█ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36  (อ่าน 232390 ครั้ง)

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชักอยากจะรู้แล้วแฮะ ซับซ้อนมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :katai5:มารอ

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 24 ┨







หลังจากงานโฆษณาชิ้นแรกในชีวิตของผมผ่านไปได้ด้วยดี ผมก็กลับมาลุยเรื่องเรียนแบบเต็มที่ เต็มเองก็ทั้งเรียน ทั้งออกค่าย ในหนึ่งอาทิตย์เราแทบจะไม่ได้เจอกันด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องเซ็กส์นี่แทบจะมองข้ามผ่านไปได้เลยครับ แค่ได้นอนกอดกันเฉยๆ บนเตียงนอนและมีลูกชายอย่างสีส้มมาซุกตัวหลับปุ๋ยอยู่ด้วยแค่นั้นก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่มีความสุขมากแล้วสำหรับเรา

เราทั้งคู่มุ่งมั่นโฟกัสแค่เรื่องเรียนอย่างเดียวจนเผลอแป๊ปเดียวก็กลายเป็นรุ่นพี่ปีสุดท้าย การเรียนในปี 4 ของผมจะต้องทำโปรเจคโครงงานสร้างโฆษณา 1 ชิ้น และจะต้องฝึกงานลงสนามจริงอีกด้วย ส่วนสัตวแพทย์ปีสุดท้ายจะต้องออกฝึกงานนอกสถานที่ที่เข้มงวดมากกว่าตอนอยู่ปี 5 ซึ่งเทอมแรกเต็มจะต้องไปประจำอยู่ที่ศูนย์ฝึกสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ทั้งเทอม จะได้กลับเข้ามาฝึกที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กของมหาวิทยาลัยอีกครั้งก็เทอม 2 พร้อมกับทำรายงานเตรียมจบ นี่ถ้าคู่รักคู่ไหนไม่รักจริงหวังแต่งคงได้มีทะเลาะและเลิกกันแน่นอน

เราทั้งคู่ตัดสินใจออกจากหอพักแล้วกลับไปอยู่บ้านเพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยผมมีหน้าที่เก็บข้าวของในหอพักทั้งหมด ถ้าถามว่ารู้สึกใจหายมั๊ย? ก็ตอบตามตรงว่ามาก เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาผมกับเต็มอาศัยอยู่ในห้องนี้ด้วยกันเหมือนเป็นผัวเมียกันจริงๆ แถมยังมีสีส้มคอยเติมเต็มให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น แต่จะว่าไปผมกับเต็มก็ไม่เคยทะเลาะกันเลยนะครับ จะมีก็แค่งอนกันนิดๆ หน่อยๆ เอาให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ

เก็บข้าวของเสร็จก็จัดการเรื่องเอกสารคืนห้องหอพัก กว่าจะครบทุกขั้นตอนก็เกือบ 6 โมงเย็น ผมกดเบอร์โทรออกหาเต็มเพราะคิดว่าตอนนี้คงจะเป็นช่วงพัก แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย กดโทรออกจนเริ่มหงุดหงิด ผมจึงตัดสินใจขับรถไปให้ถึงโรงพยาบาลสัตว์เลยจะดีกว่า

ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดหมาย โรงพยาบาลสัตว์ที่นี่เปิดให้บริการดูแลและทำการรักษาสัตว์ตั้งแต่หมู มา กา ไก่ ตลอดไปจนถึงช้าง ม้า วัว ควาย เลยทีเดียว ก็เข้าใจนะครับว่าอีกฝ่ายอาจจะงานยุ่ง แต่แค่จะส่งข้อความกลับบอกผมสักนิดบ้างไม่ได้รึไง นี่ก็ไม่ได้เจอหน้ากันมาจะครึ่งเดือนแล้วนะ ต่อให้วีดีโอคอลคุยกันทุกวันก็ไม่เหมือนเจอกันจริงๆ หรอก ผมจะลงแดงตายเพราะความคิดถึงอยู่แล้วเนี่ยไม่เข้าใจกันบ้างรึไง?

“สีส้ม พ่อจะนับหนึ่งถึงพันละนะ”
   
หันไปมองหน้าลูกชายสุดที่รักที่นอนหงายท้องครองพื้นที่เบาะหลังอย่างสบายใจ ดวงตากลมๆ มองหน้าผมแล้วร้อง ‘แอ๊ว’ เบาๆ อย่างเกียจคร้าน ผมยักคิ้วให้ลูกชายหนึ่งครั้งก่อนจะเริ่มนับเลขอย่างจริงจัง ถ้าครบพันแล้วยังไม่รับสายอีกผมบุกจริงๆ นะครับที่รัก และระหว่างที่ผมกำลังนับเลขได้แค่หลักร้อยนิดๆ ผมก็เห็นเงาของใครคนหนึ่งที่ผมรู้จักเป็นอย่างดีสะท้อนอยู่ในกระจกรถ
   
“คุณแม่?”
   
งานนี้ไม่ต้องนับถึงพันแล้วละมั้ง ผมลดกระจกลงแล้วชะโงกหน้าออกไปมองให้แน่ใจอีกครั้ง และก็ไม่ผิดแน่นอนครับ คุณแม่ของผมนั่งอยู่ในรถยุโรปที่จอดเทียบฟุตบาทเยื้องทางเข้าลานจอดรถนิดหน่อย ท่านลดกระจกลงทั้งหมดเพื่อจะคุยกับใครอีกคนที่ยืนอยู่ชิดประตูรถ

แน่นอนว่าคำถามที่เกิดขึ้นในใจก็คือ ‘คุณแม่มาทำอะไรที่นี่?’ หมาแมวสักตัวคุณแม่ก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยง อย่าบอกนะว่าเป็นเหมือนในละครน้ำเน่าที่แม่ผัวตามมาราวีลูกสะใภ้? มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดเพราะคนอย่างคุณนายวิริยาที่รักษาภาพลักษณ์ ชื่อเสียงและหน้าตาของตัวเองเป็นอันดับหนึ่งไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นหรอกครับ อีกอย่างผมกับเต็มเราก็หมั้นหมายและคบหากันมาก็เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ต่อให้คุณแม่จะไม่ชอบเต็มจริงๆ แต่ท่านก็ไม่เคยก้าวก่ายหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องของพวกเราเลยสักนิด จะมีบ้างที่บ่นก่นด่าใส่ผมไปตามประสา เราก็แค่อย่าเอามันมาใส่ใจก็พอ

ผู้ชายที่อยู่กับคุณแม่เป็นใครนั้นผมไม่รู้จักมักคุ้น จากมุมที่ผมมองอยู่เห็นเพียงด้านหลังเท่านั้น แต่รู้ว่าผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นมีร่างสูงใหญ่ สวมแจคเก็ตสีเข้ม หมวกแก๊ปและแว่นดำทั้งๆ ที่เป็นช่วงกลางคืน

“ใคร?”

เพื่อให้ความสงสัยหยุดลง ผมจึงตัดสินใจจะลงจากรถเพื่อเดินไปหาคุณแม่ แต่ยังไม่ทันจะได้ปลดล็อคประตูใครอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้น ทำเอาคิ้วของผมขมวดแทบจะทันที คนมาใหม่ยกมือไหว้คุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็รับไหว้ด้วยรอยยิ้มและพูดคุยกับคนทั้งคู่ต่ออีกครู่หนึ่งก่อนที่คุณแม่จะปรับกระจกขึ้นทั้งหมดแล้วรถยุโรปหรูของตระกูลก็ขับออกไป

“คุณนายวิริยารู้จักกับหลานรหัสของเต็มด้วยเหรอเนี่ย?”

สะดุ้งสิครับ ขนาดสีส้มยังสะดุ้งเลยที่จู่ๆ พ่ออีกคนก็โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมมองใบหน้าของคนรักเพื่อดึงสติครู่หนึ่ง ฝ่ายนั้นหัวเราะเบาๆ พร้อมกับโน้มใบหน้ายื่นมาจนแทบจะชนปลายจมูกของผม

“สีส้มคิดถึงพ่อเต็มมั๊ยครับ?”

“คิดถึงม๊ากมากฮัฟ”

เสียงเล็กเสียงน้อยที่ตอบออกไปไม่ใช่สีส้มนะครับ แต่เป็นผมนี่แหละที่ดัดให้เป็นเสียงของลูกชาย ทำเอาพ่ออีกคนบุ้ยปากแล้วกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย โมเม้นนี้น่ารักฉิบหายเลยครับ

“พ่อเต็มก็คิดถึงสีส้มน๊า”

พูดจบเจ้าตัวก็แตะปลายจมูกกับลูกชาย 2-3 ครั้งให้รู้ว่าคิดถึงจริงๆ ผมก็เอาบ้างสิครับ แก้มใสอยู่ตรงปลายจมูกแค่นี้ถ้าไม่หอมจูบลูบคลำให้หายคิดถึงบ้างก็ไม่ใช่ผมแล้วล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องรอนาน ริมฝีปากนุ่มก็ประทับบดคลึงตามห้วงความคิดถึงที่มีต่อกันอย่างดูดดื่มตรงลานจอดรถโดยที่คนหนึ่งนั่งในรถอีกคนยืนอยู่นอกรถและมีประตูรถกั้นกลางแบบนี้แหละ จูบกันจนกระทั่งแทบขาดอากาศหายใจกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว

เมื่อลมหายใจของเราทั้งคู่เข้าสู่สภาวะปกติผมก็เปิดประตูรถรวบเอวบางเข้ากอดไว้ทั้งตัว

“รู้ได้ยังไงว่าเทมป์อยู่รออยู่ตรงนี้”

“เพิ่งกลับมาจากฟาร์มหน่ะ ลงจากรถก็เห็นแระ”

“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์เลยล่ะ?”

“ออกตรวจวัวในฟาร์มทั้งวันเลย ขากลับหลับในรถตลอดทางด้วย วันนี้เต็มได้กินข้าวแค่มื้อเช้ามื้อเดียวเอง และนี่ก็เพิ่งได้พัก หิวมาก”

ได้ฟังเหตุผลแบบนี้จะให้ผมงี่เง่าใส่ก็ใช่เรื่องครับ จะว่าไปอีกฝ่ายก็ผอมลงกว่าเมื่อก่อนมาก จากที่ตัวเล็กอยู่แล้วกลายเป็นทั้งเล็กและผอมบางลงไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นความหล่อและน่ารักก็ไม่ได้ลดลงเลยสักนิด ยิ่งตอนนี้เจ้าตัวย้อมผมกลับมาเป็นสีดำธรรมชาติก็ยิ่งทำให้ใบหน้าขาวใสดูอ่อนกว่าวัยลงมากโข

“อยากกินอะไรล่ะ?”

“ก๋วยเตี๋ยวแถวหอพักก็ได้”

ผมพยักหน้ารับ แล้วรอให้อีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนรถ เจ้าตัวจับสีส้มมานั่งตักคุยกันกระหนุงกระหนิงด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย แต่พอผมคุยด้วยน้ำเสียงก็ปรับเป็นโหมดปกติ บางครั้งผมก็อิจฉาสีส้มเหมือนกันนะครับ

หอพักของเต็มอยู่ห่างจากโรงพยาบาลพอสมควร ตั้งอยู่หน้าปากซอยติดถนนใหญ่ เต็มบอกว่าพี่โบว์กับพี่ซันก็พักที่นี่ด้วย แต่เจ้าตัวขอแยกกลับก่อนเพราะเห็นผมจอดรถรออยู่ เต็มบอกว่าที่นี่ให้เลี้ยงสัตว์ได้ครับแต่มีข้อแม้ว่าต้องรักษาความสะอาดและไม่สร้างความรบกวนกับคนอื่น ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยล่ะครับ เราสามคนพ่อพ่อและลูกชายจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

ก่อนขึ้นห้องพักก็หาอะไรกินกันก่อนครับ ผมอุ้มสีส้มหย่อนใส่ตะกร้า มือข้างหนึ่งกุมมือเมียอีกข้างก็ถือตะกร้าใส่ลูกชาย เต็มบอกจะกินก๋วยเตี๋ยวผมก็จูงมือคนรักเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ผมเลือกที่จะสั่งต้มเลือดหมูตำลึงกับข้าวสวยให้อีกฝ่ายส่วนตัวเองก็กินก๋วยเตี๋ยวแห้งมากิน

ท่าทางเจ้าตัวจะเหนื่อยมากจริงๆ ขนาดว่าหิวแต่ความเร็วในการกินยังเนิบนาบ  ผมเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรแค่คนรักกินได้แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ นั่งมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก้มหน้าก้มตากินไปสักพักจึงเริ่มชวนคุย

“หลานรหัสของเต็มชื่ออะไรนะ?”

“ณดล”

“แล้วเขามาทำอะไรที่นี่? เพิ่งจะอยู่ปีสี่เองไม่ใช่รึไง?”

ดวงตาคู่เรียวละจากถ้วยข้าวแล้วมองผมเล็กน้อยพร้อมกับอมยิ้ม

“ถ้าไม่อยู่โรงพยาบาลสัตว์แล้วจะให้เด็กสัตวแพทย์ไปอยู่โรงพยาบาลไหนล่ะ?”

ยังมีแรงกวนตีนผมได้ก็คงไม่ต้องห่วงอะไรแล้วล่ะครับ ผมยื่นมือไปหยิกจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว เจ้าตัวยู่หน้าปากยื่นดูแล้วเหมือนเด็กมอปลายไม่มีผิด

“เต็มจะไปรู้ได้ยังไงเล่าว่าเขามาทำอะไร ก็บอกอยู่ว่าวันนี้ลงงานในฟาร์มทั้งวัน”

“อืม”

ถามไปงั้นๆ แหละครับเพราะผมหน่ะเชื่อใจคนรักเสมอ ผมยิ้มแล้วตักลูกชิ้นในถ้วยตัวเองป้อนอีกฝ่าย และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะโทรไปบอกคุณปู่กับคุณย่าว่าคงไม่กลับบ้านสักพักใหญ่อย่างน้อยก็จนกว่าเต็มจะย้ายโรงพยาบาล ส่วนเรื่องฝึกงานที่บริษัทก็จะขับรถไปกลับเอาแทน เพราะผมตั้งใจจะอยู่ดูแลขุนให้เมียมีน้ำมีเนื้อขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย

“คุณแม่ของเทมป์ล่ะ มาทำอะไรที่นี่?”

“นั่นสิ คุณแม่มาทำอะไร?”
   
ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เราสบตากันนิ่งๆ ก่อนจะหลุดขำออกมาพร้อมกัน
   
“คุณแม่รู้จักกับณดลด้วย?”
   
“อืม น่าจะอย่างนั้น”
   
เท่าที่ผมเห็นนะ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ
   
“คุณแม่รู้รึเปล่าว่าเต็มอยู่โรงพยาบาลนี้?”
   
“ไม่น่านะ”
   
เรื่องนี้ผมค่อนข้างจะมั่นใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรคุณแม่ก็ไม่เคยจะสนใจเรื่องของเต็มสักเท่าไหร่ แค่จะถามถึงสักครั้งยังไม่เคยเลยครับ แต่ก็นั่นแหละนะ ผมเองก็สงสัยไม่ต่างจากเต็มหรอกว่าแล้วก็หยิบไอโฟนขึ้นมาเตรียมโทรออกหาคุณแม่สักหน่อย
   
“เทมป์โทรถามแม่เลยดีกว่า”
   
“ไม่ต้องหรอก”
   
มือบางยื่นมาแตะไอโฟนในมือผมเพื่อห้าม ใบหน้าเนียนใสระบายรอยยิ้ม
   
“สั่งนี่ให้เต็มอีกถ้วยสิ”
   
อ่อ.. รีบเก็บไอโฟนแล้วหันไปสั่งต้มเลือดหมูตำลึงให้สุดที่รักอีกถ้วยอย่างไว
   
“คืนนี้ค้างด้วยกันนะ”
   
แก้มใสขึ้นสีระเรื่อจนอยากจะฝังจมูกลงไปสูดดมสักฟอดใหญ่
   
“ให้ค้างแค่คืนเดียว?”
   
คำตอบของผมทำให้คนตรงหน้าเลิกคิ้วแล้วเบ้ปากอมยิ้มเล็กน้อย ต่อให้ไม่พูดผมก็มั่นใจว่าคำตอบจะเป็นยังไง ไม่นานนักต้มเลือดหมูตำลึงถ้วยที่ 2 มาเสิร์ฟ ผมจึงปล่อยให้อีกฝ่ายกินโดยไม่รบกวนส่วนตัวเองก็หันมาเล่นกับสีส้มที่นอนเรียบร้อยอย่างรู้งานอยู่ในตะกร้าแทน


.
.
.
.
.


คืนแรกเราไม่ได้มีเซ็กส์กันเพราะเต็มเหนื่อยและเพลียมาก โรงพยาบาลสัตว์ที่อีกฝ่ายฝึกงานอยู่นี้เป็นโรงพยาบาลปศุสัตว์ที่ให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยง งานบริการรักษาโคนม และงานบริการชันสูตรโรคสุกร รวมทั้งสัตว์ปีก เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ซึ่งนักศึกษาฝึกงานไม่ได้อยู่ประจำที่โรงพยาบาลหรอกครับ เต็มเล่าว่าจะต้องออกไปตรวจสัตว์ในฟาร์มเอกชนทั้งวัน ได้กินและได้พักไม่ตรงเวลาบางวันสัตว์ป่วยเยอะก็แทบไม่ได้พักแถมอาจจะต้องทำงานเกินเวลาไปอีก กลับมาจากฟาร์มก็ต้องมานั่งทำรายงานหรือเรียกว่า ‘เคสจบ’ เพื่อจะได้รวบรวมส่งก่อนจบ

ในเมื่อคืนแรกไม่ได้ ดังนั้นคืนที่ 2 นี่คงไม่ต้องบอกใช่มั๊ยครับว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่กลับมาถึงห้อง เพลงรักของเราบรรเลงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่มาสักพักแล้วจังหวะอันเสียวซ่านก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ง่ายๆ

“อ่ะ อะ”

ดึงหมอนนุ่มมารองสะโพกเล็กไว้ แล้วแยกเรียวขาขาวให้กว้างจากนั้นก็สอดใส่ท่อนเนื้อลงไปในช่องทางสีแดงก่ำที่เบ่งบานและชุ่มไปด้วยน้ำอสุจิของผมจาก 3 รอบที่ผ่านมา

“อ๊ะ ทะ เทมป์”

เสียงครางหวานแหบพร่าเรียกชื่อผมซ้ำไปซ้ำมา ตามความหฤหรรษ์ที่เพิ่มขึ้น ผมซุกไซร้ดูดดึงซอกคอขาวอย่างเอาแต่ใจ แล้วเลื่อนมาขบเม้มติ่งหูนิ่ม จากนั้นกัดขยี้ยอดอกสีสวยที่แข็งขึ้นตามอารมณ์อย่างกับว่ามันคือของหวานชั้นเลิศ ร่างกายของเต็มตอบสนองทุกสัมผัสจากผม

“อืมม เต็ม”

สารภาพว่าผมเสพติดร่างกายของอีกฝ่ายชนิดที่ว่าทำเอาผมตายด้านไปกับเพศตรงข้ามเลยทีเดียว ผมเคยลองทดสอบด้วยการดูหนังผู้ใหญ่คัดสรรเฉพาะนางเอกที่ว่าเด็ดแต่ไม่ว่าจะยังไงน้องชายของผมก็ไม่ตื่นมาทำงาน ตรงกันข้ามแค่ให้ผมนั่งมองเต็มเฉยๆ ฝ่ายนั้นแค่ปลายตาให้นิดหน่อยเท่านั้นลมหายใจของผมก็ติดขัดแล้วล่ะครับ 

“อะ อ่ะ อ่ะ”

เต็มเริ่มครางไม่ได้ศัพท์เมื่อผมกระแทกลึกไปถึงจุดเสียว ความสุขแล่นพล่านผสมผสานความเสียวซ่านรัญจวนแผ่ไปทั่วร่างบาง เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังก้องกลบเสียงธรรมชาติภายนอก อีกฝ่ายเกร็งสะโพกตอบรับทุกจังหวะ

ใบหน้าที่เมื่อนิ่งดูหล่อเหลาและเมื่อยิ้มยิ่งน่ารัก ตอนนี้มีแต่ความเซ็กซี่เย้ายวน ทำให้มั่นใจได้ว่าคนรักกำลังมีความสุขที่ผมมอบให้ ความสุขของเราที่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

“เต็ม อื้มมม เต็มใจ”

เมื่อค้นพบจุดอ่อนของคนรักที่ไวต่อความรู้สึก ผมก็จงใจกระแทกลงแค่จุดนั้น แล้วเพิ่มแรงกระทั้นถี่และดุเดือดมากขึ้น ร่างบางร้องหวีดครางและขยับไหวไปตามแรง มือบางขยุ้มขยำจนผ้าปูที่นอนหลุดลุ่ย ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนท่าทางด้วยการดึงฝ่ายนั้นขึ้นมาอุ้มไว้แล้วพาลงจากเตียง สองขาเรียวเกี่ยวรอบเอวและสองแขนเล็กคว้ากอดรอบคอผมไว้แน่น ผมจับให้แผ่นหลังบางพิงผนังพร้อมกับกระชับสะโพกเล็กจากนั้นก็โถมแรงเข้าเต็มที่พร้อมกับบดขยี้ปิดริมฝีปากที่หวีดร้องครางจนเสียงหลง

ความรื่นรมย์ทำให้ลืมเวลาและความเหนื่อยล้า ท่าทางถูกปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการทางอารมณ์ จังหวะการเคลื่อนไหวหนักหน่วงและต่อเนื่อง สร้างความหฤหรรษ์ให้กับเราทั้งคู่ หัวใจของเราเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน สอดประสานความรู้สึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

“อ๊าา”

ร่างบางกรีดร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับปลดปล่อยความต้องการสูงสุดของตัวเองออกมาจนเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้อง ผมกระแทกรุนแรงอีก 2-3 ครั้งแล้วจึงฉีดพ่นความสุขสมเข้าไปในร่างของคนรัก อย่าถามว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่เพราะผมเองก็ไม่ได้นับเหมือนกัน

ช่องทางอ่อนรับทุกหยาดหยดของผมไว้จนล้นทะลัก ผมล้มตัวลงนอนคร่อมอีกฝ่ายไว้และยังสอดใส่ค้างไว้อยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าผมติดนิสัยลามกชอบสอดค้างให้ร่างกายของเราเชื่อมกันไว้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่ามันอบอุ่น เสียวซ่าน และเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ผมซุกหน้าลงตรงไหปลาร้าสวยพร้อมกอดรัดอีกฝ่ายไว้แน่นฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน ไม่นานนักแก่นกายทรงพลังของผมก็ฟื้นคืนชีพ ร่างบางขยับและเกร็งตัวเล็กน้อยเพื่อเตรียมตั้งรับ ผมจึงสลับเปลี่ยนให้คนรักให้มาขึ้นนั่งอวดเรือนกายอยู่บนร่างของผมแทน

เราสบตากันครู่หนึ่ง แก้มใสขึ้นสีระเรื่อและอมยิ้มกลั้วขำ แล้วใช้มือค้ำยันตรงหน้าท้องของผมไว้เพื่อไม่ให้ความใหญ่โตฝังลึกจนเกินไป ผมลูบไล้ผิวเรียบลื่นที่เต็มไปด้วยเหงื่อและรอยรักอย่างหวงแหน จากนั้นก็จับเข่าทั้ง 2 ข้างให้อ้ากว้างอวดโฉมมังกร หัวมังกรมีสีแดงจัดและชุ่มไปด้วยของเหลว จะว่าไปส่วนกลางลำตัวของเต็มนั้นมีขนาดพอดิบพอดีแต่ถ้าเทียบกับของผมแล้วมังกรตัวนี้ก็กลายเป็นมังกรน้อยไปในทันที

“เต็ม”

เรียกอีกฝ่ายดึงให้ดวงตาคู่สวยมาหยุดสนใจที่ผมแค่จุดเดียว

“หืม?”

“หลังรับปริญญาเราแต่งงานกันเลยได้มั๊ย?”

3 ปีที่หมั้นหมายด้วยกันมาคงจะพอพิสูจน์ความรักของผมได้ แม้ทุกวันนี้เราจะมีอะไรเกินเลยกันจนเรียกได้ว่าเป็น ‘ผัวเมีย’ แต่ผมก็ยังอยากจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้องตามประเพณี อยากอยู่ด้วยกัน ตื่นขึ้นมาก็เจอ หลังเลิกงานก็เจอ เลี้ยงแมวสักตัวหรือสองตัว หรืออาจจะเลี้ยงหมาด้วยก็ได้

คนถูกถามเงียบไป ผมจึงนวดคลึงยอดปลายปากมังกรเพื่อกระตุ้นคำตอบ ร่างบางสั่นเทิ้ม ร้องครางผะแผ่วแล้วจับมือของผมไปกุมไว้แล้วประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกัน

“อย่าเพิ่งดีกว่า”

น้ำเสียงชัดเจนเรียบนิ่งไม่มีสะดุด ความผิดหวังแล่นริ้วอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ และเต็มคงจะอ่านความรู้สึกของผมออก เจ้าตัวจึงระบายรอยยิ้มพร้อมกับขยับสะโพกของตัวเองเนิบนาบ

“ถ้าวันหนึ่ง..เต็มไม่ใช่แบบที่เทมป์รู้จักอย่างตอนนี้ล่ะจะยังอยากอยู่ด้วยกันมั๊ย?”

ดวงตาของเรายังคงสบกัน และผู้คุมเกมส์จงใจที่จะไม่ฟังคำตอบจากผม ฝ่ายนั้นออกแรงบีบรัดแท่งเนื้อของผมจนเสียวสะท้าน

“อื้มม เต็ม”

สะโพกเล็กยังคงขยับช้าๆ นิ้วเรียวหยอกล้อด้วยสะกิดยอดอกของผม

“ถ้าวันหนึ่ง..เต็มเกิดทำอะไรให้ชีวิตของเทมป์เปลี่ยนไป เทมป์จะยังบอกว่ารักเต็มอยู่รึเปล่า?”
   
ผมขอโง่ด้วยการไม่เข้าใจความหมายของคำถาม และขอเลือกที่จะตอบเป็นการกระทำแทน ผมดึงอีกฝ่ายลงมาประกบปิดริมฝีปากช่างพูดนั่น แล้วส่งลิ้นไล้เข้าในโพรงปากเล็กอย่างตะกรุมตะกรามจนแทบจะทำให้ร่างเล็กหมดเรี่ยวแรง จากนั้นจ้วงแทงกระแทกกระทั้นสวนเข้าช่องทางอุ่นนุ่มทั้งเร็ว แรง และลึกถึงจุดกระสันต์หลายครั้งติดกันจนดวงตาคู่เรียวเบิกกว้าง เสียงครางเบาหวิวคล้ายจะขาดใจ ร่างบางเกร็งสั่นระริก หยดน้ำไหลลงอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นก็เปลี่ยนท่าให้อีกฝ่ายลงมานอนคว่ำ ยกสะโพกสูงซุกหน้าลงกับหมอน ผมใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดจ้วงแทงไม่ยั้ง และยกสุดท้ายนี้สิ้นสุดลงใกล้จะตี 3 ผมจูบซับน้ำตาให้ร่างเล็กที่สลบไปทันทีที่ผมปลดปล่อยความสุขสม

วันรุ่งขึ้นไม่ต้องแปลกใจหากร่างบางจะนอนตื่นสายและลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหว อ่อ ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายถามไว้เมื่อคืน ผมจะถือว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นครับ..



.
.
.
.
.



หลังจากเซ็กส์ดุเดือดในวันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่ชีวิตจริงอีกครั้ง ผมต้องเข้าบริษัททุกวันไม่มีเวลาเลิกงานและวันหยุดที่แน่นอน หน้าที่ของผมที่ฝ่ายบุคลากรมอบหมายให้ก็เหมือนกับเด็กฝึกงานทั่วไป ทำตั้งแต่เดินเอกสาร ช่วยงานแบกหามในกองถ่าย ตลอดจนเสิร์ฟน้ำและอาหารให้ทีมงาน ซึ่งคนที่สั่งให้ผมทำงานพวกนี้ไม่ใช่คุณพ่อหรอกนะครับแต่เป็นคุณปู่สุดที่รักของผมนี่แหละ โดยท่านให้เหตุผลว่าการที่จะทำงานบริหารได้เราจะต้องรู้จักงานและบุคลากรขององค์กรให้ดีเสียก่อน เพราะผมยังเด็กและไม่รู้จักใครสักคนในบริษัท แล้วจู่ๆ ก็มาปรากฎตัวรับผิดชอบงานใหญ่ในฐานะลูกชายของเจ้าของบริษัทอย่างครั้งก่อน มันจึงไม่แปลกหรอกครับที่จะโดนแอนตี้จากพนักงาน

ทำงานติดกันมา 2 สัปดาห์เต็ม ก็ได้หยุดเสียที และโชคดียิ่งกว่าที่ผมกับเต็มเราได้หยุดพักพร้อมกัน 3 วันรวดเลย แต่เมื่อคืนเต็มอยู่เคลียงานจนดึกกลับมาถึงหอพักก็เข้าวันใหม่มาหลายชั่วโมง เจ้าตัวอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที ดังนั้นเช้าวันนี้จึงเป็นหน้าที่ผมออกไปหาซื้อของกิน ที่สบายสุดคงจะเป็นแมวอ้วน สีส้มอยู่ที่ไหนก็ได้แค่ให้มีผมกับเต็มอยู่ด้วยก็สบายใจไม่มีอาการเครียด ช่วงกลางวันผมกับเต็มไม่อยู่ก็แค่วางอาหารแล้วทิ้งให้อยู่ในห้องตัวเดียวก็ยังอยู่ได้สบายไม่ต้องกังวล อีกอย่างสีส้มก็มีพ่อเป็นสัตวแพทย์คนเก่งคอยดูแลอยู่ทั้งคนเพราะฉะนั้นเลิกห่วงไปได้เลยครับ

ปกติถ้าเต็มนอนช่วงใกล้สว่างแบบนี้จะตื่นประมาณ 10 โมงเช้า และจะนอนอีกรอบช่วงใกล้เที่ยงตื่นอีกทีก็บ่ายแก่ๆ โน่นเลย ระหว่างที่ผมยืนรอคิวซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋หน้าหอพัก สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นผู้ชายเลยวัยกลางคนผิวหยาบกร้านรูปร่างสูงใหญ่ สวมแจ็คเก็ต หมวกแก๊ปและแว่นดำยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงเสาไฟฟ้าเยื้องทางเข้าหอพัก รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ก็นึกไม่ออก

“โจ๊กใส่ไข่สองถุงกับปาท่องโก๋ได้แล้วค่ะ”

“อ่อ ครับ”
   
ส่งเงินและรับของมาเรียบร้อยจากนั้นก็เดินไปซื้อของกินเพิ่มอีกเล็กน้อย ก่อนจะกลับขึ้นห้อง ผมแตะคีย์การ์ดเข้าหอพักพร้อมกับเหลือบไปมองตรงเสาไฟฟ้าด้านหน้าทางเข้าอีกครั้ง ผู้ชายคนเมื่อครู่หายไปแล้วผมจึงเลิกสนใจ
   
ระบบความปลอดภัยของที่นี่ค่อนข้างดีครับ นอกจากต้องใช้คีย์การ์ดเข้าออกแล้วการใช้ลิฟท์ก็ต้องมีคีย์การ์ดด้วย หอพักมี 10 ชั้น ห้องของเต็มอยู่ชั้น 8 ประตูลิฟท์เปิดออกผมก็เดินเลี้ยวขวาตรงไปห้องพัก และไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญรึเปล่า ผู้ชายคนที่ผมเห็นยืนอยู่ตรงเสาไฟฟ้าเมื่อก่อนหน้านี้กำลังเดินสวนทางกับผม..
   
“..?..”
   
ความรู้สึกบางอย่างแล่นวูบเข้ามาในอก ผมแสร้งเดินต่อโดยทำเป็นไม่สนใจจนกระทั่งถึงหน้าห้องแล้วจึงค่อยเหลือบกลับมามอง ฝ่ายนั้นหายไปแล้วและผมก็เดาได้ว่าเขาคงจะใช้บันไดหนีไฟ ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่ปกติแน่ๆ
   
เข้ามาในห้องเจ้าของห้องยังนอนหลับอยู่บนเตียงโดยมีลูกชายนั่งเลียขนอยู่ข้างๆ ดวงตากลมๆ ของสีส้มหยุดมองที่ผมครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปขะมักเขม้นกับการเสริมหล่อของตัวเองต่อ ผมวางถุงของกินไว้บนโต๊ะแล้วจึงเดินไปเอาตะกร้าผ้าออกไปซักตรงตู้หยอดเหรียญด้านล่างหอพัก กลับขึ้นมาอีกครั้งอีกฝ่ายก็นั่งเล่นกับสีส้มอยู่บนเตียงแล้ว
   
“ทำไมรีบตื่นจังเลย?”
   
เพิ่งจะ 9 โมงเศษเองครับ ได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง
   
“หิว”
   
คนตอบทำปากยื่นเหมือนเด็กไม่มีผิด มันไม่แปลกหรอกครับที่หลายคนจะไม่เชื่อว่าผมอายุน้อยกว่าอีกฝ่าย ผมยิ้มให้กับคนน่ารัก ฝ่ายนั้นจึงอุ้มสีส้มลงจากเตียง แมวอ้วนเดินอุ้ยอ้ายไปกินอาหารในถ้วย ในขณะที่เต็มเดินตรงเข้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ผมจึงรีบเอาผ้าในตะกร้าไปผึ่งลมที่ระเบียงก่อนจะกลับเข้ามาจัดแจงอาหารในถุงลงถ้วย
   
เทโจ๊กใส่ถ้วย และเอาปาท่องโก๋ใส่จาน จากนั้นก็ชงโกโก้ร้อนคนละแก้ว ผมฉีกปาท่องโก๋เป็นชิ้นพอดีคำใส่ในถ้วยโจ๊กของอีกฝ่ายแล้วคนให้เข้ากัน เจ้าตัวเอียงคอทำหน้างง ดูก็รู้ครับว่าตั้งแต่มาอยู่ไทยคงไม่เคยกินอะไรแบบนี้ เพราะมื้อเช้าของบ้านท่านนายพลกับคุณหญิงหยดจะเป็นสารพัดข้าวต้มสูตรชาววัง อีกอย่างเต็มเป็นคนรักสุขภาพพอสมควรอาหารแบบนี้คงไม่เคยอยู่ในสายตา หรือต่อให้เคยกินโจ๊ก ก็จะไม่กินคู่ปาท่องโก๋อย่างแน่นอน
   
“กินให้หมดเลยนะ”
   
ผมบอก อีกฝ่ายก็ตักเข้าปากแล้วระบายรอยยิ้มจนตาหยี นั่นแสดงว่าอร่อยครับ ผมจึงลงมือกินบ้าง
   
“จะย้ายโรงพยาบาลเมื่อไหร่?”
   
“ต้นเดือนหน้า รอบนี้ได้กลับไปอยู่บ้านแล้วล่ะ”
   
ต้นเดือนหน้าก็คือเข้าสู่เทอม 2 นั่นแหละครับ ผมไม่ต้องฝึกงานหนักเหมือนเดิมแต่เน้นทำโครงงานและวิจัยเพื่อเตรียมจบ ส่วนเต็มก็ย้ายไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กซึ่งก็อยู่ที่คณะสัตว์แพทย์ในรั้วมหาวิทยาลัย
   
“มีอะไรรึเปล่า?”
   
ผมส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่เจ้าตัวเอียงคอมองผมตาแป๋ว ผมจึงยื่นมือไปหยิกจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
   
“เทมป์แค่กำลังคิดว่าหลังจากนี้เทมป์จะไปรับไปส่งเต็มดีกว่า”
   
“จากโรงพยาบาลมาหอพักเนี่ยนะ?”
   
“อืม”
   
“เว่อร์ไปมั๊ย? อยู่ใกล้แค่นี้เอง เต็มก็ผู้ชายนะ”
   
คนฟังหัวเราะ และแม้ผมจะยิ้มแต่ในใจของผมไม่ได้ยิ้มตามหรอกนะครับ ผมเลือกที่จะเงียบ ซึ่งอีกฝ่ายรู้ดีว่ายังไงก็คงจะห้ามผมไม่ได้ แล้วเราทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ผมกินโจ๊กจนจะหมดถ้วยแต่ของเต็มเพิ่งจะพร่องไปแค่ครึ่งหนึ่ง ฝ่ายนั้นวางช้อนแล้วเปลี่ยนมาดื่มโกโก้จนหมดแก้ว จากนั้นก็มองหน้าผม
   
“เทมป์กลัวจะมีคนมาทำร้ายเต็มล่ะสิ?”
   
คิ้วของผมขมวดทันทีที่ได้ยินคำถาม เพราะนั่นหมายความว่าเจ้าตัวคงจะรู้สึกมาตลอดว่ามีบางอย่างผิดปกติ
   
“ไม่ต้องกลัวหรอก คนพวกนั้นเขาทำอะไรเต็มไม่ได้หรอกนะ”
   
“จะมั่นใจได้ยังไง?”
   
“ก็เต็มมีเทมป์บอร์ดี้การ์ดทั้งคนนี่นา”
   
“นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ เทมป์เป็นห่วงจริงๆ”
   
น่าโมโหมั๊ยล่ะครับ เรื่องแบบนี้ไม่เคยบอกกันให้รู้แถมยังจะมายิ้มได้อีก
   
“เต็มเองก็ไม่ได้ล้อเล่นเหมือนกัน”
   
ฝ่ายตรงข้ามลุกขึ้นยืน เดินไปกลางห้องหันหน้าออกนอกระเบียงแล้วยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมอ้าปากหาว ผมจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายสวมแค่เสื้อยืดบางๆ กับอันเดอร์แวร์แค่ตัวเดียว ใบหน้าน่ารักหันมามองผม ริมฝีปากระบายยิ้มอ่อนโยน มือบางข้างนึงรั้งชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบ และอีกข้างก็ทำเป็นรูปปืนแล้วยิงตรงมาที่ผม ทุกอย่างรอบตัวและแม้กระทั่งตัวผมเองราวกับถูกสะกดเอาไว้ให้หยุดนิ่ง ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างยากลำบาก
   
“แบ่ง!”
   
ท่ามกลางความเงียบ จู่ๆ เจ้าตัวก็ส่งเสียงคล้ายเสียงปืนยิงใส่มาที่ผม ลมหายใจของผมสะดุดเล็กน้อยจากนั้นก็ค่อยๆ เอามือมาวางแนบไว้ตรงหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ให้ตายเถอะ หัวใจของผมเต้นแรงมากซะจนแทบจะหลุดออกจากอก กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีเงยหน้าขึ้นมาอีกฝ่ายก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้วครับ
   
“เทมป์”
   
คนบนเตียงส่งเสียงเรียกพร้อมกับตบบนเตียงปุๆ ผมยกยิ้มและหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงกดรีโมทนั่งดูทีวีพร้อมกับให้แขนเรียวเล็กยกขึ้นพาดกอดเอวไว้
   
“เย็นนี้กลับบ้านกันนะ”
   
อีกฝ่ายพูดทั้งที่หลับตา ผมปัดปอยผมและเกลี่ยแก้มใสพร้อมกับตอบรับว่า ‘อืม’ ในลำคอ ลูบแผ่นหลังบางเบาๆ จนเจ้าตัวหลับไปอีกรอบ



.
.
.
.
.



TBC.............  : 222222:

ออฟไลน์ 2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมาก  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นี่คิดเลยระว่าอิคุณนายวิริยานี่แหละอยู่เบื้องหลังทั้งหมด หมั่นไส้มาก  :z6:


กองทัพ พ่อคุณจัดแต่ละรอบนี่ไม่เคยขาดทุนเลยนะ  :haun4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 o13 เก่ง

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เต็มมมมมลูกกกกกก  :hao6:

ปมใหม่ หรือ ปมเก่าแต่เปิดประเด็นน่าสนใจเพิ่มกันแน่
คุณวิริยาคะ ช่วยอยู่นิ่งๆ เฉยๆ บ้างก็ได้นะคะ  :beat:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อะไรยังไง งงอีกละ

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :oo1: ยอมใจเต็มใจจริงๆ กองทัพจัดกี่ท่ากี่ยกก็อึดสู้ตลอด


คุณนายวิริยาพากลิ่นตุๆ มาอีกแระ  :katai1:

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ปมยังไม่คลาย...

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รอต่อปายยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ไม่เอาดราม่านะคะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ห่วงเต็มใจเหมือนกันนะครับ,,,

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
มีคนปองร้ายเต็มเหรอเนี่ยยย โอ้ยยย ห่วงๆๆๆ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ลุ้นมากเฉลยเลยเถอะ

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ใครที่คิดจะทำร้ายเต็มใจนี่คิดมาดีแล้วใช่มั๊ย เดี๋ยวๆๆ โดนดีแน่  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เข้าใจนะว่าทำไมกองทัพถึงได้หื่น เพราะเต็มใจมีพลังทำลายล้างสูงมาก เป็นผู้ชายที่ไม่ใช่แค่มีเสน่ห์แต่มีสมองด้วย ชอบบบบ

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เต็มต้องมีอะไรเก็บไว้ในใจโดยที่กองทัพไม่รู้แน่ๆ

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้าใจนะว่าทำไมกองทัพถึงได้หื่น เพราะเต็มใจมีพลังทำลายล้างสูงมาก เป็นผู้ชายที่ไม่ใช่แค่มีเสน่ห์แต่มีสมองด้วย ชอบบบบ


 :hao6: ณ จุดนี้เห็นด้วยมากๆ ค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณนายวิริยา นี่ไม่ยอมวางเฉยสินะ
ติดต่อคนเพื่อหาทางทำร้ายเต็ม

แล้วดูท่าทางมันเข้าใกล้ตัวเต็มมากๆแล้ว
เต็มก็รู้ตัว แต่จะป้องกันตัวยังไง

ที่คุณรดา หายไปก็มาจากมารร้ายวิริยาเป็นต้นเหตุแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใช่อิคุณนายวิริยารึเปล่าที่ส่งคนมาตามเต็ม

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เวลาผ่านไปไวมาก ปี 4 ละ

ไปหาเพราะคิดถึงเนาะ ไม่ได้มีเป้าหมายอย่างอื่นเลย
กองทัพเก็บกด เต็มใจก็เต็มพิกัด จัดเต็มจัดหนักมาก ไม่มียั้งค่ะ

แล้วแม่กองทัพนี่ยังไงคะ หลานรหัสด้วยไปเกี่ยวกันยังไงล่ะ แล้วที่มาป่วนตอนนั้นต้องการจะทำอะไร

เต็มใจรู้ตัวว่ามีคนตามด้วย ไม่รู้ตอนนี้งานจะเข้าใครนะ

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณนายวิริยาต้องการอะไรมาทราบ  :beat:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :mew5: เครียดซิคะ เหมือนมาม่าจะมาเยือน

ออฟไลน์ Kmiew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะดีกว่านี้นะถ้าออมกับกองทัพไม่เคยเป็นแฟนกัน ไม่รู้สิถ้าเป็นเรื่องจริงนี่คงจะยากหน่อยนะแฟนเก่าหลานกับอาของแฟนเก่าที่เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนสนิททั้งที่เคยได้กันแล้ว ละออมก็ยังเชียร์แฟนเก่าตัวเองให้ได้กับอาอีก เห้อเอาเข้าไป ไม่ค่อยเมคเซ้นนะเราว่าถ้าแก้ไขได้จะดีมากเลย แต่ถ้าเป็นบทที่คนเขียนตั้งใจให้มันเป็นเราก็ไม่ว่าอะไรแค่มันจะขัดๆหน่อยละก็เสียอารมณ์ในการอ่านด้วย คือถ้าเป็นแฟนเก่าแบบกุ๊กกิ๊กใสๆกันจะยังไม่ขัดขนาดนี้นะ นี่เล่นบรรยายซะว่าเคยมีอะไรกันนู้นนี่ จุดนี้เราอยากถามมากเลยว่า เพื่อ? ไม่มีความจำเป็นเลยค่ะมีแต่ทำให้เสียอารมณ์ไปปล่าวๆ แต่ก็นะนี่เป็นแค่ความเห็นจากเรานะคะคนอื่นอาจจะรับได้หรือคิดว่าไม่มีอะไรก็ได้ แต่เราแค่อยากแสดงความคิดเห็นตรงนี้นิดนึงเท่านั้นเองค่ะ

ออฟไลน์ r.saranya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นห่วงเต็มใจจังเลยอะ โดนกองทัพใช้งานหนักแล้วยังมาเจออะไรอีกล่ะเนี่ย แผนการของอิคุณวิริยาแน่ๆ เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด