ตอนที่ 17 : สารภาพ (1) “องศาไม่ต้องซื้อมาแล้วนะ” ปัตย์รับแก้วกาแฟมาจากองศาด้วยความเกรงใจ ขืนซื้อวันละสามแก้วยังไม่รวมของตัวเองแบบนี้ได้จนกันไปข้างหนึ่ง
“นั่นสิ หรือถ้าจะซื้อก็ซื้อให้ปัตย์คนเดียวพอไม่ต้องซื้อเผื่อพวกพี่ นี่เป็นคำสั่งของรุ่นพี่ห้ามขัด” ณดลทำน้ำเสียงจริงจังให้รู้ว่างานนี้เขาเอาจริง
“ก็ได้ครับ ผมตามใจพี่นะ”
“ผมก็สั่งเหมือนกัน” ปัตย์รีบบอก ทำสีหน้าจริงจังกับเขาบ้างแต่องศามองแล้วกลับยิ้มขำ
“อืม”
“อืมแล้วองศาฟังผมหรือเปล่า”
“ได้ยิน” คนตอบทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ เฉไฉไม่ยอมรับปาก
“ดื้อ” ปัตย์บ่นอุบ หน้ามุ่ยที่อีกฝ่ายไม่ยอมรับปากโดยดี
“คุยกันไปก่อน ปัตย์เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเรียน” ณดลยัดโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกง เมื่อสักครู่มีสายโทรเข้ามาหาเขา
“อ้าว นะจะไปไหน” ปัตย์ได้ยินเพื่อนพูดโทรศัพท์แค่โอเค ได้ แล้ววางสายไป เขาจึงไม่รู้ว่าณดลจะทำอะไร
“ฟ้าใสโทรมาบอกให้ไปช่วยขนของ แม่หาที่จอดไม่ได้”
“เราไปด้วย” ปัตย์ทำท่าจะลุกขึ้นยืนตามณดล
“ไม่ต้องสองคนก็พอ ปัตย์คุยกับองศาไปเถอะ เดี๋ยวแก้วนี้พี่เอาไปให้ฟ้าใสเอง” ณดลหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาถือ เขาเดินออกจากโต๊ะโดยไม่เปิดโอกาสให้ปัตย์ได้ทักท้วง ณดลไม่ได้ช่วยองศาแต่เขากับฟ้าใสปรึกษากันแล้วว่าควรให้เวลาทั้งคู่ได้คุยกันสองคน
“อ้วน”
“หือ?” ปัตย์หันกลับมามององศา สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ
“อ้วนรู้จักยูหรือเปล่า ที่เป็นเดือนคณะอ้วน เรียนปีเดียวกับผม”
“รู้จัก” ปัตย์ใจแป้ว หัวใจร่วงหล่น เมื่อคืนองศาบอกเขาว่าวันนี้จะเฉลยว่าชอบใคร แปลว่าองศาจะสารภาพกับน้องยูใช่ไหม
“องศาถามทำไมเหรอ” ปัตย์กลั้นใจถาม
“ไม่มีอะไร ถามเพราะผมก็รู้จักเหมือนกัน”
“อะ..อืม” ปัตย์หลบสายตา เพิ่งรู้ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะรับฟังเรื่องราวความรักขององศา มันปวดใจ
“ยูเป็นเพื่อนข้างบ้านของผมตอนเด็กๆ รู้จักกันตั้งแต่เกิด โตมาด้วยกัน แต่ผมเห็นยูเป็นน้องชายมากกว่าเพื่อนเพราะผมแข็งแรงกว่า” องศาทำเป็นไม่เห็นดวงตาเบิกโตของกระต่ายอ้วน เขายังเล่าต่อไป
“วันก่อนที่ผมนัดอ้วนแล้วยกเลิกเพราะผมเจอยูโดยบังเอิญ ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปี เลยไปหาอะไรกินอัพเดทชีวิตว่าใครเป็นยังไงบ้าง ตื่นเต้นเหมือนเจอน้องชายที่พลัดหลง”
“น้อง..น้องชายเหรอ”
“ใช่ ทำตัวเป็นพี่ของยูจนเคย สิบปีผ่านไปเจอกันก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม มันก็เลยอาจทำให้ใครบางคนเข้าใจผิดไปบ้าง”
“เข้าใจผิดอะไร ใครเข้าใจผิด เห็นแค่นั้นใครจะไปคิดมาก ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” ปัตย์รัวออกมาเป็นชุดก่อนจะรีบกัดปากตัวเอง พอลนลานทีไรเขาควบคุมสติไม่ได้สักที
“ไม่เข้าใจผิดแน่นะ” องศาใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“แน่” ปัตย์แก้มแดง อายเพราะเขาเข้าใจผิดไปแล้วเต็มๆ
“งั้นก็โล่งอก ผมกับยูเป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่เคยคิดเป็นอื่น ขอโทษนะอ้วนที่วันนั้นยกเลิกนัดต่อไปจะไม่ทำอีก”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย คนเรามีธุระกันได้ ได้เจอเพื่อนเก่าเป็นเรื่องดีออกผมเข้าใจ องศาบอกผมได้”
“อืม ต่อไปจะบอกเหตุผลทุกครั้ง ผมมันผู้ชายออกห่ามๆ เลยไม่ทันคิดว่าต้องบอก ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”
“ผมไม่ได้เสียใจ องศาไม่ฟังผมเลย” ปัตย์เผลอทำเสียงกระเง้ากระงอด ใครจะกล้ายอมรับว่าเขาเศร้าและคิดมากแค่ไหน
“หึหึ เข้าใจแล้ว แต่แปลว่าหายโกรธผมแล้วใช่ไหม” องศายื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้ากลม ตรึงอีกฝ่ายไว้ด้วยสายตา
“หมาแมวมันแกวกระโดด!!” ปัตย์สะดุ้งโหยง อุทานออกมาเต็มประโยค รีบหันไปหาเจ้าของมือที่แตะลงบนคอ
“พี่นัท” ปัตย์ลากเสียงยาว รุ่นพี่ภาคเดียวกันยืนหัวเราะขำปฏิกิริยาของเขา “ผมตกใจหมด”
“ฮ่าๆ ก็เรามันตกใจน่ารักดีพี่เดินผ่านเลยอดไม่ได้ เพื่อนไปไหนหมด”
“เดี๋ยวมาครับ”
“อะพี่ให้”
“อะไรครับ”
“ช็อกโกแลตสื่อรัก ชอบกินไม่ใช่เหรอเรา” นัทยื่นช็อกโกแลตให้รุ่นน้องเป็นการขอโทษที่ทำให้ตกใจ
“ขอบคุณครับ” ปัตย์รับขนมจากรุ่นพี่ นัทยื่นมือไปหมายจะดึงแก้มกลมของรุ่นน้องให้สมกับความรู้สึกเอ็นดู แต่ต้องชะงักมือเมื่อเหลือบเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องมองมา
“คุยอยู่ใช่ไหม งั้นพี่ไปก่อนโทษทีที่ขัดจังหวะ”
“เปล่าครับเปล่า ไม่ได้ขัดจังหวะ” ปัตย์รีบปฏิเสธ
“อย่าลืมกินนะ พี่ไปก่อน”
“ครับพี่” เมื่อร่ำลากันแล้วปัตย์จึงหันหน้ากลับมา เขาแกะห่อช็อกโกแลตที่อยู่ในมือ
“อ้าว!” ปัตย์เหวอ หันขวับไปมองเจ้าของมือที่ฉวยช็อกโกแลตของเขาเข้าปากหน้าตาเฉย
“นั่นพี่นัทให้ผม”
“หวานไป” ขโมยของเขาไปกินแล้วยังมาบ่น ทำหน้าเหมือนไม่เห็นจะดีตรงไหน
“ปัตย์ชอบกินเหรอ”
“อืม”
“วันหลังผมจะซื้อมาให้ ห้ามรับของจากคนอื่นมั่ว”
“หือ?” ปัตย์ขมวดคิ้ว “มั่วที่ไหนนั่นพี่นัทรุ่นพี่ที่คณะผมเอง สนิทกัน”
“จีบอ้วนเหรอ”
“หะ! ผมเนี่ยนะ ฮ่าๆ ไม่มีใครจีบผมหรอกองศาดูหุ่นผมซะก่อน แล้วพี่นัทก็ผู้ชายเห็นๆ” ปัตย์ขำ องศาพูดไม่ดูหุ่นของเขาเลย
“ไม่มีใครจีบก็ดีแล้ว ผมไม่อยากมีคู่แข่ง”
“โธ่จะมีได้ยังไง” ปัตย์หัวเราะขำความคิดขององศา ก่อนเปลี่ยนเป็นช็อคตาตั้งในเวลาถัดมา
“อะ..อะไรนะ!”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดขึ้นที่ริมฝีปาก องศาขยับตัวลุกขึ้นยืน เขายื่นมือไปบีบแก้มกลมที่ตอนนี้ปรากฏสีแดงเรื่อ ตากลมโตยังตกใจไม่หาย
“เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ ผมจองโต๊ะร้านพี่ชาติไว้แล้วหกที่”
“ผม..ผมต้องถามฟ้าใสกับนะก่อน” ปัตย์อึกอัก ใจของเขายังเต้นตูมตามกับสิ่งที่ได้ยิน อยากถามซ้ำว่าองศาหมายความว่าอย่างไร
“ไปนะอ้วน อย่าปฏิเสธผมเลย” ปัตย์พยักหน้า พ่ายแพ้ให้กับน้ำเสียงเว้าวอนขององศา
“ตอนเย็นผมมารับ”
“ไม่เป็นไร ผมไปกับนะดีกว่าเจอกันที่ร้าน”
“ตกลง” องศาทาบมือเข้ากับแก้มกลมของปัตย์ นิ่งอยู่ชั่วครู่ถึงยอมลุกขึ้น “ผมไปเรียนก่อน เจอกันที่ร้าน”
“อืม” ปัตย์นั่งเอ๋ออยู่อีกนานหลังจากองศาไปแล้ว เดี๋ยวยิ้มเขินเดี๋ยวถอนใจยาวออกมา ปัตย์หนอปัตย์ทำไมไม่ถามให้รู้เรื่องไปเลย โอ๊ย!แล้วอย่างนี้เขาจะมีสมาธิเรียนไหม
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“คิดถึงบรรยากาศแบบนี้แฮะเหมือนไม่ได้รวมกลุ่มกันนานแล้ว”
“คิดถึงพี่เหรอ”
“ฮ่าๆ “ ภาคหัวเราะเมื่อโดนรุ่นพี่คนสวยแบบฟ้าใสหยอด ครามจริงก็แค่ไม่กี่วันแต่เขากลับรู้สึกอย่างที่พูดออกไป
“เฮ้อ”
“เป็นอะไร” ณดลถามเมื่อฟ้าใสถอนใจออกมาดังๆ
“ทำไมผู้ชายชอบหัวเราะเนียนๆ เวลาไม่อยากตอบ ช้ำใจ”
“ฮ่าๆ” คราวนี้ภาคระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ฟ้าใสเป็นผู้หญิงสวย ดูเหมือนเรียบร้อยอ่อนหวาน ใครจะคิดว่าตัวจริงจะตลกถึงเพียงนี้
“อย่าถือสาเพื่อนพี่เลย แล้วก็เลิกสงสัยได้เลยว่าทำไมถึงหาแฟนไม่ได้ คำตอบก็อย่างที่เห็นกันอยู่”
“บ้า ปกติอยู่ต่อหน้าผู้ชายเราสายหวานย่ะ”
“อ้าวแล้วพวกผมเป็นอะไรครับ” ครามถามด้วยเสียงปนหัวเราะ
“ก็เป็นผู้ชายนั่นแหละแต่ไม่ใช่เป้าหมายไงเลยแสดงตัวตนออกมาได้ จำคำพี่ไว้เลยนะเวลาเจอผู้หญิงน่ารักมากให้เอาสี่หารไว้ก่อน ของจริงน่ารักแค่นั้นแหละ”
“เหมือนฟ้าใสใช่ไหม”
“ใช่” ฟ้าใสพยักหน้าก่อนนึกคิดได้ เฮ้ย!ปัตย์อย่าเล่นกันเองสิ”
“หึหึ ผมว่าของพี่ฟ้าใสนี่น่าจะต้องเอาสี่คูณเข้าไปจากที่เห็นมากกว่าครับ น่ารักกว่าที่คิดเยอะ” ฟ้าใสรีบหันขวับไปมองหน้าคนชม
“ภาคพูดจาดีมาก ไปชมพี่ให้รุ่นพี่หล่อๆ ในคณะฟังกันเยอะๆ นะ”
“ได้ครับ”
“พี่ว่าภาครสนิยมชักเพี้ยน ลองไปปรับทัศนคติดูหน่อยไหม”
“เดี๋ยวพี่นะ ฮ่าๆ” ครามแทบจะตบโต๊ะด้วยความถูกใจ หลายวันแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะเฮฮาแบบนี้ เพราะเพื่อนตัวดีอย่างองศาเอาแต่เคร่งเครียด
“ว่าแต่คนนัดพวกพี่มาไปไหนแล้วได้ทักทายกันแว่บเดียว”
“องศาไปซ้อมกับนักดนตรีอยู่ข้างหลังครับ”
“หือ? พี่ชาติขอให้องศาร้องเพลงอีกแล้วเหรอ” ภาคกับครามไม่ตอบเขาเพียงยิ้มน้อยๆ ออกมา ทำให้คนถามเข้าใจไปเองว่าถูกต้อง
“พี่ปัตย์กินเถอะครับไม่ต้องห่วงมัน เดี๋ยวร้องเพลงเสร็จค่อยสั่งใหม่” ภาคยิ้มให้ปัตย์เมื่อเห็นรุ่นพี่ละล้าละลังคอยมองไปทางหลังร้าน
“อืม” ปัตย์พยักหน้า อายที่ถูกจับได้ว่าเป็นห่วงองศา เขากลับมาสดใสเหมือนเดิมตั้งแต่รู้ว่าองศากับยูไม่ได้เป็นอะไรกันเหมือนที่เขากังวล
“มาแล้ว” ภาคบอกทุกคนในโต๊ะเพราะเขานั่งหันหน้าไปทางหลังร้าน จึงเห็นองศาเดินออกมาพร้อมนักดนตรี แสงไฟในร้านหรี่หลงเหลือเพียงแสงสลัว มือกีตาร์กรีดนิ้วลงบนสายเพื่อปรับเสียง องศานั่งลงบนเก้าอี้หมุนทรงกลม จัดขาตั้งไมโครโฟนให้พอดีกับความสูง เขารอจนนักดนตรีพร้อมจึงเปิดไมค์
“สวัสดีครับ” องศายิ้มในสไตล์ของตัวเอง ดูขี้เล่นและร้ายกาจในคราเดียวกัน เสียงปรบมือเสียงกรี๊ดดังต้อนรับ
“นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมร้องเพลงที่นี่ คราวก่อนใครมาบ้างครับ” มีทั้งเสียงตอบและการยกมือส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
“ครั้งนั้นผมเลือกเพลงๆ หนึ่งขึ้นมาร้องเพราะความสนุกส่วนตัวจะเรียกว่าเพราะผมขี้แกล้งก็ได้ครับ หลายคนในนี้น่าจะพอรู้นิสัยผม” องศาหัวเราะออกมาเบาๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ร้านเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะจึงรู้จักกันพอสมควร
“วันนี้ผมจะร้องเพลงนั้นอีกครั้ง เดี๋ยวครับไม่ใช่เพราะผมขี้เกียจซ้อมนะ” องศาเล่นมุกเรียกเสียงโห่และเสียงหัวเราะจากคนที่ตั้งใจฟังอยู่
“แต่เป็นเพราะว่าผมเพิ่งเข้าใจเนื้อหาของเพลงอย่างแท้จริง ไม่คิดเลยว่าเพลงที่ผมเลือกขำๆ ในวันนั้นคือเพลงที่ตรงกับใจของผมที่สุดในวันนี้” องศาหันไปพยักหน้าให้กับนักดนตรี เสียงเพลงดังขึ้นท่ามกลางเสียงปรบมือ
รู้ไหมว่ามันดียังไง และรู้ไหมว่าสุขใจเพียงใด
รู้ไหมว่าชีวิตเก่าๆ ของฉันนั้นเปลี่ยนไปเท่าไร
รู้ไหมว่าก่อนจะเจอเธอ รู้ไหมฉันเคยเป็นยังไง
รู้ไหมการที่ได้เจอเธอนั้นช่างยิ่งใหญ่ซักเท่าไร
เธอ เธอทั้งนั้น ที่ทำให้ช่วงชีวิตของฉันน่าจดจำ ตั้งแต่ได้เจอเธอหัวใจของปัตย์ทำงานอย่างหนักเมื่อสายตาขององศาทอดตรงมายังเขา
โลกที่เคยมองดูซึมเซา โลกที่มีแต่ความว่างเปล่า
ฟ้าทึมๆ และวันเศร้าๆ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้
เธอ เธอทั้งนั้น ที่ทำให้ช่วงชีวิตของฉันน่าจดจำ ตั้งแต่ได้เจอเธอ
ขอบคุณสรวงสวรรค์ ให้เราได้เจอกัน
ขอบคุณคนบนนั้นที่ทำให้ฉันได้พบเธอ
ขอบคุณทุกเรื่องราว ต้นเหตุที่ในวันนี้ฉันนั้นได้เจอ เธอ สุดที่รักรอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตาที่ไม่ละไปจากใบหน้าของเขา เสียงทุ้มที่ราวกับกำลังบอกรัก ทำให้ปัตย์เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด
ขอบคุณสรวงสวรรค์ ให้เราได้เจอกัน
ขอบคุณคนบนนั้นที่ทำให้ฉันได้พบเธอ
ขอบคุณทุกเรื่องราว ต้นเหตุที่ในวันนี้ฉันนั้นได้เจอ เธอ สุดที่รัก“พี่องศาบอกรักใครค้า” เสียงตะโกนแซ็วดังขึ้นทันทีหลังเพลงจบ องศายิ้มรับเสียงแซ็ว เขาลุกขึ้นยืนชี้นิ้วตรงไปยังคนที่เขาไม่อยากละสายตา
“คนนั้นครับ”
“กรี๊ดดด” เสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม ทุกคนพากันหันไปมอง องศาตาเบิกกว้างก่อนหัวเราะออกมาแบบหยุดไม่อยู่ เมื่อกระต่ายอ้วนของเขามุดตัวลงใต้โต๊ะหน้าตาเฉย
องศาหันไปขอบคุณนักดนตรีก่อนก้าวลงจากเวที เขาก้าวตรงไปหา ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างก่อนก้มมองใต้โต๊ะ
“อ้วนทำอะไร” ภาพที่เขาเห็นคือปัตย์นั่งกอดหัวเข่าเอาไว้เป็นก้อนกลม หน้าตาแดงเป็นลูกตำลึงสุก
“องศาไปนั่งโต๊ะอื่นก่อน”
“ฮ่าๆ ทำไมต้องไป ลุกขึ้นมาเร็ว”
“ไม่เอา”
“มาเถอะน่า จะอายอะไร”
“องศาชอบแกล้งผม”
“ใครว่าแกล้ง”
“แกล้ง” น้ำเสียงกระต่ายอ้วนเง้างอน น่ารักจนองศายิ้มกว้างไม่รู้ตัว
“ไม่ได้แกล้ง รักต่างหาก” ปัตย์ตาเบิกโต รู้สึกเหมือนตัวเขากำลังจะระเบิดออก หัวใจตับไตไส้พุงทำงานผิดปกติไปหมด
“อะ..องศาพูดอะไร”
“หึหึ ออกมาได้หรือยังครับ” ปัตย์รีบส่ายหน้า เขาไม่กล้าออกไปตอนนี้หรอก
“ถ้าไม่ออกมาผมจะสารภาพรักกับอ้วนแบบนี้ล่ะนะ คงแปลกพิลึก”
“หา?” ปัตย์ตกใจขยับตัวลุกขึ้นจนหัวโขกกับโต๊ะเสียงดังปัง ได้ยินเสียงฟ้าใสอุทานออกมา
“อู๊ย!” ปัตย์ยกมือขึ้นคลำหัวตัวเอง มึนนิดหน่อย ดีที่ไม่ถึงกับเห็นดาววิบวับ
“อ้วน!เป็นอะไรหรือเปล่า” องศาตกใจจริงๆ ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง
“เปล่าๆ ผมไม่เป็นไร” จะว่าปัตย์ชินก็ได้ เขาซุ่มซ่ามจนเป็นนิสัย
“ออกมาเร็ว”
“อื้อ” ปัตย์ขานรับแต่ยังไม่ขยับ เขาขอทำใจแป๊บเพราะตอนนี้หัวใจทำงานหนักมาก
“ผมรักอ้วน” ปัตย์กำลังคิดจะลุกออกจากใต้โต๊ะ เป็นอันชะงักค้าง ตกใจจนตาเบิกกว้าง “เป็นแฟนกันนะ”
ปัง!! โอ๊ย!!
“ปัตย์” เสียงฟ้าใสอุทานดังลั่น องศาอยากซึ้งเพื่อให้กระต่ายอ้วนเห็นความจริงใจ แต่เขาขำจนทนไม่ไหว เงยหน้าหัวเราะออกมาดังลั่น เป็นการบอกรักที่เขาคงจำได้แม่นยำไปตลอดชีวิต
“หัวเราะผม” ปัตย์ขึ้นมานั่งข้างองศาด้วยท่าทางเหนียมอาย เขาพยายามไม่มองไปโต๊ะอื่น เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ใช้ร่างกายสูงใหญ่ขององศาที่นั่งอยู่ริมสุดบังสายตาไว้
“หน้าแดงใหญ่แล้ว” องศาแตะนิ้วลงบนแก้มของปัตย์ ไล้เบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ผมอายนี่ องศาเล่นอะไรก็ไม่รู้” ปัตย์เขินจนแก้มกลมเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด
“ไม่ได้เล่น เป็นแฟนผมนะ” เสียงทุ้มต่ำดังแผ่วเบาราวเสียงกระซิบแต่ถ้อยคำกลับชัดเจน ปัตย์หลุบสายตาลงต่ำไม่กล้าสบตาคมกล้าขององศา
“นะครับ”
“....” ปัตย์บิดตัวเบาๆ เขาเขินจนไม่กล้าตอบ
“ตกลง”
“เฮ้ย!” ทั้งโต๊ะอุทานเกือบพร้อมกัน เมื่อคนที่เอ่ยปากตกลงกลายเป็นฟ้าใสที่นั่งอยู่ข้างปัตย์อีกด้าน
“ไปยุ่งอะไรกับเขา” ณดลบ่นอุบ เขาหรืออุตส่าห์ทำตัวเงียบเชียบราวกับไม่อยู่ที่โต๊ะ เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการสารภาพรัก พอๆ กับภาคและครามที่นั่งนิ่งพอกัน
“ยุ่งได้สิ เราคือสาวคนเดียวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ที่ยังไม่มีแฟน ที่ยังไม่มีใครมาสารภาพรัก จะให้ทนดูฉากหวานไปอีกนานแค่ไหน เห็นใจกันบ้างเถอะ ช่วยรีบตกลงให้มันจบๆ ไปได้ไหม” ฟ้าใสเรียกร้องหาความยุติธรรมให้ตัวเอง
“หึหึ ว่าไงครับอ้วน ไม่สงสารเพื่อนเหรอ”
“ฟ้าใส” ปัตย์หันไปหยิกแขนฟ้าใส แต่เจ้าตัวลอยหน้าลอยตาว่าเธอไม่ผิด
“อ้วน” เสียงนุ่มเว้าวอนจนปัตย์เขิน “ตกลงไหมครับ”
“อื้อ” ปัตย์เขินจนต้องหลบตา มือเขี่ยช้อนส้อมที่วางอยู่บนจาน
“อื้อคือตกลงใช่ไหมครับ”
“อื้อ”
“เป็นแฟนกันแล้วนะ”
“อื้อ”
จุ๊บ
“องศา!” ปัตย์ร้องลั่นยกมือขึ้นปิดขมับเมื่อโดนขโมยจูบเร็วๆ ไปหนึ่งที
“หึหึ” องศาพาดมือไปบนเก้าอี้ของปัตย์ ดึงไหล่อีกฝ่ายให้นั่งพิงลงมา
“ถ้าอายก็ซุกผมไว้จะได้ไม่มีใครเห็น”
“คนขี้แกล้ง” ปัตย์ทำหน้ายู่ ปากยื่นออกมาน้อยๆ ก็ใครล่ะทำให้เขาอาย
“ทำปากแบบนั้นระวังจะโดนจูบ” ปัตย์ตาโต รีบเม้มปากแน่น เมื่อโดนคนขี้แกล้งก้มหน้าลงมากระซิบชิดหู องศายิ้มพราย นึกอยากขโมยจูบขึ้นมาจริงๆ กระต่ายอ้วนของเขาน่ารักน่าแกล้งที่สุดแล้ว
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
**ตอนหน้าในสารภาพ (2) เป็นตอนต่อเนื่องกัตอนนี้นะคะ มาลุ้นเรื่อง rabbitboy กัน
**ขอบคุณเพลง “เธอทั้งนั้น” วง groove riders
ปล.ถ้ามีชื่อผิด หรือคำผิด เดี๋ยวมาแก้ให้นะคะ
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin