ตอนที่ 16 : รุกไล่เอาคำตอบ 100%
ตื่นมาอีกครั้งบนเตียงนุ่มนิ่มแสนคุ้นเคย
แต่ผมยังไม่กล้าลืมตา
เพราะรู้ว่าถัดออกไปตรงโซฟา เสี่ยต้องอ่านหนังสือเฝ้าผมอยู่แหง!
พอได้รับยาร่างกายก็กลับเป็นปกติ อาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกะทันหัน น่าจะเป็นเพราะผมมัวแต่คิดเครียดเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ ก็เลยทำให้สภาพค่อนข้างร่อแร่ แต่ตอนนี้ได้พักผ่อนเต็มอิ่ม สติสตังก็เริ่มกลับคืน
คำพูดของเสี่ยเองก็จำได้ทุกคำ
แต่ว่า...
‘ความตั้งใจและประสบการณ์ของจิตริน ถ่ายทอดผ่านร่างกายของจิระ ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นคุณในตอนนี้คือความสมบูรณ์แบบ’ถ้าตีความจากประโยคของคุณสัน คือการที่ผมเป็นตัวผมอย่างตอนนี้ ในร่างกายของจิระ นับเป็นความสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นทำให้เสี่ยหวั่นไหว ส่งผลมายังความความสำเร็จด้านหน้าที่การงาน แต่ถ้าผมกลับร่างเดิมล่ะ จะยังเป็นแบบนี้มั้ย อาชีพดารา ผมไม่สามารถทำต่อได้หรอก ส่วนความรู้สึกของเสี่ยนั้น...
ผมก็ไม่น่าจะรั้งไหวด้วย
นายจิตริน ทองคำดี ตัวสูงก้ามปูผิวเข้มคล้ำ ต่อให้เสี่ยจะอ่อนไหวกับผมยังไง แต่เมื่อได้ร่างคืน มีหรือเขาจะไม่เลือกจิระ อดีตเด็กเลี้ยงคนโปรด น่ามองไปทุกสัดส่วนแถมยังตอบสนองทางร่างกายได้อย่างดี
ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งมาคิด แต่ผมตระหนักถึงความจริงข้อนี้มาตั้งนานแล้ว เลยไม่คิดจะผูกพันกับใครเป็นพิเศษ เกาะติดแต่กับเสี่ยที่รู้ความจริง เพราะเชื่อว่าเขาที่มีร่างของจิตรินในกำมือ จะต้องไม่หน้ามืดตาลายอย่างแน่นอน และถ้าถามว่าผมเคลิ้มกับเสี่ยบ้างมั้ย เอ่อ...มันก็ต้องมีกันบ้าง แต่ผมยังต้องการกลับร่างเดิม ไม่ให้ความรักของเสี่ยมารั้งจนอยู่ในร่างของจิระตลอดไปเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นเราสองคนน่ะ...เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนเหมือนเดิมก็ดีแล้ว
ทันทีที่สรุปคำตอบในใจ ผมก็ลืมตาทันควัน
“เฮ้ย!”
ผิดคาด เสี่ยไม่ได้นั่งอ่านหนังสือตรงโซฟา แต่ดันมานั่งจ๋อง อยู่บนเก้าอี้สี่ขาข้างเตียงผมเนี่ย!
“สะ...เสี่ยมาทำอะไรตรงนี้”
“เฝ้าเธอไง” เสี่ยตอบเสียงเรียบเรื่อย “นอนกระตุกเปลือกตาตั้งนาน คิดอะไรอยู่รึไง ถ้าจะมาคิดแทนฉันล่ะก็ไม่ต้องนะ เพราะเมื่อวานฉันคิดมามากพอแล้ว”
“หลังจากไล่ผมลงรถน่ะเหรอครับ” ผมถามเสียงเจื่อน เพิ่งสังเกตว่าตรงหัวเตียง เสี่ยวางกรอบรูปที่เราถ่ายคู่กันไว้ด้วย รูปที่เขาหน้าเหวอหลับตานั่นแหละ เฮ้ย เสี่ยเอาจริงว่ะ “เสี่ย...เอาตรงๆ นะ ผมโคตรจะงงกับตัวเอง จิระรักเสี่ย ผมรู้ได้ด้วยตัวเองผ่านร่างกายนี้เลย เขาใจเต้นทุกครั้งที่เสี่ยสบตา บางครั้งบางทีผมก็เลยเผลอเคลิ้มไปเหมือนกัน ถึงช่วงหลังๆ มานี้ ผมจะสบายใจเวลาอยู่กับเสี่ยมากขึ้น จนลืมสังเกตอาการของจิระไปแล้ว แต่ผมก็ยังสรุปกับตัวเองไม่ได้แน่นอนหรอกว่ารู้สึกยังไงกับเสี่ย ที่มั่นใจแน่ๆ คือ ผมไม่อยากจริงจัง ยังไงสักวันผมก็ต้องกลับร่างเดิม ฉะนั้น...เสี่ยก็อย่าจริงจังกับผมเลย”
“งั้นเธอจริงจังกับงานนักแสดงทำไม”
“อ้าว ก็นั่นเป็นโอกาส โอกาสที่ผมตอนเป็นจิตรินทำไม่ได้ ในเมื่อได้อยู่ในร่างของจิระทั้งที ผมก็ต้องคว้าไว้สิครับ”
“แล้วทำไมกับเรื่องฉันถึงจริงจังไม่ได้”
“เสี่ย มันเอามาเทียบกันได้ที่ไหน ผมเป็นนักแสดง ถ้าเกิดกลับร่างเดิม จิระก็ยังทำงานด้านนี้ต่อไปได้ ไม่เสียหายทั้งตัวผมและตัวเขา ผมถึงทุ่มเทโดยไม่ต้องพะวง แต่ถ้าคบกับเสี่ย แล้วผมเกิดกลับร่างเดิมขึ้นมา เสี่ยจะคบกับจิระต่อรึไงล่ะปัดโธ่ ใช่สิ คนที่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องก็เสี่ยนี่นา แล้วผมจะทำยังไง โดนทิ้งในร่างก้ามปูเหรอ ไม่เอาดีกว่า ผมไม่เสี่ยงด้วยหรอก”
ผมยกมือกากบาทไขว้ตรงหน้าอก แสดงเจตจำนงแน่วแน่
“หรือเสี่ยจะคบกับผมลง นายจิตริน ทองคำดี ก้ามปู ผิวคล้ำ ตัวสูงเท่าเสี่ย ไหล่หนาเท่าเสี่ยกันล่ะ ถึงตอนนั้นเสี่ยจะพูดว่าอยากจริงจังกับผมได้อยู่รึเปล่า ตอบมาสิครับ”
“เป็นคนคิดมากตั้งแต่เมื่อไหร่หืม”
โอ๊ย...เสี่ย คิดบ้างเหอะ!“เรื่องตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น เรื่องตอนนี้ก็ส่วนตอนนี้ อนาคตยังมาไม่ถึง ฉันให้คำตอบไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ เวลานี้ เธอต้องให้คำตอบฉัน”
“คำตอบอะไรครับ”
“คบกับฉันเถอะนะ จิตริน”
เหมือนระเบิดลงกะทันหัน ผมอ้าปากพะงาบๆ อย่างกับปลาเกยตื้น สมองขาวโพลน สรรหาคำพูดดีๆ ไม่เจอ จนสุดท้ายต้องยื่นมือไปดึงแก้มเสี่ยจนยืดติดนิ้ว
“ทำอะไร” เสี่ยเอามือปัดกึ่งรำคาญ ส่งสายตาตำหนิแถมมาด้วย
“ดึงสติเสี่ย”
“...”
ตาเสี่ยโดนระเบิดผมบ้าง เขานิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะยื่นมือมาดึงแก้มผม แถมยังแรงกว่า ทำเอาผมที่นั่งบนเตียงหัวเอียง แก้มยืดแทบจะหลุดติดนิ้วอยู่แล้ว!
“โอ๊ย ผมเชื่อแล้วๆ ว่าเสี่ยไม่ได้ล้อเล่น เสี่ยเอาจริง”
“อืม ก็ตั้งใจจะเอาเธอจริงๆ”
อึ้ง อึ้ง อึ้ง
บรรยากาศสีชมพูหายไป ผมได้แต่เหลือบตามองปะหลับปะเหลือก
“ถ้าเสี่ยอยากขนาดนั้น เสี่ยก็ไปหาเด็กเลี้ยงคนอื่นเถอะ อย่ามาคาดหวังกับผมเลย”
“แต่ฉันบอกเลิกไปหมดแล้ว”
“งั้นเสี่ยต้องการอะไร สรุปแล้วที่พูดมาทั้งหมด เป็นเพราะเสี่ยอยากให้จิระกลับเป็นเด็กเลี้ยงรึเปล่าเนี่ย” ผมถามอย่างหงุดหงิด ทั้งที่ก็ไม่ได้มีอาการกำเริบแล้วนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่สบอารมณ์ชอบกล
“ฉันไม่ได้ให้เธอมาเป็นเด็กเลี้ยง”
“แล้วเสี่ยจะคบกับผมด้วยฐานะอะไร”
“คนรัก”
ระเบิดลงลูกที่สอง ไอ้จิตรินตัวแหลกเหลวสติแทบบิน
“แล้ว...เสี่ยจะเอาผมยังไง ในร่างของจิระน่ะเหรอ เสี่ยไม่สับสนตัวเองเลยรึไง หรือว่าเข้าทางเสี่ยพอดี”
“...”
ไม่ตอบ ชัดเลยว่าใช่!
“ผมไม่ตกลง ปล่อยผมไปตามทางของผมเถอะ” ผมแกะมือเสี่ยออกจากแก้มตัวเอง เตรียมเผ่นกลับบ้าน เพราะขืนนั่งคุยกันต่อ ไม่เขาก็ผม ต้องมีสักคนที่น็อตหลุดก่อนแน่
“จิตริน...” เสี่ยมือปลาหมึก รั้งเอวผมไปกอดหมับไม่ยอมปล่อย แถมยังซบหน้ากับซอกคอ แนบตัวเข้ากับแผ่นหลังของผมในระยะประชิด
“เสี่ย!”
“จิตริน...”
เสี่ยใช้ไม้ตายอีกแล้ว มารยาชายร้อยเล่มเกวียนถูกขุดมาใช้ผ่านน้ำเสียงสั่นพร่าน่าสงสารจนชวนใจอ่อน
“ไม่เอาน่าเสี่ย ผมไม่หลงกลหรอก”
“จิตริน...”
เสี่ยแม่งเหนียวว่ะ! ผมพยายามแงะมือเสี่ย พอใกล้จะหลุดก็โดนพลิกตัวไปกอดหมับอีกรอบ คราวนี้โดนจับให้หันหน้า เลยเผลอสบตาเข้าจังๆ
อึก...ผมขอเป็นลมอีกรอบได้มั้ยก็สายตาของเสี่ยตอนนี้มันสุดยอดแห่งความทรมานใจสุดขีด! เหมือนโดนเกาหัวใจเบาๆ จนยวบยาบ! ทำไมต้องทำหน้าสลด ทำไมต้องมองอย่างตัดพ้อ ทำไมต้องทำทีราวกับตัวเองถูกทิ้ง โดนทารุณกรรมทางใจด้วย ผมเปล่านะ ผมไม่ได้ทำอะไรเสี่ยสักอย่าง มีแต่เสี่ยนี่แหละ ที่จ้องจะทำผม!
ผมอ้าปากพะงาบอีกครั้ง พยายามคิดในใจว่าเสี่ยน่ะลูกนักแสดง ทั้งหมดคือการแสดง!
แล้วเสี่ยก็จัดการล้างสมองผมโดยการก้มหน้าจุ๊บปากผมเบาๆ
“...”
จุ๊บครั้งที่สองตรงแก้ม
“...”
จุ๊บครั้งที่สามตรงกลางหน้าผาก
“....”
จุ๊บครั้งที่สี่วกลงมาที่แก้มอีกข้าง
“...”
จุ๊บครั้งที่ห้า ปิดประตูตีแมวตรงริมฝีปาก ก่อนจะจบท้ายด้วยการมองมาด้วยสายตาเว้าวอน
จิตริน ตายสนิทในมือมาร
------------
ต้องเข้าใจว่า น้องจิเนี่ย เป็นคนที่เหมือนจะใจแข็งแต่จริงๆ แล้วใจอ่อนมากๆ เสี่ยจับถูกจุดอย่างแรง สองคนนี้ต่างคนต่างแพ้ทางกันไปค่ะ แม้น้องจะไม่อยากตกลงแค่ไหน ไม่อยากคิดจริงจังกับเสี่ย แต่สุดท้ายก็ตายคาอ้อมกอดไปเลยค่ะ 5555
เพจนักเขียนจุดพลุฉลองปล.อย่าแปลกใจที่เเบ่งเปอร์เซนต์ไม่เท่ากันนะคะ พอดีเราแต่งจบฉากก็ตัดลงก่อน บางทีก็กะไม่ค่อยถูก ><
#ฝอยตกเสี่ย