทะมึนน่ากลัวไม่เบา แต่ผมก็ยังทำใจแข็งเฉยชาต่อไปทั้งที่ใจเริ่มหวั่น

“พัทลุง”  เสียงพี่ปูนเย็นเยียบ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสติแตกแบบกระชากหัวผมให้ตอบคำถาม 

“อะไรครับพี่”  ผมถามกลับ แต่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอ

“...เข้าไปคุยกับพี่ที่ห้องหน่อย”  พูดจบ พี่ปูนก็หมุนตัวเดินเข้าห้องไป ตามด้วยเสียงปิดประตูที่เหมือนจะดังขึ้นกว่าเดิม

งานเข้าหนักแล้วมึงไอ้ลุง… แต่ผมเป็นผู้เสียหายนะเฮ้ย! ต้องเป็นผมที่ควรจะปึงปังหรือเปล่าวะ? แข็งเข้าไว้สิลุง! จะปล่อยให้อีกฝ่ายเหิมเกริมกับเราอยู่ช้างเดียวได้ยังไง

ฟันขบกันกึกๆ พยายามเค้นพลังความเป็นชายออกมาให้มากที่สุด ถึงชนะไม่ได้ผมก็ต้องทำให้เสมอตัว เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงพี่ปูนก็เป็นฝ่ายทำไม่ดีก่อน ผมจะยอมลงให้ง่ายๆ ได้ยังไง

“มึง...มึงโอเคนะ”  เสียงโป้ยดังขึ้นขณะที่ผมลุกขึ้นอย่างมาดมั่น ผมมองหน้าเพื่อนที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล

“กูโอเคทุกอย่าง”

“ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จา กันนะมึง”  แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมก็ยิ้มรับคำอวยพรแปลกๆ ของไอ้โป้ยไว้ เพื่อออกเดินเท้ามุ่งหน้าสู่อาณาจักรยักษ์ใหญ่

ลมเย็นๆ ตีเข้าร่างทันทีที่เปิดประตูเพื่อแทรกกายเข้าไป พี่ปูนกำลังนั่งนิ่งใช้สายตากวนความกดอากาศให้ต่ำลงจนหายใจไม่สะดวก ผมเดินตรงไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานสีดำเข้มเหมือนใบหน้าเจ้าของมันตอนนี้

“เกิดอะไรขึ้น?”  พี่ปูนชิงพูดก่อน เสียงนั้นห้วนสั้นแบบกรุ่นความโมโหเอาไว้  “เมื่อเช้าเรายังดีกันอยู่เลย...ลุงโกรธอะไรพี่”

เอาไงดีวะลุง? มึงควรจะพูดออกไปเลยดีมั้ย? หรือจะรอให้ถึงช่วงเวลาเหมาะกว่านี้ดี?

“พี่ไลน์ไปลุงก็ไม่อ่าน ไม่แม้แต่จะหยิบขึ้นมาดูด้วยซ้ำ!”

เสียงพี่ปูนชักจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ เอาวะไอ้ลุง!! จะปล่อยให้คนผิดลอยนวลต่อไปได้ยังไง!

“พี่ยังจะให้ผมคุยกับพี่ได้อย่างสบายใจอยู่อีกเหรอ ในเมื่อพี่ทำเหมือนผมเป็นคนโง่มาตั้งนาน”  ผมพยายามเลือกน้ำเสียงโทนพระเอกค่อนแคะนางเอก แม้จะไม่ใส่อารมณ์จนเกินไปแต่ก็ยังคงบ่งบอกได้ว่าไม่พอใจ และนับว่าประสบความสำเร็จพอดู เมื่อท่าทีขึงขังของพี่ปูนหายวับไปในทันที

“...ลุง...พูดเรื่องอะไร”

“ก็พูดถึงเรื่องในคืนนั้นไง” 

ความตกใจแผ่บนใบหน้าหล่อเหลาของชาวสวนไร่แตง ริมฝีปากบางอ้าหุบอ้าหุบเหมือนเลือกคำพูดออกมาไม่ได้ แต่กระนั้นสองมือก็ยังยันร่างสูงของตัวเองขึ้นมายืนแบบคนสิ้นหวัง จากรูปการทั้งหมด คงไม่ต้องให้ผมอธิบายจนชัดเจนก็คงพอจะรู้ว่า ‘คืนนั้น’ ของผมเป็นคืนเดียวกับที่พี่ปูนกำลังคิดอยู่

“พี่...”

“พี่คิดว่าผมจะงี่เง่าไม่ฉุกใจคิดเลยเหรอ? พี่คิดว่าจะปิดไปได้อีกนานแค่ไหน”

“ลุง ฟังพี่ก่อนนะ”  คนตัวโตก้าวเท้ามาหาผม แต่เมื่อเห็นชัดว่าผมถอยหลังหนี ร่างนั้นก็หยุดยืนนิ่งเหมือนตุ๊กตาหมดลานไข  “ให้พี่ได้อธิบายนะ”

“ไว้ก่อนเหอะ”  ผมเลือกคำที่คิดว่าดีที่สุดออกมาอย่างรวดเร็ว  “ให้เวลาผมอีกหน่อยแล้วเราค่อยคุยกัน...”

ผมจำต้องเบือนหน้าหลบสายตาเว้าวอนที่เห็น หัวใจเต้นตุบตับอย่างรู้สึกผิดแบบที่ไม่ควรจะเป็น ผมไม่ชอบสีหน้าแบบนี้ของพี่ปูนเลยจริงๆ มันเหมือนเขื่อนร้าว คล้ายถ้ากะเทาะอีกสักนิดคงได้พังพินาศลงมา แต่ผมก็ยังทำใจรับเรื่องราวง่ายๆ ไม่ได้ พี่ปูนทำให้ผมต้องพบจุดเปลี่ยนในชีวิตขนานใหญ่ แล้วจะให้ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง

ในเมื่อพี่ปูนน่ะ...

ในเมื่อเมื่อพี่...


v
v
v


ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
.
.
.


ในเมื่อพี่ปูนน่ะ...

ในเมื่อเมื่อพี่...


...ปล้ำผม...

คนแบบไหนถึงจะทำเรื่องแบบนี้ได้ หิ้วลูกน้องตัวเองกลับบ้าน แล้วก็ปลุกปล้ำย่ำยี! ถึงพี่จะรักชอบผมสักแค่ไหน อยากจะเป็นเมียผมจนตัวซี้ตัวสั่นสักเท่าไหร่ พี่ก็ควรจะหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ซี่!! อย่างน้อยก็ค่อยมาคุยกันต่อหน้าแบบแมนๆ ว่าพี่ชอบผม อยากจะเป็นเมียผม! ไม่ใช่หักหาญน้ำใจกันแบบนี้ แล้วยังมีหน้ามากลบเกลื่อน ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จว่าผมใช้กำลังปลุกปล้ำอีก!!!

ทำกับผมขนาดนี้แล้วแท้ๆ แล้วยังจะให้ผมทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอย่างนั้นเหรอ

ผมทำไม่ได้!

“เรา...เรายังไม่เลิกกันใช่มั้ย?”  เสียงเบาหวิวหลุดออกมาจากปาก ผมมองคนพูดด้วยความสงสารที่ปะทุขึ้นมาจากหัวใจ

ขอโทษนะพี่ปูน...ผมรู้ว่าพี่รักผมมาก แต่พี่ต้องให้เวลากับผมอีกสักนิด ถึงอย่างไรพี่ก็เป็นเมียผมแล้ว ผมไม่มีทางทิ้งพี่เด็ดขาด ผมให้สัญญาผ่านทางแววตาและหวังว่าพี่ปูนจะเข้าใจ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิดกัน ผมจึงพยักหน้ารับสักเล็กน้อย พร้อมกับพูดให้ความมั่นใจอีกสักนิด

“ครับ เราไม่ได้เลิกกัน”

พี่ปูนคล้ายจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ใบหน้าก็ดูผ่อนคลายขึ้น แต่ก็ยังคงกลบความหวาดหวั่นในสีหน้าไม่ได้หมด เห็นแล้วก็ให้สงสารเมียตัวเองเหลือเกิน ดูซิ...รักผมถึงขนาดว่ากลัวจะถูกบอกเลิก ใจหนึ่งก็อยากจะเดินเข้าไปกอดแล้วร้องโอ๋ๆ อย่าทำกับผัวแบบนี้อีกนะ แต่อีกใจเราก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ถูกช่วงชิงไปแบบไม่ยินยอมเอาไว้

“ถ้างั้น...ผมกลับไปทำงานต่อนะ”

“อื้ม...”  แม้จะดูไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่พี่ปูนก็ยอมปล่อยให้ผมเดินออกจากห้องง่ายๆ มีเสี้ยววินาทีหนึ่งก่อนที่ประตูจะถูกปิด ผมหันกลับเข้าไปมองและสายตาของเราก็ประสานกัน ชั่ววินาทีนั้นทำให้หัวใจผมเจ็บแปร๊บๆ เหมือนว่าตัวเองเป็นคนใจร้ายที่กำลังทิ้งลูกหมาไว้ข้างทาง และมันก็กำลังร้องบอกว่าอย่าทิ้งผมๆ

รอก่อนนะเมียจ๋า...ผัวจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน แล้วความรักที่งดงามจะคืนกลับมา

ไอ้โป้ยมีทีท่าอยากรู้อยากเห็นทันทีเมื่อผมกลับมานั่งทำงานต่อราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่มันไม่ถาม...ผมว่ามันอยากรู้จนเนื้อตัวสั่นแหละ ถ้าดูเอาจากอาการกระสับกระส่าย ขยับตูดไปมาบนเก้าอี้ แถมยังเลื่อนไปเลื่อนมาแบบน่ารำคาญ แต่จากทั้งหมดนั้นมันกลับไม่กล้าถามออกมา แต่ในเมื่อมันไม่หน้าด้านถาม ผมจะไปหน้าด้านเล่าให้ฟังได้ยังไง 

.

.

.
 
  ช่วงเวลาที่เหลือทั้งวันนี้ พี่ปูนใช้ไปกับการเดินเข้าเดินออกห้องทำงาน เพื่อหาช่วงเวลาที่จะสบตากับผมแล้วทำตาละห้อยใส่ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตามองจับผิดหรอกนะ แต่มันรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างจนอดเงยหน้าขึ้นมองต้นตอไม่ได้ สารภาพเลยว่ามันทั้งน่าสงสาร ทั้งน่ารำคาญปนๆ กันจนแยกไม่ออกว่าความรู้สึกไหนมีมากกว่ากัน

แต่ผมก็ผ่านมาได้ด้วยคำสอนที่ว่า นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว แม้จะปวดใจอยู่นิดๆ ก็ตาม

“ไปกินสุกี้กันมั้ยมึง คุณดาหลาเป็นเจ้ามือ”  ผมหันไปถามคนข้างๆ เมื่อใกล้เวลาเลิกงานเข้ามาทุกนาที

“ไม่ล่ะ กูมีนัดแล้ว” 

“เด็กใหม่เหรอ?”  ต่อมเผือกสั่นระริกเล็กน้อย นานแล้วเหมือนกันที่มันไม่ได้บอกว่ามีนัดหมายด้วยสายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ ดูจากรอยยิ้มคงไม่ใช่การนัดเพื่อนฝูงไปร่ำสุราแน่นอน

“เด็กเก่าต่างหากล่ะ”  โป้ยหันมายกคิ้วยึกๆ ใส่ผม พลางเคลียร์งานบนหน้าจอออกเพื่อทำการปิดเครื่อง  “คนนี้น่ะคนแรกของกูเลยนะ”

“บอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย”  ผมโยนปัญหาส่วนตัวทั้งไปในทันใด  “ใครวะ? กูรู้จักมั้ย”

“รู้จักรึเปล่าน้า~โอ๊ย!!”  ผมเงื้อเท้าถีบเบาะเก้าอี้ไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ในสีหน้าและน้ำเสียง แต่ความกวนอารมณ์นั้นก็ยังไม่จางหายไปจากสีหน้า แถมมันยังเลื่อนตัวกลับมาลอยหน้าลอยตาใส่ผมเป็นการส่งท้าย ก่อนจะพูดเสียงที่เริ่มจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย  “เด็กกูมันดื้อ! ไว้กูปราบพยศได้เมื่อไหร่จะกระซิบบอกมึงคนแรกเลยดีมั้ยน้องลุง”

เพื่อนว่าไงก็ต้องว่าตามใช่มั้ยล่ะครับ ต่อให้อยากรู้จนขาหนีบสั่นแต่ถ้าไอ้โป้ยไม่แง้มปากออกมาล่ะก็ อย่าหวังว่าจะได้รู้เลย  “หวังว่ามึงคงจะไม่แดกแห้วซะก่อนนะ”

“ฮะฮะฮะ กูไม่ใช่มึงนะพัทลุง”

เพื่อนเชี่ย… 

   “กูไปก่อนล่ะ โชคดีนะไอ้เตี้ย”

และมันก็เปิดตูดไปแบบตรงเวลาเป๊ะ สีหน้ารื่นเริงมากถึงมากที่สุด แบบที่ถ้ากระโดดดึ๋งๆ ลงบันไดไปได้มันคงทำไปแล้ว ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใครถึงทำให้เพื่อนผมเบิกบานออกนอกหน้าได้อย่างนี้

“จะกลับแล้วเหรอ ให้พี่ไปส่งนะ” 

ปัญหาชีวิตตัวเป็นๆ กลับมาอีกครั้ง

ผมเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มหล่อสุขภาพดีส่งรอยยิ้มฟูๆ เหมือนใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องทำสีหน้าแบบไหนถึงจะสื่อให้พี่ปูนเห็นได้ว่าผมอ่อนใจ... เข้าใจอยู่หรอกว่าพี่แกเป็นพวกหน้าด้านหน้าทนแถมยังเอาแต่ใจ แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเกินกว่าที่รับรู้ไปมาก ขอเวลาให้ผมอยู่กับตัวเองเนี่ยมันยากเกินไปหรือยังไง ไม่เข้าใจตรงวลีไหน? หรือว่าผมยังดูโมโหไม่พอ ทำไมนะ...ทำไมถึงช่างอ้อนขนาดนี้~

แต่ผมไม่ได้ง่ายนะหรอกนะ

รอยยิ้มมีเสน่ห์ค่อยๆ หดลง แต่กระนั้นมันก็ยังพยายามเกาะมุมปากเอาไว้อย่างอยากเย็น ช่างเป็นการปั้นสีหน้าที่ผมเหลือบมองสักกี่ครั้งก็ให้อารมณ์ว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีทุกทีไป ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ชอบสีหน้าแบบนี้ของพี่ปูนจริงๆ ใบหน้าเย่อหยิ่ง เจ้าเล่ห์ ชั่วช้าเลวทรามยังจะเข้ากันมากกว่าอีก

“ไม่เป็นไรครับพี่”  ผมตอบห้วนๆ แต่ก็ยังพยายามรักษาน้ำเสียงไม่ให้ดูแข็งจนเกินไปนัก  “ผมนัดแม่ไว้ที่นี่”

“...อืม”  รอยยิ้มตรงมุมปากจางหายไปในที่สุด แต่ร่างสูงกลับยังคงปักหลักอยู่ที่เดิมแม้จะดูเก้กังทำอะไรไม่ถูกไปบ้าง ผมเลิกสนใจผู้ชายตรงหน้าแล้วเริ่มเก็บของด้วยความรวดเร็ว คุณดาหลาแกเป็นนางฟ้าตรงเวลา ขอให้นัดมาเถอะไม่เคยมีคำว่าสายและก็ไม่ชอบคนมาสายเช่นกัน

ผมลุกขึ้นพร้อมกระเป๋าเป้ที่ยกพาดสะพายบนไหล่ เดินอ้อมโต๊ะออกจากฐานที่มั่น ผ่านเมียรักคอตกที่ยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้า และทั้งหมดนั่นผมหลีกเลี่ยงที่จะมองหน้าพี่ปูนอย่างสุดความสามารถ

“หวัดดีครับพี่เปี๊ยก”  หยุดแวะยกมือไหว้ไอดอลที่กำลังเก็บของอยู่เช่นเดียวกันสักหน่อย

“ผมไปก่อนนะครับพี่”  อีกเสียงทักตามมาติดๆ ไม่ต้องหันไปดูหรอกครับว่าเป็นเสียงของใคร

“ขึ้นรถปลอดภัยนะลุง สวัสดีครับคุณปูน”  พี่เปี๊ยกยิ้มหวานรับคำทั้งผมทั้งคนที่เดินตามข้างหลัง

จะรออยู่ทำไมล่ะครับ... ผมเดินตัวปลิวลงบันไดซอยเท้ายิกๆ แบบไม่หันไปมอง แต่เสียงลงเท้าหนักๆ ที่มีความเร็วไม่ต่างกันก็ตามติดมาชนิดที่ว่าแค่เอื้อมมือคงถึงคอเสื้อ ครับ... คอเสื้อผมปลอดภัย แต่กระเป๋าเป้นั้นถูกดึงรั้งจนแทบจะหลุดออกจากไหล่ มันเป็นช่วงจังหวะช่วงชิงที่รวดเร็วจนกล้องจับภาพไม่ทัน แต่ทันทีที่ผมพยายามทรงตัวไม่ให้ล้มเพราะแรงดึง มืออีกข้างก็ไขว่คว้าสายสะพายไว้หวังจะยึดสายกระเป๋าไม่ให้หลุด แต่นอกจะต้องเสียอาณานิคมไปแล้วมือข้างนั้นยังถูกฝ่ามือที่ใหญ่กระด้างจับหมับเอาไว้แน่น ด้วยความที่เป็นพระเอกไทยร่างน้อยจังหวะการทรงตัวจึงค่อนข้างย่ำแย่ได้ง่าย

ตัดเป็นภาพช้านะครับ

พระเอกกำลังเสียหลักบนบันไดขั้นที่สองนับจากพื้น ร่างกายเอนจนใกล้ล้มอยู่รอมร่อ แต่นางเอกกลับว่องไวปรี่ลงมารับพระเอกเอาไว้พร้อมกอดรัดไว้แน่น ด้วยความตกใจขั้นสุด พระเอกจึงกอดนางเอกไว้ไม่ปล่อย ใจหายลงไปอยู่บนตาตุ่ม ใจเต้นดังผสานกับเสียงลมหายใจถี่รัว

“ขอโทษนะ”  เสียงออกจากปาก แต่มันกลับดังก้องออกมาจากหน้าอกที่ผมแนบหน้าอยู่  “ลุงใช้เวลาพอรึยัง?”

ผมอยากจะบ้า! ความตกใจหดหายไปแล้ว แต่ความโมโหกลับผุดขึ้นมาแทน ผมยืดตัวขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับบิดร่างออกจากวงแขนสุดความสามารถ แต่กำลังกายของนางเอกช่างเยอะนักพระเอกหรือจะขัดขืนไหว

“พอบ้าบออะไรวะพี่! นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเอง”

“คนรอมันทรมานไม่รู้เหรอ”  เสียงทุ้มเจือแหบแห้งตอบกลับแทบในทันที

อย...อย่าอ้อนได้มั้ย!

“แต่ผมยังโกรธพี่อยู่”

“ให้อภัยพี่อีกครั้งนะ ถ้าพี่ไม่ชอบลุงขนาดนี้พี่คงไม่ทำแบบนั้นหรอก”

หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาเลยทีเดียว แต่จะให้ยอมง่ายๆ ผมก็เสียเชิงหมดน่ะสิ มันต้องสะบัดสะบิ้งบ้าง  “ปล่อยผม”

“ไม่ชอบพี่เลยเหรอ”  เสียงแผ่วดังต้านกำลังได้อย่างชะงัด ยิ่งเห็นผมนิ่งงันพี่ปูนก็รีบอ้อนถามต่อ  “ถ้าลุงบอกมาคำเดียวว่าไม่ พี่จะยอมแพ้ ไม่มาวุ่นวายกับลุงอีก”

ผมว่าผมเคยได้ยินประโยคคล้ายๆ กันนี้จากละครบางเรื่อง ที่สุดท้ายพระเอกหรือนางเอกมักจะโต้ตอบกลับด้วยอ้อมกอดแล้วพูดความในใจประมาณว่า ‘ไม่...ไม่นะคะ ฉันรักคุณ รักที่สุด’ และก็ดูดปากกันท่ามกลางเสียงเพลงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้น -- แต่ทำไมพอมาเจอกับตัวมันถึงได้ฟังแล้วหงุดหงิดจังวะ

พี่ปูนคลายวงแขนออกเล็กน้อยยามที่ผมลากสายตาขุ่นมัวขึ้นสบ ใจผมตอนนี้อยากจะง้างมือขึ้นตบหัวมันแรงๆ สักทีแต่ก็กลัวว่าจะถูกเอาคืน ก็เลยเปลี่ยนมาคีบนิ้วหนีบหัวนมมันแรงๆ เป็นการระบายอารมณ์  เสียงโอ๊ยไม่ดังมากแต่ความสะท้านคงมีไม่น้อย

“ทำอะไรเนี่ย”

“แล้วพี่ถามอะไรควายๆ แบบนี้”  ผมถามกลับเสียงเข้มใส่คนที่กำลังกระพริบตาปริบๆ มองผมอย่างงุนงง  “ผมไม่ใช่เกย์นะ ถึงตอนแรกเราจะคบกันเพราะผมอยากรับผิดชอบก็เถอะ แต่ผมไม่บ๊วบของๆ คนที่ไม่ชอบหรอกนะ และถ้าไม่ชอบพี่ พี่ไม่มีทางได้ล้วงก้นผมแน่! มันแปลกจะตาย จนป่านนี้ผมยังรู้สึกเหมือนนิ้วพี่ยังอยู่ข้างในอยู่เลย”

เสียงหอบหายใจดังถี่หนักจนหน้าอกกระเพื่อม การพูดรัวเร็วแบบไม่มีเว้นพักแถมต้องเพิ่มระดับเสียงนี่เล่นเอาเหนื่อยไม่หยอก ผมล่ะนับถือนักพูดจริงๆ ไม่รู้ว่ามีเหงือกหายใจตรงข้างหูหรือยังไง


"แหม~"


ผมมองหน้าพี่ปูนเพื่อค้นหาว่าประโยคใดในคำอภิปรายของผมที่ควรค่าแก่คำว่า 'แหม' เสียงงี้ใสกิ๊กจนน่าหมั่นไส้ แต่ไม่ว่าจะมองเท่าไหร่ก็เห็นเพียงอาการเขินอายที่ปรากฏออกมาเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อแล้ว ริมฝีปากบางน่าจูบยังคงปิดสนิทแน่น แล้วคำนั้นมันหลุดออกมาจากลูกกระเดือกหรือไง

"แหมๆ..." 

คราวนี้ผมรับรู้แล้วว่าไม่ใช่เสียงจากคนตรงหน้า พี่ปูนคลายมือออกจากเอวผมเชื่องช้าพาให้เกิดอาการเสียวสันหลังขึ้นมาทันที ยิ่งเห็นใบหน้าคมเข้มพยักพเยิดไปทางด้านหลัง ขนหัวผมก็ลุกตั้งขึ้นมาเหมือนเห็นผี

"คุณลุงมีแฟนแล้วก็ไม่บอกแม่เลย สงสัยกะให้แม่เซอร์ไพรส์สินะคะ"  เสียงไพเราะเพราะพริ้งดังใกล้เข้ามา ผมอยากวิ่งหนีด้วยความอาย แต่ความร้อนจากฝ่ามือของพี่ปูนที่กุมมือผมไว้นั้นทำให้ผมต้องฝืนใจหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับบุคคลที่สาม  "คิกๆ แม่เซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ"   

คุณดาหลายิ้มหวานปานหยดน้ำผึ้ง แต่ดวงตากลับทอประกายแหลมคมใส่พี่ปูนจนผมขนลุก

อา...ถึงเวลาแม่ผัวปะทะกับลูกสะใภ้แล้วสินะ



---------------------------------------------TBC. จ้าาาาาาา

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลุงยังจะคิดว่าเป็นสามีเค้าอีกเหรอ

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :serius2: ลุงงงงงงงทำมัยยังไม่เก็ตตตตน โอยยยยย อกอิแป้นจะแตกกก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตกลงอิลุงแกเข้าใจอะไรของแก๊ โอ๊ยนึกว่าจะรู้ตัว ยังๆๆจะมึนคำว่าเมียอยุ่นั่น
คุณดาหลามาแล้วทีนี้ใครจะซวยน๊า

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น้องลุงลูกกกกกกกกกกกก :laugh:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
อิลุงโว้ยยยยยยยยยยยย นี่อยากกินมาม่านะไม่ใช่อยากกินโป๊ะแตก ทำไมเข้าใจอะไรยากแท้วะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด