แอ๊บที่ 27: ตกรถ
1 เดือนต่อมา
“หมอให้มึงถอดเฝือกได้ไงวะไอ้แมน?”
พี่งอกที่มองเห็นเพื่อนเดินปร๋อด้วยขาทั้งสองข้างหลังจากคุมงานละครด้วยเฝือกติดขามาหนึ่งเดือนเต็ม เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจจริงๆ ถึงแม้ว่าพอจะรู้อยู่ว่าร่างกายไอ้โหดนี่มันจะแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปก็เหอะ
“กูแค่บอกหมอว่า ถ้าหมอเอาเฝือกผมออกภายใน 1 เดือนไม่ได้ หมอจะได้ใส่เฝือกเป็นเพื่อนผม เท่านั้นเอ๊ง~”
“ไอ้เหี้ย! กับหมอก็ไม่เว้น!”
ด่ามันเสร็จพอเป็นพิธี พี่งอกก็ต้องรีบหันไปจัดการหน้าที่ของตัวเองต่อ วันนี้เป็นวันแสดงจริงวันสุดท้ายแล้ว ไอ้ 6 วันที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรผิดพลาดไปจากสิ่งที่ฝึกซ้อมไว้ หรือจะพูดให้ถูกคือไม่มีใครกล้าพลาด เพราะถ้าพลาดอย่างน้อยก็โดนพี่แมนด่า อย่างมากก็โดนเตะตกเวที เขาแอบได้ยินพวกรุ่นน้องมันกระซิบกระซาบอยู่หลังเวทีด้วยความหวาดผวาว่า...
“พี่แมนแม่งผลิตโชคไปป่ะวะ?”
“อะไรวะมึง?”
“เป๊ะ!”
“นั่นมันเป๊ก!”
แต่เบื้องหลังความเป๊ะที่ว่านั่นไอ้แมนก็แทบไม่ได้หลับได้นอนเลยตลอดการแสดงจริงนี้ ยิ่งเมื่อคืนที่มีการแสดงสองรอบเพราะเป็นวันเสาร์แล้วดันมีปัญหาเรื่องฉากจนต้องแก้กันทั้งคืนเพื่อให้ทันรอบบ่ายที่เพิ่งจบไปนี่ก็เล่นเอาท่านแกนโหมงานจนตาเป็นแพนด้า
“พี่แมนหน้าซีดๆ นะ”
ไอ้น้องโฟนทักขึ้นเมื่อใกล้จะถึงเวลาเริ่มแสดงรอบสุดท้าย มันขมวดคิ้วมองหน้ารุ่นพี่ที่มันเคารพรักแล้วก็แนะนำว่าควรจะไปนอนสักงีบจะดีกว่า
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวก็จบแล้ว”
พี่แมนบอกปัดก่อนจะหันไปเรียกนักแสดงและสต๊าฟทุกคนมารวมกันเพื่อนเรียกพลังครั้งสุดก่อนจะบูมคณะแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ละครเวทีเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัย รวมทั้งต่างมหาวิทยาลัยด้วย เพราะพระนางเองก็หน้าตาดี พล็อตเรื่องก็ดี องค์ประกอบอื่นๆ ก็ดี ความนิยมที่ว่ามันล้นหลามจนบัตรขายหมดทุกรอบ คนที่ทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ก็ภูมิใจกับผลที่ออกมาไม่น้อย
เมื่อม่านบนเวทีโรยตัวปิดลงหลังจากจบการแสดง และผู้ชมที่นั่งอยู่ด้านหน้าเริ่มทยอยออกจากหอประชุมใหญ่แล้ว เหล่าทีมงานก็โผเข้ากอดและโห่ร้องกันด้วยความยินดี โดยเฉพาะหัวเรือใหญ่อย่างพี่แมนที่โดนผองเพื่อนและรุ่นน้องดึงตัวไปกอดคนละทีสองทีจนเวียนหัวแต่ก็ยังยิ้มแป้น
“ไอ้แมน...จะไปต่อป่ะวะ?”
ไอ้ที บุคคลผู้เคยขืนใจเมียพี่แมนจนท้องแข็งไปเมื่อคราวอยู่โรงพยาบาลเอ่ยชวน คนถูกชวนทำหน้าคิดไปสักนิดก่อนส่ายหัว
“พรุ่งนี้เช้ารถออกตี 5 นะ พวกมึงตื่นให้ไหวละกัน”
ท่านแกนกำชับ เพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันก่อตั้งมหาวิทยาลัย รวมกับวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก 2 วันเป็น 3 วัน แก๊งค์สถาปัตย์เลยถือโอกาสยกโขยงไปค่ายสร้างกันที่ต่างจังหวัด
“มึงนั่นแหละ~ อย่าปล้ำเมียจนฟ้าเหลืองตื่นไม่ทันนะฮร้า~”
ไอ้ทีแซวเสียงตุ๊ด ไม่วายผลักไหล่พี่แมนเป็นเชิงหยอก แต่พอผลักไปเบาๆ กลับได้ยินเสียงดังตุบ แล้วร่างของแกนคณะก็ร่วงไปกองกับพื้นท่ามกลางอาการตื่นตะลึงของทุกคน พี่เงิบที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อนที่สุดรีบทรุดตัวลงไปดู พอจับตัวมันขึ้นมาเขย่าเรียกสองสามครั้งถึงได้รู้ว่า...
“มันหลับ”
“โอ๊ะ! ไอ้นี่! ทำกูตกใจหมด!”
“มันคงเหนื่อยว่ะ พวกเรายังผลัดกันไปงีบบ้าง แต่ไอ้แมนไม่ได้นอนเลยนะ”
“แล้วนี่ใครจะพามันกลับหอวะ?”
“อีเอ็มมี่มาดูละครรอบนี้ด้วยป่ะ?”
“มึงโทรหามันดิ๊”
พี่งอกต่อสายหาเมียเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง อีเอ็มมี่ก็เดินเข้ามาหลังเวทีด้วยอาการแตกตื่น แต่พอเห็นว่าคุณสามีไม่ได้เป็นอะไรนอกจากหลับไป เขาก็ทำสีหน้าโล่งอก
“กลับไงอ่ะมึง? มึงขับฟีโน่แล้วเอาไอ้แมนซ้อนเงี้ยเหรอ?”
“อันตรายว่ะ ไอ้พี่ฉิมมันขับรถมา เดี๋ยวให้มันแวะส่งก็ได้ จอดฟีโน่ไว้นี่แหละ”
น้องโฟนเสนอความเห็น ซึ่งเป็นความเห็นที่ทำเอารุ่นเพื่อนกะรุ่นพี่เงียบกริบ ก่อนที่แต่ละคนจะยิ้มเผล่ออกมาอย่างไม่น่าไว้ใจ
“มีผัวอยู่ในโอวาทโว้ย สั่งให้ไปไหนก็ได้~”
“ฮิ้ววววววววววววววว”
“แล้วแวะไปส่งนี่คืออะไร? จะไปต่อที่ไหนกันจ๊ะ มืดค่ำแล้วเนี่ย~”
“ฮิ้ววววววววววววววว”
“โว้ยยยย! ล้อกันอยู่ได้!”
ไอ้น้องโฟนตวาดแก้เขินก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากวงล้อมเพราะอยู่นานก็มีแต่จะเสียหาย สักพักพี่ฉิมก็เดินมาตามรุ่นน้องที่หลับสนิทและเมียมันให้ไปขึ้นรถ ใช้เวลาครู่เดียวก็มาถึงหอพักของพี่แมน เอ็มจับพี่แมนแบกขึ้นหลังก่อนจะหันมาโค้งขอบคุณพี่ฉิมกับเมียพี่ฉิมที่ยังคงหน้าบึ้งเพราะเซ็งที่ถูกล้อไม่หาย แล้วเดินเข้าหอไปกดลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น 7 อันเป็นรังรักของตน
“ฮึบ!”
อดีตตุ๊ดหงายหลังวางคุณสามีลงบนเตียง หายใจหอบสองทีพอให้รู้ว่าเหนื่อยก่อนจะจัดการถอดรองเท้าและเสื้อผ้าไล่ตั้งแต่เสื้อยืดสต๊าฟ เข็มขัดสายสีน้ำเงิน และกางเกงขาโคตรเดฟสีเทา พอถอดหมดก็นั่งหอบอีก 2 ทีแล้วหันมาจัดการกับปราการ...เอ่อ...ชิ้น...สุดท้าย
“ขาวจังง่ะ!”
เอ็มมองพี่แมนที่หลับสนิทจนเกือบคิดว่าม่องไปแล้วบนเตียงด้วยน้ำลายไหลยืด ผิวพี่แมนถึงจะขาวจนดูซีดไปหน่อยแต่หน่มหน๊มนี่สีชมพูเย้ายวนให้ลิ้มลองเสียเหลือเกิน ยิ่งตอนนี้พี่แมนหลับสนิทไม่มีสิทธิ์ขัดขืน หรือยังไงก็มัดไว้ก่อนดีมะ? ถึงตื่นมากลางคันก็ไม่สะดุด!
“ไม่ได้นะเอ็ม พรุ่งนี้พี่แมนต้องไปค่ายแต่เช้า!”
เอ็มมี่แองเจิ้ลกรอกหูซ้าย
“โอกาสแบบนี้มีมาบ่อยๆ ซะที่ไหน? ถ้าไม่ขยี้วันนี้ก็โง่ตายชักแล้วจริงไหม?”
เอ็มมี่เดวิลเป่าหูขวา
“แต่พี่แมนไม่ได้อนุญาตนะ ทำแบบนี้เค้าเรียกลักหลับ พี่แมนต้องโกรธแน่ๆ!!”
เอ็มมี่แองเจิ้ลพยายามยื้อรั้งต่อไป
“พี่แมนต่างหากที่ผิดสัญญาหลังละครจบน่ะ มันเป็นสิทธิ์ที่เราควรจะได้จริงไหม?”
เอ็มมี่เดวิลก็ชักจูงไม่หยุด
“แต่ว่า!”
“ว้อย!!”
นักศึกษากลัดมันคว้าอีเอ็มมี่แองเจิ้ลมาตบซ้ายตบขวา ตื้บๆๆ กับพื้นแล้วเตะมันทิ้งเข้าไปในห้องน้ำอย่างไร้ความปรานี บัดนี้เอ็มตัดสินใจแล้วว่ามิอาจห้ามแรงปรารถนาหื่นๆ ของตัวเองได้จริงๆ จึงก้าวขึ้นคร่อมพี่แมนอย่างอาจหาญ
“ถือว่าเป็นการลงโทษที่พี่แมนผิดสัญญาว่าจะให้ผมทำหลังละครจบก็แล้วกันนะครับ”
แล้วอีเอ็มมี่เดวิลก็ได้แสยะยิ้มเมื่อมันสามารถดึงเจ้านายลงสู่ขุมนรกที่รออยู่เบื้องหน้าได้สำเร็จ!
.
.
.
เกือบรุ่งสาง
“ทำไมไอ้แมนมันยังไม่มาซะทีวะเนี่ย? มึงโทรตามมันหน่อยดิ๊”
พี่งอกที่เกณฑ์พลพรรคขึ้นรถทัวร์จนหมดแล้ว หันไปสั่งพี่เงิบที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ เพราะรอไอ้ตัวหัวโจกนานแล้วมันก็ไม่มาซะที พี่เงิบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสาย สักพักหนึ่งก็ได้รับการตอบรับแต่ดันไม่ใช่เสียงไอ้แมนซะนี่
‘สวัสดีครับ พี่เงิบ’
“เอาไอ้แมนมาคุยหน่อยดิ๊ มันยังไม่ออกจากหออีกเหรอเนี่ย?”
พี่เงิบบ่นเสียงหงุดหงิด
‘คือ...พี่แมนเขา...เป็นไข้อ่ะครับ’
“ไอ้แมนเนี่ยนะเป็นไข้?! โว๊ะ! กูคบมันมาสี่ปี จามสักครั้งมันยังไม่เคยเลยนะเว่ย!”
เอ็มหัวเราะแหะๆ ด้วยเสียงเอื่อยอ่อย พี่แมนเป็นไข้น่ะเขาไม่ได้โกหกหรอก แต่ไอ้สาเหตุที่ทำให้พี่แมนเป็นไข้นี่ไม่กล้าพูดจริงๆ
“มันจะไปไหวไหมน่ะ?”
‘คงไม่ไหวอ่ะครับ’
“โว๊ะ! เออๆ มึงดูมันด้วยละกัน ถ้าหนักมากก็พามันไปหาหมอ รู้ไหม?”
‘ครับ’
กำชับเสร็จสรรพแล้ว พี่เงิบก็กอดคอพี่งอกโหนขึ้นรถบัสก่อนจะออกเดินทางไปโดยเสียดายไม่น้อยที่ไอ้หัวโจกมันไม่ได้ไปด้วย ตัวมันเองก็คงหัวเสียไม่ใช่เล่นเหมือนกันที่พลาดทริปหมู่คณะแบบนี้
กลับมาที่รังรักของท่านแกนคณะและคนใจหื่น คุณพี่ท่านนอนซมอยู่บนเตียง มีแผ่นเจลคูลฟีเวอร์แปะอยู่ที่หน้าผาก ลำคอส่วนที่โผล่พ้นคอเสื้อขึ้นมาแดงเป็นจ้ำๆ อย่างน่ากลัว อีตัวต้นเหตุนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงหลังจากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเช็ดตัวสวมเสื้อผ้าให้ที่รักเรียบร้อยแล้ว
“พี่แมน...”
“ไม่ต้อง...แค่ก...มาเรียกชื่อกู...เลยนะ”
พี่แมนหลับตาด่าเสียงแผ่ว จำได้ลางๆ ว่าโดนไอ้ทีผลักแล้วก็วูบไป พอรู้สึกตัวอีกทีก็โดนไอ้หื่นนี่ขยี้ซะเละ พอจะผลักมันออกไปจากตัวก็ไม่มีแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ พอถูกมันทำจนหมดสติไปอีกรอบก็เป็นไข้ตัวร้อนจี๋แบบนี้เสียแล้ว
“เค้าขอโทษนะ”
“มึง...อีชั่ว...ข่มขืนกู”
“ข่มขืนที่ไหน? พี่แมนไม่ได้ขัดขืนสักหน่อย”
พี่แมนลืมตาส่งสายตาพิฆาตให้มันเมื่อได้ยินถ้อยคำแสลงหู ไม่ใช่ว่าไม่ขัดขืน แต่กูไม่มีแรงต่างหาก...ตัวมันเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาต้องไปค่ายแต่ก็ยังทำ ถ้าไม่ป่วยจะถวายแข้งให้มันสักทีเป็นการสั่งสอน
“เค้าผิดไปแล้ว”
เอ็มคว้ามือพี่แมนมากุม แต่เจ้าตัวก็ดึงกลับไปซุกไว้ในผ้าห่มแล้วหลับตาไม่ยอมฟังคำพูดของมันอีก คนก่อเรื่องเลยได้แต่นั่งหางตกหูลู่อยู่อย่างนั้น แล้วนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เอ็มได้ยินเสียงพี่แมน
.
.
.
“สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่คิด”
น้องเมเม่ด่าเพื่อนที่มาปรึกษาถึงหอเพื่อนหญิงอย่างไม่ไว้หน้า อีนี่ไม่รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน พี่แมนกำลังทั้งรักทั้งหลงมันอย่างกับอะไรดีดันทำเสียเรื่องซะได้
“กูรู้ กูผิดเอง แต่พวกมึงเป็นเพื่อนกูก็ต้องช่วยกูสิ นี่พี่แมนไม่ยอมพูดกับกูซักคำมาสองวันแล้วนะ”
สองแฝดมองตัวปัญหานั่งซึมเป็นหมาถูกเจ้าของทิ้งแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ถึงมันจะทำตัวน่าโกรธจริงๆ แต่พี่แมนก็คงโกรธไม่นานนักหรอก ของมันก็ไม่ได้เสียหายครั้งแรก บางทีพี่แมนอาจจะอยากให้มันได้สำนึกแล้วคิดหาวิธีฉลาดๆ ไปง้อเขาก็ได้
“มึงหาของชอบพี่แมนไปง้อเขาบ้างยังอ่ะ?”
“กูก็ทำข้าวไข่เจียวไปง้อเขาแล้วนะ เขาก็ยอมกินอ่ะ แต่ไม่ยอมพูดกะกูอยู่ดี”
“เฮ้อ...ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยนะมึงอ่ะ”
น้องมาม่าด่า
“มึงอ่ะ! ถ้ากูซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตาไปง้อ กูก็โดนพี่แมนตื้บน่ะเสะ!”
ก็ถูกของมันนะ
“โทรหาพี่งอกดีกว่า เผื่อจะรู้ว่าพี่แมนมีของชอบอะไรบ้าง?”
น้องเมเม่ออกความเห็นแล้วคว้ามือถือมากดโทรออกหาที่รักทันที ไม่นานปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงดีใจที่แฟนโทรหา
‘หนูเม่ คิดถึงพี่เหรอจ๊ะ?’
“คิดถึงค่ะ พี่งอกไปตั้งหลายวัน น้องเม่ไม่มีใครให้กอดเลย~”
“แฮ่มๆ”
เอ็มกระแอมเตือนให้เพื่อนสาวรู้ว่าชักจะเกินหน้าเกินตาไปแล้ว น้องเมเม่เลยแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่องได้ในที่สุด
“พี่งอก อีเอ็มมี่มันทำพี่แมนโกรธอีกแล้วอ่ะ”
‘อ่าว มันไปทำอะไรอีกล่ะ?’
“เรื่องมันยาวอ่ะ เดี๋ยวพี่กลับมาแล้วหนูเล่าให้ฟัง ตอนนี้พี่ช่วยมันหาของชอบไปง้อพี่แมนหน่อยสิ”
‘ของชอบไอ้แมนเหรอ? เฮ้ย...ไอ้เงิบ ไอ้แมนมันชอบอะไรบ้างวะ?’
‘ไอ้แมนน่ะนะ หมาไงมึง หมา’
เสียงพี่เงิบลอดผ่านสายโทรศัพท์มาให้ได้ยินกันทั่ว เอ็มกับน้องเมเม่ทำท่าคิดหนัก ในขณะที่น้องมาม่าแย่งโทรศัพท์พี่สาวไปออดอ้อนฉอเลาะคุณแฟนอยู่ที่มุมห้อง
“หมา? แต่ที่หอพักเขาห้ามเลี้ยงสัตว์นะ”
“หรือจะเป็นตุ๊กตาหมา? ไม่อ่ะ...พี่แมนด่าตายเลย”
แล้วน้องเมเม่กับอีเอ็มมี่ก็นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดกันพักใหญ่ ขนาดน้องมาม่าวางสายจากพี่เงิบมาช่วยคิดแล้วก็ยังคิดกันไม่ออก
“หรือมึงจะไปสกล...ซื้อลูกชิ้นหมาให้พี่แมน”
“พี่แมนไม่ใช่มึงนะอีเม่!”
น้องมาม่าตวาดใส่คู่แฝดที่คิดอะไรไม่เข้าท่า ก่อนจะหันไปเปิดทีวีเพราะอยู่เงียบๆ ไปก็คงคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี ภาพในทีวีเป็นงานแฟนซีอะไรสักอย่างของวัยรุ่นที่จัดขึ้นที่สยาม...
“นี่แหละ!”
“อะไรของมึง? กูตกใจหมด!”
แฝดพี่แว้ดใส่อีตัวดีที่อยู่ดีๆ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“กูคิดออกแล้ว ไปก่อนนะๆ”
“อ่าวเฮ้ย! เดี๋ยวเด้! อีเอ็มมี่!”
สองสาวตะโกนเรียกแต่ก็ไม่อาจรั้งเพื่อนหนุ่มที่สวมรองเท้าวิ่งออกจากห้องพักไปด้วยรอยยิ้มเริงร่าลัลล้าของมันได้ น้องกุมารได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่อาจเดาได้ว่าไอ้ที่มันคิดออกแล้วน่ะมันคืออะไร?
หวังว่าจะสำเร็จละกันนะมึง....
โปรดติดตามแอ๊บต่อไป
Talk~
หนอย...อีเอ็มมี่ ป่นปี้พี่แมนซะยับเลยนะ!