█ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36  (อ่าน 232460 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พี่เต็มรู้ความจริงแล้วจะทำไงต่อ  เข้าใจว่าเสียใจและนอยหนักแต่เต็มน่าจะเป็นคนที่มีสติรู้กว่าใครว่าเรื่องนี้มันคงไม่ใช่แค่ตาเห็น

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: มารอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 27 ┨






ณ โรงพยาบาลสัตว์ของรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ร่างแบบบางยืนนิ่งด้วยดวงตาเหม่อลอยอยู่ตรงนั้นมาร่วม 20 นาที จนมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทักทาย เจ้าตัวถึงกับสะดุ้งและพยายามฝืนยิ้มให้คนที่ทักทาย จากนั้นจึงเดินลงมานั่งตรงโต๊ะม้าหิน

ช่วง 6 โมงเช้าแบบนี้บนถนนคลาคล่ำไปด้วยการจราจรที่ติดขัด แต่ทว่าภายในโรงพยาบาลสัตว์กลับให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป ยิ่งเมื่อใครคนนั้นค่อยๆ แกะปิ่นโตเถาเล็กทีละชั้นออกมาวางเรียงกัน นั่งมองนิ่งๆ ครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยๆ วาดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าซีดเซียว มือบางตักอาหารเข้าปากทีละคำช้าๆ พร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงลงมาอาบแก้ม

“เต็ม...”

ในอกข้างซ้ายของผมมันร้าวระบมจนแทบจะขาดใจ

เต็มใจที่ผมรู้จักเป็นคนเข้มแข็ง ผมแทบจะไม่เคยเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายเลยสักครั้ง เต็มมักจะมองโลกในแง่ดี เข้าใจอะไรง่าย คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลเสมอ เรื่องหึงหวงยิ่งแทบไม่มี ดูภายนอกเหมือนคนถือตัวและหยิ่งแต่เนื้อแท้ของเต็มเป็นคนจิตใจดี หัวใจของเต็มมีแต่ความบริสุทธิจริงใจ ผมจึงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมไม่เคยโกรธเต็ม ไม่เคยคิดจะโกรธแม้แต่น้อย เพราะถ้าหากผมเป็นอีกฝ่าย ผมจะทำมากกว่าให้หัวแตกเลยด้วยซ้ำ แผลตรงหน้าผากเจ็บน้อยกว่าความรู้สึกที่มันแหลกละเอียดเป็นร้อยเป็นพันเท่า

เรื่องราวมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและลุกลามใหญ่โตเสียจนไม่ทันได้ตั้งตัว และผลกระทบที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายเกินกว่าที่ผมจะรับไหว ผมสูญเสียความไว้วางใจทั้งหมดจากทุกคน และตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหัวใจของผมเหมือนถูกสุมอยู่ในกองเพลิง ไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตาแววตากันแสนปวดร้าวของคนที่ผมรักก็ฝังแน่นอยู่ในทุกอณูของความทรมาน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ยอมแกล้งทำเป็นคนโง่เดินเข้าไปตกหลุมพรางนั่นอีก

แสงแดดยามเช้าเริ่มแรงขึ้น ผู้คนเริ่มหนาตา ผมอยากจะหยุดเข็มนาฬิกาลงให้ช้ากว่านี้เพื่อที่จะได้มองอีกฝ่ายได้นานขึ้น แต่นี่คือชีวิตจริงไม่ใช่นิยายและผมต้องยอมรับความจริงกับทุกสิ่งให้ได้ เต็มใจยังนั่งอยู่ที่เดิมและในมือยังคงถือช้อนไว้ ผมรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามที่จะจัดการอาหารตรงหน้าให้หมด แม้ต้องใช้เวลานานสักหน่อยก็ไม่เป็นไร   

‘อีจีอยู่นี่เอง ฉันกับเสี่ยซันตามหาแกทั่วเลย’ ประโยคนั้นดังขึ้นพร้อมกับที่พี่โบว์และพี่ซันเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย คนที่นั่งอยู่ระบายรอยยิ้มบางเบาให้เพื่อน พี่โบว์พูดอะไรอีกหลายประโยคซึ่งผมฟังไม่ชัดหลังจากนั้นก็แย่งช้อนในมือของเพื่อนไปตักข้าวให้แล้วป้อนจนถึงปาก คนถูกป้อนทำหน้าลำบากใจแต่สุดท้ายก็ยอมอ้าปากและอมยิ้ม เพราะจุดสนใจของผมมีแค่คนๆ เดียว จึงไม่ทันสังเกตว่าพี่ซันกำลังมองอยู่ด้วยสายตาตำหนิ ผมก้มหน้าลงมองเท้าของตัวเองอย่างยอมรับผิดแล้วเดินจากมาด้วยหัวใจที่แหลกละเอียดจนแทบไม่มีชิ้นดี

“คุณกองทัพ จะไปไหนต่อมั๊ยครับ?”

น้าอ่ำหันมาถามผมก่อนจะออกรถ ผมหลับตาอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจตอบออกไป

“บ้าน.... คุณพ่อ”

.
.
.
.
.


1 เดือนสุดท้ายของการฝึกงาน ทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดี ปัญหาที่มีก่อนหน้าจู่ๆ ก็ลดน้อยลง พี่ๆ ในบริษัทเริ่มมองผมในแง่ดีขึ้น แต่แล้วจู่ๆ คุณแม่ก็พาเพื่อนสมัยเด็กของผม ‘ซอฮันนี่’ เข้ามาฝึกงานที่บริษัท เธอเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นคนสวยและน่ารักชนิดที่ว่าใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก พูดเก่ง เอาใจเก่ง และยังทำงานเก่งอีกต่างหาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะเผลอใจไปนานแล้ว แต่ตั้งแต่ผมมีเต็มเข้ามาในชีวิต ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอยู่ในสายตาหรือมีอิทธิพลกับผมเลยสักคน และผมยังมั่นใจด้วยซ้ำว่าต่อให้มีหญิงสาวมาแก้ผ้าต่อหน้า น้องชายของผมก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เหมือนคนที่มีความรู้สึกตายด้าน  หากมองในแง่ทางการแพทย์มันอาจจะเป็นความผิดปกติของร่างกาย แต่ถ้ามองในแง่ของความต้องการ ผมเรียกมันว่าการเสพติดร่างกายของคนที่ตัวเองรักอย่างบ้าคลั่งเสียมากกว่า

ผมรู้ว่าคุณแม่ต้องการอะไร และฮันนี่คิดกับผมยังไง ตลอดเวลาผมระวังตัวและเว้นระยะห่างกับเธอมาตลอด ผมปฏิเสธฮันนี่ทุกทางจนเธอไม่พอใจ ผมคิดว่าเธอจะไปฟ้องคุณแม่ให้มาโวยวายใส่ผมเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ แต่ไม่เลยครับ เธอฉลาดเกินกว่านั้นเยอะ..

แผ่นกระดาษมอบหมายให้นักศึกษาฝึกงานทำโปรเจคโฆษณานำเสนอผลงานให้กับบริษัทฯ ถูกส่งถึงมือผมก่อนวันที่เต็มจะย้ายโรงพยาบาลแค่ 2 วัน ระบุเงื่อนไขในการทำโปรเจคเป็นคู่ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทุกคนจับคู่กันครบทั้งหมดจนเหลือแค่ผมกับฮันนี่ ต่อให้โง่แค่ไหนก็คงจะมองออกว่ามันเป็นการจงใจให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ฮันนี่มีไพ่ตายอยู่ในมือตรงที่เธอไม่ใช่นักศึกษาฝึกงานที่ต้องการผลประเมิน ดังนั้นเธอจะทำหรือไม่ทำโปรเจคนี้ก็ได้ ผมเลยไปปรึกษากับหัวหน้าฝ่ายบุคคล และได้คำตอบสั้นๆ มาว่า ‘คุณนายพล’ เป็นคนมอบงานนี้ลงมา ซึ่งถ้าหากจะต่อรองผมก็ต้องไปคุยกับพี่นายเอง เรื่องคุยกับพี่ชายไม่ใช่เรื่องยากแต่ผมกลับคิดว่าทั้งคุณแม่และพี่นายคงกำลังจะทดสอบผมอยู่มากกว่า ถึงยังไงท่านก็เป็นแม่และเป็นพี่ชายของผมคงจะไม่คิดร้ายอะไรกับผมหรอก เมื่อไม่มีทางเลือกผมจึงไปขอร้องฮันนี่ เธอไม่ได้ตอบตกลงในทันที แต่เธอยื่นข้อเสมอมาว่าจนกว่างานโปรเจคจะเสร็จ ผมจะต้องเลิกติดต่อกับเต็ม และทำเหมือนว่าเธอเป็นคู่รักของผมแทน ถ้าผมทำได้เธอก็จะตกลง ผมคิดทบทวนอยู่หลายรอบ งานโปรเจคเป็นแค่โฆษณาสั้นๆ ที่ต้องนำเสนอในรูปแบบภาพนิ่ง ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็คงจะเสร็จ ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วผมก็อยากจะจัดการให้มันเสร็จๆ ไปจะดีกว่า และคิดว่าถ้าอธิบายให้เต็มฟัง อีกฝ่ายก็คงจะเข้าใจ

ใช่แล้วครับ.. ทั้งที่มีละครน้ำเน่าหลายต่อหลายเรื่องเป็นตัวอย่างถึงความโง่ของพระเอก ฉลาดมาได้ทั้งเรื่องแต่มาโง่เอากับแค่เรื่องง่ายๆ ดี แผลที่หน้าผากเจ็บแล้วยังหายแต่แผลที่ใจนับวันจะทวีรุนแรงขึ้นจนผม

ฝ่ารถติดกว่าจะมาถึงบ้านคุณพ่อก็เกือบจะ 9 โมง ผมรู้ว่าวันนี้คุณพ่อไม่เข้าบริษัท ตั้งแต่วันเกิดเรื่องทั้งคุณปู่คุณย่าและคุณพ่อรีบเข้าไปพบและอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ท่านกิตติกับคุณหญิงหยดเข้าใจ ผมเสนอตัวอยากจะไปด้วยแต่พวกท่านก็ห้ามไว้ และจนถึงบัดนี้ทุกอย่างก็ยังเงียบ ผมจึงไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป

“อะไรหอบลูกชายคนเล็กของฉันมาถึงนี่ได้เนี่ย?”

ยกมือไหว้ผู้ให้กำเนิดที่นั่งตะไบเล็บอยู่ในห้องนั่งเล่น

“คุณพ่ออยู่มั๊ยครับ?”

“มาถึงก็ถามหาคุณพ่อ นี่ไม่คิดจะคุยกับแม่หรือกับพี่ชายแกบ้างเลยรึไง?”

ไม่ได้ตอบคำถามของคุณแม่หรอกครับ ผมยืนนิ่งจนคุณแม่ทำตวัดหางตาใส่อย่างไม่พอใจ

“จะมาให้คุณพ่อไปคุยอ้อนวอนบ้านโน้นให้อีกล่ะสิ ดูแผลที่หน้าผากแกซะก่อนนี่เย็บไปสิบกว่าเข็มยังไม่เข็ดอีกเหรอ หรือต้องให้มันเอาปืนมาจ่อหัวยิงก่อนถึงจะรู้สึกว่าไปหลงรักลูกเสือลูกตะเข้ที่ไหนก็ไม่รู้”

สาบานได้ว่าถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่บุพการีผมคงได้ต่อยปากไปนานแล้ว

“เต็มเป็นลูกท่านกิตติกับคุณหญิงหยดครับ”

คนเป็นแม่ส่งเสียง ‘หึ’ ขึ้นจมูก แล้วยกเล็บที่เพิ่งเคลือบสีใหม่ขึ้นมาเป่า

“น่ากลัวเสียว่า.. ยิ่งกว่าลูกเสือลูกตะเข้ อาจจะเป็นลูกที่พ่อแกลืมไข่เอาไว้ก็ได้”

ความสัมพันระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ระหองระแหงกันมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงดึงเอาเต็มเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของเราได้ และอย่าให้ผมเป็นลูกอกตัญญูต่อปากต่อคำกับผู้ให้เนิดเลยครับ ผมจึงเลี่ยงที่จะเดินหนีไปหาคุณพ่อที่ห้องทำงานแทน

“แม่ไปทาบทามหนูฮันนี่ไว้ให้แกแล้ว”

เท้าของผมหยุดชะงักลงแทบจะทันที

“พ่อแกก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เราตกลงกันว่าหลังแกเรียนจบก็จะจัดงานแต่งงานกันทันที”

คุณพ่อเห็นด้วยอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ผมเร่งฝีเท้าไปหาคุณพ่อ ระหว่างทางผมสวนกับพี่นายตรงบันได ผมแค่ยกมือไหว้ไม่มีแม้แต่คำทักทาย

เคาะประตูห้องทำงานของคุณพ่อ แล้วรอฟังเสียงอนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป คุณพ่อไม่ได้มีท่าทีแปลกใจที่เห็นผม ท่านเงยหน้ามองผมเล็กน้อยก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารต่อพร้อมกับพูดว่า ‘นั่งก่อนสิ’ ผมนั่งลงและมองท่านอ่านเอกสารอย่างใจเย็น นานหลายนาทีจนกระทั่งท่านเซ็นต์เอกสารในตอนท้ายเสร็จ ปิดแฟ้ม ถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะ แล้วมองหน้าผม

“ลูกจะเอายังไงต่อเกี่ยวกับน้องเต็ม?”

“ผมจะต้องอธิบายความจริงให้เต็มฟังครับ”

“ท่านกับคุณหญิงคงไม่ยอมง่ายๆ”

“ขอแค่เต็มให้โอกาสผมได้อธิบายเท่านั้นก็พอครับ”

คนเป็นพ่อเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงเปิดลิ้นชักแล้วหยิบของบางอย่างขึ้นมาวางบนโต๊ะและค่อยๆ เลื่อนมันมาตรงหน้าผม ทันทีที่ได้เห็นลมหายใจของผมแทบจะหยุดเต้น ได้แต่ภาวนาให้สิ่งของตรงหน้าเป็นแค่ภาพลวงตา ผมมั่นใจว่าเต็มไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้อย่างแน่นอน เต็มต้องถามหาเหตุผลจากผมก่อนไม่ใช่จู่ๆ จะมาถอนหมั้นกันแบบนี้ ผมไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด
   
“ข่าวที่ออกไปมันรุนแรงกับน้องเต็มมาก พ่อรู้ว่าลูกรักน้องเต็มจริง และน้องเต็มก็รักลูกไม่ต่างกัน แต่เรื่องในครั้งนี้มันรุนแรงมากจริงๆ”
   
เรื่องนี้ผมรู้ดี ถ้าลำพังแค่ผมกับเต็ม 2 คนเราสามารถปรับความเข้าใจกันได้แน่นอน แต่เรื่องเกิดขึ้นกลางที่สาธารณะ มีคนถ่ายคลิปอัพโหลดลงโซเชียลจนเป็นข่าวใหญ่ คนในสังคมรุมกันประณามเต็มอีกทั้งนักเลงคีย์บอร์ดต่างกระหน่ำใส่กันอย่างเมามันส์ ฮันนี่กลายเป็นนางฟ้าในขณะที่เต็มกลายเป็นซาตาน ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด
   
เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้น ผมเงยหน้ามองคุณพ่ออีกครั้ง
   
“หลังจากน้องเต็มเอ็กซ์เทิร์นเสร็จเรียบร้อย พี่สาวเขาจะมารับกลับไปอังกฤษ แล้วท่าน คุณหญิง และน้องออมจะตามไปทีหลัง”
   
“หมายความว่ายังไงครับ?”
   
“ท่านตัดสินใจย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อังกฤษ ทหารรับใช้คนสนิทก็จะตามไปด้วย”
   
“แต่เต็มตั้งใจจะทำงานดูแลมูลนิธิสัตว์ของคุณหญิง”
   
“มูลนิธินั่นพ่อขอซื้อต่อจากคุณหญิงแล้วล่ะ จากนี้ไปคุณหญิงจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อีกแล้ว”
   
“คุณพ่อ...”
   
พูดไม่ออกจริงๆ ครับ ตกลงว่านี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่? ผมคิดมาตลอดว่าคุณพ่อไปพบท่านกิตติกับคุณหญิงเพื่อช่วยผมเสียอีก นี่ผมกำลังถูกคุณพ่อบังเกิดเกล้าหักหลังอย่างนั้นเหรอ?
   
“ลูกโกรธพ่อมั๊ย?”
   
น้ำเสียงของคนเป็นพ่อฟังดูอ่อนโยน ผมไม่ได้โกรธคุณพ่อ แต่ผมรู้สึกผิดหวังอย่างถึงที่สุดมากกว่า.. ผมกำมือบนหน้าตักแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์ที่มันประทุเดือดอยู่ในอก
   
“คุณพ่อเห็นด้วยที่จะให้ผมหมั้นกับฮันนี่?”
   
คนตรงหน้าตอบด้วยการพยักหน้าช้าๆ
   
“คุณพ่อไม่ชอบเต็มเหรอครับ?”
   
“น้องเต็มเป็นเด็กน่ารัก ฉลาด ใครเห็นเป็นต้องรักทุกคน”
   
“แล้วทำไมคุณพ่อยังช่วยถึงหักหลังผมด้วยการผลักดันให้เต็มห่างไปจากผมอีกล่ะครับ?”
   
ท่านมองหน้าผมนิ่งๆ ด้วยแววตาที่ไม่สามารถอ่านความหมายได้ ผ่านไปครู่ใหญ่ท่านจึงเอ่ยคำตอบออกมา
   
“เพราะพ่อไม่อยากจะสูญเสียลูกของพ่อไป”
   
อะไรนะ? นี่คุณพ่อดูละครหลังข่าวกับคุณแม่มากไปรึเปล่า?
   
“ผมไม่เข้าใจ”
   
“ตอนนี้ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ แต่ให้รู้ไว้ว่าพ่อกำลังทำเพื่อลูกของพ่อ”
   
ทำเพื่อผมอย่างนั้นเหรอ? เป็นข้ออ้างที่เชยที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลยล่ะครับ ผมจ้องคุณพ่อกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะครับว่าท่านคิดอะไรอยู่
   
“คุณพ่อกำลังกลัวมากกว่า... เพราะเต็มเหมือนคุณรดามากเกินไปคุณพ่อถึงได้กลัว”
   
คิ้วเข้มของคนตรงหน้าขมวดเล็กน้อย แววตาที่นิ่งเรียบอย่างมั่นคงมาตลอดวูบไหวแม้จะแค่เสี้ยววินาทีแต่ผมก็สังเกตเห็นได้
   
“เต็มไม่ใช่ลูกชายของคุณรดากับคุณพ่อหรอกครับ”
   
ผมไม่เคยมั่นใจอะไรเท่าเรื่องนี้มาก่อน
   
“ลูกมั่นใจได้ยังไง?”
   
“เต็มเป็นคนกล้าหาญ ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนผมซึ่งเป็นลูกชายของคุณพ่อเลยสักนิด ”
   
“กองทัพ!”
   
นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยินคุณพ่อเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงดุดันแบบนี้ ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คุณพ่อมองหน้าผมด้วยความไม่พอใจ
   
“ขอร้องล่ะครับ.. อย่าเอาความรักของผมไปผูกกับเรื่องในอดีตของคุณพ่อคุณแม่อีกเลยครับ”
   
ตั้งแต่เด็กจนโตผมไม่เคยร้องขอหรือขอร้องคุณพ่อเรื่องอะไรเลย ผมขอเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวหวังว่าคุณพ่อจะเข้าใจผมบ้าง ผมยกมือไหว้ท่านเพื่อลากลับ แต่ก่อนที่เปิดประตูผมเพิ่งเอะใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้.. ผมหันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง
   
“คุณพ่อจำเรื่อง... ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”
   
ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา ทว่าคิ้วของท่านขยับเล็กน้อย แต่จึงฟันธงได้ว่าคุณพ่อคงจะจำเรื่องราวในอดีตได้มานานแล้ว
   
“ถ้าคุณพ่อจำได้.. คุณพ่อก็น่าจะรู้ดีว่าการพลัดพรากกับคนที่เรารักมันเจ็บปวดและทรมาณแค่ไหน ยกเว้นเสียว่า.. คุณพ่อไม่ได้รักเธอจริง”
   
ไม่รู้ว่าผมพูดแทงใจดำรึเปล่า รอบนี้คิ้วของท่านถึงได้ขมวดแน่นขึ้น ผมหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของคุณพ่อ ก่อนกลับผมเจอคุณแม่กับพี่นายตรงห้องนั่งเล่นผมแค่ยกมือไหว้ลาทั้งคู่ และขอลาจากบ้านหลังนี้ด้วยความคิดที่ว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกหากไม่จำเป็น จากนั้นก็บอกน้าอ่ำให้ตรงกลับบ้านสวนรังสิตทันที


.
.
.
.



มีกฏห้ามผู้ชายตัวโตๆ ที่อายุย่างเข้า 22 ปี ร้องไห้ หรือห้ามอ่อนแอมั๊ยครับ ถ้ามีผมขอแหกกฎสักครั้งละกัน

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

ความอัดอั้นทั้งหมดถูกระเบิดออกมาเมื่อมันถึงขีดสุด และเสียงของผมคงจะดังไปจนถึงด้านนอก คุณปู่คุณย่าพากันมาเคาะประตูห้องนอนของผมยกใหญ่ จนสุดท้ายต้องเรียกเด็กรับใช้ไปเอากุญแจมาไข

“เจิ่นเมอหุยซื่อ?! เกิดอะไรขึ้นเหรอ? กองทัพ กองทัพหลานย่าเป็นอะไรไปลูก!”

คุณย่าวิ่งแทบจะโผเข้ามากอด และเพียงแค่ได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของท่าน ผมก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาโดยไม่คิดจะอายใคร ณ เวลานี้ใครจะหาว่าผมขี้แย ไก่อ่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ช่างแมร่มมันเถอะครับ เพราะผมก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ดีใจก็หัวเราะและเสียใจอย่างถึงที่สุดก็ต้องร้องไห้มันออกมา

ไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานแค่ไหนที่ผมยอมเป็นไอ้ขี้ขลาดอยู่ในอ้อมกอดของคุณย่า รู้แค่ว่าเมื่อได้ระบายความอัดอั้นออกมาเสียบ้างมันก็รู้สึกดีขึ้นในระดับหนึ่ง คุณย่าผละอ้อมแขนออกแล้วลูบหน้าลูบตาให้ผมอย่างอ่อนโยน ดวงตาของท่านแดงก่ำแต่ยังแกล้งทำเป็นเข้มแข็งเพื่อผม

“คุณย่าชอบเต็มมั๊ยครับ?”
   
“ชอบสิลูก หลานรักใครชอบใครย่าก็ชอบด้วยรักด้วย”
   
“ผมไม่ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ผม.. ผม..”
   
“ย่ารู้ ย่ารู้”

ฝ่ามืออันแสนอบอุ่นลูบแผ่นหลังของผมอย่างปลอบโยนที่แม้จะไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดแต่คุณย่าก็อุ้มชู ดูแล และสั่งสอนผมมาตลอดตั้งแต่จำความได้

เสียงถอนหายใจหนักๆ ดังขึ้นตรงปลายเตียง ผมจึงได้รู้ว่าคุณปู่นั่งอยู่ตรงนั้น ผมจึงรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาแล้วนั่งหลังตรงทิ้งภาพลักษณ์ผู้ชายขี้แยเมื่อครู่ไปได้เลยครับ คุณปู่มองผมด้วยหางตาแล้วส่ายหน้าช้าๆ

“ปู่เป็นคนไปทาบทามน้องเต็มให้กับแก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ปู่ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย”

ท่านเว้นวรรคด้วยการถอนหายใจอีกรอบ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเป็นหลานอกตัญญูที่ทำให้คุณปู่คุณย่าต้องมีเรื่องหนักอกหนักใจอยู่ตลอด

“ตอนนี้ท่านกับคุณหญิงกำลังโกรธ เข้าไปคุยก็ไม่มีประโยชน์หรอก ปู่กับย่ารู้จักพวกท่านดี ด่านหน้าปล่อยให้ปู่กับย่าจัดการเอง ส่วนหลานก็ใช้ความสามารถที่มีง้อน้องเต็มให้สำเร็จละกัน”
   
“ขอบคุณครับคุณปู่คุณย่า”
   
พนมมือกราบคุณปู่คุณย่าด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ เรื่องง้ออีกฝ่ายผมคิดไว้ว่าต้องทำแน่ๆ แต่ตอนนี้มีเรื่องเพิ่มเข้ามาให้ปวดหัวอีกแล้ว
   
“แต่... คุณพ่อกับคุณแม่..”
   
“เรื่องหมั้นกับเด็กที่กล้าตบน้องออมหน่ะเหรอ?”

ผมยังพูดไม่ทันจบคุณย่าก็แย่งถามขึ้นมาเสียก่อน และก่อนที่ผมจะได้ตอบว่า ‘ใช่ครับ’ ก็โดนขโมยซีนด้วยใบหน้าที่แสดงอาการเหม็นเบื่อของคุณปู่ ท่านมือขึ้นโบกไล่พร้อมกับพึมพำเสียงดังเป็นภาษาจีนว่า ‘ปู้สิง!’ ซึ่งแปลจากอารมณ์ของคุณปู่ได้ว่า ‘ไม่มีทางเป็นไปได้’

“นี่มันยุคไหนแล้วจะมาคลุมถุงชนอยู่อีก พั่นเฝิง!”
   
อ่อ.. คุณปู่ด่าลูกชายและลูกสะใภ้ของท่านว่า ‘ปัญญาอ่อน’ ครับ ทำเอาผมไม่กล้าพูดเรื่องที่คุณพ่อพูดกับผมในวันนี้เลย
   
คุณปู่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสั่งให้ผมไปล้างหน้าล้างตาแล้วเตรียมตัวออกไปกินข้าวเย็น ‘กองทัพต้องเดินด้วยท้อง’ คุณปู่ท่านว่ามาแบบนั้น ผมก็ทำตามท่านครับ เพราะตอนนี้คุณปู่คุณย่าคือที่พึ่งสุดท้ายของผม ไม่ใช่สิ ผมต้องพูดว่าชีวิตของผมคงมีแต่ท่านทั้ง 2 คนนี่แหละที่เข้าใจและคอยช่วยเหลือผมมาตลอด
   
ขณะที่กำลังยืนเช็ดหน้าอยู่หน้ากระจก สีส้มก็กระโดดออกมาจากตะกร้า ผมหันไปอุ้มแมวอ้วนมากอด ปกติสีส้มจะเป็นแมวขี้รำคาญแต่ครั้งนี้มันยอมอยู่นิ่งๆ ให้ผมกอดแถมยังเอาหัวมาซุกตรงซอกคอผมด้วย ราวกับมันรู้ว่าผมกำลังต้องการกำลังใจ
จู่ๆ ไอโฟนของผมก็ส่งเสียง ชื่อและภาพหน้าจอโชว์เด่นว่าเป็นใคร ผมวางสีส้มลงบนเตียงก่อนจะกดรับสาย
   
“ว่าไงดักแด้?”
   
[มึงโอเคะปะวะ?]
   
“ไม่เลยสักนิด”
   
ตอบตามความจริง แล้วใช้อีกมือที่ว่างหยิบไอโฟนอีกเครื่องขึ้นมาเปิดหน้าจอ ปลดรหัสด้วยหมายเลข 0818
   
[เออ กูรู้ๆ กูเข้าใจ]
   
ยิ้มตามกับคำพูดของเพื่อนรัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาที่ผมมีปัญหาคนแรกที่จะโทรหาผมคือออม แต่ผมก็ได้ทำลายความไว้ใจทั้งหมดลงไปแล้ว
   
ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง สีส้มขยับตัวมานั่งเลียขนโดยใช้สีข้างของผมเป็นที่พิงหลัง ผมเปิดแกลลอรี่รูปภาพของไอโฟนอีกเครื่อง ส่วนใหญ่เป็นรูปน้องหมาน้องแมวป่วย ถัดมาเป็นรูปของสีส้ม และปิดท้ายแค่ไม่กี่สิบรูปเป็นรูปแอบถ่าย ซึ่งทุกรูปอีกฝ่ายใช้กล้องหน้าถ่ายให้ติดตัวเองแค่ครึ่งเสี้ยวแล้วมีผมเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะเป็นตอนอ่านหนังสือ กำลังย่อตัวนั่งล็อคโซ่จักรยาน  เทอาหารใส่จาน เล่นอยู่กับสีส้ม หรือแม้กระทั่งตอนที่ผมแอบงีบหลับ นี่คงเป็นรูปคู่ของเราในแบบฉบับของเต็มใจสินะ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย

เต็มเป็นคนไม่ค่อยพูดว่า ‘รัก’ ผมสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังไม่ชอบอ้อน เอาใจใครไม่เก่ง หากใครไม่สนิทด้วยจะคิดว่าเจ้าตัวเป็นคนหยิ่งและเอาแต่ใจ ทั้งที่ความจริงแล้วเต็มเป็นผู้ชายที่เขินง่ายมาก เวลาที่โดนผมรุกหยอดมุกเสี่ยวใส่แก้มใสๆ นั่นจะแดงขึ้นแทบจะทันที เต็มเป็นผู้ชายที่อยู่นิ่งๆ แล้วหล่อ ยิ้มแล้วน่ารัก เขินแล้วน่าจับกด แต่ถ้าโกรธขึ้นมานี่โคตรน่ากลัวเลยล่ะครับ
   
[กองทัพ มึงยังฟังอยู่รึเปล่า?]
   
“อืม..”
   
[มีคนอยากคุยกับมึงอะ]
   
“ใครวะ?”
   
ถามดักแด้แต่ปลายสายเงียบไป ผมเงี่ยหูฟังแต่ก็ไม่ได้ยินอะไร
   
“ดักแด้ กูถามว่าใครวะ?”
   
[ฉันเอง]
   
หืม??? แค่ได้ยินเสียงก็ทำให้ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
   
“ออม?”
   
[อืม]
   
แล้วเราทั้งคู่ก็เงียบไป หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น อย่าเข้าใจผิดว่าผมตื่นเต้นที่ได้คุยกับออมหรอกนะครับ แต่ผมกำลังลุ้นว่าออมจะคุยกับผมเรื่องอะไรมากกว่า
   
[กองทัพ]
   
“ว่าไง? ฟังอยู่”
   
หน้าจอไอโฟนอีกเครื่องค้างไว้ที่รูปใบหน้าใสระบายรอยยิ้มจนเต็มแก้มโดยด้านหลังนั้นเป็นแผ่นหลังของผมที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือ
   
[แผลเป็นยังไงบ้าง?]
   
“รอแค่ไหมละลายก็หายแล้วล่ะ”
   
หลังจากคำตอบของผม ปลายสายก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
   
“ออม.. ขอโทษนะ”
   
[ถ้าจะให้ฉันหายโกรธนายก็ไปจิกหัวอีนั่นมาให้ฉันตบสักฉาดสองฉาดสิ]
   
เอิ่ม... นี่ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่าครับ? ออมทำผมไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว เสียงฟึดฟัดไม่พอใจดังมาจากปลายสาย ผมก็ได้แต่รูดซิปปากเงียบ แต่ไม่นานนักออมก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
   
[อาซันบอกว่าวันนี้เจอนายที่โรงพยาบาลสัตว์]
   
ใจคอไม่ดีขึ้นมาทันทีเลยหล่ะครับ
   
“อืม”
   
[ไปทำไม?]
   
“คิดถึงเต็ม”
   
[อยากง้อ?]
   
“ใช่”
   
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ผมตอบตรงตามที่ใจคิดทุกอย่าง
   
[แล้วทำไมไม่เข้าไปง้อ?]
   
“หืม?”
   
สะดุดกับคำถามนิดหน่อยครับ ออมถามผมแบบนี้หมายความว่ายังไง? ออมไม่ได้โกรธหรือเกลียดผมหรอกหรือ?
   
[พรุ่งนี้อาเต็มเลิกเวรแปดโมงเช้าแล้วจะกลับบ้านพักผ่อนสามวัน]
   
“ออม?”
   
[ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนขี้ขลาด แต่แค่เวลารักใครมากๆ นายก็มักจะอ่อนไหวง่าย]
   
“........................”
   
[เรื่องที่เกิดขึ้นฉันรู้ว่านายไม่ได้ตั้งใจและนายก็ไม่ได้นอกใจอาเต็ม]
   
“........................”
   
[ฉันเคยบอกนายแล้วว่าอย่าทำให้อาเต็มของฉันเสียใจเด็ดขาด หวังว่านายยังจำคำสัญญาที่ให้กับฉันไว้ได้]
   
“........................”
   
[อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะกองทัพ]
   
พูดจบออมก็วางสายไปทันที แต่ผมนี่เป็นใบ้ไปเลยครับ กว่าจะดึงสติกลับมาทบทวนคำพูดของออมได้ก็ใช้เวลาเกือบนาที นี่แหละครับออม ผู้หญิงที่รู้ใจและรู้จักผมรองจากคุณย่า หรือจะว่าไปออมเข้าใจผมมากกว่าแม่แท้ๆ ของผมอีกเสียด้วยซ้ำ ‘ขอบคุณนะออม’ ตอนนี้ผมคงได้แต่พูดออกมากับตัวเอง แต่ผมเชื่อว่าในไม่ช้าผมจะได้พูดกับเจ้าตัวต่อหน้าแน่นอน
   
เสียงคุณย่ามาเคาะประตูเรียกไปทานข้าวมื้อเย็น ผมรีบตอบรับท่าน ก่อนจะออกจากห้องนอนผมเดินไปเติมอาหารลงในถ้วยให้สีส้มและเทอาหารกระป๋องสำหรับแมวให้อีกถ้วย สีส้มกระโดดลงจากเตียงมากินอาหารแทบจะทันที แมวได้กินแล้วก็ถึงตาผมบ้างล่ะครับ
   
ที่คุณปู่บอกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องนั้น ผมเชื่อแล้วล่ะครับว่ามันได้ผลจริง หลังจากที่ผมกินอิ่มผมก็นึกออกแล้วว่าจะง้อเมียด้วยวิธีไหนดี ผมเดินไปหยุดที่หน้าเบาะนอนของแมวอ้วนสีส้ม ดวงตากลมใสมองผมแล้วอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้าน
   
“สีส้มลูกรัก.. คิดถึงพ่อเต็มมั๊ย?”
   
สีส้มร้อง ‘เมี๊ยว’ เบาๆ ทำให้ผมยิ้มออกเลยล่ะครับ


.
.
.
.
.


TBC....  : 222222:

ออฟไลน์ 2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาเร็วๆอีกนะ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1: แม่ทำตัวเหมือนไม่ได้รักกองทัพ เห็นลูกเป็นเบี้ยเอาคืนคนเก่าของพ่อ ศัตรูของตัวเองเท่านั้นหรอ?

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มาอีกๆ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เหนื่อยใจแทนเต็มและกองทัพ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ก็รู้ว่ามันเป็นนิยาย อินไปหน่อย แต่ขอด่าผู้ใหญ่ อย่างพ่อแม่กองทัพหน่อยเหอะว่า ปัญญาอ่อน   :z6:  เห้อมมมม

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ง้อเร็วๆนะ
ไม่เข้าใจพ่อ แม่กองทัพเลย มีแต่ความงง ไหนจะเรื่องรดาอีก โอ้ยยย เหนื่อยใจแทน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณพ่อคุณแม่เต็ม เอาแหวนหมั้นไปคืนพ่อกองทัพ
อย่างนี้ก็ไปกันใหญ่

พ่อกองทัพ สนับสนุนให้กองทัพหมั้นหมายซอฮันนี่
ให้เหตุผลว่าไม่อยากเสียลูกไป   :katai1: :katai1: :katai1:
ลูกคนไหน ไม่ใช่กองทัพแน่
คงหมายถึงเต็ม เพราะเต็มหน้าเหมือนคุณรดา

พ่อกองทัพ จำอะไๆได้ ไม่คิดตามหาคุณรดาเรอะ  :katai1:
แล้วไม่รู้ความไม่ดีของคุณนายวิริ(ษ)ยา เลยรึ

แล้วถ้าคุณนายวิริ(ษ)ยา เกิดใช้ความเป็นแม่หมั้นหมายซะเอง
กองทัพ จะทำยังไง
แต่ที่ออมบอกวันพักผ่อนของเต็ม ให้กองทัพรู้
จะช่วยอะไรได้ไหมนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2017 11:14:16 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เริ่มต้นอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก
อ่านแบบตั้งใจกว่าอ่านหนังสือสอบ
เราว่าเราพอจะเดาทางได้แล้วค่ะ 555555
แค่เดานะคะ 5555555
 แต่แบบนะ เอาจริงๆ ถ้าอ่านดีๆ คุณรินทิ้งเบาะแสไว้เยอะพอสมควร เหลือแต่คนร้าย เราจะเดาถูกมั๊ยนี่แหละ  o13

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
รีบไปง้อเลย เต็มเป็นคนมีเหตุผล สู้ๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ร้องไห้ไปกับกองทัพ  สงสารอ่ะ...

สงสัยมากว่ากองทัพนี่ลูกใครทำไมพ่อกับแม่อีกทั้งพี่ชายดูชังและทำร้ายกันได้อย่างเลือดเย็น  โชคดีของกองทัพที่มีปู่ย่าไม่งั้น..ไม่อยากคิดเลย

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เอาใจช่วย... ไปง้อเมียเร็วๆ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
กองทัพโง่จริงๆสินะ

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถถถถ นี่ร้องไห้เลยค่ะ ไม่เป็นไรนะกองทัพ คนเราย่อมมีช่วงเวลาที่โง่กันได้ทั้งนั้น เห็นใจทั้งเต็มทังกองทัพ เอาเป็นว่ารู้ว่าพลาดก็รีบไปง้อเมียนะ

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เริ่มต้นอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก
อ่านแบบตั้งใจกว่าอ่านหนังสือสอบ
เราว่าเราพอจะเดาทางได้แล้วค่ะ 555555
แค่เดานะคะ 5555555
 แต่แบบนะ เอาจริงๆ ถ้าอ่านดีๆ คุณรินทิ้งเบาะแสไว้เยอะพอสมควร เหลือแต่คนร้าย เราจะเดาถูกมั๊ยนี่แหละ  o13



 o13

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พาสีส้มไปง้อพ่อเต็มเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มุดเข้าไปในนิยายได้มั๊ยเนี่ย  :katai1:
รีบไปง้อน้องเต็มเลยนะ  :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รออ่านตอนนต่อไปด้วยใจจดจ่อ. มาต่อเร็วๆนะคระบ

ง้อให้สำเร็จนะครับ กองทัพ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
คุณปู่คุณย่าน่ารัก
แม่กองทัพเป็นไรมากป่ะ
ง้อเต็มเร็วๆน้า

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารทั้งเต็มทั้งกองทัพ อ่านไปปาดน้ำตาไป :sad4:

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เริ่มต้นอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก
อ่านแบบตั้งใจกว่าอ่านหนังสือสอบ
เราว่าเราพอจะเดาทางได้แล้วค่ะ 555555
แค่เดานะคะ 5555555
 แต่แบบนะ เอาจริงๆ ถ้าอ่านดีๆ คุณรินทิ้งเบาะแสไว้เยอะพอสมควร เหลือแต่คนร้าย เราจะเดาถูกมั๊ยนี่แหละ  o13

นี่ไปเริ่มอ่านใหม่เหมือนกันค่ะ มาเดากันค่ะว่าคนร้ายตัวจริงเป็นใคร อิอิ o13

ออฟไลน์ r.saranya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai1: ตอนต่อไปจงมาค่ะ จงมาๆๆๆๆๆ รออยู่

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ปูเสื้อรอ ลุ้นๆ กองทัพเอ้ยยยย พลาดแล้วก็รีบไปง่อเมียซะนะ

ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หืม
หืม
หืม
หืม
?

ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยน้อ!!!เป็นเราหน่อยไม่ได้เละทั้งคู่ขอบอก โดนแค่นั้นน้อยไปนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด