แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด
“แม่จ๋า...วันนี้พี่แมนจะค้างกับเรานะจ๊ะ”
“เอาสิจ๊ะ บ้านเราไม่มีแขกมาค้างนานแล้วเหมือนกัน”
คุณชื่นฤทัยที่เห็นพ่อลูกชายจูงมือคุณพี่แมนลงมา ก็ยิ้มออกด้วยเข้าใจว่าทั้งสองคนคงคืนดีกันแล้ว เธอหันไปสั่งงานแม่สร้อยคนสนิทอีกชุดใหญ่ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือขึ้นคล้องแขน
“แม่จะไปไหนจ๊ะ?”
“อ้าว...เมื่อวานแม่ก็บอกลูกแล้วไงว่าจะช่วยคุณตาจัดการเรื่องที่นาที่เขามาจำนองไว้น่ะ”
“หนูไม่เห็นจำได้เลย”
“ใช่สิ เรื่องของแม่น่ะเราเคยสนใจเสียที่ไหน”
คุณชื่นฤทัยพูดเสียงเง้างอด จนลูกชายสุดหล่อต้องรีบปรี่มาโอบร่างอิ่มท้วมไว้อย่างง้องอน
“แม่อย่างอนสิจ๊ะ ทำหน้าบึ้งมากเดี๋ยวแกเร็วน้า~~”
“อย่ามาอ้อนเสียให้ยากเลย”
“หนูมีแม่อยู่คนเดียว ไม่อ้อนแม่แล้วหนูจะไปอ้อนใครล่ะจ๊ะ?”
คุณชื่นฤทัยบีบปากลูกชายลูกชายคนเดียวแล้วจับส่ายไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ปากมันดีอย่างนี้สิน้า~”
พี่แมนที่เห็นเมียรักหยอกเย้ากับแม่ตัวเองอย่างน่าเอ็นดูก็พลอยยิ้มขำไปด้วย จนคุณชื่นฤทัยที่หันมาเห็นต้องเฉดหัวลูกรักทิ้งแล้วหันมาจับไม้จับมือคุณพี่แมนแทน
“คุณพี่แมน ป้าเสียใจจังที่ไม่ได้ทำอาหารเลี้ยงเลยสักมือ แต่ป้าเด็ดโสนแช่ตู้เย็นไว้ให้แล้ว เดี๋ยวให้ตาเอ็มผัดดอกโสนจิ้มน้ำพริกให้กินละกันนะจ๊ะ คุณพี่แมนกินเป็นไหม?”
“ก็...ไม่เคยกินครับ แต่ถ้าลูกชายคุณป้าทำ ก็คงจะ...อร่อย”
คุณพี่แมนแอบสบตาคุณแฟนลับๆ อย่างมีความหมาย ทำเอาอีตาลูกชายเจ้าของบ้านยิ้มหน้าบานอย่างปรื้มปริ่ม
“อื้อ...ใช่ ตาเอ็มน่ะทำอะไรก็อร่อย งานบ้านงานเรือนก็ทำเป็นทุกอย่าง นี่ป้ายังเคยแซวเล่นๆ เลยว่าอีกหน่อยคงจะได้ไปเป็นเมียคนอื่นเขา มากกว่าจะแต่งเมียเข้าบ้าน”
คุณพี่แมนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง ในขณะที่เอ็มกลั้นขำแทบตาย พี่แมนทำหน้าเหมือนตกใจที่มารดาของเขาล่วงรู้ความลับที่ลูกชายเป็นตุ๊ด...โดยที่ไม่รู้ว่ามีความลับขั้นกว่าคือจริงๆ แล้วกูไม่ใช่ตุ๊ด!
“ไม่หรอกครับ...อีเอ็ม...เอ่อ...เอ็มเขา...แมนจะตาย เหอะๆ”
“นั่นสินะจ๊ะ! โฮะๆ”
จากนั้นคุณแม่ก็ล่ำลาหอมซ้ายหอมขวาคุณลูกก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปพร้อมแม่สร้อย ทั้งบ้านเลยเหลือแต่พี่แมนกับน้องเอ็มมี่กันอยู่สองคน พอรู้ตัวว่าไม่มีใครหลงเหลือในบ้านอีก ทั้งคู่ก็รู้สึกเขินกันเองขึ้นมาเสียดื้อๆ
“มึง...พูดจากับแม่น่ารักดีนะ”
“ชอบเหรอ? หนูพูดกับพี่แมนแบบนั้นด้วยก็ได้นะจ๊ะ พี่แมนจ๋า~”
“ขนลุก!!”
พี่แมนสบถพร้อมกับถูแขนตัวเองแล้วทำหน้าขนพองสยองเกล้าไปด้วย ทำเอาเมียรักบู้ปากอย่างน้อยอกน้อยใจ ไม่เห็นต้องตั้งท่ารังเกียจกันขนาดนั้นเลย แม่ยังบอกเลยว่าเค้าน่ารักอ่ะ!
“พี่แมน...กินไรมายังอ่ะ?”
“ยังเลย...”
“หิวยัง?”
“อยากกินข้าวไข่เจียว...อ่ะ”
อย่าเดะ...อย่ามาพูดเสียงอ้อนแล้วทำเป็นหลุบตาเขินแบบนี้เด้ะ!!
“ผมก็อยากกินข้าวไข่เจียวฝีมือพี่แมนเหมือนกันนะ”
เอ็มถือโอกาสจับนิ้วพี่แมนไปคลึงเล่นด้วยมิอาจเรียกการกระทำนี้ว่าลวนลามได้ เพราะไอ้คนโดนคลึงมันก็สมยอม
“แต่กูทำอาหารไม่เป็นนะ!”
แหนะ! มาทำตาโตน่ารักใส่กันอีก!
“เดี๋ยวสอน...ป่ะ!”
แล้วลูกชายเจ้าของบ้านก็ชวนคุณพี่แมนเข้าครัวไปอย่างลัลล้า เอ็มจัดแจงหยิบหมูออกจากตู้เย็น วางบนเขียงไม้แบนๆ แล้วส่งปังตอให้พี่แมน
“สับหมูนะ ทำได้ใช่ไหม?”
“อืมๆ”
คนถูกบังคับให้เรียนการทำอาหารหลักสูตรพื้นฐานพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เอ็มจึงวางใจเปิดตู้เย็นเพื่อหาไข่ไก่ต่อไป
ปัง!
“อีเอ็มมี่~~”
“ครับ.... เฮ้ย! ”
คนถูกเรียกด้วยเสียงอ่อยๆ อุทานลั่น เมื่อไอ้ชิ้นหมูบนเขียงนั่นมันแยกขาดออกจากกันอย่างต่อไม่ติด ประเด็นคือไม่ใช่แค่หมู แต่เขียงก็โดนสับแยกเป็นสองท่อนอย่างน่าสงสารไปด้วย
“พี่แมน...ผมบอกให้สับหมู ไม่ได้ให้สับเขียง!”
“ก็เขียงมันไม่มีคุณภาพอ้ะ!”
“พี่อ่ะมือหนักเกินไปต่างหาก!”
อันที่จริงพี่แมนก็ไม่อยากจะยอมอ่อนข้อให้สักเท่าไรนัก แต่หลักฐานโดนผ่าเป็นสองซีกเสียแบบนี้พี่แมนเธอก็จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการใช้แรงของตัวเองดูสักทีเหมือนกัน
“อ่ะ...ใช้อันนี้”
เอ็มไปเปิดตู้คุ้ยหาเขียงกลมอันใหญ่มาให้พี่แมนใช้แทน คราวนี้ต่อให้แรงมหาศาลเป็นยักษ์เป็นมารแค่ไหนก็คงแบะมันออกเป็นสองซีกไม่ได้แล้ว พอปล่อยให้พี่แมนสับหมูจนละเอียดเสร็จ เอ็มก็ต่อด้วยการสอนพี่แมนตีไข่ ลูกชายเจ้าของบ้านสาธิตตัวอย่างให้ดูซึ่งผัวรักก็พยักหน้าเข้าใจ
“อ่ะ...ลอง”
เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!
“เฮ้ย! พี่แมนเดี๋ยวถ้วยแต๊กก~”
เจ้าบ้านรีบคว้ามือของอีกฝ่ายไว้อย่างทันท่วงที ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วยืนซ้อนหลังผัวรัก กอบกุมมือซ้ายทีประคองถ้วย มือขวาที่ถือส้อมจากด้านหลัง แกนคณะจอมโหดเลยตกอยู่ในอ้อมกอดของเมียรักทั้งตัว
“ฉวยโอกาสตลอด”
พี่แมนค่อนขอด
“มันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนต่างหาก”
เอ็มตอบหน้าตายแล้วเริ่มขยับให้พี่แมนเรียนรู้แรงที่พอเหมาะพอควรสำหรับการทำอาหารพร้อมทั้งสอนวิธีปรุงสูตรลับเฉพาะ มีการโปรยน้ำตาลจำนวนปลายนิ้วมือตัดรสแล้วพรมน้ำเปล่าลงไปให้ไข่พองฟูเวลาทอด จากนั้นเอ็มก็คว้ากระทะมาตั้งเตาสองใบคียงกัน เทน้ำมันพอเจิ่งแล้วส่งตะหลิวให้คนข้างกาย
“พร้อมนะ”
“อื้ม!”
ฟู่~*
ไข่เจียวหมูสับสีเหลืองทองส่งทั้งเสียงทั้งกลิ่นชวนหิวอยู่ในกระทะทั้งสองใบ อีเอ็มมี่เอียงกระทะเป็นวงกลมให้ไข่กระจายตัวอย่างสวยงาม พี่แมนเห็นดังนั้นก็ลองทำบ้าง แต่ไข่เหลวๆ มันคอนโทรลยากกว่าที่คิดเลยกระฉอกออกข้างไปนิดหน่อย
เอ็มใช้ตะหลิวแงะไข่ด้านล่างดูว่าสุกได้ที่หรือยัง ก่อนจะช้อนพลิกทีเดียวไข่ก็กลับร่อนลงมาเป็นวงกลมดังเดิม คนข้างๆ ที่ทำตัวเป็นนักเรียนที่ดีลองแซะลองพลิกตามอาจารย์บ้าง แต่ไม่น่าเชื่อว่าการพลิกไข่ใบเดียวมันจะยากแบบนี้ ทำยังไงมันก็ไม่ยอมกลับด้านซะที ได้แต่ไหลด้านเดิมกลับลงไปในกระทะ และกว่าพี่แมนจะพลิกอีกด้านลงไปได้ เจ้าไข่ใบน้อยก็เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้มไปเสียแล้ว
“มึง...”
คนถูกเรียกที่โปะไข่เจียวหอมฟูของตัวเองบนข้าวสวยร้อนๆ เรียบร้อยหันมามองผลงานในกระทะพร้อมกับหน้ามุ่ยๆ ของคุณแฟนแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู
“สุกแล้วครับ เอาใส่จานข้าวนี้เร็ว”
“มันไหม้แล้วมึง กินไม่ได้แล้วอ่ะ”
“กินได้ครับ พี่แมนตั้งใจทำขนาดนี้ จะกินไม่ได้ได้ยังไง?”
พอถูกคะยั้นคะยอหนักเข้า พี่แมนก็จำต้องโปะไข่ลงบนจานข้าวที่ถูกคดเตรียมไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะสลับจานกันแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมขวดซอสพริก
“มึง...จะกินจริงๆ เหรอ? ทิ้งไปเหอะ”
พี่แมนมองไข่ไหม้ๆ ในจานเมียรักแล้วก็ทำหน้ายากจะบรรยาย แต่เจ้าตัวที่ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่ากินได้ชัวร์ก็ยังยิ้มรื่นอย่างไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร
“ผมจะทิ้งความรักที่พี่แมนตั้งใจทำให้ผมได้ยังไงล่ะครับ?”
“กินเห๊อะ! งั้นอ่ะ!”
พี่แมนตัดบทก่อนจะรู้สึกเลี่ยนจนแดกไม่ลงไปมากกว่านี้ ก่อนจะลงมือตักไข่เจียวบนข้าวสวยร้อนๆ ที่มีน้ำจิ้มแตะนิดหน่อยเข้าปากคำโตแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างมีความสุข พลอยให้คนที่นั่งมองอยู่ยิ้มตามอย่างภาคภูมิใจไปด้วย
พอเห็นอีกคนกินด้วยท่าทางมีความสุขแบบนั้นก็ชักหิวขึ้นมาบ้าง เอ็มตักไข่เจียวห่อรักจากมือพี่แมนเข้าปากแล้วเริ่มเคี้ยวก่อนจะชะงักนิ่ง หันซ้ายหันขวาแล้ววิ่งตรงไปยังถังขยะที่อยู่ใกล้ที่สุดแบบไม่คิดชีวิต
“แหวะ!”
“อ้าวๆ มึงคายความรักของกูทิ้งเลยเหรอ?”
พี่แมนย้อนอย่างนึกสมน้ำหน้า กูบอกให้ทิ้งก็ไม่ทิ้ง ดื้อจริง! มันน่าจะบังคับให้แม่งแดกให้หมดจานนั่นแหละ!
“โห่...ลองชิมสักคำเหอะ จะไม่พูดอย่างงี้เลย”
เอ็มที่กลั้วปาก ดื่มน้ำดับรสชาติทำลายลิ้นแบบสิ้นซากจนพอหายขมได้บ้างก็กลับมานั่งเท้าคางดูพี่แมนกินข้าวต่อด้วยรอยยิ้มแป้นแล้น
“อร่อยป่ะ?”
“อืม...อร่อย”
“ไม่มีอะไรตอบแทนเค้าเลยเหรอ?”
“ก็ไอ้ที่มึงคายทิ้งเมื่อกี้ไง”
เอ็มยู่หน้า ในขณะที่พี่แมนยังเคี้ยวข้าวต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย...
“ไม่ดิ...เอาอย่างอื่นอ่ะ”
“อะไรล่ะ?”
คนไม่เจียมบอดี้เล่นปูไต่จากโต๊ะฝั่งตัวเองเดินไปเกาะมือพี่แมนข้างที่ถือช้อนอยู่ พี่แมนชะงักมือดังกึก สะบัดสายตามองหน้าเมียรักอย่างไม่นึกไว้ใจ
“วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยอ่ะ...”
สีหน้าคนพูดส่อแววมีนัยยะชัดเจนมาก ขีดเส้นใต้ว่าชัดเจนมาก พี่แมนที่ฉลาดพอจะรับรู้สารส่อๆ นั้นได้ก็หน้าเห่อร้อนจนต้องด่ากลบเกลื่อน
“อีหื่น...กลางวันแสกๆ!”
“อ้าว...แปลว่าถ้ามืดแล้วทำได้ใช่ป่ะ?”
“โอ๊ย! อีหน้าด้าน”
พี่แมนไม่รู้จะสรรหาคำในพจนานุกรมคำไหนมาด่ามันดี ในหัวอีตุ๊ดหื่นนี่แม่งต้องกักเก็บแต่อะไรลามกจกเปรตแน่ๆ มันถึงได้กล้าชวนทำเรื่องแบบนี้ตอนคนเขากำลังกินข้าวเนี่ย!
“ด้านได้อายอดอ่ะ!”
“ถึงด้านมึงก็อดได้เหอะ!”
พี่แมนสวนกลับเรียบๆ แต่วันนี้ วินาทีนี้ เอ็มมิอาจรามือให้ได้จริงๆ
“แล้วพี่จะปล่อยให้ผมอดจริงๆ เหรอ?”
“มึงเป็นตุ๊ดเป็นนางพูดแบบนี้ได้ไง? เรื่องแบบนี้เขาต้องให้ผู้ชายเป็นฝ่ายพูดเว้ย!”
พี่แมนสั่งสอนให้อีเมียลามกมันรู้สำนึก แต่ดูเหมือนผลที่ออกมามันจะตรงกันข้าม
“ก็ผู้ชายเขาไม่ยอมพูดสักทีนี่...”
เอ็มแพ้ความโมเอ้ฉันใด พี่แมนก็แพ้น้ำเสียงและหน้าตาแบบลูกหมาถูกทิ้งฉันนั้น พอเมียรักทำเสียงหมาเหงาเศร้าจิตเข้าหน่อย พี่แมนก็ชักจะหวั่นไหวไปไม่เป็นกับเขาเหมือนกัน ไอ้จะทำเนียนเปลี่ยนเรื่องไป ดวงตาแฝงแววน้อยใจจากฝั่งตรงข้ามก็จ้องเขม็งมาอย่างเร่งให้ตัดสินใจ
“ก็ตอนนี้...มันสว่างอยู่...ไง...เล่า”
พูดอ้อมแอ้มไปได้แบบนั้นแล้วพี่แมนก็งับไข่เจียวเข้าปากแก้เขิน ฝ่ายเอ็มที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างกระดิกหางดิ๊กๆ อย่างสุดแสนจะดีใจ นึกอยากจะเร่งวันเร่งเวลาให้พระจันทร์มาเยือนฟ้าโดนเร็ว ส่วนพี่แมนก็นั่งทำหน้าปั้นยาก...อีเมียนี่รักก็ใช่อยู่ แต่ไม่เค๊ยไม่เคยคิดจะขยี้ป่นปี้อะไรมันเหมือนสาวๆ คนอื่นๆ ที่เคยคบค้ากันมาก่อน
ปัญหามีอยู่ประการเดียว...
เพราะมันไม่สาว...กูเลยไม่รู้วิธีขยี้ยังไงล่ะ!
โปรดติดตามแอ๊บต่อไป
#แอ๊บรัก
Talk~*
ใครก็ได้ช่วยเดินไปปิดพระอาทิตย์หน่อยสิคะ ฟ้าจะได้มืดๆ