█ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36  (อ่าน 232400 ครั้ง)

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
กลัวสายแบ๊ว ถ้าเนเนะมาดีก็ดีไป แต่กลัวจะไม่ดีนี่สิ

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ทีมเต็มใจแบบรักเต็มใจจริงๆ เลยค่ะ
รอติดตามนะคะ มาต่อไวๆ นะ  :katai4:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
อ่านอินโทรคือหมั่นไส้กองทัพสุด สุขอะไรขนาดนั้น คนอวดเมีย

แต่พออ่านตอนหนึ่งถึงสิบเอ็ดแล้ว อ่านไปลุ้นไป จะมีมาม่าให้เราไหมน้อ  :hao4: อย่าเลยเนอะ ปวดหัว(ใจ) ขอขลุกขลิกพอ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ r.saranya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากได้แบบเต็มใจมาไว้ที่บ้านสักคืนจังเลยค่ะ
หรือไม่ก็ อยากเป็นโบว์ อยากตั้งกล้องในห้องเต็มใจกับกองทัพ อร๊ายยยย  :m25:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 12 ┨





เพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียน เราตกลงกันว่าจะมีเซ็กส์กันเฉพาะคืนวันศุกร์เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าผมจะตั้งความหวังไว้เยอะเกินไปเพราะแค่ศุกร์แรกอีกฝ่ายก็ติดงานที่คณะจนดึกกว่าจะได้กลับมาถึงห้องก็หมดแรง ส่วนศุกร์นี้ผู้ให้กำเนิดของผมก็โทรมาเรียกตัวให้กลับบ้านด่วน ผมยังจำได้ดีกับความน่ารักของคนที่กลั้นขำจนเมื่อยแก้มตอนที่ส่งผมขึ้นรถกลับบ้าน และถ้าผมรู้ล่วงหน้าได้ว่าสาเหตุที่คุณแม่เรียกตัวผมกลับด่วนนั้นคืออะไรสาบานได้ว่าผมยอมโดนคุณแม่ด่าเพื่อได้อยู่กับ ‘คนรัก’ แน่นอน

“นี่แกจะทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง?”

“คุณแม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบงานแบบนี้”

“ไม่ชอบแล้วทำไม? ในเมื่อลูกค้าเขาชอบ”

คุณรู้มั๊ยว่าผมต้องผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองมากแค่ไหนกับการที่จะต้องมายิ้มและทำเป็นสุภาพบุรุษสุดแสนดีกับผู้หญิงที่โคตรจะน่ารักเหมือนตุ๊กตาที่ชื่อว่า ‘เนเนะ’ คนนั้น ผมยอมรับครับว่าเนเนะนั้นน่ารักมาก ถ้าหากผมเจอเธอก่อนหน้านี้ตอนที่หัวใจของผมว่าง ผมก็อาจจะตกหลุมรักเธอได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้แม้แต่หน้าผมยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำเพราะอะไรนะเหรอครับ ก็เพราะว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เป็นศัตรูหัวใจของผม

ภายใต้ความใสซื่อที่ล่อลวงให้ใครต่อใครหลงใหลทำให้ผมมั่นใจว่าเธอรู้จักและสืบประวัติของผมมาเรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ระบุกับทางบริษัทชัดเจนว่าอยากจะให้ผมเป็นคนรับรองและดูแลเธอตลอดเวลาที่ทำงานและถ่ายทำโฆษณาในไทย ‘ต้องคุณกองทัพเท่านั้น’ นั่นคือประโยคที่เธอตอกย้ำใส่เจ้าหน้าที่ประสานงานของบริษัท

“ขอตารางงานด้วยครับ”

ผมเลิกจะหาเรื่องทะเลาะกับคุณแม่ด้วยการหันไปขอเอกสารงานที่ผมจะต้องรับผิดชอบจากคุณแจ่มจันทร์ผู้ซึ่งเป็นเลขานุการคนเก่งของพี่นาย

นานๆ ครั้งผมจะเข้ามาดูงานบริษัทตามที่คุณพ่อมอบหมายหรือตามที่คุณแม่และพี่นายไหว้วาน ดังนั้นผมจึงเพิ่งได้รู้ว่าบริษัทของเราเป็นสปอนเซอร์หลักของงานพบปะแฟนคลับและยังมีงานถ่ายทำโฆษณาครีมยี่ห้อดังโดยมีนางแบบดาวรุ่งของญี่ปุ่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ผมจะแกล้งป่วย ติดสอบ หรือทำทุกวิถีทางไม่ให้มายืนอยู่ตรงนี้ได้เด็ดขาด

“เริ่มจากพรุ่งนี้ช่วงเย็นมีงานแฟนมีตติ้งค่ะ คุณกองทัพจะต้องเป็นคนถือช่อดอกไม้ไปมอบให้คุณเนเนะบนเวที และหลังจบงานเราจะมีอัพเตอร์ปาร์ตี้กันที่พัทยา เรื่องงานและสถานที่ทางบริษัทจัดการเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของวันอาทิตย์จะเป็นการถ่ายทำโฆษณาที่ชายหาดและในสตูดิโอที่พัทยาทั้งวันเลยค่ะ ซึ่งทั้งหมดที่แจ่มจันทร์พูดมาคุณกองทัพจะต้องเป็นคนดูแลเธอค่ะ”

“ท่าทางฉันจะได้ลูกสะใภ้คนเล็กเป็นดาราญี่ปุ่นก็งานนี้แหละ”

“คุณแม่ฝันอยู่รึเปล่าครับ?”

ถ้าฝันอยู่ก็รีบตื่นมารับรู้โลกแห่งความเป็นจริงได้แล้วครับคุณแม่

“กองทัพ!”

รอบนี้ท่าทางคุณแม่จะโกรธจริงจัง ผมจึงเลือกที่จะกล่าวขอบคุณคุณแจ่มจันทร์ที่อุตส่าห์ขนงานมาให้ผมถึงบ้านด้วยตัวเอง รอจนคุณแจ่มจันทร์กลับผมจึงขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนห้องนอน แต่เท้าที่กำลังก้าวก็ต้องชะงักเพราะท่าทางคุณแม่จะไม่ยอมง่ายๆ 

“อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้เรื่องแกกับลูกชายคนเล็กของท่านกิตติกับคุณหญิงหยดนะ แม่จะบอกไว้ตรงนี้เลยว่าแม่ไม่มีวันให้ลูกชายของแม่ไปญาติดีกับตระกูลนั้นเด็ดขาด หมดคุณปู่คุณย่าแกเมื่อไหร่ฉันนี่แหละจะปลดไอ้ผู้ดีแต่เปลือกนั่นออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัททันที”

ผมไม่ได้แปลกใจหรอกครับที่คุณแม่จะรู้เรื่องนี้เพราะคุณแม่มีเส้นสายมากมายเอาไว้รายงานชีวิตความเป็นอยู่ของสามีและลูกชายทั้ง 2 คน แต่ที่ทำให้ผมประหลาดใจก็คือเรื่องที่คุณแม่พูดถึงบุคคลที่ครอบครัวของเราให้ความนับถืออย่างยิ่งยวดด้วยวาจาที่ไม่เหมาะไม่ควรต่างหาก ถ้าหากคุณพ่อหรือคุณปู่คุณย่ามาได้ยินผมรับรองได้เลยครับว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

“ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันพูดเรื่องจริง หัดทำตัวให้ดีเหมือนพี่ชายแกบ้างไม่ได้รึไง?”

“แล้วคุณแม่อยากจะให้ผมดีแบบพี่นายยังไงเหรอครับ?”

คิ้วโค้งสวยขมวดมุ่นแทบจะทันทีที่ผมเอ่ยคำถามกลับไป

“จะไปไหนก็รีบๆ ไปเลย”

ถ้าเป็นเรื่องของพี่นายคุณแม่ก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง หรือที่บางคนเคยพูดไว้ว่าสำหรับคุณแม่แล้วพี่นายเป็นลูกชายที่ ‘แตะต้องไม่ได้’ แต่ถึงอย่างนั้นที่ผ่านมาในฐานะของพี่ชาย พี่นายก็เป็นพี่ชายที่ดีสำหรับผมเสมอ อาจจะเพราะช่วงที่ผมเติบโตผมไม่ค่อยจะได้เจอคุณแม่สักเท่าไหร่เพราะท่านต้องไปดูแลพี่นายซึ่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก จนพี่นายเรียนจบปริญญาตรีถึงได้กลับมาอยู่บ้านแบบถาวรเสียที ซึ่งในเวลานั้นผมก็ได้ย้ายไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผมกับคุณแม่จึงไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะยังไงคนตรงหน้าก็ยังคงเป็นคุณแม่ผู้ให้กำเนิดผมอยู่ดี

“ที่ผ่านมาผมไม่เคยขออะไรคุณแม่เลย แต่สำหรับเรื่องเต็มใจ.. ผมขอนะครับ”

อาจจะเพราะคุณแม่ไม่เคยเห็นผมจริงจังขนาดนี้ ท่านจึงได้ยืนฟังนิ่งๆ ไม่ทักท้วงใดๆ

“คนนี้.. ผมรักของผมจริงๆ ครับ”

ความรักของผมมีมากแค่ไหนผมก็ไม่สามารถจะวัดหรืออธิบายให้ใครฟังได้ แต่เท่าที่รู้ก็คือผมรักผู้ชายที่ชื่อเต็มใจ รักในแบบที่ไม่เคยจะรักใครได้เท่านี้มาก่อน และผมก็รู้ว่าคุณแม่ท่านเข้าใจในความหมายที่ผมพูดทุกอย่าง ท่านจึงเงียบและมองหน้าผมต่ออีกครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเดินไปทางฝั่งห้องนั่งเล่นโดยไม่พูดอะไรอีกเลย ซึ่งความเงียบแบบนี้น่ากลัวเสียกว่าตอนคุณแม่โวยวายเสียอีกนะครับ

ผมล้มตัวลงบนเตียงที่นานทีปีหนจะได้กลับมานอนสักครั้ง แต่ดีหน่อยตรงที่คุณแม่ยังให้คนมาเช็ดถูทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ดังนั้นห้องนอนของผมจึงเรียบร้อยอยู่เสมอ หลังจากนอนมองเพดานในความมืดอยู่สักพักผมก็หยิบไอโฟนขึ้นมาวิดีโอคอลหาคนที่คิดถึง แค่เห็นหน้าอีกฝ่ายอารมณ์ของผมก็ดีขึ้นแทบจะทันที อีกฝ่ายคงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เพราะกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดเส้นผมที่เปียกลู่ เสื้อกล้ามที่ใช้ใส่นอนก็บางเหลือเกิน

[ทำไมยังไม่อาบน้ำ?]

ใบหน้าใสขยับเข้าใกล้หน้าจอจนเห็นไฝเม็ดเล็กตรงแก้มข้างซ้าย จมูกรั้นทำท่าดมฟุดฟิด

[เหม็น]

ย่นจมูกแล้วหัวเราะเบาๆ ผมชอบรอยยิ้มและฟังเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายมันทำให้หัวใจของผมปลอดโปร่งโล่งสบาย ร่างบางที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ลุกขึ้นเดินหายไปจากหน้าจอก่อนจะกลับมาพร้อมกับแมวอ้วนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี

[สีส้มทักทายเจ้าทาสเทมป์หน่อยสิ]

[เมี๊ยววว]

คุณแม่ท่านไม่ชอบสัตว์เลี้ยงใดๆ ครับ ผมจึงไม่สามารถพาสีส้มกลับมาด้วยได้ ดังนั้นผมจึงต้องฝากให้สีส้มอยู่กับพ่อเต็มไปก่อน และดูท่าว่าสีส้มจะชอบมากเสียด้วย ก็แน่ล่ะ ว่าที่สัตวแพทย์ย่อมรู้จักวิธีดูแลสัตว์ดีกว่าผมอยู่แล้ว

“อยู่กับพ่อเต็มอย่าดื้อนะเว้ย”

คนฟังยิ้มขำ ก่อนจะดัดเสียงให้เล็กลงเป็นเสียงของสีส้ม

[ข้าไม่ดื้อหรอกนะเจ้าทาส ข้าน่ารักจะตาย]

พูดจบก็หอมแก้มเจ้าสีส้มฟอดใหญ่ อื้อหือ แล้วดูเจ้าสีส้มทำหน้าฟินเยาะเย้ยผมสิครับ มันจะมากไปแล้วนะเจ้าแมวอ้วน ผมชี้หน้าเจ้าสีส้มอย่างคาดโทษและท่าทางมันจะรู้ตัวครับ สีส้มเลยเลือกที่หันก้นให้ผมแทน

“พรุ่งนี้ไปงานเนเนะรึเปล่า?”

[เนเนะขอให้ไปให้กำลังใจหน่ะ]

“แล้วอัพเตอร์ปาร์ตี้ที่พัทยาล่ะ?”

[ว่าจะชวนเทมป์อยู่เนี่ยแหละ]

“ไม่ต้องชวนหรอก”

คิ้วบางเลิกสูงด้วยความสงสัย ผมจึงโชว์ตารางงานให้อีกฝ่ายดู

“แฟนเก่าเต็มเขาอยากจะให้เทมป์รับผิดชอบดูแลเขาด้วยตัวเอง”

ดวงตาคู่เรียวเพ่งมองเอกสารในมือผมแล้วก็หัวเราะขำพรืด คนฉลาดอย่างเต็มใจไม่ต้องให้ผมอธิบายเยอะก็คงจะรู้แล้วว่าอดีตแฟนสาวของตัวเองต้องการอะไร ผมหรี่ตามองคู่สนทนาเลยครับ

“นอกจากคุณเนเนะแล้วมีใครอีก? กรุณาช่วยลิสรายชื่อทั้งหมดไว้ให้เทมป์ด้วย”

[ปัจจุบันมีคนเดียว]

ได้ฟังแบบนี้ก็ดีใจจนเนื้อเต้นสิครับ

“อนาคตล่ะ?”

[ก็ต้องดูว่าพฤติกรรมจะเป็นยังไง]

“งั้นทำใจไว้ได้เลยว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอใครใหม่อีกแน่นอน”

ใบหน้าน่ารักระบายรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบของผมสดใส

[เอาความมั่นใจมากจากไหนเนี่ย?]

“มั่นใจว่ารัก”

อย่าเพิ่งอ๊วกนะครับ ผมไม่ได้แค่พูดเล่นๆ ผมทั้งจริงจังและจริงใจ แล้วผมก็ขอใช้คำว่า ‘น่ารักฉิบหาย’ กับผู้ชายที่ยิ้มเขินอยู่ในหน้าจอไอโฟนของผมขณะนี้ด้วย

[พรุ่งนี้มารับด้วยสิ]

“ตั้งใจไว้แล้วล่ะ”

[พรุ่งนี้คุณพ่อคุณแม่อยู่บ้าน มาทานมื้อเที่ยงด้วยกันก่อน]

“ได้สิ”

พยักหน้ารับ

[แล้วคืนนี้จะนอนบ้านนี้ใช่มั๊ย]

“ไม่อะ เดี๋ยวอีกสักพักจะให้คนรถไปส่งบ้านโน้น”

คนฟังพยักหน้าแล้วร้อง ‘อ่อ’ เบาๆ

[ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ]

“อืม”

ตอบรับแต่ก็ยังไม่อยากจะกดวางสาย เราก็แค่ยิ้มให้กันผ่านเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์อย่างเงียบๆ อยู่ครู่ใหญ่ ปลายสายจึงใช้นิ้วจิ้มบนหน้าจอคล้ายจะสะกิด หลังจากนั้นก็บอกสั้นๆ แค่ว่า ‘จะอ่านหนังสือ’ ผมจึงพยักหน้าแล้วหน้าจอก็ดับไปแต่หัวใจของผมยังฉายภาพใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มสดใสไว้อย่างชัดเจน และก่อนที่ผมจะลุกไปอาบน้ำ ผมตั้งใจจะเลือกรูปที่ผมถ่ายไว้ลงในไอจีสักรูป แต่เมื่อแอพพลิเคชั่นเปิดขึ้นมาภาพล่าสุดที่เพิ่งมีคนอัปโหลดไปเมื่อ 1 นาทีที่แล้วก็ทำให้หัวใจของผมอิ่มเอมจนต้องฉีกยิ้มหน้าบาน
‘เจ้าทาส ข้ารักเจ้านะ’

มันเป็นแคปชั่นของภาพแมวอ้วนสีส้มนอนหลับผึ่งพุงอย่างสบายอยู่บนเบาะ

ผมกดรีโฟส พร้อมแคปชั่นใหม่ว่า ‘รักเต็มใจ’ แล้วก็นอนยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่อย่างนั้นจนหลับไป ถ้ามีแฟนน่ารักขนาดนี้ ผมล่ะอยากจะเปิดวาร์ปไปให้ถึงวันศุกร์ถัดไปซะเดี๋ยวนี้เลย


.
.
.
.



เมื่อคืนกว่าผมจะกลับมาถึงบ้านคุณปู่คุณย่าก็ดึกแล้วล่ะครับ ก่อนเข้านอนผมบอกคุณปู่คุณย่าว่าวันนี้จะแวะไปทานมื้อเที่ยงที่บ้านท่านกิตติกับคุณหญิงหยด คุณปู่ก็หัวเราะร่าถูกใจในขณะที่คุณย่าลุกขึ้นก่อนไก่โห่มาทำอาหารใส่กล่องให้ผมถือติดไม้ติดมือไปฝากท่าน
ด้วยความตื่นเต้นผมจึงตื่นแต่เช้า และออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงสาย พร้อมเคาหยกอาหารจีนกวางตุ้งสูตรลับเฉพาะของคุณย่าที่รสชาติสุดยอดมากๆ ฝีมือในเรื่องการทำอาหารจีนของคุณย่าจัดอยู่ในระดับวังหลวงเชียวนะครับ แต่ก็ใช่ว่าคุณย่าจะใจดีทำอาหารให้ใครกินได้ง่ายๆ นอกจากคุณปู่ ผม คุณพ่อ ครอบครัวของท่านกิตติ และพี่นายที่นานๆ ครั้งจะมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าแล้ว คนอื่นก็ยังไม่มีใครเคยได้กินฝีมือของคุณย่าหรอกครับ แม้แต่คุณแม่ของผมซึ่งเป็นลูกสะใภ้ก็ยังไม่เคยได้กินเลย เคยมีรายการอาหารและร้านชื่อดังมาขอสูตรหลายต่อหลายครั้งแต่คุณย่าก็ไม่ให้ บอกแค่ว่าจะบอกสูตรให้กับหลานสะใภ้คนเล็กเท่านั้น ฮ่า แบบนี้ว่างๆ ผมคงต้องพาว่าที่สัตวแพทย์มาเข้าครัวซ้อมมือกับคุณย่าบ้างแล้วล่ะ

“งานนี้เป็นความรับผิดชอบของพี่นายไม่ใช่รึไง? งานไหนมีปัญหาล่ะโยนมาให้น้องตลอด แม่มันถือหางลูกผิดๆ ..ปู้ซันปู๋ซื่อ”

คุณย่าบ่นกระปอดกระแปดแล้วตบท้ายด้วยภาษาจีนที่แปลว่า ‘ไม่ได้เรื่อง’ แบบนี้ทุกครั้งที่งานในความรับผิดชอบของพี่นายมีปัญหาแล้วจะถูกคุณแม่ปัดให้มาอยู่ในมือของผม แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่นายหรอกครับ มันเป็นความต้องการของลูกค้าล้วนๆ ซึ่งผมเข้าใจดี

หลายคนอาจจะงงว่าทำไมคุณย่าของผมถึงได้บ่นแบบนี้ เรื่องของเรื่องก็คือพี่นายคือทายาทคนโตของตระกูล ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่คุณพ่อเกษียณตัวเองพี่นายก็จะขึ้นเป็นประธานบริษัทคนต่อไป ดังนั้นหลังจากเรียนจบคุณพ่อจึงโอนถ่ายงานมาให้พี่นายเยอะขึ้นเพื่อจะได้เรียนรู้งานไปโดยมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษา แต่ดูเหมือนว่าเมื่อไหร่ที่พี่นายได้รับมอบหมายงานในด้านที่ไม่ถนัดคุณแม่จะแบ่งปันงานนั้นมาให้ผมช่วยจัดการดูแลโดยที่คุณพ่อไม่ทราบเรื่องซึ่งหากผมทำสำเร็จเรียบร้อยดีพี่นายก็จะไม่โดนคุณพ่อตำหนิ

ถ้าจะให้พูดตามตรงผมเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรครับมองในแง่ดีก็ถือว่าผมได้เรียนรู้งานไปด้วย ผมไม่ได้เก่งมาแต่กำเนิดแต่ความสามารถที่มีเพราะผมได้ราชสีห์เฒ่าอย่างคุณปู่ที่ท่านซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ภายใต้ความชราทว่าคอยฝึกฝนวิชาให้ผมอยู่ต่างหาก

คุณปู่ปัดมือไปมาเพื่อให้คุณย่าหยุดบ่น แต่คุณย่าก็ยังบ่นอยู่แบบนั้นจนกว่าจะมีเรื่องอื่นเข้ามาแล้วท่านก็จะลืมเรื่องนี้ไปเอง ผมยกมือไหว้ท่านทั้งคู่เพราะคืนนี้ผมต้องไปค้างคืนที่พัทยา กว่าจะได้กลับคงเป็นพรุ่งนี้ช่วงดึก หรือไม่ก็คงจะกลับถึงกรุงเทพช่วงเช้ามืดของวันจันทร์

ได้รับพรเป็นภาษาจีนจากคุณปู่ ส่วนคุณย่าก็เว้นจังหวะการพึมพำด้วยการดึงผมเข้าไปจูบหน้าผากแถมเป่าหัวว่า ‘ขอให้ท่านกิตติกับคุณหญิงหยดเอ็นดูหลานย่ามากๆ’ ฮ่า ผมนี่ยกมือท่วมหัวสาธุแทบไม่ทันเลยครับ

11.20 น. ผมลงจากรถพร้อมกล่องอาหารหน้าบ้านหลังใหญ่ อย่าถามนะครับว่าตื่นเต้นแค่ไหน เอาเป็นว่าตื่นเต้นซะจนเหงื่อซึมไปทั่วทั้งแผ่นหลัง

“แหม.. ตรงเวลาเชียวนะ”

ออมเดินมารับผมถึงรถ แล้วควงแขนผมเดินไปหาใครอีกคนที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าเนียนใสอมยิ้มน้อยๆ วันนี้เจ้าตัวสวมเสื้อผ้าของแบรนด์ TJ เหมือนอย่างเคย เสื้อยืดสีขาวเนื้อบางตัวโคล่งกับกางเกงสีอ่อนพับปลายขาเล็กๆ และโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยเข็มขัดเส้นยาว ดูเท่ห์และน่ารักจนผมต้องขอสบถ เหี้ยเอ้ยย ซ้ำๆ อยู่ในใจหลายสิบรอบ ด้วยความตื่นเต้นแบบสุดๆ
 
“อาเต็มพาว่าที่อาเขยไปนั่งสงบสติอารมณ์ด้วยการตากแอร์ฉ่ำๆ ในห้องนั่งเล่นก่อนเถอะค่ะ ตื่นเต้นทีไรเหงื่อไหลท่วมทุกที”

อุตส่าห์ทำหน้านิ่งๆ ไม่มีพิรุธแต่ก็ยังโดนคุณเพื่อนทำขายหน้าอีก แต่ก็หยวนๆ ให้เพราะคำว่า ‘อาเขย’ ล่ะนะ ออมเดินนำเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ผมยืนเหงื่อแตกซิกอยู่กับคนน่ารักแค่สองคน

“อะไรหน่ะ?”

“อ่อ.. เคาหยก คุณย่าท่านฝากมาให้ท่านหน่ะ”

อีกฝ่ายเอียงคอเล็กน้อยด้วยคงจะไม่รู้จักอาหารจีนสักเท่าไหร่ ผมจึงอธิบายต่อให้อีกนิดหน่อยว่ามันคือหมูสามชั้นที่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมแล้วเอาไปตุ๋นผสมกับผักแห้งต่างๆ คนฟังก็ได้แต่พยักหน้าอืมๆ แบบงงๆ จากนั้นก็ยื่นมือมารับกล่องอาหารไว้ก่อนจะเดินนำผมเข้าไปในบ้านแล้วเรียกให้เด็กรับใช้มารับอาหารไปอีกทีหนึ่ง

“คุณพ่อคุณแม่อยู่ในห้องนั่งเล่น”

เจ้าของบ้านหันมาบอกผม พร้อมกับจัดความเรียบร้อยของเสื้อและไม่ลืมที่จะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้ผมด้วย ผมยอมรับว่าตื่นเต้นและกังวลใจมากแต่ถึงอย่างนั้นก็คงยังน้อยกว่าคนตรงหน้า ที่แม้ผิวเผินจะดูนิ่งๆ แต่ในบางเวลาหัวคิ้วก็ยังแอบชนกันให้เห็น

มือบางหยุดวางลงบนหน้าอกด้านซ้ายของผมแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“หัวใจเต้นแรงมาก”

ด้วยความอายผมจึงยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ

“หวังว่าท่านกิตติคงไม่หยิบปืนมายิงเทมป์หรอกนะ”

“ก็ไม่แน่”

อ้าว ให้กำลังใจกันมากเลยครับที่รัก ด้วยความหมั่นเขี้ยวผมจึงตั้งใจจะบิดปลายจมูกรั้นนั่นสักที

“น้องเต็มยืนทำอะไรอยู่หน่ะลูก?”

เสียงของคุณหญิงหยดที่ดังขึ้นทำเอาผมตัวเกร็งและแทบจะดึงมือกลับลงมาข้างลำตัวแทบไม่ทัน แต่ฝั่งเจ้าของบ้านควบคุมสติได้ดีครับ ตอบกลับคนเป็นแม่ไปโดยไม่มีอาการตกใจหรือประหม่าแม้แต่นิดเดียว

“คุยกับกองทัพอยู่ครับคุณแม่”

“กองทัพ?”

คุณหญิงเดินตรงเข้ามายืนเคียงข้างลูกชาย เมื่อเห็นว่าเป็นผมก็ยกยิ้มพร้อมรับไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“พ่อกองทัพนี่เอง สวัสดีจ่ะ มานานแล้วเหรอลูก?”

“เพิ่งมาถึงครับ คุณย่าท่านฝากเคาหยกใส่กล่องมาให้ท่านกับคุณหญิงด้วยนะครับ”

“เต็มให้เด็กเอาไปเตรียมไว้สำหรับมื้อเที่ยงแล้วครับ”

ลูกชายอธิบาย คุณหญิงก็พยักหน้ารับด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“ลำบากคุณนายจูแย่เลย หลานชายมาทุกครั้งต้องมีของติดไม้ติดมือมาให้ตลอด เอาไว้วันหลังถ้าน้องออมไปบ้านพ่อกองทัพ เดี๋ยวคุณย่าจะฝากกลับไปบ้างนะคะ”

เสี้ยวจังหวะหนึ่งที่คุณหญิงกำลังพูดถึงออม ผมก็แอบเห็นอีกฝ่ายเม้มปากเล็กน้อย

“แล้วน้องออมไปไหนเสียล่ะ ทำไมปล่อยให้อาเต็มดูแลเพื่อนแทนตัวเองแบบนี้เนี่ย? ไม่ไหวจริงๆ เลยเด็กคนนี้”

ชักจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วล่ะครับ และผมก็ไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดอะไรแบบนี้เลย

“ผมเจอออมแล้วครับ อีกอย่างที่มาเนี่ยตั้งใจจะมาหา..”

“ป้าทิพย์ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ เชิญที่โต๊ะอาหารเถอะค่ะ”

บุคคลที่ถูกพาดพิงชื่อเดินมาได้จังหวะพอดิบพอดี ออมหรี่ตาเหลือบมองหน้าผมนิดหนึ่งก่อนจะฉีกยิ้มและกับตบลงบนแผ่นหลังผมดัง ‘อั่ก!’ เล่นเอาคุณหญิงยกมือทาบอกด้วยความตกใจ จากนั้นเจ้าตัวก็เนียนๆ บอกว่าจะเข้าไปตามคุณปู่แล้วก็เดินจากไป เต็มใจหัวเราะเบาๆ ก่อนจะแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเชิญคนเป็นแม่และผมไปที่โต๊ะอาหาร

อาหารอร่อยดีครับ แถมตำแหน่งของที่นั่งก็ยังทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อย นั่นคือหัวโต๊ะเป็นท่านกิตติ ฝั่งซ้ายเป็นคุณหญิงหยดกับออม และฝั่งขวาเป็นเต็มใจและก็ผม ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีแต่ติดตรงที่ผมสัมผัสได้ถึงสายตาจากหัวโต๊ะที่คอยเลียบมองผมอย่างพินิจพิจารณาอะไรบางอย่างอยู่

“น้องเต็มลองทานเคาหยกหน่อยสิลูก เคาหยกเป็นอาหารจีน แต่สูตรของคุณป้าจูเขาอร่อยจริงๆ นะคะลูก ถ้าไม่ได้ชอบพอรักใคร่กันจริงๆ เห็นทีจะไม่ได้ทานอาหารฝีมือของคุณป้าจูเขาหรอกนะ”

คุณหญิงเลื่อนจานอาหารให้ลูกชาย พร้อมกับหันมาส่งยิ้มหวานให้ผม

“อาเต็มเขาไม่ค่อยรู้จักอาหารจีนสักเท่าไหร่หน่ะ”

เอ่อ.. ครับ.. ผมตอบรับคำอธิบายของคุณหญิงด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ และไม่ชอบสรรพนาม ‘คุณอา’ เอาเสียเลย ได้ยินทีไรแล้วมันหงุดหงิดจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมสนใจไปมากกว่าคนที่ทานข้าวเป็นแมวดมได้หรอกครับ ผมจึงยื่นมือไปตักชิ้นเนื้อในจานเคาหยกมาวางให้คนที่นั่งข้างๆ ดวงตาคู่เรียวดูจะตกใจเล็กน้อยแต่ก็ลองชิมอาหารที่ผมตักให้ ผมก็โคตรจะใจเย็นนั่งมองอีกฝ่ายเคี้ยวจนละเอียดแล้วระบายยิ้มออกมา

“อร่อย”

“งั้นก็กินเยอะๆ ไว้วันหลังไปที่บ้านจะให้คุณย่าทำให้กินอีก”

แฟนชอบ ผมก็ต้องเอาใจตักใส่จานให้อีกสักชิ้นครับ

“อ่อ.. คุณย่าท่านยินดีจะสอนวิธีการทำให้เต็มด้วยนะ ถ้าเต็มสนใจจะลองหัดทำดูก็ได้”

คนฟังอมยิ้มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะใช้ฟันกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ ในแววตาคู่ใสส่องประกายความกังวลบางอย่างและนั่นก็ทำให้ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบรรยากาศรอบข้างมันเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ทุกสายตาจ้องมาที่ผมเป็นจุดเดียว โดยเฉพาะสายตาของท่านผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่าเพิ่งได้กระทำผิดร้ายแรงถึงขั้นที่จะต้องตัดสินโทษประหารชีวิต แต่ก่อนที่จะตายนั้นศาล(ทหาร)ท่านยังเมตตาให้ผมเอ่ยคำอุทธรณ์ได้เป็นครั้งสุดท้าย

เอาไงก็เอาวะ ถ้าไม่กล้าเข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือมาเป็นเมียได้ยังไง

“ผมกับเต็มใจเป็นแฟนกันครับ”

เสียงดัง ฟังชัด และมีเอฟเฟคเป็นเหงื่อที่ไหลเต็มแผ่นหลัง ท่านกิตติวางช้อนส้อมในมือแล้วยืดตัวกอดอกจ้องมองผมเขม็ง ในขณะที่คุณหญิงยกมือทาบอก ท่านอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็พูดไม่ออกจึงได้แต่นั่งหน้าซีดมองผมด้วยสายตาผิดหวังอยู่เงียบๆ คงจะมีแต่ออมเท่านั้นที่แอบส่งยิ้มและยักคิ้วให้ผม

“ท่านกับคุณหญิงอาจจะไม่ยอมรับในความรักของเรา แต่อย่างน้อยก็ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองว่าผมมีความจริงใจและรักลูกชายของท่านจากใจจริง”

ด้วยสถานการณ์ที่แสนจะตึงเครียดนี้ผมคิดว่าถ้าหากผมพูดอะไรผิดไปแค่คำเดียว ชีวิตผมอาจจะดับลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นผมต้องพยายามควบคุมสติและพูดออกมาให้ดีที่สุด

“ได้โปรดขอโอกาสให้เราด้วยเถอะครับ”

ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วค้อมตัวลงให้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม ความเงียบยังคงปกคลุมอยู่เช่นนั้นอีกเกือบนาที ท่านกิตติก็คลายมือออกจากหน้าอกแล้วสายตาที่จ้องมองผมอยู่เมื่อครู่ได้เบี่ยงไปมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านแทน

“แฟนญี่ปุ่นของน้องเต็มมาไทยไม่ใช่เหรอ?”

น้ำเสียงทรงพลังอำนาจถามลูกชาย คนถูกถามขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ผมเลิกกับเนเนะแล้วครับ”

“แล้วไหนบอกว่าจะไปเที่ยวพัทยาด้วยกัน?”

“อ่อ.. ใช่ครับ”

“น้องออมจะไปกับอาเต็มเขาด้วยใช่รึเปล่า?”

ได้รับคำตอบจากลูกชายก็หันมาถามหลานสาวต่อ ออมสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังมีสติพอที่จะตอบกลับคนเป็นปู่ไปอย่างฉะฉาน

“ใช่ค่ะคุณปู่ ออม อาโบว์ อาซัน ดักแด้ และ... กองทัพ พวกเราไปกับอาเต็มทั้งหมดเลยค่ะ”

ผู้อาวุโสสูงสุดของบ้านไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับ ความนิ่งนั้นทำให้ยากที่จะเดาความคิดและอารมณ์ได้ ผมไม่สงสัยเลยครับว่าเมื่อก่อนทำไมท่านถึงทำหน้าที่ผู้นำกองทัพได้อย่างดีเยี่ยมและมีแต่คนเคารพ ยกย่อง

“พรุ่งนี้กลับมาก็อย่าให้ค่ำมืดนัก”

ลูกชายและหลานสาวตอบรับ ‘ครับ/ค่ะ’ พร้อมกัน ดวงตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่าเจ็ดสิบปีเหลือบมองลูกชาย

“กลับมาเราค่อยมาคุยกัน”

คนที่นั่งข้างๆ ผมตอบว่า ‘ครับ’

จบประโยคนั้นท่านก็จับช้อนและส้อมทานอาหารที่ค้างไว้ต่อ คุณหญิงหยดมองสามีอยู่ครู่หนึ่งก็ทำตามบ้าง และหลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาใดๆ อีกเลย ผมมองเคาหยกที่คุณย่าของผมอุตส่าห์ตื่นมาทำตั้งแต่เช้ามืดตอนนี้กลับไม่มีใครกล้าแตะต้อง มันถูกวางทิ้งไว้ราวกับเป็นอาหารที่ไม่มีใครต้องการ แต่แล้วก็มีผู้กล้าปรากฏขึ้น แขนเรียวขาวยื่นไปตักเนื้อตุ๋นมาวางในจานตัวเองแล้วค่อยๆ กินโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาตำหนิจากผู้เป็นแม่เลยแม้แต่น้อย ผู้กล้าท่านนั้นนามว่า ‘เต็มใจ’ หรือก็คือ ‘คนรัก’ ของผมเองครับ




.
.
.
.
.



TBC..  : 222222:



ตอนที่แล้ว ได้ + 24เป็ด กับ คอมเม้นต์ที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย
เข้าใจอารมณ์นักเขียนมั๊ยคะ แบบว่ามันดีใจแล้วก็นั่งยิ้มเหมือนคนบ้าเลยค่ะ
มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย  ขอบคุณมากๆ นะคะ
o7 o7 o7

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
รักนี้จะผ่านบททดสอบอะไรบ้างนะ

ปล. สะกิดใจนิดหน่อยเรื่องการเรียนกับชีวิตหลังเรียนจบของเต็มใจ มันขัดกันนิด ๆ ค่ะ

ตอนแรก ๆ จำได้ว่า เต็มใจกลับมาเรียนสัตวแพทย์ที่ไทยเพราะอยากช่วยงานมูลนิธิของคุณหญิงแม่

พอมาตอนนี้กลับบอกว่า จบแล้วจะย้ายไปอังกฤษทั้งครอบครัว


ใช่แล้วค่ะ ดีใจจังเลยค่ะที่อ่านเจอจุดเล็กๆ น้อยๆ
อยากจะอธิบาย อยากจะสปอย
แต่รินต้องอดทนไว้ค่ะ :hao5:
รอนะคะ รอติดตามไปเรื่อยๆ มีคำตอบแน่นอนค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตกใจกับเทมป์ อยู่ดีๆก็โพล่งออกมา ไม่รำก่อนสักหน่อยเหรอพ่อคุณเอ้ยย อิแม่(ยก) นี่ละจะหัวใจวายไปด้วย

แต่อย่างว่า ว่าที่พ่อตาเป็น(อดีต)คนในเครื่องแบบขนาดนี้ จะมายึกยักเยิ่นเย้อก็คงไม่ใช่ ดับเครื่องชนแบบเทมป์ก็ดูแมนๆดี *ไม่อวยลูกแล้วจะอวยใคร*

รอดูชะนีเนเนะแผลงฤทธิ์ คงกะมาป่วนเต็มที่อ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ทะเลพัทยาน่าจะคลื่นลมแรง

เมื่อกลับถึงกทม. น่าจะเจอพายุกลางเมือง

ปล. รอเฉลยอย่างคุณว่า

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
กองทัพสู้ๆ มาดูว่าฝั่งไหนจะร้ายกว่ากัน กลัวใจแม่กองกัพ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อะโห ปัญหากระจุกกระจิกเต็มไปหมด ทั้งชะนี ทั้งผู้ใหญ่ สู้ๆ นะเทมป์เต็มใจ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ลุ้นไปอีกกกกกับครอบครัวเต็ม :katai4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไม่มีการอารัมภบทใดๆเลยนะกองทัพ

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยยยยยยย ตกใจหมดลุ้นไปด้วยเลย

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยอมรับค่ะว่าเหงื่อแตกพลั่กตามกองทัพไปด้วยเลย  :katai1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ตอนนี้สะเทือนใจมาก

เสียดายเคาหยก ไม่มีคนกิน 55

ทำไมแม่ของเทมป์ถึงไม่ชอบบ้านเต็มนะ หรือจะเกี่ยวข้องกับสะใภ้คนแรกที่หายตัวไป

ออฟไลน์ Fiasarinya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลำไยเนเนะ ลำไยพี่นาย ลำไยคุณแม่กองทัพ เขี่ยออกไปได้ไหม 55555555555
อะไรนักหนาา จะมาสร้างดราม่าหรอ ไม่เอานะ!!!

ตอนนี้กำลังไปได้สวยเลย ทัพก็แมนๆ บอกคุณพ่อคุณแม่เต็มแบบไม่กลัวอะไรเลย
สมกับเป็นว่าที่ลูกเขยจริงๆค่าาาา  :hao7:

ไปพัทยายังไม่ลุ้นเท่าตอนกลับจากพัทยามาคุยเรื่องทัพกับเต็ม
นี่ลุ้นเผื่อไว้ก่อนเลย กลัวดราม่าโคตรๆๆๆ T_____T

ปล.แต่ชอบที่ทัพเป็นคนตรงๆแบบนี้นะ ชอบมากๆ
แล้วก็ชอบคุณเต็มตอนใส่เสื้อกล้ามมากๆ 55555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ตอนแรกก็ดูหวานชื่นอยู่หรอก เจอแม่กองทัพถึงกับจ๋อยลงหน่อย แต่พอเจอที่บ้านเต็มไป จืดสนิทเลยค่ะ
ดีที่เต็มใจกู้ชีพไว้ทัน กองทัพเลยใจชื้นได้บ้าง

ทำไมสองบ้านนี้ไม่ชอบกันหรอ หรือว่าเต็มใจเกี่ยวอะไรกับคุณรดา

ชอบปู่กับย่ากองทัพ ใครไม่รักหลาน แต่ปู่ย่ารัก
พ่อกองทัพช่วยหันมาดูลูกชายคนเล็กบ้างนะ แม่ไม่โอเคเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รักเรื่องนี้ รักบรรยากาศ รักตัวละครเต็มใจและกองทัพ
รักซัน โบว์ ออม และสีส้ม
กอดนักเขียนแน่นๆ ยังคงรอและติดตามผลงานตลอดนะคะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
สู้ๆ

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มันคืออะไรกันนะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอาล่ะสิ งานนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกยาว,,,

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เจ๊แม่ก็มีควาทรักลูกไม่เท่ากัน รดาคือใคร คนในบ้านเต็มเปล่า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เข้ามาตามอ่านเรื่องนี้ด้วยคน  :L2:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao4: พ่อแม่ทั้งคู่ดูไม่ปลื้มอย่างแรง คุณปู่คุณย่านี้หัวสมัยใหม่สุดๆ :hao3:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 13 ┨






ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรที่พรั่งพร้อมไปทุกอย่างหรอกครับ มีขึ้นก็ต้องมีลง ถ้าไม่เคยผิดมาก่อนก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง และถ้าไม่เจอปัญหาก็จะไม่รู้ว่าทางออกนั้นเป็นยังไง นี่คือสิ่งที่ผมกำลังจะเรียนรู้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรักในแบบที่ตัวเองเลือกจะถูกหรือผิด จะดีหรือไม่ดี แต่ที่แน่ๆ คือเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เราก็ต้องเผชิญ แก้ไข หาทางออกที่ดีที่สุดให้ได้..

หลังจากมื้อเที่ยงจนถึงตอนนี้คุณพ่อก็ยังไม่ยอมคุยกับผมสักคำ แม้แต่คุณแม่เองที่ต่อให้จูบหน้าผากแล้วบอกผมว่า ‘เที่ยวให้สนุกนะลูก’ ผมก็ยังสัมผัสได้ถึงช่องว่างที่ห่างเหินในแววตาและน้ำเสียง และเพราะในหัวของผมมีแต่ความกังวลในเรื่องนี้กิจกรรมบนเวทีตรงหน้าจึงไม่อยู่ในความสนใจของผมสักนิดเดียว จนกระทั่งเมื่อมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ผม เมื่อนั้นจึงได้รู้ว่าขณะนี้ได้ถึงช่วงสุดท้ายของงานแล้ว

แฟนคลับทั้งฮอลล์ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ชายต่างพากันลุกขึ้นปรบมือส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ผมเองก็ลุกขึ้นปรบมือให้กับความสำเร็จของกิจกรรมแฟนมี้ตติ้งในครั้งนี้ด้วย หญิงสาวน่ารักสดใสที่มากความสามารถบนเวทีเผยรอยยิ้มสว่างไสวและเขินอายเล็กน้อยเมื่อยื่นมือไปรับช่อดอกไม้จากตัวแทนผู้สนับสนุนหลักในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

ผมหันไปมองหลานสาวที่ทำท่าฟึดฟัดเล็กน้อยเมื่อต้องจำใจลุกขึ้นปรบมือ ออมหันมามองหน้าผมพร้อมกับกลอกตามองบนและขยับริมฝีปากที่อ่านได้ว่า ‘ตอแหล’ ผมจึงต้องส่งสายตาดุหลานสาว แต่มีเหรอที่ออมจะกลัวเมื่อบนเวทีเขาถ่ายรูปกัน เนเนะยืนเอียงคอไปซบไหล่ร่างสูงอย่างเป็นธรรมชาติออมก็เบะปากแล้วกลอกตาอีกรอบ ‘ดัดจริตอวอร์ดเลยจ้า’ ทำเอาผมต้องส่ายหน้าเบาๆ

ขณะที่ทุกคนกำลังแสดงความยินดี สต๊าฟคนหนึ่งเดินมาเชิญผมและออมไปด้านหลังเวที ซึ่งเมื่อไปถึงผมก็ถูกจู่โจมจากเนเนะทันที หญิงสาวกอดผมไว้ทั้งตัวก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาและพร่ำพูดว่า ‘ไอต๊ะขัตตะ’ ที่แปลว่า ‘คิดถึง’ ไม่หยุดปาก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทักทายเธอกลับ หลานสาวคนสวยก็เบียดตัวเองเข้ามาดึงเนเนะเข้าไปกอดไว้แทน

“เนเนะ โอะ หิซ่ะฉิบุริ”

ออมพูดภาษาญี่ปุ่น ‘ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนเนะ’ โดยดัดเสียงให้เล็กน่ารักคล้ายกับเสียงของคนที่บังคับกอดไว้ เนเนะดูเหวอในตอนแรกแต่เนื่องจากภายในห้องหลังเวทีมีทั้งสปอนเซอร์ ออร์แกไนซ์ และทีมงานกำลังจับจ้องอยู่เธอจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มสดใสได้อย่างแนบเนียน ผมจึงถือโอกาสถอยไปยืนใกล้ๆ ร่างสูง ฝ่ายนั้นหรี่ตาคาดโทษใส่แต่ผมก็ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป

“คุณเต็มใจ คะ?”

เสียงจากคุณเจี๊ยบออร์แกไนซ์คนเก่งดังขึ้นข้างๆ

“ครับ”

แค่ผมหันไปยิ้มแล้วตอบรับว่า ‘ครับ’ คุณเจี๊ยบก็ทำท่าราวกับว่าจะเป็นลมล้มลงไปนอนดิ้นบนพื้น แต่นั่นยังไม่เท่าทีมงานที่อยู่ด้านหลังที่ส่งเสียงกรี๊ดกันลั่นห้องแต่งตัว

“คุณเต็มตัวจริงหล่อมากเลยค่ะ ทั้งหล่อทั้งน่าร๊ากมากกกกก ป้าจะตายๆๆๆ แล้ว”

นี่คือกระแสตอบรับจากป้าเจี๊ยบและทีมงาน แต่ละคนเขินจนหน้าแดงบางคนทำท่ายังกับจะร้องไห้เห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มด้วยความแปลกใจ เพราะนอกจากทีมงาน TJ ของพี่ขวัญ ถ่ายสปอร์ตเปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าของ TJ ตลอดจนถ่ายภาพนิ่งโปรโมทเสื้อผ้าของ TJ แล้วผมก็แทบจะไม่เคยรับงานอื่นเลย อาจจะมีนิตสารขอสัมภาษณ์ลงคอลัมภ์เกี่ยวกับแฟชั่นบ้าง หรือไปดูแฟชั่นโชว์ของดีไซเนอร์ดังๆ กับพี่ขวัญแล้วมีนักข่าวขอสัมภาษณ์บ้าง ที่สำคัญก็คือผมไม่เคยทำงานในเมืองไทยเลย ดังนั้นจึงไม่เคยคิดว่าตัวเองคนมีชื่อเสียงโด่งดังและไม่เคยคิดว่ามีคนจะจำได้ขนาดที่มากรี๊ดกร๊าดแบบนี้

“ถ้าไม่เป็นการรังเกียจ ทางพี่จะขอถ่ายรูปคุณเต็มใจกับทีมงานเป็นที่ระลึกสักรูปสองรูปได้มั๊ยคะ?”

“ด้วยความยินดีครับ”

ผมยิ้มขำ ในขณะที่เสียงกรี๊ดดีใจลั่นสนั่นห้อง ทีมงานพากันกรูเข้ามาตั้งแถวล้อมหน้าล้อมหลังผมไว้ แต่ก็ยังให้เกียรติด้วยการไม่มีใครเบียดประชิดตัวผมเลยสักคน หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะมีแขนแข็งแรงของผู้ชายที่ยืนหน้านิ่งโอบเอวผมไว้อย่างหวงแหน ผู้คนเหล่านั้นจึงเว้นระยะอย่างมีมารยาท เมื่อชัตเตอร์ระรัวไปหลายครั้ง ทุกคนก็กล่าวขอบคุณผมอย่างซาบซึ้ง

“เพิ่งรู้นะคะเนี่ยว่าคุณเต็มใจเป็นเพื่อนกับคุณเนเนะด้วย”

หลังจากพี่เจี๊ยบเริ่มควบคุมสติได้ก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ครับ.. เราเป็นเพื่อนกันครับ”

ตอบตามความจริง และก็เพิ่งจะทำให้ผมนึกได้ว่าลืมนางเอกของงานตัวจริงไปเลยครับ เนเนะยืนหน้าบึ้งตึงอยู่อีกฝั่งกับออม ไม่ต้องถามนะครับว่าหน้าตาออมจะเริงร่ามากแค่ไหน

“แล้วกับบอสกองทัพล่ะคะ? เป็นเพื่อนด้วยรึเปล่า?”

นัยน์ตาคู่เล็กภายใต้กรอบแว่นส่องแสงระยิบระยับราวกับว่ากำลังคาดหวังในคำตอบ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคำตอบที่คนถามต้องการนั่นคืออะไร ผมเงยหน้ามองใบหน้าคมเข้มก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้พี่เจี๊ยบ

“แฟนครับ”

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดังยิ่งกว่ารอบเมื่อครู่เสียอีกทำเอาผมกับเทมป์สะดุ้งตกใจกันไม่น้อย ไม่ใช่กรี๊ดรังเกียจนะครับแต่เป็นอารมณ์ประมาณเหมือนโบว์ไปยืนกรี๊ดไอดอลเกาหลีตรงขอบเวทีคอนเสิร์ตไม่มีผิด นี่พวกเขาเป็นอะไรกันไปครับ???



.
.
.
.


   
เสร็จจากงานแฟนมีตติ้งของเนเนะ ทีมงานก็จัดรถพาพวกเราทุกคนไปงานอัพเตอร์ปาร์ตี้ต่อ เนเนะเดินควงแขนบอสกองทัพออกจากงานเพื่อไปขึ้นรถตู้ ซึ่งมีแฟนคลับมากมายยืนรอส่ง เนเนะโบกมือทักทายแฟนคลับและหยุดยืนให้แฟนคลับถ่ายรูปโดยที่ไม่ยอมปล่อยมือจากแขนแข็งแรง จนกระทั่งฝ่ายชายส่งเธอขึ้นไปนั่งบนรถตู้เรียบร้อย และรอให้ทีมงานที่ดูแลดาราสาวขึ้นไปนั่งประจำที่ บอสใหญ่ของงานก็ปิดประตูรถพร้อมกับออกคำสั่งให้คนขับรถออกรถในทันที จากนั้นขาเรียวยาวก็รีบวิ่งมาที่รถที่ผมกับออมนั่งอยู่ก่อนจะขึ้นมานั่งบนเบาะ

“ร้ายนะย่ะ กล้าทำซุปตาร์เนเนะเสียหน้า”

ออมยกมือป้องปากแล้วหัวเราะขำจนตัวงอ

“ในรถมีคุณเจี๊ยบดูแลอยู่แล้ว”

เสียงทุ้มอธิบาย ด้วยเพราะในรถมีทีมงานระดับหัวหน้าและเป็นผู้หญิงอยู่หลายคนเทมป์จึงคิดว่าให้เนเนะไปกับทีมงานผู้หญิงน่าจะเหมาะสมกว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยครับ

รถตู้ที่ผมนั่งเป็นรถตู้ส่วนตัวของตระกูลเกียรติไพศาลกิจ ดังนั้นนอกจากคนขับรถและบอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่ก็มีแค่ผม ออม สีส้ม สำหรับสีส้มนั้นถือเป็นกรณีพิเศษครับ แมวเป็นสัตว์ที่เครียดได้ง่ายมาก โดยเฉพาะแมวที่รักเจ้าของมากอย่างสีส้ม ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ผมก็แนะนำให้อีกฝ่ายพาสีส้มไปด้วย ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในงานของเนเนะ สีส้มก็อยู่ในรถได้ไม่มีปัญหาเพราะมีคนขับรถคอยดูแลอยู่ด้วย ผมเอาเบาะนอนของสีส้มวางไว้ตรงพื้นรถ ถาดอาหารและกะบะทรายขนาดเล็กแบบเก็บกลิ่นสอดไว้ใต้เบาะแค่นี้ก็สามารถพาสีส้มไปเที่ยวกับเราได้แล้วล่ะครับ อ่อ ลืมบอกไปว่าเนเนะและทีมงานนอนโรงแรมแต่พวกเรานอนบ้านพักตากอากาศซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากจึงไม่ต้องห่วงเรื่องสีส้มเลยครับ

ออกจากลานจอดรถก็แวะไปรับซัน โบว์และน้องดักแด้ที่ยืนรออยู่ที่จุดนัดเรียบร้อยแล้ว โบว์รู้ใจออมเป็นอย่างดี ด้วยการผลักเพื่อนชายไปนั่งข้างออม เมื่อทุกคนพร้อมการเดินทางก็เริ่มขึ้น ซึ่งเราจะต้องไปถึงปลายทางก่อนรถของเนเนะ แม้ว่าทางโน้นจะมีพี่นายพลคอยรอรับและดูแลความเรียบร้อยไว้ให้แล้วแต่ถึงอย่างนั้นความรับผิดชอบก็ยังคงเป็นของเทมป์ ดังนั้นเจ้าตัวจึงให้รถของทีมงานชะลอความเร็วถ่วงเวลาไว้ให้ไปถึงหลังพวกเราประมาณ 1 ชั่วโมง

รถวิ่งมาได้ระยะหนึ่ง เสียงพูดคุยในรถของออมกับโบว์เงียบลง โบว์หลับคอพับไปแล้ว ส่วนออมก็เปลี่ยนเป็นชวนคนที่นั่งข้างๆ คุยแทน แม้ซันจะเป็นผู้ชายที่คุยไม่ค่อยเก่งแต่เป็นผู้ฟังที่ดีมาก จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะได้ยินแค่เสียงออมเป็นส่วนใหญ่และได้ยินคู่สนทนาตอบรับแค่ ‘อืม’ อยู่ตลอด

“ขอบคุณนะ”

จู่ๆ คนที่นั่งหลับตาพิงเบาะก็กระซิบข้างหู ผมคิดว่าอีกฝ่ายจะหลับไปแล้วเสียอีก วันนี้เจอปัญหาใหญ่จากคุณพ่อคุณแม่ของผมแล้วยังต้องมาปั้นหน้าโชว์สื่ออีก คงจะเหนื่อยน่าดู

“เรื่อง?”

ถามกลับพร้อมกับช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้อีก 1 เม็ด เจ้าตัวจะได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น เปลือกตาคู่คมลืมขึ้นแล้วมองผม เราสบตากัน ข้อนิ้วเกลี่ยผิวแก้มของผมเบาๆ

“ทุกเรื่อง”

คำตอบที่ได้รับทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา ความหนักอึ้งในหัวใจที่อัดแน่นมาตลอดบ่ายจนถึงตอนนี้เหมือนจะถูกแบ่งเบาออกไปเสียเกินครึ่ง จู่ๆ สีส้มก็กระโดดขึ้นมานอนบนตักของผม มันใช้หัวไถไปมาตรงหน้าท้องก่อนจะขดตัวนอน ผมลูบขนนุ่มของแมวน้อย มองออกไปด้านนอก แล้วซบพิงหัวลงกับไหล่กว้าง


.
.
.
.



ตั้งแต่เรียนปริญญาตรีผมก็แทบจะไม่มีเวลามาพักผ่อนเลย ถ้าหากมองข้ามเรื่องเนเนะ ผมจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พักผ่อน งานอัพเตอร์ปาร์ตี้จัดขึ้นบริเวณสระน้ำที่เปิดโล่งมองเห็นท้องทะเลของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย แม้แต่เจ้าของงานตัวจริงอย่างพี่นายพลก็ยืนเด่นรออยู่กลางงานแล้ว

เราทุกคนทักทายพี่นายพลพอเป็นพิธีตามมารยาทก่อนจะแยกตัวออกมาหามุมเงียบๆ ทิ้งให้พี่น้องจัดการงานกันไป ถ้าหากลองทบทวนว่าระหว่างผมกับเนเนะที่ผ่านมาเรียกว่ารักรึเปล่านะ? เมื่อก่อนผมไม่รู้หรอกว่าคำว่าความรักจริงๆ แล้วคืออะไร จะคบใครสักคนเป็นแฟนก็แค่ถูกใจ พอใจ และมีเซ็กส์ที่ดี แค่ 3 ข้อนี้ผมก็โอเคแล้ว แต่ตั้งแต่ได้เจอผู้ชายที่ชื่อกองทัพ กำแพงที่ผมคิดว่าสูงและแข็งแกร่งที่ปิดล้อมหัวใจก็ได้พังทลายลง

‘จุ๊บ’

ริมฝีปากอวบอิ่มแนบลงบนแก้มของผม เนเนะมาถึงก็พุ่งตัวเข้ามาหาผมเป็นคนแรก ก่อนออกจากกรุงเทพฯ เนเนะเกาะติดเทมป์ไม่ยอมปล่อย แต่พอมาถึงพัทยาเนเนะไม่ห่างจากผมแม้แต่วินาทีเดียว ถึงอย่างนั้นตัวหลักของงานคือเนเนะ เธอคือราชินีของงานและเธอก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ

“คุณดื่มมากไปแล้วนะ”

ผมบอกคนที่เดินอยู่ข้างๆ หญิงสาวเงยหน้ามองผมด้วยสายตาเชื่อมหวาน งานปาร์ตี้จบแล้ว เนเนะชวนผมออกมาเดินเล่นตรงชายหาดแต่ในมือของหญิงสาวยังคงถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอาไว้ ผมเองก็ดื่มไปเยอะเนื่องจากเห็นว่านานๆ จะได้ผ่อนคลายแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอจะรู้ลิมิตว่าควรหยุดแค่ตรงไหน

“นานิ?”

ดวงตากลมโตเบิกกว้างเล็กน้อย

“ไม่มีใครได้ยินหรอก.. ตรงนี้ไม่มีใคร”

ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อจะได้ลุยงานต่อในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครรู้เรื่องที่ดาราสาวคนสวยพูดและฟังภาษาไทยได้คล่องแคล่วทีเดียว เนเนะหยุดเดินและคลายวงแขนที่ควงผมไว้มาตลอดทางออก หญิงสาวยกขวดขึ้นดื่มของเหลวอีกอึกใหญ่แล้วก็มองหน้าผมด้วยรอยยิ้ม

“คุณเลือกผู้ชายคนนั้นจริงๆ เหรอ?”

“อืม”

“เขาทำให้คุณมีความสุขมากกว่าฉันอย่างนั้นเหรอ?”

“ครับ”

คำตอบที่ตรงไปตรงมาของผมทำให้คนฟังแสยะยิ้ม

“คุณก็รู้ว่าระหว่างเราไม่ใช่ความรัก และคุณก็นอกใจผมมาตลอดไม่ใช่รึไง?”

เรื่องรสนิยมทางเพศของเนเนะผมเองรู้ดีกว่าใคร เช่นเดียวกับที่ผมรู้ว่าในขณะที่เธอบอกว่าผมเป็นแฟนนั้นเธอเองก็ได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับใครอีกหลายคน และเธอก็เป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ เพราะการที่ผมขอเลิกรากับเธอแล้วไปมีแฟนใหม่เป็นผู้ชายมันคงทำให้เธอเสียหน้ามาก

“ใช่.. ใครจะโง่ภักดีกับแฟนที่ปีหนึ่งได้เจอกันแค่สิบวันได้เล่า”

นั่นสิครับ.. เนเนะพูดถูก และผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เนเนะกระดกเครื่องดื่มลงคออีกรอบจนหมดขวด ผมจึงรับขวดเปล่ามาถือไว้

“คุณคิดว่าผู้ชายคนนั้นรักคุณจริงๆ นะเหรอ?”

“อืม”

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงมั่นใจขนาดนี้ หรือบางทีมันอาจจะเกิดจากความเชื่อใจก็เป็นไปได้

“ไม่เคยได้ยินรึไงว่าความรักของพวกเกย์หน่ะมีไว้แค่บำบัดความใคร่เท่านั้น”

“เคยได้ยินแค่ว่าถ้าปราศจากความรักมันก็จะเหลือแค่ความใคร่”

ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความโกรธ และแน่นอนว่าเธอสามารถปรับสีหน้ากลับมาน่ารักสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันมั๊ย?”

เธอไม่รอคำตอบจากผม มือบางจับข้อมือผมไว้แล้วฉุดให้เดินตามเธอกลับโรงแรม เราเจอพี่นายพลที่ล็อบบี้ เนเนะหยุดคุยกับอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเองและสายตาของพี่นายพลที่มองผมหลายครั้งหลายคราทำให้ผมสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง เนเนะรับกุญแจห้องพักจากพี่นายพลแล้วเธอก็พาผมมาจนถึงหน้าห้องพักของเธอ เนเนะบอกให้ผมรออยู่หน้าห้องพร้อมกับส่งไอโฟนที่คุ้นตามาให้ผมถือไว้

“รอดูอะไรดีๆ จากตรงนี้นะคะ”

ดวงตาคู่สวยขยิบให้ผมอย่างมีเลศนัย เมื่อเธอเข้าไปในห้องแล้วผมจึงเพิ่งนึกได้ว่าไอโฟนของผมถูกปิดเครื่องเอาไว้ ผมจึงล้วงหยิบไอโฟนขึ้นมาดูก็เจอข้อความและสายที่ไม่ได้รับจากคนๆ เดียวกันนับ 20 สาย ผมรีบกดโทรกลับแต่ทว่าไอโฟนอีกเครื่องที่เนเนะส่งให้เมื่อครู่ก็แผดเสียงร้องขึ้น หัวใจของผมหล่นวูบระหว่างที่เปิดไล่อ่านข้อความ

“สัส! ไอ้โง่เอ้ย!!”

สบถด่าตัวเองพร้อมกับกดเบอร์โทรออกหาซัน

“ซัน ฉันต้องการความช่วยเหลือด่วน!”

บอกสิ่งที่ต้องการให้ซันช่วยโดยไม่รอให้ปลายสายถามกลับว่าเกิดอะไรขึ้น? โชคดีที่ซัน โบว์ ออม และน้องดักแด้ ยังนั่งเล่นกันอยู่ในเลาจ์ของโรงแรม ดังนั้นใช้เวลาไม่นานโบว์กับออมก็มาถึง

“มึงไหวมั๊ยอีจี? หน้ามึงซีดมาก”

“อาเต็มโอเคนะคะ?”

โบว์โอบเอวผมไว้ส่วนออมก็ดึงมือผมไปกุมไว้ ทั้งคู่เป็นห่วงผมมาก แต่ผมกลับเป็นห่วงคนในห้องมากกว่า

“ซันล่ะ?”

“กำลังเจรจากับทางโรงแรมอยู่ มึงใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ตามมา”

ระดับซันผมมั่นใจครับว่าต้องเจรจาสำเร็จ ผมพยักหน้ารับทว่าในใจกลับราวกับมีใครเอาไฟมาสุม ผมไม่น่าโง่หลงกลเนเนะได้เลย มันเป็นความโง่ที่ไม่น่าให้อภัยเลยสักนิด ระหว่างที่กำลังโทษและโกรธตัวเอง ออมกับโบว์ก็ตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า ‘มาแล้ว’ ซันและน้องดักแด้วิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมมาและคีย์การ์ดของห้องตรงหน้า เจ้าหน้าที่มองหน้าผมแล้วค้อมศีรษะให้เล็กน้อยก่อนจะแตะคีย์การ์ดลงไป

 “ขอบคุณมากครับ”

พวกเราขอบคุณเจ้าหน้าที่ของโรงแรม และรอให้ฝ่ายนั้นเดินห่างออกไปก่อนจึงเข้ากันไปด้านใน และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดไม่มีผิด ด้วยความตกใจกับภาพตรงหน้าออมกับโบว์ถึงกับยกมือปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ดของตัวเองไว้ น้องดักแด้เบิกตากว้างสุดชีวิตแล้วรีบเอามือตะปปส่วนกลางลำตัวของตัวเองไว้ ส่วนสุภาพบุรุษอย่างซันรีบหันหลังไม่ขอมองสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ดูท่าว่าคนที่อยู่ในห้องจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีแขกมาเยี่ยมเยือน

หญิงสาวคนหนึ่งเปลือยท่อนล่างกำลังก้มโก้งโค้งอยู่กลางหว่างขาของร่างสูงที่ถูกพันธนาการเอาไว้ทั้งมือและเท้า  หญิงสาวพยายามกลืนกินงูยักษ์ที่นอนสงบนิ่งคอพับคออ่อนเต็มความสามารถ มืออีกข้างของเธอก็กำลังตระเตรียมความพร้อมให้กับส่วนลับของตัวเองอย่างไม่ลดละ ถ้าคำนวณเวลาตั้งแต่เนเนะเข้ามาในห้องนี้ก็นานพอสมควร เนเนะคงใช้ความพยายามเพื่อให้ผมได้เข้ามาเจอภาพบาดตาบาดใจแบบพอดิบพอดีแต่มันดันผิดแผนไปนิดตรงที่ฝ่ายชายที่ดูสะลึมสะลือเหมือนไม่ได้สตินั้นไม่ยอมให้ความร่วมมือเสียที

“หยุดพยายามได้แล้วล่ะเนเนะ มันไม่สำเร็จหรอก”

จากความโกรธผมเปลี่ยนเป็นความสมเพศไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ตวัดตามองผมโดยที่ริมฝีปากยังมีเนื้ออ่อนหยุ่นคาไว้ เธอไม่ได้ตกใจที่เห็นผม แต่เธอตกใจที่มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเพิ่มอีก 3 คนต่างหาก เนเนะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กวาดสายตามองทุกคนอย่างลนลาน แล้วรีบดึงกระโปรงที่รั้งขึ้นไปกองอยู่ที่เอวลงมาปิดท่อนล่างที่เปลือยเอาไว้พร้อมกับจัดเสื้อด้านบนให้ดูเรียบร้อยที่สุด

ผมมองข้ามเนเนะไป แล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ ร่างสูงที่นอนพังพาบอยู่บนเตียง เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมออกทุกเม็ด กางเกงแม้จะยังสวมอยู่แต่เข็มขัดและซิบถูกปลดออกเผยเปลือยช่วงล่าง ผมตบแก้มอีกฝ่ายไม่หนักไม่เบาเพื่อเรียกสติ และดูเหมือนว่าโบว์จะมีสติที่สุดจึงได้วิ่งไปในห้องน้ำแล้วกลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่บิดน้ำพอหมาดเอามาส่งให้ผม

“เทมป์”

ใช้ผ้าขนหนูซับลงบนหน้าที่แดงจัด คิ้วเข้มขมวดแน่น คล้ายว่ากำลังอดทนอดกลั้นกับอะไรบางอย่าง

“เทมป์ตื่นสักทีสิ”

รอบนี้ได้รับเสียงคราง ‘อืม’ ในลำคอตอบกลับ ริมฝีปากบางขยับเหมือนต้องการจะเรียกชื่อผม

“เต็ม.. นี่เต็มเอง.. ตื่นสิเทมป์ ตื่นได้แล้ว”

ขณะที่เรียกอีกฝ่ายไม่หยุด ผมก็วางผ้าในมือแล้วเลื่อนไปจัดการสวมใส่กางเกงที่หลุดลุ่ยให้เรียบร้อย แต่เชื่อมั๊ยครับว่าแค่ปลายนิ้วของผมแตะผ่านส่วนที่หลับไหลด้วยความไม่ตั้งใจ เพียงแค่นั้นเจ้างูยักษ์ก็ผงาดทักทายแบบไม่เกรงใจผมเลยสักนิด

“เต็ม.. อื้ม”

นอกจากหลักฐานทางกายที่ชี้หน้าผมหรา เสียงทุ้มยังครางเรียกชื่อผมอีก ให้ตายเถอะ ไม่ไว้หน้ากันบ้างเลย ผมอายจนไม่กล้าหันไปมองเพื่อนและหลานสาวที่ยืนอยู่ในห้อง แม้จะได้ยินเสียง ‘อุ๊ปส์!!’ จากสองสาวอย่างโบว์กับออมก็ตาม และด้วยความร้อนผ่าวของใบหน้าผมจึงรีบดึงผ้าห่มมาปิดส่วนหน้าอายของอีกฝ่ายไว้แล้วเปลี่ยนไปเป็นแก้เชือกที่มัดไว้ที่ขาให้อีกฝ่ายแทน ก่อนจะหันกลับไปมองทุกคน ซึ่งนอกจากผมจะได้พบกับใบหน้าแดงก่ำและรอยยิ้มสุดฟินของหลานสาวและโบว์แล้ว ผมยังเจอแผ่นหลังกว้างของซันและน้องดักแด้ที่ยืนหันหลังถอยห่างไปอยู่ที่ตรงประตู และเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเนเนะแสดงสีหน้าโกรธขึ้นจนบิดเบี้ยวขนาดนี้

“กูว่ามึงดูแลน้องกองทัพอยู่ที่นี่แหละ ไว้พรุ่งนี้พวกกูแวะมารับตอนสายๆ”

โบว์ออกความเห็นพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกจนผมต้องหรี่ตามอง เพื่อนสาวจึงแกล้งหัวเราะ ‘เหอๆ’ แก้เก้อ

“เดี๋ยวออมดูแลสีส้มให้นะคะ อาเต็มไม่ต้องห่วงเลยค่ะ”

หลานสาวฉีกยิ้มหวาน พวงแก้มแดงยังกับลูกมะเขือเทศสุก น้องดักแด้หันไปกระตุกแขนซันที่ยืนหันหลังเป็นพระอิฐพระปูน ซันที่ยืนเงียบมาตลอดจึงเอ่ยขึ้นโดยที่ยังคงยืนหันหลังอยู่แบบนั้น

“อ่อ.. คุณ.. ผู้หญิง.. เชิญครับ”

ซันพูด แต่คนผายมือเชิญและรีบเปิดประตูให้คือน้องดักแด้

“อาซันกับดักแด้ออกไปรอด้านนอกเลยค่ะ เดี๋ยวออมจัดการเอง”

ออมเดินกระแทกเท้าปึงปังไปผลักให้ผู้ชาย 2 คน ที่ยืนอยู่ตรงประตูออกไปด้านนอก ผมได้ยินเสียงออมยังบอกให้ทั้งคู่ไปยืนไกลๆ อีก แล้วจึงหันมาตวัดตามองเนเนะ

“โคชิระ เอะ โดโซะ”

ใบหน้าสวยระบายรอยยิ้มพูดว่า ‘เชิญทางนี้ค่ะ’ ด้วยเสียงหวานเจี๊ยบจนโบว์ทำท่าขนลุก คนที่ถูกเชิญยืดอกเชิดหน้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และจังหวะที่เนเนะกำลังจะเดินไปถึงประตู โบว์ก็พูดขึ้นเสียงดัง

“เฮ้ๆๆ ยู.. ชากัมมันโย๋ พ พันยี ยี๊”

โบว์กวักมือเรียกเนเนะด้วยหลากหลายภาษาที่พอจะนึกออกทั้งอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น แต่ความหมายโดยรวมก็คือ ‘เฮ้ คุณ รอก่อน ก กางเกงใน ยี๊’ แล้วชี้ไปที่อันเดอร์แวร์ลายลูกไม้ที่กองอยู่บนพื้น

“อุไซโน๊ะ!!”

เนเนะตวาดแหวกลับใส่หน้าโบว์ว่า ‘ไม่ต้องมายุ่ง’ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกจากห้องไป โบว์หน้าเหวอได้แต่ชี้หน้าตัวเองแล้วกระพริบตาปริบๆ หันไปถามออมว่าเนเนะพูดว่าอะไร คนถูกถามส่ายหน้าไม่บอกด้วยคงกลัวว่าถ้าโบว์รู้ความหมายคงได้กระชากหัวเนเนะมาตบเป็นแน่ สุดท้ายโบว์ก็ทนความอุจาดตาไม่ไหวจึงเอาทิชชู่มาหยิบอันเดอร์แวร์เจ้าปัญหาไปใส่ถังขยะเสียเอง จากนั้นบานประตูก็ถูกปิดลงเหลือแค่ผมกับคนที่นอนร้องครางเรียกชื่อผมซ้ำไปซ้ำมาอยู่บนเตียง

เมื่อเหลือกันอยู่แค่ 2 คน ผมก็พิจารณาอาการของคนที่แทบจะไม่ได้สติ ซึ่งแค่เห็นผมก็รู้ในทันทีว่าเนเนะใช้ยาผสมแอลกอลฮอล์ให้อีกฝ่ายดื่ม ลำพังถ้าแค่เนเนะส่งให้ดื่มด้วยตัวเองรับรองว่าคนตรงหน้าที่ฉลาดเฉลียวคงจะรู้ทันและไม่ตกหลุมเป็นแน่แต่คงมีใครที่เจ้าตัวไว้ใจรวมหัวกับเนเนะและเป็นคนหลอกให้ดื่มเสียมากกว่า ถึงอย่างนั้นก็ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าตัวสามารถอดทนอดกลั้นต่อต้านยาปลุกเซ็กส์ได้ยังไงทั้งที่เนเนะยอมลงทุนปรนเปรอขนาดนั้น

“ถ้าเทมป์ไม่ตื่นเต็มจะไม่ช่วยนะ”

บอกขณะที่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดใบหน้าคม ไหนๆ ก็ฝืนร่างกายได้ขนาดนี้แล้วกะอีแค่ลืมตาขึ้นมามองหน้ากันสักนิดจะเป็นไรไป ผมรออยู่อีกอึดใจเปลือกตาก็เปิดเผยดวงตาคู่คมที่เชื่อมหวานและเว้าวอน

“เต็ม.. อื้มมม.. เต็ม”

“จำไว้นะ.. เต็มไม่ชอบเอสเอ็ม ไม่ชอบของเล่น ไม่ชอบใช้ยา และไม่ชอบความรุนแรง”

ผมบอกพร้อมกับช่วยแก้พันธนาการตรงข้อมือ

“เต็ม.. เต็มใจ”

ทันทีที่ร่างกายได้รับอิสระภาพร่างของผมก็ถูกดึงลงไปไว้ในอ้อมกอดแนบแน่นเสียจนหายในแทบไม่ออก

“ก็อยู่นี่ไง”

“ขอโทษ”

ผมเงยหน้ามองใบหน้าคมเข้ม น้ำตาหยดหนึ่งร่วงไหลจากหางตา ผมยกมือขึ้นเช็ดให้แล้วจูบซับตรงหน้าผาก ร่างกายของอีกฝ่ายมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติคงเพราะฤทธิ์ยา

“ไม่ต้องขอโทษหรอก.. เทมป์ยังไม่ได้พลาดทำอะไรลงไป”

เพิ่งเคยเจอคนแรกนี่แหละครับที่ใจแข็งและอึดสุดยอดไม่พ่ายแพ้ต่อฤทธิ์ยาและแรงยั่วยุกระตุ้นใดๆ ดวงตาคู่คมเบิกกว้างเล็กน้อยทั้งที่คิ้วเข้มยังคงขมวดมุ่น แต่หลังจากที่ผมพยักหน้ายืนยันว่าเจ้าตัวยังไม่เสร็จกิจใดๆ ไม่ใช่สิเรียกได้ว่า 'นกกระจอกไม่ขัน' แบบนี้ถูกมั๊ย?

ริมฝีปากบางก็กระตุกยิ้มร้ายแล้วดึงผมไปบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักหน่วง ไม่ต้องถามนะครับว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เสื้อผ้าผมหลุดไปตอนไหนผมยังไม่รู้ตัวเลย เจลก็ไม่มี ถุงยางก็ไม่ได้ใช้ ผมต้องกัดริมฝีปากจนระบมและกรีดร้องจนแสบคอกว่าจะผ่านไปได้แต่ละครั้ง เราทะยานสู่จุดสูงสุดครั้งแล้วครั้งเล่าจนผมสลบไปถึง 2 รอบกว่าฤทธิ์ยาจะเบาบางลง กว่าผมจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นด้วยสภาพร่างกายที่ปวดร้าวทุกรูขุมขนเวลาก็ล่วงเข้าสู่เที่ยงของอีกวันไปแล้ว




.
.
.
.
.
.


TBC




:pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2017 20:07:29 โดย RIRIN »

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
นังเนเนะ  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด