[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 97698 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
คือท่านเจ้าที่จะแว่บหายตัวไปก็ได้งัยแต่ไม่ทำ แทงค์เลยจุ๊บได้อีกที คืออะไรยังไงคะท่าน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เขามีแต่ทำความผิด อาย หลบหน้า หนีหน้า
แต่แมงค์ อาย จูบซ้ำ  o22 o22 o22

แล้วเนส จะมาเล่นดนตรีไหวหรอ
คลาร์ก เนส  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :hao7: โดนซะละท่านเจ้าที่  :m20:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
โถ โดนปล้นความบริสุทธฺ์(ทางริมฝีปากไปซะแล้ว) แต่ท่าทางอีกคู่จะหนักกว่าโดนปล้นบริสุทธ์ทาง..

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ท่านเจ้าที่น่ารักมากกกอะ งือออ
ขำมากกก หัวเราะทุกตอนเลยย
รอค่าาา

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ท่านภูตลาเจ้าขาาาาาาาา

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 19

“ก็เอ็งขี้งกจะตายไปนี่”

 

พวกเราใช้เวลาว่างในการทำศาลพระภูมิให้ท่านเจ้าที่ ก็เฉพาะวันที่ผมกับไวท์ว่างนั่นล่ะครับ ส่วนไอ้ธีร์ถ้ามันว่างจริงๆ มันก็จะมาช่วย เรื่องนี้ผมรู้สึกขอบคุณมันมาก คิดว่าคงต้องมีสินน้ำใจให้มันเหมือนที่จะให้ไวท์ด้วย

จนตอนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่พวกเราลงมือลงแรงทำมันจริงๆ ตอนนี้หล่อปูนขึ้นรูปเรียบร้อย หลังจากนี้จะเป็นการเสริมรายละเอียดเข้าไป จำพวกสระว่ายน้ำ หลังคาศาล อะไรพวกนั้นนั่นล่ะครับ

ศาลใหม่นี้จะใหญ่กว่าศาลเดิมประมาณเท่าหนึ่งได้ เพราะงั้นก็เลยต้องหล่อต้นเสาที่ใช้เป็นฐานรองศาลขึ้นใหม่ด้วย จะได้ทาสีเพนต์ลายได้สวยๆ คือเอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้จะอธิบายวิธีการทำยังไงว่ะ เพราะผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องงานช่างงานสร้างอะไรพวกนี้นัก ก็ได้แต่มองดูและช่วยไวท์ทำเท่าที่ทำได้ งานนี้ให้ว่าที่สถาปนิก (ควบตำแหน่งวิศกรชั่วคราวมือสมัครเล่นเป็นผู้อำนวยการสร้าง) จัดการไปตามที่อีกฝ่ายเห็นเหมาะสมล่ะนะ

ส่วนชีวิตของผมช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมก็ไปเรียน ทำงาน สร้างศาล วนลูปอยู่อย่างนี้ซ้ำๆ ตามวิถีชีวิตของเด็กนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง...อ้อ แต่เรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องของไอ้เนสกับไอ้คลาร์ก วันนั้นที่พวกเราเมาแหลกแล้ววันต่อมาไอ้เนสมันก็คอลฯ กลุ่มมาโวยวายใส่ไอ้ฮัทน่ะ หลังจากนั้นสองวันถัดมาพอไปมหา’ลัย ผมก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมันสองคน

ต้องย้อนความนิดนึงว่าผมรู้ได้ยังไง...ก็วันนั้นตอนที่พวกเราไปกินข้าวเที่ยงกัน ผมสังเกตได้ถึงความผิดปกติของไอ้คู่ซี้คู่กัดเพราะพวกมันเงียบผิดปกติ มันนั่งอยู่ข้างกันแต่ไม่ค่อยมองหน้ากัน พอมองกันทีก็ดูกระอักกระอ่วนจนต้องเบือนหน้าหนีกันไปคนละทาง นั่นทำให้ผมต้องเอียงหน้าไปกระซิบถามไอ้ฮัทอย่างอดรนทนสงสัยไม่ได้

‘มึง เกิดอะไรขึ้นวะ พวกมันโกรธกันเหรอ?’

‘หึๆ มึงพลาดแล้วไอ้แทงค์’ ผมทำหน้างงใส่ ไอ้ฮัทหัวเราะ ‘มึงดูเอาเองแล้วกัน เดี๋ยวพวกมันก็เผยไต๋ออกมา’

ใจก็อยากจะเค้นถามต่อหรอกนะ แต่พอหันกลับมามองไอ้สองตัวนั้นผมก็ต้องชะงัก ขมวดคิ้วมุ่นมองสิ่งที่เห็นตรงหน้า...คือตอนนั้นไอ้คลาร์กเอาส้อมจิ้มกุ้งตัวหนึ่งขึ้นมาจากจานข้าวผัดกุ้งของตัวเองก่อนจะยื่นไปตรงหน้าไอ้เนสครับ พอไอ้เนสหันมาเหลือบมอง ไอ้ฝรั่งมันก็เลิกคิ้วให้แล้วเขย่าๆ ส้อมในมือ สุดท้ายไอ้เนสก็อ้าปากงับกุ้งตัวนั้นเข้าไปเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วถ้าผมไม่ได้ตาฝาด ผมมั่นใจนะว่าเห็นไอ้เนสหน้าแดง ยิ่งหน้าแดงเข้าไปอีกเมื่อไอ้คลาร์กมันยื่นนิ้วมาปาดคราบเปื้อนที่มุมปากให้ แถมยังมีบ่นด้วยนะว่า ‘เปื้อนหมดแล้ว กินดีๆ ดิครับ’

ตอนนั้นคำถามแรกที่ผมคิดขึ้นมาในใจก็คือ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของผมวะ?! จำได้ว่าผมเบิกตาโตจ้องมองพวกมัน รู้สึกว่านี่แม่งไม่ชอบมาพากลแล้วจริงๆ นะ จนปากที่งับเอาไว้ไม่อยู่เผลอหลุดพูดออกไปว่า

‘พวกมึงสองคน ทำเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย’ เท่านั้นล่ะไอ้ฮัทก็หัวเราะลั่น ขณะที่ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กหน้าแดงแข่งกันทันที สบตากันก่อนจะเบือนหน้าหนีไปคนละทาง เป็นสัญญาณที่ทำให้ผมเบิกตาแทบถลนเข้าไปอีก ชี้มือไปที่พวกมันสองคนสลับไปมาแล้วว่าเสียงหลง

‘นะ นี่พวกมึงเป็นแฟนกันงั้นเหรอ?! เฮ้ย! อะไรยังไง ทำไมพวกมึงมาคบกันได้วะ เดี๋ยวๆๆ กูงง กูไม่เข้าใจ นี่มัน...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!’ ตอนนั้นผมงงมากครับ ไอ้ฮัทที่ปกติเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่วันนั้นมันกลับเป็นคนเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง ทำให้ผมได้รู้ว่า...คืนที่เมาแอ๋กันนั่นน่ะ ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กดันเผลอ...กัน

ถามไปถามมา ถามอีกด้วยว่าพวกมันชอบกันเหรอ แต่คำตอบที่ได้คืออะไรรู้ไหมครับ? ไอ้คลาร์กมันตอบผมมาว่า

 ‘ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่คิดว่ามันก็ไม่เสียหายอะไรที่กูกับไอ้เนสจะลองแบบว่า...คบกัน’

จนถึงวันนี้ใจหนึ่งผมก็กังวลนะกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกมันสองคน เพราะด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน แล้วจู่ๆ มาเปลี่ยนสถานะอย่างนี้น่ะ เรื่องพวกนี้มันเปราะบางมาก ในอนาคตมันอาจจะมองหน้ากันไม่ติดเลยก็ได้ถ้ามีเหตุให้ต้องเลิกกันขึ้นมา แต่...พอมาคิดดูอีกที ผมก็คงได้แต่มองอยู่ห่างๆ อ่ะ มันจะเป็นไงต่อไปก็รอลุ้นเอาแล้วกัน

แต่จริงๆ ผมก็โดนซักฟอกจากพวกไอ้ฮัทเหมือนกันเรื่องที่ท่านเจ้าที่ไปรับผม พวกมันสงสัยมากว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ทำไมพวกมันถึงไม่เคยเห็นหรือผมไม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อน ผมก็เลยแถๆ ไปว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะย้ายมาอยู่ข้างบ้านไม่นาน แต่สนิทกันในระดับหนึ่ง ที่ไม่เล่าก็เพราะไม่เห็นความจำเป็น

ก็โดนด่าว่าอินดี้เกินไปมานิดนึง แต่พวกมันก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก ส่วนเรื่องที่ผมเรียกท่านเจ้าที่ต่อหน้าพวกมันว่าผัว พวกมันก็ไม่ได้คิดอะไรอีกนั่นล่ะครับ ด้วยรู้ดีว่าเวลาผมเมานี่โคตรบ้าบอไร้สติมากแค่ไหน

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันแทงค์ รอให้ปูนแห้ง เราฉาบตรงนี้เป็นสระน้ำแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่ปูกระเบื้องลงไป ตรงนี้คงยากหน่อยเพราะนี่มันสระน้ำจำลอง ดีที่เราหากระเบื้องชิ้นเล็กๆ ได้ ไม่งั้นตัดเองคงลำบากแย่” ไวท์เอ่ยขึ้นพลางยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก ผมก็เลยส่งน้ำเปล่าให้เขาขวดหนึ่ง อีกฝ่ายรับไปพลางเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม กระดกดื่มจนเกือบหมดขวด “งั้นเรากลับก่อนนะ พอดีว่าเพื่อน...”

“เราเข้าใจ วันนี้ขอบใจมากนะ เหนื่อยแย่เลย ไว้เสร็จงานเราเลี้ยงให้มื้อใหญ่เลยเอ้า” ผมตัดบททั้งๆ ที่ไวท์ยังพูดไม่จบ เพราะรู้ดีว่าช่วงนี้มีเพื่อนมาค้างที่หอของเขา คงเป็นห่วงเพื่อนน่ะถึงได้รีบกลับตลอดเลย

“งั้นเราไม่เกรงใจนะ จะรอวันที่ได้กินเลย ฮ่าๆๆ”

เราสองคนหัวเราะให้กัน ก่อนที่ผมจะขี่มอ’ไซค์ไปส่งไวท์ที่ป้ายรถเมล์...หลังจากนั้นผมก็ขี่กลับบ้าน ในใจคิดไปด้วยว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี อ๊ะ วันนี้มีตลาดนัดแถวมหา’ลัยนี่หว่า ไปซื้ออะไรกินที่นั่นดีกว่า ทำงานเหนื่อยมาแทบทั้งวันผมก็ขี้เกียจทำกับข้าวแล้วเหมือนกันนะ อืม สักสี่โมงกว่าๆ ค่อยไป ตอนนี้สามโมงครึ่ง ยังมีเวลาพักอาบน้ำแต่งตัวบ้าง

16.12 น.

ผมคร่อมมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทเครื่องเตรียมบิดออกจากหน้าบ้านหลังจากที่ล็อกรั้วบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ออกตัว เสียงทุ้มเข้มของท่านเจ้าที่ก็รั้งผมเอาไว้เสียก่อน พร้อมด้วยการปรากฏตัวของอีกฝ่ายขวางหน้ารถผม

“จะไปไหนรึ”

ผมขึงตามองเขาก่อนจะตอบด้วยเสียงเนือยๆ “ตลาดแถวมอ.”

“ข้าไปด้วย”

“จะไปทำไม...” ผมตั้งใจจะแย้ง แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด “เออ ไปก็ไป งั้นช่วยแต่งตัวดีๆ แล้วขึ้นรถมาสิครับท่านครับ”

ผมมองชุดที่ท่านเจ้าที่ใส่อย่างฉงนใจ มันเป็นชุดหมีแบบช่างไฟฟ้าอ่ะเคยเห็นป่ะ? แล้วนี่ทำไมใส่ชุดนี้วะ ไปซ่อมสายไฟที่ไหนมาเรอะ?! อยากจะถามนะแต่ก็ขี้เกียจอีกนั่นล่ะ

เทวดาหน้าหล่อดีดนิ้วเป๊าะเหมือนทุกที แล้วชุดที่ใส่ก็เปลี่ยนเป็นเชิ้ตสีม่วงอ่อนกับกางเกงแสล็คสีดำ...หล่ออีกแล้ว หล่อตลอดดด จุดประกายความอยากปลุกปล้ำของกูมากกก...เวิ่นเว้อเพ้อพกเงียบๆ ในใจโดยที่สีหน้าไม่ออกอาการหื่นกาม เอ๊ย! อาการหมั่นไส้ใส่อีกฝ่าย จนเมื่อท่านเจ้าที่ขึ้นซ้อนท้ายผมเรียบร้อย ผมก็บิดเร่งเครื่องออกเดินทางทันที

สิบห้านาทีต่อมาเราก็มาถึงตลาดนัดใกล้มหา’ลัยที่ผมพูดถึง ร้านรวงมากมายตั้งเรียงกันเป็นแถวๆ ผู้คนต่างพากันมาเดินให้ขวักไขว่ หาของกินของใช้กันไป คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เดินๆ ไปนี่ต้องร้อนเหงื่อซ่กแน่ๆ แต่เอาวะ เพื่อมื้อเย็นอร่อยๆ

“ไปกันท่านเจ้าที่ อยากกินอะไรบอกมา”

“จะเลี้ยงเหรอ?”

“แปลกหรือไงล่ะ”

“ก็เอ็งขี้งกจะตายไปนี่” ท่านเจ้าที่ต่อว่าผมหน้าตาย ผมเขม่นตามอง

“แล้วทุกวันนี้ที่ทำกับข้าวให้กินผมได้ทวงเงินสักบาทป้ะ?” พอผมว่าอย่างนั้น อีกฝ่ายก็เลยทำเพียงแค่ยักไหล่ให้ แล้วเดินนำเข้าสู่สมรภูมิเลือกซื้ออาหาร จากนั้นก็ชี้นิ้วว่าอยากจะกินนั่นนี่ให้ผมตามไปจ่ายตังค์ พอบ่นว่าเยอะเกินไปละ ก็ทำมาทวงบุญคุณที่คอยดูแลผมบ้างล่ะ นั่นนี่นู่นบ้างล่ะ

ว้อย! ถ้าจะทวงบุญคุณกันขนาดนี้ เอาเลย อยากกินอะไรตามใจเลยครับ ถือว่าใช้หนี้บุญคุณจะได้หายๆ กันไป

เดินช็อปปิ้งอาหารกันอย่างเมามันชนิดที่เงินในกระเป๋าตังค์แทบจะหมดเกลี้ยง ผมก็ตัดสินใจว่าควรหยุดแค่นี้ แค่ที่มือทั้งสองข้างถือจนเต็มเนี่ยก็ควรพอแล้วมั้ยเล่า! หมดตัวเลยกู แค่ครั้งเดียวนี่แห้งไปอีกหลายวันเลยไอ้ฉิบหาย

“ท่านเจ้าที่ เอานี่ไปเก็บที่รถทีได้ป่ะ ผมจะแวะเข้าไปในเซเว่นหน่อย จะจ่ายค่าไฟ” ดีนะผมกันค่าไฟเอาไว้แล้ว

“ได้ เจอกันที่รถ อย่ามาช้าข้าไม่ชอบรอ”

“เออน่ะ เอ้า เอาไปเร็วๆ จะได้รีบไปจ่าย”

ส่งของทั้งหมดให้เทวดาหนุ่มสุดหล่อ ผมก็เดินลิ่วมาอีกทางเพื่อไปยังเซเว่นที่อยู่ไม่ไกลกันนักทันที จัดการชำระค่าไฟฟ้าของเดือนที่แล้วเรียบร้อย ผมก็กลับออกมาแล้วตรงไปที่รถของตัวเอง ป่านนี้ไอ้ท่านเจ้าที่อาจจะกำลังยืนรอไปบ่นผมไปด้วยแล้วมั้ง ขอแค่ให้ได้บ่นผมเถอะ ต่อให้เรื่องเล็กน้อยก็บ่นได้อ่ะคิดดู เฮอะ

เดินๆ อยู่ผมก็เหมือนว่าจะเห็นใครคนหนึ่งที่เพิ่งจะแยกกันเมื่อไม่นานนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าเลยลองเรียกดูก่อน “ไวท์?”

อีกฝ่ายหันกลับมามองผม ทำหน้าแปลกใจแล้วว่า “อ้าว มาหาอะไรกินเหรอแทงค์”

“อืม ไวท์เองก็ด้วยอ่ะดิ แล้วมาคนเดียวเหรอ?”

“เปล่าๆ เรามากับเพื่อน แต่ไม่รู้เขาหายไปไหนแล้ว กำลังตามหาอยู่”

“อ้าว เราช่วยหามั้ย?” ผมอาสาอย่างมีน้ำใจ ก็อีกฝ่ายช่วยผมไว้เยอะนี่นา อะไรที่ผมช่วยได้ก็อยากช่วยบ้าง

“ไม่เป็นไรๆ เราหาเขาได้ ว่าแต่แทงค์เถอะมากับใคร?”

“อ๋อ เรามากับท่าน เอ้อ พี่ภูน่ะ” เรียกแล้วแม่งก็กระดากปากว่ะ อี๋ๆ

“แล้วพี่เขาอยู่ไหนเหรอ ไม่เห็นเดินมาด้วยกัน” ไวท์ถามพลางเมียงมองรอบข้าง คงอยากจะทักทายล่ะมั้ง เพราะตั้งแต่มาทำศาลให้ก็ไม่ได้เจอกันสักครั้ง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาหายไปไหน แต่เดาว่าคงงานยุ่งอ่ะแหล่ะ เลยไม่ค่อยได้ปรากฏตัวออกมาให้เห็นเท่าไหร่

“รอที่รถ รถเราจอดอยู่นั่น...เห นั่นใครวะน่ะ?” ผมชี้ไปที่รถของตัวเองที่เห็นอยู่ไกลๆ แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วหรี่ตามองเมื่อพบว่าท่านเจ้าที่ไม่ได้อยู่คนเดียว เขากำลังนั่งยองๆ คุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างกัน

“อ๊ะ! นั่นเพื่อนเรานี่!” ไวท์ว่า ก้าวเท้าอย่างไวตรงไปหาเพื่อนของเขา ขณะที่ผมเองก็เดินตามจนมาถึงที่หมาย...คนที่คุยกับท่านเจ้าที่ก็คือเพื่อนของไวท์นั่นล่ะ โลกกลมชะมัดเลย “อัศ!”

“อ่า คุณไวท์ ผมหาคุณตั้งนาน ขอโทษนะครับที่ผมหลงทางกับคุณจนได้” เพื่อนของไวท์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเอ่ยปากบอกด้วยสีหน้าสำนึกผิด

เพื่อนกันแต่ทำไมเรียกคุณล่ะ? แปลกแฮะ แล้วจะว่าไป...ผู้ชายคนนี้หน้าตาคุ้นๆ เหมือนผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันคุ้นมากเลยนะ ผมว่าผมเคยเห็นเขาอ่ะ แต่ช่างเถอะ เรื่องของไวท์ผมไม่อยากไปยุ่ง เดี๋ยวจะเป็นการรบกวนเสียเปล่าๆ

คิดได้ดังนั้นผมก็หันมาสนใจท่านเจ้าที่แทน แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างร้องถามเสียงหลง “เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย!?!”

จะไม่ให้ผมเหวอได้ไงครับ ก็ในเมื่อตอนนี้ท่านเจ้าที่กำลังนั่งยองๆ เล่นกับหมาตัวหนึ่งอยู่ ดูจากพันธุ์ก็แน่นอนว่านี่มันชิวาว่า หมาตัวเล็กแต่ห้าวเป้ง และที่ผมตกใจก็เพราะตอนนี้ไอ้หมาน้อยขนสีขาวกำลังอ้าปากงับข้อมือท่านเจ้าที่เอาไว้แน่น ส่งเสียงขู่ฮึ่มฮั่มในลำคอไปด้วย

“นี่น่ะเหรอ?” ท่านเจ้าที่ลุกขึ้นยืนพลางกางแขนข้างที่หมาตัวนั้นงับข้อมืออยู่ออก แล้วคือลุกขึ้นมาพร้อมกับยกหมาที่งับแขนตัวเองขึ้นมาด้วยไง ทำแบบนี้ได้ไงกันเนี่ย! “หมาใครไม่รู้ ฉันแค่เล่นด้วยแต่มันงับเฉยเลย”

“แล้วให้มันงับทำไมเล่า! เอามันออกสิ วางมันลง!”

“เออๆ รู้แล้วน่า จะดุทำไมเนี่ย” ท่านเจ้าที่งัดปากไอ้เจ้าตัวเล็กออกก่อนจะวางมันลง...เหมือนไอ้หมาน้อยจะเขม่นตามองทิ้งท้ายก่อนมันจะวิ่งดุ๊กๆ หนีไป เห็นดังนั้นผมเลยรีบคว้าข้อมือท่านเจ้าที่มาดูแต่กลับไม่พบรอยอะไรสักอย่าง ทั้งๆ ที่มันควรจะมีรอยเขี้ยวหรือรอยเลือดด้วยซ้ำไป

“ทำไมไม่มีแผล?”

“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นใคร” เออว่ะ นี่เทวดานะเว้ย จะบาดเจ็บได้ไง ห่วงฟรีเลยกู

แต่ผมไม่บอกเขาหรอกนะว่าห่วง เดี๋ยวได้ใจอีก ชิ!

“งั้นก็ช่างมัน ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร” ผมหันไปหาไวท์ ก็เห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาตกตะลึงไม่ต่างกัน ฉิบหาย ลืมไปเลยว่านอกจากผมกับท่านเจ้าที่ ยังมีไวท์กับเพื่อนของเขาที่เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้ด้วย!

ต้องรีบหนีก่อนแล้วล่ะ รีบหนีกลับบ้านก่อนที่ไวท์จะถามอะไรมากไปกว่านี้ มีคนโดนหมากัดแต่ไม่มีเลือดสักหยดยืนอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่สงสัย และผมไม่อยากตอบด้วย คิดคำตอบไม่ออกเฟ้ย เพราะงั้นรีบหนีคือดีที่สุด!

“เราต้องรีบกลับแล้ว เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมล็อกประตูบ้าน แล้วเจอกันนะไวท์ บาย” พูดรัวจนลิ้นแทบพันกันจบ ผมก็รีบคร่อมรถ สตาร์ทแล้วขี่ออกมาทันทีที่ท่านเจ้าที่ขึ้นซ้อนท้าย

เวรเอ๊ย ถึงหลบวันนี้ได้ แต่ถ้าเจอกันวันอื่นไวท์ต้องถามแน่ๆ แล้วกูจะตอบว่าอะไรดีล่ะเนี่ย! ไอ้ท่านเจ้าที่นี่ก็นะ เล่นอะไรไม่ดูที่ดูทางเลย โอ๊ยยย อยากจะบ้า!



__________

มันก็จะงงๆ หน่อย 555 เมื่อวานฝนตกหนักเราเชื่อมเน็ตไม่ได้เลยค่ะ ก็เลยไมไ่ดมาอัพ พอจะมาอัพวันนี้ก็มัวแต่อ่านนิยายเพลินจนเลยเข้าสู่อีกวันจนได้ แต่ยังไงก็มาอัพนะตัว อุอิ

จริงๆ เราแอบไปลง side story ของเรื่องนี้ในแอพฯ จอยลดามาด้วยแหล่ะ แต่...แชร์ไม่เป็นอ่ะ ทำไมรู้สึกว่าตัวเองโง่ 5555 //ในเลขห้ามีน้ำตาไหลนอง ใครอยากอ่านลองเสิร์ชชื่อเรื่องหรือนามปากกาเราดูนะคะ เผื่อใครเล่นแอพนี้จะได้ไปจอยกันเนอะ ขอโทษจริงๆ ที่เราหาวิธีแชร์ไม่เป็น งงๆ กับแอพอยู่ง่ะ เพิ่งลองเล่น

เจอกันตอนหน้านะคะ บ๊ะบายยย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2017 00:03:52 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
หรือว่าเพื่อนของไวท์ เป็นเจ้าที่เหมือนกัน
เอ๊ะ กลุ่มนี้เป็นไงกัน เล่นของสูงนะเนี่ย
 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
เดาออก 100% แล้วหล่ะ อิอิอิ แต่ไม่บอก ปล่อยให้รอคนเขียนมาเฉลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เป็นเจ้าที่อีกองค์ล่ะสิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อัศ คือใคร ไมเราไม่คุ้นหว่า งง  :really2: :really2:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ทำไมท่านภูตลาไม่อ่านใจแทงก์
ถ้าอ่านใจแทงก์ด้วยคงมันส์น่าดู
ด่าแทงก์ทั้งวันสนุกแน่ 5555555

ขอบคุณเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
      เจ้าที่อีกองค์แน่ๆเลย

ออฟไลน์ ต้นไม้ใบหญ้า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อย่าบอกว่าเจ้าที่อีกองค์นะ อิอิ  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 20

“ข้าสายเปย์”

 

กลับมาถึงบ้านผมก็เปิดฉากเทศก์ใส่ท่านเจ้าที่อยู่หลายนาที เออ รู้ว่ามันดูประหลาดที่มนุษย์อย่างผมเทศนาเทวดาอย่างเขา แต่มันก็อดไม่ได้นี่หว่า แล้วเรื่องที่บ่นก็เรื่องที่เพิ่งผ่านมานั่นล่ะ ลองมาเห็นคนโดนหมากัดจมเขี้ยวแต่ไม่มีแผลสักกระผีกดูสิ มีใครบ้างจะไม่ตะลึงวะครับ!

“แล้วทีนี้ผมจะตอบไวท์ยังไงถ้าเขาถาม โอ๊ย! ปวดประสาทจริงๆ เลยโว้ย!”

“เอ็งจะคิดมากทำไม เรื่องแค่นี้เอง”

“แค่นี้เหรอไอ้ท่านเจ้าที่!? งั้นตอบมาสิถ้าเขาถามผมควรตอบว่าอะไร หา?!”

“ก็บอกไปว่าข้ามีของดี เนื้อหนังฟันแทงไม่เข้า” ท่านเจ้าที่ตอบหน้าตาย...คำตอบที่ทำให้ผมถึงกับถลึงตาใส่เขา

“มีเหล็กไหลแบบในหนังหรือไง?! หรือมีตับเหล็ก เขี้ยวหมูป่า เขี้ยวเสือเขี้ยวหมา ยุคนี้แล้วใครจะไปเชื่อ” ผมว่าพลางกอดอกเบือนหน้าไปมองทางอื่น ไม่อยากมองหน้าเขาเลยว่ะ กลัวโมโหจนเผลอฟาดหน้า โว๊ะ!

“เทวดาหรือพระภูมิเจ้าที่ยังปรากฏตัวต่อหน้าเอ็งได้เลย ทำไมของวิเศษพวกนั้นจะมีไม่ได้ล่ะ” ท่านเจ้าที่เถียงกลับมา พอผมลองคิดตาม...เออ มันก็จริงอ่ะแหล่ะ แต่ยังไงถ้าเอาไปบอกคนอื่นมันก็น่าเหลือเชื่ออยู่ดีป่ะวะ ก็คนอื่นไม่ได้เจอเจ้าที่ตามรังควานแบบผมนี่หว่าจะได้เชื่อว่าฟันแทงไม่เข้าเป็นเรื่องจริงไปด้วยอ่ะ

ผมอ้าปากเตรียมจะเถียง แต่ท่านเจ้าที่หน้าหล่อฉิบหายวายวอดจนชวนให้อยากจับลากแล้วทุ่มลงเตียง-- แค่กๆ จะอะไรก็ช่าง สรุปคือท่านเจ้าที่ขัดจังหวะผมด้วยการโบกมือปัดๆ ไปมาเหมือนไล่แมลง

“เอาน่ะ บอกตามที่ข้าบอกนั่นล่ะ เชื่อสิว่าได้ผล”

ผมหรี่ตามองอีกฝ่ายที่มีท่าทีมั่นอกมั่นใจ แถมยังดูมีลับลมคมในแปลกๆ ยิ่งเมื่อผมเอ่ยถามแล้วเขาแสร้งเบือนหน้าไปมองทางอื่น ผมก็ยิ่งมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ ในตอนที่ผมไปจ่ายค่าไฟ ตอนกลับมาผมเห็นเขากำลังคุยอยู่กับเพื่อนของไวท์อยู่ด้วยนี่ ที่ชื่ออะไรนะ? อัศเปล่าวะได้ยินไวท์เรียกแว่วๆ

“ไปรู้อะไรมาใช่ไหมถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้ว่าบอกไปแบบนั้นแล้วไวท์จะเชื่อผม”

ท่านเจ้าที่ไม่ตอบ แค่ยักไหล่แล้วหันไปรื้อๆ ถุงของกินเป็นสิบถุงที่ซื้อมา...ด้วยเงินของผมน่ะนะ

ผมจ้องอีกฝ่ายอยู่อีกหลายนาที อยากจะคาดคั้นให้พูดออกมาเพราะผมมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้แน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วด้วยความที่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเซ้าซี้เรื่องของคนอื่นเท่าไหร่ ผมก็เลยเลิกสนใจไปในที่สุด บอกๆ ไปแบบนั้นก็ได้วะ เชื่อไม่เชื่อไว้ค่อยไปแก้สถานการณ์เอาตอนนั้นแล้วกัน

“เอาของคาวมากินก่อนสิ อย่ากินขนม!” ผมเอ็ดเมื่อท่านเจ้าที่จิ้มทองหยอดลูกหนึ่งขึ้นมากิน

“ก็ข้าอยากกินอันนี้ก่อนไม่ได้หรือไงเล่า!”

“ไม่ได้ มากินข้าวก่อน” ผมว่าพลางเดินไปคดข้าวใส่จาน พอดีหุงไว้ตั้งแต่เที่ยงแล้วมันยังมีเหลือพอให้กินได้สองคนเป็นมื้อเย็น ไม่ต้องอุ่นหรอกขี้เกียจ กินมันงี้แหล่ะ ข้าวเย็นไงตรงตัว เย็นๆ ไม่ร้อน

ผมเอาจานชามมาแกะกับข้าวใส่จาน มื้อนี้ผมซื้อกับข้าวมาสามอย่าง เป็นผัดเผ็ดปลาดุก แกงพแนงหมู แล้วก็แกงส้มชะอมไข่...จะว่าไปก็มีแต่อาหารเผ็ดๆ ทั้งนั้นเลยนี่หว่า

“ท่านกินได้ไหม ร้านนี้เขาทำค่อนข้างเผ็ดนะ” ผมบอก เพราะกินร้านนี้บ่อย กับข้าวเขาอร่อยน่ะ ถูกปากผมมาก

“ได้ ข้ากินได้หมดไม่ว่าจะเผ็ดมากแค่ไหน ลิ้นข้าหนาเหมือนผิวหนังนั่นล่ะ” ท่านเจ้าที่ว่าพลางตักชะอมไข่ใส่จาน

“หนาเหมือนหน้าด้วยล่ะสิ” ผมแซะ เรียกสายตาจ้อมเขม็งของเทวดาหนุ่มหน้าหล่อให้หันมาถลึงมอง ส้อมในมืออีกฝ่ายนี่สั่นริกๆ เหมือนพร้อมจะปักหน้าผมมาก จนผมรีบแก้ต่างให้ตัวเอง “พูดเล่นครับผม”

“อยากตายเล่นๆ ดูไหมล่ะไอ้หนุ่ม”

“โอ้โห นี่ขู่หรอ? เป็นเทวดาขู่ฆ่ามนุษย์อย่างนี้ก็ได้เหรอ?”

“เออ!” ท่านเจ้าที่ตอบเสียงกระแทก “หยุดพูดแล้วกินได้แล้ว ไม่งั้นข้าจะเอาส้อมปักปากเอ็ง!”

โหด โหดสัสรัสเซียเมียอเมริกามาก ไอ้ท่านเจ้าที่ใจโฉด!...ผมหลอกด่าในใจ ทำปากมุบมิบใส่ก่อนจะรีบก้มลงจดจ่อกับจานข้าวเมื่อท่านเจ้าที่ชูส้อมขึ้นมาขู่อีกครั้ง อะไรวะ ตกลงเป็นเทวดาจริงป่ะเนี่ย! แหย่นิดแหย่หน่อยทำมาโหดใส่ อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะมึ้งงง ชิ!

__________

และแล้ววันที่ผมไม่อยากให้มาถึง...ก็มา วันอาทิตย์ที่ผมว่างจนถึงหนึ่งทุ่ม ผมนัดกับไวท์และไอ้ธีร์เอาไว้ว่าวันนี้จะทำศาลต่อ จนแปดโมงสถาปนิกควบวิศวะของผมก็มาถึงบ้าน

ผมแสร้งทำเป็นปกติราวกับลืมเรื่องเมื่อครั้งก่อนไปแล้ว และไวท์เองก็ปกติมากเสียจนผมไม่แน่ใจว่าเขาลืมไปแล้วหรือเขาไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องของผมกันแน่ ดังนั้นผมเลยไม่พูดอะไร ส่วนไอ้ธีร์ที่ไม่รู้เรื่องก็ยังปากหมาเหมือนเดิม

“วันนี้คิดว่าน่าจะเสร็จในส่วนของการสร้างนะ แต่ส่วนตกแต่งคงต้องเป็นวันหลัง พวกทาสีเพนต์ลายน่ะ”

“อ๋อ โอเค พวกทาสีเดี๋ยวเราทำเองก็ได้ ไวท์จะได้ไม่ต้องลำบาก”

“เฮ้ย ไม่ลำบากเลย เราสนุกจะตาย ฮะๆ” ไวท์โบกมือปฏิเสธ ขณะที่ไอ้ธีร์ทำหน้านึกขึ้นได้

“เออ ทำไมไม่ถ่ายรูปตอนไวท์ทำเอาไว้บ้างล่ะ เผื่อเอาไปใช้ทำรายงานหรือสมัครงานในอนาคตไรงี้อ่ะ”

“อ่า นั่นสิ เราก็ลืมไปเลย” ไวท์ทำหน้าเสียดาย แต่ผมยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายแล้วยกยิ้มให้เขา

“เราถ่ายรูปไวท์เอาไว้แล้วล่ะ”

“มึงถ่ายด้วยเหรอ?” ไอ้ธีร์เลิกคิ้ว ก่อนจะแบมือมาทางผม ผมหยิบเอาสมาร์ทโฟนของตัวเองมาปลดล็อกแล้วเข้าไปในแกลลอรี่รูปภาพ เปิดให้มันเลื่อนดูเอาเองก่อนจะยื่นให้มัน

ไวท์กับธีร์ไปสุมหัวดูรูปด้วยกัน รูปที่ผมถ่ายส่วนใหญ่ก็เป็นรูปของไวท์ตอนวางโครงเหล็ก ทำแบบ เทปูน เรียกได้ว่าทุกอย่างที่เขาทำผมถ่ายเก็บไว้หมดเลยนั่นล่ะ มีเป็นวิดีโอด้วยนะ

“ไปถ่ายตอนไหนเนี่ย” ไวท์ทำหน้าประหลาดใจปนตื่นเต้น ขณะที่กำลังดูวิดีโอที่ผมอัดเอาไว้ไปด้วย

“ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับไวท์เราเลยถ่าย แต่ไวท์ไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ทำงานไงล่ะ ทุ่มเทกับงานมาก ฮะๆ”

“ไอ้แทงค์ มึงอย่าลืมส่งรูปกับคลิปนี่ให้ไวท์ล่ะ เผื่อได้ใช้จริงๆ นี่น่ะผลงานชิ้นเอกเลยนะ” ไอ้ธีร์ส่งโทรศัพท์คืนผม

“เว่อร์น่าธีร์ ก็แค่งานธรรมดา”

“ถ่อมตัวไปอีก ฮ่าๆๆๆ” ผมกับไอ้ธีร์ยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนผู้แสนสุภาพ หลังจากนั้นพวกเราก็ช่วยกันทำงานจนตะวันเคลื่อนมาตรงหัว อากาศร้อนแบบอบอ้าว คือมันไม่มีแดดจ้าเพราะก้อนเมฆบดบังดวงอาทิตย์เอาไว้ แต่มันก็ร้อนจนเหงื่อท่วมตัวน่ะ เข้าใจฟีลลิ่งนี้ไหมครับ?

“พักก่อนมั้ย นี่เที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกัน” ผมเอ่ยปากชวนเพื่อนทั้งสองคน สามนาทีต่อมาพวกเราทั้งหมดก็เข้ามาหลบอากาศร้อนในห้องนั่งเล่น...ผมปล่อยให้เพื่อนนั่งพักตากพัดลม ส่วนตัวเองก็เข้าครัวเพื่อดูว่าจะทำอะไรให้พวกมันกินได้บ้าง จริงๆ ผมก็ลืมไปว่าควรเตรียมกับข้าวกับปลาเอาไว้ตั้งแต่เช้า ตอนเที่ยงจะได้มีข้าวกิน ให้รอผมทำคงหิวแย่

“พักกันแล้วเหรอ”

“อ้าว อยู่ด้วยเหรอ?” ผมเอ่ยปากถาม เดินเข้าไปหาท่านเจ้าที่ที่กำลังล้างกระทะอยู่ “ทำอะไรอ่ะ?”

“ล้างกระทะอยู่ ไม่เห็นหรือไงล่ะ” ท่านเจ้าที่ย้อนกลับมาพลางเหลือบมองผมเหมือนเห็นไอ้โง่ตัวหนึ่งยืนอยู่

หน็อยยย มองแบบนี้เดี๋ยวก็จับจูบแม่ง! ที่ถามน่ะหมายถึงทำอะไรทำไมต้องล้างกระทะโว้ย!

“ข้าอุ่นอาหารให้พวกเอ็งแล้วนะ” เขาบอก เช็ดมือกับผ้าเช็ดมือที่แขวนเอาไว้ตรงหน้าต่างแล้วชี้ไปทางโต๊ะกินข้าว

ผมตาโต เดินดิ่งเข้าไปสำรวจทันที...โอ้โห ของกินเยอะแยะอีกแล้วว่ะ เหมือนเมื่อวันนั้นเลย นี่ไปซื้อมาจากที่เดิมใช่ไหมเนี่ย บนโต๊ะมีทั้งผัดกะเพราหมูสับ ปลาทับทิบสามรสตัวใหญ่ ไหนจะต้มจืดเต้าหู้ใส่หมูสับกับสาหร่าย แกงเขียวหวานไก่ แล้วก็นั่นน้ำพริกกะปิปลาทูทอด พร้อมด้วยผักจิ้มมากมาย

นี่มันมื้อใหญ่มากกกกกก

“มีของหวานอีกนะ แต่อยู่ในตู้เย็น เป็นทับทิมกรอบน้ำกะทิ รวมมิตร แล้วก็ลอดช่อง อ้อ เค้กนมสดก็มีอยู่สามชิ้น สตรอว์เบอร์รี่ ช็อกโกแลต แล้วก็ชาเขียว”

“ห๊ะ! ยังมีอีกเรอะ?!”

“อืม ข้าซื้อน้ำผลไม้กับน้ำอัดลมมาด้วย เป็นน้ำส้มกับน้ำองุ่น ส่วนน้ำอัดลมเป็นโค้กกับน้ำแดง อยากกินอะไรก็ไปหยิบเอา อยู่ในตู้เย็นนั่นล่ะ น้ำแข็งอยู่ในช่องฟรีซ”

“!!!” ผมกำลังอึ้ง และอาจจะช็อกตายในไม่ช้าครับทุกคน

คือเฮ้ย! นี่มันมื้อใหญ่มากจริงๆ นะ! ทำไมกับข้าวกับปลา ขนมหวานน้ำดื่มมันเยอะขนาดนี้ล่ะ นี่ท่านเจ้าที่ผีเข้าอีกแล้วหรือเปล่าถึงซื้อของกินมาให้เยอะแยะขนาดนี้

“ทะ ท่านทำงานหนักไปหรือเปล่าอ่ะท่านเจ้าที่”

“ทำไมถามอย่างนั้น?”

“ก็การที่ซื้อของกินมาให้สารพัดอย่างเนี่ย มันดูไม่ใช่วิสัยปกติของท่านอ่ะดิ!”

“ปากหรือนั่น ข้าก็ใจดีอย่างนี้อยู่แล้ว แค่กับเอ็งข้าไม่อยากจะใจดีด้วยต่างหาก” ท่านเจ้าที่ว่าพลางยกมือมาผลักหัวผมอย่างหมั่นไส้ “อีกอย่างข้าก็แค่อยากจะเลี้ยงตอบแทนพวกเอ็งที่ช่วยกันสร้างศาลให้ข้า ก็แค่นั้น”

อ๋อ งี้นี่เอง อยากจะเลี้ยงตอบแทนสินะ แต่เฮ้ย! คือผมตั้งใจว่าเสร็จงานนี้จะพาไวท์กับธีร์ไปเลี้ยงหมูกระทะ ถ้าท่านเจ้าที่ชิงเลี้ยงมื้อใหญ่ให้ขนาดนี้แล้วผมจะทำไงอ่ะ

“จริงๆ ท่านไม่ต้องลำบากก็ได้ เพราะผมก็กะจะให้ท่านเลี้ยงหมูกระทะพวกมันอยู่แล้วด้วย มาเลี้ยงมื้อใหญ่ให้งี้แล้วผมจะกล้าขอให้ท่านเลี้ยงหมูกระทะพวกมันได้ไงอ่ะ” ผมว่าความในใจออกไป ถึงผมจะขี้งก แต่ก็ไม่ได้งกจนถึงกับไม่สนใจอะไรนะเว้ย ถ้าขอให้เลี้ยงหมูกระทะอีกก็ดูจะเป็นการขอที่มากเกินไปป่ะวะ

“ก็ไปสิ ข้าเต็มใจเลี้ยงพวกเอ็งอยู่แล้ว” ท่านเจ้าที่ว่า ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนแขนเราสองคนแตะกัน “ข้าสายเปย์”

โอ้โห สายเปย์เหรอออ ทำไมคำตอบน่าหมั่นไส้ขนาดนี้วะ!

ผมเงยหน้ามองอีกฝ่ายเมื่อได้ยินอย่างนั้น ตั้งใจจะแขวะความกล้าอวดของเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงยื่นมือมาเกลี่ยปลายผมที่เปียกเหงื่อของผมออกจากกรอบหน้า แล้วใช้หลังมือเช็ดหยดเหงื่อตามไรผมของผมให้ออกอย่างเบามือ

กึก

ผมตัวแข็งทื่อกับสัมผัสอ่อนโยนที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับจากท่านเจ้าที่...มันอ่อนโยนมากจนผมใจสั่นอีกแล้ว คำพูดอะไรก็แล้วแต่ที่ตั้งใจจะเอ่ยออกมาหายวับเข้าลำคอไปจนหมดสิ้น

หัวใจ...อย่าเต้นแรงนักสิวะ

ผมยืนนิ่ง ไม่ได้ปัดป้อง ไม่ได้ขยับตัวหนี ปล่อยให้อีกฝ่ายเช็ดเหงื่อให้จนพอใจแล้วผละออกไปเอง...เราสองคนสบตากัน ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกได้ว่าใบหน้าของเราสองคนมันขยับเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ

แล้วในที่สุดเรียวปากของเราสองคนก็แนบชิดกัน...แผ่วเบาราวกับปุยนุ่น ล่องลอยเหมือนอยู่ในสายลม มีแค่ปากแตะปาก และการขยับสัมผัสกันเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่เราจะแยกจากกัน ทั้งๆ ที่ใบหน้ายังห่างกันไม่กี่เซนต์ แบบที่ยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รินรดริมฝีปากของกันและกัน

“อ๊ะ!”

เฮือก!

แต่แล้วเสียงอุทานของบุคคลที่สามก็ทำให้ทั้งผมและท่านเจ้าที่สะดุ้งโหยง ผละออกห่างจากกันทันทีราวกับโดนกระแสไฟฟ้าช๊อตร่าง ก้าวถอยห่างออกจากกันอีกสามก้าวถ้วนโดยอัตโนมัติ

ผมหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ ก็ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากไวท์กับธีร์...ไวท์โบกมือมองมาด้วยสายตาขอโทษขอโพย ขณะที่ไอ้ธีร์ทำตาพราว ทำหน้าเจ้าเล่ห์ล้อเลียนใส่ผม...ถูกเห็นเข้าหรือวะ โอย อายว่ะ

ผมเสมองไปทางอื่นทั้งๆ ที่รู้เลยว่าแม่งผมต้องแก้มแดงแล้วแน่ๆ เพราะตอนนี้ร้อนไปทั้งหน้าเลยครับ และคนที่ช่วยแก้สถานการณ์ให้ก็คือคนที่เพิ่งจะจูบ...กะ กับผมไงล่ะ

“อ่า มากินข้าวสิ ข้า...อืม ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว” ร่างสูงหันเท้าเดินไปที่หม้อหุงข้าว ดูก็รู้ว่าจะไปตักข้าวให้ แต่ไวท์กับธีร์รีบก้าวเข้ามาห้ามเสียก่อน

“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวพวกผมตักเอง ให้คนอายุมากกว่ามาบริการมันแปลกๆ”

“แล้วพี่ภูกินข้าวหรือยังครับ มากินด้วยกันสิครับ”

“อะ อืมๆ” ท่านเจ้าที่ตอบรับ เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ประจำ ขณะที่ผมพยายามทำตัวปกติที่สุดด้วยการมองหาเก้าอี้อีกสองตัวให้เพื่อนนั่ง ก่อนจะเจอมันวางอยู่ข้างๆ ตู้เย็น เลยเดินไปหยิบมันมาให้เพื่อนทั้งสอง

“อ่ะนี่ พวกมึงนั่งนี่น่ะ เอ้อ มีโค้กกับน้ำแดง แล้วก็น้ำผลไม้ เอาอะไรกัน?” ผมถามแก้เก้อ หันหลังเดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกครั้ง เปิดออกแล้วหยิบเอาน้ำผลไม้ทั้งสองรสออกมาชูให้ดู

“เราเอาน้ำองุ่น” ไวท์บอก ส่วนไอ้ธีร์ขอเป็นโค้กดีกว่า อากาศร้อนๆ ต้องโค้กเพิ่มความสดชื่นซาบซ่าน สีหน้ามันตอนพูดดูเจ้าเล่ห์มาก...ซาบซ่านของมันนี่หมายถึงโค้กหรืออย่างอื่นวะ ผมไม่อยากจะคิดไกลเลย

หลังจากนั้นมื้อกลางวันก็เริ่มขึ้นแบบที่เพื่อนทั้งสองตาโตมองอาหาร แถมพอรู้ว่ามีขนมล้างปากก็ดี๊ด๊ากันใหญ่ กินจนอิ่มตื้อไปตามๆ กัน...ตอนแรกพวกมันก็ไม่กล้ากินหรอกครับเพราะเกรงใจ แต่โดนผมกับท่านเจ้าที่ไซโคอยู่ไม่กี่นาทีก็ยอมกินอย่างไม่เกรงใจแทน ฮะๆ

แล้วก่อนที่เราจะกลับไปทำงานต่อ ผมก็ไม่ลืมที่จะกล่าวสิ่งที่อยากจะพูดแต่ยังไม่ได้พูดให้กับเทวดาคนเดียวของบ้านนี้ได้ยิน ในตอนที่เดินผ่านอีกฝ่ายออกจากประตูห้องครัวมา

“ขอบคุณนะครับท่านเจ้าที่”

อ่า ทำไมหน้ามันร้อนๆ วะเนี่ย



__________

ถ่างตาอ่านทวนก่อนกดอัพแทบไม่ไหวแหน่ะค่ะ ไปกินหมูกระทะมา กินอิ่มแล้วก็ง่วง ตานี่พร้อมจะปิดมาก 555 ตอนนี้ก็มุ้งมิ้งนิดนึงง ส่วนใครที่สงสัยว่าอัศเพื่อนของไวท์คือใครกันน้าา มีเฉลยแน่นอนค่ะ รออ่านกันไปเรื่อยๆ เด้อ อิอิ หลายคนเดาว่าเป็นเจ้าที่อีกองค์ เอ๊...จะใช่ไหมน้า ฮ่าาา

ตั้งใจว่าอัพเสร็จจะไปปั่นต้นฉบับต่อ แต่ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ คิดว่าคงจะนอนเลย เออ ขอเมาท์นิดนึง คือตอนแรกตั้งใจให้เรื่องนี้ไม่เกิน 30 ตอนก็จบ แต่ปรากฏว่าแต่งไปแต่งมา ตอนนี้แต่งได้ 33 ตอนแล้วอ่ะ และยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ยิ่งแต่งยิ่งเพิ่มนั่นเพิ่มนี่จนแบบ เอ๊ะ? นี่มันได้ครึ่งเรื่องหรือยังหว่า 555 ในหัวมีพล็อตค่ะ แต่ไม่เคยเอามาเขียนว่าตกลงแล้วตอนต่อไปจะเป็นไงต่อ เพราะด้นสดเอาทุกตอน ดึงพล็อตออกมาจากสมองแล้วพิมพ์ๆๆ อย่างเดียว เลยยืดยาวไม่จบสักทีเนี่ยแหล่ะ แง้ว!

พอละ วันนี้เราบ่นเยอะอ่ะ อย่าเพิ่งรำคาญเรานะ เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2017 00:25:37 โดย Hazel_nut »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ สามภพ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
แหม่ มีมาจุ๊บปงจุ๊บปาก 5555 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
โว้ยยยย ปั๊ตตะนาบ้างแร้นนนน

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ thisispom

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
 :o8:อ๊ายยยยยย มีจุ๊บกันด้วย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมมีลางสังหรณ์ว่าไวท์จะได้ใช้รูป แถมศาลพระภูมิแบบโมเดิร์นนี้จะเป็นที่นิยม ไม่ใช่ว่ามีแบบนี้กันทุกบ้านนะ ถ้าอย่างนั้นท่านเจ้าที่มาเกิดใหม่หาไม่เจอง่าย ๆ แน่ ฮา

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ขอบคุณเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :-[ ต่างคนต่างเขิน อิอิ น่ารักเน๊าะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จุ๊บเบาๆๆๆ เขินๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด