█ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ ▌รักเต็มใจ ❤➽ Heart Is Full ▌█ ┠ 37 The End ┨ (2017.11.11) P.36  (อ่าน 233489 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนนี้น่ารักมาก. กระต่ายจะกินแครอทแล้ว

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
น่าร๊ากกกกก ชอบเต็มใจตอนมองหัวใจเทมป์ลอยข้ามหัวไปตกอยู่ข้างเวที / เดาว่าเทมป์คงคิดว่าเต็มใจจะรับหัวใจตัวเองไว้แบบเท่ๆ หล่อๆ อ่ะนะ 55555 ชอบๆๆ / นี่คงเป็นยาหวานก่อนรับยาขมชุดใหญ่สินะ หึหึหึ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
สรุปว่าพ่อเซล่ามูนของเราโดนกินสินะ คุณหน้ากากทักซิโด้กลายร่างเป็นกระต่ายปุ๊บเสกเซล่ามูนเป็นแครอทปั๊บ โอ้ยยยย กองทัพผุ้น่าสงสาร กร้ากกกกก  :laugh: :laugh: :pigha2:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ม่าเข้มมากมั้ย ฮือออ เอาเบาๆ พอนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สนั่นหวั่นไหว แรงเชียร์เยอะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
แครอทคงอยากกลับบ้านไปกินกระต่าย 555

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
โอยยยย ยิ่งอ่านยิ่งงง ปมเย๊อะเกิ๊นนนนน

ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศมาก แต่ก็จะตามต่อนะคะ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
น่าร๊ากกหวานไม่เกรงใจมดเลย

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นั่งอมยิ้มตลอดทั้งตอน และหลุดขำตอนจบ ทำไมคะ อยากกลับบ้านไปเป็นแครอทให้กระต่ายกินใช่มั๊ย  :z1:

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5: หวานทิ้งทวนก่อนศึกจริง...หรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รักเรื่องนี้ แม้จะรู้ว่าทิ้งทวนความหวานแต่เราก็ยังรักกกกกกกกกกกกก เพราะเรารู้ว่าจบแฮปปี้  :impress2:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โอย พ่อแครอทททท

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หวานมาก่อนดราม่าสินะ  :hao3:

กองทัพ บอกพี่ขวัญว่าทนคนรักทำผิดสองอย่างไม่ได้
คือ นอกใจ กับโกหก น่าบันทึกไว้เตือนความจำ
กองทัพ ยิ่งคิดไม่ค่อยทันแม่ พี่ชาย ซอฮันเน่า อยู่ด้วย  :z3: :z3: :z3:

รอความจริง หรือความเท็จจะปรากฎนะ หลังงานหมั้น  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
น่ารักจ๊ะ พ่อแครอทของกระต่ายน้อย  :-[

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
กรี๊ดดดดด กระต่ายกับแครอทททท

ออฟไลน์ r.saranya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จากหน้ากากทักซิโด้กับเซลามูน กลายมาเป็น กระต่ายกับแครอททททททท
ถถถถถถถถถ แม้จะสงสารกองทัพแต่ฟินาเล่น๊าาาาาาาาาาาาาาาค๊าาาาาาาาาา
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยอมแล้วววววววววววววววววววววววว ชอบมากๆๆๆๆๆๆ แบบนี้  :z1:

พ่อแครอท พ่อจำคำที่พูดวันนี้กับพี่ขวัญไว้ให้ดีนะ เพราะคิดว่ามันจะมีผลกับเรื่องดราม่าในอนาคตแน่นวลลล


กระต่ายจะได้กินแครอท หรือแครอทจะจิ้มกระต่ายหว่าาาาา  :z1:

ออฟไลน์ เด็กดอยดาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้ตอนเดียวเยียวยาทุกสิ่ง  :hao6:

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
 อนาคตข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มั่นใจอย่างเดียวจบแฮปปี้แน่นอนแค่นี้ก็พอใจแล้วค่าาาา :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 ถ้าทำออกมาเปนการ์ตูนคงกรี๊ดหนักกว่านี้ :-[

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พระเอกเรื่องนี้นอกจากเป็นเซลามูนแล้วยังเป็นแครอทให้กระต่ายกินอีก สงสารรร แต่ชอบ :hao6: :laugh:

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อนาคตข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มั่นใจอย่างเดียวจบแฮปปี้แน่นอนแค่นี้ก็พอใจแล้วค่าาาา :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:


 o13

ออฟไลน์ PinkCaramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรามีความเชื่อว่าถ้าแครอทตัวเล็กกว่านี้อาจโดนกระต่ายกินสักวัน  :laugh:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
มันต้องมีอะไรแน่ๆ... พี่ขวัญใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาปูเสื่อรอกระต่ายกินแครอท  :hao6: :impress2:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
█ ▌รักเต็มใจ ➽ HEART IS FULL ▌█





┠ 34 ┨









หลังจากงานประเพณีทาง TJ ได้จัดปาร์ตี้ฉลองกันที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง พ่อหนุ่มฟินาเล่ของผมดื่มไวน์ไปหลายแก้ว ผมเองก็ดื่มไปเยอะแต่ก็ไม่ถึงกับเมามายจนไม่ได้สติ ผมจำได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร คุยกับใคร และพี่ขวัญกำชับเรื่องเวลากลับบ้านว่ายังไงบ้าง จำได้แม้กระทั่งว่าผมโดนอีกฝ่ายแกล้งด้วยการให้ถึงจุดสุดยอดด้วยออรัลเซ็กส์ไปหลายต่อหลายรอบ แถมเจ้าตัวก็ยังปล่อยน้ำสีขาวข้นฉีดพุ่งใส่ร่างกายของผมมา 2 รอบแต่ก็ยังไม่ยอมเข้ามาในตัวผมเสียที
   
“อ๊าา”
   
น้ำขุ่นถูกโพรงปากอุ่นดูดกลืนจนหมด ลิ้นร้อนแล่บเลียส่วนกลางลำตัวของผมราวกับเป็นของหวานแสนอร่อย ดวงตาคู่คมช้อนมอง ผมเบนหลบสายตาไปอีกทางก่อนจะหลับตาลงแล้วปล่อยให้น้ำใสไหลจากหางตา ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกดีนะครับ อีกฝ่ายปรนเปรอผมอย่างดีไม่มีที่ติ เพียงแต่ร่างกายของผมต้องการมากกว่านี้ ช่องทางด้านหลังเต้นตุบอย่างทรมาน รอการสอดใส่เป็นหนึ่งเดียวจนแทบจะทนไม่ไหว
   
“เต็ม..”
   
ร่างสูงเคลื่อนตัวทาบทับโอบกอดผมไว้ เสียงทุ้มกระซิบกระซาบเรียกชื่อของผมอย่างออดอ้อน และมันก็ทำให้ผมใจอ่อนจนได้
   
ดันร่างสูงออกห่างจากตัว ลุกขึ้นนั่งหันหลังให้อีกฝ่าย แล้วก็ค่อยๆ เอนตัวลง ซบหน้าลงกับหมอน ยกสะโพกสูงให้พอดีกับระดับสายตาของอีกฝ่าย อ้าขาเล็กน้อย จากนั้นก็เอื้อมมือทั้ง 2 ข้างเปิดแยกเนื้อหนั่นสะโพกให้เห็นช่องทางลับของตัวเอง  ผมหันหน้ากลับไปมองดวงตาคู่คมที่มองผมด้วยสายตาแทบจะกลืนกิน ผมปรายสายตา พร้อมยกยิ้มมุมปาก
   
“ใส่.. เข้ามาสิ”

เสียงกลืนน้ำลายดัง ‘เอื๊อก’ ชวนน่าขำ แท่งเนื้อใหญ่แข็งขันขึ้นแบบอัตโนมัติราวกับกดสวิช ที่แกล้งผมอยู่นาน 2 นานก็เพื่ออยากให้ทำท่าทางน่าอายเชื้อเชิญแบบนี้นี่แหละครับ
   
“อ่ะ”
   
ที่ฝังลงมาตรงด้านหลังไม่ใช่ความใหญ่โต แต่เป็นริมฝีปากและลิ้นอุ่น ให้ตายเถอะ สะโพกของผมร้อนจนแทบระเบิด ถ้าหากยังแกล้งกันแบบนี้มีหวังผมคงจะขาดใจตายเป็นแน่
   
“ย อย่าแกล้ง ใส่เข้ามาเร็วๆ”
   
ตีต้นแขนอีกฝ่ายดัง ‘เผี๊ยะ’ ผิวขาวเกิดรอยแดงเป็นปื้นขึ้นทันที แต่มันก็ช่วยให้ร่างสูงได้สติ เจ้าตัวแล่บเลียลิ้นรอบริมฝีปาก จากนั้นก็ยืดตัวจับแท่งเนื้อพร้อมรบจ่อปากทางให้สัมผัสแผ่วแต่เสียวซ่านจนผมเผลอส่ายสะโพกเว้าวอน
   
“แมร่มเอ้ยย โคตรเอ็กซ์”
   
เสียงสูดริมฝีปากดัง ‘ซี๊ด’ บ่งบอกถึงความพึงพอใจ ถัดจากนั้นแค่เสี้ยวนาทีความใหญ่โตมหึมาที่จ้วงแทงเข้ามาในร่างของผมทีเดียวจนมิดลำ
   
“อ๊าก”
   
กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บผสมผสานกับความเสียวซ่าน แต่แค่ชั่วอึดใจก็ถูกถาโถมด้วยความต้องการอย่างรุนแรง เราห่างหายจากเรื่องเซ็กส์มานานเสียจนผมเพิ่งได้รู้ว่าความโหยหาในเรื่องทางเพศเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับชีวิตคู่ 

“อะ อ๊า อ๊ะ”

แรงกระแทกต่อเนื่องทำเอาลมหายใจของผมขาดห้วง อาจจะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับความปรารถนาของเราทั้งคู่ ความเร่าร้อนจู่โจมให้ทุกอย่างดำเนินไปตามอารมณ์ดิบ ผมแอ่นสะโพกรับเมื่อถูกรุกรานรุนแรงให้เข้ามาลึกในร่าง รู้สึกดีจนแทบละลายหลอมเป็นหนึ่งเดียว

“อ่ะ อ้า”

ส่วนปลายแข็งแกร่งสะกิดโดนจุดกระสันต์ ผมบิดเร่าครวญครางด้วยความเสียวซ่าน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่อีกฝ่ายเอาอกเอาใจเน้นย้ำตรงจุดและพร่ำบอกคำรักไม่รู้จบ จนกระทั่งความรุ่มร้อนของร่างกายเบื้องล่างใกล้ถึงขีดจำกัด ร่างสูงก็เร่งจังหวะถี่ยิบจนหายใจแทบไม่ทัน

“อ๊า”

เสี้ยววินาทีที่เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปลาบไปทั่วแผ่นหลังจนสั่นสะท้าน ของเหลวสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยพวยพุ่งออกมาเติมเต็มจนล้น.. ในขณะที่ผมเองก็ฉีดพุ่งจนเลอะผ้าปูที่นอน

ร่างสูงทิ้งตัวและน้ำหนักลงบนผมโดยที่ด้านหลังยังเชื่อมต่อกัน จมูกโด่งซุกไซร้บริเวณติ่งหู

“เต็มใจ”

“อืม”

ผมตอบรับในลำคอ และคนที่เรียกชื่อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ร่างสูงค่อยๆ ขยับตัวถอนความใหญ่โตที่คลายตัวลงเล็กน้อยออกจากร่างของผม วินาทีนั้นผมรู้สึกเหมือนว่าหัวใจวูบโหวง แต่ก็เพียงไม่นานหลังจากที่อีกฝ่ายเอนตัวลงนอนตะแคงข้าง แขนแกร่งก็รั้งผมเข้าไปกอด แผ่นหลังของผมแนบชิดกับอกกว้าง เราจูบกันเนิ่นนาน ผมยกขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อให้ท่อนขาใหญ่แทรกเข้ามา และร่างกายของเราก็เชื่อมต่อกันอีกครั้ง

“อ่ะ”

นิ้วแกร่งบีบดึงยอดอกของผมเล่น อารมณ์ดิบถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง และก็วนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเหนื่อยและหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน



.
.
.
.
.

   
   
กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า แต่เพราะรับปากกับพี่ขวัญว่าจะกลับบ้านให้ทันมื้อเที่ยง เราจึงต้องออกจากโรงแรมในตอนสาย เทมป์ให้รถของที่บ้านมารับและระหว่างทางผมก็ผล็อยหลับไปมารู้สึกตัวก็ตอนถึงหน้าบ้านแล้วล่ะครับ
   
อีกฝ่ายตั้งท่าจะลงจากรถเพื่อเดินไปส่งผมให้ถึงในบ้าน แต่ผมก็ห้ามไว้ เพราะดูจากสภาพเหมือนคนอดหลับอดนอนแบบนี้แล้วไม่ไหวหรอกครับ คงได้โดนคุณพ่อคุณแม่ตำหนิเอาแน่ๆ

“เต็ม”

เสียงทุ้มเรียกชื่อผม ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ผมเงียบรอฟัง เราสบตากัน ในดวงตาคู่คมแดงก่ำซึ่งผมไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะง่วงนอนรึเปล่า? มือใหญ่ยื่นออกมาจากหน้าต่างรถ ผมรับและกุมไว้ก่อนจะประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกัน

“มีอะไรรึเปล่า?”

คนตอบส่ายหน้าช้าๆ

“พรุ่งนี้จะแวะมาหา”

พรุ่งนี้... เทมป์มีนัดทานข้าวกับคู่หมั้นไม่ใช่รึไง? ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย แต่ก็เจอแต่ใบหน้าคมที่ออดอ้อนเหมือนเด็ก

“อืม”

พยักหน้ารับ จังหวะนั้นผมก็เหลือบไปคุณลุง รปภ. กำลังไล่คนกลุ่มหนึ่งอยู่นอกรั้ว

อ่อ ผมลืมบอกไปครับว่าเรื่องการแสดงเมื่อคืนนั้นได้รับการตอบรับดีขนาดที่ข่าวทุกช่อง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และสื่อโซเชียลพากันกระหน่ำลงข่าว ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาดชนิดที่ว่าแบรนด์ TJ แทบไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาเลยสักบาท และยิ่งกว่านั้นที่โด่งดังกว่าแบรนด์ TJ ก็คงจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่นี่แหละครับ งานปาร์ตี้เมื่อคืนพวกปาปารัสซี่ก็ได้ไปหลายช็อต แล้วยังตอนนี้อีกอย่าคิดนะครับว่าจะรอดไปได้ ก็ที่คุณลุง รปภ. ไล่อยู่นั่นแหละครับนักข่าวล้วนๆ เพียงแต่ผมกับเทมป์ทำเป็นมองไม่เห็นและไม่คิดจะสนใจเสียมากกว่า ที่บ้านถึงกับต้องยกหูโทรศัพท์ตัดความรำคาญจากนักข่าว แล้วคุณคิดว่าทางฝั่งเกียรติไพศาลกิจและว่าที่คู่หมั้นจะขนาดไหนเหรอครับ

“เต็ม”

เรียกรอบนี้ ผมก้มลงแล้วยื่นหน้าเข้าไปในตัวรถมากขึ้นจนปลายจมูกของเราแทบจะชนกัน ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมซึ่งตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้ง่วงนอน แต่กำลังร้องไห้อยู่ต่างหาก และผมก็พอจะเดาออกว่าเจ้าตัวกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่

“เรายังรักกันอยู่ใช่มั๊ย?”

เสียงทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบาเสียจนพาให้หัวใจของผมอ่อนยวบ

“รักสิ”

คำตอบของผมหนักแน่น ผมกระชับมือที่กุมไว้ให้แน่นขึ้น

“รักมากด้วย”

ระบายรอยยิ้มพร้อมกับจูบลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย

“กลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว ป่านนี้สีส้มคงงอนเจ้าทาสแล้วแน่ๆ”

เมื่อพูดถึงสีส้ม ใบหน้าคมก็ระบายรอยยิ้ม สีส้มเทียวไปเทียวมาอยู่กับผมบ้างอยู่กับเทมป์บ้าง ถ้าเป็นแมวอื่นอาจจะเครียดที่โดนย้ายบ้านบ่อยๆ แต่สีส้มสามารถปรับตัวได้เพราะขอแค่บ้านที่อยู่มีผมหรือไม่ก็เจ้าทาสของมันก็พอ ผมถอยออกมายืนห่างจากรถเล็กน้อย โบกมือให้อีกฝ่าย มองรถเคลื่อนตัวออกไป และก่อนที่บานกระจกจะถูกเลื่อนปิด ผมตะโกนเรียก

“เทมป์”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นแล้วรีบหันกลับมามองผม

“พรุ่งนี้เจอกันนะ”
   
ผมยิ้ม อีกฝ่ายก็ยิ้ม เรามองกันจนลับสายตา และก่อนจะเดินเข้าบ้านผมหันไปยิ้มให้กับเลนส์กล้องถ่ายรูปที่แอบส่องซูมมาจากมุมรั้วฝั่งซ้าย 
   
“คุณเต็มจะให้ผมช่วยจัดการให้มั๊ยครับ?”
   
เสียงของน้าปองดังขึ้นให้พอได้ยินกันแค่ 2 คน ผมดึงสายตาจากปาปารัสซี่กลับมาหาคนที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังพุ่มไม้
   
“ไม่เป็นไรหรอกครับ.. สนุกดี”
   
น้าปองอมยิ้มกับคำตอบของผม

ผู้ชายตรงหน้าที่ใครต่อใครต่างรู้ว่าเป็นคนขับรถประจำตัวผมนั้นแท้จริงแล้วคือบอร์ดี้การ์ดที่คุณพ่อสั่งให้คอยดูแลผมทุกฝีก้าวมาตั้งแต่แบเบาะ แม้แต่ตอนที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนที่ผมกับออมรอดมาได้ก็เพราะน้าปองที่ขับรถตามอยู่ห่างๆ ได้ช่วยพวกเราออกมาจากรถที่ใกล้ระเบิดได้ทัน รวมทั้งศพของสีส้มน้าปองก็เอาไปฝังไว้ให้อย่างดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมน้าปองถึงได้รู้จักนิสัยของผมดีกว่าใครๆ
   
“ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดครับ”
   
คำพูดของน้าปองทำให้ผมหัวเราะ ‘หึ’ ในลำคอ
   
“สุนัขเมื่อมันถึงเวลาจนตรอก มันมีทางออกไม่กี่ทางหรอกครับ”
   
“ตอนนี้ฝ่ายโน้นระวังตัวกันมาก แถมยังระแวงกันเองอีก”
   
แหม ได้ยินแบบนี้ผมก็ชักจะสนุกขึ้นมาแล้วสิครับ
   
“คุณวิชิตกับล่ะครับ?”
   
ถ้าจำกันได้ คุณวิชิต คือคนที่เคยสะกดรอยตามผมเมื่อหลายเดือนก่อนยังไงล่ะครับ
   
“หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วครับ”
   
คำตอบของน้าปองทำให้ผมรู้ว่า เจ้านายของคุณวิชิตคงจะสั่งปิดปากลูกน้องคนสนิทเป็นแน่ โชคดีแค่ไหนที่คุณวิชิตเองก็ไม่ใช่คนโง่จึงไหวตัวหนีได้ทัน แล้วถ้าอย่างนั้นหลานชายของคุณวิชิตล่ะ?
   
“ณดล?”
   
“คนของคุณนายพล ไม่มีใครกล้าแตะหรอกครับ”
   
“อ่อ...”
   
เป็นคำตอบที่ไม่ต้องขอคำอธิบายเพิ่มเลยล่ะครับ ผมยิ้มและยกมือไหว้ขอบคุณน้าปอง ฝ่ายนั้นรีบยกมือรับไหว้ เป็นอันว่าบทสนทนาของเราก็จบลงแค่นี้
   
เดินเข้ามาในบ้าน เด็กรับใช้บอกว่าตอนนี้พวกผู้ใหญ่กำลังนั่งดูข่าวอยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนออมอยู่บนห้องนอน ผมพยักหน้ารับทราบแล้วรีบขึ้นไปบนห้อง เก็บถุงกระดาษไว้ในลิ้นชักแล้วล็อคกุญแจไว้ จากนั้นก็อาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยจึงเดินกลับลงมาชั้นล่าง แต่ยังไม่ทันจะถึงประตูห้องนั่งเล่น เสียงบทสนทนาวิพากษ์วิจารณ์ใครบางคนก็ดังออกมาให้ได้ยินจนผมต้องชะงักเท้าหยุดฟัง
   
ประเด็นของบทสนทนาก็คือเรื่องที่ทางเกียรติไพศาลกิจจะส่งคนออกมาแถลงข่าวเรื่องอื้อฉาวจากการแสดงบนเวทีของงานประเพณีเมื่อคืนก่อน ทางโน้นบอกว่าทุกอย่างที่เห็นนั้นเป็นเพียงการแสดง.. และเรื่องงานหมั้นและความสัมพันธ์ของลูกชายคนเล็กกับหลานสาวนักธุรกิจใหญ่ชาวเกาหลีใต้นั้นเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร.. แหม.. พล็อตที่ใช้แถลงข่าวยิ่งกว่าบทในละครน้ำเน่าอีกนะครับเนี่ย

ฟังจากน้ำเสียงของพี่ขวัญดูจะไม่พอใจทางคุณอาดิษฐ์และคุณนายวิริยาเป็นอย่างมาก ราวกับว่าโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ผมไม่เคยได้ยินพี่ขวัญตำหนิหรือแสดงน้ำเสียงไม่พึงพอใจใครถึงขนาดนี้ ผมยืนฟังอยู่นานจนกระทั่งพี่ขวัญหลุดชื่อ ‘รดา’ ออกมา ทุกคนก็เงียบกันไปครู่หนึ่ง เสียงของคุณพ่อก็เอ่ยขึ้นว่า ‘รดาก็จากไปตั้งนานแล้ว.. อย่าดึงคนตายมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีกเลยจะดีกว่า’ คิ้วของผมขมวดเข้าหากันแทบจะทันที ผมยกมือขึ้นกุมหน้าอกด้านซ้ายที่เจ็บหนึบ ผมรู้มาตลอดว่าทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงคุณรดาให้ผมได้ยิน อีกทั้งยังไม่เคยเล่าหรือพูดถึงคนๆ นี้ให้ผมได้รู้จักอย่างจริงจังมาก่อน ผมเองก็ไม่เคยคิดจะถามเพราะคิดเสมอว่าพวกท่านคงจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องการให้เด็กอย่างผมรู้
   
ผมสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ยืดหลังตรง และปรับสีหน้าและอารมณ์ให้สดใส ก่อนจะก้าวเท้าตรงไปในห้องนั่งเล่น ทันทีที่ผมปรากฎตัวทุกคนก็แสดงท่าทางตกใจเล็กน้อย แต่ก็แค่แว่บเดียวก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มส่งกลับมา
   
“น้องเต็มมานานแล้วเหรอคะลูก?”
   
คุณแม่ขยับให้ผมไปนั่งข้างๆ แต่ผมเลือกที่จะนั่งลงบนพื้นแล้วซบหน้าลงกับหน้าตักของท่าน คุณแม่หัวเราะเบาๆ แล้วลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
   
“กองทัพไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?”
   
พี่สาวคนสวยของผมชะโงกคอมองไปด้านนอก
   
“มาส่งครับ แต่กลับไปแล้ว”
   
ดวงตาคู่สวยของพี่ขวัญหรี่ลงแล้วมองผมอย่างจับผิดพร้อมกับอมยิ้ม
   
“นักข่าวตีวงล้อมอยู่รอบบ้าน คงจะได้ภาพเด็ดไปอวดบ้านโน้นกันเยอะเลยล่ะ”
   
“ผมหันไปยิ้มให้กล้องด้วยครับ”
   
นั่นเป็นสิ่งที่พี่ขวัญต้องการครับ เพราะภาพจากข่าวมันขัดแย้งกับคำแถลงเสียจนพี่ขวัญรีบปรบมือและหัวเราะอย่างสะใจ ทำเอาคุณแม่ต้องเอ็ดเสียยกใหญ่ว่าลูกสาวทำกิริยาไม่งาม ส่วนคุณพ่อก็ได้แต่นั่งอมยิ้มและส่ายหน้าเบาๆ
   
“ว่าแต่เมื่อกี้คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ? ผมได้ยินแว่วๆ เกิดอะไรขึ้นกับคุณรดาครับ?”
   
คำถามของผมทำให้บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นเกิดความอึดอัดแบบเฉียบพลัน แต่ผมก็ยังเลือกที่จะระบายยิ้มแล้วมองทุกคนเพื่อรอคำตอบ รออยู่นานทุกคนก็เอาแต่นั่งเงียบ ผมจึงแกล้งถามต่อ
   
“คุณรดาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ขวัญใช่มั๊ยครับ?”
   
ซึ่งคำถามนี้ทำให้พี่ขวัญแสร้งทำเป็นหลบสายตาไปทางอื่น ในขณะที่คุณพ่อจ้องมองผมอย่างชั่งความคิดในใจ ซึ่งผมเองก็ไม่คิดจะหลบตาท่าน ทางฝั่งคุณแม่เริ่มกระสับกระส่ายเสียจนพี่ขวัญต้องกุมมือของคุณแม่ไว้แล้วยอมหันกลับมาสบตากับผมตรงๆ
   
“น้องเต็มอยากรู้เรื่องรดาเหรอจ๊ะ?”
   
“ครับ”
   
“พี่ขวัญขอถามเหตุผลได้มั๊ย?”
   
ใบหน้าของพี่สาวฉายความกังวลจนผมรู้สึกผิด แต่มาถึงขั้นนี้แล้วครับถอยคงไม่ได้แล้ว ผมจึงขยับไปนั่งข้างๆ พี่ขวัญแล้วส่งยิ้มให้
   
“ผมแค่ได้ยินใครต่อใครพูดถึงคุณรดาบ่อย และดูเหมือนว่าจะมีหลายคนบอกว่าผมมีส่วนคล้ายคุณรดา”
   
เหตุผลของผมมีแค่นี้จริงๆ ครับ ผมก็แค่อยากจะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อรดาให้มากขึ้นจากปากของคนที่รู้จักเธอดีที่สุดเท่านั้นเอง พี่ขวัญหันไปมองหน้าคุณแม่และคุณพ่อ เมื่อคุณพ่อพยักหน้า พี่ขวัญจึงหยุดสายตาที่ผม
   
“น้องเต็มอยากรู้เรื่องอะไรของรดาล่ะ?”
   
“เรื่องการหายตัวไปของคุณรดาครับ”
   
ดูเหมือนคำตอบของผมจะทำให้พี่ขวัญโล่งใจขึ้นนิดหน่อย พี่สาวระบายรอยยิ้มอ่อนโยนและลูบหัวของผมเบาๆ
   
“หลังจากแต่งงานได้สามปี จู่ๆ ดิษฐ์ก็โทรมาบอกว่ารดาหายตัวออกไปจากบ้าน ขาดการติดต่อ ไม่มีใครพบเห็น และไม่มีใครรู้ว่ารดาหายไปไหน มันน่าแปลกใจตรงที่ไม่มีหลักฐานหรือมูลเหตุใดๆ ที่จะทำให้คนหนึ่งคนหายตัวไปได้เลยสักนิด พวกเราทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตามหาตัวรดากลับมาไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ขอให้ได้เจอ แต่จากเดือนเป็นปี.. เราก็ตามหารดาไม่เจอ”
   
ใบหน้าสวยดูหมองเศร้าจนน่าใจหาย พี่ขวัญกับคุณรดาเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก การที่คุณรดาหายตัวไปคงจะทำให้พี่ขวัญเสียใจมากอย่างแน่นอน ผมดึงมือพี่ขวัญมากุมไว้ก่อนจะเอ่ยคำถามสุดท้าย
   
“คุณรดาเสียชีวิตที่ไหนยังไงครับ?”
   
คำตอบเมื่อครู่ของพี่ขวัญบอกว่า ‘ตามหาตัวรดาไม่เจอ’ แต่ผมกลับยังถามท่านถึงการเสียชีวิตของคุณรดา ผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านดูจะตกใจไม่น้อยกับคำถามของผม โดยเฉพาะคุณพ่อที่จ้องลึกเข้าในนัยต์ตาของผมเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างและผมก็คิดว่าท่านคงเจอและเข้าใจ

ผ่านไปครู่หนึ่งท่ามกลางความเงียบ คุณแม่มองผมอยู่นานจนทนไม่ไหวต้องยกมือปิดปาก ดวงตาคู่สวยของท่านสั่นระริกอย่างน่าสงสารพี่ขวัญรีบเข้าโอบปลอบท่านไว้ และคุณพ่อก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างยอมแพ้
   
“หลายปีที่เราหมดหวังในการตามหาตัวรดา แต่แล้วก็มีผู้หวังดีที่ไม่แสดงตัวตนส่งข่าวเกี่ยวกับรดามาทางจดหมาย พ่อจึงส่งคนให้ไปสืบอย่างลับๆ และก็ได้รู้ว่ามันเป็นความจริง..”
   
ท้ายประโยคคุณพ่อลงน้ำหนักเสียงแผ่วเบาจนผมรู้สึกถึงความเศร้าและหดหู่ที่ฝังอยู่ในจิตใจของท่าน
   
“ในตอนนั้นพ่อได้ออกคำสั่งลับและขอความร่วมมือกับตำรวจร่วมกันทำลายซ่องผิดกฏหมายแถบตะเข็บชายแดน.. เธออยู่ที่นั่น.. รดา.. เธอทนทุกข์ทรมานอยู่ในขุมนรกนั่นมานานหลายปี”
   
เสียงสะอึก ‘ฮึก’ จากการกลั้นร้องไห้ของคุณแม่ทำให้คุณพ่อหยุดพูดไปชั่วขณะ คุณพ่อลูบแผ่นหลังคุณแม่อย่างปลอบโยนแล้วหันมามองหน้าผม

“พ่อส่งเธอเข้ารักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดทันที แต่ผลตรวจบอกว่าเธอโดนทำร้ายร่างกายและโดนทารุณกรรมจนทำให้มีอาการทางจิต ติดเชื้อเอชไอวี และกำลังตั้งท้องได้ห้าเดือน..”

ลมหายใจของผมสะดุด เสียงสะอื้นของคุณแม่ดังหนักขึ้นและมันก็ทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ออกจนต้องขยับคอเสื้อ คุณพ่อกำลังจ้องมองผมอยู่ทุกอิริยาบถ ผมจึงพยายามควบคุมตัวเองให้เป็นปกติที่สุดและสบตากับท่านแบบตรงๆ เมื่อคุณพ่อมั่นใจว่าผมพร้อมที่จะฟังต่อ ท่านจึงผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ 
   
“พวกเราตัดสินใจและทำทุกวิถีทางเพื่อส่งรดาไปรักษาที่เมืองนอก.. หาโรงพยาบาลที่ดีที่สุดและหมอที่เก่งที่สุด.. แต่เราก็ทำเพียงช่วยลูกในท้องของรดาไว้ได้เท่านั้น”
   
ประโยคสุดท้ายถูกเอ่ยออกมาด้วยน้ำหนักเสียงที่เบาราวกับว่าไม่ต้องการจะพูดถึงมัน แต่ทว่าหัวใจที่หนักอึ้งของผมกลับเบาบางลงอย่างน่าประหลาด ผมกลับมาหายใจได้คล่องขึ้น
   
“เด็กคนนั้นรอดมั๊ยครับ?”
   
ไม่มีใครตอบคำถามของผม ผู้เป็นพ่อหรี่ตามองผม พี่ขวัญเบิกตากว้าง ในขณะที่คุณแม่สะอื้นร้องไห้ปานจะขาดใจ ผมจึงก้มลงกราบลงแทบเท้าของผู้เป็นพ่อ กราบลงบนหน้าตักของพี่ขวัญ และแนบริมฝีปากลงบนหลังเท้าของผู้เป็นแม่
คุณแม่รีบดึงผมขั้นมาลูบหัวและจูบกระหม่อมผมอย่างอ่อนโยนไร้ซึ่งคำพูดใดๆ มีเพียงแต่เสียงสะอื้น พี่ขวัญที่อดทนมานานตอนนี้ทั้งสองแก้มเปื้อนไปด้วยน้ำตา
   
“เด็กคนนั้นรอดมั๊ยครับ?”
   
ผมถามคุณแม่อีกครั้ง ดวงตาแดงช้ำมองผมด้วยสายตาอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก มือที่อุ้มชูฟูมฟักผมมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกวางลงบนแก้มของผม
   
“เด็กคนนั้นน่ารักมาก”
   
คำตอบเต็มไปด้วยเสียงสะอื้น แต่มันกลับทำให้ผมสามารถยิ้มออกมาได้จนเต็มแก้มโดยไม่รู้สึกฝืดฝืนใดๆ แม้ความจริงที่ได้รับรู้เรื่องของคุณรดาจะสะเทือนใจแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมร้องไห้เสียใจ หากน้ำตาที่ไหลเป็นเพราะผมรู้สึกอิ่มเอมใจกับความรักที่ผมได้รับจากครอบครัวเสียมากกว่า ผมโอบกอดรอบเอวของคุณแม่และซุกหน้าลงกับหน้าอกของท่านเพื่อซึมซับความอบอุ่นของผู้เป็นแม่
   
หากคิดถึงหลักความจริง คุณรดาต้องทนทุกข์อย่างทรมานอย่างแสนสาหัสในขุมนรกอเวจีนั่นจนถึงขั้นป่วยทางจิต ท่านอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเด็กอยู่ในท้อง และเด็กคนนั้นก็คงจะไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกอย่างแข็งแรงและปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ถ้าไม่มีบุคคลทั้ง 2 ท่านที่อยู่ตรงหน้า อ่อ.. ที่สำคัญก็คือผมคิดว่าเด็กคนนั้นก็คงจะหัวแข็งน่าดูทีเดียวเลยล่ะครับ เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกท่านเหลือเกินว่านอกจากเด็กคนนั้นจะน่ารักมากแล้วเขายังเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในโลกอีกด้วย
   
“เต็มใจ.. ลูก”
   
คุณพ่อเรียกผมด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่ทว่าในแววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนในแบบที่ผมไม่ได้เห็นมานานเกือบปี ผมผละอ้อมกอดจากคุณแม่แล้วขยับตัวกลับไปหาคุณพ่อ
   
“ครับ”
   
ขานรับท่าน
   
“รู้เรื่องนี้นานรึยัง?”
   
ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะอ้อนคุณพ่อเหมือนอ้อนคุณแม่ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากกลับไปเป็นเด็กชายเต็มใจที่ชอบร้องอ้อนขอขี่คอคุณพ่ออีกครั้ง ผมระบายรอยยิ้มเมื่อนึกถึงวัยเด็กจากนั้นก็ซบหน้าลงบนหน้าตักของผู้เป็นพ่อ ฝ่ามือใหญ่วางลงบนกระหม่อมของผม มันทั้งอบอุ่นและมั่นคง
   
“ที่โรงพยาบาล.. ตอนผมประสบอุบัติเหตุ แม้ผมจะไม่ได้สติแต่ผมได้ยินทุกเรื่องที่ทุกคนพูดกันครับ”
   
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ผมประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสต้องนอนโรงพยาบาลเกือบเดือน คุณหมอแจ้งผลการรักษาว่าร่างกายของผมนอกจากแผลจากอุบัติเหตุแล้วยังมีร่องรอยจากการร่วมเพศอย่างหนักอยู่ด้วย คุณพ่อจึงคาดคั้นออมให้พูดความจริงออกมา และเมื่อคุณพ่อได้รู้เรื่องทั้งหมดก็ระเบิดความโกรธความผิดหวังออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ‘เพราะรดาคลอดลูกจากน้ำเชื้อพวกสำส่อนมามันถึงได้เป็นแบบนี้!’ ประโยคนั้นก้องอยู่ในหัวของผมทุกครั้งที่หลับตา..
   
“พ่อขอโทษ...”
   
นี่ไม่ใช่ประโยคที่ผมไม่อยากจะได้ยิน ผมไม่คิดโกรธคุณพ่อ ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามผมกลับรักและบูชาท่านมากกว่าเดิม และผมก็รู้ว่าท่านรักผมมากแค่ไหน ผมก้มลงกราบบนฝ่าเท้าของผู้เป็นพ่อ
   
“เราทุกคนรักลูกนะเต็มใจ.. รักลูกมาก”
   
บุคคลที่เข้มแข็งและแข็งแกร่งที่สุดของบ้านพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย มันสะท้อนเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของผม
   
อดีตเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องของอดีต เราไม่อาจกลับไปรื้อฟื้นหรือแก้ไขมันได้ อีกอย่างช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของคุณรดาท่านก็ได้จากไปอย่างสงบ ท่านจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใครและผ่านเรื่องราวเลวร้ายอะไรมาบ้าง  คนที่น่าสงสารและทรมานที่สุดก็คือคนที่ยังมีชีวิตอยู่และจมอยู่กับอดีตนี่แหละครับ แต่สำหรับใครบางคนที่พยายามจะยัดเยียดอดีตใส่กลับเข้ามาในตัวผม คนใจร้ายแบบนั้นควรจะได้รับบทเรียนอะไรกลับไปบ้างถึงจะสมน้ำสมเนื้อกับความพยายามอย่างยิ่งยวดแต่ไม่สำเร็จเสียที
   
มือใหญ่แข็งแรงของคุณพ่อจับหัวไหล่ของผมไว้อย่างมั่นคง ใบหน้าดุดันเผยรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยประกายความภาคภูมิแบบที่นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง
   
“เต็มใจ.. ลูกคือ ‘ฉัตรักษ์บริบูรณ์’ ทั้งเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ”
   
คำพูดของใครหลายคนที่รู้จักครอบครัวของเราได้เคยกล่าวไว้ดังก้องขึ้นในหัวของผม ‘รูปร่างผิวพรรณของคุณเต็มเหมือนคุณหญิงท่านก็จริง แต่จิตใจเข้มแข็งและกล้าหาญสมชายชาติทหารอย่างท่านกิตติอย่างกับถอดสำเนา’ คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดอย่างมีความสุขได้ และผมก็ภูมิใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็น ‘ฉัตรักษ์บริบูรณ์’ ผมคิดแบบนั้นครับ..

.
.
.
.
.



TBC... : 222222:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด