บทที่21
[/size][/color]
“ฝา”
“หื้ม”
“คิดถึงมึงว่ะ”
คนข้างตัวที่ตอนนี้มือขวากำลังจับพวงมาลัยรถไว้แน่น ดวงตาคมก็ยังคงจับจ้องไปที่ถนนด้านหน้าอยู่แบบนั้น แต่ก็พูดประโยคแบบนั้นออกมา ในจังหวะที่ผมหันไปมอง คนร่างสูงก็เอื้อมมือซ้ายมากอบกุมมือผมไว้พอดี
“จริงๆนะ”
“เออ รู้แล้ว...พี่มึงเป็นไรเนี่ย” ว่ามันออกไปแบบนั้น แต่ก็ขอยอมรับตรงๆเลยว่า เขินมากๆ หันหน้าหนีไอ้คนข้างตัว แต่จริงๆมันก็ไม่ได้หันมามองหน้าผมเหมือนกัน
“เป็นผัวมึง”
“ไอ้พี่เหลือง!”
“กูพูดผิดหรอ ไม่ผิดนะกูว่า” เรื่องหน้าด้านหน้ามึนก็ขอให้มาสู้กับพี่มัน คิดว่าไม่มีใครที่จะชนะแน่นอนครับ เอาเลย...อยากพูดให้กูเขินยังไงก็ตามสบายเลยครับ คิดว่าพี่ฝาคนคูลจะเขินอ่ะดิ๊ หึ...มึงคิดถึงแล้วไอ้พี่!
“ทำไมมึงเงียบ กูเป็นผัวมึงนะ”
“รู้แล้ว ย้ำจัง มึงกลัวกูลืมหรอไอ้พี่”
“หึ เขินหรอ โวยวายแล้วน่ารัก”
“ไอ้...”
อยากจะด่ามันต่ออยู่หรอก แต่ก็ต้องหยุดคำพูดของตัวเองลงแบบนั้น เมื่ออีกฝ่ายละมือที่กอบกุมกันอยู่ออกเผื่อจะเข้าเกียร์N เป็นช่วงจังหวะที่รถติดไฟแดงพอดี และเพราะแบบนั้น อีกฝ่ายจึงละสายตาออกมาจากถนน ดวงตาคู่คมที่มีเสน่ห์ของอีกฝ่าย หันมาสบตากับผมพอดี ในวินาทีนี้ ก็เหมือนถูกแรงดึงดูดให้เข้าไปใกล้ ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจ ริมฝีปากของคนตรงหน้าที่ยกยิ้มขึ้นมา พร้อมๆกับประทับลงเบาๆที่ปากของผม ไม่ได้ลุกล้ำอะไรมากกว่าการแนบริมฝีปาก แต่สายตาที่ส่งมาก็ทำเอาร้อนไปทั้งหน้า
“หน้าแดง”
“พูดมากว่ะพี่”
“หึ”
หัวเราะด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ และสุดท้ายก็ผละออกไปนั่งที่เบาะของตัวเองดีๆได้สักทีนึง หัวใจที่อยู่ในอกข้างซ้ายเต้นรัวๆอยู่แบบนั้น แต่ก็ต้องทำหน้านิ่งๆเก็บอาการไว้ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวดูไม่คูล
“มึงจะพาไปไหนพี่” ก็เล่นดึงตัวผมออกมาจากมหาลัย’ ลืมเรื่องจะช่วยใครไปได้เลย ลากขึ้นรถแล้วขับออกมาในแบบนั้น
“คอนโดกู”
ผมชะกักในตอนที่มันพูดแบบนั้น ถ้าพูดตรงๆรู้สึกไม่ดีมากๆ แค่คิดว่าต้องไปห้องที่มันพนันมา ถึงตอนนี้เราจะดีกัน แต่แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องที่จะลืม ผมเลือกที่จะเงียบ แต่คิดว่าอีกฝ่ายคงเดาอาการออก เมื่ออีกคนเอื้อมมือมากุมมือผมไว้แน่นๆ
“เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งโกรธนะ...”
เสียงเข้มที่มาพร้อมแรงบีมมือเบาๆ จนต้องหันไปมองหน้าอีกฝ่าย สันกรามคมที่ยิ่งทำให้เห็นโครงหน้าหล่อเหลาชัดเจน นักรบที่หันมามองตาผม
“จะเล่าให้ฟัง แค่อย่าพึ่งโกรธ”
ผมถอนหายใจ แต่ก็ยอมเงียบและฟังอีกฝ่าย ที่ก็พูดออกมาต่อ
“กูรู้ว่ามึงคงไม่อยากไปที่คอนโด”
“ก็แล้วมึงคิดว่ากูต้องอยากไปหรอ ที่ๆมึงได้มาเพราะว่าเอากูไปเป็นของพนัน มันไม่ตลกหรอกเว่ยพี่ กูต้องแฮปปี้วิ่งเข้าห้องมึงหรอถามจริง”
“กูรู้ ใจเย็นๆ กำลังจะพูดต่อนี่ไง”
“ก็ว่ามา ปากมึงอมอะไรอยู่ล่ะ”
“ครับๆ...ที่กูจะพูดก็คือว่า กูเข้าใจความรู้สึกมึงดี มันเป็นเรื่องแย่มากๆที่กูทำและพูดแบบนั้นออกไป ก็มีแต่คำว่าขอโทษจะให้แค่นั้น กูเสียใจ”
“กูก็เสียใจไอ้สัดพี่!” แค่คิดถึง หัวกูก็ร้อนแล้วครับ
“นั่นแหล่ะ ... แต่ห้องนั้น กูไม่ได้มาเพราะพนันนะ” มันที่บอกออกมาแบบนั้น ทำเอาผมต้องหันหน้าไปมองมัน
“จริงๆ...กูซื้อมาด้วยเงินกูเอง เงินจากแข่งรถ สมัยตอนกูเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น ไม่ได้เกี่ยวกับเงินพนันอะไรทั้งนั้นแหล่ะ จริงๆเรื่องเมื่อคราวนั้น ตอนมึงเข้าไปได้ยินแล้วเอาน้ำสาดใส่หน้ากูน่ะ กูแค่พูดเพราะคะนองปาก ไม่อยากเสียหน้า ก็เลยพูดไปแบบนั้น ส่วนเรื่องพนันไป กูไม่ต้องพูดอะไรมากหรอก ไอ้สัดกัณฑ์มันคงเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะสิ ... แต่พอหลังจากนั้นกูก็ไปยกเลิกพนันไป ไม่มีพนันเชี่ยไรทั้งนั้นแหล่ะ”
“แล้ว...ตอนนี้มึงไม่กลัวเสียหน้า ไม่อายแล้ว?” ปรายตามองมันหน่อยๆ
“ก็อาย”
“สัด! แล้วแบบนี้จะมาขอคบกันทำไมวะพี่”
“ฟังก่อนสิ ทำไมวันนี้อารมณ์มึงขึ้นง่ายจังวะ หื้ม” อีกฝ่ายที่หันมามองพร้อมกระตุกยิ้มขำเล็กๆ ยิ่งเห็นยิ่งขัดสายตา ฝ่ามือหนาที่ดึงมือผมไปกุมแล้วเอาไปวางไว้ที่ตักตัวเอง
“กูอายนะถ้าคนอื่นมองว่ากูเป็นเกย์ ชอบผู้ชาย...แต่ตอนนี้กูไม่อาย ถ้าผู้ชายคนนั้นมันคือมึง”
ฝ่ามือหนาที่บีบมือผมอีกครั้ง เหมือนกับเป็นการย้ำชัดให้มั่นใจ ใบหน้าหล่อของคนข้างกาย ที่ตอนนี้นัยตาของมันมองมาที่ผมอย่างอบอุ่น และกำลังจ้องมองผม สายตาที่เห็น อ่านแบบไม่ได้คิดไปเอง เหมือนมันกำลังบอกว่า ตอนนี้...ผมคือคนสำคัญของมัน ที่มันจะไม่ยอมเสียไป
“ต่อให้กูต้องอายกว่านี้...ก็ดีกว่าจะต้องเสียมึงไป ... ไม่ไหวแล้วว่ะ ความรู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้ กูทรมาร”
.
.
.
แอร์ปรับอากาศที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องเข้าขั้นติดลบ แต่นั่นก็ยังไม่สามารถลบอุณหภูมิร้อนผ่าวของศึกบนเตียงในเวลานี้ได้เลย ร่างสองร่างเปลือยเปล่าที่กำลังขยับโยกขยับตัวรับส่งแรงกันอยู่บนเตียงกว้างมาหลายชั่วโมง
“อ๊ะ อื้มมม”
ร่างกายบางที่บิดเร่าอยู่กลางเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ผ้าปูที่นอนสีเหลืองอ่อนถูกฝ่ามือเรียวดึงรั้งจนยับย่นค่าฝ่ามือ สายตาใสที่ปรือมองคนที่คร่อมอยู่บนร่าง ใบหน้าเรียวใสเชิดแหงนขึ้นเมื่อนิ้วมือแกร่งบีบลงที่หัวนม
“รู้สึกไหม”
เสียงกระซิบแหบพร่า ยิ่งทำให้คนร่างสูงตรงหน้าเซ็กซี่ขึ้นไปอีก ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมคีบหัวนมดึงรั้งขึ้นอย่างกลั่นแกล้ง
“ว่าไง หื้ม”
ถามออกมาแบบนั้น พร้อมๆที่ฝ่ามือแกร่งแยกขาขาวออกพร้อมจับขึ้นมาพาดบ่า สะโพกสอบที่ยังคงขยับเข้าออกอย่างรู้หน้าที่และยิ่งสอดลึกลงแรงมากขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในท่านี้ คนร่างบางเผยอริมฝีปากขึ้นสั่นระริก
“อ๊ะ ระ...รบ สะ...เสียวอื้อออ”
“หึหึ”
คนร่างสูงตรงหน้าที่ผมเห็นกำลังทำหน้ายกยิ้มพอใจ แววตาร้ายกาจเหมือนนักล่าที่พร้อมขย่ำเหยื่อ แกนกายใหญ่กระแทกเข้าออกในจังหวะที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ช่องทางรักที่เริ่มแดงช้ำจากการถูกกระแทกเข้าออกมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแต่กลับยังคงขมิบตอดรับท่อนเอนแข็งแกร่งทุกครั้งที่ที่ถูกสอดใส่
“คิดถึงมึงมากเลยฝา” ริมฝีปากที่วนจูบไล้ไปตามข้างแก้ม และวนมาใบหูพร้อมกระซิบบอกเสียงแหบพร่า ฝ่ามือหนาที่โอบกอดรวบตัวคนข้างใต้มากอดรัดแน่นขึ้นทั้งสองแขน เป็นจังหวะเดียวกันที่คนร่างบางเองก็ผวากอดตอบด้วยเช่นกัน อ้อมกอดแข็งแรงที่โหยหา คิดถึงไม่ต่างจากอีกฝ่ายที่ได้บอกมา
“อ๊ะ รบ...พี่รบ อื้อออ”
ครางเสียงกระเส่าบอกอีกฝ่ายให้ได้รู้ว่าไม่ไหวแล้ว และเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจ ร่างสูงที่ซอยสะโพกให้เร็วขึ้นไปอีก ได้แต่กอดมันไว้ พร้อมๆกับจิกมือลงไปที่แผ่นหลังกว้าง ร่างทั้งร่างสะท้านโยกไปตามแรงส่งจากอีกฝ่าย
ตับ ตับ ตับ
เสียงกระแทกพร้อมเสียงดังเฉอะแฉะดังให้ได้ยินจนต้องกัดปาก ทั้งเขินอายและเสียวสะท้านในเวลาเดียวกัน
“รบ แรงอีก อ๊ะ อ๊ะ อื้ออ”
“แบบนี้ใช่ไหม อื้ม ฝา”
เสียงทุ้มกระซิบถามเสียงแหบพร่า ก่อนสะโพกแกร่งจะกระแทกพร้อมควงสะโพกให้คนใต้ร่างต้องครางเสียงสะท้าน ฝ่ามือหนาที่เลื่อนมากอบกุมแกนกายของคนใต้ร่างขยับฝ่ามือตามจังหวะแรงส่งของสะโพกแกร่งที่ซอยถี่มากขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊าๆๆ อื้อออ”
“ซี๊ด อ้า...”
คนทั้งคู่ครางลั่นอย่างไม่มีใครอายใครพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักออกมาในที่สุด ร่างบางหายใจหอบหนักๆทั้งที่ยังมีตัวหนักๆของคนร่างสูงฟุบทับลงมาทั้งตัว เสียงหอบหายใจหนักๆที่ดังอยู่ข้างหู รวมถึงแกนกายร้อนที่ยังคงกระตุกน้อยๆคาอยู่ที่ช่องทางด้านหลังทำให้ต้องกัดริมฝีปากด้วยความร้อนหน้าแปลกๆ
“ฝา...”
“อะ...อะไร”
“ถ้าไม่อยากต่อก็อย่าขมิบยั่วกูแบบนี้สิ”
“ไอ้เชี่ยพี่!พอ...ไม่เอาแล้....อ๊ะ”
ร่างบางผวาสุดตัวเมื่ออีกฝ่ายพลิกตัวลงไปนอนด้านล่าง และดันให้ฝาต้องขึ้นมานั่งทับอยู่ด้านบน ดวงตาคมเข้มที่ไม่มีแววของความเหนื่อยจ้องคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ ก่อนจะแกล้งเด้งสวนสะโพกขึ้นใส่คนที่นั่งทำตัวไม่ถูกอยู่ตอนนี้ ได้แต่กัดริมฝีปากกั้นเสียงอยู่ตอนนี้
“กูเมื่อยจัง...ช่วยหน่อยสิ”
“ช่วยเชี่ย…อ๊ะ!”
“อีกรอบนะ”
ว่าแบบนั้นพร้อมๆกับที่ฝ่ามือแกร่งจับอยู่ที่เอวบาง ก่อนจะขยับเด้งสะโพกสวนแกนกายใส่ช่องทางรัก และเริ่มยกต่อไปต่อทันที
“มะ....ไม่เอาแล้ว พะ...พอแล้วไอ้เชี่ยพี่กล้วย ฮื่ออออ เหนื่อยโว้ย”
“หึหึ ไม่เอาหรอกน่า แกล้งเด็กมาทั้งคืนละ”
นักรบที่นอนมองหน้าของคนร่างบางที่เอาหน้าซุกหมอนด้วยความเหนื่อยอ่อนอยู่อย่างขำๆ เลื่อนใบหน้าหล่อเข้าไปหา ก่อนจะก้มลงหอมเบาๆที่ข้างแก้มใสอย่างหมั่นไส้
“ฮื่อออย่ากวน”
“นอนซะ”
ยิ้มออกมาน้อยๆพร้อมวางมือลงลูบเบาๆที่หัวทุย คนร่างบางที่ก็ขยับหัวเข้ามาใกล้ทันทีที่อีกฝ่ายทำแบบนั้น ใบหน้าใสๆที่แต้มร้อยยิ้มน้อยๆแม้แต่ตอนนี้ที่หลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว ฝ่ามือหนาที่ค่อยๆลูบไล้เบาๆใบตามหน้าผาก จมูก และสุดท้ายที่ริมฝีปาก ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าตอนไหน อยู่ๆก็ปล่อยมันไปไม่ได้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้รู้ซึ้งเลยว่า การไม่มีฝาคอยมาพูดแหย่และป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัว มันทั้งเหงา และคิดถึงมากจริงๆ
...
เช้าวันใหม่ที่กูต้องตื่นขึ้นมาแบบไม่อยากจะตื่น เข้าใจคำว่าฟ้าเหลืองก็ตอนนี้ หลังจากเมื่อวานที่ถูกไอ้พี่รบมันประกาศพร้อมป้ายผ้าผืนใหญ่หน้าตึกบริหาร เป็นคนเล่นใหญ่เล่นโต มันก็พาผมมากระทำชำเราที่คอนโด ไม่อยากจะบอก พี่ฝาไม่ได้เต็มใจ พี่ฝาเปล่า พี่ฝาไม่ได้ง่าย มันก็แค่หลวมตัว หลวมไปแม่งทั้งคืน ปวดร้าว พออยากจะนอนต่อให้หนำใจก็ไม่ได้อีก เพราะวันนี้ที่มหาลัย’มีงานOpen house พี่มันเลยอาบน้ำแต่งตัว และลากผมมามหาลัยพร้อมกัน
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย”
“ก็กูง่วง กูอยากนอน กูต้องการหมอน”
เอนหัวลงซบเบาะแล้วหลับตาใส่แม่ม บอกให้รู้ว่านี่คือเรื่องจริง ได้ยินเสียงมันหัวเราะหึหึอยู่ข้างๆ สัด ทำกูอ่อนเพลียแล้วยังหัวเราะโรคจิตใส่อีก ไอ้บ้า
“มานอนตักกูไหมล่ะ”
“ไอ้พี่เหลือง ไมเสี่ยวจังวะ”
“หรอ...เสี่ยวไหมไม่รู้ รู้แต่เมื่อคืนเสียวดีนะ”
มนุษย์หน้าด้านว่าออกมาหน้าระรื่น ก็ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้อาการโลกสดใสและร่าเริงมันเกิดมาจากอะไร เป็นพี่มันที่สดใส ส่วนกูซีดเซียว ถ้ารู้ว่ารักกับมันแล้วจะหื่นและหน้าด้านขนาดนี้ พี่ฝาจะไม่เดินไปเหยียบเปลือกกล้วยแม่มหรอก
“นินทากูในใจล่ะสิ”
“รู้ได้ไงวะพี่0.0” หันหน้าไปมองแม่มเลย นี่มันนักรบยานสัมผัส และอีกคนที่แค่กระตุกยิ้มมาให้ พร้อมมะเหงกใหญ่ๆลงหัวผม แม่ม ไอ้พี่
“หึ แสดงว่าจริง นี่แน่ะ”
“เจ็บนะเว่ย”
“อย่าพูดมาก นอนไปก่อน ถึงแล้วกูจะปลุก”
ผลักหัวผมแบบแกล้งๆ ก่อนจะยื่นมือไปเลื่อนปรับแอร์ให้เบาลง ทำปากขมุบขมิบใส่พี่มัน แต่สุดท้ายก็หลับลงไปอยู่ดี
“ฝาๆ”
“อื้ออ อย่ากวน”
ร่างบางที่หันตัวหนี พร้อมเสียงอู้อี้ที่ดังออกมาจากในลำคอนั่น ยิ่งทำให้คนร่างสูงมอง แล้วอยากจะแกล้งให้สักทีจริงๆ พอนั่งมองดูแบบนั้นอยู่สักพัก สุดท้ายร่างสูงก็เลื่อนใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้
“ฝาครับ ตื่นเร็ว”
‘ฟอดดดด’
“อ๊ะ พะ...พี่ๆ พี่” ดวงตากลมที่เบิกกว้างขึ้นมาทันทีที่จมูกโด่งกดลงไปเน้นๆบนแก้มใส พร้อมกับยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง เห็นแบบนั้นนักรบก็ได้แต่พยายามเม้มปากให้แน่นขึ้น กลัวจะหลุดยิ้มเอ็นดูมันออกไป
“อะไร เรียกกูอะไร”
“เห้ยพี่!!มึงจะทำอะไรวะ มึงจะปล้ำกูหรอ? ไม่ดิ มึงปล้ำกูไม่ได้นะพี่” คนร่างบางที่ระร่ำระลักถามออกมาหน้าตาตื่น พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กๆที่ชี้มาแทบจะจิ้มตาร่างสูง
“ปล้ำไม่ได้เชี่ยไร กูได้ไปหลายท่าละ - -“
“สัดพี่เหลือง! ใครใช้ให้มึงเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น มึงแม่งหน้ากากคนเลว”
หน้างอพร้อมตะคอกออกมาใส่หน้าคนร่างสูงแบบเน้นๆ
“ดูทำหน้า”
“ไม่พูดกับมึงแล้ว!” ร่างบางที่ว่าออกมาแบบนั้นแต่หน้าก็ยังคงงออยู่เช่นเดิม ดวงตากลมใสมองซ้ายมองขวาก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นอีกรอบ
“โว้ยยย ถึงแล้วนี่หว่า เสียเวลาคุยกับพี่วะ ไปดีกว่า หึ้ย” ว่าแบบนั้นพร้อมหอบกระเป๋า แบกกล้องเข้ามาสะพายไว้บนบ่า
“ตั้งใจล่ะ เดี๋ยวกูจะแวะไปหาที่ซุ้มโฟโต้”
“ไม่ต้องมาก็ได้ จะถ่ายรูปเด็กๆขาขาวๆ พี่มาเกะกะ”
“เดี๋ยวกูจะประกาศความเป็นผัวมึงหน้าซุ้มเลยดีไหม ปากดีนัก”
“แบร่”
เถียงไม่ได้ก็แลบลิ้นใส่มันเลย ก่อนที่จะลงจากรถ และเดินหนีมา มองเห็นรถตราสีห่วงสีเหลืองขับออกไป หันตัวกลับเข้าไป วันนี้มหาลัยคึกคักมากกว่าทุกวัน ที่หน้าตึกและรอบๆมหาลัยจะมีการจัดซุ้มโปรโมทของคณะ มีการออกร้านต่างๆอีกด้วย เดินผ่านน้องๆกระโปรงน้ำเงินกระโปรงแดงแล้วมันกร๊าวใจ เด็กน้อยๆในช่วงมัธยมปลายเต็มไปหมดเลยครับ...เดินยิ้มหน้าบาน ก่อนจะตรงเข้าไปหากลุ่มเพื่อนๆผม ที่แอบนั่งหลบอยู่ที่โต๊ะม้าหินหลังซุ้มๆหนึ่ง ไอ้พวกแอบอู้
“ดีจ้าเพิ่นๆ”
“แหมมมมมอิน้องฝาหอย หน้าบานมาแบบนี้คืออะไร เสียน้ำมายกคืนถูกไหมๆๆๆๆไหนเล่า”
“- -“
นี่คือหน้าตาของกูตอนไอ้เซียร์กล่าวคำทักทาย คือคิดจะมีสวัสดงสวัสดีเพื่อนไหม ไม่...เจ๊เซียร์ผู้มุ่งมั่นในการพูดคุยเรื่องที่ผู้หญิงเค้าไม่ควรพูด ปวดใจมากครับที่มาคบมันเป็นเพื่อน
“ทำเงียบๆ ถ้ากูเอามือฟาดตูดมึงตอนนี้จะเป็นอย่างไร”
อู้ยยยย แค่พูดก็เสียวไปทั้งตัว แค่กูเดินยังลำบาก ถ้ามึงฟาดมากูจะสะท้าน แค่คิดสันหลังกูก็วูบวาบเกร็งตัวรับไว้เลยในจุดๆนี้
“ฮ่าๆ มึงก็ไปล้อมัน” ไอ้ธารที่วางมือถือลงแล้วว่าออกมา
“ใช่ ไม่ยุ่งวุ่นวายกับช่วงล่างกูจะได้ไหมอ่ะ”
“ได้! งั้นกูวุ่นวายกับช่วงล่างพี่รบแทนได้ไหมจ๊ะ อิ๊อ๊ะๆ”
“พ่อง!”
“เหยดดดด ความหวงผัววววว”
เอาเต็มที่ ล้อกูให้เต็มที่ไปเลย ทำเหมือนกูเป็นผีบ้านผีเรือนไม่มีตัวตยไปเลยจ้า คูลๆ...ฉัด! พวกเพื่อนเฟรี้ย
“ดูทำหน้าทำตา คิดว่ากูจะง้อหรออออ ไม่ใช่ผัวมึงนะจ๊ะ น่ารักแค่ไหนก็ไม่จ้า” ยื่นมือมาหยิกแก้มกูแบบหมั่นไส้ไปอีก โวะ ... ไอ้ผู้หญิงอันตราย
“เลิกแกล้งกูเหอะน่า แล้วไอ้หมอกล่ะ มันยังไม่มาหรอวะ”
“นู่นจ้า ถูกพี่เทียนลากไปตึกบริหาร ห่างไม่ได้ หวงชิพหาย กูนี่งงใจว่าจีบอยู่หรือเป็นผัวแล้ว” ไอ้เซียร์ที่ว่าแบบนั้น พูดฉะฉานแบบสนุกปากมากๆ แอบเห็นไอ้ธารหน้าตึงขึ้นมาทันที อะไรยังไงซิ สงสัยนะ แต่แกล้งทำมึนดีกว่า กูนี่หยิบกล้องขึ้นมาเช็ดๆปัดๆเลยครับ ไม่อยากรับรู้เรื่องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ
“กูเพลียจริงๆ ผู้หญิงสวยๆแบบกู ทำไมไม่มีผู้ชายมาสน ดูสิๆ เพื่อนกูมีผัวกันหมดละ”
ยังไม่สำนึกว่าทำสถานการณ์รอบข้างให้มันน่าอึดอัดแค่ไหน ยังพูดต่อออกมาแบบไม่สนใจไอเย็นๆของไอ้ธารไปอีก แอบถลึงตาใส่ แต่ไอ้เซียร์ยังคงโนสนโนแคร์ ยักไหล่เบะปากใส่กูไปอีก เฮ้อ
สุดท้ายไอ้เซียร์กับไอ้ธาร ที่ทำหน้าที่เป็นเด็กขายน้ำของสาขาโฟโต้ก็ได้ฤกษ์ไปขายครับ ส่วนผมเองแม้ว่าจะขาถ่าง แบบว่ากูอยากฉีกขาเดินมากในจุดๆนี้ สภาพจะไม่อำนวย แต่ก็ยังคงพยายามเดินแบบขาสั่นๆไปตามถ่ายรูปในจุดต่างๆเรื่อยๆ เดินเลยไปจนถึงคณะบริหาร ก็เห็นซุ้มๆนึงที่เด็กนักเรียนสาวๆมัธยมปลายกำลังมุ่งกันอย่างสนใจ เด็กสมัยนี้รักการเรียนดีเนอะ
“คณะบริหารของเราจะสอนให้รู้หลักพื้นฐานของขั้นตอนในการประกอบธุรกิจส่วนตัว เพราะเราจะได้เรียนเกี่ยวกับหลักการวางแผน การบริหารทรัพยากรบุคคล การจัดการเชิงกลยุทธ์ ขั้นตอน และหลักการตัดสินใจซึ่งความรู้พื้นฐานเหล่านี้จะทำให้เรามีพื้นความรู้ในการสร้างธุรกิจของตัวเองที่จะทำให้เราตั้งตัวได้เร็วอย่างมีหลักการครับ”
เสียงผู้บรรยายประจำซุ้มที่กำลังทำหน้านิ่งๆ พร้อมทั้งบรรยายไปด้วยเสียงนิ่งๆราบเรียบ ไม่ได้บอกถึงอารมณ์ของคนพูด แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์จนอดที่จะหยุดฟังไม่ได้ ร่างสูงในชุดนักศึกษาสีขาวแขนยาวกับกางสแลคถูกระเบียบ ร้องเท้าคัดชูแบบผู้ชายสีดำแบบที่ไม่เคยเห็นเจ้าตัวใส่ หล่อแบบหยุดหายใจ คิดได้แบบนั้นก็เผลอตัวยกกล้องถ่ายภาพมาแบบรัวๆ
“บริหารหรอคะ แล้วบริหารใจด้วยได้ไหมคะพี่”
น้องผู้หญิงมัธยมปลายหน้าตาน่ารัก สวยระดับดาวโรงเรียนที่ยืนอยู่ในกลุ่มนี้ถามออกมาแบบนั้น ก่อนจะได้รับเสียงโห่ฮาวี๊ดวิวแซวจากหนุ่มๆคณะบริหารดังแซวกันเกรียว มาคิดๆดู บริหารก็ขี้เต๊าะเนาะ นี่ก็คิดว่าจะมีแต่พวกลูกคุณหนู
หันไปมองคนที่ถูกถาม ร่างสูงที่หรี่ตามองน้องเค้านิดๆ ก่อนที่ริมฝีปากจะกระตุกยิ้มมุมปาก แบดชิพ
“ก็...คงแล้วแต่ว่าจะบริหารกับใคร เอาล่ะ หัวข้อต่อไป”
พี่มันที่ตอบออกมาแบบนั้นก่อนจะเมินน้องเค้าแล้วบรรยายในหัวข้อต่อไปซะแบบนั้น ... กะว่าจะเดินออกไปเงียบๆไม่ให้มันรู้ตัว แต่ติดตรงที่ผมหันไปเจอเข้ากับพี่เทียนพอดี พี่แกที่ยิ้มให้ผมก่อนจะ
“เห้ย ไอ้รบ เมียมึงมาดูว่ะ!!”
พรึบ
สายตาทุกคู่หันมาหยุดที่กูทันที ไอ้เชี่ยพี่เทียนนนนนนนนนน พูดเสร็จแล้วเดินหนีกูไปเฉยเลย กูจะบอกให้ไอ้หมอกใจแข็งกับมึงไอ้พี่ .... ผมที่ได้แต่หันไปยิ้มแหยๆให้คนรอบด้าน มองตรงไปเห็นไอ้พี่รบที่กอดอกมองมาที่ผม สายตาของมันที่เป็นประกาย พี่มันที่ไม่ได้ยิ้มแต่ทำไมกูรู้สึกเสียวๆวะ
“เดี๋ยวกูไปหาที่ซุ้ม แต่อย่าแอบไปอ่อยใครนะมึง”
“อ่อยเชี่ยไรล่ะ!” กัดปากแทบไม่ทัน ใจคิดกูก็พูดเลย กูอยากจะเอามือตบปาก ไอ้พี่รบที่ได้ยินผมตอบออกไปแบบนั้น มันที่กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบออกมาว่า
“ก็กูหวง”
ฮิ้ววววววววว
เสียงโห่ฮาที่ดังตามมาจนซุ้มแทบแตก ไม่ได้มาจากไหน นอกจากไอ้พวกเด็กบริหารทั้งหลายนี่ล่ะ โว้ยยยยย หลบทางให้พี่ฝาด้วยครับ พี่จะกลับไปตั้งหลัก พี่จะหนี พี่ฝาไม่ไหวรู้สึกเขินอายจังเลยนะหือ
.
.
.
อายจนต้องวิ่งหนีออกมาจากซุ้มของพวกบริหาร ห่าเอ๊ย ล้อกูเหมือนกูไม่ใช่ผู้ชายมีไข่ ก่อนจะวิ่งออกมาไม่ลืมยกนิ้วกลางให้ไอ้เชี่ยพี่กล้วยมันด้วย แต่นอกจากจะไม่อายยังยืนขำกูด้วย แม่ม หอบเลยกู วิ่งมาไกล
“ไอ้ฝา เมื่อวานมึงหายไปไหนวะ”
เสียงทุ้มต่ำออกแนวเสียงหล่อทักมาจากด้านหลัง หันหลังกลับไปมองทั้งๆที่ยังยืนหอบอยู่ ... ไม่ใช่คนอื่นไกล พี่เชฟ ผู้ที่หางานกิจกรรมมาให้กูตามถ่ายอยู่นี่ไง
“แฮกๆ พี่เชฟ หวัด...ดีครับพี่”
ร่างบางที่เงยหน้าขึ้นมาพูดออกไปทั้งๆที่ลมหายใจยังขาดห้วง ได้แต่ก้มตัวลงต่ำพร้อมกับเอามือท้าวไว้ที่หัวเข่าตัวเองหอบแฮกๆอยู่แบบนั้น
“มึงดูท่าจะเหนื่อยนะ”
พี่มันที่เดินเข้ามาใกล้ขึ้นอีกหน่อย ก่อนจะยื่นมือมาลูบหลังให้ผมหน่อยๆ พยายามสูดหายใจเข้าไปลึกๆ พี่แกที่ยื่นแก้วน้ำแดงมาตรงหน้า เลิกคิ้ว คือให้กูหรอ แต่นี่รับนะ กูจะเป็นลมอยู่แล้วครับ
“มึงน่าจะเหนื่อย”
“ขอบใจพี่ หล่อแล้วยังใจดี ใจปล้ำมากๆผมกำลังต้องการเลย” ยกมือไหว้ก่อนจะรับน้ำมาจากมืออีกฝ่าย ตั้งใจว่าจะกินแก้กระหาย แต่วืดจ๊ะ น้ำที่ควรไหลเข้าปากกลับหายไป หันไปข้างหลัง กูเจอผีตองเหลืองกำลังยกน้ำแดงขึ้นดื่มอักๆต่อหน้าต่อตากูเลย - -
“ไอ้พี่!”
กรวบ กรวบ
เคี้ยวนี้แข็งใส่กูไปอีก - -
“ไร” ก้มหน้ามาตอบแบบหน้ามึนๆ ไม่รู้จะพูดอะไรกับคนแบบพี่มัน
“น้ำ...น้ำกูไงครับ”
“น้ำมึงหรือน้ำกูก็เหมือนๆ ยังไงก็เคยแลกกันกิน”
ฉัด!
พูดสองแง่สองง่ามใส่ไม่พอ ยังจะมีหน้าเอามือมากอดเอวกูอีก ผมพยายามจะขืนตัวออกแต่อีกคนยิ่งกอดแน่น
“ดิ้นอีกกูจะดูดปากมึงตรงนี้โชว์เด็กโฟโต้ให้มันได้ถ่ายรูปเก็บไว้”
ยังอุตส่าห์เลื่อนหน้ามาขู่กูพร้อมดึงเอวผมไปกอดแน่นๆ ไม่ค่อยจะประกาศให้โลกรู้เท่าไหร่ว่าเราเป็นอะไรกัน
“มึงสองคนเป็นอะไรกันกันแน่” บุคคลที่สามที่ยังยืนอยู่ตรงนี้พูดออกมา ทำให้ต้องหันไปมองพี่เชฟ พี่เชฟเองที่มองมาพลางมองมาอย่างเคลือบแคลงสงสัย ไม่รู้จะตอบพี่มันไปยังไงเลย
“เป็นมากเกินกว่าแฟน คล้ายๆกับเป็นผัวมันน่ะ”
ในขณะที่กูไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่ไอ้ตัวข้างๆนี่ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าจะตอบอะไร จ๊ะ ... ขอบคุณในการเสือกครั้งนี้นะครับพี่ครับ สาดดดด วันหลังเอาโทรโข่งไหมล่ะมึง เงยหน้าไปมองมัน เห็นไอ้พี่รบยักคิ้วจึกๆใส่พี่เชฟเค้าอีก ... ไอ้เด็กขี้หวงเอ๊ย
“เอ่อ...”
“ไปกันเถอะฝา”
ไม่รอให้กูได้พูดอะไรกับพี่เชฟอีกสักคำ พี่รบก็จัดการดึงมือกูออกมาทั้งแบบนั้น แอบเห็นมันโยนแก้วพลาสติกที่ก่อนหน้านี้ใส่น้ำแดงมาให้ผม มันโยนกลับไปทางพี่เชฟ ไอ้เชี่ยยย โดนหัวเค้าไหมเนี่ยย
“กูบอกแล้วไงว่าอย่ามาอ่อยใคร!”
“อ่อยอะไรเล่า”
“ไม่ต้องมาพูดเลยนะ กูรู้หรอกว่าไอ้พี่เชี่ยๆหน้าเหี้ยนั่นมันอยากได้มึง”
ไอ้พี่กล้วยเกรี้ยวกราดใส่ผมทันทีที่เราเดินหายมาจากสายตาของพี่เชฟ มองหน้าคนตรงหน้าที่หน้าถมึงทึงมากๆ อีกนิดนึงน่าจะแดกหัวกูลงไปครับ นึกถึงว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะกลัวนะ แต่สำหรับตอนนี้ไม่เลยสักนิด ผมที่ยิ้มออกมาใส่ อีกคนยิ่งหงุดหงิดฮึดฮัดๆเข้าไปใหญ่
“ยิ้มเชี่ยไร”
“เปล๊า”
“เดี๋ยวเหอะนะไอ้ฝา เดี๋ยวมึงจะโดน”
“จะทำอะไรกูว้า” ลอยหน้าลอยตาใส่มันครับ เห็นมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบนี้แล้วชอบจังวะ
“จะเอาให้มึงเดินไม่ได้ไงล่ะ มึงลองดูไหมล่ะ!”
“มึง!! ไอ้เด็กเวร!!”
เปล่าครับ...ไม่ใช่เสียงกูครับ ... เสียงที่ดังมาจากซุ้มด้านหลังพี่นักรบ ทำให้ผมกับพี่มันต้องหันมองตาม
“เสียงคุ้นจังวะพี่”
“เออ...กูว่าเหมือนไอ้ธารไหม?”
“มึงสิไอ้พี่!! ไอ้พี่เวรเอ๊ย”
เสียงผู้ชายอีกคนแต่ออกแนวเสียงใสๆไม่ทุ้มเข็มดังขึ้นมาอีกเสียง และดังไม่แพ้กัน ผมกับพี่รบมองหน้ากัน ก่อนจะจูงมือกันเดินเข้าไปดู บ่งบอกให้รู้ว่าเราสองคนมีเจตนารมณ์เป็นหนึ่งเดียวกัน ... ไม่ได้ขี้เสือก แค่แตกตื่นเรื่องของคนอื่นเท่านั้นเอ๊ง
เมื่อเดินเข้าไปถึงในซุ้มขายน้ำ ผมกับพี่รบก็ได้แต่เลิกคิ้วมองอย่างงงๆ เมื่อโถแก้วสำหรับใส่น้ำโอวัลตินที่จะเอามาขาย แตกกระจายอยู่กับพื้นกลางซุ้มเละไม่มีชิ้นดี มองเห็นไอ้ธารเพื่อนผมที่ตอนนี้หนังหน้าขัดกับเสื้อผ้าที่ใส่มาก มันอยู่ในชุดกันเปื้อนสีเขียวที่สกลีนรูปกล้องและโพกผ้าคาดผมสีเดียวกันแบบหนูน้อยหมวกแดง น่ารักสัดๆขัดกับหน้าตาที่พร้อมเตะต่อย คือถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์นี้กูจะล้อยันลูกบวช ไอ้สัดแบ๊วมาก ไม่ได้เหมาะกับร่างควายๆของมึงเลย เลื่อนสายตาถัดมาจากไอ้ธารก็เห็นเด็กผู้ชายในชุดมัธยมปลายที่กำลังยืนหันหลังให้ผมอยู่
“เห้ยธาร เกิดไรขึ้นวะ”
ผมที่เดินเข้าไปใกล้เพื่อน ถามมันออกไปแบบนั้น
“ก็ไอ้เด็กเวรนี่ดิ เล่นลัลลากับเพื่อนเชี่ยไรไม่รู้ มาชนโถล้มหมด”
มันว่าแบบนั้นพร้อมชี้ไปที่คู่กรณี น้องคนก่อนหน้านี้ที่ผมเห็นแค่ด้านหลัง แต่พอมายืนข้างๆไอ้ธารแบบนี้เลยได้เห็นหน้าชัดๆ หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต และกลีบปากบางที่ติดจะเชิดขึ้นหน่อยๆ ทำให้ดูว่าคงดื้อไม่น้อย ผิวขาวแบบลูกคนรวย ดูเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆบางๆที่ดูจิ้มลิ้มมากๆ
“น้องจอม”
คนข้างตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น จนต้องหันไปมองแบบงงๆ เด็กนั่นที่หน้าตาพร้อมสู้กับไอ้ธารเต็มที่ก็หันหน้าไปหาเสียงของไอ้รบ ก่อนที่หน้าตาหงุดหงิดจะเปลี่ยนไป พร้อมรอยยิ้มกว้างๆที่ตามมาแทน
“เฮียรบบบบ เฮียช่วยจอมด้วยยยยยยย”
หือออออ
อะไรนะหืออออออ??
น้องไหน เฮียอะไรอีกซิ???
------------------------------------------------
เห้ยย๊ะๆๆๆ หายไปอาทิตย์นึง ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ชีวิตโดนมรสุมเหลือเกิน ในจุดๆนี้ พอเป็นแฟนกันแล้วพี่รบก็จะมีความผัว กร๊าวใจเบาๆ แต่เรื่องอื่นๆน้านนน ยังไงนะๆๆๆ หือๆๆๆ บ้าบออออ เขินเลย[/font]
