{{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา - ตอนพิเศษเฉพาะกิจ [P.48 - 26/6/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา - ตอนพิเศษเฉพาะกิจ [P.48 - 26/6/61]  (อ่าน 253878 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เห็นหมาจิ้งจอกจากหน้าคุณสัน  :hao7:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เอ้ยยย เป็นซีรี่ย์ทั่น่าติดตามมากค่ะ สนใจทำออกมาเป็นเรื่องแยกมั้ยคะ ฮาา ตอนนี้เสี่ยหายสงสัยค่าตัวไม่พอจ่าย

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ชอบมากกกกกกกค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
โอ้ยยยย จิลูกกกกกกกกก ตกลงเรื่องนี้คมสันร้ายสุดใช่ไหม 5555555555555555

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พระเอกชื่อ อัครเดช อย่าบอกนะนางเอกชื่อพรประพา5555555555

คิดถึงเสี่ย น้องจิตเก่งมากลูก   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เอาจริงที่แม่พูดถูกนะในมุมมองสองฝ่าย
แต่ก้เข้าใจเจ เจยังเด็กและก็รักพี่
เอาเป็นว่าชอบมุมมองคนบ้านนี้มากๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จิ้นพระเอกซีรี่ย์กับด๊อกฯ เอสอ่ะ

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น้องจิน่ารัก พูดน้ำไหลไฟดับ ฝอยตามไม่ทัน :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จิระ มาพร้อมกับดวง
ทำอะไรก็ราบรื่น ฉลุยไปหมด
พอแสดง ทุกคนในกองถ่ายก็ถูกใจกันหมดอีก  o18 o18 o18

เจ ตกลงเป็นคนปกติในกลุ่มคนบ้า
หรือคนบ้าในกลุ่มคนปกติ ชักสับสนและ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2017 21:04:33 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เช็คเมทน่าดูมากค่ะ ฮือ 55555555555
ถ้ามีซีรีส์แบบนี้คงดีเลย ต้องสนุกมากแน่ๆ
งานนี้กำลังคิดว่าถ้าหนังยังถ่ายไม่จบแล้วจิระกลับร่างจะทำยังไง(...)
หวังว่าคงไม่เป็นไรนะคะ 55555555555

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อยากดูละครเรื่องนี้เลยค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
จะเรียกว่าไม่คิดมากหรือ.... ไม่คิดอะไรเลยดี นุ้งจิ 555

ออฟไลน์ Spenguin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Reminder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารน้องเจ....5555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
จิตในร่างของจิระก็เข้าท่ากับนิสัยจิตนะดูน่ารักทั้งตัวทั้งนิสัย
แต่ ลองนึกดูดนะค่ะ รูปหล่อ หุ่นล่ำ  ผิวแทน กล้ามปู แต่นิสัยแบบจิต คนแบบนี้จะน่ารักแค่ไหน
ยังไงเราก็ชอบจิตในร่างก้ามปูแต่ใจสีชมพูและฝอยหนักมากคงน่ารักไม่เบา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ฝอยหนักมากกับมโนหนักมากดูน่าจะไปกันได้
แอบขำน้องเจ คนในครอบครัวมีแต่ไม่ปกติ คนธรรมดากลายเป็นคนบ้าในทันใด

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เป้นตรอบครัวที่น่ารักมาก แยกไม่ออกเลยว่าใครบ้าใครปกติ

ออฟไลน์ Aly-Q

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
จิจะน่ารักไปไหน หน้าตาจิระน่ารัก นิสัยจิตรินก็น่ารักพอมารวมกันเลยยิ่งน่ารัก 5555 รอตอนต่อไปนะ :3123: :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ PJ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอ็นดูน้องเจอ่ะ 55555 :m20:

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เจอย่าน้อยใจนะ เจปกติดีแล้ว 555

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ตกลงครอบครัวนี้ใครปกติที่สุด

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:laugh: ชื่อเสียงจิระจะต้องโด่งดัง  เพราะฝีมือจิตรินแน่นอนนน !!

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 8 : เริ่มต้นชีวิตเยี่ยงดารา


เช้าวันนี้ผมตื่นมาวิ่งเหมือนปกติ ตั้งมั่นว่าจะทำให้ร่างกายของจิระแข็งแรงขึ้นให้ได้

แต่กลับไร้วี่แววของพี่โสภี

ผมชะเง้อมองบ้านใกล้เรือนเคียงด้วยความสลดหดหู่ มิตรภาพของเราจะต้องกลายเป็นหลบหน้าหลบตาเพราะจิระจริงๆ น่ะหรือ ผมอยากคุยกับพี่โสภี อยากเล่าว่ามีโอกาสร่วมงานกับโปรเจ็กต์ใหญ่ แต่ในเมื่อเขาปิดบ้านไม่คิดออกมาเจอกัน ผมก็ได้แต่ตัดใจ

หลังวิ่งแบบเหยาะๆ วนครบหนึ่งรอบ จากที่ออกไปมือเปล่า ขากลับก็มีของฝากจากเพื่อนบ้านเต็มไปหมด ผมฮัมเพลงขณะเดินเข้าบ้านเพื่อเตรียมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมากินข้าวเช้ากับครอบครัว แต่พอเดินลงมาพร้อมน้องชาย นินจาของผม...เอ๊ย พี่เบิ้มก็นั่งเนียนเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้าน ทั้งที่ปกติไม่เคยเผยโฉมหน้ามาก่อน

“จิลงมาเร็วๆ หน่อยสิลูก ดูสิ ปล่อยให้ผู้จัดการนั่งรอตั้งนาน”

ผู้จัดการ!?

“จากนี้ต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมจะเป็นคนขับรถรับส่งจิระตลอดการทำงานเป็นนักแสดงในสังกัดของเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์” พี่เบิ้ม...ในชุดสูทสุภาพเรียบร้อย เหยียดตัวตรงขณะส่งนามบัตรสำหรับการติดต่อให้แม่ของผมอย่างเป็นการเป็นงาน

“แหมๆ ทางเราก็ต้องขอฝากลูกชายคนนี้ด้วยนะคะ เขาไม่ใช่เด็กดื้อ เลี้ยงง่ายอยู่ง่าย เสียแต่หัวอ่อนไปหน่อย คงต้องให้ช่วยระวังหน่อยนะคะ”

“ได้เลยครับ ผมจะดูแลจิระให้ดี”

“แม่...แล้วข้าวเช้าของผมล่ะ”

“แม่ใส่กล่องให้แล้ว เอาไปกินที่กองนะลูก ผู้จัดการเขามารับแล้วจะให้รอนานกว่านี้ได้ยังไง ไปๆ ขึ้นรถได้แล้ว”

รู้ตัวอีกทีผมก็นั่งอยู่บนเบาะหลังของรถสีดำติดฟิล์มในมือถือข้าวกล่องที่แม่ยัดใส่มือด้วยความสับสนมึนงง เชื่อว่าไอ้น้องชายของผมที่พยายามคัดค้านแต่ไม่ทันแม่ก็คงกำลังหัวเสียเหมือนกัน เพราะเห็นอยู่ชัดๆ ว่าหน้าตาของพี่เบิ้มน่ะไม่เข้ากับคำว่าผู้จัดการดาราเลยสักนิด!

“เอ่อ...สรุปแล้วเสี่ยให้พี่มาเป็นผู้จัดการให้ผมแทนเหรอครับ ไม่ต้องจับตาดูผมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วใช่มั้ย”

“หน้าที่หลักของผมคือการจับตาดูคุณ หน้าที่รองคือการเป็นผู้จัดการ สันเป็นคนมอบหมายงานนี้ให้เพราะจะทำให้การตามติดคุณง่ายขึ้นกว่าเดิมในกองถ่าย และแม่คุณเองก็เคยเห็นผมแล้วเมื่อวาน แทนที่จะหลบๆ ซ่อนๆ สู้ออกมาแนะนำตัวแบบนี้จะให้ผลที่ดีกว่า”

ผมพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะถึงไม่พูดอะไร แต่แม่คงติดใจเรื่องผู้ชายหน้าบากที่เกือบจะต่อยกับพี่โสภีโดยมีผมเป็นคนกลางไม่น้อย

“คิวงานวันนี้ของคุณเสียบอยู่หลังเก้าอี้ผม”

“อ้อ ขอบคุณครับ ว่าแต่พี่เบิ้มกินข้าวเช้ารึยัง ถ้ายังจะแบ่งจากข้าวกล่องของผมไปก็ได้นะ ผมเคยบอกรึยังว่าอาหารฝีมือแม่ผมน่ะอร่อยสุดๆ ไปเ...”

“ผมกินมาแล้วครับ อีกสิบนาทีจะถึงสตูดิโอ รีบๆ อ่านเถอะ”

ผมยิ้มเก้อเมื่อโดนตัดบท แต่ก็ยอมหยิบแฟ้มที่ตรงหลังเบาะคนขับขึ้นมาเปิดอ่าน เพราะเมื่อวานเป็นการเข้ากองกะทันหัน และผมเองก็เป็นแค่นักแสดงโนเนม หลังถ่ายทำฉากเปิดตัวเสร็จก็โดนไล่กลับบ้านเนื่องจากผู้กำกับขอคิวพระเอกโดยเฉพาะ ตัวประกอบอย่างผมน่ะได้เวลาเข้างานก็ตอนที่พวกนักแสดงหลักไม่ว่างนั่นแหละ

วันนี้ผมมีฉากถ่ายเสริมอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เพราะหลังบอกทางพระเอกให้หลบหนีสำเร็จ พระเอกก็จะได้เจอกับผู้หญิงคนแรกของซีรี่ส์ผู้รับบทเป็นลูกสาวผู้ตาย ซึ่งเชื่อว่าพระเอกไม่ได้เป็นคนฆ่าจึงพยายามให้ความช่วยเหลือ จุดหักมุมอยู่ตรงที่เธอต่างหากที่เป็นคนฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ส่วนที่มาตีสนิทกับพระเอกก็เพื่อจะทำหลักฐานปลอมป้ายความผิดให้พระเอกโดนจับนั่นเอง

น่าเสียดาย เพราะหนึ่งในรายชื่อที่มิสเตอร์เอสบอกพระเอกไปนั้นมีรายชื่อของเธออยู่ด้วย ต่อให้เป็นลูกสาวผู้ตายก็ไม่ได้ถูกคัดออกจากผู้ต้องสงสัย พระเอกจึงระวังตัวอยู่แล้วและวางแผนตลบหลังจับกุม ซึ่งมิสเตอร์เอสเป็นกำลังสำคัญมากเนื่องจากพระเอกต้องอยู่ติดกับเธอคนนั้นตลอดเวลา ผู้ติดต่อตำรวจโดยใช้เครื่องดักเสียงทำทีเป็นพลเมืองดีให้เบาะแส จึงเป็นมิสเตอร์เอสผู้อยู่ในห้องเดิมตลอดทั้งเรื่องนั่นเอง

“รุกฆาต”

“คัต!”

ผมคลี่ยิ้มเมื่อการถ่ายทำวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นอีกครั้ง คำพูดทิ้งท้ายของมิสเตอร์เอสนั้นสำคัญมาก เพราะนั่นคือที่มาของชื่อซีรี่ส์ ‘Checkmate’ ความจริงแล้วนี่คือประโยคติดปากของพระเอกที่ต้องพูดจบทุกครั้งตอนปิดคดี แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้คนเขียนบทถึงเพิ่มให้ผมพูดด้วย ทั้งที่บทของมิสเตอร์นั้นควรจะจบตั้งแต่โทรหาตำรวจแล้ว แต่กล้องกลับเดินต่อโดยจับสีหน้าของผมที่แฮกกล้องวงจรปิดของโรงแรม มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนหญิงสาวโดนจับกุม แล้วเอ่ยคำนั้นออกมา

“เหนื่อยหน่อยนะ”

“ไม่เหนื่อยเลยครับพี่ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับทุกคน ขอบคุณสำหรับการถ่ายทำดีๆ ครับ” ผมยกมือไหว้กับผู้กำกับแล้วเวียนรอบกอง วันนี้นอกจากจะมาถ่ายฉากสุดท้ายของตอนแรกแล้ว ผมยังต้องมาถ่ายฟิตติ้งสำหรับการโปรโมตตัวละครแทนส่วนที่มาแทรกคิวกะทันหันด้วย แถมยังถูกคนเขียนบทเรียกไปคุยเพื่อปรับบทบาทของมิสเตอร์เอสให้ตรงกับคาเรคเตอร์ของผมอีกต่างหาก กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบสี่โมง และอาจจะนานกว่านั้นหากคุณสันไม่มาตามตัวผมแล้วบอกว่าเสี่ยต้องการพบ

“แล้วเสี่ยล่ะครับ” ผมถามงุนงงเมื่อคุณสันพาผมไปที่ลานจอดรถแทนที่จะขึ้นไปชั้นบนสุด

“ท่านกำลังลงมาครับ เราจะไปที่คฤหาสน์ด้วยกัน”

“...ไปเยี่ยมร่างผมกันเหรอครับ” ผมมองในแง่ดี

“ไปตรวจร่างกายคุณจิต่างหากครับ ผ่านมาสองวันแล้ว น่าจะได้เวลาที่ร่างกายแสดงอาการแล้วนะครับ”

เกือบลืมซะสนิทว่าจิระติดยา และมีอาการลงแดงทุกสองถึงสามวัน ไม่รู้ว่าเพราะช่วงนี้ผมกินอิ่มนอนหลับ แถมยังออกกำลังกายเป็นประจำรึเปล่า ถึงได้รู้สึกแข็งแรง ไอ้อาการปวดหัวชวนฉุนเฉียวก็เริ่มชิน ไม่ยักจะทรุดเหมือนที่เคยเป็น

“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วงเป็นใยผมตลอด ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณสันเหลือเกิ...”

“นอกจากร่างกายของจิระจะเป็นทรัพย์สินของเสี่ยแล้ว ตอนนี้คุณจิเองก็ถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท ฉะนั้นการที่ผมคอยดูแลถือเป็นหน้าที่ครับ หากซีรี่ส์เรื่องนี้ไปได้ดี รับรองว่าจะมีงานเข้ามาให้คุณจิได้ท้าทายความสามารถอีกเยอะแน่นอน”

“คุณสันครับ ตาของคุณเป็นสัญลักษณ์รูปเงินแล้วครับ”

“อะแฮ่ม” คุณสันแสร้งกะแอมไอ ทำเอาผมหลุดหัวเราะ คาดไม่ถึงว่าพอเป็นเรื่องการทำงาน คุณเลขาหน้าตายจะกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนี้

เพราะมีรถสองคัน ซึ่งก็คือคันของเสี่ยและคันของพี่เบิ้มที่รับส่งผม เลยแยกคนขับออกเป็นสองคันไปด้วย พี่เบิ้มนั่งคนเดียวอย่างน่าสงสาร ความจริงผมนั่งคันนั้นไปบ้านเสี่ยก็ยังได้ แต่คุณสันกลับชักชวนแกมบังคับให้ผมนั่งคู่กับเสี่ย ส่วนตัวคุณสันก็นั่งข้างคนขับ

ไหนๆ ก็ว่างแล้วเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเฟสบุ้คของจิตรินที่เงียบหายไปนับจากประสบอุบัติเหตุ รู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนผมจะเพิ่งมีแก่ใจลองสำรวจเฟสบุ้คของจิระ พบว่าเขามีเพื่อนน้อยมาก ไม่สิ...ไม่มีเพื่อนเลยต่างหาก แถมยังตั้งเป็นไพรเวท รูปที่ลงก็มีแต่พวกกระเป๋า นาฬิกา น่าจะเป็นของที่ได้จากเสี่ย แต่ไม่มีรูปตัวเองเลย

“คุณสันครับ” ผมเพิ่งมาฉุกใจเอาตอนนี้ว่าไม่เคยทำความรู้จักกับเจ้าของร่างกายเลยสักครั้ง สิ่งที่รู้ก็มีแค่เขาเป็นเด็กเลี้ยง ไม่เอาการเอางาน เรียนก็เรียนไม่จบ “ครอบครัวของจิระอยู่ที่ไหนเหรอครับ”

“เรื่องนั้น...”

พลันเสี่ยเดินตรงมาพอดี คุณเลขาหน้าบากก็ตามมาด้วย แถมยังช่วยเปิดประตูให้อย่างกับเป็นบอดี้การ์ดมากกว่าเลขา

“เรื่องนั้น...เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องกังวลหรอกครับ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ”

“อะไร เปลี่ยนใจอยากนอนกับฉันแล้วรึไง” ต่อมมโนของเสี่ยทำงานทันทีเมื่อได้ยินประโยคตัดบทสุดแสนจะมีเลศนัยของคุณสัน ไม่ต้องกังวลหมายถึงอย่าคิดมากเรื่องครอบครัวจิระ ทำหน้าที่ให้ดีคือการแสดงละครให้ดี ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือสักนิด เสี่ยจะหื่นไปไหนเนี่ย!

“เสี่ยมีเด็กคนอื่นอีกสามคนไม่ใช่เหรอครับ ไม่เห็นต้องมายุ่งกับผมเลย”

“โกรธที่ฉันโกหกรึไง หึ อยากได้อะไรล่ะ หรืออยากให้ง้อ” เสี่ยพูดจบก็จับคางผมให้เงยขึ้นแล้วประกบจูบลงมาทันที รวดเร็วจนผมอ้าปากค้าง สบโอกาสให้เสี่ยสอดลิ้นเข้ามาอย่างช่ำชองจนครางอือในลำคอ ทั้งเคลิ้มทั้งอยากประท้วง เสียแต่เสี่ยดันจับท้ายทอยแล้วคลึงเบาๆ แค่นั้นก็ทำเอาร่างกายจิระอ่อนยวบแล้ว “หายโกรธซะ”

เสี่ยผละตัวออกพร้อมหันหน้าตรงเป็นอันจบการง้อ แต่เดี๋ยว...ไอ้ประโยคคำสั่งนั่นมันอะไร ผมลูบริมฝีปากตัวเองทึ่งๆ ไม่รู้จะต่อกรยังไงกับทักษะมโนที่สูงพอๆ กับสกิลถึงเนื้อถึงตัวของเสี่ยเลยจริงๆ

“เสี่ยทำแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ”

“เธอเป็นที่หนึ่งสำหรับฉันเสมอ”

“แล้วเสี่ยพูดแบบนี้กับทุกคนเลยใช่มั้ย” ผมถามพลางเขยิบตัวชิดประตู กลัวจะโดนจู่โจมอีก

“เล่นตัวแรกๆ ยังน่าสนใจ แต่ถ้ามากไปก็ไม่น่ารักเลยนะ” เสี่ยเหลือบตามองผมอย่างหงุดหงิด “ทำตัวให้ดีหน่อยก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายโกรธ”

“แต่ผมไม่ใช่เด็กเลี้ยงเสี่ยนี่” ผมอุบอิบในลำคอ ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าพูดพล่ามต่อหน้าเสี่ย สงสัยเพราะร่างกายทรยศ แค่เห็นเสี่ยปรายตาทำหน้าดุก็ล่อซะตัวแข็งไปหมด “ผมคือจิตรินต่างหาก”

“จะเป็นใครก็ช่าง ทำตัวเรียบร้อยน่ารักให้ฉันพอใจก็ถือว่าเป็นเด็กฉันทั้งนั้น” เสี่ยละสายตาไปทางอื่น “ถ้ายังไม่เปลี่ยนใจก็ทำตัวดีๆ ไอ้ท่าทางเรียกร้องความสนใจนั่นนะ อย่าแสดงออกให้มากนัก จะได้ไม่หาว่าฉันคุกคามทางเพศ”

โห เสี่ยก็กล้าพูดเนอะ ตั้งแต่วันนั้นที่เสี่ยเอาของลับมาให้ผมจับ นั่นก็เรียกว่าคุกคามทางเพศแล้ว!


เสี่ยมีวิธีปฏิบัติกับเด็กเลี้ยงแตกต่างกับคนอื่นมาก เพราะจะค่อนข้างเอาใจถึงเนื้อถึงตัว แต่พอโดนผมปฏิเสธ เสี่ยก็กลับไปนั่งนิ่งไม่แตะต้องผมเลย น่าจะเป็นเพราะไม่อยากโดนกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เสี่ยขี้เก๊กเพราะมากศักดิ์ศรีจะตายไป

ผมลูบอกอย่างโล่งใจ ก่อนจะเริ่มรู้สึกแปลกๆ

ใจมันแกว่งอย่างบอกไม่ถูก

ร่างกายจิระทำปฏิกิริยาน้อยอกน้อยใจเสี่ยรึเปล่านะ ผมไม่แน่ใจ แต่ทำไมเหงื่อถึงออกเยอะขนาดนี้ล่ะ

“เสี่ย...”

เสี่ยไม่หันมา เขาคงคิดว่าผมเรียกร้องความสนใจอีกแล้ว

“เสี่ยครับ...” ผมเอ่ยเสียงแห้ง รู้สึกน้ำลายหนืดคอแปลกๆ แถมยังรู้สึกพะอืดพะอม พอไม่ได้ตั้งสมาธิทำงานหรือจดจ่อกับการออกกำลังกายแล้ว การควบคุมอารมณ์มันยากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ชัดเลย...อาการกำเริบอีกแล้ว

“คุณสัน...ผม...” ผมเรียกหาตัวช่วยคนอื่น คุณสันหันมาทันที พอเห็นผมนั่งหน้าซีดก็ตกใจ รีบหันไปบอกคนขับให้เร่งความเร็ว

 “ไม่ได้เรียกร้องความสนใจหรอกหรือ”

คำพูดของเสี่ยทำเอาอารมณ์ผมที่ไม่ปกติอยู่แล้วแทบจะพุ่งสูงด้วยความโมโห ในเวลานี้เสี่ยก็ยังจะ...

“เลี้ยงเด็กนี่ยุ่งยากจริงๆ”

 พลันสัมผัสหนึ่งแตะเบาๆ บนศีรษะ ผมเงยมองเสี่ย อารมณ์ฉุนเฉียวหายทันทีเมื่อเห็นเขายื่นมือมาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งที่กำลังปลอบเด็ก สายตาที่เหลือบมองมานั้นเห็นความเอาใจใส่ ราวกำลังเฝ้ามองคนที่แสนทะนุถนอม

ก็จิระเป็นคนโปรดของเสี่ยสินะ

เห็นคนที่ชอบกำลังทรมาน ต่อให้ข้างในจะเป็นคนอื่น เสี่ยก็ต้องห่วงอยู่แล้ว

ความรู้สึกของผมมันปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก ทั้งดีใจที่เห็นปฏิกิริยาของเสี่ย ซึ่งไม่รู้ว่านั่นมาจากร่างกายของจิระ หรือจากตัวผมเองกันแน่ แล้วยังอาการลงแดงที่เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นทุกที

“มานี่” จู่ๆ เสี่ยก็ดันศีรษะของผมให้มานอนเกยบนตัก “อยู่นิ่งๆ ซะ”

“เสี่ย...” ผมพลิกตัวอย่างต้องการประท้วง ร่างกายสั่นกึกๆ แบบนี้จะอยู่เฉยได้ยังไง

“เด็กดี”

พลันฝ่ามือทาบทับปิดดวงตา แม้ความมืดในตอนนี้จะดูน่ากลัว แต่ความอบอุ่นที่แผ่มาจากสัมผัสนั้นก็ทำให้ผมสงบอย่างประหลาด ผมยกมือสั่นๆ จับมือของเสี่ย รู้สึกใจชื้นอย่างบอกไม่ถูก

“นั่นแหละ เด็กดี”

พอได้รับคำชมอีกครั้งร่างกายก็แสดงอาการตอบสนอง

ไม่อยากให้คนคนนี้ผิดหวัง

ต่อให้ต้องฝืนตัวเอง แต่ก็ไม่อยากให้การกระทำปลอบโยนนี้ไร้ค่า

ผมพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่าน นับหนึ่งถึงสิบในใจซ้ำไปซ้ำมาเพื่อไม่ให้อารมณ์เตลิด เพราะเมื่อครู่ทุกอย่างกะทันหันเกินไป ถึงได้ควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่

เป็นเสี่ยที่รั้งผมให้กลับมา

เป็นเสี่ย...

 


หลังถูกฉีดยาด้วยอะไรก็ตามที่ผมไม่อยากจะรู้ อาการผมก็ดีขึ้นและอ่อนเพลียเหมือนครั้งก่อน น่าจะเป็นเพราะหัวใจเต้นเร็วเกินไปเป็นเวลานาน ควบคู่กับยากล่อมประสาท ผมเลยนอนพักฟื้นที่บ้านของเสี่ยก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงกลางคืน

ภาพแรกที่เห็นคือเสี่ยที่นั่งอ่านหนังสือตรงโซฟาตัวเดิม ในมุมเดิม ท่วงท่าสง่าแบบเดิม แม้เป็นหนังสือคนละเล่ม แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นนิยายอีโรติก เพราะเป็นภาพของชายหญิงในเสื้อหลุดลุ่ยกำลังนอนทับกัน

“วันนี้มีสตูเนื้อของโปรดเธอ”

เสี่ยเอ่ยเรียบๆ ระหว่างพลิกหน้าหนังสือ เขาเอาใจใส่จิระถึงขนาดที่ปล่อยให้ผมนอนสบายๆ ในห้องมืด ขณะที่ตัวเองนั่งอ่านหนังสือใต้แสงจากโคมไฟ

“เอ่อ...ผมชอบกินปูผัดผงกะหรี่ครับ”

“อ้อ” เสี่ยครางในลำคอ คล้ายเพิ่งนึกได้ว่าผมกับจิระนั้นเป็นคนละคนกัน เขามักหลุดแสดงท่าทีเหมือนจิระยังอยู่ ก็ไม่แปลกหรอก ในเมื่อรูปร่างหน้าตานี้เป็นเด็กเลี้ยงของเขานี่นา “แล้วจะทานมั้ย”

“เอ่อ ผมกลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่าครับ ป่านนี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วง แม้ผมจะไม่เคยเถลไถล แต่ก็เคยล้มรถครั้งหนึ่งตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์กับเพื่อน ตอนนั้นเฉียดตายมากเลยเสี่ย หัวผมงี้กระแทกพื้น แต่โชคดีสวมหมวกกันน็อกเลยรอดมาได้ พูดไปแล้วก็คิดถึงตอนโดนจิระชน ถ้าตอนนั้นผมสวมหมวกกันน็อกมาด้วยคงไม่เป็นเจ้าชายนิทรา แต่ใครจะบ้าใส่มาซื้อลูกชิ้นล่ะเนอะ เอิ๊กๆ”

“ไปสักที”

 ไอ้จิโดนไล่อีกแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ที่วางตรงข้างเตียงขึ้นมาดู นั่นไง ปิดเครื่องเหมือนครั้งก่อนเปี๊ยบ พอจะเดินย่องออกมา ไม่รู้อะไรดลใจ ถึงเผลอหันไปมองเสี่ย รู้สึกบรรยากาศรอบตัวเขาหงอยๆ สลดซึมชอบกล

“แล้วเสี่ย...ทานรึยังครับ”

เขาไม่ตอบ แต่ไม่รู้ทำไม ผมคิดว่าเขาคาดหวังว่าจะให้ผมอยู่ต่อเพื่อทานข้าวด้วยกัน

ไอ้จิไม่ได้เข้าข้างตัวเองไปใช่มั้ย

“ครั้งหน้า...” ผมเอ่ยออกมาเบาๆ “ไว้ครั้งหน้าตอนบอกพ่อแม่ไม่ให้ห่วงแล้ว ผมจะทานกับเสี่ยนะครับ ผมหมายถึง ทานข้าวนะไม่ใช่ให้เสี่ยทานอย่างอื่น”

“หึ” เสี่ยหลุดขำ เหลือบมองผมแวบหนึ่ง ชั่ววูบนั้นหัวใจถึงกับเต้นแรง ไม่รู้ว่าเป็นของจิระหรือจิตรินกันแน่

จนตอนนี้หน้าผมยังร้อนๆ เหมือนยังจับสัมผัสเสี่ยตอนทาบมือปิดตาได้อยู่เลย

“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ไม่สิ ผมอยากเจอร่างตัวเองก่อน เสี่ย...ให้ผมไปหาจิตรินได้มั้ยครับ”

“สันจะพาไป เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน อย่าเถลไถล ฉันไม่มีหมวกกันน็อกให้หรอกนะ”

“ขอบคุณครับเสี่ย”

เสี่ยรู้จักเล่นมุกด้วย เดี๋ยวนี้พัฒนานะเนี่ย

ผมยกมือไหว้เขาก่อนจะเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้...นึกว่าเขาเป็นคนขี้เก๊ก ขี้มโน แถมยังหื่น ชอบโกหก ลวนลามเด็ก แต่ถ้าได้รู้จักแล้ว...เขาก็เป็นทั้งหมดนั้นนั่นแหละ แต่มีอย่างอื่นแฝงด้วย อย่างเช่นว่าเขานั้นให้ความสำคัญกับเด็กเลี้ยงมากแค่ไหน  ก็ไม่แปลกหรอกหากจิระจะรักเสี่ย แถมยังมีความเป็นผู้ใหญ่ และสุภาพบุรุษอีกต่างหาก แม้จะถึงเนื้อถึงตัวไปบ้าง แต่นั่นเพราะเสี่ยคิดว่าผมให้ท่าเลยสนองตอบ เพราะพอผมปฏิเสธ เขาก็ไม่ออกอาการถึงเนื้อถึงตัวอีกเลย

เอ่อ...สรุปแล้วเสี่ยดีหรือไม่ดีกันแน่เนี่ย

แต่ที่แน่ๆ ผมโดนไอ้เจเฉ่งอีกแหงๆ เฮ้อ!


 

จากนั้นชีวิตผมก็วนเวียนในแบบเดิมๆ

ตอนเช้าวิ่งออกกำลังกาย ตอนเที่ยงแวะไปกองถ่าย เพราะคิวของผมส่วนใหญ่อัดอยู่แต่ที่สตูดิโอ คนที่เจอเป็นประจำก็มักจะเป็นพระเอกซึ่งพักบ้านเดียวกับมิสเตอร์เอสแต่อยู่คนละห้อง ส่วนตัวผู้หญิงที่ถ่ายพร้อมกับพระเอกนั้นไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ เนื่องจากเน้นไปทางฉากนอกสถานที่มากกว่า

หลังจบงานผมมักไปฟิตร่างกายเพราะแค่การวิ่งตอนเช้าไม่พอ ก็เลยได้คุณสันช่วยสมัครสมาชิกฟิตเนสให้ เห็นราคาแล้วผมหัวใจแทบวาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าให้จิระไปเข้าฟิตเนสที่อื่นคงโดนมองไม่ก็โดนจีบ ฉะนั้นมาเข้าฟิตเนสส่วนตัวสำหรับดาราโดยเฉพาะ ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยปิดเป็นความลับอย่างดีน่าจะเหมาะสมกว่า

ทุกสองวัน คุณสันจะให้ผมรอจนเสี่ยเลิกงานเพื่อไปคฤหาสน์ด้วยกัน ถ้าอาการยังไม่กำเริบก็จะฉีดยากันไว้ก่อน แต่ถ้ากำเริบก็ต้องนอนพักอีกหลายชั่วโมงถึงจะกลับบ้านได้ อ้อ ผมได้เจอกับร่างกายตัวเองแล้วนะครับ เสี่ยให้อยู่ในห้องปลอดเชื้ออย่างดี มีนางพยาบาลดูโดยเฉพาะคอยตัดเล็บสระผมพลิกตัวให้ เห็นแล้วก็วางใจ และรู้สึกขอบคุณเสี่ยที่ทุ่มเทให้แม้จะเป็นคนแปลกหน้ากันก็ตาม

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมกับเสี่ยจะนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันทุกสองวัน อาหารส่วนใหญ่ก็ตามใจปากเจ้าของบ้านนั่นแหละ เดี๋ยวก็อาหารฝรั่ง เดี๋ยวก็อาหารไทย จากตอนแรกที่ต้องโทรบอกพ่อกับแม่ ตอนหลังต่อให้ลืมบอก พ่อกับแม่ก็รู้แล้วว่าผมหายตัวมากินข้าวอยู่กับใครจนหายห่วง

ที่โวยวายก็มีแต่น้องชายตัวดีของผมนั่นแหละ

แต่เขาคงเหนื่อยแล้ว ช่วงหลังมานี้เห็นผมกลับมาปลอดภัยดี ก็เริ่มวางใจเสี่ย เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนแม้เหมือนจะคืบหน้า แต่ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ แค่นั่งรถกลับด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน แล้วก็แยกย้าย เสี่ยไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟัง เพราะคนที่เล่าน่ะเป็นผมต่างหาก

สองเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก

ซีรี่ส์ตอนแรกของเช็กเมทก็เริ่มฉาย

ผมรู้ตอนนั้นเองว่าทำไมคนเขียนบทถึงแก้ให้มิสเตอร์เอสพูดคำนั้น

ฉากจบที่หญิงสาวโดนจับโดยที่พระเอกซึ่งทำทีเหมือนหลงรักเธออย่างหวานซึ้งจนเกือบโดนป้ายคำผิด ยืนมองตำรวจที่รุมล้อมด้วยสีหน้าสะใจและเอ่ยคำว่ารุกฆาตนั้น เพิ่มอิมแพคมากขึ้นเมื่อระหว่างฉากนั้นมีการตัดภาพของมิสเตอร์เอส หรือก็คือใบหน้าของผมสลับลงไปด้วย กลายเป็นว่าทั้งมิสเตอร์เอสและตัวพระเอกนั้นกำลังมองในเหตุการณ์เดียวแต่จากคนละสถานที่ ซึ่งในตอนท้ายก่อนจบ จากภาพตัดสลับ ก็กลายเป็นใบหน้าเราสองคนขึ้นคู่กัน และเอ่ยประโยคเด็ดออกมาพร้อมกัน

“รุกฆาต”

แล้วเพลงจบซีรี่ส์ก็ขึ้นพร้อมชื่อนักแสดงและขอบคุณสปอนเซอร์

“สนุกโคตรเลยพี่จิ!” น้องชายของผมเป็นขาประจำแนวสืบสวนอยู่แล้ว ถึงกับร้องลั่นอย่างอดไม่ไหวเมื่อดูจนจบ “ฉากสุดท้ายโคตรเท่เลยพี่ โอ๊ย ตอนต่อไปเป็นยังไงเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ”

“อย่านะลูก แม่ไม่อยากโดนสปอย!” แม่ผมรีบยกมือปิดหู คาดว่าคงจะประทับใจกับการเปิดตัวตอนแรกของซีรี่ส์ทุนสร้างระดับหลายล้านเช่นเดียวกัน

“อืม...นึกว่าลูกจะมีบทนิดเดียวซะอีก แต่ถึงจะออกมาแค่ไม่กี่นาที ฉากสุดท้ายนั่นก็ทำให้เด่นเท่าพระเอกเลยนะ อืม...ไม่เลวๆ” พ่อลูบคางอย่างเก็บอาการ แต่แววประกายวาวแทบปิดอารมณ์ไม่มิด

อย่าว่าแต่ใครเลย ผมเองก็อึ้งเหมือนกัน ต้องชื่นชมผู้กำกับและคนเขียนบทที่เพิ่มฉากของผมออกมาให้ดูดีขนาดนี้ จากผู้ช่วยตัวประกอบที่แทบไม่ขยับตัวไปไหน ถึงได้ดูเท่ระเบิดเทิดเทิง เป็นที่จดจำได้ไม่ยาก

...สงสัยพรุ่งนี้จะไปวิ่งไม่ได้แล้วมั้งเรา

-------------

ไทม์สคิปเล็กน้อย อยากให้จิเริ่มดังแล้วค่ะ 555

ส่วนความสัมพันธ์ของจิกับเสี่ย อย่างที่บอกว่าไม่เน้นเรื่องบนเตียงเท่าเรื่องอื่น เลยออกแนวเรียบเรื่อย ค่อยๆ ศึกษากัน โอนอ่อนกันมากกว่าค่ะ หนูจิเป็นคนน่ารัก(?)อยู่แล้ว เสี่ยเองพอโดนดักก็ไม่รุกมาก เลยทำให้บรรยากาศออกมาเบาสบาย เข้าทางจินัก! #ฝอยตกเสี่ย

ปล.นี่เป็นสต็อกตอนสุดท้ายแล้ว จากนี้จะไม่อัพทุกวันแล้วนะคะ อ่านแล้วชอบอย่าลืมเม้นให้กำลังใจกันด้วยน้า ขอบคุณค่า

เพจนักเขียนที่ลุ้นตัวโก่งว่าเสี่ยจะตบะแตกเมื่อไหร่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด